ตอนที่ 34
สิ่งที่ชอบกลับไม่ใช่กันต์เข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จครับ
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้พร้อมเงินรางวัลจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนมากอย่างกับรายการที่คัดคนออกอาทิตย์ละคน ทุกคนจับตามองการแข่งขันเดอะนิวสตาร์ปีนี้เป็นพิเศษเพราะกันต์โด่งดังทันทีตั้งแต่อยู่ในรอบออดิชัน หลายคนเชียร์เขาจนกลายเป็นวาระระดับชาติ ไม่ว่าผมจะโผล่ไปโซเชียลไหนทุกคนก็พร้อมใจกันแชร์รูปของกันต์ เดอะนิวสตาร์
แทนที่เจ้าตัวจะรู้สึกยินดีกับการโด่งดังชั่วข้ามคืนของตัวเอง แต่กันต์กลับทำหน้าเซ็งชนิดที่ว่ายิ่งรู้ว่าตัวเองเข้ารอบลึกๆ ก็ยิ่งเซ็ง เขาออกจากห้องของผมตั้งแต่เช้าเพื่อไปเตรียมตัวแข่งในค่ำวันนี้ ใบหน้าที่สุดแสนจะไม่มีอารมณ์อยากที่จะทำอะไรทั้งนั้นทำให้ผมคิดมากจนถึงตอนนี้
วันนี้ผมหยุดงานเป็นกรณีพิเศษให้กับพวกพนักงาน เพื่อที่จะให้ทุกคนไปเชียร์กันต์กันให้หมด ทุกคนตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่เตรียมตัวทำป้ายไฟเชียร์กันต์กันใหญ่ ตอนบ่ายเราจะพากันไปรอที่สตูดิโอที่ใช้สำหรับการแข่งขันทั้งหมดครับ หลายคนนั้นแสดงท่าทีตื่นเต้นมากเป็นพิเศษแต่คนที่เซอร์ไพรส์ผมที่สุดเห็นจะเป็น...
พ่อกับแม่ของผมทั้งสองคน
ท่านโทรมาหาผมหลังจากที่รู้ข่าว
“ตกลงกันต์ไปแข่งจริงๆ เหรอลูก” แม่ผมส่งเสียงดังผ่านทางปลายสาย
“ใช่ครับ”
“แล้วถ้าชนะล่ะ”
“เขาก็จะโด่งดังไงครับ อาจเป็นบันไดให้เขาเข้าสู่วงการบันเทิง”
“ตายแล้ว นี่แม่กับพ่อกำลังจะไปสนามบินแล้วนะ”
“เดี๋ยวผมส่งผลการแข่งขันไปให้พ่อกับแม่ดูทางไลน์แล้วกันครับ”
“เจ้าเด็กคนนี้” ดูเหมือนแม่จะหันไปพูดกับพ่อที่อยู่ข้างๆ “ชอบทำอะไรจริงจังมากเลย”
“แม่เพิ่งรู้เหรอครับ”
“ที่เขาพูดไว้ เขาทำตามสิ่งที่พูดหมดเลย”
“ถ้ากันต์ไม่ได้พูดไว้เขาก็คงไม่ทำอ่ะแม่” ผมเล่าให้ฟัง “เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องเดินทางไปเชียร์เขาแล้วน่ะ”
“แข่งที่ไหน ไกลมั้ย”
“ไม่ไกลมากครับ สตูดิโอ XYZ น่ะ”
“อืม ฝากบอกเจ้ากันต์ด้วยว่าขอให้โชคดีนะ”
“...”
“ถึงจะไม่ชนะ แต่พ่อกับแม่ก็ยอมให้เขาดูแลลูกชายของเราแล้วล่ะ”
แม่กดวางสายโดยที่ทำให้ผมยิ้มคาโทรศัพท์ ผมถอนหายใจเบาๆ พลางคิดว่ากันต์ไม่น่าจะต้องมาทำอะไรเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้ เพราะเรื่องครอบครัวของเราทั้งคู่ผ่านฉลุยแล้ว แต่ก็อย่างที่ไอ้หนึ่งมันเคยพูดกับกันต์แหละครับ เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้วยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุด
สตูดิโอ XYZ
สถานที่แข่งขันจุคนเอาไว้ประมาณเกือบห้าพันคน นี่มันการแข่งขันอะไรกันนี่ หลายคนที่ผมเห็นถือป้ายเชียร์กันต์ บางคนก็ใส่เสื้อที่มีใบหน้าของกันต์ อะไรจะรวดเร็วปานนั้น ช่วงเวลาการแข่งขันมันไม่นานมากถึงขนาดที่ว่าใครบางคนจะมีแฟนคลับสักหน่อย
ใจเย็นๆ ครับผมไม่ได้ว่าอะไร ผมเพียงแค่ประหลาดใจเท่านั้นเอง รู้สึกดีที่มีคนรักและก็ตามเชียร์กันต์มากมายขนาดนี้ ผมชักจะอยากรู้แล้วสิว่าผลการแข่งขันในวันนี้จะเป็นยังไง
“ไงจ๊ะ”
มีคนทักผม ผมหันขวับไปปุ๊บก็รู้สึกแทบจะล้มทั้งยืนปั๊บ คนที่ทักผมคือแม่ของกันต์ ส่วนคนที่อยู่ข้างๆ ก็คือพ่อของกันต์เองครับ ผมรีบยกมือไหว้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
พ่อของกันต์เหมือนกันต์ตอนมีอายุและก็ใส่แว่นไม่มีผิดเพี้ยนเลย
“ขออนุญาตนั่งเชียร์ด้วยได้มั้ยจ๊ะ” คุณแม่คนสวยส่งยิ้มให้ผม ผมจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ในขณะที่พนักงานของผมซึ่งเริ่มจับจองที่นั่งกำลังมองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
กว่าจะถึงเวลาการแข่งขันก็อีกเกือบสองชั่วโมง ผมนั่งเกร็งอยู่ข้างๆ แม่ของกันต์ กับแม่น่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่พ่อเนี่ยสิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอพ่อของกันต์ การที่เขาโกรธกันกับลูกชายยาวนานหลายปีมันทำให้ผมคิดไปเองว่าเขาจะต้องเป็นคนที่โหดมากแน่ๆ ผมนั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะหยิบโทรศัพท์มาเล่นหรือคุยกับไอ้หนึ่งที่นั่งอยู่อีกข้างหนึ่งของผม
“ช่วงนี้ที่ร้านเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” แม่กันต์ชวนผมคุย
“ก็เรื่อยๆ น่ะครับ”
“ได้นักร้องคนใหม่หรือยังเอ่ย”
“ช่วงนี้ให้พวกนักดนตรีสลับกันร้องอยู่ครับ”
“วันหลังเดี๋ยวแม่กับพ่อจะลองไปชิมบ้างนะ” แม่กันต์เอาแต่ยิ้มให้ผม ส่วนพ่อของกันต์ก็หันมาแต่ไม่ได้พูดอะไรกับผม
น่ากลัวฉิบหาย...
“ขอโทษนะคะ พ่อแม่ของน้องกันต์ใช่มั้ยคะ” ทีมงานคนหนึ่งวิ่งมาถามพ่อกับแม่ของกันต์
“ใช่ค่ะ”
“พอดีตอนที่น้องขึ้นไปร้องอาจจะถ่ายช่วงตอนที่คุณพ่อคุณแม่ดูน้องอยู่นะคะ”
“เอ่อ ได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ผมนั่งตัวเกร็งอยู่แบบนั้นต่อไป ผ่านไปนานหลายนาที คนก็เริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ เพราะใครหลายคนก็อยากที่จะมาดูหรือมาเชียร์คนที่อยู่ในใจของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ที่แปลกก็คือหลายต่อหลายคนที่เดินผ่านจุดที่ผมนั่งไปหันมามองผมด้วยสายตาแปลกๆ
มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าวะ...“เฮีย” ไอ้หนึ่งเองก็เหมือนจะสัมผัสได้เหมือนกันว่ามันแปลกจริงๆ จึงกดโทรศัพท์ดูโลกโซเชียล
ให้ตายเถอะครับ ผมยอมใจในยุคสมัยนี้จริงๆ
‘เผยแล้ว ตัวจริงของกันต์ เดอะนิวสตาร์ ทำเอาสาวๆ อกหักกันเป็นแถบ (มีรูป)’
‘ที่แท้กันต์ เดอะนิวสตาร์ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะจ๊ะ’
‘มาชมภาพคุณเกล้าหวานใจของกันต์ เดอะนิวสตาร์กัน (รูปเยอะ)’“เหี้ยยยย” ผมสบถออกมาอย่างไม่ควบคุมตัวเอง
“ผมเองก็เพิ่งเข้าไปดูนี่แหละ” หนึ่งทำท่าปวดหัว
เคยเห็นกันมั้ยครับคนที่เรียกว่าเป็นเน็ตไอดอลต่างๆ นานา บางคนที่ส่วนใหญ่มองว่าดีแล้วก็ดีไป แต่บางคนที่ถูกคนส่วนใหญ่มองว่าไม่ดี คนคนนั้นก็จะถูกกระหน่ำด่าคาโลกโซเชียลเสียจนแทบจะให้มีชีวิตอย่างเป็นสุขไม่ได้
ผมดูจำนวนคนที่กดแชร์ ดูจำนวนคนที่กดไลค์เรื่องราวของผมกับกันต์ มันเป็นอะไรที่มากเกินไปสำหรับปุถุชนคนธรรมดาเฉกเช่นผม ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นข่าวขนาดนี้ แถมยังโดนใครที่ไหนไม่รู้มาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากเพียงเพราะผมเป็นแฟนของคนที่เข้ามาแข่งขันเดอะนิวสตาร์และหน้าตาดีเฉยๆ
นี่มันอะไรกันน่ะ...
‘อี๋ เป็นเกย์หรอกเหรอ อุตส่าห์จะเชียร์’
‘คุณเกล้านี่เขาสาวมั้ยนะ เอ๊ะหรือกันต์เขาสาวกว่า ครุคริ’
‘มีความอกหักกกกกกกกกกกกกกกกกกกก’
‘เสียใจมาก หน้าตาดีๆ แบบนี้ไม่ควรเบี่ยงเบนทางเพศเลย ตอนแรกผมจะเชียร์เขา แต่ตอนนี้ผมไม่เชียร์แล้วล่ะ’
‘ชะนีไทยเจ็บใจ ผู้ชายไทยเจ็บตูด’
‘สาวๆ ดีกว่าตั้งเยอะ เอ๊ะ หรือว่าคนที่ชื่อเกล้านี่เขารวยน้าาาาา’
‘กันต์เกาะเกล้า หรือว่าเกล้าเกาะกันต์ ใครรวยกว่าใครกันแน่’
‘เบื่อจังเลยรูปไอ้เชี่ยนี่ แชร์อยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน หล่อก็ไม่หล่อ!’
‘คนที่ว่าพี่กันต์ไม่หล่อน่ะเช็กหนังหน้าตัวเองด้วยนะ ปล.ไม่ว่าพี่กันต์จะเป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์เค้าก็เชียร์นะ ถ้าอกหักจากคนนี้เมื่อไหร่ล่ะก็ เค้ายังรอพี่กันต์เสมออออออออออ’
‘คนชื่อเกล้าไม่เห็นหล่อเลยอ่ะ’“เฮีย พอเหอะ” หนึ่งแย่งโทรศัพท์ของมันไปจากมือผม “คนแม่งจะพูดอะไรก็ได้”
ผมรู้สึกหน้าชา ปากชา มือชาไปหมด จะก้มหน้ามองดูตัวเองก็พบว่ามีข้อความเหล่านั้นมาทำร้ายผมเพราะมันติดอยู่ในหัว จะเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าคนที่เข้ามาดูการแข่งขันนั้นทั้งซุบซิบทั้งมองผมด้วยสีหน้าท่าทางประหลาดกันไปหมด
นี่สินะ...ความรู้สึกของการเป็นบุคคลสาธารณะผมลุกขึ้นยืนกะทันหัน โค้งลาพ่อกับแม่ของกันต์ก่อนที่จะเดินหนีไป ผมก้มหน้าก้มตาหลบคนอื่นๆ ที่เอาแต่พูดถึงผมและก็ชี้มือมา
“เกล้า จะไปไหน...”
แม่กับพ่อโผล่มาจากไหนไม่รู้ ทั้งคู่แต่งตัวเหมือนจะไปเที่ยวแต่แล้วก็เปลี่ยนใจมาอยู่ที่สตูดิโอนี้แทน
“ไม่ได้ไปฮ่องกงแล้วเหรอ” ผมถามอย่างประหลาดใจ
“เปลี่ยนใจ มาเชียร์กันต์ดีกว่า” แม้จะดีใจที่แม่พูดแบบนั้น แต่ผมกลับอยากที่จะหนีไปจากตรงนี้มากกว่า
“ผมขอตัวนะครับ”
“เกล้า จะไปไหนน่ะลูก!”
ผมไม่สนใจเสียงร้องเรียกของแม่ ผมก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวไปจนถึงลานจอดรถของสตูดิโอแห่งนี้ ในหัวของผมยังไม่หายช็อกถึงการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิด ผมตกใจน่ะครับ ผมไม่เคยโดนพูดถึงขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยโดนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาซุบซิบนินทาขนาดนี้
เรื่องนี้มันทำให้ผมคิดไปถึงตอนที่กันต์ถูกแมวมองมาทาบทาม...เขามองเห็นอนาคตเหรอว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่วุ่นวายเช่นนี้หากคนพวกนั้นรู้รสนิยมของเขาซึ่งก็คือผู้ชายอย่างผม...มันเป็นจริงอย่างที่เขาพูด มันคือความยุ่งยาก มันคือการถูกติฉินนินทาทั้งๆ ที่ตัวเราเองก็อยู่เฉยๆ ของเรา
ใครคนใดคนหนึ่งมาลากตัวของผมไป ผมทันเห็นเสื้อสูทสีดำหรูหราอยู่ไหวๆ ไม่นานนักผมก็ถูกจับยัดเข้าไปในรถที่ผมคุ้นตา
รถของกันต์...“มาทำอะไรที่นี่ อีกไม่นานก็จะขึ้นเวทีแล้ว”
กันต์มองมาที่ผมด้วยใบหน้าเครียดจัด “พอแล้ว ผมไม่แข่งแล้ว”
“อะไรนะ!”
รถของกันต์ออกตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมไม่กล้าที่จะถามกันต์ออกไปว่าเพราะอะไร
วันนี้เขาดูจริงจังที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น...ทว่าในความจริงจังนั้นก็แฝงไปด้วยความอึดอัดจนเหมือนตัวเขาแทบจะระเบิดออกมา...
กันต์พาผมมายังสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่คุ้นตาผมอย่างประหลาด
“ผมร้องเพลงเปิดหมวกที่นี่ ผมเจอเกล้าครั้งแรกที่นี่” เขาเอ่ยในสิ่งที่ผมสงสัย เมื่อผมถึงบางอ้อ ผมก็ได้แต่มองไปรอบๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ดวงอาทิตย์กำลังจะตก เราสองคนอยู่ในชุดที่ไม่ควรจะมาเดินเล่น กันต์แต่งตัวเตรียมขึ้นเวทีเต็มยศด้วยชุดสูทแบบที่ไม่มีเนกไท ส่วนผมก็ใส่สูทสุภาพเหมือนกันแต่ตอนนี้ถอดเสื้อนอกเก็บไว้บนรถของกันต์แล้ว
“ทำแบบนี้ทำไม” ผมเปิดใจถามกันต์
“ทำอะไรครับ”
“ทำไมถึงหนีออกมาแบบนี้ รู้มั้ยว่ามีคนเขารอเชียร์อยู่ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน”
“...”
“พ่อแม่มึง พ่อแม่กู”
คำพูดของผมทำเอากันต์หันขวับมาหาผมอย่างรวดเร็ว “พ่อแม่เกล้ามาเหรอ”
“ใช่”
อีกฝ่ายมีสีหน้ารู้สึกผิดอย่างแรง “ผมทำไม่ได้ครับ”
“หมายความว่ายังไง”
“อย่างที่ผมเคยพูด ผมเพิ่งเคยเห็นการประกวดร้องเพลงอย่างจริงจังครั้งแรก ผมผ่านเวทีมาเยอะ แต่ครั้งนี้ผมถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ มันก็เลยแปลกไปหมด หน้าเวทีอาจจะยิ้มแย้มแจ่มใสแจกจ่ายความสุข แต่หลังเวทีคือการแก่งแย่งชิงดีอย่างหนึ่งที่ผมอยู่แล้วรู้สึกอึดอัด” กันต์พูดออกมาราวกับต้องการระบาย “ผมรู้สึกอึดอัดตั้งแต่ต้องนั่งรวมกับคนเป็นพันเพื่อเข้าไปออดิชัน มันเต็มไปด้วยการแข่งขัน มันไม่มีความสุข พูดง่ายๆ ก็คือ...นี่มันไม่ใช่ความฝันของผม”
“...”
“การร้องเพลงคือความสุขของผม แต่มันไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตของผม”ผมเหลือบมองใบหน้าของคนที่เดินอยู่ข้างๆ ตอนเขาอธิบายสิ่งที่อยู่ภายในใจนั้นใบหน้าเขามีความเจ็บปวดกับความจริงในข้อนี้ไม่น้อย
“เกล้าเห็นโลกโซเชียลพูดถึงเรามั้ยครับ...”
“เห็นแล้ว” ผมถอนหายใจยาวเหยียด
“ขนาดผมยังไม่ได้เข้าวงการยังมีปัญหาขนาดนี้เลย” กันต์พูดต่อไป “ตลอดระยะเวลาที่ผมลองมาประกวดดูซึ่งเป็นระยะเวลาอันสั้น มันทำให้ผมรู้ ยิ่งผมดังข้ามคืนมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้หนักกว่าเก่าว่ามันไม่เหมาะกับผมเลยจริงๆ ผมรักการร้องเพลงครับ แต่ผมรักที่จะร้องแบบให้คนกลุ่มน้อยได้ฟังแล้วเขามีความสุข แบบที่ได้ร้องอยู่ในร้านของเกล้า...”
“...”
“นั่นคือความสุขที่สุดของผมแล้ว”
กันต์เดินมาถึงริมแม่น้ำ เขาทอดมองไปที่แม่น้ำด้วยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวไม่น้อยเลยทีเดียว
“นี่นอนคิดทั้งคืนเลยใช่มั้ย”
“ครับ”
“แทบจะไม่ได้นอนเลย?”
“อืม...”
“แล้วเป้าหมายในชีวิตกันต์คืออะไรล่ะ ถ้าบอกว่าไม่ใช่การร้องเพลง”
กันต์หันมาสบตากับผม ใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกแต่งแต้มเป็นอย่างดีทำเอาผมรู้สึกปั่นป่วนหัวใจไม่น้อย วันนี้กันต์มันหล่อเป็นพิเศษครับ
“จำได้มั้ยที่ผมบอกว่าเกล้าคือแรงบันดาลใจของผม”
“จำได้”
“ผมคงโฟกัสผิดจุดไป”
“แล้วตกลงมันคืออะไรล่ะ”
“ตอนที่ผมเจอเกล้า ผมไม่ควรใช้คำว่าเป็นแรงบันดาลใจเลย”
“...”
“ผมควรใช้คำว่าเกล้าคือเป้าหมายในชีวิตของผม”
สายตาที่กันต์กำลังมองผมนั้นเต็มไปด้วยความหมายมากมายซ่อนอยู่ ผมกลืนน้ำลายเบาๆ ขณะหลีกเลี่ยงการสบตาหวานๆ ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนนั่น จะให้พูดตรงๆ ก็คือแม่งเขินเป็นบ้า...จู่ๆ มาพูดอะไรกับผมแบบนี้ได้ไง...
“จากนี้ไปผมขอฝากชีวิตของผมไว้กับเกล้าด้วยนะ”
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองกันต์
“แม้ว่าผมจะยังไม่มีอะไร ข้อดีก็มีแค่ร้องเพลงได้เล็กน้อย แต่ผมสัญญาว่าผมจะดูแลเกล้าเอง”
“อืม...”
“ผมสัญญาจริงๆ นะ”
“รู้แล้ว”
“...”
“แล้วจะทำยังไงกับโทรศัพท์ของเราสองคนในตอนนี้ดี”
คนที่โทรเข้าเครื่องผมคือแม่ของผม คนที่โทรเข้าเครื่องของกันต์คือแม่ของกันต์ ตอนนี้น่าจะถึงเวลาประกวดเดอะนิวสตาร์แล้ว ทุกคนกำลังตามหากันต์กับผมกันใหญ่ กันต์ทำหน้าแหยพลางกระซิบ
“เห็นทีเราทั้งคู่อาจจะต้องโดนบ่นกันจนหูชา”“มึงงงง!”
“อะไรวะ”
“ไม่มีอะไร กูแค่มีความรัก”
“เพ้อเจ้อว่ะเต๊บ ไปนอนไป”
“ฟาร์เขาตกลงคบกับกูแล้วนะเว้ย”
“จริงอ่ะ!”
“เขาบอกลองดู”
“...เหมือนกูเลย”
“งั้นบอกเคล็ดลับมาหน่อยซิว่าทำยังไงถึงจะได้ใจเขามากกว่านี้”
“ง่ายๆ เลยมึง ดูแลเขาดีๆ ทำยังไงก็ได้ให้เขารู้สึกว่าเขาคือคนพิเศษคนนั้นของมึงคนเดียว”
“อืม มึงคือปรมาจารย์”
“ที่สำคัญ...ห้ามนอกใจ”
“ใครจะไปทำ”
“มึงต้องจริงจังและก็จริงใจ”
“รู้แล้ว...”
“เพราะเขาก็จะจริงจังและก็จริงใจกับมึง”TBC*
ทางที่กันต์เลือก คือทางที่มีเกล้าร่วมเดินไปกับกันต์ด้วย : ) 