{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 674987 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ peeranatyaikaew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :L1: :L1: :pig4: จะมีหลานแล้วววววววววววว :ling3:

ออฟไลน์ VirgoMok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
อยากรู้ว่าถ้ามีเด็กมาเล่นในร้านมันจะฮาขนาดไหนนะ

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เดี๋ยว ๆ ! กันต์แกหึงลูก!

ไอ้มึน!

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
กันต์เอ๊ยยยยกับลูกยังจะหึง โถๆๆๆๆ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ถ้ามีลูกเวลาก็จะถูกเทไปให้เด็ก มีหวังกันต์ต้องเรียกร้องความสนใจจากเกล้ามากหน่อยนะ 555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขำกันต์มาก :laugh: ขนาดลูกก็ยังไม่เว้นนะ

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ท่าทางพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ดีทีเดียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอ๊ยยยยยยย น่ารักฟรุ้งฟริ้งงงงง กันต์ เป็นเอามากนะนาย กับลูกยังหึงได้อีก!!!!  :m20:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อยากเห็นหลาน อยากเห็นหลาน อยากเห็นหลานด้วยคนนน
 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
อยากเห็นหลานนนนนนนนนน
อยากเห็นพ่อกันต์เลี้ยงลูกกกกกกกกกกก
แค่คิด ต้องน่ารักมากๆๆๆๆแน่ๆๆๆเลยยยยยยยย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตลกพวกหัวแดง อยากกินฟรี 555

จะมีลูกแล้ววววว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 36
กันตพล







วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับแค่กะพริบตา...

ผมคบกับกันต์มาเป็นเวลาเกือบสองปีแล้วครับ ตอนนี้ร้านของผมอยู่ในช่วงคงเส้นคงวา ส่วนกันต์นั้นเลื่อนมาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้ว เรียกได้ว่าเราทั้งคู่อยู่ในช่วงเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น มีเงินเดือนเข้าบัญชีทุกเดือน

ในระหว่างนั้นผมกับกันต์มีการจัดงานคล้ายๆ งานแต่งขึ้นมาด้วย ที่บอกว่าคล้ายๆ งานแต่งก็เพราะว่าแขกของเรามีเพียงแค่หยิบมือเดียวครับ ที่เราต้องจัดเพราะพ่อกับแม่ของแต่ละฝ่ายต่างก็บอกว่าถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อย่างน้อยก็ควรมีงานที่ป่าวประกาศคล้ายๆ งานแต่งว่าเราสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกัน กลายเป็นคู่ชีวิตกัน จึงเกิดงานนั้นขึ้นครับ

งานไม่มีอะไรมาก แค่ให้ญาติสนิทและก็เพื่อนๆ มากินเลี้ยงและเป็นสักขีพยานเรื่องของผมกับกันต์ หลังจากวันนั้นกันต์ก็ย้ายมาอยู่กับผม ไม่ใช่บ้านนะครับ แต่เป็นชั้นบนของร้านบาร์สุราลัยนั่นแหละ ช่วงระหว่างก่อนที่เขาจะย้ายมาผมแอบต่อเติมบ้านนิดหน่อย จริงๆ คือไม่หน่อยเลยล่ะ (ไอ้หนึ่งมันพูดคำนี้เอง) กลายเป็นว่าพื้นที่หลังร้านที่แต่ก่อนไม่มีอะไรเลยตอนนี้เป็นบ้านขนาดย่อมๆ ของผมกับกันต์ ซึ่งมันเชื่อมกับห้องนอนของผมที่อยู่ชั้นบนของร้านครับ พูดง่ายๆ ก็คือผมมีบ้านและก็ร้านอยู่ใกล้ๆ กัน

ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะอึดอัด ผมก็เลยทำให้โซนที่เป็นบ้านนั้นมันเงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่เลย กันต์ไม่อึดอัด วันไหนนึกครึ้มกันต์ก็ออกไปร้องเพลง วันไหนเหนื่อยๆ กลับมาถึงบ้านก็นอนเลย ชีวิตคู่ของเราสองคนดำเนินมาอย่างเรียบง่ายจนกระทั่งผมเริ่มคิดถึงคำว่าทายาทของเราขึ้นมา...

จริงๆ แล้วผมคิดถึงคำนี้ตั้งแต่พวกเรากลายมาเป็นคู่ชีวิตกันแล้วล่ะครับ ผมเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้นี่แหละว่าทำไมคนเราต้องมีครอบครัว และเวลาที่คนเรามีครอบครัวแล้วทำไมต้องมีลูก ไม่รู้สิ ผมแค่คิดว่าถ้ามีเด็กอยู่ในบ้านด้วย เราสองคนคงมีอะไรที่เป็นโซ่ทองคล้องใจกันมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้กันต์เขาจะเสมอต้นเสมอปลายก็ตาม

ผมไม่ได้เปิดใจเรื่องนี้กับกันต์เลยจนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่กันต์เพิ่งกลับมาจากทำงาน เขากำลังจะหลับอยู่บนเตียงด้วยท่าทีที่เหนื่อยอ่อน

“กันต์...”

“หืม”

“พรุ่งนี้วันหยุดใช่หรือเปล่า”

“เปล่าครับ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานครึ่งวัน”

ผมอดแสดงความเสียดายไม่ได้ ผมไปหาข้อมูลเรื่องสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนที่เราสามารถไปแสดงความต้องการอุปการะเด็กตั้งหลายที่ แต่สุดท้ายแล้วกันต์ก็ไม่ว่างสักที

“มีอะไรหรือเปล่า” กันต์สัมผัสได้ถึงความแปลกไปของผม

“เมื่อไหร่เราจะไปดูเด็กกันอ่ะ” ผมพูดอย่างเบา

“หืม”

“นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะ และเกล้าก็คิดว่า...เราพร้อมแล้ว” สรรพนามของผมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาครับ ดีขึ้นใช่มั้ยล่ะ ใครจะไปพูดกูมึงกับสามีได้ตลอดกันล่ะ

“พรุ่งนี้กันต์ไม่ว่างเนี่ยสิ”

“ไม่ว่างหรือว่าไม่อยากมีลูกแล้ว?” ผมยิงคำถามไป

“อะไรทำให้เกล้าคิดแบบนั้น”

“ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมากันต์ไม่เคยพูดถึงเรื่องลูกหรือเรื่องอุปการะเด็กเลย” ผมโพล่งความในใจออกไปอย่างเหลืออด

“...”

“นี่กันต์อยากมีลูกป่ะเนี่ย”

คนที่กำลังจะถูกงอนค่อยๆ คลานมาหาผม เหมือนเขารู้แล้วว่าผมนั้นเก็บงำเรื่องนี้มานาน อย่างที่ผมเพิ่งจะโวยวายไป กันต์ไม่ได้แสดงท่าทีว่าอยากจะมีลูกทั้งๆ ที่ผมกับเขาเคยตกลงเรื่องนี้กันเมื่อนานนมมาแล้วว่าเราโอเคกันทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อกันต์ไม่ยอมแสดงท่าทีอะไรเลย ผมก็ต้องคิดไปเองน่ะสิว่าความปรารถนาของเขานั้นเปลี่ยนไปแล้ว

“อา...กะจะให้มันโรแมนติกกว่านี้สักหน่อย” อีกฝ่ายพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง

“อะไรเหรอ”

กันต์เอื้อมมือไปหยิบของที่อยู่ในลิ้นชักออกมา เป็นกล่องของขวัญขนาดเล็กที่ผมไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

“อีกไม่กี่วันเราจะครบรอบสองปี ผมก็เลยเตรียมของขวัญไว้ให้” กันต์พูดก่อนที่จะยื่นสิ่งนั้นให้ผม

ผมแกะกล่องออกด้วยความประหลาดใจยิ่ง สิ่งที่อยู่ข้างในก็คือถุงเท้าเด็กอ่อนครับ ผมมองอย่างตะลึงตาค้างกันเลยทีเดียว

“พอถึงวันนั้นผมก็จะให้กล่องนี้กับเกล้า พร้อมๆ กับพูดด้วยถ้อยคำที่สุดแสนจะโรแมนติกว่า...”

“...”

“มีลูกกันเปล่า”

ผมหลุดหัวเราะกับถ้อยคำที่ไม่ค่อยจะโรแมนติกสักเท่าไหร่ อีกทั้งมันยังสองแง่สองง่ามอีกด้วย กันต์ทำให้ผมรู้สึกดียิ่งขึ้น เขาทำให้ผมลืมความกังวลที่เคยมีไปทั้งหมด อีกฝ่ายจ้องหน้าผมด้วยสายตาอ่อนหวานพร้อมกับถามความเห็น

“ไปพรุ่งนี้ก็ได้นะ แต่ขอไปเคลียร์งานก่อน”

“โอเค” ผมรับคำอย่างตื่นเต้น

“อยากมีลูกมากเลยใช่มั้ยเนี่ย”

“เห็นลูกๆ เพื่อนหลายคนก็น่ารักดี”

“ได้ครับ” กันต์จับตัวผมให้เอียงเข้าไปซบไหล่พร้อมๆ กับจุมพิตที่ขมับ “เราจะไปตามหาเด็กที่เกิดมาเพื่อเป็นลูกของเรากัน”







“ให้แม่ไปด้วยมั้ยลูก”

“ไม่เป็นไรครับแม่ ใกล้จะถึงแล้ว”

“ไปคนเดียวโดยไม่มีกันต์ไปด้วยจะโอเคเหรอ”

“ผมแค่อยากมาก่อนครับแม่” ผมคุยโทรศัพท์ผ่านบลูทูธด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนปิดไม่มิด “ผมแค่อยากมาหาเด็กๆ ก่อน”

“ที่ผ่านมาลูกแม่เหงาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”

“เปล่าสักหน่อย”

“หึๆ” แม่ส่งเสียงหัวเราะ “เลือกเด็กที่ถูกชะตานะลูกนะ ว่าแต่จะเลือกลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชายล่ะ”

“ก็ต้องดูก่อนว่าเด็กที่ถูกชะตาเป็นยังไง”

“ตกลงตามนั้นนะลูก แม่รอรับหลานนะ”

แม่ผมเองก็มีความตื่นเต้นไม่ต่างจากผม ผมกดวางสายไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปยังสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนที่ผมติดต่อเอาไว้

ผมเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่หลังจากที่จอดรถเสร็จ เจ้าหน้าที่สาวพาผมมายังที่ที่รวมเด็กอ่อนอยู่เต็มไปหมด ผมเห็นแล้วรู้สึกอยากจะร้องไห้เลยครับ...

เด็กหลายคนร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แต่พ่อแม่กลับไม่พร้อมที่จะดูแลพวกเขา

“บางคนถูกทิ้งเอาไว้ที่ถังขยะ บางคนก็ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่ มีหลายอย่างมากค่ะคุณเกล้า เด็กๆ น่าสงสารกันทั้งนั้นเลย”

ผมได้ยินเสียงเด็กอ่อนดังอ้อแอ้เต็มไปหมด ถ้าผมสะดวกผมคงรับเลี้ยงไปหลายคนแล้ว แต่นี่ผมไม่รู้ว่าผมกับกันต์จะทำได้ดีแค่ไหน เราจึงต้องเลือกเด็กแค่หนึ่งคนเท่านั้น

“ตรงนี้เป็นห้องของเล่นค่ะคุณเกล้า” เจ้าหน้าที่สาวพาผมเข้ามาในห้องของเล่นที่มีเด็กกำลังคลานไปมาอยู่ประมาณห้าหกคนเห็นจะได้ “ถ้าคุณเกล้าชอบเด็กคนไหน ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ”

“ขอบคุณมากครับ”

ผมค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งรวมกับเด็กๆ ความไร้เดียงสาอย่างแท้จริงนี่มันทำให้เราสุขใจอย่างบอกไม่ถูกนะครับ พวกเขาทุกคนครบสามสิบสอง แต่ทว่ากลับถูกทอดทิ้ง ผมมองเด็กแต่ละคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร และเล่นกับเด็กบางคนที่เข้ามาเล่นกับผม

ให้ตายเถอะ...ผมอยากเลี้ยงให้หมดนี่เลย แต่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้

ช่วงระหว่างที่ผมเผลอนี้เอง มีเด็กตัวอ้วนกว่าเด็กวัยเดียวกันคนหนึ่งคลานมาหาผมอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็...ฟาดของเล่นเข้าที่อกของผมเต็มแรง

นี่คือเรี่ยวแรงของเด็กอ่อนจริงๆ เหรอ

ผมมองไปที่เด็กคนนั้นอย่างทึ่งๆ เขาเป็นเด็กผิวดี อ้วนจ้ำม่ำ หน้าตาตี๋ๆ หน่อย

“ไงครับ” ผมพูดกับเขา ถึงแม้จะรู้ว่าเขาฟังผมไม่รู้เรื่องก็ตาม

แน่นอนว่าเด็กคนนี้ไม่ตอบผม เขาใช้ตาเล็กๆ ของเขามองผมตาแป๋ว เดี๋ยวนะ ทำไมเด็กคนนี้มีส่วนคล้ายกันต์แบบนี้ล่ะเนี่ย

“น้องคนนี้พวกเราตั้งชื่อว่าน้องกันตพลค่ะ” เจ้าหน้าที่อธิบาย “น้องถูกทิ้งเอาไว้ที่ข้างถังขยะเมื่อหลายวันก่อนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบ เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเองค่ะ”

“เพิ่งออกมาแต่มีแรงเยอะขนาดนี้เลย” ผมมองไปที่เด็กชายกันตพล สงสัยเขาจะรู้ว่าผมสนใจล่ะมั้ง เห็นมองผมใหญ่เลย ไม่นานนักเขาก็คลานเข้ามาใกล้ผม จากนั้นก็ปีนขึ้นมานั่งตักผม โดยที่ผมไม่ต้องช่วยเหลือเลยสักนิด

ความอบอุ่นที่ส่งออกมาจากเด็กคนนี้คืออะไร

“เจ้าหน้าที่ตำรวจตามสืบไม่ได้เลยค่ะว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เป็นใคร จุดที่น้องกันตพลถูกทิ้งเอาไว้เป็นจุดที่เปลี่ยวไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปเจอ ว่ากันว่าน้องแข็งแกร่งมากเลยค่ะ โดนทิ้งไว้หลายวันแล้วก็ยังใจสู้”

ยิ่งฟังผมก็ยิ่งรู้สึกสะเทือนใจ เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่และไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้ถูกทิ้งให้อยู่ข้างถังขยะตามลำพัง เด็กหลายคนก็อาจจะมีโชคชะตาเช่นเขา

ไม่รู้สิ...ผมคิดว่าเด็กคนนี้เลือกผมตั้งแต่ที่เขาฟาดของเล่นมาใส่อกผมอย่างแรงแล้วล่ะ

“มาอยู่กับพ่อมั้ยครับ กันตพล...”






“ชื่อเล่นว่าอะไรดีล่ะเรา”

“...”

“ต้องเป็นตัว ก ไก่ ใช่มั้ย อยากชื่อว่าอะไรล่ะ”

“...”

“เล่นแต่ของเล่น ไม่ยอมตอบเลยนะ”

ผมสนิทกับกันตพลไวมากครับ เพราะเด็กคนนี้ติดผมมาก เจ้าหน้าที่พยายามแกะเขาออกไปดื่มนมทานอาหารแล้ว เขาก็ไม่ยอมออกห่างจากผม ทันทีที่ห่างผมปุ๊บเจ้าตัวเล็กก็จะงอแงปั๊บ งองแงชนิดที่ว่าร้องไห้ลั่นสั่นสะเทือนอาคาร เป็นเด็กที่ร้องไห้เสียงดังจริงๆ...เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สามารถรับมือกับกันตพลได้ เธอก็เลยส่งนมกับอาหารมาให้ผมเป็นคนจัดการป้อนกันตพลด้วยตัวเอง

รู้สึกดีแฮะ...นี่ใช่มั้ยความรู้สึกเอ็นดูที่ใครหลายคนมีต่อเด็กๆ ในวัยนี้

กันตพลอยู่ในอ้อมแขนของผม ไม่งอแง ไม่ขยับตัว มีเพียงอย่างเดียวที่ขยับครับนั่นก็คือปาก เพราะเขาดูดนมไม่หยุด ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่ผม ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเหมือนกันต์

กันต์มันไปปล่อยเชื้อทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่าวะ ชักหวาดระแวงแล้ว...

พอดื่มนมเสร็จแทนที่คุณชายกันตพลจะนอน เขากลับร่าเริงคลานเล่นไปทั่ว ตอนนี้ในห้องของเล่นมีแต่ผมกับเขาแล้วล่ะครับ เด็กคนอื่นถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปนอนกันหมดแล้ว

ผมลองตบมือเรียกเขาดู กันตพลคลานเข้ามาหาผมพอใกล้ถึงผมปุ๊บเขาก็กระโดดเข้ามาสู่อ้อมกอดของผม...

“เกล้า” เสียงเข้มๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู กันต์นี่เอง “ทำไมมาไม่บอก”

“เกล้าจะเลี้ยงเด็กคนนี้” ผมพูดอย่างมั่นใจ

“เดี๋ยว อย่าเพิ่งตัดสินใจสิ” กันต์ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม กันตพลจ้องมองกันต์เขม็งอย่างงุนงงระคนสงสัย

“แฟนพ่อเอง” ผมอธิบายให้เขาฟัง

“พ่อเหรอ” กันต์ทวนคำ “ปรึกษากันหรือยัง”

ป้าบ! มือเล็กๆ ของกันตพลตีเข้าที่แขนของกันต์จนเกิดเสียงดัง

“โอ้โห แรงเยอะไม่ใช่เล่น” กันต์มองกันตพลด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรแบบไม่จริงจัง “เขาเป็นของฉันเว้ย”

ป้าบ! กันตพลตีแขนของกันต์อีกรอบ

“สู้คนด้วยเว้ย”

“เอาสิ บอกแล้วว่าเลือกไม่ผิด” ผมพูดอย่างภาคภูมิใจ อุ้มกันตพลให้หันไปหากันต์เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้เห็นเขาชัดๆ “ดูเขาสิ ไม่เหมือนกันต์หรอกเหรอ”

“เหมือนตรงไหน อ้วนอย่างกับหมู”

“เหมือนจะตาย ตอนยิ้มยิ่งเหมือน”

“ไหนลองยิ้มซิ” กันต์พูดกับเด็กอ่อนตรงหน้า

เด็กไม่ยิ้ม...ผมนี่โคตรจะฮาเลย ฮ่าๆๆๆ

“ผมไม่ถูกชะตากับเด็กนี่”

“ทำไมล่ะ เขาติดเกล้าออกนะ” ผมพูด พร้อมกับโชว์หลักฐานให้เห็นด้วยการหอมแก้มกันตพล กันตพลยิ้มแฉ่ง นั่นยิ่งทำให้กันต์รู้สึกไม่ชอบใจใหญ่

“ให้ตายเถอะ” กันต์ลุกขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “ผมจะไปดูเด็กๆ ตรงนู้นสักหน่อยนะ เผื่อจะ...”

ตอนที่กันต์ลุกขึ้นยืน กันตพลคลานไปที่ขาของกันต์จากนั้นก็ใช้มือเล็กๆ เกาะขากางเกงของกันต์เอาไว้ ใบหน้ากลมๆ มองขึ้นไปหากันต์อย่างไร้เดียงสา ผมแบมือออกสองข้างราวกับต้องการบอกกันต์ว่านี่ไม่เกี่ยวกับผม กันตพลคลานไปหากันต์เอง

กันต์ก้มหน้าลงมามองเด็กที่กำลังเกาะขาของเขาอยู่ ก่อนที่จะมองผมสลับกับมองเด็ก

เขาถอนหายใจ ลงมานั่งยองๆ เพื่อที่จะคุยกับกันตพล

“ยอมแพ้ก็ได้” กันต์เกลี่ยแก้มเด็กน้อยอย่างเริ่มรู้สึกเอ็นดู “เกล้าพูดถูก...เด็กคนนี้มีความคล้ายผม”

“ตรงไหน”

“ติดเกล้าน่ะสิ”

“...”

“ผมคิดชื่อเล่นมาแล้ว”

“ชื่อว่าอะไรเหรอ” ผมรีบถามอย่างตื่นเต้น

“เพราะผมคิดอยู่ในใจแล้วล่ะว่าเกล้าต้องเลือกเด็กผู้ชาย”

“...”

“ให้มีชื่อเล่นว่ากุนซือ”






“เหยดเข้ ชื่อกุนซือเหรอ”
“ใช่”
“หน้าตาหลานกูตี๋มากเลยเหรอไงวะไอ้กันต์”
“มึงก็มาดูเองสิ อย่างกับหลวงจีนตัวอ้วนๆ”
“ดูมันว่าลูกมัน”
“ก็จริงๆ”
“ตกลงมึงรักหรือไม่รัก”
“บางครั้งก็รัก บางครั้งก็หมั่นไส้”
“...”
“อย่าจับนมเกล้า!!!!!”
“กูไม่ได้จับ!”
“กูว่าลูกกู”
“ไอ้เหี้ย เด็กก็คือเด็ก”
“ชักจะเหิมเกริมแล้วหลังๆ อ่ะ ต้องห้ามปรามเสียบ้าง”
“...”
“แต่เด็กก็...น่ารักดีนะมึง”
“...”
“แม่งทำให้กูอยากกลับบ้านเร็วๆ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน”







TBC*




ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 37 {บทส่งท้าย}
กันต์ธร เกล้า และกันตพล








สุดท้ายและท้ายสุด...วันนี้เป็นวันธรรมดาอีกวันหนึ่งที่กำลังจะเริ่มต้น

รู้จักเด็กชายกันตพลหรือกุนซือกันแล้วใช่มั้ยครับ เขาคือลูกชายของผมกับกันต์เองแหละ เป็นเด็กที่ถือว่าโตไวมากชนิดที่ว่าซื้อเสื้อผ้าให้ใส่แทบจะไม่ทัน ยิ่งไปกว่านั้นก็คือกุนซืออ้วนมากครับ อ้วนแบบเด็กตุ้ยนุ้ยที่มีเนื้อเยอะๆ นั่นแหละ เขามักจะถูกกันต์แอบเรียกว่าซูโม่บ่อยๆ ซึ่งผมได้ยินทีไรเป็นต้องหยิกกันต์ทุกทีไป คนอะไรวะบางวันก็รักบางวันก็แกล้งลูกฉิบหาย

ถ้าจะให้พูดก็คือตอนนี้กุนซืออายุเกือบหนึ่งขวบแล้วครับ ตั้งแต่ที่ผมกับกันต์ไปรับเขามาเลี้ยงดูอุปการะนั้นชีวิตของพวกเราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ผมเคยอยู่ที่ร้านเช้าสายบ่ายเย็น บัดนี้ผมสิงสถิตอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ข้างหลังร้าน บางวันต้องให้สองหอบงานมาให้ผมถึงที่นี่เนื่องจากติดเลี้ยงกุนซืออยู่

เขาเป็นเด็กกินเก่ง แข็งแรง ซน อะไรก็ตามที่เป็นนิยามของเด็กผู้ชายบ้าพลังนั้นมารวมอยู่ในตัวกุนซือหมดเลย หลายครั้งที่ผมสังเกตเห็นว่าเขานั้นมีส่วนผสมของกันต์ครึ่งหนึ่ง ของผมครึ่งหนึ่ง แม้บางครั้งจะดูใจร้อน แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่ดูใจเย็น

ไม่มีใครเหมาะที่จะเป็นลูกของเราเหมือนกุนซือแล้วล่ะครับ

“ต้องเอารถเข็นเด็กไปมั้ย” กันต์ถามขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเราก็เตรียมของเพื่อที่จะพากุนซือไปหาคุณยาย (สุดท้ายแล้วผมต้องเป็นมนุษย์แม่สำหรับกุนซือ) ตอนแรกก็พร้อมดีอยู่หรอกครับ ขนของแล้วขนของอีกใส่ข้างหลังรถ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มแล้ว แต่ทว่าจู่ๆ กันต์ก็ถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา นั่นทำให้ผมลังเลเลยทีเดียวว่าจะเอายังไง

“ที่บ้านแม่มีอยู่แล้วหรือเปล่า” ผมครุ่นคิด ช่วงนี้พ่อกับแม่ผมเห่อกุนซือมาก รักเสียยิ่งกว่าลูกในไส้เสียอีก ยิ่งเห็นว่าอ้วนจ้ำม่ำก็ยิ่งมันเขี้ยวอยากจะบิดแก้มทั้งวี่ทั้งวัน แถมยังบังคับให้ผมพากุนซือไปหาทุกอาทิตย์อีกนะ

“ไม่แน่ใจ เอาไปด้วยเนอะ” กันต์พูดขณะที่กำลังเริ่มจัดการกับรถเข็นเด็ก ผมเหลือบมองไปที่กุนซือ เขากำลังคลานอยู่ในห้องนั่งเล่นที่มีระเบียง ผมเดินไปหยิบข้าวของของตัวเอง หยิบนั่นหยิบนี่ ในขณะเดียวกันก็มองไปที่กุนซือในทุกๆ ระยะด้วยครับ

“โอ้โห เกล้ามาดูนี่” กันต์เรียกผมไปดูอะไรบางอย่าง ผมไปตามเสียงเรียกของเขา ปรากฏว่าหลังรถนั้นมีของเต็มไปหมดชนิดที่ว่าแทบจะยัดอะไรใส่ไม่ได้แล้ว

ของกุนซือทั้งนั้น...

“ทำไงดี”

“รถเข็นเด็กนี่มันจำเป็นจริงๆ หรือเปล่า” ผมเริ่มถกประเด็นกับกันต์อย่างจริงจัง

“จำเป็นสิครับ ไม่งั้นเจ้าซูโม่” กันต์มองเห็นสายตาของผมจึงเริ่มแก้คำพูด “ไม่อย่างนั้นกุนซือคลานไปทั่วแน่ๆ”

“อืม...เราก็ต้องอุ้มตลอดเวลาสิ มีคนดูเขาเยอะแยะจะตาย พี่จุ๋มพี่เภาก็อีก”

“แต่ผมว่ามันจำเป็นนะเกล้า”

“แต่มันไม่มีที่จะใส่แล้ว”

“ถ้างั้นก็ต้องคัดพวกที่ไม่จำเป็นออก”

“อะไรล่ะที่ไม่จำเป็น มันจำเป็นหมดเลย”

“แล้วต้องทำยังไงล่ะทีนี้”

“ทำไมต้องเสียงดังด้วย” ผมเริ่มไม่พอใจที่กันต์ทำท่าเหมือนรำคาญผม (ในความคิดของผม)

“ไม่ได้เสียงดังสักหน่อย ก็แค่ถาม”

“ไม่จริง กันต์กำลังเสียงดังชัดๆ นี่กำลังคิดถึงสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกอยู่นะ”

“ผมก็กำลังคิดเหมือนกัน”

“ตกลงยังไง”

“กุนซืออยู่ไหนครับ”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง”

“ไม่ ผมถามจริงๆ กุนซืออยู่ไหน” กันต์หันไปดูระเบียงห้องนั่งเล่นที่เป็นกระจก ในห้องนั่งเล่นเป็นที่ที่ผมเห็นกุนซือล่าสุด แต่ทว่ามองจากหน้าบ้านตอนนี้...เขาไม่อยู่

ฉิบหายแล้ววววว!!!!!

ผมกับกันต์สบตากันอย่างแตกตื่น หลังจากนั้นเราก็พากันวิ่งมาที่ห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว

ใจผมหล่นลงไปที่ตาตุ่ม...เจ้าเด็กอ้วนลูกชายผม...หายไป

“อยู่ไหนลูก” กันต์ร้องขณะที่เริ่มพลิกแผ่นดินตามหากุนซือ

“กุนซือครับ อยู่ไหน ออกมาเร็วๆ เข้า”

ผมคิดในใจว่ายังไงกุนซือก็คลานออกไปไหนได้ไม่ไกลอยู่แล้ว แต่ยิ่งผมเห็นว่าประตูกระจกตรงระเบียงมันแง้มอยู่นิดหน่อยแล้วผมก็ยิ่งกังวลหนัก ผมตามหากุนซือทั่วทั้งชั้นหนึ่ง ทว่าหายังไงก็หาไม่เจอ

กันต์วิ่งออกไปดูแถวๆ หน้าบ้าน ตรงบริเวณรอบๆ ระเบียง ใบหน้าที่เริ่มซีดของเขาทำเอาผมรู้สึกกังวลไปหมด

“ไม่เจอ” กันต์พูดเสียงเบาราวกับไม่อยากที่จะพูดคำนี้ออกมา

“ไม่ได้นะ!” ผมร้องลั่นอย่างลืมตัว ผมตามหาเขาอีกครั้งทุกซอกทุกมุมพร้อมกับส่งเสียงเรียก “กุนซือลูก อยู่ที่ไหน พ่อเริ่มไม่ขำแล้วนะ!”

“ส่งเสียงออกมาเจ้าอ้วน ส่งเสียงออกมา!” กันต์เองก็เริ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นกัน

เราทั้งคู่ลืมเรื่องรถเข็นเด็ก เราทั้งคู่ลืมเรื่องทุกอย่าง ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือตามหากุนซือให้เจอ ให้ตายสิครับ นี่ใช่มั้ยความรู้สึกของคนที่ทำลูกหาย กุนซือกับผมแม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แต่ผมขอบอกตามตรงเลยว่าหัวใจของผมเจ็บเป็นบ้า

ทำไมผมถึงปล่อยเขาไว้ตามลำพัง ทำไมผมถึงชะล่าใจ แม้แต่บ้านของผมไม่ว่าเขาจะคลานไปไหนอันตรายมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

“กุนซือ!!!!!!!!!” ผมร้องเสียงดังลั่น น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ใกล้จะระเบิดออกมาทุกขณะ

“เสียงดังอะไรกันเฮีย” เสียงดังมาจากหน้าบ้าน ผมกับกันต์รีบออกไปดู ไอ้หนึ่งกับฟาร์ (สิบสี่ลาออกไปแล้วครับเมื่อหลายเดือนก่อน ลาออกไปช่วยงานที่บ้าน) กำลังยืนอยู่หน้าบ้านผม ในมือของไอ้หนึ่งอุ้มสิ่งที่ผมตามหาแทบพลิกบ้านอยู่ด้วย นั่นก็คือ...กุนซือ

ผมรีบแจ้นไปอุ้มเจ้าอ้วนของผมทันทีพร้อมหอมซ้ายหอมขวา กันต์ที่เห็นกุนซือแล้วทำหน้าโล่งอกที่สุดในชีวิต

“ทำลูกหายกันใช่ไหม” ไอ้หนึ่งทำเสียงตำหนิ “กุนซือบ้าพลังมาก อีกนิดจะคลานไปถึงร้านแล้วเฮีย อันตรายนะ”

“กูรู้ กูรู้ กูผิดเอง” ผมเอาหน้าผากไปชนกับกุนซือที่กำลังเริ่มเล่นคอเสื้อของผม เขาช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเกือบทำให้ผมหัวใจสลาย “ต่อไปพ่อจะดูกุนซือให้ดีกว่านี้นะ...”

“ต้องหาอะไรมากั้นประตูเอาไว้แล้วล่ะ เดี๋ยวผมจะรีบจัดการ” กันต์พูดอย่างจริงจัง “ขอบใจมากนะเว้ยเชี่ยเต๊บ ฟาร์ด้วย ไม่ได้พวกมึงนี่กูคงตายอ่ะ...”

“ไหนมึงบอกว่าบางวันมึงก็ไม่ได้รักเด็กคนนี้”

ผมหันไปมองไอ้หนึ่งสลับกับกันต์ หมายความว่ายังไงวะ

“คือจริงๆ แล้วอ่ะ ผมก็แกล้งทำเป็นไม่พอใจเด็กไปอย่างนั้นเอง” กันต์อธิบายกับผมพร้อมกับจิ้มแก้มของกุนซือไปด้วย “ก็เกล้าติดลูกมากกว่าผมอ่ะ”

“ลูกกันต์เหมือนกันป่ะวะ”

“ไม่รู้ล่ะ แต่ผมรู้แล้วว่าผมขาดเด็กคนนี้ไม่ได้ เกล้ารู้มั้ย เมื่อกี้ผมใจสั่นแทบตาย ผมกลัวไปหมดว่าเขาจะเป็นอะไร ผมกลัวจริงๆ นะ”

“คราวหลังก็ดูให้ดีๆ แล้วกัน” ไอ้หนึ่งหันไปหาฟาร์และก็โอบหลังฟาร์ให้เดินออกไป

“มึงจะไปไหนกัน” กันต์ร้องถาม

“ไปหาเด็กมาเลี้ยงบ้าง แม่งมองแล้วดูเป็นครอบครัวฉิบหาย กูอิจฉา” หนึ่งพูดโดยไม่สนใจฟาร์ที่กำลังต่อยมันให้มันเลิกพูด

“ก็กูเป็นครอบครัว” กันต์ยักไหล่อย่างอวดๆ “และกูก็รักครอบครัวของกูมากด้วย”

“กูรู้แล้ว กูไปนะ!”

“เชี่ยเต๊บ”

“อะไรวะ” หนึ่งหันกลับมาหาอีกรอบ

“ขอบคุณนะ”

“อะไร”

“ถ้าไม่มีมึง กูก็ไม่มีวันนี้ ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่าง”

กันต์พูดอย่างจริงใจ ไอ้หนึ่งที่รู้ตัวว่าตัวเองได้ทำสิ่งดีๆ ลงไปก็เริ่มยิ้มออก มันกระโดดโลดเต้นพร้อมๆ กับโบกมือบ๊ายบายให้ผมและครอบครัวของผม

“รักเฮียของกูให้มากๆ ก็แล้วกัน”

“ไม่มีวันไหนที่กูไม่รัก”

ผมส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ในความมั่นอกมั่นใจของกันต์ กุนซือเองก็เห็นด้วยกับผม เขาส่งเสียงไม่เป็นภาษาราวกับไม่เห็นด้วยกับคำพูดของกันต์

“อะไร ซูโม่”

“...”

“แหม...ยิ้มเชียวนะ คราวหลังถ้าซนอีกเจอดีแน่”

“...”

“จับอะไรอยู่น่ะ”

ผมก้มลงมองดูว่ากุนซือกำลังใช้มือสัมผัสอะไรบนตัวผม

“ให้ตายเถอะ เจ้าอ้วนเอ๊ย!!!”

“...”

“บอกว่าอย่าจับนมของเกล้า!!!!!”










(จบบริบูรณ์)














Talk : ในที่สุดร้านบาร์สุราลัย นิยายที่ถือกำเนิดขึ้นจากการไปนั่งร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดของคนเขียนก็จบลง
จริงๆ แล้วนิยายเรื่องนี้ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวกับคนเขียนมาพอสมควรเลยนะคะ
เรียกได้ว่าปั่นต้นฉบับเรื่องนี้ตอนเจอมรสุมชีวิตพอดี ตอนนั้นคนเขียนก็คิดมาก กลัวว่าจะไม่เสร็จและไม่จบ
แต่ในที่สุดก็พาทั้งคุณเกล้าและน้องกันต์ผ่านพ้นมาได้ กลายเป็นนิยายที่ค่อนข้างสมบูรณ์เรื่องนี้เลยล่ะค่ะ

มีใครชอบน้องกุนซือมั้ยคะ คนเขียนอยากจะบอกว่า

จะได้พบกันนิยายที่น้องกุนซือเป็นพระเอกเต็มตัว ปีหน้านะคะ เย้ : )

ตอนนี้ปั่นเรื่องของน้องกุนซือไปพร้อมๆ กับเรื่อง ใจภักดิ์รักเดียว แล้วค่ะ
บอกเลยว่ามีความเบาสมอง โรแมนติกคอมเมดี้ไม่ต่างจากคู่พ่อทั้งสองของน้องเลย 555
และจะมีคู่กันต์กับเกล้าโผล่ไปแจมด้วยนะคะ เขียนเรื่องของลูกแต่จะไม่มีบทของคู่พ่อก็ใช่เรื่องใช่ม้ายยย

สุดท้ายนี้คนเขียนอยากจะขอบคุณอะไรหลายๆ สิ่งที่ทำให้นิยายเรื่องนี้บังเกิดขึ้นและดำเนินต่อไปจนจบ
ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง อดีตคนรัก(นี่แหละที่มาของมรสุมชีวิต 555 ตอนที่เขียนเรื่องนี้ก็คือไปนั่งร้านกับนางนั่นแหละค่ะ)
คุณบรรณาธิการที่น่ารัก สำนักพิมพ์ everY เพื่อนนักเขียนที่คอยให้กำลังใจ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือคนอ่านที่น่ารักที่ยังคงอ่านและติดตามผลงานของคนเขียนเสมอ
ขอบคุณมากเลยนะคะ คนเขียนไม่รู้จะตอบแทนคนอ่านอย่างไร
นอกจากจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการรังสรรค์ผลงานที่ดีต่อไป
อย่างน้อยให้ผลงานของคนเขียนได้สร้างรอยยิ้มแก่คนอ่านได้บ้าง เพียงแค่ยิ้มมุมปากก็ยังดีค่ะ

ร้านบาร์สุราลัย วางแผงที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ 28 กันยายน 2559 นี้นะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านจนจบค่ะ

แล้วพบกันใหม่นะคะ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จบอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ  :a5:

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แทบจะรอกุนซือโตไม่ไหว มาแย่งซีนกันต์เกล้าชัดๆ 555555 อะไรจะน่าฟัดเบอร์นี้

ออฟไลน์ Faiia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :กอด1: ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์จริง ๆ

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
มีความไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่รุ้ว่าสักวัน ต้องจากลา งานเลี้ยงต้องเลิก เเต่ยังคงติดตามผลงานเรื่องอื่นๆนะคะ
มีโอกาสได้รู้จัก หมอป่า น้องโย เลยไปตามเก็บเรื่องอื่นๆมาด้วย

รู้สึกขอบคุณนักเขียนนะคะ เเละทพให้นิยายเรื่องนี้จบแบบสมบูรณ์ที่สุด
เเม้ว่าตัวนักเขียน จะเจอมรสุมในชีวิตจริง เเต่คงไม่มีใคร ผ่านมันไม่ได้คะ
สู้ๆ เเละ เป็นกำลังใจให้เสอม

ปล. เรื่องนี้ไม่เคยยิ้มมุมปาก เพราะยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ อิน ฟิน อย่างที่สุด เเถมชอบพี่กันมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โหยยยยย จบแล้วอ่ะ ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย   :ling1:

ส่วนตัวรู้สึกว่าผลงานเรื่องนี้ของ chiffon_cake อ่อนรสหวานไปนิ้ดด แต่มันได้อารมณ์แบบสุขุมๆ นุ่มๆ ผู้ใหญ่ๆ มาแทน ก็สนุกไปอีกแบบ ไม่หวานเจี๊ยบแต่เป็นหวานแบบละมุนๆแทน ชอบคู่เต็บฟาร์ด้วย จีบกันน่ารักดี

รอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปค่ะ ทั้งมาเฟียมุ้งมิ้ง(ใจภักดิ์) และ น้องซูโม่ เอ้ยยย !  น้องกุนซือในต้นปีหน้า เป็นกำลังใจให้ ชฟค. นะคะ อะไรที่เป็นมรสุมคุณได้ผ่านมันมาแล้ว คุณสุดยอดมาก เก็บเอาแต่สิ่งดีๆที่ผ่านมาไว้เป็นพลังให้กับชีวิต และก้าวต่อไปค่ะ สู้ๆ! ค่ะ

Still Chiffon_cake's  FC forever kha.   เลิฟยัก >> รักยู นะคะ :mew1:

ออฟไลน์ VirgoMok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
น่ารักมากค่ะ รอติดตามเรื่องต่อไปนะค่ะ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด