{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 674989 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เป็นคู่ชู้ที่หน้าด้าน ตื๊อทนพอกัน

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

เอาใจช่วยทั้งกันต์ทั้งหนึ่ง
:)  :กอด1:


ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ไม่ใช่แค่คุยกับชู้ทุกวันนะคะ มีไปมาหาสู่ด้วยอ่ะ (แซววววว)

โซฟาป่าวอ้อยเนอะ คุยกันธรรมดา ใสๆงี้ ฮาาาา

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อะหืมมมม...ได้ทีละรุกใหญ่ ใครบางคนบอกไม่ชอบผู้ชายแต่ท่าทางจะตกหลุมของคนจีบแล้วละ อิอิ


ส่วน ปล. คนมีชู้นี่คือใคร หนึ่งกะสิบสองเหร  ไม่น่ะคู่นี้เขามาก่อนเกล้ามิใช่รึ 5555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สู้ๆ นะครับ ทั้งสองคนเลย ขอให้ความรักสมหวัง และผ่านไปด้วยดี

ออฟไลน์ Noo_noon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ควรจะลุ้นคู่ไหนก่อนดี
คู่นึงก็จะเข้าไปหาพ่อแม่ อีกคู่ก็บอกรักกันเเล้ว :mc4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไตเต๊บ กล้าๆ แล้ว
ไตเต๊บ สู้ๆ
ไตเต๊บ สู้ตาย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขยันหยอด ขยันอ่อยไปเถอะ หนึ่ง เอ๊ยยยยย
รางวัลสุดคุ้ม คือฟาร์ ผู้น่ารัก ของหนึ่ง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
กันต์กับเกล้าสู้ๆ ส่วนไตเต๊บตื๊อเข้าไว้นะ ไฟท์!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
สิบสองสู้เค้านะ
ส่วนหนึ่งก็เต๊าะฟาร์ไปเรื่อยๆ เด๋วก็เสร็จแน่นวลเอ๊ยยยย สู้เค้า

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ TK323

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่รู้จะลุ้นช่วยคู่ไหนก่อนเลยดี5555555 ทั้งกันต์ทั้งเต๊บ  โซฟาน่ะเต๊าะไปเรื่อยๆก็ยอมแล้วววววว ดูก็เหมือนฟาร์ก็จะมีใจให้แล้วน้าเต๊บไม่งั้นไม่ยอมคุยแชทได้ถึงขนาดนี้หรอก :o8:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
หนึ่งสู้สู้
สิบสองสู้สู้

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ฟาร์ต้องรู้สึกอะไรบ้างล่ะน่า~

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
 สู้ๆนะกันต์ ยังไงต้องชนะใจพ่อตาแม่ยายให้ได้นะ

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ darksnow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หยอดวันละนิด ทุกวัน พี่สิบสี่กะใจอ่อน 555  พี่กันต์พร้อมละใช่มั้ย โดนเฉือดแน่ ฮ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ screaminoflve

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
#กันต์เต๊บ made my day
คือมีโมเมนท์ทุกตอน หวั่นไหวมั้ย  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 26
บ้านของเจ้านาย






‘เด็กคนนั้นมันยังไง ทำไมถึงมาพูดกับแม่แบบนั้น’

‘...’

‘ว่ายังไงล่ะเกล้า ที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง หรือว่า...’

‘...’

‘เกล้าเองก็ชอบเด็กคนนั้นด้วย’

‘...’

‘เกิดอะไรขึ้นกับลูกของแม่’


หลังจากที่แม่ของผมได้ยินว่าสิบสองชอบผม แม่ก็บอกให้มันออกไปนอกห้อง จากนั้นแม่ก็สาดเทคำเหล่านั้นมาใส่ผมในแบบที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ผมยังคิดมากถึงคำเหล่านั้นจนถึงวันนี้ มันเป็นวันแรกของการเปิดร้านหลังจากที่ร้านผมปิดซ่อมไปนานก็จริง แต่ไม่รู้ทำไมความยินดีของผมได้ถูกหยุดชะงักไว้อย่างรวดเร็วเสียจริง

มันไม่ใช่ความผิดของสิบสอง ผมเข้าใจที่มันมาบอกแม่ผมแบบนั้น ถึงบางครั้งสิบสองจะทำอะไรเกินกว่าเหตุไปบ้าง แต่ผมคิดว่าไม่ช้าก็เร็วแม่ก็ต้องรับรู้อยู่ดีว่าลูกชายของแม่กำลังคบกับผู้ชาย

และตอนนี้ผมก็กำลังคิดไม่ตกว่าควรจะเอาไงต่อ...

สิบสองแวะเวียนมาหาผมในวันต่อมา เขาพยายามเข้ามาหาผม แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา ผมอยากอยู่คนเดียว อยากจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเองคนเดียว ผมแคร์ครอบครัวผมมากเลยนะครับ พ่อกับแม่ท่านให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ผม ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ทำให้ผมสามารถมีงานมีการเปิดร้านได้แบบนี้ ผมรักพวกท่านมาก การทำให้พวกท่านผิดหวังคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำ...

...แต่ผมก็ได้ทำมันลงไปแล้ว

เมื่อไม่เห็นผมตอบอะไร สิบสองก็หายไปทั้งวัน เขาบอกกับผมผ่านทางข้อความว่าไปอยู่กับไอ้หนึ่ง ผู้ซึ่งตอนนี้ก็กำลังมีเรื่องดราม่าเช่นกัน เมื่อคืนมันเพิ่งบอกความรู้สึกของมันให้สิบสี่ฟังไป สิบสี่เพียงแค่รับรู้และบอกกับไอ้หนึ่งว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย
เจ็บมั้ยล่ะมึง...ดอกนี้

ผมดีใจที่สิบสองไปอยู่กับไอ้หนึ่งในตอนนี้ เพราะผมก็ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงไปปลอบใจไอ้เชี่ยหนึ่งสักเท่าไหร่ ส่วนผมนั้นยังต้องคิดว่าควรจะทำยังไงเรื่องพ่อกับแม่ ผมใช้เวลาทั้งวี่ทั้งวันในการคิด ฝากเรื่องร้านให้สองดูแลทั้งหมด และมานั่งอยู่บนเตียงในห้องของตัวเองตลอดทั้งวัน

ในที่สุดผมก็คิดออกว่าควรจะทำยังไงดี

ในเมื่อผมเลี่ยงปัญหาไม่ได้...ผมก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ผมจะไปบอกพ่อกับแม่ของผมตรงๆ เลยนี่แหละว่าผมคบกับสิบสองอยู่!

ผมพอจะรู้ว่ามันมีผลตามมาแน่ๆ และผลมันต้องมีแต่ร้ายและก็ร้ายมากๆ ด้วย...พ่อกับแม่อยากให้ผมมีครอบครัวไวๆ แต่ผมกลับตอบแทนพวกท่านด้วยการกระทำที่ห่างไกลจากคำว่า ‘มีครอบครัว’ ในแบบของพวกท่านออกไปหลายร้อยกิโลเมตรเลยทีเดียว

“คุณเกล้า” เก้าคนสวยที่มาทำหน้าที่เป็นแม่บ้านในวันนี้ตกใจเล็กน้อยเมื่อในที่สุดผมก็ออกจากห้อง “เก้าซื้ออาหารกลางวันมาให้แล้วค่ะ อยู่ข้างล่าง”

“ผมไม่ค่อยหิวน่ะ เก้าจัดการเลยก็ได้นะ”

“คุณเกล้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

“วันนี้ผมคงไม่เข้าร้านนะ ช่วยกันดูแลร้านด้วย”

“อ๋อ...ค่ะ” เก้ารับคำงงๆ “คุณเกล้าคะ สิบสองแวะมาหาคุณเกล้าตลอดทั้งวันเลยค่ะ เดี๋ยวน้องเขาก็มาอีก จะให้บอกว่าไงคะถ้าคุณเกล้าจะออกไปข้างนอก”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องบอกอะไรหรอก”

“โอเคค่ะ”

ผมหยิบกุญแจรถด้วยสภาพซึมกะทือ หลังจากนั้นก็ขับรถออกไปเพื่อไปยังบ้านของตัวเอง บ้านที่น่าจะมีเรื่องอะไรมากมายหลังจากวันนี้

ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงก็ถึง บ้านของผมอยู่ในแถบชานเมืองที่ต้องขับรถเข้ามาอีกหน่อยเพื่อเข้าใกล้เขตความเจริญของเมืองกรุง ผมจอดรถอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ยังไม่ยอมเข้าไปในบ้าน

ความป๊อดมันกำลังโจมตีผมอย่างหนัก

พ่อจะด่าว่าอะไรบ้าง แม่จะต่อว่าผมอย่างไร พวกท่านจะเสียใจมากแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมสูญเสียความมั่นใจ และในที่สุดก็ตัดสินใจขับรถออกไปตั้งหลักอยู่ร้านกาแฟใกล้ๆ บ้านแทน

ขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจแป๊บ...

ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟประมาณยี่สิบนาทีสิบสองก็โทรมา ผมไม่มีความจำเป็นต้องหนีหน้าสิบสอง นี่เป็นปัญหาที่ผมไม่ควรจะต้องมาเผชิญคนเดียว ไม่ใช่เพราะอยากให้สิบสองมาเคร่งเครียดกับปัญหาเหมือนกันกับผมนะครับ เพียงแต่ว่าผมอยากให้เราสองคนผ่านมันไปได้ด้วยกันต่างหาก

ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าผมนั้นจริงจังกับไอ้สิบสองไม่น้อยเลย...

“อยู่ไหน” สิบสองถามผ่านปลายสาย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะกำลังขับรถอยู่นะครับ

“แถวๆ บ้าน” ผมตอบเขา

“เดี๋ยวผมไปหา”

“เฮ้ย”

“ผมรู้ว่าเกล้าคิดจะทำอะไร เกล้าจะไปบอกพ่อกับแม่เกล้าตรงๆ ใช่มั้ย”

สิบสองรู้ใจผมแฮะ “อืม...”

“ผมจะไปด้วยครับ”

“...”

“อย่าเครียดมากนะ”

“รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสองคนไปพูดกับพ่อแม่”

“ผมรู้ ผมอาจจะโดนปืนลูกซองของพ่อเกล้ายิงก็ได้”

“พ่อกูไม่มีลูกซอง” ทำไมมึงมโนได้อันตรายขนาดนั้นฟะ

“อาจจะโดนซ้อม”

“พ่อเป็นคนมีเหตุผล ไม่ใช้กำลัง”

“ถ้างั้นก็อาจจะโดนไล่ออกจากบ้าน”

“น่าจะเป็นอย่างนั้น”

“เฮ้ออออ” สิบสองถอนหายใจเบาๆ “ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเนอะ วันที่ต้องไปบอกพ่อกับแม่เกล้าสักที”

“ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องบอก”

“ขอบคุณนะครับ”

“ขอบคุณอะไรเหรอ” ผมมองกาแฟตรงหน้า มันยังมีอยู่เต็มแก้ว เพราะผมเอาแต่นั่งจมจ่อมอยู่กับความคิด

“ขอบคุณที่จริงจังกับผมครับ”

ผมยิ้มออกมานิดหน่อย “มึงจริงจังกับกูก่อน”

“...”

“อย่าทำให้กูผิดหวังล่ะ”








“ผมจะทำยังไงให้เกล้ารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง” ทันทีที่สิบสองมาถึงมันก็โพล่งคำถามนี้ออกมาทันที มันทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ก่อนส่งสายตามามองผมอย่างเป็นกังวล

“แค่มึงมาก็ดีแล้ว” ผมพูดอย่างจริงใจ

“เราจะโดนอะไรบ้าง” สิบสองยังแสดงท่าทีเครียดๆ อยู่

“อย่างมากก็แค่ด่า”

“...”

“และก็โดนไล่ออกจากบ้านไง อย่างที่คุยกัน”

ผมได้ยินเสียงสิบสองถอนหายใจ “จริงๆ แล้วผมยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่นะ ดูผมตอนนี้สิ ผมยังไม่มีอะไรเลย”

“มันไม่สำคัญหรอกน่า”

“ก็เผื่อจะทำให้พ่อกับแม่เกล้ามองผมดีขึ้น”

“มึงรวยล้นฟ้าก็อาจไม่ได้ช่วยเลย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” สิบสองตกตะลึง “ท่าจะงานหินแล้วแฮะ”

“ไปกันเลยมั้ย”

“เฮ้ย อย่าเพิ่ง” สิบสองยกมือปรามผม “ขอเวลาจิบน้ำจิบท่าก่อน”

ผมผายมือเชิญให้สิบสองตามสบาย มองดูร่างสูงๆ ของสิบสองไปสั่งเครื่องดื่มมากิน ผมมองไปก็คิดไป ผมมาอยู่ในจุดที่ต้องการคำว่า ‘ผ่าน’ จากพ่อกับแม่เพราะไอ้เด็กคนนี้แล้วครับ จากวันที่เบื่อขี้หน้า วันที่รำคาญ วันที่เหนื่อยกับมันยามที่มันป่วนผม จนในที่สุดผมก็ต้องยอมมัน ยอมในความรักของมัน และวันนี้เป็นวันที่ผมยอมรับจริงๆ แล้วล่ะว่าผมเองก็ชอบมันไม่ใช่น้อยเลย

แม้จะมีเรื่องผู้หญิงมาให้เห็นบ้างประปราย (จำวันที่มันไล่บล็อกไลน์ผู้หญิงให้ผมดูได้มั้ยครับ) แต่ไม่เคยมีวันไหนที่มันผิดคำที่เคยให้ไว้ ไม่มีวันไหนที่มันกลับไปหากิ๊กแปดล้านคนของมันตั้งแต่ที่เอ่ยปากคบกับผม มันมีแต่เทียวมาหา คอยพาผมไปนั่นไปนี่ คอยทำให้ผมสบายใจขึ้นยามที่กระจกร้านผมถูกทุบ สิบสองช่วยผมแก้ปัญหา สิบสองช่วยปกป้องผมตอนที่แข่งรถนั้น

มันพิสูจน์ได้ว่าความรู้สึกที่สิบสองมีให้ผมนั้น...มันมากกว่าคำว่าผมเป็นแรงบันดาลใจให้มันเยอะเลย ผมเองก็อยากจะตอบแทนความจริงใจของมันด้วยการแสดงท่าทีที่จริงจังกับมัน

นี่คงไม่ใช่การลองคบกันอีกต่อไป...หลังจากคุยกับพ่อแม่ คงจะเรียกว่าการคบกันจริงๆ การจับมือร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคจริงๆ และจะไม่ปล่อยมือกัน...ผมหวังไว้อย่างนั้น ผมอยากให้สิบสองอดทนต่อสู้กับผม

เพราะในวันนี้ผมให้ความรู้สึกกับมันไป ‘มาก’ แล้ว







เราสองคนมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านของผม บ้านผมจัดได้ว่าเป็นบ้านที่มีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มากนะครับ (บ้านไอ้เชี่ยทิตใหญ่อย่างกับคฤหาสน์แน่ะ) มีพื้นที่หน้าบ้านมากพอให้จอดรถหลายคัน และมีสนามหญ้าหน้าบ้านที่ตอนเด็กๆ ผมมักจะมาวิ่งเล่นคนเดียวเสมอ (ลูกคนเดียวก็งี้) หลังจากที่มีร้านเป็นของตัวเองผมก็เอาแต่นอนที่ร้าน น้อยครั้งมากที่ผมจะกลับมานอนที่บ้าน

ผมรู้สึกราวกับว่าผมไม่ได้กลับมาที่บ้านนี้นานมากแล้ว...ตอนผมเดินเข้าไปก็เจอกับลุงยามที่หน้าบ้าน (แถวนี้เปลี่ยวขโมยขโจรก็อาจจะมีบ้างน่ะครับ) ลุงยามคนนี้เป็นคนละคนกับที่พ่อแม่ส่งให้ไปเฝ้าร้านผมครับ คนนี้ผมก็รู้จักมานานเหมือนกัน เพราะสลับกะเฝ้ายามกับคนที่พ่อแม่ของผมส่งไปเสมอ ผมทักทายลุงยามเล็กน้อยบวกกับแนะนำสิบสองให้ลุงยามรู้จัก

สิบสองเอาแต่จับมือที่ชุ่มเหงื่อของตัวเอง ดูมันจะประหม่าเอามากๆ ยิ่งมาเห็นบ้านมันก็ยิ่งประหม่า อาจจะเป็นเพราะบ้านของผมเงียบสงบมากเกินไปก็เป็นได้

“พร้อมนะ” ผมถามอีกฝ่าย

สิบสองสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนที่จะพยักหน้า...

พ่อกับแม่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น แม่กำลังอ่านหนังสือนิยายจากนักเขียนคนโปรด ส่วนพ่อใส่แว่นตาเล่นไอแพด พวกท่านอยู่ในวัยหกสิบต้นๆ ยังแข็งแรงและก็สนุกกับโลกยุคโลกาภิวัตน์อยู่

“พ่อกับแม่สวัสดีครับ” ผมส่งเสียงก่อนที่จะยกมือไหว้ ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมามองผมทันที แม่ผมตวัดสายตามองสิบสองอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ” สิบสองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

แม่วางหนังสือในมือลงแล้วก็มานั่งข้างๆ พ่อ พ่อมองสิบสองด้วยสายตางงงันว่าผมจะพาเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาด้วยทำไม

“เหมือนมีเรื่องจะมาคุยกับพ่อแม่ใช่ไหม” พ่อมองเราสองคนผ่านแว่นตาหนาเตอะ

ผมพยักหน้า แม่ของผมเสมองไปทางอื่นทันที

“มีอะไรเหรอ”

ผมมองหน้าสิบสองที่สบตากับผม เขานั่งอยู่ข้างๆ ผมและก็ประจันหน้ากับพ่อแม่เหมือนกันกับผม

“ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อแม่”

“เราสองคนเป็นแฟนกันครับ” สิบสองพูดตัดประโยคของผมไปเลย ผมมองไปที่สิบสองอย่างตกตะลึง คนที่ตกตะลึงกว่าผมนั้นเห็นจะเป็นพ่อกับแม่อย่างแน่นอน

“อะไรนะ” พ่อทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“ผมกับเกล้าเราคบกันครับ”

“นี่มันอะไร” พ่อเสียงดังมากขึ้น ในขณะที่ผมรู้สึกถึงอาการหน้าซีดเผือดของตัวเอง

“คือว่า...”

“กำลังล้อเล่นอะไรกับพ่อหรือเปล่า พ่อไม่ตลกด้วยหรอกนะ”

“พ่อครับ มันเป็นเรื่องจริง” ผมรีบพูด

“เกล้า”

“มันชอบผม ผมชอบมันครับพ่อ”

แม่เสมองไปทางอื่น ทำหน้ารับไม่ได้อย่างยิ่ง ส่วนพ่อของผมนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปเดินมาตรงหน้าพวกเรา ท่าทางพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ ผมเห็นสิบสองกำมือแน่น สถานการณ์แบบนี้มันเองก็เพิ่งจะเคยพบเคยเจอ

“รู้หรือเปล่าว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว” พ่อหันมาตวาดผม

“ผมทราบดีครับ”

“แล้วยังจะทำให้ชีวิตเป็นเรื่องเล่นๆ แบบนี้อีก”

“พ่อ ผมไม่ได้ล้อเล่น”

“ต้องการอะไรจากพ่อเหรอ ให้พ่อกล่าวคำยินดีกับเกล้าหรือไง พ่อทำไม่ได้หรอก”

“...”

“แล้วนี่รู้เหรอว่าจะไปกันรอด ท่าทางไอ้นี่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเขี้ยวเล็บ” พ่อมองสิบสองราวกับมองเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีแต่ความเพลย์บอย

“ผมรักลูกชายท่านครับ รักมานานแล้วด้วย ตั้งแต่เรียนมัธยม”

“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้อยากรู้!”

“เผื่อท่านจะมองผมในแง่ดีบ้าง”

“...”

“ผมรู้ผมยังเด็ก แต่ผมดูแลลูกชายท่านเป็นอย่างดี ท่านต้องการพยานมั้ยครับ มีคนสามารถมาเป็นพยานให้ผมได้เยอะนะครับ”
ผมหันไปมองสิบสองอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของเขา ถ้ามันพูดแบบนี้แสดงว่ามีคนรู้เรื่องของมันกับผมมากมายหลายคนเลยทีเดียว...

...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้สถานการณ์ตรงหน้าเหมือนผมกำลังรอไม้เรียวจากพ่อยังไงก็ไม่รู้

ผมนับถือใจของสิบสองมาก แม้มือที่วางอยู่บนตักจะกำหมัดแน่นจนสั่น แต่มันก็ยังแสดงออกถึงความเข้มแข็งและความกล้าเผชิญหน้าอย่างลูกผู้ชายไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้พ่อผมท่านใกล้จะฟิวส์ขาดแล้วก็ตาม แต่สิบสองก็ยังอยู่แบบนั้น พูดจาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง บ่งบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อผมว่ามันคือความจริงใจ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“ออกไปกันก่อน”

“พ่อครับ” ผมร้อง

“พ่อไม่คิดว่าพ่อจะสามารถรับสถานการณ์แบบนี้ได้ในเวลาอันรวดเร็วหรอก ออกไปก่อน!” พ่อไล่ผมกับสิบสองออกจากบ้าน
ผมกับสิบสองลุกขึ้นยืน เราสองคนก้มหน้าก้มตาเดินไปที่หน้าประตูบ้าน

สิบสองหันหลังกลับไปแล้วเดินไปเผชิญหน้ากับพ่อของผมอีกครั้ง ให้ตายเถอะ ไปรวบรวมความกล้าหาญมาจากไหนวะ

“ผมรู้ว่าท่านยังรับไม่ได้ และผมก็รู้ด้วยว่าท่านไม่ได้มองผมในแง่ดีเลย ตอนนี้ผมอาจจะยังดูเด็ก ดูไม่มีอะไรที่จะสามารถดูแลเกล้าได้ทั้งนั้น ผมรู้ว่าผมต้องพิสูจน์อะไรอีกมากมายหลายอย่าง ผมจะทำแบบนั้นจนกว่าพวกท่านจะยอมรับผม...” สิบสองหลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่อยากที่จะพูดประโยคถัดไป “...แม้ว่าผมจะไม่อยากใช้นามสกุลของพ่อ แต่ถ้าหากทำให้พวกท่านยอมรับผมมากขึ้น ผมจะบอกก็ได้...”

“...”

“รู้จักนามสกุลกัญจขจรกุลมั้ยครับ”








“กูเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าการคบกับคนในวัยที่ต้องหาคู่ครองนี่มันยุ่งยากยังไง”

“จริงจังมากเลยใช่มั้ยวะ”

“กูต้องพูดนามสกุลพ่ออ่ะ ทั้งๆ ที่กูไม่อยากพูดเลย”

“แล้วมันช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมั้ย”

“กูไม่รู้ กูกับเกล้าพากันออกมาจากบ้านก่อน เกล้ากำลังจะกลับไปที่บ้านอีกรอบ”

“สู้ๆ นะเว้ยมึง ถ้ามึงผ่านเรื่องนี้ไปได้ กูว่าคงไม่มีอะไรให้กังวลแล้วล่ะ”

“...”

“เว้นเสียแต่เรื่องเด็กมึง”

“ไม่มีแล้ว เลิกนานแล้วโว้ย”

“...”

“ไอ้เดอะนิวสตาร์อะไรนั่น เห็นทีว่ากูต้องลงประกวดแล้วจริงๆ ว่ะ ถ้าชนะคงมีตังค์เยอะขึ้น”

“เหยดเข้ คิดดีแล้วใช่มั้ย”

“อืม...เพื่อเกล้าอะไรกูก็ทำได้ทั้งนั้นอ่ะ”





TBC*








ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 27
สิบสองสู้ๆ








[พาร์ตของกันต์]

ผมกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งในวันต่อมา

งานที่ร้านเมื่อคืนผมให้ไอ้ฟาร์ร้องเพลงแทนผมแล้วล่ะครับ เรื่องค่าตัวสำหรับผมในตอนนี้กลายเป็นปัญหาที่เล็กมาก เมื่อเทียบกับปัญหาที่ผมกับเจ้าของร้านกำลังเจอ (ผมบอกเกล้าแล้วว่าผมไม่ได้ไปทำงาน เกล้าไม่มีแรงแม้แต่จะบ่นผมเลย) ตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับบ้านของเกล้าอีกครั้งหนึ่ง บ้านที่มีแค่คนเดียวในบ้านที่ต้อนรับผมซึ่งนั่นก็คือเกล้า

“อ้าวคุณกันต์” ลุงยามเห็นผมก็ส่งเสียงทักทายทันที ลุงเป็นคนผิวเข้ม ท่าทางเหมือนผ่านสงครามมาเยอะก่อนที่จะมาเป็นยามให้บ้านของเกล้า บ้านที่ชื่อว่า ‘สิทธิสุนธร’ “มาแต่เช้าเลย”

“สวัสดีครับลุง ผมซื้ออาหารเช้ามาฝาก” ผมส่งปาท่องโก๋กับกาแฟเย็นให้ลุงยาม ผมเป็นคนมีน้ำใจครับ อันนี้ผมค่อนข้างที่จะรู้ดีเลยทีเดียว (เหรอ...) ที่ผมซื้อมาให้ลุงเพราะบังเอิญผ่านร้านปาท่องโก๋เจ้าเด็ดพอดี และอีกอย่างหนึ่งต้องซื้อใจลุงยามก่อนที่จะซื้อใจของด่านหินที่สุดของบ้าน นี่คือสิ่งที่เรียกว่าค่อยๆ ทำทีละสเต็ป

“ไม่น่าลำบากเลยครับ” ลุงยิ้มดีใจก่อนที่จะรับเอาไว้ “ขอบคุณมากครับ”

ผมดึงแขนลุงให้หายเข้าไปในป้อมยาม เพราะกลัวพ่อกับแม่เกล้าจะเดินมาเห็น

“ผมพูดตรงๆ เลยนะครับลุง”

“ครับ?”

“ผมกับลูกชายบ้านนี้คบกันอยู่”

ลุงทำตาโตใส่ผม ลูกตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า “คบ...กับคุณเกล้า?”

“ครับ”

“แบบไหนเหรอครับ พี่น้อง?”

ลุงใสกว่าที่ผมคิดแฮะ “แบบ...”

“อ๋อ” ลุงวางถุงปาท่องโก๋ลง เอานิ้วชี้มือซ้ายกับนิ้วชี้มือขวามาชนกัน

“ครับ”

“อื้อหือ” ลุงดูจะตกตะลึงไม่น้อย “สมัยนี้มีอะไรที่ลุงคาดไม่ถึงเยอะแฮะ”

“ก็อย่างนั้นแหละครับลุง” ผมเอียงหน้าเข้าไปใกล้ๆ ลุง “อย่าว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ ผมเข้าใจว่าลุงรักหน้าที่ของลุงมาก และผมเองก็รักลูกชายบ้านนี้มากกกกกกเหมือนกัน” มากของผมออกเสียงยาวกว่ามากของลุงหน่อยๆ “คุณท่านทั้งสองอาจจะบอกให้ลุงไม่ให้ผมเข้าไปในบ้าน แต่ผมอยากจะขอลุง ถ้ามีคำสั่งแบบนั้นมา อย่าห้ามผมเลยนะครับ ผมไหว้ล่ะ”

ผมกันไว้ดีกว่าแก้...

“อ๋อ ที่เมื่อวานคุณกันต์มาแล้วคุณท่านเสียงดัง...”

“ใช่ครับ คุณท่านเขาโกรธมาก”

“อืม” ลุงมองผมอย่างพินิจพิจารณา “หน้าตาหล่อกว่าณเดชน์แบบนี้ยังโดนไล่ตะเพิดเหรอครับ”

ผมควรจะเจ็บหรือควรยินดีกับการโดนลุงหาว่าหล่อกว่าณเดชน์ดีครับ รู้สึกงงไปหมด

“ครับ ผมโดนไล่ออกมา”

“...”

“ผมยินดีจะซื้อปาท่องโก๋มาให้ลุงทุกวันจนกว่าท่านจะใจอ่อนนะครับ”

“ลุงไม่ต้องการของหรอก” ลุงยังคงมองผมอยู่ “ลุงเห็นคุณเกล้ามาตั้งแต่ยังเด็ก ถ้าคุณกันต์จริงใจกับคุณเกล้า ลุงก็โอเค”
อื้อหือ (เลียนเสียงของลุง)...นอกจากผมต้องผ่านด่านหินอย่างพ่อกับแม่ของเกล้าแล้ว ผมยังจะต้องผ่านด่านลุงยามบ้านเกล้าอีกเหรอเนี่ย เกล้านี่ยังไงกันนะ มีคนรักคนหลงทั้งประเทศเลยหรือยังไง (รวมผมด้วยอีกคน)

“ลุงจะเชื่อในคุณกันต์สักครั้ง ลุงจะช่วยคุณกันต์เอง”

“ขอบคุณมากครับ” ผมยกมือไหว้ลุงอย่างซาบซึ้งในน้ำใจนี้ “ว่าแต่เกล้าไม่ยอมออกจากบ้านเลยเหรอครับ”

“ตั้งแต่กลับมาจากตอนที่คุณกับคุณเกล้าออกไป คุณเกล้าก็ยังไม่ออกมาจากบ้านเลยครับ”

“...”

“มีปากเสียงกันดังมากตอนกลางคืน ผมคิดว่าบ้านอื่นก็อาจจะได้ยินด้วย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมมีสีหน้าสลดลง

“ลุงไม่อยากเห็นคุณเกล้าเป็นทุกข์นาน ยังไงก็ขอให้โชคดีสมหวังไวๆ นะครับ”

“เชื่อใจผมได้เลยครับลุง” ผมมองบ้านที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่หมายมั่น








“อุ๊ย!”

“ใครน่ะ!”

สองสาวแม่บ้านอายุยังน้อย (น่าจะไม่เกินสามสิบ) ต่างก็ตกใจเมื่อจู่ๆ ก็เห็นผมเดินเข้าไปในห้องครัวของบ้านเกล้า ผมเอามือจุปากราวกับต้องการส่งสัญญาณให้พวกเธออย่าเสียงดัง

“หล่อจัง...” หนึ่งในนั้นพึมพำออกมาว่าแบบนี้ ผมโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง นึกขอบคุณหน้าตาของตัวเองก็วันนี้ เพราะมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่น่าไว้ใจ ถ้าผมหน้าโหดแถมหน้าบาก สองคนนี้คงเอามีดอีโต้มาไล่ผมให้ออกจากบ้านไปนานแล้ว

“ผมเป็นแฟนคุณเกล้าครับ สวัสดีครับ” ผมแนะนำตัวกับเธอทั้งสองคน

หนึ่งในนั้นทำช้อนที่อยู่ในมือตกลงพื้น ดูเหมือนเธอจะช็อกไปแล้ว...

พี่สองคนนี้ชื่อพี่จุ๋มกับพี่เภา เป็นแม่บ้านบ้านเกล้าตั้งแต่อายุยังน้อยๆ พวกเธออายุมากกว่าเกล้าสองถึงสามปี และแน่นอนว่ามีความจงรักภักดีต่อเกล้าสูงมาก ผมต้องเล่าให้ฟังอยู่นานกว่าที่พวกเธอจะยอมปักใจเชื่อว่าผมเป็นแฟนเกล้าจริงๆ (แต่ละคนมีวิธีการแสดงความเสียใจที่ต่างออกไป พี่จุ๋มทำหน้าเสียดายผม ส่วนพี่เภาทำหน้าเสียดายเกล้า)

“พี่เภาไม่รู้หรอกนะคะว่าน้องกันต์จริงใจกับคุณเกล้าของพี่เภาแค่ไหน...ยังไงพี่เภาต้องขอดูความประพฤติก่อนก็แล้วกัน พี่เภาถึงจะยอมตกลงช่วยน้องกันต์”

“นังเภานี่ก็...ช่วยน้องกันต์เถอะ หน้าตาดูดีมีชาติตระกูลแบบนี้...”

“นี่นังจุ๋ม เขาไม่ได้วัดกันที่หน้าตาหรอกนะยะเรื่องนี้”

“ตัวเองก็เพ้อเหมือนกันนั่นแหละตอนที่เจอน้องกันต์แวบแรกตะกี้...ใช่มั้ยล่ะ”

“นังจุ๋ม!”

“อะไรยะนังเภา!”

“เอ่อ อย่าเสียงดังมากไปกว่านี้เลยครับ” ผมรีบปรามพี่แม่บ้านทั้งสองเพราะกลัวพวกเธอจะตบตีกันในครัวแล้วคุณท่านของบ้านจะโผล่มาเห็น ถ้าโผล่มาตอนนี้ก็ถือว่าไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ “แล้วนี่จะทำอะไรทานบ้างครับ ผมอยากจะมาช่วยเป็นลูกมือ”

“มาทางนี้เลยค่ะน้องกันต์” พี่จุ๋มเรียกผมให้ไปช่วยล้างผัก เธอคนนี้อยู่ทีมผมแหละ

“จะทำได้เหรอคะ ท่าทางเหมือนไม่เคยจับงานในครัวมาก่อน” พี่เภาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เธอคนนี้อยู่ทีมปกป้องเกล้า อยากจะบอกเหลือเกินว่าช่วยผมก็เหมือนช่วยเกล้าให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้นะ แต่ก็ถือว่าดีกว่าพี่เภาเธอไล่ผมให้ออกจากบ้านหลังนี้ก็แล้วกัน

ผมเดินไปช่วยพี่จุ๋มล้างผัก พี่จุ๋มตื่นเต้นมากที่ผมมาช่วยงาน เธอเล่าว่าเธอมาทำงานที่นี่เพราะท้องก่อนเรียนจบ เธอจึงเห็นเกล้าสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยพอดี เกล้าตอนเรียนมหา’ลัยนั้นค่อนข้างงานหนัก (เกล้าจบสถาปัตย์มา) พี่จุ๋มเห็นเกล้านอนตอนเกือบรุ่งสางตลอดหรือบางวันก็ไม่ได้นอนเลย จุดนี้พี่เภาแอบเสริมว่าพี่จุ๋มกับพี่เภาไม่กล้ากลับบ้านเพราะต้องคอยรับใช้เกล้าว่าเขาจะหิวอะไรหรือเปล่า

ผมเริ่มจะเข้าใจมากขึ้นแล้วครับว่าทำไมคนที่อยู่รอบตัวเกล้าถึงได้รักและก็เป็นห่วงเกล้าขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่ร้าน แม่บ้านที่บ้าน หรือแม้กระทั่งลุงยาม (ครอบครัวคงไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว) ผมค่อนข้างรู้ว่าเกล้าเป็นคนยังไง เขาเป็นคนใจดีมีเมตตา ผมสัมผัสได้ด้วยตัวเองหลายต่อหลายครั้งในยามที่ผมทำผิดที่ร้าน บางครั้งเกล้าก็ใจดีกับผมเกินไปด้วยซ้ำ

หลังจากล้างผักเสร็จผมก็หั่นผักต่อ พี่จุ๋มเล่าว่าที่บ้านหลังนี้ส่วนใหญ่มักจะทานอาหารเพื่อสุขภาพกัน มิน่าล่ะผมถึงเห็นผักสีเขียวอยู่บนที่เตรียมอาหารเต็มไปหมด ผมฟังพี่จุ๋มไปตั้งใจช่วยงานครัวไปอย่างเต็มใจ ผมไม่หวังให้พ่อกับแม่ของเกล้ายอมรับผมในวันนี้หรอกนะครับ หากผมไม่ทำอะไรเลย มัวแต่อยู่เฉยๆ ปล่อยให้เกล้าเผชิญหน้ากับเรื่องนี้คนเดียวล่ะก็...ผมคงไม่มีวันยอมให้อภัยตัวเอง

ในที่สุดอาหารเช้าของครอบครัวเกล้าก็เสร็จ พี่จุ๋ม (เธอทีมผม ก็เลยกระซิบกระซาบบอกข้อมูลผมตลอด) บอกว่าพ่อกับแม่ของเกล้าตื่นแล้ว ส่วนใหญ่มักจะทำกิจกรรมเบาๆ ง่ายๆ อยู่ในห้องนั่งเล่นระหว่างที่รออาหารเช้า ผมเดาว่าแม่ของเกล้าคงจะอ่านนิยาย ส่วนพ่อก็คงจะเล่นเกมในไอแพด

“ผมช่วยยกนะครับ” ผมพูดกับพี่แม่บ้านทั้งสอง

“ได้เลยค่ะ”

ผมค่อยๆ ลำเลียงอาหารเช้าไปวางบนโต๊ะทานอาหาร ระหว่างที่ผมกำลังจะหันกลับไปยกจานมาเพิ่ม พ่อกับแม่ของเกล้าก็เดินเข้ามาในครัวพอดี

“มาได้ยังไง” พ่อของเกล้าพึมพำอย่างตกตะลึงที่เห็นผมอยู่ในบ้าน “มีธุระอะไรงั้นเหรอ”

“ธุระของผมไม่มีอะไรมากครับ ผมมาเพื่อให้พวกท่านยอมรับผม”

“ให้ตายเถอะ ออกไปเลย!”

“อย่าใจร้ายกับผมสิครับ” ผมส่งเสียงกระเง้ากระงอด คิดไปเองว่าเกล้าเป็นคนใจอ่อนก็ต้องมีพ่อกับแม่ของเขาสักคนล่ะน่าที่ใจอ่อนเหมือนเขา

“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้น” คราวนี้แม่ของเกล้าพูดขึ้นบ้าง พวกท่านโหด...แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าจะน่ากลัวมากมายอะไร

“ผมตื่นแต่เช้าเพื่อมาช่วยงานที่บ้านนี้เลยนะ”

“คิดว่าจะได้ผลเหรอ” พ่อของเกล้านั่งลงที่หัวโต๊ะ ส่วนแม่ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ

“ไม่มากก็น้อยแหละครับ หวังว่านะ...”

“วันนี้พอแค่นี้แหละ กลับไปได้แล้ว”

“ผมอุตส่าห์มาให้ใช้ถึงที่แล้ว ใช้งานผมให้เต็มที่เลยครับ”

“ไม่ได้ทำงานทำการหรือไง”

“ผมเป็นนักร้องที่ร้านของเกล้าอยู่ครับ” คำพูดของผมทำเอาท่านทั้งสองจ้องผมด้วยสายตาตกใจ “ตอนนี้ผมอาจจะเป็นแค่นักร้องกลางคืนเฉยๆ แต่ต่อไปผมอาจจะเป็นดารานักร้องชื่อดังก็ได้”

“วุ่นวายจะตาย ดาราดราม่ามีทุกวัน” ท่าทางพ่อของเกล้าจะสนใจโลกโซเชียลไม่น้อยเลยนะครับเนี่ย...

“แต่ได้เงินนะครับ” ผมส่งยิ้มให้พวกท่าน

“มีดีแค่เสียงหรือไงเรา มีความสามารถอย่างอื่นหรือเปล่า” แม่ของเกล้าถาม ดูเหมือนจะเริ่มสนอกสนใจในตัวของผมมากขึ้นนะเนี่ย...

ฉิบหาย...ผมไม่ได้เตรียมตัวมาตอบคำถามในเรื่องนี้


“ผมรักเกล้าครับ”

“หึ นั่นมันไม่พอหรอกนะ” แม่ของเกล้าตวัดสายตามองผม “ฉันเลี้ยงลูกของฉันมาเพื่อที่อยากจะให้เขามีชีวิตที่ดี อยู่กับคนที่รักเขาและก็ดูแลเขาได้”

“ผมดูแลเขาได้...”

“ด้วยการเป็นนักร้องเต้นกินรำกิน?”

“ผมก็บอกแล้วไงครับ บางทีผมอาจจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังก็ได้ ตอนนั้นผมคงเลี้ยงเกล้าได้อีกเป็นร้อยคน”

“ลูกชายฉันมีแค่คนเดียว...”

“ผมแค่อยากเปรียบให้เห็นว่าผมมีความสามารถมากพอที่จะดูแลเกล้าน่ะครับ”

“ทำไมไม่พูดถึงธุรกิจที่บ้านเลยล่ะ” พ่อของเกล้าหันมาถามผม “ทำไมพูดถึงแต่เสียงร้องของตัวเอง”

“ผมเล่าได้เหรอครับ” ผมพูดอย่างไม่แน่ใจ

“ก็ถามเพราะอยากรู้อยู่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตนั่งนะครับ” ผมกำลังจะนั่งที่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่ แต่แล้วผมก็มองเห็นจานของเกล้าซึ่งถูกวางเอาไว้อยู่ ผมจึงเลื่อนไปนั่งที่ข้างๆ แทน

ทั้งคู่มองผมอย่างตกตะลึง และรอคอยว่าผมจะทำอะไรต่อไป

“ผมกับพ่อทะเลาะกัน ไม่ได้คุยกันมาหลายปีแล้ว”

ทั้งสองไม่พูดอะไรต่อ แต่รอคอยฟังสิ่งที่จะออกมาจากปากของผม

“เพราะผมอยากเรียนร้องเพลงนี่แหละครับ พ่ออยากให้เรียนเกี่ยวกับธุรกิจ แต่ผมไม่อยากเรียนจริงๆ”

“ทะเลาะมาหลายปี? แบบที่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยจริงๆ น่ะเหรอ”

“ครับ”

แม่สบตากับพ่อด้วยสีหน้ากังวลใจ

“เพราะเหตุนี้เมื่อคืนผมก็เลยไม่อยากที่จะบอกนามสกุลผมสักเท่าไหร่ ผมอยากให้พวกท่านยอมรับผมเพราะตัวผม ไม่ใช่เพราะพ่อผมหรือว่านามสกุลของผม”

“เราสองคนไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ” พ่อพูดแทรกขึ้นมา “อย่างน้อยก็แค่อยากรู้ถึงเรื่องความมั่นคง...”

“ผมมีความมั่นคงแน่ๆ ครับ”

“สิบสอง” เสียงของเกล้าดังขึ้นมาทำเอาบทสนทนาของผมกับพ่อแม่เกล้าจบลงกะทันหัน “มาทำอะไรที่นี่วะ”

“อรุณสวัสดิ์” ผมส่งยิ้มให้เกล้า เกล้าอยู่ในชุดที่เรียกได้ว่าเป็นชุดอยู่บ้านอย่างแท้จริง นั่นคือเสื้อยืดตัวย้วยกับกางเกงขาสั้น เขาดูเหมือนเพิ่งจะถูกปลุกขึ้นมาจากเตียงโดยพี่เภา

เกล้านั่งลงข้างๆ ผม ยังคงมองผมด้วยความอึ้งไม่หาย

“กำลังคุยกับพ่อแม่เกล้าอยู่เลย สนุกมาก”

พ่อกับแม่ของเกล้าขมวดคิ้วใส่ผม...

“อีกไม่นานพวกท่านก็ไฟเขียวให้เราแล้วล่ะ” ผมยักคิ้วจึกๆ ส่งให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ

“เดี๋ยว ยังไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นออกไปเลย” พ่อกับแม่ของเกล้าต่างแย่งกันแย้งผม

ผมยิ้มตาหยีให้พวกท่าน ตอนนี้นอกจากพวกท่านจะยังไม่ยอมรับผมแล้ว พวกท่านยังทำท่าปวดหัวกับผมด้วย ผมเบนสายตามาทางเกล้า เขาดูงงๆ ที่ผมมาทำอะไรแบบนี้โดยที่ไม่ได้ปรึกษาเขา

“ได้นอนบ้างหรือเปล่า” ผมกระซิบให้เกล้าได้ยินคนเดียว

เกล้าส่ายหน้าเบาๆ ตอบผม...

“ไม่เป็นไรนะ”

“...”

“ถ้ามันจะใช้เวลามากหน่อย...มันก็คุ้มนะ”

“...”

“ถ้าเราจะได้อยู่ด้วยกัน”








“ฉันจะอ่านนิยายเงียบๆ”

“ผมก็ยังไม่ได้กวนอะไรคุณแม่เลยนี่ครับ”

“เธอมารบกวนสมาธิของฉันนะ”

“อะไรกันครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมแค่มาเสิร์ฟน้ำและก็พัดให้คุณแม่”

“ให้ตายเถอะ จุ๋ม เธอปล่อยตานี่ให้มากวนฉันได้ยังไง”

ผมอดขำท่าทางของแม่เกล้าไม่ได้เมื่อเห็นว่าผมมาบริการท่านถึงริมสระน้ำ ผมได้รับการสนับสนุนจากพี่จุ๋มที่พยายามช่วยผมเป็นอย่างดี ตอนนี้พ่อของเกล้าไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ส่วนเกล้าถูกแม่ของเขาไล่ให้ขึ้นไปอยู่บนบ้าน

“คุณกันต์อาสาเองเลยนะคะ น้ำส้มนี้คุณกันต์ก็ช่วยทำด้วย”

“ใครเป็นเจ้านายเธอกันแน่จุ๋ม” แม่เกล้าส่งสายตาจิกทิ่มแทงไปให้พี่จุ๋ม

“คุณกันต์เป็นแขกนะคะ จุ๋มจะกล้าขัดใจแขกได้ไง”

“นี่...”

“เชิญคุณผู้หญิงอ่านนิยายสวยๆ เย็นๆ ริมสระน้ำเลยค่ะ มีคุณกันต์สุดหล่อคอยพัดให้แบบนี้ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะ”

“ยัยจุ๋ม!”

พี่จุ๋มโค้งให้แม่ของเกล้าก่อนที่จะเดินจากไป ผมที่ยืนถือพัดอยู่รีบพัดให้แม่ของเกล้าเพราะกลัวท่านจะร้อน

“คิดว่าทนไหวก็ทำไป...” ท่านพูดอย่างปลงๆ กับผม

“ผมทนไหวอยู่แล้ว แค่นี้สบายมาก”

“อยากทำคะแนนมากนักใช่มั้ย”

“แหงสิครับ ผมรักจริงหวังแต่งนะ”

“คบกันมาเพิ่งจะไม่เท่าไหร่”

“แต่ผมแอบชอบลูกคุณแม่มาหลายปีแล้วนะ”

“ฉันไม่พูดกับเธอแล้ว”

“ผมจะรอคุณแม่ถามผมนะครับ”

ผมสนุกเป็นบ้า...ถึงในสายตาผู้ใหญ่จะมองว่าผมเป็นเด็กที่น่ารำคาญก็ตาม แต่เพราะแม่ของเกล้ามีเงาของเกล้าอยู่ในตัวสูงมาก ผมเคยชนะใจเกล้ามาแล้ว ทำไมผมจะไม่ชนะใจแม่เขาล่ะครับ

ความที่เด็กกว่าของผมก็ถือว่าเป็นข้อดีเหมือนกันนะ...เด็กอย่างผมไม่เลิกตื๊อง่ายๆ หรอก

“อีกสักพักผมคงต้องไปบริการฝั่งคุณพ่อบ้างนะครับ”

“เชิญเลยจ้ะ ยิ่งไวก็ยิ่งดี”

“คุณแม่จะไม่คิดถึงผมเหรอ...”

“ทำไมฉันต้องคิดถึงเธอด้วยยะ”

“...แต่ผมคิดถึงคุณแม่นะ”

แม่ของเกล้าแทบจะโยนหนังสือนิยายมาใส่ผมอยู่แล้ว ผมหลุดหัวเราะก่อนที่จะวิ่งไปหาพ่อของเกล้าที่กำลังตัดแต่งต้นกล้วยไม้อยู่บริเวณสวน

“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำเอาท่ามาให้นะครับคุณพ่อ”

“ไม่ต้อง และก็ช่วยกรุณากลับบ้านกลับช่องของตัวเองได้แล้ว” พ่อพูดแบบไม่มองผมเลย

“ผมไปเอาน้ำมาให้ดีกว่า” ผมสรุปในที่สุด แล้วเดินไปที่ครัวส่วนที่อยู่หลังบ้าน ทันเห็นเกล้าที่อยู่ชั้นสองและกำลังมองมาที่ผมผ่านทางหน้าต่าง

ผมส่งยิ้มให้เขา โบกมือให้สองสามที ดูท่าเขาจะกำลังเครียดกับสิ่งที่ผมกำลังทำ ผมก็เลยชูสองนิ้วให้พร้อมกับชูสัญลักษณ์คำว่าโอเคตามไปทีหลังด้วย

เอ๊ะ...มันไม่ได้ช่วยให้เกล้าดีขึ้นแฮะ

ผมยืนอยู่ตรงนั้นพยายามส่งสัญญาณมือบอกกับเกล้าว่าผมไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอะไร

“มองอะไรไม่ทราบ” พ่อของเกล้ามายืนอยู่ข้างๆ ผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ระเบียงบ้านครับ...สวยดี”

“ไหนล่ะน้ำ”

“คุณพ่อหิวเหรอ” พ่อไม่ตอบ แต่เดินหนีผม

ผมบอกแล้วใช่มั้ยครับว่าพวกท่านน่ะไม่โหดเลย...

ผมมองไปที่ชั้นสองอีกครั้ง เกล้าโผล่หน้าออกมาจากหลังม่าน ทำปากขมุบขมิบบอกกับผมว่า

‘สู้ๆ นะ’

แค่นี้ผมก็มีแรงทำคะแนนกับพ่อและแม่ของเขาตลอดทั้งวี่ทั้งวันแล้ว








“หายหน้าหายตาไอ้สัด”

“ทำไม”

“ฟาร์ร้องเพลงแทนมึงจนเจ็บคอ”

“กูขอโทษ”

“มีคนให้ทิปฟาร์เยอะด้วย”

“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ”

“ดีห่าไรล่ะสัดกันต์ ผู้ชายโว้ยที่เป็นคนเอามาให้”

“โชคดีนะมึง”

“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย”

“ได้ใจพ่อแม่เกล้าเมื่อไหร่เดี๋ยวกูรีบกลับไป”

“อืมมมมม”

“กูไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่มั้ย”

“มึงเป็นแฟนเจ้าของร้าน เจ้าของร้านกำลังทุกข์ ลูกน้องอย่างพวกกูไม่บ่นหรอกถ้าสิ่งที่มึงกำลังทำจะทำให้เจ้าของร้านอย่างเฮียสบายใจขึ้น”

“เจ๋งสาดดด...”

“...”

“อย่าลืมบอกเฮียให้ขึ้นเงินเดือนให้พวกกูนะ”

“รู้แล้วล่ะน่า”


[จบพาร์ตของกันต์]




TBC*


อัพสองตอนติด เพราะจะไม่อยู่ทั้งอาทิตย์นะค้า

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
กันต์มีความเนียนและแหลมากก55555

สู้ๆน้าสิบสองง

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
นี่แหละวิถีที่ลูกผู้ชายเขาทำกันสิบสอง อ้อนและเนียนเข้าไว้ เดี๋ยวดีเอง 555 ช่วยไม่ได้อยากได้ลูกชายคนเดียวเค้าทำเมียนิ อิอิ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
สงสารคุณพ่อคุณแม่เเกล้าจัง ท่าทางว่าที่ลูกเขยบ้านนี้จะป่วนมากถึงมากที่สุด 555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 หนึ่งมีความหนา ต้องลุยใช่แล้วค่ะ
ฟาร์ไม่คิดอะไรจริงหรอ ไม่ชอบใช่ว่าไม่คิดนะ

สิบสองมีความเครียด แต่เกล้าคงเครียดกว่า

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
พ่อกับเเม่พี่เกล้า ต้องลองใจเเน่เลย นี้พ่อเเม่เล่นใหญ่ไปไหม หวงลูกชายมากๆเเน่
เชื่อว่า ท่างทั้งสองคงไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก เพราะพ่อกับเเม่พี่เกล้า รักพี่เกล้ามากๆ
ท่านคงดูว่าที่ลูกเขยจะไปได้สักกี่น้ำ
เเต่คุณพ่อ คุณเเม่ ท่านรู้ไหมค่ะ พี่กันต์คนเเมนนี้เเหละ แอบรักพี่เกล้าข้างเดียวมาตั้งหลายปี

แอบชื่อชมพี่เกล้าอยู่ห่างๆ รักมั่นคง เเม้จะนอกลู่นอกทางบ้างประปาย ตามประสาคนแอบรักเอง เจ็บเอง เศร้าเอง เเล้วก็หายเอง
สุดท้ายก็หนีไปพ้นพี่เกล้าอยู่ดี กันต์เองมีลูกเล่นเเพรวพราวอยู่เเล้ว ไหนจะความมึน นิสัยเด็กที่มีอยู่ติดตัว พี่กันต์ไม่ทำให้คุณพ่อ คุณเเม่ผิดหวังเเน่ๆ       เด่วอีกหน่อย จะหลงรัก ลูกเขย เเทนลูกจริงๆ 55555

พี่เกล้าน่ารักค่ะ แอบให้กำลังใจด้วย งี้แหละ ถ้ามีปัญหาเเละพร้อมสู้ไปด้วยกัน พี่กันต์นี้เต็มที่เลย
ส่วนนามสกุลพี่กันต์ ต้องเป็นคนใหญ่ คนโตเเน่เลย เเต่พอคิดว่า กันต์จะไปเป็นนักร้อง ก็แบบ เฮ้อออ ดาราอ่ะ ดราม่าจะตาย ไหนคนในวงการอีก ต้องมีปัญหาตามมาอีกเป็นพรวน นี้คิดถึงอนาคตที่ต้องยุ่งยากเเน่ๆเลย ต่อไปจะมีเวลาดูเเลกันหรอ
ไหนพี่อาทิตย์ก็คงไม่เลิกตัดใจง่ายๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด