【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59  (อ่าน 239383 ครั้ง)

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไอโรมก่อเรื่องอีกละเซ็ง เหอะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 20: พี่จะดูแลเราเอง[1]

ห้ามไม่ทันแล้ว แค่คิดจะเอ่ยปาก คนตัวสูงก็เดินอาดๆ เข้าไปที่โต๊ะนั่น เสียงหัวเราะพูดคุยครื้นเครงหยุดลงทันทีที่เห็นธารเดินไปยืนค้ำหัวโรมไว้ โรมหันมามองแล้วก็ยิ้ม แทนที่จะตระหนักว่าตัวเองผิดสัญญาที่เคยให้กับเพื่อนไว้ ซ้ำยังชวนธารอีก

“เอ้าไอ้ธาร มาไงวะ นั่งก่อนสิมึง กำลังสนุกเลย”
“ไอ้โรม กูว่ากูบอกมึงแล้วนะ” ธารไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย ว่าเสียงเข้ม พร้อมชักสีหน้าใส่
ถึงจะไม่พูดเต็มประโยคว่าบอกเรื่องอะไร แต่โรมก็เข้าใจได้ ปล่อยมือที่โอบไหล่แป้งอยู่มาตีแขนธารเบาๆ
“เฮ้ย ไม่มีอะไรหรอกมึง ไม่ต้องห่วง”
“ถ้าป้ารินไม่มีมึงแค่คนเดียว กูจะไม่ห่วงมึงเลย จะหาเหาใส่หัวอีกนานมะ คนที่ยังไม่มีแฟนก็มีตั้งเยอะ ทำไมมึงไม่ไปจีบวะ”

คราวนี้พูดออกมาโต้งๆ ทำเอาแป้งหน้าเสีย คนอื่นหยุดพูดคุยกันทันที มองหน้าแป้งที่ดูคล้ายจะร้องไห้พลันถลันเข้าไปปลอบล่วงหน้า โรมเองก็เริ่มทำหน้าไม่ถูกที่จู่ๆ ธารก็ว่าออกมาตรงๆ แบบนี้ แต่ก็ยังแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน ปลอบใจแป้งว่าธารพูดเล่น แต่ก็โดนสวนตอกหน้า

“กูไม่ได้พูดเล่น กูพูดจริง อยากรู้ฉิบหายว่าแป้งมีอะไรดีนักหนาวะ ทำไมมึงถึงตัดใจไปหาคนอื่นไม่ได้ คนที่ไม่มีแฟนน่ะ ทำไมมึงไม่มอง ไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วทำไม นั่นก็เหมือนกัน มีแฟนอยู่แล้ว จะมายุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีกทำไมฮะ”

แป้งน้ำตาไหลเลย พูดแรงไปจริงๆ ถ้าผมเป็นแป้งก็จุกเหมือนกัน

โรมเริ่มมีท่าทีไม่ชอบใจขึ้นมา ลุกขึ้นแล้วดันธารให้ออกห่างจากโต๊ะ
“มึงพูดเกินไปแล้วไอ้ธาร” ว่าเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ หากแต่โดนธารสะบัดตัวออก
“กูไม่ได้พูดเกินไป กูพูดเรื่องจริง”
“แต่นี่มึงไม่ไว้หน้าแป้งเลย แป้งเป็นผู้หญิงนะเว้ย มึงพูดกระทบกระเทือนจิตใจมากไปแล้ว”
“จะผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์กับคนรักก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องระวังคำพูดหรือเปล่าวะ คนประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติหรอกเว้ย”
“พอแล้วไอ้ธาร!” โรมชักทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงใส่หน้าเพื่อนดังลั่น

ผมรีบปรี่เข้ามาคว้าแขนธารไว้ทันทีด้วยกลัวว่ามันจะมีเรื่องกัน แต่เปล่า ไม่ได้มีเรื่อง ธารแค่มองหน้าโรมนิ่งๆ ก่อนจะถูกโรมลากไปคุยห่างจากโต๊ะกว่าเดิม
“เมื่อวานแป้งเลิกกับแฟนแล้ว ก็เท่ากับว่าโสด กูถึงกลับไปคุย ไม่ใช่ว่ายังมีแฟนอยู่แล้วกูกลับไปคุย มึงเลิกพูดอะไรแบบนั้นซะที”
“แสดงว่าแป้งเลิกกับแฟนเพื่อจะมาคุยมึง?”
“ประมาณนั้น มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ได้ผิดสัญญา รับปากก็คือรับปาก คนไม่มีเจ้าของ กูก็คุยได้ใช่มั้ย”
หัวคิ้วของธารย่นยู่ไปกว่าเดิม ดูก็รู้ว่าธารไม่ค่อยชอบแป้งสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ นอกจากบอกโรมด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“เออ เรื่องของมึง แต่ก็ระวังไว้หน่อยแล้วกัน กูว่าแฟนแป้งแม่งไม่จบหรอก”
ผมก็คิดอย่างนั้น เมื่อคืนยังโดนกระทืบมาหมาดๆ อยู่เลยนี่ ยิ่งแป้งมาเลิกกับแฟนเพราะจะมาคุยกับโรมด้วยแล้ว ผมว่าแฟนเก่าแป้งไม่หยุดราวีง่ายๆ แน่
ทว่าโรมกลอกตา ทำทีไม่สนใจ
“เออๆ กูจะระวังตัว ขอบใจที่เป็นห่วง มึงพาพี่เหนือกลับไปได้แล้วไป ดึกแล้ว กูก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
ธารพยักหน้ารับ ท่าทางหงุดหงิด แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ หันมาคว้ามือผมไปจับแล้วพึมพำ
“กลับเถอะพี่ อารมณ์เสียว่ะ”
ผมก็พยักหน้ารับคำมันไป ดีแล้วล่ะที่มันไม่ตีกัน คุยกันรู้เรื่องก็โอเคแล้ว

หากแต่แค่หมุนตัวจะเดินกลับไปทางเดิม เสียงเอะอะมะเทิ่งของเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงหวีดร้องโวยวายของเด็กผู้หญิง พอหันกลับไปดู ก็เห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นชายราวสิบชีวิตยืนล้อมรอบโต๊ะเบียร์ของโรมไว้ โดยที่เด็กผู้ชายรูปร่างแกร็นๆ ซึ่งดูท่าทางจะเป็นหัวโจกจับข้อมือแป้งเอาไว้ ปากก็โวยวายไม่หยุด
“บอกให้เลิกยุ่งมันไอ้เวรนี่ ทำไมยังไม่เลิกยุ่งอีกวะ!”
“เลิกกันแล้ว ซันจะมาวุ่นวายอะไรกับแป้งอีก!”
“ใครบอกว่าจะเลิก กูไม่เลิก!” ฝ่ายผู้ชายเริ่มขึ้นมึงกู สีหน้าดูโกรธดุดันน่ากลัว ซ้ำยังบีบข้อมือขาวๆ ของแป้งอย่างแรง ทำเอาอีกฝ่ายร้องลั่น
“เจ็บนะ! ปล่อย!”
โรมซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ เห็นคนที่ตัวเองชอบถูกทำอย่างนั้นก็อดไม่ได้ ตรงเข้าไปผลักอกคนที่ชื่อซันออก ดึงแป้งเข้ามาใกล้ตัวเองพลางตะคอก
“ผู้หญิงเค้าไม่เอามึงแล้วก็เลิกยุ่งไปสิวะ จะมาทำตัวเป็นขี้แพ้ชวนตีทำไม!”
“แล้วมึงเสือกอะไร!”
“ก็แป้งกำลังคุยอยู่กับกู กูก็ต้องเสือกสิ”
คำพูดของโรมไปกระตุกต่อมโมโหของอีกฝ่ายน่าดู ก่อนที่ซันจะตะโกนลั่น
“เมื่อวานยังโดนตีนไม่พออีกใช่มั้ยฮะ!”

พลั่ก!

ยังไม่ทันที่โรมจะได้ตอบ ก็โดนต่อยเต็มรักแล้ว

ผมเบิกตาโพลงทันทีที่เห็นโรมถูกตะบันหน้าซะหงายลงไปกองบนพื้น ก่อนที่บรรดาเพื่อนๆ ของซันจะกรูกันเข้ามาประเคนหมัดศอกให้ตามสไตล์หมาหมู่ ส่วนยัยน้องแป้งที่เป็นต้นเหตุกับเพื่อนๆ ก็พากันกรี๊ด วิ่งหนีออกจากวงล้อม ทว่าปากก็ร้องห้ามไม่หยุด

ผมเห็นแล้วก็เป็นห่วงโรมขึ้นมา เพราะเมื่อวานก็โดนยำไปหนักแล้ว มาโดนอีกรอบ มีหวังได้เข้าโรงพยาบาลแน่ แต่ที่เป็นห่วงยิ่งกว่าก็คือคนข้างผมที่จู่ๆ ก็ดึงมือออกจากการเกาะกุม แล้วพุ่งตัวเข้าไปหาเพื่อนด้วยความไวแสง
“น้องธาร! อย่าเข้าไป!” ผมออกปากห้ามไปโดยอัตโนมัติ

แล้วทันมั้ยล่ะ...หึ แม่งวิ่งเข้าไปคว้าขวดเบียร์ใกล้ๆ ตรงไปฟาดหัวไอ้เด็กที่ชื่อซันที่กำลังกระทืบโรมอยู่เรียบร้อยแล้ว เลือดไหลอาบหน้าเด็กนั่นชวนให้ผมจะเป็นลม ร้ายกว่านั้นคือมันยังถูกธารถีบกระเด็นอีกด้วย

“มีเรื่องกับเพื่อนกู ก็เหมือนมีเรื่องกับกูไอ้พวกสวะ!”

ประกาศศักดาอีกน้องธารกู แม่งเอ๊ย! ตีกันอย่างนี้ เดี๋ยวพ่อมึงรู้ก็ได้ลากกลับบ้านจนได้!

“โรม! ธาร! ถอยออกมา! ออกมาทั้งคู่เลย!”
ผมปรี่เข้าไปร้องตะโกนบอกใกล้ๆ คนอื่นๆ ที่นั่งกินลมชมวิวอยู่แถวนั้นก็วงแตก หนีลูกหลงกันอลหม่าน บางคนก็ลุกขึ้นมาช่วยกันห้ามเหมือนกัน ทว่าไอ้เด็กพวกนี้ไม่ฟังกันสักนิด ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุอีก ตีกันนัวเนียยิ่งกว่าเดิม ล้มลุกคลุกคลานจนน่ากลัวว่าจะเลยเถิดไปเป็นเรื่องใหญ่โต

“หยุด! พอได้แล้ว!”
ผมร้องตะโกนสุดเสียง เหมือนแม่บ้านที่พยายามแยกหมาที่กัดกัน นี่ถ้ามีน้ำร้อนจะเอาสาดเลยเถอะ

แต่ดูท่าแล้ว น้ำร้อนสาด มันก็ไม่หยุด ยิ่งธารกับโรมสู้แล้วด้วย ไอ้ฝั่งที่มีพวกเยอะกว่าก็ยิ่งไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีว่ายอมให้สองคนนั้น รุมกระทืบกันอีรุงตุงนัง ขนาดผู้ใหญ่แล้วนั้นช่วยกันห้ามแล้วก็ยังไม่หยุด อะไรไม่ว่า ไอ้ฝั่งที่เสียเปรียบน่ะธารกับโรมชัดๆ แค่มันสองคนกับโรมจะไปสู้อะไรเด็กวัยรุ่นตัวพอๆ กันเกือบสิบคนได้ถึงจะสู้สุดตัวก็เถอะ

ทว่าธารก็ยังสู้จนเกลือกกลิ้งไปบนพื้น ผมเห็นทั้งหมัดทั้งฝ่าเท้าประทับลงมาบนตัวเด็กนั่นก็ปวดหนึบในใจขึ้นมา ความเป็นห่วงของพ่อแม่เวลาเห็นลูกเจ็บตัวเป็นยังไง ตอนนี้ผมรู้สึกคล้ายๆ อย่างนั้นเลย

“ธาร! พี่บอกให้พอ!” ผมปรี่เข้าไปจะห้ามอย่างลืมตัวว่ามันอันตราย
ธารหันมามองผมนิดหน่อย ก่อนจะออกหมัดใส่ใครคนหนึ่งพลางตะโกน
“อย่าเข้ามา!”

พลั่ก!

พูดยังไม่ทันสิ้นเสียงดี ซีกหน้าข้างหนึ่งของเด็กนั่นก็ปะทะเข้ากับกำปั้นของหนึ่งในอีกฝ่ายเต็มๆ เลือดสดไหลกลบปากแลดูน่ากลัวนั่นยิ่งทำให้ผมแข้งขาอ่อนแรง ขณะเดียวกันก็โมโหที่ที่ธารไม่เชื่อฟัง

ผมเลยตั้งท่าจะเข้าไปห้ามอีกครั้งด้วยเห็นว่าผมต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเรื่องราวได้บานปลายกว่านี้แน่ เมื่อกี้ได้ยินคนแถวนั้นร้องบอกว่าจะแจ้งตำรวจด้วย ผมก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าควรเอาตัวเองไปแทรก ถึงจะเสี่ยงเจ็บตัว แต่ก็คิดว่าน่าจะหยุดธารได้

หากแต่พอผมตั้งท่าจะเข้าไป ซันก็ล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงมากวัดแกว่งในอากาศ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นมีดพก เท่านั้นผมก็ร้องสุดเสียง
“ธารระวัง!”

ธารหันมามองผมขวับ ก่อนหันไปยังเด็กนั่นที่พุ่งเข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะร้องเฮ้ยด้วยความตกใจ รีบกระโดดหลบอีกฝ่ายพลาดเป้าแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ตรงเข้ามาแทงธารอีก
“เก่งนักเหรอ! กูจะแทงมึงให้ไส้ไหลเลยไอ้เวร!”

ตอนนี้เหตุการณ์ชุลมุนมากกว่าเดิม จากที่ตีกันนัวเนียอยู่แล้ว ยิ่งอลหม่านเข้าไปใหญ่เพราะคนแถวนั้นพากันแตกตื่น ร้องโหวกเหวกกันใหญ่ ซ้ำยังผสมโรง เอาโต๊ะเก้าอี้มาขว้างใส่กลุ่มเด็กพวกนั้นด้วยหวังจะให้พวกมันหยุดอีก ซึ่งไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย

โรมพยายามจะดึงธารออกจากวงล้อม ปากก็ร้องบอกให้ผมหนีไปก่อน แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมเลยไม่หนี กะรอให้ธารได้โอกาสหนีก่อนแล้วค่อยออกวิ่ง
หากแต่พอธารสบโอกาส อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้หนี พุ่งเข้ามาอีก ธารเห็นพอดีเลยรีบเบี่ยงตัวหลบ คราวนี้ไม่รอด โดนคมมีดครูดบนท่อนแขนจนเลือดไหลอาบเป็นทาง

มือไม้ผมสั่นเทาขึ้นมาทันที ไม่รู้จะช่วยยังไง ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมาอยู่ในวงล้อมเด็กตีกันอย่างนี้มาก่อนเลย ร้ายกว่านั้นคือพออีกฝ่ายทำให้ธารบาดเจ็บได้แล้วก็ไม่ยอมหยุด ปรี่เข้ามาหมายจะแทงอีก ดูท่าจะเอาถึงตาย โรมก็พยายามช่วยแต่ก็ถูกพวกเพื่อนๆ ของอีกฝ่ายสกัดไว้จนเข้าถึงตัวธารไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าธารกับเด็กที่ถือมีดนั่นปลุกปล้ำกันอุตลุต ล้มกลิ้งไปบนพื้น สิ่งที่ธารทำคือป้องกันตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายหมายจะเอาชีวิต

“เรียกตำรวจหรือยัง!? เรียกเร็ว!”
สิ่งที่ผมทำได้คือการตะโกนไปแบบนั้น มือก็คว้าโทรศัพท์ออกมากดหาเบอร์โรงพยาบาล กะจะเรียกรถพยาบาลมาเผื่อไว้เลย ยังไงก็ดูท่าจะต้องหามกันไปที่นั่นแน่ ดีที่มีคนร้องตอบกลับมาว่าเรียกตำรวจแล้ว ผมเลยเบาใจลงไปนิดหน่อยด้วยรู้ว่าสถานีตำรวจอยู่แถวนี้

หากแต่พอผมยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ธารที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกอีกฝ่ายขึ้นคร่อมอยู่ก็เป็นได้เปรียบขึ้นมาเมื่อธารตั้งท่าจะพลิกตัวมาคร่อมแทน ทว่าในจังหวะที่ธารพลิกตัวลุกขึ้น เด็กอีกคนก็ไม่หยุด จ้วงแทงมีดออกไปให้ธารต้องป้องกันตัวเองด้วยการใช้สองมือรับคมมีดนั้น
ของเหลวสีแดงสดไหลอาบฝ่ามือจนท่วม สีหน้าเหยเกปรากฏให้เห็นบนใบหน้าหล่อ ก่อนจะซัดกันอุตลุตอีกครั้งกระทั่งธารเป็นฝ่ายถูกผลักลงไปนอนแล้วโดนคร่อมไว้อีก

ผมขาสั่น ใจสั่น เป็นห่วงจนแทบทนไม่ไหว ภาวนาในใจขอให้ตำรวจหรือใครก็ได้รีบมาห้ามเด็กพวกนี้เร็วๆ แต่เหมือนคำอธิษฐานของผมจะไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะแค่คิดเท่านั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังลั่นไปทั่ว ดึงให้หัวใจผมร่วงไปอยู่ตาตุ่มพลัน
“โอ๊ย!”
“ไอ้ธาร!”
“ไอ้ซัน!”

เด็กหนุ่มพวกนั้นหยุดตีกันกะทันหันทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ผมเองก็ชะงักเช่นกันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยเลือดกองใหญ่บนพื้น ทั้งคู่หยุดนิ่ง สีหน้าตกใจพอๆ กัน แต่คนที่ตกใจมากกว่าคือผม เพราะทันทีที่ผมละสายตาจากกองเลือดบนพื้นไปมองยังตัวธาร ก็เห็นว่ามีรอยเลือดเป็นวงกว้างบริเวณสีข้างบนตัวเด็กนั่น
“ธาร!”
ผมโพล่งสุดเสียงทันที วิ่งเข้าไปหาชนิดทิ้งทุกอย่างที่ถืออยู่ในมือ ตั้งใจจะเข้าไปลากตัวมันออกมาจากเด็กอีกคน ขณะที่มันหันมามองหน้าผม พลางส่งเสียงเครือ
“พะ...พี่เหนือ...”
ผมคว้ามือเปื้อนเลือดมาจับไว้มั่น เห็นบาดแผลบนฝ่ามือแล้วก็อยากจะตบกะโหลกมันชะมัด แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ปลอบมันทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ใจเย็นไปกว่ามันเลยสักนิด
“มะ...ไม่เป็นไร พี่เหนืออยู่นี่แล้ว...พี่อยู่นี่แล้ว”

เด็กเวรเอ๊ย! มาให้ทำกูเป็นห่วงเจียนตายอย่างนี้ได้ยังไงวะ!

ผมรีบปราดสายตามองหาบาดแผลบนตัวธารนอกจากที่มือทันที ด้วยตั้งใจว่าจะประเมินว่าน่าเป็นห่วงแค่ไหน แต่พอมองไปยังสีข้างที่มีเลือดกลบอยู่ท่วมแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีร่องรอยอะไรสักอย่าง ไม่มีแม้แต่รอยเสื้อขาดด้วย มารู้ตัวอีกทีว่าธารไม่ได้ถูกแทงก็ตอนได้ยินเสียงเด็กอีกกลุ่มร้องโวยวายอยู่ใกล้ๆ
“ไอ้ซัน! อดทนไว้นะมึง!”
“กะ...กูเจ็บ...”
ซันยกมือกุมด้ามมีดที่ปักอยู่บริเวณสีข้างตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวดขณะที่เพื่อนๆ พากันประคองไว้ ไม่ให้ขยับเขยื้อนมาก ผมเลยโล่งใจเกือบจะเป็นปลิดทิ้งแล้วที่ธารไม่เป็นอะไรมากอย่างที่คิด หากไม่หันมาเห็นใบหน้าขาวซีดของธารที่ดูเหมือนจะช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่
“ธาร...ธารไม่ได้ทำนะพี่” เสียงสั่นเครือหลุดออกมาจากปากของเด็กนั่น
ผมรีบพยักหน้ารับรัวๆ คว้าหัวมันมากอด ปลอบให้หายตกใจเป็นพัลวัน
“พี่เหนือเห็นแล้ว เดี๋ยวพี่เหนือเป็นพยานให้ ใจเย็นๆ นะ”
ปลอบใจไป ใจผมก็แป้วไปด้วย แต่ก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไร กวักมือเรียกโรมที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมให้มาอยู่ใกล้ๆ เพราะเกรงว่าจะมีเรื่องกันอีก

ไม่นาน ตำรวจและรถพยาบาลก็มาถึงที่ ซันถูกพาตัวส่งไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดก่อน ขณะที่ธารถูกห้ามเลือดที่มือก่อนจะถูกส่งตัวตามไปทำแผล ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่บาดเจ็บนักก็ถูกกว้านไปที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันก่อน และเรียกผู้ปกครองมารับทราบเรื่องและประกันตัว

ผมตามธารกับโรมไปที่โรงพยาบาล ตอนมาถึง ผมกะว่าจะไม่โทรบอกพ่อของธารว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าตำรวจที่ถูกส่งตัวมาดูดันรู้จักกับธาร แถมรู้อีกด้วยว่าเป็นลูกของผู้หรับผู้ใหญ่ในจังหวัด ทางนั้นเลยโทรไปรายงานเป็นที่เรียบร้อยโดยไม่รอสอบปากคำธารก่อนเหมือนเด็กคนอื่นๆ

ผมไม่รู้จะทำยังไง รู้อย่างเดียวว่าถ้าพ่อธารมา ต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่ เลยตัดสินใจส่งข้อความทักพี่จอมดื้อที่เฟซบุ๊ก ขอเบอร์แล้วโทรเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้ฟัง พี่จอมดื้อเลยรีบกุลีกุจอมาที่โรงพยาบาลในอีกไม่กี่สิบนาทีให้หลัง

โรมทำแผลเสร็จแล้ว เนื้อตัวมีเพียงแผลฟกช้ำเลยไม่น่าเป็นห่วงมาก ถูกพามานั่งรอธารที่ถูกส่งตัวไปเย็บแผลอยู่เพราะแผลที่ได้รับจากคมมีดค่อนข้างลึกพอสมควร จากนั้นก็จะโดนลากไปที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันกัน
ผมเห็นสภาพโรมที่จ๋อยสนิทแล้วก็ต่อว่ามันไม่ออก คิดๆ ดูแล้วก็ไม่ใช่ความผิดมันด้วยที่ไปคุยกับแป้ง เพราะแป้งบอกเองว่าเลิกกับแฟนแล้ว โรมถึงกลับไปคุย ผมเลยได้แต่ตบไหล่มันเบาๆ ให้คลายกังวล ทว่าก็ต้องกังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อพี่จอมดื้อกับพี่จอมแสบโผล่มาที่โรงพยาบาล พร้อมกับจอมแก่นและน้องมายด์ที่ทำหน้าตื่นๆ

“ไอ้ธารเป็นไงบ้างเหนือ” เป็นคำถามแรกที่หลุดจากปากพี่จอมดื้อทันทีที่เห็นหน้าผมบริเวณที่นั่งพักหน้าห้องฉุกเฉิน
“ทำแผลอยู่น่ะครับ อีกสักพักคงจะออกมา” ผมว่า
สีหน้าทุกคนเลยดูผ่อนคลายขึ้น ยกเว้นจอมแก่นที่มีสีหน้าผ่อนคลายครู่เดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้ง เดินเข้ามาหาโรม และ...

พลั่ก!

“ไอ้โรม!”
ต่อยหน้าโรมอย่างแรง ตะคอกใส่และตามมาด้วยอีกหลายหมัด ทำเอาทุกคนตกตะลึงไปครู่ ก่อนจะได้สติแล้วรีบลากจอมแก่นออกห่าง
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้แก่น! ต่อยมันทำไม!” พี่แสบที่ล็อคตัวน้องชายคนเล็กไว้ได้ร้องถามท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนรอบข้าง
จอมแก่นสะบัดตัวออก สายตาแข็งกร้าวจับจ้องยังโรมที่บัดนี้มีบาดแผลบนใบหน้าเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว
“จะต้องให้ธารเจ็บตัวอีกกี่ครั้ง มึงถึงจะพอใจวะ! เมื่อไหร่มึงจะเลิกสร้างเรื่องเพราะผู้หญิงซะที!”

ทุกคนรู้เอาตอนนี้ว่าที่จอมแก่นโกรธเป็นเพราะอะไร ผมว่าจอมแก่นคงจะโกรธจริงเพราะตั้งแต่ที่รู้จักเด็กนี่มา ไม่เคยเห็นมันพูดคำหยาบกับเพื่อนเลยแม้ว่าจะสนิทกันแค่ไหนก็ตาม ขนาดตัวเองโดนลูกหลงตอนถูกพวกซันมาหาเรื่องเมื่อวานก่อนยังไม่โกรธเลย แสดงว่าเป็นห่วงธารมาก ถึงขั้นขึ้นมึงขึ้นกูอย่างนี้ คงจะเหลืออดแล้วจริงๆ

“มึงจะด่ามันทำไมฮะไอ้จอม ไอ้โรมมันก็ไม่ได้ตั้งใจ คนที่ผิดน่ะยัยแป้งเปียกอะไรนั่นโน่น พี่เหนือก็เล่าให้ฟังหมดแล้วนี่ว่าไม่ใช่ความผิดมันเนี่ย!” น้องมายด์ที่ประคองโรมอยู่เถียงกลับขณะที่โรมมีสีหน้าจ๋อย ขยับปากส่งเสียงแผ่วเบา
“กูขอโทษ”
“ขอโทษแล้วยังไง! ถ้าธารเป็นอะไรขึ้นมา มึงรับผิดชอบได้มั้ย! มึงทำอย่างนี้ก็เท่ากับสร้างปัญหาให้ธารเพิ่ม รู้เอาไว้ซะด้วย!”
“ก็กูบอกว่าขอโทษ มึงจะให้กูทำยังไงอีก กูก็ไม่ได้อยากสร้างปัญหาให้มันหรอก แต่เรื่องมันเกิดไปแล้ว กูย้อนเวลาได้มั้ยล่ะ!” โรมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว ออกทางสีหน้าชัดเจนเลยว่ามันก็รู้สึกแย่ไม่แพ้กัน

หากแต่ไม่ได้ทำให้จอมแก่นฟังเลยแม้แต่น้อย ทำท่าจะเข้ามาต่อยอีกให้พี่จอมแสบกับพี่จอมดื้อรั้งกันไว้แทบไม่ทัน พี่จอมแสบถึงขั้นลากจอมแก่นออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอกด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องกันอีก เหตุการณ์นี้ทำให้ผมฉุกใจคิดขึ้นมาว่าปัญหาของธารคงจะไม่ใช่เท่าที่ผมรู้

คือก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่น่ะ แต่ใหญ่ของผมคงจะไม่ใหญ่เท่าที่เด็กพวกนี้รู้ ดูท่าจะใหญ่กว่านั้น

อยากรู้ขึ้นมาอีกแล้วว่าตกลงธารมีปัญหาอะไรกับพ่อกันแน่ มันถึงได้เป็นเรื่องที่แตะไม่ได้ขนาดนี้...
ผมนั่งคิดไปเรื่อย มีหันไปคุยกับพี่จอมดื้อบ้าง น้องมายด์บ้าง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าให้ฟังโดยละเอียดอีกรอบ มาหยุดพูดเอาก็ตอนที่บุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีธารนอนอยู่ออกมา

ผมลุกพรวด ตรงเข้าไปหาเด็กนั่นที่บัดนี้มีผ้าพันแผลพันทั้งสองมือและแขนข้างหนึ่งทันที
“เจ็บมั้ย” ถามพลางลูบกระหม่อมมันไป
ธารเม้มปาก พยักหน้ารับน้อยๆ
“เจ็บมากมั้ย” ผมถามอีก และคำตอบก็ยังเหมือนเดิม ผมเลยเสริมขึ้น “ แค่นี้น้องธารยังเจ็บมาก แต่พี่เหนือที่เห็นน้องธารเจ็บนี่เจ็บกว่าอีกนะ คราวหลังจะทำอะไรก็คิดถึงคนที่รักเราด้วยว่าจะเป็นห่วงแค่ไหน เข้าใจมั้ย”
ผมเผลอดุออกมาจนได้ ถึงจะไม่ใช่การดุที่จริงจังสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ธารสลดได้ทันตา พร้อมกับความกังวลและตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่อีกฝ่ายถูกแทง

เห็นแล้วผมก็สงสารมันขึ้นมา ไม่อยากจะดุมันต่อ คงกลัวน่ะว่าตัวเองจะตกเป็นจำเลยทั้งที่ไม่ได้ทำล่ะสินะ แต่คือผมคุยกับตำรวจตอนที่มันเข้าไปทำแผลแล้วล่ะว่าเป็นมายังไง ซันถึงถูกแทงได้ และมีพยานในที่เกิดเหตุอีกหลายคนยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดในระหว่างเด็กทั้งคู่แย่งมีดกัน พูดง่ายๆ ก็คือซันมันพลาดทำมีดเสียบตัวเองนั่นแหละ

แต่ผมไม่อธิบายอะไรให้ธารฟังในเวลานี้ ตอนนี้มันต้องการคนปลอบใจมากกว่า ถึงใจผมอยากจะดุมันก็เถอะ
“ธารขอโทษครับพี่เหนือ”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ธารก็ว่าขึ้นมาก่อน น้ำเสียงแผ่วเบาระคนสั่นเครือเล็กน้อยทำให้ผมรู้ว่ามันสำนึกผิดจริงๆ

ผมพ่นลมหายใจ ยิ้มรับแล้วช่วยพยุงมันลงจากเตียงมายืนบนพื้น ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ในเวลานี้ผมมีแต่ความเป็นห่วงให้มันอย่างเดียวเท่านั้น แล้วก็ต้องเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิมทันทีที่สายตาเหลือบไปเห็นร่างของชายวัยกลางคนในชุดลำลองเดินอาดๆ เข้ามาด้วยสีหน้าตระหนก ด้านหลังเป็นชายอีกคนที่ผมคุ้นหน้าดี ตามมาด้วยตำรวจนายที่ผมจำได้ว่าเป็นคนโทรตามพ่อของธาร

คุณธี... คุณเลขาชยุต...

ถึงเวลาโดนเชือดเรียงตัวแล้วสินะ

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 20: พี่จะดูแลเราเอง[2]

“ไอ้ธาร!” คุณธีเดินมาหยุดหน้าลูกตัวเอง ใบหน้าคร้ามฉายแววเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะหายไปทันตาเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองไม่เป็นอะไรนัก เดาว่าคงจะพอรู้มาจากคุณตำรวจนายนั้นแล้วล่ะว่าอาการเป็นยังไง
แต่เพราะรู้นี่แหละ ความเป็นห่วงที่ฉาบพรายบนใบหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดขึ้นมา
“ไอ้เด็กเวร!”

เพียะ!

“ธาร!” ผมร้องเสียงหลงทันทีที่เห็นฝ่ามือใหญ่ปะทะเข้ากับซีกหน้าฟกช้ำของธารเข้าอย่างจัง
ธารที่ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มคว่ำไปบนพื้น ผมรีบเข้าไปพยุงพร้อมกับน้องมายด์ที่ตกใจไม่แพ้กัน
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าสร้างเรื่องอีก ทำไมไม่ฟัง หัวแกมีแต่ขี้เลื่อยหรือไง!”

ส่วนคุณธีก็ทำท่าจะเข้ามาทุบตีอีกจนพี่จอมดื้อกับคุณชยุตต้องช่วยกันห้ามไว้ ผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่คุณธีทำแบบนี้ แต่ก็แสร้งทำเมิน สนใจแต่คนตรงหน้าแทนเพราะมุมปากบวมตุ่ยนั่นมีรอยแตกเลือดซิบมาให้เห็นอีกแล้ว
“ไม่เป็นอะไรนะน้องธาร”
ธารไม่พูดอะไรสักคำ ตวัดดวงตาแข็งกร้าวมองเลยผมไปทางพ่อ กระทั่งคุณธีสงบลงได้ ถึงได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เคลียร์เรื่องเสร็จแล้ว คืนนี้แกไสหัวกลับไปบ้านเลย ฉันจะไม่ปล่อยให้แกคลาดสายตาอีกแล้ว ไอ้ลูกไม่รักดี!”
“ใครจะกลับไปวะ!” ธารไม่ฟัง แค่ได้ยินคำว่า ‘กลับบ้าน’ ก็ตะคอกกลับไปบ้าง กระตุกต่อมโมโหของคุณธีให้ปะทุมากกว่าเดิม
“ถ้าไม่กลับ ฉันก็จะกระทืบแกให้ตายตรงนี้นี่แหละ!” คุณธีเดือดดาลจนใครก็ห้ามแทบไม่อยู่ หลุดมือเข้ามาหาธารได้อีกครั้ง จนผมเอาตัวเข้าไปบังแทบไม่ทัน
โรมก็เช่นกัน รีบแทรกเข้ามาขวางไว้ ปากก็ร้องบอกไปด้วย
“คุณธีอย่าทำไอ้ธารเลยครับ ความผิดผมเอง!”
คุณธีชะงัก มองหน้าธารด้วยสายตาตำหนิ พลางว่าเสียงเข้ม
“แกก็อีกคนไอ้โรม วันๆ สร้างแต่เรื่อง แม่แกจะเป็นยังไงก็ได้งั้นสิ แค่พ่อแกมันเฮงซวยคนเดียว ทิ้งแม่แกกับแกไปกับผู้หญิงอื่นยังไม่พออีกหรือไง จะต้องให้แม่แกช้ำใจไปถึงไหน หัดทำตัวดีๆ ให้คนเป็นแม่ชื่นใจซะบ้าง! เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอ่านทำตัวเจ้าชู้ มีผู้หญิงมากไม่ใช่ว่าจะเท่หรอกนะ!”

โดนตีแสกหน้าด้วยคำพูดตรงๆ อย่างนี้ โรมก็นิ่งไปเลย ผมรู้เอาในตอนนี้ด้วยว่าสาเหตุที่แม่โรมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเพราะอะไร และที่คุณธีพูดตรงขนาดนี้ก็คงเพราะเห็นเด็กพวกนี้มาตั้งแต่เล็กน่ะถึงได้ไม่ระวังคำพูดเท่าไหร่
แต่จะอะไรก็ตามแต่ ตอนนี้คุณธีดันโรมออกห่าง ถลาเข้ามากระชากธารให้ลุกขึ้นในจังหวะที่ผมเผลอ อะไรไม่ว่า ดันจับเข้ามาที่แผลของธารเต็มๆ ทำเอาเด็กนั่นร้องโอ๊ยสุดเสียง

“คุณพ่อครับ เดี๋ยวก่อนคุณพ่อ! ปล่อยก่อนนะครับ!” ผมไม่รอช้า เข้าไปรั้งมือใหญ่นั้นไว้ทันทีด้วยทำใจไม่ได้ที่เห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บไปมากกว่านี้
คุณธีไม่ยอมปล่อย ตวัดดวงตาแข็งกร้าวมามองผม เห็นแล้วก็หวั่นใจไปนิด ทว่าก็กลั้นใจพูดออกมาอีก
“คือ...ผมว่าจับแบบนี้ ธารใจเจ็บนะครับ ปล่อยก่อนเถอะ”
“ถ้าพ่อมันจับแค่นี้แล้วเจ็บ มันก็ไม่ควรจะเสนอหน้าไปตีกับชาวบ้าน” อีกฝ่ายตอกหน้าผม ยังดีที่มีการคุมโทนน้ำเสียงอยู่บ้างให้ผมไม่รู้สึกว่าถูกตะคอก
ผมก็ทำใจดี สวนกลับไปอีก
“ธารใจแค่ช่วยเพื่อนเองครับ ไม่ได้เป็นคนหาเรื่องเอง”
“แต่ก็ไม่ควร ผมบอกไปแล้วว่าห้ามไปมีเรื่องอีก ไม่งั้นจะลากมันกลับบ้านทันที อีกอย่างนะอาจารย์เหนือ ผมว่าอาจารย์รับปากผมแล้วด้วยนะว่าจะดูแลมันแลกกับการให้มันอยู่หอ แล้วทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้”

สะอึกไปเลย ผมพูดต่อไปออก ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป
“ความผิดผมเองครับที่ดูแลธารใจไม่ดี ถ้าจะโทษก็โทษผมเถอะ แต่ช่วยปล่อยมือจากธารใจก่อนนะครับ”
ไม่ว่าอย่างเดียว ยังรั้งแขนของธารเอาไว้เป็นสัญญาณให้คุณธีปล่อย ธารเหลือบมองหน้าผมด้วยสายตายากจะอ่าน ผมพยักหน้าให้ไปทีเป็นสัญญาณให้อยู่เฉยๆ ผมจะจัดการเอง มันเลยไม่พูดอะไร

แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณธียอมปล่อยได้เลย ซ้ำยังจะกระชากแรงขึ้นกว่าเดิมอีก
“ผมไม่ปล่อย ต่อไปนี้ผมจะดูแลมันเอง ขอบคุณที่ช่วยดูแลมันนะครับ”
แล้วก็ลากธารไปเฉยเลย ผมอ้าปากค้างด้วยไม่ทันตั้งตัว ส่วนธารก็โวยลั่น ขืนตัวสะบัดออกสุดแรงด้วย
“ถ้าจะให้พ่อดูแล ตายตามแม่ไปยังจะดีกว่าอีกเว้ย!”
คุณธีชะงักกึก หันมาหาแล้วตะเบ็งเสียง “ไอ้ธาร!”

เพียะ!

ตบเข้ามาอีกทีอีกต่างหาก คราวนี้คุณตำรวจกับบุรุษพยาบาลเริ่มเข้ามาช่วยห้ามกันบ้างแล้ว ผมเองก็รีบเข้าไปกอดธารที่เซไปชนกับรถเข็นอีกครั้ง เห็นแล้วผมก็เริ่มทนไม่ไหว ถึงจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าตกลงพ่อลูกคู่นี้มีปัญหาอะไรกันแน่ แต่ผมก็ทนกับการเห็นบาดแผลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กนี่อีกต่อไปไม่ได้แล้ว เผลอหันไปเสียงดังใส่คุณธีที่ปรี่เข้ามาจะลากธารออกจากโรงพยาบาลไปอีก

“คุณเลิกแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรงสักที ที่ธารเกเรแบบนี้เป็นเพราะมีต้นแบบจากพ่ออย่างคุณนะ!”
“จะมีต้นแบบมาจากใครมันก็เรื่องของครอบครัวผม ไอ้ธารมันเป็นลูกผม ผมจะทำอะไรกับมันก็ได้ ผมทำให้มันเกิดมา ผมเป็นพ่อ ยังไงก็มีสิทธิ์!” คุณธีไม่ยอมแพ้ทั้งที่ถูกรั้งตัวไว้

ผมชักจะหมดความอดทนแล้ว เข้าใจชัดแจ้งเลยว่าทำไมครั้งหนึ่งธารถึงได้พูดว่าผู้ใหญ่ก็เป็นเหมือนกันหมด ชอบใช้อำนาจ ไร้ซึ่งเหตุผล เลยทำให้มันไม่ยอมเปิดใจกับคนที่แก่กว่า ทั้งหมดก็มาจากคนตรงหน้านี่เอง
“ถึงจะเป็นพ่อ ถึงจะทำให้เกิดมา แต่ธารใจก็มีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ คิดเองได้ เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองได้ ไม่ใช่ให้คุณมาบงการแบบนี้ ที่สำคัญ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำร้าย ไม่ว่าธารใจจะเป็นลูกคุณหรือไม่ใช่ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายเขา!”

ลืมสิ้นไปทุกความหวาดเกรงในใจแล้ว โพล่งไปทุกความคิดที่มี ทำเอาธารมองหน้าผมอย่างไม่เชื่อสายตาว่าคนอย่างผมที่เห็นว่าอะไรยอมได้ก็ยอมมาตลอดสู้คนขึ้นมา ก่อนจะครางเสียงเบา
“พี่เหนือ...”
ผมชำเลืองมอง จับมือมันแน่ให้มันอุ่นใจว่าไม่ว่ายังไง ผมก็จะอยู่ข้างมันอย่างนี้

เอาจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนไม่สู้คน ผมแค่ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากเลยเลี่ยงที่จะมีปัญหากับคนอื่นมาตลอด แต่ถ้าเพื่อคนที่ผมรัก ต่อให้ต้องชนกับคนที่รู้ว่าสู้ยังไงก็ไม่มีทางชนะ ยังไงผมก็จะทำ แม้ว่าจะถูกคุณธีขัดขวางหลังจากรู้ว่าผมกับธารมีความสัมพันธ์กันแบบไหนก็เถอะ

ยืนสบตาประจันหน้ากับคุณธีอยู่นานมาก นานจนเหมือนเวลาหยุดหมุน กระทั่งคุณธีเริ่มใจเย็นลง โพล่งทำลายความเงียบขึ้นมา
“อาจารย์จะคิดยังไงก็ช่าง แต่ผมจะเอาลูกกลับบ้าน ยังไงลูกก็ต้องอยู่ใต้ความดูแลของพ่อแม่ และที่ผมทำมันก็ไม่ใช่ว่าไม่รักมัน แต่คนอย่างมันถ้าไม่ทำโทษให้หลาบจำ มันก็จะไปก่อเรื่องอีก”
“แต่ว่า...”
“ผมไม่อยากฟังเหตุผลของอาจารย์อีกแล้ว ยังไงซะ อาจารย์ก็เป็นคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ถ้าอยากเกี่ยว ก็ไปประกันตัวมันออกมาแล้วกัน ไม่อย่างนั้นผมจะปล่อยให้มันนอนคุก ส่งเข้าสถานพินิจไปเลย ไอ้โรมก็ด้วย หมดปัญญาจะดัดสันดานมันแล้ว แต่ถ้าไม่อยากให้มันติดคุก ก็บอกให้มันกลับไปอยู่บ้าน ไม่งั้นผมทำจริงแน่”

เป็นคำขู่ที่เหมือนจะเอาจริงแน่นอนถ้าผมยังดึงดันอีก แน่นอนล่ะว่าถ้าผมมีเงิน ผมก็จะไปประกันตัวธารเพราะการทะเลาะกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แค่ลงบันทึกประจำวันเฉยๆ แล้วก็จบไป ถึงขั้นเลือดตกยางออกก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายแล้วล่ะ แต่ผมไม่มีเงินไง เงินก็ยังขอพ่อแม่อยู่ เรียนไม่ทันจบดีเลยด้วยซ้ำ จะไปเอาเงินมาจากไหนถึงจะรู้ว่าไม่กี่หมื่นก็เถอะ
ธารทำท่าจะขัดขืนอีกครั้งเมื่อ แต่ดูทรงแล้ว ถ้าทำอย่างนั้นไป มีหวังมันได้ไปนอนกินข้าวแดงในคุกคืนนี้เลยแน่ ผมเลยปรามมันไว้ก่อนที่มันจะได้พูด
“คืนนี้กลับบ้านไปก่อนนะน้องธาร”
“พี่เหนือ!” หันมาโวยอย่างที่ผมคาดเดา ตามด้วยอีกหลายประโยค “พี่จะให้ธารกลับไปอยู่กับคนอย่างนี้เหรอ พี่คิดอะไรอยู่!”
“แต่เขาเป็นคุณพ่อน้องธารนะ”
“เป็นพ่อแล้วไงวะ! แม่งฆาตกรนะเว้ย!”

เอาละ เริ่มเปิดฉากความวุ่นวายระลอกใหม่แล้ว ผมเลยต้องจ้องหน้ามันนิ่งๆ ว่าเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งที่ใจก็ไม่ได้อยากให้มันกลับไปหรอก

“กลับไปก่อน เชื่อพี่เหนือนะครับ”
“แต่พี่...”
“น้องธาร... เชื่อพี่เหนือ”
ธารทำท่าฮึดฮัด กัดริมฝีปากแล้วสบถหยาบคายออกมาชุดใหญ่ แต่สุดท้ายก็ยอม
“เออ”

ผมหยักยิ้ม ปล่อยให้เรื่องราวมันจบไปอย่างนี้โดยไม่คิดจะพูดอะไรต่อให้เป็นเรื่องยาว หากแต่ใจไม่ได้สงบเลยแม้แต่น้อย
ถ้าธารโดนพ่อตีขึ้นมาอีกตอนผมไม่อยู่ ผมคงจะรู้สึกผิดมากเลยนะที่ยอมส่งมันกลับบ้านอย่างนี้



 
คืนนั้นผมอยู่กับมันกระทั่งเรื่องราวทุกอย่างเสร็จสิ้น มีเพียงตอนมันกลับบ้านเท่านั้นที่ไม่ได้ไปส่ง เพราะคุณธีไม่อนุญาตให้ใครตามไปด้วยเกรงว่าจะไปก่อเรื่องอีก ผมเลยฝากคุณชยุตให้ดูแลธารแทน ระวังไม่ได้คุณธีได้ทำร้ายร่างกายอีก คุณชยุตก็รับปาก แต่ผมว่าคงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะแค่เห็นธารขึ้นรถไปกับพ่อ ก็เริ่มเปิดฉากเถียงกันรุนแรงแล้ว
ส่วนโรมก็โดนป้ารินดุด่าไปตามระเบียบ ตามมาด้วยร้องไห้เพราะผิดหวังที่ลูกชายก่อเรื่องถึงขั้นนี้ด้วย โรมเลยจ๋อยสนิท ไปคุยกับใครก็โดนดุ ซ้ำยังเข้าหน้าจอมแก่นไม่ติดเลย กลายเป็นว่าผมต้องโอ๋มันอีก

ไอ้เด็กพวกนี้... ถึงจะโตกันแล้วแต่ก็ยังเด็กอยู่จริงๆ แฮะ

นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในห้องคนเดียว แต่ผมก็พยายามติดต่อธาร ความจริงติดต่อไม่ได้หรอก ได้ยินจากป้ารินที่คุณธีเรียกไปดูแลธารในฐานะแม่นมเก่าว่าธารโดนยึดโทรศัพท์ ไม่ให้ติดต่อกับใคร แถมยังไม่ให้ออกนอกบ้าน ไม่ให้ใครเข้าไปหาอีก เรียนก็ไม่ไปเรียนด้วย มีเพียงป้ารินเท่านั้นที่เข้านอกออกใน เอาข่าวมาบอกคนอื่นๆ ได้ และที่เรียกป้ารินเข้าไปดูแล เป็นเพราะตั้งแต่กลับไปอยู่บ้าน ธารไม่คุยกับใครเลย ข้าวปลาก็ไม่กิน คุณธีเลยคิดว่าถ้าคนสนิทที่เคยเลี้ยงธารมาไปดูแลก็น่าจะดีขึ้น

ทว่าไม่ ต่อให้เป็นป้าริน ธารก็ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย ถึงจะเป็นป้ารินก็ยังไล่ จนป้ารินชักเป็นห่วง ต้องเอาเรื่องนี้มาคุยกับพวกพี่จอมแสบ พี่จอมดื้อ แล้วก็เพื่อนๆ ของธารให้หาทางช่วยเพราะนี่จะเข้าอาทิตย์นึงแล้ว ธารยังแตะข้าวเป็นแมวดมอยู่เลย

ผมเป็นห่วงมันมากกว่าเดิม ไม่รู้จะทำยังไง นั่งคิดอยู่หลายตลบก็นึกถึงหน้าพี่สมรขึ้นมาได้ ก่อนจะกดเบอร์โทรไปหาพี่สมรแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟังทันที พี่สมรเลยได้รู้ว่าที่ธารไม่ได้มาเรียน ไม่ใช่เป็นเพราะไปต่างจังหวัดกับพ่ออย่างที่คุณชยุตบอกตอนโทรมาลาเรียนให้ แต่เป็นเพราะถูกขังอยู่ในบ้านต่างหาก

เท่านั้น พี่สมรก็จัดการโทรหาคุณธี พร้อมกับลากผมไปบุกบ้านธารในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาทันที ตอนแรกคุณธีก็ทำท่าจะไม่ยอมให้ไป ทว่าพอพี่สมรบอกว่ารู้ความจริงแล้ว และขู่ว่าเธอสามารถแจ้งความเขาได้ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว แม้ว่าจะเป็นลูกก็ตาม เขาเลยต้องยอมให้พวกเราเข้าไป

บรรยากาศกดดันไหลเวียนวนรอบตัวพวกเราทันทีที่มานั่งประจันหน้ากับคุณธีในห้องนั่งเล่นของบ้านได้ ผมแทบไม่ได้สนใจความโอ่โถงของบ้านหลังนี้เลยด้วยซ้ำ เอาแต่มองไปรอบๆ หาห้องที่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นห้องของธาร

“ตกลงอาจารย์มาหาผมอย่างนี้ มีอะไรจะคุยเหรอครับ”
“มีแค่ดิฉันเท่านั้นค่ะที่จะคุยเรื่องของธารใจในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา ส่วนอาจารย์เหนือจะมาคุยกับธารใจ”
พี่สมรยังเรียกผมว่าอาจารย์ถึงผมจะไม่ใช่อาจารย์ฝึกสอนแล้ว เพราะเธออ้างว่าคุณธีจะได้เกิดความเกรงใจถ้าผมมีสถานะนี้ ซึ่งก็จริง คุณธีไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่พูดเลี่ยงๆ
“ไอ้ธารมันก็สบายดี ทำไมต้องคุย”
“ไม่ยอมกินข้าวกินปลาน่ะเหรอคะที่เรียกว่าสบายดี”
คุณธีพูดไม่ออกไปเลย ทำเอาป้ารินที่ยืนอยู่ด้านหลังลอบยิ้มน้อยๆ ที่เจ้านายของตัวเองโดนตอกกลับ และเผลอยิ้มมากกว่าเดิมเมื่อพี่สมรว่าขึ้นอีก
“ดิฉันก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่าคุณธีกับธารใจมีปัญหาอะไรกันแน่ แต่ยังไง ธารใจก็เป็นลูกศิษย์ในความดูแลของดิฉัน การที่คุณธีทำอย่างนี้จนธารใจประท้วงด้วยการทำร้ายตัวเอง ดิฉันเกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับธารใจเท่าไหร่ ยังไงดิฉันก็จะต้องวานให้อาจารย์เหนือไปดู สองคนนี้สนิทกัน ถ้าให้อาจารย์เหนือไปคุย ธารใจอาจจะยอมอ่อนข้อลงก็ได้”

คุณธีเหล่มามองผมเล็กน้อย ดูท่าทางเขาจะแคลงใจกับคำว่า ‘สนิท’ อยู่พอสมควร ผมว่าเขารู้นะว่าสนิทกันในรูปแบบไหน แต่ก็หวังให้เขาไม่พูดออกมาในเวลาอย่างนี้
ซึ่งก็ไม่พูด ยอมเออออไปตามเรื่อง
“งั้นก็ให้รินพาไปแล้วกันครับ ห้องของเด็กนั่นอยู่ชั้นบน”

ผมลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่รอให้ใครสั่ง มีเอ่ยขอบคุณคุณธีเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปหาป้ารินให้เป็นคนพาผมไปยังที่หมาย ป้ารินพาผมออกจากห้องนั่งเล่น ขอแวะไปเตรียมสำรับอาหารมื้อกลางวันให้ธารก่อนเพราะอาหารมื้อเช้าที่ยกไปให้ถูกวางทิ้งไว้หน้าห้องจนเย็นชืดหมดแล้ว

ผมยืนรอคนอาวุโสกว่าเตรียมอาหารไป ใจก็คิดวุ่นวายไปหมด ผมโคตรเป็นห่วงความรู้สึกของธารเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง เป็นห่วงจนต้องออกปากเร่งป้ารินให้เตรียมเร็วๆ ก่อนจะก้าวเร็วๆ ตามป้ารินไปชั้นบนทันทีที่ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเสร็จสิ้น

“ห้องคุณหนูอยู่นี่ค่ะอาจารย์เหนือ” ป้ารินผายมือไปยังหน้าประตูสีขาวบานหนึ่ง
ผมพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ พร้อมกับรับปากเมื่อเห็นสีหน้าป้ารินดูไม่ดีนัก คงจะเป็นห่วงว่าธารจะไม่ยอมเปิดประตูให้ผม
“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ ไม่ต้องห่วง”
คนอาวุโสกว่าเลยมีท่าทีผ่อนคลายขึ้น ผมเลยยกมือข้างหนึ่งขึ้นเคาะประตู
ก๊อกๆ...
“ไสหัวไป! ไม่ต้องมายุ่ง!”
เสียงห้าวดังลอดออกมา ป้ารินทำหน้าไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่าธารจะเปิดประตูให้ผม ผมเลยส่งยิ้มให้ไปที ก่อนจะส่งเสียงตอบ
“พี่เหนือเองครับ เปิดประตูให้หน่อยนะ”

อีกฝั่งไม่ตอบอะไร มีเพียงเสียงฝีเท้าก้าวเร็วๆ เข้ามาใกล้ อึดใจเดียว ประตูบานเขื่องก็ถูกกระชากออก เผยให้เห็นสภาพห้องนอนที่ถูกรื้อข้าวของกระจัดกระจายชนิดเรียกไม่ได้ว่าเป็นห้องนอน ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของคนที่โผล่ออกมายังอิดโรยจนผมอดเป็นกังวลไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรหรือเปล่า หากแต่นอกเหนือจากความเป็นห่วงแล้ว ก็ยังมีความคิดถึงที่ประดังประเดเข้ามาในใจให้ผมไม่อาจยืนมองธารนิ่งๆ ได้อีกต่อไป ก้าวเข้าไปหาโดยอัตโนมัติ ธารเองก็คงจะคิดถึงผมเช่นกัน เพราะทันทีที่เห็นหน้าผมชัดเจน เด็กนั่นก็โผเข้ากอดเต็มแรงโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

ผมยกมือขึ้นกอดตอบ หันไปมองป้ารินเป็นสัญญาณว่าผมจะจัดการที่เหลือเอง ป้ารินเลยยกถาดอาหารมื้อใหม่เข้าไปวางบนโต๊ะในห้องให้ ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ผมอยู่กับธารตามลำพัง

“เข้าห้องก่อนนะ มีอะไร ค่อยเล่าให้พี่เหนือฟัง โอเคมั้ย”

ธารพยักหน้าเร็วๆ ดึงผมเข้าไปในห้อง ปิดประตูห้องได้ ก็ดึงผมไปนั่งที่เตียง พุ่งเข้ามากอดอีก ไม่ปริปากพูดอะไรสักอย่าง เอาแต่กอดอย่างเดียวจนผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้มันโคตรเคว้งคว้างเลย ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจเท่านั้น
“ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่เหนืออยู่นี่แล้ว โอ๋ๆ”

โอ๋เหมือนเด็กเล็กๆ แต่เหมือนจะทำให้ธารใจเย็นลงได้เพราะอ้อมแขนแกร่งค่อยๆ คลายน้ำหนักออกจากตัวผม แต่ก็ใช่ว่าจะคลายออกเฉยๆ เป็นการคลายออกเพื่อเปลี่ยนเป็นยกมือที่ยังมีผ้าพันแผลพันอยู่มาประคองใบหน้าผม ดึงเข้าไปจูบแทน

จูบของธารในครั้งนี้ทั้งหนักหน่วงและเต็มไปด้วยความโหยหา ผมสัมผัสได้ชัดเจนเลยว่าธารคิดถึงผมแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นยังสัมผัสได้ถึงความเหงาและความเจ็บปวดไปพร้อมๆ กัน กระทั่งธารจูบผมจนพอใจ ถึงได้ยอมเอื้อนเอ่ยประโยคแรก

“พี่เหนือ... โคตรคิดถึงเลย”               
เป็นน้ำเสียงสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ แววตาแข็งกร้าวก็แวววาวไปด้วยหยาดน้ำตาสีใส ผมเห็นแล้วก็ต้องเม้มปาก เป็นฝ่ายรั้งมันเข้ามากอดแน่นเสียเอง
“พี่เหนืออยู่ตรงนี้แล้วครับ ไม่เป็นไรแล้วนะเด็กน้อย”
ธารซุกใบหน้าลงบนไหล่ผม ตอนนี้เองที่ธารปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบใบหน้า ผมเลยตระกองกอดร่างใหญ่ให้แนบลำตัวมากขึ้นไปอีก

แน่นมาก...กระทั่งธารร้องไห้จนพอใจถึงเป็นฝ่ายผละออกมา

“ไม่ยักจะรู้ว่าเด็กน้อยของพี่เหนือจะขี้แยขนาดนี้” ผมหยอกพลางอมยิ้ม ยกปลายนิ้วซับคราบน้ำตาบนขอบตาแดงๆ ของคนตรงหน้า
ที่หยอกนี่ไม่ใช่ว่าล้อเลียนที่เห็นคนแข็งๆ อย่างธารเผยด้านอ่อนแอให้เห็น แต่ผมไม่ต้องการให้มันเครียดไปมากกว่านี้ต่างหาก ก่อนจะโน้มหน้าจูบลงบนซีกแก้มขาวซึ่งยังมีรอยฟกช้ำหลงเหลือ และจูบบนเปลือกตาแผ่วเบาเป็นการปลอบประโลม

“ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย” ผมถามหลังจากถอยกลับมานั่งดังเดิม
ธารพยักหน้าช้าๆ เอ่ยคำที่ทำให้ผมสงสารมันหนักกว่าเดิมขึ้นมา
“พาธารกลับไปด้วยนะพี่ ธารไม่อยากอยู่ที่นี่”

แล้วผมอยากจะพามันไปมั้ยล่ะ... โคตรอยากเลยเถอะ แต่ผมทำไม่ได้ไง คดีมันยังไม่เคลียร์เลยว่าตกลงมันเป็นมือมีดหรือเป็นอุบัติเหตุกันแน่ เท่าที่ได้ยินคุณชยุตเล่ามา เหมือนว่าตอนนี้ตำรวจกำลังส่งมีดด้ามนั้นไปตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อพิสูจน์อยู่ ถ้าพามันไปแล้วเกิดเรื่องขึ้นมาอีก ได้เป็นเรื่องราวใหญ่โตกว่านี้แน่

“พี่เหนือพาไม่ได้ครับ น้องธารอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าคดีจะจบนะ เดี๋ยวคดีจบแล้ว พี่เหนือจะมาคุยกับคุณพ่อให้” ผมต่อรอง
หากแต่ทำให้ธารชักสีหน้า แววตาผิดหวังฉาบพรายขึ้นมาจนปิดไม่มิดทันใด
“ทำไมวะ ก็ธารไม่อยากอยู่ที่นี่ ทำไมพี่ถึงไม่พาธารไป”
“ไม่ใช่พี่เหนือไม่อยากพาไป แต่พี่เหนือพาไปไม่ได้ เดี๋ยวเกิดเรื่องอีก”
“พี่ก็เห็นธารเป็นตัวปัญหาเหมือนกันใช่มั้ย!” ไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มเสียงดัง
ผมพยายามข่มใจให้เย็นสุดฤทธิ์ ดึงตัวมันเข้ามากอดอีก
“ใช่ น้องธารเป็นตัวปัญหา เป็นตัวปัญหาที่ทำให้พี่เหนือเป็นห่วงแทบตายจนต้องหาวิธีมาหาถึงที่นี่ไง”
ธารเหมือนจะนิ่งได้ในพริบตา ตวัดแขนกอดผมแน่นอีกครั้ง ปากก็พึมพำไม่หยุด
“ไม่อยากอยู่ที่นี่ พาธารกลับไปด้วยนะ”
เป็นประโยคที่ผมได้ยินนับครั้งไม่ถ้วน ได้ยินจนผมปฏิเสธไม่ออกอีกต่อไป ต้องหาเรื่องคุยใหม่แทน ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้นสาเหตุที่มันไม่อยากอยู่บ้าน

คราวนี้แหละ ผมต้องรู้ให้ได้สักทีว่าตกลงมันมีปัญหาอะไรกับพ่อกันแน่

“แล้วบอกให้พี่เหนือฟังได้มั้ยล่ะว่าทำไมถึงไม่อยากอยู่ที่นี่”
“เป็นพี่ พี่จะอยู่กับคนที่ฆ่าแม่ตัวเองได้มั้ยล่ะ”

มาอีกแล้ว วลีเด็ด

ผมผละออกจากมัน มองหน้าทันที
“เล่ามาสิว่าฆ่าแม่ยังไง พี่เหนือรู้เรื่องแล้วจะได้รีบพาออกไป โอเคมั้ย”
พูดมาอย่างนี้ ธารก็ปิดปากสนิทเลย หลบสายตา ไม่ยอมพูดอีกจนได้

ผมไม่เข้าใจอะ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงไม่อยากพูดเรื่องแม่ เข้าใจอยู่ว่าแม่โดนลูกหลงจากการปองร้ายของศัตรูพ่อจนตาย แต่มันก็ไม่น่าใช่ประเด็นที่ทำให้ธารต้องโกรธกับพ่ออะไรขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ

“น้องธาร... เล่ามาสิครับ ไม่เล่าอย่างนี้ พี่เหนือก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ” จ้องหน้ามันอยู่นาน ผมเลยกระตุ้นอีกครั้ง
ธารเหลียวกลับมาสบตาผม ดวงตาปรากฏความเศร้าขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปเมื่อมันโผเข้ากอดผม
“ไว้ค่อยเล่าตอนธารพร้อมกว่านี้ได้มั้ย ตอนนี้ขออยู่แบบนี้ก่อน”
ผมถอนหายใจ ไม่อยากไปเร่งอะไรมาก เลยได้แต่พยักหน้าแล้วกอดมันอยู่อย่างนั้น

ทั้งกอด... ทั้งจูบ... ปลอบประโลมให้เด็กผู้ชายตัวโตคนนี้อุ่นใจว่ายังไงก็ยังมีผมอยู่ข้างๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พร้อมกับตระหนักได้ถึงความจริงบางอย่างขึ้นมา...

บางครั้งคนที่ภายนอกดูแข็งกระด้าง จริงๆ ข้างในก็ไม่ได้เข้มแข็งหรอก ก็แค่เปลือกนอกที่ใช้เป็นเกราะกำบังไว้ปกป้องจิตใจอันบอบบางของตัวเองเท่านั้น

งั้นต่อไปนี้ พี่จะดูแลเราเอง ...ธารใจ

 ---------------------------------------
ไม่น่าเชื่อว่านังพี่เหนือจะมีมุมเป็นผู้ใหญ่กับเค้าด้วย เห็นดีแต่แรดอย่างเดียว 555
ตอนหน้าจะมาเฉลยปมน้องธารให้นะคะ อีกตอนกว่าๆ ก็จะผ่านมาม่าซองนี้ไปได้ละ มาม่ามีมาพัฒนาตัวละครให้เติบโตขึ้นเฉยๆ บอกแล้วว่าม่าเบาๆ เอ๊งงงง หนักหนาอะไรกัน น้ำตาไม่ไหลกันใช่มั้ย? แล้วโรมนี่โดนรุมตายหรือยัง ให้จอมแก่นจัดการให้แล้วนะ ใจร่มๆ อย่าเพิ่งด่าเยอะ สำนึกไม่ทัน ฮาาา
พรุ่งนี้จะอัพตัวอย่างตอนที่ 21 ให้นะคะ อาจจะเย็นๆ มืดๆ หน่อย กลับจากงานหนังสือก่อน รออ่านกันเน้อ
ปล.ส่งฟีดแบ็กกันให้ชื่นใจหน่อยนะคะ ตอนนี้เขียนย้ากยาก ปกติจะเขียนเร็วแต่ตอนที่พี่เหนือแรด พอเข้ามาม่าปุ๊บ นั่งหน้าคอมฯ ทั้งวันเลย บิวท์อารมณ์นานมาก แหะๆ ^^;;


ออฟไลน์ retrot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอสมัครเป็นแม่ยกจารย์สมร 5555555
ชอบนางมากค่ะ เป็นครูที่ดีจริงๆ

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงสารธารจังเลยยย  :o12:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สงสารธารจังเลย. ถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้  พ่อธารจะขวางธารกับเหนืออีกมั้ยเนี่ย.  โรมก็นะ. หาเรื่องตลอด. เด็กกันจริงๆ

ออฟไลน์ แค่มะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยยย น้องธารของพี่
ฉุดน้องธารจากอกอิพี่เหนือมากอดปลอบ :hao7:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5


โถ เด็กน้อย  :o12:
รอพี่เหนือก่อนนะ นางก็กำลังพยายามหาทางช่วยอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NUBTANG

  • Nothing is impossible. "[+++++]"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากรู้เรื่องแม่ของธารจริงๆ แล้วไอ้พฤติกรรมของคนเป็นพ่อนี่ก็ไม่ถูกไม่ควรเลยแหะ ไม่แก้ปัญหา ไม่แก้ไข ไม่แก้ตัว

จนมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ถูกๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โหงววววว เจ้เหนือหล่อ(?)มากกกก ตอนนี้ มีไหล่ไว้เช็ดน้ำตาให้น้อง เริ่ดดดด นางไม่ได้แรดเป็นอย่างเดียวนะคร้าาาาคุ๊ณณณ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่เหนือก็มีสาระ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันที
สงสารธาร เจ็บตัวตลอด ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
อยากรู้เรื่องแม่ธารใจ ใจจะขาด

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนนี้พี่เหนือนางมาแบบสาระ แลดูมีความเป็นผู้ใหญ่
 :laugh:

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ทุกอย่างแก้ไขได้ ..

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punnicha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 21
มาแต่หัววันหน่อย เดี๋ยวตอนเย็นจะไปทำงานอื่น
หนูแดงมีแบบสอบถามเรื่อง Pre-order ของพรีเมี่ยมจากนิยายเรื่องนี้นะคะ เป็นหมอนไดคัทพี่เหนือกับน้องธาร สั่งนักวาดวาดตัว SD แล้วเรียบร้อย กำลังอยู่ในช่วงตัดเส้นและลงสี คาดว่าอาทิตย์หน้าจะเสร็จ ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่นะ >> จิ้ม

ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมาวันไหนนะคะ หนูแดงขอเร่งเรื่องแก๊งเกรียนเอเลี่ยนก่อน จะได้ส่งไฟล์งานเข้าโรงพิมพ์ทันตามที่ตั้งใจไว้ (ถ้านักวาดทำงานเสร็จทันน่ะนะ TT) คาดว่าอาจจะมาอีกทีราวๆ กลางอาทิตย์หน้า ไม่พุธก็พฤหัสไรงี้ เจิมแล้วปูเสื่อรอไว้ก่อนเนอะ ตอนหน้าไม่ค่อยม่าเท่าไหร่ละ (มั้ง?)

---------------------------------------------

“น้องธาร...” ผมครางอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นหน้าของคนที่ผมคิดถึงเมื่อครู่มาปรากฏอยู่ตรงนี้
ธารไม่เอ่ยทักอะไรออกมาสักคำ พุ่งเข้ามาสวมกอดผมแน่น ก่อนจะดันผมเข้ามาในห้อง ผละออกได้ก็จัดการปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ ทำเอาผมอ้าปากค้างอย่างตะลึงงันไม่เลิก

“เดี๋ยวๆ นี่ออกมาจากบ้านได้ไง” ตั้งสติได้ ผมก็ร้องถาม
“ป้ารินพาไปล้างแผลที่โรง’บาล” ธารเหลือบมามองผมเล็กน้อยขณะตอบ ก่อนเดินลิ่วไปยังตู้เสื้อผ้าโดยไม่สนใจผมอีก ปล่อยให้ผมถามไล่หลัง
“คือหนีจากโรง’บาลมาอีกทีเหรอ”
“เออ”
“เฮ้ย!” ผมร้องลั่น ตกใจที่ได้ยินมันยอมรับเอาซื่อๆ อย่างนั้น

ก็คิดอยู่แล้วว่าสักวันมันจะต้องทำแบบนี้ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะหนีมาเอาวันที่ผมเพิ่งไปคุยกับพ่อมันมาหมาดๆ
หนีมาอย่างนี้ มีหวังพ่อมันรู้ คงได้เป็นเรื่องเป็นราวอีกแน่ อุตส่าห์ไปต่อรองมาแล้วว่าขอให้เลิกขังมัน และอีกฝ่ายก็ตกลงแล้วแท้ๆ มาทำอย่างนี้ ถ้าพ่อมันรู้ มีหวังไอ้ที่ผมพยายามทำมาก่อนหน้าเละไม่มีชิ้นดีแน่

ผมเลยตรงเข้าไปคว้าแขนธารเอาไว้ขณะที่มันกำลังคว้ากระเป๋าเป้ในเขื่องมายัดเสื้อผ้าใส่อย่างรนๆ เห็นแล้วผมก็สงสัยว่ามันจะเก็บเสื้อผ้าทำไม แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการที่ผมต้องปรามให้มันได้สติว่ากำลังทำอะไรอยู่

“เดี๋ยวๆ น้องธาร หนีมาแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวป้ารินจะซวยเอา”
“ทำไมจะหนีไม่ได้ ป้ารินซวยก็ซวย ซวยแล้วไง นี่มันชีวิตของธาร เรื่องอะไรที่ธารจะต้องยอมให้คนอย่างนั้นกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย”
“ก็ไม่ใช่ว่าพี่เหนือจะบอกให้น้องธารยอมให้คุณพ่อกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ว่าพี่เหนือเพิ่งจะไปคุยกับคุณพ่อมาเอง” ผมว่าไปตามความจริง กะจะเล่าให้มันฟังว่าผมไปคุยอะไรมา ทว่ามันรู้ทัน
“ไปต่อรองให้เลิกขังผมน่ะเหรอ เหอะ พี่ว่าเขาจะทำหรือไง”
“ทำแน่นอน พี่เหนือไปคุยมาแล้วนะ น้องธารใจเย็นๆ ก่อน” ดูท่าจะไม่ฟัง ผมเลยปลอบให้มันใจเย็น

ธารทิ้งกระเป๋าเป้ลงบนพื้น พุ่งเข้ามากอดผมแน่นอีกครั้ง
“จะให้เย็นยังไงอีกวะ คิดถึงพี่จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว คิดถึงจนรอจะเห็นหน้าไม่ไหวแบบนี้ จะให้เย็นยังไงอีก”

พูดมาอย่างนี้ ผมก็นิ่ง เข้าใจความรู้สึกมันนะว่ามันเคว้งคว้างแค่ไหน แม้ว่าผมจะไปหามันที่บ้านเกือบทุกวัน แต่ก็คงไม่พอสำหรับคนที่ต้องการใครบางคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาในเวลาแย่ๆ อย่างนี้ และมันก็เห็นผมเป็นที่ยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียวด้วย ไม่แปลกถ้ามันจะหายใจเข้าออกเป็นผม
ผมเลยยกแขนขึ้นกอดตอบ พึมพำออกมาเบาๆ
“พี่เหนือก็คิดถึงน้องธารเหมือนกันครับ”

สองแขนใหญ่รั้งร่างผมให้แนบแน่นกับลำตัวมากขึ้นไปอีก กลิ่นไอของความโดดเดี่ยวของคนตรงหน้าลอยโชยมาให้ผมสัมผัสได้ กอดกันอยู่นานกว่าธารจะยอมผละออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นจรดริมฝีปากจูบผมแทน

“พี่เหนือ...” เสียงห้าวดังขึ้นหลังจากริมฝีปากของเราแยกออกจากกัน
“ครับ?”
“หนีไปกับธารนะ”
“ฮะ!?” ผมผงะไปเลยที่จู่ๆ ก็ถูกชวนหนีไปด้วย

ยะ...อย่าบอกนะว่าไอ้ที่มึงเก็บเสื้อผ้ายัดลงกระเป๋ารัวๆ นี่คือคิดจะหนีออกจากบ้าน!?

ใช่แน่นอน มาถึงขั้นนี้แล้วคงจะไม่พ้นเรื่องนี้ ยิ่งเห็นแววตากับสีหน้ามันแล้ว บอกเลยว่ามันจริงจังชัวร์ป้าบ ยิ่งได้ยินประโยคต่อไปที่หลุดออกมาจากปากมัน ก็รู้เลยว่ามันเอาจริง

“หนีไปกับธาร ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่”

มะ...มนต์รักน้องธาร ณ พิษณุโลก ฟีลทองกวาวถูกไอ้คล้าวมาตะล่อมชวนหนีไปเป็นผัวเมียพุ่งพล่านรัวๆ ในใจหวั่นไหวหนักด้วยเมื่อธารเข้ามากอดผมอีกครั้ง อ้อนไม่เลิกว่าขอให้หนีไปด้วยกัน

ผมก็อยากจะไปนะ อยากอยู่กับมันตลอดเวลาเหมือนกัน แต่...กูจะมาใจแตกเพราะถูกเด็กชวนหนีไปอยู่ด้วยกันไม่ได้! อย่ามาพูดอย่างนี้ ใจอ่อนนะ!

ผมรีบสลัดอารมณ์ชั่ววูบนั้นออกไปทันทีที่ตระหนักได้ว่าถ้ายอมตกปากรับคำ จะต้องมีเรื่องวุ่นวายชวนปวดหัวตามให้มาแก้ไม่รู้จบแน่ เลยตัดสินใจจะปฏิเสธ
“น้องธาร... คือพี่เหนือ...”
หากแต่พูดได้แค่นั้น ธารก็คลายอ้อมกอดมาจูบผมอีกครั้ง จูบเสร็จก็จ้องตานิ่ง ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไปที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีพี่กับธาร ธารยอมทุกอย่าง หนีไปกับธารเถอะนะ”

หน้าชาไปเลย อึ้งงันกับสิ่งที่ได้ยิน และอึ้งหนักกว่าเดิมเมื่อมันพูดประโยคที่ทำให้ใจผมละลายกลายเป็นของเหลวออกมา
“ธารอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ ไปกับธารเถอะ ธารขอร้อง”

กะ...
กระเป๋าอยู่ไหน! เดี๋ยวพี่เหนือจัดกระเป๋าเอง!

คุกก็คุกวะ โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ก็ยอม ทนความอ้อนบวกความน่าสงสารของมันไม่ไหวแล้ว

ขาข้างนึงก้าวเข้าไปในตะรางรัวๆ กูเอ๊ย...ความไร้สตินี้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มีเรื่องได้ตลอด

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องธารชวนพี่เหนือหนีตามกันนน  :laugh:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สถานการณ์ไหนพี่เหนือก็ฮาได้ โอ้ยยย อยากให้ธารมันได้ยินเสียงในใจพี่เหนือจริงๆ  :laugh:

อ่านตัวอย่างแล้วอยากอ่านเต็มๆ ฮือออ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อาจารย์สมร แซบมากค่ะ ^^

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หนีไปอยู่บ้านพี่เหนือเลย กลับบ้านไปแนะนำตัวกับพ่อตาแม่ยายว่า ผมลูกเขยครับ 555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
จริงๆแล้ว ผู้เยาว์พรากพี่เหนือนะ แต่คงว่าไม่ได้ พี่เหนือยอมเองง555

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ยกให้นิ้วให้ ป้าหมอน นอนมาเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด