{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 675118 ครั้ง)

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
คู่ฟาร์เต๊บน่ารักกก

ส่วนสิบสอง รอนะรออออ

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สู้สู้ ทั้งสิบสองและก็ชู้รักอย่างหนึ่งด้วย  :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คู่รองกำลังมีความสุข ส่วนคู่หลักกำลังเหมือนจะดราม่า :serius2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เขินได้น่ารักไปนะ ฟาร์ๆๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ข้ามมาม่ามาหวานนิดๆพอกรุ้มกริ่ม พยายามต่อไปนะเต๊บ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มันพีคตรงประโยคสุดท้ายของเต๊บเนี่ยแหละ
อย่างนี้ใครจะหลับลง ฮ่าฮ่าฮ่า

และ......เต๊บทิ้งชู้ให้เฟ้งฟ้างงงงงงงงง

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ปล่อยให้ชู้คุยคนเดียว เต๊บบบบบบ. มั่วแต่สนเมีย 555

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
สิบสองจะลาออก ใจหาย....เพืีอพี่เกล้า สู้ๆนะสิบสอง

ชอบฟาร์จังเลย

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ฟาร์เริ่มจะใจอ่อนแล้ววววว

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ฟาร์อ่อนลงให้ตั้งเยอะแล้ว น่ารักกกกกกกกก
จับมือ!! เขินนนนนน

แต่ตอนท้าย กันต์ทำเอาเครียดเลย จะไปหาพ่อแล้วอ่อ สู้ๆๆๆน๊าาาา

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ฟางน่ารักจิง ๆนั่นแล่ะ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
มีโมเมนต์นอนจับมือด้วย ดูมุ้งมิ้งอ่ะ :-[ :impress2:

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ฟาร์น่ารักกก 555555
กันต์สู้ๆๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ขนาดนี้ไม่เขินก็แย่แล้วเนาะฟาร์

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แบบนี้ ไม่เรียกว่าใจอ่อน จะเรียกว่าอะไร อิๆ  พ่อไตเต๊บ รุกหนักมาก  :hao7:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ป้าดดด!! จิงจังกันทุกคู่ 55555

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไตเต๊บ ฟาร์  :mew1: :mew1: :mew1:
หนึ่ง รุกฟาร์หนักขึ้น
ฟาร์ น่ารัก เขินหนึ่งและ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
โธ่12 ชู้ไม่ตอบแชทอ่ะ 5555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 30
พ่อของสิบสอง






[พาร์ตของกันต์]

ผมคิดดีแล้วครับที่ผมเลือกลาออกจากร้านของเกล้า

เกล้าตกใจไม่น้อยที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น แต่เมื่อฟังเหตุผลของผมแล้วเขาก็เข้าใจผมแต่โดยดีว่าผมลาออกทำไม เหตุผลของผมหลักๆ มีอยู่หลายข้อครับ อย่างแรกเลยคือระยะหลังๆ ผมโดดงานบ่อยเกินไป เหตุเพราะผมต้องไปทำคะแนนกับพ่อแม่ของเกล้า แม้เพื่อนนักดนตรีและไอ้เต๊บมันจะเข้าใจ แต่ก็ใช่ว่าครอบครัวร้านบาร์สุราลัยจะเข้าใจผมทั้งหมด การที่ผมโดดงานบ่อยตามใจตัวเองแบบนี้คงจัดได้ว่าเป็นพนักงานที่แย่ และถ้าหากเกล้าไม่ทำอะไรผม หลายคนก็คงจะมองว่าเกล้าให้อภิสิทธิ์พิเศษต่อผม

สองก็คือ...ผมจะไปเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้มันดีขึ้น ไม่ใช่ว่าผมดูถูกอาชีพนักร้องกลางคืนของตัวเองนะครับ เพียงแต่ว่าผมเป็นแค่นักร้องไม่ได้อีกแล้ว ดูเกล้าสิครับ เขาอายุยังไม่ถึงสามสิบแต่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวขนาดย่อมที่มีชื่อว่าบาร์สุราลัย (อนาคตเขาอาจจะขยายสาขา) แล้วผมล่ะมีอะไรบ้าง นอกจากหน้าตาที่พอดูได้กับเสียงที่ไม่ได้แย่ก็เท่านั้น (คำพูดนี้ก๊อปมาจากพ่อของเกล้าหลังจากที่เขาลองฟังผมร้องเพลงในคืนหนึ่ง วันที่ผมโดดงานนั่นแหละครับ)

เกล้าอยู่ในวัยที่จะต้องจริงจัง ส่วนผมแม้จะยังสามารถเที่ยวเล่นได้แต่ผมดันไปรักคนที่ครอบครัวของเขาจริงจัง ผมจึงจำเป็นต้องจริงจังตามอย่างไม่มีเงื่อนไขครับ

สิ่งที่ผมนึกออกมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือประกวดร้องเพลงนี่แหละ

ผมรู้ว่าโอกาสชนะมันมีน้อยมาก...ถึงแม้ว่าผมชนะและการเป็นนักร้องที่อยู่ในวงการบันเทิงก็ใช่ว่ามันจะมั่นคง ลับหลังเกล้าผมเครียดมากครับ แต่ผมไม่ได้เล่าให้เขาฟัง ผมอายุยี่สิบสอง เพิ่งจะเรียนจบหมาดๆ แต่ต้องมาคิดอะไรที่ผมมักจะมองว่าใหญ่เกินตัวแบบนี้มันทำให้ผมปวดหัวมาก

สาเหตุก็เพราะรัก...เพราะรักคำเดียวเท่านั้น

“ตื่นหรือยังจ๊ะลูก” เสียงหวานๆ ของแม่ผมดังมาจากห้องนั่งเล่น ผมที่ตื่นนานแล้วแต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงส่งเสียงร้องตอบแม่ไปว่าผมตื่นแล้ว “มาทานอาหารเร็วเข้า แม่ซื้อมาเยอะแยะเลย”

ผมลุกขึ้นจากเตียงด้วยใบหน้ายุ่งๆ หลังการตื่นนอน และเมื่อผมเห็นของกิน...ผมก็แกะถุงแล้วนั่งกินทันที

“ไปเครียดเรื่องอะไรมา”

แม่ก็คือแม่จริงๆ ว่ะ...ทันทีที่ผมจับของกินแม่ก็รู้ทันทีว่าผมเครียด เวลาผมเครียดผมจะกินมากกว่าปกติน่ะครับ แถมยังกินไม่เลือกด้วย ไม่รู้สิผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว

“บอกแม่มาซิ” แม่ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับผม และช่วยแกะของในห่อเพื่อที่จะเอามาให้ผมกิน

“เรื่อง...”

“ผู้หญิงใช่มั้ย”

ผมสบตากับแม่พร้อมขมวดคิ้ว

“โอ๊ะ ลืมไป ต้องถามว่าเรื่องของน้องเกล้าใช่หรือเปล่า”

“ครับ” ผมรับคำก่อนที่จะเคี้ยวตุ้ยๆ “ผมไปเจอพ่อกับแม่ของเกล้ามา”

“แล้วยังไง...”

“ตอนแรกก็รับไม่ได้...”

“ว่ายังไงนะ” แม่ของผมแผดเสียงดังลั่น “ทำไมรับลูกของแม่ไม่ได้ ลูกของแม่ไม่ดีตรงไหน หล่อก็หล่อ สูงก็สูง นิสัยก็ดี๊ดี ความสามารถก็มี ลูกแม่ไม่ดีตรงไหน!”

อื้อหือ...ผมรู้ก็คราวนี้ว่าใครจะมาด่าผมต่อหน้าแม่ผมไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะแม่ผมเอาตายแน่ๆ

“แม่ ฟังดีๆ ก่อน ผมบอกว่าตอนแรกก็รับไม่ได้”

“แล้วตอนนี้ล่ะ”

“รับได้แล้วมั้ง...นิดหนึ่ง”

แม่ของผมทำหน้าบูด เธอกอดอกพร้อมกับจ้องหน้าผมเขม็ง “หรือต้องให้แม่ไปคุยด้วย”

“ไม่ใช่แล้วแม่ ผมจัดการเองได้”

“...”

“ผมมีเรื่องเครียดมากกว่านั้นอีก...นิดหน่อย”

“ลองว่ามาดูซิ” แม่ของผมตั้งใจฟังผมมาก

“ที่บ้านเกล้าจริงจังมากเลยครับแม่” ผมพูดเหมือนกับระบายให้แม่ผมฟัง “เขาไม่ได้ต้องการคนที่มาคบกับลูกชายเขาเฉยๆ เขาต้องการคนที่จะดูแลลูกชายเขาได้ คนที่เหมาะสมกับลูกชายเขาครับ”

“แม่พอจะเข้าใจ เพราะเขามีลูกชายคนเดียวนี่นะ ใช่มั้ย” แม่หรี่ตามองผมแปลกๆ ผมเองก็ลูกชายคนเดียวครับ “อีกอย่างหนึ่งสมัยนี้คนแต่งงานกันไว เกล้าเองก็อยู่ในวัยที่จะต้องหาคู่ครอง พ่อแม่เขาซีเรียสกับเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ”

“ที่ผมเครียดก็คือ...ถ้าผมไม่ได้เป็นนักร้องกลางคืน ผมจะทำอะไรล่ะครับ ในเมื่อผมมันมีดีแค่เสียง”

“นี่ ลูกแม่มีดีกว่านั้นเยอะ!” แม้แต่ตัวผมก็ด่าผมต่อหน้าแม่ของผมไม่ได้... “ทำไมลูกไม่คิดถึงธุรกิจที่บ้านบ้าง นี่บ้านเรารวยจนลูกไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรอีกแล้ว ทำไมยังดื้ออยู่อีกล่ะ”

“ผมไม่อยากคุยกับพ่อ”

“เรื่องมันก็นานมาแล้วนะลูก”

“ผมไม่อยากใช้นามสกุลพ่อ ไม่อยากใช้เงินของพ่อเพื่อความรักของผม”

“เอาล่ะๆ แม่เข้าใจ” แม่ของผมกลอกตาราวกับเบื่อเรื่อง ‘สงครามของพวกผู้ชาย’ เต็มที “แต่ลูกกันต์ของแม่ลองคิดดูนะ ครอบครัวของเกล้าเขาจะยอมรับลูกเหรอถ้าลูกยังไม่ยอมคืนดีกับพ่อตัวเองแบบนี้ พ่อยังไงก็คือพ่อนะลูก ลูกเกิดมาก็ต้องดูแลพ่อ แม้ว่าบางครั้งจะมีปากเสียงกับพ่อบ้าง...”

“นี่แม่พยายามพูดให้ผมคืนดีกับพ่อชัดๆ”

“โธ่ ก็ฉันอยากเห็นครอบครัวของฉันรักกัน!” แม่ร้องอย่างเหลืออด

“ผมอยากเป็นนักร้องแถมยังเป็นเกย์แบบนี้พ่อคงยิ่งรับไม่ได้”

“พ่อเขารับได้นะ” แม่ของผมหยิบถั่วขึ้นมากินเล่น “แม่ลองพูดไปแล้วล่ะ”

“แม่!” ผมร้องอย่างตกใจ

“ทำไมล่ะ ก็ไม่ยอมพูดกับพ่อเขาเอง แม่ก็ต้องอัพเดตกับพ่อเขาสิ”

“แม่ครับ”

“สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าพ่อของลูกไม่ได้มีปัญหาเรื่องความรักของลูก ที่เขามีปัญหาก็คือเมื่อไหร่ลูกจะกลับไปสานต่อเรื่องธุรกิจที่บ้านสักที”

“...”

“แม่ไม่ได้ดูถูกว่าอาชีพนักร้องนั้นได้เงินน้อย แต่พอมาถึงจุดจุดหนึ่งที่ชีวิตมันต้องจริงจังขึ้นมาบ้าง ธุรกิจที่บ้านหรือการทำธุรกิจส่วนตัวมันก็ช่วยเรื่องรายได้ได้มาก นี่ลูกไม่เห็นเหรอว่าดารานักแสดงหรือดารานักร้องช่วงนี้เขาขายสินค้าส่วนตัวกันเยอะแยะมากมายน่ะ”

“...”

“มันไม่ใช่การดูถูกอาชีพนักร้องของตัวเองนะลูก แต่มันคือการเพิ่มทางเลือกให้กับชีวิตตัวเอง แม่ไม่ว่าหรอกที่ลูกจะเป็นนักร้อง ลูกจะเป็นดารา ลูกจะเป็นเดอะนิวสตาร์คนต่อไปของประเทศไทยหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ ลูกคือทายาทของกัญจขจรกุล ลูกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไม่ได้”

ผมเอาหน้าถูไถไปกับโต๊ะอย่างเหน็ดเหนื่อยหัวใจ...

แม่พูดถูก แม่พูดถูกทุกอย่างเลย

“สักวันหนึ่งลูกก็ต้องกลับมา ธุรกิจของบ้านเราทำติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน มันจะมาสิ้นสุดที่ยุคของลูกไม่ได้”

“แต่แม่ครับ...”

“...”

“ผมชอบเกล้า เกล้าเป็นผู้ชาย ผมมีทายาทไม่ได้นะ”

“เรื่องนั้นน่ะเหรอ” แม่ยักไหล่ “ไว้ค่อยคิดอีกที แม่ชิลๆ”

ผมถอนหายใจยาวเหยียดพลางคิดเรื่องนี้วนไปวนมาในหัว

“ลดทิฐิลงมาบ้างเถอะลูก ยังไงก็พ่อ ยังไงก็ครอบครัว” แม่พูดต่อไป “ถามจริงๆ เถอะ ลูกมีความสุขเหรอที่ทะเลาะกับพ่อ แม่เชื่อว่าลูกไม่มีความสุขหรอก”

“มันก็จริงอ่ะ...”

“กินเสร็จเราจะไปหาพ่อกัน”

ผมมองดูของกินที่อยู่ตรงหน้าจากนั้นก็หยิบมันเข้าปากอย่างต่อเนื่อง ผมจิ้มไลน์คุยกับไอ้เต๊บด้วย เชี่ยแม่งหายหน้าหายตาไปเลยครับ ไม่รู้ป่านนี้มันกับฟาร์ถึงไหนกันแล้ว

จะว่าไป...ผมควรเอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อน







“อะไรนะ!” เกล้าที่กำลังดูแลร้านอยู่ร้องเสียงหลงเมื่อผมเล่าให้ฟังว่าผมกำลังจะไปหาใครที่บ้านจริงๆ ของผม “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมเพิ่งมาบอก”

“เพิ่งถูกแม่เป่าหูและก็ล้างสมองมาน่ะ” ผมส่งยิ้มให้แม่ ซึ่งตอนนี้กำลังสำรวจเล็บของตัวเองอย่างเดียวเลยครับ เราอยู่บนรถที่คนขับรถของบ้านเป็นคนขับให้ ผมไม่ได้มีชีวิตที่สะดวกสบายแบบนี้มานานแล้วแฮะ ได้นั่งรถใหญ่ยักษ์ขนาดนี้แถมยังมีคนขับรถขับให้อีก

จริงๆ แล้วมันคือชีวิตของผม...ที่ผมเลือกที่จะทิ้งไป

“แล้วจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ” เกล้าเป็นห่วงผมมาก “ให้ไปหาหรือเปล่า”

“ไม่เป็นอะไรหรอกเกล้า อย่างน้อยก็น่าจะถูกกระทืบ”

“เฮ้ย อย่ามาตลก!”

“จริงๆ พ่อเป็นคนมือเท้าหนักน่ะ” ผมอดยิ้มไม่ได้ตอนที่จินตนาการถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของเกล้าในตอนนี้

“จริงเหรอ...”

“ผมล้อเล่น” ผมหัวเราะเบาๆ “ตื่นเต้นเหมือนกันนะ ไม่ได้คุยกับพ่อดีๆ มานานมากแล้ว”

“ใจเย็นๆ ก็แล้วกัน ค่อยๆ พูด”

“ผมรู้ ผมไม่ได้มาพูดแค่เรื่องการเป็นนักร้องของผมนะ”

“...”

“ผมมาพูดเรื่องของเราด้วย”

ถ้าปลายสายทำโทรศัพท์ร่วงได้คงทำไปแล้วครับ...โชคดีที่แม่ผมไปพูดให้พ่อฟังก่อน แม่มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าตอนแรกพ่อก็ไม่ได้ชอบใจนักหรอก แต่พ่อไม่ได้คุยกับผมมานานจนทำให้เรื่องอื่นๆ เบาบางไปเลยสำหรับพ่อ แม่บอกว่าเพียงแค่ได้รู้ความเป็นไปของลูกชายพ่อก็พอใจมากแล้ว พ่อไม่ได้ต้องการให้ลูกชายเพอร์เฟ็กต์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ตอนผมฟังแล้วรู้สึกน้ำตาจะร่วง...ผมดื้อกับท่านมากเกินไปใช่มั้ยครับ ผมควรจะไปหาท่าน ควรคืนดีกับท่านซะ ผมเสียเวลาไปนานหลายปีก็เพราะความเห็นและความต้องการไม่ตรงกันเนี่ยนะ

อ้อ...รวมเรื่องศักดิ์ศรีและทิฐิบ้าบอของผู้ชายด้วย

“จะไม่เป็นไรใช่มั้ย”

“คนที่เกล้าควรกังวลคือพ่อแม่ของเกล้า” ผมให้คำมั่นกับเขา “และก็คุณอาทิตย์”

“...”

“เขามาหาเกล้าอีกมั้ยครับ”

“ไม่แล้วล่ะ”

“จริงๆ นะ ถ้าเขามาเข้าใกล้เกล้าผมให้ไอ้แมนมันจัดการจริงๆ ด้วย”

“แมน?”

แมนมันสิบสามหรือสิบห้าวะ...อ๋อ “สิบห้าครับ”

“ไอ้บ้า นั่นเพื่อนกูป่ะ”

“ผมไว้ใจก็ได้ เกล้าชัดเจนมาก ผมชอบเกล้าตรงนี้แหละ”

“...”

“จริงๆ ก็ชอบทุกอย่างของเกล้าเลยยยย”

“อ่ะแฮ่มๆ” แม่กระแอมขัดราวกับต้องการบอกว่าได้ยินทุกคำพูดของผม

“กดเฟซไทม์ๆ” ผมกระซิบบอกกับเกล้าและก็เอาโทรศัพท์ออกจากหูเพื่อกดเฟซไทม์ ไม่นานนักอีกฝ่ายก็กดเฟซไทม์เช่นกัน ผมเห็นใบหน้าของเกล้า เขาอยู่ในห้องทำงานและก็กำลังมองผมด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยของเขา

“อะไรเหรอ” เสียงของเกล้าดังลั่นรถจนแม่หันมาสนใจ

“สวัสดีแม่หน่อย” ผมพูดยิ้มๆ เลื่อนกล้องหน้าของโทรศัพท์ไปหาแม่ เกล้าในจอของผมตกใจมาก รีบยกมือไหว้ทันที ท่าทางขัดเขินของเขาทำเอาผมหุบยิ้มไม่ได้

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีจ้ะน้องเกล้า ทำงานเหรอ” แม่ผมโบกมือส่งให้เกล้า

“ครับ” เกล้าดูทำสีหน้าไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ผมหัวเราะก่อนที่จะจับโทรศัพท์ให้หันมาเห็นแค่ผมคนเดียว “เล่นบ้าอะไรเนี่ย” เกล้าด่าแบบกระซิบๆ เอา

“คิดถึง...อยากเห็นหน้า”

“อยากแกล้งมากกว่า ไม่ต้องมาพูด”

“ฮ่าๆๆ มีแรงไปไฟต์กับพ่อแล้ว ไปแล้วนะ”

“สู้ๆ นะ” เกล้าพูด ก่อนจะกดวางไป

ผมกดล็อกจอโทรศัพท์พลางมองไปที่หน้าต่างรถอย่างใจลอยสักพัก จู่ๆ ก็มีเสียงเตือนว่ามีคนส่งข้อความไลน์มาหา

KLAO : สำหรับกูมึงผ่านการทดสอบเรื่องลองคบดูแล้วล่ะ
KLAO : กูรักมึง


“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมร้องเสียงดังลั่นรถจนคนขับรถหันมามอง

“เป็นอะไรไป” แม่ที่อยู่ข้างๆ ถามอย่างตกใจ

“เปล่าครับแม่ เปล่าครับ”

พระเจ้า...เกล้าบอกรักผม! เกล้าบอกรักผม!!!!!!!!!!!!!!!! แม้จะบอกผ่านข้อความก็เถอะ แต่ผมดีใจแทบบ้าเลยล่ะ!

ผมยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่ต่อหน้าโทรศัพท์ จนกระทั่งเกล้าพิมพ์ข้อความมาหาผมอีกครั้ง

KLAO : กูรู้สึกว่ากูไม่ค่อยได้ทำอะไรเพื่อมึงเลยว่ะ

ผมพิมพ์ตอบกลับไปในสิ่งที่ผมคิดมาโดยตลอด สิ่งที่ผมทำอยู่ ผมไม่ได้เหนื่อยเลย ผมดีใจที่เกล้ารับรู้ได้ว่าผมทำเพื่อเขาหลายต่อหลายอย่าง นั่นเป็นเพราะเขาเป็นแรงบันดาลใจของผม เป็นความรักของผม ผมอยากทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เราสองคนสามารถคบกันได้แบบไร้ซึ่งปัญหา...

ผมไม่เหนื่อยเลยจริงๆ ครับ


KANTORN NO.12 : แค่เกล้ารักผม...ผมก็ดีใจแล้วครับ : )







บ้านกัญจขจรกุล

รถถูกเคลื่อนมาจอดในบ้าน แม่ของผมลงจากรถโดยที่มีคนขับรถเปิดประตูให้ ส่วนผมนั้นเดินลงมาเองและก็มองไปที่บ้านหลังใหญ่ของตัวเองด้วยความขยาดยังไงชอบกล

พ่อแม่แฟนก็เผชิญหน้ามาแล้ว พอเจอพ่อตัวเองแค่นี้ทำไมต้องป๊อด...

“เอาวะ” ผมพูดออกเสียง จนลืมไปว่าแม่คนสวยยืนอยู่ข้างๆ แม่หลุดหัวเราะออกมาก่อนที่จะบอกกับผมว่า

“พ่ออยู่ที่ห้องทำงาน...เดี๋ยวแม่จะเข้าไปบอกก่อนว่ามีเซอร์ไพรส์นะ” แม่พูดอย่างร่าเริงราวกับรอคอยวันเวลานี้มานาน ส่วนผมยังคงเตรียมตัวและเตรียมใจอยู่ ผมเดินตามหลังแม่ไปช้าๆ ผ่านห้องรับแขก ผ่านทางเข้าห้องทานอาหาร ผ่านทางเข้าห้องครัว ตรงไปยังห้องทำงานที่อยู่ส่วนปีกซ้าย

พ่อเป็นนักธุรกิจครับ ธุรกิจของบ้านเราก็คือส่งออกชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ (รถยนต์ยี่ห้อดังๆ อะไหล่บางอย่างก็มาจากบริษัทพ่อผมนี่แหละ) มันเริ่มมาจากการที่ปู่ทวดของผมท่านรู้จักกับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ทั้งคู่จึงร่วมกันเปิดบริษัทนี้ขึ้นมา หลายต่อหลายครั้งที่เราเสียหุ้นส่วนใหญ่ไปกับทางญี่ปุ่น แต่ก็มีหลายต่อหลายครั้งเช่นกันที่ปู่ของผมและพ่อของผมไปไฟต์เพื่อให้ตัวเองได้กลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่อีกครั้ง จนตอนนี้หุ้นมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของครอบครัวผม ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็นของครอบครัวของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นคนนั้น ส่วนเปอร์เซ็นต์อื่นๆ เป็นของพนักงานอื่นๆ ลดหลั่นกันลงมา...

“คุณคะ มีเซอร์ไพรส์ค่ะ” แม่พูดอย่างตื่นเต้น ก่อนจะกวักมือเรียกผมเข้าไปหาพ่อไวๆ

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเข้าไปช้าๆ

หลายคนบอกว่าพ่อของผมหน้าเหมือนผมมาก เพียงแต่ท่านมีริ้วรอยมากกว่าและก็ใส่แว่นเท่านั้น พ่อจ้องมองผมอย่างตกใจตอนที่ผมเดินเข้าไป ผมทำหน้าเฉยเมยใส่ท่านก่อนที่จะยกมือไหว้

“ลมอะไรหอบให้กลับมาที่บ้านได้” เสียงของพ่อค่อนข้างแข็งจนแม่ผมต้องปราม

“คุณคะ พูดกับลูกดีๆ หน่อย”

“คุณออกไปก่อนได้มั้ย”

“แต่ว่า...”

“เชื่อผม”

แม่มองผมสลับกับมองพ่ออย่างอ่อนใจ เธอแตะมือผมก่อนที่จะออกไปนอกห้องพร้อมกับปิดประตูให้ด้วย

ผมยังยืนเอามือประสานกันที่ด้านหน้าต่อหน้าพ่อที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ พ่อจ้องมองผมอย่างสำรวจเพราะไม่ได้เจอผมมานานมากแล้ว ส่วนผมนั้นเอาแต่ยืนนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น

“พอตกที่นั่งลำบากก็กลับมาซะอย่างนั้น”

ได้ยินแบบนี้แล้วมันจี๊ดขึ้นสมองเลยแฮะ

“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมร้องเถียงพ่อ “ผมรู้แล้วว่าผมผิด”

“ยังไง ไหนลองอธิบายมาซิ”

“ผมผิดที่คิดว่าการเป็นนักร้องจะสามารถเลี้ยงดูตัวผมเองไปทั้งชีวิตได้ แต่ทันทีที่ผมมีคนรัก ผมรู้สึกได้เลยว่าผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ผมไม่ได้แค่จะต้องดูแลตัวเอง ผมต้องดูแลเขาด้วย และการที่จะดูแลเขาได้นั้นก็ต้องทำอะไรบางอย่างเสริมเข้ามา”

“นี่แกมองว่าธุรกิจที่ปู่ทวดของแกสร้างมาเป็นสิ่งสำคัญรองจากการเป็นนักร้องของแกเหรอ”

“ผมไม่ได้พูดแบบนั้น” ผมพูดกับพ่อด้วยน้ำเสียงอันดังพอๆ กับท่าน “ผมแค่จะบอกว่า...ผมคิดผิดไป ชีวิตมันมีอะไรมากกว่าสิ่งที่เราชอบจริงๆ”

“แล้วพ่อพูดผิดตรงไหน ถ้าแกไม่ลำบาก ไม่เห็นว่าเงินมันสำคัญ แกก็ไม่กลับมา”

“พ่อจะพูดอย่างนั้นก็ได้ นี่ผมชักจะไม่รู้แล้วนะว่าผมกลับมาคุยกับพ่อทำไม”

“...”

“ผมไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจกับที่บ้านก็ได้ ผมจะสร้างธุรกิจของผมเอง” ผมหันหลังกลับด้วยอารมณ์คุกรุ่น

“กลับมานี่” พ่อเรียกให้ผมกลับไป “ในเมื่อมันมีให้แกดูอยู่แล้ว จะสร้างให้มันเหนื่อยไปอีกทำไม”

ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อย...สิ่งที่แม่พูดไว้มันจริงทั้งหมด ไม่ว่าผมอยากที่จะเป็นอะไร แต่ผมก็เป็นทายาทของกัญจขจรกุลอย่างเลี่ยงไม่ได้...

พ่ออาจจะหาว่าเพราะลำบากผมถึงกลับมา...แต่จริงๆ แล้วพ่อเองต่างหากที่อยากให้ผมกลับมา อยากให้ผมกลับมาตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว อันนี้แม่กระซิบบอกผมเองครับ เพียงแต่ว่าทิฐิของพ่อนั้นอยู่สูงเกินกว่าที่แม่จะเข้าใจ ระยะเวลามันจึงล่วงเลยมานานเช่นนี้
ผมเดินไปหาพ่อของผม เดินไปหาท่านตรงหลังโต๊ะทำงาน หลังจากนั้นก็กราบเท้าท่านช้าๆ ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม ผมผิดเต็มๆ ที่ตอนนั้นผมยังเด็กและมีความคิดแบบเด็กๆ

ชีวิตแม่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบเสมอไป...สังคม คนรอบข้างหล่อหลอมให้เราต้องทำอะไรในสิ่งที่ใจเราไม่ได้รัก แต่เราก็ต้องทำ เพื่อปากท้อง เพื่อคนที่เรารัก

ผมเข้าใจแล้วในวันนี้

“ผมขอโทษครับพ่อ”







“เขาเป็นคนรับผิดชอบดีมากเลยครับ พ่อต้องชอบเขาแน่ๆ เขาจริงจังกับงาน แต่มีปัญหาตรงที่ว่าเขาเป็นคนใจดีเกินไปนี่แหละ ผมก็เลยมักจะสร้างปัญหาให้เขาบ่อยๆ” ผมกำลังคุยกับครอบครัวของผมอย่างออกรสหลังจากที่ดีกัน เราสามคนย้ายมานั่งริมสระน้ำสีฟ้าที่สะอาดสะอ้านและได้รับการดูแลอย่างดี เพราะเวลาว่างแม่ผมท่านชอบดูแลตัวเองน่ะครับ ว่ายน้ำก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมนั้น

ผมกำลังเล่าเรื่องของเกล้าให้พ่อฟัง ผมดีใจมากที่ท่านไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไรเกล้าเลย อย่างที่แม่บอก ผมกับพ่อโกรธกันจนเรื่องอื่นกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยหากเทียบกับเรื่องที่เราดีกัน เพราะนั่นมันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว พ่อตั้งใจฟังผมเป็นอย่างดี และแม่ก็แอบกระซิบข้างหูผมว่าพ่ออารมณ์ดีที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว

“ก็จะไปยากอะไร ให้พ่อกับแม่ไปขอเลยสิ” พ่อพูดแบบง่ายๆ “ไม่มีใครปฏิเสธคนในตระกูลของเราอยู่แล้ว”

อาจจะฟังดูมั่นหน้าไปสักนิด...แต่มันคือเรื่องจริงครับ

“ไม่ได้ผลครับพ่อ แต่ผมนี่แหละที่จะทำให้มันได้ผลเอง” ผมพูดอย่างจริงจัง “ตอนนี้ผมกำลังทำคะแนนอย่างหนักโดยที่ไม่ใช่นามสกุลตัวเองเข้าช่วยอยู่...บอกตามตรงพ่อกับแม่เกล้าโฟกัสเรื่องที่ผมเป็นยังไงมากกว่าครอบครัวผมเป็นยังไงอีกนะ พวกท่านเหมือนกำลังดูๆ ว่าผมมีความสามารถมากพอจะดูแลเกล้าหรือเปล่า”

พ่อกับแม่ผมสบตากัน เวลาเด็กๆ ตอนที่ผมอยากจะทำอะไรที่จริงจัง พวกท่านมักจะสบตากันแบบนี้เสมอ

“ผมจะเริ่มจากการเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทของเราก่อน”

“นี่” พ่อร้องลั่น “ไม่ได้หรอกนะ มันลำบาก บริษัทของเราแท้จริงแล้วคือโรงงาน”

“งั้นผมก็จะเป็นหนุ่มโรงงานไปก่อน”

“กันต์...”

“แค่มาให้พ่อช่วยผมก็เสียศักดิ์ศรีจะแย่...เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้วครับ”

“แล้วเรื่องร้องเพลงล่ะ ไม่ชอบแล้วเหรอ” พ่อเลิกคิ้วราวกับต้องการทดสอบผม

ผมถอนหายใจเบาๆ “ผมลาออกจากร้านแล้วครับ”

บุพการีของผมถึงกับนั่งนิ่งกันไปเลยเมื่อรู้ว่าผมจริงจังกับการตัดสินใจครั้งนี้มากแค่ไหน...

“ถ้าอย่างนั้นพ่อมีอะไรจะขอ” พ่อของผมหยิบกระดาษใบปลิวแผ่นหนึ่งที่ยับยู่ยี่ราวกับผ่านการเหยียบจากใครไม่รู้หลายต่อหลายคน ใบปลิวเรื่องการประกวดเดอะนิวสตาร์

“แม่เป็นคนหยิบจากรถกันต์มาเอง” แม่ยกมือยอมรับผิด

“ลองสักตั้ง” พ่อพูดเสียงจริงจัง “พ่ออยากให้แกลองจริงจังกับสิ่งที่ตัวเองชอบสักครั้ง”

“...”

“อยากรู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ทำให้ดีที่สุด และก็ไม่ต้องห่วงผลที่จะตามมา เข้าใจหรือเปล่า”

“เอ่อ...ครับ”

“ยังไงแกก็มีโรงงานของเราคอยอยู่แล้ว”

“...”

“โชว์ให้พ่อกับแม่เกล้าเขาเห็นไปเลยว่าลูกมีคุณสมบัติมากพอ มีความสามารถรอบด้าน เป็นนักร้องก็ได้ เป็นนักธุรกิจก็ได้”

ให้ตายเถอะ เป็นครั้งแรกที่ผมอ่อนไหวต่อครอบครัวมาก ก้อนสะอื้นของผมจุกอยู่ที่คอโดยที่ผมพยายามกล้ำกลืนมันลงไป พ่อผมคือเดอะเบสต์ แม่ผมเองก็เช่นกัน นี่ถ้าผมปล่อยให้เวลามันล่วงเลยไปมากกว่านี้ ผมจะต้องเสียดายไปทั้งชีวิตแน่ๆ ที่ผมไม่ใช้เวลาอยู่กับพวกท่านให้นานกว่านี้ โดยเฉพาะพ่อของผม

“ฮือออ พ่อค้าบบบบบบ” ผมย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ผมใช้ร่างควายๆ ของตัวเองไปกอดแขนพ่อและก็อ้อนพ่อ “ผมขอโทษ ฮืออออ”

“ไปไกลๆ เลย” พ่อไล่ผม “ตัวก็ใหญ่ อึดอัด”

“...”

“ห้ามร้องไห้ด้วย”

“ผมไม่ร้องหรอก ผมแกล้งร้อง ผมจะร้องเฉพาะเรื่องเมียของผม”


“เออ ให้มันได้อย่างงี้”








Thaitep verycool : มึงจะลาออกเหรอ
Thaitep verycool : พี่พนักงานผู้หญิงเขาดราม่ากันใหญ่เลยนะ
Thaitep verycool : ไอ้สัด กูรู้สึกแปลกๆ แหว่งๆ เหมือนอะไรขาดหายแล้วว่ะ ทั้งๆ ที่มึงเพิ่งทำงานไม่กี่เดือน
Thaitep verycool : เป็นผัวเจ้าของร้าน ก็ต้องมาที่ร้านบ่อยๆ นะเว้ย...


[จบพาร์ตของกันต์]







TBC*





พาร์ตนี้ยกให้พ่อลูกเขาเต็มๆ ล่ะ   :m15: :m15:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


ปลื้มจังๆๆๆ

ในที่สด ลูกก้อเข้าใจ ความหวังดี ของพ่อ แม่
  :กอด1:

คุณพ่อก้อดี ที่ไม่ได้โกรธ นายสิบสอง จริงจัง  แต่ก้อนะ  ทิฐิลูกผู้ชาย :ruready


....ต่อไป ก้อเตรียมป้ายไฟเชียร์  ทีมสิบสองของเกล้า :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด