}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170589 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ชอบเรื่องนี้มากกก
ถึงกับสมัครสมาชิกมาคอมเม้นท์ให้กำลังใจนักเขียนคิดดูละกัน อิอิ สู้ๆนะคะ อยากอ่านเรื่องนี้จนจบ

ดีใจมาก  :sad4: ขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นเป็นกำลังใจครับ คอมเม้นนี่นับเป็นแรงขับเคลื่อนเลย  :katai4:

ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นด้วยครับ นักอ่านเงาก็ขอบคุณที่ชอบผลงานผมนะ  :mew1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่ารักกกกก

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สงสัยโป้จะต้องคุมซันแน่ๆ

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ตามมาจากพี่เฟย์น้องปอนด์. ดีใจจังที่มีคู่มิทกับริวด้วย. รออ่านต่อนะคะ.

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอตอนต่อไปน่าาาาารอทุกตอนแหละแต่อย่าหายน่ะใจคอเราไม่ดีเลยชอบโป้อีกล้าวววว55555

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่10 วันพิเศษ
 
   วันที่ไม่มีเรียน คือวันแห่งการทำความสะอาดห้อง แม้จะน่าเสียดายที่วันนี้เป็นวันพิเศษอย่างวันวาเลนไทน์ แต่ผมไม่นึกขยันเข้ามหา’ลัยเพื่อรับดอกไม้หรือของขวัญสานรักจากใคร ในเมื่อมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว เงียบไว้อย่าไปบอกซันนะ ถ้าซันมันยังไม่คบกับผม ทั้งวันคงไม่เห็นหัว ผมจะมุ่งหน้าเช็คเรตติ้งรับดอกไม้ ช็อกโกแลตให้หนำใจ
 
   พอมีเจ้าของ สิ่งที่ทำได้คือเปลี่ยนตัวเองเป็นนางแจ๋วอาวุธคือไม้กวาดไม้ถูพื้น ซักผ้าอีกเป็นตะกร้า เอาให้เครื่องซักผ้าประท้วงไปข้าง ยังดีระเบียงกว้างพอสมควร ตากได้ตั้งแต่กางเกงในยันชุดนักศึกษา บางส่วนซักแล้วยังไม่รีดก็เอามารีดแขวนใส่ตู้ให้เรียบร้อย ใครก็ได้เอารางวัลพ่อบ้านดีเด่นมาให้ผมที
 
   กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จใช้เวลาเกือบทั้งวัน ตื่นมาทำตั้งแต่ช่วงสาย เงยหน้ามองอีกทีบอกเวลาสี่โมงกว่า ระหว่างที่ผมกำลังนอนแผ่บนโซฟา เปิดพุงตากพัดลม เสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นจังหวะสามช่า อยากตะโกนกลับไปเหลือเกิน พวกเอ็งเคาะเคาะขนาดนี้ เปิดหมอลำเลยมั้ย!

   ด้วยความที่กลัวประตูจะพัง ผมจำต้องลุกไปเปิดดูว่าใครบังอาจมารบกวนเวลาพักผ่อน ปรากฎว่าเป็นคนคุ้นเคยทั้งนั้น
 
   หนุ่มญี่ปุ่นใบหน้าหล่อยิ้มทะเล้นควงคู่มากับลูกครึ่งรัสเซียที่ควรจะสูงดันเตี้ยกว่าไอ้คนแรก ยืนจิ้มโทรศัพท์ยักคิ้วให้ ก้มลงมองสักนิดจะเป็นครึ่งจีนคนสุดท้าย เพื่อนตัวเล็กหน้าโกงอายุยืนยิ้มแฉ่งปานดอกทานตะวัน
 
   มาคิดดูดีๆ กลุ่มผมมีแต่พวกลูกครึ่ง เว้นแต่ซัน ผมกับวา เราสามหน่อคงเป็นครึ่งผีครึ่งคน ไม่ก็ครึ่งบกครึ่งน้ำ...
 
   “โป้! แต่งตัวอะไรเนี่ย”
 
   เพื่อนตัวเล็กขำก๊าก มือกุมท้องนิ้วชี้สภาพพ่อบ้านจำเป็นเพิ่งเสร็จจากสนามรบความสกปรก มือถือในมือท่านได้ใช้ประโยชน์ เสียงดังแชะไอ้มิทเก็บภาพผมเป็นที่ระทึกเรียบร้อย
 
   แปลกตรงไหนกัน แค่ผมมัดจุกน้ำพุบนหัว กับเสื้อมัดปานสาวเที่ยวเลโชว์สะดื้อ ขากางเกงที่พับขึ้นเป็นขาสั้น ออกจะธรรมดาสามัญ ลมพัดเย็นดีจะตาย
 
   “พวกมึงแห่มาห้องกูทำไมกัน คงไม่ใช่นึกอยากจัดปาร์ตี้ชายโฉดรับวาเลนไทน์หรอกนะ”
 
   ผมมองกล่องที่คาดว่าจะเป็นขนมฝีมือเฮียเฟย์ในมือปอนด์ พลางขยับถอยให้พวกมันเข้ามาในห้อง สูดกลิ่นน้ำยาถูพื้นให้ฉ่ำปอด
 
   “ถามจริงมึงไม่รู้เหรอว่าวันนี้วันอะไร”
 
   “วันตายเซนต์วาเลนไทน์ไง” นี่สาระเลยนะเนี่ย ไม่เชื่อคุณๆ ลองไปหาประวัติวันวาเลนไทน์ดู แต่ดูจะสาระไม่พอสำหรับริว มันกลอกตาใส่ผม
 
   “เออ วันตายเซนต์วาเลนไทน์และเป็นวันเกิดไอ้ซันด้วยโว้ย!”
 
   นายริวดูทนไม่ไหวกับสีหน้าอึนจังแกของผม ดวงตาเริ่มเบิกกว้าง อ้าปากพะงาบๆ แบบไม่อยากเชื่อ ให้ตายเถอะซาร่า! ไอ้เถื่อนตัวดำเกิดวันวาเลนไทน์!! งานหยาบแล้วมั้ยล่ะ เป็นแฟนกันซะเปล่าไม่รู้วันเกิดแฟนตัวเอง นี่ผมชิวจนปล่อยปละละเลยสามีมากไปใช่มั้ยเนี่ย
 
   “เวรล่ะ ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย ของขวัญก็ไม่มี” ผมเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น ก่อนตัดสินใจมองเพื่อนเรียงตัว นอกจากริวยืนคุยกับผม มิทกับปอนด์นั่งอืดบนโซฟาเหมาพัดลมของผมไปแล้ว
 
   “พวกมึงมาเพื่อฉลองวันเกิดซันใช่มะ เอางี้ มิทกับริวพวกมึงไปซื้อน้ำแข็งกับน้องแอลมา ปอนด์มากับฉัน ซื้อของสดมาทำอาหารกัน” จะได้แวะซื้อของขวัญด้วย ผมเสริมในใจเงียบๆ “พวกมึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ถามตามประสาพ่อครัวที่ดี
 
   ริวบอกอยากกินปลาดิบ บ้านบิดามันสิ ผมเลยสั่งให้มันไปหาซื้อมาเองถ้าอยากกิน ส่วนมิทโบกมือมีอะไรกินหมด เลี้ยงง่ายแบบนี้ค่อยน่าคบ ทางลูกแมวรีเควสยำวุ้นเส้น ผมพยักหน้ารับลิสต์รายการอาหารในหัว จัดแจงสภาพตัวเองให้ดูเป็นผู้เป็นคนแล้วแยกกันไปซื้อของตามหน้าที่
 
   ผมพาปอนด์มาตลาดสดใกล้คอนโด ระหว่างหยิบจับเลือกซื้อของพลางนึกไปด้วยว่าจะซื้ออะไรให้ซันดี จะทำช็อกโกแลตให้ก็ไม่ทัน ซื้อเอามันหวานไปซันไม่แดก เหลือบตุ๊กตาหมีสีชมพูกอดหัวใจ... พอนึกถึงหนังหน้ามันตอนอุ้มรู้สึกเสียสายตา
 
   “เป็นไรอะโป้ เห็นจ้องตุ๊กตาเขม็ง ถ้าแค้นใครล่ะก็แนะนำตุ๊กตาวูดูดีกว่า ที่เอาเชือกมาพันๆ กันเป็นตัวเหมือนคน ทีนี้ก็เอาเส้นผมของอริใส่เข้าไป ใช้ตะปูไม่ก็เข็มจิ้ม ถ้าให้ขลังๆ ต้องตอกตอนกลางคืนนะ!”
 
   ปอนด์ส่งเสียงทัก ผมแทบหน้าทิ่มกับคำแนะนำของปอนด์ หันมองคนข้างตัวแบบไม่เชื่อสายตา หนุ่มน้อยน่ารักใสซื่อที่สุดในกลุ่ม มีความคิดดำมืดถึงขนาดนี้เชียวหรือ ที่ผ่านมาผมนึกกลัวว่าปอนด์จะถูกเฮียเฟย์รังแกแบบเนียนๆ คราวนี้ผมชักเป็นห่วงหมาป่าสวมหน้ากากพี่ชายแสนดี ไม่รู้จะโดนเพื่อนตัวเล็กเอาคืนวันไหน
 
   “ไม่ใช่ แค่กำลังหาของขวัญให้ซันน่ะ ไม่รู้จะให้อะไรมันดี จวนตัวขนาดนี้” ผมถอนหายใจ ปอนด์ส่งเสียงอ่อ พยักหน้ารับหงึกหงัก
 
   “ไม่ต้องคิดมากหรอก เชื่อเถอะ ต่อให้ไม่มีของขวัญ ซันมันก็ไม่คิดมาก แค่คำอวยพรอย่างจริงใจก็เหลือเฟือ ถ้ากลัวไม่ชัวร์ลองเอาตัวเองผูกโบว์ดูสิ!”
 
   “วิธีนั้นขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายแล้วกัน” หนุ่มเหนือตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ภาพความใสซื่อของเพื่อนตัวเล็กเริ่มมลายหายไปทีละน้อย ทีละน้อย... เมื่อกี้ตุ๊กตาสาปแช่ง รอบนี้ออกแนว 18+ ให้ตายเถอะ ผมควรจะเตือนเฮียเฟย์ให้กำหนดขอบเขตการอ่านหนังสือ ท่องเน็ตของปอนด์รึเปล่า หรือนี่คือสิ่งที่เรียกว่าหนุ่มวาย ช่างมีพลังมหาศาลยิ่งนัก
 
   “ฮ่าๆ พูดเล่นน่า โป้อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” ปอนด์หัวเราะเสียงใสกลบเกลื่อนสิ่งที่แอบเผยออกมา อยากบอกว่ามันไม่ทันแล้ว!
 
   “เอาเถอะ รีบซื้อของให้เสร็จดีกว่า จะได้กลับไปทำมื้อเย็น เดี๋ยวจะไม่ทันตอนซันกลับมา”
 
   สองเท้าก้าวฉับๆ โดยมีปอนด์เดิมตามหลัง จังหวะกำลังไปซื้อกุ้งหมึกมาทำยำ เดินผ่านร้านขายดอกไม้สด ยกมือลูบคาง ผมว่าผมพอจะนึกออกแล้วว่าจะให้อะไรซัน
 
   ทางฝั่งสองสหาย ระเห็จตัวเองมาเดินห้างเพื่อซื้อปลาดิบโดยเฉพาะ แถมขนมขบเคี้ยวเต็มตะกร้า
 
   “เดี๋ยวมิท ต้องซื้อเทียนวันเกิดด้วย”
 
   คนถูกเรียกชื่อชะงักเท้า หมุนตัวเลี้ยวไปทางช่องหนึ่ง เรียกสายตาแปลกใจจากริว
 
   “มึงเดินมาแผนกสังฆทานทำไมวะ”
 
   “ซื้อเทียนไง กูว่าเทียนพรรษาก็ไม่เลว มึงช่วยกูดูดิ้มีรึเปล่า” คนพูดหน้าระรื่น ริวหัวเราะพรืด
 
   “มึงก็ว่าไปนั่น... อย่าลืมเอาให้ครบจำนวนอายุมันนะเว้ย!”
 
   พูดจบพากันขำก๊ากกลางห้าง เนื่องจากไม่มีเทียนพรรษา ริวเลยฉวยเอาเทียนที่หมายตาแล้วเดินไปจ่ายตัง ดีที่ริวขับรถมา พวกเขาเลยไม่ต้องลำบากนั่งรถโดยสารหอบหิ้วขวดเหล้ากับแกล้มกลับห้อง พอจอดใต้ตึก แวะเซเว่นซื้อน้ำแข็งเป็นอันครบ
 
   สองหนุ่มขึ้นมาเคาะประตู เป็นปอนด์ที่เปิดให้เพราะโป้กำลังง่วนอยู่ในครัว มิทเป็นคนขนของที่ซื้อมาไปเก็บในตู้เย็น ส่วนริวเดินหายไปช่วยงานในครัวอีกแรง เวลาเกือบหกโมงของกินทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อย
 
   ด้วยความที่ซันเป็นพวกไม่ชอบของหวาน เฮียเฟย์เลยเลือกทำเค้กใบเตยสูตรพิเศษมาให้ หอมหวานน้อยกำลังดี สองคนซื้อเทียนรับหน้าที่ปักตามอายุโดยเกินมาหนึ่งแท่งตามธรรมเนียม ผมถือโทรศัพท์มอง มีลูกแมวหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้ๆ
 
   “พวกมึงแน่ใจนะที่ใช้เทียนนี้”
 
   มันคือเทียนไขสีเหลืองส้มดีๆ นี่เอง ผมเห็นถุงห้าง คิดว่าในห้างต้องมีเทียนวันเกิดแน่ ไอ้สองตัวนี้จงใจกวนชัดๆ
 
   “มั่นใจสิ ปักเสร็จแล้วเป็นรูปหัวใจด้วยเห็นมั้ย” ริวพูดอย่างภาคภูมิใจ ผมส่ายหัวขำๆ โทรหาซันเพื่อถามว่ามันมาถึงไหนแล้ว กดรอสายไม่นานก็มีคนรับ
 
   /จะฝากกูซื้ออะไร/
 
   แทนที่จะเป็นคำทักทาย ดันเป็นประโยคคำถามแบบนี้ซะได้ รู้ตัวไหม นับวันมึงยิ่งทำตัวเหมือนพ่อบ้านใจกล้าเข้าไปทุกที
 
   “ไม่ฝาก มึงอยู่ไหนแล้ว” ถามไปเปิดลำโพงให้ได้ยินโดยทั่วกัน
 
   /ใต้คอนโดกำลังขึ้นไป ถ้าไม่ฝากงั้นแค่นี้นะ กูจะเข้าลิฟท์/
 
   “อืมๆ”
 
   ผมรับคำเสร็จมันกดวางสาย ก่อนเป็นแฟนซันมันชอบตัดสายชาวบ้านรวมถึงผมด้วย พอเป็นแฟนกันแล้วต้องรอให้ผมพูดจบก่อน มั่นใจว่าไม่มีอะไรพูดต่อมันถึงจะวาง ช่างเป็นผู้ชายที่ละเอียดอ่อนดีจริงๆ
 
   พวกเราย้ายตัวเองไปยืนรุมตรงหน้าประตู ในมือแต่ละคนถือที่ดึงสายรุ้งทรงกรวยไว้คนละอัน ผมรับหน้าที่เป็นคนเปิดประตูให้ซัน พอมันเสนอหน้าเข้ามาให้ห้อง เสียงดังปังติดต่อกันสามเสียง
 
   “สุขสันต์วันเกิดซัน!!”
 
   “ขอให้มึงหน้าแก่กว่ากูยิ่งๆ ขึ้นไป” คำอวยพรจากริว
 
   “มีความสุขมากๆ รักเมียหลงเมียนะเพื่อน” มิทตบบ่า
 
   “ขอให้ซันกับโป้รักกันไปนานๆ” ลูกแมวดูอวยพรดีที่สุด แม้จะมีอะไรแอบแฝงในน้ำเสียงก็ตาม
 
   “ฮะ!?”
 
   คนถูกเซอร์ไพรซ์ยืนหน้าเอ๋ออยู่ประตูห้องตัวเอง สายรุ้งหลากสีเต็มหน้าเต็มหัวซันที่เพิ่งกลับมาจากเรียน ผมที่อยู่ใกล้มันพลอยโดนไปด้วย พอมันได้สติถึงยิ้มกว้าง
 
   “ขอบใจว่ะ กูลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าวันนี้วันเกิดตัวเอง เห็นคนเอาของมาให้เพียบ เข้าใจว่าเพราะวันวาเลนไทน์ซะอีก” มันเอื้อมมือมาปัดสายรุ้งให้ผม ก่อนจะปัดของตัวเอง
 
   “กูว่าทั้งสองเหตุผลล่ะว้า” มิทหัวเราะเดินนำเจ้าภาพไปนั่งที่โต๊ะเป็นคนแรก ตามด้วยคนอื่นๆ ผมช่วยซันถือถุงบรรจุไปด้วยดอกไม้ ช็อกโกแลตและตุ๊กตา มีพวกกล่องของขวัญเล็กๆ อีก กระเป๋าเป้มันตุงมาเชียว เข้าใจว่ามันหล่อหน้าตาดีเป็นที่นิยม ผมไม่หึงนะ รับของฟรีมาเยอะๆ สิดี ของสามีคือของเรา ของเราก็คือของเรา หึหึ
 
   “กูกับริวทำของกินไว้เพียบ มีเค้กฝีมือเฮียเฟย์ด้วยไว้ยกมาตอนกินข้าวเสร็จแล้วกัน”
 
   ปอนด์วิ่งไปคุ้ยถุงที่ถือมา หยิบเอากล่องของขวัญขนาดย่อมส่งให้ซัน
 
   “ของขวัญจากฉันกับพี่เฟย์ น่าเสียดาย วันนี้พี่ชายต้องทำโอที เลยไม่สะดวกมา เค้กก็อาศัยทำเอาเมื่อคืน โทษทีนะ”
 
   “ไม่เป็นไร กูไม่คิดมาก เค้กเฮียอร่อยอยู่แล้ว ขอบใจปอนด์มาก ฝากขอบคุณเฮียด้วย” ซันตอบพลางแกะของขวัญดู เป็นหนังสือทำมือหายาก ไอ้ซันมองตาวาว จำได้ว่ามันอยากได้หนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ขอให้เฮียช่วยหาให้ ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายมาเป็นของขวัญในวันนี้
 
   ปอนด์ยิ้มรับ เห็นเริ่มให้ของกัน มิทเลยหยิบของขวัญตัวเองมาให้บ้าง เป็นหลอดที่เหล่าชายหนุ่มคุ้นเคยมัดด้วยริบบิ้นสีแดงอย่างดีซะจนน่าถีบคนให้
 
   “ของขวัญจากกู ใจจริงอยากซื้อยกแพ็คให้ แต่กูเห็นใจโป้ มึงเอาไปหลอดเดียวแล้วกัน”
 
   มิทยักคิ้ว ซันรับมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะแยกเขี้ยวขว้างใส่หัวมันแบบไม่เกรงใจ คนกวนประสาทหัวเราะไม่สะทกสะท้านเพราะมันหลบทัน เจ้าหลอดที่ว่าเลยนอนแอ้งแม้งอยู่มุมห้องนู่น เชื่อเถอะ เดี๋ยวซันมันก็เดินไปเก็บหลังทุกคนกลับ
 
   “พ่องสิ! ให้อะไรไม่ให้ มึงนี่เรื่องใต้สะดือตลอด” ซันบ่นแบบไม่จริงจังนัก เข้าใจว่ามันกวน
 
   “มิท มึงนี่ไม่ไหวเลย ต้องอย่างกู!” ริวทุบอก ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กส่งให้ซันด้วยสีหน้าจริงจัง
 
   “รุ่นนี้พิเศษจากญี่ปุ่น บางเฉียบเหมือนไม่ได้ใส่ มีหลายกลิ่นในกล่องเดียว แถมมีแบบขรุขระด้วย ขอมอบให้แด่ซัน”
 
   เจ้าตัวลุกขึ้นยืนก้มหัวใช้สองมือประคองกล่องส่งมอบ ไอ้ตัวเล็กบ้าจี้หัวเราะชอบใจปรบมือเป็นฉากหลัง มิทตบโต๊ะลุกขึ้นยืนโวยวายทันที
 
   “เฮ้ย! ทีตอนกูฝากไม่ยอมซื้อมาให้วะ”
 
   “อย่างมึงหุบปากไปเลย ไม่มีค่าคู่ควรกับของสูงส่งขนาดนี้หรอก” ริวเยาะเย้ย
 
   “ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ใช่ไซส์กู ใหญ่กว่าจม” มันยอมรามือไปแบบง่ายๆ พร้อมวาจาน่าหมั่นไส้ ซันเลยขว้างกล่องที่มันอยากได้ให้ถึงที่ ปลิวไปอยู่กับหลอดก่อนหน้านี้ นี่ถ้าเดินไปหยิบครบเลยนะนั่น
 
   หารู้ไม่ ขนาดที่มิทพูดไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของคนใช้อีกคนต่างหาก กว่าพวกเขาจะเก็ตได้ก็หลังจากนั้นนานโข
 
   “พอๆ พวกมึง แดกซะ ก่อนที่มันจะเย็นมากไปกว่านี้”
 
   ผมออกปากห้ามศึกการให้ของขวัญอันแสนอบอุ่น ผมทำเป็นไม่เห็นสายตามองอย่างมีความหวังของใครบางคน แม้ภายนอกมันจะดูเหมือนไม่สนใจ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันเซ็งแค่ไหน ปล่อยมันน้อยใจไปก่อน ไว้พวกนี้กลับเมื่อไหร่ค่อยให้ของขวัญกันอีกที
 
   ด้วยความหิวโหยของชายหนุ่มทั้งห้า เพียงไม่นานอาหารบนโต๊ะทุกอย่างถูกจัดการเรียบ ผมรับหน้าที่เป็นคนยกเค้กเข้ามา ปอนด์ปิดไฟห้องจนเหลือเพียงแสงจากเทียน ไอ้ซันเห็นเค้กขมวดคิ้วฉับ ตวัดสายตามองไล่เตะเพื่อนริวกับมิทแบบไม่ต้องถามเลยว่าใครมันเป็นตัวต้นคิดใช้เทียนแบบนี้
 
   “ซันรีบเป่า ก่อนน้ำลายปอนด์จะหยดใส่เค้กหมดแล้ว” ผมออกปากแซวเพื่อนตัวเล็กที่จ้องเป๋ง เจ้าตัวหันมาทำปากยื่นใส่ ซันยอมราเท้าจากสองเพื่อนตัวกวน หลับตาขอพรแล้วเป่าเค้กรวดเดียวหมด มิทเดินมากอดคอ มือถือแก้วเหล้า มันไปเอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไวโคตร
 
   “มึงขอไปว่าอะไรวะ”
 
   “ขอให้มึงกับริวเลิกนิสัยกวนส้นกูไง”
 
   “เสียใจด้วยซัน มันคงไม่มีวันเป็นจริง มึงจะจุดแล้วขอพรใหม่มั้ย”  ริวแสร้งทำสีหน้าเศร้าเสียใจสุดแสน ซันส่ายหัวเอือมเลิกยุ่งกับพวกมัน รับมีดจากผมตัดแบ่งเค้กให้ทุกคนหลังเปิดไฟสว่าง
 
   ปอนด์กำลังหม่ำชิ้นที่สองกระแซะเข้าไปหาซันด้วยความอยากรู้อยากเห็น
 
   “ขอไปว่าไรอะ บอกหน่อย ใช่เรื่องเกี่ยวกับโป้รึเปล่า” เพื่อนตัวเล็กตาระยิบระยับ ผมทำหน้าที่เป็นคนรักที่ดี ไม่เข้าไปช่วยเหลือแต่นั่งกางหูรอฟังใจจดจ่อ
 
   “ไม่บอก ถามจริง นี่เค้กวันเกิดกูหรือมึงกันแน่” เจ้าของงานเปลี่ยนเรื่อง
 
   “รู้ว่าซันไม่ชอบของหวานไงเลยช่วยจัดการให้” ปอนด์ทำหน้าซื่อตาใสได้อย่างน่าชื่นชม ผมหัวเราะขำ ยกจานของขบเคี้ยวมาวางแทน เปลี่ยนจากวงเค้กเป็นวงเหล้า
 
   “ปล่อยกินไปเหอะ เอาจริงๆ พวกเราไม่มีใครบ้ากินเค้กเลยสักคน” มิทพูดพลางชงเหล้าแจกจ่ายเว้นปอนด์ ที่ได้น้ำอัดลมแทน
 
   “นั่นสิ เอ้อ ช่วงวันหยุดสี่วันที่จะถึงไปเที่ยวสวนน้ำกันปะ พอดีพี่ชายกูได้บัตรมา” ริวเปิดประเด็น คนอื่นๆ เลยหันไปมองเป็นตาเดียว คนที่รู้ตื้นลึกหนาบางที่สุดอย่างซันเป็นฝ่ายถามรายละเอียด
 
   “ไม่ใช่ว่าพี่มึงเป็นหมอเหรอวะ ได้บัตรสวนน้ำมาจากไหน”
 
   ข้อมูลใหม่เลยนะเนี่ย เฮ้อ ให้ตายสิ... สงสัยผมจะเป็นพวกปล่อยปละจนไม่รู้เรื่องคนรอบตัวเอาซะเลย เว้นมิทไว้คนที่ใช้การสังเกตตัวเองมองจนรู้เรื่องลับๆ บางส่วน
 
   “คนไข้ให้มาน่ะ เป็นสวนน้ำเปิดใหม่ มีเครื่องเล่นเพียบ นับรวมพวกเราห้าคน เฮียเฟย์อีกหนึ่งเป็นหก เหลือตั๋วตั้งสามใบ ชวนใครดี?”
 
   “ไม่ลองชวนพี่ธันล่ะ” ผมเหล่มอง ริวแอบสะดุ้ง หึหึ เจ้าตัวก้มหน้าบ่นอุบอิบ
 
   “พี่ธันไม่ว่างต้องเร่งทำงานส่งน่ะสิ เซ็งชิบเป๋ง”
 
   “พี่ธัน ลุงรหัสมึงอะนะ?” ซันผู้รู้เรื่องครอบครัวชาวบ้านเป็นอย่างดี แต่กลับอ่อนด้อยเรื่องความรักถึงขีดสุด เลิกคิ้วถาม ในใจสงสัย ทำไมมันชวนข้ามรุ่น แทนที่จะชวนพี่รหัส ริวไม่ตอบแค่พยักหน้าด้วยความเซ็ง
 
   ปอนด์จัดการเค้กชิ้นที่สองหมดเงยหน้าร่วมวงสนทนาด้วย
 
   “ทางพี่เฟย์เดี๋ยวขอไปถามดูก่อนแล้วกัน ไม่ชัวร์นะว่าจะได้ไปรึเปล่า”
 
   เพื่อนตัวเล็กตอบน้ำเสียงไม่มั่นใจ คนอื่นนี่มั่นใจไปเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ปอนด์แสดงสีหน้าอยากไปขนาดนี้ ต้องอ้อนจนเฮียเฟย์ใจอ่อนแน่ๆ ที่เหลือแค่เลือกให้ตรงกับวันหยุดเฮียเฟย์ก็พอ
 
   “ใบหนึ่งกูจองได้ปะ” มิทยกมือ
 
   “ได้ไม่มีปัญหา ทีนี้เหลือสองใบ...” เจ้าของตั๋วมองทุกคนเป็นเชิงถามว่าจะพาใครมาอีกปะ ผมนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง พูดถึงสวนน้ำชวนให้นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา เพื่อนชาวเหนือชอบเล่นน้ำมากลองชวนมาดีกว่า ไหนๆ ทางนั้นก็อยากมาเที่ยวกรุงเทพสักครั้ง
 
   “อีกสองใบกูจองแล้วกัน จะลองชวนเพื่อนที่เหนือมาดู”
 
   ซันหันมาขมวดคิ้วมอง ทีแรกเจ้าตัวคงอยากถาม เพื่อนผมที่เหนือสนิทกันจนชวนมานี่มีอยู่คนเดียว ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนตัวเองเป็นของแถม รับรองต้องถูกลากมาด้วยชัวร์ เลยพยักหน้ารับหงึกหงัก กลับไปสนใจอย่างอื่นต่อ
 
   พวกเรานัดเวลากันว่าจะไปวันเสาร์ตอนสิบเอ็ดโมง เจอกันที่หน้าสวนน้ำเลย เดี๋ยวริวจะแจกตั๋วที่นั่น

   ปาร์ตี้วันเกิด กินดื่มกันจนห้าทุ่ม มิทโดนผู้ปกครองโทรตาม ริวมันเมาหลับไปแล้ว ไหนๆ ก็มีคนขับรถมารับ มิทเลยอาสาจะไปส่งริวเอง ส่วนปอนด์พี่ชายมาตรงเวลาเป๊ะ ห้าทุ่มยืนหล่ออยู่หน้าห้อง รับปอนด์กลับไปเรียบร้อย
 
   ผมกับซันช่วยกันเก็บซากอารยธรรม สองมือช่วยกันคล่องแคล่วเพียงไม่นานก็เก็บกวาดเรียบร้อย

   ถึงเวลาของพวกเราสักที…
 
   “ขอบคุณที่จัดงานวันเกิดให้กูนะ”
 
   เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู เรานั่งเล่นกันบนโซฟา ซันจับมือผมนิ้วโป้งลูบหลังมือเบาๆ ความละมุนมันทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดจำต้องสารภาพออกมา
 
   “ซัน... กูมีเรื่องจะบอก” ขอเกริ่นทำใจหน่อย ถ้ามันน้อยใจผมควรทำยังไงดี จับมากอดจูบปลอบดีมั้ย
 
   “หืม อะไร? เรื่องที่มึงไม่รู้ว่าวันนี้วันเกิดกูน่ะเหรอ?” มันเลิกคิ้วถามด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไม่มีแววโกรธเคืองเลยซักนิด เป็นผมเองที่แปลกใจ
 
   “มึงรู้ด้วย?”
 
   “กูไม่รู้ดิถึงจะแปลก พวกเราเพิ่งคบกันไม่นาน แล้วมึงไม่เคยถามกูเรื่องพวกนี้ด้วย ถ้ากูเดาไม่ผิด ไอ้สามตัวนั้นมันคาบข่าวมาบอกมึงล่ะสิ”
 
   จี๊ดเลย ยิ่งประโยคที่บอกว่าผมไม่เคยถามมันเรื่องพวกนี้ ยิ่งรู้สึกผิดกว่าเก่า ทำไมผมเป็นคนไม่ใส่ใจมันขนาดนี้นะ ได้ข่าวว่าเป็นผมที่สนใจมันก่อน ผมถอนหายใจ หลังจากนี้คงต้องเรียนรู้เรื่องราวของซันมากกว่านี้ ในใจคิดอย่าง วาจาพูดอีกอย่าง ไม่อยากให้บรรยากาศดีๆ ต้องเสียไป
 
   “แต่มึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกูนี่ กูควรจะกังวลรึเปล่า เหมือนมึงเป็นพวกสตอล์กเกอร์”
 
   “เสียใจด้วย สตอล์กเกอร์เมียตัวเองไม่ผิดว่ะ” ไอ้หน้าหล่อยักไหล่แบบตรูไม่แคร์ ก่อนจะลุกขึ้นดึงมือผมให้เดินตาม “หลับตาก่อน...” หันมาพูดกับผมด้วยดวงตาพราวระยับ
 
   “เล่นอะไรมึง” ของแบบนี้ต้องเล่นตัว ยอมง่ายๆ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น ซันมันไม่สน ใช้มือข้างหนึ่งปิดตาผมแล้วจูงเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะเปิดตาผมออก ก้มลงมากระซิบข้างหู
 
   “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ว่ะ”
 
   สิ่งที่ปรากฏในสายตาทำเอาผมอึ้ง ตุ๊กตาน้องหมาตัวโตนั่งสองขาบนเตียงกอดช่อดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามบ่งบอกว่ามันเตรียมมาดี ทั้งลิลลี่สีขาว ทิวลิปสีชมพู กุหลาบสีแดงเข้มกลีบดอกหนาแซมด้วยคัตเตอร์สีขาวราวปุยหิมะกระจายทั่วทั้งช่อส่งกลิ่นหอมรวยริน
 
   “ชอบรึเปล่า?”
 
   ซันผละออกเล็กน้อย ยกมือเกาแก้มที่ขึ้นสีเรื่อ ผมอมยิ้มแก้มแตก หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนเขินกับรูปตุ๊กตาหมากับช่อดอกไม้เก็บไว้เป็นความทรงจำ ยื่นหน้าไปหอมแก้มมันฟอดใหญ่
 
   “ชอบมาก ขอบคุณนะมึง โคตรโรแมนติก” หอมมันไม่พอ รั้งคอมันมาจูบเป็นรางวัล ริมฝีปากได้รูปจูบกลับเบาๆ ค่อยเลื่อนมาหอมแก้มผมคืน จูบหน้าผากปิดท้ายแล้วผละออกมองผมด้วยรอยยิ้มบางๆ

   ให้ตาย...รอยยิ้มแบบนี้ กับแววตาแบบนี้มันชวนให้ละลาย
 
   “กูดีใจที่มึงชอบ...” ซันเอาหน้าผากมาแตะกัน ดวงตาของหนุ่มเถื่อนหวานเชื่อมจนผมต้องเป็นฝ่ายถอยแทน ยอมใจจริงๆ
 
   “รอนี่แป๊บ กูมีของจะให้มึงเหมือนกัน” ผมเดินออกไปเอาดอกไม้ที่แอบไว้มาให้มันบ้าง ในมือของผมมีดอกไม้อยู่ห้าชนิด แต่ละกิ่งมัดด้วยโบว์สีแดง
 
   “ของกูอาจจะไม่ดีเท่ามึงแต่ขอบอกเลยว่ากูมอบให้ด้วยใจ” ผมยิ้ม ซันยืนนิ่งรอรับของขวัญจากผม มือยื่นให้ซันทีละดอกพร้อมพูดภาษาดอกไม้
 
   “ลิลลี่สีส้ม มีความสุขที่อยู่ใกล้กัน”
 
   “กุหลาบสีแดง ฉันตกหลุมรักนายแล้ว”
 
   “ไลเซนทัส ฉันจะดูแลเอาใจใส่นายเอง”
 
   “เบญจมาศสีขาว ฉันจะรักนายแค่คนเดียว”
 
   “คาร์เนชั่นสีแดง โปรดเห็นความรักของฉันด้วยนะ”
 
   ดอกไม้ก้านสุดท้ายถูกส่งถึงมือซัน ผิวเข้มขึ้นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด อย่าว่าแต่ซันเลย ขนาดตัวผมเองยังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เกิดมาไม่เคยทำให้ใครแบบนี้
 
   “มึงแม่งโคตรมั่ว ภาษาดอกไม้เค้าเพี้ยนหมด” ซันทำบ่น ผมเข้าใจแกล้งทำเลยหัวเราะกลบเกลื่อนความเขิน
 
   “เป็นแบบของกูสำหรับมึงคนเดียวไง ไม่ดีเหรอ” สวนกลับไปหนึ่งดอก ซันถลึงตาใส่ รวบดอกไม้ที่ผมให้กับช่อของตัวเองมาให้ผมถือ มองซ้ายมองขวาหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาวมาวางแปะบนหัวผม
 
   “ทำอะไรมึง”
 
   “เหมาะดีออก มึงเป็นเจ้าสาว ส่วนกูเป็นเจ้าบ่าว ให้ตุ๊กตาหมานี่เป็นบาทหลวง” มันยักคิ้ว ผมเป็นฝ่ายสะอึกโดนมันหยอดกลับ แบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ยอมเสียเชิงหรอก มือซ้ายอุ้มดอกไม้ไว้ มือขวายื่นไปรั้งคออีกฝ่ายมาหา ก่อนจะแนบริมฝีปาก
 
   “จูบสาบานรัก”
 
   ดวงตาหนุ่มเหนือปรือหวาน เรียวปากนุ่มผละออกพลางแลบลิ้นเลียรสชาติที่ติดอยู่ คนมองจ้องเขม็งเรียกชื่อเสียงต่ำเหมือนอดกลั้นอะไรบางอย่าง
 
   “โป้... มึงรออยู่นี่เลยนะ ห้ามไปไหน เดี๋ยวกูมา” ร่างสูงชี้หน้าสั่งกำชับ เดินดุ่มๆ ออกจากห้องไป ได้ยินเสียงบ่นดังแว่วมา
 
   “กูโยนเจลกับถุงยางเอาไว้ไหนวะเนี่ย!”
 
   มองภาพซันงุ่นง่านอยู่ในห้องนั่งเล่น แทบจะคว่ำโซฟาเพื่อหาของ ผมยืนพิงขอบประตู ยกดอกไม้ขึ้นมาสูดกลิ่นหอมเอาไปโรยบนเตียงคงไม่เลว...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:04:27 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:

สวนน้ำๆๆๆๆๆ

อยากรู้จริงๆมิทจะพาใครมา พามาไหม?

อยากเห็นๆๆๆๆๆๆๆๆ  :ling1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ดีจังเลยเนอะ
ของขวัญทุกชิ้นมีความหมายและประโยชน์ใช้สอยจริงๆ
ชอบคู่นี้จัง ลงตัวมากๆ มีคำผิดนิดหน่อยค่ะ เดินตาม. กุหลาบ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
“กูโยนเจลกับถุงยางเอาไว้ไหนวะเนี่ย!”   :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เขินอ่ะ
เขินฉากเค้ามีเซอร์ไพร์สให้กัน

 :L2:

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
พวกเพื่อนๆเก็บหนีหมดแล้ว แกล้ง 555555555555555555555555

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ของขวัญวันเกิดก็คงต้องใช้ 555

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ผัวเมีย(หื่น)พอๆกัน  :hao6: :laugh:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :hao6: :hao6: “กูโยนเจลกับถุงยางเอาไว้ไหนวะเนี่ย!”  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
เหนือฟ้ายังมีฟ้า...เหนือชายซันยังมีปีโป้  :hao7:

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
55555555 พอกันเลย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่11 เตรียมตัว
 
   ความหวานผ่านพ้นไป กลับคือสู่รสชาติจัดจ้านตามเดิม ในวันเกิดซัน ริวเสนอให้ไปเที่ยวสวนน้ำ ผมบอกว่าจะชวนเล่ดู อาศัยช่วงย้ายห้องเรียนโทรหาเพื่อน ไม่รู้เจ้าตัวเรียนอยู่รึเปล่า แต่ถ้าเป็นเล่ เชื่อเลยว่าต่อให้เรียนก็แอบคุยโทรศัพท์ได้ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เสียงรอสายดังแค่สองตื๊ดก็รับ
 
   /ฮัลโหล โป้จ๋ามีอะไรจ๊ะ/
 
   เสียงหวานจ๊ะจ๋า ผมกลอกตาเอือม
 
   “ทำไรอยู่”
 
   /กำลังมองหน้าวาตอนหลับ น่ารักมาก ขนาดเวลางี้ยังขมวดคิ้ว/ ทำหน้าเครียดแม้เวลานอนมันน่ารักตรงไหน ผมไม่เข้าใจ เอาเถอะ อย่าเอารสนิยมปุถุชนคนธรรมมาไปเทียบกับสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด
 
   “ไม่มีเรียนสินะ พอดีจะโทรชวนมาเที่ยวสวนน้ำ มีเพื่อนได้บัตรฟรีมาหลายใบ ถือโอกาสเที่ยวกรุงเทพเลยเป็นไง”
 
   พูดจบประโยค ผมก็ยื่นโทรศัพท์ออกห่างจากหูเท่าที่ความยาวแขนจะเอื้ออำนวย
 
   /กรี๊ดดดดดด!! สวนน้ำกรุงเทพ อยากไปๆ หยุดสิ ต่อให้คนวิทยาเขตแต่มหาลัยเดียวกันนะ ต้องหยุดเหมือนกันอยู่แล้ว อยากเที่ยวอะ สวนน้ำๆ/
 
   เสียงกรี๊ดแปดหลอดทะลุโทรศัพท์ขนาดไม่เปิดลำโพง คนเดินผ่านมองผมเป็นตาเดียว ผมยิ้มแห้งโบกไม้โบกมือเป็นเชิงว่าไม่มีอะไร พวกเขาถึงเลิกสนใจ
 
   /แหกปากทำไมวะ คนจะหลับจะนอน!/
 
   อีกเสียงโวยมา ถ้าเป็นซันจะตวาดเสียงดัง แต่รายนี้กดเสียงทุ้มต่ำน่าสยอง บรื๋อ
 
   /ขอโทษจ๊ะ จุ๊บๆ นอนต่อนะเดี๋ยวเค้าคุยกับเพื่อนก่อน/
 
   ได้ยินเสียงกุกกัก เล่มันคงย้ายที่คุยก่อนโดนผัวถีบคว่ำข้อหารบกวนเวลานอนอันแสนมีค่า มันเป็นเด็กสามขวบรึไงมีนอนกลางวัน ดูเหมือนผมตั้งแง่นะ เอาจริงๆ หลังจากเล่เล่าเรื่องวาให้ผมฟังทุกครั้งเวลาติดต่อกัน ผมก็ไม่ค่อยชอบวาต่อให้เป็นเพื่อนซันก็ตาม เพราะมันชอบปากเสียใส่เล่ ดูยังไงก็ไม่มีความอ่อนโยนสักนิด อย่างเล่ต้องคู่กับผู้ชายแสนดีสิ
 
   /โอเคคุยต่อ ไปแน่นอน วันไหนล่ะ/
 
   “วันเสาร์ มึงต้องมาหากูเย็นวันศุกร์ ว่าแต่บอกว่าไปแน่ มึงถามป๋ามึงยัง ไม่นับพ่อทูนหัวของมึงที่นอนเป็นเด็กอนุบาลผึ้งน้อยนั่นอีก”
 
   /โอ๊ยย ไม่ต้องห่วง เล่มีวิธี ไว้เจอกันนะโป้ เตรียมห้องสวีทไว้รอเลยนะ จุบุๆ/
 
   ก่อนเล่กดวางสายผมได้ยินเสียงเพื่อนคนนี้ตะโกนเรียนป๋าดังลั่นบ้าน คงจะขอพ่อมาเที่ยว ถ้าเป็นสมัยก่อนผมคงไปรับด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เล่มีวาแล้ว น่าจะมากันได้ไม่มีปัญหา หวังแค่ว่าเล่มันจะไม่ก่อเรื่องให้วาปวดหัวจนปล่อยทิ้งระหว่างทางot
 
   ผมบอกเรื่องนี้กับซันตอนกลับห้อง มันแค่พยักหน้ารับแล้วเดินไปย้ายของผมมายัดห้องตัวเองเพื่อเตรียมที่นอนให้เพื่อน จนผมต้องเบรกมัน อีกตั้งหลายวันกว่าพวกนั้นจะมา ไอ้ซันมันจะรีบไปไหน ยังมีหน้าหันมาทำหน้ามึนใส่ผมอีก
 
   “เผื่อไว้ก่อนไง ใกล้ๆ จะได้ไม่ชุลมุน”
 
    “หยุดเลย ไม่ต้อง มึงย้ายซะอย่างกับกูต้องย้ายไปอยู่ห้องมึงถาวร ความจริงไม่ต้องย้ายด้วยซ้ำ ยังไงพวกนั้นก็ผู้ชายไม่เรื่องมากหรอก ใกล้ถึงเวลาค่อยหยิบของจำเป็นมาห้องมึงก็พอ”
 
   “ตามใจมึง ถึงเวลาขนเองแล้วกัน”
 
   พูดจบมันปล่อยของลงพื้นตามเดิมอย่างไร้เยื่อใย ช่วงเวลาแห่งความหวานวันก่อนมันเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ตุ๊กตาบนเตียงกับดอกไม้ในแจกันในห้องผมคือเรื่องจริงนะ อย่าถามถึงเจลกับถุงยาง...
 
   “จะไปว่ายน้ำ มึงมีกางเกงว่ายน้ำรึยัง ที่สวนน้ำเขาไม่ให้ใส่ชุดธรรมดาลงนะ”
 
   ผมหยุดมือที่กำลังเก็บของเข้าที่ ลืมสนิท! ว่ายน้ำสระครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย ที่ผ่านมามีแต่โดดตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ใส่เสื้อยืดกางเกงบอลลงล้วนๆ
 
   “มึงมีแล้ว?”
 
   “เออ ทำหน้างี้ไม่มีอะดิ พรุ่งนี้พวกเรามีเรียนตอนเช้าวิชาเดียว เลิกเรียนเจอกันที่หน้าคณะมึง เดี๋ยวกูรับไปซื้อกางเกงว่ายน้ำ”
 
   ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ ตอนนี้ผมพัฒนาแล้วนะ รู้ตารางเรียนซันทั้งหมด วันเกิดผมจำได้แม่น เรื่องของกินที่มันชอบผมเป็นคนทำอาหารย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
 
   วันต่อมาหลังเลิกเรียน มันเป็นฝ่ายมารอผม พอลงมาชั้นล่างปุ๊บก็เห็นมันยืนหล่ออยู่ข้างรถ ผงกหัวเรียกผมให้ขึ้นไปนั่งข้างคนขับ งานนี้ซันลงทุนถอยรถออกมาเองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ห้างที่ซันเลือกเข้าเป็นห้างยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่น น่าเสียดายตอนนี้เป็นช่วงบ่ายในวันธรรมดา ห้างเลยไม่ค่อยมีคน แต่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับซันที่ไม่ชอบความวุ่นวาย
 
   “แวะกินข้าวก่อนค่อยซื้อ มึงแดกไร” เพราะยังไม่กินมื้อเที่ยง ซัยเลือกชวนกินก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
 
   สองหนุ่มชู้ชื่นยืนอยู่ชั้นรวมร้านอาหาร ทางนู้นร้านอาหารไทย ด้านนี้อาหารญี่ปุ่น ถัดไปอาหารฝรั่ง ผมส่ายหัวกับร้านอาหารพวกนี้ ลากแขนมันเข้าร้านบุฟเฟ่ต์ขนมจีน
 
   ภายในร้านถูกจัดแบบโล่งๆ มีตรงกลางสำหรับตักขนมจีน น้ำยา กับอีกแถวหนึ่งรวมพวกผัดสด น้ำต้องสั่งต่างหาก ผมเลือกนั่งใกล้ๆ จุดตักจะได้ไม่ต้องเดินไกล
 
   น้ำยาให้เลือกมีแกงเขียวหวาน น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำเงี้ยว มีแกงไตปลาด้วย ยิ่งอยู่ในห้องแอร์ กลิ่นน้ำยาตีกันอุตลุด ผมจัดการตักให้ซันก่อน ผสมระหว่างกะทิกับน้ำยาป่าตามด้วยผักสดที่มันชอบ ของตัวเองไม่ต่างกัน พอยกไปให้มันที่โต๊ะ มันลองกินแล้วเลิกคิ้วแปลกใจ
 
   “น้ำยาอะไรวะ รสชาติโอเคกว่าที่กูเคยกินอีก”
 
   “กะทิกับน้ำยาป่าไง ความหวานของกะทิ ความเค็มเผ็ดของน้ำยาป่า มันเลยเข้ากันพอดี แต่ที่นี่ทำน้ำไม่ข้นเท่าไหร่ ถ้ามึงอยากกินเดี๋ยวกูทำให้ ต่อไปลองน้ำเงี้ยวมะ”
 
   “ไม่อะ น้ำเงี้ยวกูเคยลองแล้ว ไม่ข้นอย่างที่มึงบอก ดอกงิ้วนี่หาไม่เจอ รอมึงทำให้กินดีกว่า ขอขาไก่อวบๆ ดอกงิ้วเยอะๆ” มันรีเควสเสร็จสรรพ อันนี้ของถนัด ไม่ต้องดูสูตรในเน็ตผมก็ทำได้สบาย ในเมื่อบ้านผมกินบ่อย สูตรต้นตำหรับจากแม่ผมเลย คนเหนือแต้ๆ
 
   นั่งทานไปซันมันก็บ่น ไม่อร่อยๆ ตามนิสัย แต่เห็นมันเติมแล้วเติมอีกหมดเวลากินถึงยอมรามือจากช้อนส้อม เดินลูบพุงที่ป่องขึ้นมานิดๆ นำผมไปแผนกขายชุดว่ายน้ำ
 
   แผนกนี้แบ่งของชายหญิงชัดเจนง่ายต่อการเลือก ของผู้หญิงมีหลากสีสันหลายสไตล์ ของผู้ชายมีแต่แบบเรียบๆ มีไม่กี่แบบ หลักๆ ก็แบบชุดว่ายน้ำทั้งตัว ซึ่นผมไม่คิดใส่เด็ดขาดอึดอัดจะตาย อีกอันก็น้อยชิ้นเกินอย่างกับกางเกงใน วาบหวิวเกินไปต่อให้ซันมันยอมให้ใส่ผมก็ไม่เอา
 
   อีกแบบค่อยดีขึ้นมานิดนึง เป็นกางเกงว่ายน้ำขาสั้นกับแบบขายาวสี่ส่วนเข้ารูป ที่โดนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นเนื้อผ้าที่ดูเหมือนกางเกงเที่ยวทั่วไป แต่มีความยืดหยุ่นใช้ลงสระว่ายน้ำได้
 
   “กูว่าแบบนี้ดีที่สุด ไม่อึดอัด ไม่เข้ารูปเกิน”
 
   ซันลูบคางเสนอ ผมว่าหน้าอย่างมันใส่แบบนี้ด้วยชัวร์
 
   “สนใจเหมือนกัน แต่ราคาแม่งไม่น่ารัก เดี๋ยวต้องซื้อหมวกว่ายน้ำกับแว่นตาอีก”
 
   มองป้ายราคาพลางกลืนน้ำลายอึก พันกว่า... ดีไซน์สวย เนื้อผ้าดีจริง สีเทาอ่อนโคตรโดนใจ ซันมันคว้าไปจากมือผม ส่งให้พนักงานแถมหยิบหมวกว่ายน้ำสีเข้าชุดกัน
 
   “เอาตัวนี้ครับ ปะมึง เลือกแว่นตา” พูดจบมันกอดคอผมไปดูโซนแว่น
 
   “เฮ้ย เดี๋ยว! แพงนะ กูเอาเงินมาไม่พอ” ผมกระซิบบอก ให้ตาย ทีแรกผมจะซื้อแบบตลาดนัดด้วยซ้ำ ซันมันไม่ยอมให้ซื้อ มันบอกว่าเนื้อผ้าพวกนั้นไม่ดี เออ ไม่ดีจริง แต่มันดีกับเงินในกระเป๋าผมมากๆ
 
   “แค่เกงว่ายน้ำตัวสองตัว กูมีปัญหาซื้อให้เมียน่า อย่าพูดมาก เลือกแว่นไป แบบนี้ก็ดีนะ สายเหนียวทนไม่กินผม ปรับขนาดได้เยอะด้วย”
 
   มันหยิบแว่นมาให้ผมดู ผมดันมือมันออกกอดคอเตรียมเทศนา
 
   “เงินนั่นบ้านมึงส่งมาให้มึงใช้ ไม่ได้เอามาให้ซื้อของเลี้ยงผู้ชายนะเว้ย” หนุ่มเถื่อนขมวดคิ้วใส่
 
   “นั่นเงินกู กูรับจ๊อบทำงานได้เงินมาไม่เกี่ยวกับที่บ้าน ดังนั้นกูอยากจะซื้อ จะใช้อะไรมันก็เรื่องของกู” มันเลือกเอาแว่นที่มันหยิบนั่นแหละให้พนักงานไปคิดเงินรวมพร้อมส่งบัตรเดบิตจ่ายตัง ก่อนออกจากร้านผมเห็นราคาในใบเสร็จที่มันเซ็น โอ้แม่เจ้า ไม่กี่พันสำหรับผมถือว่าเยอะมากนะกับการจ่ายตังภายในเวลาไม่กี่นาที
 
   “ไม่ต้องมอง กูซื้อให้ มึงต้องใช้ให้คุ้ม”
 
   “ทำอย่างกับมีโอกาสว่ายน้ำบ่อยๆ งั้นแหละ” ผมบ่นอุบ
 
   “ไม่ต้องห่วง ของดีเก็บได้นาน ทิ้งไว้ยางก็ไม่เสื่อมเหมือนแบรนด์ตลาด จะใส่ลงทะเล ลงคลองหรือน้ำตกก็ได้หมด”
 
   ผมหรี่ตามองมัน
 
   “โฆษณาขนาดนี้ เขาจ้างมึงมาเท่าไหร่วะ”
 
   ซันยักไหล่
 
   “ไม่ได้จ้างว่ะ พอดีพี่ชายกูชอบใช้ยี่ห้อนี้ พี่สะใภ้ด้วย กูเลยใช้ตาม มันดีจริงๆ นะมึงต้องลอง”
 
   “เออๆ กูได้ลองแน่ ซื้อมาแล้วนี่”
 
   ซันหัวเราะกอดคอผม ทีแรกมันจะถือให้ แต่ผมไม่เอามันอุตส่าห์พามาจ่ายตังแล้วผมขอถือเองดีกว่า
 
   วันศุกร์เวลาประมาณห้าโมง เล่กับวามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โทรมาบอกให้ผมกับซันไปรับตรงฝั่งขาออก ระหว่างยืนรอพวกนั้นออกมาซันบ่นกับผมตลอด
 
   “เห็นมะ เพื่อนมึงยังนั่งเครื่อง แค่ชั่วโมงเดียวก็ถึง วันหลังมึงจะกลับนั่งเครื่องไปเลยนะ จะไปทนนั่งรถทัวร์ทำไม ทรมานตัวเอง”
 
   “ก็มันประหยัดกว่านี่หว่า” ผมเถียงกลับ
 
   “ประหยัดแต่ไม่ปลอดภัย กูเห็นข่าวมาเยอะโคตรอันตรายหรือบ้านมึงให้ประหยัด?” ขอบคุณมันที่มีกะใจถามหลังจากบ่นมาร่วมสิบนาที
 
   “เปล่า บ้านกูเฉยๆ จะนั่งรถ ขึ้นเครื่องหรือเหาะไปได้ทั้งนั้น ขอแค่ถึงที่หมายปลอดภัยก็พอ”
 
   “งั้นหลังจากนี้มึงต้องขึ้นเครื่อง ห้ามงอแง ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับแม่ง” ผมถลึงตาใส่มัน ไอ้คนเอาแต่ใจเอ๊ย! เฮ้อ เข้าใจว่ามันเป็นห่วง แต่มันไม่คิดเรอะขึ้นเครื่องก็อันตรายเหมือนกันนะ ความรู้สึกของกันอยู่บนอากาศห่างไกลจากพื้นโลก คิดยังไงก็น่าหวาดเสียว เลือกได้ผมไม่อยากขึ้นเลยให้ตาย
 
   เถียงกันไปมาสายตาพลันถูกดึงดูดด้วยร่างสองร่างที่ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางผู้คนมากมาย หนึ่งในสองคนนั้นผมจำได้ทันที

   ร่างบางในชุดกระโปรงพลิ้วสีอ่อนสะพายกระเป๋าเล็กด้านข้างโบกไม้โบกมือด้วยรอยยิ้มร่าเริง ข้างกันเป็นชายร่างสูง ใบหน้าคมหล่อดูอารมณ์ไม่ดี เข็นรถบรรจุเป้หนึ่งใบกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีชมพูหวานแหวว
 
   “โป้ คิดถึงจังเลย” เสียงใสดังมาก่อนอันดับแรก เพื่อนวัยเด็กถลามากอดแนบแน่นจนสัมผัสได้ถึงความนูนตรงหน้าอก ถามจริง ฟองน้ำกี่ชั้นครับคุณเพื่อน
 
   “ไงมึง สบายดีนะ” ซันทัก มึงช่วยเช็คหนังหน้าเพื่อนมึงด้วยว่าสบายรึเปล่า
 
   “เวรเอ๊ย เสียเวลาตั้งนานกว่ากระเป๋าจะมา กูแทบจะมุดเข้าช่องจ่ายกระเป๋าไปหาเองแล้ว”
 
   วาสบถ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมเจอตัวจริงของวา ดูเผินๆ เหมือนเป็นหนุ่มมาดนิ่งใจเย็น ตรงข้ามกับความจริงดูใจร้อนกว่าซันอีก ผมกระชับอ้อมแขนกอดเล่แน่นกว่าเดิม ไม่วางใจให้คนนี้เป็นคู่เล่จริงๆ เพื่อนสาว(?)ผู้ไม่เข้าใจ คิดว่าผมกอดเพราะคิดถึง เลยกอดกลับ แถมหอมแก้มซ้ายขวาไปสองฟอด ซันแค่ยักไหล่เฉยๆ เข้าใจว่าเพื่อนกัน ทางวาไม่ใช่ ดึงเล่ออกจ้องเขม็ง
 
   “บอกแล้วไงว่าห้ามทำแบบนี้กับคนอื่น!”
 
   “ก็ไม่ทำกับคนอื่นไง โป้เป็นเพื่อนเล่นะ” เล่เถียงแก้มป่อง ซันเห็นท่าไม่ดีเข้าไปไกล่เกลี่ยดึงเพื่อนมันออก ส่วนเล่วิ่งมาหลบหลังผมแล้วแลบลิ้นใส่
 
   “อย่าเพิ่งตีกัน เดี๋ยวกูพาไปกินอะไรอร่อยๆ” ซันกอดคอเพื่อนตัวเอง ผมปล่อยให้เล่ควงตามใจ
 
   “อร่อยของมึงนี่คงไม่ได้ไปนั่งบ่นเรื่องรสชาติอาหารในร้านเขาใช่มั้ย กูเดินทางมาเหนื่อยๆ ยังไม่อยากหลบตีนใคร”
 
   วาดูจะรู้จักเพื่อนตัวเองดีทีเดียว ผมยังหวั่นหลายที หวิดจะโดนตะหลิวหลายรอบ
 
   “งานนี้กูไม่บ่นชัวร์ มีแต่จะชมมากกว่า นี่เลย ฝีมือทำอาหารของเมียกู อร่อยยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาว” ซันผายมือมาทางผม อย่างกับกำลังนำเสนอสินค้า
 
   “อ่อ สรุปตกลงปลงใจกันได้แล้วสินะ ยินดีที่ได้รู้จัก กูชื่อวาคิน” เจ้าของนามหันมายิ้มให้ ผมมองตาปริบๆ ก็ไม่แย่อย่างที่คิด
 
   “ดี ปีโป้ เรียกโป้แบบคนอื่นแล้วกัน มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษรึเปล่า เดี๋ยวทำให้” ความรู้สึกแย่ๆ ในตอนแรกลดหายไปเล็กน้อยหลังเห็นอีกฝ่ายมีไมตรีดี คำตอบของวาคือการส่ายหัว
 
   “ทำมาเถอะกูกินได้หมดแหละ ไม่ต้องลำบากหรอก”
 
   โอ้ นิสัยเกรงใจด้วย ผิดกับซันลิบลับ ชักสบสนแล้วสิ ตกลงแบบไหนเป็นตัวตนที่แท้จริงของวา เอาเถอะ เวลาคือคำตอบ ลองทำความรู้จักไป เพื่อนใหม่คนนี้อาจจะไม่แย่อย่างที่คิด
 
   “อยากกินข้าวอบสับปะรด ฝีมือทำอาหารของโป้อร่อยที่สุด” กลายเป็นเล่เลือกเมนูแทน
 
   พวกเราสี่คนมุ่งหน้ากลับห้อง ให้วาเล่เก็บของไป ส่วนผมกับซันออกมาซื้อของสดที่ตลาดไปทำมื้อเย็น ผมอาศัยช่วงที่ทุกคนอยู่ด้วยกันคอยสังเกตวาเสมอ เจ้าตัวเป็นคนปากร้ายใจดี ชอบว่าเล่สารพัด มือดันยื่นจับดูแลตลอด ตักกับข้าวให้ คอยเช็ดปาก เตือนต่างๆ นานา
 
   มิน่าล่ะ ทำไมเวลาเล่คุยกับผม แม้จะบอกว่าวาชอบพูดไม่ดีใส่ แต่น้ำเสียงดูมีความสุข หากเทียบกับศัพท์ของปอนด์ เขาเรียกว่าหนุ่มซึนสินะ แบบนี้ค่อยวางใจยกเล่ให้ดูแล สำหรับผม เล่เหมือนน้องคนหนึ่ง ต้องคัดคนหน่อย
 
   ถึงเวลาปิดไฟนอน สองคนนั้นเงียบอยู่ในห้อง ผมนอนมองกำแพงได้ยินเสียงแอร์ดังเบาๆ
 
   “เพื่อนมึงตลกดีนะ” เจ้าของห้องตัวจริงชวนคุย ผมพยักหน้า ลืมไปมันมืดมองไม่เห็นเลยเปลี่ยนเป็นตอบออกเสียงแทน
 
   “ใช่ เล่ร่าเริงตลอดจนคนอื่นเข้าใจว่าทั้งชีวิตไม่มีเรื่องเศร้า ทั้งที่ความจริงเจ้าตัวเป็นคนอ่อนไหว” ผมว่าตัวเองเป็นเกย์หนักแล้วยังไม่เท่าเล่ รูปร่างหน้าตาออกไปทางผู้หญิง แรงป้องกันตัวยังไม่มี อาศัยบารมีพ่อกับความมองโลกในแง่ดีของเจ้าตัวถึงผ่านมาจุดนี้ได้
 
   “เป็นห่วงเหรอ” หนุ่มเถื่อนพลิกมานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหา ยื่นมือมากุมมือผมไว้ใต้ผ้าห่ม
 
   “เพื่อนนี่นะ ไม่ใช่แค่กูที่ช่วยเล่อย่างเดียว ตัวกูเองก็ได้เล่ช่วยไว้หลายเรื่อง”
 
   ผมหลับตานึกถึงภาพในอดีต เล่ช่วยพาผมไปโรงพยาบาลหลังถูกซ้อมปางตายไม่ห่วงว่าชุดตัวโปรดของตัวเองจะเปื้อนเลือดจนซักไม่ออก ในวันที่ผมท้อแท้กับครอบครัวและคนรอบข้างที่กดดันเรื่องความชอบของตัวเองมีเล่คอยนั่งเป็นเพื่อน ให้กำลังใจ พาผมไปพบกับพ่อของเล่จนเจอทางสว่าง นับๆ ดูแล้ว ผมช่วยเล่ยังไม่ได้ครึ่งที่เล่ช่วยผมด้วยซ้ำ
 
   “ไม่ต้องกังวลไป กูจะไม่ขอให้มึงเชื่อมั่นในตัวเพื่อนกู แต่ถ้าวันไหนวาทำผิด กูจะอยู่ข้างมึงช่วยอัดมันแทนเล่เอง”
 
   ทีแรกคิดว่าจะช่วยพูดให้เพื่อนตัวเอง ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมหัวเราะหันมาสบตาคม
 
   “โอเค กูไม่เชื่อเพื่อนมึง แต่กูเชื่อในตัวมึง นอนเถอะ พรุ่งนี้รับศึกหนักอีกเยอะ มึงอย่าได้ดูถูกพลังชีวิตอันล้นเหลือของเล่เชียว”
 
   “อืม ฝันดี”
 
   ซันขยับมาจูบปากราตรีสวัสดิ์ มันทำตอนตื่นและก่อนนอนทุกวันอย่างที่มันเคยลั่นวาจาไว้ ผมหลับตา บอกราตรีสวัสดิ์มันเบาๆ
 
   ท้องฟ้าสดใส เมฆลงกำลังดี เหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างยิ่ง เราสี่คนลงจากรถตามเวลานัด ซันสะพายเป้ใบหนึ่งบรรจุของจำเป็นของผมกับมัน ทางวา นอกจากเป้ใส่ชุดเจ้าตัวแล้ว ยังมีกระเป๋าสะพายใบโตของเล่อีก กระเป๋าลายดอกไม้ไม่เข้ากับหน้าคนสะพายจริงๆ
 
   “พวกนั้นอยู่ไหนวะ”
 
   หนุ่มเถื่อนถามลอยๆ ผมช่วยกวาดตามอง เห็นเฮียเฟย์กับปอนด์ลงมาจากรถ ตรงมาหาพวกเรา สองคนนี้มีกระเป๋าสะพายใบใหญ่แค่ใบเดียว คาดว่าในนั้นพื้นที่ร้อยละเก้าสิบเป็นของเพื่อนตัวเล็กที่พี่ชายแสนดีเตรียมไว้ให้ พวกเราทักทายแนะนำตัวกันเล็กน้อย เพราะทั้งคู่ยังไม่เคยเจอวากับเล่
 
   รออีกไม่กี่นาที รถสีดำคันหรูอย่างกับหลุดมาจากหนังมาเฟียจอดเทียบข้างรถซัน มิทในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกางเกงยีนเอวต่ำตามสไตล์ที่มันชอบ ถอดแว่นกันแดดเดินลงมาจากรถ เห็นแวบๆ ว่าด้านในมีคนนั่งอีกสองคน มีเพียงคนเดียวที่เดินตามมิทลงมา เขาเป็นหนุ่มไทยแท้ผิวสองสี ใบหน้าดุดันกลับยิ้มใจดี
 
   “สวัสดีครับเฮียเฟย์” มิทยกมือไหว้ผู้ใหญ่ในกลุ่มค่อยหันมาทักทายพวกผม
 
   “ไงพวกมึง มารอกันนานยัง”
 
   “ไม่กี่นาที นั่นใคร” น้ำเสียงราบเรียบมาจากเจ้าตัวขี้ห่วงเพื่อน ซันจ้องเขม็งไปทางชายวัยกลางคน มิทหัวเราะตบบ่าคนตัวสูงกว่าปุๆ แบบไม่เกรงใจว่าอีกฝ่ายอายุเยอะกว่า ทางนั้นเองแค่ยิ้มรับไม่ถือ
 
   “คนนี้พี่อาคม... พี่เลี้ยงกูเอง พอดีมีป๋าขี้หวงเลยต้องพาพี่เขามาด้วย” มิทแนะนำชายคนนั้นกับพวกเรา ก่อนแนะนำเพื่อนทุกคนบ้าง ส่วนซัน พอได้ยินว่าเป็นคนของพ่อมิทเลยวางใจไม่ซักไซ้อะไรต่อ ซันเอ๊ย คงยังไม่รู้สินะ ป๋าในความหมายของมิทคือป๋าจริงๆ ไม่ใช่พ่อ ผมเชื่อว่าคนอื่นพอจะดูออกเหมือนกัน แต่ทุกคนเลือกที่จะไม่พูด มันเป็นเรื่องส่วนตัว บรรยากาศทำความรู้จักเลยผ่านไปได้ด้วยดี
 
   ไอ้คนสุดท้ายที่นัดชาวบ้านไว้ดันมาสาย ริวรีบกระโดดลงจากรถแท็กซี่พุ่งมาขอโทษขอโพยพวกเราเป็นการใหญ่ ความจริงถ้าไม่มีผู้ใหญ่อย่างเฮียเฟย์กับพี่อาคมมันคงไม่สำนึกหรอก
 
   ตั๋วเข้าสวนน้ำทั้งหมด ถูกแจกจ่ายให้คนละใบ พวกเราดันมาในวันหยุดที่มีคนเยอะ แถมเดินเป็นกลุ่มใหญ่มีแต่คนหน้าตาดี จะตกเป็นเป้าสายตาก็ไม่แปลก ผู้หญิงหลายคนมองเล่ในชุดสาวน้อยด้วยความอิจฉา เป็นสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มชาย นี่ถ้าพวกเธอรู้ความจริง จะยังมองเล่แบบนี้ไหม ผมละหน่าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:20:55 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
โธ่~ นึกว่าจะได้เจอป๋าของมิทซะอีก กลายเป็นบอดี้การ์ดมาแทนซะนี่  :hao3:

ซันโป้นี่เขาก็หวานแบบเถื่อนหน่อยเนอะ  :laugh: แต่เราชอบบบบบบบ

วาเล่นี่ก็ดี๊ดี  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   น่าสนุกจัง. หลายคู่ก็ฟินหลายต่อ
ออชั้นว่างานนี้ใครเข้ามาจีบมิทต้องโดนอุ้มแหงๆเลยเนอะ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อยากอ่านคู่มิททท

จะเปิดเรื่องใหม่ป่ะคะ??

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ทริปนี้ น่าสนุกมากนะครับ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
อยากอ่านคู่มิททท

จะเปิดเรื่องใหม่ป่ะคะ??

เปิดครับ มาเป็นคิว

1 หนุ่มวายยกกำลังสอง เฟย์-ปอนด์ [กำลังแต่ง]
- โชตะ หนุ่มวาย อบอุ่น น่ารัก พี่ชายน้องชาย
2 เป็นเกย์กันมั้ย? ซัน-โป้ [กำลังแต่ง]
- เพื่อน รูมเมท ฮาร์ดคอ เฮฮา
3 Contract ป๋า-มิท [รอคิว]
- มาเฟีย ทำสัญญา
4 ??? ริว-ธัน
- รุ่นพี่กับรุ่นน้อง ชิวๆ สบายๆ
5 ??? วา-เล่
- ขบขัน หน่วงจิต สาวดุ้น(?)

5 คู่ตามนี้ครับ  o13

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร้ากก :mew1:

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นานแล้วน่ะที่ไม่มาต่อรออยู่น่ะ.

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่12 สวนน้ำ(1)
 
   พวกเรากลุ่มบอยแบนด์เดินคุยกันเข้าสวนน้ำ ผมขยับถอยไปคุยกับมิทที่เดินรั้งท้ายกำลังสนทนาอะไรสักอย่างกับคนติดตาม ดูทั้งคู่สนิทสนมกันดี
 
   “สองคนที่อยู่ในรถปล่อยไว้แบบนั้นไม่น่าสงสารแย่เหรอ”
 
   ผมถามถึงบอดี้การ์ดมิทอีกสองคน เพราะตั๋วมีจำนวนเท่านี้พวกเขาเลยต้องนั่งรอในรถ ทั้งที่ความจริงควักตังจ่ายเข้ามาก็ได้ ตั๋วราคาไม่กี่ร้อย ส่วนคนตอบไม่ใช่มิท แต่เป็นคุณอาคม
 
   “เจ้าสองตัวนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ อย่างผมก็ไม่ได้มาเล่นเหมือนกัน มาช่วยเฝ้าของเฉยๆ”
 
   รอยยิ้มใจดีเหมือนพี่ชายมองน้องชายชวนให้คนมองรู้สึกวางใจแม้อีกฝ่ายจะตัวหนาใหญ่ก็ตาม
 
   “เดี๋ยวสองคนนั้นหาเรื่องสนุกได้เองแหละ โป้ไม่ต้องสนใจ ไปสนใจทางนู่นดีกว่า”

   มิทหัวเราะชี้ไปทางซันเดินคุยกับวา ผมเห็นสองคนคุยกันตามประสาเพื่อนซี้ปกติดี ไม่เห็นมีอะไรต้องห่วง ก่อนสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางของเล่ซึ่งกำลังตกเป็นเป้าสายตาชาวบ้าน ที่สำคัญ... เจ้าตัวยังวิ่งไปวิ่งมาแบบไม่กลัวหลง ได้ข่าวเพิ่งมากรุงเทพครั้งแรก สังคมมันต่างกันนะเฮ้ย วิ่งมั่วแบบนั้นเดี๋ยวหลงทางเจอคนไม่ดีแหง ผมเลยโบกมือให้มิทเป็นเชิงขอบคุณ ผงกหัวขอตัวจากคุณอาคมแล้วเดินตรงดิ่งไปคว้าแขนเล่
 
   “อย่าวิ่งพล่าน ที่นี่ไม่ใช่เชียงใหม่นะมึง”
 
   ผมถลึงตาดุใส่เล่ เจ้าตัวหันมายิ้มหวานให้เกาะแขนผมเริงร่า ดูเด็กยิ่งกว่าปอนด์อีก ทางนั้นเขาเดินคุยกระหนุงกระหนิงอยู่กับเฮียเฟย์ เปลี่ยนพื้นที่โดยรอบเป็นเลิฟโซนของเราสอง ฝั่งเจ้าริวเดินไปกอดคอกับมิทแล้ว สมเป็นคู่หูคู่ป่วน
 
   “ที่นี่สวยจัง คนเยอะแยะเลย มีแต่คนหน้าตาดีด้วย กรุงเทพดีเนอะ รู้งี้ขอป๋ามาเรียนกรุงเทพมั้งดีกว่า”
 
   แก้มขาวพองลม ผมใช้มือจิ้ม
 
   “ดูดีแค่ภายนอก ภายในไม่น่าไว้ใจหรอก ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน มึงไปไหนต้องระวังอย่าไปคนเดียว ต้องให้กูหรือไม่ก็วาไปด้วยเข้าใจนะ”
 
   กลับมาดูแลเล่แบบนี้ ผมไม่รู้สึกอึดอัดใจเลยสักนิด ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เล่หัวเราะเสียงใสตะเบ๊ะรับ จู่ๆ ไม่รู้ซันมันมาจากไหน โผล่มาแยกพวกเราออกพร้อมกับวาที่ดึงแขนเล่ไปอยู่ใกล้ตัว สองสหายมองหน้ากันคล้ายกับทำไปโดยไม่รู้ตัวทั้งคู่ พอผมกับเล่มองถามก็หันหน้าหนีไปคนละทาง วาลากเล่ไป ซันดึงผมมา อะไรของพวกมัน
 
   “เป็นไรเนี่ย เมื่อกี้ยืนคุยดีๆ ไหงมากวนกูได้”
 
   “ทำไมมึงต้องคุยใกล้ชิดกับเล่ขนาดนั้นด้วย” คิ้วซันขมวดบี้ยุงตาย ผมใช้นิ้วจิ้มขยี้ให้คลายออก ทำหน้าโหดซะคนผ่านไปผ่านมาถอยหนีหมดแล้ว
 
   “เล่เป็นเพื่อนสนิทกูนะ เหมือนมึงกับวาไง”
 
   “ไม่เหมือน กูไม่ต้องดูแลวาแบบนั้น” เด็กโข่งออกอาการงอแง ผมคิดภาพตาม ซันกับวามาดูแลงุ้งงิ้งแบบผมกับเล่ ผู้ชายตัวสูงใหญ่สองคนจับมือถือแขน ยิ้มแย้มหยอกล้อ เหวย! สยองเกินไปแล้ว โอ๊ยย ภาพติดหัว ผมเอาหัวไถกับแขนซันหมายจะไล่ภาพในหัวออกไป
 
   “เป็นบ้าอะไรมึงเนี่ย ฮ่าๆ” ไอ้ซันขำ ทั้งที่มันเป็นต้นเหตุ เลยจัดฝ่ามือตบหลังมันอั๊ค มันหันมาถลึงตาใส่ยกมือลูบหลังป้อยๆ ถ้าถอดเสื้อคงเป็นรอยครบหานิ้วชัวร์
 
   “พอ เลิกพูดเรื่องนี้ หาที่นั่งดีกว่า”
 
   ตัดบทซันชวนมันคุยเรื่องอื่น ก้มดูแผ่นพับแผนที่สวนน้ำในมือที่ผมคว้ามาตอนจ่ายตั๋ว สวนน้ำที่นี่มีขนาดกว้างมาก แบ่งเป็นโซนสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ชัดเจน
 
   โซนเด็กจะเป็นพวกรูปปั้นสีสันสวยงาม น้ำตื้นๆ แค่ตาตุ่มจนถึงประมาณเข่าผม กระดานลื่นคุณช้าง ใบบัวให้นั่งเล่นกับกบพ่นน้ำ เป็นโซนที่พวกเราไม่มีใครเหยียบเข้าไปแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์
 
   ถัดมาจะเป็นโซนสำหรับทุกเพศทุกวัย อย่างน้ำวนที่เลี้ยวลดคดเคี้ยว ถ้านึกภาพไม่ออกผมจะอธิบายให้ฟัง อารมณ์เหมือนแม่น้ำเป็นทางให้เดินเล่นไปเรื่อยๆ ชมต้นไม้ ดูโซนน้ำอื่นๆ น้ำจะลึกประมาณอก ขอบๆ จะมีบันไดให้ขึ้นเป็นระยะ กับตัวพ่นใต้น้ำ ถ้าลอยตัวนิ่งๆ คือลอยไปตามกระแสน้ำเลย
 
   หวาดเสียวขึ้นอีกหน่อย ตระกูลกระดานลื่นหรือสไลเดอร์ที่หลายคนเรียกกัน มีทั้งลื่นแบบเป็นรุ้งเจ็ดสี มีขั้นต่ำ กลาง สูงให้พวกเด็กโต วัยรุ่น ผู้ใหญ่เขาเล่นกัน อีกอันจะเป็นแบบท่อคดเคี้ยวลงมา นับว่าที่นี่มีให้เลือกหลายแบบเลยทีเดียว ผมมั่นใจเลยว่ากลุ่มเราทุกคนต้องรุมที่นี่แน่
 
   โซนสุดท้าย โซนแห่งความสงบ เป็นสระกว้างใหญ่ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบสระน้ำทั่วไป สำหรับให้ผู้ใหญ่ว่ายน้ำออกกำลังกาย
 
   โดยแต่ละโซนจะมีจุดอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อความสะดวก หลังจากปรึกษากันเสร็จ พวกเราตัดสินใจเลือกลากโต๊ะกลมมาต่อกัน เหมาเก้าอี้หลายตัวแถวน้ำวนเป็นที่ปักหลัก สามารถเดินไปทุกโซนได้ไม่เว้นกระทั่งโซนร้านอาหาร เหมาะแก่การตั้งเป็นจุดนัดหลังแยกย้ายกันไปเล่นสุดๆ
 
   หน้าที่เฝ้าโต๊ะไม่พ้นคุณอาคม ทุกคนเดินไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำล้างตัวเตรียมลงเล่น ด้วยความที่เป็นผู้ชายกันยกกลุ่ม ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเปลี่ยนชุดมานั่งอยู่ที่โต๊ะ ยกเว้นเล่แค่คนเดียว ป่านนี้ยังไม่ออกมา ส่วนวาก็รอด้านใน
 
   เฮียเฟย์เริ่มรื้อสารพัดอุปกรณ์ให้เพื่อนตัวเล็ก หมวกว่ายน้ำ แว่นตา ครีมกันแดด ไอ้พวกผมมันสายลุย คงครีมอะไรไม่จำเป็น
 
   “ไม่ทาได้มั้ยพี่ โป้ยังไม่ทาเลยอะ” ระหว่างนั่งมองหนุ่มสาวในชุดว่ายน้ำเพลินๆ ปอนด์ดันลากผมเข้าไปเอี่ยวในบทสนทนา เฮียเฟย์หันมองผมสลับกับปอนด์
 
   “ไม่ได้ ยังไงก็ต้องทา เตรียมผิวไหม้แสบตายกันพอดี ความจริงโป้ควรทาด้วยนะ” เจอเสียงนุ่มเจือดุเฮียเฟย์เข้าไปทำเอาผมยิ้มแห้ง
 
   “ไม่ดีกว่า ผมอยากผิวแทนบ้าง ขาวเกินไปมันไม่เท่” ปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม เฮียเฟย์เข้าใจไม่คิดเซ้าซี้หันไปวุ่นวายกับปอนด์ต่อ จับพลิกซ้ายพลิกขวาเหมือนปิ้งหมูแล้วทาครีมทั่วตัว จังหวะที่คิดว่าจะรอด ซันมันเดินมาขอครีมต่อจากเฮียเฟย์บีบใส่มือจ้องมาทางผม
 
   “อะไรมึง จะทาก็ทาไปดิ มองดูทำไม แต่ถึงมึงทาไปก็ไม่ขาวขึ้นหรอกนะ ดำขนาดนี้กู่ไม่กลับแล้วมึง” ผมยักคิ้วแซวมัน
 
   “กูไม่ทาอยู่แล้ว มึงต่างหากที่ต้องทา หันหลังมา”
 
   “เฮ้ย! บอกว่าไม่ทาไง อยากผิวแทนเข้าใจวัยรุ่นหน่อย”
 
   “วัยรุ่นหน้ามึงดิ กูไม่อยากให้มึงดำ กูอยากให้มึงขาว”
 
   “แต่กูอยากดำ ตัวกูมึงบังคับไม่ได้” ทุกวันนี้อุตส่าห์คล้ำกว่าตอนอยู่เหนือแล้ว ผิวขาวมากเกินไปมันแย่เหมือนกันนะ ผู้หญิงคงดูดี แต่ผู้ชายมันดูเจ้าสำอาง ที่สำคัญเดินทีไรสะท้อนแสงตลอด ยิ่งใส่สีขาวกับสีดำยิ่งหนัก พวกผู้หญิงที่คณะผมแทบเอาผงถ่านมาสาดใส่ ต่อให้เป็นผู้ชาย เป็นฝ่ายรับ ผมก็ยังอยากหล่อนะเว้ย
 
   ระหว่างที่ผมกับซันกำลังทำสงครามสายตา มิทที่นอนเหยียดใส่แว่นกันแดดอยู่บนเก้าอี้ยาวเอ่ยแทรกขึ้นมา
 
   “มันแค่อยากให้เมียขาว โป้ยอมทาๆ ไปเหอะ เดี๋ยวลงน้ำแปบๆ แม่งก็หายหมดแล้ว”
 
   ปากมันพูดนะ แต่มันอาการหนักที่สุด บรรดาขวดครีมบนโต๊ะนั่นคืออะไรวะครับ! แบ่งแยกประเภทเสร็จสรรพ ทาหน้า ทามือ ทาตัว ยังไม่นับหลอดบำรุงผิวที่อยู่ในกระเป๋าข้างคุณอาคมอีก ฝ่ายนั้นรับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดดีเกินไปรึเปล่า คอยส่งครีมให้มิททาตามขั้นตอน
 
   เฮียเฟย์ที่ว่าดูแลลูกแมวดียังยกมือขอยอมแพ้ไปเลย บ้ามากกว่าผู้หญิงอีก!
 
   ซันเหมือนพบหนทาง มองครีมของมิทสลับมองครีมที่มันบีบค้างในมือแล้วยกยิ้มเหนือกว่า
 
   “โป้ มึงจะยอมทาดีๆ แค่รอบเดียวหรือจะให้กูบอกมิทจัดการ”
 
   ผมขมวดคิ้วใส่ สีหน้ายียวนน่าถีบเป็นบ้า เล่นไม้นี้ใช่มั้ย ได้!!
 
   “ถ้ากูทา มึงต้องทาด้วย ไม่งั้นก็ไม่ต้องทาทั้งคู่” ไอ้ซันหน้าหงิก มิทหัวเราะลั่น ขณะเฮียเฟย์ส่ายหัว ส่วนเพื่อนตัวเล็กมองผมกับซันตาวิบวับ คุณอาคมเปลี่ยนตัวเองเป็นฉากประกอบโดยสมบูรณ์ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร เคยได้ยินไหม เหนือจอมยุทธยังมีมนุษย์เมีย!
 
   ผ่านไปหนึ่งนาทีกับการจ้องตาจนแทบท้องกว่าไอ้ซันจะยอมอ่อนลง
 
   “เออ” 
 
   มึงบอกเออ แต่น้ำเสียงมึงไม่เต็มใจขั้นสุด มือหนาที่มีครีมป้ายใส่อกผมแล้วทาๆ แบบละเลง พอหมดมันนั่งหันหลังให้ผม ยัดขวดครีมใส่มือ ผมส่ายหัวขำๆ กับอาการงอนของซัน มือบีบครีมบรรจงทาให้บ้าง ผิวมันหยาบมาก บ่งบอกว่าไม่ดูแลเลย หนักกว่าของผมอีก แม้ผมจะไม่ดูแลเท่ามิท แต่มีปะแป้งทาครีมบ้างเวลาอากาศหนาวหรือผิวแห้งมากๆ
 
   ทาช่วงตัวเสร็จ มันยกขามาพาดขาผม เลิกคิ้วเป็นเชิงบอกให้ทา นี่สรุปจะไม่จบศึกนี้ง่ายๆ สินะ จับทาแล้วดึงขนหน้าแข้งแม่งหมั่นไส้ ไอ้ถึกขี้งอนเอ๊ย
 
   “โอ๊ย! มึงทำเชี่ยไรเนี่ย”
 
   “บ่นไร ทาหลังให้กูด้วย”
 
   ผมสั่งมันกลับ ไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะ ผมจะกระโดดคร่อมตักแกล้งมันแล้วนะเนี่ย ตอนนี้คงเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ไปก่อน ไว้คิดบัญชีทีเดียวที่บ้าน
 
   สัมผัสจากมือร้อนทาบนแผ่นหลัง มันดูเก้ๆ กังๆ ต่างจากตอนทาด้านหน้า พอหันไปมองมัน ซันกำลังก้มมองลงต่ำ มือเลื่อนจนเกือบถึงสะโพก... พอเห็นว่าผมมอง เจ้าตัวทำทีเป็นหันไปทางอื่น ไม่รู้ไม่ชี้ ผมเลยหยิกเอวเป็นรางวัล เขียวเลยมั้ยล่ะมึง คิดอกุศลเรอะ คนที่คิดได้คือกูคนเดียวเฮ้ย
 
   ซันยกมือลูบเอวตัวเอง ปากบ่นอุบอิบ
 
   “มึงแม่งทำร้ายร่างกายกูจริง ตอนเป็นเพื่อนไม่เห็นเป็นงี้ ไหงเป็นแฟนมึงดุเยี่ยงหมาวะ”
 
   อือหือ นั่นหรือคือปาก ผมง้างมือจะซัดอีกสักที ซันรีบยกมือกัน เห็นท่าทางแบบนั้นทั้งขำทั้งสงสาร จริงอย่างที่มันพูด เป็นแฟนกันแล้วผมลงไม้ลงมือกับมันบ่อยมาก คงเพราะสนิทใจกันมากขึ้น และเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องเว้นระยะแบบเพื่อนเลยทำอะไรตามใจตัวเองไปหน่อย
 
   “ไม เสียใจที่คบกับกูรึไง” แกล้งถาม มันส่ายหัวขวับทันที
 
   “ไม่ ต่อให้กลับไปเลือกได้กูก็จะคบกับมึง แค่ขอให้มึงเบาๆ มือหน่อย กูช้ำเขียวไปมหา’ลัยทุกวัน...” โธ่เอ๊ย พ่อคนเก่ง ทำไมท้ายประโยคเสียงมันเบาขนาดนั้นฮึ ผมยื่นมือไปลูบๆ ตรงจุดที่มันโดนบิดเนื้อ
 
   “โอ๋ๆ ภรรเมียจะพยายามเบามือนะครับ คุณผัวมึงก็อย่ากวนตีนกูให้มันมากนัก”
 
   “ได้ไง ความสุขกู!” หนุ่มเถื่อนสวนกลับ ผมชักสีหน้า ซันเลยรีบมองซ้ายมองขวาพยายามเปลี่ยนเรื่อง
 
   “เออมึง ริวมันหายไปไหนวะ”
 
   ทำเป็นมองหาใหญ่ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหัวมันเหอะ
 
   “มันไปคุยโทรศัพท์ กูจำได้ว่ามึงยังชี้หาที่หลบมุมให้มันอยู่เลยนะ” ผมมองตามซันเห็นริวยิ้มระริกระรี้ส่ายหาง สายที่ว่าหนีไม่พ้นรุ่นพี่ธันสุดที่รักของมันแหง
 
   “วากับเล่ไปนานเนอะ” ปอนด์ชวนคุย
 
   อันนี้ผมเห็นด้วย แม่งไปนานจริง นี่มันไปเปลี่ยนชุดกันที่ดาวนาเม็กรึไง พวกผมนั่งรอจนครีมระเหยหมดแล้ว
 
   “เดี๋ยวกูไปดูพวกมันหน่อยดีกว่า” ผมลุกอาสา ซันตั้งท่าจะไปด้วย มิทดึงแขนพวกผมเอาไว้ก่อน พลางพยักเพยิดหน้าไปทางห้องเปลี่ยนชุด เห็นสองร่างคุ้นตากำลังเดินมาพอดี
 
   จริงสิ ผมยังไม่ได้บรรยายชุดว่ายน้ำของแต่ละคนเลยใช่มั้ย ผม วา ซัน ริว ใส่กางเกงสี่ส่วนสำหรับลงน้ำเหมือนกัน เฮียเฟย์ใส่กางเกงว่ายน้ำสีเข้มธรรมดาแต่ตอนนี้ใส่กางเกงทับไว้เห็นโผล่มาแค่ขอบๆ คงจะถอนตอนลงน้ำ ฝั่งปอนด์ ไม่ต้องถามก็รู้เลยว่าใครเลือกชุดให้ เป็นชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวแขนขาสั้น เฮียนี่ขี้หวงจริงๆ เจ้ามิทร้ายสุด มันใส่กางเกงว่ายน้ำสีดำสุดหวิว เห็นมันเซลฟี่ส่งรูปไปให้ใครบางคนด้วย ป๋ามันชัวร์เชื่อผม โป้รู้โป้เห็นโป้เดาได้
 
   และผู้ชาย เอ่อ... ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เล่มาในชุดว่ายน้ำทูพีซสีชมพูอ่อนหวาน ท่อนบนเป็นระบายช่วยพรางอก ส่วนท่อนล่างกระโปรงพลิ้วสองชั้น เดินมานี่ผู้ชายมองกันเหลียวหลัง ลำบากวาโอบเอวแนบชิดจนแทบจะรวมร่าง
 
   ทุกคนพากันอึ้ง ริวกลับมายังยืนตาโตอ้าปากค้าง รีบจ้ำมายืนข้างผมป้องปากกระซิบ
 
   “เพื่อนมึงเป็นผู้หญิงเหรอวะ ไหนบอกว่าเป็นผู้ชายไง”
 
    “ผู้ชาย”
 
   “กูไม่เชื่อ ผู้ชายอะไรมีหน้าอกแถมใส่ทูพีทน่ารักขนาดนี้”
 
   เหล่ตามองริว มีซันจ้องเสริมว่าไม่เชื่ออีกคน ผมถอนหายใจ กวักมือเรียกเล่เข้ามาหา วายอมปล่อยเอวเมื่อถึงโต๊ะ ได้กลิ่นของครีมกันแดด สงสัยที่นานเพราะมัวทาครีมกันอยู่ด้านใน
 
   “โป้เรียกเล่มีอะไรเหรอ จะเล่นน้ำใช่ปะ รอแป๊บนะ เล่ให้วาไปเช่าหวงยางก่อน” ร่างบางกระดี๊กระด๊า ผมไม่พูดอะไร ก้มลงจับกระโปรงว่ายน้ำแล้วเปิดขึ้นก่อนจะปล่อยลงภายในไม่กี่วินาที เพียงแค่นั้นก็มากพอที่จะใช้เป็นหลักฐานยืนยัน ซันหันหน้าหนี ริวตัวแข็งทื่อ มิทชะโงกดูอย่างสนใจ เฮียกับลูกแมวกลับเข้าไปอยู่โลกนี้มีเพียงเราสองและคุณอาคมเป็นฉากหลังเช่นเดิม
 
   “ว๊ายยย โป้ทำอะไรก็ไม่รู้อะ ชอบเปิดกระโปรงเค้าอยู่เรื่อย”
 
   เล่มองออกว่าผมทำไปเพื่ออะไร โวยวายพอเป็นจริตแล้วขยิบตาให้ซันริว ก่อนจะกระโดดโลดเต้นเกาะหลังวา เดินเคียงคู่ไปเช่าห่วงยาง ผมยักคิ้วใส่
 
   “ชัดเจนยังพวกมึง”
 
   “ชัดเลยเป็นดุ้น” หนุ่มญี่ปุ่นดึงสติกลับมา มีซันพยักหน้าเสริม ผมตบบ่าทั้งคู่
 
   “มากันครบแล้ว ไปเล่นน้ำกัน” มองชวนทุกคน เฮียเฟย์ลุกขึ้นพร้อมปอนด์ที่กอดโลมาเป่าลม ไม่รู้งัดมาตอนไหน
 
   “พี่กับปอนด์ว่าจะไปเล่นน้ำวนพวกเราล่ะ”
 
   “คงไปเล่นเจ้านั่น” ซันชี้ไปทางสไลเดอร์ ที่เหลือพยักหน้ารับ
 
   “งั้นแยกกัน ไว้จะไปสมทบนะ” ปอนด์โบกมือให้เดินลงน้ำไปกับเฮียเฟย์ มิทลุกขึ้นสวมกางเกงแบบพวกผม
 
   “มองไร กูไม่บ้าใส่ตัวนี้ไปเล่นของหวาดเสียวเพียวๆ หรอก”
 
   ว่าอยู่ ผมฝากของกับคุณอาคม เดินไปเจอวากับเล่เดินสวนมาพอดีเลยไปด้วยกัน เห็นเล่แบบนี้ชอบเล่นของหวาดเสียวเหมือนกันนะ ความจริงเจ้าตัวไม่ใช่ตุ๊ดหรือกระเทย เป็นเกย์ที่ชอบแต่งหญิงแล้วเสือกแต่งขึ้นเฉยๆ งานไหนทางการหรือขี้เกียจแต่งตัว เล่ก็ใส่ชุดผู้ชายปกติ
 
   อันแรกที่เราเล่นคือแบบอุโมงค์นั่งต่อแถวกันลงมา แน่นอนว่าริวอยู่หน้าสุด ถัดมาเป็นวา ตามด้วยซัน ผม เล่ และมิทปิดท้าย สาเหตุที่ให้ริวอยู่หน้า เพราะทุกคนไม่อยากโดนรุมทับ เล่อยู่ด้านหลังด้วยเหตุผลเดียวกัน จำเป็นต้องปิดด้วยมิท เผื่อมีคนลื่นตามลงมา มันตาไวจะได้บอก แม้พนักงานจะกะเวลาไว้ มันไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ในเมื่อเวลาเล่นชอบติดคาอุโมงค์ทู้กที
 
   น้ำที่ปล่อยออกมาทำให้มันลื่นพากันไหลไปตามอุโมงค์ จังหวะมีละลอกน้ำมาจากทางด้านหลังบ่งบอกว่ามีคนใกล้มาถึงเรา
 
   “เฮ้ย มีคนมาวะ สงสัยต้องสละเรือ”
 
   สละเรือในความหมายมิทคือเลิกเกาะกันเป็นแพ วายกเท้ายันริวลงไปคนแรก เสียงแหกปากโวยวายไม่อาจสู้เสียงหัวเราะสะใจของเพื่อนได้ ริวแม่งโคตรเทพ มันเกาะตรงขอบอุโมงค์ ปล่อยให้ผมกับซันไปก่อน ตัวเองค่อยซ้อนประกบเล่ มิทเลวสุด มันเปลี่ยนท่าเป็นคว่ำหน้า พุ่งหลาวแทรกพวกเราทุกคนลงไปแล้ว
 
   สาเหตุที่คว่ำหน้ามันไวกว่านั่งเพราะน้ำหนักตัวมันถ่ายไปทั่ว ไม่รวมที่ก้นให้ถ่วงอย่างเดียว เรื่องนี้ห้ามลอกเลียนแบบ มันอันตรายแต่สนุกมาก!
 
   มิทมาถึงน้ำคนแรก มันรีบว่ายหลบเท้าอย่างคนหนีตาย ในขณะริวพุ่งตามไป ซันผมชนหลังมันในน้ำเต็มๆ จุกคู่ โดนเล่กับวามาซ้ำเติมอีก แทบจะโงหัวไม่ขึ้น พอตั้งตัวได้ก็รีบหอบหิ้วกันหลบเท้าคนอื่น ความจริงเล่นกันแค่คนสองคนมันไม่ลำบากขนาดนี้หรอกเป็นพวกผมอุตริเอง
 
   “แค่ก! น้ำเข้าจมูก เมื่อกี้ใครถีบหลังกูวะ” ริวบ่นอุบ จมูกแดงหมด มีมิทช่วยทุบหลังไม่รู้ช่วยหรือตอกย้ำ ผมว่าอย่างหลังแหง
 
   “สนุก ไปเล่นนั่นกันต่อนะ นะ”
 
   เรียกใสของเล่เรียกความสนใจจากพวกเรา นิ้วเรียวชี้ไปทางที่ลื่นแบบนั่งห่วงยางใหญ่ นั่งได้ทีละสองคน นับดูแล้วครบคู่พอดี พอไปถึงเห็นเฮียเฟย์กับปอนด์เข้าแถวรออยู่ สองคนนั้นยอมสละคิวแรกๆ มายืนกับพวกผมจะได้เล่นพร้อมกัน หลังจากนั้นพากันลุยเล่นมันทุกอย่าง แยกเดี่ยวเป็นคู่เป็นกลุ่ม มีครบทุกแนว สวนน้ำที่นี่สุดยอดเป็นบ้า
 
   เล่นพวกนั้นจนเหนื่อย ถึงเวลาแห่งการพัก เฮียเฟย์ ปอนด์ มิทขอตัวไปกลับไปที่โต๊ะ ริววาเล่เล่นแถวนั้นกันต่อตามประสาพวกบ้าพลัง ผมอยากเล่นอะไรชิวๆ บ้างเลยหลบมาน้ำวนกับซัน
 
   “เดี๋ยวพวกแม่งได้เล่นกันจนตูดขาดแน่”
 
   ซันพูดเสียงเจือขำ ผมเคยนะ สมัยซื้อกางเกงว่ายน้ำถูกๆ ลื่นจนขาดอะ โคตรน่าอาย
 
   “ขาดจริงมันก็วิ่งกลับโต๊ะกันเอง แล้วมึงไม่ไปเล่นกับพวกมันไง”
 
   พวกเรากำลังลอยเอื่อยๆ อยู่ในน้ำวน ผมกินแรงซัน เกาะหลังให้มันพาไปตามกระแสน้ำ แม้คนมองพวกเราก็ไม่สน สายตาคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าผมกับมันเป็นเพื่อนสนิทกัน บางแค่บางกลุ่มมองออก หนักขนาดเบ้ปากมองแรงใส่แล้วเดินหนีก็มี คนพวกนี้มีปัญหาชีวิต เลยต้องคอยดูถูก กดคนอื่นให้ต่ำกว่า ตัวเองจะได้ดูสูงส่งขึ้น น่ารำคาญ
 
   มือหนาเอื้อมมือจับมือผมที่เกาะบนบ่าตอนผ่านวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง มองหางตาแบบรังเกียจ
 
   “มึงว่ากูควักลูกตามันออกมา เลือดจะเปื้อนสระจนโดนด่ามั้ยวะ” พวกนั้นสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงเย็นเยือกของซัน ยิ่งหน้ามันเถื่อน ตามันดุ ผวายกกลุ่ม
 
   “คงโดนว่ะ กูว่าเปลี่ยนสถานที่ดีกว่า ในห้องอาบน้ำก็ไม่เลว ล้างเลือดลงท่อไปเลย ไม่ก็ดักเอาตอนหน้าสวนน้ำ พวกมึงมากันเยอะหนิ เรียกมารวมตัวแค่นี้ชิวๆ”
 
   คนฟังกระตุกยิ้มมุมปาก คนมาเยอะน่ะเรื่องจริง แต่คงไม่ได้น่ากลัวแบบที่ผมขู่พวกมันแน่ เล่นเอาพวกนั้นหน้าซีดรีบว่ายหนีไปเลย ผมหัวเราะเปลี่ยนมาลอยข้างมันแทน
 
   “มึงนี่โหดจริงๆ”
 
   “มึงยังมีหน้ามาว่ากูด้วยเหรอ” แขนหนาตวัดกอดคอ ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม
 
   “ก็พอกันทั้งคู่”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:21:44 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    โหดและแซบพอๆกันแหละ
ว้าวเล่เป็นสาวดุ้นเสียแล้ว  :z1:   

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด