}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170322 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage

   เพียะ!!

   เสียงดังพร้อมกับความรู้สึกแสบร้อนไปทั้งแก้มซีกหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นรอยแดงครบห้านิ้ว

   “คุณมันสารเลวเห็นแก่ตัว!” คำด่าที่คุ้นเคยกับเจ้าของเสียงที่แตกต่าง ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่นางแบบ แต่เป็นหญิงสาวที่บังเอิญเจอกันในร้านอาหาร แล้วเราก็สานสัมพันธ์ด้วยดีเสมอมาจนกระทั่งเลิกรากันไปเมื่อแปดเดือนก่อน แล้วเธอก็กลับมาอีกครั้งพร้อมเด็กทารกในอ้อมแขน

   “ผมยอมรับว่าตัวเองเลว แต่ผมไม่ยอมรับลูกที่ไม่ใช่สายเลือดของผมเอง” ผมตอบเสียงเรียบ พยายามใจเย็นกับแม่ลูกอ่อนและเสียงเด็กที่ร้องไห้จ้า คราวนี้ผมเปลี่ยนโลเคชั่นเป็นบันไดหนีไฟแทนลานจอดรถเพราะยังเข็ดกับเหตุการณ์เมื่อปีก่อนไม่หาย

   “คุณพูดออกมาได้ยังไง คุณหาว่าฉันนอนกับคนอื่นนอกจากคุณงั้นเหรอ!” ยิ่งคนเป็นแม่เผยอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา เด็กทารกก็ยิ่งแผดเสียงร้องจนหน้าแดง ท่าทางน่าสงสารเสียจนผมอ่อนใจ

   “เอาล่ะ คุณช่วยใจเย็นๆ ก่อนแล้วเราค่อยคุยกันดีมั้ย ยิ่งคุณเป็นแบบนี้มันส่งผลกับเด็กนะ” ปากพูดขณะที่กำลังครุ่นคิดว่าจะเอายังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้าดี ผมไม่เกลียดเด็ก ออกจะชอบด้วยซ้ำ หรือจะให้รับมาเป็นลูกก็ยังได้ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกผมก็ตาม

   แต่มันติดตรงที่ว่า เธอกำลังจะใช้ประโยชน์จากลูกของตัวเอง ถ้าผมยอมอ่อนข้อให้ เธอจะยิ่งเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่อยากให้เด็กคนนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือ โทษทีนะเจ้าหนู

   “จะให้เย็นได้ยังไง คุณมันไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ฉันต้องตั้งท้องเพียงลำพัง คุณไม่เคยมาดูดำดูดี กับแค่เงินค่าเลี้ยงดู ทำไมคุณถึงใจแคบขนาดนี้ ฮือ” พูดจบก็ปล่อยโฮเหมือนเขื่อนแตก กลายเป็นเสียงร้องไห้ของแม่กับลูกผสมกันจนผมปวดหัวตุบๆ

   “เฮ้อ หากต้องการแบบนั้น งั้นเราไปตรวจ DNA กัน ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกผม ผมจะรับแกไปเลี้ยงเอง แต่ถ้าไม่ใช่คุณต้องเลิกราวีผมซะ” เสนอทางออกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพราะผมมั่นใจว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกผมแน่นอน ถึงเวลาที่เราห่างกันจะลงล็อกก็เถอะ ในเมื่อผมใช้ถุงยางเสมอและไม่เคยถุงยางแตก โอกาสพลาดมันแทบเป็นไปไม่ได้

   “จะตรวจทำไมในเมื่อเขาเป็นลูกของคุณ!”

   สุดท้ายก็วนกลับมาจุดเริ่มต้น เหมือนวงจรอุบาทที่ไม่มีวันจบสิ้น ท่ามกลางเสียงด่าสาดเสียเทเสียและเสียงเด็กที่ยังไม่ยอมหยุดร้องง่ายๆ ทำเอาขีดความอดทนของผมมันเริ่มจะลดลงเรื่อยๆ

   “ยังไงคุณก็ต้องรับผิดชอบ!!”

   ผึ่ง!

   ขีดความอดทนขาดสะบั้น ผมลืมตาอีกครั้งจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยแววตาคมกริบจนเธอสะดุ้ง ผมเดินเข้าไปหาทีละก้าวอย่างคุกคาม เธอถอยหลังจนกระทั่งหลังติดกำแพง ผมถึงหยุดเดินและโน้มตัวไปจ้องระยะประชิด พลางเอ่ยเสียงรอดไรฟัน

   “อยากจะให้รับผิดชอบนักใช่มั้ย ได้! เราไปโรงพยาบาลมันเดี๋ยวนี้เลย” ผมชิงเด็กมาอุ้มไว้เอง เพราะท่าทางสติหลุดแบบนั้นขืนให้อุ้มเด็กต่อไปได้เกิดเรื่องสลดแน่ ส่วนอีกมือบีบต้นแขนเล็กแน่นระบายอารมณ์กรุ่นในอก ฉุดกระชากให้เดินไปด้วยกัน แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน หางตาเห็นบางสิ่งพุ่งเข้ามาพร้อมสัมผัสแบบเดียวกับที่เพิ่งโดนไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

   เพียะ!!

   แก้มอีกข้างเห่อร้อนขึ้นมาทันที ตามด้วยอาการปวดแสบและกลิ่นเลือดในปาก บ่งบอกว่ามันแรกกว่ารอบแรกอย่างเทียบไม่ติด เด็กในอ้อมแขนถูกอุ้มออกไป มือที่บีบแขนอดีตคู่ควงถูกฟาดด้วยสันมือให้ปล่อย

   ผมมองบุคคลที่สามซึ่งกำลังอุ้มเด็กพลางประคองผู้หญิงอย่างอ่อนโยน แต่แววตาดุร้ายจ้องมองผมเหมือนอยากจะพุ่งเข้ามาฉีกเป็นชิ้นๆ ฝ่ามือเมื่อกี้เล่นเอาความโกรธบินหายออกจากหัว กลายเป็นความมึนงงแทน นี่มันสถานการณ์บ้าอะไรกันเนี่ย

   “สิ่งที่ฉันขอไปมันไม่ได้เข้าสู่สมองนายเลยสินะ หน้าตัวเมีย! รังแกได้กระทั่งผู้หญิงกับเด็ก คนอย่างนายอยู่ไปก็รกโลก ต่ำช้าน่าไม่อาย สมควรจะตายๆ ไปซะ สังคมจะได้น่าอยู่มากขึ้น” ด่ารัวเป็นชุดขนาดที่ผมกับอดีตคู่ควรยังต้องอึ้ง ไม่เว้นกระทั่งเด็กทารกที่ตอนนี้เงียบเสียงเหมือนไม่เคยร้องไห้มาก่อน

   “ผมว่าคุณกำลังเข้าใจอะไรผิด” ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ควบคุมสติไม่ให้เตลิดแบบเมื่อครู่

   “เจ้าใจผิดว่าคุณทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ แถมยังมีหน้าทำร้ายเธอกับลูกอีกน่ะเหรอ” น้ำเสียงยียวนแบบที่ไม่น่าหลุดออกมาจากใบหน้าสวยๆ นั่นทำเอาผมตะลึง คนเรานี่มองแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ

   ผมตอบอย่าง(พยายาม)ใจเย็น “เอาแบบนี้ เชิญคุณมาที่ห้องทำงานผมด้วยแล้วกัน” เห็นทีงานนี้ต้องเคลียร์ให้จบ คิดพลางหยิบมือถือส่งข้อความให้เลขาส่วนตัว

   “ทำไมฉันต้องไปด้วย” คนสวยแสดงอาการต่อต้านชัดเจน

   “ผมจะพาคุณผู้หญิงคนนี้ไปคุยที่ห้องทำงาน คุณควรจะตามไปปกป้องเธอจากปีศาจร้ายอย่างผมไง” แฝงความประชดประชัดไปอย่างเต็มเปี่ยม อีกฝ่ายนิ่งไปอย่างลังเล ทำให้คนสวยไม่เห็นรอยยิ้มของผู้หญิงน่าตาย

   “ตกลง นำทางสิ” ในที่สุดอีกฝ่ายก็ตอบรับ คงเพิ่งนึกออกว่านี่มันเรื่องของคนสองคน ควรให้พวกผมตกลงกันเอง แต่ก็ยังไม่วายตามไปอารักขาอย่างที่ผมประชดไว้ ซึ่งมันก็ดี อีกฝ่ายจะได้รู้ว่าความจริงว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง

   ผมนำทางพวกเข้าขึ้นลิฟต์เฉพาะพนักงาน พยายามเมินสายตาสงสัยของพวกลูกน้องที่มองหน้าผมอย่างตกใจ เพราะมันคงแดงก่ำเป็นรอยมือทั้งสองข้าง

   เมื่อถึงห้องทำงานของตัวเอง เลขาก็เดินมาหาอย่างรู้หน้าที่

   “ผมโทรเรียกเขามาแล้วครับ ไม่เกินห้านาทีเขาจะมาถึงห้องทำงานของท่านประธาน”

   ผมพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว เอาน้ำมาให้แขกด้วย ส่วนพวกคุณ รออีกคนหนึ่งก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน” พูดเสร็จผมก็นั่งเงียบ มองคนสวยที่ผมยังไม่รู้จักชื่อ กำลังช่วยดูแลเด็กอยู่ ส่วนคนแม่เอาแต่มองผมไม่ยอมละสายตาไปไหน ขณะที่เลขาผมนำน้ำมาเสิร์ฟพร้อมผ้ามาให้ผมประคบหน้า เวลาผ่านไปไม่นาน คนที่รอคอยก็มาถึง

   เขาเป็นผู้ชายที่ผมและเธอคนนั้นรู้จักดี ใบหน้าเธอถึงได้ซีดสลับแดง

   “ขออนุญาตครับท่านประธาน” อีกฝ่ายกล่าวเสียงนอบน้อมแววตาฉายความหวั่นเกรง

   “ผมไม่ใช่ประธานของคุณอีกต่อไปแล้ว” อีกฝ่ายเป็นอดีตเลขาของผมเอง ผมวางผ้าไว้บนโต๊ะแล้วประสานมือไว้ตรงปลายคางจ้องอดีตคนคุ้นเคย “ทีนี้ช่วยอธิบายให้ผมฟังทีซิว่า ทำไมภรรยาของคนถึงอุ้มลูกมาหาเรื่องผมถึงที่ทำงาน”

   “ผมขอโทษครับท่าน...คุณจิตติพัฒน์ ผมจะรีบพาเธอกลับเดี๋ยวนี้ ได้โปรดอย่าแจ้งตำรวจเลยนะครับ” อีกฝ่ายก้มหัวลงต่ำพลางมองผมด้วยสายตาขอร้อง ผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใจ พอจะอ้าปากก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มีคนนอกอยู่ด้วย เลยเปลี่ยนความคิดที่จะเอาเรื่องเป็นปล่อยอีกฝ่ายไปแทน

   “ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก คุณจะหาว่าผมใจแคบไม่ได้”

   “ครับ ขอบคุณมากครับ” อดีตเลขายกมือไหว้อย่างซึ้งใจแล้วรีบเดินไปหาภรรยา “กลับได้แล้ว เลิกทำตัวน่าอายแบบนี้สักที ต่อให้คุณไม่แคร์หน้าตาตัวเอง ก็ควรจะนึกถึงลูกบ้าง”

   “ฉันไม่กลับ! แกไม่ใช่พ่อเด็ก จินต่างหากที่เป็นพ่อเด็ก ปล่อยนะ! จะให้ฉันไปทนลำบากกับแกได้ยังไง” เสียงโวยวายของเธอไม่ได้รับการสนใจ

   “ผมขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ขอลูกผมคืนด้วยนะครับ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากกับคนแปลกหน้า แล้วพาลูกกับภรรยาออกไปโดยมีเลขาตามไปส่ง พร้อมประตูที่ปิดกั้นเสียงเอะอะด้านนอกไม่ให้เล็ดลอดเข้ามา ภายในห้องจึงเหลือเพียงสองคน

   คนหนึ่งนั่งนิ่งรอให้อีกฝ่ายเปิดปาก ส่วนอีกคนยังคงสับสนกับเหตุการณ์ที่เกินขึ้น สุดท้ายก็อดถามไม่ได้

   “ตกลงเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่”

   คนสวยอยากรู้ขนาดนั้น ผมก็สนองให้ อย่างน้อยๆ ขอเรียกคะแนนของตัวเองคืนมาสักหน่อยก็ยังดี อุตส่าห์ได้กลับมาเจอกันอีกทั้งที

   “ผู้หญิงคนนั้นเคยคบผมมาก่อนก็จริง แต่พวกเราเลิกกันไปนานแล้ว เพราะผมจับได้ว่าเธอมีอะไรกับเลขาของตัวเอง”

   “คุณเลยไล่เลขาคนนั้นออก ทั้งที่คุณก็ไม่ได้คิดจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ” คนสวยชักสีหน้า ดูท่าผมในสายตาของเขาคงจะเลวร้ายมาก

   “ผมไม่ได้ไล่ออก เขาลาออกด้วยตัวเองต่างหาก อันที่จริงผมแถมเงินให้พวกเขาไปก้อนหนึ่งด้วยซ้ำ ที่ผู้หญิงคนนั้นกลับมาโวยวายคงเพราะเงินหมดนั่นแหละ” ผมยักไหล่ ได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจชัดเจน

   “ขอโทษด้วยที่ผมมันยุ่งไม่เข้าเรื่อง แต่ไม่ขอโทษเรื่องที่ตบคุณหรอกนะ สมควรแล้ว เจ้าชู้ดีนัก น่าจะโดนตอนเป็ดกินไปซะ” ท้ายประโยคคล้ายพึมพำกับตัวเองแต่ผมได้ยินเต็มสองหู เล่นเอาเสียวช่วงล่างไปวูบหนึ่ง อาศัยความเป็นมืออาชีพของตัวเอง แสร้งตีหน้าเฉยราวกับไม่มีอะไรเกินขึ้น แล้วชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง

   “ดูคุณจะเกลียดขี้หน้าผมน่าดู” ผมหัวเราะในลำคอ มองคนสวยอย่างสนใจ เคยได้ยินคนหนึ่งบอกว่า การพบกันครั้งหนึ่งเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถ้ามีครั้งต่อมาถือว่าเป็นโชคชะตา ผมจะลองเชื่อคำพูดนั้นและสร้างโอกาสให้มีครั้งต่อๆ ไปดีกว่า ไหนๆ ช่วงนี้ก็เบื่อพวกคนที่วิ่งเข้าหา ให้ผมเป็นฝ่ายตามเองก็ไม่เลว

   “ไม่ใช่แค่เกลียด แต่สะอิดสะเอียนคนแบบคุณมากที่สุด หมดธุระแล้วก็ขอตัวล่ะ ลาก่อน หวังว่าจะไม่เจอกันอีกตลาดกาล ไม่ก็ขอให้คุณตายเพราะผู้หญิงสักวัน” วาจาเชือดเฉือนเล่นเอาผมสะอึก รีบผุดลุกไปคว้าแขนคนที่กำลังเดินหนี
   “เดี๋ยวก่อนสิคุณ รอบก่อนผมบอกชื่อตัวเองแล้ว แต่คุณยังไม่บอกชื่อผมเลยนะ มันเป็นมารยาทไม่ใช่รึไง”

   ดวงตาคมสวยตวัดใส่ แทงใจผมเข้าอย่างจัง ‘ติชิลา’ พอใจแล้วรึไง ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อย ไม่อยากเสวนาด้วย“ อีกฝ่ายสะบัดแขนผมอย่างแรง ไม่แปลกใจเลยว่าครั้งแรกที่เจอทำไมถึงกระชากผมซะปลิว ทั้งที่ผมก็ตัวสูงใหญ่พอสมควร

   “พระจันทร์? โอเคคุณจันทร์ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วให้โอกาสผมได้กู้หน้าตัวเองหน่อย เที่ยงนี้ให้ผมเลี้ยงข้าวคุณเถอะ แทนคำขอโทษที่ทำให้คุณเสียเวลา”

   คนสวยเค่นเสียงมองหางตา “เชยชะมัด ผมชื่อเล่นว่ามูนต่างหาก คุณจิน!” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ไม่มีทีท่าว่าจะเลี่ยงหนีอีก เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ผมรุกขนาดนี้ถ้ายังไม่รู้ตัวอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไง

   “เรียกผมว่าจินดีกว่า จะได้ไม่ดูห่างเหินกันเกินไป มาเถอะ ผมจะพาคุณไปเลี้ยงมื้ออร่อย ร้านอาหารห้างผมไม่น้อยหน้าโรงแรมห้าดาวเลยนะ” ความจริงไม่ถึงหรอก แต่พูดไปงั้น อย่างน้อยๆ ก็ช่วยคลายบรรยากาศลงได้บ้าง

   “ผมคงต้องลองดูสักครั้ง ถ้ามันไม่จริงคุณจะชดเชยยังไง” ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคู่สวยจ้องผมตาวาว พระจันทร์ดวงนี้แอบร้ายไม่ใช่เล่น หยอดมาหยอดกลับไม่ยอมเสียเชิง ถึงอย่างนั้นก็ยังเว้นระยะห่างจากผมอยู่ แม้ผมจะมั่นใจว่าที่อีกฝ่ายยอมเล่นด้วยเพราะคิดดัดสันดานผม แต่ก็ช่างมันเถอะ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร มารอดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำกันแน่

   “ชดใจด้วยบัตร VIP พร้อมบัตรฟรีทานอาหารร้านนั้นฟรีตลอดปีไปเลย” ผมเสนออย่างใจป้ำ อีกฝ่ายหัวเราะเยาะเจือเสียงดูแคลน

   “คงใช้มุกนี้กับผู้หญิงมามากล่ะสิท่า เอาเถอะ ถือว่ากินของฟรี” ผมยิ้มรับคำกล่าวนั้น จะบอกว่าช่วงโปรโมชั่นก็ไม่ผิด เลยเปิดประตูให้พร้อมเดินนำไปยังร้านอาหารที่หมายตา คิดเสียว่าเป็นเดตแรกเลยแล้วกัน


ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*เนื่องจากเป็นต้นฉบับดิบ คำผิดอาจจะเยอะเป็นเงาตามตัว ในเล่มจะทำการแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่วนการแบ่งเป็นพาร์ทสั้นๆ เพราะแบ่งตามเหตุการณ์ต่างๆ เพราะเป็นคู่เสริมเลยเหมือนเป็นการเล่าเรื่องมากกว่าจะมีรายละเอียดอย่างนิยายเรื่องยาว


   หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผมกับมูนก็แลกเบอร์โทรกัน จากการตื้อขอของผมเองและได้รู้ด้วยว่าความจริงมูนมีรีสอร์ทอยู่ที่กาญจนบุรีเป็นกิจการของครอบครัว ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงมาเจอฉากเด็ดในห้างผมได้หลายครั้งนั้นเป็นเพราะเจ้าตัวเข้ากรุงเทพมาทำธุระ แล้วแวะห้างเพื่อซื้อของไปฝากคนที่บ้าน

   ห้างแถวนี้มีตั้งหลายที่ แต่มูนเลือกห้างของผม เห็นมั้ยว่ามันคือโชคชะตา และผมไม่คิดจะปล่อยมือจากโชคชะตาในครั้งนี้ด้วย ผมเลยจีบมูนแบบเต็มตัว ถ้ามูนเข้ากรุงเทพก็จะหาเวลาไปพบ กินข้าวด้วยกัน หรือถ้าผมมีวันหยุดก็ตามไปหาถึงรีสอร์ท พอมีโอกาสพิเศษก็จะซื้อดอกไม้ไปให้ ความจริงผมเคยซื้อของขวัญราคาแพงเพราะคิดว่าน่าจะชอบเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมา

   แต่นอกจากมูนจะไม่ชอบแล้วยังขว้างของขวัญใส่หน้าผม พร้อมบอกว่าตัวเองไม่ได้หิวเงินเหมือนอดีตคู่ขาที่ผ่านมา ก่อนจะปิดประตูกระแทกหน้าดั้งเกือบหัก แถมไล่ผมกลับกรุงเทพเหมือนหมูเหมือนหมาไม่เหลือคราบท่านประธานเจ้าของห้างดัง

   แถมไม่ยอมติดต่อ ไม่ยอมให้พบหน้าเป็นอาทิตย์ ปล่อยให้ผมตามตื้อแบบทุลักทุเลเพราะตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างเท่าไหร่นัก ทั้งโทรหา ส่งข้อความ ส่งเมล ไปหาด้วยตัวเอง ลองมันหมดทุกวิธีที่คิดออก ทั้งที่ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องตามง้อขนาดนี้ ที่ผ่านมาหากเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน ผมคงไม่เหลียวแลแถมยังจดเข้าบัญชีดำอีกต่างหาก

   บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกอยากเอาชนะก็ได้ ผมคิดหาทางออกให้กับความผิดปกติของตัวเอง แล้วลั่นวาจาสาบานว่าจะไม่ซื้อของราคาแพง หรือทำแบบเดียวกับที่ทำให้คู่ควงคนอื่นๆ มูนถึงยอมอ่อนลงให้ผมติดต่อหาตามเดิม

   นานวันเข้าความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปในจุดที่แม้แต่ผมเองยังคาดไม่ถึง ผมที่มีชีวิตอิสระชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เกลียดการถูกบงการที่สุด กลับยอมให้มูนก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ให้กุญแจและคีย์การ์ดเปิดประตูให้เข้าห้องส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครเข้ามาก่อนกระทั่งครอบครัวของพ่อบุญธรรม

   ข้าวของไม่กี่อย่างกับเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายก็เริ่มมีหลายสิ่งเพิ่มเข้ามา ผมเป็นคนทำอาหารไม่เป็นเลยแทบไม่มีเครื่องครัว นอกจากกาต้มน้ำไว้ชงกาแฟ แต่มูนชอบทำอาหาร แถมชอบอาหารทำเองมากกว่าไปกินที่ร้าน เครื่องครัวเลยเพิ่มขึ้นมาทีละสองสามชิ้น จนตอนนี้มีครบหมดทุกอย่างมากกว่าครัวปกติด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าเครื่องครัวทุกชิ้นมูนเป็นคนออกเงินเอง ไม่ยอมให้ผมเสียตังแม้แต่สตางค์แดงเดียว

   อย่างวันนี้มูนก็มาทำมื้อเย็นให้ผม โดยที่ผมมีหน้าที่แค่นั่งรออยู่เฉยๆ ไม่เข้าไปเกะกะในห้องครัว เพราะคราวก่อนพอผมเข้าไปช่วย กลายเป็นว่าทำให้มูนยุ่งมากกว่าเดิม อาหารมื้อดันเลยเลทจากเวลาที่คิดไว้พอสมควร นับจากวันนั้นมูนเลยห้ามไม่ให้ผมเข้าไปกวนในครัวอีก

   เวลาผ่านไปสักพัก กลิ่นหอมอบอวนไปทั่วห้องพร้อมอาหารน่ากินที่เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นแกงจืดไข่น้ำ ไก่ทอดสมุนไพร ผัดผักรวมน้ำมันหอยและสะตอผัดพริกแกงกุ้ง เนื่องจากผมกินเผ็ดไม่ค่อยได้ เมนูส่วนใหญ่เลยเหมือนเด็กน้อยไม่กินเผ็ด มีแค่อย่างสุดท้ายที่มูนทำให้ตัวเองเพราะติดรสจัด

   ถึงหน้าตามันจะไม่สวยหรูเหมือนอาหารจากโรงแรมห้าดาว แต่ความอร่อยเทียบกันไปติด อาจจะเพราะคนทำให้กินด้วยมั้ง เวลามูนมาทำอาหารให้ทีไรผมเลยเจริญอาหารเป็นพิเศษ

   “ขอข้าวอีกจาน” ผมส่งจานเปล่าให้มูนหลังกินหมดภายในสิบนาที อีกฝ่ายยิ้มรับ ตักข้าวให้เพิ่มแถมตักกับให้อีกหลายอย่างสมกับเป็นคนช่างดูแล

   “กินเยอะแบบนี้คงไม่ใช่ว่าตอนเที่ยงทำงานจนลืมกินข้าวใช่มั้ย” น้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนปกติ ด้วยความที่คบหากันมาระยะหนึ่งแล้ว ผมพอจับสัญญาณได้ว่าลางร้ายกำลังมาเยือน เลยวางช้อนจิบน้ำตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ

   “กินสิ แต่กินไม่เยอะเพราะไม่อร่อยเท่ามูนทำ”

   มูนส่ายหัว “โกหกไม่เนียนเลยนะจิน ปากหวานไปก็ไม่ช่วยให้พ้นผิดหรอกนะ ที่มูนย้ำให้กินข้าวก็เพื่อสุขภาพของจินเอง จินเอาแต่ทำงาน ติดกาแฟ สูบบุหรี่แล้วยังกินข้าวไม่ตรงเวลาอีก เดี๋ยวก็ป่วยกันพอดี” คนสวยเริ่มบ่น แต่ผมไม่นึกรำคาญ เพราะคำพูดของมูนมาจากความเป็นห่วงจากใจจริง ชวนให้รู้สึกหัวใจพองฟู ผมอมยิ้มแล้วเริ่มหยอดตามนิสัย

   “ยอมตกลงคบกับจินสิ แล้วจินจะเชื่อฟังทุกอย่างเลย” แทนตัวด้วยชื่ออย่างสนิทสนมขนาดนี้ ยังไม่ได้คบกันเป็นแฟนเลย

   “ไม่” มูนเองก็ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด ผมรู้สึกเสียเซลฟ์ไปนิดหน่อย แต่ยังไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ

   “ทำไมล่ะ หรือว่าจินทำอะไรไม่ถูกใจ” ถามพลางนึกทบทวนวีรกรรมระยะนี้ของตัวเอง หากเทียบกับสมัยก่อนก็นับว่าสงบเสงี่ยมขึ้นมากแล้วนะ

   มูนไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดนาน วางช้อนแล้วมองด้วยสายตาจริงจัง “พวกเราไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้ว ถ้าจะคบก็อยากได้คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตอยู่ด้วยกันไปนานๆ แล้วอีกอย่าง...” ดวงตาคมกริบเล่นเอาผมสะอึก “มูนรู้นะว่าจนถึงทุกวันนี้จินก็ยังไม่เลิกเจ้าชู้ อย่าเพิ่งขัด จินไม่ได้ควงกับใครออกหน้าแล้วก็จริง แต่อย่าคิดว่ามูนไม่รู้ว่ายังมีอยู่ในสต๊อกอีกเป็นสิบ ตราบใดที่จินยังเลิกนิสัยนี้ไม่ได้ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก”

   ความจริงตอกหน้าเล่นเอาจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปาก ปิดปากสลับกันเหมือนปลาขาดน้ำ มูนถอนหายใจและยิ้มอ่อนให้ ช่วยให้บรรยากาศไม่หนักหน่วงจนเกินไป

   “เราค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนดีกว่านะ เอาไว้วันที่เราพร้อม ค่อยคบกันก็ยังไม่สาย…”

   “จินจะเปลี่ยนตัวเอง”

   “หือ?”

   ผมมองมูนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพราะผมมีลางสังหรณ์ว่า หากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อต่อไปโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางแบบนี้ สักวันมูนต้องจากไปแน่ๆ คนที่จะทนรอได้ตลอดไม่มีหรอก จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเอง

   “ฉันจะเลิกเจ้าชู้ เลิกติดต่อคนอื่นๆ ให้หมด นอกจากเรื่องงานจะมีแต่เรื่องมูนเท่านั้น”

   ถูกบอกด้วยความรู้สึกเร่าร้อนขนาดนี้มูนก็แอบผงะ สุดท้ายก็หลุดขำออกมา เอื้อมมือไปหยิกแก้มเจ้าของห้องอย่างมันเขี้ยว

   “แค่ลมปากมูนไม่เชื่อหรอกนะบอกไว้ก่อน”

   “เข้าใจแล้ว หากถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ขอแค่มูนอย่าปฏิเสธจินก็พอ”

   “พูดจาเอาแต่ใจจังนะ” คนสวยเท้าคางมองท่านประธานในมาดเด็กหนุ่มริรัก ผมไม่ตอบอะไร แต่จับมือมูนที่อยู่ข้างแก้มมากดจูบหนักๆ แทนการยืนยัน ไม่ว่าผมจะอยากเอาชนะ หรือหลงมูนแล้วจริงๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าไม่อยากปล่อยมือคู่นี้ไป อยากจะยึดไว้เป็นของตัวเองเพียงคนเดียว

   ทุกอารมณ์ถูกสื่อออกมาทางดวงตาที่สะท้อนภาพดวงจันทร์ผู้งดงาม ในขณะที่ผมกำลังไฟลุกโชกช่วง พระจันทร์ดวงนี้กลับนิ่งสงบและเฝ้ามองอย่างใจเย็น ดวงตาสีเข้มคู่สวยนี้ลึกล้ำจนยากหยั่งถึง กว่าผมจะรู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในคืออะไร ก็หลังจากนั้นอีกนาน


ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
จินโดนหลอกแล้ว 555 มูนเจ้าเล่ห์ไปอีก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*เป็นตอนสุดท้ายที่จะอัปลงเว็บจ้า หนังสือยังสามารถพรีออเดอร์ได้
ด้วยการสอบถามไปที่เพจ SilverFish4 - https://www.facebook.com/SilverFish4/
หมดเขตการพรีวันที่ 12 พ.ย. 60 รีบซื้อก่อนจะหมดโปรลดราคารอบพรีนะ เพราะถ้าซื้อหลังจากนี้ราคาเต็มจ้า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากลั่นวาจาไว้คือการเคลียร์ตัวเองให้สะอาดหมดจน โดยเริ่มจากไล่โทรไปหาอดีตคู่ควงทุกคนว่าผมจะเลิกติดต่อนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บางคนคุยง่ายแค่บอกตัดความสัมพันธ์อีกฝ่ายก็ยอมจบโดยดี คงเพราะมีคนใหม่ด้วย แต่หลายคนก็คุยยาก ฟูมฟายไร้สาระน่าปวดหูจนผมต้องใช้เงินให้สงบและสั่งห้ามกลับมารบกวนผมอีกเป็นครั้งที่สอง เหลือแค่ส่วนน้อยที่นอกจากจะไม่ยอมจบความสัมพันธ์แถมไม่ยอมรับเงินแล้วยังดึงดันจะพบผมให้ได้

   แน่นอนว่าผมนัดพบเรียงคน และประกาศจบความสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด ต่อให้ไม่ยอมผมก็ไม่สน ยังไงซะคนพวกนี้ก็ทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว กว่าจะตกลงกับผู้หญิงเหล่านั้นเสร็จ กินเวลาร่วมอาทิตย์กว่า ซึ่งระหว่างนั้นผมยังคงติดต่อกับมูนปกติ แล้วผมหักซิมที่ใช้ติดต่อกับพวกเธอทิ้ง เหลือเพียงเบอร์สำหรับคุยงานกับเบอร์ส่วนตัวสำหรับคนที่สนิทจริงๆ อย่างครอบครัวของพ่อบุญธรรมกับมูน

   ผมใช้ชีวิตอยู่กับร่องกับรอยมากที่สุดในรอบสิบปี ขนาดที่ผมยังไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองทำได้ ตื่นเช้ามาทำงาน พักเที่ยวทานอาหารแล้วกลับมาทำงานต่อ พอเลิกงานถ้าไม่ติดนัดทานอาหารกับลูกค้าก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับมูนโดยเฉพาะวันหยุด ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนทอดสะพานให้ผมก็ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ

   พวกคู่ค้าหรือหุ้นส่วนที่อายุมากกว่าและผมให้ความนับถือ ก็ออกปากชมว่านิสัยผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเอง เอาใจใส่คนรอบข้างมากกว่าเดิม บอกให้ผมทำแบบนี้ต่อไปเพื่ออนาคตที่มั่นคง มีหลายคนแซ็วว่าผมคงจะเจอคนที่รักจริงเสียที ถึงโดนปราบเสียอยู่หมัด ผมไม่ตอบอะไรแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

   ผมกำลังรอเวลาเหมาะๆ อยู่ที่จะขอมูนเป็นแฟนอีกครั้ง ตอนนี้เป็นช่วงเดือนพฤษภาคม ดอกไม้ที่มูนชอบกำลังออกดอกบานสะพรั่ง ผมเลยสั่งให้เลขาไปซื้อต้น Lily Of The Valley มาหนึ่งกระถาง มันเป็นพืชขนาดเล็ก มีใบสีเขียวขนาดใหญ่ ช่วงดอกจะเป็นกิ่งยื่นออกมาและมีดอกเล็กๆ สีขาวบริสุทธิ์รูปทรงเหมือนระฆังคว่ำเรียงตัวไล่ระดับ พอเอามาตั้งในห้องทำงานก็ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนให้รู้สึกสดชื่นออกมา

   อันที่จริงผมอยากจะซื้อน้ำหอมที่สกัดจากดอกไม้ชนิดนี้ไปให้มูนด้วย แต่เกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เลยพับความคิดนั้นเก็บไปก่อน เปลี่ยนมาเป็นอะไรที่ดูธรรมดาแต่สื่อความรู้สึกได้อย่างชัดเจน แถมมูนยังเคยบอกว่า ดอกไม้สวยๆ ซื้อไปไม่นานก็เหี่ยวตาย ผมเลยคิดจะมอบให้ทั้งกระถางไปเลย จะได้ช่วยกันดูแลเป็นของแทนใจ

   “ท่านประธานเอาแต่ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่กับกระถางต้นไม้แบบนี้ก็ไม่ช่วยให้สมหวังหรอกนะครับ” เลขาวัยกลางคน เป็นคนเก่าแก่ที่มาช่วยทำงานจนกว่าจะได้เลขาคนใหม่ เอ่ยทักขึ้นขณะวางแฟ้มลงบนโต๊ะ

   “ผมคิดจะเอาไปให้เขาในวันหยุดที่ใกล้จะถึงนี้ คุณคิดว่าผมควรจะเพิ่มริบบิ้นสักหน่อยดีมั้ย หรือซื้อพวกตุ๊กตาประดับสวนตัวเล็กๆ มาประดับดี” ท่านประธานใหญ่พูดอย่างอารมณ์ดี แม่มือจะหยิบแฟ้มมาเปิดอ่าน แต่ยังไม่วายชำเลืองมองกระถางสีฟ้าลายนกสีขาวเป็นระยะ

   “เพิ่มริบบิ้นก็พอแล้วมั้งครับ ใบใหญ่ขนาดนี้ ถ้าซื้อตุ๊กตาประดับสวนมาใส่คงจะโดนบังหมดพอดี”

   ผมพยักหน้ารับ “งั้นเอาตามที่คุณว่าเลย ผมฝากซื้อริบบิ้นหน่อยนะ ถ้าจะให้ดีขอเป็นสีขาว”

   “รับทราบครับ แต่ก่อนหน้านั้นท่านประธานมีประชุมตอนบ่ายโมง...” เลขาเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะการทำงานอีกครั้ง ผมเองก็ตั้งใจฟังขณะที่ตาอ่านรายละเอียดของโครงการก่อนเข้าประชุม

   บรรยากาศในห้องประชุมเองก็น่ารำคาญเหมือนเคย ให้ความรู้สึกเหมือนฮ่องเต้ที่ต้องมานั่งฟังขุนนางเถียงกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง โครงการปรับปรุงต่อเติมห้างครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มความทันสมัย มันควรจะผ่านได้ด้วยดี หากไม่ติดที่ว่ามีคนบางกลุ่มเกิดนึกอยากคัดค้านการต่อเติมในครั้งนี้ ทั้งที่ผ่านมาไม่ใช้สิทธิ์ออกเสียใดๆ ทั้งสิ้น

   ผมก้มมองโครงการที่ดำเนินมาจนถึงช่วงท้ายก่อนอนุมัติก่อสร้าง กลับต้องรื้อใหม่เพื่อตรวจสอบบ้าบอไร้สาระ จนงานส่วนอื่นๆ ต้องหยุดชะงักไปทั้งหมด ผลสุดท้ายก็หาข้อสรุปไม่ได้จำต้องยกไปประชุมใหม่อีกครั้ง เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผมแทบไม่มีเวลาติดต่อมูน กระทั่งวันหยุดที่วาดหวังไว้ยังต้องพังไม่เป็นถ้าเพราะติดประชุมกะทันหัน

   แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะเห็นผมเผชิญอุปสรรคไม่มากพอ ช่วงเวลาที่ผมกำลังคิดใคร่ครวญว่าจะทำยังไง ถึงจะผลักดันโครงการนี้ให้เป็นผลสำเร็จโดยเร็ว ลูกชายของพ่อบุญธรรมก็ส่งข่าวหนึ่งมาให้ ซึ่งตัวเอกของข่าวนี้คือผมเอง...


   ‘รีบดูก่อนถูกลบ! ใครจะไปคิดล่ะว่าหนุ่มเจ้าของห้างดังใจกลางกรุงจะมีเบื้องหลังที่เน่าเฟะแบบนี้ นอกจากข่าวคาสโนว่าตัวพ่อที่ลือกันหนาหู ล่าสุดมีข่าวนางแบบสาวตกอับ มีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนเกิดโซ่น้อยคล้องใจ แต่ดูเหมือนคนพ่อจะไม่ต้องการ เลยสั่งให้ตัดโซ่ฉับ สาวเจ้าน้ำตานองหน้า เกิดรูปหลุดเดินเข้าออกสถานที่ทำแท้งเถื่อน อ่านต่อหน้า...’


   ผมสูดลมหายใจลึกขณะจ้องข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอโน้ตบุ๊ก ก่อนจะกดโทรศัพท์เรียกเลขาด้วยน้ำเสียงเข้มจัดอย่างข่มอารมณ์เต็มที่ ภาพนางแบบสาวคนนี้เป็นคนเดียวกับที่คิดจะขับรถชนผมเมื่อหลายเดือนก่อน

   รอจนกระทั่งเลขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ผมหมุนโน้ตบุ๊กของตัวเองให้อีกฝ่ายดู

   “คุณอานนท์ ไปสืบมาให้ผมทีว่าใครเป็นคนเขียนข่าวนี้ และสืบมาด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ อ่อ อย่าลืมเตรียมทนายกับติดต่อตำรวจเมื่อคราวนั้นไว้ให้ผมด้วย” ในเมื่อเตือนดีๆ แล้วไม่ฟัง ผมก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาด

   อานนท์เห็นข่าวก็หน้าเปลี่ยนสีทันที รีบรับคำแล้วออกไปจัดการตามที่สั่งอย่างรวดเร็ว ส่วนผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในห้องทำงาน หากเป็นปกติผมถูกโจมตีด้วยข่าวฉาวแบบนี้จะไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด เพราะผมสามารถจัดการให้เรื่องมันจบได้อย่างง่ายดาย แต่เวลานี้ไม่เหมือนกัน

   ผมกำลังจะเริ่มต้นกับใครสักคน จะปล่อยให้มันมาทำลายอนาคตของผมไม่ได้เด็ดขาด ผมรีบคว้ามือถือใกล้มือเพื่อโทรหามูนแล้วลองหยั่งเชิงดูว่ามูนรู้ข่าวนี้รึยัง ถ้ารู้แล้วผมจะได้อธิบายว่าผมบริสุทธิ์ แต่ถ้ายังไม่รู้ผมก็จะจัดการให้เรื่องนี้มันเงียบหายไป

   ผมรอสายด้วยใจลุ้นระทึก ร้อนรนจนไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่กับที่ได้ ต้องลุกเดินไปเดินมาภายในห้อง โทรไปหนึ่งครั้งก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะรับ ผมคิดในแง่ดี ไม่แน่มูนอาจจะกำลังติดงานอยู่เหมือนที่ผมเป็นบ่อยๆ ไว้รออีกสักพักผมค่อยโทรไปอีกที

   ขณะที่คิดจะกดตัดสาย ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นซะก่อน

   “ฮัลโหลจิน โทรมามีอะไรเหรอ”

   ผมหรี่ตา เผลอยกยิ้มมุมปาก ดูเหมือนมูนยังไม่รู้เรื่องสินะ

   “คิดถึงเลยโทรหา วันหยุดที่ผ่านมาจินติดงานจนพวกเราไม่ได้เจอกัน ถ้างั้นวันหยุดครั้งหน้ามาเจอกันที่ห้องจินดีมั้ย จินมีอะไรจะให้มูนด้วย” ร่างสูงเอนตัวนั่งลงตรงขอบโต๊ะ นิ้วยาวขึ้นข้อสวยลูบไล้ใบสีขาวในกระถางสีฟ้าเบาๆ ราวกับเป็นตัวแทนของใครอีกคน

   “ได้สิ”

   คำตอบที่ได้รับทำให้ผมโห่ร้องในใจด้วยความยินดี อารมณ์หงุดหงิดเหมือนภูเขาไฟจวนระเบิดก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง

   “...แต่หลังจากที่จินแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อเสร็จแล้วอะนะ”

   ในใจสะดุ้งวาบหลังได้ยินประโยคนี้ของมูน “คุณพูดเรื่องอะไร?” ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

   “อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องจิน มูนเห็นข่าวแล้ว ไปจัดการให้เรียบร้อย ไม่งั้นเราไม่ต้องคุยกันอีก” สิ้นคำก็ถูกตัดสายแทบจะในทันที มือของผมเย็นเฉียบขณะกดโทรกลับอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ได้รับคือเสียงฝากข้อความ

   หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ผมก็ตัดสินใจฝากข้อความในสิ่งที่ต้องการจะบอกให้อีกคนรับฟัง


   กรุณาฝากข้อความหลังเสียงสัญญาณ...
   

   “ผมรู้ว่ามูนเกลียดคนเจ้าชู้กับคนที่ทำร้ายผู้หญิงมากที่สุด แต่ได้โปรด...ช่วยฟังผมอีกสักครั้ง ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ ผมรักคุณนะ หวังว่าคุณจะให้โอกาส”

   ข้อความถูกส่งไปแล้ว ส่วนปลายทางจะยอมรับมั้ยนั่นอีกเรื่อง แต่ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ และไปคุยกับมูนด้วยตัวเอง


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขอบคุณค่ะ
ชอบซันมาก รักมั่นคงสุดๆ

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ Nattarat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ซัน โป้ น่ารัก

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
ขอบคู่นี้มากเลย

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกมาก ๆ ครับ ซัน-โป้ น่ารักมาก ๆ ซันโคตรเท่เลยรักเมียมาก ๆ



ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบสายโหด ฮาร์ดคอคู่นี้ 5555

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ก่อนจะได้สินสอด ระวังโดนสอด(ใส่) อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
5555555
ผัวเมียคู่นี้นี่มันฮา

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เพื่อนแท้มันเป็นอย่างนี้

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จบซะแล้ว
คู่พี่มินจินก็น่าติดตามมากเลยๆ คู่วาเล่ก็ชอบ

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่จินพี่มูนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Woon13396

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด