ตอนที่ 3
สายฝนและพายุในยามค่ำคืนโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เสียงฟ้าร้องดังอึกทึกไปทั่วพร้อมกับสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบราวกับเทพพิยดากำลังสู้รบเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน เม็ดน้ำสีใสตกกระทบหน้าต่างบานสวยเม็ดแล้วเม็ดเล่าพร้อมกับแผ่ไอเย็นทะลุหน้าต่างที่เจ้าของห้องเปิดแง้มเอาไว้ คนตัวเล็กจ้องมองไปยังหน้าต่างที่เปิดแง้มเอาไว้และพื้นห้องที่อยู่ไม่ไกลซึ่งบัดนี้เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนด้วยสายตาว่างเปล่า แม้ว่าสายฝนด้านนอกจะโหมกระหน่ำแต่นาราก็ไม่ได้เดินไปปิดหน้าต่าง
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าไร้เรี่ยวแรงในการเคลื่อนไหว เหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น
เสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้โดยไม่กลัวฟ้าผ่าไม่ได้เข้าหูนาราเลยซักนิด ในหัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคำพูดของอีริคที่เอ่ยกับเขาเมื่อตอนเย็น
คุณควรจะยอมรับความจริงนะครับคุณนารา ผู้ชายคนนั้นไม่ได้รักคุณ และให้ตายยังไงเขาก็ไม่รักคุณ ต่อให้คุณตามไปทำร้ายคนที่เขารักกี่คนต่อกี่คนหมอนั่นก็ไม่มีวันรักคุณ ตรงกันข้าม สิ่งที่คุณทำ สิ่งที่คุณแสดงออกมันจะยิ่งทำให้หมอนั่นเกลียดและอยากจะหนีคุณไปให้ไกล ๆ ยิ่งคุณวิ่งตามเขาก็จะยิ่งอยากวิ่งหนี ไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับ
จะทนวิ่งตามความรักที่มันไม่มีวันเป็นของเราตลอดชีวิตเลยเหรอครับคุณนารา จะทนเจ็บปวดไปจนวันตายเลยเหรอครับ จะให้ชีวิตใครอีกกี่คนต้องพังพินาศเพราะคุณกัน
ความรักมันไม่สนคนดีหรือคนเลวหรอกครับ มันก็แค่ทำหน้าที่ของมัน ส่วนตัวเรามีหน้าที่ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ หากรักสมหวังก็ต้องเรียนรู้ที่จะประคับประคองให้มันคงอยู่จนตลอดรอดฝั่ง แต่หากไม่สมหวังเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเจ็บปวด ปล่อยวางและเข้มแข็ง
พอเถอะครับ คุณหนูของผมเหนื่อยมามากพอแล้ว คุณหนูตัวเล็กของผมเจ็บมามากพอแล้ว อย่าถลำลึกลงไปกว่านี้อีกเลย นาราควรจะหยุดจริงๆ หรือ...
ร่างเล็กสะบัดหัวสองสามทีไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะหันไปจ้องข่าวในโทรทัศน์อย่างตั้งใจ และภาพข่าวตรงหน้าที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำให้นาราผุดลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
นั่นมัน...
เมื่อเวลา 17 นาฬิกา 23 นาทีของวันนี้ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่โรงแรมหรูชื่อดัง โดยได้มีการรับแจ้งมาว่ามีคนพบศพชายหนุ่มคนหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟากลางห้องสวีทของโรงแรม สภาพศพตามร่างกายมีรอยฟกช้ำและมีแผลฉีกบริเวณทวารหนัก ที่อกข้างซ้ายมีมีดปอกผลไม้ขนาดเล็กปักเอาไว้ ทราบภายหลังว่าผู้ตายมีชื่อว่า นายรณกร รัตติวงศ์ พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากผลการชันสูตรแพทย์เผยว่าสาเหตุการตายเกิดจากการที่ใบมีดเสียบทะลุตัดขั้วหัวใจทำให้เสียชีวิตทันที และรอยนิ้วมือบนมีดเล่มดังกล่าวก็เป็นของผู้ตายเอง ส่วนร่องรอยตามตัวและแผลที่บริเวณทวารหนักนั้น แพทย์เผยว่าเกิดขึ้นก่อนการเสียชีวิตประมาณ 1-2 ชั่วโมง รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้หลังโฆษณาค่ะ...
ตุ้บ!
“มะ หมายความว่ายังไง...” ร่างเล็กของนารายืนนิ่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ในห้องกว้างของตนเอง ใบหน้าหวานซีดเผือดไร้สีเลือดในขณะที่ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าไม่วางตา ภาพตรงหน้าปรากฏเรือนร่างเล็กของรณกรในสภาพไร้ชีวิต ที่อกข้างซ้ายมีมีดเล่มเล็กปักอกอยู่ รอบกายของร่างไร้วิญญาณถูกฉาบไปด้วยสีแดงของเลือดทำเอาร่างทั้งร่างของนาราสั่นเทิ้ม
กลัว...
นารากำลังกลัว
“ไม่จริง...มันไม่ใช่ความผิดฉัน มันไม่ใช่...ริค...ต้องโทรหาริค!” กลีบปากเล็กพึมพำกับตัวเองอย่างร้อนรน ความกลัวคืบคลานเข้ามากอบกุมจิตใจของนาราจนร่างทั้งร่างอ่อนแรง มือบางควานหาเครื่องมือสื่อสารของตัวเองที่วางไว้ที่ไหนซักแห่งตอนเข้ามา และเมื่อพบมือเล็กก็รีบตะครุบโทรศัพท์เอาไว้แน่นและต่อสายหาอีริคอย่างรีบร้อน
“ทำอะไรอยู่ รับสิ...” คนตัวเล็กพึมพำเสียงเบาหวิวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก็ไหนเมื่อตอนเย็นอีริคบอกกับเขาว่าแค่ข่มขืนรณกรเพียงแล้วก็จากมา ก็ไหนบอกว่าไม่ได้ฆ่าไง
แล้วนี่มันอะไรกัน
ร่างไร้วิญญาณของรณกรที่เขาเห็นในข่าวนั่นมันคืออะไร
“ริค รับโทรศัพท์หน่อยสิ!” ร่างเล็กพูดออกมาอย่างสิ้นหวังเมื่อปลายสายไม่มีทีท่าว่าจะกดรับโทรศัพท์ของเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้ข่าวของรณกรจะจบไปแล้ว หากแต่นารากลับลนลานนั่งไม่ติด เขาอยากได้ยินจากปากอีริคอีกครั้งว่าอีริคเป็นคนฆ่ารณกรหรือเปล่า ถึงแม้ข่าวจะบอกว่าลายมือบนมีดจะเป็นของเจ้าตัวเองแต่นาราก็อยากได้ยินจากปากของอีริคเพื่อให้แน่ใจ
คนของเขาไม่เคยโกหก ไม่ได้ฆ่าก็คือไม่ได้ฆ่า
และในขณะที่นารากำลังร้อนรนเพราะปลายสายไม่ยอมรับโทรศัพท์อยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะทำเอานาราขมวดคิ้วมุ่น หันไปมองที่หน้าประตูก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสั่งอาหารเย็นจากห้องอาหารด้านล่างไว้
“เข้ามาเลยครับ ห้องไม่ได้ล็อค” ร่างเล็กตะโกนบอกไปก่อนจะหันมาสนใจกดโทรศัพท์ต่อ พยายามทำตัวปกติเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นว่าประตูห้องถูกเปิดเข้ามา
“วางไว้บนโต๊ะตรงหัวมุมเลยนะครับ” คนตัวเล็กบอกอีกครั้งก่อนจะก้มลงจิ้มโทรศัพท์ในมือด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ไม่ได้สังเกตเลยซักนิดว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่พนักงานร้านอาหาร แต่เป็นใครอีกคนที่คุ้นเคยกันดี คนคุ้นเคย...ที่กำลังทอดมองมาที่ร่างเล็กด้วยสายตาวาวโรจน์ดุดันพร้อมกับขยับริมฝีปากพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“กินอยู่สุขสบายไม่ได้สนใจคนที่นายเพิ่งฆ่าไปเลยสินะ...นารา”
!!!
คนคุ้นเคย...ที่นาราไม่ควรจะเจอที่สุดในเวลานี้
“คุณ…”
พลั่ก!!!
“โอ๊ย! อึ่ก...” คนตัวเล็กร้องเสียงหลงทันทีที่ร่างกายถูกจู่โจมจากร่างโปร่งที่มีความสูงมากกว่าตนเอง ร่างเล็กล้มลงไปนอนหงายอยู่บนโซฟาตามด้วยร่างเปียกโชกของคลาร์กที่ตามขึ้นมาทาบทับนาราเอาไว้อย่างรวดเร็ว สองมือของคู่หมั้นตัวสูงเอื้อมไปคว้าหมับเข้าที่ลำคอขาว ออกแรงล็อคเอาไว้แน่น ดวงตาของคลาร์กแข็งกร้าวดุดันยิ่งนักยามที่จ้องมองดวงหน้าเล็กที่กำลังมองเขา สีฝาดของสีเลือดจางหายไปจากใบหน้าหวานในขณะที่มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับข้อมือคลาร์กเอาไว้แน่น
“คุณ...อึ่ก ผมไม่...ไม่ได้ทำ” นาราพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นพร้อมกับออกแรงดิ้น แต่แรงเขากลับสู้แรงของคนที่กำลังขาดสติตรงหน้าไม่ได้เลยซักนิด
“สะใจรึยังนารา สาแก่ใจแล้วใช่มั้ย!!!!” คลาร์กตวาดกร้าวพร้อมกับกดร่างเล็กให้จมหายลงไปกับโซฟานุ่ม ดวงตากลมโตที่นาราหลงรักบัดนี้ฉายแววเกลียดชังเสียจนหัวใจของร่างเล็กด้านใต้เต้นแรงด้วยความเจ็บปวด ขอบตาเรียวมีน้ำใสรื้นขึ้นมาขังคลอและไหลลงไปหยดแหมะอยู่บนโซฟา นาราจ้องมองคนที่ตัวเองรักที่กำลังจะกระชากลมหายใจของเขาเพียงชั่วครู่ก่อนจะหลับตา
“ฮึก...”
เอาสิคลาร์ก ฆ่าเลย นาราเหนื่อยที่จะดิ้นรนแล้ว เขาจะไม่ดิ้นอีกต่อไปแล้ว
ร่างเล็กปล่อยมือที่จับข้อมือของคลาร์กเอาไว้และสงบลง ดวงตาเรียวหลับปี๋เมื่อเริ่มรู้สึกถึงแรงบีบรัดรอบลำคอระหง แม้จะหวาดกลัวความมืดมิดหลังความตายแต่เขาก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เขาเองสมควรได้รับ เพราะนารารู้ดีว่าเขาคือต้นเหตุของการตายของรณกร
จริงอย่างที่อีริคบอก ยิ่งร้ายคลาร์กยิ่งจะไม่รัก
บางทีนาราควรจะหยุดเสียที
แต่ดูเหมือนเขาจะคิดได้เมื่อทุกอย่างมันสายเกินไป
“ทำไมล่ะ!!! ทำไมล่ะนารา ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้!!!” คลาร์กพูดเสียงดัง สองมือยังคงออกแรงกดลำคอระหงให้จมอยู่กับโซฟา คลาร์กในตอนนี้ไร้สติ โกรธเกรี้ยวราวกับปีศาจร้ายที่กำลังจนตรอก เสียงกึกก้องของร่างสูงดังซ้ำไปซ้ำมาแข่งกับเสียงคลื่นพายุและเสียงฟ้าผ่าด้านนอก ยิ่งอารมณ์ของร่างสูงปะทุขึ้นมากเท่าไหร่สายฝนก็กระหน่ำอย่างรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
นาราที่ทุกทีเคยชั่วร้ายบัดนี้กลับไร้หนทางต่อสู้
“ฮึก ผมไม่...อึ่ก”
“หึ อยากได้มากเหรอ...ชาตินี้ต้องได้ฉันไปครองให้ได้เลยงั้นสิ” คลาร์กพูดพลางแสยะยิ้ม ยอมคลายแรงที่ลำคอขาวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าหวานที่ชื้นแฉะไปด้วยน้ำตาของนาราด้วยสายตาว่างเปล่า คนถูกมองขนลุกซู่ทันทีที่เห็นสายตาของคู่หมั้นหนุ่มที่มองมา ร่างเล็กส่ายหน้าหวือเป็นพัลวัน กลีบปากอิ่มเอาแต่พึมพำย้ำเตือนกับคนตรงหน้าว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ เขาไม่เกี่ยวด้วย นาราไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จริง ๆ
หากแต่อธิบายอะไรไปก็ดูจะไร้ประโยชน์
“ก็ได้...ถ้าอยากให้ฉันเป็นของนายนัก ฉันก็จะเป็นให้” คลาร์กพูดด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น ดวงตากลมจ้องมองร่างเล็กตรงหน้าด้วยแววตาวาวโรจน์น้อย ๆ ประกายในตาของคลาร์กที่เมื่อครู่คุกรุ่นไปด้วยเพลิงแห่งความกรุ่นโกรธบัดนี้แปรเปลี่ยนไปเป็นความเย็นเยือกทำเอานาราหนาวเหน็บ ความกลัวแล่นปราดขึ้นมาเกาะกุมจิตใจของคนตัวเล็กแต่นาราก็ยังคงนอนนิ่งไม่กล้าขยับกายได้แต่ปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจให้หลั่งรินออกมาอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
“ไม่ต้องร้องนะนารา ฉันไม่ไปไหนแล้ว ฉันเป็นของนาย จะเป็นของนายเพียงคนเดียว” คลาร์กพูดไปพร้อมกับแสยะยิ้มเหี้ยม ร่างสูงโปร่งผละกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเอื้อมมือไปดึงนาราให้ลอยหวือเข้ามาปะทะแผ่นอกของตนก่อนจะเช็ดน้ำตาออกจากตาคู่สวยและแก้มกลมนิ่ม นาราขมวดคิ้วงุนงงกับกริยาที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย ดวงหน้าหวานจ้องมองมาที่คลาร์กอย่างสงสัยหากแต่เพียงไม่นานนาราก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจพร้อมกับหันหลังเตรียมตัวหนีอสูรกายตรงหน้า
ทว่าทุกอย่างกลับสายเกินไป
“แต่จำเอาไว้อย่างนะ คนชั่วแบบนายสมควรได้แค่ตัวฉัน นายสมควรได้แค่ตัว นายมันไม่คู่ควรกับหัวใจของฉัน!!!!”
นาราถูกคลาร์กลากเข้ามาในห้องนอนอย่างรวดเร็วพร้อมกับกดลงบนเตียงนอนกว้างอย่างรุนแรง ดวงตากลมฉายแววตื่นตระหนกขณะมองใบหน้าของคู่หมั้นหนุ่มด้วยความหวาดกลัว คลาร์กจ้องมองร่างเล็กด้วยสายตาคุกคามก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น
“กลัวทำไม ทุกทีเห็นอ่อยฉันจะเป็นจะตายไม่ใช่เหรอ กลัวทำไม!!!!” เสียงตวาดดังกึกก้องเคล้าไปกับเสียงฟ้าร้องด้านนอกทำเอานารากลัวจนตัวสั่น คลาร์กไม่เคยเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มไม่เคยใช้สายตาแบบนี้มองนาราเลยซักครั้ง
ทุกครั้งที่คลาร์กมองมานาราจะเห็นความเหนื่อยหน่ายในหน่วยตาคู่คมคู่นั้น หากแต่วันนี้สิ่งเดียวที่นาราเห็นคือความเคียดแค้นชิงชัง ดวงตาของคลาร์กดุดันจนน่ากลัว
“เพราะรณกรเหรอ คิดว่าผมเป็นคนฆ่าคนรักของคุณงั้นเหรอ” นาราถามเสียงสั่นทำทีใจดีสู้เสือร้ายตรงหน้า
“ก็แล้วมันไม่ใช่หรือยังไง คิดว่าฉันโง่งั้นสิ!!!!” คลาร์กสวนกลับ นาราหลับตาลงพร้อมกับพึมพำเสียงแผ่วเบา
“ผมไม่ได้ทำ จะให้บอกอีกกี่ครั้งคำตอบมันก็ยังเหมือนเดิม!”
“เหมือนหรือไม่เหมือนกรก็ตายไปแล้วนารา คนรักของฉันตายไปแล้ว แล้วรู้อะไรมั้ย ก่อนตายเขาบอกฉันว่ายังไง” คลาร์กพูดเสียงเรียบพลางตรึงสองแขนของนาราไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว คนตัวเล็กเงียบเสียงไม่ตอบคำถามจนในที่สุดคลาร์กก็เอ่ยออกมาเอง
“เขาบอกว่าชีวิตฉันเกิดมาเพื่อเป็นของนาย...คนเดียว”
“...”
“สมใจนายแล้วนารา ฉันเป็นของนาย เป็นของนายคนเดียว”
“คลาร์ก...”
“ฉันเป็นของนาย และนายเองก็ต้องเป็นของฉันเหมือนกัน!!!”
“อื้อ!!!!!”
เสียงร้องอื้ออึงดังขึ้นแผ่วเบาเคล้าไปกับเสียงร้องของท้องฟ้าในยามที่มีพายุโหมกระหน่ำ สายลมแรงพัดพาเอาละอองฝนและความเย็นเยียบเข้ามากระทบผิวกายของร่างสองร่างที่อยู่บนเตียงนอน ข้อมือเล็กของนาราถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียวของคลาร์ก ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่ไม่ต่างกับคีมเหล็กที่คอยบีบคางเล็กให้ร่างบางยอมเปิดปากเพื่อที่คนด้านบนจะได้ส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กในโพรงปากหวาน คลาร์กบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างรุนแรงไม่ยอมปราณี ลิ้นร้อนเคลื่อนเข้าไปเกี่ยวกับลิ้นเล็กก่อนจะดูดดึงไปมาจนเกิดเสียงดังน่าอาย
“อื้อ...” ร่างเล็กส่งเสียงครางประท้วงเมื่อตนเองใกล้จะขาดอากาศหายใจ คลาร์กผละริมฝีปากออกให้คนด้านล่างได้กอบโกยเอาอากาศเข้าปอดก่อนจะฉกวูบเข้าไปดูดกลีบปากอิ่มอีกครั้ง ฟันคมออกแรงกัดริมฝีปากของนาราเต็มแรงจนได้กลิ่นคาวเลือด แต่ถึงอย่างนั้นคลาร์กกลับคิดว่ารสจูบนี้มันหอมหวานจนเขาไม่อยากละจากไปไหน
มือแกร่งปล่อยให้มือเล็กเป็นอิสระ นาราเอื้อมมือไปดันไหล่ของคู่หมั้นหนุ่มทันทีที่หลุดจากพันธนาการ ร่างเล็กดิ้นหนีกายแกร่งด้านบนหากแต่มันก็เป็นความพยายามที่สูญเปล่า คลาร์กโถมกายเข้าไปทาบทับนาราเอาไว้พร้อมกับตะโกนออกมาสุดเสียง
“รักฉันมากไม่ใช่เหรอ หนีทำไมเล่า!!!!”
“หยุดเถอะ ได้โปรด ผมไม่ได้ฆ่ารณกรจริง ๆ นะ” นาราพูดเสียงเบาหวิว พวงแก้มอิ่มแดงรื้นจากไอเย็นของสายฝนด้านนอกที่ล่องลอยเข้ามา นาราพยายามขยับหนีให้ห่างจากคนด้านบนแต่ก็โดนร่างสูงกดลงกับที่นอนนิ่ง
“หึ คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ นายมันเลวนารา คนอย่างนายมันก็ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ!” คลาร์กพูดขึ้นพร้อมกับจิกมือลงบนอกข้างซ้ายของนาราอย่างแรงผ่านเนื้อผ้าที่นาราสวมใส่จนเจ้าตัวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!!!”
“รักฉันมากใช่มั้ยนารา รักมากก็ตายเพื่อฉันสิ ตายเหมือนที่กรตาย ควักมันออกมา ควักหัวใจนายออกมา!!!!” เปรี้ยงง!
คลาร์กตะโกนกร้าวเป็นจังหวะเดียวกับท้องฟ้าด้านนอกส่งสายฟ้าฟาดผ่าลงมา มือขาวออกแรกขยี้ตำแหน่งหัวใจของนาราเต็มแรงโดยไม่รู้เลยว่าบัดนี้ผิวกายภายใต้เสื้อผ้าสีสวยแดงรื้นจากแรงที่คลาร์กกระทำ
“อึ่ก คลาร์ก...เจ็บ!”
“ควักมันออกมาสิ!! ไอ้หัวใจเฮงซวยไร้ค่าที่บอกว่ารักฉันนักหนาน่ะ ลองควักมันออกมาให้ฉันดูซิ กล้าฆ่าคนอื่นเพราะรักฉันแล้วกล้าฆ่าตัวเองที่มารักฉันบ้างมั้ยนารา ควักมันออกมา!!!!!” ร่างสูงตะโกนอย่างบ้าคลั่งพลางกดแรงลงไปบนอกซ้ายของคนตัวเล็กอย่างไม่ปราณี นาราจ้องมองคลาร์กด้วยแววตาเจ็บปวด ดวงตาคู่สวยพร่ามัวด้วยม่านน้ำตา
“ฮึก”
“ร้องไห้ทำไม ร้องให้ฉันสงสารงั้นเหรอ! สายไปแล้ว มันสายไปแล้ว ฉันเกลียดนาย!!”
“ฮืออ...อื้อ!!!” ร่างเล็กครางฮือทันทีที่กลีบปากเล็กถูกจู่โจมอีกครั้ง คลาร์กละมือออกจากแผ่นอกบางแล้วเลื่อนไปที่สะโพกสวยก่อนจะออกแรงบีบจนร่างเล็กน้ำตาริน ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างจาบจ้วง กลีบปากอิ่มถูกบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบวมแดงและฉ่ำไปด้วยน้ำ ร่างโปร่งผละออกจากริมฝีปากคู่สวยเมื่อช่วงชิมความหอมหวานจนพอใจก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไปซุกไซร้ซอกคอขาว ฟันคมฝังรอยกัดเอาไว้อย่างรุนแรงจนนาราต้องร้องประท้วง มือเล็กเคลื่อนไปดันไหล่คลาร์กให้ห่างกายแต่ก็สู้แรงคู่หมั้นหนุ่มไม่ได้ สุดท้ายสิ่งเดียวที่ทำได้คือระบายความเจ็บปวดที่ได้รับลงกับแผ่นหลังกว้างของคนด้านบน
“อื้อ...” คนตัวเล็กส่งเสียงครางออกมาเมื่อคลาร์กแตะลิ้นร้อนลงบนรอยกัดตามลำคอ ความเจ็บแสบแล่นขึ้นจนข้อนิ้วเล็กต้องออกแรงจิกลงบนไหล่กว้าง คนด้านบนชะงักทันทีก่อนจะช้อนสายตาขึ้นไปมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของร่างเล็ก และทำให้ดวงตากลมของคลาร์กสบเข้ากับดวงตาวาววับไปด้วยน้ำ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คลาร์กเคลื่อนใบหน้าเข้าหาดวงตาคู่สวย รู้ตัวอีกทีรีมฝีปากของเขาก็จูบซับน้ำตาให้กับร่างเล็กด้านใต้อย่างอ่อนโยนเสียแล้ว เพียงเท่านั้นนาราก็ไม่ออกอาการขัดขืนคลาร์กอีกต่อไป
นาราเพิ่งจะเข้าใจในประโยคที่ว่า ‘ยอมเพราะรัก’ ในวันนี้นี่เอง
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าที่อีกฝ่ายทำไปเพราะอยากให้เขาเจ็บปวด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหลังจากคืนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคลาร์กใช้เขาเป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์และอยากจะทำลาย แต่นาราก็ยังยินยอมเดินลงไปในหลุมที่คลาร์กขุดเอาไว้ หลุมที่เต็มไปด้วยหนามมากมายที่คอยทิ่มแทงร่างเล็กให้ตายทั้งเป็น
“อ๊ะ...คลาร์ก” ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือแกร่งเอื้อมมากระชากเสื้อผ้าอาภรณ์ออกจากร่างจนร่างของนาราเปลือยเปล่า คลาร์กไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ชายหนุ่มก้มลงบดจูบลงบนกลีบปากเล็กอีกครั้งพลางจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองจนตอนนี้สองร่างอยู่ในสภาพที่เท่าเทียมกัน นาราหอบสะท้านออกมาเมื่อร่างกายสัมผัสความเย็นของอากาศและความเย็นจากร่างของคนด้านบน ดวงตาหวานฉ่ำปรือดูยั่วยวนจน คลาร์กจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
ทั้งหงุดหงิด ทั้งเกลียดชัง
“คิดว่าฉันจะทำให้นายมีความสุขงั้นเหรอ” ร่างสูงกระซิบเสียงเย็นพลางเลื่อนมือไปกระชากเรียวขาขาวแล้วแยกออกจากกันก่อนจะแทรกตัวลงไปบดเบียดหน้าท้องแกร่งกับส่วนอ่อนไหวของนารา ชายหนุ่มส่งแรงบีบต้นขาอ่อนอย่างแรงจนเกิดรอยแดงเด่นชัด ลิ้นร้อนลากผ่านลำคอข่าวไปที่แผ่นอกบางก่อนจะหยุดอยู่ที่ยอดอกเล็ก
“อ๊ะ อึ่ก”
“มันจะไม่มีวันนั้นนารา นายจะไม่มีวันมีความสุข”
คลาร์กทิ้งท้ายเพียงประโยคสั้น ๆ ก่อนจะกลายร่างเป็นอสูรร้ายฉีกทึ้งร่างเล็กของนาราจนบอบช้ำตลอดทั้งคืน
ภายหลังพายุที่โหมกระหน่ำมักจะทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้มากมาย คลาร์กเองก็เช่นกัน...ชายหนุ่มนอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้างแผ่นหลังเปลือยเปล่าปรากฏรอยเล็บเป็นทางยาวตั้งแต่ต้นคอจนถึงสะโพกสอบ ที่หัวไหล่แกร่งมีรอยฟันฝังเอาไว้จนห้อเลือดเด่นชัดจนดูน่ากลัว
หากแต่รอยบนร่างแกร่งกำยำก็มีเพียงเท่านั้น ตรงข้ามกับร่างเล็กของนาราอย่างสิ้นเชิง
ร่องรอยบนตัวของร่างสูงนั้นมีเพียงน้อยนิด เทียบไม่ได้กับร่างกายเล็กของนาราที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา รอยช้ำสีกุหลาบและรอยเขี้ยวคมของคู่หมั้นหนุ่มฝากฝังเอาไว้ทั่วลำคอระหงและแผ่นอกบาง ที่แขนทั้งสองข้างและสะโพกขาวปรากฏรอยนิ้วมือทั้งห้าเด่นชัด ดวงตาเรียวเล็กบวมช้ำและแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างยาวนาน กลีบปากเล็กมีเลือดซึมเพราะโดนคนข้างกายกัดอย่างแรง ช่องทางด้านหลังที่ถูกรุกรานเจ็บแสบเพราะความรุนแรงของคลาร์ก และเพราะนาราไม่เคยมีสัมพันธ์กับใคร แต่แม้ร่างกายจะเจ็บจนแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ หากแต่มันก็เทียบไม่ได้กับหัวใจที่ตอนนี้ถูกคลาร์กโยนลงเครื่องปั่นและทำลายจนมันแหลกยับเย็บต่อกันไม่ได้ คำพูดเมื่อคืนที่เขาได้ยินยังคงดังกึกก้องในหัวสมอง ภาพความโหดร้ายทารุณแต่แฝงไปด้วยความหอมหวานยังคงฉายชัดราวกับเดจาวู
รักฉันมากใช่มั้ยนารา รักมากก็ตายเพื่อฉันสิ ตายเหมือนที่กรตาย ควักมันออกมา ควักหัวใจนายออกมา!!!!
ควักมันออกมาสิ!! ไอ้หัวใจเฮงซวยไร้ค่าที่บอกว่ารักฉันนักหนาน่ะ ลองควักมันออกมาให้ฉันดูซิ กล้าฆ่าคนอื่นเพราะรักฉันแล้วกล้าฆ่าตัวเองที่มารักฉันบ้างมั้ยนารา ควักมันออกมา!!!!! “ฮึก....” นาราถอนสะอื้นแผ่วเบา เจ็บหนักทั้งร่างกายและจิตใจ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ากรูกันหลั่งรินออกมาจากดวงตาคู่สวยจนแทบจะแปรเปลี่ยนจากสีใสกลายเป็นสีเลือด นาราจ้องมองร่างที่หลับสนิทเพราะความเหนื่อยล้าก่อนจะค่อย ๆขยับกายลงไปยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความลำบาก
คราแรกที่เท้าเล็กแตะพื้นความเจ็บแปลบก็แล่นจากช่องทางด้านหลังขึ้นสู่ก้านสมอง นาราน้ำตาตกพลางกัดริมฝีปากข่มความเจ็บปวดทั้งหมดและพยุงร่างกายให้ยืนหยัดขึ้นก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องน้ำ
เหนื่อยเหลือเกิน
ถึงเวลาพักแล้วนารา ถึงเวลาที่นายต้องพักเสียที ถึงเวลาที่ต้องหยุดทุกอย่างเสียที
“ฉันขอโทษ...ฮึก ขอโทษ” นาราพึมพำกอดตัวเองใต้สายน้ำเย็นเฉียบ ในยามนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ลุ่มหลงในรักจนเกินไป ยึดติดและจมดิ่งจนพาใครต่อใครมากมายให้เข้ามาเดือดร้อนไปด้วย เฝ้าไล่ตามคลาร์กมาเป็นเวลานานเพื่อหวังให้คู่หมั้นหนุ่มหันมาเห็นเขาบ้างแต่ก็ไร้ประโยชน์ ที่ทำไปทั้งหมดสุดท้ายผลตอบแทนที่ได้ก็คือความร้ายกาจทารุณ
แน่นอน คลาร์กไม่ผิดที่รักนาราไม่ได้ แต่คนที่ผิดคือนาราที่ไม่รู้จักการเสียสละ นาราผูกติดอยู่กับสิ่งสิ่งเดียวนั่นก็คือคลาร์กมาหลายปี แต่สุดท้ายมันก็ล้มเหลว
คลาร์กไม่ได้เกิดมาเพื่อรักเขา และช่างน่าเศร้าที่มีเพียงนาราเท่านั้นที่เกิดมาเพื่อรักคลาร์กเพียงคนเดียว
“เหนื่อยก็พอนะหนูนา เหนื่อยก็พอ นายเจ็บมามากพอแล้ว” ร่างเล็กพึมพำพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบใบมีดโกนที่วางอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ความคมของใบมีดแวววาวสะท้อนแสงไฟ ร่างเล็กมองใบหน้าของตนเองที่ฉายชัดออกมาผ่านใบมีดเล่มนั้นก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้กับการตัดสินใจของตัวเอง
“ผมรักคุณนะคลาร์ก...ฮึก ผมรักคุณ” คนตัวเล็กบอกรักซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับกดใบมีดลงบนท่อนแขนข้างซ้ายอย่างช้า ๆ เพียงใบมีดเฉือนบาดผิวเนื้อเนียนนุ่มเลือดสีแดงข้นก็ไหลทะลักออกมา ความเจ็บปวดในคราแรกแปลเปลี่ยนเป็นความเฉยชา
มันเจ็บจนชินชา
“อึ่ก!...” ดวงตากลมจ้องมองแขนเล็กที่ปรากฏตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกพร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ฮึก เหนื่อยก็พอ...พอ” กลีบปากเล็กพึมพำกับตัวเองพร้อมกับวาดมือที่ถือใบมีดลงไปบนแขนเล็กของตัวเอง จากตัวซีถัดมาก็เป็นตัวแอลที่อยู่ติดกันและอีกหลายต่อหลายตัวที่นารากรีดลงบนแขนเล็ก ๆ ไม่นานลำแขนขาวก็โชกไปด้วยเลือดพร้อมกับรอยแผละเหวอะหวะที่อ่านจับใจความได้ว่า
‘CLARK’ นารายิ้มให้กับผลงานของตัวเอง สายน้ำยังคงหลั่งไหลมาชะล้างน้ำเลือดจากแผลที่นารากระทำ ยิ่งนานไปพื้นห้องน้ำที่เคยเป็นสีขาวสะอาดตาก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นสีแดง นาราจ้องมองชื่อของคู่หมั้นหนุ่มบนแขนของตัวเองชั่วครู่ก่อนจะค่อย ๆ เดินถือใบมีดเล่มเดิมออกไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงของคลาร์ก
ทางด้านร่างสูงเองเมื่อรู้สึกว่าถูกจ้องมองก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับโฟกัสภาพ และเมื่อภาพตรงหน้าฉายชัดชายหนุ่มก็เบิกตากว้าง ผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“นารา นายทำบ้าอะไรวะ!!!!” คลาร์กสบถออกมาเสียงดังก่อนจะถลาเข้าไปหาร่างเปลือยเปล่าที่ยืนมองเขาด้วยแววตาเจ็บปวด แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าไปถึงตัวร่างเล็กก็ก้าวถอยหลังและยกมือขึ้นมาห้ามคลาร์กเอาไว้
“ฮึก...อย่าเข้ามา”
“ปัญญาอ่อนไปแล้วรึไง นายทำบ้าอะไร!!!!” คลาร์กยอมยืนนิ่งจ้องมองร่างเล็กด้วยแววตาอาฆาต ไม่สนว่าตอนนี้เขาทั้งคู่กำลังเปลือยเปล่า สิ่งที่คลาร์กสนคือร่างเล็กที่โชกไปด้วยเลือดของนารามากกว่า
“นี่...ที่นายพูดเมื่อคืน...” ร่างเล็กเค้นเสียงออกมาแผ่วเบาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย แขนข้างซ้ายเองก็ยังคงมีเลือดไหลลงมาและหยดลงบนพื้น
คลาร์กมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
“...”
นารา...
รักเขาขนาดนี้เชียวหรือ?
“เรื่องที่คุณบอกให้ผมควักหัวใจออกให้ดู...ฮึก” นาราพูดต่อ คราวนี้คลาร์กตัวสั่นเทิ้มทันทีที่คู่หมั้นตัวเล็กพูดจบพร้อมกับกำมีดในมือแน่น
หนูนาอย่าทำ
“ฮึก ถ้า...ถ้าผมทำ ฮึก...”
อย่าทำแบบนี้
“ถ้าผมทำจริงๆ ฮึก...คุณจะรักผมมั้ยคลาร์ก ถ้าผมควักหัวใจออกมาให้คุณดูว่าหัวใจของผมมันเต้นเพราะคุณ ฮึก...คุณจะรัก รักผมบ้างมั้ย” นาราพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน คลาร์กยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าไม่ละสายตา ร่างกายหนักอึ้งขอบตาร้อนผ่าว
บางทีถ้าเขารักคนคนนี้
“...”
“รักผมได้มั้ยพี่คลาร์ก ฮึก ฮือ”
ถ้าเขารักนารา ไม่ทำให้นาราเสียใจตั้งแต่แรก เรื่องทุกอย่างจะดำเนินมาถึงตรงนี้รึเปล่า?
“หนูนา...”
“รักกันได้มั้ย” ร่างเล็กเอ่ยถามคลาร์กอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาและทำในสิ่งที่คลาร์กคาดไม่ถึง
“หนูนาอย่า!!!!!!!”
หากการควักหัวใจคือการพิสูจน์ให้คลาร์กได้เห็นว่าเขารักคลาร์กจริง ๆ นาราก็จะทำ นาราไม่ได้โง่ แต่เขาแค่พาตัวเองออกไปจากวังวนนี้ไม่ได้
นาราไม่ได้โง่ แต่เขาแค่รักคลาร์กมากเกินไป
ก็เท่านั้น
หนูนาเป็นเด็กกล้าคิดกล้าทำค่ะ 5555555