}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170330 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราชอบผัดเผ็ดหมูป่าค่ะ555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เป็นตาแซ่บเน๊าะ



ปาดน้ำลายกันเลยทีเดียว ซู๊ดดดดดดด

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่18 สนใจ

   กินข้าวเสร็จซันขับพาทุกคนกลับมาที่มหา’ลัยแล้วแยกกันไปเรียน ถึงเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ใช่ว่าตัวต้องติดกันตลอดเวลา ยิ่งแต่ละคนเรียนต่างคณะต่างสาขายิ่งไม่ต้องพูดถึง

   พอเลิกเรียน ผมเดินพร้อมกับฝูงชนที่แห่กันออกจากห้องเหมือนวันปล่อยผี เสียงเอะอะทักทายสอบถามดังไปทั่วทางเดิน ขนาดอาจารย์โผล่หน้ามาด่ารอบแล้วรอบเล่ายังไม่สำนึก บทสนทนาส่วนใหญ่ ถ้าไม่บ่นเรื่องชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา ก็จะชวนกันไปต่อตอนกลางคืน

   ผมเองมีหลายคนชวนด้วยเหมือนกัน แต่แผลที่ปากยังไม่ทันจะหาย ผมไม่อยากออกไปซ่าให้ซันมันองค์ลงอีก เลยทำตัวเป็นเด็กดี บอกปัดเพื่อนแล้วลงมาชั้นล่างหมายจะโทรหาคนขับรถส่วนตัว

   “เฮ้ย ถ้ามึงจะโทรหาซันกูว่าไม่ต้องละ”

   แม็คโผล่มากอดคอ ด้านอาร์ทที่เพิ่งเข้ากลุ่มด้วยไม่นาน เผ่นไปหาแฟนสาวตั้งแต่ยังอาจารย์ปล่อยออกจากห้อง

   “ไมวะ จะเล่นมุกบอกมึงอิจฉานี่ไม่ได้นะ เพราะมึงเองก็กำลังจะไปหาแฟนไม่ใช่ไง”

   ส่วนใหญ่มีแฟนกันหมด สวยๆ ทั้งนั้น แม็คมันส่ายหัวหวืด บุ้ยปากไปด้านหน้าคณะเห็นรถคุ้นตา คนคุ้นเคยกำลังยืนเต๊ะจุ้ยพิงประตูรถคุยกับเพื่อนข้างตัว พอเพื่อนตัวเล็กเห็นผม เจ้าตัวเรียกชื่อโบกไม้โบกมือให้ร่าเริงไม่สังเกตสายตาสาวคณะนี้เลยว่าอย่างพุ่งเข้ามาหาแค่ไหน หากไอ้ซันไม่ยืนคุมเชิงอยู่ คิดว่าโดนรุมชัวร์!

   ผมหวั่นว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต้องรีบพาสองตัวเด่นออกไปจากคณะไวๆ

   “ขอบใจที่บอก กูไปก่อนนะ”

   “เออๆ กลุ่มมึงนี่น่าอิจฉาจริงๆ มีแต่พวกหน้าตาดี” มันจิ๊ปากอย่างขัดใจ ผมทำหน้าใสซื่อ

   “ทำใจว่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วง พักหลังกูไม่ค่อยได้อยู่กับมึงแล้ว ไม่มีคนหน้าตาดีแย่งซีน หลังจากนี้มึงจะได้เป็นที่สนใจกับเขาบ้าง ดีใจด้วยนะเพื่อน”

   “นั่นสิ มึงพูดจามีเหตุ...ไอ้สัตว์โป้ หลอกด่ากูเรอะ!!”

   “กูป๊าวว!” ลากเสียงยาวเดินเนียนไปหาไอ้ซัน แม็คมันชี้ตัวผมแต่จ้องหน้าซันเป็นเชิงบอกว่า ดูแลเมียมึงด้วย ไอ้ซันก็รับมุกดีเหลือเกิน คว้าคอผมไปกอดแล้วยกคิ้วกวนทำมือโอเค พวกมึงไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหน คงไม่ใช่ว่าพวกมึงแอบคบชู้สวมเขากูหรอกนะ!

   “คิดอะไรมึง ทำหน้าตลกชิบ” ซันก้มหน้ากระซิบคุย จำเป็นต้องใกล้ขนาดนี้ไหม แล้วปอนด์ที่ทำหน้าฟินอยู่ข้างๆ นั่นยังไง

   ผมแสร้งทำหน้าเคร่งเครียดดันมันออก นี่มันที่เปิดโล่งเว้ยคิดจะทำอะไร “กูกำลังคิดว่ามึงกับแม็คดูสนิทกัน พวกมึงแอบคบกันลับหลังกูรึเปล่า”

   ซันตัวแข็งทื่อ ปอนด์ขำพรืด หัวเราะจนน้ำตาไหล

   “ฮ่าๆ จิ้นไม่ออกเลย ถึกเป็นหมีควายทั้งคู่ คิดภาพมากอดคอกันแบบพวกนายแล้ว โอ๊ยย ต่อให้หนุ่มวายอาวุโสอย่างพี่เฟย์ก็จิ้นไม่ลง!”

   ดึงสติกลับมาได้ พี่ท่านเริ่มโวยวาย “ขึ้นรถกันให้หมด!” พูดพลางเปิดประตูยัดผมเข้ารถ แกล้งมันวันละนิดจิตแจ่มใส วันนี้ป่วนไว้หลายคนรู้สึกมีความสุข

   ปัง!

   เจ้าของรถปิดประตูแบบไม่ถนอม ตวัดมองจ้องเขม็ง ผมยกมือสองข้างแบบยอมแพ้

   “ใจร่มๆ กูแค่พูดเล่นเอง”

   “ขำบ้าขำบออะไร ดูแขนกูหนิ ขนลุกไปหมดแล้ว วันหลังอย่าพูดแบบนี้อีกนะ พูดเล่นก็ห้าม กูไม่มีทางมองคนอื่นนอกจากมึงแน่นอน”

   มันยกแขนให้ดู ขนมันลุกเป็นหนังไก่ ผมทั้งขำทั้งเขิน มันพูดบ้าอะไรไม่เกรงใจคนที่นั่งจ้องตาแป๋วด้านหลังเลยนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่หน้าคณะตัวเองผมคว้ามันมาจูบตอบแทนวาจาน่ารักๆ

   “เอาเลยตามสบาย คิดซะว่าฉันไม่มีตัวตน เป็นเพียงอากาศ” ปอนด์ยกสองมือปิดตาแต่แหวกนิ้วซะกว้าง ผมกับซันยื่นแขนไปดันหัวคนละทีด้วยความหมั่นไส้ เพื่อนตัวเล็กมันน่ารักจริงให้ดิ้นตาย แต่น่ารักแบบผู้ชายนะ ดูสดใสร่าเริงมีชีวิตชีวาอยู่ด้วยแล้วมีความสุขดี ผมถึงถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ ซันเองก็ไม่ต่างกัน

   “แล้วไมวันนี้มาด้วยล่ะ หรือจะแวะไปเที่ยวห้องพวกฉัน?”

   “ไม่ใช่อะ พอดีว่าอยากแวะร้านหนังสือ แต่ตอนนี้เพิ่งเลิกเรียนที่ป้ายรถเมล์คนเยอะมาก เลยขอให้ซันไปส่ง ยังไงก็เป็นทางผ่าน อยากแวะมารับโป้ด้วย ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ตามไปเป็นก้างขวางคอที่รังรักพวกนายหรอก”

   เจ้าตัวแลบลิ้นทะเล้นมองมาทางผมอย่างรู้ทัน เห็นแบบนี้ผมว่าปอนด์ไม่ใช่พวกไก่กา การคบกับคนอายุมากกว่า อาศัยความรักอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีความเข้าใจและมีเหตุผลด้วยถึงจะอยู่กันยืด

   สิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการคือความมั่นคงจริงจัง มันมีความกดดันเจือจางอยู่ เทียบกันแล้วการคบกันระหว่างผมกับซันดูเหมือนเด็กเล่น แค่คำว่าแฟน อยู่ด้วยกัน หยอกล้อกันไปวันๆ มันไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกลึกๆ ข้างในหรอก เอาความจริง ทุกวันนี้ผมยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองเลยว่ายังไงกันแน่ ฝั่งซันนี่ผมไม่รู้ เพราะผมไม่มีวิชาอ่านใจคน

   ผมชอบซันนะ ให้อยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็มีความสุขดี แต่อนาคตข้างหน้าเราไม่อาจรู้ได้ ผ่านไปหนึ่งปี สองปี เข้าสู่วัยทำงาน ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกผมจะพัฒนาไปทางไหน หากมองในแง่ร้าย มันอาจจะเป็นแค่ประสบการณ์มีแฟนครั้งหนึ่งในชีวิต

   แค่คิดก็ปวดใจแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย...

   “โป้ เป็นอะไรรึเปล่า” ปอนด์ถามด้วยความเป็นห่วง หลังสังเกตสีหน้าเพื่อนมาได้สักพัก ซันเองก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไป เพราะขับรถเลยหันมามองตรงๆ ไม่ได้ ทำได้แค่ชำเลืองมองอย่างสงสัย

   “ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดเรื่องงานกลุ่มนิดหน่อย”

   “เพื่อนในกลุ่มมึงมีปัญหา? แม็ค อาร์ท ใคร? หรือไอ้ปากหมาวันนั้น” พูดถึงตรงนี้ซันกำพวงมาลัยแน่นขึ้น บ่งบอกว่ายังไม่พอใจอยู่ ผมคงต้องฝากเพื่อนมันไปเตือนให้คนดวงซวยนั่นแล้ว อย่าริบังอาจเสนอหน้ามาให้ซันเห็น ไม่แน่อาจเจอตีนได้

   “ไม่ใช่ๆ กูมนุษย์สัมพันธ์ดีขนาดนี้ จะมีปัญหาแบบนั้นได้ไง แค่กูคิดงานไม่ออกเท่านั้นเอง” ผมรีบแก้ตัว ไม่น่ายกหัวข้อนี้มาเลยตู ปอนด์แสดงสีหน้าไม่เชื่อเท่าไหร่แต่ไม่เซ้าซี้เพิ่ม ส่วนซันมันบื้อ ช่างมันเถอะ

   “ก็แล้วไป แต่มีอะไรต้องบอกกู เข้าใจนะ”

   “คร้าบๆ คุณพ่อ” ผมรับคำ ปอนด์มองผมกับซันสลับไปมาเอียงคอครุ่นคิดบางอย่าง สุดท้ายก็ถอนหายใจคล้ายจะปล่อยวาง

   “ก็ทั้งคู่นั่นแหละ มีอะไรมาปรึกษาฉันได้ หรือถ้าไม่ชัวร์ถามพี่เฟย์ก็ได้” เพื่อนตัวเล็กทิ้งท้ายด้วยความหวังดี ก่อนจะลงจากรถวิ่งลิ่วเข้าห้างไป

   “ดูเหมือนจะทำให้เพื่อนเป็นห่วงแฮะ”

   “เพราะมึงนั่นแหละ จู่ๆ ก็เงียบไป แล้วตกลงมึงต้องไปช่วยงานรุ่นพี่เขาเมื่อไหร่”

   มันทักผมถึงนึกขึ้นได้ มัวแต่คิดเรื่องนู่นนี้จนลืมไปซะสนิท ซันเองก็คงรอจังหวะอยู่ด้วยกันสองคนถามรายละเอียด

   “งานมีวันพุธตอนบ่าย แต่พรุ่งนี้กูต้องไปฝึกมือตอนเย็นว่ะ ไม่ได้จับเครื่องทอผ้าตั้งแต่เข้ากรุงเทพ กลัวจะทำพลาด”

   “โอเค เดี๋ยวกูไปกับมึงด้วย”

   ผมหันขวับ มันจะมาด้วยทำไม ถ้าบอกว่าอยากมานั่งดูผมฝึกทอผ้าไม่ใช่มั้ง นิสัยซันไม่โรแมนติกขนาดนั้นหรอก!

   “ทำไม หรือมันเป็นความลับที่ให้คนนอกเข้าไปดูไม่ได้”

   “ไม่อะ งั้นเดี๋ยวกูบอกพี่เขาอีกทีแล้วกันว่าจะมีคนตามไปด้วย แต่มึงไม่มีเรียนบ่ายนี่หว่า มึงจะแช่รอที่มหา’ลัยจนเย็นเลยเรอะ”

   ซันยักไหล่แบบไม่เดือดร้อน ในเมื่อตัวมันไม่มีปัญหา ผมก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ผมส่งข้อความบอกพี่แอมเรื่องซัน พี่เขาตอบตกลงเร็วมาก ยังบอกอีกว่า วันงานให้พาเพื่อนมาทั้งกลุ่ม ไม่รู้ผมคิดเองรึเปล่านะ พี่แอมดูกระตือรือร้นกับคำว่าเพื่อนผมแปลกๆ

   วันต่อมา ซันเอารถมาอีกเช่นเคย เพราะไม่รู้ว่าผมจะอยู่จนเย็นแค่ไหน จะได้ไม่ต้องไปยืนรอรถกันมืดๆ ค่ำๆ ผมนัดกันซันไว้ให้มันไปไหนก็ไป ไว้ผมเลิกเรียนค่อยไปเจอกันที่ประจำ

   ทางเดินใต้ร่มไม้ภายในมหา’ลัย มีนักศึกษาเดินกันประปราย ผมแยกตัวกับพวกแม็คเพื่อมุ่งหน้าไปจุดนัด แดดตอนเย็นไม่ร้อนเท่าไหร่ สามารถเดินกินลมชมวิวได้ เห็นหลังซันนั่งอยู่กับพวกมิทไกลๆ ไม่ทันจะเดินไปดันมีเสียงเรียกจากทางด้านหลังซะก่อน

   “โป้ๆ รอเดี๋ยว”

   เสียงเรียกปนหอบจากการวิ่ง ผมหันไปมองพบผู้ชายหน้าตาดี ลุคสะอาด

   “เก้า?”

   “ดีใจจังที่ยังจำได้ พรุ่งนี้โป้จะไปช่วยงานที่คณะศิลปกรรมเหรอ”

   “ก็ใช่ นายรู้ได้ไง” นั่นสิมันรู้ได้ไง ผมกับเก้าเหมือนเป็นแค่คนรู้จัก เจอกันครั้งสุดท้ายตอนผมทำเสื้อขาดแล้วซันโผล่มาหาถึงคณะ หลังจากนั้นก็ไม่เจออีกเลย ผมเลยลืมไปซะสนิท

   “เรื่องของโป้ฉันรู้ทุกอย่าง ขอโทษนะ พักหลังกิจกรรมเยอะมากฉันเลยไม่ได้ไปหา” หนุ่มหน้าใสพูดอย่างภูมิใจ แต่คนฟังรู้สึกขนลุกชอบกล มันเป็นสตอล์กเกอร์รึเปล่า

   “ไม่เป็นไร ฉันไปก่อนนะ” ไปดีกว่าผม ไอ้มิทหันมาเห็นผมแล้วด้วย

   จู่ๆ แขนถูกคว้าไว้อย่างกับนางเอกในละคร ผมหันไปขมวดคิ้วมองเก้าดึงแขนออกแบบเนียนๆ

   “โป้ พรุ่งนี้ฉันขอไปดูด้วยนะ”

   “ตามใจสิ เข้าฟรีไม่ได้เสียค่าเข้าสักหน่อย”

   “โป้มีแฟนแล้วใช่มั้ยถึงได้เมินกันแบบนี้ ตอนแรกยังดูสนใจกันอยู่เลย” น้ำเสียงมันดูไม่ค่อยพอใจ ผัวกูนั่งหัวโด่อยู่นั่นจะอะไรนักหนาวะ ผมหันขวับมายืนประจันหน้า พูดตรงๆ ให้มันจบไปเลยดีกว่า

   “นายบอกว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน น่าจะรู้นะว่าฉันคบกับใครอยู่” มันอึ้งไปเหมือนผมย้อนมันบ้าง อาจจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่สำหรับคนแบบนี้ควรจะพูดไปตรงๆ ดีกว่า มัวแต่ใจดีกลัวเขาเสียใจจะกลายเป็นการให้ความหวังแล้วเรื่องมันจะวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม

   “ใช่ ฉันรู้ รู้ด้วยว่าซันเป็นผู้ชายแท้ๆ โป้คิดเหรอว่าจะเปลี่ยนผู้ชายคนหนึ่งเป็นเกย์ง่ายๆ ฉันเห็นมาหลายคนแล้ว สุดท้ายก็เลิกกันหันกลับไปคบผู้หญิงอยู่ดี”

   ถูกจี้ใจดำเข้าอย่างจังจนอารมณ์ฉุนกึก ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายามไม่นึกถึงเรื่องนี้ แล้วเก้าเป็นใครถึงมาพูดจาหมาไม่แดก ผมแสดงสีหน้าชัดเจนมากว่าไม่พอใจ เก้านิ่งไปเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองหลุดพูดอะไรออกมา หลังจากนี้แค่คำว่าเพื่อนผมก็ไม่มีให้

   “รีบไปซะก่อนที่กูจะชกมึงไอ้เก้า”

   “โป้...”

   “ไปซะ! ไม่ต้องมาเสือกเรื่องของพวกกู” ผมเคยบอกแล้วว่าคนที่ดีมาผมดีตอบ ร้ายมาผมก็ไม่เอาไว้ เก้าดันตื้อกว่าที่คิด เขาจับแขนผมแน่นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

   “ฉันพูดความจริงมั้ยล่ะ กับความไม่แน่นอนแบบนั้น โป้ไม่ลองคิดถึงฉันบ้างเหรอ ฉันเข้าใจโป้นะ ในอดีตโป้เองคงถูกคนรอบข้างมองด้วยสายตาแย่ๆ เหมือนกัน พวกเราน่าจะเข้ากันได้มากกว่า”
   
   ผมสะบัดแขนออก พวกเราตัวพอกันเรื่องแรงผมมั่นใจว่าสู้ได้แน่ ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ผมเดินหนีไปหาพวกซันที่ลุกทำท่าจะเดินมาทางนี้ตั้งแต่เริ่มมีปากเสีย ผมยกมือห้ามพวกนั้นเพราะไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ คนบางคนแม่งยังไม่วายตะโกนไล่หลังผมอีก
 
   “โป้! จำไว้นายยังมีฉันนะ”

   “ไปตายให้หนอนแดกไป!!”

   บัดซบเอ๊ย ผมจะไม่โมโหเท่านี้เลยถ้ามันไม่พูดแทงใจดำ ซันก้าวเร็วๆ มาหาผม ดวงตาจ้องเก้าเขม็ง ทางนั้นไม่น้อยหน้าจ้องกลับแบบโต้งๆ มึงไม่กลัวตีนกูมึงควรกลัวตีนซันนะเก้า อย่างกูแค่ช้ำ ถ้าซันมึงเข้าโรงบาลแน่ๆ

   “มีอะไรวะ มันกวนตีนอะไรมึง”

   “ช่างเถอะ แม่งเรื่องไร้สาระ”

   “ไม่ไร้สาระมั้ง ทำให้โป้อารมณ์เสียได้ขนาดนี้” มิทพาดแขนบนบ่าผม ปรายตามองเก้า

   “เสียเวลามาเยอะแล้ว ไปกันดีกว่าให้รุ่นพี่รอนานคงไม่ดี มิทมึงจะมากับพวกกูด้วยใช่มะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากคิดเรื่องแย่ๆ

   “กูไม่ไปแค่มานั่งเป็นเพื่อนซัน ไว้กูไปดูมึงพรุ่งนี้เลยดีกว่า กูกลับบ้านละเดี๋ยวป๋าโทรตาม” มันตบบ่าซันโบกมือให้ผมแล้วเดินขึ้นรถสีดำที่จอดรออยู่นานแล้ว เห็นคุณอาคมเปิดกระจกส่งยิ้มทักทายก่อนจะขับรถจากไป นับวันผมชัดสงสัย ตกลงมิทมันทำงานอย่างที่ผมเข้าใจ หรือมันเป็นลูกมาเฟียจริงๆ มีคนขับรถควบตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัว

   “มึงบอกไม่อยากให้พี่เขารอ จะยืนบื้ออยู่ทำไมวะ ไปดิ”

   ซันเรียกสติ ผมพยักหน้าเดินตามมันไปขึ้นรถบ้าง ลานจอดรถที่นี่ไม่ต่างจากคณะอื่น เป็นลานจอดกลางแจ้งที่รถโล่งเพราะชาวบ้านเขากลับกันหมดเหลือพวกกิจกรรมอยู่ยันเย็น ผมเดินนำซันไปใต้อาคาร เพราะผมโทรหาพี่แอมก่อนมาถึง พี่เขาเลยมารอตรงนี้

   “สวัสดีครับพี่แอม รอนานมั้ยพี่”

   พี่แอมยกมือรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม ที่ดูจะเผื่อแผ่ไปทางซันเป็นพิเศษ ผมชักสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ

   “สวัสดีจ๊ะ รอไม่นานหรอก ยังไงพี่ก็อยู่ที่คณะอยู่แล้ว ตามมาสิ ให้ฝึกมือได้ถึงแค่หนึ่งทุ่มนะ”

   ผมเดินตามพี่แอม มองเวลาบนมือถือตอนนี้หกโมง เวลาเหลือเฟือ ผมไม่คิดจะทอเป็นผืนแค่จับทบทวนความจำเฉยๆ

   ภายในห้องชมรมรกไปด้วยอุปกรณ์ที่เตรียมจะจัดแสดงวันพรุ่งนี้ เครื่องทอผ้าถูกยกออกมาด้านนอกเพื่อสะดวกแก่การขนย้ายและให้ผมมาฝึกมือ ผมมองสำรวจดูมันสร้างจากไม้รูปทรงทันสมัยขึ้นมานิดหนึ่ง ต่างจากที่ร้านแม่ผมใช้แบบต้นฉบับเลย

   “โป้ลองฝึกตามสบายเลยนะ ต้องการอะไรบอกคนในห้องนี้ได้” พี่แอมพูดพลางกวาดตามองคนในห้อง ทุกคนส่งยิ้มให้แววตาฉายความรู้สึกขอบคุณที่ผมยอมมาช่วยงานทั้งที่เป็นเด็กต่างคณะ

   “ครับ เสียงอาจจะดังหน่อย ไม่ว่ากันนะ ฮ่าๆ”

   “ตามสบายน้อง ขอแค่ไม่ทำมันพังก็พอ พวกเราไม่มีเงินซ่อม” มีคนตะโกนมาจากมุมห้อง เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคน แอบเกร็งนิดหน่อยแฮะ ไม่ใช่ของที่บ้าน แถมมีสายตาหลายคู่จ้องซะ

   “เดี๋ยวกูไปรอข้างนอกแล้วกัน เสร็จแล้วโทรหากูนะ” ซันเห็นว่าทุกคนในห้องต่างมีหน้าที่ของตัวเอง การที่คนนอกอย่างเขามานั่งเกะกะคงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก ผมยังไม่ทันจะได้พยักหน้ารับพี่แอมก็พูดแทรกขึ้นก่อน

   “ไม่ต้องออกไปข้างนอกหรอก แอร์ไม่มียุงก็เยอะ อยู่ในห้องกับพวกเรานี่แหละครึกครื้นดี ว่าแต่น้องชื่ออะไร พี่ชื่อแอมนะ”

   รอยยิ้มพิมพ์ใจถูกส่งให้ ผมคิ้วกระตุก นี่มันชักจะยังไงๆ แล้วนะ คนโดนถามทำเพียงแค่เลิกคิ้วมองด้วยท่าทางกวนส้นประจำตัว ตอบเสียงห้วน

   “ซัน”

   “โอเค น้องซันนั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าหิวบอกพี่ได้ พี่ทำข้าวกล่องมาแจกทุกคนที่มาช่วยงานอยู่แล้ว”

   “ผมไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ต้อง...”

   “ช่วยสิ พาโป้มาส่งไง ไม่เอาน่าไม่ต้องเกรงใจ คนกันเอง”

   หลังจากนั้นทั้งคู่คุยอะไรกันผมไม่ได้ยินแล้ว เพราะพี่แอมพาซันไปนั่งคุยซะไกลลิบ โดยมีเสียงหนักหน่วงจากการทอผ้าประกอบฉากจนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว ณ ตอนนี้ไม่ต้องทบทวนอะไรมันแล้ว มือไปเองตามธรรมชาติ ขับเคลื่อนด้วยความฉุนเฉียว

   สมองไม่ได้นึกถึงลายที่กำลังทอเลย คิดแต่ว่าสองคนนั้นจะคุยอะไรกัน ที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือความรู้สึกของผมนี่แหละ เอาตามตรงเลยนะ ผมคบกันซันทั้งที่เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้สักวัน ซันเป็นผู้ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ต่างจากผม ยิ่งมีคำพูดของไอ้เชี่ยเก้ามาสะกิดอีก ทำให้ใจผมว้าวุ่นมากกว่าเดิม

   อะไรวะไอ้โป้ เอ็งรู้ดีแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอถึงได้เตรียมใจไว้ไง พอเจอกับตัวทำไมกลายเป็นแบบนี้วะ ไม่สมเป็นมึงเลย แถมเขาอาจจะแค่คุยกันเฉยๆ ก่อนได้ มึงจะรีบร้อนรนไปทำไม...จะอะไรก็ช่างแม่งแล้วเว้ย!!

   “ผมจำการทอได้แล้วพี่แอม”

   เพราะจู่ๆ ผมก็ลุกพรวดพูดขึ้นกลางวง พี่แอมอึ้งมองหน้าผมตาปริบๆ ขนาดไอ้ซันยังเผลอกำมือด้วยความตกใจ

   “อะ...เอ่อ จ๊ะ โอเค พี่ขอดูผ้าก่อนนะ” สติเพิ่งกลับเข้าร่าง พี่แอมเดินมาดูผ้าที่ทอไปหน่อยเดียว พร้อมคนอื่นๆ ที่เข้ามาช่วยมุง

   “ลายยังเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่เพราะน้องเพิ่งทอไปนิดเดียว แต่โดยรวมถือว่าทอเป็น ผ่านจ๊ะ” หัวหน้าชมรมพูดจบ คนในห้องเสริมขึ้นมา

   “แต่พรุ่งนี้ไม่ต้องจริงจังนักก็ได้นะ พี่กลัวความหนักแน่นของน้องทำคนมางานหนีหมด”

   ผมยิ้มแห้งตอบรับคำแซวนั้นพลางตวัดตามองซันเป็นการให้สัญญาณ

   “มึงรอนี้ กูไปขับรถมาแป๊บ” เจ้าตัวก้าวเร็วๆ ออกไปจากห้องทันที แม้จะไม่เข้าใจว่าโป้หงุดหงิดอะไร แต่อารมณ์ของอีกฝ่ายเวลานี้ไม่ควรขัดใจหากยังไม่อยากโดนตีนเมียประดับบารมี

   ผมท่องยุบหนอพองหนอ สงบสติอารมณ์จนกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนในห้อง

   “วันนี้ผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมคงมาช่วยจัดไม่ได้เพราะติดเรียน แต่ตอนเลิกผมจะช่วยเก็บนะครับ”

   “ไม่เป็นไรๆ แค่มาช่วยสาธิตการทอผ้าก็พอ ที่เหลือพวกเราจัดการเอง โป้จะกลับแล้วสินะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

   ทีแรกผมจะปฏิเสธ แต่ดูเหมือนว่าพี่แอมมีอะไรจะคุยกับผม เลยพยักหน้ารับตามพี่แอมออกไปรอนอกห้องชมรม ด้านนอกยามไล่ปิดไฟจนเกือบหมด เหลือแค่ตามทางเดิน ถนน กับแถวหน้าห้องชมรมของพี่แอม หมดช่วงรับน้องแล้วด้วย บรรยากาศโดยรอบเลยวังเวงพอสมควร เห็นนักศึกษาอยู่ไม่กี่คน

   เราต่างคนต่างยืนเงียบสักพัก สุดท้ายพี่แอมก็ยอมเปิดปากพูด หันมามองผมด้วยสายตาจริงจัง

   “โป้ พี่มีเรื่องหนึ่งอยากจะถาม”

   “ครับ ถ้าผมตอบได้ก็จะตอบ”

   พี่แอมมองซ้ายมองขวานิดนึง แล้วขยับมากระซิบคุยกับผม

   “พี่อยากจะถามเราว่า ซันเขามีแฟนรึยัง พี่สนใจเขาตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้ว จะไปถามตรงๆ ก็ยังไงอยู่ โป้เป็นเพื่อนกันพอจะบอกพี่ได้ไหม”

   ประโยคขอร้อง กับท่าทางเขินอายของพี่แอมไม่ได้อยู่ในสายตาผมเลย เพราะผมตอนนี้กำลังมองรถที่ซันเพิ่งขับมาจอดไม่ไกล

   “มันมีแฟนแล้วครับ ผมไปก่อนนะพี่ ปล่อยให้มันรอนานเดี๋ยวหงุดหงิดซะก่อน”

   ผมผละออกมา หัวคิดอยู่อย่างเดียว...วันนี้มันวันบัดซบอะไรกันวะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:26:12 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่าเคืองอยู่ แต่มันปกติของคนหน้าตาดีอะเนอะ ใจเย็นโป้

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โถถถถ ทำไมไม่บอกไปล่ะว่านั่นผัวผม!!!
แต่ไม่เป็นไรค่ะ! เจ้จะไปตะล่อมซัน ให้พูดเอ๊งงงง เตรียมตัวเวลาชะนีบุก กร๊ากกก  :laugh:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
โถ โถ อย่าเพิ่งหงุดหงิดเลยหนูโป้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไม่รู้อะไรซะแล้ว :m16:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หึหึ!! เป็นใครก็หงุดหงิดละครับ!!!!

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
เป็นเราคงได้จิกมองด้วยหางตาเบาๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
น่ารักกันต่อไป

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีหึงด้วยอะโป้ ซันจะรู้ตัวป่ะเนี้ยะว่าเมียหึง 5555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ฮุ้ย อะไรนิ จะมีม่าไหมน้อเรื่องนี้   :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
พี่สองสาวสุดแกร่งมาเก็บเพื่อนพี่ด่วนค่ะ โอเคคือพี่แอมไม่ผิดอะไร ก็ไม่รู้นี่นะ น้องจะยอมค่ะรอบนี้
เป็นเรื่องที่สนุกจริงๆค่ะ อ่านแล้วไม่เบื่อเลยซักนิด ตัวละครมีมิติมาก ชอบ
รอติดตามนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
สองสาวกรุณามาให้ความรู้เพื่อนด้วยค่ะ ว่าคนนี้ของใคร

ห้ามยุ่งนะคะ เจ้าของดุมากกกกกกก ฮาาาา

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z6: มีแฟนหล่อก้อแบบนี้แหละโป้แล้วยังไม่ใช่เกย์อีก เข้าใจได้ถึงความกังวลน่ะ แต่เราว่าซันจริงจังกับโป้มากเลยน่ะ ต้องรอให้เวลาพิสูจน์เนอะ สู้ ๆ จ้ะ โป้ เรารักคุณน่ะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่19 คำถาม?

   “พี่เขาคุยอะไรกับมึง”

   ขึ้นรถก้นยังไม่ทันโดนเบาะ ซันก็ถามซะแล้ว ผมปรายตามองพี่แอมยังดูพวกเราอยู่เลยไม่ตอบอะไร ปิดประตูรถก่อนค่อยว่ากัน

   “เรื่องพรุ่งนี้”

   สีหน้าซันบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อ

   “มึงจะบอกกูดีๆ หรือให้กูลงไปถามเอง วันนี้สองรอบแล้วนะ มึงเป็นอะไรวะ”

   “ช่างกูเหอะน่า” เข้าใจว่ามันถามเพราะเป็นห่วง แต่เวลานี้ผมไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งสิ้น อารมณ์ที่ปะทุขึ้นมายังไม่ทันสงบดีเลยด้วยซ้ำ เดี๋ยวจะตีกันตายซะเปล่าๆ หันหน้าออกนอกกระจกแม่ง

   “ช่างมึงได้ไง มึงเป็นเมียกูนะ มีอะไรก็บอกสิวะ อมขี้แบบนี้กูจะรู้เรื่องกับมึงไหม!”

   รถถูกเหยียบเบรกกะทันหันจนหัวโขกกระจกดังปึก อารมณ์ที่กรุ่นๆ อยู่แล้วพุ่งปี๊ดเหมือนกาน้ำเดือด ผมตวัดตาจ้องเขม็ง มันก็ถลึงตากลับใส่หวิดจะต่อยกันในรถอยู่รอมร่อหากไม่มียามมาเคาะกระจกเพราะพวกเราดันมาจอดคาอยู่ตรงทางแยก

   ซันจำต้องลดกระจกลงอย่างหัวเสีย พอยามเห็นสีหน้าพวกเราถึงกับสะดุ้ง

   “มีอะไรกันรึเปล่า” ยามถามอย่างระแวง คงกลัวว่าพวกเราจะไปฆ่าคนมั้ง ไม่ต้องห่วง เราจะฆ่ากันเองมากกว่า

   “ไม่มีไร ผมทะเลาะกับเมีย โทษที่ขวางทาง” ไร้คำหยาบแต่ก็ห้วนสุดๆ แถมยังปิดกระจกใส่ออกรถเลยอีกต่างหาก ผมมองกระจกค้างเห็นยามยังยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่รู้ตกใจที่โดนรถเฉียวหรือเรื่องที่ซันมันพูดกันแน่

   เกิดบรรยากาศมาคุปกคลุมทั่วรถ ไม่มีใครพูดแม้แต่คำเดียว ด้วยรู้ดีกว่าคุยต่อได้ทะเลาะกันแน่ๆ ต่อยกันขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดนัก ผมเข้าใจว่าซันมันจะกลับไปเคลียร์ที่ห้อง มันดันจอดรถอยู่หน้าเซเว่นแถวคอนโด ผมมองมันอย่างไม่เข้าใจ

   “มึงไม่อยากลงก็รอนี่”

   ซันปิดประตูรถออกไป ผมผ่อนหายใจแรงๆ ระบายอารมณ์ ต้องเข้าใจนะว่าเวลาคนเราหงุดหงิดอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด ยิ่งผมเจอเรื่องไม่สบอารมณ์ตั้งแต่คุยกับเก้า พอจะเริ่มหัวเย็นลงหน่อยก็มีเรื่องพี่แอมอีก

   สักพักซันหิ้วถุงเข้ามาโยนไว้เบาะหลัง ได้ยินเสียงเหมือนกระป๋องกระทบกันผมเลิกคิ้วแปลกใจยอมเปิดปากจนได้

   “ซื้อไรมาวะ”

   “เบียร์”

   คำตอบดูธรรมดา หากคนที่พูดไม่ใช่ไอ้ซัน! วัยแบบผมเรื่องแอลกอฮอล์นี่ขอให้บอก ยิ่งผู้ชายยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมันคือการเข้าสังคมเพื่อนอย่างหนึ่ง ยกเว้นก็แต่ไอ้ซัน มันไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ใช่ว่ามันคออ่อน สูบไม่เป็น เพียงแค่มันไม่ชอบเท่านั้นเอง บอกว่าเสียสุขภาพแล้วนี่มันซื้อมากะปริมาณด้วยสายตาไม่ใช่น้อยๆ

   “มึงไม่แดกจะซื้อมาเพื่อ!?”

   ผมที่อารมณ์เย็นลงบ้างคุยกันมันได้แบบปกติ

   “กลับห้องไปแดกซะ ใจเย็นแล้วเราค่อยคุยกัน”

   ผมถึงกับไปไม่เป็น นี่มึงเห็นเมียมึงขี้เหล้าขนาดต้องซื้อมาเอาใจ? บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจตรรกะมันเลยจริงๆ เอาเป็นว่าถือโอกาสชวนมันคุยละลายอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ อุตส่าห์ซื้อเบียร์ให้ทั้งที

   “มึงไม่ชอบให้กูดื่มไม่ใช่เหรอ” ปรับคำให้ซอฟลงหน่อย มันเข้าใจเจตนาของผม นอกจากจะไม่เปิดโปงแล้วยังร่วมมือเป็นอย่างดี เห็นงี้ต่อให้มันไม่ชอบก็ไม่ได้ห้ามผมไปกินเหล้ากับเพื่อนนะ แค่เมาห้ามขับโทรเรียกมันไปรับเท่านั้นเอง บางทีผมคิดว่ามันเป็นคนมีเหตุผลมากกว่าผมซะอีก

   “ก็ใช่ แต่มึงกินกับกู กูดูแลมึงได้”

   อือหือ ความโกรธแทบจะปลิวหายเปลี่ยนจากหมัดเป็นคว้ามันมาจูบซักฟอด พอซันได้ยินผมหัวเราะ มันก็อมยิ้มนิดๆ ทั้งที่ยังจดจ่ออยู่กับการมองทาง ขับรถค่ำมืดนั้นอันตราย

   ถึงหอผมจะช่วยมันถือถุงขึ้นห้อง แต่มันไม่ยอมเพราะของผมก็เยอะมากอยู่แล้ว แต่ผมอยากมีโมเม้นเล็กๆ บ้างเลยแบ่งกับมันถือหูหิ้วคนละข้าง อย่าคิดล่ะว่ามันอ่อนให้ผมขนาดนี้จะยอมให้ผมเปิดป๋องดื่มทันที

   ซันยัดเบียร์เข้าตู้เย็นบอกให้ผมทำข้าวเย็นมากินก่อนค่อยกินเบียร์ เห็นแก่มันที่ตามเฝ้าผมแล้วยังกลับก่อนไม่ทันได้กินข้าวกล่องพี่แอมเลยใช้ของสดในตู้ทำสุดฝีมือ ผมชอบทำอาหารนะ เวลาทำแล้วเราจดจ่อกับมันทำให้ลืมเรื่องอื่นๆ ไปได้ชั่วคราว คาดว่าเฮียเฟย์เองก็คงเหมือนกัน ที่สุดของการทำก็คนกินนี่แหละ เห็นคนกินมีความสุข คนทำก็หายเหนื่อยมีแต่อยากจะทำให้กินเรื่อยๆ

   หลังกินข้าวเสร็จ ซันรับหน้าที่ล้างจานเช่นเคย มีการทำกับแกล้มง่ายๆ มาเสิร์ฟให้ผมถึงโต๊ะหน้าทีวีด้วย เบียร์หลายกระป๋องถูกเอามาวางเรียงจะได้ไม่ต้องลุกไปมาระหว่างโต๊ะกับตู้เย็น ในมือถือคนละกระป๋อง นั่งบนพื้นหลังพิงโซฟาดื่มพลางดูทีวีไปเรื่อยๆ หนังที่เปิดไม่เข้าสู่การรับรู้เลยสักนิด ผมนั่งเงียบจมอยู่ในความคิดของตัวเอง

   ผมรู้ว่าตัวเองหงุดหงิดงุ่นง่านเกินไปเพราะโดนจี้ใจดำ อย่างที่เคยบอก ชีวิตวัยรุ่นของผมไม่ค่อยสวยหรูนัก รู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายเอาตอนม.4 เพื่อนที่เคยคบต่างพากันรังเกียจ ถ้าผมไม่มีกำลังพอคงโดนแกล้งเหมือนนางซิน ที่บ้านเองก็ไม่ยอมรับ ญาติพี่น้องคนรอบข้างซุบซิบนินทาลับหลัง ผมทั้งเครียดและรู้สึกผิดกับพ่อแม่มาก

   แต่เรื่องความชอบมันแก้ไม่ได้ ผมเคยลองกลับไปคบกับผู้หญิงดูแล้ว สรุปไม่รอด ไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นเลย กระทั่งคนที่คิดว่าโอเคเข้าใจผมแม้มันจะเป็นชายแท้มาก่อน พอมันโดนสังคมโจมตีหนักๆ เข้า กลับหันหลังทิ้งผมไป บอกคนอื่นว่าเราก็แค่คนรู้จักกันห่างๆ บางทียังร่วมผสมโรงกับคนอื่นด่าผมลับหลัง

   ความรู้สึกตอนนั้นยังจำได้ไม่มีวันลืม มันเจ็บแบบที่โดนกระทืบปางตายยังรู้สึกดีเสียกว่า หันไปทางไหนก็ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง มันเคว้งคว้างเหมือนมีตัวคนเดียวทั้งโลก หากไม่มีเล่กับป๋าเจ้าตัวผมคงเตลิดไปถึงไหนต่อไหน

   ป๋าเล่ช่วยคุยกับพ่อแม่จนพวกท่านปรับทัศคติพยายามเข้าใจในตัวผม ระหว่างนั้นก็คอยเป็นกำลังใจให้ผมก้าวต่อไปได้ เล่เป็นคนมองโลกในแง่ดี นิสัยร่าเริงของเขาทำให้สุขภาพจิตผมดีขึ้น วันๆ อยู่เป็นเพื่อนดูแลเล่จนไม่มีเวลาไปสนสายตาของคนรอบข้าง

   พอรู้ตัวอีกที ผมก็ไม่รู้สึกอะไรกับคำนินทาและสายตาเหล่านั้นแล้ว ประจวบเหมาะกับพ่อแม่เริ่มยอมรับผมได้ในระดับหนึ่ง ทุกอย่างจึงเป็นอย่างทุกวันนี้

   นับตั้งแต่นั้นมาผมสาบานในใจเงียบๆ ว่าจะดูแลเล่อย่างทีตอบแทนพวกเขาพ่อลูก จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนั้นอีก ผมเลยไม่จริงจังเรื่องความรักเลย ถ้ามีคนสนใจก็คุยด้วย ไม่นานก็แยกย้าย ส่วนซัน...

   “ย้อมใจไปหลายกระป๋อง มึงจะยอมบอกกูได้ยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับมึง”

   ผมหลุดจากภวังค์ มองหน้าหล่อๆ ของซัน จริงสิทีแรกที่ผมสนใจซันเพราะหน้าตาอีกฝ่าย ต่อมาก็เป็นรูปร่างและนิสัยที่เข้ากันได้หลายอย่าง...เอาเถอะ มันถามเพราะเป็นห่วง ผมเองก็ไม่คิดจะปิดบังอยู่แล้ว แค่ตอนแรกยังไม่มีอารมณ์บอกเท่านั้นเอง

   “พี่แอมเขาสนใจมึง เลยมาถามกูว่ามึงมีแฟนยัง”

   เริ่มแบบไม่มีหัวมีหาง ซันงงไปเสี้ยววิ ก่อนจะเลิกคิ้วข้างเดียวแบบที่มันชอบทำ

   “มึงไม่บอกไปล่ะว่ามึงเป็นเมียกู” มันพูดง่ายมาก ผมถลึงตาใส่มัน จะบ้ารึไง พี่แอมเขาถามโดยไม่รู้ไปพูดจากระแทกหน้าเขาแบบนั้นเสียมารยาทตาย อีกอย่างนั่นเพื่อนของรุ่นพี่ผมด้วย ผมยังต้องช่วยงานเขาอีก เกิดเขาไม่โอเคขึ้นมาเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด

   “กูบอกไปว่ามึงมีแฟนแล้ว”

   “มึงเลยหงุดหงิดที่พี่เขามาสนกู โธ่ไอ้โป้ ไว้ใจผัวมึงหน่อย ต่อให้มีผู้หญิงมาแก้ผ้าเต้นยั่วตรงหน้าลูกกูก็ไม่ตั้ง”

   “ขอให้มันจริงเหอะมึง กูยอมรับว่ากูไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็แค่นั้นตอนนี้กูไม่สนเรื่องพี่แอมแล้ว” เพราะผมรู้นิสัยซันดี มันไม่ใช่คนแบบนั้น ที่ผ่านมาจะชายหญิงหรือใครมันไม่เคยสนใจเลย ใครขอเบอร์มันแทบจะยกเท้าใส่ ปากประกาศปาวๆ ว่ามีเมียแล้ว แม้จะไม่ได้บอกไปตรงๆ ว่าเมียมันเป็นผม ส่วนพวกใจกล้าก็โดนมันตอกกลับหน้าหงายกลับไปหลายราย จนคนที่รู้จักวีรกรรมมันขยาดไม่มีใครกล้ามาจีบอีก

   ซันพิจารณาผม พอเห็นว่าผมไม่มีท่าทีกับเรื่องนี้จริงๆ ก็พยักหน้าแต่ยังไม่คลายความสงสัยทั้งหมด

   “แล้วไอ้เหี้ยนั่นล่ะ”

   คงไม่ต้องถามว่าเหี้ยตัวไหน ทั้งวันมีเหี้ยอยู่ตัวเดียว ไอ้เก้าปากหมา

   ‘ซันเป็นผู้ชายแท้ๆ โป้คิดเหรอว่าจะเปลี่ยนผู้ชายคนหนึ่งเป็นเกย์ง่ายๆ ฉันเห็นมาหลายคนแล้ว สุดท้ายก็เลิกกันหันกลับไปคบผู้หญิงอยู่ดี’
 
   คิดถึงตรงนี้สีหน้าผมเปลี่ยนไปทันที มือบีบกระป๋องเปล่าในมือจนบี้ ซันแอบสะดุ้งแกะกระป๋องในมือผมออกแล้วเปิดกระป๋องใหม่ยัดใส่มือให้ ผมแหงนคอกระดกเข้าปากแบบไม่กลัวหก วางกระแทกโต๊ะใส่อารมณ์จนเบียร์ที่เหลืออีกครึ่งกระฉอกออกมาเลอะโต๊ะ ใช้หลังมือปาดส่วนที่เลอะปาก

   หันไปเห็นซันยังจ้องผมอยู่ สุดท้ายผมเลยบอกไปว่าเก้ามันพูดอะไรบ้าง พูดไปก็ใส่อารมณ์ไปด้วยความหงุดหงิด กระดกเบียร์ต่างน้ำแบบไม่กลัวเมา เล่าไปเล่ามาซันกลับเงียบปล่อยให้ผมจ้ออยู่คนเดียว พอหันไปมองใจผมกระตุกวูบ สีหน้าของซันเวลานี้เป็นสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

   ใบหน้าเรียบเฉยจนเกือบเย็นชา ดวงตาคมกร้าว กระป๋องเบียร์ในมือถูกบีบจนแหลกคามือ

   “ซัน...”

   “เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร” ยิ่งฟังน้ำเสียงแบบข่มอารมณ์ผมยิ่งสะท้าน

   “กู...”

   “พูดมา เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร”

   กลายเป็นผมที่เริ่มมือสั่น มันกำลังโกรธ ที่สำคัญ โกรธมากด้วย!

   “เก้ามันบอกกูว่า มึง...มึงไม่ได้เป็นเกย์ สักวันมึงก็จะทิ้งกูไป”

   “แล้วมึงก็เชื่อมัน?” ซันถามด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความผิดหวัง “กูยังชัดเจนไม่พอเหรอโป้ ทำไมมึงถึงได้เดือดร้อนกับแค่ลมปากของหมาตัวหนึ่ง”

   มาถึงตอนนี้ผมเพิ่งเข้าใจว่าซันเป็นอะไร ความกดดันที่ซันแผ่ออกมาทำให้ผมอึดอัด ไม่รับรู้ถึงรสเบียร์จนต้องวางลง เห็นผมไม่พูดอะไรซันเลยว่าต่อคล้ายกับการระบายความอัดอั้นมาในคราวเดียว

   “ในสายตามึง มึงเห็นว่ากูเป็นคนแบบนั้นเหรอ คิดว่ากูจะได้มึงแล้วทิ้ง?” ผมเม้มปาก เพราะผมดันคิดแบบนั้นจริงๆ ไอ้ซันเห็นสีท่าทางผมถึงกับอึ้งดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะหัวเราะออกมา ช่างเป็นเสียงหัวเราะที่แห้งแล้งสิ้นดี

   “งั้นกูขอบอกมึงตรงนี้เลยนะ มึงกางหูฟังให้ดีๆ ไม่ใช่ฟังแต่ลมปากชาวบ้าน“ มันประชดซะจนผมจุก จ้องผมนิ่งไม่ยอมให้ละสายตา ”กูไม่คิดจะคบๆ เลิกๆ ดังนั้นถ้าจะมีแฟนก็อยากมีแค่คนเดียว คบแค่คนเดียวแล้วอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายไปข้าง! ที่ผ่านมากูอาจจะเคยคุยผู้หญิง แต่ทั้งหมดคนที่กูจริงจังด้วยมากที่สุดคือมึง!”

   “กูขอโทษ...”

   “ขอโทษทำไม?” คิ้วเข้มขมวดแน่น

   “ขอโทษที่กูไม่เชื่อใจมึง”

   “กูไม่รับคำขอโทษ กูคงดีไม่พอให้มึงวางใจได้สินะ มึงถึงได้คิดระแวงกูแบบนั้น” น้ำเสียงน้อยใจแบบไม่คิดปิดบังทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด ที่ผ่านมาซันดีกับผมมาโดยตลอด

   “ไม่ใช่ กูมีเหตุผลมึงอย่าด่วนสรุปแบบนั้น”

   “แล้วเหตุผลมึงคืออะไร?”

   “เดี๋ยว ตอนแรกเป็นกูที่กลุ้มมาระบายกับมึง แล้วทำไมตอนนี้มึงต้องมาจี้กูด้วย”

   ผมบอกมันไม่ได้ว่าตัวเองเคยมีประเด็นเลยเอามาระแวงกับมัน รวมถึงเรื่องที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดจริงจังกับมันเลย กระทั่งโดนจี้นี่แหละผมถึงรู้ว่าตัวเองกำลังถลำลึกไปกับมันจริงๆ ผมเลือกที่จะบ่ายเบี่ยง ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม ขอเวลาทบทวนกับความรู้สึกของตัวเองก่อน เมื่อผมได้คำตอบจะบอกมันแน่นอน

   “เพราะกูเป็นแฟนมึง แล้วมึงคิดว่ากูสมควรรู้ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ตัวเองดูไม่น่าเชื่อถือในสายตามึงไหม เล่ามาให้หมด!!” ซันโมโหลุกขึ้นยืนพูดเสียงดังไปทั่วห้อง ผมที่โดนเสียงดังใส่กลับมาฉุนอีกรอบ เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนใจเย็นอะไรแถมยังเป็นพวกดื้อหัวรั้นไม่ต่างกัน

   “มึงไม่มีสิทธิ์มาบังคับกู!”

   ซันกัดฟันกรอด โยนกระป๋องเบียร์ในมือทิ้ง

   “ตามใจมึง!”

   เห็นมันหมุนตัวเดินหนี ผมเข้าไปคว้าแขนไม่ยอมให้มันไป

   “มึงจะไปไหน”

   ซันปรายตามองดึงแขนออกจากการมือผม “กูไม่อยากทะเลาะกับมึง” ในความคิดซัน ถ้ายังยืนคุยกันต่อมีหวังทะเลาะกันบ้านแตกแน่ๆ เขาเลยตัดสินใจจะเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องจะเอายังไงค่อยว่ากันอีกที

   ฝ่ายคนที่โดนทิ้งอยู่ด้านนอกได้แต่มองตามแผ่นหลังอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผิดด้วยเหรอที่กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อีกอย่างถ้าผมไม่มีความรู้สึกกับมันจริง คงไม่นั่งปวดหัวอยู่อย่างนี้ แต่ที่แน่ๆ ผมอยากให้มันรู้ว่าผมเองก็เสียใจไม่แพ้กัน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:26:58 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โธ่ โป้คะะะะ อธิบายให้ซันเข้าใจเถอะค่ะ นิสัยอย่างซันน่ะ ขอแค่มีเหตุผลก็พอแล้ว
รอตอนต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
บางทีคนเราก้อต้องการระยะห่างสักนิดเพื่อคิดะไรคนเดียวนะ
รีบๆกลับมาคุยกันเถอะเพราะคนที่เราก้คงไม่อยากจะรอนานนัก   :L2: 

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
พูดสิคะโป้ อมไว้ซันมันจะไปรู้ไหม มันไม่ได้สโตกล้วงอดีตแกมานะเว๊ย พูดเซ่!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

โป้ทำเหมือน ไม่เชื่อใจซันเลย
ทำไมถึงพูดว่าไม่มีสิทธิ์มาบังคับ สามีนะค่ะไม่ใช่คนอื่น
            เศร้าาาาาาาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใจเย็นๆแล้วหันหน้ามาคุยกันเร็วๆนะ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อ้าวสถานการณ์พลิก โป้อย่าคิดมากนะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โป้ ซันอย่าคิดมากเลย




ยอมให้คำพูดคนอื่น และ อดีตมาทำร้ายความรู้สึกทำไม

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
มาต่อเร็วๆ. นะคะ.  อารมณ์สีเทาแบบนี้ไม่อยากค้างไว้นาน

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: เราเข้าใจโป้น่ะ เพราะเคยมีประวัติมาก่อนแล้วก้อ
เเหมือนรอยแผลเป็นในใจแหละ :mew2: ซันก้อจัดเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบน่ะ ไม่แปลกที่มันต้องมีนิดนึง  :hao3:
มาอัพบ่อยๆน่ะคิดถึง :mew1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่20 ชัดเจน

   ตลอดทั้งคืนมีแค่เพียงเสียงพลิกตัวไปมากับเสียงเครื่องปรับอากาศ ซันนอนยกแขนก่ายหน้าผากเหม่อมองเพดานขณะเดียวกับที่โป้มุดเข้าไปอยู่ใต้หมอนเหมือนอยากหลีกหนีความจริง ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดบนเตียงของตัวเอง

   เสียงปลุกจากมือถือเรียกให้คนที่ซุกหน้ากับหมอนใช้มือปัดป่ายปิดเสียง ตัดสินใจแล้วว่าจะโดดเรียนคาบเช้าซะเพื่อเยี่ยวยาจิตใจตัวเองอยู่ในห้อง น่าแปลกที่มือแตะไม่โดนมือถือสักที ทั้งที่ปกติผมจะเอามันวางไว้บนพื้นข้างเตียงเสมอ

   “มึงหาอะไร”

   เสียงคุ้นเคยทำให้ผมตาสว่าง ผุดลุกขึ้นนั่งมองผู้บุกรุกอย่างไม่อยากเชื่อ สภาพมึนๆ อึนๆ แถมขอบตาคล้ำผสมกับรอยพกช้ำ หัวยุ่งเหยิงชวนให้น่าอนาถใจอย่างยิ่ง ซันมองภาพนั้นพลางถอนหายใจ ทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียงยื่นมือถือคืนให้เจ้าของ

   ผมรับมาทั้งที่ดวงตายังจ้องมันแบบไม่ลดละ

   “กูมาปลุกมึงไปเรียน”

   มันพูดทั้งที่ยังไม่หันมามองและไม่มีทีท่าวาจะลุกออกไป สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตื้อในอกคือเมื่อวานทะเลาะกันเสียงดัง ผมทำให้มันเสียใจ แต่วันนี้มันก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ซันทำมื้อเช้า คอยปลุกเวลาที่ผมตื่นสาย

   ผมเอาหัวชนแผ่นหลังกว้างที่ดูห่อเหี่ยวกว่าทุกวัน ปากพึมพำพูดแผ่วเบา

   “กูขอโทษ...”

   คำเดียวกับเมื่อวาน พอพวกเราใจเย็นลงกลับให้ความรู้สึกแตกต่าง ผมขอโทษมันจากใจจริง ซันยื่นมือมาตบหัวผมที่อยู่ด้านหลังเบาๆ

   “กูจะไม่บอกว่าช่างมันเถอะ เพราะตัวกูเองก็เสียใจที่ความพยายามของกูมันสูญเปล่า”

   ฟังถึงตรงนี้ ผมกำเสื้อมันแน่น

   “ไม่...”

   พอผมจะค้านมันก็พูดเสียงเข้ม

   “เงียบ แล้วฟังกู” มันสั่งแบบนี้ผมจำต้องเงียบ ซันหันมาประจันหน้ากับผมแล้วพูดต่อ “ตอนกูขอมึงคบ เป็นกูเองที่บอกว่าไม่มั่นใจว่าชอบมึงรึเปล่า”

   ผมนึกย้อนไป คงเป็นเพราะพวกเราไม่ชัดเจนกันตั้งแต่แรก...

   “ตอนนี้กูมั่นใจแล้ว กูไม่ได้ชอบแต่กูรักมึง” น้ำเสียงหนักแน่นกับดวงตาที่จ้องนิ่งสะท้านใบหน้าผมที่อ่อนแอกว่าทุกครั้ง

   “กูชัดเจนแล้วนะโป้...ไม่ว่ามึงจะคิดยังไงหรือมึงเป็นเหี้ยอะไรก็ไม่สำคัญ เพราะกูจะทำให้มึงมองแต่กูและไม่ปล่อยมือเด็ดขาด”

   ทั้งที่คำพูดมันดูเอาแต่ใจจนน่าถีบ แต่ทำไมผมฟังแล้วรู้สึกดีก็ไม่รู้ ไม่ปล่อยมืองั้นเหรอ...นั่นสินะ ตอนนี้ผมอาจจะมอบใจให้ซันเต็มร้อยไม่ได้ พวกเรายังมีเวลาอีกเยอะ ค่อยๆ ศึกษากันไป ผมเชื่อว่าซันมันมีดีพอทำให้ผมลืมเรื่องในอดีต

   ผมจับมือซันขึ้นมาจูบแทนคำขอโทษและยอมรับสิ่งที่มันบอก มือหนาไล้ผิวแก้มก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาแนบริมฝีปาก

   “Goodnight Kiss” เสียงทุ้มพูดชิดปาก

   “ตอนเช้านะ” ผมท้วง

   “เมื่อคืนไม่ได้จูบก่อนนอน ย้อนหลังไง ส่วนนี่...” รอบนี้มันใช้มือรองท้ายทอยเอียงหน้าจูบแบบ Deep Kiss ก่อนจะผละออกยังดูดปากทิ้งท้ายจนเกิดเสียงดังป๊อป

   “อันนี้ Morning kiss ลุกไปอาบน้ำซะก่อนกูจะแดกมึงแทนข้าวเช้า” ซันตบก้นผมแล้วลุกไปรอด้านนอก จังหวะที่ผมกำลังจะถอดเสื้อมันโผล่หัวเข้ามาอีกรอบ

   “อ่อ กูยังไม่คิดบัญชีเรื่องที่มึงไม่ยอมเล่าห่าอะไรให้ฟังเลย ไว้มึงเสร็จงานพี่เขาเมื่อไหร่กูจะซักมึงให้ซีด” ปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มเหี้ยม ผมที่เพิ่งจะวางใจไปได้หน่อยรู้สึกงานเข้าอีกรอบ เอาวะ ผมผิดกับมันหลังจากนี้มันอยากรู้อะไรจะเล่าให้หมด ผมกลัวแล้ว...


   วันนี้ซันขับรถมาอีกเช่นเคย เราแยกกันไปเรียนส่วนตอนเที่ยงนัดเจอกันที่คณะศิลปกรรม เพราะผมต้องไปก่อนเวลาเพื่อแต่งหน้าปิดรอยพกช้ำ ด้วยความที่อาจารย์ปล่อยช้า ผมเลยไม่กินข้าวรีบไปตามนัด พอไปถึงลานโล่งๆ เมื่อวานกลายเป็นลานจัดแสดงในร่มขนาดย่อม มีป้ายบอกเล่าประวัติความเป็นมาของผ้าไหมทอมือ ตัวอย่างเนื้อผ้ากับลายที่คนนิยม
   จุดที่เด่นที่สุดคงเป็นสาวมหา’ลัยในชุดผ้าไหมคอยอธิบายตอบคำถามผู้ที่สนใจกับเครื่องทอผ้าว่างเปล่าไร้คนนั่ง

   “ไงมึง รีบวิ่งมาสิหอบเป็นหมาเชียว”

   พี่ฝ้ายยกมือทักทาย ผมไหว้พลางมองหาคู่หูเจ้ใหญ่ ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่พี่เขาอยู่ที่นี่ คงมาช่วยเพื่อนนั่นแหละ

   “พี่ปุ้นไปไหนแล้วพี่แอมล่ะ”

   “ปุ้นมันไปช่วยงานอาจารย์ แอมอยู่นู่น มึงรีบไปแต่งหน้าซะ” นิ้วเรียวทาเล็บสีแดงสดชี้ไปทางห้องชมรม ผมผงกหัวรับก้าวเร็วๆ เดินไปทางนั้น พอพวกรุ่นพี่เห็นผมก็ดันหลังผมเข้าไปในห้องชมรมทันทีโดยที่ไม่ต้องขอ ด้านในดูโล่งไปถนัดตาเมื่อของหลายอย่างถูกเอาไปจัดวางเรียบร้อย เหลือเพียงเก้าอี้ไว้นั่งกับวางของ กระเป๋าเรียนหลากหลายแบบวางกองอยู่ตรงมุมหนึ่ง ถือเป็นเรื่องปกติ

   มหา’ลัยไม่มีห้องเรียนประจำอย่างตอนเด็ก นอกจากจะต้องย้ายห้องเรียนทุกคาบแล้วบางทียังข้ามไปคนละตึกด้วยซ้ำ ดังนั้นเจ้าของอยู่ที่ไหน กระเป๋าอยู่ที่นั่น กรณีนี้ทุกคนในชมรมทำงานอยู่ด้านนอก ห้องนี้เลยกลายเป็นที่เก็บของหลังฉากชั่วคราว

   พี่ผมยืนนั่งอยู่คนเดียวราวกับรอผมอยู่ก่อนแล้ว บอกตามตรง ทะเลาะกับซันเมื่อคืน เรื่องพี่แอมนี่ปลิวออกจากหัว มีแต่ไอ้เก้าแหละที่ผมหวั่นๆ ว่ามันจะมากวนอีก

   “ดีครับพี่แอม ผมไม่ได้มาสายใช่มั้ย” ผมทักตามปกติ พี่แอมพยักหน้ารับดูไม่กระตือรือร้นเหมือนเคย

   “ไม่สายหรอก มานั่งสิ จะได้แต่งหน้า”

   ผมเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าพี่แอมอย่างว่าง่าย เครื่องสำอางที่ใช้มีไม่กี่อย่าง แค่ปิดรอยไม่ได้แต่งหล่อเสริมสวยไปเดินนายแบบ ผมหลับตาปล่อยให้พี่แอมละเลงครีมหนืดๆ สีเนื้อบนหน้า

   “โป้มีแฟนรึยัง”

   จู่ๆ พี่แอมก็ถาม เรื่องมาถึงขั้นนี้ บอกไปตามตรงแล้วกันขี้เกียจคิดอะไรมากมาย แค่เรื่องซันก็หน่วงจะแย่

   “มีแล้วครับ”

   “เป็นแฟนกับซันใช่มั้ย”

   เจอประโยคนี้ผมลืมตามองพี่แอม สีหน้าพี่ไม่มีความเสียใจแม้เศษเสี้ยว เจ้าตัวดูโกรธมากกว่า

   “ใช่ครับ...” ผมตอบไปตามจริง เรื่องผมคบกับซันไม่ใช่ความลับอะไร ในใจคิดหาวิธีรับมือเวลาผู้หญิงโกรธ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นอย่างที่คิด พี่แอมจิ้มหน้าผมแรงๆ หนึ่งทีเหมือนหมั่นไส้มากกว่าจะทำให้เจ็บ

   “แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก ปล่อยให้พี่เป็นยัยโง่อยู่คนเดียว ถ้าพี่ไม่ไปถามฝ้ายกับปุ้นคงไม่รู้ว่าเราเป็นแฟนซัน” น้ำเสียงเหวี่ยงแบบเคืองๆ ผมยิ้มแห้งก่อนจะโดนจ้องด้วยสายตาดุๆ เพราะพี่เขากำลังปาดครีมอยู่ที่ค่อนข้างจะมือหนักไปนิด...

   “ผมไม่พูดเพราะไม่อยากให้พี่รู้สึกแย่ ขอโทษนะพี่แอม”

   “การที่เราไม่บอกทำให้พี่รู้สึกแย่มากกว่าอีก พี่ไม่ได้อดอยากปากแห้งขนาดที่จะมาแย่งแฟนรุ่นน้องหรอกนะ อีกอย่างพี่แค่สนใจไม่ได้บ้ารักตั้งแต่แรกเห็น แบบนั้นมันมีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ!”

   เห็นท่าทางพี่แอมแบบนี้ ผมพอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพี่แอมถึงเป็นเพื่อนกับสองสาวสุดโหดนั่นได้ ที่แท้ก็โหดไม่ต่างกันนี่เอง

   “เมื่อคืนเห็นพากันกลับไปสีหน้าไม่ค่อยดี คงไม่ได้ทะเลาะกันด้วยเรื่องของพี่ใช่ไหม” คราวนี้พี่แอมถามด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มออกมา แหย่สักหน่อยดีกว่า

   “มีปากเสียงกันนิดหน่อย ไม่ถึงขั้นต่อย” แค่เกือบเท่านั้น พอได้ยินผมพูด พี่แอมถึงกับทำหน้าเครียด

   “แย่จริง ซันจะมารึเปล่า เดี๋ยวพี่จะไปอธิบายให้ซันฟังเอง”

   พี่แอมนี่ใจดีจริงๆ

   “ผมล้อเล่นพี่ พวกเราเข้าใจไม่โกรธพี่หรอก แต่ทะเลาะกันเรื่องอื่นมากกว่า”

   “ปรึกษาพี่ได้นะ ยังไงก็คนกันเอง” สาวเจ้าพูดด้วยความหวังดี

   “ขอบคุณครับ พวกผมเคลียร์กันแล้ว เดี๋ยวบ่ายๆ ซันมันก็มา”

   “ถ้าเคลียร์กันได้ก็ดี โป้อย่าทำเหมือนที่ทำกับพี่ล่ะ มีอะไรก็บอก อย่าอมพะนำ การที่เราไม่พูดคนอื่นเขาไม่รู้หรอกนะว่าเราเป็นอะไร คิดอะไรอยู่”

   ได้ยินแบบนี้ผมลังเลนิดหน่อย เรื่องบางเรื่องตัวเองหาทางออกไม่ได้ ต้องพึ่งสายตาคนอื่นช่วยเหลือ เพราะคนนอกจะสามารถมองทุกอย่างในครบถ้วนมากกว่าคนที่เจอปัญหา ลองคุยสักหน่อยแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องเล่ารายละเอียดทั้งหมดนี่นะ

   “แล้วถ้าสิ่งที่ผมจะพูดอาจทำให้อีกฝ่ายเสียใจมากกว่าเดิมล่ะครับ”

   เสร็จจากการแต่งหน้าไปช่วยรวบผมต่อ ผมมัวแต่รีบมาเลยไม่ได้มัดให้เรียบร้อยตามที่พี่แอมบอก

   “อืมม...เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราพูดจะทำร้ายอีกฝ่ายไหม การที่เราไม่บอกปล่อยให้เขาคิดเอาเอง เขาอาจจะคิดในแง่ร้ายกว่าเดิมก็ได้ใครจะรู้” พี่แอมหยุดเรียบเรียงคำพูดชั่วครู่แล้วบอกต่อ ”ถ้าเรื่องมันไม่ค่อยดีจริง เราก็มีวิธีเล่าหนิ อย่างการเลือกใช้คำให้ดูซอฟ เกริ่นๆ ค่อยเข้าประเด็น หรือเสริมด้วยอะไรที่ทำให้ไม่รู้สึกแย่จนเกินไป”

   คำพูดของพี่แอมเหมือนจุดประกายความคิดให้สว่างวาบ ในหัวคิดแผนบางอย่างออกมา พอดีกับที่คุณหัวหน้าชมรมสำรวจว่าพร้อมออกไปทำหน้าที่แล้ว

   “เรียบร้อย โป้กินข้าวมายัง ถ้ายังก็เอาข้าวกล่องไปกิน”

   “ยังครับ แต่ผมแต่งหน้าแล้วกินไปไม่ดีมั้ง” หิวนะ แต่ไม่อยากนั่งเป็นหุ่นให้แต่งใหม่ เมื่อยมาก ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงสามารถนั่งแต่งเป็นชั่วโมงได้ยังไง

   “โป้ไม่ได้ทาลิปสติกสักหน่อย หรืออยากทาพี่จะทาให้” พูดพร้อมหยิบลิปสติกสีแดงแจ๋ออกมา ถ้าผมทาไปคงเหมือนคนเพิ่งไปจกเนื้อสด ผมรีบส่ายหน้าหยิบข้าวกล่องที่เล็งไปแต่แรกมากิน ส่วนพี่แอมออกไปดูงานข้างนอกก่อน

   ผมฟาดไปสองกล่องจนพุงกาง เอากล่องโฟมไปทิ้งใส่ถุงดำที่เตรียมไว้แล้วเดินถือแก้วน้ำแบบเจาะกินล้างปาก มองดูนาฬิกาเวลาบ่ายตามที่นัดไว้กับพี่แอมพอดีเลยออกมาประจำตำแหน่ง หยิบจับนิดหน่อยก็เริ่มทอไปเรื่อยๆ ใช้ลายพื้นฐานตามเดิม

   ช่วงแรกคนยังไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ในมหา’ลัยการจัดแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เห็นบ่อยจนชินตา แต่พอมีผมมาสาธิตการทอให้เห็นแบบจะๆ หลายคนเริ่มหันมามองบ้าง การเห็นในสิ่งที่แตกต่างจากชีวิตประจำวันทุกคนย่อมให้สนใจ

   คนในชมรมก็ช่างทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน ช่วยกันชักชวนคนเข้ามาดูยิ่งกว่าเซลขายประกัน ถ้าคนไหนรู้จักกันนี้แถมจะอุ้มเข้ามาวางประดับให้งานดูคึกคัก ผมเองก็คอยแจกจ่ายรอยยิ้มตอบคำถามทั้งเรื่องผ้าจนถึงเรื่องส่วนตัวในระดับที่บอกได้ จนสะดุดเข้ากับคำถามหนึ่งนี่แหละ

   “โป้เป็นตุ๊ดเหรอ” สาวปีหนึ่งถามแบบไม่มั่นใจ ผมถึงกับทำหน้าเงิบมองตาปริบๆ ทักว่าผมเป็นเกย์ยังไม่น่าตกใจเท่าคำนี้เลย ผมมีส่วนไหนที่บอกว่าเหมือนตุ๊ดเรอะ ไม่ได้ว่าพวกเขาไม่ดีนะ แต่ผมแมนชัดๆ ต่อให้ทอผ้าก็ไม่ได้นั่งหนีบขาเรียบร้อยซะหน่อย

   “ไมคิดงั้นล่ะ” ถามแบบขำๆ ทั้งที่ในใจอยากรู้จริงๆ

   “แบบว่าปกติคณะนี้เยอะแล้วโป้ยังนั่งทอผ้าที่สำคัญแต่งหน้ากับทำผมด้วยอะ” เธอพูดพลางหันไปมองเพื่อนหาแนวร่วม คนอื่นก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

   “ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอก รู้แล้วอุบไว้นะ” สาวๆ นี้ชอบเรื่องซุบซิบจริงๆ แค่ผมเกริ่นแบบนี้ก็พากันมามุงตาทอประกายแบบไม่ปิดบังสักนิด เอาตรงๆ ผมเป็นเกย์ชอบผู้ชาย แต่ผมก็ยังเอ็นดูผู้หญิงนะ เวลาคุยด้วยแหย่หยอกเล่นน่ารักดี เว้นหญิงคณะผมกับซัน อันนั้นละไว้ในฐานที่เข้าใจ ดูตัวอย่างจากพี่ปุ้นกับพี่ฝ้ายได้

   “คือ ความจริงเราเรียนสถาปัตย์ ที่มานี่เพราะช่วยงานรุ่นพี่ ส่วนเรื่องแต่งหน้าเรามีเรื่องก่อนวันงานเลยต้องปิดรอย” ได้ยินแบบนี้สาวๆ ยิ่งตื่นเต้น แถมยังมีบางส่วนที่เริ่มสนใจเข้ามาร่วมวงเพิ่มด้วย

   “แล้วผม...” สาวคนเดิมมองผมที่ถูกมัดรวบอยู่ด้านหลัง

   “อันนี้มัดให้ดูเรียบร้อยเฉยๆ มันดูสาวขนาดนั้นเลยเหรอ” กลายเป็นผมที่เริ่มจะตงิดใจ

   “ไม่เชื่อลองดูสิ” สาวอีกคนเปิดกระเป๋าที่ยัดสารพัดของล้วงเอากระจกบานเล็กออกมาให้ผมส่อง

   ชัดเลย โดนพี่แอมเล่นให้แล้ว ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นเหมือนหนังยางแบบมีตาข่ายผ้าสำหรับเก็บผมเวลานักศึกษาหญิงชอบทำตอนสอบ ไม่ก็พวกพนักงานในร้านอาหาร พอเห็นหน้าเหลอหราเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวของผม สาวๆ พากันหัวเราะคิกคักกันใหญ่

   ถือซะว่าเป็นการไถ่โทษ ยอมให้พี่แอมแกล้งแล้วกัน แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ต้องใช้ประโยชน์จากมันสักหน่อย

   “เราเพิ่งรู้ตัวนะเนี่ยว่าโดนแกล้ง”

   “เอาออกไหม เดี๋ยวเราเอาออกให้” สาวเจ้าเสนอตัว ดูท่าจะสนใจผมไม่หยอก ผมยิ้มรับแล้วส่ายหัวแสร้งทำหน้าตาน่าสงสารแบบจงใจให้จับได้

   “คงเอาออกไม่ได้ พี่ที่เรามาช่วยงานให้เขาเราทำตัวเรียบร้อยจนกว่าจะจบ ถ้าอยากช่วยจริงๆ เรียกเพื่อนมาเยอะๆ สิ ตรงนี้มีกิจกรรมแจกของด้วยนะ เสร็จงานไวเราจะได้เอาออกไง”

   พวกเธอหัวเราะกันใหญ่ บอกว่าจะพาเพื่อนมาแต่ขอตัวขึ้นไปเรียนก่อน ผมโบกมือบ๊ายบาย พี่แอมคงทนหมั่นไส้ไม่ไหว เดินมาหยิกเอวผม

   “น้อยๆ หน่อยนะ เล่นหูเล่นตาเจ้าชู้แพรวพราว เดี๋ยวซันมาพี่จะฟ้อง”

   “ไม่ต้องเสียเวลาพี่ ผมเห็นแล้ว” เสียงเรียบๆ ลอยมาพร้อมออร่าทะมึนขนาดพี่แอมที่สนใจซันตอนแรกยังชิ่งถอยไปหาเพื่อนเฉย ผมหันไปมองมันที่เดินมาพร้อมมิท

   “กูแค่ชวนคนเข้างานเท่านั้นเอง มึงอย่าคิดมาก”

   “กูไม่คิดมากหรอก ถ้ากูเป็นพวกคิดมากคงอยู่กับมึงไม่ได้จนถึงทุกวันนี้” ผมสะอึก คอหดเพราะยังมีคดีกันอยู่ มันยกมือจับผม “ทำทรงอะไรของมึงเนี่ย เอ้อ ปอนด์ไม่มานะ มันอยากมาแต่โดนเฮียเฟย์เอาขนมล่อกลับบ้านไปแล้ว”

   “พี่แอมเขาทำให้ด้วยความรัก”

   “เขาคงคิดว่าได้น้องสาว” พูดพลางกระตุกยิ้มมุมปาก ผมศอกใส่มันจนนิ่วหน้า มิทยื่นแขนมากั้นระหว่างผมกับซันที่หยอกกันแบบรุนแรง

   “พวกมึงอย่าเพิ่งจีบกัน โป้ กูว่ามึงขอเวลาพักจากพี่แอมก่อนเถอะ”

   “ทำไม?” อย่าว่าแต่ผมสงสัย ซันมันก็ทำหน้าหมางง มิทตอบด้วยการบุ้ยปากไปด้านหลังเห็นไอ้เก้ากำลังเดินตรงมาทางนี้

   “กูว่าพวกมึงเคลียร์กันให้จบเลยดีกว่า เท่าที่กูสืบมา ตราบใดที่มึงไปตัดขาดแบบสุดๆ มันก็ไม่เลิกตื้อมึงหรอก”

   ผมชักกลัวมิทแล้วนะ มีการไปสืบมา เห็นสายตาซันมันเป็นคนสั่งชัวร์

   “ก็ดี โป้มึงไปบอกพี่เขา กูจะไปคุยกับมัน” สิ้นคำก็ก้าวฉับๆ ไปดักหน้าเก้า มีมิทเดินชิวตามหลังรอชมเรื่องสนุก ผมถอนหายใจกำลังจะบอกพี่แอม พี่เขาชิงตัดหน้าโบกมือไล่ราวกับมองดูมาตั้งแต่แรก แม้พี่แอมจะไม่รู้รายละเอียด แต่เขาว่ากันว่าพวกผู้หญิงเซ้นส์ดี สงสัยจะจับความผิดปกติได้

   หันกลับมามองอีกที ไอ้ซันมันซัดเก้าหัวทิ่มไปแล้วครับท่านผู้ชม!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:27:43 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด