【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59  (อ่าน 239355 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoraor

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มายเราไม่โอเคเลย หนูเด็กกว่าพี่เหนืออีกนะ ตั้งแต่เอาเรื่องความลับพี่เหนือไปบอกคนอื่นล้ะ เดี๋ยวตีเลย

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ยังไม่ได้กันเลย จะดราม่าแระ

ไม่ขาย NC ?   มาขนาดนี้แล้ว จัด NC มาหนักๆเถอะ
รอ3-4ตอนข้างหน้านะ

ไม่ขายจริงจริ๊งงงง เราเน้นการแทะโลมพระเอก 555

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หะ ไม่ขายเอ็นซีนี่คือจะตัดมโนไปที่โคมไฟหรอคะะะะ ไม่อาววววววว
นี่ล้อเล่นใช่มั้ยยย55555 ชอบบบเรื่องนี้น่ารัก
ตอนแรกไม่ชอบเหนือเพราะดูอ่อนแอไปหน่อย แต่หลังๆนี่แบบนางแซ่บดี

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
555555555555555 กำลังฟินเลย น้องมายมาทำม้ายยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
เซงเป็ดอะวอร์ดปีนี้ พี่เหนือเอาไปเลยนะ
 รางวัลนายเอกยอดแรดแห่งปี 55555

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
โถ เจ้ ชวดอีกล้ะ 5555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ใสจังแรน... ฮ่าๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รอการขัดขวาง ..

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 17: ของขวัญอำลาฝึกงาน[1]

โดนผมดุเรื่องพูดไม่เพราะก็กลายเป็นหมาน้อย แต่พอผมกลับไปกระเง้ากระงอด มันก็กลายร่างเป็นหมาบ้าเหมือนเดิม ผมก็ไม่ได้อยากจะทำมันอารมณ์เสียนักหรอก ทว่าดันหลุดไปพูดเรื่องพี่จอมดื้อขึ้นมา เท่านั้นแหละ โอ้โห วิญญาณผีบ้าเข้าสิง แตะติดแตะหน่อยไม่ได้เลย แง่งใส่ตลอด กว่าจะทำให้มันอารมณ์ดีขึ้นได้ก็ฟ้ามืดแล้ว ตอนแรกมันจะไล่ให้ผมกลับไปนอนห้องตัวเองด้วยเถอะ แล้วใครมันจะไปยอมล่ะ สารภาพว่าชอบผมมาอย่างนี้แล้ว มันต้องสานต่อ

สุดท้าย ผมก็ขนข้าวของมานอนห้องเด็กนั่น รวมถึงมาอาบน้ำด้วย จัดเตียงเสร็จ ปล่อยให้ธารเข้าไปอาบน้ำก่อนเสร็จ ผมก็หายเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานสองนาน กลับออกมาอีกทีในนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวได้ ธารที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนเตียงพร้อมเข้านอนก็ถามเสียงเรียบทันที ผมพอจะเดาได้ว่ามันคงหงุดหงิดที่ปล่อยให้มันรอเข้านอนพร้อมกันทั้งที่มันง่วงเต็มแก่แล้ว

“ทำไมอาบน้ำนาน”
เรื่องอาบน้ำนานนี่ก็เป็นเรื่องปกติของผมนะ เพียงแต่มันไม่รู้เท่านั้น และผมก็ไม่บอกให้มันรู้ด้วย เพราะอยากจะแกล้งมันสักหน่อย โทษฐานที่งอนผมเป็นวันๆ
“ก็ต้องอาบนานสิครับ พี่เหนือทำเรื่องสำคัญอยู่นี่” ว่าไปก็เอาผ้าเช็ดตัวเช็ดหยดน้ำที่ปลายผมไป
“ทำอะไร”
ถามมาอย่างนี้ก็เข้าทางผมเลย ผมชะงักมือที่เช็ดผมอยู่ ปีนขึ้นเตียงไปหามัน แล้วคลานเข้าไปใกล้ๆ พลางกระซิบ
“ล้างตู้เย็น”
บอกแค่นี้ สีหน้าธารก็ดูเหวอไป ก่อนจะค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้นมา ผมเลยหยอดไปอีกดอก
“อันที่จริงล้างไปยันห้องครัวเลยนะ รับรองว่าสะอาดเอี่ยมอ่องทุกซอกทุกมุม สบายใจได้”
“อะ...ไอ้พี่เหนือ!” มันผลักหน้าผมออกห่าง เบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง ปล่อยให้ผมหัวเราะใส่มันดังลั่น

ทว่าหัวเราะได้เพียงครู่เดียว ก็กลายเป็นฝ่ายผมที่ชะงักแทนซะนี่เมื่อจู่ๆ สองหูก็ได้ยินมันพึมพำออกมา
“เดี๋ยวแม่งก็ทำจริงๆ ซะหรอก”

วะ...ว่าไงนะ!?

“อันนี้พูดเล่นหรือพูดจริง?” ผมถามกลับไปแทบจะในทันที หัวใจก็เต้นระส่ำไปด้วย ลุ้นเหลือเกินว่ามันจะตอบว่ายังไง
ธารตวัดดวงตามามอง จ้องหน้าผมนิ่งอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว ก่อนจะย้อนผมกลับหน้าตาเฉย
“พี่อยากทำมั้ยล่ะ”
“หะ...หา!?”
ไม่รอให้ผมตอบ ปล่อยให้ผมอึ้งกับการยอกย้อนอยู่อย่างนั้น พลันจู่โจมด้วยการพุ่งเข้ามาจับผมที่อยู่ในท่าคลานให้นอนราบไปบนฟูก โถมตัวขึ้นมาคร่อม ซ้ำยังโน้มใบหน้าเข้ามาซะใกล้
อะไรไม่ว่า มันดันพูดประโยคที่ทำให้ผมแทบคลั่งขึ้นมาอีกด้วย
“ถ้าอยากให้ทำก็จะทำ ไม่ต้องรอให้ฝึกงานเสร็จแล้ว อีกไม่กี่วันเองนี่”

มะ...ไม่!

ไม่ปฏิเสธ! ถุงยางกับเจลหล่อลื่นอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงนะ

แหม มาถึงขั้นนี้แล้วก็จัดไปหลายๆ ดอกอย่าให้เสีย พี่เหนือผ่านการพาสเจอร์ไรซ์มาสดๆ ร้อนๆ เชิญกินตามสบายเลยจ้า ยอมน้องธารทุกทาง ทุกอย่าง ทุกท่วงท่าและลีลา
หูย... จะมีสามีเป็นตัวเป็นตนสักทีนะแสงเหนือ แต่ถ้าน้องธารอยากจะสลับบทก็ได้นะจ๊ะ ไม่ว่ากัน เดี๋ยวพี่เหนือจัดให้ เป็นภรรยาพี่เหนือก็แจ่มว้าวไปอีกแบบเน้อ

ทว่าธารคงจะไม่คิดมาสลับบทกับผมแล้วล่ะ แค่ผมเอาแต่อ้าปากค้างไม่เลิก มันก็หยักยิ้มเขินๆ ขึ้นมา พลันประทับริมฝีปากลงมาจูบผมในอีกไม่กี่วินาทีให้หลัง ผมหายอึ้งในตอนที่ปลายลิ้นอุ่นร้อนสอดเข้ามาลิ้มรสหวานในโพรงปากผม บดจูบ อยู่เนิ่นนานและแผ่วเบากระทั่งผมเผลอเคลิ้มไปกับรสจูบนั้น เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นตอบไปตามสัญชาตญาณ พร้อมกับความรู้สึกที่พรั่งพรูขึ้นมาในใจจนอัดแน่นแทบระเบิด

เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันปลื้มปริ่ม ตื่นเต้น แล้วก็อิ่มใจไปพร้อมๆ กัน สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือผมรู้สึกว่าตัวเองชอบคนตรงหน้านี่มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวทุกวินาที มากขึ้นจนรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ความชอบเฉยๆ แล้ว

มันเป็น...ความรัก

แล้วผมก็มั่นใจขึ้นกว่าเดิมด้วยว่าใช่ความรักจริงๆ เมื่อธารผละออกจากริมฝีปากมาสบตาผมนิ่งๆ แล้วว่าออกมาเสียงเบา
“ธารชอบพี่เหนือนะ”
อา...ผมตกหลุมรักเด็กนี่เข้าเต็มเปาแล้วล่ะ

น่ารักขนาดนี้ จับกูทำเมียเลยเถอะ กราบแล้ว!

หากแต่มันก็ไม่ทำ เอาแต่มองหน้าผมแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นจนผมเริ่มเขินแทนมัน เบนสายตาไปทางอื่นแทน
“จะ...จ้องหน้าพี่เหนือทำไมครับ”
“น่ารักดี” มันว่าอุบอิบ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าไอ้น้องธารใสๆ มันเริ่มจะไม่ใสละ

ไม่ใสจริงๆ ด้วยเมื่อจู่ๆ มันก็ถือโอกาสฉกหอมแก้มผมซะอย่างนั้น พอผมหันกลับมามองหน้ามัน มันก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ดอมดมอยู่ข้างแก้มผมแล้วค่อยๆ ไล้ปลายจมูกต่ำลงไปยังลำคอ พรมจูบแผ่วเบา ซ้ำยังไล้ต่ำไปยังไหปลาร้าจนเกือบถึงหน้าอกกว้าง

เหย... มาแบบนี้คือจะจัดแล้วใช่มั้ย?
แล้วถามว่าผมขัดมันมั้ย? ...ไม่ ใส่พานถวายรัวๆ จะเอาไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญจ้า

สองแขนตวัดโอบรัดแผ่นหลังกว้าง ตระกองกอดอีกฝ่ายแน่น ปล่อยตัวปล่อยใจให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
ยังไงก็ต้องได้ต้องโดนเว้ย! คืนนี้ยังไงก็ต้องได้! ถึงขั้นน้องธารเหมาไร่อ้อยพี่เหนือขนาดนี้แล้ว พี่เหนือขนอ้อยขึ้นรถบรรทุกส่งให้รัวๆ

ก๊อกๆๆ...
ใครวะ!

ผมกับธารผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ สายตาจับจ้องไปยังบานประตูราวกับจะถามว่าใครที่มาขัดจังหวะ แต่ไม่ต้องรอให้มีใครถามใคร คนด้านนอกก็ส่งเสียงแหลมๆ เข้ามาให้ได้ยินแล้ว
“ธารจ๋า อยู่มั้ยจ๊ะ เมียมาหาจ้า”

อีน้องมายด์! มึงมาทำบ้าอะไรดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้! ที่สำคัญ มาทำบ้าอะไรตอนน้องธารกำลังจะเหมาอ้อยโรงงานกูวะฮะ! อ้อยกูเทกระจาดหมดเลยเห็นมั้ยเนี่ย!

ผมรีบมองหน้าธารแล้วส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่า ‘ไม่ต้องสะเออะไปเปิดประตูให้มันเลยนะ’ ทว่ายังไม่ทันที่ธารจะได้พยักหน้าตกลง เสียงไขลูกบิดก็ดังมาให้ได้ยิน พร้อมกับการโผล่หัวเข้ามาของน้องมายด์ จอมแก่น และโรมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีน้องมายด์เป็นคนแรกที่ส่งเสียงทักพร้อมกับชูขวดแอลกอฮอล์ในมือหรา

“คืนนี้ก่งก๊งจ้าที่รัก น้องจอม ผัวตำแหน่งที่สามได้เหล้าฟรีมาจากพี่...แสบ...”
แล้วมันก็นิ่งค้างไปทันทีที่เห็นเพื่อนมันคร่อมตัวผมอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เสื้อก็ไม่ใส่กันทั้งคู่ เท่านั้น ขวดเหล้ากับกุญแจที่น้องมายด์ใช้ไขประตูเข้ามาก็ร่วงลงสู่พื้นทันที ตามมาด้วยความอึ้งงันของทุกคนที่ได้เห็นภาพไม่คาดฝันเต็มสองตา
“นะ...นี่มันอะไร เจ้ทำอะไรเพื่อนหนู!?” น้องมายด์โวยวายทันที ปรี่เข้ามาดึงแขนธารให้ลุกออกจากตัวผมด้วย

กูไม่ได้ทำอะไรเพื่อนมึงเลย เพื่อนมึงคร่อมกูอยู่ก็แสดงว่าเพื่อนมึงทำกูต่างหาก!
แล้วมันฉุกใจคิดมั้ย...เหอะ! เอาแต่แว้ดๆ ใส่ผมประหนึ่งผมไปพรากพรหมจรรย์เพื่อนมันอย่างนั้นแหละ

“เจ้มาทำแบบนี้กับธารได้ยังไง เจ้เป็นอาจารย์นะ ถึงอีกไม่กี่วันเจ้จะเป็นคุณแม่เต็มตัว ไร้สถานะอาจารย์ก็เถอะ แต่ทำแบบนี้มันไม่สมควร!”

กูไม่ได้ทำ! ถึงกูจะสมยอม แต่กูก็เถียงว่าไม่ได้ทำ!

“น้องมายด์เข้าใจผิดแล้ว” ผมอยากจะด่ามันชะมัด ทว่าทำได้แค่ตั้งท่าแก้ตัว
หากแต่น้องมายด์ก็ไม่ฟัง หันไปพึมพำกับจอมแก่นและโรมที่ยังมองธารกับผมสลับกันไปมาอย่างตกตะลึงไม่เลิก
“ตายแล้วธารเอ๊ย ธารใจใสๆ ของกูแปดเปื้อนซะแล้ว มาเสียตัวให้อีเจ้ใสๆ เนี่ย” พูดพลางปัดเนื้อปัดตัวธารราวกับมันไปคลุกกับเชื้อโรคมา ก่อนจะชำเลืองสายตามาทางผมอย่างเหยียดหยาม “ไสจังแรน”

ไสจังแรน?
อ๋อ แสนจัง...
เดี๋ยว! นี่มึงด่ากูนี่หว่าอีน้องมายด์! บอกแล้วไงว่ากูไม่ได้ทำเพื่อนมึง เพื่อนมึงเป็นฝ่ายทำต่างหาก คดีที่มึงโผล่มาระหว่างที่พวกกูกำลังแซ่บกันยังไม่เคลียร์ อย่ามาสร้างคดีใหม่นะเว้ย! มึงก็ใสเถอะ!
ไสหัวออกไปเลย!

ผมย่นหน้าทันที ขณะที่ธารเองก็ชักสีหน้าใส่น้องมายด์ ตามมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“มึงเล่นมากเกินไปแล้วไอ้ไม้ ไปว่าพี่เหนืออย่างนั้นได้ไง ครั้งก่อนก็ว่าพี่เหนือทีนึงแล้วนะ”
“มากเกินอะไร ก็จริงนี่หว่า กูเห็นเจ้แกแทะโลมมึงมาตั้งแต่ตอนที่ไปร้านนมตรงสวนชมน่านกันละ กูก็ว่ามันแปลกๆ คิดจ้องจะกินมึงอยู่จริงๆ ด้วย แล้วอีกอย่างนะ ครั้งนั้นกูไม่ได้ด่าอีเจ้ กูแค่เกือบเฉยๆ”
น้องมายด์เถียงตาใส ท่าทางก็ไม่ยอมเหมือนกัน ทำหน้าทำตาน่าหมั่นไส้ใส่ผมอีก
ผมน่ะ ไม่ถือเท่าไหร่หรอกที่เห็นคนอายุน้อยกว่ามาทำแบบนี้ หนึ่งคือเข้าใจว่าเด็กพวกนี้เป็นเด็กช่าง สังคมเพื่อนอาจทำให้การพูดจาฟังดูห่ามๆ ไปบ้าง และสองคือน้องมายด์เป็นหนุ่มน้อยหัวใจสาว จะมีจริตจะก้านเยอะแบบนี้ก็ไม่แปลก

หากแต่คนที่ถือคือธารใจ แค่ได้ยินเพื่อนตัวเองพูดอย่างนั้น ก็สะบัดตัวหลุดจากมือของน้องมายด์ ถอยมายืนตรงหน้าผมพลางว่าเสียงแข็ง
“จะเกือบหรือไม่เกือบ พี่เหนือก็เป็นอาจารย์ มึงต้องขอโทษพี่เหนือเดี๋ยวนี้”
ไม่ใช่แค่เสียงที่แข็ง ดวงตาก็แข็งกร้าว บ่งบอกว่ากำลังโกรธเต็มที่ น้องมายด์ก็เริ่มหน้าตึงๆ ไปแล้วด้วยรู้ว่าธารเอาจริง ทว่าก็ยังต่อล้อต่อเถียงไม่เลิก
“ก็แค่อาจารย์ฝึกสอนหรือเปล่ายะ อีกไม่ถึงอาทิตย์ก็ไม่ใช่แล้ว”
“แต่ยังไงพี่เหนือก็อายุมากกว่ามึง มึงมาปีนเกลียว มึงก็ต้องขอโทษ...ขอโทษเดี๋ยวนี้”

สั่งคำสั่งเดิมออกมาอีก คราวนี้เดินเข้าไปใกล้น้องมายด์เหมือนจะหาเรื่องด้วย ทำเอาโรมกับจอมแก่นที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ ทำท่าจะเข้ามาห้าม หากแต่ไม่ทัน แค่น้องมายด์บุ้ยปากพึมพำว่า ‘เรื่องแค่นี้ ทำเป็นจริงจังไปได้’ ธารก็พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อเพื่อนอย่างแรง พลันตะคอกใส่สุดเสียง
“กูบอกให้ขอโทษ! มึงจะต้องให้โดนกูกระทืบก่อนมั้ยถึงจะยอมพูดน่ะฮะ!”
น้องมายด์ส่งเสียงวี้ดว้ายด้วยตกใจ จอมแก่นกับโรมก็พุ่งเข้ามาดึงธารเอาไว้ก่อนที่มันจะได้ต่อยเพื่อนจริงๆ พลางร้องห้ามเสียงหลง
“เฮ้ยไอ้ธาร! มึงใจเย็นๆ ก่อน” อันนี้โรมพูด มือก็ดึงมือธารที่กำคอเสื้อน้องมายด์อยู่ออกไปด้วย
“อย่าวู่วามสิธาร มายด์คงไม่ได้ตั้งใจ ปล่อยก่อน แล้วคุยกันดีๆ” จอมแก่นผสมโรงด้วยอีกคน

ธารก็ยังไม่ปล่อยมือ ท่าทางจะเอาเลือดหัวน้องมายด์ออกให้ได้ ใจหนึ่งผมก็อยากปล่อยให้ตุ๊ดนั่นโดนต่อยปากสั่งสอนไปเหมือนกัน แต่พอเห็นสีหน้าหวาดหวั่นระคนตกใจของมันแล้วก็นึกสงสารขึ้นมา เลยเป็นอีกคนที่ต้องเข้าไปช่วยห้าม
“น้องธารครับ ปล่อยน้องมายด์ก่อนนะ พี่เหนือไม่ถือหรอก ใจเย็นๆ”
“พี่ไม่ถือ แต่ผมถือ! ไม่ชอบ!” กลายเป็นว่าผมโดนมันหันกลับมาตวาดใส่
ผมเลยต้องปั้นเสียงดุใส่ขึ้นมา
“พี่เหนือก็ไม่ชอบเหมือนกันที่น้องธารทำตัวอันธพาลแบบนี้ ถ้าไม่ปล่อยน้องมายด์ ก็ไม่ต้องมาคุยกัน”
พูดแค่นั้น ธารก็ทำสีหน้าขัดใจ แล้วยอมปล่อยมือจากน้องมายด์แต่โดยดี ทว่าก็ไม่วายสั่งส่งท้าย
“ขอโทษพี่เหนือเดี๋ยวนี้ไอ้ไม้”
มาอย่างนี้ แล้วมีเหรอที่น้องมายด์จะไม่ทำตาม ยกมือขึ้นไหว้ผมพร้อมกับสีหน้าสำนึกผิด เปล่งเสียงแหลมเล็กออกมาแผ่วเบา
“หนูขอโทษค่ะเจ้”
“ไม่เป็นไรครับ” ผมก็ยิ้มรับให้ไปตามประสา ดีแล้วล่ะที่เด็กนี่สำนึกได้

 โรมกับจอมแก่นก็ทำท่าโล่งใจไปตามๆ กันที่ไม่เห็นเพื่อนตีกันอย่างที่คาดไว้ ผมก็เลยออกปากให้พวกมันเก็บกวาดของที่น้องมายด์ทำหล่นแตกเกลื่อนพื้น ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายถูกธารสั่งบ้าง
“แล้วนี่พี่จะยืนโชว์นมอีกนานมั้ย ไปใส่เสื้อ” สั่งไม่ดังนักหรอก แต่น้ำเสียงก็บ่งบอกว่าไม่พอใจ ผมเลยแกล้งหยอกไปด้วยอยากให้มันอารมณ์ดีขึ้น
“ทำไมครับ หวงพี่เหนือเหรอ”
เท่านั้น มันก็ชักสีหน้า ว่าเสียงกระแทก
“เออ! ไปใส่เสื้อได้แล้ว”

ไม่พูดเปล่า เดินดุ่ยๆ ไปคว้าเสื้อยืดตัวเองจากในตู้เสื้อผ้ามาโยนใส่ผม โยนแล้วก็ลากเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูลงกลอนโดยไม่สนสายตาเพื่อนๆ มันที่มองมาอย่างตะลึงงันไม่เลิก พลันจัดการเอาเสื้อยืดสวมให้ผมเป็นพัลวัน
“เดี๋ยวๆ น้องธาร ใส่ผิดด้านแล้ว นี่มันด้านหลัง”
ผมโวยเล็กน้อยที่มันเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตายัดเสื้อยืดลงมาบนตัวผมโดยไม่ดูว่าข้างไหนถูก ข้างไหนผิด มันก็เลยปล่อยมือออก ให้ผมได้จัดการถอดแล้วใส่เข้าไปใหม่เอง
ใส่เสร็จ ก็ต้องเผชิญกับสายตาไม่พอใจของมันที่จ้องผมเขม็งอีกครั้ง
“อะไรครับ” ผมถามเมื่อเห็นมันเอาแต่จ้องผมไม่เลิก
“อย่าโชว์ให้ใครเห็น ผมไม่ชอบ”
สัมผัสได้ถึงความหวงแรงมาก จนผมเผลอยิ้มออกมา
“ถ้าไม่อยากให้พี่เหนือโชว์ใคร ก็เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อก่อนสิครับ พี่เหนือบอกแล้วนี่ว่าพี่เหนือชอบให้น้องธารเรียกแบบนั้น ถ้าเรียกแทนตัวเองแบบนั้นล่ะก็ รับรองเลยว่าพี่เหนือยอมทำตามทุกอย่างแบบไม่มีเงื่อนไขเลย”

ธารนิ่งไปนิด ก่อนจะพูดออกมาเสียงเบา
“อย่าไปโชว์ใครอีก ธารไม่ชอบ” พูดไปก็หน้าแดงไป
ส่วนผมก็ใจอ่อนยวบเลยจ้า ยอมให้มันทุกทางจริงๆ
“น่าร้าก” ยกมือไปดึงแก้มทั้งสองข้างของคนตรงหน้าให้ยืดออกแล้วโยกไปมาด้วย
ธารสะบัดหน้าหนี ก่อนว่าเสียงเขียว
“มัวเล่นอยู่ได้ ออกไปข้างนอกได้แล้ว” แล้วมันก็ปลดล็อคประตู เดินกลับออกไปก่อนอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมมองตามหลังพลางอมยิ้มไม่เลิก


 
ถึงธารจะใจเย็นลงได้แล้วเพราะน้องมายด์ขอโทษผมเป็นที่เรียบร้อย แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มใจของบรรดาเด็กช่างสามคนตรงหน้าที่นั่งรายล้อมจานกับแกล้มที่พวกมันเพิ่งออกไปซื้อมาอยู่ในวงเหล้า จิบเหล้าไป สายตาก็มองผมกับธารที่นั่งอยู่ข้างกันสลับกันไปมาโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักแอะ จนผมชักอึดอัด ธารเองก็เช่นกัน สุดท้ายธารก็เป็นฝ่ายโวยวายที่เอาแต่โดนจ้อง แล้วก็เปิดปากอธิบายว่าทำไมพวกมันถึงได้เห็นผมกับตัวเองในสภาพนั้น

พวกเพื่อนมันแปลกใจนิดหน่อยที่เพิ่งรู้ว่าธารก็มีรสนิยมชอบผู้ชายอย่างนี้ด้วย แต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะน้องมายด์ที่เหมือนจะเมาจากการดื่มย้อมใจเริ่มร้องไห้ออกมา แล้วเข้ามาเกาะแข้งเกาะขาผม ขอโทษเรื่องที่ด่าผมไม่หยุดหย่อนจนผมชักจะรำคาญมันแล้วเนี่ย

มึงเมาแล้วร้องไห้คืออะไรฮะ!

แต่ก็ดีอย่างที่การเมาแล้วร้องไห้ครวญครางไม่เลิกของมันทำให้บรรยากาศอึมครึมผ่อนคลายลงได้ จอมแก่นกับโรมเลยวางตัวเป็นปกติเหมือนเดิม พร้อมกับเริ่มถามถึงความสัมพันธ์ของผมกับธาร โดยรับปากธารด้วยว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครถ้าธารไม่อยากจะแกรนด์โอเพ่นนิ่งในเร็ววัน ธารก็เออออไป ดูท่าทางไม่ได้ใส่ใจนัก หากแต่หูกับคอนี่แดงนำเพื่อนไปก่อนแล้วเรียบร้อย ปากก็เล่าเรื่องไปด้วย และแดงยิ่งกว่าเดิมเมื่อถูกถามว่าเป็นแฟนกับผมหรือเปล่า

“แฟนเฟินบ้าอะไร พี่เหนือเป็นอาจารย์นะเว้ย”

แหม ทำเป็นพูดไปเถอะ อีกไม่นานก็ใช่แล้ว

แน่นอนว่าพอมันพูดประโยคนี้ ก็ถูกจอมแก่นกับโรมรุมว่าคนเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน ไม่มานอนเนื้อแนบเนื้อกันอย่างที่พวกมันเห็นหรอก ยิ่งพวกมันเห็นถุงยางกับเจลหล่อลื่นบนโต๊ะข้างเตียง ก็พากันเข้าใจผิดไปไหนต่อไหนแล้ว ธารก็เถียงไม่ได้ เปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องกุญแจสำรองที่น้องมายด์ใช้ไขเข้าห้องมาทันที ก็ขอกุญแจห้องคืนน่ะ ผมเลยเพิ่งมารู้ตอนนี้ว่าจริงๆ แล้วธารให้จอมแก่นเก็บกุญแจห้องตัวเองไว้ เผื่อเวลามันตื่นสายหรือเมาไม่ตื่น จอมแก่นจะได้ใช้ไขเข้ามาปลุกง่ายๆ ส่วนเรื่องที่เอามาใช้บุกเข้ามายามวิกาลนี่ก็เป็นเรื่องปกติ บางทีพวกมันก็มาเซอร์ไพรส์ธารแบบนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนกัน

แต่จะอะไรก็ไม่สำคัญเท่าพวกมันเริ่มบรรเลงเพลงเพื่อชีวิตอีกแล้ว จนผมต้องคอยปรามพวกมันอย่าให้เสียงดังจนเกินไป แล้วไหนจะต้องแงะอีน้องมายด์ที่กอดผมร้องไห้ไม่เลิกออกอีก หลายชั่วโมงทีเดียวกว่าพวกมันจะเมาและเริ่มหมดแรงคอพับคออ่อนกัน หนักสุดคือน้องมายด์ขาประจำเจ้าเดิม เมาร้องไห้เสร็จปุ๊บก็เมากินกับแกล้ม กินเสร็จก็เอาหน้าไปจุ่มกับแกล้มอีก

จะว่ายังไงดีล่ะ คือมันกินๆ อยู่ แล้วก็ผล็อยหลับไปกลางอากาศน่ะ แล้วเอาหน้าจุ่มลงอะไรไม่จุ่ม เอาจุ่มลงจานลาบหมู ลำบากให้ผมต้องไปลากมันขึ้นมาอีก หากแต่ขณะที่พยายามดึงมันออกเป็นบ้าเป็นหลัง ธารที่นั่งพิงกำแพงอยู่ก็ร้องเรียกผมขึ้นมา

“พี่เหนือ... เถิบมา” กวักมือเรียกผมพร้อมปรือตาเซ็กซี่ใส่ด้วย
รายนี้ก็เมา แต่ยังไม่หลับ ที่สำคัญ พอเมาแล้วทำตาหรี่เล็กลงอย่างนี้โคตรดูเซ็กซี่เลย แถมร้องเรียกอย่างนี้ มีเหรอผมจะไม่ไป ทิ้งน้องมายด์ให้เอาหน้าจุ่มลาบหมูดังเดิม พลันปรี่เข้าไปหาธารทันที

น้องธารขายอ้อยก็ต้องรีบไปซื้อก่อน ของแรร์หายากอย่างนี้ ใครมันจะปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ

เข้าไปใกล้มันได้ก็ยังไม่ทันจะได้ถามว่าเรียกผมมาทำไม ธารก็คว้าผมเข้าไปกอดแล้ว จับหมุนตัวให้นั่งเอาหลังพิงมัน ก่อนจะวางคางลงมาบนไหล่บนเต็มน้ำหนักอีก
อะ...อะไร!? ขายอ้อยแบบฮาร์ดเซลหรือยังไง หูย... เหมาหมดไร่จ้า!
 “กอดหน่อย”

เหมาจริงๆ เหมาแบบเปย์หมดตัว ยิ่งมันพูดประโยคถัดไปออกมา ผมนี่แทบจะเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม ถอนเงินมาให้มันหมดบัญชีเลย
บอกเลยว่าพี่เหนือน่ะหล่อไม่มาก แต่โอนไวนะ

พูดแล้วก็กอดผมแน่น กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึ้กลอยโชยเข้าจมูกผมอย่างชัดเจน ลมหายใจอุ่นๆ ก็ไล้คลอเคลียใบหูผมอย่างแผ่วเบาจนผมต้องเกร็งตัวเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
ตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อได้ยินเสียงมันกระซิบมาระลอกที่สอง
“โคตรชอบพี่เลย...”

อะ...อ้อนเหรอ? อ้อนใช่มั้ย!? ที่กอดแล้วอ้อน มานัวเนียๆ นี่เพราะเมาหรือจากใจ ชี้แจงอย่างเป็นทางการที!

ใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เอี้ยวใบหน้าจะไปมองมันก็ดันถูกจูบเข้าที่ใบหูซะก่อน แถมยังหลับตาพริ้ม นัวเนียคลอเคลียไม่เลิก
นะ...น้องธาร...
ลากมันเข้าห้องน้ำแม่งเลย ทนไม่ไหวแล้ว!

แต่ห้องน้ำมันเล็กไป ไปที่ที่มีเตียงๆ นอนสบายๆ ดีกว่า
งั้น...
“น้องธาร... ไปห้องพี่เหนือมั้ยครับ” ไม่ใช่แค่คิด ปากก็ร้องถามด้วยเถอะ

ธารปรือตามองผมเล็กน้อย แล้วก็ซุกหน้าลงบนไหล่ผมแทน
“ขออยู่แบบนี้ก่อน”
อยู่แบบนี้แล้วจะได้แซ่บเหรอ! ไปที่ห้องกูสิเว้ย!

ผมนี่แทบจะแกะมือมันออกจากตัว พุ่งไปคว้าถุงยางกับเจลหล่อลื่นแล้ว แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมันเอาแต่พูดประโยคเดิมออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ผมได้ชื่นใจ
“ธารชอบพี่นะ...โคตรชอบเลย... ชอบ...”
ธารใจสมชื่อ เป็นสายน้ำชโลมใจพี่เหนือจริงๆ เลยลูกเอ๊ย...

“พี่เหนือก็ชอบน้องธารครับ” ผมบอกกลับไปบ้าง เผลอจรดริมฝีปากไปบนขมับของมันเสียเต็มรักด้วย
ธารปรือตาขึ้นมามองผมเล็กน้อย ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วก็ฝังหน้าลงบนไหล่ผม หลับตาพริ้มตามเดิม ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทรา ปล่อยให้ผมอยู่ในอ้อมกอดมัน มองดูความน่ารักนี้เพียงลำพัง
เห็นแบบนี้แล้ว ชักไม่อยากให้การฝึกงานสิ้นสุดลงแล้วสิ

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 17: ของขวัญอำลาฝึกงาน[2]

ไม่อยากให้สิ้นสุด แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา หลังจากวันนั้น ผมก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำรายงานฝึกส่งอาจารย์ผู้ดูแลการฝึกจนไม่ได้ไปนอนห้องธาร เอาแต่สิงอยู่ห้องตัวเองทุกวันหลังกลับมาจากวิทยาลัย นอนก็แทบไม่ได้นอนด้วยเถอะ ไปสอนพวกเด็กนั่นนี่สภาพซอมบี้เลย สอนไป เอ๋อกินไปจนถูกเด็กในแผนกทักบ่อยๆ ว่าได้นอนบ้างหรือเปล่า
ยิ่งกว่าการไม่ได้นอนก็คือการที่ธารไม่คุยกับผม ถามอะไรไปก็คว่ำปากเป็นสระอิให้ตลอด จนผมต้องตามตอแยมันถึงได้รู้คำตอบว่าเป็นอะไร
“ถ้ารายงานฝึกมันสำคัญมากนัก พี่ก็ไปทำสิ ไม่ต้องมาคุย”

อ้อ ที่แท้ก็งอนที่ผมไม่มีเวลาให้นั่นเอง นี่มันจะรู้มั้ยน่ะว่าถ้าผมทำไม่ทันกำหนดส่ง ผมก็ฝึกงานไม่ผ่านนะ
เสียเวลาไปนั่งอธิบายให้มันฟังอีก กว่ามันจะเข้าใจก็เล่นเอาเปลืองน้ำลายไปเป็นลิตร แล้วถามว่ามันหายงอนมั้ย...หาย แต่หายแล้วก็ดันไปงอนเรื่องใหม่อีก ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรขัดใจมัน เจอหน้ากันตอนเย็น มันก็กระฟัดกระเฟียดเป็นหมาบ้าใส่แล้ว

อะไรของมึงเนี่ย!

“ปากคว่ำอีกละ งอนอะไรพี่เหนืออีกครับฮึ?” ผมถามขณะที่ผมลากมันออกมากินข้าวเย็นด้วยกันเป็นการเอาใจ
หากแต่มันไม่ตอบ ซ้ำยังตักแตงกวาในจานตัวเองมาใส่จานผมเป็นการประชดอีกทั้งที่ปกติจะเป็นคนกินให้ผม
“ไม่ได้งอน”
ไม่ได้งอนบ้าอะไร หน้านี่บูดเป็นหมาปั๊กเลยเถอะ

“มีอะไรก็บอกสิครับ พี่เหนือจะได้เอาใจถูก งอนแล้วไม่พูดแบบนี้ พี่เหนือไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรก็ง้อไม่ถูกนะ” ผมแกล้งว่า
ธารละสายตาจากจานข้าวตัวเองมามองผมเขม็งให้ผมได้เลิกคิ้วสูง
“อีกกี่วันถึงจะฝึกงานเสร็จ”
“พรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายแล้วไง จำที่อาจารย์สมรบอกไม่ได้เหรอ โฮมรูมวันนี้ก็แจ้งอยู่นา” ผมว่าพลางรำลึกความหลังให้มัน

ก็วันนี้ในคาบโฮมรูม พี่สมรลากผมไปคุยกับเด็กๆ ในแผนกว่าพรุ่งนี้ผมจะไปสอนพวกมันเป็นวันสุดท้าย แล้วก็จะกลับกรุงเทพฯ เลยสั่งให้เด็กๆ เตรียมของขวัญมาให้ผมอย่างละชิ้นด้วย ความจริงผมก็ไม่อยากได้ของขวัญจากเด็กพวกนั้นหรอก ยิ่งเป็นพวกของกินด้วยแล้วยิ่งไม่อยากได้ใหญ่ กลัวพวกมันจะแกล้งส่งท้าย เอายาถ่ายอะไรใส่มาแบบนี้

ทว่าการเตือนความจำของผมกลับทำให้ธารหน้ายุ่งขึ้นไปอีก ก่อนมันจะวางช้อนกระแทกจานอย่างแรง
“จำได้ แล้วพี่จำที่ตัวเองพูดได้บ้างมั้ยวะ”
เรื่องอะไรวะ...

ผมเอ๋อไปเลย คิดอยู่พักใหญ่ทีเดียวว่าไปพูดอะไรกับมันไว้บ้าง มานึกออกอีกทีก็ตอนที่มันพ่นลมหายใจใส่ผมเต็มแรง แล้วว่าเสียงแข็ง
“พี่บอกว่าจะจีบผมตอนฝึกงานเสร็จไงเล่า!” พูดซะเสียงดังจนคนอื่นๆ ในร้านหันมามองเป็นตาเดียว
ผมรีบยกมือขึ้นจุปากเป็นสัญญาณให้มันเงียบทันใด พลางว่าปลอบ
“ก็จะจีบไงครับ รออีกวันเดียว พี่เหนือฝึกงานเสร็จก็จะจีบนะ อันนี้จริงจังเลย”
“แล้วพี่จะจีบยังไง ฝึกงานเสร็จก็กลับกรุงเทพฯ ไม่ใช่เหรอฮะ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าคิดจะจีบทางไกล ไม่ติด!”
เสียงดังขึ้นมาอีกแล้ว ผมกลอกตาเล็กน้อยกับท่าทางกระด้างกระเดื่องของเด็กนี่ แต่ก็เข้าใจชัดแจ้งแล้วล่ะว่าที่มันทำหน้าบอกบุญไม่รับตลอดทั้งวันนี่เป็นเพราะอะไร

ที่แท้ก็ไม่อยากให้พี่เหนือกลับกรุงเทพฯ ก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้ไอ้เด็กขี้ซึน

รู้ว่าการกระทำของเด็กนี่โคตรงี่เง่าง้องแง้งเลย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงหลุดยิ้มกว้างออกมาได้ จนมันที่มองผมอยู่เม้มปากแน่น แล้วว่าเสียงแข็ง
“ยิ้มอะไร”
“ไม่มีอะไรครับ” ผมว่า วางช้อนในมือลงบ้าง ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาถือ “ไม่อยากให้พี่เหนือกลับกรุงเทพฯ ใช่ม้า ได้... ไม่อยากให้กลับก็ได้ งั้นจะอยู่จีบน้องธารที่นี่แหละ”

พูดจบ ผมก็กดโทรออกหาใครบางคน คนคนนั้นคือแม่ผมเอง เจรจาอยู่นานทีเดียวว่าผมขออยู่พิษณุโลกต่อ โดยอ้างว่าผมยังเหลือเวลาว่างอีกหลายเดือนกว่าจะเข้ารับปริญญา เลยอยากจะพักผ่อนเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่ก่อนไปใช้ชีวิตหลังเป็นบัณฑิต แต่ถึงจะอ้างเหตุผลอะไรไป แม่ก็รู้ว่าที่ผมร้องขอแบบนี้เป็นเพราะเรื่องผู้ชาย ก็ผมกับแม่น่ะสนิทกันอย่างกับอะไรดี ไม่รู้ก็แปลกแล้ว ซึ่งแม่ก็ยอมด้วยผมรับปากว่าเรียนจบอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ จะเลิกเที่ยวโดยเด็ดขาด และถ้าได้ทุนไปเรียนต่อก็จะตั้งใจเรียนแบบไม่เที่ยว ไม่มั่วอย่างที่เคยทำมาด้วย

จริงๆ แม่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้นัก ทว่าถึงขนาดผมออกปากให้สัจจะอย่างนี้ แม่ก็ยอมให้อยู่ต่ออีกสองเดือน
แค่สองเดือนก็เหลือแหล่แล้วล่ะกับการจีบไอ้เด็กนี่ อาทิตย์เดียวก็น่าจะเรียบร้อยโรงเรียนไอ้เหนือแล้วมั้ง

วางสายจากแม่ได้ ผมก็หันไปยิ้มกว้างให้ธาร พลางว่าแหย่
“พี่เหนืออยู่จีบน้องธารต่อที่นี่แล้วนะครับ หายงอนนะ” ยื่นนิ้วก้อยไปง้อมันตรงหน้า
มันปัดทิ้งพลันเสมองไปทางอื่น
“ก็บอกว่าไม่ได้งอน”
ไม่ได้งอนบ้าอะไร พอได้ยินว่าผมอยู่ต่อก็แอบลอบยิ้มด้วยเถอะ

ไอ้เด็กนี่มันน่าเอ็นดูได้โล่จริงๆ

“แล้วพรุ่งนี้น้องธารจะให้ของขวัญอำลาฝึกงานอะไรพี่เหนือเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น
ธารหันกลับมามองหน้าผม พลันตอบนิ่งๆ
“ไม่ให้”
“เอ้า คนอื่นยังให้เลย ทำไมน้องธารไม่ให้ล่ะ อาจารย์สมรสั่งนะ” ผมโวยนิดๆ หัวคิ้วของธารเลยผูกกันยุ่งขึ้นมา
“คนอื่นให้ก็ให้ไปสิ ทำไมผมจะต้องทำตามด้วย ป้าหมอนไม่ใช่แม่”
แต่กูก็สนิทชิดเชื้อกับมึงม้ากมากหรือเปล่าวะ ให้หน่อยก็ได้ หัวใจพี่เหนือจะได้ชุ่มฉ่ำ

ทว่าจะให้หรือไม่ให้ ผมก็ไม่สนใจหรอก สนใจตรงที่มันกลับมาเรียกแทนตัวเองว่า ‘ผม’ อีกละ
“ผมๆๆ อะไรก็ผมๆๆ พี่เหนืออยากได้ยินธารอย่างโน้น ธารอย่างนี้มากกว่า” แกล้งทำแก้มป่องๆ ด้วย ให้รู้ว่างอนทั้งที่จริงๆ ไม่ได้งอน
ธารเลยทำปากยื่น ก่อนจะว่าออกมา
“ป้าหมอนไม่ใช่แม่ธาร ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่ง โอเคมั้ย”
“ครับๆ ไม่ให้ก็ไม่ให้นะ เรียกแทนตัวเองว่าธารให้พี่เหนือชื่นใจก็พอแล้ว” หยอดไปอีกหน่อยเพื่อความฟินของตัวเอง
ธารไม่พูดอะไรต่อ ตั้งหน้าตั้งตากินข้าว ก่อนเราจะแยกย้ายกลับห้องใครห้องมันด้วยผมยังต้องทำรายงานฝึกต่อ
 


เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืน สะโหลสะเหลไปสอนเป็นวันสุดท้ายด้วยสติไม่สมประกอบเท่าไหร่นัก ดีนะที่รายงานเสร็จทันส่งเย็นนี้ ผมเลยไม่ต้องฝืนง่วงยาวนัก แค่ฝึกงานเสร็จก็กลับไปนอนตายได้ และการฝึกงานวันนี้ก็ไม่ได้สอนเต็มเวลาด้วย เพราะพี่สมรให้สอนแค่ครึ่งชั่วโมงแรก ครึ่งชั่วโมงหลังให้ผมคุยกับเด็กๆ ในแผนก แล้วก็มีการให้ของขวัญตามที่สั่งไปเมื่อวาน ส่วนใหญ่ของขวัญที่ได้ก็เป็นขนมน่ะนะ คนละเล็กละน้อย ไม่ใช่ของมีมูลค่าอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้ตื้นตันใจได้ไม่น้อย

จะไม่ให้ตื้นตันได้ยังไง ก็ตอนผมมาสอนพวกมันวันแรก ยังจำได้อยู่เลยว่าพวกมันเกือบทำผมประสาทกินแค่ไหน กว่าจะมีมิตรภาพดีๆ กับพวกมันอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

ระหว่างที่เด็กๆ เอาของขวัญออกมาให้ผม ก็มีแต่ธารคนเดียวเท่านั้นที่นั่งมองอยู่กับที่ ทำเป็นเมินตลอดเวลาด้วย พี่สมรเองก็หลุดปากดุธารนิดหน่อยที่ไม่ให้ความร่วมมือ ผมเลยต้องรีบปรามเพราะไม่อยากให้ธารอารมณ์เสีย

กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน ธารถึงได้ส่งข้อความมาบอกผมว่าถ้ากลับไปถึงหอแล้ว ให้ออกมารอที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ของหอ มันมีอะไรจะให้

ที่แท้ก็อยากให้พี่เหนือแต่ไม่อยากให้ใครเห็นนี่เอง งานเด็กขี้อายก็มา

ผมก็ระริกระรี้ด้วยความอยากรู้เลยว่ามันจะให้อะไร รออยู่พักใหญ่ เด็กนั่นถึงได้ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดให้เห็น วันนี้มันไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออโต้ แต่ขี่คาวาซากินินจา ผมแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นมันขี่คันนี้ เท่าที่จำได้ เห็นมันว่าจะใช้เวลาเร่งรีบอย่างเดียวนี่หว่า

ผมอยากจะถามเหมือนกัน แต่แค่มันขี่มาจอดตรงหน้าผมปุ๊บ ก็ยื่นถุงพลาสติกใบใหญ่ที่บรรจุหมวกกันน็อคเต็มใบ สภาพใหม่เอี่ยมแต่สีและยี่ห้อเหมือนกับที่มันใส่เด๊ะๆ มาให้ซะก่อน
“เอาไป”
ผมรับมาถือแล้วมองอย่างงุนงง
“อะไรเหรอครับ”
“หมวกกันน็อคไง”
“รู้แล้วครับว่าหมวกกันน็อค พี่เหนือหมายถึงเอามาให้พี่เหนือทำไมต่างหาก ไหนว่าจะให้ของขวัญไง”
ธารย่นคิ้วกับคำถามนั้น เม้มปากเล็กน้อย แล้วก็ทำท่าจะบิดมอเตอร์ไซค์กลับออกไปหน้าตาเฉย
“เอ้า ยังไม่ตอบคำถามพี่เหนือเลย จะไปไหน” ผมรีบร้องท้วง เรียกสายตารำคาญของมันให้หันมามองทันใด
“ก็นี่ไงของขวัญ”
“หืม?”
“ของขวัญอำลาฝึกงานไง ธารให้ เวลาซ้อนไปไหนจะได้ไม่ต้องมาบ่นเรื่องไม่มีหมวกกันน็อคกันตายอีก ยังอยู่ที่นี่อีกนานไม่ใช่เหรอ หัดใช้มอ’ไซค์มั่ง เอาแต่ขับรถยนต์ เปลืองน้ำมัน เปลืองแก๊สจะตาย” พูดไปก็หน้าแดงไป ทำเอาผมอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
“ยะ...ยิ้มอะไรเล่า ถ้าไม่เอาก็เอาคืนมา” แล้วก็ยื่นมือมาทำท่าจะแย่งหมวกกันน็อคคืนจากผมด้วย
ผมเอี้ยวตัวหลบได้ทัน ก่อนจะรีบยกหมวกขึ้นสวม เปิดหน้ากากหมวก แล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้มัน
“เป็นไง พี่เหนือหล่อปะ”
ธารเบ้หน้าให้ผมเล็กน้อย ทำตาหลุกหลิกครู่หนึ่ง พลันดึงแขนผมให้เข้าไปใกล้
“ไม่... แต่พี่น่ารัก”
โอ้...หน่องธารรร น่ารักงี้ ขึ้นไปที่ห้องพี่เหนือกันเต๊อะ!

แทบจะลากมันไปเลย ยิ่งสิ้นสุดสถานะอาจารย์ฝึกสอนด้วยแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บความหื่นกามอีกแต่อย่างใด หากแต่ธารไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูด หันมาส่งสัญญาณให้ผมขึ้นคร่อมรถซะงั้น
“จะยืนมองอีกนานมั้ย ใส่หมวกเสร็จแล้วก็ขึ้นมาซ้อนสิ”
“ไปไหนเหรอครับ” ผมเลิกคิ้วสูง
“ขี่รถเล่น แล้วก็หาข้าวกิน เบื่อข้าวแถวนี้แล้ว”
ผมร้องอ๋อ แต่ก็ยังไม่ยอมปีนขึ้นไปนั่งด้วยนึกได้ว่าตอนที่ซ้อนไอ้นินจาคันนี้ ธารมันขี่เร็วทะลุนรกแค่ไหน
และมันคงจะอ่านท่าทางผมออก พ่นลมหายใจออกมาทีนึง ก่อนว่าเสียงรำคาญ
“ไม่ขี่เร็วหรอกน่า ขึ้นมาเถอะ”

ไม่ขี่เร็ว แต่ยังไงก็ถูกด่าพ่อล่อแม่ใช่มั้ย?
ใครเชื่อมึงก็บ้าแล้ว!

“ทำไมไม่เอาคันที่เป็นออโต้ไปล่ะครับ พี่เหนือว่ามันน่าจะขี่ง่ายกว่านะ” ผมต่อรอง ใจนี่โคตรไม่อยากให้มันขี่ไอ้นินจานี่ไปเลย
ทว่าก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อคนตรงหน้าให้เหตุผล
“คันนี้ไม่เคยให้ใครซ้อน มีพี่เคยซ้อนแค่คนเดียว ถ้าพี่ไม่อยากซ้อนก็ตามใจ เอาอีกคันไปก็ได้”
โอ้ อยากให้พี่เหนือซ้อนคนเดียวนี่เอง แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เอาจ้า! พี่เหนือยอมเป็นสก๊อยบอยให้แว้นน้องธารทันทีเลย

“ซ้อนสิครับ ที่ของพี่เหนือนี่เนอะ” เสนอหน้าไปซ้อนท้ายมันรัวๆ แต่ถึงจะระริกระรี้ ผมก็ไม่ลืมย้ำมันอีกที “แต่ขี่ช้าๆ นะ แบบซิ่งท้านรกนี่ ไม่เอาแล้วเน้อ เดี๋ยวพี่เหนือตก”
เพราะพูดไปอย่างนั้น ธารเลยหัวเราะออกมาหน่อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้ามือผมไปเกาะเอวมันโดยไม่ทันให้ผมตั้งตัว
“กลัวตกก็กอดไว้”

นะ...น้องธาร... ขะ...ขึ้นห้องๆๆ ข้าวเขิ้วอะไรไม่ต้องไปกินแล้ว กินพี่เหนือเถอะ!
น้ำลายสอเลย ไม่ได้หิวข้าวนะ หิวมันเนี่ย โหย... งานดีมากจริงๆ ธารใจของพี่

หิวจนถึงขนาดกอดเอวมันไม่พอ พยายามเอาหน้าไปสูดดมกลิ่นมันด้วย ฟินแร้งแรง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะติดหมวกกันน็อค แถมมันยังขู่มาว่าถ้าผมทำอะไรแผลงๆ เช่นงับหู หรือหอมแก้ม หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้มันตกใจ มันไม่รับประกันว่าจะพาผมแหกโค้งหรือไม่ ผมเลยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยไม่อยากตายก่อนวัยอันควร

แต่ไม่เป็นไร กลับมาห้องเมื่อไหร่ ค่อยตอดมันอีกทีแล้วกัน
บอกเลยว่าพี่เหนืออยากได้น้องธารเป็นของขวัญอำลาฝึกงานมากกว่าหมวกกันน็อคอีก

ถ้าจะเมตตาล่ะก็นะ... คืนนี้ก็ให้พี่เหนือเนอะ
-------------------------------------
อัพครบ 100% แล้วจ้า หน่องธารน่าร้ากกกก ทำเป็นซึน ที่แท้ก็โรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย อิอิ
ไม่แน่ใจว่าตอนหน้านี่จะมีเลิฟซีนมั้ยนะคะ หนูแดงกำลังเรียบเรียงทรีตเม้นต์ใหม่อยู่ คิดว่าตอนหน้านี่แหละ (ตัดเข้าโคมไฟหัวเตียงนะบอกไว้ก่อน ไม่อยากเขียน nc แรงๆ เรื่องนี้ขอให้มันใสๆ ไปเถอะนะ อย่าให้ผิดคอนเซ็ปต์เลย ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ค่ะ)
พรุ่งนี้ตอนเย็นๆ จะมาอัพตัวอย่างตอนที่ 18 ให้น้า
ปล. อย่าลืมส่งฟีดแบ็กกันให้ชื่นใจหน่อยน้า สายน้ำชโลมใจของเก๊า (เลียนแบบพี่เหนือ 55)


ออฟไลน์ aoraor

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ฝึกจบแล้วค่ะพี่เหนือปล่อยผีเลย
เทกระจาด มีบ้านขายบ้านมีไร่อ้อยขายไร่อ้อย เอาให้น้องธารติดกับ 555555

ปล.ใจเต้นตุ๊บตั้บ มีลางแปลกๆว่าอาจมาม่ากับทุนคุณพี่เหนือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2016 01:27:47 โดย aoraor »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รอก่อนเถอะอีพี่เหนือจะโดน

ออฟไลน์ pinkypromise

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักกกก แต่อิพี่เหนือก็ยังไม่ได้ไม่โดน


โดนอย่างเดียว โดนเทกระจาดอ้อย 555555


ออฟไลน์ NUBTANG

  • Nothing is impossible. "[+++++]"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่พ้นสามวัน หน่องธารเสร็จพี่เหนือแน่ล้าวววว 555555555555555555

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อยากได้อยากโดนของพี่เหนืิกำลังจะมา ในที่สุดอ้อยพี่อ้อยก็ขายหมดได้กำไรคืนแล้ววว

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
อิพี่เหนือนี่สุดท้ายจะได้จะโดนรึเปล่าเนี่ย 55555555
เอาใจช่วยนางนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
มาต่อไวๆนะพี่
 :katai5:

ออฟไลน์ lalaly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไสจังแลน

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โอ๊ยยยยย... อิพี่เหนือหื่นได้ตลอดอ่ะ
ส่วนน้องธารของป้า ก็น่ารักน่าเอ็นดู น่าปล้ำ!!!

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ขอให้สมหวังดั่งใจปอง~นะพี่เหนือ

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ว่าไปนี้ธานนี้ก็น่าโดนกดน่ะ 555555ถ้าสลับกันทำนี้คงดี5555หื่นไปอีกเรา

ออฟไลน์ shcheribrand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักจัง ขอให้พี่เหนือสมหวังซะทีเน้อ :ling1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
"พี่เหนือไม่หล่อ แต่โอนไวนะ" เกลียดแกมากอิเหนือ นาทีนี้ 55555  //  สงสารน้องธารรรร (สรรพนามคนละวรรณะมากกะอิเหนือ 55555) คนใสๆ (?) ตอนหน้าน้องท่าจะโดนอิเจ้เปิดซิงไม่รอดแน่ๆ ขอถ่ายทอดสด ไม่ตัดไปโคมไฟนะตะเอ๊งงงง

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 18: ชั่งใจรัก[1]

ไม่ใช่แค่ผมที่ฝึกงานแล้วอีกสองเดือนจะเรียนจบอย่างเป็นทางการ ธารเองก็เช่นกัน อีกสองเดือนมันก็จะจบชั้น ปวช. แล้ว ที่ผมรู้ก็เพราะคุณเลขาชยุตโทรมาตามเด็กนั่นให้กลับบ้านทันทีที่รู้ว่าผมฝึกงานเสร็จ ซึ่งนั่นก็หมายถึงหน้าที่ในการดูแลไอ้เด็กธารก็สิ้นสุดลงเช่นกัน การปล่อยให้มันอยู่หอคนเดียวเป็นการไม่น่าไว้วางใจ มันอาจจะไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทอีกตามที่พ่อมันเคยกังวล ผมเลยต้องโทรไปเจรจาว่าถึงฝึกงานเสร็จแล้วก็ยังไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ยังอยู่ต่อจนกว่าธารจะจบชั้นปีสาม และจะขอรับหน้าที่ดูแลธารต่อ

ดีที่คุณธีเชื่อใจผม กอปรกับพี่สมรสนับสนุนว่าอยู่กับผมไม่น่าจะมีปัญหาเพราะธารดูสนิทกับผมค่อนข้างมาก ทางนั้นเลยยอมให้ธารอยู่ต่อ โดยมีข้อแม้เหมือนเดิมว่าถ้ามันไปก่อเรื่องอีกเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็จะลากกลับบ้านทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ผมเลยเบาใจไปที่รั้งมันให้อยู่กับผมตามลำพังได้

คราวนี้แหละ สวรรค์ของไอ้เหนือชัดๆ เลยล่ะ หึๆ

แต่ถึงจะเป็นสวรรค์ ผมก็อดกังวลกับอนาคตของเด็กนี่ขึ้นมาหน่อยๆ ยิ่งเห็นเด็กโรงเรียนสายสามัญเริ่มทยอยมาเรียนพิเศษกันในย่านศูนย์การค้าละแวกที่ผมพักอยู่อย่างอุ่นหนาฝาคั่งแล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามเรื่องแผนการเรียนต่อของธาร

“น้องธารคิดหรือยังครับว่าเรียนจบ ปวช.แล้วจะเอาไงต่อ” ผมถามระหว่างที่นอนเล่นอยู่ในห้อง

เอ้อ ลืมบอก ตอนนี้ผมขนย้ายข้าวของทุกอย่างมาอยู่กับเด็กนี่เต็มตัวแล้วล่ะ ห้องที่ผมเช่าอยู่ก็ปล่อยให้หมดสัญญาเช่าไปแล้ว
ก็ช่วยไม่ได้ เด็กนี่มันเปิดโอกาสเองนี่หว่า มาออกปากชวนผมว่า ‘ยังไงก็นอนด้วยกัน จะไปเช่าอีกห้องทำไม เปลือง!’ แล้วผมจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยเหรอ หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ห้องมันรัวๆ แต่แน่นอนแหละว่าผมก็ช่วยมันออกค่าเช่าคนละครึ่งนะ ไม่ได้มาอยู่ฟรี มันยังเรียนอยู่เลยนี่หว่า ที่ใช้ๆ อยู่ก็เงินพ่อทั้งนั้น จะให้ผมที่โตกว่ามาเอาเปรียบได้ไง

หากทว่าธารไม่ใส่ใจกับคำถามผมมากนัก เดินใส่กางเกงตัวเดียวร่อนไปมา มือก็ใช้ผ้าเช็ดตัวซับหยาดน้ำที่เกาะบนตัวหลังจากการอาบน้ำอยู่ไปด้วย
“ไม่รู้”
“เอ้า จะไม่รู้ได้ไง ใกล้จะเรียนจบแล้ว ไม่ได้เตรียมแผนการอะไรไว้เหรอ”
ผมถามอย่างนั้นเพราะตอนที่ผมเรียน ม.หก ตอนนั้นผมเตรียมตัวสอบเข้ามหา’ลัยตั้งแต่ ม.ห้าเลยเถอะ อย่างน้อยถ้ามันไม่เรียนต่อมหา’ลัย ก็น่าจะมีแผนเรียนต่อ ปวส.ไรงี้ปะ?

ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาทำให้ผมหน้าหงายอีกรอบ
“ไม่ได้เตรียม ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร ถ้าไม่มีอารมณ์ก็ไม่เรียน ดูก่อน”
“ถ้าไม่เรียนต่อ แล้วน้องธารจะทำอะไรล่ะครับ ทำงาน?”
“ไม่รู้”
อนาคตมึงมีแววอับเฉามาแต่ไกลเลยนะ เป็นห่วงมันขึ้นมาเลยแฮะ

งั้นลองถามถึงเพื่อนๆ มันดูหน่อยแล้วกัน เผื่อว่ามันจะมีแนวทางอะไรบ้าง เช่นไปเรียนตามเพื่อนไรงี้

“แล้วพวกน้องจอมแก่น น้องมายด์ โรมล่ะครับ พวกนั้นมีแผนอะไร”
ธารชะงักมือที่กำลังเช็ดตัวอยู่ นิ่งคิดไปแป๊บ ก่อนจะพูด
“พวกมันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

น่าเป็นห่วงทั้งแก๊งเลยนะพวกมึงเนี่ย!

ผมถอนหายใจอย่างระอา อดเสียดายเกรดเฉลี่ยคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างเสียมิได้ ถึงมันจะเรียนสายอาชีพ แต่ได้ 4.00 ทุกเทอม ทุกวิชาอย่างนี้ก็แสดงว่าหัวดีไม่น้อย ใจผมนี่โคตรอยากให้มันเรียนต่อเลย จะเรียนอะไรก็เอาเถอะ แต่อยากให้มันเรียนโคตรๆ

งั้นตะล่อมโดยการเอาตัวเองเข้าล่อแล้วกัน
“แล้วน้องธารไม่สนไปลองสอบแอดมิชชันดูเหรอ สอบมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ มั้ย จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่เหนือ”
ธารหันมามองผมทันที ทำหน้าสงสัยด้วย ผมเลยรีบชิงอธิบายก่อน
“ก็พี่เหนืออยู่ที่นี่อีกแค่สองเดือนเองนี่ครับ ครบสองเดือน พี่เหนือก็ต้องกลับบ้านแล้วนะ ทีนี้เราก็จะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ละ แต่ถ้าน้องธารไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ก็จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่เหนือ เราก็จะได้เจอกันบ่อยๆ ไงครับ”
ธารพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ พลางว่าอุบอิบ
“เป็นอะไรกันถึงจะต้องไปอยู่ใกล้ๆ พี่วะ”

แน่ะๆ มาแล้ว มุขเปิดทางให้พี่เหนือได้ฮาร์ดเซลขายอ้อยมาแล้ว

“ก็เป็นสายน้ำชโลมใจของพี่เหนือไง มาอยู่ใกล้ๆ พี่เหนือนะ พี่เหนือจะได้ไม่แห้งแล้ง” ได้ที ผมก็เอาเลย ลุกจากเตียงไปดึงมันให้ทรุดตัวนั่งที่ปลายเตียง แล้วกระแซะเป็นการใหญ่
มันก็หน้าแดงไปตามประสา มีการเอี้ยวตัวหลบผมที่พุ่งเข้าไปจะกอดมันด้วย
“สายน้ำบ้าอะไร ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

อ๊ะๆ มาอีกแล้วมุขเปิดทางขายอ้อย โถ อยากให้พี่เหนือขอเป็นแฟนก็ไม่บอก จะว่าไปก็ย้ายมาอยู่กับมันหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มจีบมันอย่างเป็นทางการเลยแฮะ

งั้น...
“น้องธารเป็นแฟนกับพี่เหนือมั้ย”
จู่ๆ ผมก็ถาม ทำเอาธารหันมามองหน้าผมตื่นๆ ราวกับเห็นผี พอผมยิ้มให้แล้วพยักหน้าเป็นเชิงว่าผมพูดจริง มันไม่ได้หูฝาด แก้มขาวๆ ก็แดงแจ๋ขึ้นมาจนลามขึ้นหูลงคออย่างรวดเร็ว

“ว่าไง ตกลงจะเป็นแฟนพี่เหนือมั้ยครับ ขอเป็นแฟนแล้วเนี่ย จะได้มาอยู่ใกล้ๆ พี่เหนือแบบไม่มีเงื่อนไข”
“มะ...ไม่” ธารตอบเสียงสั่นน้อยๆ หลบสายตาทันควันด้วย
ผมก็หมุนตัวตามสายตามัน ไปกระแซะตื๊อให้มันซื้ออ้อยอีก
“ปฏิเสธงี้ แสดงว่าไม่ชอบพี่เหนือ?”
“เปล่า”
“เอ้า แล้วปฏิเสธทำไมอะ”
“กะ...ก็...ไม่”

ยัง...ยังเล่นตัวไม่เลิกอีก

“ไม่อะไรอีก ชอบพี่เหนือขนาดนี้แล้วก็ยอมเป็นแฟนกับพี่เหนือเถอะ” ผมแสร้งว่า หน้าของธารยิ่งแดงเข้าไปใหญ่
“ก็พี่ยังไม่ได้จีบเลยนี่หว่า จะเป็นได้ไง”
“เนี่ย จีบแล้ว” ผมยกมือขึ้นจีบคว่ำจีบหงายใส่มันรัวๆ เลยโดนมันมองค้อนเข้าให้ ก่อนจะหลุดขำเสียงดังที่เห็นมันเริ่มออกปากด่า
“กวนตีน”
“ไม่อยากให้พี่เหนือกวนก็เป็นแฟนพี่เหนือสิครับ รับรองว่าถ้าเป็นแฟนพี่เหนือเมื่อไหร่ พี่เหนือจะดูแลอย่างดีเลยนะ” ผมเย้าอีก และคำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม
“ไม่”

ใจแข็งจังเลยแฮะ งั้นอ้อนหน่อยแล้วกัน
เท่านั้นผมก็ถลันเข้าไปหา เอาหัวไปไถๆ ต้นแขนล่ำนั่นเป็นการอ้อน
“เป็นแฟนกับพี่เหนือหน่อยน้า” ไม่ไถแค่หัว หน้าเหน้อก็ไถหมด
ธารหัวเราะกับท่าทางของผม ก่อนจะดันหน้าผากผมออก
“ไม่” ตอบปฏิเสธแต่หัวเราะไม่หยุดเลย

สงสัยจะเริ่มใจอ่อนแล้วล่ะ

ผมเลยไม่หยุด ดันออกแล้วก็เข้าไปไถอีก คราวนี้ไม่ไถอย่างเดียว แอบฉกหอมแก้มมันด้วย
“เป็นแฟนพี่เหนือนะครับ”
“เฮ้ย อย่าฉวยโอกาสสิวะ” ธารโวยวายไม่เสียงดังนัก ผมรู้ด้วยว่าไม่จริงจัง เพราะตอนนี้หน้ามันเริ่มแดงมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะ
“ไม่อยากให้พี่เหนือฉวยโอกาสก็เป็นแฟนพี่เหนือสิ คราวนี้พี่เหนือจะไม่ฉวยเลย แต่จะทำแบบไม่ต้องขออนุญาต” ผมว่าเย้าอีก ตอนนี้หน้าธารแดงไปไหนต่อไหนแล้ว
“นะครับ เป็นแฟนพี่เหนือนะครับ” ได้ทีก็เต๊าะใหญ่ งานนี้ไม่หลุดมือแล้ว
ซึ่งก็จริงซะด้วยเมื่อธารเริ่มเม้มปากแน่น สบตาผมที่มองอย่างเว้าวอนอยู่แล้วถามเสียงแผ่ว
“ถ้าธารเป็นแฟนพี่ พี่จะรักธารแค่คนเดียวหรือเปล่า”
“คนเดียวสิ ขนาดตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟน พี่เหนือยังทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ ถ้าได้เป็นแฟน คงไม่ต้องถามแล้วล่ะว่าจะทั้งรักทั้งหลงขนาดไหน”
“จริง?” ธารทำหน้าไม่เชื่อเท่าไหร่นัก
“พี่เหนือดูเหมือนคนโกหกเหรอครับ”
“เออ”

มึงต้องปฏิเสธต่างหากเว้ย!

“แล้วตกลงจะเป็นปะแฟนเนี่ย ถามจนปากจะฉีกแล้วนะครับ” ผมเริ่มเหนื่อยแล้วล่ะ กะว่าถ้ามันไม่ตอบวันนี้ก็จะไปตื๊อมันพรุ่งนี้แทน
ธารนิ่งไปครู่ ก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบชิดกัน
“ถ้าธารเป็นแฟนพี่ แล้วพี่ไม่มั่วเหมือนเมื่อก่อน ธารก็...” จู่ๆ ก็หยุดพูดไป หลบตาผมซะงั้น
ก็อะไรของมึงเว้ย! พูดเร็วๆ ลุ้นเหงื่อไหลซ่กเป็นน้ำตกแล้ว!
“ก็อะไรครับน้องธาร” ผมพยายามสะกดความตื่นเต้นนั้นไว้ ถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่ดูท่าจะเก็บไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ เพราะธารมองหน้าผมแล้วก็หัวเราะน้อยๆ
“ธารก็...”
“ก็...”
ก็อะไรก็ไม่พูด ขนาดผมทำหน้าอยากรู้สุดๆ มันก็ไม่พูด ยิ้มออกมาแล้วโน้มหน้ามาจูบผมแทน

ว้อท อีส ดีส!? นี่คืออะไร? ตอบรับหรือเบี่ยงประเด็น หรืออะไรยังไง แถลงเดี๋ยวนี้!

ผมใจเต้นรัวเลย หน้าก็ร้อนผะผ่าว และป่านนี้คงจะเริ่มแดงแข่งกับคนตรงหน้าแล้วล่ะ พอมันผละออกมาได้ก็รีบรวบรวมสติ เค้นเอาคำตอบจากการกระทำเมื่อครู่ด้วยความเร็วแสง
“ดะ...เดี๋ยวๆ นี่อะไร หมายความว่า?” ชี้ปากตัวเองที่ถูกจูบสดๆ ร้อนๆ ประกอบการพูดไปด้วย
ธารพยายามกลั้นยิ้มด้วยการเม้มปาก หลบสายตาไปทางอื่น ว่าพึมพำเบาๆ
“ก็ชอบพี่ แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือไงว่าอยากเป็นอะไรด้วย”

ฮะ...โฮ! หน่องธารรร! คือตกลงเป็นแฟนกับพี่เหนือแล้วใช่มั้ย!?

ถึงความหมายอ้อมๆ จะใช่ แต่ยังไงผมก็ยังอยากได้ยินมันพูดจากปากมากกว่าว่าตกปากรับคำเป็นแฟนผมแล้ว ผมเลยเข้าไปเอาหน้าถูๆ ไถๆ แขนมันอีกรอบ

“บอกพี่เหนือหน่อยสิครับว่าน้องธารเป็นแฟนพี่เหนือ แบบว่าอยากฟินอะ”
ธารหัวเราะลั่นกับความอ้อล้อของผมทันที มีการจับหัวผมออกห่าง แล้วตั้งท่าจะพูด
“เออ ธารก็อยากเป็น...”

กริ๊ง... กริ๊ง...

ปาโทรศัพท์ทิ้งแม่งเลยห่านเอ๊ย! มึงมาโทรอะไรตอนนี้!

ผมสะดุ้ง หันไปมองโทรศัพท์ตัวเองที่แหกปากร้องไม่หยุด หัวเสียแบบสุดขีดด้วย ธารเองก็ดูหงุดหงิดเหมือนกัน ทว่าความเขินอายมีมากกว่า สีหน้าเลยไม่แสดงชัดเจนว่าอารมณ์เสียเท่าไหร่ ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงให้ผมรับโทรศัพท์ก่อนเพราะมันดังไม่เลิกซะที

ผมคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดูหน้าจอ เบอร์ไม่คุ้นตาทำให้ผมย่นคิ้ว และย่นคิ้วมากกว่าเดิมเมื่อกดรับแล้ว อีกฝ่ายก็กรอกเสียงห้าวไม่คุ้นหูตามมา
[ฮัลโหล เหนือเหรอ]
“ครับ ใครน่ะ”
[เราไง จำเราไม่ได้เหรอ]
“เราไหน?” ตอนนี้คิ้วผมขมวดกันเป็นปมแล้วเถอะ สายตาก็เหลือบมองธารที่นั่งเงียบ พยายามฟังเสียงที่เล็ดลอดจากโทรศัพท์ไปด้วยว่าผมคุยอะไรกับอีกฝ่าย
[เราก็เต้ไง จำได้หรือยัง]

ตอนแรกผมก็คิดว่าอีกฝ่ายคงโทรผิดเพราะผมไม่มีเพื่อนชื่อเต้ในสารบบชีวิตเลย ถึงมีก็ไม่ได้สนิทถึงขนาดโทรมาหาดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้ ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเคยมีคนชื่อนี้ผ่านเข้ามาในชีวิตผมอยู่

ก็ไอ้เต้ที่ผมหิ้วมันกลับมาที่ห้องจนทำให้ไปเลือกที่ฝึกงานสายไง!

มือไม้สั่นเทา เหงื่อกาฬไหลพลั่กขึ้นมาเลย ยิ่งมันพูดกลับมาเตือนความจำให้ผมด้วย ผมยิ่งทำตัวไม่ถูก

[ถ้าจำไม่ได้ก็นึกถึงวันที่เหนือพาเราไปเล่นสนุกที่ห้องสิ วันนั้นเหนือบ่นว่าเราทำเหนือปวดตัวน่ะ จำได้แล้วใช่มั้ย]

จำได้ชัดเจนเลยไอ้เวรเอ๊ย! มึงจะพูดมาทำซากอะไร ไอ้เด็กธารมันได้ยิน!

ได้ยินจริงๆ จากสีหน้าสงสัย ตอนนี้นี่โอ้โห ฆ่ากูได้เลยเถอะ อะไรจะบูดเป็นตูดลิงปานนั้น!

แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความอยากรู้ว่ามันเอาเบอร์ผมมาจากไหนมากกว่า ปกติแล้วผมไม่เคยให้เบอร์คู่ขาที่เจอกันแบบวันไนท์สแตนด์คนไหนนะ
หากแต่ไม่ทันได้ถาม อีกฝ่ายก็ให้คำตอบมาแล้ว

[โทษทีนะที่โทรมาดึกๆ ส่วนเบอร์นี่เราเอาโทรศัพท์เหนือโทรเข้ามาเบอร์เราน่ะ]
“แต่โทรศัพท์เราตั้งล็อค?”
[เหนือปลดล็อคให้เราเอง เราขอตอนที่เหนือเมา]

ไอ้เวรจริงๆ! มิน่าล่ะเห็นมีรายชื่อแปลกๆ ขึ้นในโปรแกรมแชท ที่แท้ก็เป็นไอ้บ้านี่ที่ถูกแอดเข้ามาในรายชื่อผู้ติดต่อแบบอัตโนมัตินี่เอง

โอเค ได้คำตอบละ ที่เหลือคือต้องรีบไสหัวมันไปก่อน อีกนิดเดียว น้องธารจะพุ่งเข้ามากระซากไส้กูแล้วเนี่ย!

“ละ...แล้วนายมีอะไร คือเราไม่ว่างคุย”
[ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงน่ะ ตั้งแต่วันนั้นเราก็คิดถึงเหนือตลอดเลย อยากเจออีกครั้ง]
“อย่า...เจอเลย” พูดไปก็เหลือบมองหน้าคนข้างตัวที่จ้องผมเขม็งอย่างหวาดหวั่นไป ไอ้บ้าคู่สายก็ยังเร้าหรือไม่เลิกอีก
[ทำไมอะ เหนือไม่ชอบเราเหรอ]

เออ! ไม่ชอบ! สำคัญกว่าไม่ชอบคือกูกลัวตายเว้ย! ดูนั่น ไอ้น้องธารมันถลาเข้ามาแล้ว!

ถลาเข้ามาแย่งโทรศัพท์จากมือผมด้วย ผมอ้าปากค้างหน่อยๆ ขณะที่เด็กนั่นมองผมตาขวาง ก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“วางสายไปไอ้บัดซบ เหนืออยู่กับผัว”

แล้วก็ตัดสายไปหน้าตาเฉย ไม่ตัดอย่างเดียว ปิดเครื่องแล้วโยนไปมุมไหนสักมุมของเตียงด้วย จัดการกับโทรศัพท์เสร็จ ก็หันมาเอาเรื่องผมแทนด้วยการจ้องหน้าผมนิ่งๆ จนผมเลิ่กลั่กขึ้นมา ร้อนรนแก้ตัวทันใด

“นะ...นั่นมันเป็นเรื่องตั้งแต่ก่อนพี่เหนือมาฝึกงานน่ะครับ ก่อนจะเจอกับน้องธารอีก เรื่องมันนานมาแล้ว”
“เมื่อสองเดือนก่อนใช่มั้ย?”
“คะ...ครับ แต่ตอนนี้พี่เหนือไม่ได้มั่วแล้วนะ”

สิ้นเสียงผม ธารก็เม้มปาก พ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง หน้าตาดูอารมณ์เสียสุดๆ ก่อนมันจะว่าเสียงแข็ง
“ใครจะไปเชื่อพี่ลงวะ เป็นแบบนี้แล้วธารจะรักพี่ได้ยังไง ไม่เอาหรอกนะเว้ยที่คบๆ กันแล้วมีคนอื่นมาวุ่นวายแบบนี้เนี่ย”

ผมหายเลิ่กลั่กทันที สบตามันกลับไปบ้าง พอจะเข้าใจความรู้สึกมันอยู่ว่ากลัวความไม่มั่นคง ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ก็ตอนที่คบกับแฟนเก่าแล้วแฟนเก่านอกใจ หลังจากกลับมาคบกันใหม่ ผมก็เชื่อใจไม่ลงเหมือนกันจนสุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป และผมก็ไม่มีข้ออ้างใดๆ ไปทำให้มันเห็นด้วยว่าผมจะมั่นคงกับมัน ถึงความรู้สึกที่มีกับเด็กนี่ในตอนนี้จะมากล้นไปถึงขั้นรักแล้วก็ตาม ก็ประวัติมาไม่ดีขนาดนี้ เชื่อใจไม่ได้ง่ายๆ หรอก

“น้องธารไม่เชื่อใจพี่เหนือใช่มั้ยครับ” ผมเลยถามไปแบบนั้น
ธารพยักหน้าช้าๆ ให้ผมได้พ่นลมหายใจออกมาบ้าง แต่ไม่ได้เป็นเพราะระอาใจ เป็นเพราะเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งต่างหาก
“งั้นก็ยังไม่ต้องเป็นแฟนพี่เหนือก็ได้นะ พี่เหนือรู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองทำตัวไม่ดีนัก ถ้าน้องธารจะไม่เชื่อใจก็ไม่เป็นไร ดูๆ กันไปก่อน ชั่งใจคิดให้รอบคอบแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะรักพี่เหนือหรือไม่รักนะ” พูดพลางตบไหล่มันเบาๆ

ธารไม่พูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่ เอาแต่มองหน้าผมกระทั่งสีหน้าเริ่มคลายความกรุ่นโกรธ กลายเป็นความสับสนแทน
“พี่นี่แม่ง... มาทำให้ลังเลทำไมวะ” จู่ๆ มันก็ว่าขึ้น ท่าทางดูสับสนโลกสุดๆ

เห็นแล้วก็สงสารเลย ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี อยากจะรักแต่ไม่กล้าเพราะกลัวเจ็บเนี่ย เข้าใจอย่างชัดแจ้งเลยล่ะ
ผมก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากการขยับเข้าไปหาแล้วสวมกอดคนตัวโตกว่าเอาไว้

“พี่เหนือขอโทษครับ เมื่อก่อนพี่เหนือทำตัวไม่ดี แต่หลังจากนี้สัญญาว่าจะทำตัวดีๆ เพื่อน้องธารนะ แล้วที่พี่เหนือบอกว่าชอบน้องธารนี่ก็เรื่องจริง ไม่ได้โกหก ชอบจริงๆ จากใจเลย”
ธารดูเหมือนจะนิ่งขึ้นได้ ไม่ไหวติง ปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้น เงียบจนผมเริ่มหวั่นใจแล้วล่ะว่ามันจะเปลี่ยนใจ ทว่าผิดคาดเมื่อมันดึงผมออก มองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง
“งั้นธารจองไว้ก่อนได้หรือเปล่า”
“หืม?”
“ถามว่าจองไว้ก่อนได้หรือเปล่า”
ผมไม่รู้หรอกว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ปากนี่พูดออกไปแล้ว
“ได้สิครับ ความจริงไม่ต้องจองก็ได้นะ ยังไงพี่เหนือก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้วจนกว่าน้องธารจะปฏิเสธพี่เหนือจริงจังนั่นแหละ”

เพราะพูดออกไปอย่างนี้ ธารก็กระเถิบเข้ามาหาผม ยกมือทั้งสองข้างขึ้นประคองใบหน้าผมไว้ พลันจรดจูบลงมาแผ่วเบา ไม่นานนัก จากแผ่วเบาก็เริ่มทวีความหนักหน่วงและดุดันขึ้น ทำเอาผมงงไปหมดว่ามันจะทำอะไรจนไม่ได้ตอบโต้กลับไปสักนิด

งงหนักกว่าเดิมด้วยเมื่อธารละริมฝีปากออกมา กระซิบแผ่วเบาทั้งที่ปลายจมูกเรายังชนกัน
“จองแล้วก็ห้ามไปเป็นของคนอื่นนะ”
“หมายความว่า...?”
ถามยังไม่ทันจบ เด็กนั่นก็ดันตัวผมลงนอนราบ โถมตัวขึ้นมาคร่อมไว้ โน้มใบหน้าลงมาจูบผมอีกทีขณะที่มือข้างหนึ่งก็ล้วงเข้าไปใต้เสื้อผม ลากไล้ไปบนแผงหน้าอกอย่างเบามือ

ตอนนี้ไม่ต้องให้มันตอบก็รู้แล้วล่ะว่าคำว่า ‘จอง’ ที่มันหมายถึงแปลว่าอะไร
ปะ...ประทับตราจองอย่างยิ่งใหญ่อลังการ! ควรขอบคุณไอ้เต้ดีมั้ยเนี่ย

แต่นี่ไม่ใช่เวลามาตลกรับประทาน ควรจดจ่อกับการกระทำของคนตรงหน้ามากกว่า ใครบอกว่ามันใสๆ นี่ไม่ใช่เลย แค่โดนจูบ โดนสัมผัสด้วยฝ่ามืออุ่นร้อน ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของผมก็ทำงานหนักราวกับจะออกมาเต้นข้างนอกให้ได้ จังหวะลมหายใจก็ผิดเพี้ยนไปจนนอกเหนือการควบคุม

ไม่...ไม่ใสแล้ว ชำนิชำนาญขนาดนี้ แม่งไม่ใสแล้ว!

สติผมเริ่มเตลิดเปิดเปิงเมื่อริมฝีปากหนาละจากเรียวปากผม ลากไล้ไปขบเม้มยังใบหูและลำคอ ก่อนลากต่ำลงไปยังไหปลาร้า อะไรๆ ที่ผมเคยสงสัยไว้ว่ามันจะหน่อมแน้ม มาเจอตอนนี้...โอ้โห ระทวยปวกเปียกไปทั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัวแล้วเถอะ

มะ...มือไวใจเร็วไปแล้ว!

“ให้ธารจองนะ”
สติผมกลับมาหลังจากได้ยินเสียงห้าวทุ้มของคนตรงหน้าอีกครั้ง ผมก็ใช่ว่าจะไม่ยินยอมหรอก รอวันนี้มานานแล้วเถอะ แต่ว่า...

สอนไปแต่ทฤษฎี แถมยังไม่คล่องอีกต่างหาก ภาคปฏิบัตินี่จะรอดมั้ย!?

เท่านั้นผมก็รีบดันตัวลุกขึ้น ปากก็ว่ารนๆ ไปด้วย
“นะ...น้องธารแน่ใจนะว่าจะทำ”
“แล้วพี่ล้างตู้เย็นหรือยังล่ะ”

ถามมาซะหน้าม้านเลย หลังจากวันนั้น กูก็เตรียมตัวทุกวันเว้ย กลัวว่าจะมาเจอแบบกะทันหันอีกเหมือนวันนี้เนี่ย!
...บอกเลยว่าล้างไปยันห้องครัวแล้ว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ควรเป็นห่วงเรื่องครั้งแรกของน้องธารมากกว่านะ”
ครั้งแรกของมันกับผู้ชายน่ะ พูดแบบนี้ก็เพราะครั้งก่อนมันยังถามผมอยู่เลยว่าผู้ชายกับผู้ชายทำกันยังไง แล้วนี่ไม่ได้มีการบรีฟงานอะไรสักอย่าง จะมากินหัวกินหางกันแบบนี้ มันก็ต้องวางแผนกันหน่อย เดี๋ยวงานจะมางอกที่ผม

ทว่าธารกลับตีหน้ายุ่งขึ้นมา
“พี่เห็นธารเป็นเด็กหรือไงวะ รู้งานน่า”
“แน่ใจนะว่ารู้?”
“เออ รู้”
“จำได้ใช่มั้ยว่าจะต้องเปิดทางก่อน จากนั้นก็ต้องป้องกันตัวเองด้วย แล้วค่อยจัดการ” ผมเผลออธิบายแบบรวบรัดออกไป ทำเอาธารผลักผมลงไปนอนดังเดิม ว่าเสียงดุทันที
“ไม่ต้องสอนเว้ย รู้แล้ว ทำเป็น!” ว่าจบ มือก็ควานหาอุปกรณ์ในการประกอบกิจกรรมในลิ้นชักที่โต๊ะข้างเตียงเป็นการใหญ่

ผมเห็นแล้วก็ระแวงไม่เลิก ไม่รู้จะระแวงทำไม ทั้งระแวง ทั้งวิตก ทั้งที่คนที่ควรรู้สึกแบบนี้ควรเป็นธารมากกว่า ยิ่งถูกมันจูบอีกครั้ง มือไม้ผมก็เย็นเฉียบไปหมด

คะ...ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกเด็กเปิดบริสุทธิ์

ใจสั่น ตัวก็สั่นจนธารหลุดหัวเราะออกมา พรมจูบมากระซิบข้างหูผมเบาๆ
“ทำไม กลัวเหรอ ไม่รุนแรงหรอกน่า”

ดะ...ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง!

“ปะ...เปล่าครับ พี่เหนือไม่ได้กลัว” ผมแค่นเสียงตอบ
ธารมองหน้าผมยิ้มๆ “งั้นธารจะเบามือให้แล้วกัน แก่แล้วก็งี้ กลัวกระดูกกระเดี้ยวจะเดาะล่ะสิ”

ดูปากมึง! กูยังไม่แก่ แค่เกิดก่อน เดี๋ยวปั๊ด!

ผมบุ้ยปากใส่มันรัวๆ ทำให้มันหัวเราะดังขึ้นไปใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องแทน
“ให้ธารจองแล้วห้ามไปยุ่งกับใคร เข้าใจใช่มั้ย”
“แต่ว่าน้องธารทำเป็นแน่นะ”
“เลิกชวนคุยได้แล้ว ถามว่าเข้าใจมั้ยก็ตอบสักที” ขึ้นเสียงใส่ผมเล็กๆ ทันทีที่ผมขัดคอมัน

ผมเลยคลายความกังวลขึ้นมาได้บ้าง ยกมือขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งแล้วพยักหน้ารับ
“ครับ จะไม่ยุ่งกับใครเลย แบบว่าพี่เหนือ...เอ่อ...รักน้องธารนะครับ ถึงจะยังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ก็รักนะ รักขนาดนี้ ไม่ไปยุ่งกับใครหรอก สาบาน”
อีกฝ่ายกัดริมฝีปากพลางยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะประกบปากจูบผมอีกครั้ง พอผิวกายแนบชิดกัน ไม่นาน ทุกอย่างก็เริ่มดำเนินไปตามความต้องการทางธรรมชาติ
ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า...
และดำเนินต่อไปตลอดทั้งคืน...
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2016 03:56:42 โดย NooDangzz »

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 18: ชั่งใจรัก[2]

‘ไม่รุนแรงหรอกน่า’

ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดเช้ามืดของวันใหม่ด้วยจำได้ดีว่าก่อนที่จะได้จะโดนเนี่ย ไอ้เด็กนั่นมันพูดอะไรไว้ แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว...

ไม่รุนแรงบ้านป้ามึงสิ! กูลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยเนี่ย!

จะลุกไปเข้าห้องน้ำเองยังไม่ได้ ต้องให้มันพยุงไป แถมบอกมันแล้วว่าเหนื่อยๆ มันก็ไม่ยอมหยุด จากครั้งเดียวเลยกลายเป็นนับไม่ถ้วน ถึงขนาดต้องลงไปซื้อถุงยางอนามัยใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อเพิ่มนี่ กูว่ามึงไม่ได้ตีตราจองอย่างเดียวแล้วล่ะ มึงแก้แค้นโทษฐานที่กูทำให้ระแวงเพราะไอ้เวรเต้นั่นโทรมาด้วยเถอะ บอกเลยนรกมาก แค่ขยับตัวนิดเดียวก็ปวดจี๊ดสะท้านไปทั้งทรวง

ปวดมากสุดตรงสะโพก อารมณ์เหมือนเป็นออฟฟิศซินโดรม นั่งทำงานนานๆ แล้วเกิดอาการปวดยอกอะไรประมาณนั้น ความอยากได้อยากโดนที่มีมาตั้งแต่สองเดือนก่อนหายวับไปกับตาราวกับไม่เคยมีมาก่อน

ถ้ารู้ว่าพอได้พอโดนจริงๆ แล้วมันจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ ผมคงไม่กระเหี้ยนกระหือรือ อยากให้มันจัดหนักให้หรอก ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ

ร่างกายอ่อนล้ามากจริงๆ ผมเลยได้แต่นอนซุกใต้ผ้าห่มหลังจากการตีตราจองสิ้นสุดลงด้วยสภาพอิดโรยสุดๆ จะหลับก็ไม่ได้หลับอีก เพราะเด็กนั่นมันเกิดหิว จะพาไปหาอะไรกินที่บ้านโรมอีก

แม่งเอ๊ย... มึงไม่เหนื่อยบ้างหรือไงวะ เด็กๆ นี่แรงดีจังเลยแฮะ ยิ่งมาเจอเด็กบ้าพลังแบบมันด้วยแล้ว คนเกิดก่อนอย่างผมอายุสั้นลงอีกหลายปีเลยทีเดียว

“เป็นไงพี่ ลุกไหวมั้ย” ธารถามหลังจากจัดการล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้ว
ผมมองค้อนมันประหลับประเหลือก

เห็นสภาพกูแล้วยังมีหน้ามาถามอีก นอนเน่าเป็นขยะเปียกแล้วเนี่ย!

“ไม่ไหว น้องธารไปคนเดียวนะ พี่เหนืออยากนอน” ผมปฏิเสธแบบไม่คิดเลย
แล้วมันยอมให้ผมนอนมั้ย... ไม่ แม่งขุดขึ้นมาจากหลุมจนได้ เดินดุ่มๆ มาฉุดแขนผมให้ลุกขึ้นนั่งหน้าตาเฉย
“พี่เหนือไปไม่ไหวจริงๆ ครับ” ผมกัดฟันแน่น ข่มความปวดร้าว ปฏิเสธไปแบบไม่คิด
ทว่าก็ต้องใจอ่อนเมื่อจู่ๆ มันก็เอาหน้ามาซบที่ไหล่ผมแล้วว่าเสียงกระเง้ากระงอด
“พี่เหนือไปกับธารหน่อยนะครับ ธารไม่อยากไปคนเดียว”

อ้อนแบบเปิดเผยครั้งแรก... อื้อหือ ใจละลายเป็นของเหลวเลยกู
ยอม...ยอมหมดเลยจ้า ไปก็ไป ไปแบบไม่ดูสังขารตัวเองเลยด้วย

มาแค่นี้ ผมก็พยักหน้าให้รัวๆ ก่อนจะถูกมันพาไปล้างเนื้อล้างตัวบ้าง โดนจับแต่งตัวด้วยเถอะ หนักกว่าคือมีการพยุงเดินลงบันไดมาข้างล่าง

อารมณ์เหมือนหลานพยุงอากงแก่ๆ ไปเที่ยวชะมัด
ถ้าแม่งจะลำบากขนาดนี้ ทิ้งกูไว้ที่ห้องเถอะ ขอร้อง!

แล้วพูดแย้งอะไรมั้ยล่ะ...ไม่ ปีนขึ้นรถมันในสภาพทุลักทุเล ตั้งท่าไปบ้านโรมเรียบร้อย ทว่าก่อนไป ธารโทรหาโรมก่อนเพื่อความชัวร์ว่าโรมยังช่วยป้ารินขายข้าวเหนียวหมูอยู่ที่หน้าตลาด ยังไม่ได้กลับบ้าน หากแต่พอปลายสายไม่ใช่โรม แต่เป็นจอมแก่น ความแปลกใจก็ประดังประเดเข้ามาหาธารทันที

“แล้วไอ้โรมมันเป็นอะไรถึงไปอยู่บ้านมึง” ธารถามหลังจากที่จอมแก่นอธิบายว่าโรมมาอยู่ที่บ้านตัวเองตั้งแต่เมื่อหัวค่ำแล้ว
[ตอนไปกินข้าวด้วยกัน โรมดันมีเรื่องน่ะ เราเลยโทรไปหาพี่แสบกับพี่ดื้อให้ไปช่วย โรมก็เลยมาอยู่บ้านเราก่อน กลับไปเดี๋ยวโดนป้ารินจวกเอา]

ผมได้ยินแว่วๆ มาอย่างนั้น

สีหน้าของธารดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันตา ก่อนมันจะว่าเร็วๆ
“งั้นเดี๋ยวกูไปหา อีกสิบนาทีถึง” แล้วก็กดตัดสาย เก็บโทรศัพท์แล้วหันมาบอกผม “เรื่องกินเอาไว้ก่อนนะพี่ ไปบ้านไอ้จอมก่อน”
อยากจะบอกมันเหลือเกินว่าไม่อยากไป ไม่อยากไปเจอพี่จอมดื้อน่ะ แต่ไม่ทันจะได้พูด ธารก็สตาร์ทรถ บิดคันเร่งออกไปแล้ว ผมเลยต้องไปอย่างไม่มีทางเลือก
 



บ้านของจอมแก่นอยู่ไม่ห่างจากบ้านของโรมมากนัก เรียกว่าอยู่บนถนนคนละเส้น บ้านจอมแก่นอยู่เส้นด้านหน้า ใกล้ๆ กับลานนมของพี่จอมดื้อ

ธารขี่รถไปจอดข้างหน้าบ้านเดี่ยวกลางเก่ากลางใหม่ ลงไปเลื่อนประตูรั้วเหล็กออก กลับมาขี่เข้าไปโดยไม่รอเรียกให้ใครมาเปิดราวกับคุ้นเคยสถานที่นี้เป็นอย่างดี ผมก็ไม่แปลกใจนัก รู้ว่ามันสนิทกับสามพี่น้องจอมนี่มาตั้งแต่เด็กแล้ว เลยได้แต่เดินตามหลังมันเข้าไปเงียบๆ ขณะที่มันนำเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางร้อนรน

มาถึงห้องของจอมแก่นบนชั้นสอง ธารก็เปิดประตูพรวดเข้าไป เห็นโรมนอนอยู่บนเตียงในสภาพบาดแผลชกต่อยเต็มตัว มีจอมแก่นนั่งอยู่ข้างเตียง ขณะที่พี่จอมดื้อกับพี่จอมแสบยืนกอดอกรุมบ่นอยู่ด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ใจความพอจับได้ว่าดุที่โรมกับจอมแก่นไปมีเรื่องกับคนอื่นทั้งที่ห้ามแล้วหลายรอบ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นทักทายเมื่อเห็นว่าพวกผมเข้ามา

“อะ ไอ้ธารมาแล้ว พวกมึงเล่าให้ฟังกันเองเลยนะว่าไปก่อเรื่องอะไรมา กูขี้เกียจพูดแล้ว ทั้งกู ทั้งไอ้แสบด่าพวกมึงไปแม่งก็ไม่ฟัง ไปคุยกันเอง กูจะได้ไปนอน”
พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องตามพี่จอมแสบที่เดินออกไปก่อน มีหันมายิ้มให้ผมนิดหน่อย ผมเลยยิ้มตอบ ก่อนจะเบนความสนใจไปที่ธารซึ่งยืนจังก้ามองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างเอาเรื่อง
“พวกมึงไปมีเรื่องกับใครมา”
“แฟนแป้ง” จอมแก่นหันหน้ามาตอบ ผมเลยสังเกตเห็นว่าไม่ใช่แค่โรมที่มีใบหน้าฟกช้ำ หน้าของจอมแก่นเองก็มีรอยแตกรอยช้ำเหมือนกัน ดูท่าทางจะโดนลูกหลงไปด้วยแน่
และพอบอกว่าเป็นแฟนแป้ง ผมก็นึกถึงเพื่อนของน้องผู้หญิงที่ชื่อแจนซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยแกล้งจนร้องไห้ขึ้นมา

เด็กโรมนั่นเอง แต่เอ... ยัยนั่นมีแฟนอยู่แล้วเหรอ?

ธารเองก็สงสัยเหมือนกับผม เลยหันไปเค้นเอาคำตอบจากโรมแทน
“ไอ้โรม หมายความว่าไง”
โรมเปิดเปลือกตาขึ้น มองธารด้วยสายตารำคาญ
“มึงก็จะมาบ่นกูอีกคนเหรอวะ เมื่อกี้กูก็โดนพี่แสบ พี่ดื้อเทศน์หูชามาแล้วนะเว้ย”
“กูไม่ได้มาบ่น กูจะด่า เคยบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าจีบไปทั่ว ครั้งก่อนที่โดนกระทืบจนแขนร้าว มึงยังไม่เข็ดอีกหรือไง”

พูดถูกของธาร ผมระลึกได้ทันทีว่าทุกครั้งที่พวกมันมีเรื่องกับคนอื่น ล้วนมาจากความเจ้าชู้ของโรมทั้งสิ้น

“ถ้าแม่งมีแฟนอยู่แล้ว มึงก็ไม่ต้องไปจีบได้มั้ยวะ จะได้ไม่ต้องมีเรื่อง มึงทำอย่างนี้ เดี๋ยวก็ได้ตายเร็วกว่าเดิมหรอก” ธารพูดต่อ ทำเอาโรมกลอกตาอย่างรำคาญ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งโดยมีจอมแก่นช่วยพยุง
“เรื่องของกูเถอะน่า”
“เรื่องของมึงเชี่ยอะไร มึงมีเรื่องทีไร เพื่อนๆ เดือดร้อนกันทุกที ครั้งนี้ไอ้จอมก็โดนกระทืบกับมึงด้วยทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของมันเลย มึงยังมีหน้ามาพูดว่าเรื่องของมึงอีกเหรอวะ” ธารเริ่มอารมณ์ขึ้นนิดๆ ละ ผมเลยรีบเข้าไปรั้งไว้ก่อนเผื่อว่ามันจะเดือดกว่าเดิมแล้วห้ามไม่ทัน

หากแต่โรมก็ไม่สนใจกับท่าทางของเพื่อน เอาแต่พูดตามใจตัวเอง
“กูไม่ได้ขอให้พวกมึงมาช่วยนี่หว่า อีกอย่าง กูจะจีบใครมันก็เรื่องของกู จะมีแฟนหรือไม่มีแฟน ถ้ากูชอบแล้วแม่งเล่นด้วยกับกู กูก็ไม่เกี่ยง”

ฟังมันพูดแล้วผมก็อยากจะเดินเข้าไปตบกะโหลกมันให้แยกเหลือเกิน แต่ไม่ต้องทำก็ดูท่าจะมีคนลงมือให้ผมแล้วล่ะ

“ที่กูช่วยมึงครั้งก่อนๆ นี่มึงหาว่ากูเสือกเหรอไอ้โรม...”
ธารกัดฟันแน่นแล้วทำท่าจะปรี่เข้าไปต่อยเพื่อน ผมเลยรีบรั้งไว้ ขณะที่จอมแก่นเองก็เร็วไปแพ้กัน รีบลุกขึ้นมาขวางหน้าโรม ไม่ให้อีกฝ่ายโดนกระทืบซ้ำอีก
“ใจเย็นๆ ก่อนธาร โรมยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
ไม่ได้พูด แต่สีหน้ากวนโอ๊ยมาก ล่อฝ่าเท้าน้องธารของพี่เหนือสุดๆ
ธารก็ยังไม่หยุด สะบัดตัวแล้วจะเข้าไปเอาเรื่องโรมให้ได้ เห็นแล้วผมก็ไม่อยากยุ่งนักหรอกด้วยเป็นปัญหาของเด็กๆ แต่พอคิดว่าถ้ามันมีเรื่องแล้วพ่อมันจะลากตัวกลับบ้านเนี่ย ผมเลยต้องรีบส่งเสียงดุให้หยุด

“น้องธาร ถ้าอยากอยู่กับพี่เหนือต้องห้ามมีเรื่องนะครับ”
ธารเลยนิ่งได้ มองหน้าผมอย่างขัดใจเล็กน้อย แต่ก็ใจเย็นลง จะมีก็แต่โรมนี่แหละที่ทำลอยหน้าลอยตาไม่เลิกอย่างไม่สำนึกผิด จนธารต้องพูดออกมาอีกจนได้
“แม่มึงเป็นห่วงมึงมากนะ อย่าทำให้ป้ารินลำบากใจสิวะ มึงก็รู้นี่ว่าแม่มึงเค้ามีมึงแค่คนเดียว”
รู้เอาตอนนี้ว่าครอบครัวของโรมเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ถึงจะไม่รู้สาเหตุ แต่ผมก็ไม่คิดจะถามในสถานการณ์อย่างนี้
สีหน้าของโรมดูกวนโอ๊ยน้อยลง ฉายแววสำนึกผิดนิดๆ ก่อนจะว่าอุบอิบออกมา
“รู้แล้วน่า มึงพาพี่เหนือกลับไปเถอะ เดี๋ยวกูให้ไอ้จอมไปส่ง กูไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบใจที่เป็นห่วงถึงขั้นปรี่มาด่ากูถึงที่”

ไม่แน่ใจว่าประโยคหลังนี่ประชดประชันหรือเปล่า ช่างมันเถอะ บรรยากาศผ่อนคลายลงมาได้ก็ดีแล้วล่ะ

โรมหันไปบอกจอมแก่นให้ขี่รถไปส่งที่บ้าน ธารเลยจะพาผมกลับด้วย ข้าวอะไรนี่ไม่กินแล้ว ทว่าก่อนกลับ ธารก็ยังเป็นห่วงเพื่อนไม่เลิก เดินไปคว้าแขนโรมที่กำลังปีนขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์จอมแก่นพลางว่าเสียงเรียบ

“ไอ้โรม เลิกยุ่งกับแป้งไปเลยนะมึง”
“เออ กูรู้แล้ว เลิกยุ่งแล้วน่า”
“แล้วก็เลิกจีบคนที่มีแฟนด้วย เข้าใจมั้ย”
“เทศน์ยิ่งกว่าแม่กูอีกนะมึงเนี่ย เออๆ รู้แล้ว”

โรมว่าส่งๆ ก่อนจะสะกิดให้จอมแก่นขี่รถออกไป ทิ้งให้ธารกับผมมองตามหลังเงียบๆ ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้รู้สึกไม่สบายใจนัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะธารที่เดินกลับมาหาผมดันพูดมาก่อนแล้ว

“เห็นมั้ยพี่ว่าความมั่วเป็นสร้างความเดือดร้อนแค่ไหน อย่ามั่วนะ”

มึงไม่ต้องมาพาลกูเลยนะ ด่าเพื่อนก็ด่าแค่เพื่อนสิเว้ย กูไม่เกี่ยว!

แต่ผมก็ไม่ได้แย้งอะไร ยกมือขึ้นตะเบ๊ะ รับปากเสียงระรื่น
“พี่เหนือจะทำตัวดีๆ ครับ”
ธารยิ้ม วางมือบนหัวผมแล้วออกแรงขยี้เบาๆ ก่อนจะพาผมขี่รถกลับไปบ้าง ทว่ายังไม่ทันจะได้ออกรถ สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นพี่จอมดื้อเดินออกจากบ้านมาพอดี ดูท่าทางจะมาล็อคประตูบ้านมั้ง แต่ผิด เดินเข้ามาใกล้ผม แล้วออกปาก
“เหนือ... พี่ขอคุยด้วยหน่อย”
“จองแล้ว”
พูดยังไม่ทันจบดี ธารก็สวนขึ้นทันใด ผมยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรด้วยเถอะ ทำเอาพี่จอมดื้อมองหน้าธารที่เชิดปลายคางขึ้นอย่างเหนือกว่าอย่างงุนงง
“จองอะไรของมึง”
“ถามพี่เหนือดูมั้ยล่ะ” ธารยอกย้อน ยักคิ้วหลิ่วตาให้ผมอีก

ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง จะให้บอกว่า...อ๋อ เหนือโดนเด็กนี่แซ่บเรียบร้อยแล้วครับก็ไม่ได้อีก เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้
พี่จอมดื้อทำเป็นไม่สนใจคำพูดธาร พูดขึ้นมาอีก
“พี่อยากคุยกับเหนือหน่อย”
ผมเกือบจะถามแล้วว่าจะคุยเรื่องอะไร ทว่าธารดันพึมพำอยู่คนเดียวประหนึ่งพูดลอยๆ ออกมาก่อน
“ถ้าลืมว่าโดนจองแล้ว สงสัยอัมพาตคงไม่ไกลเกินเอื้อม”

นี่ขู่!?

โอ้โห ยอมจ้า มึงนี่ก็โหดไป!

“เหนือกลับก่อนนะครับ พอดีไม่ค่อยสบาย” ตัดบทแบบไม่คิดเลย
พี่จอมดื้อทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่สนแล้ว สะกิดหลังธารให้ขี่รถออกไปเลย รู้สึกได้ถึงแผ่นหลังกระเพื่อมเล็กน้อยราวกับกำลังหัวเราะ ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ออกไป ดึงมือผมให้ไปกอดเอวมันด้วย ทิ้งให้พี่จอมดื้อมองตามหลังด้วยสายตางุนงง

ขอโทษนะครับพี่ดื้อ แต่สังขารเหนือก็สำคัญ ปล่อยให้มันหึงนี่คงได้เป็นอัมพาตจริงๆ

ช่วยไม่ได้ ก็เด็กน้อยของพี่เหนือมันขี้หวงนี่นา...
---------------------------------
เอาล่ะค่ะ หมอนขาดกันหรือยัง 555
หน่องธารคนดีเป็นเด็กใสๆ ...ไสหัวไปแซ่บพี่เหนือรัวๆ กร๊ากกก
อยากได้อยากโดนก็จัดให้สักที ความอัมพาตนี้คงหนีไม่ไกลเกินเอื้อม อายุสั้นลงอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว (แต่ไม่ตายง่ายๆ หรอกเนอะ เพราะพี่เหนือกินเด็ก พี่เหนือจะเป็นอมตะ ฮา)
บอกแล้วว่าไม่เขียน nc นะ เขียนเลิฟซีน ขอให้มันเป็นฟีลกู้ดใสๆ จิกหมอน จิกผ้าห่มไปเรื่อยเปื่อยเถอะ เรื่องนี้ไม่อยากเขียนจริงๆ ขออภัยรัวๆ ก้ะ (ระบอบนิยายปกครองด้วยเผด็จการคนเขียน แหะๆ)
ตอนต่อๆ ไปก็จะเริ่มคลายปมไคลแม็กซ์แล้วนะคะ มีให้สังเกตกันนิดนึงว่าเห็นอะไรแหม่งๆ มั้ย //ปล่อยเรดาร์สาววายรัวๆ เห็นอะไรมั้ยยยย
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นความปกป้อง เห็นความเป็นห่วง เป็นความยอมเจ็บตัวเป็นเพื่อนของใครบางคน 555 ถ้าเดาถูก เดี๋ยวมีตอนพิเศษมาให้สัก 1-2 ตอน (จริงๆ ร่างไว้แล้วแหละ แต่ไม่ได้ชัดเจนนะคะ สไตล์มิตรภาพลูกผู้ชาย โชเน็นไอ ชวนให้กร๊าวใจเล็กน้อย)
 ตอนหน้ามาอีกทีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เดี๋ยวหนูแดงจะต้องไปเคลียร์ต้นฉบับที่จะต้องส่งเข้าโรงพิมพ์ก่อนสงกรานต์แล้ว อาจจะมาช้าเน้อ แต่เดี๋ยวจะมาอัพตัวอย่างตอนต่อไปให้ก่อนนะคะ
ปล.ฝากส่งฟีดแบ็คกันด้วยน้าคนดี ^^
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2016 03:55:12 โดย NooDangzz »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด