{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 675135 ครั้ง)

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
งานนี้เต๊บฟาร์ต้องมา

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ชอบลุคนายสิบสองเป็นผู้ใหญ่อ่า  :ling1:
เจ้านายอย่าเพิ่งไปกังวล เราเชื่อว่าสิบสองจะปกป้องเจ้านายได้
เอาความหล่อเข้าสู้! 5555555555

ออฟไลน์ hinago

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เต๊บฟาร์ กล้ากันต์ บันไซ~~

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
สิบสองน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เกล้าน่ารัก มิน่าล่ะ กันต์ถึงได้หลงขนาดนี้

เดี๋ยวนะ เต็บฟาร์นี่อิ๊อ๊ะยังไง ๆ

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เต็งฟาร์นี่ยังไงๆๆๆ มีการจิ๊กตงจิ๊กตังค์ แหม่ๆ ขอดีๆฟาร์ก็ให้เเล้ววว 5555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
 :mew2: เค้าคบกันแล้ว น่ารักเป็นที่สุด
ดีนะที่หึงอะ ไม่งั้นสิบสองอดนะ

คงโดนป่วนน่าดู แล้วแตงไทยมาอีกทำไมน่ะ
สิบสองทำไรไว้

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :o8: ในที่สุด  :hao7: พี่เกล้ากะสิบสองก็คบกัน :o8:
ฟาร์เต๊บเถอะ :hao7:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
คุณแม่คงไม่ใจร้าย :ling3:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 16
สังสรรค์กับลูกน้อง







   “ตกลงเมื่อไหร่มึงจะคืนเงินสองพันของกู”
   “กูไม่ได้เอาไป!”
   “แต่กูหาตังค์กูไม่เจอ”
   “กูไม่ได้เอาไป กูไม่ได้เอาไปจริงๆ”

   นี่ผมตื่นมาเจอการถกเถียงกันของไอ้หนึ่งกับไอ้สิบสี่จริงๆ น่ะเหรอ วันนี้ผมเรียกพวกพนักงานชายมาจัดการเรื่องซ่อมร้านในวันหยุดน่ะครับ ส่วนใหญ่ก็พากันมาหมดนั่นแหละ(ไม่รู้ทำไมแม่งไม่เคยมาครบกันสักที) ทันทีที่ไอ้หนึ่งกับไอ้สิบสี่มันมาถึง มันก็เถียงกันให้ผมเห็นทันที

   “พวกมึงช่วยเห็นหัวกูนิดหนึ่ง” ผมเปรยเบาๆ จนพวกมันให้ความสนอกสนใจผม ไอ้สัดเอ๊ย กูยืนตรงนี้ตั้งนาน เถียงกันข้ามหัวกูอยู่ได้

    ทั้งคู่ทำหน้าเกรงใจผม แต่แล้วไอ้บุคคลที่อยู่กับผมมานานมันก็เอ่ยปากโวยวายต่อไป

   “กูไม่ได้เอาไป”
   “แล้ววันรับปริญญาจริงนั้นเงินมันหายไปได้ยังไง”
   “ไม่รู้”   

   ผมกำลังลังเลว่าผมควรจะเป็นฝ่ายจัดการปัญหาของพวกมันหรือเปล่าเพราะผมเป็นเจ้านายพวกมัน แต่ลองนึกๆ ดูอีกทีถ้าให้ผมจัดการก็หนีไม่พ้นควักเงินตัวเองจ่ายให้ไอ้สิบสี่ทั้งๆ ทีไอ้หนึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นคนเอาไป เพราะงั้นผมอยู่เฉยๆ นิ่งๆ ดีกว่า (ทำแบบนั้นผมคงถูกมองว่าเป็นเจ้านายที่ใจดีตายห่า...) อีกอย่างหนึ่งสิบสี่เองมันก็ไม่ได้โวยวายจริงจังอะไรมาก สองพันคงเป็นเงินจิ๊บๆ สำหรับมัน เล่นดนตรีวันเดียวก็ได้แล้ว

   วันนี้สิบสองยังไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็น มันบอกว่าคุณแม่คนสวยของมันมาเยี่ยมแถมยังเอ่ยปากให้ลูกชายพาไปทำธุระเล็กน้อย เจ้านั่นมันก็เลยบอกว่าจะมาสายนิดหน่อย ผมก็เลยสั่งให้พวกที่มาถึงแล้วจัดการตอกตะปูตรงแท่นเวทีเสริมความแข็งแรง วันก่อนเวทียุบลงไปนิดหน่อยเนื่องจากดนตรีที่มันส์เกินไปของพวกวงดนตรีและสิบสองก็ออกลีลามากเกินไปหน่อยด้วย   ทั้งนี้ทั้งนั้นพนักงานทุกคนยังไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายของพวกเขานั้นไม่โสดเสียแล้ว อีกทั้งยังคบกับลูกน้องอีกต่างหาก ผมทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากๆ ในขณะที่สิบสองเองก็ทำตามคำพูดของผมทุกอย่างนั่นก็คือไม่ยอมบอกใคร ทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้นมาก เพียงแต่ว่าผมต้องระมัดระวังเวลาที่ไอ้สิบสองมันชอบเดินมาหา

   มันไม่ได้เดินมาหาอย่างเดียวครับ มันมาแต๊ะอั๋งด้วย บางครั้งก็แต๊งอั๋งผ่านบลูทูธ (จ้องมองด้วยสายตาหวานๆ เหมือนอยากกินไปทั้งตัว แต่ไม่แตะเนื้อต้องตัว) หรือไม่ก็หาโอกาสแตะมือผมทุกครั้งที่เดินสวนกัน บางครั้งก็แตะเฉยๆ บางครั้งมันก็จงใจจับมือผมเลย ผมนี่โคตรกลัวลูกน้องคนอื่นจะเห็นฉิบเป๋ง แต่โชคดีครับ ยังไม่มีใครมีความสงสัยอะไรในเรื่องนี้

   “เฮีย” ไอ้หนึ่งเดินเข้ามาเอาฝ่ามือโบกไปโบกมาใกล้ๆ ใบหน้าของผม “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร”
   “มันเรื่องของกู” ผมแกล้งโหด แล้วเดินหนีไอ้หนึ่ง
   “เฮีย เชี่ยฟาร์แม่งงอนผมเป็นตุเป็นตะแล้วเนี่ย” หนึ่งโอดครวญ วิ่งไล่ตามผมมา ผมหันขวับกลับมามองมันอย่างสนใจ
   “ตกลงมึงเป็นคนเอาเงินมันไปใช่มั้ย”

   หนึ่งกลืนน้ำลายก่อนที่จะพยักหน้า “ใช่ครับ”

   “มึงเอาไปทำเชี่ยอะไร” ผมหาม้วนกระดาษแถวนั้นมาเคาะหัวลูกน้องตัวแสบ
   “ก็เห็นเงินมันอยู่ตรงหน้า ผมก็จิ๊กดิ”

   สันดานเสียแล้วมั้ยล่ะไอ้นี่ ผมอ้าปากเตรียมด่ามันเต็มที่ แต่แล้วมันก็ดันเอ่ยแทรกผมขึ้นมาเสียก่อน

   “ผมล้อเล่น” หนึ่งรีบแก้ต่างทันทีที่เห็นสายตาของผม “ผมแกล้งมัน”
   “แกล้งเนี่ยนะ แกล้งทำไม เรื่องเงินเรื่องใหญ่นะเว้ย” มึงช่วยพิจารณาความเค็มของเจ้านายมึงระหว่างที่คิดเรื่องนี้ด้วย...
   “ก็ผม...ผม...ผม...” หนึ่งดูมีสายตาล่อกแล่ก ผมกอดอกจ้องมองมันเขม็งอย่างจับผิด
   “อะไรของมึง”
   “เรื่องนี้ผมปรึกษาใครไม่ได้เลย นอกจากเฮีย”
   “อะไรวะ” ผมโดนไอ้หนึ่งลากไปยังส่วนที่ลับหูลับตาคน พนักงานที่มาส่วนใหญ่กำลังซ่อมร้านกันอยู่ ว่าแต่ทำไมไอ้หนึ่งไม่ไปทำวะ อย่าบอกนะว่ามันถือโอกาสอู้น่ะ!
   “เฮียห้ามบอกใครเลยนะ กับไอ้สิบสองก็ห้ามบอก”

   ผมกระแอม มันพูดแนวๆ นี้เหมือนมันจะรู้ว่าผมใกล้ชิดกับไอ้สิบสองเลย

   “ว่ามา”
   “ผม...” เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมเห็นไอ้หนึ่งสูญเสียความมั่นใจ มันดูกระดากอายยังไงชอบกล “ผม...”
   “มึงพูดวันพรุ่งนี้ก็ได้นะ กูรอได้”
   “ผมพูดแล้ว”
   “...”

   “ผม...ผมตุงกับไอ้สิบสี่”

   หนึ่งไม่ยอมสบตาผม ในขณะที่ผมกำลังจ้องมองมันอย่างตื่นตะลึง

   ไอ้คำว่า ตุง ที่ว่านั่นหมายถึง...

   ผมก้มหน้าดูเป้าของมันโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่เพราะว่าผมสนใจเป้ามันนะครับ แต่มันเป็นไปเอง ไอ้หนึ่งหันหนีทันทีที่ผมมองลงไป

   “อันนั้นเหรอ” ผมไม่รู้จะทำสีหน้ายังไง

   หนึ่งเอามือนวดขมับตัวเองก่อนที่จะพยักหน้า

   “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเงินสองพัน ค่าที่มันต้องจ่ายเพราะทำเป้ามึงตุงหรือไง”
   “ไม่ใช่เฮีย” หนึ่งพูด ผมหรี่ตามองมันอย่างเจ้าเล่ห์ นานๆ ทีไอ้เชี่ยนี่จะมีจุดอ่อน และผมก็รู้แล้วด้วยว่าจุดอ่อนนั้นน่ะคืออะไร “จริงๆ แล้วผมไม่ค่อยได้คุยกับไอ้สิบสี่ ในบรรดากลุ่มเพื่อนเนี่ย ผมคุยกับมันน้อยที่สุดเลย”

   “แล้วยังไงต่อ”

   “ทำยังไงผมถึงจะได้คุยกับมันมากขึ้นได้ล่ะ...ผมก็ต้องขโมยเงินมันไง”

   ผมนิ่งชะงักค้างแข็งเหมือนมีคนผลักผมเข้าไปในช่องฟรีซ

   เป็นวิธีอยากใกล้ชิดที่เหี้ยมากกกกกกกกกกกกก มีคนที่ให้ความเหี้ยได้มากกว่านี้มั้ยครับ!!!!!! ผมยกให้ไอ้เชี่ยหนึ่งชนะเลิศในเรื่องวิธีเหี้ยๆ เลย แม่งคิดได้ยังไง

   “ผมเพิ่งรู้จากไอ้สิบห้าว่าสิบสี่มันไม่ชอบคนขโมยของๆ มันน่ะ”
   “มึงก็ยังไม่ชอบเลยมั้ง” ปวดหัวกับแม่งฉิบหาย
   “แล้วผมควรทำยังไงอ่ะเฮีย มันไม่คุยกับผม ไม่มองหน้าผมแล้วเนี่ย”

   “ก็สมควรเป็นแบบนั้นอ่ะ วิธีมึงเหี้ยมาก กูไม่วิ่งไล่เตะมึงก็บุญหัวมึงเท่าไหร่แล้ว” ผมโพล่งออกมาอย่างเหลืออด เชื่อมั้ยครับว่าไอ้หนึ่งมันไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผมเลย ดูเหมือนมันจะเครียดกับการที่ไอ้สิบสี่ไม่คุยกับมันมากกว่า

   “วิธีนั้นมันก็ดูเป็นผมดีมั้ยล่ะ” หนึ่งพูดอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ
   “สรุปคือ...มึงชอบเพื่อนมึง มึงชอบไอ้สิบสี่”
   “เฮีย เบาๆ” หนึ่งจุ๊ปากใส่ผม “ความลับของเราสองคนนะ ห้ามบอกไอ้สิบสองเด็ดขาด”
   “กูดูเหมือนสนิทกับมึงมากกว่าไอ้สิบสองงั้นเหรอ” ผมเตือนสติมัน
   “เฮียไว้ใจได้มากกว่า ถ้าไอ้โหลมันรู้มันคงอดไม่ได้ที่จะไปปูดกับไอ้สิบสามและก็ไอ้สิบห้าแน่ๆ”

   มีเหตุผล ผมมองไอ้หนึ่งอย่างพินิจพิจารณา พลางอดคิดอย่างนึกสนุกไม่ได้ว่าการที่พนักงานที่มีปัญหามากที่สุดคนหนึ่งอย่างไอ้หนึ่งเผยจุดอ่อนมาให้ผมเห็น ผมควรจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ขู่มันเวลาที่มันสร้างปัญหาดีกว่า

   “ผมควรทำยังไงดีเฮีย...”

   “เป็นตัวมึงไง”

   “ถ้าผมทำตัวเป็นผม สมมติผมไปจีบเฮีย เฮียจะชอบผมป่ะ”

   “...”

   “เออเว้ย กูก็ถามโง่ๆ หนังหน้ากูกับไอ้สิบสองต่างกันราวกับสวรรค์กับนรก” มันพึมพำก่อนที่จะทำหน้าตาตื่นใส่ผม เมื่อเห็นว่าผมถลึงตาใส่

   “เดี๋ยวนะมึง”

   “ผมไปนะ”

   ก่อนที่ผมจะทันได้ด่ามัน ไอ้หนึ่งมันก็วิ่งหายออกไปจากรัศมีฝ่าเท้าของผมแล้ว ลับหลังมันผมแย้มยิ้ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมันกับสิบสี่ หรือว่าเรื่องของผมกับสิบสอง

   เอ๊ะ...หรือว่ามันรู้วะ

   เชี่ยแล้ว

   ถ้าไอ้หนึ่งรู้ก็คงจะไม่แปลกหรอก เพราะสิบสองสนิทกับหนึ่งมาก แต่ถ้าคนทั้งร้านรู้ล่ะก็...ผมตายแน่ๆ

   เอาเซ่ไอ้เชี่ยหนึ่ง! ถ้ามึงปูดเรื่องกูกับสิบสองให้คนในร้านรู้ กูก็จะปูดเรื่องมึงเหมือนกัน!








   “งอนแน่ๆ” เสียงของสิบสามเอ่ย
   “กูก็ว่างอน” สิบห้าเห็นด้วยกับสิบสาม
   “กูก็คิดงั้น” สิบสี่กล่าวเสริม
   “กูคิดเหมือนมึงเลยฟาร์” หนึ่งพูดต่อจากสิบสี่ หลังจากนั้นมันก็โดนสิบสี่มองเหยียดๆ ก่อนที่จะเดินหนีให้ออกห่างจากไอ้หนึ่ง

   สิบสองมาแล้ว และมันก็มาสายมาก

   ไม่สายหรอกครับ แต่เย็นย่ำก่อนค่ำมืดเลยแหละ พนักงานส่วนใหญ่กลับไปหมดแล้ว เหลือแต่เพื่อนไอ้สิบสองกับผมที่ต้องมานั่งกับนอนรอมันในร้าน สิบสองมันเพิ่งเข้ามา ในขณะที่ผมแกล้งเช็คนั่นเช็คนี่อยู่ที่เคาเตอร์ ผมไม่ค่อยได้ยินว่าสิบสองกับเพื่อนมันซุบซิบอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ มีคำว่า ‘งอน’ ผมดูเหมือนคนที่กำลังงอนเหรอ ผมเปล่านะครับ

   ผมไม่ได้งอน ผมโกรธเลย

   มันส่งข้อความบอกว่าจะมาตั้งแต่บ่ายโมง ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว มันเพิ่งโผล่หน้ามา อีกทั้งยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมอีก ผมพยายามทำตัวไม่คิดมากมากที่สุดแล้ว แต่ท้ายที่สุดผมก็คิดไปเองอยู่ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันหรือเปล่า มันไม่ยอมตอบข้อความผม ไม่ยอมรับสายผม ผมโคตรจะกังวลกับมันเลย

   พอมันโผล่หน้ามา แม้ว่าผมจะอยากเข้าไปถาม(หรือไม่ก็ต่อว่า)เรื่องที่ทำไมมันมาสาย เพื่อนมันก็ยืนอยู่กันเป็นฝูง ผมจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากแกล้งทำงานไปนิ่งๆ แบบนั้น

   ตอนนี้สิบสองทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดมาก...

   จากนั้นมันก็ไล่เพื่อนทั้งหมดออกไปจากส่วนอินดอร์ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ไล่เพื่อนทั้งหมดออกไปจากส่วนอินดอร์

   มึงไปเอาอำนาจมาจากไหนฟะ! ที่น่าตะลึงไปกว่านั้นก็คือเพื่อนมันแม่งก็ฟังคำมันด้วย ทั้งสี่คนเดินออกไปข้างนอก ปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้สิบสองสองคนภายในส่วนอินดอร์

   ไม่นานนักสิบสองก็มายืนอยู่หลังเคาเตอร์ พร้อมจ้องหน้าผมเขม็ง

   “ผมขอโทษ” สิบสองเอ่ยสั้นๆ อย่างจริงใจ พร้อมทำหน้ารู้สึกผิดจริงๆ
   “กูทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย” ผมบ่นออกมา “กูควรจะด่ามึงไหนฐานะเจ้านายหรือด่ามึงในฐานะแฟนดี”
   “ทั้งสองอย่างเลยก็ได้ พร้อมรับฟัง” สิบสองเอาแบมือยาวๆ ของมันมาแตะที่ใบหู แสดงท่าทางพร้อมรับฟังได้อย่างน่าหมั่นไส้
   “ในฐานะเจ้านาย ถ้ามึงจะไม่มา มึงควรบอกก่อน วันนี้ส่วนใหญ่ก็มาแต่ผู้ชายทั้งนั้น ไม่มีใครคิดมากกันหรอกนะถ้ามึงไม่มาช่วยกัน แต่มึงควรบอกก่อน ไม่ใช่บอกว่าจะมาแต่ไม่มา...คนทั้งกรุ๊ปไลน์ของร้านมันเห็นเพราะมึงบอกว่ามึงจะมา ทุกคนจะมองว่ามึงไม่รับผิดชอบ”
   “ครับ...” สิบสองก้มหน้าก้มตา
   “ส่วนในฐานะแฟน...”
   “...”
   “ทำไมมึงไม่ยอมตอบข้อความหรือรับสายกูวะไอ้บ้า!” เสียงของผมดังขึ้นกว่าตอนที่ผมด่ามันในฐานะเจ้านายมาก “กูไม่รู้ว่ามึงไปกวนบาทาใครที่ไหนหรือเปล่า กูไม่รู้ว่ามึงจะโดนคนที่มึงกวนบาทาจับมึงฆ่าหมกส้วมมั้ย กูไม่รู้ เพราะมึงไม่รับสายกู!”
   “เกล้าใจเย็น” สิบสองพยายามให้ผมเย็นลง
   “ไม่ต้องมาเรียกชื่อ!”
   “ใจเย็นๆ ก่อน” สิบสองทำหน้าเหยเก ราวกับไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง “เห็นผมเป็นคนกวนตีนชาวบ้านไปทั่วเหรอ”
   “ใช่”

   สิบสองทำหน้าตาเฉยเมยใส่ผมทันที “เชื่อเขาเลย”

   “ไปไหนมา”

   สิบสองถอนหายใจยาวเหยียด “แม่พาไปหาพ่อมาครับ...”

   ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง เท่าที่ผมรู้ก็คือสิบสองทะเลาะกับพ่อมานานหลายปีมากแล้วแถมยังไม่ยอมพูดกันอีกด้วย การที่แม่ของสิบสอง(ซึ่งสวยมาก...ว่าแต่กูจะย้ำทำไมวะ)พามันไปหาพ่อนั่นหมายถึงวันนี้มันต้องเจอศึกที่ไม่หนักก็เบา

   ผมเปลี่ยนเป็นสายตาเห็นใจทันที

   “ผมไม่รู้ว่ามันจะกินเวลาขนาดนี้ พ่อเหมือนแกล้งผมอ่ะ” สิบสองเริ่มโวยวาย “เขาบอกให้แม่พาผมไปที่บริษัทสาขารังสิต จากนั้นเขาก็บอกว่าให้พามาที่บริษัทสาขาอโศก รังสิตกับอโศกนะครับ รถแม่งติดอย่างเหี้ยอ่ะ! เท่านั้นไม่พอครับ พ่อบอกว่าไม่ไปที่อโศกแล้ว แต่จะไปที่สาขาฝั่งธนแทน สรุปก็คือ...วันนี้ผมไม่เจอพ่อเลย”

   หากสิบสองนั้นกวนตีนแล้วไซร้ พ่อของมันยิ่ง...มากกว่ามันอีก

   ผมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้นครับผม! กรุณาเติมในช่องว่างกันเอาเอง

   “พ่ออาจจะมีธุระจริงๆ ก็ได้นะ” ผมพยายามทำให้สิบสองมองโลกในแง่ดี
   “เหรอ พ่อพยายามปั่นหัวปั่นประสาทผมเล่นน่ะสิ แม่โกรธพ่อมาก คราวนี้แม่คงไม่คุยกับพ่อไปด้วยอีกคน”

   ช่วงเป็นครอบครัวที่แฟนตาซีจริงๆ

   “สรุปคือหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย...” สิบสองสบตาผมอย่างมีความหวัง

   ผมถอนหายใจยาว “มึงไปกวาดร้านอีกรอบหนึ่งก่อนและก็ค่อยกลับก็แล้วกัน” ไม่สั่งไม่ได้ครับ ลูกน้องผมมันมองอยู่ หากผมปล่อยสิบสองไปเฉยๆ พวกมันต้องโวยวายแน่ๆ

   “แค่กวาดร้านเหรอ ให้ทำอะไรอีกหรือเปล่า” อีกฝ่ายถามเหมือนรู้หน้าที่ดี

   “ไม่มีอะไรให้ทำแล้วอ่ะ” ผมพูดสั้นๆ “ว่าแต่เพื่อนมึงรออะไรกันวะ...ทำไมไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องกันสักที”

   สิบสองมองไปที่เพื่อนของมันทั้งสี่คนที่รออยู่ข้างนอก

   “วันนี้พวกเราจะไปดื่มกันครับ”

   ผมยืนมองสิบสองอยู่นานสองนาน

   “มองผมทำไมเหรอ...”

   “ปกติถ้าเจ้านายอยู่คนเดียวแล้วไม่มีอะไรทำต่อเนี่ย ตามมารยาทแล้วลูกน้องต้องชวนเจ้านายไปด้วยหรือเปล่าวะ” กล้าดียังไงที่ไม่ชวนกู ไอ้สาดดดดด ไอ้พวกที่อยู่ข้างนอกก็เหมือนกัน แม่งเงียบปากเชียว...เห็นกูเป็นเจ้านายมั้ยเนี่ย (จริงๆ คืออยากไปนั่นเอง)

   สิบสองกระพริบตาปริบๆ “เหรอครับ”

   “เออสิ”

   “ช่วยไม่ได้นะ เจ้านายผมดันเป็นแฟนผมด้วยเนี่ยสิ” สิบสองไปหยิบไม่้กวาดมาถือเอาไว้

   “แปลว่า...”

   “แปลว่าผู้ชายแมนๆ จะกินเหล้ากัน ใครมันจะชวนแฟนไปด้วยล่ะโว๊ะ!”

   “ว่าไงนะ!”

   สิบสองวิ่งหนีก่อนที่ผมจะวิ่งไล่เตะมันได้ทัน...

   คิดว่าผมจะได้ไปกับมันและก็เพื่อนมันมั้ยครับ








   “พี่เกล้า...พี่เกล้ามาด้วยพี่เกล้าต้องเลี้ยงนะ”
   “เกร็งฉี่แทบราดเลยกู”
   “เชี่ยกันต์ มึงนะมึง...”

   สิบสาม สิบสี่ และก็สิบห้ากำลังสบตาผมพลางยิ้มแหยๆ ใส่ผม ในขณะที่ผมมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้นราวกับคนชนบทที่ไม่เคยเข้าเมืองมาก่อน สรุปก็คือผมมาด้วยครับ มาโดยที่สิบสองมันไม่ได้ชวนเลยสักคำ ผมมาเอง!
   สิบสองได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้เพื่อนเพราะรู้ว่าห้ามผมยังไงก็ห้ามไม่ได้ พวกมันคงอยากจะสนุกกัน คอยส่องคอยมองสาวกันไปเรื่อย การที่ผมเป็นเจ้านายของพวกมันแถมยังมานั่งอยู่ใกล้ๆ พวกมันด้วยทำเอาพวกนั้นทำอะไรไม่ถูกไปเลย

   “พวกมึงตามสบาย มึงก็รู้ว่าเฮียเขาเป็นคนชิลๆ” หนึ่งพูดให้บรรยากาศมันดีขึ้น ไอ้เชี่ยหนึ่งมันคอยมองไปที่ไอ้สิบสี่อยู่บ่อยครั้ง จนถึงวินาทีนี้สิบสี่มันก็ยังไม่ยอมคุยกับหนึ่ง

   บันเทิงละกู...งอนยาวๆ ไปเลยนะเว้ยสิบสี่ แก้แค้นแทนกูด้วย อยากสร้างเรื่องให้เจ้าของร้านอย่างกูบ่อยนัก (คิดในใจ)

   “เอางี้ กูเลี้ยงเอง” ผมพูดอย่างใจดี สปอร์ต กทม.

   บรรยากาศดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนน่าหมั่นไส้ พวกนักดนตรีต่างพากันแย่งกันชงเหล้าให้ผมดื่มกันใหญ่ ไอ้สิบสองที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมนั่งยิ้มๆ และก็เล่นโทรศัพท์ ส่วนไอ้หนึ่งก็คอยมองแต่ไอ้สิบสี่ตาละห้อย

   ผมไม่ค่อยได้มานั่งร้านคนอื่นแบบนี้ แม้ว่าจะออกไปกับเพื่อนอยู่บ่อยครั้งแต่ส่วนใหญ่ก็ไปร้านคนที่รู้จักมักจี่กัน แต่ในคราวนี้พวกลูกน้องมันพาผมมายังร้านที่ผมไม่เคยมามาก่อน ก็รู้สึกประหลาดดีเหมือนกัน ผมก็เลยมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเผื่อจะปรับใช้กับร้านตัวเอง(เขาเรียกหาอินสปายเรชั่น)

   สิบสองยังคงคุยกับแม่ผ่านไลน์อย่างเคร่งเครียด ในขณะที่พวกที่เหลือก็เริ่มชวนคุยกันเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้ ผมก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าใครโสดบ้าง

   สิบห้าไม่โสดแล้ว...
   สิบสามก็ไม่โสด...
   หนึ่งกับสิบสี่ยังโสด

   ส่วนสิบสอง ก็เอ่อ...รู้ๆ กันอยู่

   “สิบสอง มึงล่ะ มึงโสดหรือเปล่า” คนอื่นถามไอ้สิบสองด้วยสายตาเชิงหยอกล้อ ผมรีบยกเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มแก้เก้อ มึงแก้สถานการณ์เอาเอง กูไม่เกี่ยว!

   “ไม่รู้เหมือนกัน” ไอ้โหลตอบอย่างแพรวพราว ใช้ขาของมันมาสะกิดขาผมลับหลังสายตาคนอื่น

   “ช่วงนี้ออร่าของมึงดูเปล่งปลั่ง คล้ายคนมีความเลิฟ” สิบห้ากล่าวยิ้มๆ

   “เรื่องของกูน่า”

   “ชงให้กูไอ้สัด กูยื่นแก้วไปนานละ” ผมส่งแก้วให้สิบห้า ที่รับไปชงด้วยสายตาล้อเลียนยังไงชอบกลก็ไม่รู้ ผมตัดบทช่วยสิบสอง รวมไปถึงตัดบทช่วยตัวเองแบบทางอ้อมอีกด้วย

   ผมกับลูกน้องดื่มด้วยกันมาเป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ แล้ว มันก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรกันนี่หว่า พวกนี้แม่งจอยกับใครง่ายๆ อยู่แล้วอาจเป็นเพราะอารมณ์ศิลปินที่มีอยู่ในตัว ส่วนใหญ่มันจะเล่ากันเรื่องความเก่าความหลังช่วงเรียนมหา’ลัยด้วยกัน

   หนีไม่พ้นเรื่องความฮอตเว่อร์วังอลังการของไอ้สิบสอง

   ผมฟังไปก็รู้สึกแปลกๆ ไป จะออกตัวแรงก็ไม่ได้เพราะไม่ใช่นิสัย(จริงๆ น่ะเหรอ) จริงๆ แล้วผมพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองเป็นคนขี้หึงอยู่ แต่เชื่อเถอะครับว่าหากคุณคบกับไอ้สิบสอง ขอย้ำ ไอ้ สิบ สอง คุณจะต้องกลายเป็นคนขี้หึงแน่ๆ
   มันเป็นคนที่มีความเจ้าชู้แผ่ออกมาคล้ายกับมีฟีโรโมนเรียกเพศตรงข้ามอยู่มากแบบที่มันไม่รู้ตัว สายตาของมัน ท่าทางของมัน เวลาที่มันมองใครหรือสื่อสารกับใคร ไม่แปลกที่คนๆ นั้นจะหลงเสน่ห์มันได้โดยง่าย

   ยกตัวอย่างผมเองก็ได้...

   ขนาดบอกคนอื่นไปเยอะว่าต้องการโฟกัสเรื่องงาน ยังไม่คิดเรื่องความรัก สุดท้ายแล้วยังไม่รอดเลยครับ เสน่ห์ไอ้สิบสองร้ายกาจขนาดไหน คิดเอาเองก็แล้วกัน

   “เฮีย ทำไมยกเอาๆ แบบนี้อ่ะ” ไอ้หนึ่งอ้าปากค้างอย่างทึ่งๆ “ชงเลย ชงเลย สิบสี่ เอ๊ย สิบห้า มึงอย่าช้า”

   มันพูดผิดทำให้ไอ้สิบสี่หันขวับมามองมันด้วยสายตายังไม่หายเคือง
   สมน้ำหน้ามึง...

   “อย่าเยอะได้มั้ย พอแล้ว” สิบสองห้ามปราม “เดี๋ยวเจ้านายก็เมาหัวทิ่มหรอก”
   “เมาหัวทิ่มนั่นแหละดี กูเคยเห็นเฮียเขาเมาแล้ว อย่างฮา...” ไอ้หนึ่งเล่าอย่างออกรส ก่อนจะพูดเสียงดังล้อเลียนในสิ่งที่ผมเคยพูดว่า “กูจะบินไปดาวอังคารรรรรร!”

   ไอ้เหี้ย ผมชูนิ้วกลางใส่ลูกน้องตัวแสบ...ทั้งโต๊ะพากันหัวเราะครืน ในที่สุดก็มีพนักงานสองสามคนทำหน้าตาแตกตื่นมาที่โต๊ะของผมกับลูกน้อง

   “รถทะเบียน กม 113X เป็นของคุณหรือเปล่าครับ”
   “ครับ ของผม” ผมรับคำ
   “ช่วยออกไปหน้าร้านแป๊บหนึ่งหน่อยได้มั้ยครับ ดูเหมือนจะมีปัญหาแล้ว...”

   ไอ้เหี้ย รู้สึกใจหล่นไปที่ตาตุ่ม ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ ผมเป็นห่วงรถของผมมาก ถึงแม้ว่ารถคันนี้จะเป็นรถบ้าน ไม่ใช่สปอร์ตคาร์ก็ตาม ขึ้นชื่อว่ารถ ผมหวงและก็ห่วงหมดนั่นแหละ

   “ไหน เจ้าของมันอยู่ไหน มานี่ดิ๊!”

   เหี้ยไรวะ ผมเดินหน้าซีดไปยังจุดเกิดเหตุ เพิ่งรู้ว่ารถของผมถูกชนจนเอียงจากเส้นแสดงอาณาเขตการจอดรถบนพื้นไปเยอะมาก แถมยังมีร่องรอยการขีดข่วนจากการชนมากอีกด้วย
   คนที่กำลังหาเรื่องหน้าตาแดงก่ำเหมือนกำลังเมาอย่างเต็มที่ ส่วนคนที่ขับชนน่าจะเป็นผู้หญิงของมัน เพราะทำหน้าขอโทษขอโพยอยู่ข้างๆ

   “มึงจอดเหี้ยอะไรของมึง จอดก็ไม่ตรงเส้น!”

   “หา” ผมหันไปมองลูกน้องที่เดินตามๆ กันออกมา ทุกคนงงกันไปหมด

   “ผมจอดตรงเส้น” สิบสองพูดเสียงเย็น มันเป็นคนขับ

   “ตรงเส้นห่าอะไร ถ้าตรงแล้วน้องหนูกูจะขับชนเหรอ แม่งจอดชิดกับรถกูจนจะได้เสียกันอยู่แล้ว!”

   “เพราะงั้นคุณก็ผิดสิครับ เพราะรถผมจอดนิ่งๆ แต่คุณขับมาชน”

   “กูไม่ผิด!” สิบสองโดนคนเมาคนนั้นหาเรื่อง “พวกมึงจอดสั่วๆ กันเอง”

   “ดูกล้องวงจรปิดมั้ยล่ะครับ”

   “...”

   “ขอโทษนะครับ มีกล้องวงจรปิดมั้ย”

   “ก่อนที่มึงจะพูดอะไร มึงคิดดีๆ” ไอ้คนเมาหัวสีแดง(มันทำผมสีแดง) พยักเพยิดไปทางด้านหลัง ไอ้เหี้ย มันมีลูกน้องประมาณสิบคน อย่างกับหนังมาเฟีย “มึงเห็นแบบนี้ มึงจะยอมรับหรือยังว่ามึงผิด”

   “ต้มตุ๋นชัดๆ” สิบสี่กระซิบข้างหูผม “อย่าไปยอมนะครับพี่เกล้า เอาเรื่องมัน”

   ผมมองไปที่ลูกน้องของตัวเองสลับกับฝ่ายตรงข้าม เรื่องจำนวนคนกับความสามารถในการชกต่อยแน่นอนว่าต้องเป็นรองนักเลงที่หาเรื่องของคนอื่นไปทั่วอย่างพวกมันแน่ๆ

   ผมไม่ผิด...แต่ผมไม่อยากมีเรื่อง

   “ไปดูกล้องวงจรปิดก่อน” สิบสองยังไม่ยอม มันหันไปหาพนักงานพร้อมๆ กับทำเสียงเข้มจนน่ากลัว นี่คือสิบสองในร่างผู้ใหญ่นั่นเอง

   “กูไม่ดู มีปัญหาอะไรมั้ย”

   “ถ้าอย่างนั้นผมจะโทรเรียกประกัน แล้วคุณก็ต้องจ่ายค่าเสียหาย”

   “กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ผิด! พวกมึงนั่นแหละจ่าย!”

   ลูกน้องของอีกฝ่ายต่างลุกฮือพากันมายืนข่มขู่ ผมหน้าซีดเผือดไปหมดเมื่อรู้ว่าหนึ่งในนั้นมีปืนด้วย

   กูยอมแพ้ทันที...อย่าไปยุ่งกับพวกแม่งน่าจะดีกว่า

   “เท่าไหร่ครับ” ผมรีบควักกระเป๋าสตางค์ออกมา
   “พูดง่ายๆ เหมือนไอ้หน้าละอ่อนแบบนี้ยังดีกว่า” ไอ้หัวแดงหันมาหาผม “กูไม่ขออะไรมาก สามหมื่นก็พอ”

   รถของมันไม่ใช่รถแพงอะไรมากมาย ผมไม่รู้ว่าค่าซ่อมนั้นสามหมื่นมันสมเหตุสมผลมั้ย แต่ถ้าจ่ายไปแล้วเรื่องมันจบ ผมก็ยอมว่ะ...

   ผมจะเอาชีวิตลูกน้องมาเสี่ยงไม่ได้จริงๆ

   สิบสองกำหมัดแน่นตอนที่ผมเซ็นเช็คให้อีกฝ่ายอย่างจนใจ

   “ไม่เป็นไรนะหนู หนูไม่ผิด พี่เคลียร์ให้แล้ว” ไอ้หัวแดงหันไปปลอบประโลมผู้หญิงที่เป็นคนขับ ยายนั่นกอดไอ้หัวแดงใหญ่เลย สรุปคือก็ไม่ได้รู้สึกผิดตั้งแต่แรกอยู่แล้วใช่มั้ย

   พวกนั้นพากันเดินแยกไป ลูกน้องผมต่างพากันโวยวายใหญ่ที่ผมยอมความง่ายๆ แบบนี้ ไอ้พวกตาไม่ดีเอ๊ย มึงไม่เห็นปืนหรือไง...
   ตอนนั้นผมวิ่งไปห้ามสิบสองไม่ทัน...สิบสองหาไม้มาจากไหนไม่รู้จากนั้นก็...

   ทุบกระจกรถพวกนั้นจนแตก

   “เหี้ยยยยยย” ผมร้อง

   “ไอ้สัดเอ๊ย!!!!!” ไอ้หัวแดงกับพวกกลับมาอีกครั้ง ผมกับลูกน้องรีบกระโดดขึ้นรถและก็พากันขับหนี ผมไม่ลืมที่จะส่งนามบัตรให้พนักงานตามไปเก็บตังค์ค่าเหล้าที่ร้านอย่างรวดเร็ว

   พระเจ้า...เกิดมาก็เพิ่งมีเรื่องกับมาเฟีย

   “มึงไม่ควรทำแบบนั้นนะสิบสอง” ผมพูด
   “สามหมื่นก็น่าจะโอเคถ้ารวมค่าซ่อมกระจก” สิบสองตอบอย่างเย็นชา
   “มึงใจร้อนเกินไปรู้ป่ะ”
   “ผมไม่ชอบให้เจ้านายยอมคนผิด ทั้งๆ ที่พวกเราไม่ได้ผิดอะไร”
   “แต่พวกมันมีปืน มันกล้าทำร้ายคน”
   “แล้วยังไง...ผมไม่เห็นจะกลัวเลย”

   ผมเงียบไปในทันทีแล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง บนรถไม่มีใครกล้าพูดอะไรหลังจากที่เราหนีจากคนพวกนั้นพ้นแล้ว...

   บาร์สุราลัยถึงคราวเคราะห์แล้วล่ะครับ



   “งอนใช่มั้ย”
   “ใช่”
   “รีบไปง้อเลยนะมึง”
   “รู้แล้วล่ะน่า”
   “แล้วมึงจะง้อยังไงวะกันต์”
   “...ก็ง้อไง กอด หอม ประมาณนี้”
   “เหี้ย กูทำแบบนั้นไม่ได้”
   “มึงจะไปง้อใครวะ”
   “ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”

   “ไอ้สัดเต๊บ อย่าเพิ่งวาง!”






TBC*




เป็นตอนที่มีหลากหลายอารมณ์มาก  :hao7:
คุณเกล้าผู้ยังไม่รู้ว่าเขารู้กันเรื่องตัวเองกับสิบสองหมดแล้ว...ความมึนนี้ 555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 17:49:21 โดย chiffon_cake »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สิบสองกอดนานๆ จับกดเลยจบ 55555 :z1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ยังไงต่อละทีนี้ 5555   

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยยยยยย เต๊บฟาร์ก็มาจ้าาาาา >////////< *ชูป้ายเชียร์*
ปล. พี่เกล้าระวังตัวด้วยนะคะ น้องเป็นห่วง .____.

ออฟไลน์ lion

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไอ้ขี้เมานั้นถ้าเราเจอนะ เราไม่ยอมแบบเกล้าแน่ๆ เราจะโทรเรียกตำรวจ มีปืนแล้วไง ตัวเองผิดแล้วมาโทษคนอื่น เฮี้ยมากผู้ชายแบบนี้  :m31: ปล.เต๊บฟาร์แน่ๆเลย

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ไอ้หัวแดง มันต้องตามมาเอาคืน แน่นอนเลย  :katai1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถ้าเราโฟกัสไปที่เต๊บฟาร์ไอ้โหลจะมาหักคอเรามั้ย ได้ข่าวว่าเรื่องนี้โหลเป็นพระเอก กร้ากกกกก :laugh:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ไอ้หนึ่งเอ็งเผยจุดอ่อนให้เจ้านายรู้แล้วววว
วร๊ายๆๆๆๆ  เอ็งโดนแน่ๆ 55555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ขอหนึ่งสิบสี่รัวๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ชั่วโมงนี้ต้อง หนึ่ง - ฟาร์ อาฮะอาฮะ :z2:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยย หวังว่าไอ้มาเฟียพวกนี้จะไม่ย้อนกับมาหาเรื่องเจ้านายอีกนะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สังสรรค์แบบงานเข้า

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
โอ้โห วัยรุ่นเลือดร้อน :m29:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สิบสองน่าจะเอาให้หนักกว่านี้นะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ meaopao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือดี ง้อกันานๆไปเลย เชื่อมั่นในศักยภาพสิบสอง ง้อทีนี่มดขึ้นอยู่แล้ว
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด