}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170651 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
โหดทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่13 สวนน้ำ(2)
 
   ผมกับซันเราลอยตัววนในน้ำวนได้สักพัก เริ่มจะเบื่อตามประสาพวกชอบออกแรง ไอ้น้ำวนนี่มันเหมาะกับเด็กน้อย ไม่ก็ผู้ใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัวจริงๆ พวกเราเลยเปลี่ยนจากลอยตามน้ำเป็นลูกมะพร้าวในทะเล ใช้น้ำวนแทนรถไฟฟ้าแวะเวียนเล่นสวนน้ำโซนอื่นบ้างเป็นระยะ พอจุใจค่อยกลับมาน้ำวนต่อ ขึ้นๆ ลงๆ มันอยู่นี่แหละ
 
   ขนาดส่วนของเด็กเล่นยังแวะไปเดินดู ผมว่าเขาเข้าใจแต่งดีนะ ทุกอย่างปลอดภัยสีสันสดใส มีตัวละครในนิทานเรื่องดังๆ รอบๆ มีโต๊ะกับร่มให้ผู้ปกครองนั่งพักดูเฝ้าลูกหลาน
 
   เห็นเด็กวิ่งผ่านไปผ่านมา อารมณ์เหมือนยักษ์มาเดินในเมืองคนแคระโดยเฉพาะไอ้ซัน ทำเด็กกลัวเป็นว่าเล่น ทั้งที่มันดูจะชอบเด็กแท้ๆ ผมขำกับสีหน้าผิดหวังของมัน ปลอบใจด้วยการพาไปเล่นส่วนอื่นต่อ
 
   รอบก่อนมากันหลายคน พวกสไลเดอร์บางอย่างยังไม่ได้เล่น ผมกับซันถือโอกาสนี้ลองหมดทุกชิ้นกางเกงแทบไหม้ ขอบคุณจริงๆ ที่ผมเชื่อฟังซันซื้อแบบมียี่ห้อมาถึงได้เล่นแบบจุใจ
 
   ลื่นกันจนเหนื่อยพักในน้ำวนตามด้วยโซนสระปกติ ไหนๆ ก็ไหนๆ มาสวนน้ำทั้งทีถือโอกาสไปว่ายออกกำลังกายหน่อยก็ดี ช่วงแรกว่ายออกกำลังกายกันดีๆ หรอก ช่วงหลังนี่ว่ายแบบเอาเป็นเอาตายแข่งกันอยู่สองคน แน่นอนผมแพ้... น่าเจ็บใจเป็นบ้า
 
   “อย่าทำหน้าบูดแบบนั้นดิ แพ้ก็แพ้ดิวะ ทำเป็นงอน”
 
   น้ำเสียงยียวนกวนส้น ผมปัดนิ้วที่มาจิ้มแก้มทิ้งอย่างไม่ใยดี กูไม่ใช่สาวน้อย กูไม่ได้น่ารัก ไม่ต้องมาทำตัวมุ้งมิ้งขัดกับหน้าตาเถื่อนๆ สงสารคนมอง หันหน้าหนีกันหมดสระแล้วมั้ง
 
   “เดี๋ยวมึงจะโดนพระบาทฟาดพระโอษฐ์น้ำพระเนตรจะไหลหลั่ง”
 
   “กูว่าพระโอษฐ์ฟาดพระโอษฐ์ให้พระเขฬะไหลรินดีกว่านะ”
 
   “พอเลิก คุยกับมึงแล้วกูเพลีย นิสัยคุณชายบื้อออกเถื่อนตอนแรกมันหายไปไหนหมดวะ ตอนนี้กูเห็นแค่ไอ้หื่นตัวหนึ่ง”
 
   “มึงด้วยแหละ เพื่อนแสนสุดชิวกูหาย เหลือแต่เมียขาโหดซ้อมกูได้ซ้อมกูดี เมียหรือหมาวะดุชิบเป๋ง” ท้ายประโยคมันบ่นเสียงเบา แต่ผมเสือกได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำไง
 
   “ไม่พอใจ?” ผมหยุดเดินเลิกคิ้วถาม ตอนนี้เรากำลังจะกลับไปน้ำวนเพื่อกลับโต๊ะ หามื้อเที่ยงกิน
 
   “เปล่าครับคุณเมีย กระผมมิกล้าหือดอก... เดี๋ยวอดตาย”
 
   “รู้ตัวก็ดี หึหึ” หัวเราะในคออย่างผู้ชนะ แข่งว่ายน้ำหรือแข่งอย่างอื่นผมอาจจะแพ้ แต่เรื่องแบบนี้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ซันไม่ต่อปากต่อคำกับผมต่อ ยอมให้เกาะหลังถ่วงน้ำหนักในน้ำวนจนกลับถึงโต๊ะที่พวกเราอยู่
 
   ตอนนี้ทุกคนกลับมาประจำที่โต๊ะกันหมดแล้ว คาดว่าพยาธิคงเรียกร้องอย่างหนักหน่วง ผมเดินตามซันไปที่โต๊ะ เห็นปอนด์นั่งเบะปากโดยมีข้าวกล่องอยู่ตรงหน้า แม้จะเหลือไม่เท่าไหร่ แต่คาดว่าก่อนหน้านี้มันคงถูกจัดอย่างสวยงามด้วยฝีมือเฮียเฟย์แหง
 
   “เป็นอะไร ใครรังแก”
 
   ผมถามขำๆ ตาเหล่มองริวกับมิททำเป็นมองนู่นมองนี้ไม่รู้ไม่ชี้ เล่หัวเราะเสียงใสอยู่ในร่ม วากลอกตาเอือมระอา
 
   “ไอ้พวกนี้แย่งน้องกินอ่ะดิ แค่พี่ชายเขาไม่อยู่แปบเดียวก่อเรื่อง ระวังเถอะ พี่เขากลับมาพวกมึงจะซวย”
 
   พ่อคนที่สองประจำกลุ่มคาดโทษเหล่าลูกที่ทำผิด พ่อคนแรกอย่างซันแทนที่จะช่วยสั่งสอนกลับหัวเราะลั่น วาขมวดคิ้วสงสัยเบนเป้าหมายมาเป็นเพื่อนตัวเอง ส่วนปอนด์นั่งหน้าบูด
 
   “น้องอะไร มันอายุเท่ากับพวกเรา ลืมไปแล้วเรอะเด็กไอทีที่หลงทางวันนิเทศนั่นไง ตอนนั้นมึงก็อยู่ยังไม่ได้ไปเหนือหนิ แถมพี่ชายที่ว่าน่ะ พี่น้องท้องชนกันนะ”

   ซันไม่พูดผมก็ลืมไปแล้วนะเนี่ย เรื่องมันเป็นงี้ วันนิเทศนักศึกษาใหม่ทุกคนต้องไปรายงานตัวที่คณะตัวเอง แต่ปอนด์ดันหลงไปแถวคณะซัน นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน ผมไม่ได้อยู่ในเหตการณ์หลอก ปอนด์เล่าให้ฟังอีกทีสมัยยังเป็นรูมเมทกันอยู่
 
   “มึงอย่ามาอำ” วาทำท่าไม่เชื่อเด็ดขาด ปอนด์หันไปคุ้ยกระเป๋าเฮียเฟย์ที่ฝากฝังของตัวเองไว้ หยิบบัตรนักศึกษาโชว์ให้ดูแบบจะๆ อย่าพูดถึงมิทกับริวเลย สองคนนั้นหัวเราะท้องคัดท้องแข็งแค่ยังไม่ได้ลงไปดิ้นบนพื้นให้เข้าถึงอารมณ์มากกว่าเดิม
 
   “เจ้าตัวยืนยันแล้วนั่น กูเข้าใจวา ขนาดไอ้ซันทีแรกมันยังเข้าใจผิดเลย”
 
   ผมตบบ่าวาที่ยังอึ้งไม่หาย แม้ปอนด์จะเก็บบัตรเข้ากระเป๋าแล้วก็ตาม ซันล็อกคอผมไปซุกอยู่ตรงอกแบบเอาเรื่องแทน
 
   “ตกลงมึงเมียใครกันแน่วะ ไม่เข้าข้างกูเลย”
 
   บ่นได้บ่นไปผมไม่สน คุณอาคมก็เอาแต่ยิ้มขำใส่พวกเรา เฮียเฟย์กลับมาจากห้องน้ำนั่นแหละถึงลูบหัวปลอบเพื่อนตัวเล็ก ชักชวนพวกผมไปหาอะไรกินที่โซนอาหาร ซึ่งไอ้อาหารที่นี่แต่ละอย่างโคตรแพง ถ้าไม่ติดว่าห้ามเอาของกินเข้ามา ผมจะพกข้าวเหนียวเป็นกระติ๊บ ทอดไก่เป็นกาละมังมาแจกเพื่อนให้จุใจ
 
   ซันตัวดี กินไปบ่นไปให้ผมหยิกเอวจะได้เลิกปากหมา คีบลูกชิ้นในชามผมยัดใส่ปากซะ ถึงมันจะตรงใจใครหลายคนแต่ไม่ควรพูดออกมาให้เสี่ยงตีนเฮ้ย!!
 
   หลังอิ่มแบบไม่อร่อยกับมื้ออาหาร ไม่ควรลงน้ำทันทีเลยชวนกันนั่งคุยสักพัก ทุกคนชวนกันไปเล่นทิ้งทวนจนบ่ายสองค่อยกลับมารวมตัวกันหยิบข้าวของแยกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โปรแกรมต่อไปคือเล่นเครื่องเล่นด้านนอก สวนน้ำที่นี่ไม่ได้มีแค่เล่นน้ำอย่างเดียว พวกเครื่องเล่นแบบสวนสนุก รถไฟเหาะ บ้านผีสิง ม้าหมุน มีครบทุกอย่าง งานนี้พวกเราไม่พลาดชัวร์
 
   ด้วยความห้องอาบน้ำมันว่างน้อย ผมกับซันเสียสละอัดเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกัน ห้องในสุดที่ไม่มีใครเดินเข้ามาใช้
 
   “มึงถูสบู่ไปก่อน เดี๋ยวกูสระผมแล้วค่อยสลับกัน”
 
   มีการนัดแนะกันเสร็จสรรพ พวกผมไม่รีบหรอก ลองนึกถึงเพื่อนคนอื่นในกลุ่มสิ มิทมันหนุ่มเจ้าสำอางกว่ามันจะอาบแล้วทาครีมเป็นโหลเสร็จกินเวลาพอสมควร ยังมีเล่สาวน้อยอาบทีเกือบชั่วโมง ฝั่งเฮียเฟย์กับปอนด์ไม่น้อยหน้าดูแลกันเข้าไป ดังนั้นพวกวิ่งผ่านน้ำอย่างเราๆ นี่ค่อยๆ นับอณูฟองรอยังได้
 
   กางเกงยังไม่ถอด ผมขยี้หัวสระผมจนฟองฟอดเห็นไอ้ซันถูสบู่อยู่เลยเผื่อแผ่บีบแชมพูไปละเลงหัวมันด้วย คิ้วเข้มเลิกมอง มุมปากยกยิ้มให้ความรู้สึกแปลกๆ มือถูสบู่จนฟองเต็มมือแล้วเอามาถูตัวผมบ้าง มือหยาบกร้านร้อนระอุลากไล้ไปตามตัวให้ผมถลึงตาจ้องเขม็ง
 
   “น้อยๆ หน่อยมึง กูแค่ช่วยสระผมอย่ามาลวนลาม”
 
   “เอ้า กูก็ช่วยถูสบู่ให้ไง ไม่ดีเหรอ” ปากถามขยับตัวเข้าประชิด มือลากไปตามขาถลกกางเกงว่ายน้ำขึ้นจนเห็นขาอ่อน มึงจะตั้งอกตั้งใจทำความสะอาดให้กูมากไปละ คิดรึว่าผมจะยอมให้มันเล่นฝ่ายเดียว จัดการวางมือบนบ่า เลื่อนลงผ่านแผ่นอกกว้าง เบียดกายเข้าหาหน้าท้องแน่นตึง ก่อนจะบิดหัวนมแม่ง!
 
   “โอ๊ย! มึงเล่นไรเนี่ย”
 
   “เผื่อความหื่นมึงจะกระเด็นออกไปบ้างไง ที่นี่ไม่ได้ คนอื่นรออยู่”
 
   “กูว่าต่อให้พวกเราทำเสร็จสักสองรอบ เพื่อนรักของมึงก็ยังไม่ออกจากห้องน้ำหรอก วามันบ่นให้กูฟังอยู่ว่าเมียมันอาบน้ำช้าเป็นชาติ”
 
 
   “มึงจะเอากูให้ได้เลยใช่มะ” ถามชิดปากเสียงรอดไรฟัน ริมฝีปากได้รูปประกบจูบ ผมถูกพลิกหลังพิงกำแพงใต้ฝักบัวกางเกงว่ายน้ำถูกถอดออกรวดเร็ว ด้านในมีกางเกงว่ายน้ำแบบที่มิทใส่อีกตัว ซันมันซื้อให้ผมใส่เซฟไว้เพราะความหวงของมัน
 
   มาถึงขนาดนี้ ปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน ผมเอียงหน้ารับจูบพลางตอบโต้กลับ ปล่อยให้มันดูดลิ้นดูดปากจนบวมเจ่อ มือล้วงเอาของมันกับผมออกมาประจันกัน นี่สินะที่เขาเรียกว่าฟันดาบ... แม่งง อย่างเสียว!
 
   “เมียใครว้าร้อนแรงชิบ”
 
   ผมตอบด้วยการก้มลงไปเม้มอกจนเกิดรอย ได้ยินเสียงหัวเราะในคออย่างชอบใจ มือร้อนเปื้อนสบู่สอดไปด้านหลัง นิ่วหน้าเล็กน้อยกับการเตรียมพร้อม ผ่านไปสองนิ้วคนทำเหมือนจะเริ่มทนไม่ไหวตวัดแขนช้อนข้อพับข้าผมขึ้นชิดเอว นิ้วแหวกกางเกงว่ายน้ำ ผมตาโตรับรู้ได้ทันทีว่ามันจะทำเชี่ยอะไร
 
   “เฮ้ย มึง! อืม...”
 
   ถูกประกบปากซ้ำพร้อมความร้อนเบื้องล่างที่เริ่มทำหน้าที่ เล็บจิกบ่าระบายความตื่นเต้น บ้าเอ๊ย นอกสถานที่แบบนี้มัน...
 
   “อะ... แม่ง กางเกง” เสียงเตือนไม่เข้าหูคนหื่นขึ้นหน้า ซันครางฮืมในคอซุกหน้าฟัดอกกระดกลิ้นจนสะท้านวูบ เบื้องล่างแนบชิดเข้ามาเรื่อยๆ จนเต็มตื้อ ผมพยายามกลั้นเสียงร้องสุดชีวิต พอบดเบียดทำให้รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอีกฝ่าย มันเต้นรัวเร็วบ่งบอกว่าคนทำก็ตื่นเต้นไม่ต่าง
 
   ผมสอดแขนกอดมันแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองระทวยไหลไปกองกับพื้น สะโพกสอบขยับจังหวะเร่งร้อนเพราะต้องรีบทำให้เสร็จเนื่องจากสถานที่ไม่อำนวย กายผมสะท้านวูบเป็นพักๆ แทบจะกัดลิ้นอยู่หลายรอบ เสียงหอบหายใจหนักถูกกลบด้วยเสียงน้ำไหล
 
   มันออกแรงหนักๆ ช่วงท้าย กล้ามท้องเสียดสีส่วนตื่นตัวจนผมทนไม่ไหว กระตุกกายปลดปล่อยเมื่อถึงจุดหมาย ตัวเบาโหวงชั่วขณะ ก่อนสติถูกดึงกลับมาพร้อมกับการเร่งจังหวะอย่างเอาแต่ใจ ไม่ทันออกปากห้ามก็รู้สึกร้อนวูบด้านหลัง ไอ้เชี่ยนี่แม่งปล่อยในอีกแล้ว!
 
   “อือ อือ ซันพอเว้ย!” ผมทุบหลังมันเรียกสติ มึงจะขยับสะโพกทำเตี่ยอะไรอีก
 
   “อีกนิดน่า”
 
   “อีกนิดพ่อง!!”
 
   เอียงหน้ากัดหูมันจนร้องเสียงหลง ไอ้ถึกส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจจำต้องยอมถอนตัวออกไม่งั้นหูมันหลุดคาปากผมแน่ มือหนายกลูบหูตัวเองป้อยๆ
 
   “เจ็บนะ” มีบ่นอุบอิบง้องแง้ง น่ารักตายล่ะ
 
   ผมถอดกางเกงว่ายน้ำทิ้งแล้วอาบน้ำใหม่พลางตบตีกับมือปลาหมึก สั่งให้ซันมันขยี้ล้างน้ำคลอรีนจากชุดว่ายน้ำ ยังมีหน้าชูเจ้าตัวเล็กที่ผมใส่จนถึงเมื่อกี้อีก
 
   “ย้วยนิดๆ ว่ะ”
 
   “เออดิ กูเตือนมึงแล้วไม่ฟังกูเอง”
 
   “ช่างแม่งเถอะ ไว้ค่อยซื้อใหม่” มันพูดแบบไม่ยี่หระหันมายิ้มยักคิ้วใส่ผม “ตื่นเต้นดีเนอะ นอกสถานที่ครั้งแรกเลย   นะเนี่ย” หัวทุยไถๆ แขน ผมดันมันออกช่วยขยี้แล้วบิดใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมไว้ ตอนนี้พวกเราแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย
 
   “ครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย มึงแง้มประตูดูหน่อย มีใครอยู่ป่าว”
 
   ปกติผมหน้าด้านยกเว้นกรณีแบบนี้ไว้หน่อย ไม่รู้ว่าเสียงน้ำมันกลบหมดรึเปล่า ถ้าเกิดออกไปเจอคนนี่อายแทบแทรกแผ่นดินหนีแน่ผม ซันพยักหน้ารับเข้าใจ เปิดประตูแง้มดู แถวบริเวณห้องที่พวกเราอยู่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเราสองคน
 
   หนุ่มเถื่อนหันมาส่งสัญญาณเดินออกจาห้องน้ำ แถวกระจกติดกับทางออกเห็นมิทกำลังทาครีมที่คาดว่าเป็นหลอดสุดท้าย โดยมีคุณอาคมช่วยเก็บของอยู่ข้างๆ
 
   ห้องอาบน้ำที่นี่เป็นแบบตัวที ทางตรงเข้ามาแยกซ้ายขวา ตรงกลางห้องเป็นที่วาง อ้างล้างมือกับกระจกยาว วายังเห็นยืนส่งข้าวของข้ามประตูให้เล่ในห้องอาบน้ำ ทุกอย่างปกติไม่มีใครผิดสังเกตค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก
 
   ซันไปชวนมิทคุย ผมเนียนออกไปด้านนอกเจอริวกับพวกปอนด์รออยู่แล้ว ผ่านไปสักพักทุกคนพร้อมลุยเครื่องเล่นต่อ เสื้อผ้าส่วนใหญ่ใส่ตัวเดิมกับขามา มีแค่เล่เปลี่ยนเป็นชุดแนวยูนิเซ็กส์ควงแขนอยู่กับวา จังหวะทุกคนเดินออกจากสวนน้ำไปทางสวนสนุกมิทจงใจรั้งท้ายใช้ศอกสะกิดผมด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม
 
   “ไม่ไหวเลยนะพวกนาย เล่นทำกันที่แบบนี้คนอยู่ห้องข้างๆ อย่างฉันเขินแย่” หนุ่มครึ่งรัสเซียแสร้งยกมือกุมแก้มเขิน บิดไปบิดมาได้อย่างน่าถีบ ความร้อนพุ่งขึ้นหน้า ยกเท้ายันแบบลืมตัว มิทดันหลบได้หัวเราะชอบใจวิ่งลิ่วไปอีกทาง ในเมื่อไม่มีที่ระบายความเขินผมเบนเข็มไปทางต้นตอ ถีบซันเกือบหน้าทิ่ม มันหันขวับมาจ้องอย่างเอาเรื่อง
 
   “เรื่องไรมาทำร้ายร่างกายกูอีกเนี่ย หรือมึงท้องอารมณ์แปรปรวน”
 
   “ท้องบ้านเตี่ยมึงสิ มิทมันรู้เรื่อง...” ไม่อยากพูดเลยเฮ้ย ไอ้ซันตาโตไม่อยากเชื่อ ผมพยักหน้ายืนยันหนักแน่น ซันรีบจ้ำพรวดไปกอดคอมิทลากไปซุบซิบอะไรบางอย่างสองคน เจ้าคนกุมความลับชาวบ้านแบมือเหมือนขอเก็บค่าปิดปาก โดนซันมันใส่เข่าให้แต่ก็ยังไม่วายแปะโป้งไว้อยู่ดี
 
   ร่างสูงวิ่งเหยาะๆ กลับมาหาผม ชูนิ้วโป้งยิ้มเห็นฟันขาว
 
   “เรียบร้อย”
 
   ผมส่ายหัวปลง ความจริงไม่ต้องไปปิดปากอะไรมันก็ได้นะ มิทมันคงไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดหรอก ผมแค่อยากจะบอกมันไว้เฉยๆ แต่ปล่อยมันไปแล้วกัน มาสนใจปัญหาต่อไปของผมดีกว่า ที่นี่เน้นสวนน้ำ พวกเครื่องเล่นเลยมีไม่เยอะเท่าสวนสนุก
 
   ที่เห็นชัดเจนพระเอกของงานก็คือ ชิงช้าสวรรค์ รถไฟเหาะ เรือไวกิ้ง ม้าหมุนจำพวกนี้ ซึ่งเครื่องเล่นที่มีการขยับกระแทกไม่เหมาะกับผมอย่างแรง ซันมันจัดรอบเดียว ถึงงั้นมันก็ยังเสียดๆ ช่วงล่าง ถ้ากระแทกทีคงร้าวรานไปทั้งตัว ผมไม่น่าตามใจตัวเองเลย สบายตัวลำบากก้น
 
   แต่มันอยากเล่นอะ ไหนๆ ก็มาแล้วทั้งที่จะให้ยืนเฝ้าของเป็นเพื่อนคุณอาคมแล้วมองคนอื่นเล่นสนุกสนานผมคงชอกช้ำพอดี ผมเดินตามคนอื่นหมายมั่นปั้นมือว่าจะเล่นมันเท่าที่เล่นได้ จู่ๆ โดนซันคว้ามือมองเหมือนผมกำลังจะไปบอกรบ
 
   “มึงเล่นได้เหรอ”
 
   “ได้ดิ สบ๊าย” ทำไมผมต้องเสียงสูงด้วยครับ
 
   “แน่ใจนะ”
 
   “เออน่ะ กูไหว”
 
   สีหน้ามันไม่เชื่อเลยสักนิด มือหนาถือวิสาสะมาจับสะโพกแล้วขยำ ผมนี่สะดุ้งวาบหลังมือโดยอัตโนมัติ ไอ้ซันมันเป็นข้ารองบาทผมมานานประสบการณ์เยอะหลบมือผมสบาย
 
   “ยังจะเล่นอีกไหม”
 
   “กูจะเล่น” กัดฟันพูดเลยมั้ยล่ะมึง ซันทำหน้าเอือม
 
   “ดื้อ!”
 
   คำเดียวจบบทสนทนาจูงมือลากผมไปต่อคิวโดยดี เพราะคนอื่นกำลังสนใจปอนด์ที่งอแงกับเฮียเฟย์ว่าอยากเล่นทั้งที่กลัวแสนกลัว เลยไม่มีใครเห็นหนุ่มตัวเท่าควายสองตัวยืนจูงมือกระหนุงกระหนิงอยู่ด้านหลังสุด ด้วยความที่เรามาหลายคน รถไฟเหาะรอบนี้เราเลยเหมาทั้งคัน คนที่อยู่หน้าสุดคือวาเล่ที่ชอบเล่นอะไรไม่เข้ากับหน้าตา ถัดมาเป็นริวมิท ตามด้วยพวกผม ปิดท้ายด้วยเฮียเฟย์กับเพื่อนตัวเล็ก
 
   ผมมองออกนะว่าเฮียอยากนั่งหน้าสุด ทำตัวเปรี้ยวเกินวัย ติดที่ปอนด์ยังกล้าๆ กลัวๆ เพิ่งขึ้นรถไฟเหาะครั้งแรก จำต้องเลือกด้านหลังที่หวาดเสียวน้อยที่สุดแทน
 
   เสียงติ๊ดสัญญาณออกตัวพร้อมกับความสนุกที่มาเยือน ช่วงแรกยังค่อยๆ เคลื่อนตัวไปแบบค่อยเป็นค่อยไปกระทั่งถึงทางทิ้งดิ่ง ความมันบังเกิด เล่กรี๊ดกร๊าดชอบใจดังลั่น มิทกับริวชูมือลัลล้าจนน่าเตะตกราง ซันยิ้มไม่หุบส่งเสียงแหกปากเพิ่มอรรถรสในการเล่น ผมนี่ยิ้มทั้งน้ำตา สุขและทุกข์ในเวลาเดียวกัน
 
   “ว้ากกก! พี่เฟย์!! ผมไม่อยากเล่นแล้ว!”
 
   “แง้! ผมไม่ชอบแบบนี้เลย”
 
   ”โอ๊ย ไม่นะอย่าเลี้ยวแบบนั้น อ๊าก!! ตายแน่ๆ พ่อจ๋าแม่จ๋า”
 
   “พี่เฟย์!! ช่วยผมด้วยย”
 
   “ฮ่าๆๆ!!”
 
   จากส่งเสียงกันสนุกกลายเป็นประสานเสียงหัวเราะลั่น ปอนด์โวยวายแปดหลอดมาก ทั้งเสียวทั้งขำจนปวดท้อง เพื่อนตัวเล็กร้องเสียงหลงซะจนน่าสงสาร ผมอยากจะหันหลังไปดูสีหน้าเฮียเฟย์กับปอนด์สุดใจ ติดแต่ถ้าหันไปมีรายการอ้วกพุ่งชัวร์
 
   พอหมดรอบที่กั้นยกขึ้น ปอนด์พุ่งตัวออกไปเป็นคนแรกอย่างกับหนีไฟไหม้ แต่ละคนผมเผ้ายุ่งเหยิง ส่วนคนที่น่าอนาถสุดไม่พ้นปอนด์นี่แหละ ใบหน้าน่ารักน้ำตาคลอเบ้ปาก หน้าซีดสนิทจากที่ขาวอยู่แล้วแทบไม่เห็นสีเลือด หัวชี้ฟูเป็นรังนก ซุกกอดเฮียเฟย์ตัวสั่นระริก
 
   “ฮืออ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นอีกแล้ว ทำไมน่ากลัวแบบนี้”
 
   “โอ๋ๆ พี่ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่สนุกหรอก เป็นไงบ้าง มึนหัวคลื่นไส้รึเปล่า ดื่มน้ำหน่อยมั้ย ไปนั่งตรงนู้นกับคุณอาคมดีกว่าเนอะ”
 
   ผู้อาวุโสรวบกอดลูบหัวเพื่อนตัวเล็กแล้วจูงเดินไปนั่ง ส่งยาดมให้พร้อม ผมชักสงสัย กระเป๋าพี่เฟย์นี่ใส่อะไรมาบ้าง ดูเหมือนจะมีครบทุกอย่างเลยวุ้ย
 
   “ขำก็ขำ สงสารก็สงสาร” มิทกุมท้องหัวเราะใช้นิ้วปาดน้ำใสตรงหางตา
 
   “เอาไง เล่นกันต่อมั้ย” ริวถามความเห็น เล่รีบยกมือระริกระรี้สุดๆ คนอื่นยังมีมึนๆ เซนิดหน่อย เล่นี่ยืนยิ้มหวานอย่างกับเมื่อกี้ไปเดินทัวร์ทุ่งดอกไม้มา
 
   “ไงก็ได้ กูต้องตามเฝ้าเล่อยู่แล้ว” คำตอบของวาแปลง่ายๆ เลยคือเล่ว่าไงว่าตามกัน จะตามไปเฝ้าสุดล่าฟ้าเขียว คู่นี้ก็ดูแลกันดีเหลือเกิน จะว่าไปถ้าไม่นับริวกับมิท นี่มันเดทหมู่ชัดๆ ระหว่างที่ยืนพักคิดว่าจะเอายังไงกันต่อ หนุ่มวัยทำงานผละจากเด็กในสังกัดมาสมทบกับพวกผม
 
   “เล่นต่อเลยๆ พี่ยังไม่จุใจ”
 
   “ปอนด์ล่ะครับ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง คนฟังยิ้มบางตามสไตล์
 
   “ปล่อยให้พักไป เล่นต่อไม่ไหวหรอกเดี๋ยวหัวใจวายตายพี่ไม่มีไปคืนแม่เขาพอดี” รอยยิ้มพี่ท่านช่างเจิดจ้าซะเหลือเกิน สาวน้อยสาวใหญ่เดินผ่านแทบสะดุดขี้มดตายเป็นใบไม้ร่วง คนหล่อนี่มันเป็นบาป
 
   “งั้นลุยต่อ ป่ะมึง”
 
   แฟนผมสรุป กอดคอพากันไปเล่นต่ออีกสักรอบแล้วเปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่นบ้าง พวกเครื่องเล่นหวาดเสียวเล่นมันทุกอย่างเท่าที่เวลาจะอำนวยโดยมีคุณอาคมกับปอนด์เป็นคนเฝ้าของ ไม่รู้เพื่อนตัวเล็กผมมีเรด้าตรวจจับของกินหรือยังไง หันไปมองทีไรเดี๋ยวไอติม เดี๋ยวขนม เฮียเฟย์ก็ช่างเป็นพี่ชายแสนดี เล่นเสร็จหนึ่งอย่างแวะไปดูรอบหนึ่ง
 
   พอเล่นกันจนหอมปากหอมคอ เป้าหมายต่อไปคือบ้านผีสิง งานนี้เล่ส่ายหัวลูกเดียว ยื้อตัวไม่ยอมเข้าไปเด็ดขาด ก่อนจะโดนวาแกล้งอุ้มแบกขึ้นบ่าเดินนำไปซะเฉย ปอนด์เสียสละบอกว่าให้ตายยังไงก็ไม่เข้า ทีแรกซันกับมิทรวมหัวกันหมายจะลากปอนด์เข้ามาด้วย แต่ถูกเฮียเฟย์ตวัดสายตาคมกริบมองให้หนาวสันหลังวาบ สยองก่อนจะเข้าบ้านผีสิงซะอีก พี่ท่านพร่ำพูดว่าเด็กน้อยของตัวเองขวัญอ่อนเข้าไปไม่ได้หรอก อีกอย่างข้างในมันก็มีแต่ของปลอม ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจตรงไหน
 
   วาจาร้ายกาจ... ผมส่งสัญญาณให้ริวลากแขนซันกับมิทเข้าบ้านผีสิง ก่อนเฮียเฟย์จะพูดจาทำลายความฝันเด็กวัยรุ่นไปมากกว่านี้ บ้านผีสิงเป็นที่ฮอตฮิตสุดนิยมของชาววัยทีนเลยนะ!
 
   ข้างในก็บรรยากาศเหมือนบ้านผีสิงทั่วไปแหละ สิ่งที่ทำให้ผมหวาดหวั่นคือเสียงกรี๊ดที่คุ้นๆ ว่าจะเป็นของเล่มากกว่า กลุ่มเราสี่คนเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางไม่รู้สึกรู้สึกกับสารพัดของที่เขาจัดมาหลอก ผีช่องแอร์สาวผมยาวคลานออกมา มิทดันหยิบมือถือไปขอถ่ายรูปโชว์สองนิ้วซะชิบ
 
   นักฆ่าโรคจิตถือเลื่อยวิ่งไล่ ริวมันกลับขอลองถือไปวิ่งไล่กลุ่มอื่นซะอย่างงั้น ซันนี่มีอะไรโผล่มา พี่ท่านชกใส่หมดปากก็บ่น
 
   “ทำไมชอบเด้งมาขวางทางวะ เดี๋ยวกระแทกหน้าเมียกูเสียโฉมพอดี”
 
   เฮ้อ ลาก่อนบรรยากาศหลอนๆ ในบ้านผีสิง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากอยากหลอนห้ามมากับพวกมันเด็ดขาด!
 
   ผมออกจากบ้านผีสิงด้านนอกเริ่มเย็นพอดี พวกต้นไม้กับเครื่องเล่นบางชนิดเปิดไฟหลากสีสวยงาม เหลือเวลาพอเล่นแค่อย่างเดียวก่อนกลับ ทุกคนลงความเห็นว่าจะให้ปอนด์เป็นคนเลือก เนื่องจากเพื่อนตัวเล็กไม่ค่อยได้เล่นอะไรมากที่สุด
 
   ปอนด์เลือกม้าหมุนสองชั้นที่เล็งไว้ตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่เกือบสิบคนเลยแห่กันไปแย่งเด็กเล่น เล่เลือกม้าให้วาขี่ ส่วนตัวเองไปนั่งด้านหน้าทำตัวอย่างกับเจ้าหญิงขี่ม้ากับเจ้าชายในนิทาน เฮียเฟย์ย้ายตัวเองไปเป็นช่างกล้องกดรัวชัตเตอร์ถ่ายปอนด์วิ่งเล่นม้าตัวนั่น เกาะม้าตัวนี้ ป่วนคนอื่นไปทั่ว โดยมีริวเป็นผู้สนับสนุนหลัก ผมกับซันเลือกนั่งรถฟักทอง ทอดสายตามองรอยยิ้มของผู้คนและบรรยากาศสนุกสนานในสวนสนุก
 
   “มึงไม่ไปขี่ม้ากับเขาไง” หนุ่มผิวเข้มเริ่มบทสนทนาก่อน
 
   “คำถามมึงผ่านการกรองจากสมองรึยัง” ตอบด้วยการจ้องเขม็งใส่ ตอนนี้ก้นผมระบม ให้ไปขี่ม้าแบบนั้นฆ่าตูเลยเหอะ
 
   “ลืมไปว่ามึงเจ็บอยู่ เห็นซ่าเล่นซะขนาดนั้น” มันย้ายที่มานั่งข้างผมแล้วเนียนจับมือ พวกเรานั่งอยู่ในรถฟักทองมองจากด้านนอกเลยไม่เห็น “ทนอีกหน่อย กลับบ้านไปเดี๋ยวนวดให้”
 
   “อืม วันนี้สนุกดีแฮะ อารมณ์ไม่ต่างจากมาเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อนสมัยมัธยมเลย”
 
   “ต่างดิ อันนั้นเที่ยวกับเพื่อน นี่เที่ยวกับแฟน”
 
   ไม่รู้เพราะแสงไฟหลากสีด้านนอกรึเปล่า ถึงทำให้ตาคมๆ ของซันมันพราวระยับได้ขนาดนี้ มุมปากยกยิ้มบางๆ ให้หวั่นไหว รู้สึกถึงแรงดึงดูดให้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไม่ทันจะได้สวีทหวาน มารผจญที่ชื่อว่าปอนด์ โผล่หัวมาตรงหน้าต่างรถฟักทองเล่นเอาสะดุ้งผละออกจากกันแทบไม่ทัน
 
   “ว้า รีบแยกกันทำไม บรรยากาศกำลังดี” เสียงนุ่มเล็กพูดไม่ได้ดูเล้ยว่าใครเป็นต้นเหตุ ได้ยินเสียงหัวเราะในคอดังแว่วด้านข้าง ชะโงกหน้าไปดูเห็นเฮียเฟย์ถือกล้องเลิกคิ้วมองแบบหล่อๆ
 
   “ออกไปเลยไป๊!”
 
   ซันพาลใช้มือดันหัวปอนด์ที่พยายามมุดเข้ามาหา จังหวะนั้นเองที่ผมเห็นร่างคุ้นตาของมิทยืนหลบมุมอยู่กับใครคนหนึ่ง ด้วยความที่อยู่ไกลทำให้ผมเห็นไม่ชัด แต่พอมองออกว่าเป็นชายชาวต่างชาติตัวสูงใหญ่กำลังโน้มตัวลงมาจูบกับเพื่อนผมดูดดื่ม
 
   ม้าหมุนเคลื่อนตัวทิ้งภาพนั้นไว้เบื้องหลัง ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เห็นภาพนั้น เฮียเฟย์ยิ้มๆ ไม่พูดอะไร ผมเองก็เลือกที่จะเงียบหันไปสนใจซันที่กำลังแกล้งปอนด์แทน ตอนนี้เพื่อนพวกเราอาจจะยังไม่พร้อม เมื่อไหร่ที่มิทโอเค คงจะมาบอกพวกเราเอง ในฐานะเพื่อนคงทำได้แค่เฝ้ามองและช่วยเหลืออยู่ห่างๆ
 
   งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา ช่วงค่ำพวกเราแยกกันกลับบ้านใครบ้านมัน มิทกลับไปพร้อมกับคนที่ผมเห็นและคุณอาคม ริวติดรถเฮียเฟย์ไปลงป้ายรถเมล์เพื่อต่อแท็กซี่ วากับเล่กลับพร้อมกับพวกผม เล่นอนหนุนตักวาหลับตลอดทาง
 
   มื้อเย็นเลือกซื้อมากินเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะทำ คืนนี้เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ ผมนอนคว่ำหน้าบนเตียงนุ่มให้ซันนวดให้จนผล็อยหลับไป มีความสุขจังเลยน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:22:26 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อยากไปบ้างงงงงงงงง อิจจจจจจจ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :pig4:  ขอบคุณค่ะ
คุณนายโป้ชีวิตดี๊ดีนะคะ. อิจ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :katai4:

ความอยาก อยากอ่านตอนมิทพุ่งกระฉูดกว่าเก่าอีก  :katai1:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีความสุขกันจังเลยน้าา

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
:katai4:

ความอยาก อยากอ่านตอนมิทพุ่งกระฉูดกว่าเก่าอีก  :katai1:

ของมิทมีแล้าน้า มีในเพจต้องคุ้ยเอาจ้า เพิ่งอัพตอนสามไปไม่กี่วันก่อน

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
:katai4:

ความอยาก อยากอ่านตอนมิทพุ่งกระฉูดกว่าเก่าอีก  :katai1:

ของมิทมีแล้าน้า มีในเพจต้องคุ้ยเอาจ้า เพิ่งอัพตอนสามไปไม่กี่วันก่อน

เห้ยยยยยยยยย

ขอบคุณค้าาาาาาาาาาาาาาา  :katai4:  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ชอบอ่ะ สนุกมาก แต่ละคู่น่ารักกันทั้งนั้นเลย อิจฉาจังอยากมีกลุ่มเพื่อนแบบนี้บ้างตลกดี อยากอ่านคู่ของมิทจังเลย  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: น่ารักจริงๆ เลยอ่ะ สำหรับคู่นี้ แต่ละคู่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวน่ะ  :กอด1: ตอนสวนน้ำน่ารักมากเลย อ่านแล้วอยากไปมาก ไม่ไปมาคงหลายสิบปีแหละ  :m15: มารออัพตอนต่อไป ระหว่างนี้ต้องตามไปอ่านคู่อื่นก่อนแหละ  :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกตามมาตั้งเเต่เรื่องเฟกับปอนอยากอ่านของมิทกับมาเฟียอยากอ่านของริวกับพี้ธัน อยากอ่านเจเล่กับวาคินอ่ะ   คนเเต่งสู้ๆๆๆน่ะรออ่านอยู่

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เป็นการเดทหมู่(?)ที่ ทั้งสนุกสนาน เฮฮา และหวานแหววมากเลยค่ะ  :laugh:

เปิดตัวป๋าของมิทหน่อยๆละ ชาวต่างชาติตัวใหญ่ มาเฟียใช่มะ!!

วาเล่ เฮียเฟย์ปอนด์นี่ดูแลกันดี๊ดีค่ะ น่าร๊ากกกกกก

ส่วนซันโป้ นี่ก็ทั้งมุ้งมิ้ง ทั้งSMเลยยยยย  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
บรรยากาศ สนุกมากๆๆ

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: อยากอ่านต่อออออออ คนเขียนตัวเองงง สู้ๆนะ มาอัพด้วยนะ

ออฟไลน์ mermixx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่14 ผมไม่จนนะครับ

   เที่ยวผ่อนคลายกันมาแล้ว กลับเข้าสู่วิถีนักศึกษากันต่อไป ผลจากการนวดอย่างดีของซันทำให้วันรุ่งขึ้นผมสามารถมาไปเรียนได้ตามปกติ

   ไม่รู้เคยบอกรึยัง ตัวผมนั่นเรียนสถาปัตยกรรมภายในซึ่งแยกมาจากสถาปัตยกรรมหลัก ช่วงปีแรกๆ ผมจะเรียนรวมกับพวกสถาปัตย์ออกแบบอาคารทั้งหลายเน้นพวกวิชาพื้นฐานเป็นหลัก แต่พอปีหลังๆ จะแยกไปเรียนเอกของตัวเอง

   หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าสถาปัตยกรรมภายในกับออกแบบภายในคืออันเดียวกัน ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่ามันไม่ใช่ ออกแบบภายในคือ ‘มัณฑนศิลป์’ จะเรียน 4 ปีจบ ต่างจากของผมที่ต้องเรียน 5 ปี แม้โดยรวมจะเกี่ยวกับการตกแต่งภายในเหมือนกันก็ตาม

   เพียงแต่ สถาปัตย์ภายใน จะเน้นเรื่องโครงสร้างสถาปัตยกรรมรวมกับการออกแบบภายใน ส่วนมัณฑนศิลป์จะเน้นที่การตกแต่งภายในเป็นสำคัญ ไม่เกี่ยวกับตัวอาคาร ส่วนตัวผมคิดว่าสองสายนี้ยากกันคนละแบบ อยู่ที่ความชอบและความถนัดของแต่ละคนมากกว่า

   คิดๆ ดูก็ตลกดี ปอนด์เรียนคณะไอทีสาขาคอมกราฟิก ดันมีวิชาพื้นฐานแนวเดียวกัน ปอนด์จะเรียนพวกลายเส้น 2มิติ 3มิติ รวมถึงโปรแกรมในการทำกราฟิก ส่วนผมจะเสริมขึ้นมาอีกคือการเขียนแบบ วาดเส้นสถาปัตยกรรมและอื่นๆ อีกมากมาย

   ตัวปอนด์ไม่ถนัดด้านการสเก็ตภาพเท่าไหร่ ก็ได้ผมนี่แหละช่วยฝึกให้ สลับกับตัวผมที่ไม่ถนัดด้านโปรแกรมออกแบบต้องให้ปอนด์ช่วยสอน พวกเราเลยไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเวลาที่มีงานต้องส่ง

   ซันมัน วันๆ มีแต่กองหนังสือทับหัว ผมเคยแอบไปเปิดสมุดจดดู มีตัวหนังสือเป็นพรืด เขียนหลากสีเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อ เทียบกับของผมแล้วยังดูอาร์ตกว่า ว่างๆ นั่งจดที่อาจารย์สอนก็ลองสเก็ตภาพเล่นหรือวาดรูปล้อเลียนอาจารย์ขำๆ ทางปอนด์ยิ่งแล้วใหญ่ เปิดเจอแต่ภาพการ์ตูนชายซะเป็นส่วนใหญ่ บางทีเจอพล็อตนิยายด้วยซ้ำ ช่างรักงานอดิเรกยิ่งชีพ

   ด้านเจ้าริวนี่ ต่อให้ขี้เกียจก็ต้องขยัน เพราะดันเสนอหน้าไปจีบรุ่นพี่ด้วยการอ้างเรื่องเรียน สมน้ำหน้า สมุดแต่ละเล่มของมันถึงดูมีเนื้อหาสาระแบบที่หน้าตาอย่างงั้นไม่น่าจะทำได้ เจ้ามิทอย่าพูดถึงมันจดเลย เห็นมันถือสมุดก็นับว่าเป็นของแรร์แล้ว ไม่รู้มันเอาชีวิตรอดไม่โดนอาจารย์เพ่งกระบาลได้ยังไง

   ผมเองก็ไม่ว่างจะไปสนเรื่องของชาวบ้าน ไปเรียนนั่งจดเลคเชอร์ อันไหนจนทันสบายไป ไหนจนไม่ทันต้องยืมเพื่อนลอก ถ้าไม่ทันกันยกห้องนี่ซวยสนิท ต้องมานั่งเล่นเกมประกอบประโยค ใครได้ส่วนไหนเอามาแชร์กัน บางทีมีงานออกแบบใส่กระดาษไปส่งอาจารย์ ให้อ.แกช่วยตบจนเข้ารูปเข้ารอย

   วิชาสเก็ตภาพต้องมานั่งเลือกหามุมสเก็ตกันไปตามหัวข้อที่อาจารย์ให้ ไม่แน่นะถ้าพวกคุณอยู่ในมหา’ลัยผม อาจจะเห็นนายโป้คนนี้นั่งก้มๆ เงยๆ อยู่กับกระดาษสเก็ตก็ได้ ผมเห็นอนาคตตัวเองรางๆ เลยล่ะ ช่วงปีหลังงานทับตายแหงแก๋ แต่ก็ใช่จะไม่มีเวลาว่างพักผ่อนชิวๆ ล่ะนะ อย่างเวลานี้ไง...

   เสียงดินสอลากบนกระดาษดังอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกความตั้งใจของผู้วาด หนุ่มเหนือยึดทำเลเหมาะนั่งวาดภาพลงบนสมุดสเก็ต ปอยผมรากไทรถูกมัดรวบเป็นจุกอยู่ตรงท้ายทอย หน้าม้าโดนที่คาดผมเสยเรียบเปิดเหม่ง ดวงตามองสลับระหว่างนายแบบจำเป็นกับกระดาษตรงหน้าที่เริ่มมีเค้าโครง

   เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังเลิกเรียนคาบเช้าผมกำลังจะเดินหอบอุปกรณ์วาดเขียนทั้งหลายมุ่งหน้าสู่จุดนัดพบประจำของกลุ่มเลยได้เห็นคนที่มาก่อนหนุนหนังสือต่างหมอนนอนหลับอุตุ เหยียดกายยาวบนเก้าอี้หินอ่อนที่ยกมาต่อแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม

   มีหนังสือเคมีปิดหน้าอย่างสงบ ผมย่องเอาหยิบออกเผยให้เห็นใบหน้าคนคุ้นเคย ก็บอกแล้วอย่าอ่านหนังสือดึกไม่เชื่อผม เมื่อคืนซันมันบ่นว่าอาจารย์นัดเทสท์กะทันหันมันเลยต้องถ่างตานั่งอ่าน ไม่รู้จะจริงจังไปถึงไหน แล้วยังไง พอวันนี้เลยนอนเป็นหมาขึ้นอืด

   ผมนั่งย่องๆ มองสำรวจหน้าคนหลับ คิ้วดกหนามาดแมนจนน่าอิจฉา หางตาคม เวลามันมองใครนี่โคตรดุ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียว โครงหน้าคมเห็นสันกราม ยิ่งมีเคราขึ้นนิดๆ รวมกับผิวเกรียมแดด แม่งหล่อวัวตายควายล้มแฟนใครวะเนี่ย

   เอาตามตรงนะ ให้ผมวาดภาพเหมือนซันยังสุนทรีกว่าวาดหน้าเพื่อนในคลาสอีก พอถอยมาเล็งมุมดีๆ องศาเหมาะๆ เกิดคันไม้คันมือขึ้นมา ลงหลักปักฐานหยิบสมุดสเก็ตมานั่งวาดภาพมันซะเลย

   ปกติผมจะพกสมุดสองเล่ม เล่มหนึ่งไว้ทำงานส่งจารย์ อีกเล่มไว้วาดอะไรก็ได้ตามใจชอบ ซึ่งส่วนใหญ่หากไม่เป็นภาพอาคารบ้านเรือนก็เป็นภาพไอ้ซันเกือบครึ่งเล่ม มีทั้งแบบวาดสดเหมือนอย่างตอนนี้ กับวาดตามความทรงจำ แน่นอน ผมไม่ให้ซันเห็นหรอก ประเดี๋ยวมันจะเหลิงลอยไปดาวอังคารซะก่อน

   ผมเริ่มขึ้นโครงตามที่เรียนมา ร่างแบบหยาบๆ ไว้ค่อยเก็บรายละเอียดที่หลัง ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการวาดรู้สึกมีใครบางคนมานั่งข้างๆ เหลือบเห็นเป็นปอนด์เลยปล่อยไป สักพักมาเงาจากทางด้านหลัง ตามด้วยทางซ้าย หันไปมองอีกที ทั้งริว มิท ปอนด์มายืนนั่งล้อมตัวผมอย่างกับกำลังประกอบพิธีกรรมบางอย่าง บูชายัญไอ้คนที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนเก้าอี้

   โดนจ้องขนาดนี้ สมาธิปลิวหาย ผมปิดสมุดมองเรียงคน ปอนด์ทำหน้าเสียดาย

   “ว้า ทำไมไม่วาดต่อ อยากเห็นว่าตอนเสร็จจะเป็นยังไง”

   “เล่นมาจ้องเหมือนจะสิงกันแบบนี้ใครจะไปมีอารมณ์วาด”

   “นั่นสิ พวกมึงนี่แย่ชะมัด”

   มิทรีบโบ้ยโทษเพื่อนไม่ดูตัวเองเล้ยว่ามันยืนค้ำหัวทำลายสมาธิมากที่สุด ไหนๆ ก็ไม่วาดต่อแล้วคงต้องปลุกให้เจ้าชายตื่นจากนิทรา มองซ้ายมองขวาไม่มีใครสนใจ ไอ้สามหัวหลักหัวตอนั่นปล่อยมันไป ผมยกสมุดสเก็ตขึ้นบังก้มลงไปจุ๊บปลุกเจ้าชาย ไอ้ซันลืมตาพรึบโคตรหน้ากลัว ผมรีบผละออกด้วยความตกใจ

   พอมันเห็นว่าเป็นใคร แทนที่จะปล่อยดันใช้มือคว้าหลังคอผมลงไปดูดปากซะงั้น ได้ทีชักเพลินจนผมต้องตบหัวแทงศอกให้มันได้สติ ถ้ามันเป็นสโนไวน์ตัวดำ แอปเปิ้ลคงไม่ได้ออกมาเพราะจูบ แต่เป็นเพราะแรงกระแทกจากศอกผมนี่แหละ

   “กูเล่นแค่สิบ มึงไม่ต้องแถมให้ร้อย” ผมถลึงตาใส่มัน ซันลูบพุงตัวเองยักคิ้วกวนตีน ดูอารมณ์ดีเหลือเกินโดนเมียลวนลามเนี่ย

   “เมียกูเสนอทั้งทีกูต้องสนองดิวะ มานานแล้วยัง ทำไมไม่ปลุกกู”

   ซันลุกขึ้นนั่งขยับเว้นที่ให้ผม

   “เมื่อคืนมึงไม่ได้นอนนี่หว่า กูเลยไม่อยากปลุก” ความจริงคือผมอยากวาดรูปมันต่อไง จะสะสมเป็นคอลเลคชั่นนายอาทิตย์

   “พวกมึงอย่าสร้างโลกส่วนตัวกันสิวะ พวกกูยืนหัวโด่อยู่นี่สนใจกับบ้าง แหม”

   มิทกระแนะกระแหน เดินมานั่งตรงข้ามพวกผม โดยมีริวตามมาพร้อมปอนด์ที่หน้าแดงก่ำ ยังจะเขินอีก ตัวเองเวลาอยู่กับเฮียเฟย์หนักกว่าพวกผมหลายร้อยเท่า ต้องโทษสกิลเนียนของเฮียที่มันระดับสูงจนเกินไป เพื่อนตัวเล็กเลยไม่รู้เรื่อง ตรงข้ามกับคนนอกแทบจะเป็นเบาหวานแดกตาย

   “ไม่มีอย่างกูอย่าอิจฉาครับ” ซันได้ทีเย้ยใหญ่

   “ใสเจียเสียใจ ฉันมีพี่เฟย์อยู่แล้วไม่อิจฉาหรอก” ปอนด์แลบลิ้นใส่ด้วยความหมั่นไส้ แต่สีหน้าบ่งบอกว่าพอใจกับฉากที่เห็นสุดๆ แม้จะเขินก็ตาม สมเป็นหนุ่มวาย

   “พูดไรแบบนั้นวะซัน เห็นใจคนไร้คู่ ไม่สมหวังในรักอย่างริวมันบ้าง ป่านี้ยังไม่รู้เลยว่าพี่ธันของมันจะหมู่หรือจ่า” มิทแสร้งทำเสียงตำหนิแล้วมองริวด้วยความสงสารเห็นใจ มือตบบ่าไม่สนสีหน้าเหมือนอยากฆ่าคนของริว

   “พูดงี้มึงเอามีดมาแทงกูเลยดีกว่ามิท กูอยู่ของกูดีๆ มากัดกูซะงั้น ป๋าไม่พาไปฉีดยาเหรอ”

   “โอ๋เอ๋น้า นิ่งเตะๆ อย่าเพิ่งทำหน้าบูดสิยาหยี วันนี้กูมีความดีจะบอกด้วยมึง”

   ใครโดนมิทมันทำหมุนมือหยอกเด็กคงอยากถีบมันคว่ำทุกราย ไม่เว้นกระทั่งริวที่ง้างขาเตรียมยันหากไม่ติดว่าประโยคต่อมาของมิทเรียกความสนใจพวกเราได้ก่อน

   “ใช่เรื่องที่มึงนัดรวมพลรึเปล่า” ผมเลิกคิ้วถาม วันนี้มิทมันบอกใครเลิกเรียนแล้วมาเจอกันที่นี่มีเรื่องสำคัญจะบอก

   “Yes! ป๋ากูยอมให้กูเที่ยวกลางคืนแล้ววู้ว!! พวกมึงดีใจกับกูหน่อย” มันชูมือแบบดีใจจริงๆ ถ้าผมเป็นป๋ามันเห็นอาการตอนนี้คงเปลี่ยนใจทันที ดี๊ด๊าซะเหลือเกิน ว่าตามจริง ในกลุ่มคนที่พอเดาเรื่องป๋าของมิทได้คงมีแค่ผมกับวาล่ะมั้ง ปอนด์ไม่ค่อยได้ยุ่งอะไรอยู่แล้ว ริวมันไม่ว่างตามจีบรุ่นพี่อยู่ ซันมันบื้อไม่รู้อะไรกับเขาหรอก

   ”เนี่ย เดี๋ยวคืนนี้กูพาไปผับ มีส่วนลดให้ ริวมึงจะชวนพี่ธันไปด้วยก็ได้”
   
   “เอางั้นนะ น่าสนใจ” ริวผู้ถูกปีศาจร้ายหลอกล่อ ยกมือลูบคางฝันหวานถึงรุ่นพี่ที่รัก หยิบมือถือหลบมุมไปคุย

   “ฉันขอผ่านนะ ไม่ถูกกับแอลกอฮอล์” ปอนด์ยกมือขอลา เจ้าตัวไปสิน่าแปลก เฮียเฟย์หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ที่อโคจรแบบนั้นไม่มีทางอนุญาตให้ไปชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์

   ซันไม่ออกความเห็น แต่หันมารอคำตอบจากผมแทน ข้อเสนอมิทน่าสนใจนะ แต่ผมดันมีนัดแล้วนี่ดิ

   “โทษทีว่ะ พอดีนัดกับเพื่อนที่คลาสแล้ว” บอกไปตามตรงไม่ปิดบัง ซันไม่มีปัญหาเรื่องผมจะไปก๊งเหล้ากับเพื่อนอยู่แล้ว ผู้ชายเหมือนกัน รู้ๆ กันอยู่ว่ามันคือสังคม ขอแค่บอกมันก็พอ เมาห้ามขับรถ ต้องโทรเรียกมันมารับไม่ก็ให้เพื่อนที่ไม่เมาไปส่งเท่านั้น ไม่รู้มันเป็นแฟนหรือพ่อผมกันแน่

    เรื่องการนอกใจ ต่างคนต่างไม่กังวลเลยสักนิด นิสัยซันมันก็ขวางโลกแบบนี้ ส่วนผมก็ชอบเฮฮากับกลุ่มเพื่อนไม่ใช่คนเจ้าชู้ มีแฟนแล้วคือจบ อีกอย่าง แฟนผมดีลีลาเด็ดขนาดนี้จะไปหาอีกให้เมื่อยตุ้มทำไม

   “เรื่องแค่นี้เอง ก็ไปร้านนั้นเสร็จมาต่อกับพวกกูไง ให้ซันมันไปรับ” มิทเสนอ

   “ว่าไงมึง ยังไงกูต้องขับรถไปอยู่แล้ว ให้แวะไปรับมึงก็ได้ ร้านเดิมใช่มะ”

   ข้อเสนอมิทไม่เลว ได้เที่ยวมันสองที่เลย ขากลับเมาแค่ไหนไม่ต้องห่วงเพราะมีซันอยู่ด้วย ผมพยักหน้ารับ

   “ใช่ อยู่ถึงห้าทุ่มแล้วไปต่อคงไม่มีปัญหาอะไร”

   “มึงล่ะริว เอาไงวะ พี่ธันมาได้ป่าว” หนุ่มเจ้าสำอางตะโกนข้ามหัวถามริวที่ทำมือเป็นสัญญาณโอเค

   “พวกนายไปต่อสินะ งั้นฉันกลับเลยแล้วกัน”

   ปอนด์ยังไม่ทันลุกจากเก้าอี้ โดนแขนมิทกอดคอเอาไว้ก่อนจนต้องกลับมานั่งลงตามเดิม

   “ใจเย็นลูกพี่ ตอนนี้เพิ่งเที่ยง พวกเราไม่รีบขนาดนั้น เดี๋ยวแวะไปกินข้าวด้วยกันค่อยแยกย้ายก็ได้ พวกมึงอย่าลืมบัตรประชาชนนะ เปลี่ยนชุดด้วย ผับป๋ากูเข้มว่ะ ไม่มีบัตร ใส่ชุดนศ.ห้ามเข้า”

   ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมมิทถึงได้เที่ยวหลังจากร้างราเรื่องพวกนี้ไปนาน เพราะเป็นผับป๋ามันนี่เอง เมื่อตกลงกันเสร็จ ริววางสายกลับเข้ากลุ่ม พวกเราก็ยกขบวนกันไปร้านหารตามสั่งหาข้าวยัดใส่ท้อง อิ่มอร่อยกับอาหารราคาย่อมเยา ปอนด์ไม่มีเรียนบ่ายขอตัวกลับไปน้องกลิ้งที่บ้าน ซันกลับหอไปซักผ้า ผม ริว มิท มีเรียนต่อจนถึงเย็น

   หลังเลิกเรียนผมกลับมาห้อง เห็นซันนอนหลับบนโซฟา ตรงระเบียงมีผ้าทั้งของผมและของมันตากเป็นระเบียบ ซักให้ยันกางเกงใจช่างเป็นสามีที่ดีจริงๆ เอาไว้ผมจะตอบแทนด้วยการรีดผ้ายันกางเกงในบ้างนะ

   ด้วยความที่ไม่อยากปลุกมันเลยเปลี่ยนชุดเขียนกระดาษวางไว้บนโต๊ะว่าผมออกไปร้านเหล้าแล้ว เจอกันห้าทุ่มเดี๋ยวโทรไปหา ส่วนมันจะตื่นเมื่อไหร่ก็ตามสบายเพราะผมเก็บผ้าที่แห้งให้แล้วเรียบร้อย

   งานนี้ต้องโหนรถเมล์ไปตามนัด พอพวกเพื่อนเห็นผมมันโห่แซวกันใหญ่ เพราะผมแต่งตัวดีกว่าทุกทีที่จะใส่แค่เสื้อยืดเลอะสีกับกางเกงยีนขาดๆ มาร้านเหล้า บางครั้งแค่เอาไทออกก็เดินเนียนเข้าร้านไปเลย ยังไงผมก็ใส่ยีนไปเรียนอยู่แล้ว คราวนี้มันไม่ได้ไง ระดับอย่างไอ้มิท ผับคงไม่ใช่เล่นๆ แน่ ขืนใส่แบบนั้นเข้าไปเขาได้หาว่าเป็นพนักงานเก็บขยะพอดี

   บรรยากาศในร้านเหล้าสุดแสนจะชิว ช่วงหัวค่ำยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ พอเริ่มดึกคนเริ่มทยอยมา เสียงพูดคุยดังแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดดังสนั่น กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกคละเคล้ากลิ่นบุหรี่จนแทบแยกไม่ออก โต๊ะน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วร้าน แต่ละโต๊ะพอจะสิงกันได้อยู่สักสามสี่คน ใครมากลุ่มใหญ่ต้องลากโต๊ะมาต่อเสริมเก้าอี้กันเอาเอง เวลาจะเดินไปหาคนอื่นหรือเข้าห้องน้ำทีต้องพยายามทำตัวลีบฝ่ากลุ่มที่นั่งออกไป

   เพื่อนผมมันชูมือตะโกนเรียกเด็กเสิร์ฟ สั่งแสงโสมกับน้ำแข็งมาสนองเพื่อนคนอื่น มือชงก็ชงไป พวกดื่มก็กระดกเอาเฮฮา มีชักชวนกันเหล่มองสาวบ้าง โต๊ะนั่นก็ดี โต๊ะนี้ก็สวย นู่นหน้าอกใหญ่ นั่นขาโคตรเรียวผิวขาว ส่วนเรื่องหน้าตายังไม่ค่อยเท่าไหร่ เคยได้ยินมั้ยครับ สวยในที่มืด พอเช้ามาแม่งผีลืมหลุมดีๆ นี่เอง สยองยิ่งกว่าบุปผาราตรีอีก

   แต่ละคนถ้าไม่มีประสบการณ์ตรงก็รู้มาจากเพื่อนฝูง ไม่มีใครคิดเสี่ยงหาเรื่องซวยมองแค่พอเป็นอาหารตากับแกล้มเหล้า หัวข้อสนทนาคุยกับเพื่อนสนุกปาก บางคนยิ่งแล้วใหญ่ เมียตามมาคุมถึงที่ ไม่มีเวลาจะสนสาว ต้องมานั่งเฝ้าเมียไม่ให้แมลงภู่ที่ไหนมาตอม

   “มึงแต่งตัวมางี้จะไปต่อเหรอวะ” แม็คเพื่อนในสาขาแหกปากถามแข่งเสียงเพลงจนน้ำลายกระเด็นใส่หัวไอ้ชิตที่นั่งข้างผม มันยกแก้วหลบ คงกลัวน้ำลายพิษสุนัขบ้าจะกระเด็นใส่แก้ว

   เป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่พวกแต่งตัวดีๆ ในร้านเหล้าเนี่ยมีเป้าหมายคือจะไปต่อเหมือนอย่างผม

   “เออ มีนัดต่อกับซัน”

   ผมยักคิ้วเดาะลิ้นตอบมันอย่างกวนๆ พวกมันรู้หมดแล้วว่าผมเป็นเกย์ ที่เคยเล่าไปว่าโดนกดดันจากรุ่นพี่เลยต้องบอก ใครรับได้ก็รับไป ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องคุย ต่างคนต่างอยู่ แต่ไม่ไร้สาระขนาดต้องตัดเพื่อนหรือให้เพื่อนคนอื่นเลือกว่าจะอยู่กับใคร คนเราโตๆ กันแล้ว รู้ครับว่าทำอะไรอยู่ เรื่องแบบนั้นมีแต่เด็กอมมือเท่านั้นแหละที่เป็น

   ส่วนเรื่องคบกับซันนี่ผมไม่ได้บอกนะ แต่ก็ไม่ได้ปิดบัง มันรู้ข่าวกันเอง ไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด ในเมื่อผมเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ดี รู้จักคนเขาไปทั่ว ไอ้ซันเองก็ไม่ใช่ขี้ๆ มีคนรู้จักมันเยอะเพราะรูปร่างหน้าตาพวกมันทั้งกลุ่ม

   “มิทรีไปด้วยรึเปล่าวะ”

   ชื่อนี้มีแต่คนสนใจ เจ้าคนมากความลับแต่มีข่าวสารพัดออกมาบิดเบือนจากความจริงไปไกลหลุดโลก มีตั้งแต่มิทมันเป็นเด็กซิวมาก่อน มันเป็นลูกชายลับๆ ของมาเฟีย ขนาดบอกว่ามันเป็นเด็กส่งยาก็ยังมี ที่เห็นแม่นสุดคงเรื่องที่มันเป็นเด็กเสี่ยเนี่ยแหละ

   คนเรามันก็พูดไปคะนองปาก ในใจเชื่อรึเปล่าไม่รู้ มิทมันเองก็ไม่เดือดร้อนที่คนอื่นจะมองมันแบบนี้ ใช่ทุกคนจะมองมันในแง่ร้ายซะหมด เห็นแบบนั้นมิทเสน่ห์แรงจะตาย สาวหลงมันตรึม

   ผมเลือกที่จะยิ้มไม่ตอบ แค่นี้พวกมันน่าจะเดาได้แล้วล่ะไอ้มิทมันไปด้วยชัวร์ มีหลายคนออกปากถามสถานที่ แสดงท่าทีอยากไปด้วย ผมไม่หวงก็บอกมันไปนะว่าที่ไหน พอได้ยินชื่อกันเท่านั้นแหละ กลืนน้ำลายอึกกันเป็นแถว ราคาที่นั่นไม่ใช่ถูกๆ ขึ้นชื่อว่ามีแต่พวกลูกคนรวยไปกัน

   “น้ำหน้าอย่างมันมิทรีเป็นเจ้ามือแหงๆ ไม่ก็ไอ้ริว เจ้านั่นดูบ้านรวย” หนึ่งในกลุ่มแสดงความเห็น ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยจนผมอดไม่ได้ที่จะถาม

   “มึงไม่คิดว่าซันมันจะเป็นเจ้ามือบ้างเหรอวะ”

   ผมพูดอะไรผิด ทำไมพวกมันมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามอย่างงี้

   “คนสุดท้ายที่กูคิดคือเชี่ยซันนี่แหละ หน้าตาแม่งก็ดีแต่ดูตัวมันดิ้ ไม่มีส่วนไหนที่บอกว่าเป็นคนมีตังเลย ถ้ามึงรวยนะโป้ พวกกูคงเข้าใจว่ามันมาเกาะมึงกินแล้ว!”

   แค่ก! ผมเกือบสำลักเหล้าตาย ไอจนหน้าดำหน้าแดง ลำบากชิตมาช่วยลูบหลังก่อนจะหัวเราะดังลั่นจนพวกมันมองอย่างกับผมเป็นคนบ้า พวกมึงเอ๊ย ไม่รู้อะไรซะแล้ว เห็นแบบนั้นมันลูกคุณหนูเต็มขั้นเลยนะเฮ้ย การเรียนก็ดี ฐานะทางบ้านไม่น้อยหน้าใคร มีรีสอร์ทขึ้นชื่ออยู่สองแห่ง หนึ่งในนั้นอนาคตของมันแน่ๆ แล้วยังพี่สะใภ้มันอีก เจ้าของห้างดังใจกลางกรุงเทพเลยนะเฮ้ย เห็นว่าซันอยากได้อะไรพี่มันเปย์ให้หมด

   พอผมหยุดสำลัก พวกมันเลิกสนใจไปแดกเหล้าบ่นเรื่องการเรียนต่อ ผมไม่คิดจะอธิบาย บอกไปพวกมันก็คงไม่เชื่อ เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดเข้าข้างแฟนอีก

   สงสัยว่าทำไมผมถึงรู้ทั้งที่ไม่เคยไปบ้านมันน่ะเหรอ ก็ถามเอากับตัวมันนั่นแหละ

   คืนหนึ่งช่วงผ่อนคลายดูทีวี ผมนอนแขนหนุนหัว ขาเกยตักไอ้ซันเห็นรายการเกี่ยวกับคนรวยชอบทำตัวจนคล้ายมันเลยถามไปเล่นๆ

   “ซัน บ้านมึงทำไรวะ”

   เจ้าของชื่อปรายตามองผมหน่อยหนึ่ง ตอบแบบไม่คิดมาก

   “บ้านกูเป็นรีสอร์ท”

   “ใหญ่ปะ”

   “ใหญ่มั้ง ถามทำไม กลัวกูไม่มีตังเลี้ยงมึงไง?”

   “มึงเลี้ยงกูไม่ได้ เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเองก็ได้ เห็นงี้แม่กูเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมทอมือชื่อดังประจำจังหวัดเลยนะ กูเองถ้าเรียนจบไปคิดว่าเงินเดือนเลี้ยงพวกเราสองคนได้สบายๆ”

   ฝั่งพ่อผมเป็นพนักงานกินเงินเดือน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่พ่อทำงานให้กับบริษัทของปู่ในตำแหน่งที่เป็นรองแค่ปู่เท่านั้น ตัวผมไม่อยากไปยุ่งอะไรของเขา เลยไม่ขอกล่าวถึง

   ซันไม่รู้เรื่องด้วย มันยกยิ้มมุมปากเปลี่ยนท่าตัวเองจากเป็นที่รองเท้ามาคร่อมทับอยู่เหนือตัว โซฟาตัวยาวอัดผู้ชายสองคนโคตรเบียด

   “ได้ข่าวว่าจบไปงานกูได้เงินดีกว่ามึงนะโป้ อีกอย่างบ้านกูมีรีสอร์ทอยู่สองที่ว่ะ มึงไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้มึงนั่งกินนอนกินกูก็เลี้ยงมึงได้”

   มันยักคิ้วจึกๆ โคตรกวนส้น ผมก็รู้มานะว่าบ้านมันพอมีฐานะไม่งั้นพี่ชายคงไม่ถอยคอนโดห้องชุดให้มันแบบนี้หรอก

   “งั้นหมายความพวกบัตรส่วนลดห้างดังเฉพาะของพวกสมาชิก VIP ที่มึงได้มานี่ คงไม่ใช่ว่ามึงแอบไปเป็นสมาชิกเขาหรอกนะ” ซันมันเอาบัตรส่วนลดอาหารเสื้อผ้าอะไรต่างๆ มาแจกพวกเราเป็นบางครั้ง จะว่าไปตอนไปซื้อชุดว่ายน้ำด้วยกัน เห็นมันเอาบัตรใบหนึ่งให้พนักงานตอนคิดเงินอยู่ แต่ผมไม่รู้ว่าบัตรอะไรเพราะเห็นไม่ชัด

   “จะว่างั้นก็ได้ แต่กูไม่ได้ไปสมัครสมาชิกบ้าบออะไรนั่นหรอกนะ มึงก็เห็น ปกติกูเข้าห้างที่ไหน พี่สะใภ้กูต่างหากเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้ให้ บัตรส่วนลดก็เหมือนกัน ส่งมาทุกครั้งแทบจะเอามาถมที่ได้อยู่แล้ว”

   ว่าพลางทิ้งตัวลงนอนทับผมเอาหัวซุกคอ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในโซฟา หนักชิบ

   “พี่สะใภ้มึงเป็นพนักงานในนั้นเรอะ” คงเป็นพนักงานระดับสูงน่าดู ในของสมนาคุณเพียบ

   “ฮึ เป็นเจ้าของ”

   “...”

   แดกจุด หมดซึ่งคำถาม ได้แต่พึงระลึกอยู่ในใจว่า ไอ้หน้าเถื่อนทำตัวยาจกที่นอนอำผมนี้มันมีฐานะโคตรจะไม่ธรรมดา อาจจะไม่ถึงขั้นรวยล้นฟ้า แต่ด้วยกิจการทางบ้านที่มันพูดมานี้ก็อยู่สบายกันไปทั้งชาติแล้ว ไม่นับเรื่องอนาคตมันเรียบจบทำงานอีก ทุกวันนี้ซันเองยังรับจ๊อบเล็กๆ น้อยๆ หาเงินเข้ากระเป๋าเป็นระยะ ขยันพึ่งพาได้เหมาะกับการเป็นพ่อของลูก ถ้าผมท้องได้นะ

   “คิดอะไรอยู่วะ”

   คนบนตัวผงกหัวขึ้นมอง รวบกอดผมทั้งแขนขาอย่างกับผมเป็นหมอนข้าง เอาที่มึงสบายใจเลย

   “ผู้หญิงคงอยากได้มึงเป็นพ่อของลูกจนตัวสั่น” เป็นผมก็อยากได้อะ ผู้ชายแบบซันหายากนะเฮ้ย

   “มึงอยากมีลูก?”

   “เราคุยคนละเรื่องเดียวกันแล้ว กูเป็นผู้ชายจะไปมีได้ไงวะ”

   ผมผลักไหล่ มันขืนตัวไว้มองด้วยสายตากรุ่มกริ่ม

   “ไม่แน่นะมึง ถ้าขยันมากๆ อาจเห็นผล”

   “ผลที่หน้า!”

   แล้วไอ้ซันก็โดนผมเสยไปหนึ่งหมัด ร่วงลงจากโซฟาไปกุมคางดิ้นร้องโอดโอยบนพื้นห้อง โดยมีผมก้มมองด้วยความสะใจ ไม่สนสายตาคาดโทษจากมัน

   พอคิดถึงเรื่องมันแล้วอดที่จะหลุดขำอมยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้ จนเพื่อนในวงถามว่าผมเมาเนื้อเหรอ ผมเลยตอบ เมาเนื้อซัน คิดถึงแฟนแล้วมันอารมณ์ดี เท่านั้นล่ะครับท่านผู้ชม น้ำแข็ง ฝาโซดา ถั่วฝักยาวจากกับแกล้มเหล้าสารพัดรุมโยนมาใส่ผมแทนรางวัล ผมพูดผิดตรงไหน ไม่มีแฟนอย่าอิจฉาสิครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:23:09 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ได้อ่านสักที หายคิดถึงละค่ะ
 :pig4:   

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ว้าวๆๆๆๆ กลับมาอ่านแล้วววววว
ใครว่าซันจนนนน แหมๆๆๆ ไม่รู้อะไรซะแล้วววว

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ห่างหายกันไปนานเลยคู่นี้  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โป้อวดแฟน(ให้คนอ่านเขินเล่น)

แหม่ อิจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :fire:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
แหม...แต่ละคน แต่มิทนี่สุดๆอ่ะ

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อื้อหืออออ รวยปะล่ำปะเหลือ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: มาอัพต่อไว ๆ น่ะจ้ะ ชอบซันโป้ น่ารัก  :mew1:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่15 เกย์ก็แมนนะเฮ้ย
   
   น้ำเมาที่กรอกเข้าปากเริ่มออกอาการอยากหาทางออก ผมบอกเพื่อนที่พอมีสติที่สุดแล้วทำตัวลีบเดินผ่านโต๊ะเพื่อไปห้องน้ำ

   ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทางไปห้องน้ำของร้านเหล้าและผับส่วนใหญ่ถึงต้องเป็นทางมืดๆ แคบๆ หรือมันจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านกลางคืน? แนวว่าจุดอับให้คนมาซำบาราฮึ่มกัน อย่างที่ผมเดินผ่านมานี่ไปแล้วสองคู่ จูบกันแทบสิงร่าง

   บางคนมาสูบบุหรี่ทำให้ทางเดินแออัดยิ่งหายใจลำบากเข้าไปใหญ่ กว่าจะผ่านมรสุมจนถึงห้องน้ำได้ ผมละอยากจะคว้าขวดเหล้าเปล่ามาทำธุระให้เสร็จๆ แต่กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดเป็นเบียร์อุ่น อร่อยกันเลยทีเดียว

   สภาพห้องน้ำอย่าไปพูดถึง หลับหูหลับตาขจัดของเสีย กลั้นหายใจเข้าไว้ เมินเฉยเสียงแปลกๆ ที่ดังมาจากห้องส้วม ระหว่างที่ผมกำลังล้างมือได้ยินเสียงเอะอะมาจากหลังห้องน้ำ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยอาศัยส่วนสูงตัวเองกระโดดเกาะขอบช่องระบายอากาศส่องดูว่าใครมาเล่นหนังแอคชั่นกันแถวนี้

   ผมขมวดคิ้วเห็นผู้ชายหนึ่งคนกำลังโดนหมารุมสามตัว นับว่าเป็นเรื่องปกติ สติความนึกคิดลดน้อยลงตามระดับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในสายเลือด คงเป็นปัญหาเดิมๆ ถ้าไม่ใช่มองหน้าหาเรื่องก็เรื่องผู้หญิงนี่แหละ ผมไม่อยากหาเหาใส่หัวว่าจะถอยฉากกลับไปเฮโลกับเพื่อนที่โต๊ะ ไว้จะบอกพนักงานให้มาเก็บซากเอาทีหลัง

   ก่อนผมจะปล่อยมือจากช่องระบายอากาศ ตาดันไวสังเกตเห็นว่าไอ้คนโนรุมใส่เสื้อผ้าคุ้นๆ คล้ายจะเป็นเพื่อนในกลุ่มตัวเอง ความคิดที่จะกลับโต๊ะเปลี่ยนไปทันที

   ผมปล่อยมือจากช่องระบายอากาศ หมุนตัววิ่งออกจากห้องน้ำเมินเสียงสบถของคนที่เกือบโดนผมชน เร่งฝีเท้าอ้อมหลังร้านไปจุดที่เห็นเมื่อครู่

   ไอ้เรื่องตะโกนก่อนเผยตัวเนี่ย มีแต่ในหนังเท่านั้นแหละครับที่ทำ ตะโกนไปพวกแม่งก็รู้กันหมดดิว่าผมมา ดังนั้นต้องวิ่งเข้าไปเงียบๆ อาศัยจังหวะพวกมันกำลังชุลมุนกระโดดเข้าชาร์จง้างหมัดต่อยเข้าเต็มหน้าตัวที่อยู่ใกล้มือสุดพร้อมยกขาเตะอีกตัวที่วิ่งมาช่วยเพื่อน

   “มึง...”

   เสียงเรียกแบบไม่อยากเชื่อ ดึงความสนใจจากผมให้มองเพื่อนตัวเองชัดๆ ทีแรกยังจำไม่ได้หรอกว่าเพื่อนคนไหน รู้แค่ว่าคุ้นๆ เสื้อแบบนี้ในกลุ่มตัวเอง พอเห็นเท่านั้นแหละ

   “หวังว่ามึงคงไม่มีปัญหาถ้าคนที่มึงหาว่าเป็นตุ๊ดมาช่วยนะไอ้อาร์ท”

   ผมยกมุมปากประชด มันคือหนึ่งในคนที่ตั้งแง่กับผมหลังรู้ว่าผมเป็นเกย์ จะถอยตอนนี้ก็ไม่ใช่วิสัย เครื่องติดแล้วดับยาก ที่สำคัญต่อให้มันรังเกียจผม ก็ยังถือว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะ ให้ทิ้งไปก็ผิดต่อพวกพ้องตัวเองพอดี

   “ข้างหลัง!”

   เสียงตะโกนเตือนจากมันช่วยให้ผมหลบหมัดทันแบบเฉียวฉิว อาร์ทถีบสวนจนมันหงายหลังไปโดนเพื่อนตัวเอง

   “มึงมาเสือกอะไรด้วยวะ!!”

   เจ้าคนที่โดนผมชกตอนแรกตะคอกอย่างหัวเสียแล้วพุ่งเข้ามาโจมตีซ้ำ ผมกับอาร์ทเป็นอันว่ารู้กัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาปรับความเข้าใจ ต้องรีบเคลียร์ไอ้พวกนี้ไปให้พ้นๆ ก่อน ความคิดที่จะวิ่งหนีเข้าร้านไม่มีแม้เศษเสี้ยว เอาไว้มันมาเพิ่มอีกสักสามคนผมค่อยหนี สามต่อสองแบบนี้ยังสบายอยู่

   ไม่ได้ออกกำลังกายแบบนี้มานานแล้ว จัดสักหน่อยก็ดีเดี๋ยวฝีมือจะขึ้นสนิทหมด ยังดีที่มีซันคอยซ้อมมือ ไม่งั้นผมคงขยับร่างกายฝืดกว่านี้

   ผัวะ! ปึก!!

   หมัดดุ้นๆ ซัดเข้าดั้งคนด้านหน้า ศอกใส่คนด้านหลัง จังหวะเผลอโดนกำปั้นเต็มข้างแก้ม ปวดชาไปครึ่งหน้า ผมกัดฟันกรอดถ่มเลือดในปากลงพื้นหวดหลังมือใส่กกหูจนมันเซ แล้วเข้าไปถีบตัดขาจนมันล้มไปกองบนพื้น จัดนวดฝ่าเท้าแบบฟรีถึงหน้า กระทืบมันทุกส่วนของร่างกาย

   “มึงถีบกูใช่ไหมหา!? เอารอยเท้ากูไปประดับเสื้อมึงบ้างแล้วกัน ไอ้xxx!”

   “สัตว์! มึงทำเพื่อนกู!!”

   อีกคนตะโกนวิ่งเข้าใส่ผม จำต้องละจากการลงเท้ายกแขนกันหมัดแล้วต่อยสวนกลับ แลกหมัดกันนัว คำนี้ผมโคตรเบื่อ จะบอกหาพระแสงของ้าวอะไร เห็นๆ กันอยู่ว่าเพื่อนมันเป็นกระสอบทรายให้ผม ยังจะหน้ามึนมาแหกปากให้เปลืองพลังงานซัดคนอีก

   ผมโดนหมาถีบจนเซถอยหลังไปชนกับอาร์ท ส่งผลให้มันถลาเอาหน้าไปรับหมัดคนอื่น แอบนึกสะใจเล็กๆ ถือว่าเอาคืนที่มันมาหาว่าผมเป็นตุ๊ดแล้วกัน เกย์ไม่ใช่ตุ๊ดเว้ย!

   พอมันตั้งตัวได้กระชากคอเสื้อฝั่งนั้นจับเฮดบัดมึนคู่ โธ่ไอ้ฟาย ทำเป็นเท่ อาร์ทสบัดหัวไล่ความมึนหันหลังชนกับผมตอบโต้ไปสามตัวไปพลาง พวกมันสองคนตัวพอๆ กับเรา แต่มีคนที่ตัวใหญ่ถึกอย่างกับหมีควาย ความล้าเริ่มกัดกิน เหงื่อออกจนชุ่มแผ่นหลังกลายเป็นหมาหอบแดก

   “โป้ มึงเข้าไปเรียกคนอื่น เดี๋ยวกูถ่วงเวลาไว้ให้”

   ผมผลักมันออก ยกเท้ายันคงที่พุ่งเข้ามา อยากถามเหลือใจ มึงใช้สมองใต้ตาตุ่มคิดเหรอวะ ตัวคนเดียวกับพวกมันอีกสามคน ขนาดมีผมอยู่ด้วยตึงมือหรือมันคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกในเกม หนึ่งรุมสิบอะไรงี้ คนเดียวฆ่าศัตรูเป็นกองทัพ

   “คิดเหรอว่าพวกกูจะปล่อยเพื่อนมึงไป อีกเดี๋ยวพวกกูก็จะมา ทีนี้แหละ พวกมึงเละเป็นโจกแน่”

   เสียงหัวเราะน่ารังเกียจ ชูนิ้วกลางใส่เหรอ ได้ เดี๋ยวมึงเจอดี ผมใช้ท่าไม้ตายที่เรียนรู้มาสมัยเตะบอลหัวเกรียนสลัดรองเท้าที่กระแทกปากแม่ง โคตรสะใจ ไม่เคยรู้สึกขอบคุณนิสัยชอบเหยียบส้นเท่านี้มาก่อนเลยเพราะมันช่วยให้ถอดรองเท้าง่าย เอามาแปลงเป็นอาวุธก็สบาย

   “เก็บปากไว้แตกหน้าหนาวเหอะมึง อย่าดีแต่พ่นน้ำลาย เข้ามาไอ้กาก”

   เจอวิชามารผมเข้าไป อึ้งกันทั้งบางไม่เว้นพวกเดียวกันเอง เจ้าบึกโดนรองเท้าตบปากแตกโกรธจนหน้าแดงก่ำ เส้นเลือดปูดตรงขมับแบบเห็นได้ชัด มันร้องอ๊ากพุ่งเข้าใส่เหมือนนักกีฬารักบี้จนหลังผมกระแทกผนังห้องน้ำเจ็บราวจุกจนสำลัก ก่อนจะรีบก้มหลบกำปั้นออกจากวงใน มันตามมากระชากสร้อยหนังรัดคอ

   อาร์ทมัวติดพันกับอีกสองตัว แม้จะเห็นแต่ปลีกตัวมาช่วยไม่ได้ เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ด่าทอกันสารพัดสัตว์ ใบหน้าขาวแดงก่ำจากการถูกรัดคอ แขนขาพยายามโจมตีใส่คนด้านหลัง ช่วยให้ผ่อนแรงลงได้เพียงแค่นิดเดียว

   ช่วงที่กำลังหน้ามืดจากการขาดอากาศ เสียงหนักๆ ดังอยู่ข้างหูพร้อมแรงรั้งสร้อยที่หายไป ผมกุมคอสูดอากาศเข้าปอด ด้วยความที่รีบเกินเลยสำลักไอค่อกแค่ก ปวดคอเหมือนมีก้อนแข็งมาจุกหลอดลม เป็นความรู้สึกที่โคตรแย่

   “ระยำ!! นี่มึงกะเอาตายเลยเหรอวะ!”

   เสียงคุ้นเคยทำให้ผมใจชื่นขึ้นเป็นกอง หันไปเจอใบหน้าโกรธเกรี้ยวของซัน มือกำคอเสื้ออีกฝ่ายแน่น รัวหมัดจนเลือดกระเซ็นขนาดฟันยังหลุดออกจากปากลอยผ่านหน้าผมไป เสียงหมัดกระทบหน้าหนักบ่งบอกแรงไม่น้อยของมัน อีกสองตัวเห็นท่าไม่ดีรีบผละจากอาร์ทวิ่งหนีเข้าร้านไป

   เจ้าบึกถูกระดมหมัดไม่รู้เหนือใต้ ด้วยความที่มันโทรมจากการซัดกับพวกผมมาตั้งแต่แรก ยิ่งเจอแรงโกรธของซันไปถึงกับร่วงไปกองบนพื้น ซันมันไม่ยอมปล่อยลงเท้ากระทืบเน้นแต่ที่ท้อง ไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยของมันเลยแม้แต่น้อย

   “ถ้าอยากฆ่าคนนักเดี๋ยวกูสนองให้”

   “เชี่ย! ซันพอแล้ว เดี๋ยวมันก็ตายคาตีนมึงหรอก”

   ผมตกใจไม่เคยเห็นซันมันคลั่งขนาดนี้มาก่อน รีบไปล็อกตัวมันจากทางด้านหลัง ส่งสัญญาณให้อาร์ทรีบๆ ลากคู่อริมันไปไกลๆ เท้าซัน อาร์ทมันก็ร้อนใจ ต่อให้เกลียดกันแค่ไหน ถ้ามันตายขึ้นมาเรื่องใหญ่แน่ ยิ่งมันเป็นตัวต้นเหตุอีกเลยรีบลากออกไป

   ซันทำท่าจะพุ่งเข้าไปซ้ำ ผมสู้แรงบ้ามันไม่ไหว แสร้งร้องโอ๊ยว่าเจ็บทำให้มันชะงักเท้ากลางอากาศ รีบหันขวับมาดูผม

   “เป็นไงบ้างมึง”

   ซันละล่ำละลักถามแสดงความเป็นห่วงชัดเจน มือหนายกแตะที่ลำคอผม แม้ตอนนี้จะไม่มีกระจก ผมก็พอเดาได้ว่ามันต้องแดงเป็นเส้นแหง เสียงสูดลมหายใจลึกคล้ายพยายามสะกดกลั้นความรู้สึก มันขบกรามแน่น กำมือจนขึ้นข้อขาวหันหลังเตรียมจะไปซ้ำ ผมรีบคว้าแขนมันแทบไม่ทัน

   “ใจเย็นก่อนสิวะ มันตายขึ้นมาไม่คุ้มนะ… ไอ้อาร์ท มึงโทรเรียกรถพยาบาลที พวกแม่งขี้ขลาดวิ่งหนีไปหมดแล้ว ปล่อยไว้เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน”

   พูดกับซันเสร็จหันไปสั่งอาร์ทต่อ มันพยักหน้ารับรีบใช้มือถือโทรตามที่ผมบอก ระหว่างนั้นผมลากซันมาอีกทาง

   “มึงมาได้ไง นัดไว้ห้าทุ่มไม่ใช่เหรอ”

   ซันยกนาฬิกาข้อมือให้ดู ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มนิดๆ ของตัวเองไม่มีหรอก มีแต่เครื่องประดับพวกเชือกหนัง

   “ถ้ากูมาช้า กูคงมาเก็บศพมึงแทน” น้ำเสียงเข้มจัดบ่งบอกอารมณ์ที่ยังไม่สงบดี ผมยิ้มแห้ง

   “ขอบคุณที่มาช่วย มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ตรงนี้” ผมต้องชวนมันคุยดึงความสนใจ จะได้ทำให้มันสงบลงด้วย ซันเองก็รู้ว่าผมต้องการอะไร เลยผ่อนลมหายใจกอดอกขมวดคิ้วจ้องยอมตอบง่ายๆ

   “ถามจากเพื่อนมึงไง บอกว่ามึงมาเข้าห้องน้ำยังไม่กลับ กูเลยมาตามได้ยินเสียงคนต่อยกัน เดาว่าต้องเป็นมึงแน่ๆ พอตามมาเห็นมึงกำลังจะโดนรัดคอตายพอดี” โวะ นี่ก็ย้ำจังว่าผมเกือบตาย แทนที่จะปลอบกันล่ะไม่มี

   มันกลายเป็นฝ่ายถามบ้าง “ว่าแต่มึงเหอะ ปกติไม่ใช่คนชอบหาเรื่องนี่หว่า ทำไมถึงมีเรื่องกันได้” สายตาคาดคั้นบังคับให้ตอบ เวลาปกติผมคงเล่นลิ้นแหย่มันหน่อย แต่ตอนนี้อารมณ์มันยังกรุ่นๆ อยู่ ผมไม่เสี่ยงหาเรื่องให้ตัวเองดีกว่า

   “เพื่อนมันมีเรื่อง กูเลยมาช่วย”

   ซันนิ่งไปสักพักแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ นิสัยรักเพื่อนสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างมัน เชื่อเลยว่ามันเป็นมากกว่าผมอีก ดังนั้นมันเลยไม่ว่าผมในเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแทน

   เสื้อผ้ายับมีแต่รอยเท้า กางเกงเปื้อนฝุ่นเป็นแถบ แก้มเริ่มบวมไปครึ่งซีก มุมปากแตกมีรอยเลือดชัดเจนแม้อยู่ท่ามกลางแสงสลัวแถวลานจอดรถ แขนช้ำเป็นจุดหากถอดเสื้อมาคงยิ่งกว่านี้

   หลังมองเสร็จมันไม่พูดอะไรสักคำ หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก รอไม่นานปลายสายก็รับ

   “กูกับโป้ไม่ไปแล้ว”

   จากรูปประโยค ฝั่งนู่นน่าจะเป็นมิท ยิ่งเสียงดังลอดออกมานี่ชัดเลย

   /เฮ้ย! ได้ไงวะ อุตส่าห์นัดกันแล้ว กูรู้ว่าพวกมึงรักกันปานจะกลืนกิน แต่แบ่งเวลามาเที่ยวกับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง อย่ามัวแต่สวีทกันอยู่สองคน/

   “สวีทเหี้ยอะไร โป้เกิดเรื่อง กูไม่มีอารมณ์ไป จะพามันไปโรงบาลด้วย” ปิดท้ายด้วยการสบถหยาบคายอีกสองสามคำ น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของมิทเปลี่ยนไปเคร่งเครียดทันที

   /เกิดอะไรขึ้น พวกมึงอยู่ที่ไหน/

   “กูอยู่ร้านเหล้าที่โป้มาแดกกับเพื่อน มึงไม่ต้องห่วง ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว โทษทีที่ไม่ได้ไปตามนัด”

   /ช่างเถอะ ไม่เป็นอะไรมากก็ดี เรื่องนัดยกเลิกไปก่อนแล้วกัน ไม่มีมึงสองตัวจะไปสนุกอะไร เดี๋ยวกูโทรไปบอกริวก่อน มึงมีไรก็โทรมาบอกกูนะ กูพอมีเส้นสายน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง/

   เส้นสายที่ว่านั่นใช่ป๋าชาวต่างชาติของมึงรึเปล่ามิท ผมคิดในใจ ไม่กล้าแย่งมือถือซันมาพูดเล่น

   “เออ ขอบใจมาก”

   สิ้นคำก็กดวางสายหันมาเอาเรื่องผมต่อ ตะกี้พักยกสินะ...

   “ไว้กูค่อยคิดบัญชีกับมึงที่ห้อง ทำไมไม่โทรเรียกไอ้พวกในร้านมาวะ กูเห็นมีอยู่หลายคนที่ไม่เมาเป็นหมานี่หว่า”

   “กูพลาดเองแหละ คิดว่ามันมีกันแค่สามคน กูกับอาร์ทน่าจะจัดการได้ ใครจะไปนึกล่ะว่ามันเล่นแรงขนาดนี้” นี่ผมจะเสียงอ่อยไปไหม พ่อผมดุยังไม่เกรงใจขนาดนี้เลย อ่อ ลืมไป พ่อผมใจดี คนที่เป็นขาโหดคือแม่ต่างหาก

   “คนเมามันไม่สนกฎกติกาอะไร มึงควรระวังไว้ บุญแค่ไหนแล้วที่พวกมันไม่ควักมีดหยิบปืน”

   “ขอโทษ...สารภาพก็ได้ว่ากูติดเล่นมากไปหน่อย”

   “มึงควรสำนึกไว้บ้าง ถ้ามึงเป็นอะไรไปไม่ใช่แค่มึงที่แย่ แต่กู พ่อแม่มึงจะรู้สึกยังไง” ซันมันเริ่มเทศนา ผมขมวดคิ้วเริ่มจะฉุนขึ้นมาบ้าง ด้วยความที่ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง หากเป็นสมัยก่อนวัยรุ่นเลือดร้อนผมคงจะซัดหมัดใส่ไปแล้ว คราวนี้นอกจากมันเป็นคนมาช่วย ยังเป็นแฟนผมที่พูดด้วยความหวังดี ผมจึงกล้ำกลืนความหงุดหงิดกลับลงท้อง

   “เข้าใจแล้ว มึงเลิกตอกย้ำกูสักทีเหอะ ขอบใจที่มาช่วยแล้วกัน”

   ต่อให้พยายามเก็บอาการขนาดไหน น้ำเสียงกับรูปประโยคก็ยังแฝงความไม่พอใจอยู่ดี ซันรับรู้ได้

   “กูพูดเพราะกูเป็นห่วง” เสียงอ่อนลงสามระดับ ดูท่าตอนนี้มันจะอารมณ์เย็นลงแล้ว ค่อยยังชั่ว ผมไม่อยากซื้อโอเลี้ยงกับข้าวกล่องไปฝากมันนะ

   “ก็รู้อยู่...” ก้มหน้าสำนึกผิดแล้วเนี่ย เห็นใจกูหน่อยเถ๊อะ

   “มึงเจ็บอยู่ กูไม่อยากอะไรกับมึงมาก”

   บอกว่าไม่อยากอะไรมาก แล้วหมาตัวไหนมันขู่ว่ากลับห้องไปมีเคลียร์วะ หลังคุยแบบส่วนตัวกันเสร็จ ซันเบนเป้าหมายไปทางอาร์ทบ้าง เพราะมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมมาเอี่ยวด้วย ไอ้อาร์ทเห็นหน้าซันคงภาวนาขอให้รถพยาบาลมาไวๆ แหง ไม่ใช่มาเก็บซากไอถึกที่นอนพะงาบนะ มารอกู้ชีพมันนี่แหละ

   “เฮ้ย มึงชื่อไร” มือล้วงกระเป๋ามองต่ำถาม สีหน้าหาเรื่องมากลูกพี่

   “ชื่ออาร์ท”

   “กูถามมัน ไม่ได้ถามมึงโป้”

   เอ้า! กูผิดอีก หุบปากก็ได้ เอาตัวรอดเองนะเพื่อนอาร์ท

   “ถ้ามึงจะมาด่ากูเรื่องทำแฟนมึงเจ็บตัว กูต้องขอโทษด้วย ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้”

   อาร์ทสภาพโทรมไม่ต่างจากผม เผลอๆ จะหนักกว่า ช่างขัดกับสีหน้าที่พยายามทำให้นิ่งเฉยซะจริง

   “ทำไมมึงมีเรื่องกับเศษเดนนั่น ถ้าเหตุผลไม่ดีพอ กูกระทืบมึงเป็นซากตามมันไปแน่”

   ผมเห็นอาร์ทลอบกลืนน้ำลายอึกกับคำขู่ของซัน ฝีไม้ลายมือกับพละกำลังเห็นกันอยู่ชัดๆ มาแป๊บเดียว คว่ำไอ้ถึกซะงอมพระราม ต่อให้มันเจ็บตัวมาแต่แรกก็เถอะ

   “พวกกูไม่ได้เพิ่งจะมีเรื่องกันวันนี้ เป็นอริกันมาตั้งแต่สมัยเรียน กูจบช่างมา แล้วที่กูไม่เรียกคนอื่นมาช่วยเพราะนี่มันเรื่องของกูไม่อยากให้เพื่อนมาซวย อีกอย่าง ไม่มีโอกาสด้วย...”

   ท้ายประโยคเสียงเบาหวิว อาร์ทอธิบายแบบกระจ่าง คงกลัวว่าหากซันมันถามซ้ำแล้วตัวเองจะงานเข้า

   “งั้นเหรอ... วันหลังมึงทำอะไรเจียมกะลาหัวตัวเองด้วย พวกทำเป็นเก่งมันไม่ตายดีหรอกนะ” ดวงตาคมหรี่มอง อาร์ทได้แต่ผงกหัวรับรัวๆ

   ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก ไอ้สองตัวที่วิ่งหนีไปมันกลับมาพร้อมเพื่อนอีกห้าคน ซันจ้องเขม็งด้วยสายตาอันตราย ผมตั้งท่าคิดว่างานนี้อาจจะได้ออกแรงกันอีกรอบ ใครจะไปรู้ว่าพวกเพื่อนผมเองก็มาเหมือนกัน สงสัยเห็นว่าพวกผมหายไปนานเกินไปเลยมาตาม โดยเฉพาะอาร์ท มันมาเข้าห้องน้ำก่อนผมอีก

   ทีนี้แหละพ่อคุณเอ๋ย พวกนั้นยืนนิ่งไม่กล้าผลีผลามเข้ามาเห็นว่าพวกผมมาเยอะกว่า ฝั่งเพื่อนผมเองหลังจากมองสภาพโดยรอบพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็พากันหันขวับจ้องเขม็งไปทางนั้น เห็นท่าไม่มีผมออกหน้าไกล่เกลี่ย แค่ตอนนี้ก็ร้าวระบมไปทั้งตัว ไม่อยากจะหาเรื่องเจ็บตัวไปมากกว่านี้ อีกอย่าง เดี๋ยวคุณพ่อที่อยู่ข้างๆ จะพิโรจน์แล้วฉิบหายกันทั้งสองฝ่าย

   “ใจเย็นก่อนทุกคน แค่เรื่องเข้าใจผิดกัน ตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว พวกฉันโทรเรียกรถพยาบาลมาแล้วด้วย เพื่อนนายแค่สลบไป ไม่เป็นไรมากหรอก” …มั้ง ขอเติมคำในใจเงียบๆ

   “หมายความว่าไงวะ ไหนมึงบอกพวกมันกำลังรุมกระทืบน้องกูไง”

   อ้าว นั่นพี่มึงเหรอไอ้ถึก อีกสองตัวในสภาพยับเยินมองพวกผมสลับกับลูกพี่ตัวเอง

   “เอ่อ...” ตาหลุกหลิกของเจ้าสองคนมองโยนให้กันไปมา แหงล่ะ เพื่อนมันเกือบฆ่าผมตายนี่หว่า ขืนมันหลุดปากพูดไปกลุ่มเพื่อนนับรวมพวกผมเกือบสิบคนได้รุมกระทืบมันแน่

   “อย่ามีเรื่องกันต่อเลย เริ่มมีคนมามุงแล้ว เกิดมีใครโทรแจ้งพ่อเดี๋ยวได้ซวยกันหมด” คนเริ่มมาเป็นไทยมุงอย่างที่ผมพูด ทีแรกมีกันแค่สี่ห้าคน ทุกคนเลยไม่สนใจ วันรุ่นตีกันแถวร้านเหล้าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่นี่มากันเป็นฝูง เกิดมีเรื่องกันขึ้นมาวินาศสันตะโรแน่

   ลูกพี่ใหญ่ลังเลชั่วครู่ ยอมถอยกันคนละครึ่งก้าว

   “ส่งน้องกูคืนมาแล้วแยกย้าย แต่อย่าให้กูเห็นพวกมึงเป็นครั้งที่สอง” คำขู่ปิดท้ายแบบไว้ตัวมีหรือพวกผมจะกลัว พากันแสยะยิ้มจนพวกนั้นเสียวสันหลังวูบไปตามๆ กัน

   หมดเรื่องแล้วปล่อยพวกนั้นรอรถพยาบาลเป็นเพื่อนไอ้ถึกไป พวกผมที่เหลือกลับเข้าไปดื่มกันต่อ เหลือแค่สองสามคนที่อยากรู้รายละเอียด แม็คที่ค่อนข้างจะสนิทกับผมที่สุดก็อยู่ด้วย

   “หน้าพวกมันคุ้นๆ อริมึงใช่มะอาร์ท”

   แม็คกับอาร์ทรู้จักกันตั้งแต่ก่อนเข้ามหา’ลัย ถึงไม่ได้เรียนช่างด้วยกัน แต่มันก็ต้องเจอดีกันบ้างล่ะ

   “เออ ส่วนโป้กับซันมาช่วยกูไว้”

   อาร์ทดูไม่ตั้งแง่กับผมแล้ว หันมายิ้มให้พวกเราด้วย

   “โป้คงช่วยมึงได้ไม่เท่าไหร่มั้ง ก็มันเป็น...อะนะ” มีคนแทรกขึ้นมา ผมแสยะยิ้มเย็น ไอ้เบื้อกนี่ผมจำชื่อมันไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นตัวตั้งตัวตี ปากหมาเป่าหูเพื่อนเรื่องของผมในทางไม่ดี สายตานั่นอีก มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเหยียดหยามจนเท้ากระตุกอยากถีบคน

   “ไม่ใช่...” อาร์ทไม่ทันจะพูดแก้ตัวให้ผมจบประโยค หมัดขวาตรงของซันซัดเข้ากลางหน้าจนเลือดกำเดาไหล บ่งบอกว่าลงมือหนักแค่ไหน มันผงะก่อนจ้องอย่างโกรธๆ ทำท่าจะเข้ามาซัดกลับ ผมเลยจัดส่งเท้ายันมันหงายหลังไปกองบนพื้นก่อนถึงตัวซัน

   “ไอ้พวกวิปริตทำเหี้ยไรวะ”

   “มึงปากดีไง โดนก็สมควรแล้ว อย่าสำออยลุกขึ้นมา” แม็คใช้เท้าสะกิดโดยมีอาร์ทพยักหน้าเห็นด้วย

   “กูว่ามึงเข้าใจอะไรผิดไปเปล่า กูเป็นเกย์ ไม่ใช่ตุ๊ดกระเทยที่มีจิตใจเป็นหญิง อีกอย่าง กูขอเตือนไว้หน่อย อย่าได้ปากดีใส่พวกนั้นเชียว ลูกตบสาวๆ พวกนั้นแรงกว่าเท้ากูชัวร์”

   ผมมองเย้ยหยัน มันกัดฟันกรอดผุดลุกขึ้นมาแต่ไม่กล้าเสนอหน้ามารับหมัดอีกรอบ ซันมันขาโหดไม่ใจดีเหมือนผมหรอกนะจะบอกให้

   “ด่ากูไม่ว่า แต่อย่าด่าแฟนกู ไม่งั้นมึงจะไม่ได้ตายดี” คนพูดย่างสามขุมเข้าไปหา ใช้หลังมือตบแก้มแปะๆ มุมปากมีรอยยิ้ม ส่วนดวงตาวาววับเอาเรื่อง

   “เข้าใจใช่ไหม หืม... ไอ้อ่อน”

   ผมเห็นมันกำหมัดแน่น แต่ทำอะไรไม่ได้ ซันตอนนี้มาดโคตรจะหล่อเลว เถื่อนได้อีก ถ้ามันถ่มน้ำลายคำว่าถ่อยจะตามมา น่าเสียดายตรงที่มันยังมีความเป็นคุณชายฝังลึกในเส้นเลือด เลยไม่แสดงบทบาทให้ครบสูตร

   “เออ!! ไปไกลๆ กู ขยะแขยง”

   ยังๆ ยังจะปากดีไม่เลิก ทำหน้ารังเกียจซะ ซันหัวเราะเสียงกดต่ำ ยอมถอยออกมาแล้วชกใส่ท้องจนอีกฝ่ายทรุดลงไปกุมท้องโอดโอยบนพื้น

   “พ่นหมาออกมาอีกแม้แต่ตัวเดียว กูก้านคอมึงแน่”

   โดนเตือนด้วยร่างกายไปสองสามรอบติด ในที่สุดมันก็หุบปากได้สักที แม็คมันไม่ชายตาแลแม้แต่น้อย เพราะมันเองก็หมั่นไส้มานาน ยังแอบยกนิ้วโป้งให้ผมกับซันด้วย อาร์ทมองสภาพเพื่อนตัวเองแบบหวาดๆ หันมามองพวกผมด้วยสีหน้าจริงจัง

   “ที่ผ่านมากูขอโทษ กู...”

   “ช่างเหอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้กูว่าไปโรงบาลทำแผลกันก่อนดีกว่า” ผมโบกมือแบบไม่ใส่ใจ เราให้อภัยคนที่คิดได้เสมอ

   “เดี๋ยวกูพามันไปเอง ซันพาโป้ไปเหอะ”

   แม็คช่างรู้งาน ซันเลิกคิ้วยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ตบบ่าแม็คเป็นเชิงขอบคุณแล้วลากผมที่กำลังบอกลาเพื่อนให้ขึ้นรถไปด้วยกัน

   ซันพาผมแวะโรงบาลทำแผลก่อนกลับ เพราะต้องตรวจคอตามประสาคนขี้เป็นห่วง ผมแซวมันไปแบบนั้น มันถลึงตาใส่บอกกลับว่า มันอะยังน้อย ถ้าเพื่อนตัวเล็กเป็นอะไรไป เฮียคงบอกให้ตรวจร่างกายแบบละเอียดครั้งใหญ่ ผมหัวเราะจนปวดท้อง สูดปากร้องอูยๆ ซันพูดซะเห็นภาพ

   พอหมอเวรเห็นสภาพผมไม่ถามอะไรสักคำ เอาแต่เทศนาตั้งแต่ต้นยันจบการรักษา ผมฟังจนหูชา ค่าใช้จ่ายซันเป็นคนออกทุกอย่าง ผมไม่ยอมเลยทะเลาะกันระหว่างทางกลับ

   ตกลงว่าผมจะคืนเงินให้ ส่วนมันจะรับหน้าที่ซื้อของใช้เข้าห้องเองแม้เป็นคิวของผม รวมถึงค่าของสดสำหรับทำอาหารในอาทิตย์นี้ด้วย คิดๆ ดูแล้วมันก็พอกันเลยนี่หว่า ผมเจ็บตัวไม่อยากจะเถียงมันต่อเลยยอมไป

   สรุปวันนี้ทั้งผมและมันแต่งตัวซะดิบดีเพื่อไปไปกระทืบคนโดยแท้ หวังว่ารอยที่คอมันจะหายก่อนที่ผมจะมีเรียนนะ ไม่งั้นคงถูกมองทั้งมหา’ลัยแหง เกิดข่าว หนุ่มสถาปัตย์น้อยใจแฟนวิศวะเลยผูกคอประชดรัก ฮ่าๆ อับอายยันชาติหน้า สาระอยู่ที่ไหน สติก็บินไปแล้ว อาบน้ำกินยานอนดีกว่าผม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:24:08 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:    หวาดเสียวจริง
ซันก็โหดนะเนี่ย หึหึ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่จะฮาก็ตอนท้ายนี่แหละลูก เช่อกเส้นเท่ามดมันจะไปผูกคอเอ็งตายได้ยังไง๊โป้!!!!
แต่ตอนนี้ซันพระเอกมากกกกกกก ปาใจใส่รัวๆๆๆๆ  :impress2:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด