[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 21มาแต่หัววันหน่อย เดี๋ยวตอนเย็นจะไปทำงานอื่น
หนูแดงมีแบบสอบถามเรื่อง Pre-order ของพรีเมี่ยมจากนิยายเรื่องนี้นะคะ เป็นหมอนไดคัทพี่เหนือกับน้องธาร สั่งนักวาดวาดตัว SD แล้วเรียบร้อย กำลังอยู่ในช่วงตัดเส้นและลงสี คาดว่าอาทิตย์หน้าจะเสร็จ ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่นะ >>
จิ้มส่วนตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมาวันไหนนะคะ หนูแดงขอเร่งเรื่องแก๊งเกรียนเอเลี่ยนก่อน จะได้ส่งไฟล์งานเข้าโรงพิมพ์ทันตามที่ตั้งใจไว้ (ถ้านักวาดทำงานเสร็จทันน่ะนะ TT) คาดว่าอาจจะมาอีกทีราวๆ กลางอาทิตย์หน้า ไม่พุธก็พฤหัสไรงี้ เจิมแล้วปูเสื่อรอไว้ก่อนเนอะ ตอนหน้าไม่ค่อยม่าเท่าไหร่ละ (มั้ง?)
---------------------------------------------
“น้องธาร...” ผมครางอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นหน้าของคนที่ผมคิดถึงเมื่อครู่มาปรากฏอยู่ตรงนี้
ธารไม่เอ่ยทักอะไรออกมาสักคำ พุ่งเข้ามาสวมกอดผมแน่น ก่อนจะดันผมเข้ามาในห้อง ผละออกได้ก็จัดการปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ ทำเอาผมอ้าปากค้างอย่างตะลึงงันไม่เลิก
“เดี๋ยวๆ นี่ออกมาจากบ้านได้ไง” ตั้งสติได้ ผมก็ร้องถาม
“ป้ารินพาไปล้างแผลที่โรง’บาล” ธารเหลือบมามองผมเล็กน้อยขณะตอบ ก่อนเดินลิ่วไปยังตู้เสื้อผ้าโดยไม่สนใจผมอีก ปล่อยให้ผมถามไล่หลัง
“คือหนีจากโรง’บาลมาอีกทีเหรอ”
“เออ”
“เฮ้ย!” ผมร้องลั่น ตกใจที่ได้ยินมันยอมรับเอาซื่อๆ อย่างนั้น
ก็คิดอยู่แล้วว่าสักวันมันจะต้องทำแบบนี้ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะหนีมาเอาวันที่ผมเพิ่งไปคุยกับพ่อมันมาหมาดๆ
หนีมาอย่างนี้ มีหวังพ่อมันรู้ คงได้เป็นเรื่องเป็นราวอีกแน่ อุตส่าห์ไปต่อรองมาแล้วว่าขอให้เลิกขังมัน และอีกฝ่ายก็ตกลงแล้วแท้ๆ มาทำอย่างนี้ ถ้าพ่อมันรู้ มีหวังไอ้ที่ผมพยายามทำมาก่อนหน้าเละไม่มีชิ้นดีแน่
ผมเลยตรงเข้าไปคว้าแขนธารเอาไว้ขณะที่มันกำลังคว้ากระเป๋าเป้ในเขื่องมายัดเสื้อผ้าใส่อย่างรนๆ เห็นแล้วผมก็สงสัยว่ามันจะเก็บเสื้อผ้าทำไม แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการที่ผมต้องปรามให้มันได้สติว่ากำลังทำอะไรอยู่
“เดี๋ยวๆ น้องธาร หนีมาแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวป้ารินจะซวยเอา”
“ทำไมจะหนีไม่ได้ ป้ารินซวยก็ซวย ซวยแล้วไง นี่มันชีวิตของธาร เรื่องอะไรที่ธารจะต้องยอมให้คนอย่างนั้นกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย”
“ก็ไม่ใช่ว่าพี่เหนือจะบอกให้น้องธารยอมให้คุณพ่อกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ว่าพี่เหนือเพิ่งจะไปคุยกับคุณพ่อมาเอง” ผมว่าไปตามความจริง กะจะเล่าให้มันฟังว่าผมไปคุยอะไรมา ทว่ามันรู้ทัน
“ไปต่อรองให้เลิกขังผมน่ะเหรอ เหอะ พี่ว่าเขาจะทำหรือไง”
“ทำแน่นอน พี่เหนือไปคุยมาแล้วนะ น้องธารใจเย็นๆ ก่อน” ดูท่าจะไม่ฟัง ผมเลยปลอบให้มันใจเย็น
ธารทิ้งกระเป๋าเป้ลงบนพื้น พุ่งเข้ามากอดผมแน่นอีกครั้ง
“จะให้เย็นยังไงอีกวะ คิดถึงพี่จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว คิดถึงจนรอจะเห็นหน้าไม่ไหวแบบนี้ จะให้เย็นยังไงอีก”
พูดมาอย่างนี้ ผมก็นิ่ง เข้าใจความรู้สึกมันนะว่ามันเคว้งคว้างแค่ไหน แม้ว่าผมจะไปหามันที่บ้านเกือบทุกวัน แต่ก็คงไม่พอสำหรับคนที่ต้องการใครบางคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาในเวลาแย่ๆ อย่างนี้ และมันก็เห็นผมเป็นที่ยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียวด้วย ไม่แปลกถ้ามันจะหายใจเข้าออกเป็นผม
ผมเลยยกแขนขึ้นกอดตอบ พึมพำออกมาเบาๆ
“พี่เหนือก็คิดถึงน้องธารเหมือนกันครับ”
สองแขนใหญ่รั้งร่างผมให้แนบแน่นกับลำตัวมากขึ้นไปอีก กลิ่นไอของความโดดเดี่ยวของคนตรงหน้าลอยโชยมาให้ผมสัมผัสได้ กอดกันอยู่นานกว่าธารจะยอมผละออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นจรดริมฝีปากจูบผมแทน
“พี่เหนือ...” เสียงห้าวดังขึ้นหลังจากริมฝีปากของเราแยกออกจากกัน
“ครับ?”
“หนีไปกับธารนะ”
“ฮะ!?” ผมผงะไปเลยที่จู่ๆ ก็ถูกชวนหนีไปด้วย
ยะ...อย่าบอกนะว่าไอ้ที่มึงเก็บเสื้อผ้ายัดลงกระเป๋ารัวๆ นี่คือคิดจะหนีออกจากบ้าน!?
ใช่แน่นอน มาถึงขั้นนี้แล้วคงจะไม่พ้นเรื่องนี้ ยิ่งเห็นแววตากับสีหน้ามันแล้ว บอกเลยว่ามันจริงจังชัวร์ป้าบ ยิ่งได้ยินประโยคต่อไปที่หลุดออกมาจากปากมัน ก็รู้เลยว่ามันเอาจริง
“หนีไปกับธาร ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่”
มะ...มนต์รักน้องธาร ณ พิษณุโลก ฟีลทองกวาวถูกไอ้คล้าวมาตะล่อมชวนหนีไปเป็นผัวเมียพุ่งพล่านรัวๆ ในใจหวั่นไหวหนักด้วยเมื่อธารเข้ามากอดผมอีกครั้ง อ้อนไม่เลิกว่าขอให้หนีไปด้วยกัน
ผมก็อยากจะไปนะ อยากอยู่กับมันตลอดเวลาเหมือนกัน แต่...กูจะมาใจแตกเพราะถูกเด็กชวนหนีไปอยู่ด้วยกันไม่ได้! อย่ามาพูดอย่างนี้ ใจอ่อนนะ!
ผมรีบสลัดอารมณ์ชั่ววูบนั้นออกไปทันทีที่ตระหนักได้ว่าถ้ายอมตกปากรับคำ จะต้องมีเรื่องวุ่นวายชวนปวดหัวตามให้มาแก้ไม่รู้จบแน่ เลยตัดสินใจจะปฏิเสธ
“น้องธาร... คือพี่เหนือ...”
หากแต่พูดได้แค่นั้น ธารก็คลายอ้อมกอดมาจูบผมอีกครั้ง จูบเสร็จก็จ้องตานิ่ง ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไปที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีพี่กับธาร ธารยอมทุกอย่าง หนีไปกับธารเถอะนะ”
หน้าชาไปเลย อึ้งงันกับสิ่งที่ได้ยิน และอึ้งหนักกว่าเดิมเมื่อมันพูดประโยคที่ทำให้ใจผมละลายกลายเป็นของเหลวออกมา
“ธารอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ ไปกับธารเถอะ ธารขอร้อง”
กะ...
กระเป๋าอยู่ไหน! เดี๋ยวพี่เหนือจัดกระเป๋าเอง!
คุกก็คุกวะ โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ก็ยอม ทนความอ้อนบวกความน่าสงสารของมันไม่ไหวแล้ว
ขาข้างนึงก้าวเข้าไปในตะรางรัวๆ กูเอ๊ย...ความไร้สตินี้