【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59  (อ่าน 238880 ครั้ง)

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 22: ธารรักพี่เหนือนะครับ[2]

จัดการกับอาหารเช้าได้ไม่นานนัก ธารก็พาผมซ้อนคาวาซากินินจา มุ่งหน้าไปยังที่หมายทันใด ช่วงเช้านี้คนไม่เยอะเท่าไหร่นัก อากาศเย็นกำลังสบาย ผมเลยเดินดูโน่นดูนี่หน้าโบสถ์ไปเรื่อย ขณะที่ธารไปบูชาดอกไม้ธูปเทียนมาให้ผม
“ไปไหว้ตรงนั้นก่อน แล้วค่อยเข้าไปไหว้หลวงพ่อในโบสถ์ ข้างในเค้าไม่ให้เอาดอกไม้ธูปเทียนเข้าไป ไปนั่งไหว้เฉยๆ ได้อย่างเดียว” มันร่ายยาว
ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก เดินไปไหว้พระพุทธรูปที่อยู่หน้าโบสถ์ ไหว้เสร็จก็เดินมาหาธารที่ยืนอยู่เข้าไปข้างในโบสถ์ พอเข้ามาได้ เราทั้งคู่ก็ต่างไหว้ขอพรหลวงพ่อกันไปตามประสา

ธารนั่งไหว้อยู่นาน นานจนผมลุกขึ้นไปเสี่ยงเซียมซีก็แล้ว เดินไปเอาใบเซียมซีมาอ่านก็แล้ว เดินวนดูรอบๆ โบสถ์ก็แล้ว มันยังไหว้ไม่เสร็จ ผมเลยคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปมันไปที นานๆ จะได้เห็นอะไรแบบนี้ ถ่ายเสร็จแล้วก็จัดการอัพขึ้นเฟซบุ๊ค ให้พวกเพื่อนๆ ได้มาสครีมกันไปตามเรื่องหลังจากที่พวกมันสครีมกับรูปคู่ผมกับธารที่นั่งหันหน้าเข้าหากันบนคาวาซากินินจากันไปยกนึงเป็นที่เรียบร้อย
ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคอมเม้นต์เหน็บระคนอิจฉาจากเพื่อนๆ ก่อนจะละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงของธารดังขึ้นตรงหน้า
“ยิ้มบ้าอะไรอยู่”
“ไม่มีอะไรครับ” ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า

ธารทำหน้าสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พยักปลายคางเป็นเชิงให้ออกไปข้างนอก ปากก็พูดไปด้วยว่าเดี๋ยวจะพาผมไปเดินเที่ยวรอบๆ วัดเพราะผมเพิ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก
ผมเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณที่มีร้านรวงขายของที่ระลึก ธารบอกว่าเผื่อผมอยากจะซื้ออะไร
ผมน่ะไม่ได้อยากซื้ออะไรหรอก ไม่ได้สนใจจะดูของพวกนั้นด้วย ที่สนใจก็คือ ผมอยากรู้ต่างหากว่าธารขออะไรกับหลวงพ่อ ถึงได้ขอนานเหลือเกิน

“น้องธาร พี่เหนือถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“อะไร” ธารชะงักมือที่กำลังหยิบดาบไม้ของเล่นขึ้นมาดู หันมามองหน้าผม
“เมื่อกี้น้องธารขอพรอะไรจากหลวงพ่อเหรอ ทำไมขอนานจัง” แค่คิดก็ถามเลย
ธารทำหน้ารำคาญ วางดาบไม้ลงที่เดิม ปากก็พูดไปด้วย
“พี่จะรู้ไปทำไม”
“อยากรู้เฉยๆ น่ะว่าขออะไร เผื่อจะเกี่ยวกับพี่เหนือบ้างอะไรบ้าง” ผมแกล้งทำหน้าทะเล้น

ธารเหลือบมองผมด้วยหางตาแล้วว่านิ่งๆ
“ไม่มีอะไร ก็แค่ขอให้พ่อหายดีไวๆ” แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ทำเอาผมเลิกคิ้วสูง
“ถ้าไม่ใกล้จะเสียไป คงไม่รู้ว่ารักแค่ไหนเนอะ” ผมหยอก ให้ธารได้เอื้อมมือมาบีบปลายจมูกผมซะเต็มแรง
“พูดมาก ถ้าจะสอนก็หุบปากไปเลย”
“เจ็บๆ!” ผมรั้งมือธารออก บุ้ยปากใส่มันไปที ก่อนจะถามต่อ “แต่ขอแค่นี้เองเหรอ เห็นนั่งตั้งนาน นึกว่าจะขอเยอะ”

ธารเหลือบมองหน้าผมอีกครั้ง พลางปฏิเสธ
“เปล่า”
“เอ้า แล้วขออะไรอีกล่ะครับ บอกพี่เหนือหน่อย”
“บอกแล้วมันจะศักดิ์สิทธิ์มั้ยฮะ ใครเค้าให้บอกกันมั่ง”
“แล้วที่ขอนี่เกี่ยวกับพี่เหนือปะ?”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จะตื๊อทำไมวะ”
ธารกระชากเสียงนิดๆ ฟังก็รู้ว่ารำคาญ แต่เป็นการรำคาญที่เอามากลบเกลื่อนความเขินอาย เห็นหน้าแดงเรื่อของมันนิดๆ ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันคงจะขอเรื่องผมเยอะกว่าเรื่องพ่อมันอีก ผมเลยไม่ตอแยต่อ ยื่นมือไปยีผมมันเบาๆ แทน

“โอเค ไม่บอกก็ไม่บอก เดี๋ยวไม่ศักดิ์สิทธิ์เนอะ ปะ ไปหาข้าวกินกันดีกว่า พี่เหนือเริ่มหิวละ” ผละออกมาได้ ผมก็เปลี่ยนเรื่อง ทำท่าจะเดินนำไป
หากแต่ธารคว้ามือผมเอาไว้ก่อน แล้วจับแน่น
“ถ้าพี่อยากรู้ ธารจะบอกก็ได้”
“เอ้า แล้วเมื่อกี้บอกว่าเดี๋ยวไม่ศักดิ์สิทธิ์?”
“จะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ มันไม่ได้อยู่ที่หลวงพ่อเว้ย มันอยู่ที่คนต่างหาก ขอพรก็แค่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเฉยๆ ที่พึ่งทางใจน่ะรู้จักมะ แค่นี้ต้องให้สอน”

โหๆ ร่ายยาวเชียว ปากดีเหลือเกิน แล้วเมื่อกี้ใครนะที่ทำท่าไม่อยากบอก

ผมทำปากยื่นใส่นิดหน่อย ก่อนจะถามต่อ
“แล้วตกลงน้องธารขออะไรไป”
ธารนิ่งไปครู่ เสมองไปทางอื่นพลางพูด
“ขอให้พี่เหนืออยู่กับธารนานๆ”
ฟังแล้ว ผมก็หลุดยิ้มกว้างออกมา ขณะที่ธารเริ่มหน้าแดงไปไหนต่อไหน
“แค่นี้?”
“ขอให้พี่รักธารมากๆ”
“แค่นี้ยังรักไม่มากพอ?”
“อยากได้อีก” ประโยคนี้พูดซะเสียงเบา

ผมล่ะอยากจะบอกมันเหลือเกินว่าเปย์ให้มันทุกอย่างและทุกครั้งที่มันมาขายอ้อยนี่ ยังไงผมก็รักมันมากอยู่แล้ว และการที่มันพูดประโยคนี้ ทำให้ผมยิ่งเอ็นดูมันขึ้นไปอีก ยกมือไปดึงแก้มมันไปมาทันใด
“เด็กขี้อ้อน”
“อย่าน่า คนมอง” ธารสะบัดหน้าหนี ผมเลยยอมดึงมือออกแต่โดยดี
“แล้วขออะไรอีก พี่เหนือว่าไม่ใช่แค่นี้แน่”
“อือ ก็ขอให้พี่เลิกแรด”
“ฮะ?” ทำท่าเหมือนไม่เชื่อหู แต่ก็ต้องเชื่อเมื่อมันย้ำมาอีก
“พี่จะได้เลิกไปยุ่งกับคนอื่นแบบถาวรซะที ลดๆ ไปบ้างความแรดน่ะ”

ด่าขนาดนี้ ต่อยกูเลยมั้ยจะได้สบายใจ!?

“คร้าบๆ เลิกแล้ว แล้วขออะไรอีก” ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ถามต่อ
“ขอให้พี่มองแต่ธารคนเดียว มีธารในใจแค่คนเดียว คิดถึงแต่ธารคนเดียว” คราวนี้ธารตอบมาเป็นประโยคยาว
ผมนิ่งไปทันที ก่อนจะยิ้มกว้างเห็นฟันทันทีที่เห็นหน้าหล่อแดงเรื่อนั้นแดงมากขึ้นจนไม่เหลือพื้นที่ให้สีเนื้อ

ดีใจ... ดีใจโคตรๆ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นทุกอย่างของคนตรงหน้า แต่พอมาได้ยินกับหูตัวเองว่าเด็กนี่คิดถึงแต่ผม ผมก็อดดีใจไม่ได้ ทว่าก็เก็บอาการ หยอกมันไปอีก

“ฮั่นแน่ ขอเกี่ยวกับพี่เหนือมากขนาดนี้ แสดงว่าคิดอะไรกับพี่เหนืออยู่ใช่มะ”
ธารมองผมด้วยสายตายากจะอ่าน ริมฝีปากเม้มแน่นอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนจะคลายตัวออกจากกัน เอ่ยคำที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา
“แค่นี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าธารรักพี่แค่ไหน งี่เง่า”

ระ...รัก

นะ...น้องธาร กลับบ้าน... กลับบ้านเดี๋ยวนี้! ไปบอกรักพี่เหนือบนเตียงเถอะนะ

โหย มันจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าโคตรน่ารักเลย น่ารักจนอยากจะลากมันไปหาห้องพักรายวันแถวนี้แวะก่อนกลับบ้าน ไอ้บุญที่ทำมาเมื่อกี้แปรเปลี่ยนเป็นบาปทันตา

แสงเหนือเอ๊ย ตกนรกหมกไหม้แท้ๆ...

จะระงับกิเลสตัวเองก็ไม่ได้ด้วย ถลันแรดๆ เข้าไปกระซิบข้างหูมันด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“เนี่ย น้องธารรู้เปล่าว่าทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันกันแบบนี้ ชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีกนะ ยิ่งรักพี่เหนือมากขนาดนี้ แถมยังมาทำบุญร่วมสาบาน ชาติหน้าคงหนีกันไม่พ้นแน่ๆ”
“ถ้าชาติหน้าพี่เกิดมาเป็นปลาสวาย ธารก็ถูกตอดไม่เลิกด้วยล่ะสินะ”
“ปลาสวายแล้วรักมั้ยล่ะ” อันนี้ผมแกล้งถาม
ธารหลบตาไปครู่ ก่อนจะพยักหน้า
“เออ”
“โหย พูดหน่อยก็ไม่ได้ บอกว่ารักพี่เหนือหน่อยน้า”
“ตอนนี้อยู่ในวัดหรือเปล่าวะ เดี๋ยวก็ได้ตกนรกหรอก!” มันเสียงดังใส่ทันควัน

ไม่อยากจะบอกเลยว่านอกจากจะเคยถลำเข้าไปในตะรางแล้ว ตอนนี้ขาผมข้างหนึ่งก็ถูกธรณีสูบลงนรกแล้วเหมือนกัน แต่ใครจะสนล่ะ ก็คนตรงหน้าผมมันน่ารักซะจนผมอดใจจะแกล้งต่อไม่ไหว ยิ่งมันทำท่าเขินอายแบบนั้นด้วยแล้วก็ยิ่งอยากแกล้ง

เด็กบ้าอะไร ขโมยหัวใจพี่เหนือได้ไม่รู้จักจบสิ้นได้ขนาดนี้

ผมเลยเข้าไปเกาะแขนมัน กระแซะหน้าเข้าไปใกล้ ถามด้วยน้ำเสียงและท่าทางทะเล้น
“แล้วน้องธาร...รักพี่เหนือจริงเหรอ”
ธารเหลือบมามองหน้าผมอีกครั้ง หน้าแดงจนไม่รู้ว่าจะแดงยังไง หากแต่ส่งเสียงตอบออกมา
“อืม”
“รักแล้วเป็นแฟนกับพี่เหนือมั้ย” ได้ทีก็ตะล่อมเลย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมกับมันยังไม่ได้เป็นแฟนกัน
หากแต่ธารก็ยังยืนยันคำตอบเดิมอยู่ดี
“ไม่”
“เอ้า ทำไมอะ” ผมผละออกจากมันมาทำหน้าเง้างอดทันควัน

ธารมองหน้าผม ว่าเสียงแข็งๆ
“ก็บอกแล้วว่าจองไว้ก่อน ยังชั่งใจอยู่”
“ยังจะชั่งใจอีก ได้เสียกันขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องปากแข็งแล้ว แหม อยากสกิปมาเป็นสามีพี่เหนือเลยก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ให้ถามอยู่ได้”
“พี่เหนือ!” คราวนี้ตะโกนซะเสียงดังจนคนรอบข้างมอง

ทว่าผมไม่สนใจ หัวเราะแล้วยื่นมือไปดึงแก้มมัน
“รักพี่เหนือขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องชั่งใจอะไรแล้ว เป็นแฟนกันเถอะ นะๆๆ”
“มะ...ไม่รู้!” ธารสะบัดหน้าหนี เดินหนีด้วย ก้าวเร็วๆ นำหน้าไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ ลืมไปหมดสิ้นแล้วว่าก่อนหน้านี้ ผมบอกมันว่าหิวไปแหม็บๆ
แต่ผมก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรหรอก นอกจากยิ้มไล่หลังมัน ยักไหล่ไม่ยี่หระแล้วเดินตามไป ทว่าพอขึ้นคร่อมรถ รอให้มันสตาร์ทเครื่องออกตัว จู่ๆ มันก็หันมาพูดกับผม
“ก่อนหน้านี้พี่บอกว่าถ้าไม่ใกล้จะเสียไป ก็คงไม่รู้ว่ารักแค่ไหนใช่มะ”
“อืม ทำไมเหรอ” ผมเลิกคิ้วถาม
“ก็ไม่มีอะไร แค่ธารไม่อยากรอให้ถึงเวลานั้น”
“เวลาอะไรครับ”
“เวลาที่สูญเสียพี่ไง ธารไม่อยากจะมารู้ใจตัวเองตอนนั้น เพราะธารกลัวว่าถ้าเราเป็นแฟนกัน เราสองคนจะเปลี่ยนไป เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว”
“เป็นผัวพี่เหนือน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่เว้ย! เป็นแบบสถานะไม่ชัดเจนแบบนี้ต่างหาก!”

ผมแกล้งร้องอ๋อ ลอบหัวเราะกับอาการเก้ๆ กังๆ ของมัน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกมันนะ เพราะคนบางคู่ ก่อนคบกัน อะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่พอคบกันกลับไม่ได้ดีอย่างที่หวัง แล้วสุดท้ายก็จบลงที่เลิกกันอะไรงี้

ผมเลยไม่ถามอะไรต่อ เออออห่อหมกไป ทว่าธารก็คว้ามือผมไปจับกะทันหัน ทำเอาผมแปลกใจไม่น้อย
“แต่ถึงจะยังไม่เสียไป ธารก็รู้ตัวว่าธารรักพี่นะ”
“อืม...ฮะ!? พูดอีกทีซิ”

ตอนแรกก็ไม่ตกใจ แต่เหมือนจะหูฝาด ธารเลยมองหน้าผมอย่างหงุดหงิด เม้มปากไปพักก่อนพูดอีก
“ธารบอกว่ารักพี่ แก่แล้วหูตึงหรือไง”

มาละๆ ไอ้อาการเขินแล้วด่าไปเรื่อยมันมาละ

“แหม จะบอกรักกันทั้งทีก็พูดเพราะๆ หน่อยสิครับ พี่เหนือจะได้ชื่นใจนะคนดี” ออดอ้อนมันเข้าไป ใช้ลูกล่อลูกชนหลอกเด็กเข้าไป
ธารเลยนิ่งไปนิด หลบสายตาจากผม แล้วพูดออกมาอีกครั้ง
“ธารรักพี่เหนือนะครับ”

ระ...ระเหยเป็นไอลอยไปในอากาศเลย ไม่ใช่มันที่เขินกับการพูดประโยคนั้นคนเดียวด้วย ผมก็เขินเหมือนกันที่ได้ยิน แต่ก็ดีใจเหลือเกินที่ได้ยินคำนั้นถึงสถานะเราทั้งคู่จะไม่ชัดเจนก็ตาม ก่อนผมจะใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการสะกดกลั้นตัวเองให้ไม่พุ่งหลาวไปจูบมัน

ในวัดนะไอ้เหนือ...ยังอยู่ในวัด ใจร่มๆ เอาไว้

ใช้เวลาสงบสติอารมณ์ไปหลายนาทีทีเดียว ก่อนจะตั้งสติ ฉีกยิ้มแล้วถามออกไป
“งั้นพี่เหนือขออะไรอย่างนึงได้มั้ย”
“อะไร” ธารเลิกคิ้วสูง
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กระซิบเสียงพร่า
“ก่อนกลับบ้าน... แวะห้องพักรายวันกันเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว”
“พี่นี่แม่ง! เพิ่งทำบุญมานะเว้ย! นรกกินกบาลกันพอดี!”

แล้วใครใช้ให้มึงมาทำตัวน่ารักแถวนี้เล่า!

เนื้อเพลงละครเรื่องเปรตวัดสุทัศน์ ปี พ.ศ. 2546 ที่ร้องว่า ‘นรกหมกไหม้ ใต้เถรเทวทัต เหยื่อแร้งวัดสระเกศ เป็นเปรตวัดสุทัศน์’ นี่ดังลอยมาให้ได้ยินแว่วๆ รัวๆ

แสงเหนือเอ๊ย ไม่ต้องผุดต้องเกิดกันอีกแล้วในชาตินี้...
-------------------------------------
มาช้ากว่าที่นัดไว้นิดนึง แต่ก็มานะ 555
มัวแต่ไปคุยเรื่องแก้งานกับนักวาดปกอยู่ค่ะ เลยไม่ได้เขียนต่อซะที ตอนนี้เปลี่ยนชื่อตอนนิดหน่อยนะ ไว้พรุ่งนี้จะมาอัพตัวอย่างตอนต่อไปให้นะคะ
ปล. อย่าลืมฟีดแบ็คกันนะจ๊ะคนดี (เลียนแบบพี่เหนือ ฮา)

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2016 15:12:24 โดย NooDangzz »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ดีใจกับธารด้วยคุณพ่อปลอดภัยและได้ปรับความใจกัน
ส่วนพี่เหนือชอบแกล้งธารให้หน้าแดง ให้เขิน และก็ดีใจด้วยที่ธารบอกรักแล้ว อาการหื่นพี่เหนือเลยออกมากไปนิด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ไปไหว้พระทำบุญด้วยกัน แถมธารยังบอกรักพี่เหนือได้เขินสุดๆ >///<

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
นั่งขำคุณธีด่าธารมาก แกเป็นเด็กอนุบาลรึไง....

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ดีแล้วที่พ่อของธารไม่เป็นไร แต่แหม่ ไม่ให้เป็นแฟนตำแหน่งผัวพี่เหนือนั่นละถูกต้องที่สุด

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เอะอะๆๆ เจ๊เหนือก็จะลากอีน้องธารขึ้นเตียงตันหลอดเลยย :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
มันตัลล๊ากกกกกกก  :o8:  จวนจะจบแล้วสินะ ราบรื่นไปหมดเลย เออออออออ แล้วชีวิตพี่เหนือจากนี้ไปหล่ะยังไง?  จะเป็นสะใภ้พิดโลกทิ้งแสงสีกรุงเทพไปเลย หรือหอบหิ้วน้องธารไปเรียนต่อที่กรุงเทพพร้อมทำสัมปทานไร่อ้อยไปด้วย ช่วงโค้งสุดท้ายยังมีประเด็นให้ติดตาม  สนุกมากค่ะ  o13

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ชอบทุกตัวละครในเรื่องนี้ เอกลักษณ์เด่นมากกกกก ไม่น่าเบื่อเลย มาส่องเรื่องนี้บ่อยมากก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
บอกแล้ว แวะได้เลย ห้องพักรายวัน ..

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 23
มาเป็นตัวอย่างสั้นๆ มาวันไหน ยังไม่แน่ใจนะคะ ที่รู้ๆ คือเตรียมตัวชงน้ำร้อนรอต้มมาม่าระลอกต่อปายยยย 555 มาม่าไม่มาก จี๊ดๆ เหมือนมดกัดนิดเดียว บอกแล้วเรื่องนี้ฟีลกู๊ดนะ
ตอนหน้านี่ไม่รู้ว่าจะตัดฉากไหนมาแปะ เอาฉากนี้แล้วกัน กรุ่นกลิ่นมาม่าหอมชื่นจายยยย
เจิมรอรับมาม่าโลดดดด XD
----------------------------------

ธารเหวี่ยงผมเข้ามาในห้องสุดแรง ดีที่ผมตั้งหลักได้ทันเลยไม่ล้มลงไป หากแต่ตั้งหลักได้ก็เท่านั้นเพราะพอมันปิดประตูได้ มันก็ปรี่เข้ามาจับไหล่ผมด้วยสองมือไว้แน่น
“ที่พี่กั้งพูดหมายความว่าไง!” ตามมาด้วยตะคอกเสียงดัง

ผมรู้แหละว่ามันหมายถึงเรื่องอะไร แต่บ่ายเบี่ยงที่จะตอบเพราะตอนนี้ สีหน้ามันนี่พร้อมจะฆ่าผมได้ทุกวินาทีมากๆ
“น้องธารใจเย็นๆ ก่อนนะ”
“จะให้ใจเย็นยังไงได้อีก! ทำไมพี่ไม่บอกว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา!” หลุดพูดออกมาจนได้ ตะโกนใส่หน้าผมไป ตัวก็สั่นเทิ้มไป

ผมสบดวงตาแข็งกร้าวแล้วก็พ่นลมหายใจยาว ไม่ใช่ว่าผมไม่บอกนะ แต่ผมลืมไปว่าตัวเองก็ยื่นทุนไปเหมือนกัน ถ้าวันนี้ไอ้กั้งไม่เตือน ผมก็ลืมสนิทไปแล้วว่าเคยทำอะไรแบบนั้นด้วย ที่สำคัญ มันก็ยังไม่แน่สักหน่อยว่าผมจะได้ทุนไปเรียน ไอ้กั้งมันก็แค่บอกให้ผมอย่าลืมเช็คชื่อตัวเองตอนวันประกาศผลก็เท่านั้น

“พี่เหนือยังไม่ได้ไปนี่ครับ แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะได้ไปมั้ย คนสมัครไม่ใช่แค่คนสองคนนะ สมัครกันเป็นร้อย แต่เอาแค่สามคน เปอร์เซ็นต์จะได้ทุนมันไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น” ผมให้เหตุผล
ธารฟัง แต่ก็ยังไม่ระงับอารมณ์โกรธเลยแม้แต่น้อย โวยวายใส่ผมอีก
“แล้วถ้าพี่ได้ล่ะวะ! ธารจะทำยังไง จะทิ้งกันไปเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย! ห้ามไป!”

เห็นความแต่ใจของมันแล้วผมก็คิดว่ามันชักจะไม่มีเหตุผลละ ก็ผมบอกไปแหม็บๆ ว่าไม่รู้ว่าจะได้ทุนหรือเปล่า อันที่จริงผมก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะได้ด้วยเพราะโอกาสที่จะได้มันน้อย ถึงการเรียนต่อต่างประเทศจะเป็นความฝันหนึ่งของผมก็เถอะ ขนาดไอ้กั้งเก่งกว่าผมตั้งเยอะ มันยังไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะได้ 

“พี่ห้ามไปนะเว้ย! ยังไงก็ไม่ให้ไป!” ธารเขย่าผมจนตัวคลอน มือที่จับไหล่ผมอยู่ก็ออกแรงบีบจนรู้สึกเจ็บขึ้นมานิดๆ
ผมย่นคิ้ว ทำท่าจะปรามมัน หากแต่ก็ต้องหยุดความคิดลงเมื่อมันโผเข้ากอดผมแน่น พร่ำพูดไม่หยุดราวกับเด็กถูกขัดใจ แต่ครั้งนี้ไม่ตะคอกแล้ว
“ถ้าพี่ไปแล้วธารจะอยู่ยังไง ห้ามไป อยู่กับธารที่นี่ ยังไงก็ห้ามไป ธารรักพี่นะ ถ้าพี่รักธารก็ห้ามไป”
“น้องธาร...”
“อย่าทิ้งธารไปได้มั้ย ธารขอร้อง”

ผมเม้มปากแน่น ยกมือขึ้นโอบกอดมันตอบ ลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ เป็นการปลอบโยน พลางครางรับ
“พี่เหนือไม่ทิ้งน้องธารไปไหนหรอกนะ พี่จะอยู่ตรงนี้... อยู่ข้างๆ น้องธารแบบนี้”

ธารเริ่มสงบลงได้ กอดผมแล้วซุกหน้าเข้ากับไหล่ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ มีเพียงผมเท่านั้นที่เริ่มว้าวุ่นใจขึ้นมา

ถ้าเกิดได้ทุนขึ้นมา...ผมจะทำยังไงกับเด็กนี่ดี

สิ่งหนึ่งก็ความฝัน อีกสิ่งหนึ่งก็คนรัก... เลือกไม่ได้ ทิ้งไม่ได้ทั้งคู่เลยแฮะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2016 16:03:21 โดย NooDangzz »

ออฟไลน์ แค่มะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เด็กนี่มันพอบทจะตรงก็ตรงจนอิพี่เหนือหื่นแตกคาวัด  :mew5:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เรียนต่อที่ไทยแล้วกัน .. เรียนจบก็มาช่วยงาน ของบ้านสามี

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ไปเรียนต่อกันทั้งคู่เลยสิคะ
 :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มันจะเป็นปัญหาก็ตรงนี้แหละ อีกคนจบแต่อีกคนยังต้อเรียนต่อ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยกันทั้งคู่เลย
ช่วยกันเรียน มีกำลังใจดีออกเนอะ

 :mew1:  :mew3:  :mew1: :mew3:

...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อิพี่เหนือไม่ได้ทุนแน่(แช่ง!)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ แค่มะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลากน้องมันไปเรียนด้วยกันเลยค่ะอิพี่เหนือ
เรียนไปด้วยกกเด็กไปด้วย หน้าหนาวก็มีเนื้ออ่อนให้ห่ม
อิน้องธารคนติดเมียก็ได้ตามติดเป็นวิญญาณติดตามภาคคนหลงเมียด้วย
จบมาได้ปั๋วเป็นหนุ่มนักเรียนนอกไปอีก เก๋สุด ตัวแม่สุดนะยะ :hao7:

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 23: หนทางอนาคตของหนุ่มน้อย[1]

ออกจากวัดมาได้ก็ไม่ได้ไปหรอกห้องพักรายวันอะไรนั่น ธารมันลากผมกลับมาจัดการที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย ก็ลืมไปว่าบ้านมันกับวัดอยู่ห่างกันแค่นิดเดียว ขี่รถสิบนาทีก็ถึง ส่วนไอ้ความกระเหี้ยนกระหือรือของผมในตอนแรกที่อยากจะโซเดมาคอมกับมันเหลือเกิน โดนเหวี่ยงขึ้นเตียงและเจอฟิฟตี้เฉด ออฟ ธาร ไปเท่านั้นแหละ

...เดี้ยง

ซ่าไม่ออกไปทั้งวัน นอนแบ็บจนธารต้องเอาข้าวเย็นมาเสิร์ฟให้ถึงเตียง ขนาดวันใหม่แล้วก็ยังไม่มีแรง ตอนนี้นี่ไม่ต้องถามเลย ถึงจะแงะตัวเองขึ้นจากเตียงได้แล้ว แต่เดินลงบันไดที สะโพกสะเทือนถึงดวงดาว

แล้วถามว่าเข็ดมั้ย... ไม่ ความระริกระรี้นี้จะมาเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความน่ารักของเด็กนั่น

แสงเหนือผู้ไม่พึงสังวรณ์ถึงสังขารตัวเอง ดูท่าอายุขัยจะหายไปหลายปีจริงๆ

หึย ใครว่ากินเด็กแล้วอมตะ เดินมาใกล้ๆ ซิ จะตบให้คว่ำ

“เช้านี้พี่อยากกินไร” ธารถามทันทีที่เห็นผมลากร่างตัวเองที่เดินกระเผลกๆ โผล่มาที่ห้องครัว ขณะที่มันถือกระทะกับตะหลิว เตรียมตัวทำเมนูไข่อะไรสักอย่าง ผมไม่ถามหาป้ารินหรอก รายนี้คงจะทำข้าวกล่องแวะไปให้คุณธีที่โรงพยาบาล ก็เมื่อวาน คุณธีเพิ่งจะบ่นแหม็บๆ ว่าเบื่ออาหารที่โรงพยาบาลจัดให้นี่นา
“น้องธารก็เลือกเอาแล้วกันนะครับว่าจะทำไข่ดาว ไข่เจียว หรือไข่ต้ม พี่เหนือโอเคหมด ยังไงก็ไข่เหมือนกันแหละเนอะ” ผมแกล้งว่า เหน็บไปนิดๆ เป็นเชิงว่ามันทำเป็นอยู่แค่นี้
ธารเลยมองหน้าผมเคืองๆ วางของในมือลงแล้วว่าเสียงแข็ง
“สงสัยอยากจะเดินไม่ได้จริงๆ ล่ะมั้ง ปากดีงี้”
“ทำไมครับ จะแซ่บพี่เหนืออีกแล้วเหรอ” ผมแกล้งถามหน้าระรื่น ทำให้ธารที่เพิ่งวางกระทะบนเตาหันมามองตาเขียว
“ไหวมั้ยล่ะ ถ้าไหวก็จะทำ คราวนี้จะเอาให้ลุกไม่ขึ้นเลย”
ไม่พูดอย่างเดียว ตรงเข้ามาช้อนปลายคางผมให้เชิดขึ้นสบตามันด้วย สายตาเขียวๆ เมื่อครู่ก็แพรวพราวเจ้าเล่ห์
“เอาปะ?”

ยะ...ยั่วเย้ายั่วยวน

ไป! น้องธาร ขึ้นห้อง!

หอบหื่นขึ้นจนคันคะเยอ ลืมเช็คไปสนิทว่าร่างกายตัวเองไม่อำนวยแล้ว เผลอทำหน้าหื่นใส่มันอีก จนมันต้องปล่อยมือจากปลายคางผมมาดีดหน้าผากดังเพียะ
“เลิกทำหน้าทะลึ่งได้แล้ว หื่นอยู่ได้ แค่เมื่อคืนก็พอแล้ว เดี๋ยวได้เข้าโรง’บาลตามพ่อไปอีกคนหรอก”
“น้องธารก็เบามือหน่อยสิครับ” ผมทำปากยื่น
“เบาแล้ว พี่แก่เอง อย่ามาโทษนะเว้ย”
แก่แต่ยังแซ่บ อร่อยและกรุบกรอบนะ ไม่งั้นน้องธารจะขอเบิ้ลเหรอ?
แต่ไม่พูดหรอก ส่งสายตากรุ้มกริ่มให้มันพอ เดี๋ยวมันเกิดคึกขึ้นมา ผมนี่แหละจะแย่เอา

เพราะผมไม่พูดอะไรต่อ ธารก็เลยผละไปยืนที่หน้าเตาอีกครั้ง ปากก็ว่าไปด้วย
“งั้นวันนี้ทำข้าวผัดแล้วกัน พี่เบื่อเมนูไข่แล้วนี่”
“ทำเป็นเหรอ”
“ทำเป็น แต่กินได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง”
ดูท่าวันนี้คงจะได้เข้าโรง’บาลจริงๆ แล้วล่ะ ไม่ใช่เข้าเพราะสะโพกหลุดหรืออะไรหรอกนะ เพราะท้องเสียเนี่ย!
จะให้ปฏิเสธน้ำใจมันก็ไม่ได้ เลยได้แต่นั่งเงียบ ดูมันก้มๆ เงยๆ ผัดข้าวด้วยท่าทางเงอะๆ งะๆ ไป กะว่าถ้ามันเอามาให้กิน ผมก็แกล้งทำเป็นอิ่มเร็วไรงี้ ชีวิตจะได้ปลอดภัย

รอไม่นาน ข้าวผัดไส้กรอกรวมมิตรผักเหลือๆ ในตู้เย็นก็มาวางส่งกลิ่นหอมอยู่ตรงหน้าผม หน้าตาก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ สภาพดูเหมือนจะกินได้ และมันจะดีมากถ้าเกิดเด็กนั่นมันไม่มาเสิร์ฟแล้วก็นั่งจุ้มปุ๊กข้างๆ ผม รอผมกินด้วยสายตาลุ้นระทึกเนี่ย
“เอ้า มองอะไร กินดิพี่”
“นี่กินได้แน่นะ?” ผมถามอย่างไม่มั่นใจนัก ความจริงคือแกล้งหยอกมัน ทำเอาธารคว้าส้อมมาตีข้างแก้มผมทีหนึ่ง
“กินได้ดิ ชิมแล้ว ไม่ตายหรอกน่า”
“ถ้าพี่เหนือเป็นอะไรขึ้นมา น้องธารผายปอดพี่เหนือนะ โอเคมั้ย”
ธารหัวเราะ วางส้อมลงแล้วยื่นมายีเส้นผมของผมแทน
“จะทำมากกว่าผายปอดอีก กินได้แล้ว พูดมากอยู่ได้”

ผมยิ้มให้มันนิดหนึ่ง ก่อนจะเริ่มตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวแล้วก็ทำท่าครุ่นคิดให้คนมองลุ้นนิดหน่อยว่าตกลงรสชาติเป็นไงแน่ แต่ผมไม่รีบบอกมันหรอกว่าจริงๆ ก็อร่อยนะ ถึงจะจืดไปนิดแต่โดยรวมก็ใช้ได้เลย
“อร่อยปะพี่”
พอเห็นผมไม่พูด ธารก็เลยถาม ผมเหลือบไปมองแล้วพยักหน้า ธารที่ทำหน้าลุ้นอยู่ในตอนแรกก็เลยยิ้มกว้าง
น่ารักชะมัด ทำแบบนี้นี่ผมรู้เลยนะว่ามันแคร์ความรู้สึกผมมากแค่ไหน เห็นแล้วก็อยากแกล้งเลยแฮะ
“แต่น้องธารอร่อยกว่าข้าวผัดนะ พี่เหนือชอบ”
ไม่ใช่แค่คิดอย่างเดียว พูดออกไปเลย ทำหน้าหื่นๆ ใส่มันด้วย ทำเอาธารยื่นมือมาหยิกแก้มผมทันที
“ปากดีอีกละ เดี๋ยวพอทำจริงๆ ก็บ่นว่าไม่ไหวอีก กินไปเลย ไม่ต้องพูด”
“คร้าบๆ สั่งใหญ่เลยนะ”

ผมก้มหน้าก้มตากินอีกรอบ ธารก็นั่งเท้าคางมองผมกินไม่เลิกจนผมรู้สึกว่าวันนี้มันทำตัวแปลกๆ ยิ่งเหลือบไปเห็นมันยกยิ้มน้อยๆ ด้วยแล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“น้องธารมีอะไรหรือเปล่าครับ เห็นนั่งจ้องหน้าพี่เหนือมานานแล้ว”
“มองพี่กินแล้วมีความสุขดี” ธารว่าเนิบๆ
อะไรไม่ว่า ไอ้การว่าเนิบๆ ของมันเนี่ย ทำเอาผมใจเต้นแรงขึ้นมา

มึงจะมามีความสุขอะไร! พูดอย่างนี้ หวั่นไหวนะ!

หวั่นไหวจริงๆ ใจเต้นตึกตักกะทันหันทั้งที่ปกติแล้ว ผมจะเป็นคนทำให้มันเขินแท้ๆ ก่อนผมจะรีบกลบเกลื่อนความเขินอายนั่นด้วยการเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่น
“แล้วนี่กินข้าวหรือยัง ไม่ใช่ว่าทำให้พี่เหนือกินแต่ตัวเองไม่กินนะ”
“กินแล้ว ก่อนพี่ตื่น ธารกินขนมปังกับนมไปแล้ว”
“แล้วอิ่มเหรอ?”
“อิ่ม อย่าถามมากน่า กินๆ ไป” ธารชี้นิ้วมาที่จานข้าวผมอีกครั้ง
ผมจึงไม่ถามอะไรต่อ นั่งกินไปเงียบๆ จะมีก็แต่ธารนี่แหละที่จู่ๆ ก็ถามขึ้นมาอีกแล้ว
“อร่อยจริงนะพี่”
“อร่อยครับ ทำไม กลัวพี่เหนือโกหกเหรอ”
“เปล่า แค่จะบอกว่าถ้าอร่อย ธารจะทำให้กินอีก แต่ต้องอยู่กับธารไปนานๆ นะ จะทำให้กินทุกวันเลย”

อะ...อะไรเนี่ย! วันนี้ผีเข้าหรือไง ทำไมโรแมนติก!?

ผมอ้าปากหวอด้วยความเหวอ ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินมันพูดแบบนี้ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่เต้นตามปกติเมื่อครู่ก็กลับมาเต้นระทึกอีกแล้ว แถมพอผมมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ มันก็ไม่หลบสายตาด้วย มองผมตอบพลางอมยิ้ม จนผมคิดว่ามันป่วยแน่ๆ
ยื่นมือไปอังหน้าผากมันแล้วด้วยเถอะ
ธารสะบัดหน้าออกทันที รอยยิ้มบนหน้าก็หายไป กลายมาเป็นสีหน้ารำคาญ พลางโวยวายใส่ผมนิดๆ
“อะไรของพี่เนี่ย”
“น้องธารป่วยเหรอ”
“ป่วยบ้าอะไร”
“ก็เห็นจู่ๆ มาพูดจาหวานใส่ เลยนึกว่าป่วย” ผมว่าไปตามจริง
ธารเม้มปากฉับพลัน เบือนสายตาไปทางอื่นก่อนแก้มทั้งสองข้างจะเริ่มแดงเรื่อขึ้นมา
“ก็แค่...อยากจะอ้อนบ้าง”

อ้อนหรืออ้อย ตอบ! ลากขึ้นห้องแม่งเลย ถ้าไม่ขึ้นห้องก็ที่ห้องครัวเนี่ย ป้ารินไม่อยู่ใช่มั้ย ไป! จัด!

ล้อเล่น ใครจะบ้าไปทำ แค่นี้ร่างกายก็รับไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ดื่มด่ำกับความน่ารักของมันก็พอ

“แล้วอ้อนแบบนี้ อยากได้อะไรจากพี่เหนือเหรอ” ผมเล่นลิ้นทันที กระแซะเข้าไปถามมันด้วยสีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย
ธารชำเลืองมองผมเล็กน้อย ก่อนว่าอ้อมแอ้ม
“อยากให้พี่รักธารมากๆ”
“โอ๊ย รักมาก รักจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วเนี่ย ไอ้เด็กขี้อ้อน” หลุดเก๊กแตก ยื่นมือสองข้างไปดึงแก้มมันอย่างมันเขี้ยว
ธารทำหน้าบึ้ง แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา แล้วก็พูดกับผมหน้าตาเฉย
“ธารก็รักพี่นะ”

ฮือ... ไม่ไหวแล้ว น่ารักขนาดนี้ แซ่บกันเถอะ จะจังหวะสามช่า หรือหมอลำซิ่งก็ได้ แซ่บเถอะ

ทว่าผมก็อดใจไว้ เดี๋ยวได้ตายจริงๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายถูกเด็กนั่นดึงไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว

อา... ความฟินนี้
ถึงกินเด็กจะไม่ได้เป็นอมตะตามคำร่ำลือ แต่ก็ฟินไปสามโลกแปดโลกแหละวะ
 



ความสัมพันธ์ของผมกับธารเป็นไปด้วยดีจนน่าตกใจหลังจากที่ธารบอกรักผมในวันนั้น ที่เป็นไปด้วยดีก็ไม่ใช่อะไร แบบว่ามันอ้อนผมมากขึ้นน่ะ ตัวก็ติดกันด้วยเถอะ ไม่ใช่ผมติดมันด้วยนะ มันเนี่ยที่ติดผม ติดหนึบเป็นตังเมจนบางครั้งผมก็รำคาญ

ขนาดจะอาบน้ำ มันยังจะเข้ามาอาบด้วย

แม่งเอ๊ย แม่ลูกอ่อนแท้ๆ เลยกู

แล้วชอบมั้ย...

ชอบ... ทำหน้าหื่นใส่รัวๆ ความแซ่บในห้องน้ำก็มี อย่าให้พูด เดี๋ยวจะแซ่บหนัก

ความรักไม่ใช่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้ ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นก็มี ไปเนอะน้องธาร พาพี่เหนือทัวร์บ้านหน่อย

แต่อย่าไปพูดกับมันเลย เดี๋ยวมันทำจริง ยิ่งตอนนี้มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ให้มันตั้งใจอ่านหนังสือดีกว่า เดี๋ยวผมจะโดนกล่าวหาว่าทำเด็กใจแตกจนเรียนไม่จบเอา

และเพราะมันใกล้จะสอบมิดเทอม พวกจอมแก่น โรม น้องมายด์ก็เลยมารวมตัวกันที่บ้านธารเพื่อติวหนังสือทุกวัน คนที่ติวให้ก็ไม่ใช่ใคร ธารนี่แหละ เห็นเกเร ต่อยตีไปทั่ว ทะเลาะกับชาวบ้านมั่วไปหมดอย่างนี้ แต่ก็เรียนเก่งกว่าใครเพื่อนนะ ยกเว้นวิชาภาษาอังกฤษที่ผมรับหน้าที่ติวให้ เพราะธารเองก็ไม่ค่อยเก่งวิชานี้เหมือนกัน

ไม่กี่วัน การสอบมิดเทอมก็ผ่านไป ผมเลยสบโอกาสชวนพวกมันไปปลดปล่อยเพราะไอ้ยีนส์กับไอ้กั้งโทรมาบอกเมื่อหลายวันก่อนว่าจะแวะมาเที่ยวพิษณุโลก ด้วยเมื่อครั้งก่อนที่มายังเที่ยวไม่หนำใจ พวกเราก็เลยไปรวมตัวกันที่ร้านพี่จอมแสบอย่างเคย และแน่นอนว่าลงบิลของจอมแก่นเอาไว้

แหม ก็เป็นถึงน้องชายเจ้าของร้านทั้งที เรื่องกินฟรีก็ต้องมาสิ

“แล้วนี่คิดกันหรือยังว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร พวกเรียนสายอาชีพนี่เค้าสอบเข้ามหา’ลัยกันปะ?” จู่ๆ ยีนส์ก็เปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยขณะที่ก่อนหน้านี้ เราคุยเรื่องอื่นอยู่ดีๆ
จอมแก่นวางแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันลง พลางว่า
“ส่วนมากก็ต่อ ปวส.กันครับ บางคนไม่เรียนต่อก็ไปทำงานตามสายที่เรียนมา แต่ผมวางแผนว่าจะไปสอบโควต้าภาคเหนืออยู่ อยากเรียนวิศวะ”
ยีนส์ถึงกับร้องโอ้โห กั้งก็พยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วยที่เห็นจอมแก่นวางแผนชีวิตแบบนี้ ส่วนผมก็ไม่อะไร รู้อยู่แล้วว่าจอมแก่นตั้งใจจะทำแบบนี้
“ดีแล้วล่ะ ถ้ามีโอกาสเรียนก็เรียนๆ ไป มันเอาไปต่อยอดอะไรๆ ได้อีกเยอะในอนาคตน่ะ แล้วหล่อนล่ะยะ เรียนจบแล้วจะไปทำอะไร มีผัว?” ชมจอมแก่นแล้ว ยีนส์ก็หันไปทางน้องมายด์
น้องมายด์ทำหน้าง้ำ วางส้อมที่เพิ่งจิ้มเอ็นไก่ทอดเข้าปากลงบนจาน พลันทำท่าสะบัดสะบิ้ง
“ผัวเนี่ยเมื่อไหร่ก็หาได้ค่ะ หนูสวยขนาดนี้ โชว์ขาอ่อนหน่อยเดียว ผู้ชายก็มาสยบแทบเท้าแล้วค่ะ”
คำพูดของน้องมายด์เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนเป็นอย่างดี ก่อนยีนส์จะหยุดหัวเราะเป็นคนแรก เหน็บกลับ
“จ้า ยัยคนสวย สวยควายตะลึง แล้วตกลงหล่อนจะเอายังไงยะ เรียนจบแล้วจะไปเรียนต่อมั้ย”
“เรียนสิคะ หนูจะไปอยู่กับเจ้าคุณป้าที่กรุงเทพฯ แล้วก็เข้ามหา’ลัยเอกชนแถวบ้านป้าอะค่ะเจ้ ไม่ต้องสอบเข้าอะไร แค่สอบวัดคะแนนตามรายวิชานิดหน่อย แต่ก็ต้องอ่านหนังสือไปสอบน่ะแหละค่ะ คะแนนไม่ถึงเกณฑ์เค้า เค้าก็ไม่รับ”
“งั้นก็ไปติวกับจอมแก่นเลยสิ เห็นจอมแก่นเริ่มอ่านหนังสือแล้วนี่” อันนี้ผมเสริม
น้องมายด์เลยพยักหน้าเออออไปตามเรื่อง ก่อนที่กั้งจะเป็นฝ่ายหันมาถามโรมแทนยีนส์
“แล้วเราล่ะ ตกลงยังไง”

โรมชะงักมือที่กำลังยกแก้วเหล้าซดเข้าปากทันใด ผมก็มองไปยังมันทันทีด้วย ก็มันน่ะเหมือนธารเลยนี่ อนาคตมืดมน ยังไม่รู้หนทางตัวเอง ผมก็เลยชิงตอบแทนมันไปก่อน
“ยังไม่รู้อนาคตเลยไอ้กั้ง มึงก็ไปถามน้องมัน เดี๋ยวมันก็เครียดหรอก ให้น้องมันได้คิดก่อน”
“ผมคิดได้แล้วพี่เหนือ” โรมโพล่งขัดขึ้นมา
ผมมองหน้ามันอย่างไม่เชื่อหู
“คิดได้แล้วคือ?”
“เรื่องเรียนต่อไง เรียนจบแล้วก็จะไปสอบเหมือนกัน”
“เดี๋ยว จะไปสอบที่ไหนยะ นี่จะทิ้งเมียไปเหรอ”

ประโยคนี้ ผมไม่ได้ถาม แต่เป็นน้องมายด์ที่เหมือนจะเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และเดาว่าธารเองก็เช่นกัน เพราะทันทีที่มันได้ยินโรมพูดอย่างนั้น ก็หันไปมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เชื่อสายตา
“ทิ้งบ้าทิ้งบออะไร มึงใช่เมียกูมั้ยไอ้ไม้ เดี๋ยวถีบหน้าหงาย” โรมว่าขำๆ แต่น้องมายด์หน้าง้ำไปแล้ว
ส่วนผมก็สะใจนิดหน่อยที่น้องมายด์ถูกตอกแบบนั้น

ไงล่ะมึง อ้างตัวว่าเป็นเมียมันอยู่ตั้งนาน โดนย้อนแบบนั้น ไปไม่ถูกเลยล่ะสิ

“ถ้าเมียมึงไม่ใช่กูแล้วจะเป็นใครที่ไหนยะ อย่าบอกนะว่านังแป้ง” น้องมายด์เอ่ยชื่อตัวต้นเหตุที่ทำให้ธารเข้าไปพับพันกับเรื่องยุ่งยากขึ้นมา ทำเอาโรมทำหน้าแหย
“แป้งอะไร รายนั้นกูเลิกยุ่งไปนานแล้ว เมียเมออะไร ไม่มีทั้งนั้นแหละ”
“งั้นก็ค่อยยังชั่ว แล้วตกลงอะไรยังไง จะไปสอบเรียนต่ออะไร ไหนว่ามาสิคะ พูดค่ะพูด” น้องมายด์วกกลับเข้าเรื่องเดิมอีกครั้ง
โรมสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนว่าออกมาเนิบๆ
“ก็ไปสอบกับจอมแก่น จอมแก่นไปไหน กูก็ไปที่นั่นแหละ” พูดอย่างเดียวไม่พอ เหลือบมองหน้าจอมแก่นด้วย ขณะที่จอมแก่นทำเป็นเมิน คว้าแก้วเหล้าขึ้นกระดกดื่ม

เอ้อ ผมลืมบอกไปว่าสองคนนี้ดีกันแล้วล่ะ ดีกันตั้งแต่ที่โรมมาขอโทษธารต่อหน้าจอมแก่น จอมแก่นก็เลยยอมกลับมาพูดกับโรมด้วย

แต่อะไรก็ไม่ทำให้ผมระแคะระคายได้เท่ากับการที่ได้ยินมันเรียกชื่อจอมแก่นเต็มๆ เมื่อวันก่อนที่ผมติวหนังสือให้พวกมันไปสอบมิดเทอม ยังได้ยินเรียกว่าไอ้จอมๆ อยู่เลยนี่หว่า

เรดาห์จับผีด้วยกันทำงานอีกแล้ว...

ไม่ใช่แค่ผม เรดาห์น้องมายด์ก็เช่นกัน รายนั้นหรี่ตามองจอมแก่นกับโรมอย่างจับผิด ก่อนจะโพล่งขึ้นมากลางวง
“เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวนะ อะไรคือเรียกน้องจอม ผัวอันดับสองของกูว่าจอมแก่น แล้วอะไรคือผัวอันดับหนึ่งของกูจะตามผัวอันดับสองของกูไป พวกมึงไม่ได้มีซัมธิงรองหรืออะไรที่กูยังไม่รู้กันใช่มะ?”

ถามออกไปซะตรงอย่างนั้น พวกมันจะตอบกันมั้ยเล่า!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2016 01:12:40 โดย NooDangzz »

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 23: หนทางอนาคตของหนุ่มน้อย[2]

แน่นอนว่าไม่ตอบ จอมแก่นเนี่ยที่ไม่ตอบ เฉไฉด้วยการมองไปทางอื่น ไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้โรมรับหน้าไป
“ซัมธิงรองอะไรของมึง กูก็แค่จะไปเรียนตามมันเฉยๆ ก็เห็นมันมีโควตาสอบภาคเหนือ กูเลยจะไปสอบที่ ม.ในบ้านเรา มึงคิดบ้าอะไรของมึงเนี่ย กูกับจอมแก่นไม่ได้...” จู่ๆ ก็หยุดพูด ทำเอาน้องมายด์หรี่ตาจับผิดมากกว่าเดิมอีก
“ไม่ได้อะไรของมึง”
“ไม่ได้...เป็นอะไรกันเว้ย” คราวนี้โรมพูดเสียงเบา สีหน้าก็ดูเขินอายขึ้นมาทั้งที่จอมแก่นยังนิ่งเฉย
แต่แค่นี้ผมก็รู้แล้วล่ะว่าอะไรเป็นอะไร ถึงตอนนี้พวกมันจะยังไม่ยอมรับกัน ทว่าผมก็เข้าใจได้ว่าพวกมันก็มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
น้องมายด์เองก็สัมผัสได้ หันมามองหน้าผมพลางพูด
“บีสองก็คิดเหมือนบีหนึ่งใช่มั้ยคะ”
ผมพยักหน้า กลั้วหัวเราะไปด้วย ทำให้ธารที่นั่งมองอยู่ถามแทรกขึ้นมากลางวง
“คิดอะไรเหมือนกันวะพี่”
“เดี๋ยวกลับบ้านแล้วพี่เหนือจะเล่าให้ฟังนะ” ผมบอกปัด ไม่อยากพูดในตอนนี้ เผื่อว่าสองคนนั้นจะยังไม่อยากให้ใครรู้ ไว้พวกมันเปิดตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ธารเองก็ดีที่ไม่ถามต่อ ที่ไม่ถามต่อก็เพราะถูกกั้งถามบ้างน่ะ
“แล้วเราล่ะเอายังไง เพื่อนๆ เค้าไปเรียนต่อกันหมด ติดไอ้เหนือเป็นตุ๊กแกอย่างนี้ ตามมันไปเรียนที่กรุงเทพฯ มั้ยล่ะ”

ไปว่ามันว่าเป็นตุ๊กแก เดี๋ยวมันก็ต่อยมึงแว่นแตกหรอกไอ้กั้ง!

ดีที่ไม่ต่อย แค่มองค้อนอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก ปากก็ขยับตอบออกมา
“ยังไม่รู้”
คำตอบเดิมๆ เมื่อถูกถามด้วยคำถามเดิมๆ ผมน่ะชินแล้วล่ะ เคยถามมันหลายรอบแล้ว คำตอบที่ได้ก็เป็นอย่างนี้ทุกที จะมีก็แต่ไอ้ยีนส์กับไอ้กั้งนี่แหละที่ทำหน้างงโลกขึ้นมา
“อะไร ไม่รู้ได้ไงคะน้องธาร อีกสองสามเดือนก็เรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วโควตาภาคเหนืออะไรนี่ก็สอบปลายเดือนนี้นี่ ไม่คิดจะไปเรียนต่อหรือไง แบบมหา’ลัยหรือ ปวส.อะไรงี้” ยีนส์ถามบ้าง
ส่วนธารก็ส่ายหน้า
“ยังไม่ได้คิด” ตอบแบบห้วนๆ ด้วย
ไอ้ยีนส์กับไอ้กั้งก็ทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินคนที่ผมคบอยู่พูดอย่างนี้ ซ้ำยังไม่แสดงสีหน้าในแง่ลบอย่างเดียว ไอ้ยีนส์ยังพูดออกมาด้วย
“เด็กมึงนี่แย่แล้วนะไอ้เหนือ อนาคตมืดมนมาก มึงดูแลน้องดีๆ หน่อย”
ธารชักสีหน้าทันที รู้เลยว่าไม่พอใจ ผมเลยรีบแทรกขึ้นห้ามทัพก่อนที่จะเกิดเรื่อง
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวกูจัดการเอง ให้น้องได้คิดหน่อย ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้”
ยีนส์ก็เออออไปตามประสา จะมีก็แต่กั้งนี่แหละที่มองหน้าผมไม่เลิก จนผมต้องถามมัน

“มีอะไร มองหน้ากูอยู่ได้”
กั้งไม่พูดในทันที รินโซดาใส่แก้วก่อนแล้วถึงเอ่ยปาก
“ไม่มีอะไร กูแค่จะเตือนมึงว่าอาทิตย์หน้าอย่าลืมเช็คผลด้วย ดูท่าทางมึงจะลืม”
“ผลอะไรวะ”
“ทุน มึงสมัครไปนี่”

ลืมจริงๆ ด้วย ลืมไปสนิทเลยว่าผมสมัครทุนเรียนต่อ ป.โทของมหาวิทยาลัยในอเมริกาไป ถ้าไอ้กั้งไม่เตือนนี่ก็คิดไม่ออกแล้ว

ผมทำหน้าเหรอหรา กั้งก็เลยพูดขึ้นมาอย่างระอา
“กูว่าแล้วเชียวว่ามึงต้องลืม มัวแต่คั่วเด็กจนลืมอนาคตเลยนะมึงน่ะ”
“เออ มันก็มีลืมกันบ้างหรือเปล่าวะ ขอบใจที่เตือนแล้วกัน”
ผมบอกปัดๆ ด้วยไม่อยากให้ไอ้กั้งมันบ่น ถ้ามันได้บ่นเมื่อไหร่ รับรองเลยว่าหูผมชาแน่ บ่นทีนึงนี่ ขุดเรื่องจากในอดีตมาผสมโรงบ่นอีกต่างหาก
ทว่าการที่กั้งทักมาอย่างนี้ ทำให้ธารที่นั่งอยู่ข้างผมทำหน้าน่ากลัวขึ้นมา ยื่นมือมาคว้าแขนผมซะเต็มแรงกะทันหัน
“ทุนอะไร”
หันไปเห็นหน้ามันแล้ว ผมก็กลืนน้ำลายเอื้อก รู้เลยว่ามันกำลังของขึ้นแล้ว ผมเลยตัดสินใจว่าจะบ่ายเบี่ยง ไม่ตอบในตอนนี้ เดี๋ยวมันจะอาละวาด
หากแต่พออ้าปากเท่านั้น ยีนส์ก็โพล่งขึ้นมาซะก่อน
“ทุนไปเรียนต่อ ป.โท ที่อเมริกา ไอ้เหนือมันยื่นขอทุนกับพร้อมกับพวกพี่เนี่ย ทุนนี้ดีนะ ใช้แค่ผลการเรียนกับเขียนเรียงความส่งไปคัดเลือกเอง ไม่ต้องสอบ ถ้าได้นี่ก็ไปเรียนสองปี ฟรีทุกอย่าง สบายกระเป๋าพ่อแม่ไปอีก”

มึงจะมาอธิบายให้มันฟังทำบ้าอะไรเล่าไอ้ยีนส์! ไม่เห็นเหรอเนี่ยว่ามันบีบแขนกูแน่นจนจะห้อเลือดหมดแล้ว!

ผมกลืนน้ำลายจนแสบคอไปหมด ธารก็จ้องหน้าผมไม่หยุด ก่อนจะลุกขึ้นยืนพรวด กระชากผมให้ลุกขึ้นตามด้วย
“เดี๋ยวๆ อะไรเนี่ยน้องธาร เป็นอะไร” ยีนส์รีบร้องถามทันทีที่เห็นท่าทางแปลกๆ
ธารไม่พูด มองยีนส์อย่างขุ่นเคือง แล้วออกคำสั่งกับผม
“กลับบ้าน!”
พูดจบก็ลากผมออกไปจากตรงนั้นเลย ทิ้งให้เพื่อนๆ มันกับเพื่อนๆ ผมมองตามอย่างงุนงง ผมก็ได้แต่ร้องบอกพวกมันว่าไม่มีอะไร ไว้จะติดต่อไปทีหลัง



 
ธารขี่รถกลับบ้านด้วยความเร็วแสง ผมได้แต่กอดเอวมันแน่นเพราะกลัวตกรถลงไปตาย แค่มันดื่มนิดๆ หน่อยๆ ยังไม่เมาแล้วมาขี่รถน่ะไม่น่ากลัว แต่มันขี่รถด้วยอารมณ์โกรธจัดแบบนี้นี่สิที่น่ากลัว
ซ้ำกลับมาถึงบ้านแล้ว มันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากผมขึ้นบันไดไปที่ห้องมันบนชั้นสอง อันนี้แหละที่ทำให้ผมใจคอไม่ดี กลัวว่ามันจะทำอะไรผมชะมัด ร้ายกว่านั้นคือพอมันเปิดประตูห้องได้ ก็เหวี่ยงผมเข้ามาในห้องสุดแรง ดีที่ผมตั้งหลักได้ทันเลยไม่ล้มลงไป หากแต่ตั้งหลักได้ก็เท่านั้นเพราะพอมันปิดประตูห้องเรียบร้อย มันก็ปรี่เข้ามาจับไหล่ผมด้วยสองมือไว้แน่น
“ที่พี่กั้งพูดหมายความว่าไง! อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” ตามมาด้วยตะคอกเสียงดัง

ผมรู้แหละว่ามันหมายถึงเรื่องอะไร ก็เรื่องทุนที่ไอ้กั้งมาหลุดปากพูดน่ะ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดไอ้กั้ง จะไปโทษมันก็ไม่ได้ และผมก็ยังไม่พร้อมที่จะตอบตอนนี้ ได้แต่บ่ายเบี่ยงเพราะธารอารมณ์ร้อนมาก สีหน้ามันนี่พร้อมจะฆ่าผมได้ทุกวินาทีอย่างนี้ ถ้าอธิบายอะไรไป มันก็ไม่ฟังหรอก
“น้องธารใจเย็นๆ ก่อนนะ” ผมเลยพยายามปราม
แต่ก็เสียแรงเปล่า มันตะโกนใส่หน้าผมซะดังลั่น
“จะให้ใจเย็นยังไงได้อีก! ทำไมพี่ไม่บอกว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา!” ตะโกนใส่หน้าผมไป ตัวก็สั่นเทิ้มไป สีหน้าเหมือนคนกำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างไปสุดๆ

ผมสบดวงตาแข็งกร้าวแล้วก็พ่นลมหายใจยาว ไม่ใช่ว่าผมไม่บอกมันเรื่องทุนนะ แต่ผมลืมไปว่าตัวเองก็ยื่นทุนไปเหมือนกันต่างหาก ถ้าวันนี้ไอ้กั้งไม่เตือน ผมก็ลืมไปแล้วว่าเคยทำอะไรแบบนั้นด้วย ที่สำคัญ มันก็ยังไม่แน่สักหน่อยว่าผมจะได้ทุนไปเรียน ไอ้กั้งมันก็แค่บอกให้ผมอย่าลืมเช็คชื่อตัวเองตอนวันประกาศผลก็เท่านั้น

แต่ยังไงก็ความผิดผมแหละ ถ้าผมฉุกใจคิดเตือนความจำตัวเองสักหน่อย ก็คงไม่ลืม แล้วไม่ได้บอกธารเองกับปาก ต้องให้มันมารู้จากคนอื่นอย่างนี้

ก็ช่วยไม่ได้ ผมมัวแต่เอาเวลาไปสนใจมันเป็นอันดับแรกนี่นา เรื่องตัวเองเลยกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญซะงั้น

“พี่เหนือยังไม่ได้ไปนี่ครับ แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะได้ไปมั้ย คนสมัครไม่ใช่แค่คนสองคนนะ สมัครกันเป็นร้อย แต่เอาแค่สามคน เปอร์เซ็นต์จะได้ทุนมันไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น” ผมให้เหตุผลอย่างใจเย็นที่สุด
ธารหยุดฟัง แต่ก็ยังไม่ระงับอารมณ์โกรธเลยแม้แต่น้อย โวยวายใส่ผมอีก
“แล้วถ้าพี่ได้ล่ะวะ! ธารจะทำยังไง จะทิ้งกันไปเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย! ห้ามไป!”

เห็นความแต่ใจของมันแล้วผมก็คิดว่ามันชักจะไม่มีเหตุผลละ ก็ผมบอกไปแหม็บๆ ว่าไม่รู้ว่าจะได้ทุนหรือเปล่า อันที่จริงผมก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะได้ด้วยเพราะโอกาสที่จะได้มันน้อย ถึงการเรียนต่อต่างประเทศจะเป็นความฝันหนึ่งของผมก็เถอะ ขนาดไอ้กั้งเก่งกว่าผมตั้งเยอะ มันยังเคยบอกผมตั้งแต่แรกเลยว่ามันก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะได้

เขียนเรียงความไปขอทุนน่ะเรื่องง่าย แต่เขียนยังไงให้ฝั่งนั้นเลือกน่ะยาก แถมผ่านแล้วก็ยังต้องสอบสัมภาษณ์อีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น

ผมอยากจะบอกธารเหลือเกิน แต่มันสติแตก เขย่าผมจนตัวคลอน โวยวายไม่หยุด
“พี่ห้ามไปนะเว้ย! ยังไงก็ไม่ให้ไป!”
มือที่จับไหล่ผมอยู่ก็ออกแรงบีบจนรู้สึกเจ็บขึ้นมานิดๆ
ผมย่นคิ้ว ทำท่าจะปรามมัน หากแต่ก็ต้องหยุดความคิดลงเมื่อจู่ๆ มันก็โผเข้ากอดผมแน่น พร่ำพูดไม่หยุดราวกับเด็กถูกขัดใจ แต่ครั้งนี้ไม่ตะคอกแล้ว
“ถ้าพี่ไปแล้วธารจะอยู่ยังไง ห้ามไป อยู่กับธารที่นี่ ยังไงก็ห้ามไป ธารรักพี่นะ ถ้าพี่รักธารก็ห้ามไป”
“น้องธาร...” ผมชะงักไป รู้สึกได้ถึงความว้าเหว่ของมันขึ้นมา
ก็ตอนนี้มันติดผมประหนึ่งติดแม่มันเลยนี่นา ถ้าขาดผมไปสักคน มันคงคลั่งแน่
แล้วผมก็มั่นใจว่าตัวเองคิดถูกเมื่อธารพูดออกมาอีก
“อย่าทิ้งธารไปได้มั้ย ธารไม่อยากอยู่ห่างจากพี่ อยู่กับธารนะ ขอร้อง”
ผมเม้มปากแน่น ใจอ่อนยวบ ยกมือขึ้นโอบกอดตอบ ลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ เป็นการปลอบโยน พลางครางรับอย่างไม่มีทางเลือก
“พี่เหนือไม่ทิ้งน้องธารไปไหนหรอกนะ พี่จะอยู่ตรงนี้... อยู่ข้างๆ น้องธารแบบนี้ ไม่ต้องกลัวนะ”
ธารเริ่มสงบลงได้ กอดผมแล้วซุกหน้าเข้ากับไหล่ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ มีเพียงผมเท่านั้นที่เริ่มว้าวุ่นใจขึ้นมา

ถ้าเกิดได้ทุนขึ้นมา...ผมจะทำยังไงกับเด็กนี่ดี

สิ่งหนึ่งก็ความฝัน อีกสิ่งหนึ่งก็คนรัก... เลือกไม่ได้ ทิ้งไม่ได้ทั้งคู่เลยแฮะ
 



กว่าจะทำให้ธารสบายใจหลังจากที่มันรู้ว่าผมสมัครทุนไปได้ก็เล่นเอาแทบไม่ได้นอนทั้งคืน มันขอร้องแกมบังคับให้ผมไปถอนใบสมัครทุนออกมาไม่เลิก แต่ผมทำมั้ยล่ะ...

เหอะ ใครจะบ้าไปทำ นั่นมันความฝันตลอดชีวิตของผมเลยนะ ถึงผมจะรักเด็กนี่มากแค่ไหนก็เถอะ แต่อนาคตตัวเองก็สำคัญ ผมไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่มีแค่มันกับผมสองคนสักหน่อย

ผมก็เลยแกล้งบอกมันไปว่าสมัครแล้วถอนใบสมัครไม่ได้ บนเว็บไซต์ที่ใช้สมัครทุนไม่มีการยื่นเรื่องขอถอนใบสมัครคืน ต้องรอให้ประกาศผลก่อน ถ้าติดแล้วค่อยไปยกเลิกรับทุนอย่างนั้นน่ะได้ ทว่าธารก็ไม่เชื่อผมหรอก ให้ผมเข้าเว็บไซต์แล้วอ่านให้ฟัง โชคดีที่ธารไม่เก่งภาษาอังกฤษเท่าไหร่ ผมเลยโกหกบ้าง แกล้งแปลไม่ถูกบ้าง กระทั่งมันยอมเชื่อแล้วเลิกวุ่นวายไปเอง

เหนื่อยแฮะ ไม่คิดเลยว่าสักวันมันจะเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้เราสองคนแบบนี้

ทว่าผมก็แสร้งทำลืมๆ ไป ทำเป็นไม่พูดถึงด้วยไม่อยากให้เป็นปัญหาขึ้นมาอีกจนกว่าจะประกาศผลทุน แต่สิ่งหนึ่งที่รบกวนใจผมนอกจากเรื่องนี้ก็คือ การเห็นธารทำตัวลอยชาย ไม่ทำอะไรเลยทั้งที่เมื่อวานก่อน มันเพิ่งจะรู้ไปแท้ๆ ว่าเพื่อนมันแต่ละคนมีหนทางในอนาคตไปแล้ว
เห็นแล้วผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ คอยเตือนมันให้อ่านหนังสือตลอดเวลา เพราะตอนนี้จอมแก่น โรม และน้องมายด์พากันจับกลุ่มไปติวหนังสือกันแล้ว มีแต่ธารที่ยังเฉย ไม่สะทกสะท้านอะไรสักนิด

มึงจะไร้อนาคตมากเกินไปแล้ว!

ผมบ่นไม่หยุดเลยเรื่องให้มันอ่านหนังสือ แน่นอนว่ามันไม่ทำ วันนี้ก็บ่นตั้งแต่เช้า มันก็ยังเมิน สุดท้ายผมก็ชักหมดความอดทน เดินไปยืนค้ำหัวมันที่นอนกลิ้งเกลือก เล่นเกมในโทรศัพท์อยู่บนเตียง พลางบ่นด้วยความระอา
“พี่เหนือก็ไม่ได้อยากจะจู้จี้จุกจิกหรอกนะครับ แต่พี่เหนือว่าถึงน้องธารจะยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน อย่างน้อยก็ติวหนังสือเผื่อๆ ไปบ้างก็ดี ทิ้งเวลาเสียเปล่าไปแบบนี้ มันน่าเสียดายนะ”
ธารกลอกตาใส่ผมราวกับรำคาญเต็มทนที่ผมพูดเรื่องนี้ไม่เลิก ผมก็ไม่อยากจะทำนักหรอก แต่เป็นห่วงมันนี่หว่า จนป่านนี้แล้ว มี่แต่มันเนี่ยที่ยังไม่รู้อนาคตตัวเองเลยว่าจะเดินไปทางไหน ขนาดโรมที่ดูไร้อนาคตกว่า เรียนก็ไม่เก่งยังเลือกทางเดินได้แล้วเลย ดังนั้น...

มึงจะมาทำตัวสบายใจเฉิบ ไม่รู้ไม่ชี้อย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย! อย่างน้อยถ้าจะไม่สอบเข้ามหา’ลัย ก็ควรเลือกว่าจะเรียนต่อ ปวส. หรืออะไรเทือกนั้นสิวะ! กระเตื้องได้แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบแล้วนะเว้ย!

“นะ น้องธาร ติวหนังสือเถอะ อ่านผ่านๆ ก็ได้ อ่านให้มันผ่านตา นั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้ พี่เหนือเป็นห่วงนะ”
“เป็นห่วงอะไรวะ”
“ห่วงอนาคตสุดที่รักของพี่เหนือเนี่ย จะห่วงอะไรล่ะ ยังไงน้องธารก็ต้องเลือกนะว่าจะเลือกทางไหน จะมาปล่อยให้เวลาสูญเปล่าโดยไม่ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ อนาคตมันไม่แน่นอน ตอนนี้คุณพ่อของน้องธารมีเงินเลี้ยงน้องธารก็จริง แต่ถ้าคุณพ่อเป็นอะไรขึ้นมาอีกรอบล่ะ น้องธารจะจัดการตัวเองยังไง ยิ่งถ้าพี่เหนือโดนน้องธารทำพิการ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตขึ้นมา น้องธารไม่เรียนต่อ ไม่ทำงาน หยุดอนาคตตัวเองไว้แค่นี้ แบบนี้จะเลี้ยงพี่เหนือได้เหรอ” ผมแกล้งเรียกมันด้วยสรรพนามหวานๆ หน่อย เผื่อมันจะเลิกดื้อด้านบ้าง ตามด้วยสอนอีกยาวเหยียด

กลายเป็นคนขี้บ่นโดยสมบูรณ์ แต่ครั้งนี้มันได้ผล ธารหันมามองผม ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปยืนเลือกหนังสือที่โต๊ะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบหนังสือรวมข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ออกมากางตรงหน้า
“อ่านก็อ่าน พอใจแล้วใช่มั้ย”
ผมพยักหน้า ยิ้มให้มันด้วยความโล่งใจที่ในที่สุด มันก็ยอมทำตามคำแนะนำของผมซะที ส่วนมันก็พ่นลมหายใจยาว คว้าดินสอกับกระดาษมานั่งแก้โจทย์ไปตามเรื่อง
เห็นแล้วก็ค่อยเบาใจขึ้นมาหน่อย ผมเลยไปยืนเมียงๆ มองๆ อยู่ใกล้ ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับหนังสือรวมโจทย์ข้อสอบภาษาอังกฤษเล่มหนาที่โชว์สันหนังสือให้เห็น ก่อนจะคว้ามันออกมาเปิดดู
“ถ้าน้องธารอยากให้ติวอังกฤษให้ก็บอกพี่เหนือนะ เดี๋ยวพี่ติวเข้มให้เป็นกรณีพิเศษเลย เห็นอย่างนี้พี่เหนือเคยรับจ็อบเป็นติวเตอร์มาก่อนเน้อ”
ธารชะงัก หันมามองผม ก่อนจะยกมือขึ้นคว้าหนังสือที่ผมดูอยู่ เรียกสายตาผมให้หันไปมองมัน
“ก็ได้ แต่มีข้อแม้นะถ้าอยากให้ธารตั้งใจเรียน”
“ข้อแม้ว่า?” ผมเลิกคิ้วสูง
ธารยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วว่าออกมา
“หนึ่งบท แลกกับหนึ่งครั้ง...บนเตียง ธารถึงจะตั้งใจเรียน โอเคปะ?”

โอ้โห...หน่องธารรร! ค่าแรงแบบนี้ พี่เหนือจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะครับ

ไปเลยไป ขึ้นเตียงเลย ขอเบิกจ่ายล่วงหน้ารัวๆ โปรโมชันแสงเหนือ พิเศษสำหรับน้องธารคนเดียว ชั่วโมงเดียว แถมติวเพิ่มอีกหนึ่งบท มากกว่าสองชั่วโมง ติวฟรีทั้งเล่ม ไม่คิดค่าแรง เป็นสมาชิกแสงเหนืออะคาเดมีฟรีตลอดชีพอีกต่างหาก

หูย... หนังสือหนังหาไม่ต้องเรียนมันกันละ

มีดีมานด์ก็ต้องมีซัพพลาย มีคนขายก็ต้องมีคนซื้อ น้องธารขายอ้อย พี่เหนือก็ต้องเหมา

ผมดึงหนังสือในมือธารออก วางลงบนโต๊ะทันที ก่อนพุ่งเข้าไปประคองใบหน้ามันมาจูบเบาๆ
“งั้นพี่เหนือขอค่าจ้างติวหนังสือเลยแล้วกัน งดเชื่อ เบื่อทวง”
“จ่ายก่อนแบบนี้ไม่แฟร์เลยว่ะ แต่ก็เอาเถอะ แล้วแต่” ธารว่า หน้าแดงเรื่อขึ้นมาน้อยๆ เป็นฝ่ายจูบผมกลับบ้าง

เอาล่ะ เปลี่ยนจากติววิชาภาษาอังกฤษมาเป็นวิชาเพศศึกษาก่อนนะ
โยนหนังสือทฤษฎีทิ้งรัวๆ ไม่ต้องเรียนแล้วทฤษฎี เข้าภาคปฏิบัติโลด

ตอนนี้ถ้ามันจะเสียอนาคตก็ไม่ใช่เพราะตัวมันแล้วล่ะ แต่เป็นเพราะผมเนี่ย

โถ หนทางอนาคตของหนุ่มน้อยมืดมนไปทันตากว่าเดิมทันที

พี่เหนือขอโทษนะครับ อดใจเหมาอ้อยไม่ไหวจริงๆ...
--------------------------------
ตอนนี้ยังไม่มาม่านะ กำลังชง โผล่มานิดๆ หน่อยๆ พอเกริ่น 555
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะอัพตัวอย่างตอนที่ 24 ให้นะคะ ฝากส่งฟีดแบ็คกันด้วยน้า ^^


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ ห่วงอนาคตน้องธารจริงๆ อีพี่เหนือนี้ก็เหมือนจะช่วยดันนะ แต่ไปๆมาๆ กลับชวนเสียเรื่องจนได้  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
รักกันก้อต้องคิดถึงอนาคตด้วย...

สมกับที่ได้เป็นทีมพี่เหนือ

Cheers. 

 :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
พาน้องธารไปด้วยดีไหมเหนือไม่งั้นได้ตีกันตายแน่เลย แนะนำให้น้องไปสอบเรียนที่นั่น

แต่ธารไม่ใส่ใจอะไรเลย แย่แหะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ติวแบบนี้อิพี่เหนือมีแต่ได้กับได้

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อิพี่เหนือหื่นตลอดดด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด