ตอนที่ 25
คู่รัก 114 : วิธีสารภาพรักของหนึ่ง
ผมกดวางสายจากไอ้กันต์
ผมกำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ สายตามองตรงไปยังบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่สูงหลายชั้นของฟาร์ ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆ แถวบ้านฟาร์ค่อนข้างเงียบ ผมมีเพียงหมาที่นอนอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อน
วันนี้ผมปรึกษาเฮียเกล้าและเฮียเขาก็ให้คำแนะนำว่าให้ผมสารภาพไปตรงๆ ที่จริงผมกะจะทำแบบนั้นตอนอยู่ที่ร้านแล้วล่ะ แต่งานผมยุ่งมาก ยุ่งแบบไม่มีเวลาปลีกตัวไปหาฟาร์เลย พอฟาร์มาพักใกล้ๆ กับตรงที่ผมทำงานอยู่ ผมจะเดินไปหาเขา เขาก็ต้องขึ้นไปเล่นกีตาร์เบสต่อบนเวทีแล้ว สรุปก็คือไม่มีช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการที่ผมจะคุยกับเขาจริงๆ ครับ
ผมก็เลยทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากบุกมาถึงบ้าน มองดูบ้านหลังสูงใหญ่ที่ภายในคงจะดูกว้างขวางโอ่โถงแม้จะเป็นทาวน์เฮ้าส์ก็ตาม ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ หยิบโทรศัพท์ที่แบตฯ ใกล้หมดของตัวเองขึ้นมา พิมพ์แชตไปหาเฟซบุ๊กที่ชื่อโซฟา นิธิวัฒน์
Thaitep verycool : นอนหรือยัง
Thaitep verycool : กูอยู่หน้าบ้านมึง
ประมาณ 3 นาทีได้กว่าฟาร์จะกดอ่าน ผมมองขึ้นไปข้างบนเห็นไฟที่ห้องหนึ่งเปิดสว่าง ไม่นานนักไฟที่อยู่ชั้นล่างสุดก็เปิดสว่างเช่นกัน ผมเห็นร่างของฟาร์เปิดประตูออกมาและก็เดินมาหาผม
หัวใจของผมเต้นแรงมาก มากจริงๆ ครับ ผมไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าตอนนี้ผมตื่นเต้นมากขนาดไหน ฟาร์ใส่ชุดลำลองง่ายๆ ท่าทางของเขาง่วงงุน เขามองซ้ายมองขวาเพื่อเดินข้ามถนนมาหาผม
ผมยังคงอยู่ในชุดเดิม ผมยังไม่ได้กลับหอพักของตัวเองครับตั้งแต่เลิกงาน ฟาร์ยืนประจันหน้ากับผม เขามองหน้าผมด้วยสายตานิ่งเฉย
“ว่าไง”
โอ ให้ตายเถอะ จะให้ผมพูดตรงๆ ทั้งๆ ที่เขาถามแบบนี้เลยเหรอ
“ที่มึงถามมาในเฟซบุ๊กเมื่อวันก่อน...”
“อืม”
“กูชอบ”
“...”
“กู...ชอบมึงอ่ะ” ผมหลบตามัน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟาร์กำลังทำสีหน้ายังไงอยู่ รู้แต่ว่าแม่งเงียบ เงียบมากจนผมทั้งหวั่นใจทั้งเขินอายปนๆ กันไป
พ่อมันไม่มีปืนลูกซองใช่ป่ะ ผมมองไปที่ทาวน์เฮ้าส์แทนเพราะการมองหน้าฟาร์ในตอนนี้เป็นอะไรที่ยากมากกว่าการมองพ่อไอ้ฟาร์กับปืนลูกซอง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฟาร์ถามสั้นๆ
“ไม่รู้ นานแล้ว”
“ก่อนหน้ากูไปทำงานที่ร้านคุณเกล้า?”
“ตั้งแต่อยู่มหา’ลัยอ่ะ” ผมขยับไม้ขยับมือไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของฟาร์ ผมสัมผัสได้ถึงความกังวลที่มีอยู่ในตัวของฟาร์
ถ้าเขาชอบผมเหมือนกัน ป่านนี้เขาคงจะเต้นไชโยโห่ฮิ้วแล้วใช่มั้ยครับ แต่นี่ผมคงทำให้เขาอึดอัด เพราะเขาเอาแต่ถอนหายใจอย่างเดียวเลย
“มึงคิดดีแล้วเหรอ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าฟาร์ทันทีที่ฟาร์ถามแบบนั้น
“หือ?”
“มึงชอบกูเนี่ย มึงคิดดีแล้วเหรอวะ”
“ก็ต้องคิดดีแล้วสิ” ผมตอบไปตามความรู้สึก
“แต่กูไม่ได้ชอบผู้ชายเลยนะ”
อื้อหือ...ประโยคสุดเจ็บแสบได้ถูกส่งออกมาจากปากของฟาร์ ปากของคนที่ผมชอบ...ผมเองก็พอจะทำใจมาแล้วล่ะว่ามันคงไม่ได้ลงเอยกันง่ายๆ แบบโลกสวยที่มีทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์แน่ๆ เพราะสิ่งที่ฟาร์ถามในแชต ฟาร์แค่ต้องการคำตอบ ไม่ใช่ต้องการเป็นแฟนผม
“กูรู้” ผมยอมรับ “ทำไงได้ มึงถามมากูก็ต้องยอมรับนี่”
“อืม...” ฟาร์เขยิบมาพิงรถมอเตอร์ไซค์ของผมที่อยู่ข้างๆ “...กูขอโทษนะ”
“ไม่ใช่ความผิดของมึง”
“เพราะงี้มึงเลยต้องขโมยตังค์กูไปใช่มั้ย”
“หึๆ ใช่” ผมยิ้มแห้งๆ “เพราะกูไม่รู้ต้องทำยังไงมึงถึงจะคุยกับกูมากขึ้น”
“วิธีมึงเชี่ยมากอ่ะ”
“กูรู้น่า...”
“แต่กูก็คุยกับมึงเยอะขึ้นจริงๆ นั่นแหละ”
“เห็นมั้ย” ผมส่งยิ้มให้คนที่อยู่ข้างๆ ฟาร์เอาแต่ก้มหน้าและไม่มองหน้าผมเลย “ดึกแล้ว ขึ้นไปนอนเหอะ”
“อืม” ฟาร์รับคำ “มึงก็กลับบ้านได้แล้ว”
“อืม”
ผมมองตามหลังฟาร์ที่ค่อยๆ เดินออกห่างจากผมไป เขาหันมามองผมอีกครั้งตอนที่เดินไปถึงหน้าประตูบ้าน หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในบ้าน ปิดไฟ และเหลือไว้แค่เพียงความมืดที่ผมยังคงมองอยู่อย่างนั้น
ผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะมันก็ต้องลงเอยแบบนี้ ยังไงซะฟาร์ก็ไม่มีวันชอบคนอย่างผมแน่ๆ แต่รู้มั้ยครับ ผมรู้สึกโล่งฉิบหายที่ได้บอกฟาร์ออกไป จริงอย่างที่เฮียเกล้าพูด ให้เขารู้ดีกว่าไม่ให้เขารู้ และเฮียเกล้ายังพูดว่าอะไรอีกนะ...
อีกฝ่ายอาจจะหวั่นไหวก็ได้
หลังจากนั้นไอ้หล่ออย่างเชี่ยกันต์ก็เอ่ยต่อว่า...มันก็ต้องขึ้นอยู่กับคนสารภาพด้วยนะ
ฟัค...ผมจะเซ็งหนักขึ้นก็เพราะคำพูดและความหล่อของไอ้กันต์นี่แหละ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วที่ผมแอบหมั่นไส้มันอยู่ลึกๆ เพราะแม่งโคตรหล่อ เอาเถอะ ยังไงตอนนี้ผมก็ศัลยกรรมทุบหนังหน้าอะไรไม่ทันแล้ว (ไม่มีเงินด้วย) เพราะงั้นสารภาพไปนี่แหละดีแล้ว
ถ้าฟาร์คิดว่าผมใช่...ผมก็คงใช่สำหรับฟาร์นั่นแหละ
แต่ถ้าฟาร์คิดว่าผมไม่ใช่...ผมก็แค่ไม่ใช่ ทว่าผมก็ต้องมีชีวิตต่อไป ถึงแม้ว่าผมจะอกหักและเสียใจก็ตาม
มันมีแค่เท่านี้จริงๆ ครับ...มันไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย
“มึงบอกฟาร์ และก็จบเลยเหรอวะ ไม่มีอะไรต่อเลยงั้นเหรอ” ไอ้กันต์ที่อยากรู้เรื่องของผมมากแวะมาหาผมแต่เช้าทันทีที่มันตื่น มันบอกว่าถึงไปหาเฮียเกล้าตอนนี้เฮียก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยด้วยอยู่ดี ท่าทางของเฮียเครียดมาก เพราะแม่ของเฮียดูจะรับไม่ได้เลยกับการที่คนอย่างกันต์ไปชอบเฮีย และถ้าหากว่ารู้ว่าคบกันอยู่อาจจะยิ่งแย่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะงั้นเฮียก็เลยขลุกอยู่แต่ในห้อง กันต์มันเล่าว่าเฮียเกล้าแคร์คนที่บ้านมากๆ เลยครับ
กันต์เองมันก็เครียด...แต่มันทำลายความเครียดนี้ด้วยการมาฟังเรื่องของผมแทน เรื่องของกูจะช่วยให้มึงดีขึ้นได้มั้ยเนี่ย รู้สึกว่าจะทำให้เครียดมากกว่าเดิมอีกนะ
“ใช่”
“ไหงงั้นอ่ะ”
“ก็ฟาร์มันแค่อยากรู้ มันไม่ได้บอกสักหน่อยว่ามันเองก็ชอบกู”
“...”
“มันไม่ได้เป็นเกย์ว่ะ”
“อืม” กันต์ทำเสียงรับรู้ “เกล้าเองก็ไม่ได้เป็นแต่แรกนี่”
“แล้วยังไง”
“เพราะกูเข้าไปจีบไง เขาถึงมาเป็นได้”
“เออ มึงหล่อไงไอ้สัด” ผมเอาเท้ายันตัวยาวๆ ที่นอนอยู่บนโซฟาของผม
“กูพูดไปงั้นอ่ะ” กันต์ควานหาขนมมากิน “ที่กูพูดเพราะอยากให้มึงรู้ว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้ กูเองถ้าไม่ใช่เกล้า กูก็คงไม่ชอบผู้ชายคนไหนอีกแล้วล่ะ”
“ฟาร์ก็เป็นผู้ชายคนแรกที่กูชอบเนี่ย” ผมทำท่าครุ่นคิด “ยกเว้นเฮียเกล้าไว้คนหนึ่ง”
“ส้นตีน” กันต์ด่าผม “เมียกูนี่ยุ่งจัง”
“ก็เฮียน่ารัก!”
“อย่าให้กูไปยุ่งกับฟาร์ของมึงบ้าง”
“หึ กูฟ้องเฮียไม่กี่คำมึงก็หงอแล้ว...”
“จริงของมึง” กันต์ถอนหายใจยาวเหยียด “ในเมื่อมึงกับกูต่างก็มีแค่ผู้ชายคนเดียวที่เราสองคนชอบ ที่ผ่านมาไอ้เชี่ยฟาร์ไม่เคยมองผู้ชายเลย...”
“อืม”
“...มึงก็ทำให้ฟาร์มันมองผู้ชายอย่างมึงซะสิ”
“มันทำง่ายซะที่ไหนล่ะ”
“เรื่องของกูก็ยาก แต่กูก็ทำได้มึงเห็นมั้ย กูต้องรอมาตั้งกี่ปี”
“เออว่ะ มึงมันยอดมนุษย์ผู้บูชาความเลิฟ”
“กูไม่อยากให้มึงยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ”
ผมมองดูร่างยาวๆ ของไอ้กันต์เคี้่ยวขนมที่อยู่ในห้องของผม ผมรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันกำลังมีความเครียดอยู่สูงมากมันจึงกินอะไรเยอะแยะไปหมดแบบนี้ ผมกับกันต์แม่งคือเพื่อนรักกันจริงๆ นั่นแหละ เวลาดราม่าก็เสือกจะดราม่าพร้อมกันอีก...กูกับมึงทำบุญมาด้วยกันเยอะใช่มั้ย
“วันนี้กูจะไปบ้านพ่อแม่เค้า” กันต์เล่าให้ผมฟัง “กูอยากให้มึงได้กับฟาร์ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่กูจะบอกมึง”
“อะไรวะ”
“พ่อเกล้าอาจจะเอาปืนมายิงกู”
“คิดมากเกินไปแล้ว”
“ก็บอกไว้ก่อนอ่ะ ไอ้เชี่ยฟาร์มันนิสัยดี รวยด้วย”
“กูไม่ได้สนความรวยเลยเหอะ”
“แล้วมึงสนมันเพราะอะไรวะ” กันต์ถาม
“น่ารัก”
“น่ารัก?”
“ใช่ น่ารักจะตาย”
“เออ คนมันชอบนี่เนอะ”
“วันนี้กูควรทำอะไรเรื่องฟาร์หรือเปล่า”
“ทักเฟซไปดิ มึงบอกมึงจะทักเขาตลอดไม่ใช่เหรอ”
“เชี่ย ไม่กล้า กูเพิ่งถูกปฏิเสธมานะ”
“ความหน้าด้านของมึงหายไปไหนหมด”
“หายไปกับความรักที่มีให้ฟาร์”
“อ่ะนี่โทรศัพท์” กันต์ส่งโทรศัพท์มาให้ผมเพื่อตัดความรำคาญ “ทักไปซะ เอาแบบพอดีๆ อย่าให้เขารำคาญ ทำได้ใช่ป่ะ”
“อืม...”
เสียงของผมหาได้มีความมั่นใจสักนิดไม่...ผมจ้องมองโทรศัพท์ในมือพลางคิดว่าควรทักไปว่ายังไง ไอ้กันต์ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่แคร์อะไรผมแล้ว เอาแต่นอนและก็กินแบบนั้น มันคงเครียดมากนั่นแหละครับ เวลามันเครียดทีไรก็เป็นแบบนี้แหละ นอนและก็แดก (แต่เสือกไม่อ้วน กูเกลียดแม่งตรงนี้แหละ)
แชตเฟซบุ๊กของฟาร์แสดงสีเขียว แปลว่าออนไลน์อยู่ ผมกดชื่อฟาร์ไปและก็เริ่มทัก
Thaitep verycool : ตื่นแล้วเหรอ
ฟาร์ตอบกลับมาไวมากกกกกกกกกกกกกกก
Sofa Nitiwat : ตื่นแล้ว
Sofa Nitiwat : ต้องไปส่งเครื่องดนตรีอ่ะ
ผมแอบยิ้มที่ฟาร์ไม่ได้รำคาญอะไรผมเท่าไหร่
Thaitep verycool : ให้พาไปป่ะ
หน้าด้านไปอีกกู...ไม่ต้องด่าครับ ผมด่าตัวเองให้แล้วล่ะ
Sofa Nitiwat : บ้าป่ะวะ ไม่เป็นไร
หรือบทสนทนาของเราสองคนในวันนี้จะมีแค่นี้จริงๆ หว่า ไม่ ผมไม่ยอมหรอกนะ ชวนคุยอย่างหน้าด้านๆ เข้าไว้ไอ้เต๊บ มึงทำได้ กูเชื่อว่ามึงทำได้
Thaitep verycool : ไปกี่โมงล่ะ
Sofa Nitiwat : เนี่ย เดี๋ยวก็ไปแล้ว
Thaitep verycool : อย่ายกของหนักนะ
Sofa Nitiwat : กูไม่ได้ท้อง
Thaitep verycool : ให้ลูกน้องยก
Sofa Nitiwat : มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
Thaitep verycool : ขอบคุณนะที่ยังคุยกับกูอยู่
Sofa Nitiwat : กูสัญญากับมึงไว้...
ผมยิ้ม...เห็นมั้ย คนที่ผมชอบน่ารักจะตาย
Thaitep verycool : ถ้ามึงอึดอัด จะไม่คุยก็ได้นะ
Sofa Nitiwat : ไม่ได้อึดอัดอะไร...
นั่นไง เหยื่อตัวนี้มันอ่อยเสืออย่างผมชัดๆ ทำแบบนี้พี่เตรียมตะครุบลูกเดียวนะพี่พูดเลย
Thaitep verycool : งั้นกูก็จะจีบมึงผ่านแชตเฟซบุ๊กนี่แหละฟาร์
วันนี้ทั้งวันผมคุยกับฟาร์ผ่านแชตจนเกือบถึงเวลางานเลยครับ...
Thaitep verycool : ส่งเสร็จยัง
Sofa Nitiwat : อืม กำลังรอเขาเช็กของอยู่
Thaitep verycool : ใครซื้อวะ
Sofa Nitiwat : วงดุริยางค์โรงเรียนหนึ่งน่ะ
Thaitep verycool : กินข้าวด้วยนะ
Sofa Nitiwat : รู้ได้ไงว่าหิวอยู่
Thaitep verycool : เรื่องของมึงกูเก่งตลอดนั่นแหละ
Sofa Nitiwat : ขี้โม้สัดๆ มึงก็อย่าลืมกินข้าวด้วยล่ะ
Thaitep verycool : กูต้องรู้ก่อนว่ามึงกินอะไร
Sofa Nitiwat : ข้าวมันไก่แถวนี้มั้ง
Thaitep verycool : งั้นกูกินข้าวมันไก่
Sofa Nitiwat : ไอ้ขี้ก๊อป
Thaitep verycool : กูขี้เกียจคิด 555 กินแบบมึงนั่นแหละดีแล้ว กินแบบคนที่กูชอบ
Sofa Nitiwat : ...
Thaitep verycool : ทำไม
Sofa Nitiwat : เปล่า
Thaitep verycool : เขินก็บอก
Sofa Nitiwat : บ้านมึง
Thaitep verycool : มึงแอบยิ้มกูรู้
Sofa Nitiwat : มั่วละ
Thaitep verycool : ไปทำงานกี่โมงอ่ะ
Sofa Nitiwat : ก็ตามเวลาที่ต้องตอกบัตร
Thaitep verycool : กูจะรอนะ
Sofa Nitiwat : มึงก็ต้องไปทำป่ะวะ
Thaitep verycool : ก็กูจะรอมึง
Sofa Nitiwat : คนอื่นรู้ป่ะว่ามึงชอบกู
Thaitep verycool : มีคนรู้อยู่
Sofa Nitiwat : เชี่ยกันต์แน่ๆ
Thaitep verycool : ถั่วต้ม
Sofa Nitiwat : ไม่อร่อย
Thaitep verycool : 555
Sofa Nitiwat : เจอกันที่ทำงาน
Thaitep verycool : จะเลิกคุยกับกูเหรอ
Sofa Nitiwat : กูจะแดกข้าว
Thaitep verycool : ไหนล่ะข้าวมันไก่
Sofa Nitiwat : *ส่งรูปข้าวมันไก่*
Thaitep verycool : น่าอร่อย เดี๋ยวไปแดกมั่ง
Sofa Nitiwat : เชิญ
Thaitep verycool : ขอให้อร่อยนะครับ
Sofa Nitiwat : กูขนลุกว่ะ
Thaitep verycool : ทำไม
Sofa Nitiwat : มึงพูดเพราะ
Thaitep verycool : กูก็พูดแบบนี้ตลอด
Sofa Nitiwat : ตัวจริงมึงเถื่อนจะตาย
Thaitep verycool : ก็พูดเพราะเฉพาะกับคนที่กูชอบ
Sofa Nitiwat : กูแดกข้าวมันไก่ละ
“โธ่ ไอ้สัด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ วางมั่งเหอะ โทรศัพท์อ่ะ” ไอ้กันต์ด่าผมทันทีที่ผมกับมันขับรถถึงร้านเฮียเกล้า ที่ทำงานของเรา ที่ไอ้กันต์มาที่นี่ก่อนเพราะมันต้องการเช็กว่าเฮียเกล้าอยู่ที่นี่หรือเปล่า ปรากฏว่าเฮียไม่อยู่ครับ ท่าทางมันจะต้องไปบุกบ้านของเฮียจริงๆ แล้วล่ะ บ้านที่มีพ่อกับแม่ของเฮียอยู่...
“โชคดีนะเว้ยมึง” ผมเดินมาส่งไอ้กันต์ทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากจอ
“เออ มึงก็เหมือนกัน” กันต์โบกมือให้ผม และก็มุ่งหน้าไปยังบ้านของเมียมัน
ส่วน (อนาคต) เมียของผม...ตอนนี้คงยังกินข้าวมันไก่ไม่เสร็จ ผมจึงกดนั่นกดนี่รอให้เขาตอบผมกลับมา ซึ่งเขาไม่ตอบกลับมาเลยครับ ผมไปกินข้าวมันไก่หน้าเซเว่นที่ปากซอยร้านก็แล้ว ซื้อชาเย็นกินก็แล้ว ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ฟาร์ก็ยังไม่ตอบมา ผมจึงทักไปหาเขา
Thaitep verycool : ทำไมเงียบ
เชื่อมั้ยครับว่าฟาร์อ่านและก็ตอบมาไวมาก
Sofa Nitiwat : มึงไม่ได้ถามอะไรนี่หว่า
แม่งจริง พูดอีกก็ถูกอีก ข้อความสุดท้ายก่อนหน้าที่เขาจะหายไปก็คือข้อความจากเขา ข้อความที่บอกว่าเขาจะไปกินข้าวมันไก่
ผมส่งยิ้มผ่านจอ รู้สึกว่ายิ่งคุยก็ยิ่งชอบคนคนนี้จริงๆ
Thaitep verycool : มารอมึงอยู่ที่ทำงานแล้ว รีบมาเร็วๆ เข้า
Sofa Nitiwat : ขยันไปเปล่า คุณเกล้าไม่ขึ้นเงินเดือนให้มึงหรอก
Thaitep verycool : กูทำงานด้วยใจรัก ไม่สนใจเงินเดือน และมาทำเพื่อที่จะมาเจอมึง
Sofa Nitiwat : เหรออออออออ
Thaitep verycool : เออออออออออออ
Sofa Nitiwat : กูเช็กบัญชีที่ร้านก่อนนะ
Thaitep verycool : ครับ แล้วเจอกัน
Sofa Nitiwat : มึงพูดเพราะแล้วกูขนลุกว่ะ ถึงแม้ว่ามึงจะพิมพ์เอาก็เหอะ
Thaitep verycool : ขนลุกแล้วชอบมะ
Sofa Nitiwat : กูไปละสัด
Thaitep verycool : จะรอนะครับผม
Thaitep verycool : ถึงบ้านเฮียยังวะกันต์
KANTORN NO.12 : ยัง มาหาเกล้าก่อน
Thaitep verycool : อ้าว เฮียไม่ได้อยู่บ้านเหรอ
KANTORN NO.12 : อยู่ร้านกาแฟแถวบ้าน มาเตรียมตัวเตรียมใจ
Thaitep verycool : นับถือใจเฮียว่ะ
KANTORN NO.12 : ยังไง
Thaitep verycool : เฮียเขาก็คงจะคุยกับพ่อแม่เรื่องที่คบกับมึงอยู่
KANTORN NO.12 : ...เหรอวะ
Thaitep verycool : เฮียเกล้าของกูชอบมึงมากนะ มึงรู้ตัวมั้ย
KANTORN NO.12 : เชี่ยยยยยย ใจกูสั่นเลย
Thaitep verycool : สาดดดดด ไปๆ ไปคุยกับเขาดีๆ
KANTORN NO.12 : ไม่มีมึง กูคงไม่ได้รักกันกับเกล้าอ่ะ
Thaitep verycool : บอกเฮียขึ้นเงินเดือนให้กูซะ
KANTORN NO.12 : กูก็รักเขามากเหมือนกันมึง
KANTORN NO.12 : ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กูก็ไม่ยอมเลิกกับเขาแน่ๆ มึงคอยดูเลย
Thaitep verycool : พี่เป็นไอดอลของผมฮะ พี่กันต์
TBC*
คนมีชู้ก็ต้องคุยกับชู้ทุกวัน (มีการแซวตัวละครตัวเอง)
หน้าปกแปะไว้ที่เพจของสนพ.แล้วนะคะ ไปชมกันได้น้าา
โดยส่วนตัวคนเขียนชอบมากๆ เลย น้องกันต์หล่อมากกกกกกก : )
#ทีมพระเอกยังไงก็ทีมพระเอกอย่างงั้น