}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170815 ครั้ง)

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :pig4: :pig4: :pig4:

มันแบบว่า ฮ่าๆคิดถึงตัวเองชมัด 555

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
:pig4: :pig4: :pig4:

มันแบบว่า ฮ่าๆคิดถึงตัวเองชมัด 555

ฉากไหนเอ๋ย *-*

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ไปบ้านโป๊กัน

ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ฟู่ววววววววววว ถอนหายใจยาวๆ หวั่นมาม่าจริงๆ ถึงครั้งนี้จะไม่ได้กินแต่เตรียมใจไว้ว่าอีกไม่นานคงได้กินแน่ๆเลยย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่26 ลักนะ

   แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องทำหน้าที่ ว่าที่เมียเจ้าของรีสอร์ทที่ดีก่อน

   “โป้เตรียมหมูให้พี่ที” พี่ที่หน้าตารุ่นพ่อตะโกนสั่งข้ามฟาก ผมวิ่งขาขวิดเอาผักที่หั่นล้างไว้ให้ถึงมือ ก่อนจะหมุนตัวไปทำงานอย่างอื่นต่อ เรื่องของเรื่องคือ หลังมื้อเช้าผมกับซันมาเดินเล่นในรีสอร์ทกระชับมิตรกับซันไม่เท่าไร พี่มูนก็ให้คนมาตามพวกเราไปช่วยงาน เพราะลูกค้าไม่รู้แห่มาจากไหนกลุ่มใหญ่

   ซันต้องวิ่งไปรับหน้าส่วนผมโดนพี่มูนเตะโด่งเข้าไปในครัว ให้เหตุผลว่า

   “เมื่อวานโป้ก็ช่วยในครัวสินะ วันนี้ช่วยอีกแล้วกัน ถือซะว่าฝึกมือก่อนมาบริหารกับซันในอนาคต”

   นั่นล่ะครับท่านผู้ชม ผมถึงได้หัวหมุนอยู่ในห้องครัวแบบนี้ ในใจสงสัยว่าหน้าที่คนครัวกับพนักงานโบกรถช่วยฝึกเรื่องการบริหารรีสอร์ทยังไง แต่เอาเถอะ ผมเต็มใจช่วยอยู่แล้ว งานไหนก็ไม่เกี่ยง

   ช่วงสายไม่เท่าไหร่ ตอนเที่ยงในครัวไม่ต่างจากขุมนรก เสียงชู่ช่าของการทำอาหาร กลิ่นตลบอบอวนจนท้องร้องจ๊อกๆ ผมมองเนื้อดิบในมือน้ำลายไหล ก่อนสลัดหัวไล่ความคิดพิลึกเพราะพ่อครัวใหญ่กำลังจ้องเขม็งมาทางนี้ เอาวะ รีบทำงานให้เสร็จจะได้กินข้าว

   ว่าไปนั่น พวกพี่ๆ เขาก็ไม่ได้โหดร้ายถึงกับให้ผมอดข้าวหรอก เพียงแต่ลูกค้ามากินข้าวเที่ยงเยอะมาก ทั้งแบบนั่งในห้องอาหาร และแบบเอาไปเสิร์ฟที่บ้านพัก ทุกคนยังไม่มีใครได้กินแล้วจะให้ผมไปนั่งกินคนเดียวได้ยังไง ร่วมด้วยช่วยกันจนกระทั่งงานเริ่มซา พ่อครัวใหญ่ก็ประกาศทั้งที่ยังยืนถือตะหลิวผัดข้าว

   “ลูกค้าเริ่มน้อย สลับกันไปพักกินมื้อเที่ยงได้” เหล่าคนครัวขานรับ หาทำกับข้าวง่ายๆ ไปนั่งกินที่โต๊ะหลังครัว ซึ่งทางรีสอร์ทจัดไว้ให้โดยเฉพาะ เหลือเพียงสามสี่คนที่ช่วยงานพี่เต่า ผมคือหนึ่งในนั้น

   “โป้ ไปพักก่อน วันนี้ช่วยได้มากเลย” ตะหลิวชี้หน้า ผมเอียงหัวหลบเสียวโดนแนบแก้ม

   “ไม่เป็นไรพี่ ผมช่วยอีกนิดค่อยไปกินก็ได้” บอกอย่างใจกว้างทั้งที่พยาธิเริ่มประท้วง

   “บอกให้ไปก็ไปสิ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาคุณมูนเอาเรื่องพี่ตายพอดี เป็นถึงเพื่อนคุณซันแต่ยอมมาช่วยงานก็ขอบคุณมากแล้ว” พี่เต่ายิ้มให้ทั้งที่หน้ามันเยิ้ม คนที่รู้ว่าผมเป็นแฟนซันมีแค่พนักงานกับลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น พี่เต่าเขาเป็นพ่อครัวกะเช้าเลยเข้าใจว่าเป็นเพื่อนกันเฉยๆ

   ผมไม่ปฏิเสธ เรื่องส่วนตัวไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ ไม่ใช่ทุกคนจะรับได้ พวกลูกค้าเมื่อวานก็เหมือนกัน พี่มูนเป็นคนออกหน้าแจ้งลูกค้าโดยอ้างว่าจะมีคู่รักชายชายมาสารภาพกันในห้องอาหาร สำหรับคนที่ไม่สะดวก ทางรีสอร์ทจะส่งอาหารให้ฟรีถึงบ้านพัก บางส่วนจึงกลับไป ทุกอย่างเลยสวยงามไม่มีปัญหาอะไร

   ผมลอบถามพี่มูนลับหลังเหมือนกัน ว่าทำแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ คุณพี่คนเก่งหัวเราะ บอกผมว่าถือเป็นการโปรโมทให้คู่รักมาที่รีสอร์ทเราไปในตัว แถมยังเป็นรีสอร์ทเปิดกว้างรับได้ทุกเพศ อาศัยพวกลูกค้าเมื่อคืนช่วยกันกระจายข่าวต่อ เท่านี้เงินก็จะไหลมาเทมา ไม่เสียลูกค้าเก่า ลงทุนนิดหน่อยได้กำไรเท่าทวี ผมละนับถือพี่มูนจริงๆ

    “ถ้างั้นผมขอแบ่งข้าวผัดนี่ไปสักสองจานนะครับ ผมจะเอาไปให้ซันด้วย” กลับสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน ข้าวผัดที่พี่เต่าทำก็ให้พนักงานนี่แหละ ทุกคนสามารถมารับข้าวที่ครัวไปกินฟรีวันละสามมื้อ แต่ถ้านอกเวลาต้องหากินกันเอง ถือเป็นการช่วยเสริมให้ทุกคนตั้งใจทำงาน

   “เอาไปเยอะๆ เด็กผู้ชายวัยกำลังโตกินจุเป็นธรรมดา ฮ่าๆ!” หัวเราะเหมือนซานตาคลอสพร้อมตักข้าวผัดใส่จนพูนจาน ผมยิ้มแห้งเอ่ยขอบคุณแล้วเอาต้นหอมกับมะนาวฝ่าซีกวางขอบจาน คว้าน้ำมาสองขวดค่อยยกไปด้านนอก ไม่รู้ซันมันอยู่ส่วนไหนของรีสอร์ท ผมเลือกโต๊ะหลบมุมเหมาะๆ แล้วโทรหา รอไม่นานก็รับสาย

   /มีไร/ ห้วนตามนิสัย

   “กินข้าวมึง อยู่ไหนวะ” ผมมั่นใจว่ามันยังไม่กินแน่นอน อย่างซันถ้ามันจะกินต้องมาชวนผมก่อน มันยอมอดได้แต่ไม่ยอมให้ผมอดเด็ดขาด

   /มึงยังไม่กินข้าวอีกเหรอ/ เสียงเหวี่ยงมาเลย ผมกลอกตาเอือม

   “รอกินพร้อมมึงเนี่ย อยู่ไหนก็ช่าง รีบมาไวๆ กูรอที่ห้องอาหารใกล้ครัว หิวจะตายอยู่แล้ว” ตอแหลเน้นๆ ผมเพิ่งทำงานเสร็จต่างหาก

   /เออๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ กินไปก่อนเลย/ สิ้นคำก็วางสาย ไม่ต้องห่วงนะ ผมนั่งตักกินระหว่างคุยกับมันเนี่ย ช่างเป็นแฟนที่ดีจริงๆ พิสูจน์รสชาติให้ก่อนเสียสละสุดๆ

   ไม่ถึงสิบนาทีไอ้ซันก็วิ่งเหงื่อท่วมมานั่งตรงข้าม ผมดันขวดน้ำไปให้ มันกระดกซะครึ่งขวด เอ็งจะกินข้าวยังไง ดวงตาคมๆ มองจานข้าวผัด เห็นผมกินก่อนก็ไม่ว่าอะไร ถ้าผมรอมันสิจะโดนด่า

   “มึงทำเองปะ”

   “ไม่ว่ะ พี่เต่านะ อร่อยนะมึงกินดู” ดูมันเสียดายนิดหน่อย แต่ก็บีบมะนาวตักข้าวใส่ปากพยักหน้าหงึกหงัก ต่อจากนี้ไม่จำเป็นต้องพูด ต่างคนต่างจ้วงข้าวกินดับความหิวโหย ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ข้าวที่พี่เต่าให้มาพวกเราฟาดซะเรียบ ไอ้ซันยังลุกไปขอเติมด้วยซ้ำ หลังจากนั้นผมเลยนั่งดูมันกินแทน

   “จะกลับหอตอนไหน” ผมถาม วันจันทร์เรามีเรียนเลยต้องกลับวันนี้

   “กินข้าวเสร็จพักสักหน่อยแล้วกลับเลยก็ได้ เสื้อผ้าเก็บไว้แล้วนี่ อันที่จริงมึงทิ้งชุดบางตัวไว้ที่ห้องกูได้นะ เผื่อมานอนค้างอีก” พูดราวกับเป็นเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่ตาหลุกหลิก หูตั้งรอฟัง เพราะมันหมายความว่าหากผมทิ้งชุดไว้คือ จะกลับมาบ้านมันอีกครั้งแน่ๆ เอาใจไอ้เถื่อนหน่อยละกัน น่ารักขนาดนี้

   “เออ ทิ้งไว้หมดนั่นแหละ เอาไปเฉพาะพวกของจำเป็นพอ”

   ซันเงยหน้ามองอย่างไม่อยากเชื่อแล้วก้มหน้าก้มตากินซ่อนรอยยิ้มมุมปาก ผมหันหน้าไปทางอื่นพยายามท่องนะโมในใจ แฟนใครวะ น่ารักน่าใคร่ซะจริง อ๊ะๆ อย่าได้หวังฉากเช็ดปากเช็ดหน้านะ ฮาร์ดคออย่างเราไม่มีหรอก

   “ซัน ข้าวติดปาก”

   “ไหนวะ”

   จุ๊บ ยกแขนบังจัดการใช้ลิ้นตวัดเม็ดข้าวแล้วผละออก ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาที ซันตาโตอ้าปากค้าง ผมเลียริมฝีปาก เท้าคางเลิกคิ้วมองให้มันกินต่อ

   หึหึ ลวนลามสามีวันละนิดจิตแจ่มใส ในเมื่อผมเปิดใจรักมัน ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องฝืน อยากทำอะไรก็ทำขอแค่ผมพอใจเป็นพอ ซันชี้หน้าผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

   “กลับห้องไปมึงเจอกูแน่” เสียงรอดไรฟันมาเชียว พี่โป้ไม่กลัวหรอกจ้ะ

   “มาเลย ถ้าช้ากูลุยเองนะ” ทิ้งทวนอีกประโยค ผมระเบิดเสียงหัวเราะขำท่าทางเหมือนอยากกระโจนมาขย้ำให้ตายของซัน หยอกเล่นไปงั้น ผมเลยลุกไปขอผ้าเช็ดมาให้มันซับหน้าดับอารมณ์อยากเตะเมีย

   กินข้าวเสร็จผมเก็บจาน ซันไปดูงานต่ออีกหน่อยค่อยพากันกลับบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบอกลาทุกคนก่อนออกเดินทาง เรายืนกันอยู่หน้าบ้าน รถติดเครื่องรอไว้เรียบร้อย

   “ซันกลับกรุงเทพก่อนนะ” ลูกชายคนเล็กยกมือไหว้ลา

   “ว่างๆ ก็กลับมาบ้านบ้าง โป้ด้วยนะลูก” บอกลูกชายเสร็จก็หันมาบอกแฟนลูกต่อ ผมดีใจแทบน้ำตาปริ่ม

   “ครับ ไว้ผมจะขอมารบกวนอีก พ่อแม่รักษาสุขภาพด้วยนะครับ พี่มูนพี่จินขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง” ยกมือไหว้ทุกคนบ้าง เวลาแค่สามวันสองคืน แต่ผมได้อะไรจากครอบครัวนี้ไปมากจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องซัน
 
   “ขอบคุณอะไรกัน พี่ไม่คิดจะช่วยฟรีๆ อยู่แล้ว ตอบแทนด้วยการดูแลซันดีๆ ล่ะ” พี่มูนเดินเข้ามากอดผม พี่จินแค่ยิ้มให้นิดๆ อย่างไว้มาดตามเคย

   “รีบไปเถอะ เดี๋ยวมืดค่ำจะขับรถลำบาก” พ่อเห็นลากันไม่เสร็จสักทีเลยพูดดัก เราถึงได้ฤกษ์เดินทางสักที ซันลารอบสุดท้ายแล้วพวกเราก็ขับรถออกจากรีสอร์ท

   งานนี้ผมไม่ยอมให้ซันเหมาขับคนเดียวตลอดทางแน่ ตอนเติมน้ำมันกลางทางแอบเนียนมานั่งตำแหน่งคนขับล็อคประตูบังคับให้ซันไปนั่งด้านข้าง มันมองผมอย่างหัวเสียแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมเลยยึดพวงมาลัยจนถึงคอนโด

   เหนื่อยมาทั้งวันมื้อเย็นผมเลยไม่ทำอาหาร ลงมาหาอะไรกินง่ายๆ ข้างล่างแทน จังหวะที่อาบน้ำเตรียมเข้านอน ไอ้ซันยืนกอดอกเป็นยักษ์อยู่หน้าประตู

   “มึงคงไม่ลืมนะว่าทำอะไรไว้”

   ผมตีหน้าซื่อแกล้งมัน “ที่กูแย่งขับรถเหรอ อย่าคิดมาก กูแค่ไม่อยากให้มึงเหนื่อยคนเดียว” เฉไฉไปนู่น ส่วนสูงพอกันอย่าคิดจะข่มซะให้ยาก

   “เฮ้ย!” ไอ้เถื่อนเลิกเถียง เพราะยังไงก็คงเถียงเมียไม่ชนะเลยรวบเอวเหวี่ยงลงเตียงแม่ง! ผมตกใจที่จู่ๆ ตัวก็ลอยวืด ไอ้แรงช้างสารเอ้ย พอมันตามมาทับผมพลิกตัวกลับทันที สองมือยึดบ่าอีกฝ่ายติดเตียง ก้มลงไปกระซิบสั้นๆ

   “อยู่เฉยๆ เดี๋ยวกูทำเอง…”

   เท่านั้นแหละ ผมก็ได้ทำตลอดทั้งคืนสมใจ ทำบนตัวมันนะเมื่อยขาฉิบหาย ดีที่มีเรียนบ่ายไม่งั้นกูตายยยย

   ถามว่าวันรุ่งขึ้นตื่นมามีฉากโรแมนติก?

   ณ ห้องโป้ เหนือเตียงหลังกว้างมีร่างชายสองคนในสภาพ...ปิดไว้ด้วยผ้าห่มผืนเดียว คนตัวขาวขยับหนีแสงอาทิตย์ ซันลืมตาตื่นผงกหัวดูนาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ถึงอย่างนั้นก็ยังใจดี พลิกกายคร่อมทับเพื่อบังแสงอาทิตย์ให้(?) ริมฝีปากก้มจูบขมับเลื่อนลงไปดูดเม้มริมฝีปากบวมจากเมื่อคืน มือลูบโคนขาล็อคติดเอวเพื่อกล่อมนอน(??)

   “อืมม” ไม่ใช่เสียงคนหลับแต่อย่างใด มันคือเสียงคนตัวใหญ่ครางในลำคอ

   “อะ...เหี้ยซัน อย่ากวนกู อ่า...” ใบหน้าหันซุกกับหมอนทั้งที่ในใจอยากจะแหกอกคนกวนเวลานอน

   “ฮืมมม” ขบฟันผ่อนลมหายใจหนักขณะขยับกายเบียดลึกจนอีกคนตัวโยก ผ้าห่มเลื่อนหลุดไปอยู่ตรงปลายเตียงยามคนด้านบนจัดท่าทางอำนวยความสะดวกตัวเอง คุกเข่าบนเตียง แขนช้อนคอพับพาดบ่าพลางโน้มกายลงไม่นำพาคนที่กำลังจะขาดใจ ทั้งเบลอผสมอยาก

   “โทษทีว่ะ เมื่อคืนลืมเอาออกให้ แต่ไม่เป็นไรจะได้ไม่เปลืองเจล” คนลักหลับกลั้วหัวเราะในคออารมณ์ดี คนโดนลักจำต้องตื่นถลึงตาใส่

   “เปลืองเจล อะ...อะไร หมดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเว้ย!” กระแทกเสียงท้ายประโยคด้วยความฉุนเฉียว หงุดหงิดที่โดนปลุกในหลายๆ ความหมาย

   “เหรอวะ เสียดาย ที่ริวซื้อมาฝากใช้ดีซะด้วย คิดว่ามันจะมีให้สั่งซื้อในเน็ตไหม” ยังคงลอยหน้าลอยตาทั้งที่ยังไม่หยุดการกระทำ

   “พ่อง!!” คำเดียวพร้อมชูนิ้วกลางจบบทสนทนาทุกอย่าง แขนข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก แม้จะล้าไปทั้งตัว มาถึงขั้นนี้ก็หยุดไม่ได้แล้ว มีแต่ต้องทำให้เสร็จ อีกฝ่ายก็ดูจะเข้าใจยอมเร่งจังหวะให้คนรองรับสบถปนครางไม่ได้ศัพท์จนเสร็จกิจยามเช้า ทิชชู่ม้วนใหม่ถูกหยิบมาใช้เช็ดทำความสะอาด ร่างหนาค่อยๆ ขยับกายออกรวบตัวคนรักมาหอมแก้มดังฟอด

   “ออกกำลังกายตอนเช้า สดชื่นดีเนอะ”

   “ไปตายให้หนอนแดกซะ”

   “กูขอโทษษษ” ลากเสียงยาวๆ อย่างน่าหมั่นไส้ “ขอโทษที่สุขภาพดีไปหน่อยเลยคึกคักตอนเช้า เดี๋ยวกูอาบน้ำเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้ ระหว่างนั้นมึงนอนห้องกูไปก่อนนะเมีย”

   ไร้เสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ไม่รู้ว่าหลับไปแล้วหรือขี้เกียจต่อปากต่อคำ ซันอุ้มอีกฝ่ายพาไปอาบน้ำตามที่บอก ก่อนจะกลับมาจัดเตียงเก็บห้อง เตรียมอาหารสวมบทบาทเป็นพ่อบ้านชั่วคราว พอสิบเอ็ดโมงก็ปลุกโป้ให้ตื่นมากินข้าวก่อนไปเรียน

   ผมอิดออดนิดหน่อย นั่งทำใจอยู่พักหนึ่งถึงลุกไปแต่งตัว แม้สังขารจะไม่ให้ แต่ขาดเรียนก็ไม่ดี ยังนับว่าซันรู้จักหน้าที่ ยอมขับรถรับส่งทั้งที่ปกติไม่ชอบขับในกรุงเทพ ถ้ามันอุ้มผมเดินไปส่งที่ห้องเรียนได้มันก็จะทำ

   การจราจรในช่วงเที่ยงยังไม่น่ากลัวเท่ากับตอนเช้าและเลิกงาน รถยังพอไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่จอดแหง่กอยู่กับที่

   “ใกล้เลิกแล้วมึงโทรมาเลย เดี๋ยวกูมารอ” ซันบอกก่อนจะเลี้ยวเข้ามหา’ลัย

   “มึงเลิกไวเหรอ?” ปกติน่าจะเลิกพร้อมกัน มันดันบอกว่าจะมารอ

   “คาบท้ายๆ ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่อาจารย์สรุปบทเรียนเฉยๆ มึงคงไม่ลืมนะว่าใกล้สอบแล้ว”

   ผมเบิกตากว้าง ลืมไปซะสนิท! ถูกเรื่องวุ่นวายที่เกิดติดต่อกันพักหลังดึงความสนใจไปหมด สมองคิดเร็วจี๋ว่ามีงานค้างอะไรที่ต้องทำรึเปล่า งานบางส่วนผมทำส่งไปแล้ว เหลืองานคู่ที่ต้องสร้างโมเดลร้านที่ตัวเองออกแบบไว้ตั้งแต่ต้นเทอม

   ซันเห็นผมอ้าปากพะงาบๆ ก็พอเดาได้ว่าภรรเมียลืมชัวร์ “อย่าเพิ่งช็อก รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สาย มีงานค้างอะไรก็รีบทำซะ อยากให้กูช่วยก็บอก ไปเรียนได้แล้ว ตั้งใจนะมึง เกรดปีหนึ่งมันสำคัญ” หนุ่มผิวเข้มพูดเอาการเอางานระหว่างจอดเทียบหน้าคณะสถาปัตยกรรม มีนักศึกษานั่งกินข้าวเต็มโรงอาหาร หลายคนหันมองด้วยความสงสัย บางคนก็ชินแล้ว เห็นรถคันนี้มาบ่อยจนเข้าใจผิดว่าเป็นรถเด็กคณะตัวเอง

   “ขอบใจที่เตือน งั้นกูบอกเลยแล้วกัน กูอาจจะต้องไปค้างห้องเพื่อนสักสองสามวัน”

   “หา!?” อือหือ เสียงโหด ตะกี้ใครมันพูดซะดิบดีวะ

   “ก็เพิ่งนึกออกว่ามีงานกลุ่มต้องทำส่งภายในอาทิตย์นี้ ต้องเตรียมสไลด์พรีเซนด้วย”

   “ค้างกับใคร กูรู้จักมั้ย” ซันขยับตัวหันมามองคู่สนทนาชัดๆ

   “แม็คไง ไม่ต้องห่วง มันมีเมียแล้ว เมียมันสวยด้วยแถมอึ๋มมาก” ผมทำมือให้เห็นว่าอึ๋มขนาดไหน ไอ้ซันหรี่ตามอง

   “กับไอ้แม็คไม่มีปัญหา แต่กูจะมีปัญหาเพราะเรื่องอึ๋มมึงนี่แหละ มึงพากูเป็นเกย์แล้วอย่าได้คิดกลับลำเชียว ไม่งั้นกูจะกดให้มึงลืมผู้หญิงเลย” มีชี้หน้าขู่ โหดตลอดอะผู้ชายคนนี้

   “ครับๆ เข้าใจแล้ว กูไปละ โชคดีมึง” รีบเผ่นลงจากรถแล้วเดินเข้าคณะโดยไว อยู่ต่อมีสิทธิ์คลานไปเรียนได้ อาศัยหางตามองเห็นซันออกรถไปแล้วค่อยผ่อนลมหายใจ...

   ป้าบ!

   “เชี่ย!” แรงตบที่หลังสะเทือนถึงเบื้องล่าง ผมต้องกัดฟันเกร็งขาที่เกือบทรุด คนประทุษร้ายเหมือนเพิ่งรู้ตัว ใช้มือยึดบ่าผมไว้แทนการพยุงแบบเนียนๆ

   “เฮ้ย โทษทีๆ เมื่อคืนหนักไปเหรอ” ความหมายเหมือนหายไปกินเหล้า แต่รู้กันดีว่าความจริงคืออะไร ผมตวัดตามองไอ้แม็ค ไม่ติดว่ากำลังเข่าอ่อนจะกระโดดขาคู่ให้

   “เออ! วันหลังดูก่อนค่อยทัก”

   “เมื่อคืนมึงแดกเหล้า?” อาร์ทมาสมทบ จับแขนเสื้อผมไปดม “ไหนกลิ่นละมุด กูได้แต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม” อาร์ทผู้ไม่รู้เรื่อง ก็ปล่อยให้มันง่าวต่อไป ผมหันไปทางแม็คพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าไหวแล้ว มันถึงยกมือออกไป

   “พวกมึงกินข้าวแล้วใช่ป่ะ งั้นขึ้นเรียนเลย กูจะคุยเรื่องงานที่อาจารย์สั่ง”

   “แล้ว กูก็จะคุยกับมึงเรื่องนี้เหมือนกัน เดินไปคุยไปจะได้ไม่สาย”

   “จะเดินไม่ว่า แต่กูไม่ขึ้นบันไดเด็ดขาด” ผมกดเสียงต่ำ แม็คหัวเราะฮา อาร์ทยังคงควายต่อไป เราสามสหายที่มาจับกลุ่มรวมกันตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ เคลื่อนพลไปยืนเต๊ะจุ๊ยรอลิฟท์ ระหว่างนั้นเราก็คุยเรื่องงาน

   “เรื่องโมเดลกูว่าจะขอไปทำห้องมึงว่ะ ใกล้มหา’ลัย ไม่ต้องเสี่ยงโมพังก่อนถึงมืออาจารย์” ผมเสนอสิ่งที่คิด แม็คพยักหน้าไม่มีปัญหา

   “เอางั้นก็ได้ ส่วนเรื่องที่กูจะบอกคือ อาร์ทอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราด้วย พอดีมันโดนแบนออกจากกลุ่มเก่า”

   “กูไม่มีปัญหาอะไร มีคนช่วยสิดี แต่พวกมึงไปขออาจารย์แกแล้วยัง” ขืนย้ายกลุ่มกันมั่วซั่วแบบเด็กประถมได้โดนด่าตายพอดี คราวนี้อาร์ทเป็นคนพูดบ้าง

   “กูขอมาเรียบร้อย บอกว่าพวกมันไม่ยอมทำงาน ให้กูทำอยู่คนเดียวเลยมาขออยู่กลุ่มพวกมึงที่มีแค่สองคน จารย์เลยอนุญาต”
   
   ผมชกหมัดใส่ไหล่อาร์ท “ร้ายนี่หว่ามึง กล้าโกหกอาจารย์เลยเรอะ”

   “มันไม่ได้โกหก พวกแม่งอู้งานจริงๆ ไม่งั้นจารย์ไม่ยอมง่ายๆ หรอก”

   แม็คกอดคออาร์ทเดินนำเข้าไปในลิฟท์ที่มีประชากรหนาแน่น พยายามทำตัวลีบๆ ติดประตูเข้าไว้ เพราะด้านหลังมีพวกผู้หญิงต้องเว้นระยะห่างนิดหน่อย เดี๋ยวอะไรๆ มันจะโดนกัน ทรัพยากรมีน้อยต้องดูแลอย่างดี แม้ว่าจะเป็นสาว(เหลือ) น้อยก็ตาม

   ไอ้พวกผมก็ยังมานะคุยกันต่อนะ “อ่าฮะ ยินดีต้อนรับนะสหาย เตรียมตัวหัวฟูได้เลย งานนี้เราต้องปั่นกันไฟลุก” ผมพูดติดตลก ไหงพวกมันไม่ขำด้วยหว่า

   “หวังว่างานนั้นจะไม่ใช่ของผมนะ คุณระ-ตะ-นะ” เสียงคุ้นหูทำเอาผมสะดุ้งโหยง ลิฟท์ถึงชั้นสามพอดี พวกเราที่อยู่หน้าประตูรีบเดินออก เหล่านักศึกษาเปิดทางให้อาจารย์หนุ่มหน้านิ่ง ผมยิ้มแห้งยกมือไหว้

   “สวัสดีครับอาจารย์ยศ” หรือชื่อเต็ม ‘ยศวร’ คนเดียวกับที่เคยบอกให้ผมเพลาๆ เรื่องเหล้านั่นแหละ ที่อาจารย์เรียกชื่อผมแบบนั้นมันมีประเด็นอยู่ ชื่อผมเขียนว่า ‘รตน’ อาจารย์อ่านผิดเป็น รด-ตะ-นะ อยู่เรื่อย ผมเลยต้องยกมือบอก หลังจากนั้นอาจารย์ยศก็เน้นเสียงทุกครั้ง ไม่รู้ว่ายังไงเหมือนกัน

   “ครั้งนี้ไม่มีกลิ่นละมุด แต่ท่าทางไม่ดี ออกกำลังกายบ้างนะ เด็กสมัยนี้ชอบนั่งๆ นอนๆ” แล้วอาจารย์แกก็เดินนำเข้าห้องเรียน พวกเราเหมือนลูกสมุนสามตัว สงบเสงี่ยมตามหลังต้อยๆ ในใจนึกเถียง อาจารย์อายุมากกว่าพวกเราไม่กี่ปีเองนะคร้าบ อย่าเพิ่งทำตัวแก่สิ แน่นอนว่าไม่พูดออกไปเด็ดขาด เดี๋ยวเกรดปลายเทอมจะป่นปี้กว่านี้


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:    น่ารักกันจัง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กลับมาแล้วววววว คืดถึงมากมายยย

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากค่า รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
คิดถึงจังเลย หายไปรีไรท์นานเชียว เกือบลืมแล้วน่ะเนี่ย ดีที่เป็นเรื่องโปรดเลยจำซันโป้ได้เสมอ  :hao3:

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ TonyPat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew5: สานุกมากๆๆ ชอบๆๆ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สนุกดีจ้า ปูเสื่อรอ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่27 สามีที่ดี

   มีคดีตั้งแต่ก่อนเข้าเรียน ระหว่างอาจารย์สอนพวกผมสามคนเลยสงบเสงี่ยมเป็นพิเศษ เด็กดีว่าง่ายเชื่อฟัง อาจารย์ถามก็ตอบ ไม่ถามก็เร่งมือจดยิกๆ พยายามทำตัวน่ารักเต็มที่ ใช่ว่าอาจารย์ยศแกจะมองไม่ออกนะ ขำแกมเอือมมากกว่า ก่อนออกจากห้องเลยทิ้งท้าย

   “ใครยังไม่เริ่มทำโมเดลก็ขอให้รีบทำซะ คาบหน้าหากใครทำไม่เสร็จ ไม่พร้อมพรีเซนต์หรืองานไม่ได้คุณภาพ ผมจะถือว่าคุณสละคะแนนงานในส่วนนี้ไป” วาจาโหดร้ายพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มดุจพ่อพระ ไม่สนเสียงโหยหวนของสัมภเวสี เอ๊ย เหล่านักศึกษาผู้ขี้เกียจตัวเป็นขน

   ผมไม่ได้โอดครวญตามคนอื่นเค้า ในเมื่ออีกความหมายหนึ่งที่อาจารย์จะสื่อก็คือ ขอแค่งานเสร็จมีคุณภาพพร้อมพรีเซนต์ตามเวลาที่กำหนดยังไงก็ได้คะแนนน่ะสิ! ความจริงการเผางานก็ไม่ดีนักหรอก แต่มันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็กมหา’ลัยแบบตัดไม่ขาด รู้ทั้งรู้ว่าควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ก็ผัดวันประกันพรุ่งยันวันสุดท้าย ยกเว้นสามสหาย ซัน ริว มิท ซันมันขยัน ริวมันโดนลุงรหัสจี้ มิทมันต้องเร่งทำเพราะมันหายหัวบ่อยๆ แลดูเป็นคนมีกิจธุระตลอดเวลา

   ช่างพวกนั้นก่อน กลับมาที่พวกผมดีกว่า เราสามหน่อยังไม่ออกจากห้องทันทีเพราะต้องนัดแนะกันก่อนว่าจะเอายังไง

   “สรุปว่าไปทำงานที่ห้องไอแม็ค แล้วเรื่องซื้อของล่ะ” อาร์ทถามมันสละเรือออกจากกลุ่มเก่าถาวร ขนาดพวกนั้นมองมามันยังไม่สนใจเลย ซึ่งก็ดี พวกเด็กน้อยน่ารำคาญ วันนี้สารร่างผมไม่สะดวกบวกกับชาวบ้าน

   “มึงซื้อกระดาษชานอ้อยมา แบบหนาแผ่นหนึ่งไว้ทำฐาน แบบบางสักหลายๆ แผ่นหน่อย ไม่พอค่อยซื้อเพิ่ม ถ้าเหลือก็เอาไว้ทำงานหน้า ซื้อกระป๋องสเปรย์สีเทากับขาวมาด้วยเอาไว้พ่นโม” ผมแจกแจงให้มันจด จากห้องมันใกล้ร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนที่สุดแล้วหันไปทางแม็คต่อ “ส่วนมึงเตรียมห้องรอ เคลียร์พื้นที่ไว้เลยห้องหนึ่ง ไม่ใช่พวกกูไปเจอชั้นในเมียมึงนะ” ผมไม่เคยเจอหรอก บอกเผื่อไว้เฉยๆ

   พอเห็นไอ้แม็คทำหน้าเขินๆ ฉิบหายเรื่องจริงเรอะ อยากขำให้ฟันร่วง... คิดอีกที ขำไม่ได้นี่หว่า ขนาดผมกับไอ้ซันยังเคยมีกกน.บินไปอยู่ตรงลูกบิดประตูห้องนอนไม่ก็ทีวี ซึ่งผมไม่เข้าใจเหมือนกัน ไอ้ซันมันแม่นหรือยังไง แต่ที่แน่ๆ คือผมชี้นิ้วสั่งให้มันตามเก็บซากที่มันก่อ อยากใจร้อนลอกคราบผมดีนัก

   เหมือนผมจะเหม่อนานไปหน่อย สองตัวเลยมองหน้าผม แม็คทำหน้ากรุ่มกริ่มคงเข้าใจว่าผมกำลังคิดเรื่องทะลึ่งๆ อยู่ ซึ่งมันก็ถูก ไอ้อาร์ทยังคงทำหน้าหมางงได้อย่างคงเส้นคงวา แปลกใจว่าทำไมผมไม่พูดต่อ ผมแสร้งกลบเกลื่อนโบกมือปัดๆ  “ก็อย่างที่บอกไป เรื่องไฟล์พรีเซนต์ใช้คอมแม็คเอา ห้องมึงมีกรรไกรคัตเตอร์ใช่มะ ไม้บรรทัดยาวๆ ด้วย”

   “มีอย่างละอันซึ่งกูคิดว่าไม่น่าพอ เอามาจากห้องพวกมึงด้วยแล้วกัน” เจ้าของห้องนึกตาม ของพวกนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของพวกเราเลย แต่ไม่มีใครบ้าพกคัตเตอร์ทีสามสี่อัน

   “ได้ ส่วนเรื่องกาวเดี๋ยวกูเป็นคนหาไปเอง วันนี้แยกย้ายกลับไปเตรียมตัวก่อน เอาชุดมาเปลี่ยนด้วย เราจะสิงสถิตห้องไอ้แม็คกัน งานไม่เสร็จไม่กลับห้อง!” ประกาศกร้าวอย่างมุ่งมั่น พวกมันก็บ้าเล่นไปกับผมด้วย ทำเอาสาวเหลือน้อยในคณะหันมามองหัวเราะกันใหญ่เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวตั้งวงอยู่

   พวกผมมีหรือจะสน ยืดอกรับทำท่าตลกให้เพื่อนขำยิ่งกว่าเดิมจนผมโดนผอสระอัวโทรตามนั้นแหละ ถึงรีบเสด็จจากห้องเรียนลงลิฟต์มาหาซัน มัวแต่คุยเพลิน ดันลืมไปว่ามันสั่งให้โทรหาหลังเรียนเสร็จ พอเปิดประตูรถเห็นพ่อท่านตีหน้ายักษ์ทันที อ้าปากกำลังจะด่า ผมยกมือสต๊อป

   “ช้าก่อนสหาย อันตัวข้าปรึกษาเพื่อนเรื่องงาน ทำให้ลงมาช้า ไม่ได้ลืมโทรหามึงนะจริงจริ๊ง!” ทำไมท้ายประโยคผมต้องเสียงสูงขนาดนี้ด้วยนะ...

   คิ้วเข้มขมวดยุ่ง “เป็นเหี้ยไร ใครสหายมึง แม่งลืมกูได้ตลอดๆ” เจ้าตัวเริ่มบ่นๆ ผมเข้าไปนั่งคาดเข็มขัดเรียบร้อย ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงให้มันเลิกบ่นดี ก่อนจะปิ๊งไอเดียอาศัยช่วงรถจอดรอคันหน้าออก กระชากคอเสื้อมันมาจูบปาก ไอ้ซันมีหรือจะตกใจมันสวนทันทีแล้วรุกไล่จนผมเกือบอดใจไม่ไหว

   “พอเว้ย! ออกรถได้แล้ว” ผมบอกเสียงอู้อี้มันยังรั้งท้ายทอยแนบปากไม่เลิก ลิ้นซนฉิบหาย ได้ยินเสียงคันหลังบีบแตรไล่ถึงยอมผละออกสักที ตอนนี้พวกเรายังอยู่ในรั้วมหา’ลัยนะ ผมยังไม่อยากก่อเหตุ แค่คิดจะง้อมันเฉยๆ

   “โป้...”

   “ไรมึง”

   “มึงคิดว่าความรักคืออะไร” จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาทั้งที่มือกำพวงมาลัย ดวงตาจ้องไปข้างหน้า อารมณ์ไหนของมันเนี่ย ผมหรี่ตามองซันอย่างระแวง

   “รักก็คือรัก ยังคิดว่ามันเป็นอะไรได้อีก”

   “ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง” เริ่มมาแบบนี่ผมเก็ตเลย ต่อประโยคแบบเอือมระอา

   “ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้ ใช่มะ”
   
   “เปล่า ลองในรถบ้างก็ดี มา! ตักกูพร้อม” ไม่พูดเปล่ายังใช้มือหนึ่งตบตักเหลือบมองแบบเชิญชวนสุดๆ แถมหัวเราะเสียงทุ้มในคอ ตลกตายล่ะอารมณ์หื่นมันนี่มาได้ตลอดจริงๆ

   “มึงนี่อาการหนักตั้งแต่เมื่อเช้า ถึงในรถจะน่าสนใจแต่กูต้องไปทำงานห้องไอ้แม็ค ยังไม่อยากเอาสารร่างแย่ๆ ไปนั่งหลังขดหลังแข็งเว้ย” เอาเหตุผลเข้าอ้าง ซันถึงยอมรามือแต่โดยดี แม้ว่าจะส่งสายตาตัดพ้ออย่างน่าถีบก็ตาม

   “กูแค่ดีใจ ที่เราใจตรงกันสักที”

   อึก...อย่าพูดจามุ้งมิ้งด้วยใบหน้าขึ้นสีนิดๆ แบบนั้นได้มั้ย เดี๋ยวปั๊ด!

   “แค่รอบเดียวนะ…” ใจอ่อน... เวรเอ๊ยย! คนที่ชอบทำเสียงโหดหน้าเถื่อนตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนนอน พอมาทำอะไรแบบนี้แล้วแม่ง! ผมใจสั่น คือหลงมันไปเต็มๆ แล้วไง สมัยก่อนยังไม่มั่นใจ ตอนนี้ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม พอซันเห็นท่าทางของผมก็หัวเราะลืมเขิน ยื่นมือมาขยี้หัวผม

   สรุป กลับห้องไปก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก มันบอกอย่างลูกผู้ชายเลยว่า ‘กูหยุดรอบเดียวไม่ได้แน่’ ก็ตามนั้น มันเลยจดบัญชีหนังหมาไว้ หากมีเวลาจะทบต้นทบดอก ซึ่งไอ้ดอกเบี้ยของมันคงจะเยอะมหาศาล นับไปนะตั้งแต่วันนี้ผมไปนั่งทำโมกับพวกแม็ค หลังจากนั้นก็ต้องอ่านหนังสือทบทวนสิ่งที่เรียนมาจนเข้าเทศกาลสอบอีกหนึ่งอาทิตย์ ลากยาวขนาดนั้น ผมขอไม่คิดต่อแล้วกัน รู้สึกตัดกำลังใจตัวเองชอบกล

   มื้อเย็นวันนี้ซันเป็นคนทำเอาใจปล่อยให้ผมเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเตรียมหมกตัวอยู่ห้องแม็ค กินเสร็จผมล้างจานแยกกันไปอาบน้ำ ก่อนจะนอนต้องไม่ลืมจูบราตรีสวัสดิ์ เพราะหากลืมซันมันจะบุกมาปล้ำจูบถึงเตียง

   วันต่อมามันยังคงขับรถไปเรียนอีกเช่นเคย เหตุผลรอบนี้คือมันจะไปส่งพวกผมที่ห้องแม็คหลังเลิกเรียนเพื่อจะดูว่าห้องมันอยู่ที่ไหน ไอ้แม็คยิ้มแล้วยิ้มอีก ยักคิ้วหลิ่วตาแซวผมแบบไร้คำพูดไปตลอดทาง ผมแทบอยากจะยันมันออกไปนอนกลางถนนให้รถทับตาย ทางอาร์ทพอเจอซันก็ประหยัดคำพูด สงสัยภาพวันที่ซันโชว์โหดยังติดตา นั่งตัวเกร็งจนถึงที่หมาย

   พ่อคุณทูนหัวยังไม่คิดปล่อยพวกเราไปง่ายๆ เปิดหลังรถช่วยยกกระดาษชานอ้อยตามไปถึงห้องแม็ค หอพักที่มันอยู่เป็นแบบราคาย่อมเยา ภายนอกก็ดูเก่าโทรมสีลอกตามกาลเวลา นับๆ ดูแล้วมีทั้งหมดห้าชั้นไม่มีลิฟต์และไม่มียามเฝ้าด้านล่าง ในหอมีทั้งคนวัยทำงานและนักศึกษาอาศัยอยู่

   เวลาเดินขึ้นลงบันไดเสียงดังก้องไปทั่วชั้น เรียกได้ว่าใครเกิดหิวออกไปเซเว่นตอนตีสามตีสี่คนนอนมีหลอนกันบ้าง แม็คมันพักอยู่ที่ชั้นสาม ไม่สูง ไม่ต่ำเพราะมันขี้เกียจเดินและไม่อยากได้ยินเสียงเอะอะหากอยู่ขั้นล่าง ทางเดินปูด้วยแผ่นกระเบื้องสีขุ่น เพดานเป็นปูนติดหลอดไฟเป็นระยะ

   โดยรวมก็สว่างดี สะอาดไม่มีเศษขยะด้านนอกเหมือนสมัยผมอยู่หอใน ตอนนั้นมีพวกมักง่ายกวาดเศษฝุ่นเส้นผมออกมาหน้าห้องชาวบ้าน ทำเอาไอ้ซันที่เพิ่งกลับจากกิจกรรมรับน้องเหนื่อยๆ โดนอาจารย์ประจำหอเรียกไปด่า ผมบังเอิญกลับมาพอดีเลยเห็นมันก้มหน้าไม่พูดไม่เถียง ก็นึกว่ามันจะหงออาจารย์ ที่ไหนได้พอฟังเทศเสร็จ มันสวนไปนิ่งๆ ว่า

   “พูดจบแล้วใช่มั้ยครับ งั้นผมขอถามหน่อย อาจารย์มั่นใจได้ยังไงครับว่าเศษขยะพวกนั้นเป็นของห้องผม ต่อให้มันอยู่หน้าห้องผมก็เถอะ อาจารย์คิดเหรอว่าถ้าผมทำจริงจะกวาดใส่ให้หน้าห้องตัวเองสกปรก ผมคงกวาดไปให้ห้องอื่นมากกว่า ถ้าอาจารย์ยังสงสัยจะขึ้นไปกับผมก็ได้ สืบดูเลยว่าใครแม่งมักง่าย จะได้ด่าถูกคน ไม่ใช่เรียกมาด่า--” มั่นใจเลยว่าต่อจากประโยคนี้มันด่าอาจารย์ชัวร์ ผมรีบถลาไปปิดปากยิ้มหวานให้อาจารย์ แล้วบอกว่าจะจัดการขยะให้เรียบร้อยพร้อมลากซันขึ้นห้องอย่างด่วน

   ดีที่อาจารย์มัวแต่อึ้งไม่คิดจะโดนเด็กสวนนิ่มๆ หลอกด่าแบบนี้ พอถึงห้องซันมันก็ไม่ได้โวยวายอะไร แค่เดินดุ่มๆ ไปเคาะประตูห้องตรงข้าม พอเจ้าของเปิดก็กระชากเสื้อจนตัวลอย ลากคอออกมาตรงเศษขยะพร้อมสั่งเสียงเรียบเย็น

   “อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงทำ เก็บกวาดให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นกูจะเอาขยะไปเทใส่ห้องมึงพร้อมเอาหัวมึงจุ่มเข้าไปในถังด้วย...เข้าใจนะ” สั่งเสร็จพี่ท่านสะบัดมือโยนอีกฝ่ายทิ้งแล้วเดินเข้าห้องไปแบบหล่อๆ ทิ้งผมยืนกุมขมับเข้าไปช่วยพยุงผู้เคราะห์ร้ายที่ตกใจจนไม่ทันพูดอะไรออกมาสักคำ

   “ก็อย่างที่มันบอก กูจะไม่ขอโทษแทนมันเพราะมึงทำเชี่ยไว้จริงๆ เอาเป็นว่าอย่าทำอีก ไม่งั้นกูจะเป็นคนช่วยมันจัดการมึงอีกแรง” ตบบ่าเหยื่อตัวแห้งหนักๆ สองทีพลางหมุนตัวเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าแม่ง หลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นเศษขยะหน้าห้องอีกเลยพร้อมเจ้านั่นที่ผมเพิ่งรู้ข่าวว่ามันขอแลกห้องหนีไปอยู่ชั้นอื่นก่อนที่พวกผมจะย้ายออกมาซะอีก

   คิดไปเพลินๆ ก็มาถึงหน้าห้องแม็ค เราสามคนมองภาพขาดๆ ที่แปะตรงประตูก่อนหันไปมองเจ้าของห้องด้วยสายตารังเกียจ แม็คร้อนตัวรีบโบกไม้โบกมือพัลวัน
   
   “กูไม่ได้เป็นคนติดภาพโป๊หน้าห้องตัวเองนะเว้ย! มันมีมาตั้งแต่ก่อนกูมาอยู่อีก ติดกาวแน่นฉิบหาย แงะออกได้เท่านี้แหละ กูไม่กล้าทำไรมากด้วยเดี๋ยวประตูเขาพัง ไม่อยากจ่ายค่าเสียหาย” คำแก้ตัวยาวเหยียด เหล่าคนฟังพยักหน้าเนิบๆ ก็พอเข้าใจล่ะนะว่าหอพักแบบนี้กฎไม่เคร่งนัก แถมรวมคนไว้ทุกประเภท จะมีพวกนิสัยแย่เอานู่นเอานี่มาแปะทำลายข้าวของก็ไม่แปลก

   จะให้แม็คลงทุนเปลี่ยนประตูหรือทาสีก็ใช่ที่ ในเมื่อเจ้าของตึกเขายังไม่ว่าอะไรนี่นะ แล้วมันก็ใช่จะอยู่ตลอด หากมีที่ดีกว่านี้คงย้ายนั่นแหละ อย่างผมมันโชคดีได้รูมเมทรวย พี่ชายสายเปย์ เลยได้อยู่ห้องชุดอย่างดี

   “มึงจะเข้าไปปะ” ผมถามซันประดุจว่าเป็นเจ้าของห้องเอง ส่วนอีกสองตัวเดินเข้าห้องไปแล้วได้ยินเสียงโวยวายของอาร์ทดังออกมา แสดงว่าห้องมันต้องสุดยอดแหงๆ ผมชักลังเลแล้วสิ เลือกทำงานห้องแม็คคิดถูกรึเปล่าวะ

   “ไม่ล่ะ กูแค่ตามมาดูว่ามึงอยู่ไหน กูกลับไปอ่านหนังสือดีกว่า มีไรก็โทรมา”

   ผมพยักหน้ารับมองมันเดินลงไปชั้นล่าง พวกเราร่ำรากันแค่นี้แหละ ใช่ว่าแฟนต้องตัวติดกันซะหน่อย ความสัมพันธ์ของพวกผมเหมือนเพื่อนผสมแฟนมากกว่า มีพื้นที่ส่วนตัวให้อีกฝ่ายแบบนี้แหละถึงจะอยู่กันยืด

   พอเข้าห้องผมเข้าใจเลยว่าทำไมอาร์ทมันถึงร้องโหย ห้องขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเตียงสี่ฟุตชิดมุมหนึ่ง ปลายเตียงคือตู้เสื้อผ้าติดกับห้องน้ำ โต๊ะทำงานวางของอยู่อีกด้าน มีพื้นที่ให้ทำงานได้ยาวยันระเบียง ประเด็นคือซากอารยะธรรมที่มันกองไว้ ถุงดำใบใหญ่อยู่ตรงมุมห้อง ผมหน้าทะมึนทันที วิญญาณพ่อบ้านเข้าสิง

   “เก็บกวาดเดี๋ยวนี้! ไม่เสร็จไม่ต้องทำมันแล้วงาน ใครมันจะไปทนทำได้วะโสโครกฉิบหาย” ด่ากราดชี้นิ้วสั่งด้วยเสียงเด็ดขาด มีอาร์ทพยักหน้ารับแบบเห็นด้วยสุดๆ

   แม็คบ่นอุบ “นี่กูเก็บไปบ้างแล้วนะ”

   “มึงเก็บแล้วยังขนาดนี้ ถ้าไม่เก็บกูไม่อยากจะคิด นิ้งไม่ว่างติดอ่านสอบล่ะสิ ห้องมึงถึงได้เหมือนรังแมลงสาบ” ผมเค้นเสียงเหอะในคอ เขาว่าห้องชายโสดมักจะรก แต่พอมีแฟนแล้วจะดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น ไม่ใช่ว่าพวกมันทำความสะอาดนะ เมียนั่นแหละทำให้ ผมสงสารผู้หญิงเหล่านั้นจริงๆ

   เพลงนี้ลอยมาเลย แต่งไปทำไม แต่งไปเพื่ออะไร แต่งไปเป็นคนใช้แล้วจะแต่งไปทำไม...ภรรยาที่ดีต้องชี้นิ้วสั่งต่างหาก

   กว่าจะทำความสะอาดเสร็จเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง พวกเราแบ่งหน้าที่กัน ผมเป็นคนวาดแบบลงไปในกระดาษชานอ้อยแล้วให้อาร์ทตัดตามแบบ ส่วนแม็คเปิดคอมทำสไลด์แบบคล่าวๆ ใส่พวกหัวข้อและคอยถ่ายรูปเวลาพวกเราทำงานเพื่อเอาไปประกอบสไลด์

   ขั้นตอนการทำดูไม่ยาก แบบมันมีอยู่ในหัว แค่วาดออกมาตัดแล้วประกอบเป็นอันเสร็จ ปัญหามันอยู่ที่อุปสรรคระหว่างการทำต่างหาก เช่น ตัดงานพลาด ของไม่พอ แบบไม่ได้ตามที่ต้องการสารพัด เจอปัญหาเล็กก็ดีไป เจอของใหญ่นั่งแก้เกือบหมดนี่งานหยาบ

   พวกผมปีหนึ่งยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มากพอ ต้องอาศัยลองผิดลองถูกกันไป กว่างานจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างก็เข้าสู่วันที่สอง มีฐานพร้อมขึ้นโครงร้านส้มตำที่พวกผมออกแบบไว้ ผมต้องนั่งประดิษฐ์ฟอนิเจอร์ชิ้นจิ๋ว และหาทางติดให้อยู่ กระดาษชานอ้อยเป็นกระดาษหน้าเทกาวร้อนให้มันซึมตัวกระดาษแล้วตามด้วยกาวยู้ฮูเชื่อมตรงรอยต่อเพื่อความแข็งแรงทนทาน

   แม็คเองก็พักจากการทำสไลด์มาช่วยทำโม เพราะสไลด์เหลือแค่เอารูปไปใส่ก็เสร็จสมบูรณ์ เลยกลายเป็นภาพสามหนุ่มตัวใหญ่นั่งคร่ำเคร่งกับโมชิ้นเดียว ความจริงไม่ต้องลงทุนขนาดนี้ก็ได้ แต่พวกเราคิดอย่างเดียวกัน จะทำทั้งทีก็ต้องทำให้ดีที่สุด เผางานแบบส่งๆ นอกจากคะแนนจะไม่ได้ยังเป็นผลเสียระยะยาวด้วย ลองคิดดูนะ เกิดจบไปเป็นสถาปนิกแต่เสือกเผางานมีหวังวอดวายกันทั้งหมด

   ด้วยความที่ต้องเรียนไปด้วย ทำงานเดี่ยวของวิชาอื่นด้วย พวกเราเลยมีเวลาทำโมแค่ตอนกลางคืน ผลัดกันนอน ผลัดกันทำ ดีที่ยังพอมีเวลาเหลือไม่งั้นโต้รุ่งติดกันแหง ทางซันไม่ได้มาหา ผมโทรคุยกันวันละครั้ง ครั้งละไม่กี่นาทีพอถามไถ่สารทุกข์สุขดิบไม่ได้พล่ามมาก มันเข้าใจว่าผมต้องทำงาน ซันเองก็ต้องอ่านสอบ

   ผ่านไปสามวันโมเริ่มเป็นโม เหลือแค่เก็บรายละเอียด ปรับแก้เพิ่มเติมบางส่วนแล้วรอกาวแห้งเพื่อพ่นสีอีกที ช่วงนี้เป็นช่วงที่พวกเราสามคนระวังขั้นสุด ไม่ให้ชนหรือเตะโดนโมตัวเอง แทบจะเทินไว้เหนือหัว กลัวว่าจะเหมือนคนอื่น อารมณ์แบบงานใกล้เสร็จดันเกิดปัญหาบางอย่างทำให้ต้องแก้หรือทำใหม่หมด แบบนั้นพวกผมทำไม่ทันวันพรีเซนต์พอดี

   เช้าวันที่สี่ เสียงนาฬิกาปลุกร้องลั่นจากมือถือสามเครื่อง เนื่องจากเหลือรอให้กาวแห้งเมื่อคืนเราเลยพร้อมใจกอดคอกันนอน ผมนอนพื้นกับอาร์ท แม็คนอนเตียงเพราะมันตัวเดียวเตียงก็ล้นแล้ว ผมลุกคนแรกอาบน้ำแต่งตัวใช้เท้าเขี่ยอีกสองตัวให้ตื่น หลังจัดการตัวเองเสร็จก็ขนโมลงมาชั้นล่าง เอาจุดใต้ลมตั้งเก้าอี้วางโมเขย่ากระป๋องสี

   พวกเราคิดกันไว้ว่าจะพ่นมันตั้งแต่ก่อนเรียนจะได้ไม่เสียเวลารอสีแห้ง และที่เอามาพ่นชั้นล่างเพราะเกรงว่าทำในห้องพวกเราจะสำลักสีตาย ตรงระเบียงก็เกรงจะโดนหัวชาวบ้าน

   ชั้นแรกที่พ่นเป็นสีเทากลบสีเหลืองด่างดวงของกระดาษชานอ้อยที่โดนกาว เสร็จแล้วยกไปเก็บที่ห้องค่อยมาพ่นสีขาวตอนเที่ยงสีจะได้เนียนๆ หน้าที่นี้ปล่อยให้แม็คยกไป ผมกับอาร์ทรอด้านล่าง ไม่รู้ทำไม สองสามวันมานี้เหมือนมีคนมองหน้าผมบ่อยๆ อย่างพวกนักศึกษาที่กำลังออกจากหอไปเรียน
   
   “หน้ากูมีอะไรติดวะอาร์ท ทำทุกคนถึงมองกูแปลกๆ” จะบอกว่าผมซกมกคงไม่ได้ เพราะสายผมช่วงปั่นงานมันก็ซกมกกันหมดทุกตัว อย่างน้อยๆ ก็ข้างตัวนี่แหละคนหนึ่ง ทำไมไม่มอง มองแต่ผม

   “มันไม่มีอะไรติด แต่มึงคิดจะไปมหา’ลัยทั้งงี้จริงๆ เหรอวะ กูขัดตามาตั้งแต่เมื่อวานละ” เพื่อนอาร์ทขมวดคิ้วเพ่งหน้าผมอีกคน เอ้าไอ้นี่

   “ไม่ให้ไปงี้จะให้กูเอาหน้าไถพื้นไปมหา’ลัยเรอะ!”

   “เถียงไรกันพวกมึง” แม็คลงมาพอดี ลากคอพวกผมไปหาอะไรกินก่อนเข้าเรียน แถวนี้มีหมดไม่ว่าจะโจ๊ก น้ำเต้าหู้ แซนวิส พวกใส่กล่องหยิบกินง่ายๆ

   “ไอ้โป้ดิ กูขัดลูกตาฉิบหาย ยังสงสัยอยู่ไม่มีใครทักมันเลยเหรอวะ”

   แม็คหันมามองหน้าผมพลางขมวดคิ้ว “ก็ปกตินี่หว่า ช่างเถอะๆ เดี๋ยวซื้อเต้าหู้กับแซนวิสกินแล้วกัน” เมื่อเพื่อนโบกมือเลิกสนใจ อาร์ทก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ พวกเราเลยซื้อน้ำเต้าหู้คนละถุงใช้หลอดเจาะกินอีกมือถือแซนวิสทูน่า เดินไปกินไป ถึงรถมหา’ลัยก็หมดพอดี นั่งชิวๆ ไปถึงคณะ เพราะหอมันใกล้มหา’ลัยแบบแทบติดรั้วนี่แหละ ผมถึงเลือกหอแม็คทำงาน

   เข้าเรียนสามชั่วโมง ฟังอาจารย์สรุปส่วนที่จะออกสอบ ซึ่งความจริงมันไม่ค่อยสรุปเท่าไร เหมือนกับให้ไปอ่านมันตั้งแต่บทแรกยันบทล่าสุด บอกแค่ว่าจะออกข้อไหนกี่ข้อกี่คะแนนเท่านั้นเอง อ่านตรงไม่ตรงเรื่องนี้อยู่ที่ความจำล้วนๆ หากคนหัวดีจำได้หมดก็รอดไป พวกจำได้แค่บางส่วนก็ต้องหวังคะแนนเอากับข้อที่ได้ให้มันผ่าน 60% ไม่งั้นเสียเวลามานั่งซ่อม สำหรับวิชาที่ซ่อมได้อะนะ บางวิชาไม่ หากไม่พอใจเกรดต้องลงเรียนใหม่

   โชคดีที่ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง คอยจดใส่สมุดว่าอาจารย์จะออกสอบตรงไหน คืออาจารย์ท่านสอนไปจะบอกไป ถ้าคนจดทันหมดมีโอกาสสอบได้คะแนนสูง ไม่งั้นก็ต้องขอดูเอากับเพื่อนที่จดทันเหมือนอย่างไอ้แม็คที่มาพึ่งใบบุญผมกับอาร์ท

   พักเที่ยงกินข้าวใต้คณะ แล้วเร่งกลับห้องไปเอาโมมาพ่นสีขาวทับก่อนวกไปเรียนต่อภาคบ่ายสี่ชั่วโมง พวกเราถึงมานั่งคุยกันว่าจะเอาไงต่อ ใจผมนี่อยากกลับห้องจะแย่ อาร์ทเองก็อยากกลับบ้าน

   “โมเหลือแค่เก็บรายละเอียด เดี๋ยวกูทำต่อเองแล้วกัน พวกมึงเอาสไลด์ไปทำให้เสร็จ เตรียมคำพูดมาพรีเซนต์ด้วย” เจ้าตัวอาสา ผมรับแฟลชไดรฟ์สีดำมา

   “ได้ ไว้กูทำสไลด์เสร็จจะส่งไปให้มึงทวนนะอาร์ท” มอบหมายหน้าที่ให้มันเป็นคนเปิดพรีเซนต์ ของแบบนี้ต้องวนให้เห็นกันทั่วถึง เพราะตอนพรีเซนต์จริง อาจารย์เขาไม่สนหรอกว่าใครรับหน้าที่มาพูดหน้าห้อง เขาอยากถามคนไหนก็ถาม ซึ่งทุกคนในกลุ่มต้องตอบคำถามให้ได้ หากช่วยกันทำจริงก็ไม่มีปัญหา พวกที่อู้ออกแต่ตังไม่ทำก็งานเข้ากันไป

   พวกเรากลับห้องแม็คช่วยเก็บกวาดเศษซากจากการทำโมก่อนจะเอากระเป๋าเสื้อผ้าแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน เห็นผมทำงานชิวๆ ดูไม่เป็นไรแบบนี้ เอาเข้าจริงแอบคิดถึงไอ้ซันมันนะ ไม่ได้ยินเสียงมันปลุกตอนเช้า ราตรีสวัสดิ์ตอนกลางคืนแม่งเหงา

   ผมเลยแวะซื้อพวกของสด หมายมั่นปั้นมือว่าจะทำของโปรดให้มันกิน พอเปิดประตูห้องเห็นรองเท้ามันวางอยู่ก็ส่งเสียงไปก่อนตัว

   “ผัวจ๋าเมียกลับมาแล้ววว” แรดกว่านี้มีอีกมั้ย...เอ้อ มีสิ ไอ้เล่เพื่อนผมไง

   ได้ยินเสียงตึงตังจากในห้องนอน มันคงกำลังอ่านหนังสืออยู่ ไอ้ซันโผล่หัวออกมาจากห้องพอเห็นผมเท่านั้นแหละถึงกับผงะถอยหลังพร้อมพูดคำว่า...

   “เหี้ย!!”

   “เห็นหน้าเมียหลังจากไม่เห็นมาหลายวัน แทนที่มึงจะกระโดดกอดกูกลับด่ากูเนี่ยนะ” ผมเซ็งจิต ความดีใจหายวับไปกับตา จัดวางถุงของสดไว้บนโต๊ะกินข้าว ซันมันยังมองผมอึ้งๆ ก่อนก้าวฉับๆ เข้ามาจับคางผมหันซ้ายขวาแบบไม่ออมแรง

   “เฮ้ย! นี่เมียกูแน่เรอะ กูนึกว่าโจรป่าที่ไหน ไอ้ห่ามึงทำงานยังไงปล่อยให้หนวดขึ้นขนาดนี้วะ” สีหน้ามันแบบโคตรหวาดผวามาก ผมลูบคางตัวเองที่มีหนวดขึ้นประปราย มันก็ไม่รกขนาดโจรป่านะเว้ย ซันแม่งเว่อ ผมว่ามันออกจะแมนดีด้วยซ้ำ

   “กูไม่ได้เอาที่โกนหนวดไป ลืมซื้อด้วย เลยไม่ได้โกนปล่อยมันขึ้น เป็นไงหล่อมะ” ยักคิ้วหลิ่วตาผิวปากเหมือนเวลาแอ่วสาวเหนือ ไอ้ซันที่โดนผมจีบทำท่าสยดสยอง ไม่พูดพล่ามทำเพลงลากแขนผมเข้าห้องน้ำอย่างด่วน

   “โกนทิ้งเดี๋ยวนี้!” เสียงกระชากห้วน บ่งบอกว่ามันรับไม่ได้อย่างแรง อะไรวะ ทีมันเริ่มมีตอๆ ผมยังไม่ว่าอะไรเลย

   “ไม่เว้ย! มีโอกาสไว้ทั้งทีกูไม่โกนหรอก” เดินหนี ไม่สน

   “มึงคิดว่าเท่เหรอไอ้สันขวาน ทุเรศลูกตากูฉิบหาย หนวดมันไม่ได้เข้ากับหน้าตามึงเลย” ทะเลาะกันเสียงดังเอะอะอยู่ในห้องน้ำ มันรวบกอดผม ผมดิ้นจะเป็นจะตายแต่สู้แรงมันไม่ได้ มันเองก็จับผมโกนไม่ได้เช่นกัน พอใช้ไม่แข็งไม่ได้ ซันเริ่มใช้ไม้อ่อน

   “ขอแค่มึงโกนหนวด มึงอยากได้อะไรบอกมา เดี๋ยวกูจัดให้หนึ่งอย่าง” ซันกอดอกยืนคุมไม่ให้ผมออกจากห้องน้ำ ผมเลิกคิ้วมองยกมือลูบหนวด ข้อเสนอมันน่าสนใจไม่เลว มีของที่อยากได้พอดี แต่เงินไม่เอื้อ

   “กูอยากได้โต๊ะเขียนแบบที่มีโคมไฟด้วย” ของจำเป็นต้องซื้อ แม้ไม่ใช้ตอนปีหนึ่ง อนาคตก็ต้องใช้ หากเป็นแต่ก่อนผมไม่กล้าให้มันซื้อให้หรอก ตอนนี้รู้แล้วว่ามันมีเงินเก็บของมันเองจากการหารายได้พิเศษและช่วยงานที่บ้าน ผมถึงกล้าขอ

   ซันดูแปลกใจที่ผมขอแค่นี้ แต่ก็พยักหน้ารับโดยดี “เอาสิ ไว้ค่อยไปซื้อด้วยกันตอนวันหยุด กูให้มึงเลือกเองเลย จะติดไฟ ติดพัดลมอะไรก็เรื่องของมึง”

   ใจจริงผมก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์หนวดนี่มาก จะโกนก็ได้ไม่มีปัญหา แต่จะให้โกนเองก็ขี้เกียจเลยบอกให้มันโกนให้ ซึ่งมันก็ทำบริการเต็มที่ จัดการละเลงโฟมโกนหนวดจนเหมือนลุงซานต้าแล้วใช้ที่โกนหนวดของมันโกนให้ผม ของผมราคาไม่กี่ร้อย ของซันที่โกนหนวดไฟฟ้าอย่างดี ราคาอย่าพูดถึง ซึ่งผมแอบใช้ของมันบ่อยๆ

   “กูคงเป็นคนแรกที่มีโอกาสได้โกนหนวดเมียตัวเอง” มีบ่นอะคุณ

   “ดีไง ประสบการณ์ไม่เหมือนใคร” ผมหัวเราะก่อนจะโดนมันดุใส่เพราะมันโกนไม่ถนัด เพียงไม่นานหน้าผมก็กลับมาเกลี้ยงเกลาอีกครั้ง มันมือนิ่งโกนดีชะมัด “ไหนๆ ก็ไหนๆ มึงมาโกนด้วยกันเลยดิ้” ผมขยับตัวออกให้มันล้างที่โกนหนวดตรงอ่างล้างหน้า ปกติห้องน้ำมันก็กว้างแหละ แต่พอมีผู้ชายตัวโตสองคนมารู้สึกแออัดขึ้นมาทันที

   “ไว้ค่อยโกน ของดีนะ เอาไว้ไซร้มึงไง” ยักคิ้วยกยิ้มมุมปากร้ายๆ

   “แค่พูดไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์” เอาเป็นว่าหลังจากนี้คงไม่ต้องถาม ขอตัวไปทดลองสินค้าก่อนนะทุกคน


ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โอ้ยยยย น่าจะเก็บไว้ไซร้กลับนะ55555

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z1: ชอบจริง ๆ คู่นี้น่ารักแบบแมน ๆ หายไปนานเชียว แต่เราก้อรอเสมอ  :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าแพนกล้องหนีสิ ขอดูด้วย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ผัวเมียคู่นี้ สมกันได้อีกกก

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พอใจตรงกันแล้ว จัดเต็มตลอดเลยน้าาา

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่ารักอ่ะคู่นี้ อ่านรวดเดียวเลย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :hao6: ขอรีวิวการทดลองใช้บ้างได้ไหม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โป้นี่แอบร้ายใช่ไหม ทั้งหมดค่อแผนการสินะ ตลกซันจัง

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชอบคู่นี้มาก  มันดูเรียลดีอ่ะ
เหมือนมีตัวตนจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด