‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu  (อ่าน 61510 ครั้ง)

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
« เมื่อ09-11-2006 17:16:51 »

ทางเดินริมบาทวิถีที่ผมกำลังก้าวเท้าสั้นๆ อยู่นี้มีผู้คนสวนทางไปมาอยู่มากมาย เวลานี้เป็นเวลาหลังเลิกงาน ทุกคนล้วนรีบเดินหรือไปขึ้นรถ เพื่อจะได้ไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด

ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน เอาสองมือที่กวัดแกว่งไปมาเมื่อครู่สอดลงไปในกระเป๋ากางเกงยีนสีซีดที่กำลังสวมอยู่

ท้องฟ้าหม่นบ่งบอกถึงฝนที่จวนจะตกเต็มที เมฆน้อยใหญ่สีเทาครึ้มปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า บดบังแสงสว่างจากพระอาทิตย์ดวงโตไปจนหมด

ผู้คนรอบกายคงจะสังเกตเห็นสภาวะอากาศเช่นเดียวกับผมจึงรีบเดินกันอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ถึงที่หมายก่อนฝนจะตก หากผมกลับเป็นหนึ่งในทั้งหมดที่กำลังเดินเรื่อยๆ เหมือนไม่เกรงกลัวต่อสายฝนกระนั้น

เห็นสายฝน...หลายคนอาจจะรู้สึกว่า...เหงา

หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามัน...น่าเบื่อ

หลายคนอาจะรู้สึกว่ามัน...น่ารำคาญ

แต่สำหรับผม...มันคือความชุ่มชื้น

ความชุ่มชื่นที่เคยหล่อเลี้ยงหัวใจของผม...


แปะ...แปะ...ซ่า...

ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ฝนเม็ดแรกก็ตกลงมาโดนตัวผม ก่อนจะค่อยๆ โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ผู้คนบริเวณนั้นรีบวิ่งเข้าไปหลบในที่มีกำบัง บ้างก็รีบเดินให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ถึงสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ไม่ไกลออกไป

หากผมยังคงก้าวเท้าสม่ำเสมอเช่นเดิม...

ไม่คิดจะหนี...

ไม่คิดจะปฏิเสธ...


ไม่นานนัก ผมก็เดินมาจนถึงร้านกาแฟร้านหนึ่ง คาเฟ่เล็กๆ หากดูแล้วน่ารัก แผ่นกระจกใสภายนอกร้านมีหยดน้ำเกาะอยู่มากมายจากละอองที่พัดมาจากสายฝนที่พรำลงมาไม่ขาดสาย

‘La situation de l’amour’  

ผมเงยหน้าขึ้นมองชื่อร้าน แผ่นป้ายเล็กๆ มีตัวอักษรสีช็อกโกแลต ข้างๆ มีแก้วกาแฟสีน้ำตาลอ่อนประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

‘กุ๊งกิ๊ง กุ๊งกิ๊ง’

เสียงกระดิ่งเหนือกระจกใสดังขึ้นเมื่อผมผลักบานประตูเข้าไป พลางสายตาก็มองไปรอบๆ ร้าน ตอนนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่เลย ตรงเคาน์เตอร์เก็บเงินก็ไม่เห็นใครบางคนที่ผมคุ้นเคยยืนอยู่เช่นกัน

...ไปไหนของเค้า...
 
คิดไว้แค่นั้น ผมก็เดินไปทรุดตัวนั่งลงยังโต๊ะตัวหนึ่งริมกระจกบานใสที่มองเห็นสายฝนตกอยู่ภายนอกของร้าน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนผมได้ยินเสียงใครบางคนดังขึ้นใกล้ๆ ตัว

“รับอะไรดีครับ”

ผมหันไปมองนิดหนึ่ง

อ้อ อยู่นี่เอง แล้วเมื่อกี๊หายไปไหนหว่า...

“ขอเป็นคาปูชิโน่ร้อนครับ”

“รับของว่างเพิ่มไหมครับ”

ผมส่ายหน้าน้อยๆ ปฏิเสธ “ไม่ล่ะ ขอบคุณครับ”

“รอสักครู่นะครับ”

เสียงหวานๆ บอกเบาๆ ทำให้ผมต้องเหลียวมองตามไปอย่างทุกครั้ง เด็กหนุ่มร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวกับกางเกงแสล็คสีดำ ถูกคลุมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีครีม ตรงกลางของตัวผ้า มีกระเป๋าเล็กๆ สีน้ำตาลใส่ปากกาและสมุดโน้ตเล็กๆ เพื่อจดออเดอร์ ทั้งยังมีชื่อร้านปักเอาไว้ตรงกลางตัวกระเป๋าอีกด้วย

“เอ๊ะ~”

“ครับ?”

ผมเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจเมื่อเด็กหนุ่มเดินกลับมา ริมฝีปากน้อยๆ นั้นทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง จนผมต้องถามซ้ำ

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

“คุณเปียกขนาดนี้ ผมว่าคุณไปเปลี่ยนชุดหลังร้านก่อนไหมครับ”

ผมก้มมองสภาพตัวเอง พลางมองใบหน้ายิ้มแย้มที่พร้อมจะบริการของคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไปในความหวังดีของอีกฝ่าย

“ครับ...ขอบคุณมากนะครับ”

“เชิญทางนี้เลยครับ”

เด็กหนุ่มพาผมเข้ามายังห้องแต่งตัวหลังร้าน สภาพภายในเป็นห้องไม่ใหญ่นัก มีอุปกรณ์เครื่องแก้วในการบริการเครื่องดื่มวางไว้อย่างเป็นระเบียบมากมาย

“นี่ครับชุด”

คนตรงหน้ายื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกับกางเกงขาสี่ส่วนสีน้ำตาลอ่อนให้ผม คาดว่าคงจะเป็นเสื้อของเขาที่นำมาเก็บไว้ที่นี่ในยามฉุกเฉิน

“ขอบคุณคุณ...เอ่อ...ไม่ทราบว่าจะให้ผมเปลี่ยนตรงไหนครับ”

ผมว่าพลางดึงเสื้อยืดคอกลมสีเข้มที่สวมอยู่ออก ไม่ทันได้ฟังคำตอบจากคนตรงหน้า เมื่อถอดเสร็จผมจึงหันกลับไปมองที่เขาพลางเลิกคิ้วน้อยๆ อีกครั้ง

“ทางไหนครับ”

“เอ่อ...ห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ”

มือของอีกฝ่ายชี้ไปยังมุมขวาของห้องที่ไม่ไกลนัก ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไป เมื่อเรียบร้อยออกมาอีกครั้งก็พบว่าเด็กหนุ่มกำลังวุ่นอยู่กับการชงกาแฟให้กับลูกค้าหญิงสาวรายหนึ่งที่มากับลูกสาวตัวน้อย

“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

ผมยิ้มถามคนตรงหน้าที่กำลังจะยกแก้วกาแฟมอคค่าร้อนๆ นั้นไปเสิร์ฟ หากเด็กหนุ่มหันมาส่ายหน้ายิ้มตอบให้ผม ก่อนจะเดินไป

ผมเดินตาม ก่อนจะทรุดกายนั่งลงที่โต๊ะตัวเดิม...ตัวริมกระจกใสนั้นเอง ตอนนี้ฝนที่เคยตกหนักหยุดลง มีให้เห็นเพียงถนนชื้นแฉะกับผู้คนที่กำลังสาวเท้าไปยังจุดหมายเพราะเสียเวลาในการหลบฝนมามากแล้ว

“นี่ครับคาปูชิโน่”

กาแฟรสดีถูกวางลงตรงหน้าผม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันโชยขึ้นมาจากแก้วเซรามิคสีน้ำตาลอ่อนเนื้อดี ผมหันไปหาเด็กหนุ่มพลางเชื้อเชิญให้อีกคนนั่งด้วยกัน

“นั่งด้วยกันก่อนสิครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมมีงานต้องทำอีก”

ผมเหลียวมองไปรอบๆ ร้าน พลางเลิกคิ้วหันไปมองอีกคนอย่างสงสัย

“งานอะไรครับ ผมไม่เห็นจะมีลูกค้าอยู่เลย”

ผมพยักเพยิดไปทางโต๊ะอีกโต๊ะที่มีลูกค้าของร้านอยู่

“นอกจากโต๊ะนั้น”

เขาพยักหน้า สงสัยจะอับจนคำพูดที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาโต้แย้งผมได้ จึงจำต้องนั่งลง จนตอนนี้ผมเพิ่งจะมีโอกาสพินิจใบหน้าของอีกฝ่ายตรงๆ

เด็กหนุ่มตรงหน้าผมมีใบหน้าเรียวยาว ดวงตาไม่ตี่ตามแบบฉบับหนุ่มตี๋ หากก็ไม่โตจนเกินไป จมูกได้รูปรับกับเรียวปากบางสีอ่อน รูปร่างสมส่วนไม่ใหญ่หรือเล็กมากนัก

ดูๆ ไป ก็น่ารักดีนะ

เอ๋...

หรือเราจะชอบเด็กคนนี้ซะแล้วเนี่ย

ผมอมยิ้มเมื่อคิดถึงตรงนี้ จนเห็นอีกคนที่นั่งตรงหน้าทำหน้าสงสัยนั่นแหละ ผมถึงยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ จนได้รอยยิ้มสดใสกลับมาเป็นการตอบแทน

“คุณชื่ออะไรครับ ผมธาวินทร์ เรียกผมว่า ‘วินท์’ ก็ได้ครับ”

“เอ่อ..” คนตรงหน้าดูเหมือนจะตกใจกับคำถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของผม “ผมศิรภัทร เรียก ‘พัท’ ก็ได้ครับ”

ผมพยักหน้ารับรู้...ก่อนจะถามต่ออย่างสงสัย ร้านนี้ผมก็มาออกบ่อย แต่ทำไมมาทีไรก็เจอแต่เขาทุกครั้ง หรือบางทีก็จะมีพนักงานคนอื่นบ้างเหมือนกันแต่น้อยมาก

“คุณเป็นเจ้าของร้านหรือครับ”

“เปล่าครับ...ร้านของคุณอาน่ะครับ พอดีแกต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ผมเลยมาดูแลให้แทน”

“ครับ...แล้วทำคนเดียวแบบนี้มีเวลาไปเรียนหรือ”

“ไม่ต้องไปครับ...พอดีผมกำลังเก็บข้อมูลทำธีซิสอยู่น่ะครับ”

“อ้อ...”

ผมพยักหน้ารับรู้อีกครั้ง อดจะทึ่งกับคนตรงหน้าไม่ได้ ตอนแรกผมมองแล้วนึกว่าเด็กหนุ่มน่าจะกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 หรืออย่างมากก็ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยแถวนี้เสียอีก

“ผมไปเช็คบิลโต๊ะโน้นก่อนนะครับ”

เด็กหนุ่มเดินไปยังเคาน์เตอร์ ก่อนจะจัดการเช็คบิลให้หญิงสาวที่มากับลูกน้อยหลังจากเขาไม่นานนัก แล้วจึงกลับมานั่งที่เดิม

นั่งอยู่นาน ผมก็ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ  ประวัติความเป็นมาตลอดจนความชอบกับเด็กหนุ่ม เราสองคนหัวเราะอย่างสนุก เมื่อใครคนใดคนหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์เสี่ยงในการถูกจับได้ หรือหน้าแตกในโอกาสต่างๆ ของตนเองให้คู่สนทนาฟัง



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2010 20:11:18 โดย THIP »

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #1 เมื่อ09-11-2006 17:20:41 »


ผมมองนาฬิกาข้อมือ  เกือบทุ่ม ก่อนจะมองออกไปนอกกระจก นี่ก็มืดแล้ว คนตรงเขาจะปิดร้านกี่โมงกันนะ...

“เห็นทีผมต้องกลับก่อนแล้วครับ”

“ครับ” อีกคนตอบด้วยรอยยิ้ม “ไว้มาใช้บริการใหม่นะครับ”

“อ้อ...เสื้อผ้า เดียวผมไปเอาก่อนนะครับ”

ผมทำท่าจะลุกขึ้น หากก็อีกฝ่ายจับข้อมือไว้เสียก่อน จนเมื่อผมหันมาเลิกคิ้วถามนั่นแหละ เด็กหนุ่มที่ลืมตัวจึงได้ปล่อยมือผมออก

“เดี๋ยวผมจัดการให้ก็ได้ครับ”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบส่ายหน้าพลางปฏิเสธ “ผมรบกวนเปลี่ยนชุดของคุณ จะให้คุณมาจัดการเสื้อผ้าผมได้อีกยังไง”

ว่าแล้วผมก็เดินกลับเข้าไปหลังร้าน หยิบเสื้อผ้าได้ก็หันรีหันขวาง ไม่รู้จะหาอะไรมาใส่กลับบ้าน จนเด็กหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมถุงพลาสติกนั่นแหละ ผมยิ้มขอบคุณ ก่อนจะรับมา

“ขอบคุณมากนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ไว้มาใช้บริการบ่อยๆ ก็พอ”

“แน่นอนอยู่แล้วครับ อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยเจอผมน่ะ”

“เอ่อ...เคยสิครับ คุณมาออกบ่อยไป”

“เห็นหรือเปล่า บอกแล้วผมน่ะลูกค้าประจำ”

“ครับๆ รู้แล้วล่ะ” ศิรภัทรยกมือทำท่ายอมแพ้ ก่อนจะเดินนำผมออกไปข้างนอกร้าน

“แล้วนี่คุณจะกลับบ้านยังไงครับ”

“ก็อาจจะรถแท็กซี่ หรือรถเมล์มั๊งครับ พอดีวันนี้รถผมเสียน่ะ”

“ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งไหมครับ”

ผมเสนอย่างมีน้ำใจอยากจะช่วยเหลือคนตรงหน้าพร้อมยิ้มให้ ศิรภัทรยิ้มตอบ หากคำตอบที่ได้รับกลับเป็นการปฏิเสธเสียนี่

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ”

“หรือคุณไม่ไว้ใจผม”

ผมดักคออย่างรู้ทัน ความจริงผมรู้หรอกว่าทำไมคนตรงหน้าถึงไม่ยอมไปกับผม ไม่ใช่ความไว้ใจหรอก คงเป็นความเกรงใจมากกว่า

“ไม่ใช่ครับ...คือผมเอ่อ...”

“ครับๆ เอาเป็นว่าเป็นการตอบแทนที่คุณให้ผมเปลี่ยนนี่” ว่าแล้วผมก็ชี้เสื้อผ้าที่สวมอยู่ แน่นอนเป็นชุดของเขา

“นี่จะปิดร้านกี่โมงครับ”

“ปิดเลยก็ได้ครับ คงไม่มีลูกค้าแล้ว” ว่าแล้วศิรภัทรก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวพลางนำไปแขวนไว้ตรงที่แขวนผ้าริมประตู

“เดี๋ยวผมขอจัดการบัญชีอีกนิดหน่อยนะครับ”

คนพูดเดินนำผมออกไปจากห้องหลังร้าน ก่อนจะเดินไปยังประตูกระจกหน้าร้าน เปลี่ยนป้ายจากคำว่า ‘OPEN’ เป็นคำว่า ‘CLOSE’ แทน ผมจึงเดินไปนั่งหลังเคาน์เตอร์ที่เด็กหนุ่มเช็คบัญชีอยู่อย่างถือวิสาสะ

“เสร็จแล้วครับ”

ไม่เกินสิบห้านาทีหลังจากนั้นผมกับเขาก็พร้อมออกเดินทาง ศิรภัทรเช็คความเรียบร้อยของร้านอีกนิดหน่อย ก็ล็อกประตูหน้า เดินตามมายังรถของผมที่จอดอยู่

“เชิญครับ...”

ผมว่าพลางเปิดประตูเผยมือให้ศิรภัทรเข้าไปนั่ง จนเห็นอีกฝ่ายทำท่าเขินๆ ใส่ ผมก็เลยได้แต่ยืนหัวเราะในความน่ารักขึ้นมา

“คุณหัวเราะอะไรครับ”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

ผมปฏิเสธเสียงใสพลางเดินไปยังฝั่งของคนขับ เมื่อปิดประตูด้านที่นั่งข้างคนขับให้เด็กหนุ่มเรียบร้อยแล้ว บิดกุญแจรถได้ ก็สตาร์ทออกเดินทางในทันที

เวลานี้บนท้องถนนคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์มากมาย อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้าฝนตก การจราจรหลังฝนตกอย่างนี้จึงติดขัดกว่าปกติเพราะผู้คนรอจนแน่ใจว่าฝนหยุดจึงออกเดินทาง ไม่ใช่ว่ากลัวเปียก แต่กลัวเรื่องความปลอดภัยเสียมากกว่า

“หนาวไหมครับ...”

ผมถามทำลายความเงียบขึ้น เมื่อเห็นร่างของอีกฝ่ายดูจะห่อตัวเข้าหากันอย่างคนที่เจออากาศหนาว หากใบหน้าของศิรภัทรกลับส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ

“ไม่หนาวครับ”

“แน่ใจนะ”

ผมยังคงถามต่อ ระหว่างที่รถติดไฟแดงนี้ ผมจึงเอื้อมมือไปด้านหลัง หยิบเอาเสื้อคลุมของชุดสูทสีดำสนิทตัวโตส่งให้เขา

ศิรภัทรทำหน้าลังเลนิดหน่อย ก่อนจะยกมือรับไป

“ขอบคุณครับ แต่ความจริงผมไม่ได้หนาวมากขนาดต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ขนาดนี้สักหน่อย”

เขาอุบอิบว่าเสียยืดยาว แต่ก็ยอมสวมเสื้อคลุมตัวนั้นอยู่ดี ไม่รู้เพราะความหนาวที่รู้สึกมากขึ้น หรือเพราะดวงตาดุๆ ของผมที่มักจะไว้มองน้องๆ เวลาไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน


“คุณชอบเพลงนี้ไหมครับ”

“ครับ?”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วหันกลับมาถามผม หลังจากที่เจ้าตัวเหม่อมองไปยังท้องถนนด้านนอกหน้าต่างรถอยู่นานสองนาน ผมพยักเพยิดในยังเพลงในวิทยุที่กำลังเปิดอยู่

“เพลงนี้น่ะครับ ชอบหรือเปล่า”

“ก็ชอบครับ...แต่มันเหมาะกับคนอกหักมากกว่า”

“ก็ผมอกหักนี่”

ผมว่าต่ออย่างต้องการบอกเล่า ศิรภัทรหันมามองหน้าผม อย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่

“ทำไมล่ะครับ คนอย่างผมอกหักไม่ได้หรือครับ”

“ก็...” คนพูดทำหน้าปั้นยาก “ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอกครับ เพียงแค่คนเอ่อ...หน้าตาดีอย่างคุณ ไม่น่าจะมีคนไม่สนใจนะครับ”

ผมอดหัวเราะเก้อๆ กับคำชมนั้นไม่ได้ “ขอบคุณครับที่ชม...แต่ยังไงผมก็อกหักไปแล้วล่ะครับ” ผมว่าต่อ

“...อย่าซีเรียสไปนะครับ อีกเดี๋ยวคุณก็คงมีใครสักคนมาดามหัวใจเองล่ะครับ”

“โอ๊ย...คุณ พูดยังกับผมจะหาแฟนได้ตามท้องตลาดและร้านค้าชั้นนำอย่างนั้นแหละ”

คนข้างๆ ผมหัวเราะเสียงใส

“ฮ่าๆๆ ตลกจริงคุณนี่ มีมุขได้ตลอด”

“หรือคุณจะเป็นคนดามให้ผมดีล่ะครับ”

ผมว่าพลางทำสายตากริ่มกริ่มใส่ แอบหยอดไปนิด ก่อนทำท่าโน้มตัวไปหาอีกฝ่าย แต่ไม่ทันจะได้ไปเกินยี่สิบองศา เสียงแตรจากรถด้านหลังก็ดังขึ้นมาเสียก่อน   

ผมรีบผละจากการกระทำเมื่อครู่กระชากรถออกตัวอย่างรวดเร็ว เพราะไม่รู้ป่านนี้รถคันหลังจะด่าพ่อล่อแม่กันให้ขนาดไหนแล้ว เล่นเอาคนข้างๆ ที่นั่งข้างคนขับเหวอจับไว้แทบไม่ทัน

“ช้าๆ หน่อยสิครับ”

“ขอโทษครับ แหะ แหะ”

แล้วผมก็ลืม เผลอยกมือเกาหัวซะจนโดยอีกคนเรียกเสียงดัง เพราะปล่อยพวงมาลัยอีกครั้ง

“เฮ้อ! เกือบไปแล้วไหมล่ะ”

ศิรภัทรว่าพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมหันกลับไปยิ้มให้อีกฝ่ายเจื่อนๆ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ระวังแบบนี้

“คุณไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่าครับ”

“ครับ...ไม่เป็นไร” คนฟังทำหน้านิ่ว “นี่ถ้าคุณขับรถคนเดียว ไม่ใช่ชนไปแล้วเหรอเนี่ย”

“ไม่หรอกครับ เพราะถ้าผมนั่งคนเดียว ผมคงไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ”

คำว่า ‘แบบนั้น’ คงทำให้อีกฝ่ายนึกได้ จนต้องหันหน้าหนีไปมองข้างหน้าต่างทันที ทำเอาผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

หลังจากนั้นดูเหมือนจะไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก จนผมต้องถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อถึงทางแยกสองทางซึ่งเป็นเส้นทางไปยังคอนโดมิเนียมของผู้โดยสารจำเป็น

เขาเพียงหันมาตอบ ก่อนจะหันกลับไปมองข้างทางต่อ ผมกลัวเขาจะโกรธจริงๆ  ทำไมไม่พูดกับผมเลยครับเนี่ย

“ที่นี่ล่ะครับ”

“ครับผม”

ผมรีบจอดรถตามที่อีกคนบอก หันไปมองคอนโดมิเนียมสูง ก่อนคนข้างๆ จะเปิดประตูลงมาจากรถ โดยมีผมลงตามไปด้วย

“จะขึ้นไปทานน้ำก่อนไหมครับ”

“ให้ผมขึ้นไปแน่นะครับ”

“อ้าว” ศิรภัทรทำหน้าสงสัย “ทำไมจะไม่ให้ขึ้นล่ะครับ นี่ผมก็อยู่คนเดียว”

“อ้อ....ครับ”

ผมพยักหน้า ก่อนจะเดินไปขึ้นรถอีกครั้ง ขับไปจอดยังที่จอดรถที่มีไว้สำหรับจอดชั่วคราวบริเวณด้านหน้าของตึกนั่นเอง

---



ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #2 เมื่อ09-11-2006 17:23:11 »


“เชิญครับ รกหน่อยนะ”

เขาผายมือเชื้อเชิญแขกอย่างผมให้เข้าไปในห้องเมื่อเรามาหยุดอยู่หน้าประตูที่มีป้ายหมายเลขห้องแปะไว้ชัดเจนว่า ‘410’ ผมพยักหน้ายิ้มให้ พลางเดินตามเข้าไป

“อยู่คนเดียวหรือครับ”

“ใช่ครับ”

เขาหันมายิ้มตอบ ผมเลยถือวิสาสะเดินไปนั่งบนโซฟ้าตัวหนึ่งที่จัดไว้บริเวณที่คาดว่าเป็นห้องรับแขก มองดูอีกคนที่กำลังจัดหนังสือนิตยสาร รวมทั้งหนังสือพิมพ์ต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อยมากขึ้น

“ดื่มอะไรดีครับคุณวินท์”

“น้ำเปล่าก็ได้ครับ...แล้วก็เรียกผมว่าวินท์ก็ได้ อย่ามาคงมาคุณกันเลย”

“ครับ สักครู่นะครับ”

ศิรภัทรว่าไว้แค่นั้น ก่อนเจ้าตัวจะเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กๆ ที่วางอยู่ไม่ไกลนัก ผมหันมองไปยังรอบๆ ห้องอย่างสำรวจ จะว่าผมถือวิสาสะก็ใช่ล่ะ

ห้องนี้ตกแต่งสไตล์เรียบๆ หากดูสบายตา ผนังทุกด้านเป็นสีฟ้าอ่อน รับกับโซฟาตัวสีฟ้าที่ผมกำลังนั่งอยู่ มีโต๊ะรับแขกตัวเล็กระหว่างโซฟาทั้งสามด้าน ผ้าม่านลายดอกไม้เล็กๆ สีฟ้าอ่อนเช่นกัน

“ได้แล้วครับ”

“ขอบคุณครับ”

ผมรับแก้วน้ำทรงสูงมาจากมืออีกคน ศิรภัทรเดินมานั่งยังโซฟาตรงข้ามกับผม ผมก้มลงดื่มน้ำที่อีกคนอุตส่าห์นำมาให้ ก่อนจะวางแก้วลง หันไปมองนาฬิกาบนผนังก็เลยได้เวลาลากลับ

“งั้นผมกลับก่อนนะครับ”

“อ้าว...เพิ่งขึ้นมาทำไมรีบกลับล่ะครับ”

“อ๋อ พอดีผมนึกได้ว่ามีธุระน่ะครับ เอ...หรือผมจะอยู่กับคุณต่อดี คุณต้องเหงาแน่ๆ ใช่หรือเปล่าครับ”

ผมว่าพลางทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ ก็เลยได้ค้อนวงโตตอบกลับมาเสียนั่น ผมหัวเราะขำ ก่อนจะพาตัวเองไปยังประตู

“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับเสื้อผ้า ไว้ผมจะซักมาคืนให้”

“ครับ ไม่ต้องรีบก็ได้”

“งั้นผมกลับล่ะครับ ไม่ต้องไปส่งหรอก”

“ครับผม”

ศิรภัทรยิ้มให้ ผมจึงยิ้มตอบพร้อมทั้งกล่าวลา

ถึงแม้ไม่ได้คุยกันมากมาย...หรือคบกันมาเป็นปีๆ แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกดีกับคนตรงหน้าเป็นพิเศษ


หรือสายฝนจะส่งคนบนฟ้า


...คนที่เฝ้าใฝ่หามาตลอดมาให้กันนะ


---

“สวัสดีครับ”

เสียงที่ถูกส่งมาจากหลังเคาน์เตอร์ทำให้ผมยิ้มออก เสียง ‘คนบนฟ้า’ ที่สายฝนส่งมาให้ผม

“สวัสดีครับ”

“ครับ...วันนี้ไม่มีงานหรือครับ”

“อ๋อ...พอดีไปพบลูกค้ามา คงไม่เข้าบริษัทแล้วล่ะ”

ผมว่าพลางเดินนั่งยังโต๊ะประจำ ทุกวันนี้ผมมักจะแวะเข้ามาทานกาแฟ หรือของว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังเลิกงาน จะเพราะด้วยกาแฟรสนุ่มกับขนมอร่อยๆ หรือเพราะคนตรงหน้าคอยบริการผมก็ไม่ค่อยแน่ใจในตัวเองเท่าไหร่นัก

“นั่งด้วยกันก่อนสิ”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพัทต้องทำงานก่อน” 

สรรพนามที่ใช้ในการเรียกเปลี่ยนไป เมื่อผมกับเขาสนิทกันมากขึ้น จากที่คอยแทนตัวเองว่าผม ก็กลายเป็นว่าแทนด้วยชื่อตัว ดูน่ารักไปอีกแบบนะผมว่า...

จนเมื่อเหลือลูกค้าคือโต๊ะผมตัวเดียวนั่นแหละ เขาถึงมาทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามผม

“เหนื่อยไหมพัท เห็นวิ่งวุ่นอยู่คนเดียว”

“ก็เหนื่อยนะครับ แต่สนุกด้วยแหละ”

“แล้วนี่งานไปถึงแล้วล่ะ มัวแต่ทำงานจะเสร็จไหมล่ะ”

“ก็ใกล้แล้วครับ...กำลังตรวจความเรียบร้อยน่ะครับ”


“คืนนี้ไปดูหนังกันไหม”

อยู่ๆ ผมก็เปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ จนทำเอาอีกคนชะงักมองใบหน้าผมอย่างงงๆ ผมยิ้มหวานให้ พลางย้ำอีกครั้ง

“คืนนี้ไปดูหนังกับพี่ไหม เดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“เอ่อ...”

เขาทำหน้าลังเลนิดหนึ่ง จนผมต้องถามอย่างสงสัย

“มีธุระเหรอ งั้นไม่เป็นไรไว้คราวหน้าก็ได้”

“ปะ เปล่า ไปครับ”

จากนั้นผมก็นั่งจิบกาแฟ ทานเค้กช็อกโกแลตไปพลาง มองเด็กหนุ่มทำงาน ‘คนบนฟ้า’ ที่สายฝนส่งมาให้ผม อดยิ้มน้อยๆ กับความคิดนี้ไม่ได้ ถึงจะเจอกันเพียงแค่ไม่นานนัก แต่ผมกลับรู้สึกดีกับศิรภัทรอย่างบอกไม่ถูก

แม้ศิรภัทรจะไม่ใช่คนน่ารัก หรือดูดีเสียมากมายในสายตาใครๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขามีอะไรที่ดึงดูดให้อยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆ  ให้คอยดูแลคอยเอาใจใส่

ถ้าหากความรู้สึกนี้มันคือ ‘ความรัก’ ผมก็อยากจะลองรักดูอีกสักครั้ง เมื่อมีโอกาสในตอนนี้ผมก็อยากจะฉกฉวยเอาไว้ ไม่ใช่ยืนมองปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลยเหมือนคราวก่อนๆ

---

“พัท”

“ครับ?”
 
คนข้างๆ ผมเงยหน้าขึ้นมาจาการดูเครื่องประดับเงินรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน สร้อยข้อมือที่ตู้แสดงสินค้าตรงหน้าซึ่งเจ้าตัวดูจะสนใจเป็นพิเศษ

“ชอบเส้นนั้นเหรอ”

ผมว่าพลางชี้ไปยังสร้อยเงินเส้นหนึ่งที่มีจี้เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวดูน่ารักใช่หยอก

“ก็สวยดีครับ...”

“งั้นพี่ซื้อให้เอาไหม”

“เฮ้ย! พี่จะมาซื้อให้พัททำไม ไม่ต้องหรอก”

“ครับผม”

“หนังจะเข้าแล้ว พัทว่าเราไปดูหนังกันเถอะ”

ว่าแล้วศิรภัทรก็เดินนำผมไปยังบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของห้าง

หนังที่เราเลือกดูเป็นหนังคอมมาดี้ตลกๆ ที่ผมกับเขาชอบดูเหมือนๆ กัน เราคิดตรงกันว่า หากในชีวิตประจำวันของเรามีเรื่องให้คิดเสียมากมายแล้ว เราจะมาดูหนังเครียดๆ กันอีกทำไม 

เราเข้าไปในโรงเมื่อเหลือประมาณห้านาทีก่อนหนังจะฉาย ดูตัวอย่างหนังไปพลาง กินข้าวโพดถังใหญ่สำหรับสองคนและดูดแป๊บซี่ที่ซื้อเข้าไปคนละแก้วที่ศิรภัทรดื้อที่จะจ่ายให้ เพราะจะได้ ‘แฟร์ๆ’ กัน

ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าดำเนินไปเป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม หากผมคิดว่ารวมๆ แล้วผมดูไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงได้กระมัง เพระมัวแต่นั่งมองใบหน้าของอีกคนหัวเราะร่วนกับภาพตรงหน้าอยู่แทน ดูน่ารัก สดใส แล้วก็เป็นตัวของตัวเองดีจริงๆ

มีบ้างที่คนถูกมองจะหันมาพร้อมกับเลิกคิ้วถาม แต่ผมก็ส่ายหน้าเสหันไปกลับมองหน้าจอภาพยนตร์เสียทุกครั้ง เจ้าตัวคงรู้แล้วหล่ะว่าโดนแอบมองอยู่ ไม่งั้นผมคงจะไม่สังเกตเห็นใบหน้าระเรื่อของอีกฝ่ายเมื่อโรงหนังสว่างจากแสงในจอภาพยนตร์เป็นแน่


“เดี๋ยวพัทรอพี่ตรงนี้แป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่มา”

“ครับ”

ศิรภัทรตอบรับพร้อมกับใบหน้างงๆ ผมเห็นเขานั่งลงตรงเก้าอี้เพื่อรอดูหน้าโรงภาพยนตร์  ก่อนผมจะวิ่งรีบกลับมาภายในสิบนาที ดีที่เขายังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนเสียก่อน
 
“ไปไหนต่อไหม”

ผมถามพร้อมรอยยิ้ม

วันนี้ผมมีความสุขจริงๆ  ศิรภัทรก้มมองนาฬิกาข้อมือ

“จะห้าทุ่มครึ่งแล้วพี่ กลับกันดีกว่า”

“ครับ”

ผมพยักหน้าตกลง มันก็จริงอยู่นี่ก็ดึกแล้ว ไอ้ครั้นจะไปไหนก็คงจะไม่ได้ อีกอย่างพรุ่งนี้อีกคนต้องเปิดร้านด้วย กว่าจะตื่น กว่าจะไปที่ร้าน สายกันพอดี

ผมจัดการขับรถพาอีกคนมาส่งถึงที่ ศิรภัทรที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ หันมาถามผมอย่างไม่แน่ใจ

“ว่าไงครับพัท” 

“ขับรถดึกๆ อันตรายนะครับ พัทว่าพี่นอนห้องพัทก่อนไหม พรุ่งนี้ค่อยกลับ”

“อ๊ะ...”

ผมครุ่นคิดนิดนึงและก็ตกลงในที่สุด ขับรถไปจอดไว้ใต้ตึกคอนโดมิเนียม ก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสี่ซึ่งเป็นห้องพักของอีกคน

จัดการตัวเองจนเรียบร้อยเราก็มานั่งกันอยู่บนโซฟาตัวสีฟ้าหน้าโทรทัศน์ตัวเดิม หากกดรีโมตไปมาก็ไม่เห็นจะมีรายการอะไรน่าดูนัก จนแยกย้ายกันจะไปนอนแล้วนั่นแหละ

สมองผมก็ครุ่นคิดวุ่นวายไปหมด

วันนี้ดีไหม...หรือไว้ก่อนดี

วันนี้ล่ะวะ!

“พัท”

ไม่ทันเสียแล้ว สมองกำลังกลั่นกรองไหงปากมันพาเรียกอีกคนที่กำลังก้าวผ่านหน้าไปเสียแล้วนี่ หนำซ้ำยังไปจับข้อมือเขาไว้อีกต่างหาก จนคนถูกเรียกไว้หันมามองผมอย่างไม่สงสัย

แต่เมื่อตัดสินใจจะทำอะไรไปแล้ว...เราก็ต้องเดินหน้าต่อ ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร เสี่ยงแค่ไหน แต่ถ้าสำเร็จมันก็น่าลองไม่ใช่หรือ

“พัท”

ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าซ้ำอีกครั้ง พลางมองลึกเข้าไปในดวงตาสีสนิมของอีกฝ่าย ยกมือของเด็กหนุ่มทั้งสองข้างขึ้นมาเกาะกุมไว้อย่างมั่นคง

“รู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับพัท”

จนเด็กหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ ผมจึงพูดต่อ พยายามบังคับเสียงให้หนักแน่นสื่อให้คนตรงหน้าเห็นความตั้งใจจริงของผม

“วันนี้พี่จะขอบอกพัทตรงๆ

...ผลลัพท์จะเป็นยังไงพี่ก็จะยอมรับ ขอให้พัทบอก

พี่อยากบอกว่า พี่ชอบพัทนะ”




“เอ่อ...” เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเรา




“ขอบคุณครับที่รับฟังพี่” ผมว่าต่อเมื่อเห็นอีกคนยังนิ่งเฉยอยู่จนน่าใจหาย “งั้นพี่ไปนอนละนะ”

ผมก้มหน้าเดินผ่านไปอีกทางเพื่อจะไปยังห้องนอนอีกห้องที่เขาจัดไว้ให้ แต่เดินไม่ทันจะเกินห้าก้าว เสียงเรียกของอีกคนก็หยุดขาผมไว้เสียก่อน จนต้องหันกลับมามอง

“พี่วินท์”

“ครับ...”

“พัทก็ชอบพี่วินท์”

“ว่าไงนะ พี่ไม่ได้ยิน”

ผมว่าพลางทำหน้าสงสัย เดินไปยืนข้างหน้าอีกคน ก่อนจะมองใบหน้าใสที่ค่อยๆ เรื่อขึ้น

“พัทว่าไงนะ”

“เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ”

“อ้าว ตะกี๊ยังบอกว่าชอบพี่อยู่เลย”

ศิรภัทรเงยใบหน้าแดงๆ ขึ้นมาถลึงตาโกรธๆ ใส่ผมอย่างรวดเร็วจนผมตกใจว่าทำอะไรผิดไป

“งั้นตะกี๊พี่วินท์ก็ได้ยินอ่ะดิ่ว่าพัทพูดอะไร แล้วยังจะมาถามอีก”

ว่าแล้วศิรภัทรก็เบี่ยงตัวจะเดินกลับห้องนอนไปด้วยใบหน้างอง้ำหากแดงก่ำในคราวเดียวกัน แต่ผมก็มือไวพอจะคว้าอีกฝ่ายมาไว้ในอ้อมกอดได้ทัน

“พี่ขอโทษนะ พี่ก็แค่อยากได้ยินพัทบอกชอบพี่หลายๆ ครั้งนี่”

“แล้วมาแกล้งพัทนี่นะ”

“พี่เปล่านะ”

ผมค่อยๆ ดันตัวเด็กหนุ่มออกจากอ้อมกอด หยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะจัดการใส่ให้ร่างตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

“สร้อยที่ดูเมื่อตอนค่ำ?”

“ครับ พี่เห็นพัทอยากได้ แล้วชอบไหมครับ”


“เอ่อ...ชอบครับ...”

แต่ก่อนจะอีกฝ่ายจะได้พูดอะไรต่อ ผมก็ชิงพูดตัดหน้าออกมาเสียก่อน



“พัทเป็นแฟนพี่นะครับ”

“เอ่อ...”

“นะครับ”


“ก็...ครับ”



...อึ๊บ...

“เฮ้ย! พี่วินท์ปล่อยพัทลงนะ จะมาอุ้มพัททำไมเนี่ย”

“ก็เข้าหอไง”

“เข้าหออะไรเล่าพี่วินท์ ปล่อยพัทลงเดี๋ยวนี้น้า”

“ไม่ปล่อย...”


ไม่ทันที่คนในอ้อมกอดจะได้พูดอะไรต่อ ผมก็รีบพาอีกคนสาวเท้าไปยังห้องนอนแรกซึ่งติดกับห้องรับแขกทันที




...ปัง...






(เสียงประตู)



---


เอาเรื่องสั้นมาฝากไว้หนึ่งเรื่องครับ
พอดีไปค้นเจอใน "กรุเก่าๆ" ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเคยแต่งไว้ -O-
ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกไว้ได้นะฮะ ^^

เป็นเรื่องที่แต่งไว้นานพอสมควรแล้ว หุหุ อาจจะมีคนอ่านบ้างแล้ว (มั๊ง?)
เด๋วว่างๆ จะเอาลงให้อ่านกันอีกนะฮะ
รวมทั้งเรื่องยาวด้วย รอให้มีเวลา (+อารมณ์...แต่งนะครับ ไม่ใช่อย่างอื่น) ก่อน แล้วจะมาลงนะครับ


 :-[

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #3 เมื่อ09-11-2006 20:39:01 »

เยส!!~  ซิงกระทู้แรก

555+...สนุกดีครับ  << ....ถ้ามีฉากเรทจะมันกว่านี้

ว่าไปนั่น  ที่นี่เขาห้ามโพสต์เรทนี่นา  หุหุหุ

แต่ก็มีบางคนแอบโพสต์  <<...หรือไม่แอบก็ไม่รู้

เอามาลงอีกเยอะๆนะครับ

ผมจะรออ่าน

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #4 เมื่อ10-11-2006 15:30:19 »

อ่ะ


อารายเนี้ยะ :laugh:


ค้างคามั้กมัก :o


มาต่อไวไวเลย







ปล.



หรือว่าจบแล้วครับ



พูห์ :teach:




No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #5 เมื่อ24-11-2006 15:22:13 »

มาต่อไวๆๆ นะค๊าบบ

อิอิ

supermansk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #6 เมื่อ20-03-2007 11:54:22 »

 :dont2: ชีวิตจริงมีงี้ไหมเนี่ย

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #7 เมื่อ20-03-2007 12:43:42 »

 :haun4: ชอบฉากสุดท้ายจัง

ปัง



(เสียงปิดประตู)  :haun4: :haun4:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #8 เมื่อ20-03-2007 13:10:44 »

มาทิ้งไว้ให้คนอ่านค้างอีกเรื่องนุงแระ หึหึ  :haun4:

KevinKung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #9 เมื่อ10-04-2007 19:17:43 »

น่ารัก มาก ๆ ครับ  :รักจัง11:
อ่านไปเคลิ้มไป  :haun1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
« ตอบ #9 เมื่อ: 10-04-2007 19:17:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #10 เมื่อ10-04-2007 19:25:22 »

เป็นเรื่องสั้นที่จบได้ค้างคามั่ก ๆ  :haun4:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #11 เมื่อ10-04-2007 21:35:41 »

ชอบอ่า บรรยากาศประทับใจดี  :impress: :impress:

แต่เสียงปิดประตู นี่กระชากวิญญาณเหลือหลายนะ  :kikkik: :kikkik:

actboyz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #12 เมื่อ18-04-2007 13:26:41 »

ตามมาอ่านแล้วนะครับ...  :yeb:
เขียนเรื่องได้ดีอีกแล้วอ่า ชอบ ๆ อ่านไปก็ยิ้มไป  :-[
เฮ้อ...  :เฮ้อ:  เราจะเจออย่างนี้บ้างมั๊ยนะ  :monkeycry4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #13 เมื่อ18-04-2007 17:46:19 »

เหอเหอ

่อ่านไป ทำไมคุ้นๆ

ใครขุดทู้นี้ขึ้นมาหวา

555555

 :pandalaugh:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #14 เมื่อ18-04-2007 17:54:43 »

เหอเหอ

่อ่านไป ทำไมคุ้นๆ

ใครขุดทู้นี้ขึ้นมาหวา

555555

 :pandalaugh:


จิ๊ๆ

งอน*

 :angry2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #15 เมื่อ22-04-2007 22:18:36 »

 :จ้อบจัง1:  ตามมาอ่านแว้ววว
     จบได้ค้างคา ให้จิ้นกานต่อเหมือนเดิมเลย หุหุ  :haun1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #16 เมื่อ22-04-2007 23:20:54 »

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #17 เมื่อ24-04-2007 15:06:58 »

มีความลับไรกันหรอ
 :myeye:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #18 เมื่อ25-04-2007 14:57:54 »

สั้นสั่นประสาทดีแท้

คราวหน้ามีตยนะเคอะถ้าจบแบบนี้อีก

ปล. ปลาทองเคอะ  เจ้อยากกินหมูย่างเมืองตรังจังเลยเคอะ หวังพึ่งพานังแดนนี่มันไม่ได้เลย ชิส์

chanchouw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #19 เมื่อ05-07-2007 16:26:35 »

อืม น่ารักดีคับ แต่ชีวิตจริงมันจะมีไหมเนี่ย :laugh3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
« ตอบ #19 เมื่อ: 05-07-2007 16:26:35 »





ออฟไลน์ Daow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #20 เมื่อ15-07-2007 13:36:54 »

คลาสสิค!!!!

เอ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าอุ้มกันเข้าไปในห้อง แล้วไปทำอะไรกันต่อน้า :m12: :m12:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #21 เมื่อ27-08-2007 11:56:04 »

 :m4: น่ารักดีคับเรื่องนี้
ชอบอย่างแรง

thomaskung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #22 เมื่อ02-09-2007 20:57:20 »

 :a11:
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึก ลัลล้า จริงๆ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #23 เมื่อ03-09-2007 00:35:57 »

มาอ่านแล้วนะคับ ท่าทางน่าจะสนุกดี

reu_aha

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #24 เมื่อ11-03-2008 22:33:47 »

น่ารักจัง

ดำเนินเรื่องง่ายๆดี
แต่บรรยากาศสวย o13

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #25 เมื่อ11-03-2008 23:39:00 »

เข้ากับบรรยากาศวันฝนตกพอดีเลย  :m1:

sirasyung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #26 เมื่อ19-03-2008 19:00:30 »

เหม ๆ จบแล้วใช่มะ

ค้าง....คา....มากเลยนะ  :serius2:

กะเสียงประตูนั่นน่ะ  หึ่มมมมมม..... :angry2:

tsuya

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #27 เมื่อ11-04-2008 23:05:52 »

จบได้ค้างคาใจดีจริงๆ :m16: :m16:

หลังประตูนั้นมีไรน้า  อิอิ


RinRin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #28 เมื่อ25-04-2008 15:46:37 »

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ว้าววววววววววววววว

น่ารักจังเลยค่ะ..... แต่ว่า.... อยากอ่านมุมของพัทบ้างจังค่ะ

 :m13: :m13: :m13:

คนเขียนจะใจดีเขียนให้หรือเปล่าน้ออออออ


 :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:

faceless!~

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Shot Story] ‘La situation de l’amour’ by OgaRyu
«ตอบ #29 เมื่อ28-06-2008 18:37:18 »

น่ารักจริง ๆ เล้ยย

ชอบ ๆ

แต่แอบเคือง ไม่เขียนต่อว่าทำอะไรกันหลังประตู

 o7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด