{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 675117 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
อ้าวๆๆๆ ค้างเลย โธ่ๆๆๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
555 เจ้านายไม่เคยจะทันลูกน้อง
แล้วมีโกรธมีหึงด้วยอะ เกล้าน่ารัก

สิบสองจัดให้หนักค่ะ ยอมคนง่ายอะไรแบบนั้น

หนึ่งรู้จักกันตั้งนานพึ่งมาตุงอะไรตอนนี้
ไปทำไรมารึป่าว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
หนึ่ง-ฟาร์นี่ คู่หูคู่ฮา ป่ะ  555 หนึ่งจะง้อไงเนี่ยยยย สิบสอง แกต้องไปง้อดีๆนะ หึหึ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
จะมีเรื่องกันในอนาคตอะเปล่า อ่าาาาา  :serius2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะมีเรื่องตามมาป่ะเนี่ย!?

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
วิถีคนแมน ชิบหายไม่ว่าขอข้าสะใจ #โหลกล่าว  :a14:   โหลอืดอาด ปันใจไปเชียร์เต๊บละ  :oni1:

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
หนึ่งวิธีแกนี่สุดยอด555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sb_ng

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
หนึ่งเอ้ยยยยย จีบแบบขโมยตังนี่เป็นอะไรที่แบบ ....... 5555555555
สู้ๆละกันเนอะ ง้อให้สำเร็จไวๆ หนึ่งสิบสี่ไฟท์ติ้ง !!
ดูปรมาจารย์สิบสองนี่ แพรวพราว มีความน่ารัก ใครๆก้ต้องใจอ่อนให้ 55555
เจ้านายก็น่ารัก มีเคลียร์เรื่องสาวในระดับนึง และยอมปฏิเสธคุณอาทิตย์อัสดงอีกด้วย
เริศค่าาา ชอบสิบสองที่มีทั้งมุมเด็กน้อยและมุมผู้ใหญ่ เหมาะกับคบคนแก่(?)เลย 5555555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เหมือนจะมีเรื่องกันยาว ..

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ไอ้หัวแดงมันจะกลับมาหาเรื่องที่ร้านไหม

โอยยย เบอร์หนึ่งกับวิธีจีบนี่ คิดได้ไง 555555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ ชายกุมภ์

  • ชายกุมภ์
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รัก End Act ของแต่ละตอนมากครับ
โคตรฮา

อยากรู้แบ๊คกราวด์ของหนึ่งมากฮะ
ทำไมมันออกมหาลัยมาเป็นพนักงาน
เพราะชอบงานบริการ?? เพราะอยากช่วยเพื่อน?? หรือมีอะไรมากกว่านั้น (...รึป่าว)
เต๊ปเอ้ยหนึ่งมันยังเคยมีทิ้งทวนประโยคน่าสนใจตอนคุยกับเฮียเกล้าด้วย
"เฮียเป็นไอด้อลผม" <---- ฟีลนี้ มันต้องมีอะไรสิ!!! หรือผมพลาดไรไปวะ

ตรรกะสิบสองว่าป่วนแล้ว
ตรรกะหนึ่งดูเละเทะมากกว่าเยอะครับ
ไปขโมยของเขาเนี่ยยยย 555

สรุป อยากให้ถึงตอนของ 1-14 เร็วๆ

 :call:  :call:  :call:



รออ่านครับผม
ปูพรมเปอร์เซีย

 :katai3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เราตามอ่านทันแล้ววววว

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ทอล์คท้ายบทมันจะแอดวานซ์ขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ
ชอบอะ มันตลก มันเหมือนเบื้องหลังการถ่ายทำ มันผิดที่ผิดทาง และมันขัดมู้ดได้ดีมาก :hao7:
(เหมือนเป็นจุดเฉลยในตอนนั้นๆเลยอะ เค้าชอบจริงๆนะ)
สิบสองใจร้อนไปนะ ดูเหมือนเด็กๆที่ไม่มีเหตุผลเลย ถ้าตัดเรื่องขี้อายออกไป เกล้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะเลย สู้เค้านะเกล้า พ่อบอกลูกเขยหล่อแหละ!!!!!!!

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สิบสองทุบกระจกรถยังน้อยไป เกลียดจริงๆคนประเภทนี้

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ยังไงละทีนี้ 5555
รออ่านเต๊บฟาร์นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านทันแล้ว สนุกดีครับ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
มันใช่เรื่องใหม พี่เกล้าที่ต้องไปเสียตังค์ เพราะมีคนมาชนรถเรา






มันนักเลงแล้วไง มันมีพรรคพวกมีลูกน้องเยอะคนเดียวเหรอ







เพื่อนฝูงเราก็มี ลูกน้องเราก็มี ยอมเสียเงินทั้งที่ไม่ผิดทำไม






สิบสอง คราวหน้าไม่ทุบกระจกรถนะลูก ทุบหัว ไอ้หัวแดงนั่นเลย






สิบสามสิบห้า พวกนายไม่อยากมีเมียเป็นผู้ชายหัวแดงมั่งเหรอ กร่างนั๊ก จัดมันเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เครียดกว่าเรื่องโดนขู่กันโชก ก็เรื่องไอ้ 1 นี่แหละ แมร่งประสาท ควรทำให้เค้าประทับใจไหม  ฮึ

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
สิบสองนางมีความสามารถ :z1:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
งอนกันไปง้อกันมาเขาว่าลูกดกนะ#55555555

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อรึยังเอ่ยยยย รอเจ้านายกับเบอร์12อยู่น้า

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 17
ถึงคราวซวย







   ไอ้หนึ่งชวนไอ้สิบสองให้ไปกินก๋วยเตี๋ยวกันก่อนกลับร้าน สิบสองมันก็ขับไปโดยที่ไม่ถามความเห็นของผมสักคำ ผมนิ่งเงียบระหว่างที่ทานก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งไปด้วย การที่ผมเงียบทำเอาลูกน้องทุกคนอึดอัดกันไปหมด ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้จริงๆ ในตอนนี้ ผมทั้งโกรธและก็เซ็งที่เห็นสิบสองมันทำแบบนั้นกับรถของไอ้มาเฟียนั่น

   รู้ไหมว่ามันจะมีอะไรตามมาบ้าง...

   สาเหตุที่ทำให้ผมกังวลกลับนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่เฉยๆ แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรกับเพื่อนคนอื่นมากนัก หลังจากที่พวกเรากินกันเสร็จ สิบสองก็ขับรถที่มีรอยขีดข่วนจากการถูกชนของผมกลับมายังร้าน
   ทันทีที่ผมก้าวลงมาจากรถเท่านั้นแหละ...เข่าผมก็ทรุดทำให้ผมนั่งลงไปกับพื้นทันที

   กระจกของร้านที่เป็นบริเวณอินดอร์ถูกทุบแตกไปมากกว่า 60%

   ไอ้เหี้ย

   กูช็อค

   ช็อคแดกเลยกู

   ร้านกูทำไมเป็นแบบนี้!!!!!!!!!!!!!!!!

   “เหี้ยยยยยย” หนึ่งร้องเสียงหลงทันที “เฮีย มันมาทำเราคืน เอาไงดี บวกแม่งเลยดีมั้ย”

   คำว่า บวก ในความหมายของมันคงหมายถึงสู้กันด้วยกำลังนั่นแหละครับ ผมตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา รู้สึกเหมือนกับว่าลูกรักโดนทำร้ายร่างกายและผมทำอะไรไม่ได้ อะไรประมาณนั้น ไอ้พวกมาเฟียหัวแดงมันคงรู้ที่อยู่ร้านเราจากนามบัตรที่ผมทิ้งให้ไว้กับพนักงานร้านสินะ

   กูไม่น่าไปกินก๋วยเตี๋ยวก่อนกลับเลยว่ะ TT_TT

   “แจ้งความ” สิบสองพูดอย่างเย็นชาพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ผมรีบยกมือไปห้ามมันก่อนที่มันจะทำแบบนั้น “อะไรกัน อย่าบอกนะว่าเจ้านายจะปล่อยให้มันทำแบบนี้กับเราเฉยๆ น่ะ”

   “ผมเห็นด้วยกับกันต์มันนะครับ” สิบห้าพูดน้ำเสียงเรียบราวกับกำลังข่มอารมณ์โกรธ

   “ถ้าเราไม่จบเอง พวกนั้นมันจะจบกับเรามั้ย” ผมพูดอย่างใช้ความอดทน พวกมันทั้งหมดคือคนที่อายุน้อยกว่าผม มันอาจจะยังไม่คิดถึงเรื่องนี้ “พวกมึงไม่รู้กันเลยเหรอว่าเมื่อตอนนั้นเราเล่นอยู่กับใคร หากเราไม่จบแล้วเราไปแจ้งตำรวจ ยังไงพวกนั้นก็ต้องตามมาราวีเราอย่างไม่เลิกราแน่”

   “แต่ว่า...” สิบสองเจ้าเดิมอ้าปากจะเถียง

   “เชื่อกู...พวกมันทำเพื่ออยากเอาคืน”

   “เจ้านายรู้ได้ยังไงว่าพวกมันจะไม่กลับมาทำร้ายอะไรร้านเราอีก”

   “กูรู้แล้วกันน่า” ผมพูดตัดบท ถ้าเรื่องมันใหญ่มากกว่านี้ผมคงจะให้พ่อของเพื่อนช่วยนั่นแหละครับ อย่างที่ผมบอกไปถ้าเราไม่เลิกสร้างเรื่องกับพวกนั้น มันก็ไม่เลิกสร้างเรื่องกับพวกเรา สิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้กับพวกแก๊งนั้นก็คือเลิกแล้วต่อกัน ต่างคนต่างอยู่ และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก ถึงแม้ว่าผมจะช็อคมากกับสภาพของร้านในตอนนี้ก็ตาม

   ผมมองดูเศษกระจกดูพังทลายเต็มทั่วบริเวณหน้าร้านและส่วนภายในร้าน หัวใจเจ็บแปลบไปหมดอย่างควบคุมไม่ได้ สีหน้าของผมแสดงออกถึงความผิดหวังอย่างรุนแรง แม่งโคตรเจ็บเลย ร้านที่ผมพยายามเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอม บัดนี้ส่วนที่เป็นกระจกนั้นแตกมากกว่า 60%

   สิบสองหันไปพูดสองสามอย่างกับเพื่อน หลังจากนั้นพวกเพื่อนมันก็สลายตัวหายกันไปคนละทิศคนละทางราวกับไปทำงานอย่างที่สิบสองสั่ง

   “ผมให้ไอ้ฟาร์ เอ่อ สิบสี่ไปตามช่าง ไอ้หนึ่งไปโทรแจ้งพนักงานว่าร้านคงต้องปิดปรับปรุงช่วงนี้ไปก่อน สิบห้ากับสิบสามจะไปหาพยานหลักฐานและก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิด...”

   “กูบอกแล้วไงว่ากูจะไม่เอาเรื่อง” ผมพูดเสียงเบา

   “เผื่อจะได้ใช้น่ะครับ” สิบสองมองผมด้วยสายตาสำนึกผิด

   ในร้านที่กระจกพังตอนนี้มีเพียงผมกับสิบสอง ผมยังคงยืนมองสภาพร้านด้วยความตกตะลึงงันอยู่ ส่วนสิบสองก็ได้แต่เดินไปเดินมาอยู่ข้างๆ จนมันเห็นผมนิ่งนานเกินไปไม่ไหว มันจึงเริ่มเอาไม้กวาดมาเก็บกวาดเศษกระจกในร้านหลังจากที่ออกไปโทรคุยกับไอ้หนึ่ง ก่อนหน้านั้นสิบสองไม่ลืมที่จะถ่ายรูปสภาพความเสียหายเก็บไว้ด้วยครับ

   ผมเห็นมันทำคนเดียวแล้วรู้สึกแปลกๆ ก็เลยจะไปหาไม้กวาดมาทำบ้าง แต่สิบสองมายืนขวางเอาไว้ พร้อมๆ กับจับไหล่ของผมให้ไปนั่งอยู่ที่มุมร้าน

   “ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผม...ผมขอจัดการเอง”

   “กูช่วยมึงได้” ผมพยายามลุกขึ้น แต่สิบสองมันทิ้งตัวนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผมก่อน ทำให้ผมขยับไม่ได้ สิบสองมองมาที่ผมด้วยสีหน้าสำนึกผิด

   “ตอนที่ผมทุบกระจกพวกนั้น...เพราะผมไม่อยากให้เจ้านายก้มหัวให้พวกมันจริงๆ นะครับ แต่ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้”

   “...”

   “ผมขอโทษ ผมคงใจร้อนมากเกินไป”

   “มึงเห็นหรือยัง โทษของการทำอะไรไม่คิดน่ะ”

   “ผมเห็นแล้วครับ”

   “ต่อไปจะทำอีกป่ะ”

   “ก็พวกนั้นมันร้ายกับเกล้าก่อน”

   “เดี๋ยว...กูเป็นเพื่อนเล่นมึงเหรอ” คำพูดของผมกระตุกเล็กน้อย การที่สิบสองเรียกชื่อผมเฉยๆ นั้นนับว่าเป็นสิ่งผิดปกติอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่มันจะเรียกผมด้วยน้ำเสียงเฮ้วๆ ของมันเสมอว่า ‘เจ้านายครับ’ ‘เจ้านาย’

   “เปล่า แฟน” สิบสองพูดซื่อๆ ผมกลืนน้ำลาย ก่อนที่จะหันไปทางอื่น “ทำไม ไม่ชอบให้ผมเรียกเหรอ”

   “มึงจะไปเรียกแบบนี้ต่อหน้าลูกน้องไม่ได้”

   “ก็ตอนนี้ไม่มีลูกน้องแล้วนี่”

   เออว่ะ...แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ชินอยู่ดีนี่หว่า เอาเป็นว่าตัดประเด็นเรื่องนี้ไปก่อน เพราะเศษกระจกมากมายที่อยู่รอบตัวเราทั้งคู่มันย้ำเตือนว่าเราเพิ่งจะเจอกับเรื่องอะไรกันมา

   “หายเคืองผมหรือยัง” สิบสองทำเสียงอ่อนลง ตอนนี้เขาเหมือนลูกหมายังไงก็ไม่รู้ แต่ครางหงิงๆ ได้นี่ใช่เลย

   “ถ้ามึงบอกว่ามึงได้บทเรียนจากการกระทำของมึงในครั้งนี้ กูก็หาย”

   “วันหลังผมจะคิดเยอะๆ ก่อนจะทำอะไรครับ” สิบสองรับคำ “เรื่องค่าเสียหาย ผมอยากมีส่วนรับผิดชอบด้วย”

   “จะบ้าเหรอ” ผมสวนกลับทันที “ไม่เป็นไร ก็ยังพอมีทุนสำรองอยู่”

   “แน่ใจเหรอครับว่าจะไม่แจ้งตำรวจจริงๆ”

   “จะทำให้เรื่องมันยาวไปอีกทำไมกันล่ะ”

   “ผมขอโทษนะเกล้า”

   ผมเงยหน้าขึ้นมาหน้าไอ้สิบสอง “อะไรนะ”

   “ผมขอโทษครับ...เจ้านาย” สิบสองรีบแก้ตัว ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนไปทำความสะอาดต่อโดยที่ไม่ยอมให้ผมไปช่วยเลย








   วันต่อมา
   เศษกระจกที่แตกกระจายทั้งหลายแหล่หายไปราวกับมีใครมาเสกเวทมนตร์ใส่ ร้านบาร์สุราลัยติดประกาศปิดร้าน 1 อาทิตย์ ตอนนี้ข้างล่างบ้านผมเต็มไปด้วยคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทุกคน พ่อแม่ผม เพื่อนๆ ผม  และก็ช่างซ่อมที่กำลังประเมินสภาพและราคา
   ตอนที่ผมเดินลงมา ทุกคนจ้องมองผมเป็นตาเดียว แม้เมื่อคืนนี้จะเกิดเรื่องเลวร้ายกับร้านของผม แต่การที่มีคนที่ผมแคร์อยู่เต็มไปหมดโดยที่ผมไม่ต้องร้องขอให้เขามาหาแบบนี้...ผมโคตรจะปลื้มปิติเลยล่ะ
   หลังจากที่บอกกับพ่อแม่ว่าไม่เป็นอะไรมากและผมจะจัดการแก้ปัญหาเอง ผมก็เดินไปส่งพวกท่านที่รถ ใช้ไอ้แปดให้ขับรถไปส่งพวกท่านถึงที่บ้าน ไอ้ทิตเพื่อนผมก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียสใส่ผม   

   “มึงไม่ได้ทำประกันร้านไว้ใช่ไหม”

   ผมกระพริบตาปริบๆ มองมัน “มันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ”

   “ประกันภัยภาคธุรกิจไง นี่มึงเป็นเจ้าของร้านประสาอะไรเนี่ย”

   “กูไม่รู้”

   “มึงสามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ อีกทั้งประกันก็เป็นคนช่วยออกให้ด้วย”

   “...”

   “มึงไปอยู่ที่ไหนมา”   

   “ช่างมันเหอะ หน้าแข้งกูไม่ร่วงหรอก” ผมพูดอย่างเซ็งๆ พลางส่งสายตามองไปดูช่างที่กำลังคุยกันอยู่

   “หน้าแข้งมึงไม่ร่วง แต่ระยะเวลาที่ต้องซ่อมร้านรู้มั้ยว่ากำไรมึงจะหดตดมึงจะหายเท่าไหร่”

   ผมกลืนน้ำลายเสียงดัง ผมลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย หลังจากโดนไอ้ทิตมันตำหนิผมก็คุยกับช่างเรื่องการซ่อมแซมร้าน ราคาไม่ได้สูงเว่อร์เท่าไหร่ แต่ช่างบอกว่าเร่งได้ให้มากที่สุดคือประมาณสองอาทิตย์

   นั่นแหละครับที่เป็นปัญหา

   สิบสองเอาแต่นิ่งๆ เงียบๆ ตลอดทั้งวัน มันมีเพื่อนของมันรุมล้อมเสมอ ผมเองก็เช่นกัน ท่าทางของมันรู้สึกผิดมาก แต่ผมไม่คิดที่จะโทษมันอีกต่อไป มันอาจจะเป็นความผิดของผมด้วยส่วนหนึ่งที่ห้ามมันไม่ทัน แต่ไม่ว่าจะยังไงเมื่อถึงคราวซวย มันก็ต้องซวย
   ผมเรียกประชุมพนักงานในเวลาเย็นย่ำ ตอนที่เพื่อนของผมและก็ช่างกลับไปหมดแล้ว(หมดเวลางานของเขาแล้วน่ะครับ) ผมบอกกับทุกคนว่าร้านของเราจะปิดอย่างน้อยสองอาทิตย์ ให้ถือซะว่านี่เป็นสวัสดิการการพักร้อนที่ผมจะให้ ขอให้ทุกคนใช้เวลานี้ไปเที่ยวกันก่อนที่จะกลับมาลุยงานกันต่อ
   ไม่มีใครทำหน้าดีใจเลยสักนิด ส่วนใหญ่จะรับรู้และก็แสดงความเสียใจกับผมเรื่องที่ร้านจะต้องซ่อม ผมมองดูพนักงานกลับไปทีละคนๆ ด้วยสายตาละห้อย สองอาทิตย์นี้ผมจะขาดรายได้ สองอาทิตย์นี้ผมจะไม่มีอะไรทำเลยนอกจากยืนอยู่ช่างซ่่อมร้านให้ผมอยู่แบบนั้น

   คนที่อยู่เป็นเพื่อนผมเป็นคนสุดท้ายไม่ใช่ใครอื่น...สิบสองนั่นเอง

   มันนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้โต๊ะที่ผมยืนพิงอยู่มากที่สุด หลังจากนั้นก็เอียงคอมาซบกับลำตัวของผม ผมสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ

   “อะไร ไม่มีใครอยู่แล้ว” สิบสองพูดน้ำเสียงเนือยๆ

   “อืม”

   “ขอโทษ”

   “ไม่เป็นไร”

   “ต้องจ่ายเท่าไหร่ จะช่วย”

   “ไม่ต้อง”

   “ผมรู้สึกผิดนี่หว่า” สิบสองโวยวายเป็นเด็กๆ “ถ้าผมทำได้ ผมจะไปทลายแก๊งไอ้หัวแดงนั่นด้วยซ้ำ”

   “ยังจะพูดแบบนี้อีก” ถ้ามันทำแบบนั้น แก๊งนั่นคงจะเผาร้านผมเป็นแน่ คำว่ามาเฟียบางทีก็อยู่เหนือกฎหมายครับ ผมไม่อยากมีศัตรู ผมไม่อยากมีปัญหากับใครทั้งนั้น ผมแค่อยากทำร้านให้ดีที่สุดก็เท่านั้น

   ผมทำถูกใช่ไหม...ที่ผมไม่เอาเรื่อง

   ศีรษะของสิบสองยังซบลำตัวของผมอยู่ ในขณะที่ผมนั้นยังกอดอกมองดูร้านของผมที่เงียบเหงามากเป็นพิเศษ จากที่เคยสว่างก็มืดไปหมด จากที่เคยมีเสียงดนตรี ตอนนี้ก็เงียบราวกับป่าช้า

   สงสัยคงต้องทำบุญใหญ่ให้ร้านแล้วล่ะ

   “สองอาทิตย์นี้มึงจะทำอะไร” ผมชวนคุยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักพักหนึ่งแล้ว

   “อยู่กับเจ้านายนี่ไง”

   “เฮ้ย ออกไปเที่ยว ออกไปพักผ่อนสิ มีโอกาสได้หยุดทั้งที”

   “ผมจะปล่อยให้เจ้านายอยู่ดูช่างคนเดียวได้ไง ผมก็มีส่วนผิดนะ” สิบสองพูดก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม “อีกอย่างหนึ่งช่างพวกนั้นก็มีตั้งหลายคน เกล้าอยู่คนเดียว ถ้าเกิดมันหน้ามืดหื่นกามขึ้นมากะทันหัน...”

   “เดี๋ยวๆ ถ้าจะแต่งนิยายไปแต่งหลังร้านโน่น”

   “ก็มันจริง”

   “เขาก็ไม่ได้ชอบเพศเดียวกันทั้งโลกป่ะ” ผมเตือนสติมัน

   “ไม่รู้ล่ะ” สิบสองยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “ผมจะเกาะติดเกล้าอยู่แบบนี้ ไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น”

   “อยู่ได้ไม่นานหรอก” ผมหันร่างตัวเองกมามองสิบสองที่นั่งอยู่ “เพราะมึงต้องกลับคอนโดของมึงแล้ว”

   “ไม่เอา”

   “กลับไปเดี๋ยวนี้ นี่ก็ดึกแล้ว”

   “สามทุ่มเอง ปกติร้านปิดตั้งตีหนึ่ง”

   “ถ้างั้นจะทำอะไรล่ะ นั่งอยู่เฉยๆ จนถึงเวลากลับหรือไง”

   “ได้มั้ยล่ะ” สิบสองทำหน้าอ้อน

   ผมทอดถอนใจ...ก่อนที่จะมองลุงยามที่พ่อแม่เพิ่งส่งมาให้จากที่บ้านที่เพิ่งมาถึงพอดี พ่อกับแม่บอกว่าของมีค่่าใน้ร้านมีเยอะ แค่เครื่องดื่มแพงๆ ก็ถือว่ามีค่าแล้ว จากนี้ไปต้องมีลุงยามจากที่บ้านมาเฝ้า และพ่อกับแม่ก็ส่งมาจริงๆ

   “ออกไปชิลคลายเครียดกันเถอะ” ผมชวนคนข้างตัว เมื่อเห็นว่าร้านมีคนที่ไว้ใจได้เฝ้าให้แล้ว (ลุงยามคนนี้เฝ้าบ้านผมมาเป็นสิบยี่สิบปีแล้วครับ)

   “ไปไหน” สิบสองกระตือรือร้นทันที

   “เดี๋ยวก็รู้...” ผมพูดอย่างหมายมั่น ก่อนที่จะเดินนำร่างสูงของสิบสองไปยังลานจอดรถของผม








   สถานที่ที่ผมพาสิบสองมานั้นนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่หากไม่ใครที่ไม่รู้จักก็จะไม่รู้จักเลย ผมรู้จักที่นี่เพราะพี่คนหนึ่งมาเห็นรถของผมและเขาก็มาถามผมใหญ่เลยว่าผมซื้อที่ไหน ซื้อมาเท่าไหร่ แต่งอะไรบ้าง
   พอจะนึกภาพออกใช่มั้ยครับว่ามันเป็นสถานที่ประเภทไหน

   มันคือสนามแข่งรถใต้ดินครับ

   ที่นี่มีลูกคนมีกระตังค์เป็นเจ้าของ เขาเส้นค่อนข้างใหญ่เนื่องจากว่าเปิดมานานก็ยังไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไร อาจเป็นเพราะเขาแข่งทุกวันศุกร์และก็อาจจะเป็นเพราะที่นี่ค่อนข้างเปลี่ยว ไม่ได้รบกวนผู้คนมากนัก เป็นสนามวงรีขนาดเท่าสนามฟุตบอลน่ะครับ

   สิบสองดูไม่อึ้งเท่าไหร่ที่ผมพามาที่นี่ มันเอาแต่มองหน้าผมเหมือนไม่ค่อยชอบใจอะไรสักอย่าง ผมยักไหล่ใส่มันหลายครั้งอย่างไม่ยี่หระ แต่แล้วมันก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนผมไปขัดใจมัน

   “มาที่นี่ทำไมเหรอ อย่าบอกนะว่ามาแข่ง”
   “บ้าเปล่า ไม่ได้ขับรถเก่งขนาดนั้น”
   “รู้ไหมว่ามันรวมคนประเภทไหนเอาไว้บ้าง”

   ผมพ่นลมหายใจดังพรืด อดขำไม่ได้จริงๆ ที่เด็กอายุน้อยกว่าทำท่าเหมือนมีประสบการณ์มากกว่าผม “กูมาที่นี่บ่อยแล้ว”

   “มันอันตราย จะโดนตำรวจจับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

   “...”

   “จะโดนผู้ชายจับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ด้วย”

   ผมหันมามองหน้าสิบสองที่ทำหน้าเซ็งใส่ผมอยู่ “กูมาทุกครั้งก็ปลอดภัยทุกครั้งอ่ะ มาดูเอามันส์เฉยๆ ไม่ได้อันตรายอะไรหรอก”

   สิบสองมองไปรอบๆ อย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก แต่เมื่อเห็นผมมีแววตาที่สดใสขึ้นหลังจากที่ได้ดูเขาแข่งขับรถกันอยู่เบื้องล่างอัฒจรรย์ สิบสองก็ปล่อยผมไป โดยให้ผมมองดูการแข่งรถเงียบๆ ในขณะที่มันเงยหน้าขึ้นมาดูบ้างหรือไม่ก็เล่นโซเชียลบ้าง

   เวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีโทรศัพท์ผมก็ดัง ไอ้ทิตเพื่อนผมโทรมา ผมจึงกดรับสาย

   “ว่าไงมึง” สิบสองเลิกสนใจโทรศัพท์ แล้วหันมาสนใจผมแทน

   “ลงมาเลยมึง กูเห็นมึงนั่งอยู่ข้างบนนั่น”

   ผมก้มลงไปมองด้านล่าง เห็นไอ้ทิตกับกลุ่มเพื่อนกำลังยืนอยู่ พวกมันกวักมือเรียกผมให้ลงไปหา ผมก็เลยพยักเพยิดให้ไอ้สิบสองเดินตามมาหลังจากที่ลุกขึ้นจะเดินลงไปหาพวกมัน

   ไม่คิดว่าพวกมันจะมาที่นี่ครับ บอกตามตรงพวกเราห่างหายจากสนามแข่งนี่มานานมากแล้ว ผมเข้าไปทักทายเพื่อนปกติ จนกระทั่งรู้สึกแปลกไปเมื่อเพื่อนทุกคนหันมามองสิบสองด้วยสายตาแปลกๆ

   “ลูกน้องกู” ผมแนะนำกับเพื่อนอย่างนั้นไปก่อน กลัวมันจะถามมาก สิบสองไม่ได้แสดงสีหน้าพอใจอะไรออกมา ดูเหมือนมันจะมีความอึดอัดมากกว่าการที่ผมไม่ได้แนะนำกับเพื่อนว่ามันเป็นแฟนผม

   “กูจะลงแข่งด้วย มึงรู้มั้ยเนี่ย” โชคดีที่ไอ้ทิตเปลี่ยนเรื่องไวมาก
 
   “กับใครวะ”

   “กับพี่โน้ตไง”

   ผมอ้าปากค้าง พี่โน้ตคือเจ้าของสนามคนที่มีเส้นใหญ่ๆ นั่นแหละครับ

   “แล้วเดิมพันอะไรวะ” ผมถามอย่างสนใจ ปกติกิจกรรมของคนมีกระตังค์พวกนี้(ตัดผมออกไปก็ได้ เพราะผมไม่ได้เล่นกับเขาหรอก ส่วนใหญ่จะมาดูมาเชียร์เล่นๆ มากกว่า)จะแข่งกันและมันสนุกตรงนี้สิ่งที่นำมาเดิมพันนี่แหละครับ ถ้าปกติหน่อยก็เงินสักก้อนชิลๆ ขำๆ (ไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น) แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยก็เดิมพันรถ(ใครแพ้เสียรถ) และระดับสูงสุดก็คือเดิมพันเด็กของอีกฝ่ายนี่แหละครับ

   ส่วนใหญ่การพนันเด็กของอีกฝ่ายจะเอาไว้สำหรับคนที่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ในกรณีไอ้ทิตกับพี่โน้ต จัดได้ว่าเป็นกรณีที่ไม่ค่อยจะถูกกัน

   ครั้งหนึ่งไอ้ทิตไปตั๊นหน้าพี่โน้ตจนพี่โน้ตเลือดกำเดาไหล นับตั้งแต่วันนั้นมันกับพี่โน้ตก็ไม่ถูกกันอีกเลย และทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าไอ้ทิตไปต่อยพี่เขาทำไม ถามทีไรมันก็ไม่ยอมบอก

   “กูคิดหนักอยู่เนี่ย ทางนั้นจะเอาเด็กมา” ทิตมันทำท่าเครียด

   “สาวๆ ในสต็อกของมึง มึงก็เลือกมาสักคนสิ” เพื่อนคนหนึ่งออกความเห็น

   “มันไม่เหมือนกัน คนที่พี่โน้ตมันต้องการคือคนที่ดูสเปเชียลสำหรับกู”

   “แล้วมันใครกันล่ะวะ” เพื่อนๆ พากันส่งเสียงถาม ไอ้ทิตมันตอบไม่ได้ มันก็เลยเอาแต่เงียบ หันไปสนใจรถมอเตอร์ไซค์ที่มันจะเอามาแข่งแทน

   จนไอ้พี่โน้ตมันเดินมา ผมกับคนอื่นๆ พากันไหว้เจ้าของสนามกันอย่างนอบน้อม ไม่รู้ว่าเพราะเกรงใจเจ้าของสถานที่หรือว่าเพราะพี่เขามีอายุที่มากกว่า พี่โน้ตส่งยิ้มให้ผม เดินเข้ามาตบไหล่ผมเป็นคนแรก

   ผมไม่ได้สนิทกับพี่โน้ตขนาดนั้นครับ

   ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ พอไอ้พี่โน้ตมันปล่อยผมไป สิบสองก็ดึงผมไปยืนข้างๆ มันทันทีแบบแนบชิดติดกับตัวมันที่สุด

   “ไหนเด็กมึง” พี่โน้ตหันไปหาไอ้ทิต “ไม่มีก็ไม่ได้แข่ง”
   “กำลังโทรตาม เดี๋ยวมันมา”
   “มันจะไปยากอะไรวะ” พี่โน้ตหันมาหาผมอย่างมีเลศนัย “ก็ไอ้เกล้านี่ไง”

   เหี้ย ขนหัวลุก

   “เฮ้ยพี่ เพื่อนผมมันไม่ใช่เด็กผม”
   “แต่มันก็สำคัญกับมึงเหมือนกัน”
   “งั้นก็...”
   “กูไม่เอาไอ้พวกตัวควายๆ พวกนี้นะ” พี่โน้ตหันไปหาเพื่อนคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผม เชี่ยแล้ว จู่ๆ กูก็ซวยเฉยเลย
   “พี่ครับ คือผม...” ผมพยายามจะอธิบาย
   “ว่าไง กล้าแข่งหรือเปล่า” พี่โน้ตไม่สนใจผม เอาแต่พูดจายียวนไอ้ทิต

   ผมส่ายหน้าใส่ไอ้ทิตเพื่อบอกมันว่าผมไม่เล่นห่าไรนี่ด้วย ผมแค่มาดูเฉยๆ อย่ามายุ่งกับผม!

   “อย่าลากมันเข้ามา มันไม่เกี่ยว” โชคดีที่ไอ้ทิตมันรับรู้สิ่งที่ผมต้องการจะบอกมัน
   “ถ้าไม่ใช่มันเป็นตัวเดิมพัน กูก็ไม่แข่ง”
   “อ้าว ไอ้พี่เหี้ยนี่” ไอ้ทิตส่งเสียงอย่างไม่พอใจ

   “ไม่แข่งก็ออกจากสนามกูไป”

   สิบสองกระตุกมือผมให้ออกไปจากที่นี่ ผมเอนอ่อนไปตามแรงดึงของสิบสอง แต่แล้วระหว่างทางที่เราสองคนจะออกไปจากรั้ว พวกของไอ้พี่โน้ตก็มาขวางทางเอาไว้

   บอกได้เลยว่าเหี้ยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

   กูหนีมาเพื่อต้องการหาความชิลให้ชีวิตและก็คลายเครียดบ้าง แต่นี่มันกลับไม่ชิลแถมยังโคตรจะเครียดเลยไอ้ฉิบหาย

   ช่วงนี้ผมคงถึงคราวซวยจริงๆ นั่นแหละครับ...

   “ถ้าจะออกไปก็จ่ายมาก่อน” พี่โน้ตส่งเสียงยียวนมาจากด้านหลัง

   สิบสองมองพี่โน้ตด้วยสายตาไม่พอใจ ส่วนไอ้ทิตกำลังทำหน้ารู้สึกผิดกับผม

   ผมมองไอ้ทิตสลับกับมองหน้าพี่โน้ต ยังไงวันนี้มันก็จะแข่งให้ได้ไม่ว่าไอ้ทิตมันจะพยายามปฏิเสธเรื่องเอาผมเป็นตัวเดิมพันก็ตาม หากทิตไม่แข่ง ยังไงเราก็ไม่วันได้ออกไปจากที่นี่

   ถ้าไม่จ่ายตังค์ ก็เจ็บตัวออกไป

   เป็นอีกครั้งที่ผมถามใจตัวเองว่า...ผมมาที่นี่ทำซากมะเขือม่วงอะไร

   ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป สิบสองก็พูดออกไปก่อนแบบที่ไม่ปรึกษาผมเลย...



   “ผมแข่งด้วย”




   “เชี่ยหนึ่ง อยู่ไหนวะ”
   “กำลังจะออกไปเที่ยว มีอะไรวะ”
   “ไปเอารถกูมา”
   “หือ”
   “เกล้าถูกจับเป็นของเดิมพันเนี่ย กูงงฉิบหาย”
   “เฮ้ย ทำไมเป็นงั้น”
   “เพราะไอ้อาทิตย์อัสดงแข่งด้วยไง”
   “เหยด”
   “มึงอย่ามัวแต่อึ้ง รีบเอารถกูมา”
   “เออๆ มึงจะแข่งด้วยเหรอ”
   “เรื่องนี้ยอมได้ด้วยเหรอ”
   “...”

   “เขาเป็นเด็กกู ไม่ใช่เด็กของคนอื่น มึงอย่าลืม!”







TBC*







พระเอกก็คือพระเอก

เรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเข้าใจคุณเกล้าด้วยนะคะ
ที่นางไม่แจ้งความเพราะนางไม่อยากมีปัญหาเนอะ
คนเขียนเองก็คิดแบบคุณเกล้านะที่ว่าเอาคืนกันแล้วก็เลิกแล้วต่อกันไป

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
กลับมาแล้วค่ะ :)
:hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2016 12:53:40 โดย chiffon_cake »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด