➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14  (อ่าน 70504 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุยกันซะให้เข้าใจหลบหน้ากันไปหลบหน้ากันมา
เลยจะทำให้ไม่เข้าใจพาลเลิกกันได้นะมะนาว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กรี๊ดดดดดดดด ฟินค๊าาาาาาาา

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยาวมากกกก
แมตจะทำอะไรมะนาวอะ

ชัดเจนสักทีมั้ยยยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กังวลแทนเลย

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
คุยกันเถอะนะะะะะะะะ เด็กๆ



 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ภายในใจมะนาวนี่ระทวยใส่เขาตลอดเลย จะดื้อขัดใจตัวเองไปได้สักกี่น้ำ 5555
รอลุ้นตอนต่อๆๆๆ

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
คิดไปเองมโนไกลล่ะมะนาว
แมตรีบพูดรีบขอเป็นแฟนด้วย

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ใจเยนนะๆๆ
แมต ขอเปนแฟนไปเลยนะ
มะนาวจะได้ไม่ต้องคิดมากเเล้ว

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 23 - มะนาว : ไม่แลก -



ผมเดินนับขั้นบันได ก้มหน้าก้มตาจนมาถึงห้องจนได้

กลับมาถึงห้อง ทันทีที่ปิดประตู แม็ตยึดของกินทั้งหมดไปวางไว้หลังตู้เย็นรวมกับของบางส่วนที่ได้มาตอนประกวด ส่วนตัวเองไปนั่งลงปลายเตียงมองผมที่ยังยืนหนุนไปมากลางห้อง

รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนสอบสวนคดีอาชญากรรม เหงื่อนี่แตกพลั่กๆ



“บอกได้ไหม เป็นอะไรทำไมต้องหลบหน้า”

เขาก็เริ่มแล้วครับ ผมนี่ที่ตั้งรับอยู่แล้วยังแทบอยากจะละลายกลายเป็นฟองน้ำใต้เตียง จะหันไปมองหน้าก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง จะเลยไปยืนมองวิวที่ระเบียงเดี๋ยวก็โดนว่าหลบเลี่ยงอีก

“ปะ เปล่า”

“จะเปล่าได้ยังไง”

“ไม่มีอะไรนี่”

“อย่าตอบแบบขอไปทีได้ไหม รู้อยู่ว่ามี บอกเถอะ ถ้ากูทำอะไรผิดจะได้ขอโทษถูก”

“มึงไม่ผิด”

“เรื่องอาร์มเหรอ”

ผมส่ายหน้า ไม่หรอกเรื่องนั้นมึงไม่ผิด

“เรื่องซี”

“ไม่ใช่” ผมจะพูดยังไงไม่ให้เขาใช้เป็นข้ออ้างมาว่าว่าผมเรื่องมากงี่เง่าได้เนี่ย

“เรื่องที่กูไม่มีเวลาให้”

“ไม่ ไม่อย่ารื้อฟื้นเลย ช่างมันเถอะ” ผมยังอยากเป็นคนดีในสายตาเขาอยู่บ้างนะ

“แล้วอยู่ๆทำไมกลับบ้าน ทั้งที่จะค้างก็ได้” เพราะห้องไม่ได้กว้างมากนัก แม็ตเอื้อมมือมาคว้ามือผมไปจับไว้ เสียงของเขาอ่อนลงจนทำให้ความรู้สึกจุกแน่นมันปรี่ขึ้นมาที่คอ

“ก็ ไม่อยากกวน”

“กวน?” เขาทวนคำทำให้ผมขยายความ

“พอคิดว่าตัวเองเป็นภาระมึง ก็ไม่อยากให้มึงลำบากใจ”

“ไม่เข้าใจ” ตอนนี้สองมือของผมถูกจับไว้ เขาเกลี่ยไปมากับผิวผม เหมือนมันจะละลายความไม่กล้าของผมให้ยอมพูดความในใจออกมา

“ถ้ากูอยู่ห้องมึงแล้วมึงเป็นฝ่ายต้องไปนอนที่อื่น กูก็ควรพิจารณาตัวเองนะ”

“ไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เพราะมึง”

“งั้นเพราะอะไรบอกได้ไหมล่ะ ว่าทำไมไม่กลับมานอนห้องตัวเอง”

“...” เขาก้มหน้าลง ไม่ยอมตอบ ความเจ็บจุกที่คอแน่นขึ้นจนนัยน์ตาเริ่มร้อน

เขา ไม่ยอมตอบ

“ไม่รู้รึไงว่าคนเขารอ” ผมบีบมือเขากลับ หลบตากลัวว่าถ้าเขาเงยหน้ากลับมา ถ้าสบตากัน น้ำตาจะไหลออกมา

ผมถูกดึงให้นั่งลงบนเตียง เขากระซิบกับไหล่ผม

“ยอมพูดสักทีนะ”

“ไม่ต้องมากอดเลย แม่ง กูเกลียดความรู้สึกตัวเองชิบหาย” พอได้พูดออกไป พอเขาได้ฟังความรู้สึกของผม ผมก็อดไม่ได้ที่จะแอบปาดน้ำออกจากตา ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากให้เขาเห็น

“ฮ่าๆๆๆ”

“ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก” ผมใช้กำปั้นทุบหลังเขาเบาๆ ระบายออกทางนี้ผมจะได้ไม่ต้องร้องให้

“โอ๋ๆ ขอโทษๆ กูแค่ดีใจไปหน่อย” เขาโอ๋ผมแบบเด็กๆ ลูบหลังลูบหัว

“มึงอ่ะ ที่ว่ามีอะไรจะพูด เรื่องอะไร พูดมาเลยกูทำใจไว้แล้ว” ถ้าโลกจะแตกก็ขอตายในกอดมึงนี่แหละ

“พูด? เรื่องอะไร?” ไอ้นี่มาทำหน้างง

“ก็ที่มึงบอกเมื่อวันจันทร์ไง ที่ว่ามีเรื่องต้องคุย แล้วก็บอกอีกว่าต้องพูดวันหลัง พูดมาเลย กูเตรียมใจไว้แล้ว” ผมมานั่งจ้องหน้าเขา รอให้เขาพูด

“อ๋อ...”

“เรื่องอะไร?”

“ก็มึงพูดไปแล้วเมื่อกี้ไง”

“ห่ะ?”

“กูแค่อยากรู้ว่ามึงโกรธเหรอที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วกูไม่กลับห้อง กูไม่ได้ตั้งใจ ว่าจะขอโทษถ้าทำให้โกรธ”

“เรื่องนั้นอ่ะนะ”

“อื้ม โกรธก็บอกเถอะว่าโกรธ”

“เปล่า คือ ก็ โกรธ รอจนโมโหไปหมด เลยกลับบ้าน ไม่อยากทะเลาะ”

“ใช่ ใช่ไหมล่ะ กูก็จะขอโทษเรื่องนี้ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่ทันคิดด้วยว่าจะทำให้โกรธคิดแค่.. ไม่อยากกลับห้องตอนที่เมา”

“หมายความว่าไง?” ผมขมวดคิ้วทันที

“ถ้าเมากลับมา มันก็จะ”

“มึง... มึงจะบอกว่าไม่อยากมีอะไรกับกูงั้นเหรอ?” ผมกลั่นใจ กลัว ผมกลัวเขาจะพูดมัน ผมถึงพูดมันออกมาเอง กลัวมันหลุดออกมาจากปากเขาแล้ว ... แล้วผมคงรับไม่ได้

“ไม่ ไม่ใช่ ฟังให้จบก่อน” แม็ตจับมือของผมทั้งสองข้างไว้ เขากำแน่นไม่ให้ผมลุกขึ้นยืนได้ ไม่ให้ผมหนี

“...”


ผมควรจะฟังเขาไหม

“กูแค่ไม่อยากให้มึงติดภาพว่าเมาแล้วเราถึงมีอะไรกัน กูอยากเป็นตัวเองในสายตามึง เป็นตัวตนของกูจริงๆ ที่จะกอดกันแม้จะเป็นตอนที่ไม่ต้องมีอะไรมาบงการ จริงอยู่เพราะต่างคนต่างเมา เราสองคนถึงมาอยู่จุดนี้ในตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้รักกันเพราะเรื่องพวกนั้น คิดเหมือนกันไหม นาว”



ระ รัก?


“รักกัน เหรอ?”

“ไม่รักเหรอ?”

“หื๋อ?” อะไรนะ ได้ยินชัดแต่กูชาไปทั้งตัว เลยไม่ค่อยเข้าใจ

“งงอะไร”

“เรารักกันเหรอ”

“กูรัก แล้วมึงล่ะ รักไหม?”

“...” ผมพยักหน้าถี่ๆ รักสิวะ ทั้งรักทั้งหลงเลยขอบอก หวงด้วย หึงไม่ต้องพูดถึง ตลอดๆๆๆ

“หึ” ผมถูกขยี้หัว เปิดหน้าผากจุ๊บเหม่งหนึ่งที “ก็แค่นั้นแหละ”

เขาดึงผมไปกอด ลากให้ผมนั่งซ้อนหลังบนขาเขา แม็ตเกยคางไว้บนไหล่ผม เกลี่ยจมูกไปมากับกรามของผม

โฮฮฮฮฮ น้ำตาจะไหลอีกแล้ว

ผมว่าผมกลายเป็นคนแพ้กอด เอ หรือคลั้งไคล้กอดนะ?



“ทีนี้ก็ตามึงแล้ว”

“อะไร?” จากที่เมื่อกี้กอดหลวมๆ แม็ตเปลี่ยนเป็นรัดรอบตัวผม ตอนนี้แปลงร่างเป็นมารร้ายรัดผมไว้เหมือนจับกุม

“ตอบมาทำไมต้องกลับบ้านทุกวัน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องกลับเลย ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องวันศุกร์แน่”

“มีงานไง ก็บอกไปแล้ว”

“ไม่เชื่อ บอกมา” แม็ตเริ่มขยับนิ้วที่ตรงกับเอวผมพอดี โอ้ย ไม่นะ ผมบ้าจี้

“ฮ่าๆๆๆ บอกๆๆ ยอมบอกแล้ว โอ้ย จั๊กจี้ อย่าจี้เอว โอ้ย เหนื่อย แม็ต แม็ต พอ”

“กลับบ้านทำไม?”

“ก็บอกไปแล้วไง” ผมเล่นมุขของเขา

“อธิบายใหม่ ชัดๆ”

นี่มันคำสั่งพระราชา ผมหลับตากลั้นใจตอบ

“กูกลัวที่มึงพูดเมื่อวันจันทร์นั้นแหละ ฮึ้ย”

“หา” แม็ตงงจนเผลอคลายการโอบรัด แต่ผมไม่ไปไหนหรอกนะ นั่งนี่สบายจะตาย

“อยู่ๆ มึงก็ทำหน้านิ่ง แล้วบอกว่ามีเรื่องจริงจังจะพูด กูก็กลัวดิ้ กูยิ่งร้อนตัวเรื่องที่ไม่ได้มาดูมึงแข่งเมื่อวันเสาร์อยู่ด้วย นึกว่ามึงโกรธ แล้ว โกรธรึเปล่า”

“แข่งเหรอ ไม่ใช่เรื่องเลย”

“มึงไม่เข้าใจความกลัวของกูเลย”

“ทำหน้าบู้บี้ทำไม ก็รู้หมดแล้วนี่ว่ากูจะพูดอะไร ยังจะกลัวต่ออีกรึไง”

“งื้อ ลืม มัวแต่นึกว่าตอนนั้นกลัวแค่ไหน มึง ไม่โกรธใช่ป่ะ”

“ไม่โกรธ ให้มึงขับรถไปกลับบ่อยๆ กูก็เป็นห่วงไม่ได้อยากให้ไปมาบ่อยๆ หรอกนะ”

“ถ้าแค่ถามเรื่องเมื่อวันศุกร์ทำไมไม่ถามออกมาเลยวะ กูก็ลุ้นฉี่แทบราด” ผมรู้สึกเสียดายเวลา

“ก็พอกูบอกว่าจะคุยด้วย มึงทำหน้าไงรู้ไหม”

“อะไร?” เขาสะกิดไหล่ให้ผมหันไปดู

“มึงทำหน้าจากอย่างงี้เป็นอย่างงี้”

ผมหันไปดูหน้าแม็ตที่เขาล้อเลียนสีหน้าผม แม็ตทำหน้าปกติ แล้วค่อยๆย่นหน้าทำปากจู๋ ขมวดคิ้วดันแก้มป่อง

“เชี้ย น่าเกลียด”

“ทุกอย่างมารวมกันตรงกลาง แบบนี้เลย” ยังจะทำซ้ำอีก

“พอๆๆๆ กูไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นเลย” ผมยกมือทาบบนหน้าเขาให้เขาหยุดล้อเลียนผม

“ทำ ไม่งั้นกูจะชะงักเหรอ ฮ่าๆๆ กลั้นหัวเราะแทบตาย”

เหี้ยมาก กูรักผู้ชายที่ดูผู้ดีแต่ความจริงแล้วเหี้ยงี้ได้ไงเนี่ย

ในขณะที่กูอึ้งค้างกลางอากาศ มึงกลับหัวเราะอยู่ในใจ น้ำตาไหลแรงมากครับ

ผมว่าตอนนี้ผมกำลังทำหน้าแบบที่มันล้ออีกแล้วมั้งเนี่ย แม่ง

เขากอดเอวผมไว้ แล้วเริ่มโยกไปมาเหมือนม้าโยก

“รอเก้อนี่เอง น่ารักจังเลย”

“ล้วงทำไม ไอ้บ้านี่” มืออุ่นของเขาแทรกเข้ามาใต้เสื้อ ทั้งสองมือเลยครับ เขาจับเอวผมลูบไปมาอยู่ข้างใต้

“เวลาเหลือ”

“ก็ปล่อยมันเหลือทิ้งๆ ขว้างๆไปบ้างก็ได้ โอ้ย” มาคิดได้ตอนนี้คงสายไป ท่านี้มันไร้ทางสู้เลยนี่หว่า โดนรัดทั้งสองแขนแบบนี้ ดิ้นให้ตายก็เสียตัวแน่ครับ

“ชดเฉยสำหรับสองอาทิตย์ไง”

นั่นไง มันคิดจริง

อย่าบอกนะไม่ทำตอนเมา จะมาทำตอนสติเต็มร้อยแบบนี้ ผมเหงื่อแตกทั้งตัว รู้สึกร้อนขึ้นมาจนเห็นหลังมือตัวเองเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ใส่เสื้อแบบนี้ไปสนามกีฬา ไม่ร้อนเหรอ?”

“กัน อึก กันแดดไง”

“เหรอ”

“อื้อ อย่า”

“ตอนนี้ไม่มีแดดแล้ว ไม่จำเป็นแล้วเนอะ”

แขนข้างนึงของเขารวบรอบเอวผม อีกมือดึงชายเสื้อผมให้สูงเหนือหัวจนเสื้อแขนยาวของผมหลุดลอยไปตกอยู่ที่เท้า

โฮกกกก กูทำตัวอ่อนปวกเปียกยกแขนให้เสื้อมันหลุดออกไปทำไมเนี่ย

“ว่าง่ายๆ จะได้โตไวๆ เนอะ”

“อะไรของมึง อื้อ ไม่เอา อย่าจับตรงนั้น”

ผมอายที่สุดก็ตรงที่เขามาบีบมาขยี้ยอดอกแบนๆ ไร้เสน่ห์ของผมเนี่ยแหละ มันไม่ได้มีอะไรดึงดูดน่าสนใจเลย มันก็ยังคลึงไปมาอยู่ได้ มันวูบวาบโว้ย ไม่อยากให้จับ!

“ตรงนี้ไง โอ้โห โตไวจริงๆ ด้วย ดูสิแป็ปเดี๋ยวโตจนจะทะลุกางเกงอยู่แล้ว”

โอ้บ้าาาาา ไอ้เลว ไอ้บัดซบบบ ตะปบซะของกูแทบหัก เชี่ยยยย

แล้วนั่นจะนวดทำไม ไม่ต้องน้วดดดด แค่นี้กูก็น้ำตาไหลแล้ว

สองอาทิตย์ที่น่ากลัวทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่มันตื่นเต็มที่ขนาดนี้ครับ ทั้งที่ยังอยู่ในตู้เซพมิดชิดมันก็ดิ้นพล่านเซพแทบแตก

แล้วมือกูก็ว่างทำไมไม่ปัดออก ทำไมไปขยำที่นอนซะแทบขาดติดมือ โหยยยยยย แบบนี้เขาก็คิดว่าผมเต็มใจไม่ปัดป้องดิเนี่ยสองมือเขาคืบคลานไปทั่ว ผมปั่นป่วนไปหมดไม่รู้ตรงไหนเป็นตรงไหนแล้วยังลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ข้างต้นคอนี่อีก แม็ตจูบคอด้านหลังจนผมต้องย่นคอ เขาเลื่อนมาจูบหลังหู แล้วกระซิบเบา

“ไม่ไหวแล้ว ขอนะ”

“อึ อื้ม”

กูตอบอย่างไวเลยสาดดดดดดดด

สติสตังหายหมดแล้วตอนนี้ งงไปหมด

สองมือเขาปลดเข็มขัดผม ปลดกระดุมกางเกงยีนส์รูดซิบแล้วลูบแผ่วเบาผ่านบ็อกเซอร์ ผมไม่รู้มือเขาหรือตัวผมร้อนกว่ากัน รู้แค่ริมฝีปากเราร้อนเท่ากัน

ผมเอียงคอรับริมฝีปากเขาเข้ามา มันนุ่มนิ่มและชุ่มชื้น จูบที่โหยหา

เราต่างละโมบและกอบโกยสิ่งที่ห่างหาย

ไออุ่น เสียงเต้นของหัวใจ ทุกอย่างเบลอเหมือนว่าผมกำลังเมา

ผมหันเข้าหาเขา ปลดกระดุมให้เขา ปลดทุกอย่างจนเขาว่างเปล่าไม่ต่างจากผม เหลือเพียงสร้อยเส้นเดียวที่อยู่กับตัวเขา

เราดึงดูดจูบกันแทบจะตลอดเวลา

ความรู้สึกเจ็บตอนที่เขาแทรกกายเข้ามาหายไปแทบจะทันทีที่เขาเข้ามาสุด

แม้จะน่าอายแต่ผมก็ยอมจะขยับไปพร้อมกับเขา

ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมันเติมเต็มหัวใจที่ห่อเหี่ยวของผม ความต้องการของเขาคือผม ทุกสัมผัสของเขาบอกผมอย่างนั้น

เสียงร้องน่าอายที่ทำให้ผมยิ่งอายเมื่อคิดย้อนกลับไป บางครั้งผมพอจำได้ มีบางครั้งที่เหลืออยู่เมื่อตื่นขึ้นมา เสียงน่าอาบแบบนี้เขาได้ยินมากี่ครั้งแล้ว

“อึก อื้อ”

“อย่ากลั้นเสียงสิ นาว” แค่เขาเรียกชื่อผมก็เหมือนทุกอย่างขาดออก เสียงผมถูกบีบให้สั้นตามจังหวะที่ถูกพาให้ขยับไป มันเหมือนคนที่กำลังจะร้องให้

“อ้ะๆ อ้า แม็ต แม็ต”



แล้วทุกอย่างก็ขาวโพลน




“ออนท็อปซะด้วยวันนี้”

“ถ้าปากดีต่อจะไม่มีครั้งต่อไปนะ”

“สาบานว่าไม่ติดใจ”

“ไม่ดีเลย ปวดขา” ผมพูดจริงๆครับ แถมเขินมากด้วย ตอนนี้ผมนอนตะแคงไม่ยอมให้เขามองหน้าอยู่ แม็ตก็ไม่แกล้งผมเท่าไหร่ครับ ยอมให้ผมหันหลังให้แล้วกอดจากข้างหลัง

“อ้ะ” ผมแอ่นตัวหลบเพราะเกียร์ที่เขายังใส่อยู่มันบาดหลัง แม็ตเองก็คงรู้สึกถึงแรงกด ถึงพึมพำขอโทษเบาๆ

แล้วเขาก็ถอยออกไปทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ข้างหลัง นั่งยุกยิกๆ จนผมหันไปมอง



“เอ้า นี่ ฝากไว้นะ”

เขาถอดเกียร์ที่ใส่มาตลอดออกมาชูตรงหน้า เขาดึงให้ผมลุกขึ้นนั่ง

แม็ตคล้องสร้อยเกียร์ลงให้ผม ยิ้มเท่ๆ ส่วนสูงที่ต่างกันทำให้ผมต้องเงยหน้ามองแม้เรากำลังนั่ง ตาผมตรงกับริมฝีปากเขาเลย เฮ้อ ปากเขาขยับช้าๆ หรือผมเบลอจนเห็นทุกอย่างเป็นภาพสโลนะ

ผมจำได้ริมฝีปากเขาได้ มันนุ่มและลื่นมากเลย

แม็ตก้มตามมือเขาลงมา สองมือเขายังคงกุมไหล่และคอผมไว้ มือผมเอื้อมไปแตะเกียร์ตรงอก

มือหนึ่งของเขาค่อยๆสอดไปหลังท้ายทอย ความรู้สึกเสียววูบทำให้ขนลุกเกรียว ตื่นเต้น ใจเต้นจนแทบได้ยินเสียง ควรจะทำยังไง ต้องปั้นหน้ายังไง

จูบทั้งๆ ที่ตัวเปล่าเปลือย แต่ก็ยังขัดเขิน

“เดี๋ยว!” ผมหลุดปากพูดออกไปเสียงโคตรดัง ขนาดผมเองยังตกใจเลย

“...?”

“ขอลงไปที่รถ ไปเอาของก่อนได้ป่ะ?” ค่อยมาต่อ กูกลัวมันไม่ต่อเนื่อง

“ของอะไร นี่รึเปล่า?” แม็ตตอบพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบกางเกงที่ถอดไว้ขึ้นมาล้วงไปในกระเป๋ากางเกงนักศึกษา

สิ่งที่เขาหยิบออกมาคือเกียร์ที่ผมแขวนไว้หน้ารถ

มึงเอามาตอนไหนวะ?

“ที่อยู่ในรถกูเหรอ?”

“ใช่” เขาส่งให้ผม ผมยกส่องกับแสงไฟ ก่อนจะเอามาเปรียบเทียบกับเกียร์ที่แม็ตคล้องไว้ที่คอผม

“เอามาตอนไหนวะ?” นี่แสดงว่าวางแผนไว้หมดแล้ว นี่เขาตั้งใจจะให้เกียร์กับผมอยู่แล้วไม่ได้ให้เพราะสถานะการณ์กระซิบบอกหรอกใช่ไหม

“ไม่รู้สินะ”

เขายิ้ม แน่นอนผมก็ยิ้ม

คุณค่าของเกียร์ เราต่างก็รู้กันดีว่ามันหมายถึงอะไร การที่เขาให้ผม และผมรับไว้ มันแปลว่าอะไร หัวใจอยู่ที่เกียร์ เกียร์อยู่ที่ไหน หัวใจของเราก็อยู่ที่นั่น เขาว่าไว้ว่าอย่างนั้น

และเรื่องนี้ ผมเชื่อหมดใจ เพราะหัวใจของผม ผมก็เก็บไว้ที่เกียร์ของผมเช่นกัน

“อื้ม...” ผมยังคงดูอยู่ ก่อนจะทำหน้าเจ้าเล่ห์

“หลับตาสิ”

แม็ตยอมหลับตาแต่โดยดี หึ นึกว่าผมจะใส่ให้ล่ะสิ ผมถอดเกียร์ที่เขาให้มาหมาดๆ ออกมา ทั้งสองมือกำเชือกไว้ให้เหลือแต่จี้เกียร์ไพล่ให้เห็น ผมซ่อนสองมือไว้ข้างหลังเล่นเป็นเด็กๆ เพราะอารมณ์ดีมากขอบอก

“ลืมตาได้” เขาขมวดคิ้วก่อนจะลืมตา ฮ่าๆๆ งงล่ะสิทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันต้องหลังจากนี้ต่างหาก

ผมยกสองมือขึ้นระดับสายตาเขา

“ถ้าเลือกถูกก็ได้ไปทั้งเกียร์ทั้ง... ถ้าเลือกผิด กูยึดทั้งคู่”

“ทั้งเกียร์ทั้ง... อะไรนะ?” แม็ตเอียงคอถามแทรกหน้ามาระหว่างสองมือของผม แน่นอนผมดันออก ใกล้กว่านี้มึงไม่ได้เกียร์หรอก ได้อย่างอื่นแทนละ

“ใจไงเล่า ลีลา เลือก” เขายิ้มจนผมที่กะว่าจะไม่เขินก็ต้องเขินอีกรอบ

“แหม ยากจัง อันนี้”

อ้าว เชี่ย มึงยังไม่ทันเลือกอะไรเลย ดูดีแล้วรึไง หรือมันแอบดูตอนผมสลับมือ

แม็ตเลือกเกียร์ที่อยู่ในมือขวาของผม ก่อนจะดึงมือผมไป... จูบ

เฮือก มีเสียงเฮือกดังอยู่ในใจ โอ้ยตาย มึงตาเยิ้มเพราะเมคอัพใช่ไหมบอกมา ถ้ามึงบอกว่าเพราะกูกูตายจริงบอกเลย

“ทำไมรู้ ดูออกเหรอ”

“ออกสิ ก็สีไง กับ นี่ ดูตรงนี้ ของมึงตัวแรกเริ่มตรงนี้ ของกูตัวแรกเริ่มตรงกลางซี่เฟือง” แม็ตเฉลยความแตกต่างที่ผมมองตั้งนานก็แยกไม่ออก

“แถมของกูมีสีขี้ไคลติดอยู่ด้วยเพราะใส่บ่อย แต่ของมึงแขวนอยู่ในรถ” อ้อ กูว่ามึงบอกว่าดูจากตรงนี้ก็จบแล้ว

“งั้น เอาไปเลย” ผมยื่นเกียร์ในมือซ้ายให้เขา ที่เขาแค่จับไว้ไม่ได้จูบ

“กูเลือกถูกทำไมไม่ให้ของมึง” ความหมายของคำพูดเขาคือทำไมผมคืนเกียร์เส้นที่เขาเพิ่งให้ผม

แม็ตท่าทางไม่พอใจและจะถามต่อ

ผมไม่ฟัง จับสร้อยกางออกแล้วคล้องใส่คอเขา

“ไม่รับเกียร์กูเหรอ?” แม็ตเริ่มหน้านิ่งและเสียงเข้มอย่างสงสัยท่าทีของผม ผมเลยถอยมือ ยังไม่ใส่ให้ก็ได้

ผมพยายามปั้นหน้านิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ถ้าบอกอะไรอย่าโกรธนะ” ผมจะบอกเขาแล้วนะ

“ทำไมไม่รับเกียร์กู หรือ” แม็ตยังคงเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่และเริ่มถามต่อไม่ยอมฟัง

จับจูบสักทีเพราะหน้าเขาตอนโมโหเรื่องน่ารักๆ แบบนี้หาดูยาก ชาตินี้จะได้เห็นอีกป่ะเนี่ย โถ่ๆ คงกำลังคิดว่าผมไม่รับรัก

ผมถอดปากออกเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ถ้าบอกอะไรอย่าโกรธนะ” ผมทวนอีกรอบ

“ลองพูดมาก่อน”

“ฮ่าๆๆ เกียร์ที่มึงใส่มาตลอด เป็นของกู”

“หือ?”

“แฮ่ๆ”

“ได้ไง?”

“เก้าแอบแลกไว้ตั้งแต่ได้มาวันแรกแบ้ว”

“จริงเหรอ?”

“ใช่ ตอนพ่ออาบน้ำ ลูกเลยเล่นซนสลับเกียร์เล่นอ่า ไม่จิ ไม่เล่นๆ สลับจริงจังเลยล่ะ ถ่ายรูปเกียร์คู่ไว้เป็นหลักฐานมัดตัวเองด้วย อย่าโกรธเก้าน้า”

“ร้ายนะ” มือหนายกขึ้น ทีแรกผมนึกว่าจะโดนตี แต่ความจริงเขาแค่จับหัวผมเขย่าไปมา แล้วดึงไปกอด

แหม ถ้าซนแล้วโดนกอดงี้จะซนทุกวันเลย

“ก็น่าจะบอก”

“บอกอะไร”

“จริงๆ ก็จะให้อยู่แล้ว แต่หาจังหวะอยู่”

ผมยิ้มกับคำพูดเขา




แต่ในใจมีเสียงดังก้อง



ไม่ทันกูหรอกครับ กูเล็งเกียร์มึงไว้ตั้งแต่มึงชวนเข้าเชียร์วันแรกแล้วโว้ย

จะไม่บอกหรอก ว่าเข้าเชียร์เพื่อให้ได้เกียร์มาคล้องมึงเนี่ยแหละ



.................................
.................



“มึง มา ช้า”

มาถึงมันก็บ่นทันที เมกลับจากห้องน้ำพอดีมั้ง มันยืนอยู่กลางร้านกอดอกเดาะตีนแบบครูฝ่ายปกครองที่ยืนรอนักเรียนมาสายอยู่หน้าโรงเรียนเพื่อทำโทษ

ผมเดินแบบไร้วิญญาณเข้ามาในร้านเหล้าที่เสียงเพลงคลอไม่ดังมากเหมาะกับการกินไปบ่นไป เมเดินนำไปที่โต๊ะ ผมฟุบหน้าลงไหลไปกับโต๊ะทันทีที่ถึง

“สิบนาที ไม่ช้าเว้ย” ปล่อยให้แม็ตสู้กับมันไปแล้วกัน

“กูมาตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง มึงมาช่วยกูเลย อย่าให้กูนั่งคนเดียว กูขอล่ะ แม่งพี่โคตรเยอะ กูตาลายแล้วเนี่ย” เมก้มลงกระซิบกับพวกผมไม่ให้พี่ๆที่ว่าได้ยิน

“กูจะเอามึงไปนั่งที่ที่ไม่มีคนกวน เอาป่ะ?”

“มีด้วยเหรอ ที่แบบนั้น ห่า ให้ไวเลยกูไม่ไหวแล้ว”

“บนตักพี่ยีนส์ไง”

“อยากตายเหรอมึง”

ผมเอียงหัวขึ้นมาหัวเราะมัน เลยโดนจนได้

“มึง มะนาว วันนี้มึงไม่มาดูกู แถมนี่มาถึงก็เอาแต่นอน กวนตีนกูใช่ไหมเนี่ย ตื่นมาแดกกับกูเลย ถ้ามึงตามกูไม่ทัน กูจะเอาแม็ตไปซ่อนมึง”

“ตัวเท่ากระทิง ซ่อนไหนได้วะ”

“ทำไมต้องเทียบกับกระทิงวะ? มีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่า?”

“มัน มันใหญ่กว่าควายไง”

“ไอ้นี่” เพราะเมคาดคั้นให้ผมตอบ ก็เลยโดนพ่อเคาะหัวไปทีนึงเบาๆ ครับ

แต่ผมรู้ว่าเขาไม่โกรธ เพราะจากยิ้มร้ายของเขา เขาคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไรกันแน่ 

คิดว่ารอบเดียวผมจะโทรมงี้ไหมครับพี่น้อง หลังนั่งมุ้งมิ้งแลกเกียร์กันก็คิดได้ว่าต้องออกมาข้างนอก ผมเลยโดนกระทิงควิดตอนอาบน้ำ ขานี่สั่นจนถึงตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นเลย ใครจะไปกล้าปฏิเสธจริงจังล่ะครับ เล่นพุ่งตัวเข้ามายกผมเข้าห้องน้ำขนาดนั้น โคตรเขิน

แต่บอกเลยว่าต้องมีรอบหน้าอีกแน่นอน ฮ่าๆๆๆ อูยยย แต่พักฟื้นแป็ปนะครับอย่าเพิ่งใจร้อนกัน



“เฮ้ยแม็ต เพิ่งมาเหรอมาๆ มานั่งกับพี่มา พี่ยังไม่ได้เทคเราเท่าไหร่เลย ช่วงเชียร์แม่งก็ยุ่งๆ”

“เฮ้ย ป้อง มึงชวนเดือนแล้วมึงก็เชิญดาวมานั่งโต๊ะนี้ด้วยดิวะ”

“ไม่เกี่ยวกับเดือนกับดาวอะไรทั้งนั้นอ่ะ นี่หลานรหัสกู กูจะคุยกับหลายเว้ย”

“มึงก็ควรจะเทคดาวมหาลัยไว้ด้วย คู่บุญบารมีแบบพี่ยีนส์กับโนอาไง”

“มึงหวังให้กูจีบน้อง หรือมึงจะจีบเองก็พูดออกมา”

“โธ่ หน้าอย่างพวกกูดาวที่ไหนจะสนวะ มึงอ่ะ ลุยเลย ไอ้น้อง ชวนเพื่อนมานั่งดิ พี่จะชงให้มันเอง”

“ไม่ต้องแม็ต อย่าหาเรื่องให้พี่”

ผมนั่งหูกางอยู่ที่เดิม แม็ตไปแล้วตามมารยาท กะว่าอีกสักพักค่อยเนียนๆเข้าไปนั่งแถวนั้น แต่ตอนนี้ขอพักก่อนนะ

“มึงไม่ กูพามาเองก็ได้” พี่ที่ผมจำได้ว่าเป็นว้ากผมยาว เขาโกนหนวดแล้วแต่ยังไม่ตัดผมมาสะกิดเมอย่างสุภาพที่สุด หรือมองอีกมุมก็คือกวนตีนที่สุด เสียอย่างเดียวเขาเป็นพี่ ไม่งั้นไอ้เมคงด่า “น้องเมดาวครับ น้องเมดาวมาทางนี้สักแป็ปนะครับ นั่งนี่ๆ”

“อ้อ คะ ได้คะ”

โอ้ยยยยยยย นี่มันเกิดอะไรกับพี่เมคนห้าวครับ มันยิ้มน่ารักแล้วทำตามอย่างว่าง่าย

เปลี่ยนไปอย่างกำเอาสีทาบ้านลบรอยด่างดำ มึงมีวิญญาณนางงามแฝงร่างอยู่ใช่ไหมเนี่ย

กูรู้แล้วๆ มึงใช้ลูกไม้นี้ถึงได้ตำแหน่งดาวมหาลัยมาครองใช่ไหม ตอบกู

แต่เมมันไม่ลุกเปล่าครับ บอกพี่แกว่าขอพาเพื่อนไปนั่งด้วยนะ แล้วเพื่อนคนนั้นคือใครเหรอครับ ก็ผมไง

“เอ้า ไอ้แทน มึงนี่” เป็นตอนที่ผมเดินผ่านพอดีก็เลยทันเห็นครับ พี่ป้องกับพี่ยีนส์สบตากันครับ พี่ยีนส์โยกหัวเป็นเชิงเอาเถอะๆ (ถ้าผมแปลไม่ผิดนะ) ส่วนพี่ป้องก็ยังมองเมแบบ จะว่ายังไงล่ะ กังวนเหรอ หรือไม่สบายใจนะ?

พี่ยีนส์แกนั่งอีกโต๊ะ พี่โนอาก็นั่งอีกโต๊ะ แต่พี่รหัสผมนี่สิ ยังไม่เห็นเลย


ผมได้มานั่งตรงกลางระเมกับแม็ตครับ เออดี ได้อารมณ์พ่อแม่ลูกเลย (มึงเป็นลูกแล้วกันนะเม)

“ฮ่าๆๆๆ”

เพื่อนเขาหัวเราะชอบใจกันทั้งวง หลังจากแนะนำตัวเขาก็พากันชวนเมคุยกันจนเมต้องหันหัวไปมาตลอดเวลา แต่สิ่งที่ผมสนใจกลับเป็นอีกข้างที่ค่อนข้างเงียบ



“พี่ป้อง พี่มีแฟนแล้วเหรอ?” แม็ตชวนลุงมันคุยครับ ผมนั่งชงเหล้าทำเป็นไม่สนใจ แต่ตั้งใจฟังมาก

“เปล่านี่”

“แล้วทำไม พี่ไม่พอใจอะไรเพื่อนผมรึเปล่า?”

“พี่ไม่อยากมีเรื่อง”

“เรื่อง?” ผมกำลังแอบฟังเพลินๆ ก็มีเสียงลุกลี้ลุกลนเรียกแม็ตขัดขึ้นครับ

“แม็ตๆๆๆๆ”

เมที่อ่านไลน์อยู่ทั้งเรียกทั้งตีผมซ้ำๆ จนต้องเบี่ยงตัวหนี มึงเรียกแม็ตแล้วตีกูทำไมเนี่ย

“อะไรของมึง”

“มานี่แป็ป” มันจัดการบอกพี่ๆ ว่าขอคุยธุระแป็ปแล้วออกมาเลยไม่รอฟังคำอนุญาต

“แป็ปนะครับพี่ป้อง” แม็ตลุกตามผมกับเมมา ไม่ลืมรักษามารยาท

“เออ ตามบาย”

“นาว มึงมาด้วย” เราทั้งคู่โดนดึงออกมาอย่างงงๆ

จนมาถึงลานหน้าห้องน้ำที่เสียงเงียบและปลอดคนเมก็พูดอย่างร้อนรน

“กูจะกลับหอ ไปส่งกูหน่อย” ดูมันจะจริงจังมากตีปีกพับๆ เลย

“เฮ้ย ได้ไง”

“กูอยู่ไม่ได้แล้ว” เมตอบไปพิมพ์ไลน์อย่างลนลานไปด้วย

“ใครรออยู่ที่หอรึไง”

“ไม่มีใครรออยู่หอ แต่พี่กูจะมานี่”

“อ้าว ก็รอนี่สิ” ผมกับแม็ตงงกับมัน

“กูไม่อยากให้พี่เจอ เอ้ย ไม่ใช่ กูไม่อยากเจอพี่พร้อมอิพวกปากดีทั้งคณะแบบนี้นะเว้ย พี่กูไม่เหมือนคนอื่น แม่งแค่คิดก็น่ากลัวแล้ว”

“กลัวทำไมวะ พี่มึงดุเหรอ”

“ไปส่งกู เดี๋ยวกูบอกทีหลัง แต่พากูออกไปจากนี้แบบไม่ให้พี่กูเห็นกลางทางก่อน”

“เอาไงอ่ะแม็ต”

“ก็ ถ้ามันอยากกลับก็ไปส่งมันกันเถอะ แต่มึงบอกพักเดียวใช่ไหม”

“นั่นดิ ถ้าพี่กลับมึงต้องกลับเข้างานนะ คนอื่นเขาจัดให้มึงนะเว้ยวันนี้อ่ะ”

“เอ่อๆ กลับ เดี๋ยวกลับ”

“กูไปส่งเองดีกว่า มึงอยู่รับหน้าไปก่อนเดือน”

“ได้ แล้ว”

“ไม่ต้องห่วงกูมาถึงกูยังไม่ทันกระดกซักแก้วเลย ที่ชงไว้ละลายอยู่ตรงโน้น”

แม็ตหยิบกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้ผม แต่ไม่ยอมกลับเข้างาน เมเลยตัดบทดันผมไปทางครัว

“เออๆ กูดูมะนาวให้เอง ออกครัวหลังร้านเลยนะ ไปนาว”

“เฮ้ย เข้าได้เหรอ” ผมถูกดันผ่านป้าย staff only มา ผมมองตาโต

“ได้ ตามกูมา”

เม มึงเพิ่งรับปากกับแม็ตเมื่อกี้เองนะว่าจะดูแลกูเอง นี่มึงลืมหรือจริงๆ แล้วมึงหลอกกูมาฆ่าหมกครัว


เมพาผมไปหวัดดีพ่อครัวครับ ไม่รู้ไปรู้จักกันตอนไหน แล้วก็ออกมาข้างๆร้านที่เป็นลานจอดรถ ผมตรงไปหารถตัวเอง แต่มีคนมาจอดปิดทางออกรถผมซะแล้ว

“มึง เลื่อนรถคันนี้”

“เชี่ย จะทันไหมเนี่ย”

“รีบก็เข็น อย่าช้าทีพี่น้อง” เมมันคงรีบมากครับ เข็นแรงจนรถไหลไปจะชนกับอีกคัน ผมนี่แทบจะไปนอนขวางล้อ

อิเม อิบ้า มึงอยากเสียตังหมื่นเหรอ! แต่เหมือนมันจะไม่สนใจอะไรแล้วตอนนี้

“ดีๆ ดิ้วะ ไปขึ้นรถ”

เมที่หมอบอยู่ข้างประตูรถอยู่แล้วรีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที ผมว่าผมเดินด้วยความเร็วปกตินะ แต่เมมันดูจะคิดว่าทุกอย่างมันช้าไปหมด

“เออๆ กูรีบอยู่ๆ” ผมรีบพูดก่อนเมจะโวยวายอีก เพิ่งเคยเห็นมันกลัวอะไรจริงจังขนาดนี้เป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ แบบนี้ความกลัวพี่ยีนส์ของมันดูเด็กน้อยไปเลย

ผมสตาร์ทรถ แล้วคาดเข็มขัด ยังไม่ทันเปิดไฟหน้ารถ เมก็พึมพำออกมาเบาๆ

“เหี้ย ไม่ทันแล้ว”

ผมมองไปที่มัน แล้วหันหัวตามสายตา เมกำลังมองรถที่เลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถนี้ รถมินิคูเปอร์สีแดงมันวับต้องแสงไป มันเลื่อนตัวอย่างนุ่มนวลเข้ามาพร้อมๆ กับเมที่ไหลลงไปกองอยู่ตรงที่วางเท้า

ที่ว่างมีไม่มาก ดังนั้นทำเลที่เขาเลือกจอด ก็คือ หน้ารถผมที่ผมเพิ่งเข็นรถอีกคันออกไปไว้อีกฝั่งเนี่ยแหละครับ


“มึงมองอย่างนั้น อย่าบอกนะพี่กูจอดรถปิดหน้ารถมึง” เมถามเพราะมันไม่กล้าโพล่ขึ้นมามองอะไรทั้งนั้น
ผมตอบสั่นๆ ว่า


“เออ”

“เซ้นส์ดีชิบหายพี่กู” มันทำหน้าเหมือนจะร้องให้นั่งดูไลน์เด้งแต่ไม่เปิดอ่าน คงส่งมาจากพี่มันนั้นแหละ

ชะตาผมกับมันดูท่าจะไม่รอดออกไปจากลานจอดรถนี้แล้วคืนนี้




ว่าแต่ มึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่าทำไมมึงต้องกลัวพี่มึงขนาดนี้เม?



---------------------------------------------
TBC.



กำลังใจ จากใครหนอ
ขอเป็นทาน  ให้ฝันให้ใฝ่
ให้ชีวิต  ได้มีแรงใจ
ให้ดวงใจ  ลุกโชนความหวัง


ไม่รู้จะเม้าอะไร ร้องเพลงเฉยเลย ฮ่าๆๆๆ

อ้อๆ พี่เมนี่ถือว่าเด็จ บอกเลย 55555+  ญ หรือ ช ยังไม่บอก รอตอนหน้าเลยยยยย


 o19
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2016 18:03:31 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  สุดยอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กรี๊ดดดด

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุยกันแล้วเข้าใจกันซะที ว่าแต่ชอบนาวตอนสารภาพว่าแอบเปลี่ยนเกียร์จริงๆ น่ารักอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น้องนาวลูกแม่  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านง่าย บรรยายดี ความสัมพันธ์ตัวละครมีเหตุผลไม่ว๊าบไปว๊าบมาอ่านไปก็ลุ้นไปด้วย คู่ตัวเอกน่ารัก คู่ตัวรองก็น่าเอ็นดูไม่แย่งซีนตัวเอกจนน่าเกลียด เก่งมากเลยค่ะ นี่อ่านติดหนึบจนเอาไปอ่านในห้องน้ำด้วย 555

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
พี่ชายโหดๆใช่ไหม

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เข้าใจกันสีที เยยยยย่

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดดดดดดดด เปนแฟนกันล้าวว
มาม่าหมดไปหนึ่งชาม

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะผิดไหนถ้าเราจะชอบพี่ป้อง 5555

ดีกันแล้วก็ขออย่าให้มีอุปสรรคอะไรอีกน้าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 。Atlas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ชอบที่เรียก เม ว่า เมดาว ๆ 555555 ฟังดูสาวน้อยเลย

และแล้วตอนนี้ แม็ตกับมะนาวก็น่าจะเรียกว่าอยู่ในสถานะแฟนกันได้แล้วเนอะ หมดไปอีก 1 ความไม่สบายใจ  :hao3:
ที่นี้ก็เหลือแต่กำจัดเหลือบไรทั้งหลายแหล่ให้พ้น ๆ ไปซะ 
แต่หลังจากนั้นจะมีอุปสรรคครอบครัวอะไรมาอีกมั้ยน้อ เราอาจจะคิดไปเอง 5555


ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 23 - มะนาว : ความไม่ลับ -



ว่าแต่ มึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่าทำไมมึงต้องกลัวพี่มึงขนาดนี้เม?



“มึงรีบดับเครื่องเลย”

“เอางั้นเหรอ”

“เออ แล้วทำเป็นคุยโทรศัพท์” เมลงไปนั่งสั่งผมจากที่วางเท้า ไม่คิดว่าตัวยาวๆอย่างมันจะยัดตัวเองลงไปได้

แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มันบอกทุกอย่างด้วยล่ะเนี่ย

เราสองคนอยู่เงียบๆ บนรถ รอให้พี่มันเข้าร้านค่อยออกไปเข็นรถแล้วกัน



พี่เมเปิดประตูรถลงอีกด้าน ผมเลยยังมองไม่เห็น แต่แค่พี่มันยืนเหยียดเต็มความสูง ผมถึงกับอ้าปากค้างตาโตเท่าไข่ห่าน

“ห่าน นี่เหรอพี่มึง สัด ไอ้ชิบหายวัวตายความล้ม” ผมขอด่าหน่อยเถอะ

“พี่กูเป็นคน กูไม่ใช่พี่น้องห่าน มึงอย่าอ้ามากดิวะ” ผมค่อยๆเลื่อนหน้าไปใกล้กระจกเพื่อจะมองพี่ไอ้เมให้ชัดในความมืด แต่ก็โดนมือดีดึงไหล่กลับมาติดเบาะ

“อย่ายื่นหน้าออกไป หุบปากมึงด้วย” พี่มึงสามารถเป็นฉนวนสงครามระหว่างประเทศได้เลยนะเนี่ย

ฟีโรโมนนารีพิฆาตแรงมาก

ใหญ่กว่าตากับปากผมก็ไข่นกกระจอกเทศที่พี่มันพกมาด้วยสองฟองนั้นแหละครับ

“โว้ะ”

“หน้ามึงเหี้ยมาก มึงยังขนาดนี้แล้วอิพวกในร้านจะเหี้ยขนาดไหนเนี่ย” ผมก็พอจะเห็นเค้าความชิบหายที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไอ้พวกผู้ชายกระหายหิวทั้งหลายทำไมผมจะไม่เข้าใจพวกมัน ทำไมรู้สึกว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะหิววะ ทั้งที่ความจริงตอนนี้อิ่มมากกกกก

ผมจะบรรยายพี่มันยังไงดี ท่วงท่าที่เขาลงจากรถ มือที่เสยผมไปข้างหลังมีความเป็นผู้หญิงอยู่เต็มเปี่ยม แปลว่าอะไร แปลว่ามันเกิดมาเพื่อยั่วยวนผู้ชายไงครับ หน้าเล็กปากนิดจมูกไม่หน่อย ตาโตกับขนตาที่เยอะเกินจะบอกว่าธรรมชาติแต่คือมันงามมาก กรีดตาคมเฉียวกับสีปากแดงสด ผมยาวทิ้งน้ำหนักตรงไปถึงช่วงเอว พี่มันใส่เสื้อกล้ามเสกหน้าแสกหลัง ตัวสูงมาก เพราะไข่นกกระจอกเทศของพี่แกสูงเลยหลังคารถมินิคันงาม เขายืนกดมือมือ ก่อนจะปิดรถแล้วเดินเด้งตรงเข้าไปในร้าน ถือแค่กระเป๋าเงินใบเล็กๆ กับโทรศัพท์ที่ก้มกดไปตลอดทาง พอร่างพี่มันเดินออกมาไม่มีรถบัง ผมถึงเห็นกางเกงขาสั้น ขาโคตรยาวแถมขาวสะท้อนแสง กับรองเท้าส้นเข็มที่ทำให้โคตรดูดี

ช่างไม่เข้ากับบรรยากาศร้านเห่ยๆชานเมืองแบบนี้เลย

“พี่มึงเด้งมาก ขาวโบ้ะๆ”

“เออ กูรู้ ไม่ต้องมาย้ำ”

กูก็ไม่ได้บอกมึงครับ กูกำลังเคลิ้ม

“ทำเคลิ้มไปเถอะมึง มึงคิดว่ามีใครหล่อกว่าเพื่อนมึงอีกไหมในร้าน?”

“แม็ตเหรอ ไม่อ่ะ” ไม่มีหรอกครับ แม็ตของผมหล่อสุดในปฐพี แต่ขอโทษวะแม็ต ชั่วเสี่ยววินาทีเมื่อกี้ทำให้กูลืมมึงไปวูบนึง อยากจะกัดเล็บแก้ตัว

“เออ งั้นก็ระวังแม็ตของมึงไว้เถอะ รู้จักพี่กูน้อยไปซะแล้ว”

เดี๋ยวนะ มึงพูดอย่างนี้แปลว่าอะไร? พี่มึงจะแดกแม็ตเหรอ สัด

“มึงหมายความว่าไง?”

“แม่ง ทำไงให้พี่กูออกมาจากร้านวะ”

เมไม่สนใจตอบผม มันยังคงวุ้นวายเรื่องของมัน อ่านไลน์ทำหน้าสยอง ผมเลยกระโดดลงรถแล้วล็อกรถทันที ทำท่าจะเดินกลับไปที่ร้าน

“ไอ้เหี้ย มึงปลดล็อกให้กูก่อน” ผมล็อกเพื่อบังคับให้มันอยากออกจากรถเนี่ยแหละครับ ไม่งั้นเดี๋ยวรถกูหาย

ผมเดินอ้อมไปแอบส่องอยู่นอกรั่วต้นไม้ของร้าน หมอบต่ำๆจะได้ไม่มีคนเห็น เมเหมือนจะไม่อยากมา แต่ก็ตามมาเพราะไม่มีที่ไป



เป็นอย่างที่คาด แค่เหยียบส้นสูงเข้าไปในร้าน ทั้งร้านก็นิ่งไปเลยครับ ทุกคนมองมาที่พี่เม พี่เมกำลังเดินเด้งน่ามองผ่านโต๊ะต่างๆ ไปกลางร้าน (จริงๆมันคือทางเดินกลางร้านที่ไปได้ทุกส่วนของร้าน)

ไอ้แม็ตตตตต มึงมองผู้หญิงตาค้างขนาดนี้ มึงตายยยยยย

เดี๋ยวๆๆๆ ก่อนจะโวยวายผมขอลุ้นก่อนว่าพี่มันกำลังเดินไปไหน ทางนั้นมันโต๊ะแม็ตนี่นา ทำไมเดินไปทางนั้น

“พี่มึงจะทำอะไรวะ?”

“ไม่รู้ กูเดาอารมณ์ชะนีไม่ถูกหรอกนะ”

มึงก็ชะนี สัด

ขาเรียวเนียนยาวขาวๆ ของพี่ไอ้เมนี่โคตรน่ามอง ผมเห็นทุกคนก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้ากลับไปมา ส่วนใหญ่หยุดสายตาที่ไข่นกกระจอดเทศ เว้นอยู่คนที่เห็นชัดๆ จากมุมนี้ว่าเขายังเคลื่อนไหว ก้มเล่นมือถือและสนใจเติมแก้วตัวเองไม่เงยหน้าขึ้นมองตามคนอื่นๆ

พี่ยีนส์กำลังชิมเหล้าแล้วเติมน้ำแข็งใส่แก้วตัวเอง เห็น แต่ไม่สนใจคนมาใหม่

แต่ตอนนี้ พี่ไอ้เมมองแม็ตครับ โหยยยยยยยยย

แต่เดินผ่านไป

โล่ง

ดีมากมึงก้มหน้าไว้ อย่าไปสบนมเชียว ไม่งั้นกูเอาตาย

แล้วเดินไปหยุดที่ข้างหลังพี่ยีนส์ครับ ผมลืมไป หล่อกว่าไอ้แม็ตก็พี่มันเนี่ยแหละ สาวใหญ่คงชอบแนวนั้นมากกว่า ผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรกัน แต่พี่ไอ้เมแตะที่ไหล่พี่ยีนส์ แตะด้วยปลายนิ้วก่อนจะวางลงทั้งมือย่างนุ่มนวล ในที่สุดพี่ยีนส์ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

โห้ ผมจิตนาการตาม คงเหมือนมองหาอะไรที่อยู่หลังภูเขาลูกใหญ่ที่บดบังทุกอย่าง

ผมสงสัยอยู่ในใจไม่ได้พูดอะไร แต่แอบมองคนข้างๆ ความสงสัยของเมมันแรงมากจนหลุดออกมาเป็นคำพูด

“พี่แม่ง...”



พี่ไอ้เมเดินอ้อมมาข้างหน้ายืนคุยกันอยู่พักนึง

“ทำไมพี่ยีนส์เขาไม่สนใจพี่มึงเท่าไหร่เลยวะ”

“จะไปรู้เหรอ นมเล็กไปมั้ง”

“กูว่าใหญ่ไปมากกว่า”

พี่เมทำท่าบึ้งตึง สะบัดผมปลิวอย่างกับโฆษณายาสระผม แล้วพูดเสียงดัง

“ไหน ในร้านนี้ใครสวยสุด”





“เหี้ย” เสียงเมอุทานอยู่ข้างๆ ผมครับ





จากที่เอาแต่แอบมอง ทุกคนมองพี่ไอ้เมเป็นตาเดียว ชนิดที่ความเคลื่อนไหนทั้งหมดถูกสต๊าฟไว้

“น้องเหรอ” พี่เมกระแทกเสียงเหมือนโมโหใครมา ไปยืนประจันหน้ากับพี่โนอาที่อยู่อีกโต๊ะ



“เหี้ยจริง” ทีนี้ผมเองครับ



“มานี่สิ!” พี่ไอ้เมเรียกพี่โนอาให้ออกมาตรงทางเดิน แต่เพราะพี่โนอาไม่ยอมขยับ “บอกให้มานี่”

พี่โนอาตัวสูงแค่คางพี่ไอ้เมเองครับ เธอไปยืนเหมือนไม่ได้กลัวอะไร ประจันหน้ากันอยู่กลางร้าน โฟร์คซองหยุดเล่นเปลี่ยนเป็นเปิดเพลงจากแผ่นคลอเบาๆ ไม่ให้ดูวังเวงเกินไป

หนาวมาก ข้างๆผมเนี่ย หนาวมาก เมนั่งตัวสั่นเป็นลูกนกพร่ำพูดแต่ ทำยังไงดีๆๆๆๆ ซ้ำไปมา



พี่ป้องกับแม็ตลุกขึ้นแล้วเดินไปทางที่ทุกคนจับตามอง คงไปหาพี่โนอาแน่นอนเพราะสองคนนั้นไม่รู้จักพี่ของเมกันนี่ แต่ถึงแม็ตจะเดาได้ว่าเป็นพี่ไอ้เมก็ไม่มีอะไรยืนยันหรือบอกมันได้ว่าควรทำยังไงหรือเข้าข้างใครหรอกนะ

พี่ป้องเดินนำแม็ตไป แต่ทั้งคู่กลับโดนพี่ยีนส์ดึงให้นั่งลงข้างๆ แทน

อ้าว ไมอ่ะ

“หน้าอย่างน้องอ่ะนะ เขาไม่เรียกสวยหรอกนะจะบอกให้” พี่โนอาถูกจับคางให้เชิดขึ้น

ตบแน่ งานนี้มีตบแน่ๆ

“ฮื้ออออ” เสียงเบะปากร้องให้จากคนข้างๆ ผมครับ

“เขาเรียก... น่าร็อกกกอ้ะ อร้ายยยย”

พี่ไอ้เมตะปบสองแก้มของพี่โนอา สะบัดไปมาอย่างเอ็นดู ขาข้างนึงเด้งขึ้นข้างหลังก่อนจะคว้าทั้งตัวไปกอดกลม

กอดกลม? กอดกัน!

“อ้าว”เชียไรเนี่ย ตามไม่ทัน

“เอ้าๆ ไม่ต้องตกใจ พี่เล่นกันเฉยๆ เพื่อนพี่ๆ กลับไปกินต่อได้”

พี่ยีนส์ลุกขึ้น ตะโกนด้วยช่องเสียงพิเศษที่กังวานไปทั่วได้ยินชัดทุกคนแน่นอน

แต่ถึงพี่จะพูดแบบนั้น ก็ยังมีคนหัวใจวายตายอยู่ตรงนี้สองคนนะครับพี่



“ใครเพื่อนเธอย่ะยีนส์”

“ได้ ให้เรียกป้าใช่ไหม”

“อร้าย แรง นั่งด้วยๆ โอ้ย คิดถึงจังเลยโนอาที่รัก มานั่งกับเจ้ก่อน มาๆๆๆ”

ทั้งหมดย้ายมานั่งโต๊ะว่างใกล้ๆ กับทางที่ผมนั่งหลบอยู่กับเม จัดแจงหาเครื่องดื่มและทักทายกันไปมา



“พี่มึงรัชดาลัยมาก กูหัวใจจะวาย”

“กูตายไปแล้วเมื่อกี้ มึง มียาดมไหม”

มีก็บ้าแล้ว ผมพัดให้เมที่นั่งแปะลงไปบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย มึงใส่กระโปรงอยู่นะ มึงอย่าแหกมาก



“เจ้เฟ เป็นพริตตี้ประจำของมอไซค์ ยี่ห้อนึงที่พี่ไปขับให้ ก็เลยเจอกันบ่อยๆ” ประโยคนี้เหมือนจะบอกแม็ตกับพี่ป้องมั้งครับ

“มา ผมแนะนำน้องๆ ที่น่ารัก ให้รู้จัก ปกป้องน้องรหัสผมพี่”

“อ้อ ชื่อปกป้อง มิน่าเมื่อกี้พุ่งใส่เจ้แบบ อีกนิดเจ้จะโดดหนีแล้วนะ”

“แน่ล่ะ ก็ที่พี่หาเรื่องอ่ะน้องรหัสมันนี่”

“อ้าวเหรอ โอ้ โทษนะเล่นแรงไปหน่อย ขำๆ เนอะ”



“ใครขำกับพี่กูบ้าง กูอยากรู้จริงๆ” เมยังหายใจเข้าลึกๆรวบรวมกำลังให้ตัวเองอยู่ครับ



“แต่เดี๋ยวนะ แบบนี้โนอาก็เท่ากับเป็นหลานเธอสิ”

“ใช่ครับ”

“ถามจริง นี่ล็อกใช่ไหม สารภาพ” แต่พอพี่ไอ้เมหันมามองหน้าพี่โนอาที่ตัวเองยังกอดเอวอยู่ก็กลับคำ “เออ แต่ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอต้องล็อก”

“ไม่แฟร์เลยเจ้เฟ อยู่นี่โนอาไม่ได้เลือกอะไรเลย”

“โนอา เจ้ขอโทษนะ แต่เรื่องนี้เจ้อยู่ฝั้งไอ้ยีนส์เพราะเจ้เข้าใจคนคลั่งน้อง เพราะ เจ้ก็เป็น ฮ่าๆๆๆๆ”

 ผมแอบส่งลอดรูใบไม้ เห็นพี่ยีนส์ทำท่าดีใจ แต่พี่โนอาแก้มป่องจนเจ้เฟแกต้องปลอบไปหัวเราะไป

“ว่าแต่สุดหล่อหนุ่มไม่น้อยตรงนี้ล่ะ คะครายยยย”

“เจ้ อย่านะ อันนี้น้องโนอา โนอาจะปกป้องน้องของหนูเอง”

“อ้าว อะไรเนี่ย”

“แม็ตบอกเจ้เฟไปเลยว่ามีแฟนแล้ว”

“เหรอ มีแฟนแล้วเหรอ” หน้าตาผิดหวังสุดๆนั่นคือการแสดงใช่ไหมครับพี่ บอกผมทีผมจะได้ไม่หึงแรง



พี่มึงนี่อะไรเนี่ย พี่ยีนส์ก็หล่อ พี่ป้องก็ดูดี ทำไมมายุ่งกะแม็ตของกรู

“เหอๆ ครับ”

ถือว่าตอบดี จะให้อภัยสักครั้งก็แล้วกันนะมึง

“ว้าๆ แย่จัง”

“เจ้เฟ ตกลงเจ้มาได้ไงเนี่ย อย่าบอกนะตามกลิ่นโนอามาจนถึงนี่”

“เปล่า มาหาน้อง ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอโนอาาาา สวยขึ้นนะเนี่ย”

“พอดีวันนี้มีงานคะ เลยต้องสวยหน่อย”

“ดีๆ ชะนีกับความงามเป็นของคู่กัน น้องเจ้สิ หายไปไหน เมื่อกี้บอกว่าอยู่ร้านนี้นี่นา นี่มาถึงยังไม่เห็นเลย รู้งี้ไม่บอกก็ดีว่ามาหา ชิ้ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ”

เจ้เฟยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู พร้อมๆกับเสียงริงโทนของคนข้างๆ ที่แผดเสียงดังลั่น!

มันโยนโทรศัพท์ลงพื้น แล้วเก็บขึ้นมากดผิดกดถูกพยายามจะปิดเสียง

“มึงอย่าลนดิวะ” ผมรีบกระซิบบอก



“ช่าย อย่าลนสิคะ” ผมกับเมคงมีความรู้สึกคล้ายๆ กันคือขนลุกเกรียวกับเสียงที่มาดังอยู่บนหัวเรา

“พะ พี่”

“ค่า พี่เอง”



ผมเงยหน้าขึ้นไปช้าๆ เห็นพี่ไอ้เมกับแม็ตยืนมองข้ามรั่วมาจากในร้าน โฮ พ่อจ๋าช่วยหนูด้วย กูอยากไปตายที่อื่นไม่อยากตายตรงนี้

พี่ไอ้เมวิ่งกระเพื่อมมาจนถึงที่พวกเราแอบอยู่ พี่แกก้มลงมาประคองเมอย่างกับเมเป็นเด็กสามขวบที่วิ่งเล่นแล้วหกล้มนั่งร้องให้รอให้ผู้ใหญ่มาอุ้ม

“ลุกๆ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้”

“เพื่อนเมทำของตก ก็เลยช่วยหา”

มึงโยนให้กูลูกใหญ่มาก ไม่เตี๊ยมก่อนด้วย

“ผมหากุญแจรถครับ เจอพอดี” ยังดี ขอบคุณสวรรค์ ที่ผมยังมีพร็อพในมือช่วยชีวิต กำแน่นจนเหงื่อโชกไปหมด

เราชวนกันกลับเข้าร้าน ผมเลือกว่าจะเดินตามไป หรือไปนั่งโต๊ะอื่นกับเพื่อนดี แต่ความอยากรู้อยากเห็นพาให้ผมมานั่งข้างแม็ตจนได้

คิดถูกจริงๆครับที่มานั่งนี่ พี่เฟอมยิ้ม จัดเฝ้าจัดผมให้เมหยิกแก้ม ยิ้มกับตัวเอง จับมือเมไปเคาะๆที่ตักตัวเองสบายอกสบายใจ ทุกคนดูตะลึงพรึงเพริดกันหมด ในส่วนของเมนั้นหน้าเหี่ยวลีบเหลือสองเซ็น

ผมได้แต่ทำหน้าแหยๆอยากจะให้กำลังใจมันแต่กูไม่สามารถจริงๆ

“นี่น้องเจ้ น่ารักป่ะ” เจ้ก็แนะนำไม่ได้ดูหน้าคนอื่นๆ เลย “ทำไมทุกคนทำหน้างั้นอ่ะ หรือรู้จักกัน?”

“เจ้ เมเป็นน้องเจ้เหรอ” พี่โนอาเป็นคนถามครับ ผมอยากจะตะโกนดังๆ ว่าถั่วต้วม

“ใช่สิ หน้าไม่เหมือนกันเหรอ? อ้อ คงไม่เหมือนกันเท่าไหร่หรอก ตอนนี้หน้าเจ้แพงมาก ฮ่าๆๆๆ ค่าทำอะนะ แพงงงง นี่เพิ่งไปเติมร่องแก้มมา ความเอจนี่เป็นภัยจริงๆ”

“โลกกลมจริงๆ เลยเน้อะ” ผมว่าผมมองไม่ผิดนะ สายตาแบบเหล่มองที่พี่ยีนส์ก่อนจะพูดน่ารักๆเหมือนเดิม

“พี่ พี่โนอาไงที่เป็นพี่เลี้ยงให้เม” ในที่สุดเมก็หาปากตัวเองเจอ

“จริงเหรอ งั้นความดีความชอบที่น้องเจ้ได้ตำแหน่งดามมหาลัยมาก็ต้องเป็นของโนอาสิ ไปๆ กินไรเจ้เลี้ยง”

“ไม่ต้องเจ้ วันนี้มีเจ้ามือแล้ว พวกสโมมาเลี้ยงเม กับพวกปีหนึ่ง เนี่ยทั้งร้านนี้พวกผมหมดเลย”

“เหรอวะ” พี่เมมองไปโต๊ะอื่นๆ แน่นอนพอเห็นพี่เฟมอง หนุ่มๆหลบตากับเป็นแถว ถ้าพวกเกรียนๆหน่อยก็ยังจ้องออยู่ แต่คงไม่มีใครกล้าเข้ามาชวนคุยหรือแซว เพราะโต๊ะนี้เป็นโต๊ะพี่ยีนส์นี่ครับ “ดีๆ ดูกลมเกลี่ยวไปไหนไปกันดีเนอะพวกวิดวะเนี่ย”

“พี่ไปรู้จัก... พี่โนอาได้ไงเนี่ย”

“พี่รู้จักไอ้เข้มนี่ก่อน ยีนส์มันมาเทรนเทสรถที่สนามบ่อยๆ เวลาออกงานก็เจอกันบ่อย ชอบเอาเนี่ย โนอาไปนั่งเฝ้าตัวเอง ใจร้ายใจดำสนามร้อนก็ร้อนเอาน้องไปทรมาน แต่เดือนนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย หายไปไหนย่ะ ไม่ซ้อมไว้ตัวแข็งหมดนะเว้ย”

“ไปเป็นประธานเชียร์มา”

“ห่ะ เธอเนี่ยนะ”  พี่ยีนส์ไม่ตอบอะไร ได้แต่หัวเราะนิ่งๆ



“โหดมากเลยเจ้ เนี่ยถามเม เมกลัวหัวหด” เดี๋ยวนะ ยิ้มนั้นของพี่โนอาคืออะไร



“จริงเหรอเม ไอ้เนี่ยนะ โหด ชอบเดินเตะกล่องเครื่องมือ ถ้าไม่ใส่เซพตี้นะ นิ้วเท้ามันหลุดหายหมดแล้ว โหดเหรอ”

“มะ ไม่รู้ดิ เม ไม่ค่อยได้เข้า”

การติดอ่างของมึงมีพิรุธมากกกกกกก

“เชียร์จบตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ เออ แล้วทำไมฉันก็ยังไม่เห็นเธอล่ะยีนส์”

“พี่ยีนส์ติดหญิง”

“โนอา” เสียงดุๆ คอยปราม แต่ก็ไม่ทันแล้วครับ ผมชักจะลุ้นแล้ว ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ คุณคิดเหมือนผมไหม?

“โอ้ะ หญิงที่ไหนทำให้เธอเลิกทำตัวติดกับน้องได้วะคะ แบบนี้โนอาก็ดีใจแย่สิ”

“นี่แหละเจ้ ที่หนูรอคอย”

“เด็กมันโตแล้ว ปล่อยๆ ซะบ้าง โนอาขึ้นคานเธอจะรับผิดชอบยังไง” พี่ยีนส์ถูกชี้หน้าต่อว่า ผมฟังแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แปลกตั้งนานแล้ว “อ้าว นี่ก็มองหน้าพี่ทำไม คิดถึงเหรอ มาๆ กอดกันๆ โอ๋ๆ”

เมถูกโอบไหล่และกอด สองพี่น้องที่สวยที่สุดในร้านขณะนี้กำลังพลอดรักกันหวานชื่น (?)

“พี่พูดเหมือนพี่ยีนส์กับพี่โนอาเป็นพี่น้องกัน? ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

พี่โนอาทำหน้าบึ้ง พี่ป้องหัวเราะในคอเบาๆ ส่วนพี่ยีนส์ ยกแก้วขึ้นจิบหล่อๆ

“อ้าว ก็มันลูกพี่ลูกน้องกัน แค่อิพี่เนี่ย มันติดน้อง เหมือนเจ้ไง สิงได้นี่สิงแล้วนะเนี่ย ฮึ้ย หมั่นเขี้ยว”

ผมนั่งฟังเงียบๆ แอบสบตากับแม็ต

เมไม่พูดอะไรต่อ ทำเป็นพยักหน้ารับเหมือนไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

กูรู้ ในใจมึงร้องโว้ยดังมาก ค่อยไปแซวมันวันหลังยังไม่สาย ดูจากความรัชดาลัยของพี่มันแล้ว ผมว่าก็ไม่ควรกระโตกกระตากนะ จะเจออะไรกลับมามันน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการ



( มีต่อ )

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เรื่องนี้จบหักมุมแหะ ไม่ต้องมีคำว่ามือที่สาม เพราะไม่เคยมีมือที่สอง

โอ้ยยยย ผมอยากจะลุกไปเม้ากับเอ้กับพงศ์ที่โต๊ะโน้น ดูมัน ชะโงกมาทางนี้จนคอเคล็ดแล้วมั้งน่ะ



“ไปหาแสงถ่ายรูปกัน พ่อให้ส่งรูปให้ด้วยนะเนี่ย ไปๆ”

หลังจากนั้นสองพี่น้องก็ขอตัวพากันไปถ่ายรูปหน้าห้องน้ำกัน แน่นอนครับ ระหว่างทางความเด้งก็ดึงดูสายตาทุกคนกลับมาให้จับจ้องที่พวกเขาได้อีกครั้ง มันก็น่ามองจริงๆนี่ครับ ขนาดคนข้างๆผมเขายังมองมองตามเลย

เอ้ะๆๆๆ เดี๋ยวนะ!





“โนอาไม่ได้ผิดสัญญานะ โนอาไม่ได้เป็นคนพูด”

“เงียบไปเลยเรา”

“ถ้าดุโนอา โนอาจะไปเดินไปบอกเจ้เฟเดี๋ยวนี้เลย ว่าพี่ยีนส์จะจีบเม”

“เฮ้ย พี่เปล่า”

“อย่าคิดว่าโนอาไม่รู้นะว่าเวลาโนอาไม่อยู่พี่ทำตัวแรดยังไง โนอามีสายอยู่ทุกที่”

“ฮื๋ม?”

“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะที่โนอาไม่อยู่บ่อยๆเวลาที่พี่ไปนั่งเฝ้าข้างสนามบาส”

“เฮ่”

“ดีจริงๆที่ไม่ไปรับน้องคณะหลังจบเชียร์วันนั้น”

เกิดกระแสไฟช็อตตรงสายตาที่พี่เขามองกันครับ แต่มันก็ต้องหยุดลงเพราะสองพี่น้องเดินจูงมือกันกลับมาแล้ว

“อะไรกับเหรอ?” พี่เฟถามทันที แค่เมกลับหนีซะงั้น

“พี่ เมไปห้องน้ำก่อนนะ”

“ไปคนเดียวเหรอ?”

“ไปได้พี่ เพื่อนเมทั้งนั้นในร้านเนี่ย”

“อ้อ ใช่ๆ รีบมาล่ะ”



“มันได้เป็นดาวมหาลัยได้ไงวะ บอกเจ้ทีสิ” เจ้นั่งลงแล้วซดทีเดียวเกินครึ่งแก้ว

“น้องเจ้ออกจะสวย คนจีบตรึม” พี่เฟหันมามองหน้าพี่โนอาแบบจ้องราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อ

“ล้อเล่นใช่ไหม? มันแต่งตัวเหมือนทอม เจ้ก็อุส่าสบายใจผู้ชายคงไม่มายุ่งกับมัน นี่ยังมีหลงมาอีกเหรอ?”

“เจ้ไม่อยากให้เมมีแฟนเหรอ?”

“ไม่อ่ะ เมยังเด็ก ตามผู้ชายเลวๆสมัยนี้ไม่ทันหรอก”

“เห็นไหม เจ้คิดเหมือนผมเลย” พี่ยีนส์รีบสมทบทันที พี่โนอาเอาแต่เม้มปากแน่น

“แต่โนอาโตแล้วนะยีนส์” พี่เฟรีบพูดทันที โอบพี่โนอาเป็นเชิงปลอบ

“แก่กว่าเมแค่ปีเดียว โตได้ไง”

ดูเหมือนคนแก้ตัวของพี่ยีนส์จะถูกมองข้ามไป



“แล้ว คนที่โนอาชอบก็เป็นคนดี”



 เกิดความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะ พี่โนอาเองก็เหมือนจะไม่คิดว่าเจ้เฟจะพูดประโยคนี้ออกมา

ดูท่า เรื่องนี้จะเป็นความลับอีกเรื่องที่จะถูกเปิดโปงในวันนี้



“ใคร?”

“จะบอกว่าทำไมเธอถึงไม่รู้ใช่ไหม”

“เจ้ ผมไม่”

“เพราะเธอเป็นผู้ชายไง”

“ผู้หญิงกับผู้หญิงเขามีจิตสื่อถึงกัน ฉันรู้สึกว่า เขาก็ยังไม่รู้ตัวใช่ไหมว่าหนูชอบเขา โนอา”

พี่โนอาเบะปากนิดๆ ส่ายหน้า

โฮฮฮฮ จะบอกว่าผมนึกถึงเจ้เฟิร์นของผมขึ้นมาในทันที เจ้ผมสมัยสาวๆก็คงปิ้งแบบนี้ และที่สำคัญความมองอะไรทะลุทะลวงไปถึงไหนๆเนี่ย เฉียบขาด

“เป็นความลับของเราสองคนนะ”

“คะ เจ้อย่าบอกใครนะ”

“เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน โนอาที่รัก” พี่ยีนส์พูดออกมาในที่สุด เหมือนฝางเส้นสุดท้ายของพี่โนอาจะขาดหายไปแล้ว

“หนูไม่มี หนูจะไปกินเหล้าแล้ว แล้วไม่ต้องห้ามนะ ใครมันจะกล้าทำอะไรโนอา ในเมื่อพี่ยีนส์ก็อยู่ พี่ซันเจ้าของร้านก็ปู่พี่ ไม่มีใครอยากตายมากพอจนมายุ่งกับโนอาหรอก”

พี่โนอาลุกเดินไปกอดคอพี่เท อ้าวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คุยอะไรกันก็ไม่รู้ สักพักก็ชนแก้วแล้วยกพรวดๆ เหมือนเททิ้ง



“เมนต์มารึไงวะ กูผิดขนาดนั้นเลย”

“เออสิวะ”

“โนอาคงเก็บกฎอ่ะพี่ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ” พี่ป้องบอกพี่รหัสตัวเอง

“ไม่นะ หลังๆงอแงแบบนี้บ่อย สงสัยกูจะทำเกินไปจริงๆ”

“ทำอะไรวะ ห้ามโนอามีแฟนเหรอ?” พี่เฟถามจากพี่ป้องแทนที่จะเป็นพี่ยีนส์

“ไม่ได้ห้ามธรรมดาครับ พี่ยีนส์ก็แค่ ไม่บอกทุกคนว่าโนอาเป็นน้อง ไปรับไปส่ง เวลามาอย่างนี้ก็ให้นั่งข้างๆ ถ้าคนถามก็จะไม่ปฏิเสธ ถ้าไปถามโนอาก็ห้ามไม่ให้บอกใครๆว่าที่จริง เป็นพี่น้อง” วิธีห้ามน้องมีแฟนของพี่น้องคู่นี้นี่สุดๆครับ

“อ้อ ให้คนเขาเข้าใจกันไปเอง คนจะจีบก็ไม่กล้าเพราะเธอเป็นผู้มีอำนาจในคณะใช่ไหม”

“คนข้างนอกก็ไม่กล้า เป็นข้อดีของความหน้าถ่อย” พี่ยีนส์ลูบคางที่เริ่มมีไรหนวดขึ้น ดูเข้มขึ้นไปอีก

“ใจร้ายใจดำ สงสารโนอา โนอาน้องเจ้”

“พี่เฟก็ไม่อยากให้เมมีแฟนไม่ใช่เหรอครับ ไม่สงสารเมเหรอ” ผมถาม เห็นเมเดินออกมาจากห้องน้ำไกลๆ ต้องเริ่มถามก่อนมันมาถึง

หึ หึหึหึ

“เจ้ไม่ได้ห้ามนะ แต่แค่ถ้าจะมีขอสแกนก่อน แล้วเมเองก็ยังไม่เห็นทำท่าว่าอยากมีนี่”

“แต่มีคนรอจีบเมอยู่เต็มเลยนะครับ” แม็ตสมทบ

“...” พี่เฟเหมือนจะเงียบไป คงคิดอะไรอยู่ “ผู้ชายเหรอ?”

“เดี๋ยวนี้เมไม่ค่อยเจาะแจะกับผู้หญิงแล้วนะ ใช่ไหมแม็ต มันเลิกคุยโทรศัพท์กับวีดีโอคอนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

“จริงเหรอ”

“แบบนั้นคงต้องดูเป็นคนๆ ไป”

เมกลับมานั่งที่เดิม สายตาคาดคั้นจากพี่ตัวเองคงทำให้มันสยองขึ้นมาอีกรอบ

“เม”

“จ๋า”

“มีคนมาจีบหนูเหรอ”

“ระดับไหนคือจีบอ่ะ”

“ดักรอ พูดคุย ซื้อนั้นซื้อนี่ให้ ไปรับไปส่ง เป็นห่วงเป็นใย”

“มี”

“ใคร”

อย่าบอกนะว่าพี่ยีนส์ทำ

“สองคนนี้ไง ทำทุกอย่างเลย ให้ลอกการบ้านด้วยนะ”

เมใช้คางชี้มาที่ผมกับแม็ตครับ เจริญ

“โอ้ยน้องฉัน ถ้าคนมาจีบจะรู้ตัวไหมเนี่ย คนอื่นอีกล่ะ มีไหม”

“ก็ มีมั้งแต่ไม่รู้ว่า... จีบ หรือแค่สันดารกวนตีน”

ผม แม็ต พี่ป้องทั่งนั่งฝั่งนี้ทุกคนหัวเราะพรืด เกิดการกระซิบ “พี่คิดเหมือนกันใช่ป่ะ?” พี่ป้องถึงกับจับมือผมเขย่าแรงๆ

“พูดไม่เพราะเลย นี่แน่ะๆ”

“โอ้ย พี่เฟ อย่าตีน้อง”

“แสดงว่ามีจริงๆใช่ไหมเนี่ย พวกเธอชอบใจขนาดนี้ เม ดูดีๆรู้ป่าว สัญญากันแล้วนะว่าต้องให้พี่ดูก่อนตกลงคบ”

“สัญญาตอนไหน?”

“นี่แนะ สัญญาก็คือสัญญาสิ” เมถูกตีขออีกทีครับ แต่เบาๆ








“มะนาว มะนาว ควิกๆๆๆ”

ผมเงยหน้าไปหาเสียงเรียก พี่เทพี่รหัสผมเรียกให้ไปนั่งด้วย

“เกิดอะไรขึ้นวะ เจ้คนสวยๆ คนนั้นใคร แล้วทำไมโนอากินเอาๆ กูว่ากูแซดมาแล้วนะ แต่แป็บเดียวมันแซงกูไปแล้วว่ะ”

“เจ้คนนั้นเป็นพี่สาวของเมครับ เขารู้จักกันแล้วก็เฉลยว่าพี่ยีนส์กับพี่โนอาไม่ได้เป็นแฟนกัน”

“ห่ะ” พี่ผมหน้าเหวอไปพร้อมๆ คนทั้งโต๊ะที่ทำท่าตกใจไม่แพ้กัน อ้าว ไรเนี่ย

“ไม่ใช่แฟนกัน!” ติดโทรโข่งไว้ที่ปากหรือไงพี่มีมี่

“พี่โนอาไม่ได้บอกเหรอ” ผมหันไปถามพี่แก

“ก็มันไม่ให้พี่พูด จะให้ทำไงอ่ะ พูดไปเลยนาว บอกทุกคนไป กูโสด ใจป่ะ โสด ไม่มีผัว ไม่เคยมี ห้องก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน กูอยู่ห้องติดกันเฉยๆ” ไหนว่าเขาไม่ให้พูด สรุปพี่ก็พูดเองหมดเลยนะครับ

“เสร็จกู พี่ยีนส์เป็นของกูแน่ คืนนี้กูจะบุกๆๆๆ” พี่มี่พูดอย่างมั่นใจและดุดัน

“แล้วทำไมพี่ยีนส์ต้องทำเหมือนมึงเป็นแฟนเขา แล้วที่จริงมึงเป็นอะไรกันอ่ะ งงว่ะ” เพื่อนคนนึงของเขาถามผมพี่โนอาครับ แต่ ก็โบ้ยมาที่ผมอีก

“ถามมะนาวดิ”

“เป็นลูกพี่ลูกน้องครับ ดูเหมือนพี่ยีนส์จะหวงพี่โนอา ไม่อยากให้มีแฟนก็เลยกันท่า”

“หวงมาก บางทีก็มากไป หวงกว่าพ่อกูอีก”

“แล้วก็ พี่โนอามีคนที่ชอบก็เลยเริ่มจะไม่โอเคที่มีแฟนหลอกๆ”

ผมก็พูดต่อเนื่องไปเรื่อย เพราะถูกยื่นแก้วมาให้สองสามรอบแล้วตั้งแต่มานั่งตรงนี้

“เฮ้ย อันนี้ไม่ต้องพูดก็ได้” ผมถูกเขย่า แต่สายตาพี่แกมองเพื่อนๆอย่างระแวดระวัง

“โนอามีความรักลับหลังประธานเชียร์ มึงกล้ามาก”

“มึงต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ดิวะ เขาพี่น้องกัน แต่คนที่มึงชอบ หญิงรึชาย น้องเมรึเปล่า กูเห็นนะ ตามเทคไม่ห่างเลย”

“นั่นดิ คนที่ชอบ ใครวะ?”

“เรื่องของกู มึงยังไม่บอกกูเลยว่ามึงชอบใคร” พี่เทโดนสวนอย่างไวครับ

“เรื่องของกู”

“เห้อ กูไม่เคยรู้สึกอยากมีแฟนเท่านี้มาก่อนเลย กูเป็นอะไรของกูวะเนี่ย”

“อ้าว มึงก็มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่รึไงโนอา”

พี่ฟ้ามาจากไหนไม่รู้ครับ โพล่งออกมาเพราะตามเรื่องไม่ทัน พี่นี่ไม่อัพเดทเลย มาๆ ผมเล่าอีกรอบเอง

“ฟ้า มึงมาไมป่านนี้เขารู้กันทั้งร้านแล้วเนี่ย มึงอย่ามาทำตัวตกข่าว ถามไอ้เทโน้น กูพูดไม่ได้”

“เพิ่งเก็บผลแลปเสร็จ เดี๋ยวตีสามต้องเข้าไปเก็บอีกรอบ”

“งี้เมทมึงก็นอนหนาวคนเดียวอ่ะดิ”

“ไม่หนาวหรอก กูมีผ้าห่ม กูไม่ได้โง่”

“กูจะเอาไปซ่อน” พี่ฟ้าพูดไปหัวเราะไปพร้อมๆกับแย่งแก้วพี่เทไปซดซะเอง

“เอ้ะมึงนี่”

“นาว แม็ตวะ” อยู่พี่ฟ้าก็หันมาหาผมไม่สนใจเมทตัวเอง

“อยู่ทางโน้นพี่”

“โห มีแต่ตัวใหญ่ๆ เดี๋ยวกูค่อยไป”

“มึงมีไรต้องคุยกับน้องโนอาวะ”

“เรื่องของกู”

“...”

“ใช่ เรื่องของกู เรื่องของกู” พี่โนอาพูดซ้ำไปซ้ำมา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่สองคนนี้คุยกันเลยแหละ

“โนอา มึงอยากมีแฟนใช่ป่ะ?” พี่เทหันไปถามอย่างไร้อารมณ์ ไม่รู้จะกวนตีนหรือมีไอเดียดีๆ

“ใช่”

“กูก็อยากมี เราลองมาคบกันไหม”

เงียบ เงียบกริบกันทั้งโต๊ะครับ จนพี่ฟ้าหัวเราะออกมาแล้วสะกิดให้พี่โนอามีสติตอบกลับ

“เมิงงงง ให้กูพูดจริงๆป่ะ?”

“?”

“มึงสูงกว่ากูแค่ 5 เซนฯเองอ่ะ”

“แล้วไง”

“ถ้ากูใส่ส้นสูง มึงก็เตี้ยกว่ากูดิ มึงยอมเหรอ”

“เออวะ ไม่เอาอ่ะ ไม่หล่อ”

จบไปอย่างง่ายดายครับ

“เห็นมะ กูจำได้ สเปคเพื่อนต้องตัวเล็กๆ เล็กเล้กกกกก”

“คนไม่ใช่มด”

“ก็กูเมา กูทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ด้าย”

“เออ กูก็เมาเป็นเพื่อนมึง เอ้าซดๆๆ ไม่ต้องชนไม่ต้องเชินมันแม่ง มีเท่าไหร่ซดให้หมด”

“มะนาว มึงจะยอมแพ้พวกพี่เหรอ”

“เอ๋ ผมเกี่ยวอะไร”

“มึงเป็นน้องกูไง จะไม่กินเป็นเพื่อนกูเหรอ เพื่อนกูอยากเมากูยังกินเป็นเพื่อนของเพื่อนกูเลยกูทำเพื่อเพื่อนนะเนี่ยกูชวนน้องกูแดกกับกูกับเพื่อนเนี่ย แม่ง งงว่ะ มึง กูงง”


“มึงไม่ได้งง แต่มึงเมา” พี่ฟ้าหยิบพี่เทขึ้นจากการพยายามเลื่อยไปบนโต๊ะ มาจับตั้งให้พิงพนักพิงดิบดี แต่วางปุ๊บก็ไหลปั๊บ

ตอนนี้คางพี่ผมวางแปะอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น เพราะขยับปั๊บพี่ฟ้าเกี่ยวขึ้นมาทันที



กูเมาแล้วเลื่อยอย่างนี้ไหมเนี่ย โอ้ย แต่ก็อยากเมานะ เอ้ะ หรือวันนี้ไม่ควรเมาแล้วเพราะเหนื่อยแล้ว เอ้ะ แต่จริงๆก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นะ




แก้วแล้วมีแต่แก้วเหล้า ไหนช่วงพักของกูหายไปไหนแล้ววะ...



พี่เฟมาบอกลาพี่โนอาตอนที่พวกผมเมาเรียบร้อยไปแล้ว ผมลาพี่เขาตรงนั้น พี่โนอา พี่ยีนส์ กับเมตามไปส่งเขาที่รถ

พี่ฟ้าก็ลุกหายไป

เออ เหลือใครบ้างวะเนี่ย พี่เท พี่มีมี่ พี่โน้นพี่นั่นกับพี่นี่ อ้อ มีเอ้กับพงศ์มาสมทบ



เอิ่ม


อ้อ


เมา




--------------------------------------------
TBC.




พยายามอย่างงกันนะคะ ตอนนี้ตัวละครเยอะ แย่งกันพูดพอควร
แถมคนเขียนก็ไม่ค่อยสมบูรณ์คะ สติก็ไม่เต็ม รู้สึกถึงอากาศที่เปลี่ยนแปลงและสุขภาพที่เปลี่ยนไป

รักษาสุขภาพกันด้วยนะค่าคนอ่านทุกคน คิดถึง เป็นห่วง และป่วยค่า

ปู้นๆ      สถานีต่อไป... บ้านฟ้านาว แม็ตเท

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2016 05:26:20 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คราวนี้อัพยาวดี ชอบบบ  :mew1:
แมต มะนาว ดีกันแล้ว :katai2-1:
พี่เมมาแล้ว เฉลยความสัมพันธ์พี่ยีนส์ โนอา
แต่  ใครแฟนเม? :katai1:
พี่ฟ้า ลุกหายไปไหน?  :ling1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   ดีงาม. เมาจนได้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กระจ่าง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
โนอาชอบใครหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มะนาวเมาแล้วววว แม็ตดูแลด่วน

ว่าแต่โนอาชอบใครนะะะ

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
เจ้เจ๋งดีนะ ว่าแต่สะกดคำว่า เก็บกดผิดนะ

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โนอาต้องชอบคนใกล้ตัวแน่ๆ
ทีมมะนาว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด