}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170569 ครั้ง)

ออฟไลน์ hamony

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบอะ   ชอบอ่ะ มาต่อ  กำลังเขินพอดี

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โป้มั่นใจในตัวซันละเนาะ เหลือที่บ้านโป้แล้วล่ะนะ
รอตอนต่อไปน้าาาา สู้ๆ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จิกหมอนฟินกันไป  o13

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมาะสมกันจริงๆๆๆๆ
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอ๊ยยยย น้าร้ากกกกก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โอ้ยยย เขินนนน อมยิ้มแก้มตุ่ยแล้ว

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
จะตามไปดูเค้าเข้าหอกันล่ะนะ :z1:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 o13. โป้ น่ารักอะ.

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :impress2: :impress2: :impress2: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย เขิลลลล  :-[ :-[ :-[ จิกหมอนตัวบิดเป็นเกลียวววววววววว  :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ดีเริสประเสริฐศรีมณีเด้ง

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
อร๊ายยยยยย

เขินขั้นสุด  :o8:    :o8:  :ling1:    :ling1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[   โดนใจแรงมากๆ

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อือ  น่ารักมาก ยิ้มแก้มตุ่ย  รอเข้าหอ  ฮิฮิ  :hao3:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ขนรุกเลยทีความสุขจัง. เป็นความสุขที่คน2คนเข้าใจกัน

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ตามอ่านทันแล้ว น้ำตาจะไหล T^T

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สุดยอดจริงๆ

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อร้ายยยย ในที่สุดโป้ก็ชัดเจนในความรู้สึกของตัวซักที  o13
แอบฮานิดนึงตอนโป้ถามซันว่า เป็นเกย์กันมั้ยออกสื่อ  :m20:
แต่นี่คืออ่านไปยิ้มไปแก้มแทบแตกแล้วค้าาาาาา

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: น่ารักมาก ๆ ในที่สุด ซันโป้ ก้อเข้าใจในตัวเองแล้ว มาลงตัวที่ชื่อเรื่องพอดีเลย  :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
กำลังทำการรีไรท์นิยายให้มันสนุกยิ่งขึ้น แต่เนื้อเรื่องยังคงเดิมทุกประการ อาจมีเพิ่มตัดตามความเหมาะสม
เมื่อรีทั้งหมดเสร็จจะอัพลงทีเดียวและแต่งนิยายต่อตามปกติ

-------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่าง ยกที่1 สเปค(รีไรท์)

   บางที การเรียนต่างถิ่นอาจเปิดโอกาสหลายๆ อย่างให้กับตัวเอง เจอเพื่อนใหม่ พบสังคมใหม่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปจากเดิม...ก็อ้างไปเรื่อยแหละ ความจริงผมแค่อยากจะหนีจากที่บ้านใหญ่มาเท่านั้นเอง ตัวผมเป็นคนเชียงใหม่ ถ่อสังขารมาเรียนถึงเมืองกรุงเพื่อเปิดโลกกว้าง

   แต่เรื่องโอกาสนี่ได้จริงๆ นะ โอกาสเจออาหารตาไง...

   ยามสายที่แดดแผดเผา ผมนอนเหงื่อแตกอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก อันประกอบด้วยเตียงสองชั้นวางติดผนังซ้ายขวา ตู้เสื้อผ้าแบบเหล็กอย่างกับในค่ายทหาร โต๊ะเหล็กและเก้าอี้ไม้อย่างละสอง มีระเบียงอันน้อยนิดพอไม่รู้ว่าเป็นที่ตากผ้า ด้านซ้ายขวาของระเบียงเป็นห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกกัน ส่วนอ่างล้างหน้าอยู่ด้านนอกแถวที่ต่างผ้าแหละ ผมก็ไม่เข้าใจว่าคนออกแบบต้องการอะไรจากสังคมเด็กหอ

   ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดและเพิ่งเข้ากรุงครั้งแรก ไม่รู้ที่ทางแถวนี้เลย ผมจึงตัดสินใจอยู่หอพักของมหา’ลัยศึกษาลู่ทางแถวนี้แล้วค่อยย้ายออก ก่อนหน้านี้ผมมีรูมเมทหนึ่งคน เขาเป็นผู้ชายร่างเล็กหน้าละอ่อน ซึ่งตอนนี้ย้ายออกไปอยู่กับพี่ชายต่างสายเลือดเรียบร้อย แต่ยังมีน้ำใจแนะนำเพื่อนอีกคนให้มาอยู่แทน ผมเลยไม่ต้องแห้งเหี่ยวเดียวดายอยู่ในห้อง

   รู้สึกว่าจะมาวันนี้แหละ แต่ไม่รู้ว่าจะมากี่โมง ผมนอนกองกับพื้นกระเบื้องแนบแก้มเอาความเย็นตาเหล่มองนาฬิกามือถือ สิบโมงแล้วยังไม่เห็นวี่แววรูมเมทคนใหม่ เอาวะ! อาบน้ำสักแป๊บคงไม่เป็นไรมั้ง

   คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำสลัดเสื้อเหม็นเหงื่อทิ้งแล้วเปิดน้ำเย็นชโลมกาย รู้สึกสดชื่นเหมือนได้เกิดใหม่ ระหว่างกำลังฮัมเพลงสระผมถูสบู่อย่างอารณ์ดี เสียงนรกบังเกิด มีคนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง ทีแรกผมเข้าใจว่าห้องอื่นจนกระทั่งเสียงเคาะมันเปลี่ยนเป็นเสียงทุบนี่แหละ รีบล้างตัวล้างตัวคว้าผ้าขนหนูพันเอวออกมาแทบไม่ทัน แม่เจ้าเว้ย ท่าทางจะอารมณ์ร้าย ประตูหอจะพังไม่เนี่ย

   “มาแล้วเว้ย!!” ตะโกนแกมประชดมือเปิดประตู สิ่งที่เห็นทำเอาผมอ้าปากค้างตรงข้ามกับอีกคนที่ทำหน้าบูด

   “เปิดช้าฉิบหาย” มาถึงบ่น คิ้วเข้มขมวนยุ่ง “ถอยไปดิ้ กูจะเข้าห้อง” เสียงทุ้มพูดออกมาทำให้ผมได้สติ พยักหน้ารับเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้าห้องก่อนปิดประตู ไอ้หมอนี่คงเป็นรูมเมทคนใหม่

   ผมกวาดตามองบนลงล่าง ล่างขึ้นบน ชายร่างสูงใหญ่หุ่นนักกีฬาสวมเสื้อยืดกางเกงยีนหนีบแตะสะพายเป้ใบใหญ่ ผมดำสั้น ตาคม จมูกโด่งหน้าเข้ม เฮ้ย! หล่อ หล่อมาก!! หล่อแบบออกเถื่อนนิดๆ เชี่ย สเปค!!

   อึ้งอะไรกัน อ่อ ผมลืมบอกสินะ อะแฮ่มฟังกันให้ดี ผมหนุ่มเหนือนามปีโป้เป็นเกย์ครับท่าน เรื่องนี้เป็นความลับนะ เงียบๆ ไว้เดี๋ยวไก่ตื่น แม้ผมจะไม่ใช่พวกฟาดไม่เลือกแต่ขออาหารตาไว้ดูก็ยังดี ผมกอดอกมองสำรวจอีกฝ่ายเพลินๆ

   “แล้วเตียงกูอยู่ฝั่งไหน?”

   “ของกูฝั่งซ้าย มึงฝั่งขวา หรืออยากเปลี่ยน?” ผมเลิกคิ้วถาม เขาส่ายหัว โยนของไปฝั่งที่ว่างอยู่ จู่ๆ เขาผละจากของตัวเองเดินไปทางมุมห้องฝั่งของผมหยิบไม้ทีขึ้นมา ขณะเดียวกับที่ผมสังเกตหนังสือเรียนของอีกฝ่าย เราสองคนมองหน้ากัน

   “วิศวะ? / สถาปัตย์?”

ต่างคนต่างเงียบคุมเชิงกัน ผมไม่มีอคติเรื่องสองคณะไม่ถูกกันนะ อาจจะไม่ถูกกันจริง แต่มันก็มีทั้งคนดีและไม่ดี จะเหมาหมดก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย อีกอย่าง ตราบใดที่ทางนั้นไม่เริ่มก่อน ผมไม่คิดลงมือ

ภาพรูมเมทหน้าละอ่อนลอยขึ้นมาทันที โธ่เอ๊ย ไอ้ตัวเล็ก ดันลืมบอกเรื่องสำคัญกับพวกเราซะแล้ว ผมคิดอย่างอ่อนใจ เหมือนเราจะนึกถึงคนเดียวกันอยู่ สุดท้ายเลยหลุดหัวเราะทั้งคู่

“ฮ่าๆๆ!”

“ถึงคณะจะไม่ถูกกัน แต่ใช่มีเรื่องคอขาดบาดตายสักหน่อย ยินดีที่ได้รู้จักไอ้เด็กวิศวะ กูชื่อโป้” ผมยักคิ้วให้

“กูซัน ส่วนใหญ่ก็แค่แข่งกัน หมั่นไส้กันเองมากกว่าจะต่อยตี บอกไว้ก่อนถึงเป็นรูมเมทแต่งานแข่งกีฬาคณะกูไม่ออมมือนะเว้ย โป้สถาปัตย์” มันท้าทายกลับ เรื่องอะไรจะยอม อย่าคิดว่าความหล่อจะทำให้ผมใจอ่อนไปซะหมดนะ

   “หึ อย่าหลุดกากแล้วกัน”

   “เชี่ย ปากดีงี้ เจอกันในสนามดีกว่าว่ะ”

   พวกเราจับมือกัน งานนี้สนุกแน่

   “แล้วมึงไม่คิดจะแต่งตัวรึไง หรือเป็นพวกชอบโชว์” หนุ่มเถื่อนเลิกคิ้วมอง ผมชะงักเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว ความจริงห้องแคบๆ แบบนี้ผู้ชายตัวใหญ่สองคนมาอยู่ด้วยกัน เวลาซันจัดของสวนผมไปมาต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายที่โดนกันบ้าง ซันมันคงไม่คิดอะไรหรอกเพราะมันเหมือนจะเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผมนี่สิ ควรจะไสหัวตัวเองไปแต่งตัวสักที

   ผมชูนิ้วกลางใส่มันข้อหาที่ว่าผมเป็นพวกชอบโชว์แล้วหลบหยิบชุดใหม่ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ใช่ว่าชายสองคนจะเหนียมอายกัน แต่หอในมันไม่มีผ้าม่าน ขืนเปลี่ยนในห้องโทงๆ ได้กลายเป็นอาหารตาให้สาวหอตรงข้ามพอดี ติดกับหอของมหา’ลัยเป็นหอพักนอก มีเสื้อผ้าตากตรงระเบียงประปรายบ่งบอกว่ามีคนอยู่ อนาคตไม่แน่ผมอาจจะย้ายไปอยู่หอนั้นก็ได้ ต้องรอดูกันไปก่อน

   ซันใช้เวลาไม่นานในการเก็บข้าวของเข้าที่ พวกผู้ชายไม่ค่อยมีข้าวของอะไรเยอะนักหรอก

   เรื่องราวหลังจากนั้นไม่มีเหตุให้ตีกันแต่อย่างใด ผมกับซันอยู่กันอย่างสงบสุข เช้าตื่นมาสลับกันเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อพาไปมหาลัย รับน้องเสร็จแทบจะคลานกลับห้อง คณะพวกเรารับน้องโหดทั้งคู่ ดูเผินๆ ไม่ได้ต่างจากคนอื่นเท่าไปเลย เอาความจริงนะ พวกเด็กหอรูมเมทใช่ต้องสนิทกันตัวติดไปไหนด้วยกันตลอด อันนั้นมันกรณีที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ไม่ก็พวกเรียนสาขาเดียวกันแล้วมาแชร์ห้องประหยัดค่าเช่า

   ตรงข้ามกับพวกผม แค่คณะก็ไปคนละทาง เวลาก็ไม่ตรงกัน ต่างคนต่างมีสังคมเพื่อนเป็นของตัวเอง อาจจะมีบ้างที่ชวนกันไปกินข้าวเย็นหากมีเวลา แต่ส่วนใหญ่แค่เจอก็ทักทายกันนิดหน่อยแล้วกลับมาอาศัยหอเป็นที่ซุกหัวนอนมากกว่า

   บางคืนพวกเพื่อนกับรุ่นพี่ชวนไปดื่มบ้าง รอบไหนเมาหนักนอนตายห้องเพื่อน รอบไหนเลิกไวลานสังขารกลับได้ ก็จะกลับมานอนที่หอ กลิ่นเหล้างี้ไม่ต้องพูดถึง ปกติซันไม่ได้รอผม เขานอนก่อนเลย แต่วันนี้มาแปลก พ่อเจ้าประคุณนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

   เอ้อ นี่ก็อีกอย่าง ซันมันเป็นวิศวะประสาอะไรไม่รู้ แทบไม่ออกไปแดกเหล้ากับเพื่อนฝูง อยู่ห้องถ้าไม่นอนก็จะอ่านหนังสือ ดูแล้วโคตรเด็กเรียนไม่เข้ากับหน้าตาสุดๆ แต่ความเถื่อนยังคงเดิมนะ อันนี้ผมรับประกัน หลังจากเห็นอีกฝ่ายไปเตะประตูห้องอื่นที่เสียงดังจนไม่ได้นอน กระชากคอเสื้อเกือบลากพวกนั้นมาชก ดีที่ผมห้ามไว้ไม่งั้นงานเข้า

   ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาปลุกบนโต๊ะเหนือหัว

   “ไมกลับมาไว”

   น้ำเสียงเหมือนประชด แต่ความจริงมันไม่มีอะไรเลย ดีที่ผมเป็นคนใจเย็นและมีมนุษย์สัมพันธ์ดีมาก เลยไม่เอาท่าทางกวนของเขาเก็บมาใส่ใจ เพราะผมเองก็กวนน้อยซะที่ไหน

   “ร้านมีคนตีกันเลยวงแตก” ผมตอบไปตามจริงพลางถอดเสื้อออก เหม็นกลิ่นเหล้ากับบุหรี่มาก รู้สึกเหนียวตัวเพราะวิ่งหลบลูกหลงชาวบ้านด้วย

   “เข้าไปถอดในห้องน้ำดิ แสลงลูกตากู”

   ซันมันบอก ผมหันไปมองมันงงๆ หนังตาตกนิดหน่อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่สติผมครบถ้วนสมบูรณ์นะ ไม่ได้คออ่อนขนาดนั้น

   “อะไร กูถอดแบบนี้ของกูทุกวัน หรือผีสาวเข้าสิงมึง”

   ผมยกยิ้มมุมปากมอง ไอ้ซันลูบหน้าพรืด ช่างมัน อาบน้ำดีกว่าจะได้นอน

   “เชี่ย! ท่อนล่างมึงก็ยังจะถอด หน้าด้านสัส ไปเลยนะมึง เข้าห้องน้ำไปเลย”

   ผมโวยผมใหญ่ เอ้าไอ้นี่ หรือมันจะเปลี่ยนใจจากชายแท้เป็นเกย์ ผมพร้อมสนองนะจะบอกให้ เล็งอยู่ทุกวัน ปากดีไปงั้น ความจริงผมไม่กล้าหรอก ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ชอบเพศที่สาม ยิ่งต้องมาอยู่ร่วมห้องกันไม่อยากจะพูดถึง เดี๋ยวผมโดนมันกระทืบตายคาห้องพอดี ที่สำคัญผมไม่อยากจะเห็นสายตาดูถูกจากรูมเมทตัวเอง

   “ปิดไฟไมวะ” ผมถามมันที่จู่ๆ ก็ปิดไฟเฉย

   “มึงยังกล้าถามกูอีกเรอะ ตรงข้ามไม่ใช่ป่านะเว้ย มันเป็นหอ”

   “แล้วไง” ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ นะเนี่ย น้ำเสียงมันเหมือนจะเป็นห่วง หรือมันจะเป็นแบบผม อยู่กับรูมเมทคนก่อนมากเกินไป ปลุกนิสัยช่างดูแลในตัวขึ้นมา ถ้าเทียบกับผู้หญิงคงปลุกสัญชาตญาณความเป็นแม่มั้ง งี้ผมกับซันก็ปลุกสัญชาตญาณความเป็นพ่อดิ ฮ่าๆ พิลึก ผมคิดอะไรอยู่วะเนี่ย ไร้สาระสุดๆ สงสัยผมจะเมาแล้วจริงๆ

   “เชี่ยโป้ กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงแล้ว มึงคิดว่าตัวเองหล่อแมนนักเหรอวะ หรือคิดว่าตัวเองหน้าตาเหมือนปลวก เกิดฝั่งตรงข้ามมันเป็นพวกเกย์นิสัยเหี้ยขึ้นมาบุกปล้ำมึงจะทำไง กูไม่ได้อยู่ห้องตลอดนะเว้ย เออ มึงอาจจะต่อยตีได้ เกิดมันพาพวกมารุมหลายคน...”

   “เดี๋ยวซัน มึง ใจเย็น หายใจลึกๆ”

   กลายเป็นผมที่ต้องบอกให้ซันใจเย็น ตกลงใครเมา แต่ที่แน่ๆ ผมสร่างเลยครับ แม้แสงสลัวจากด้านนอกทำให้ไม่เห็นใบหน้ามันชัดเจน แต่ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า หน้าไอ้ซันตอนนี้คงเถื่อนได้ที่

   “ตอนเย็นกูแวะไปซื้อข้าวกินก่อนขึ้นหอได้ยินพวกคณะอื่นมันคุยกัน...” เห็นมันเกริ่นเหมือนจะเล่าเรื่อง ผมเงียบนั่งลงตั้งใจฟังดีๆ พยักหน้าให้สัญญาณมันเล่าต่อ มันยกมือขยี้ผมท่าทางหงุดหงิด

   “พวกมันน่าจะอยู่หอตรงข้ามกับพวกเรา เหมือนว่าหนึ่งในกลุ่มพวกมันจะเป็นเกย์” ผมแอบสะดุ้งกับคำว่าเกย์ ดีที่ซันมัวตั้งใจเล่าเลยไม่ทันสังเกตเห็น

   “อ่าฮะ แล้วไงต่อวะ”

   “มึงเป็นผู้ชายน่าจะเข้าใจดี เวลากลุ่มผู้ชายอยู่ด้วยกันคุยกันแต่เรื่องหยาบโลน มันพูดเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับตัวมึง”

   “เพราะงี้มึงเลยรอเพื่อเตือนกูสินะ” เกือบจะทำหน้าซาบซึ้งให้มันแล้ว มิตรภาพเล็กๆ ระหว่างรูมเมท เพื่อนเอ๋ย กูคงไม่กล้าบอกมึงว่าเป็นเกย์มากกว่าเก่า เอาเป็นว่าไว้ต่างคนต่างแยกหอค่อยบอก ไม่ก็เป็นความลับตลอดกาลไปเลยแล้วกัน!

“ก็นั่นแหละ พอดีกูเล่าเรื่องมึงให้เพื่อนฟัง” อ่าฮะ ไม่แปลก รู้สึกซันจะมีกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ไม่เหมือนผม ลอยไปลอยมาเข้ากับทุกคนได้หมด จะชายหญิงไม่เกี่ยง

   “มิทเพื่อนกูมันรู้เรื่องพวกนี้เยอะ มันบอกว่าลักษณะอย่างมึงเป็นที่นิยมในหมู่เกย์มาก”

   “อืมๆ ว่าต่อ” ผมพยักหน้ารับรอฟังมัน

   “กูเลยลองไปเปิดในเน็ต เดี๋ยวนี้นะเว้ย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงแล้ว ผู้ชายก็มีโอกาสโดนข่มขืนได้ ดังนั้นมึงต้องระวังให้มาก” คราวนี้ผมมองมันด้วยสายตาแปลกๆ บ้าง เหมือนมันจะสัมผัสได้เหมือนกัน ตบหัวผมแทบทิ่ม อ้าวไอ้นี่ เล่นถึงหัว

   “กูเข้าใจสิ่งที่มึงต้องการจะสื่อระ แต่กูถามอย่าง มึงกับกูเป็นรูมเมทกันก็จริง แต่รู้จักกันไม่กี่อาทิตย์ ไม่คิดว่ามึงเป็นห่วงกูมากเกินไปมั้งเหรอ”

   ถามลองเชิง ดูปฏิกิริยามัน ซันชะงักไปราวกับเพิ่งรู้สึกตัว เจ้าตัวเกาหัว

   “ไม่รู้ว่ะ สงสัยนิสัยกูจะออก คนรู้จักกูทุกคนบอกว่ากูเป็นพวกรักเพื่อนมาก มึงเป็นรูมเมท แถมยังเป็นเพื่อนไอ้ตัวเล็กเท่ากับเป็นเพื่อนกูเลยนึกเป็นห่วงตามประสาเพื่อน”

   ตกลงมันกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ไม่ได้ตอบคำถามผมสินะ ช่างมัน ไม่อยากเซ้าซี้มาก ผู้ชายดีอย่าง เป็นพวกไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่คิดเยอะ ถ้ามันว่าเพื่อนก็คือเพื่อน เอาเข้าจริง ผมเองก็คิดว่ามันเป็นเพื่อนแล้วเหมือนกัน

   “เอาเป็นว่า หลังจากนี้กูจะระวังตัว ไม่แก้ผ้าต่อหน้ามึงอีก โอเคยัง กูจะได้ไปอาบน้ำสักที”

   พอผมจะลุก ซันมันคว้าแขนไว้

   “ต่อหน้าคนอื่นก็ห้ามนะเว้ย” ก็นึกว่ามันจะพูดอะไร ผมส่ายหัวรับเสียงยาน

   “คร้าบๆ”   

------------------------------------------------------------------------------------------

แม้พี่จะเถื่อนขึ้นแต่ 'รักจริงหวังแต่งนะ<3' //ทำมือรูปหัวใจ //ซัน - ทำอะไรเห็นแก่หน้าพี่บ้าง


คนวาด - Fanpage Scilliraeps.FS

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
รออ่านเลยยยยยยย อร๊ายยยยย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: กระชับขึ้นเยอะเลย โอเคจ้า เรายังไงก้อได้น่ะ ตามที่คนแต่งเห็นสมควรเลยจ้ะ แต่อยากอ่านต่อแล้ว  :mew4:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่25 เสียสละ

   ว่าตามจริง พวกเราไม่ได้เข้าห้องหออย่างที่พูดหรอก แค่เดินจูงมือกันริมเขื่อนเฉยๆ ใช้จักรยานคันเก่งของพี่มูนนั่นแหละ ถือว่าเป็นช่วงเวลาหวานๆ หลังจากสารภาพรัก

   “อากาศดีชะมัด” ผมยกแขนทั้งของตัวเองและของมันขึ้นสูง สูดลมหายใจลึกๆ เอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ให้เทียบแล้วผมชอบอากาศริมเขื่อนมากกว่าทะเลนะ เย็นสดชื่นไม่เหนียวตัวดี

   “มึงชอบก็ดี เดี๋ยวก็ได้อยู่ทั้งชีวิต” ซันพูดยิ้มๆ ดึงให้ผมนั่งลงตรงขอบทาง

   “อ้าว ไม่ใช่ว่ามึงจะไปทำงานตามสายที่เรียนเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย ก็เห็นมันตั้งใจเรียนดี ดูชอบทางนี้มากๆ ไม่งั้นมันคงไปเรียนบริหารเพื่อกลับมาดูแลกิจการตั้งแต่แรกแล้ว

   “ก็ใช่ กูคงไปทำงานตามฝันก่อนค่อยกลับมาดูแลรีสอร์ท ส่วนมึงจะทำอะไรก็ได้ตามใจ ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอ” ใบหน้าหล่อๆ หันมาสบตา มุมปากยกยิ้มนิดๆ มือกระชับแน่นทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นึกอยากยันคนลงน้ำเหลือเกิน จะอะไรก็ดี แต่ช่วยลดนิสัยปากหวานไม่แคร์สื่อลงหน่อยได้ไหม มันพูดได้หน้าตาเฉยมาก ไม่ปลอดภัยกับใจผมเลยให้ตาย

   “กูยอมเป็นเกย์กับมึงแล้วนะ รักกูให้มากๆ ล่ะ สำนึกบุญคุณกูด้วย” ซันยักคิ้วพูดอย่างเหนือกว่า ผมรู้ว่ามันปากดีไปงั้นในใจมันคงอยากจะบินแล้ว เห็นแก่ที่มันยอมอดทนกับผมมาตลอด ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อนก็ได้

   เรานั่งใกล้กันมีฉากสุดโรแมนติกเสริมบรรยากาศ เบื้องหน้าคือผืนน้ำพลิ้วไหวเป็นละลอกคลื่นกับลมเย็นสบาย ด้านหลังคือรีสอร์ทที่เปิดไฟสว่างกับต้นไม้สูงใหญ่ เสียงแมลงในตอนกลางคืนแข่งกันร้องทำให้รอบข้างไม่เงียบจนเกินไป เหนือสิ่งอื่นใดคงเป็นท้องฟ้าในตอนกลางคืน

   หนุ่มสถาปัตย์ทิ้งตัวลงนอนบนพื้นปูนแบบไม่กลัวเสื้อเปื้อน ซันเห็นแบบนั้นเลยล้มตัวลงนอนใช้แขนต่างหมอนบ้าง ยามมองบนท้องฟ้าให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอดจากธรรมชาติ มันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีตึกสูงหรือเสาไฟฟ้ามาบดบังการมองเห็น

   ขณะดูพระจันทร์เพลินๆ ซันชันเข่ามาโดนขาผม ผมเลยเขี่ยกลับบ้าง จนกลายเป็นศึกชนขาพร้อมเสียงหัวเราะของพวกเรา ผมพลิกตัวมานอนตะแคงมองใบหน้าด้านข้างของซัน อีกคนพอรู้ตัวว่าโดนผมจ้องก็หันมาสบตา ใบหน้าคมเข้มเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมหลับตารับสัมผัสอย่างยินยอม

   ริมฝีปากแนบชิดเนิ่นนานก็ผละออก เป็นจูบหวานๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ซันเลื่อนไปจูบหน้าผากก่อนจะผุดลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาให้ผม

   “กลับกันเถอะ”

   “อืม” ผมยื่นมือไปจับให้ซันดึงตัวผมไปยืนเคียงข้าง มองจากภายนอกเหมือนเป็นการกระทำง่ายๆ แต่สำหรับพวกเราแล้วนี่คือจุดเริ่มต้นที่มีความหมาย ผมพร้อมที่จะยืนเคียงข้างซันและฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันนับจากนี้ไป

   พวกเราขี่จักรยานกลับรีสอร์ท ผ่านห้องอาหารที่เหลือลูกค้าเพียงไม่กี่คน กับเสียงเฮฮาจากงานเลี้ยงวันเกิดที่อยู่ไม่ไกล พอเห็นว่าไม่มีอะไรต้องทำ ผมกับซันเลยตรงกลับบ้าน เพราะยังเป็นตอนหัวค่ำ ไฟชั้นล่างเลยเปิดสว่าง เข้าไปพบพ่อแม่กับพวกพี่มูนครบองค์ประชุม

   พอแม่เห็นเราก็เรียกทันที

   “กลับมาแล้วก็มานั่งนี่ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย” คุณแม่ยังมีรอยยิ้มบางๆ แต่ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกไป หนุ่มเหนือมองคนข้างกาย ซันตีหน้านิ่งจูงมือผมไปนั่งด้านข้างตรงข้ามกับแม่ พ่อซันอยู่วงนอกเป็นผู้สังเกตการณ์เต็มตัว ดูเหมือนว่าบ้านนี้แม่จะเป็นใหญ่ ส่วนพวกพี่มูนยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา แค่มองเป็นเชิงรับรู้ว่าพวกเรากลับมาแล้ว

   “แม่มีอะไรเหรอครับ” ระหว่างที่ซันถามยังไม่ยอมปล่อยมือจากผม ทีแรกผมจะดึงมือคืนเพราะมันไม่ค่อยเหมาะเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ แต่ซันจับแน่นผมเลยล้มเลิกความตั้งใจ เอาวะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ในเมื่อขอลูกเขาแล้วก็ต้องยืดอกรับ ล่มหัวจมท้ายรับกรรมไปด้วยกันนี่แหละ!

   ผมบีบมือซันคืน เจ้าตัวหันมามองแปลกใจ ก่อนจะยิ้มตาสื่อความหมายจนแม่ต้องเอ็ด

   “เจ้าลูกคนนี้ ถามแม่ก็มองหน้าแม่” คุณแม่กอดอก ซันหันไปมองอย่างว่าง่าย ส่วนผมนั่งตัวเกร็งลุ้นว่าแม่จะพูดเรื่องอะไร

   “แม่จะคุยเรื่องเราสองคนนั่นแหละ แม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในรีสอร์ทหมดแล้ว สรุปว่าตกลงปลงใจกันแล้วสินะ แต่แม่อยากได้หลาน มูนก็เป็นไปแล้ว ซันยังเป็นอีกเหรอ” เสียงถอนหายใจดังชัดเจน ประโยคท้ายเล่นเอาผมสะอึก จริงอย่างที่แม่พูด บ้านนี้มีลูกชายสองคน แต่คนโตก็เป็นเกย์ไปแล้ว คนเล็กยังเป็นอีก เรียกได้ว่าอนาคตมืดมน

   อ่า...นี่ยังไม่นับรวมกับที่บ้านผมอีก แม้พ่อแม่จะรับได้เรื่องที่ผมมีรสนิยมแบบนี้ แต่ยังไม่เคยพาแฟนเป็นตัวเป็นตนไปอวดโฉมเลยด้วยซ้ำ ลึกๆ ข้างในพวกท่านยังมีความหวังว่าผมจะกลับมาชอบผู้หญิงเหมือนเดิม ทางฝั่งบ้านใหญ่ด้วย ปากบอกไม่สนๆ แต่เชื่อเถอะว่าปู่ไม่ยอมปล่อยผมง่ายๆ แน่ คิดแล้วก็กลุ้ม ถึงงั้นผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือซันไปเด็ดขาด ผมเคยทำมันเจ็บแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากทำอีกครั้งที่สอง

   หากเราต้องแยกไปตามทางของตัวเอง ขอให้เป็นเพราะหมดรักกัน ไม่ใช่ต้นเหตุจากคนอื่น การทำแบบนั้นมีแต่จะเจ็บทั้งสองฝ่าย ผมเคยบอกแล้วว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว

   ระหว่างที่ผมกำลังคิดไปหลายตลบเพื่อหาทางออกให้ชีวิตกับแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า ซันเปิดปากขึ้นมา

   “ถ้าแม่อยากได้หลานซันมีให้ได้ แต่ซันจะมีกับโป้เท่านั้น แม่รอมันท้องได้ก่อนแล้วซันจะยอมมีให้”

   “เฮ้ออ ลูกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าโป้เป็นผู้หญิงแม้จะไม่ว่าเลย แต่นี่...หรือแม่ควรจะคุยกับมูนดี?” ว่าพลางหันไปมองพี่คนโตที่ยังนั่งหน้านิ่งตรงข้ามกับน้องชาย ซันดูเดือดขึ้นมาทันที

   “แม่ครับ! เรื่องนี้พี่มูนไม่เกี่ยว เรื่องของพี่มูนมันจบไปนานแล้ว กว่าพวกพี่จะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆ แม่เคยบอกไม่ใช่เหรอว่ายึดความสุขของลูกเป็นหลัก แม่จะทำร้ายพี่มูนไม่ได้ ซันไม่ยอม” ผมรีบดึงตัวซันให้มันสงบสติอารมณ์ ก่อนจะพากันสะดุ้งเมื่อเสียงตบมือกับโต๊ะดังสนั่น

   รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าของแม่

   “แล้วจะให้แม่ทำยังไง! ลูกชายของแม่ทั้งสองคนเป็นแบบนี้กันหมด ทีแรกกับมูนแม่ยังเข้าใจและหวังพึ่งเรานะซัน แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้สิ” วาจาที่ได้ยินทำเอาผมหน้าชา หลุดปากพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

   “คุณแม่ แล้วที่เคยพูดกับผมก่อนหน้านี้...บอกให้ผมตัดสินใจ ไม่ใช่เพราะเข้าใจพวกเราเหรอครับ”

   เกิดความเงียบปกคลุมชั่วขณะ พ่อมองผมกับซันด้วยสายตาเห็นใจ พี่มูนยกมือขึ้นกุบขมับ พี่จินนั่งเงียบไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แม่มองผมด้วยแววตาสงสาร มันเจ็บยิ่งกว่ามองด้วยสายตาต่อว่าเสียอีก

   “แม่คงทำให้โป้เข้าใจผิด แม่คิดว่าพวกเรากำลังสับสนในฐานะเพื่อน แม่ไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้”

   ฟังจนจบประโยค ร่างกายผมเย็นเฉียบ สมองอื้ออึงไปชั่วขณะ เป็นผมที่เข้าใจผิดไปเอง คิดว่าแม่ยอมรับและกระตุ้นให้ผมตัดสินใจเพื่อซัน เสียงของซันกับแม่ที่ทะเลาะกันเหมือนดังอยู่ไกลออกไป ผมมองทุกคนด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง จนกระทั่งสายตาเลื่อนไปมองพี่จินที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แววตานั้นฉายความหนักแน่น เหมือนจะบอกว่าให้ผมเชื่อใจซันเหมือนที่พี่จินเชื่อใจพี่มูน

   ย้อนกลับมาดูตัวเอง สมองครุ่นคิดอย่างหนักถึงทางออกในครั้งนี้ เพิ่งเจออุปสรรคแล้วจะยอมแพ้แล้วหรือ ไม่! ผมจะผ่านมันไปให้ได้ ในเมื่อปัญหามันอยู่ที่เด็ก งั้นคงต้อง...

   ผมเงยหน้าขึ้น กดบ่าซันให้นั่งลง ส่วนผมคุกเข่าต่อหน้าแม่ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน

   “ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะยอมให้ซันมีหลานให้แม่”

   ดวงตาซันเปิดกว้าง ลุกพรวดมากระชากไหล่ผม

   “มึงจะทำอะไร มึงพูดบ้าอะไร!!” เสียงตวาดของมันแฝงความปวดร้าวไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ถูกทำให้บาดเจ็บสาหัส ในใจผมปวดหนึบเมื่อได้ยินเสียงนั้น เห็นสีหน้าของมันกับดวงตาแดงๆ ตัดพ้อ เสียใจ ไม่เข้าใจ ผมกัดฟันกำมือซันที่อยู่บนบ่าแน่น

   แม่เองก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก พอเห็นลูกชายคนเล็กแสดงท่าทางแบบนั้นใจของแม่เจ็บปวดกว่าหลายร้อยเท่า แววตาเริ่มฉายความลังเลกลายเป็นพ่อที่ถามต่อแทน

   “โป้แน่ใจเหรอที่จะทำแบบนี้”

   “ครับ”

   “โป้!!” เสียงร้องเรียกมันอย่างกับจะขาดใจ ผมพยายามกลั้นน้ำตาดึงมันมากอด พลางมองแม่สลับกับพ่อ

   “ผมยอมให้ซันมีหลานให้พวกท่าน แต่ผมมีข้อแม้หนึ่งอย่าง ผมจะไม่ไปจากซัน เราจะอยู่ด้วยกัน ส่วนผู้หญิงที่จะเป็นแม่ในอนาคตผมไม่สน เธอจะอยู่หรือจะไปก็ได้” ผมยอมรับว่าตัวผมค่อนข้างเลวเลยทีเดียว แต่ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว เรื่องลูกบุญธรรมงั้นเหรอ เหอะ! ลืมไปได้เลย ถ้าวิธีนี้ใช้ได้ แม่จะเรียกพวกเรามาคุยทำไม

   ซันผละออกจ้องเข้ามาในดวงตาของผม สองมือบีบแขนจนผมเจ็บ ผมไม่นึกโกรธมันเลยสักนิด เพราะความเจ็บนี้เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกของซัน

   “ไม่ กูจะไม่มีอะไรกับใครทั้งนั้น กูบอกแล้วไงว่ากูจะมีแค่มึงคนเดียว” พูดจบก็หันไปมองพ่อกับแม่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ซันขอโทษที่ซันทำตามความหวังของพ่อแม่ไม่ได้ แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ซันทำให้แม่ไม่ได้จริงๆ ที่ผ่านมาซันเชื่อมาโดยตลอด...เชื่อว่าแม่จะเข้าใจและยอมรับเรื่องของเราได้...”

   “พอเถอะซัน” ผมกอดซันไม่อยากให้มันพูดมากไปกว่านี้ แค่นี้แม่ก็เสียใจมากแล้ว ผมไม่อยากให้เรื่องของเราสร้างรอยร้าวในครอบครัว ผมรู้ดีเพราะผมเคยเจอมาก่อน มันแย่มาก แย่ถึงขั้นเลวร้าย

   “แม่ แม่...” คุณแม่อ้ำอึ้ง ยื่นมือมาหาซันแต่ก็ลังเล ก่อนที่มือสั่นเทาคู่นั้นจะถูกดึงไปกุมไว้อย่างอ่อนโยนด้วยฝีมือของพี่มูน

   “คนสวยของมูน อย่าเสียใจเลยนะ มูนกับซันเข้าใจความหวังดีและความต้องการของแม่ เอาแบบนี้ดีไหมครับ ผมจะเป็นคนมีหลานให้แม่เอง” พี่มูนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลปลอบโยน

   “แล้วจิน...” แม่หันไปมองอีกคน พี่จินพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบางๆ

   “ผมไม่เป็นไรครับคุณแม่ ความจริงเรื่องนี้พวกเราปรึกษากันมานานแล้ว ตั้งแต่รู้เรื่องของซัน อีกอย่างตัวผมก็ไม่มีครอบครัว ได้สร้างครอบครัวของตัวเองก็ดีเหมือนกัน แต่ต้องขอให้แม่เข้าใจด้วยนะครับ ว่าผมคงยกมูนให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะทั้งชีวิตนี้ผมมีมูนแค่คนเดียว” นักธุรกิจหนุ่มหว่านล้อมอย่างมีชั้นเชิง ไม่แข็งกร้าวจนเกินไปและไม่อ่อนจนดูไร้จุดยืน

   เรื่องราวของจินครอบครัวนี้รู้ตั้งแต่แรก จินเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุสิบเจ็ด อาศัยทรัพย์สินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้กับความสามารถ ความขยันและโอกาสจากผู้มีพระคุณจนก้าวมาถึงจุดนี้ได้ แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินเข้าหาไม่มีใครจริงใจเลยสักคน จนกระทั่งได้เจอกับมูน จินจึงพร้อมมอบทุกอย่างให้และยึดมูนเป็นสำคัญ

   พ่อเข้ามาจับบ่าแม่ ลูบให้กำลังใจ

   “แม่ พวกลูกโตแล้ว ปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจเองเถอะ ชีวิตเราก็โรยราไปตามกาลเวลา ไม่ได้อยู่กับพวกเขาจนตาย ปล่อยวางเถอะนะ” แม่มองพ่อก่อนจะมองลูกๆ พลางถอนหายใจ

   “แม่ขอขึ้นไปพักก่อน เรื่องนี้ไว้เราค่อยคุยกันอีกที” เรื่องเพิ่งเกิด ยังคงเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจอะไร ทุกคนยอมรับคำตัดสินนั้น พี่มูนช่วยพ่อประคองแม่ขึ้นไปชั้นบน ในขณะที่พี่จินตบบ่าพวกเราเบาๆ

   “เพิ่งจะเข้าใจกันก็มาเจอเรื่องแย่ๆ ลำบากหน่อยนะพวกนาย”

   “ผมขอโทษพี่จิน ที่ทำให้พวกพี่ต้องรับปัญหาไปแบบนี้” ซันยกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด พี่จินไม่ถือสายื่นมือมาขยี้หัวทั้งคู่

   “ไม่ต้องคิดมาก ความจริงปัญหามันเกิดเพราะฉันกับมูนตั้งแต่แรก พวกนายแค่รับเคราะห์” พอซันอ้าปากจะเถียง พี่จินยกมือห้าม “ฉันกับมูนเสียสละให้แบบนี้แล้ว พวกนายประคับประคองความรักต่อไปให้ดี พี่เชื่อใจเรานะซัน ส่วนโป้ บอกตรงๆ พี่ยังไม่เชื่อ สิ่งที่ถ่วงนายมีมากเกินไป ช่วยกลับไปแก้ให้หมดด้วยอย่าทำให้ทุกคนผิดหวัง”

   ผมพยักหน้า รับสายตาคมกริบแบบไม่มีข้อโต้แย้ง ภาระด้านหลังของผมมากไปจริงๆ ในสายตาของพี่จินที่เจอคนมามากในแวดวงธุรกิจ ไม่แปลกเลยที่จะมองผมได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

   “โป้ กูอยู่ข้างมึงเสมอ เราจะแก้ปัญหาไปด้วยกัน มึงอย่าทำอะไรโง่ๆ อย่างวันนี้อีก” มันจับมือผมแน่นดวงตาแข็งกร้าว มันคงจะเสียใจมากที่ผมดูจะยกมันให้คนอื่นง่ายๆ ซึ่งมันไม่จริงเลย ที่ผมทำแบบนั้นไม่ต่างจากการเฉือนหัวใจตัวเองทิ้ง เพื่อแลกกับการที่ได้อยู่กับมัน

   พี่จินกอดอกเทศนาพวกเราอีกรอบ “โป้ก็เรื่องหนึ่ง ซันก็ด้วย เลิกซะไอ้นิสัยโลกหมุนรอบตัวเองถ้ายังอยากจะอยู่กันยืด มันต้องถอยกันคนละก้าว กลับไปคิดทบทวนกันดีๆ ฉันไปพักล่ะ” เจ้าตัวตัดบทยามเห็นคนรักเดินลงมาจากบันได มูนเดินเข้ามาสวมกอดน้องชายกับน้องสะใภ้ก่อนจะพากันกลับไปพักผ่อน

   เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นพวกเราก็หมดอารมณ์จะหาอะไรทำต่อแล้ว ผมกับซันขึ้นห้องผลัดกันอาบน้ำแล้วมานอนก่ายหน้าผากบนเตียง ผมหันไปมองคนที่นอนหันหลังให้

   “มึงโกรธกูรึเปล่า” เรื่องที่ผมตัดสินใจไป...

   “โกรธ ทั้งที่กูรักมึงอยากมีมึงแค่คนเดียว มึงกลับยกกูให้คนอื่นง่ายๆ” โดนมันพูดใส่แบบนี้ผมก็หมดอารมณ์จะพูดอะไรต่อ พลิกตัวนอนหันหลังให้มันบ้าง จู่ๆ เตียงก็ไหวยวบพร้อมกับอีกคนที่ขยับมาสวมกอดทางด้านหลัง คางเกยอยู่บนบ่า ใบหน้าซุกอยู่แถวคอพูดใกล้หู “กูอยากจะอัดมึงติดข้างฝา แต่พอพี่จินบอกกูถึงได้คิด ว่ามึงเองก็มีเหตุผลของมึงเหมือนกัน ถึงงั้นก็ยังโกรธ มึงคิดว่ากูเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจมั้ยวะ”

   อ้อมแขนรัดแน่นจนผมเริ่มอึดอัด เอื้อมมือไปด้านหลังตบหัวมันปุๆ

   “แน่นไปคลายแขนออกหน่อย” ยังดีที่มันยอมทำตามที่ขอ แสดงว่ามันใช้ความเงียบก่อนหน้านี้ในการคิดทบทวนสงบสติอารมณ์บ้างแล้ว ผมพลิกตัวหมุนหน้าเข้าหาซัน เอาหน้าผากโขกมันเบาๆ “มึงมันเอาแต่ใจจริง เรื่องความเห็นแก่ตัว มึงเทียบกูไม่ได้หรอก”

   ซันหลับตาพึมพำออกมา “เรามันก็พอกันทั้งคู่ แบบนี้คบกับใครไม่ได้ ต้องคบกันเองดีที่สุด นอนเถอะ ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น กูจะไม่ทิ้งมึงเด็ดขาด”

   “เหมือนกัน ฝันดีมึง”

   “เออ ฝันดี”

   ผมจูบซันก่อนนอนเหมือนทุกวัน พยายามสลัดความคิดมากมายในหัวออกเพื่อนอนเอาแรงเตรียมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

   ยามเช้าที่บ้านเงียบเหงาเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรอไปจ่ายตลาดกับแม่เหมือนเมื่อวานโดยมีซันเป็นของแถม เพิ่งมีเหตุกันไปเมื่อคืนก็จริงแต่ผมอยากทำตัวคงเส้นคงวา ไม่อยากผิดคำพูด เราเลยมานั่งหน้าสลอนอยู่บนโซฟาชั้นล่าง กระทั่งแม่เดินลงมามองด้วยความแปลกใจ

   “อรุณสวัสดิ์ครับแม่” ผมยกมือไหว้ แม่ยกมือรับให้ผมใจชื้น ในขณะที่ซันเดินเข้าไปช่วยประคองอย่างเอาใจ ต่อให้เมื่อคืนมันพูดเสียงแข็งเถียงคอเป็นเอ็นแค่ไหนก็คงรู้สึกผิดกับแม่ไม่น้อย

   “ไปเถอะ เดี๋ยวตลาดจะวายซะก่อน”

   พวกผมมองหน้ากันลอบส่งยิ้มนิดๆ อย่างน้อยๆ แม่ก็ไม่ไล่พวกเราล่ะนะ!

   ตลอดทางซันดูแลแม่อย่างดี ไม่ว่าจะเปิดประตูรถให้ ช่วยถือตะกร้าปล่อยให้ผมเลือกของสดกับแม่ พวกเราคุยกันตามปกติต่างกันแค่ไม่ได้พูดจาหยอกล้อกันเท่านั้นเอง กลับจากตลาดผมช่วยแม่ทำอาหารมีซันเป็นลูกมืออีกคน วุ่นวายกันอยู่สามคนในครัว

   มูนจินที่อยู่บ้านอีกหลัง พอเข้ามาเห็นภาพนั้นก็พาให้โล่งอก ทั้งคู่ยกมือไหว้พ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟยามเช้า ก่อนช่วยจัดโต๊ะหลังอาหารเสร็จเรียบร้อย

   ระหว่างทานข้าวมีเพียงเสียงคุยกันเบาๆ กับเสียงกระทบของช้อนส้อม

   “เงียบๆ แบบนี้ไม่เหมาะกับบ้านเราเลย” แม่เปรยขึ้นมา ทุกคนเงยหน้าจากจานอาหารมองเป็นตาเดียว “เมื่อคืนแม่ไปนอนคิดดูแล้ว พวกลูกจะทำอะไรก็ทำไป แม่จะไม่บังคับอะไรอีก แต่ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่ามันเป็นทางที่ลูกเลือกเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตพวกลูกต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เข้าใจนะ” ทุกคนสัมผัสได้ว่าแม่จงใจไม่พูดถึงเรื่องทายาทเลยพร้อมใจกันไม่นึกถึงด้วย

   “แม่...ซันขอโทษ” ซันบอกเสียงอ่อน เหมือนลูกหมาหูตกอ้อนแม่

   “ช่วยไม่ได้นี่นะ ลูกๆ บ้านนี้ใจร้อนได้แม่กันทุกคน” มือที่เริ่มเหี่ยวย่นยกปิดปากหัวเราะ

   “น่าดีใจที่แม่รู้ตัวกับเขาเหมือนกัน” พ่อพูดลอยๆ แบบได้ยินกันทุกคนเลยถูกแม่ตีแขนแจกค้อนวงใหญ่

   แม้จะยังไม่เฮฮากันอย่างเก่า แต่บรรยากาศตึงๆ คลี่คลายลงก็เพียงพอแล้ว ผมยิ้มให้กับภาพพ่อหยอกแม่ ซันคอยตักอาหารให้แม่สลับกับผม พี่มูนดูแลพี่จินอย่างดี ชวนให้นึกถึงครอบครัวตัวเองขึ้นมา

   รอก่อนนะครับ ผมจะพาคนรักไปแนะนำบ้าง เพราะผมได้ความกล้าจากซันมาแล้ว...


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใจหายใจคว่ำหมด

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น้องโป้ของเจ้ สู้ๆนะลูกนะ พาซันไปพิชิตใจพ่อแม่ให้ได้

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โล่งอก อ่านทีแรกนึกว่าจะ มาม่า ซะแล้ว


 :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อันนี้น่าจะมาม่าชามเล็ก ชามใหญ่ต้องได้กินจากปู่ของโป้แน่เลย(?)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด