หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)  (อ่าน 94830 ครั้ง)

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักจังเลยยย

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
:hao3: สนุกน่ะ เราชอบ

ขอเพิ่มนิดนึ่ง ตอนอัพตอนใหม่ขอให้ลงวันที่ตามหลังด้วยค่ะ จะได้รู้ว่าตอนใหม่หรือเก่า  :mew1:

ขอบคุณที่ชอบนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ขอบคุณก่อน เดี๋ยวมาเม้นท์

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คุณชายคิณ ทำอะไรไม่เป็นเลยสินะ นอกจากทำงาน ฮ่าๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีคินนี้หน้ามึนจริงๆ อิอิ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า 9 เคลียร์?

คิณ(Part)

“เฮ้ย! มาได้เหรอวะมึง กูนึกว่างานทับคอมึงตายไปแล้ว”  เพื่อนผมเองครับมันชื่อชาร์ล เจ้าของผับที่ผมมักจะมานั่งประจำ จนได้เจอกับพายนั่นแหละ

“เออ” ผมตอบมันแค่นั้น ไม่ได้ประหยัดคำพุดอะไรแต่ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมัน

“ได้ข่าวว่ามึงกลับมาจากอเมริกาป็นอาทิตย์แล้ว ทำไมพึ่งโผล่หัวมาว่ะ” ก็จริงครับปกตินี่ผมต้องมาผับมันแทบจะทุกอาทิตย์ ถ้าไม่ติดงานที่ต้องเดินทางไกลๆ

“แม่ง! สาวๆ ถามหามึงจนกูรำคาญแทน โดยเฉพาะยัยน้องปิ๊งของมึงนี่มาแทบจะทุกวัน วันนี้ก็มานะเว้ย  นั่งอยู่ตรงนู้นไง”  ผมไม่ได้อยากเจอเลยห่านเอ้ย

“มึงไม่ต้องเสือกไปบอกน่ะว่ากูมา กูไม่อยากเจอใครทั้งนั้น” 

“วันนี้มาแปลกว่ะมึง กินอะไรผิดสำแดงรึเปล่าว่ะ” จะสงสัยห่าอะไร ก็ผมมีคนที่กำลังจีบอยู่ถ้ายุ่งกับผู้หญิงพวกนี้เหรอ มีหวังความรักของผมพังทะลายตั้งแต่ยังไม่เริ่มแน่นอน

“แต่ไม่ทันแล้วว่ะ กูบอกน้องเขาไปแล้วว่ามึงอยู่ข้างบน”  ไอ้เพื่อนเวร งานจะเข้าผมแล้วไหมล่ะ

“ยุ่งยากฉิบหายแน่กูงานนี้ กูจะไม่ยุ่งกับพวกผู้หญิงแบบนี้อีกแล้วเว้ย” จังหวะเดียวกันกับที่ไอ้ขุนพลเพื่อนอีกคนเดินเข้ามาพอดี

“อะไรว่ะ กูฟังอะไรผิดรึเปล่า มึงจะถอดเขี้ยวเล็บแล้วเหรอวะ น่าเสียใจแทนพวกสาวๆ จริงๆ เลย”  มันเอ่ยแทรกขัดการสนทนาของผมสองคนครับ

“เรื่องของกู” ผมหงุดหงิดหน่อยๆ ที่เพื่อนผมดันมาพูดจาแบบนี้

“หงุดหงิดไรว่ะมึง น้ำไม่ออกรึไง” ไอ้ชาร์ลปากดีอีกแล้วครับ อันนี้มันก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกเรื่องคือผมอยากจะสลัดพวกผู้หญิงในสต๊อคออกให้หมด คนอื่นให้เงินไปนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่มาวุ่นวายอีก แต่ยัยน้องปิ๊งนี่แหละยากที่สุด

“มึงมีแฟนแล้วเหรอว่ะ” เป็นที่รู้กันดีครับวาพวกผมน่ะเจ้าชู้ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายผมได้หมด ถ้าผู้ชายก็ต้องตัวเล็กๆ น่ารักๆ น่ะครับ ถ้าหล่อถึกมานี่ก็ไม่เอา เพราะผมยังไม่อยากเป็นเมียใคร

“กำลังจีบ”

“เล่ามาเลยมึง ปิดเพื่อนรักอย่างพวกกูได้ไงว่ะ” ไอ้ขุนพลมันคะยั้นคะยอผมไม่เลิกครับ งานเสือกมาเต็ม

“มึงจำคนที่กูเจอที่ผับวันนั้นได้ไหมว่ะ” ผมถามพวกมันก่อนที่จะเล่าให้มันฟัง

“คนไหนว่ะ หรือว่าผู้ชายที่มึงนั่งจ้องเขาไม่กระพริบน่ะเหรอ” ไอ้ชาร์ลมันฉลาดครับ ชอบสังเกตุคนนั้นคนนี้  มันรู้หลายอย่างแต่ไม่ค่อยพูด

“ใครวะมึง” ไอ้ขุนพลเลยโดนไอ้ชาร์ลเบิ๊ดกะโหลกไปที ก่อนที่มันจะอธิบายให้กันฟังว่าคนไหน

ผมเล่าตั้งแต่เรื่องราวก่อนหน้านั้นให้มันฟัง จนวันที่มาเจอพายที่ผับ แล้วเราสองคนก็มีอะไรกัน เพราะไอ้พวกสารเลวมันวางยาปลุกให้พายกิน คิดแล้วก็แค้น ถ้าผมเข้าไปช่วยพายออกมาไม่ทัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะเป็นยังไงตอนนี้

“มึงเลยต้องจีบเมียตัวเอง ทั้งๆ ที่ได้กันแล้วว่างั้น”  ดูไอ้ชาร์ลมันถามครับ

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ในเมื่อกูรักเขานี่หว่า”

“คนนี้ตัวจริงว่างั้น”   มันสลับกันถามผมเป็นลูกคู่เลยครับ ไม่ปล่อยให้ผมได้มีเวลาหายใจหายคอเลย

“เออ” รู้สึกว่าอยากจะมีส่วนร่วมกับชีวิตของผมจริงๆ เลยไอ้สองตัวเนี่ย

“แต่เด็กนั่นเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอไงว่ะ แล้วคุณแม่จอมโหดของมึงไม่ว่าอะไรรึไง”

“เรื่องแม่กูไม่ห่วงหรอก กูกลัวแต่พวกผู้หญิงทั้งหลายของมันนี่แหละ” ไอ้ชาร์ลครับมันพูดจนผมเริ่มจะกังวลแล้ว

“นั่น พูดถึงก็มาเลยมึง คนนี้แหละน่ากลัวสุด” คราวนี้ไอ้ขุนพลมันพูดขึ้น

ร่างบางเดินนวยนาตเข้ามาหาผมเลยครับ ชุดแซกสีดำรัดจนส่วนที่ควรจะปกปิดกลับล้นทะลักออกมา  กระโปรงนี่สั้นจนก้าวขาแต่ละทีแทบจะเห็นหมด ทำไมผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น หรือมีอารมณ์เหมือนทุกครั้งที่ผมเห็น  แต่คราวนี้กลับตรงข้ามทุกอย่าง  น้ำหอมกลิ่นเดิมที่ผมเคยรู้สึกหลงไหล มันกับฉุนเกินไปในความคิดของผม

“พี่คิณค่ะ หายไปไหนมาไม่มาหาปิ๊งบ้างเลย” ผมยอมรับครับว่าในบรรดาผู้หญิงของผมทั้งหมดปิ๊งนี่เป็นงาน แล้วก็เอาใจเก่งที่สุด รู้ว่าผมชอบอะไรยังไง เธอจึงเป็นคู่ควงที่ผมควงนานที่สุดเท่าทีมีเลย

“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะปิ๊ง” ในเมื่อเจอกันแล้วก็พูดเลยแล้วกัน ผมเข้าเรื่องเลยครับ ไม่อยากให้ยืดเยื้อ

“ให้พวกกูออกไปก่อนไหมว่ะ” เพื่อนผมทั้งสองคนทำท่าจะลุกไปแล้ว

“พวกพี่ๆ ไม่เห็นต้องไปไหนเลยนี่คะ ปกติก็อยูด้วยกัน” ปิ๊งยังคงยิ้มโปรยเสน่หให้กับพวกเพื่อนๆ ผม แต่พวกเราไม่เคยยุ่งผู้หญิงของคนอื่น เพื่อนผมเลยไม่มีใครสนใจในตัวเธอเลยสักคน

“แต่ฉันอยากคุยกับปิ๊ง”

“ไม่เป็นไรนี่ค่ะ พวกพี่ๆ ไม่มีความลับกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ในเมื่อปิ๊งบอกอย่างนั้น ไอ้ตัวเสือกสองคนเลยนั่งลงที่เดิมครับ

“เธอพูดเองนะ”

“พี่คิณมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” ร่างบางขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับโอบรอบคอเขาอย่างยั่วยวน

“นั่งดีๆ เถอะปิ๊ง ฉันซีเรียส”  ผมผลักร่างบางของปิ๊งให้ขยับลงไปนั่งเก้าอี้อีกตัว รู้สึกรำคาญเสียงแว๊ดๆ ของเธอขึ้นมาทันที

“เราเลิกติดต่อกันเถอะ” ผมเป็นคนตรงครับ ก่อนที่เราจะมีความสัมพันธ์แบบนี้ผมได้ตกลงกับเธอไว้แล้วครับ

“หมายความว่ายังไงค่ะพี่คิณ” ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ทั้งเธอแล้วก็ผมเรารู้ดีครับว่ามันจะจบแบบไหน แต่เธอทำเหมือนว่าเราไม่เคยคุยกันมาก่อน ความสัมพันธ์ของเรามันก็แค่เซ็ก

“มันเข้าใจยากตรงไหนครับ ก็แค่ผมมีคนที่จะจริงจังด้วยแล้ว” อันนี้คือตรงสุดๆ แล้วนะถ้ายังไม่เข้าใจนี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

“แต่พี่คิณไม่เคยบอกปิ๊งเลยนี่ค่ะ ว่ามีแฟนแล้ว”

“ยังไม่ใช่แฟนครับ แต่ตอนนี้กำลังจีบอยู่ แต่อีกไม่นานหรอก”  คนตรงหน้าผมแสร้งทำหน้าเศร้าเรียกร้องความสงสารจากผม แต่ผมผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะครับรู้ว่าอันไหนคือความจริง เรื่องไหนคือแสร้งทำ

“พี่คิณยังไม่ได้เป็นแฟนเธอ ก็คบกับปิ๊งต่อสิคะ เมื่อไหร่ที่เธอตกลงเป็นแฟนกันแล้วปิ๊งก็จะไม่รั้งพี่คิณไว้เลย” คำพูดออดอ้อนที่ผมไม่เคยคิดว่ามันมาจากใจจริงของเธอ ผมไม่เชื่อหรอก ถ้าผมไม่เลิกตอนนี้รับรองพอถึงเวลานั้น เธอก็ต้องหาข้ออ้างใหม่มาอีก ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีที่สุดครับ

“ไม่ครับ เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้ว” ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวครับผมรู้ แต่ตอนนั้นมันก็แค่เรื่องสนุกท้าทายสำหรับผู้ชายอย่างผม

“พี่คิณอย่าทำอย่างนี้กับปิ๊งเลยนะคะ เราแอบคบกันก็ได้  ปิ๊งไม่บอกเรื่องนี้กับคนนั้นของพี่คิณหรอกค่ะ ปิ้ง ฮือ...ฮึก รักพี่คิณนะคะ” เสียงเจือสะอื้นของเธออาจทำให้คนที่ไม่ได้รู้จักเธอดีสงสารจับใจ แต่สำหรับผมมันช่างน่าสมเพชครับ

“เธอแน่ใจเหรอปิ๊งว่าสิ่งที่เธอพูดมันออกมาจากใจ” จะว่าผมใจร้ายก็ได้นะ แต่สำหรับผมเมื่อเจอคนที่ใช่แล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด

“ทำไมพี่คิณพูดแบบนี้”  ตาคู่สวยแดงก่ำจากการร้องให้

“เธอไม่ได้มีฉันคนเดียว เหมือนกับที่ฉันก็ไม่ได้มีเธอคนเดียว”

“พี่คิณอย่ามาดูถูกปิ๊งนะคะ” สีหน้าเธอดูเหมือนตกใจครับแต่ก็เพียงแค่แว๊บเดียว ก่อนที่เธอจะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไร ผมพูดเรื่องจริงทุกอย่างครับ ผมรู้เพียงแต่ไม่เคยคิดจะเอามันมาพูด เพราะมันยังไม่ถึงเวลา

“ฉันไม่อยากเอาเรื่องนี้มาพูดนะปิ๊ง เราควรจะจบกันด้วยดี แต่ถ้าไม่เธอก็น่าจะรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร”

“ไม่เอา ปิ๊งไม่ยอม” เธอพยายามเบียดอกตู้มๆ เข้าหาผม  แต่ผมขยับออกก่อนที่เธอจะโดนตัวผม

“เราเคยตกลงกันแล้วนะ” ผมเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว

“ตอนนั้นปิ๊งก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่คิณเลยยอมตกลง แต่ตอนนี้ปิ๊งรักพี่คิณจริงๆ นะคะ”  ถ้ายังเป็นอย่างนี้เรื่องคงยืดเยื้อมากกว่านี้แน่ เพื่อนผมทั้งสองคนที่นั่งดูสถานการณ์ก็ได้แต่เงียบ ผมอยากให้มันสองคนเสือกบ้าง มันกลับพากันนั่งฟังอย่างสงบเงี่ยม ไม่คิดจะช่วยกันพูดเลยใช่ไหม

“แต่ฉันมีหลักฐานทุกอย่าง เธออยากเลิกกับฉันดีๆ แล้วได้เงินไปก้อนหนึ่ง หรือต้องการให้ฉันเอาภาพพวกนั้นมาประจานเธอทีหลัง”

ผมพูดจริงครับ ผมมีภาพทั้งหมดของเธอกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากผม ผมยอมรับว่าเจ้าชู้มาก ก่อนที่จะเจอกับพาย ผมเลยป้องกันตัวเองทุกอย่าง เผื่อวันที่พวกเธอกลับมาเรียกร้องอะไรในสิ่งที่นอกเหนือจากข้อตกลงของเราผมจะได้ไม่โดนพวกเธอจับกินโดยไม่มีทางสู้ คิดจะเจ้าชู้ก็ต้องฉลาดพอที่จะไม่ผูกปมเชือกให้แน่นจนคลายไม่ออกครับ

ปิ๊งไม่ได้รักผมหรอก แต่เพราะผมให้ในสิ่งที่ผู้ชายหลายคนของเธอให้ไม่ได้  เธออยากได้อะไร ผมให้เกือบทุกอย่าง ถ้าไม่เรียกร้องเกินพอดี ผมจึงเป็นถังข้าวสารชั้นดีที่เธอพร้อมที่จะตกลงไปตลอดเวลาถ้าผมพลาด

การที่ผมจะคบกับผู้หญิงแต่ละคนผมสืบประวัติมาอย่างดี ว่าแต่ละคนมีภูมิหลังยังไง คบใครอยู่รึเปล่า ยิ่งผู้หญิงร้ายๆ อย่างปิ๊งนี่ต้องรู้จักให้ถ่องแท้ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ปิ๊งเงียบไปนานเหมือนใช้ความคิดครับ ผมรู้ว่าเธอกำลังคิดหนัก ว่าจะยอมทู่ซี้ขอคบกับผมต่อ หรือยอมรับเงินก้อนนั้นไปแล้วจบกันตอนนี้

“คิดให้ดีนะปิ๊ง ถ้ายอมเลิกตอนนี้เธอก็ได้เงินก้อนหนึ่ง พร้อมกับเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ถ้าไม่เธออาจจะไม่ได้อะไรเลย” เป็นไอ้ชาร์ลครับที่พูดขึ้น เพื่อกระตุ้นความรู้สึกของคนที่ลังเลอยู่ตอนนี้

“ก้ได้ค่ะปิ๊งจะเลิก” ผมยื่นเช็คจำนวนเงินตัวเลขเจ็ดหลักให้กับเธอไป ผมให้เธอค่อนข้างเยอะ เพราะผมติดต่อกับเธอมากกว่าคนอื่นๆ จบเรื่องปิ๊งแล้ว คนอื่นๆ ก็น่าจะง่าย  เพราะผู้หญิงพวกนั้นจะไม่ค่อยเข้ามาวุ่นวายกับผมมากนัก นอกจากเวลาที่ผมต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจึงเรียกใช้บริการพวกเธอบ้าง ตามประสาหนุ่มโสดครับ

เธอลุกเดินออกไปจากห้องแล้วครับ เหลือแต่พวกผมสามคน ทั้งไอ้ขุนพลและไอ้ชาร์ลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พร้อมกับความโล่งใจของผม ที่อย่างน้อยก็แก้ปัญหาไปได้อีกเรื่อง ผู้ชายเจ้าชู้นี่เวลาจะจริงจังกับใครแล้วต้องมานั่งบอกเลิกทีล่ะคนนี่ช่างน่าเอือมระอาจริงๆ ครับ ผมรู้ซึ้งดีเลยครับตอนนี้

“ไอ้ห่ากูนึกว่าจะไม่จบ” ไอ้ขุนพลที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยขึ้น  ผมอยากจะถวายบาทาให้มันจริงๆ เลยครับ ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นพูดดี
 
“ง่ายกว่าที่คิด” ลูกคู่มันตอบรับกันอีกแล้ว

“จ่ายไปเท่าไหร่ว่ะ”

“หลักล้านแต่ก็คุ้มถ้าไม่มายุ่งกับกูอีก” จริงๆ ครับ ผมไม่เสียดายหรอกเงินแค่นั้น ไม่ใช่ว่ารวยอะไรมากมายหรอก แต่ผมไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายกับพาย จึงยอมจ่ายเยอะๆ เพื่อแลกกับการที่พายจะไม่โดนผู้หญิงพวกนั้นรังควาญ ขอให้เธอเลิกวุ่นวายกับผมจริงๆ เถอะ เพราะสายตาผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างน่ากลัวเลยในความคิดของผม

“กูอยากจะรู้จักน้องพายคนดีของมึงจริงๆเลยว่ะ ที่สามารถทำให้เสืออย่างมึงถอดเขี้ยวเล็บได้”

“เดี๋ยวก็ได้เจอถ้าเขาตกลงเป็นแฟนกับกู”  ผมต้องพามาให้พวกมันรู้จักแน่นอน จะได้รู้ว่าพายของผมน่ารักขนาดไหน

“เออกูจะคอยต้อนรับเพื่อนสะใภ้ หรือเพื่อนเขยว่ะ” ถ้าน้ำหน้าอย่างผมเป็นเมียพายนี่พระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว

“กวนแล้วมึง แค่กูคิดก็ขนลุกแล้วไอ้เชี่ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ” มันสองคนประสานเสียงกันครับ ตลกสัด

“แล้วเมื่อไหร่กูจะได้เจอตัวจริงแบบมึงบ้างว่ะ”  ไอ้ขุนพลมันพร่ำเพ้อไปเรื่อย

“ส่วนกูไม่ต้องการว่ะ สนุกไปวันๆ แบบนี้แหละดีแล้ว น้ำแตกแล้วแยกทาง”  ไอ้ชาร์ลนี่เจ้าชู้ขั้นเทพนะครับ ได้หญิงไม่ซ้ำหน้ายิ่งมันเปิดผับแบบนี้อีก ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเข้าหาเพียบ

ผมว่าพวกมันแค่ยังไม่เจอใครที่ทำให้รู้สึกแบบผม มันเลยพูดแบบนี้ เพราะผมก็เคยมีความคิดแบบไอ้ชาร์ลเหมือนกัน คิดว่ามันโคตรอิสระ ไม่ต้องมาคอยวิ่งตามใคร  ไม่ต้องคอยเอาใจใคร แต่พอเจอคนนั้นเข้าจริงๆ ให้ทำมากกว่านี้ก็ยอมว่ะครับ แค่เขารักผมตอบก็พอ

“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”

“กูคงจะบอกเลิกให้หมดว่ะ อยากเคลียร์ตัวเองก่อนที่พายจะรับรักกู” ผมไม่อยากให้พายต้องมาคอยไม่สบายใจกับเรื่องพวกนี้หรอก เขาจะต้องเป้นคนที่มีความสุขที่สุดถ้าเราได้เป็นแฟนกัน

“มั่นใจว่าเขาจะรักมึง” กวนตีนครับเพื่อน

“รับไม่รับเดี๋ยวอีกไม่นานมึงก็รู้” ผมไม่ได้มั่นใจอะไรขนาดนั้น แต่ผมดูจากท่าทางที่พายก็ไม่ได้ดูรังเกียจผมเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ออกจะดูอายๆ ด้วยซ้ำ มันน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ของเรา

“เออกูจะรอดู” พวกผมคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยครับ พวกมันวกเข้ามาถามผมเรื่องพายในบางครั้ง ผมตอบมันบ้างบางครั้ง กว่าผมจะได้กลับก็ล่วงเลยเข้าเช้าวันใหม่ เลยไม่ได้โทรไปกวนพายเลยครับ

*******************************



             TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2016 19:05:11 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
เพอร์เๆคมากกกก เคลียร์ตัวเองงง อยากเห็นตอนคู่นี้หึงกันเดั อยากเห็นที่สุดตอนกล้วเมียอีกช้อต

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่คิณจะดีแตกไหมเนี่ยะ

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ดีมากเคีรย์ให้สะอาดก่อนนะค่อยมาคบกับพาบ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
รออ่านต่อจ้า  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชอบมากกกกก
มาต่อเร็วน้าาาาาา  :katai4:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 o18 ลองไม่เคลียร์ดิ มีดปาดเค็กก็แทงคนได้น่ะพี่คิณ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ s.mosis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
สนุกดี มาต่อไวๆ นะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด
[/size]

พาย(Part)

“รับอะไรดีครับ” ผมออกมาช่วยน้องๆ เสริฟครับเพราะวันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ

ชายหนุ่มสามคนที่ดูไม่เข้ากับร้านเค้กเล็กๆ ของผมกำลังอ่านเมนูอย่างสนใจ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มบางๆ ให้กับผม

“อเมริกาโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” อีกสองคนก็สั่งไม่ต่างกัน มีเพียงเครื่องดื่ม ส่วนเค้กหรือคุ้กกี้ พวกเขาคงไม่พิศมัยที่จะทานมันมั้ง

“อเมริกาโน่สามที่นะครับ” ผมทวนเมนูอีกครั้งก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกมา ชายคนเดิมกลับเรียกผมไว้

“สั่งเค้กด้วยครับ มีเมนูไหนแนะนำบ้างครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนกับสายตาที่แพรวพราวนี่มันอะไรกัน

“ถ้าเมนูประจำร้านก็ช็อคหน้านิ่ม กับช็อคโกแลตลาวาครับ ไม่ทราบว่าทานหวานไหมครับ” ผมไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตๆ แบบนี้จะชอบทานหวานหรอกครับ ดูอย่างคุณคิณสิไม่แตะสักคำ

“ผมชอบหวานๆ ครับ งั้นเอาตามที่แนะนำเลยครับ แล้วพวกมึงเอาไหม” เพื่อนทั้งสองคนของเค้าไม่ทานครับ

ท่าทางเขาดูตรงข้ามกับหน้าตานะครับ ดูแค่ภายนอกเหมือนน่าจะเป็นคนขรึมๆ แต่ไม่ใช่ เค้ายิ้มเก่ง แล้วก็ท่าทางใจดีอีก
ผมนำเครื่องดื่มมาเสริฟให้ทั้งสามคน ได้ยินเพื่อนเขาเรียกชื่อชายคนนั้น เขาชื่อทิม ส่วนอีกสองคนชื่อกันต์ กับ กิม เขาสอบถามผมหลายเรื่องจนผมต้องนั่งลงคุยกับคุณทิมครับ ตอนแรกก็รู้สึกอึดอัด แต่ในเมื่อเป็นลูกค้าผมจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

คุยกันสักพักผมก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงมาบ้างครับ เราคุยกันค่อนข้างถูกคอ เหมือนเจอเพื่อนที่รู้ใจเลย เขามีหลายๆ อย่างที่ชอบเหมือนผม ชอบทำอาหาร ทำเค้ก

“น้องพายเรียนทำเค้กที่ไหนเหรอครับ” เขาขออนุญาตเรียกผมแบบนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธเลยปล่อยให้เขาเรียก

“เรียนที่XX ครับ” ผมบอกสถานที่ๆ เรียนกับพี่ทิม สถานที่ๆ ผมเรียนเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อปในแถบเอเชียครับ เปิดสอนครบวงจรทั้งอาหารไทย อาหารต่างชาติ รวมทั้งเบเกอรี่ด้วย

“บังเอิญจังเลยครับน้องพาย สถาบันXX คือของที่บ้านพี่เอง” พี่ทิมบอกออกมา สร้างความตกใจให้กับผมเป็นอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้

“จริงเหรอครับ พายไม่คิดเลยว่าพี่ทิมจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้” ผมตื่นเต้นมากเลยครับ ที่ได้เจอคนเก่งๆ ที่เป็นเหมือนอาจารย์ของผม

“ถ้าอย่างนั้นพี่ทิมก็เป็นคนคิดสูตรเค้กต่างๆ สิครับ”  ผมถามออกไปอย่างตื่นเต้น

“ก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ไอ้กันต์กับไอ้กิมก็มีส่วนช่วยเยอะ” ผมหันไปถามพวกพี่ๆ อีกสองคนบ้างจึงทราบว่าพี่กันต์เป็นเชฟอาหารอิตาเลี่ยน พี่กิมนี่สอนอาหารไทยล้วนๆ แต่พวกพี่เขาสามารถทำเบเกอรี่ได้ทุกคน แต่พี่ทิมนี่ชำนาญสุดครับ ผู้ชายทำอาหารเก่งๆ นี่สุดยอดมากเลยนะครับในความคิดของผม

พี่ทิมขอเบอร์ผม ผมก็ให้ไปครับเพราะคิดว่าไม่เสียหายอะไร ดีเสียอีกถ้ามีปัญหาอะไรจะได้โทรไปถามเขาเลย เป็นประโยชน์กับร้านอย่างมากเลยงานนี้ มีแต่ได้กับได้ อิอิ

พี่ทิมเป็นคนคุยเก่ง ยิ้มเก่งเหมือนคุณคิณเลย  แต่รายนั้นจะยิ้มเจ้าเล่ห์เสียมากกว่า ส่วนเพื่อนพี่เขาอีกสองคนก็คุยโต้ตอบบ้างในบางครั้ง

“แล้วพี่สามคนคงไม่ได้มาทานเค้กอย่างเดียวใช่ไหมครับ”

“รู้ทันซะงั้น ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะมาทานหรอก แค่เห็นคนพูดว่าเค้กร้านนี้อร่อยเลยมาลอง” พี่ทิมพูดยิ้มๆ

“แล้วเป็นไงบ้างครับใช้ได้รึเปล่า”

“ยิ่งกว่าใช้ได้อีกครับ อร่อยกว่าสูตรของสถาบันอีก” พี่กันต์พูดหลังจากที่ลองชิมไปบ้างแล้ว เพราะพี่ทิมบังคับ

“ไม่จริงมั้งครับ เจ้าของสูตรต้องทำอร่อยกว่าอยู่แล้ว” ผมไม่อยากเชื่อหรอกว่าจะอร่อยกว่า เขาอาจจะแค่พูดเอาใจผมก็ได้

“จริงครับ พายเอามาปรับสูตรได้ลงตัวมาก กลมกล่อม ไม่ขม แล้วก็ไม่หวานเลี่ยนเกินไป” พี่ทิมชมจนผมเขิน ไม่คิดว่ามันจะอร่อยขนาดนั้น

“พี่ว่าจะมาขโมยสูตรสักหน่อย” พี่กิมแซวผมยิ้มๆ

ผมคุยกับพวกพี่เขาอีกสักพัก ก่อนที่จะขอตัวไปดูลูกค้า แล้วก็ทำเค้กเพิ่ม ดูท่าทางน่าจะหมดในอีกไม่ช้า ต้องทำมาเติมก่อน เดี๋ยวลูกค้ารอนาน

“พี่พาย” น้องบราวเรียกผมไว้ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในครัว

“ว่าไง”  ยิ้มบางๆ ของผมถูกส่งให้น้องชาย

“คุณคิณมาครับ” มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่เห็น

“แล้วเขาอยู่ไหน” ผมมองไปรอบๆ ร้านก็ไม่เห็นใครอีกคนที่น้องชายผมบอก

“กลับไปเมื่อกี้นี้ฮะ” ทำไมกลับ พึ่งมาไม่ใช่เหรอ

“...........”

“คุณคิณเห็นพี่พายนั่งอยู่กับลูกค้า คงน้อยใจ....เลยกลับไปแล้ว” งง? สมองเออเร่ออีกแล้วครับ ทำไมต้องน้อยใจ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“น้อยใจเรื่องอะไร”  แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็อยากรู้ ไม่อยากให้มันคาราคาซังแบบนี้

“ไม่รู้สิฮะ พี่พายคงต้องถามคุณคิณเองแล้วหละ”

“ก็เขากลับไปแล้ว จะให้ถามใครที่ไหนล่ะ” คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่ไหม

“เบอร์โทรมีไว้ทำไมฮะ” ผมต้องโทรหาคุณคิณเหรอ โทรทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย น้อยใจเรื่องอะไรก็ช่างเขาสิ ผมไม่ผิด เขาไม่มีเหตุผลเอง

“ทำไมพี่ต้องโทร”

“ตามใจฮะ ไม่โทรก้ไม่โทร” บราวนี่พูดแค่นั้นก่อนที่จะหันไปทำงานของตนเองต่อ ส่วนผมก็กลับไปทำขนมในครัว มือผมทำงานตาจ้องที่เค้กปอนด์ใหญ่ แต่ใจกำลังคิดไปถึงใครอีกคน ผมต้องบ้าไปแล้ว คิดถึงเขาทำไม

*****************************

คิณ(Part)

ผมเดินตรงเข้ามาในร้านเค้ก ที่ช่วงนี้ผมมาบ่อยจนเป็นที่ชินตากับพนักงานในร้านรวมทั้งบราวนี่น้องชายคนเล็กของพายด้วย
ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่มีเวลาว่างพอที่จะเข้ามา แต่เคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด เลยตรงดิ่งมายังสถานที่ๆ คุ้นเคย ที่จริงผมก็อยากมานั่งทำงานที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่กลัวว่าพายอาจจะรำคาญ ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเห็นหน้าเขาตลอดเวลาด้วยซ้ำ

สายตาผมเหลือบไปเห็นคนที่เฝ้าคิดถึงกำลังยิ้มเต็มดวงหน้าอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะอีกสามคน ผมสะดุดตากับคนที่นั่งถัดจากพายทางฝั่งซ้ายมือจริงๆ สายตาที่เขามองพายทำให้ผมใจกระตุกไปที ก่อนที่ผมจะพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านจวนเจียนจะระเบิด

ผมรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินเข้าไปทำอย่างที่ใจคิด ผมยืนมองอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่อยากจะก้าวเข้าไปขัดบทสนทนาของคนตัวเล็ก แต่ขามันกลับยังอยู่ที่เดิม น้องบราวกำลังอ้าปากจะทักทายผม แต่ผมยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน

 ‘ผมเจ็บว่ะ’
 เขายิ้มให้คนอื่น แต่กับผมไม่เคยเลยสักครั้ง  เขายิ้มหัวเราะจนตาแทบจะปิด ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถึงทำให้พายยิ้มอย่างมีความสุขได้ขนาดนี้ ผมยังพอจะมีหวังอยู่ไหมครับ  แต่จะให้ผมถอยก็คงจะทำไม่ได้เหมือนกัน ผมรักของผมไปแล้วนี่ครับ 

เขาคงไม่สังเกตุเห็นผม ผมหันหลังกลับออกไปโดยไม่ได้บอกใคร แค่หันไปยิ้มบางๆ ให้กับน้องบราวอย่างฝืนใจ อยากจะนั่งรอในร้านต่อแต่ขาก็ก้าวออกมาแล้วครับ

รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะพ่ายแพ้ว่ะ ความรู้สึกมันช็อคไปชั่วขณะ ใครจะว่าผมป๊อดก็ช่างแต่ผมไม่กล้าครับ ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปถาม กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะสำคัญกว่าผม ทั้งๆ ที่ผมพยายามมาตลอด ขอตั้งหลักก่อนครับ

ผมขับรถกลับบ้านด้วยความว่างเปล่า  กลัวสารพัด  ใจผมให้พายไปหมดแล้ว ไม่ได้มีเหลือเผื่อความผิดหวังเลยสักนิด  ในสมองคิดแต่ว่าพายเป็นของผมคนเดียว

เดินเข้าบ้านอย่างงงๆ แม่ผมเรียกผมยังแค่ขานรับ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป อาบน้ำให้สมองโล่งครับเผื่อจะดีขึ้น เลิกบ้าบอสักที อยากสลัดภาพของพายที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับผู้ชายอีกคนแต่ก็ทำไม่ได้ ผมจะบ้าไหมครับ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ผมกลับเหมือนจะตายว่ะ

เอางานออกมาทำฆ่าเวลา ระงับความฟุ้งซ่านของตนเอง  อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว ไม่รู้ว่าที่เขียนมาขออนุมัติเรื่องอะไร แค่เอาแฟ้มมาวางไว้ตรงหน้า เหมือนกับว่าผมจะเข้าใจทุกอย่างแต่มันไม่ใช่ อยากจะยกโทรศัพท์โทรหาพาย แต่คราวนี้กลับไม่กล้า ทั้งๆ ที่ทุกทีหน้าด้าน
 อาจจะเพราะตอนนั้นยังไม่มีคู่แข่ง ผมอยากทำบ้าบออะไรก็ทำไปตามใจตัวเอง แต่พอเห็นคนๆนั้นที่ดูท่าทางเพียบพร้อมจนผมกลัวว่าพายจะชอบ ผมไม่ได้ยอมแพ้นะครับ แต่ขอตั้งหลักก่อนจะไปสู้กับคู่แข่ง

โทรศัพท์เครื่องหรูที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงแผดเสียงดังขึ้น ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ ก่อนที่ผมจะหยิบมันขึ้นมารับสายโดยไม่มีแก่ใจที่จะดูว่าใครเป็นคนโทรมา

“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสาย

“ทำไมรีบกลับ” ผมงงกับคำถามของคนที่โทรมา ก่อนที่จะดูว่าใคร ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะโทรหาผมก่อน ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่พายจะโทรหาผม

“.......” เงียบ

“.......” เขาก็เงียบ ต่างคนต่างไม่เอ่ยคำใดๆ ออกมา

“ถามว่าทำไมรีบกลับ” เสียงหวานค่อนข้างจะห้วนกรอกมาตามสาย

“เปล่า” ผมตอบบ้าอะไรไปครับ ไปไม่เป็นครับงานนี้  ไอ้คิณแพ้ราบคาบ ดีใจจนแทบบ้า ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทียังเสียใจจนแทบบ้าเหมือนกัน

“เปล่าอะไรครับ” อย่าโหดได้ไหมครับ ยังไม่พร้อมที่จะกลัวเมียนะเว้ย

“พอดีนึกได้ว่ามีธุระ”

“แน่ใจนะครับ” เหมือนเมียจับผิดผัวเลยครับ  ทำไมผมต้องกลัวด้วยไม่เข้าใจตัวเอง

“นะ...แน่” เห้ย! ผมจะเสียงสั่นทำไม

“ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น บอกผมมาว่าทำไมไปหา แล้วไม่รอเจอ” ขอประตูข้ามมิติของโดเรมอนชั่วคราวครับ

“ก็แค่งี่เง่า” ผมตอบเสียงแผ่วเลยครับคราวนี้ ไม่เหลือมาดเลยไอ้คิณ     อนาคตนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะกุมอำนาจ แค่คิดก็เห็นหน้าแม่กับแด๊ดลอยมาเลย

“งี่เง่า? เรื่องอะไร” ต้องตอบยังไงว่ะ ก็คนมันหึงทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่เรียกว่างี่เง่าถูกไหม

“ผมบ้าไปเองครับ หึงที่พายอยู่กับผู้ชายคนนั้น”  ไม่มีคำแก้ตัว ก็พูดมันไปตามความจริงนี่แหละ จะว่ายังไงก็ช่างเขา

“เขาเป็นลูกค้า”  ลูกค้าอะไรสายตานี่ราวกับจะจับกิน สายตาเขามันเหมือนกับสายตาที่ผมมองพายแรกๆ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้แค่อยากกินครับ อยากครอบครองทั้งตัวแล้วก็หัวใจเลย

“ไม่รู้มันหึงไปแล้วไง งี่เง่าบ้าบอทุกอย่างนั่นแหละ” พูดเองก็เขินเองครับงานนี้

“ก็เลยหนีกลับออกมาก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีงานด่วน” นี่ก็จับผิดจัง ทำตัวยังกับเป็นเครื่องจับเท็จอย่างนั้นแหละ

“ครับ”

“เป็นเด็กรึไงครับ” ดูเขาว่าผมครับ คนยิ่งน้อยใจอยู่ไม่คิดจะง้อเลยใช่ไหม

“แล้วจะให้ทำไง ในเมื่อผมเห็นพายนั่งยิ้มให้เขา แบบที่ไม่เคยทำกับผม คุยกับเขาดูสนิทสนมกว่าที่คุยกับผมซะอีก ทั้งๆ ที่ผมอยากเข้าไปตะบันหน้ามันซักหมัด แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์” เสียงอ่อยครับ ส่วนหนึ่งก็เรียกร้องควมสงสารจากพาย แต่มันก็ตรงกับความรู้สึกของผมที่สุดแล้ว

“รู้ได้ไงว่าสนิทกว่า คิดไปเอง” หมายความว่ายังไงว่ะ บทจะโง่นี่ก็โง่บรรลัยสติสตังค์ไปหมดแล้ว

“ก็พายเรียกเขาว่าพี่ ทีกับผมคุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้” มันก็ตริงน่ครับจะไม่ให้น้อยใจได้ยังไง รู้จักกันมาพักหนึ่งแล้ว ไม่เคยเรียกว่าพี่ซักคำ

“อยากเป็นพี่?”

“ ไม่ อยากเป็นผัว”  อยากตะโกนดังๆ ครับ แต่คำหลังนี่แค่คิดในใจ

“ แล้วจะให้เรียกทำไม ในเมื่อไม่ได้อยากเป็น” เออก็จริง

“แล้วจะให้เป็นอะไรล่ะครับ” หยอดครับเผื่อฟลุ๊ค

“ไม่รู้ กำลังพิจารณา ถ้างี่เง่าแบบนี้อีกแม้แต่พี่ก็ไม่ได้เป็น” คำพูดนี่มาแนวโหดเลยครับงานนี้ ปกติจะพูดน้อยตามไม่ค่อยทัน แต่วันนี้มาแนวไหนรับไม่ทัน เขามีหลายมิติเหรอครับ บางที่ก็เหมือนซื่อๆ บางทีกลับพุดจาเชือดเฉือนจนน่ากลัว

“เข้าใจแล้วครับ” ดีใจเว้ย มีความหวังใช่ไหมที่พูดออกมานี่ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม

“วันอาทิตย์นี้ว่างไหมครับ มารับด้วย” ได้โปรดพาผมไปจูนสมองหน่อยวันนี้ไม่ทันความคิดของพายเลยครับ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่ออะไร ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้น่าจะเข้าใจยาก สมองตายชั่วขณะ

“รับ รับไปไหน”  ร้านของพายไม่ได้เปิดวันอาทิตย์นี่นา

“จะไปไหมครับ ไม่ไปก็ไม่ต้องมา” รวบรัดมากครับไม่ให้โอกาสได้รู้อะไรเลยว่างั้น

“ไปๆ ครับ ไปไหนก็ไปทั้งนั้น”  ต่อให้เขาพาผมไปตายผมก็ยอมครับ แต่ผมจะเอาเขาไปด้วย ไม่ยอมไปคนเดียวหรอกมันเหงา
“ห้ามสาย” ขู่อีกครับ

 “พายครับ” ผมเรียกเสียงเบา

“ครับ”     เขาตอบรับแบบนี้เสมอเวลาที่ผมเรียก น่ารักว่าไหมครับ

“พายโทรมาง้อผมเหรอ” ขอเข้าข้างตัวเองสักหน่อยครับ ถ้าไม่โทรมาง้อจะทำแบบนี้ทำไม พยายามอธิบายทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น ถ้าไม่ได้แคร์ผม พายก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจใช่ไหม

“ไม่ใช่ แค่เบื่อคนงี่เง่าคิดไปเอง กลัวจะไปฆ่าตัวตายซะก่อน สงสารลูกหมาตาดำๆ” คำแก้ตัวนื้ทำให้ผมแทบหลุดขำออกมาดังๆ แต่กลัวเขาจะโมโห ไม่เอาดีกว่าไม่ยอมเสี่ยงครับ

“ใจร้ายจังครับ”

“คึ คึ” เสียงหัวเราะแว่วมาตามสาย

“หัวเราะอะไรครับ”

“ก็แค่ตลกผู้ชายตัวยังกับยักษ์วัดแจ้งแต่ขี้ใจน้อย"  ดู แต่ละคำนี่ช่างน่าจับตีก้นซะให้เข็ด

“ก็ผมจีบพาย รักพายไปแล้วไม่ได้เผื่อใจไว้นี่ว่าจะมีคู่แข่ง”

“ก็บอกว่าเขาเป็นลูกค้า พึ่งเคยเจอกันไง อีกอย่างเขาก็เป็นเจ้าของสถาบันอาหาร XX ที่ผมเคยเรียน รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหายนี่นา เวลามีปัญหาจะได้ปรึกษาได้”

“ไม่ได้” เผลอเสียงดังใส่เขา
 
“ทำไม” โอ้ย! ผมพึ่งรู้ว่าพายก็กวนประสาทคนเป็นเหมือนกัน

“หวง ไม่ชอบให้โทรหาผู้ชายคนอื่น อย่าบอกนะว่าให้เบอร์เขาไปแล้ว”

“ครับ” อยากจะบ้าวันละหลายๆ รอบ เบื่อพวกที่จ้องจะแดกของคนอื่น มันน่าจับยัดกระสอบถ่วงน้ำให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

“ลบเบอร์ออกเลยนะครับ หรือถ้าเขาโทรหาก็ไม่ต้องรับ” ผมออกคำสั่งกับปลายสายที่เงียบไปสักพัก

“แต่ผมโทรหาเขาได้”  ก็ลองโทรดูดิ คราวนี้ไอ้คิณจะจับจูบให้ปากเจ่อเลยคอยดู

“โทรหนึ่งครั้งจูบหนึ่งที ครบห้าครั้งจับปล้ำ” ขู่ไปงั้นแหละ ไม่กล้าทำหรอกถ้าไม่เต็มใจอ่ะนะ

“ไอ้คุณคิณ ไอ้บ้า” เสียงแว๊ดดังๆ มาตามสายครับ

“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมอยากเห็นหน้าพายตอนนี้จัง คงจะแดงลามมาถึงหูแล้วมั้ง  มีความสุขว่ะ ไปสู่ขอพรุ่งนี้เลยได้ไหม อยากมีเมียครับ จะจับมาลงโทษซะให้เข็ด โทษฐานที่น่ารักเกินไป


“กู๊ดไนท์นะครับพายเมียคิณ”

***********************************

จบไปอีกตอนแล้วนะค ดีใจที่มีคนชอบ แม้ว่าจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ แต่ก็ขอบคุณที่เม้นให้กันมาตลอด มีข้อบกพร่องอีกหลายอย่างที่เราต้องแก้ไขมันอาจจะออกมาไม่ดันัก แต่ก็จะพยายาม :impress3:


                            TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2016 21:35:59 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่คิณ  คนขี้งอนนนน  55

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ขี้หึงยังดีกว่าพวกตีเนียนจีบล่ะนะพายอย่าไปหลงคารมเขานะสงสารคิณ

ออฟไลน์ nunuchhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zleep

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
มีโทรมาง้อด้วย~ แต่ก็น่ะท่าทางพี่คิณจะมีคู่แข่งจริงๆ ยกให้น้องบราวน์เถอะเนอะ^^

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
พี่คิณงอนน้องพายก็ง้อ แบบโหดแต่แฝงความน่ารัก 

 :hao3:      :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่คิณนี้ขี้หึงจริงๆ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
 :impress2: :impress2: หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า ตอนพิเศษ วาเลนไทน์
[/size]

วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ร้านเค้กเล็กๆ ของผมคราคร่ำไปด้วยคู่รัก เป็นบรรยากาศที่ดูแล้วสดชื่น มีความสุขไปกับเขาด้วย ผมทำเค้กมือเป็นระวิง น้องๆ ในร้านก็แทบจะไม่ได้พัก แต่คนที่ดูไม่ค่อยจะสบอา รมณ์ ก็คือผู้ชายตัวโตที่นังหน้ายักย์อยู่ข้างๆ ผมนี่แหละ  จนมินที่ทำงานอยู่ข้างๆ ไม่กล้าจะคุยเล่นด้วยเลย ปกติคุณคิณจะขี้เล่น ทำให้น้องๆ ผ่อนคลาย ซื้อนู่นซื้อนี่มาฝากประจำ

"พี่พายสงสารคุณคิณจัง" เจ้าเด็กข้างๆ เอ่ยขึ้น

"สงสารเรื่องอะไร" ผมหันไปมองหน้าคุณคิณที่เอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์

"คุณคิณอยากไปเดทกับพี่รึเปล่าครับ จะกลับก่อนก็ได้นะ มินดูต่อให้เอง” ผมจะทิ้งให้น้องๆ ทำงานได้ยังไง ในเมื่อตัวเองเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องอยู่ช่วยกันสิ

"ไม่ๆ ทำต่อเลย ไม่ต้องห่วงพี่หรอก" ผมเดินเข้าไปหาคุณคิณที่นั่งหน้าเซ็งๆ เล่นโทรศัพท์

"เป็นอะไรครับหน้าบูดเชียว" ผมเดินเข้าไปจับมือคุณคิณเบาๆ คนตัวโตเงยหน้ามามองผมแค่แป๊บเดียว ก่อนจะก้มลงไปเล่นโทรศัพท์ต่อ

"เรามีเรื่องต้อยคุยกันนะครับ" ผมดึงมือเขาให้เดินตามออกไป "ฝากทำให้ก่อนนะหมูน้อย"

"ฮะ"

ผมจูงมือคุณคิณขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งมีห้องว่างอยู่อีกห้องถูกจัดให้เป็นห้องพักผ่อน ถ้าน้องๆ คนไหนไม่สบายก็ขึ้นมานอนได้

"จะไม่พูดกันหน่อยเหรอครับ" ผมดึงคุณคิณให้นั่งลงบนเตียงนอน ก่อนที่ตนเองจะแทรกเข้าไปนั่งบนตัก มือบางโอบคอคนหน้างอไว้หลวมๆ

"......."

"พายบอกแล้วไงว่าวันนี้เป็นวันทำเงิน ถ้าปิดร้านน้องๆ ก็จะไม่ได้พิเศษเยอะะแบบนี้" ร้านเค้กที่ไหนๆ เขาก็เปิดวันนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นเทศกาลพิเศษที่ทำเงินได้ดี แถมน้องๆ ในร้านยังได้ทิปจากลูกค้าเยอะอีกด้วย

"แค่เงินพิเศษ ผมจ่ายเองก็ได้" เสียงนี่ห้วนไปนะครับคุณคิณ

"อย่าพาลครับรู้ว่าบ้านรวย"

"ก็พายไม่ให้ความสำคัญกับผมนี่ ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันของคู่รัก" ท่าทางกระเง้ากระงอดนี่ไม่เข้ากันเลยกับคนตัวโต แต่ขี้ใจน้อย

"จะให้พายรักคุณวันเดียวใช่ไหม วันอื่นไม่รักก็ไม่เป็นไร" ผมแกล้งพูดกับคนที่ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กเลยครับ

"แต่วันนี้มันวันพิเศษไงครับ ก็อยากทำอะไรพิเศษๆ กับพายบ้างนี่นา" เขาเปลี่ยนสีหน้า ทำเสียงอ้อนผมแล้วครับคราวนี้

"คุณคิณทำตัวเหมือนเด็กเลย จะให้พายทำยังไงครับ บอกมาสิ" ถามความคิดเห็นเขาหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่ให้ความสำคัญ

"ไปดินเนอร์กันตอนเย็นสองคนนะครับ" ยิ้มบางๆ ให้กับผมเมื่อเสนอความคิดเห็น

"พายทำกับข้าวให้ทานทีคอนโดดีไหมครับ" ผมยื่นริมฝีปากบางๆ จูบที่ปลายคางคนขี้งอน เพื่อให้หายจากความน้อยใจ ผมย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับคุณคิณสักระยะแล้วหลังจากที่เราแต่งงาน

"ก็ได้" ตอบรับไปงั้นแหละคนเรา ไม่ได้เต็มใจใช่ไหม

"พายขอโทษที่ไม่มีเวลาให้คุณเลย" ผมยื่นหนาเข้าไปใกล้ ยืดตัวขึ้นนจุ๊บร่างแกร่งอีกที

 "ไม่เป็นไรครับ แค่ได้อยู่แบบนี้กับพายก็ดีแล้ว" น้ำเสียงนี่น่าสงสารสุดๆ แล้วครับ ไม่รู้ว่าน้อยใจจริงๆ หรือแกล้ง เพราะปกติคุณคิณจะเป็นคนเจ้าเล่ห์

"คุณคิณน่ารัก"

"หึๆ น่ารักอะไรล่ะครับ ถ้าพายก็ว่าไปอย่าง" คุณคิณหอมแก้มผมแรงๆ หลายที ผมก็ไม่คิดจ ะห้ามหรอก ปล่อยให้เขาทำไปครับ สงสารคุณคิณจัง

"ออกไปข้างนอกกันครับ ถ้ายังอยู่แบบนี้อีก ผมต้องจับพายกินตอนนี้แน่ๆ เลย" สงสัยจะหายงอนขึ้นมานิ๊ดนึงแล้วมั้ง

"คุณคิณ" สายตาเจ้าเล่ห์จริงๆ เลยผู้ชายคนนี้

จนเวลาล่วงเลยเข้าช่วงเย็นลูกค้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลง  แต่ผมบอกให้มินทำเค้กเพิ่มอีกนิดหน่อย เพราะไม่อยากปิดร้านดึก ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ผมก็หันไปดูคุณคิณตลอด เขาช่วยน้องๆ เสริฟด้วย ท่าทางที่คนตัวโตทำแม้ว่าจะไม่เงอะงะเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็ยังเก้ๆกังๆ อยู่ไม่น้อย  ดูเหมือนว่าคนตัวโตจะเป็นที่สนอกสนใจของสาวๆ จริงๆ ทั้งที่แต่ล่ะคนมากับบรรดาหนุ่มๆ ของตนเองทั้งนั้น

จากที่ตอนแรกสงสารตอนนี้เริ่มจะหมั่นใส้แล้ว คนของเราก็เป็นอกเป็นใจยิ้มหน้าบานจนอยากจะเข้าไปดึงหูให้ยานสักที่ดีไหม แต่ก็ต้องอดทนครับเวลางาน เดี๋ยวลูกค้าตกใจ ผมยืนช่วยน้องๆ ตักเค้กเสริฟให้ลูกค้า

“สตรอเบอรี่ชีสเค้กหนึ่ง ช็อคโกแลตลาวาหนึ่ง แล้วก็น้ำสตรอเบอรี่ปั่น กับคาปูชิโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” เสียงบริกรหนุ่มดังขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คุณคิณตัวดีของผมนี่เอง

“หน้าบานไปรึเปล่า” ผมแอบแขวะคุณคิณไปที

“เปล่านี่ครับ ก็บริการลูกค้าจะให้ทำหน้าบึ้งได้ยังไง”

“ที่นั่งงอนทั้งเช้านี่คงไม่ได้อยากเดทกับพายแค่สองคนหรอก สงสัยอยากจะออกมาส่องสาว” คราวนี้ผมประชดคุณคิณครับ แต่สงสัยคนตัวโตจะร้อนตัวเลยรีบเข้ามาด้านในเคาเตอร์ วานให้สองไปเสริฟแทน

“รักพายขนาดนี้จะอยากมองใครที่ไหนล่ะ มองพายคนเดียวก็พอแล้ว” คุณคิณทำตัวน่ารักแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมมีทีท่าว่าจะเริ่ม
โกรธหรืองอนเขาจะง้อทันที ไม่ว่าตัวเองจะผิดหรือเปล่า แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมกลัวใครมาแย่งไปได้ไงล่ะ

“ครับๆ” ผมหันไปยิ้มให้คุณคิณเพราะไม่อยากให้เขานอยด์มากกว่านี้ วันนี้เขาก็คงผิดหวังมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“รักพายนะครับ” เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูจนผมหน้าร้อนผ่าว

“แหมๆ หวานกันจังเลยนะฮะ ไม่อายลูกค้าเลยว่างั้น” น้องบราวเอ่ยแทรกขึ้นมา ก่อนที่ผมกับคุณคิณจะหันไปดูลูกค้าว่ามีใครเห็นไหม แต่โชคดีที่มีฉากกั้น ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเห็นได้

“ถ้าจะหวานขนาดนี้กลับไปก่อนก็ได้นะคะ” เปรี้ยวนี่ถึงกับแซว ผมอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่คนข้างๆ นี่ยิ้มแป้น

“พี่พายกลับไปก่อนก็ได้ จะได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันไง” เด็กๆ ทุกคนลงความเห็นว่าให้ผมกลับก่อน เพราะสงสารคุณคิณ ผมก็เลยต้องจำยอม แต่ก็ไม่ลืมที่จะกำชับน้องๆ ให้เก็บของให้เรียบร้อย ไม่ให้กลับดึก หรือถ้าไม่มีรถก้เบิกเงินนั่งรถแท็กซี่ก็ได้ ส่วนเงินทิปค่อยให้เด็กๆ ทั้งสามคนมาแบ่งกันวันหลัง  บราวนี่ มิน แล้วก็ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินส่วนนี้ น้องๆ จะเอามาหยอดรวมกันไว้ในกล่องทิป ไม่มาเถียงกันว่าคนไหนได้เยอะได้น้อยกว่ากัน เด็กทุกคนนิสัยดี น่ารัก

****************************
กลับถึงคอนโดก็เกือบสามทุ่ม แวะทานข้าวข้างนอกกันมา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นร้านหรู ดินเนอร์ใต้แสงเทียน แต่ผมก็มีความสุข ผิดแผนนิดหน่อยที่ตอนแรกว่าจะทำอาหารให้คุณคิณแต่มันดึก เราจึงแวะทานที่ร้านอาหารเลยง่ายดี

“อาบน้ำก่อนไหมครับพาย” คุณคิณเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนของเราสองคน

“ครับ คุณคินอาบพร้อมพายไหม” ผมถามออกไปแล้วครับ จากที่คิดอยู่นานว่าทำแบบนี้จะดีไหม ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมา น้อยครั้งมากที่เราสองคนจะอาบน้ำด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็จะโดนคุณคิณบังคับมากกว่า

“ล้อเล่นรึเปล่าครับ” ร่างสูงเดินมาหาผมด้วยความตกใจ

“จะอาบไหมครับ ถ้าไม่....” คนตัวโตเอ่ยสวนขึ้นทันทีเลยครับคราวนี้ไม่มีลังเลว่าได้ยินผิดหรือเปล่า

“อาบๆ ครับ” คุณคิณช้อนตัวอุ้มเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำ ก่อนที่จะผสมครีมอาบน้ำลงไปจนเกิดฟอง ผมมองการกระทำของคนที่ชอบเอาใจใส่ผมตลอดอย่างมีความสุข 

“มาแช่ได้แล้วครับพาย”

“ครับ”

ผมเริ่มที่จะผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน นั่งหลับตาอย่างสบายอารมณ์ในอ่างที่น้ำอุ่นๆ ช่วยให้คลายความเมื่อยขบได้ดี

“นวดให้นะครับ” คุณคิณขยับมือมาจับที่ไหล่ผมทั้งสองข้าง ก่อนที่จะเข้ามานั่งซ้อนด้านหลัง มือหนาค่อยๆ นวดอย่างเบามือ จนผมเคลิ้ม

“สบายจังเลยครับ”  ผมพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตา  ไอร้อนจากตัวของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปถาม

“คุณคิณไมสบายรึเปล่าครับ ทำไมตัวร้อน” สายตาที่พราวระยับตอนนี้ทำให้ผมรู้แล้วว่าคิดผิดที่หันมาสบตากับเขา มือหนาจับมือบางของผมไปสัมผัสกลางกายที่กำลังค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นมาทีละน้อย

“ตรงนี้ไม่สบายครับ” มือหนายังบังคับให้มือของผมรูดขึ้นรูดลงไอ้หนอนน้อยที่กำลังกลายร่างป็นมังกรยักษ์ในไม่ช้า

“คะ..คุณคิณ” สัมผัสกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยชินสักที

“ได้ไหมครับ รักษาให้คิณหน่อย” เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหู ปลายลิ้นร้อนไล้วนลงมาตามซอกติ่งหู ขยับมาจนถึงสันกราม จนตอนนี้ร่างกายของผมก็เริ่มที่จะมีอาการไม่ต่างกัน

“ได้ไหม หือ..คนดี”

“อือ...ครับ” แค่คำตอบรับของผมก็เป็นสัญญาณให้คนตรงหน้าเดินหน้าปฏิบัติการปลิดวิญญาณผมต่อแล้วครับ

“อ๊ะ...อือ” ผมร้องครางออกมาเมื่อคุณคิณเริ่มสัมผัสส่วนกลางกายที่กำลังบ่งบอกว่าต้องการๆปลดปล่อยไม่ต่างกัน มือหนารวบกลางกายเราสองคนเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะขยับรูดรั้งให้เกิดความเสียว ปนกับความสุขสม ปากหนาก็ยังทำงานได้ดีประสานกับการทำงานของด้านล่าง

จูบหนักหน่วงสลับกับเบาราวกับปุยนุ่น ทำให้ผมแทบลอยคว้างกลางอากาศ รู้สึกดีจนยากที่จะอธิบาย ลิ้นร้อนเริ่มชอนไชไล่ลงมาตามไหปลาร้า ก่อนที่จะมาหยุดวนเวียนชิมควาหวายที่ตุ่มไตเม็ดเล็กสีหวาน

“อ่า...คุณคิณ” ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ไปแทบจะทุกรูขุมขน ผมได้แต่ครางเรียกชื่อคุณคิณอยู่อย่างนั้น มือหนาของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะมอบความสุขให้กับเราทั้งสองคน

“เรียกชื่อคิณสิครับคนดี ผมอยากได้ยิน อ่า...” คุณคิณเริ่มรูดรั้งแรงและเร็วขึ้นจนผมบิดกายเร่าเพราะความสะท้าน จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง

“คะ..คิณพายไม่หวะ...ไหวแล้ว” ร่างผมกระตุกสองสามครั้งก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มมือคุณคิน ส่วนคนตังโตก็ปลดปล่อยออกมาไม่ต่างกัน ผมเหนื่อยหอบยิ่งกว่าออกกำลังกายหนักๆ เสียอีก

“พายครับวันนี้ตามใจคิณได้ไหม” ผมเหนื่อยหอบซุกหน้าลงกับอกแกร่ง คุณคิณกอดผมไว้แน่น ปากหนาเริ่มซุกไซ้ตามซอกคอเรื่อยลงมาจนผมร้องห้ามแทบไม่ทัน

“ครับ แต่ไปที่เตียงได้ไหมพายเมื่อย” คุณคิณอุ้มผมไปล้างตัว ก่อนที่จะพามาที่เตียงนอน ตอนนี้ผมไม่มีแรงแม้แต่จะยืนได้แต่เกาะเกี่ยวคุณคิณไว้

“งั้นที่รักออนท็อปให้ผมหน่อยได้ไหม” ว่าอะไรนะ คุณคิณจะให้ผมออนท็อปเหรอ

“ไม่เอา พายทำไม่เป็น” ปฏิเสธออกไปทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองคนที่ขออะไรน่าอายขนาดนี้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่มีเลยที่ผมจะทำแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณคิณขอ ผมจะทำยังไงดี อายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นจริงๆนะ

“ไหนว่าจะตามใจคิณไงครับ พายไม่รักผมเลยเหรอ ทำไมมีแต่ผมคนเดียวที่อยากแสดงความรักกับพาย” คำพูดตัดพ้อที่ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“ก็ได้ แต่คุณต้องสอนพายนะครับ” ผมบอกเสียงเบา ก็คนมันอายนี่นา

“คนดีของคิณ” มือของผมเริ่มรูดรั้งแก่นกายแกร่งอีกครั้ง ก่อนที่จะครอบริมฝีปากบางลงไปตามที่คุณคิณบอก

“อย่างนั้นครับ อ่า....”  ลิ้นร้อนเลียที่ส่วนปลายเจ้ามังกรยักษ์อย่างเงอะงะ  แต่ผมก็พยายามทำให้คุณคิณพอใจ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากรูดเจ้ามังกรยักษ์ขึ้นลง จนคนตัวโตครางไม่หยุด  มือหนาของคุณคิณเริ่มลากผ่านแนวสันหลัง เลื่อนต่ำลงมาที่สะโพกอวบ ก่อนที่จะขย่ำอย่างเต็มแรงจนผมครางประท้วง เงยหน้ามองคนที่ชอบทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ตลอดเวลา

นิ้วเรียวค่อยๆ สอดเข้าไปตามช่องทางคับแคบสีสวยอย่างใจเย็น จนผมอดไม่ได้ที่จะใช้ปากขยับรูดรั้งเจ้ามังกรยักษ์แรงๆ อีกครั้ง

“คิณ...พายเสียว ช่วยพายที” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ จนต้องเรียกร้องจากคุณคิณด้วยน้ำเสียงที่น่าอาย

“ช่วยยังไงครับคนดี” คุณคิณกวนผม รู้ว่าผมต้องการอะไรแต่ก็ยังให้พูดอะไรที่มันน่าอายแบบนี้

“คะ..คุณเข้ามาในตัวพายนะครับ” น่าอายที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มันทั้งเสียวและทรมานจนแทบจะทนไม่ไหว

“ทำเองซิครับคนดี อยากได้แบบไหน” ผมมองคุณคิณอย่างกระเง้ากระงอด แต่ก็ยอมขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมตรงหน้าท้องแกร่งของคนที่นอนยิ้มมีความสุขอยู่ใต้ร่างผม ก่อนจะค่อยจับความใหญ่โตของเขาชะโลมด้วยเจลหล่อลื่นด้วยมือสั่นๆ โดยมีสายตาหื่นกระหายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีผมมองอยู่

ผมยกบั้นท้ายกลมกลึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะสอดใส่เจ้ามังกรยักษ์เข้าไปได้แค่ส่วนหัว ผมก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบ เพราะมันแน่นจนผมไม่กล้าดันตัวเองเข้าไปครอบครองแก่นกายยักษ์

“ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ ไม่ต้องรีบ”เสียงคุณคิณตอนนี้ทำให้ผมรู้ว่าเขาอดทนกับความต้องการทางร่างกายมากแค่ไหน

“คะ...คิณเข้ามาทีเดียวเลยก็ได้พายไหว” ผมไม่กล้าทำเองต้องให้คุณคิณช่วย ไม่งั้นมันก็คงค้างคาอยู่แบบนี้ ยอมที่จะเจ็บครั้งเดียวเพื่อปลดปล่อยความต้องการของเราทั้งสองคน

“แต่พายจะเจ็บนะครับ”

“พายไม่เป็นไร.. นะครับ” พอผมเอ่ยออกมาแบบนั้น คุณคิณกลับแทงพรวดเข้ามาทีเดียวจนผมจุก

“อ่า....”

“อึกกก...” เสียงเราสองคนดังประสานกัน

“ขยับได้ไหวไหมครับ” มือหนาลูบสะโพกอวบเพื่อคลายความเจ็บ

ผมไมตอบแต่เริ่มขยับเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น ยิ่งผมเห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความต้องการของคุณคิณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งย่ามใจเพิ่มความแรงขึ้นอีก ทั้งเสียวแล้วก็ทรมานจนเหมือนใจจะขาด จนคุณคิณกระแทกสวนขึ้นมาอย่างสุดที่จะอดกลั้น

เราสองคนขยับกายสอดประสานกันจนผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว มันลึกกว่าทุกครั้ง แรงกระแทกที่เราทั้งสองคนส่งผ่านกันและกันทำให้ผมร้องครางออกมาอย่างไม่สามารถที่จะกลั้นเอาไว้ได้

“อึกกกก...อ่า” มือหนาจับเอวผมไว้ก่อนที่จะกระแทกจนสุดแรง ผมครางอย่างเดียวครับ ไม่ไหวแล้วคุณคิณทำผมแทบคลั่ง ผมเหมือนคนเสพติดเซ็กที่เขามอบให้ รู้สึกถึงความร้อนแรงจนไม่อยากจะหยุด

 ร่างกายผมก็แทบจะรับไม่ไหว จนคุณคิณพลิกตัวผมให้ลงไปนอนที่ใต้ร่างแกร่ง เสียงหายใจหอบสลับกับเสียงครางของเราสองคน ดังอยู่ตลอดเวลา จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางของเราทั้งสองคน คุณคิณกระแทกรัวๆ อีกสองสามทีจนน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาโดนหน้าท้องแกร่ง ก่อนที่คุณคิณจะปลดปล่อยตามผมมาติดๆ
 
ผมเหมือนโดนสูบวิญญาณ ไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด แต่คุณคิณก็ยังไม่ยอมหยุด ความต้องการของเขาเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด  ผมนอนให้คุณคิณพลิกร่างกายผมได้ตามใจชอบเลยครับ มีหน้าที่แค่ครางอย่างเดียวจนไม่มีเสียง จนรอบสุดท้ายผมสลบไปเลย

ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ผมตั้งแต่ตอนไหน เสียงผมนี่แทบจะไม่มีแหบจนไม่คิดว่าเป็นเสียงของตนเอง  แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ผมเรียกร้องจนน่าอาย ส่วนคุณคิณเองก็ตักตวงความสุขจากร่างกายผมจนเกือบเช้า

ผมนอนมองเพดานห้องอย่างไม่กล้าขยับ แม้ว่าเราจะมีอะไรกันบ่อยตามประสาคนรักกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะเร่าร้อนจนผมแทบลุกไม่ไหว จะโทษคุณคิณคนเดียวก็ไม่ได้ผมเรียกร้องเอง

แล้วตอนนี้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้เขาไปไหนแล้ว อยากให้ช่วยพยุงพาผมไปเข้าห้องตามแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ห้องก็เงียบจนผิดปกติ หรือว่าเขาจะไปทำงานตั้งแต่เช้า เพราะนี่ก็สายมากแล้ว แต่ร่างกายผมคงไม่เหมาะที่จะลุกไปร้านในวันนี้แน่นอน

ร่องรอยสีกุหลาบมีบ้างประปราย ตามอก คอ แล้วก็ต้นขา ยิ่งมองเห็นก็ยิ่งน้อยใจ ทำไมไม่อยู่ดูแลผมบ้าง หรือว่ามีงานด่วน ไม่ห่วงผมเลยใช่ไหม อาการน้อยใจเริ่มตีตื้นขึ้นมาจนน้ำตาแทบไหล พยุงร่างกายตัวเองยืนขึ้นอย่างยากลำบาก แค่ปลายเท้าเหยียบลงพื้นก็เจ็บแปลบไปถึงสันหลัง จนน้ำตาร่วง จากที่น้อยใจอยู่แล้ว ทำให้น้ำตาผมไหลรินออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียใจที่คุณคิณไม่อยู่ดูแล

พยายามก้าวขาอย่างช้าๆ เพื่อพยุงตัวเองให้ไปให้ถึงห้องน้ำ ก่อนที่มือผมจะเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ ขาเจ้ากรรมก็ดันอ่อนยวบ จนผมลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลพรากเลยครับคราวนี้ หลังจากที่พยายามไม่ให้มันรินไหลออกมาเสียนาน

“โอ้ย! ฮึกกกก....ฮือ” ผมร้องให้เสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  พยายามลุกขึ้นแต่ก็ไม่ไหว ได้แต่นั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้น เจ็บทั้งร่างกาย แล้วก็หัวใจ

เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าที่เต็มด้วยคราบน้ำตามองคุณคิณอย่างตัดพ้อ เขามองผมด้วยท่าทางตกใจ ก่อนที่จะวิ่งเข้ามาหา

“พายเป็นอะไรครับ ทำไมมานั่งร้องให้อยู่ตรงนี้”

“ไปไหน ฮึก...มา ฮืออออ”  คุณคิณกอดผมไว้ พร้อมกับเช็ดน้ำตาให้กับผม รู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่คุณคิณไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับดันไม่หยุดไหล จนคุณคิณตกใจมากกว่าเดิม

“ไปโทรบอกน้องๆ ว่าพายไม่ได้เข้าร้าน แล้วก็โทรเคลียร์งานนิดหน่อยครับ”  อ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณคิณทำให้ผมได้แต่ซุกหน้าไว้อย่างนั้น

“ฮึกกก....ฮือ”

“ทำไมร้องให้หนักแบบนี้ เจ็บมากเหรอครับ คิณขอโทษ”  คุณคิณช้อนตัวผมขึ้นอุ้มก่อนที่จะหันมาถาม

“จะเข้าห้องน้ำใช่ไหมครับ” ผมได้แต่พยักหน้า พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ค่อยๆ หยุดลง

คุณคิณจัดการให้ผมทุกอย่าง อีกทั้งยังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ก่อนที่จะพาผมมานอนบนเตียงอีกครั้ง วันนี้ผมคงต้องนอนเป็นผักอย่างนี้ทั้งวัน

“ทานโจ๊กหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมอุ่นให้ก่อน ไปซื้อมาตั้งแต่เช้ากลัวว่าพายตื่นมาแล้วจะหิว”  ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่คิดว่าคุณคิณไม่ห่วง คิดไปเรื่อยเปื่อย จนร้องให้บ้าบอคนเดียว

“มาแล้วคร้าบบบบ โจ๊กร้อนๆ ผมไปซื้อเจ้าอร่อยมาเลยนะครับเนี่ย เข้าแถวรอตั้งนาน” น้ำเสียงอบอุ่น กับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ทำให้ผม อยากจะโกรธให้กับความงี่เง่าของตนเอง

“ขอโทษ” ผมเอ่ยออกไปทั้งๆ ที่คุณคิณยังงงๆ อยู่

“เรื่องอะไรต้องมาขอโทษผมครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้พายเป็นแบบนี้” ผมค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง คุณคิณเอาหมอนรองหลังให้นั่งง่ายๆ

“ก็พายคิดว่าคุณคิณไปทำงาน ไม่อยู่ดูแลพายแล้ว” พูดเสียงอ่อยๆ ไม่กล้ามองหน้าคุณคิณ ที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจอาการของผมแล้ว

“จะไม่ดูแลเมียได้ยังไง เมียน่าสงสารขนาดนี้ฮึ” มือหนาเลื่อนมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู พร้อมกับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้

“คุณคิณ”

“ไม่ต้องทำหน้าหงอยแล้วครับ พายไม่ผิดสักหน่อย” เขานั่งลงบนเตียงนอนฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะเริ่มป้อนโจ๊กให้ผม มันทานไม่ค่อยลงเลยครับ เจ็บคอ แสบไปหมด

“อีกคำนะครับ”  ผมเริ่มทำหน้าแหย จนคุณคิณต้องปลอบราวกับผมเป็นเด็กๆ

“คำสุดท้ายนะ” ผมอ้าปากรับแต่ก็ยังไม่วายที่จะต่อรอง

“ครับๆ คำสุดท้ายก็สุดท้าย ทานยังไม่ถึงครึ่งเลย  แล้วก็ทานยานะครับ” คราวนี้บ่นกระปอดกระแปดแล้วครับที่ผมทานข้าวได้น้อย แต่คงไม่อยากบังคับ

ทานยาแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง โดยที่คุณคิณนั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง ผมไม่ได้หลับ นอนมองคนตัวโตที่ก้มหน้าอ่านเอกสาร เกี่ยวกับงานของเขาอยู่ข้างๆ

“คุณคิณครับ” เงยหน้าจากเอกสารมามองหน้าผม

“ทำไมไม่นอนพักครับ”  คุณคิณหันมาตะแคงข้างใช้ศอกข้างหนึ่งค้ำยันที่นอนไว้  มืออีกข้างก็คอยลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา

“นอนไม่หลับ” 

“แล้วเมื่อกี้เรียกทำไมครับ”

“พายรักคิณนะครับ” ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะบอกรักคุณคิณแบบนี้ เพราะผมรู้สึกกระดากอายเวลาที่พูด มันรู้สึกจั๊กจี้ คันยุบยิบในหัวใจชอบกล

“หึ หึ... กว่าจะบอกรักกันต่ละทีนี่ แทบลุ้นข้ามปีเลยนะครับ” เขาล้อผมครับ เป็นแบบนี้ทุกที นี่แหละอีกสาเหตุที่ผมไม่อยากจะพูดว่ารักเขาบ่อยๆ ชอบล้อจนผมเขิน

“พายจะไม่บอกอีกแล้วนะ ถ้ายังไม่เลิกล้อ”

“คิณก็รักพายครับ รักที่สุด มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกๆ วัน”  เขาก้มลงมาจูบหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เราจะสบตากันยิ้มๆ

“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ”

“เลยมาแล้วนี่”  นิสัยไม่ดี ไม่อยากพูดดีๆ ด้วยแล้วนะ ทำไมเป็นคนแบบนี้

ความรักของเราสองคนก็เป็นแบบนี้แหละครับ ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว ไม่เคยต้องการอะไรไปมากว่านี้ แค่มีคุณคิณอยู่เคียงข้างทุกๆ วันก็มีความสุขที่สุดแล้ว

*****************************

ตอนพิเศษมาแล้ว สนุกรึเปล่าไม่รู้ แต่อยากแต่ง :mew1: เม้นให้ด้วยนะ สุขสันต์วันแห่งความรัก คนมีคู่ไม่รู้หรอก
 จอกันตอนหน้านะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2016 18:17:13 โดย MooKratai »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด