✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60  (อ่าน 242697 ครั้ง)

ออฟไลน์ SWIM

  • ความทรงจำสีเทา
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น่ารัก อานโน่น่ารักจังเลย
 :mew1:

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตอนหน้าเชส เอาคืนด้วยล่ะ

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
• •* หาคู่*• •วันที่5



ทุกๆวันของสังคมมนุษย์ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายและยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงหนึ่งของปฏิทินการศึกษา...นักศึกษาทุกคนต่างต้องเจอกับสิ่งนี้ในทุกๆเทมอเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า ทุกคะแนนล้วนมีค่าและยิ่งมีค่ามากขึ้นเมื่อไม่สามารถย้อนกลับไปทำคะแนนให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นในช่วงนี้ของทุกๆเทมอจะเป็นช่วงที่วุ่นวายและเครียดมากที่สุดของคนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

สอบกลางภาค

แค่ชื่อก็ทำให้นักศึกษากว่าครึ่งของมหาวิทยาลัยยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

“จริงเหรอ?”ผมถามรูมเมทที่ไม่เจอกันมาสักพักอย่างไม่เชื่อสายตา

แค่สอบปลายภาคอะไรจะขนาดนั้น

“จริงซะยิ่งกว่าจริงอีก...รู้ไหมว่าที่นี่ข้อสอบน่ะไม่มีข้อกาเลยนะโว้ย!”เจฟที่นั่งอยู่ข้างๆตบโต๊ะดังลั่นก่อนจะตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง

“ไม่มีข้อกาก็ง่ายน่ะสิ”ผมบอกกลับ...ข้อสอบที่ยากที่สุดสำหรับผมคือข้อกาเพราะข้อกา4ข้อมักจะเลือกสิ่งที่เรียนมาเหมือนๆกันเลยยากที่จะเดาแต่ถ้าเป็นเป็นข้อเขียนหมดแบบนี้ก็เสร็จผมล่ะ

“ง่ายบ้าอะไร!...เฟตดูอานโน่สิมันบ้าไปแล้ว!”เจฟหันไปพูดกับเฟตที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆแทน

ช่วงบ่ายหลังเลิกคลาสเป็นเวลาที่พวกเราว่างตรงกันและเพราะอยู่ในช่วงสอบพวกสายกีฬาเลยหยุดเล่นกันเปลี่ยนมาเป็นโหมดเตรียมตัวสอบแทน ทั้งโต๊ะประกอบด้วยคน5คนมีทั้งเจฟรูมเมทที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์

“อย่าพึ่งมาพูดกับฉันตอนนี้...aใช้กับคำนามปกติส่วนan...ต่างกันตรงไหนวะ?”เสียงของหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลเข้มไม่สนใจคำพูดของเจฟแถมยังทำท่าเหมือนโลกจะแตกกะไอ้แค่aกับan

“anใช้กับคำนามที่นำหน้าด้วยสระ a e i o u”ผมอธิบายให้คนที่ทำหน้าเครียดฟัง

“Yes!...ใช่เลยอานโน่...นายมันอัจฉริยะ!”เฟตดูจะดีใจมากที่แยกแยะaกับanได้แล้ว

ผมได้แต่หัวเราะแฮะๆกลับให้โดยไม่เข้าใจว่ามันยากตรงไหน ข้อสอบระดับปริญญาตรีไม่น่าจะมีออกเรื่องง่ายๆเหมือนชั้นมัธยมแบบนี้หรอกนะ

“อานโน่นายรู้ไหมว่าตอบอะไรโจทย์ให้มาว่าเรือลำหนึ่งแล่นตามน้ำได้ระยะทาง 30 กิโลเมตร และแล่นทวนน้ำอีก 20 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 7 ชั่วโมงถ้าแล่นทวนน้ำขึ้นไป30 กิโลเมตร แล้วแล่นตามน้ำ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมง จงหาอัตราเร็วของกระแสน้ำ?”เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่อีกข้างของเฟตถามขึ้นด้วยสีหน้างงด้วย แว่นกรอบดำถูกดันขึ้นหลายต่อหลายรอบอย่างใช้ความคิดแต่สุดก็คิดไม่ออกเลยหันมาถามผม

“ขอคิดแป๊บนึงนะวิน”ผมบอกพร้อมหยิบปากกาและกระดาษออกมาสูตรที่ต้องใช้ในโจทย์นี้คือสูตรเรื่องของกระแสน้ำโดยใช้สูตร  Vตาม+Vทวน/2  = Vกระแส

“...ได้7.5กิโลเมตรต่อชั่วโมง”คิดไปสักพักก็เลื่อนกระดาษที่ใช้คำนวณส่งไปให้วิน

“เร็วไปแล้วแบบนี้จะถูกได้ไง...เฮ้ย...ไม่จริงน่า”วินถึงกับอึ้งที่คำตอบที่เห็นผมมั่นใจว่ามันถูก100%เลย

“ให้อธิบายให้ฟังไหมล่ะ?”ผมถาม

“ได้เหรอ?”ดวงตาสีน้ำตาลใต้กรอบแว่นหันมาสบตาผมปิ๊งๆอย่างรวดเร็ว

“ได้สิ”เรื่องนี้ผมถนัดสามารถสอนได้

“ขอบคุณมากเพื่อนนนน~”วินรีบย้ายที่นั่งมาข้างผมทันทีก่อนที่จะเริ่มอธิบายคำตอบที่ได้ตั้งแต่ต้น ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงวินก็ร้องอ๋อในลำคอก่อนจะจะบอกขอบคุณเพราะตัวเองเข้าใจวิธีคิดอย่างกระจ่างแล้ว

“นี่ๆ...นายรู้ไหมว่าข้อนี้ต้องใช้สูตรอะไร?”ต่อจากวินคราวนี้เป็นหญิงสาวเพื่อนต่างคณะของวินที่ชื่อโฟขยับเข้ามาถามบ้าง

“ขออ่านแป๊บนะ...อ้อ...ถ้าถามหาความแปรปรวนก็ใช้สูตรนี้ได้เลย...แบบนี้ไง”พอพูดจบก็เขียนสูตรพร้อมแทนค่าให้ดูเป็นตัวอย่าง

“ไหนๆของฉันดูด้วย”เพื่อนในโต๊ะคนสุดท้ายเข้ามาร่วมวงด้วยเธอชื่ออิลล์อยู่คณะเดียวกับโฟซึ่งเป็นคณะเกี่ยวกับคณิตศาสตร์

“สุดเลยอานโน่...นายมันอัจฉริยะ”เป็นอีกครั้งที่ถูกเพื่อนในกลุ่มชม

“ไม่หรอก”ถ้าเป็นแม่คงตอบได้โดยไม่ต้องเขียนใส่กระดาษด้วยซ้ำ

“นี่เรามีเพื่อนสุดยอดเลยเนอะ”โฟหับไปคุยกับอิลล์

“นั่นสิ...เห็นด้วยเลย”

“อะแฮ่ม!...เรื่องทั้งหมดนี่ต้องของคุณเจฟฟี่ที่พาบุคคลอัจฉริยะนี่มานะ”เจฟที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง

“ใครจะขอบคุณนายกัน”

“จริงด้วยๆ”

“เฮ้ย...ทำแบบนี้ไม่ถูกนะขอบคุณแต่อานโน่แล้วฉันล่ะ”

“นายทำอะไรให้เราได้ล่ะนอกจากนั่งพล่ามไปวันๆน่ะ”

“แรง!”

“ฮะฮะฮะ”สุดท้ายคนทั้งกลุ่มก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน ทั้งที่ผมคิดจะอ่านหนังสือเตรียมสอบแต่สุดท้ายกลายเป็นคนติวข้อสอบให้คนในกลุ่มไปได้ยังไงก็ไม่รู้

การติวเป็นไปอย่างวุ่นวายและเสียงดังจนมีอาจารย์บางคนเคาะกระจกห้องเพื่อตักเตือนบ้าง...สถานที่ที่พวกเราอยู่คือหอสมุดขนาดใหญ่ที่มีแยกเล้กๆไว้ให้เหล่านักศึกษาใช้ในการติวสอบหรืออ่านหนังสือเป็นกลุ่ม

ช่วงหน้าหนาวแบบนี้การไปติวที่อื่นมีแต่จะทำให้ร่างกายแข็งเท่านั้น...ด้วยอากาศที่หนาวเหน็บทำให้บนตัวผมมีทั้งสวมเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอสวมอยู่หลายชั้น ถ้าอยู่ที่เกาะคงไม่ต้องมากังวลเรื่องพวกนี้เพราะถึงจะหน้าหนาวก็ไม่หนาวถึงขนาดหิมะตกแบบนี้

ครั้งแรกที่เจอกับความหนาวเห็บผมบอกได้เลยว่าไม่ชอบ

“เดี๋ยวอานโน่!”เสียงของเจฟตะโกนเรียกในขณะที่ผมกำลังจะเดินกลับห้อง

“อะไร?...มีข้อไหนทำไม่ได้เหรอ?”

“ไม่ใช่เรื่องสอบสักหน่อย”

“อ้อ...แล้ว?”

“รู้ข่าวรึยัง?”

“ข่าว?”ผมทำหน้างงก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ก็หอเราที่ซ่อมน่ะกำลังจะเสร็จแล้วนะ”

“...”ข่าวดีที่ได้ยินไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกยินดีอย่างที่ควรเป็นสักนิด

มันรู้สึกโหวงๆในอกเมื่อคิดว่าจะไม่ได้นอนบนเตียงกว้างที่มีกลิ่นของเชสอีกแล้ว

“อานโน่?”

“...อ้อ...ดีจังเลย...แล้วจะเสร็จเมื่อไหร่เหรอ?”

“เห็นว่าสอบกลางเสร็จเมื่อไหร่ก็ย้ายกลับมาได้เลย”

“ขอบคุณสำหรับข้อมูล”ผมบอกก่อนจะพวกเราจะแยกย้ายกันกลับ

ผมเร่งฝีเท้าเดินกลับห้องเมื่อหิมะที่พึ่งหยุดตกไปกลับมาตกอีกครั้งหนึ่ง...ความหนาวของหิมะที่อยู่บนหัวทำให้ต้องสะบัดเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปในหอที่เปิดฮีทเตอร์ทำความร้อนไว้

ร่างกายที่อุ่นขึ้นขยับง่ายกว่าตอนอยู่ข้างนอกเยอะ

“เชสกลับมาแล้ว”ผมเปิดประตูพร้อมตะโกนเข้าไป

ภายในห้องอุ่นกว่าตรงทางเดินเยอะเพราะมีฮีตเตอร์ส่วนตัวอยู่อีกถึงสองเครื่อง...ผมก้าวเข้าไปยังเตียงขนาดใหญ่กลางห้องที่มีร่างของเข้าของห้องนั่งพิงหัวเตียงพร้อมเปิดหนังสืออ่านอยู่

“อ่านหนังสือสอบเหรอ?”ผมถามต่อเมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบอะไรกลับมา

“ฉันเหมือนคนที่ต้องอ่าน?”ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเงยขึ้นมาสบพร้อมยกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางที่น่าหมั้นไส้สุดๆ

“เออ...ไอ้คนเก่ง”ผมเหวี่ยงกระเป๋าเป้ใส่เจ้าคนกวนโอ้ยก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนเตียงใหญ่นั่นอีกคน

“อยู่แล้ว”

“ไม่มีถ่อมตัวเลยเนอะ”ผมล้อถึงแม้สิ่งที่อีกฝ่ายพูดจะเป็นความจริงก็ตาม

กลาเช่ เฟวรีเย่คือชื่อของนักศึกษาที่ทำคะแนนสอบได้สูงสุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ติดต่อกันตั้งแต่เข้ามาเรียนในสาขาของการบริหาร นั่นเป็นสิ่งที่เจฟบอกมาและก็เชื่อด้วยว่ามันเป็นความจริง...แค่เห็นความสามารถของเชสในหลายๆด้านก็พอรู้ว่าข้อสอบพวกนี้มันไม่ได้ยากเกินความสามารถเขาเลยสักนิด     
                                                                                                                                             
“จำเป็น?”

“คราวนี้อย่าคิดว่าจะได้ที่หนึ่งง่ายๆนะ”ผมบอกออกไปก่อนจะหยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้ออกมา

“ทำไม...นายจะแข่งกับฉัน?”หนังสือที่ถืออยู่ในมือลดลงก่อนที่อีกฝ่ายจะหันมามอง

แม้ผมจะไม่ได้เรียนคณะและสาขาเดียวกับเชสแต่ถ้าได้ที่หนึ่งก็ถือว่าชนะไม่ก็เสมอล่ะ

“ใช่...และจะไม่แพ้ด้วย”ขอเอาชื่อแม่เป็นเดิมพัน

ไม่ใช่ล่ะ!

“หึ...เอาสิ”เชสตอบรับคำท้าพร้อมยกยิ้มขึ้นเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุก

ใบหน้าแข็งๆในวันแรกที่เจอกันหายไปจนแทบจำไม่ได้เหลือเพียงใบหน้าจริงๆที่แสดงออกมาถึงจะแสดงออกแค่ตอนอยู่กับผมเท่านั้นก็ตามที...เห็นแล้วก็รู้สึกดี ใบหน้าแข็งๆนั่นไม่เหมาะกับคนตรงหน้าเลยสักนิด

มนุษย์ทุกคนล้วนมีเรื่องที่ไม่สบายใจกันทั้งนั้นแต่สำหรับกลาเช่หรือเชสดูจะมากกว่าปกติในความคิดของผม...ไม่ว่าจะด้วยครอบครัว การดูแลหรือแรงกดดัน เขาเจอมันมากกว่าคนอื่น

ถ้าการที่ผมสามารถทำให้อีกฝ่ายผ่อนคลายได้มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

แต่พอคิดว่าหลังจบการสอบก็จะไม่ได้เห็นใบหน้านิ่งๆและน้ำเสียงกวนๆนี่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า

ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์หันไปมองคนที่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือในมืออย่างไม่วางตาก่อนจะตัดสินใจลืมเรื่องในอนาคตให้หมดแล้วล้มตัวนอนลงบนตักของเจ้าของห้องแทน

“อานโน่?”เสียงเข้มถึงกับสะดุ้งที่รู้ว่าผมทำอะไร

“ขอยืมแทนหมอนหน่อย”ผมบอกพลางกางหนังสือแล้วยกขึ้นอ่านทั้งๆแบบนั้น

“ก็ไปนอนหมอนสิ”

“อยากนอนแบบนี้มากกว่า”

“ก็ตามใจ”คำอนุญาตเรียกรอยยิ้มของผมออกมาแต่อีกฝ่ายคงไม่เห็นหรอกเพราะมีหนังสือปิดอยู่

เชสอ่อนโยนมาก...แม้แต่คำพูดกวนๆนั่นผมก็ยังสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่แผ่ออกมา

คงไม่ใครที่รู้ถึงความอ่อนโยนของเขานอกจากผม

น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกดีที่เป็นคนเดียวที่ได้เห็น

หนังสือที่อยู่ในมือถูกปิดและวางลงข้างตัวก่อนจะพลิกตัวเข้าหาหน้าท้องตรงหน้าแล้วหลับตาลงช้าๆ...กลิ่นหอมอ่อนๆค่อยๆชัดเจนขึ้นและชัดเจนมากกว่าปกติเพราะได้กลิ่นในระยะใกล้

หอมจัง

ทำไมถึงได้ชอบกลิ่นนี้กันนะ

เคยลองถามเรื่องนี้กับเจิ้นหยวนหลง ซูนีแต่คำตอบคือกลิ่นของเชสไม่มีอะไรแปลกเป็นกลิ่นของมนุษย์ปกติ

สำหรับพวกไดโนเสาร์อาจเป็นแค่กลิ่นของมนุษย์ปกแต่สำหรับผมมันไม่ใช่

ทำไมกันนะ?

พวกเราปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนถึงช่วงเย็นอาหารง่ายๆถูกสั่งขึ้นมาเพราะไม่อยากออกไปเจอความหนาวเย็นจากหิมะที่เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆด้านนอก พอจัดการมื้อเย็นเสร็จผมก็เดินเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะถอดคอนแทคเลนส์ออกทำให้ดวงตาสีแดงอ่อนปรากฏขึ้น

การใส่คอนแทคเลนส์นานๆก็รู้สึกระคายเคืองพอสมควรโดยเฉพาะการที่มีเชสนอนอยู่ข้างๆทำให้แม้แต่กลางคืนก็ต้องใส่เพราะอีกฝ่ายตื่นเช้ามากเวลาเข้าห้องน้ำจึงเป็นเวลาเดียวที่ผมสามารถถอดคอนแทคเลนส์ออกได้

ระหว่างพักผมก็เดินไปยังหน้าต่างห้องน้ำบานเล็กที่มองเห็นวิวข้างนอกได้...บรรยากาศตอนหิมะตกแตกต่างกับปกติอย่างสิ้นเชิงทุกอย่างที่มองเห็นได้ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนดูสะอาดตาไปหมด ภาพข้างนอกเรียกสติให้หลุดลอยไป

ก๊อก ก๊อก

“อานโน่ฉันจะเข้าห้องน้ำ”เสียงเคาะประตูและเสียงของเชสทำให้ผมที่กำลังเหม่อสะดุ้งแล้ววิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำออกอย่างรวดเร็วโดยลืมไปเลยว่าตอนนี้สภาพตัวเองเป็นยังไง

“โทษทีพอดี...เฮ้ย!...อย่ามองนะ!”ผมรีบยกมือขึ้นปิดตาทั้งสองข้างของตัวเองทันทีที่นึกได้ว่าสภาพตัวเองเป็นยังไงแต่ดูเหมือนจะสายไปแล้วเพราะมือแกร่งของคนด้านหน้าจับแขนทั้งสองข้างให้เปิดออกนั่นทำให้ผมต้องรีบหลับตาลง

ทำไมถึงลืมได้นะว่าถอดคอนแทคเลนส์เอาไว้น่ะ!

“ลืมตาอานโน่”เสียงของเชสดังขึ้นก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ ด้วยกำลังที่มีมันมากพอที่จะขัดขืนแต่ในใจกลับไม่อยากทำแบบนั้น

“...เชส”

“อานโน่”

“ฉัน...”ไม่อยากให้เห็นดวงตาสีแปลกแบบนี้

ถ้าเห็นก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดไปว่ายังไง

สีแดงที่มนุษย์ปกติไม่มีวันได้ครอบครองกลับมาอยู่ที่ตัวผม

“ไม่เป็นไร...ให้ฉันดูหน่อย”น้ำเสียงที่อ่อนลงเรียกให้เปลือกตาค่อยๆเปิดออกก่อนจะเห็นภาพของคนตรงหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้ราวกับจะจดจำสีของตานี่ไว้อย่างชัดเจน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่นสะท้อนภาพผมที่กำลังเม้มปากตัวเองอย่างทำตัวไม่ถูก
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อไปต้องทำยังไง

“...พอแล้ว”ผมสะบัดหน้าหนีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองมันนานเกินไปแล้ว

“ขอถามได้ไหม?”หลังจากเงียบไปสักพักเสียงทุ้มก็ถามต่อโดยที่ข้อมือทั้งสองข้างของผมยังถูกจับไว้แน่น

“...”ผมเลือกที่จะเงียบแล้วให้คนด้านหน้าตีความเอาเอง

“สีตานี่...ของจริงสินะ”

“...อืม”ผมพยักหน้าตามความจริง

จะให้โกหกเชสก็ได้แต่ผมไม่อยากทำถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยเล่นสนุกๆก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้...

ผมไม่อยากโกหก...

แต่ก็ไม่อาจบอกความจริงทุกอย่างได้เหมือนกัน

“ว่าแล้วเชียว”

“...หมายความว่ายังไง?”ผมถึงกับหันไปถามอย่างไม่เข้าใจในคำพูดที่อีกฝ่ายพึมพำ

“หึ...ลองเดาสิ”รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นก่อนมือที่จับข้อมือผมไว้จะค่อยๆคลายออก

“เชส!”ตอนนี้ใช่เวลาเล่นไหมเนี่ย?

“มันไม่เข้า”

“อะไรไม่เข้า?”

“ตาสีน้ำตาลมันไม่เข้ากับนายเลย”

“...อะไร”ที่ทำให้คิดแบบนั้น

เจอผู้คนมาก็มากแต่ไม่เคยมีใครที่พูดแบบนี้เลย

“และบางทีก็...สีผมนายด้วย”

“...”ประโยคต่อมาทำให้ผมต้องยืนนิ่งเพราะไม่อาจบอกความจริงไปได้ ในตอนนี้แค่สีตาที่ถูกเปิดเผยก็มากพอแล้วถ้าสีผมยังถูกเปิดเผยอีกคง...

“บอกได้ไหมว่าทำไมต้องปิดบังด้วย?”

“...”ถ้าจะไม่ให้โกหกก็ต้องบอกแต่ถ้าบอกก็คงบอกได้ไม่หมด...

ถ้าแบบนั้นมันก็ไม่ต่างกับการโกหกน่ะสิ

“ไม่ต้องบอกหมดก็ได้”เหมือนเชสรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่เลยพูดขึ้นมา ดวงตาสีแดงอ่อนที่ปราศจากคอนแทคเลนส์ชองผมเงยขึ้นไปสบกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มด้วยความรู้สึกขอบคุณก่อนจะบอกสิ่งที่พอบอกได้ออกไป

“เพราะว่ามีสีที่แปลกแบบนี้อาจทำให้เกิดเรื่องได้แม่ฉันเลยบอกให้ใส่คอนแทคเลนส์ไว้เพื่อปิดไม่ให้คนอื่นรู้...ฉันไม่ได้อยากปิดบังนายแต่ว่าสีตาแปลกๆแบบนี้น่ะ...”

“สวยจะตาย”เชสพูดแทรกขึ้นก่อนจะยกมือสัมผัสที่แก้มผมแล้วไล่นิ้วไปตามเปลือกตาด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
รอยยิ้มที่อ่อนโยนมากจนตอนปกติเทียบไม่ติด

“...โกหก”ผมบอกเสียงสั่นโดยที่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดน่ะ...

มันคือความจริง

“หึ...แล้วแต่จะคิด...หลีกได้แล้วฉันจะใช้ห้องน้ำ”เชสว่าก่อนจะเดินเบียดผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตู ทิ้งให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อซ่อนรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏขึ้น

ไม่ใช่แค่ไม่บอกว่าสีตาพิลึกแต่ยังชมว่าสวย

เขารู้ว่าผมบอกความจริงไม่หมดแต่ก็ไม่ถามซักไซ้อย่างที่ควรเป็น

เหมือนเขารู้ว่าสิ่งที่จะถามทำให้ผมไม่สบายใจ

เจ้าชายน้ำแข็งอ่อนโยนขนาดนี้จะไม่ให้ผมยิ้มออกมาได้ยังไงกัน

“...ขอบคุณเชส”

การเจอกับเขาทำให้ผมรู้ถึงคำพูดที่พ่อบอกก่อนจะมานี่...

‘บางทีลูกอาจไม่ต้องพยายามที่จะเข้าใจเพราะมนุษย์อาจเป็นฝ่ายที่พยายามจะเข้าใจลูกเองก็ได้’

เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ...พึ่งเคยเจอมนุษย์ที่เข้าใจผมก็ครั้งนี้แหละ

ช่วงเวลาของการสอบได้เริ่มขึ้นและผ่านไปท่ามกลางเสียงโหยหวนของเหล่านักศึกษาที่ทำข้อสอบไม่ได้...วันนี้เป็นวันก่อนวันสอบวันสุดท้ายมีนักศึกษาส่วนมากที่ทุ่มสุดชีวิตเพื่อจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุดเพื่อเข้าสอบในวันสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง

ห้องอื่นอาจอยู่ติวหรืออ่านหนังสือโต้รุ่งแต่สำหรับห้องหมายเลข610นั้นไม่ใช่เลย จริงอยู่ที่เจ้าของห้องมักอ่านหนังสืออยู่เสมอแต่หนังสือที่อยู่ในมือนั่นไม่ใช่วิชาที่ใช้สอบแน่นอน

คนที่เรียนบริหารระดับสูงคงจะมีออกเรื่องสายพันธุ์ของไดโนเสาร์หรอก

“เชส...ช่วงนี้นายอ่านเกี่ยวกับไดโนเสาร์บ่อยนะ”ผมหันไปถามขณะที่นอนหนุนตักเจ้าของห้องอยู่...ตั้งแต่วันที่สีตาถูกเปิดเผยผมก็ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์เวลาอยู่กับเชสอีกทำให้รู้สึกสบายตาขึ้นมากเหลือแค่วิกผมนี่แหละที่ยังไงก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้

สีของตาอาจบอกได้ว่าเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่สีผมที่มีสีน้ำเงินแซมน่ะดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์...แล้วก็อย่างที่บอกไปว่าไม่อยากโกหกเชสถ้าเรื่องสีผมถูกเปิดเรื่องที่ตัวผมกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ได้ก็คงจะแตกไปพร้อมๆกันแน่

“แค่หาความรู้ใหม่บ้าง”

“โกหก”ผมสวนกลับก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนที่ลดหนังสือสารนุกรมไดโนเสาร์แล้วมองมาเซงๆ

“แล้ว?”

“บอกความจริงมาเลย”

“หึ...ไม่”อีกฝ่ายตอบฉะฉานแล้วยกหนังสืออ่านต่อ

“เชส”

 “...”

“เชส”

“รู้แล้วว่าชื่ออะไรไม่ต้องเรียกบ่อยน่า”

“ฮะฮะ...”ผมหัวเราะออกมาก่อนจะซุกตัวเข้าที่หน้าท้องของคนตรงหน้า สัมผัสอุ่นๆและกลิ่นหอมๆทำให้ผมผ่อนคลายก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

เหลืออีกสองวันก่อนจะสอบเสร็จ

“เป็นอะไรไป?”เสียงเข้มที่ถามเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่มองมาพอดี

“เปล่านี่”

“โกหก”

“ย้อนเหรอ?”ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องอานโน่”

“ทีนายยังไม่บอกเลย”ผมบ่นอุบอิบ

“ถ้าฉันบอกแล้วนายจะบอกด้วยไหมล่ะ?”อีกฝ่ายถาม

“มะ...”

“ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เจอกับไดโนเสาร์ฉันก็รู้สึกสนใจพวกมันขึ้นมาทั้งสายพันธุ์...การดำเนินชีวิตและการดำรงอยู่นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับไดโนเสาร์”เชสพูดทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบผมสักนิด

“ขี้โกงฉันยังไม่ทันตกลงเลย”

“ยังไงฉันก็บอกไปแล้ว...ว่าเรื่องนายมาซะที”

ผมได้แต่ถอนหายใจพลางยันตัวขึ้นมานั่งขัดสมาดจ้องหน้าเจ้าของห้องอย่างเคืองๆ...คนอะไรทำไมชอบมัดมือชกกันแบบนี้เนี่ยทั้งที่คิดว่าจะบอกวันอื่นแท้ๆเชียว

“ก็ได้...”

“อย่าคิดโกหกเชียว”

“รู้แล้วน่า!”ผมสวนกลับทันควัน ใครจะกล้าโกหกคนที่ดูออกกันเล่า

“ก็ดี”อีกฝ่ายว่าพร้อมวางหนังสือเล่มหนาลงแล้วหันหน้ามาเตรียมพร้อมฟัง

“...หอฉันซ่อมเสร็จแล้ว”

“...”คำอธิบายสั้นๆทำให้บรรยากาศทั้งห้องเปลี่ยนไปแทบจะทันที คิ้วสีน้ำตาลกระตุกอย่างเร็วก่อนใบหน้าคมนั้นจะหม่นลงอย่างบอกไม่ถูก

ความเงียบเป็นเรื่องปกติของเชสแต่ครั้งนี้มันแปลกไปถึงไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็ตาม

“เชส”

“...เมื่อไหร่?”

“หื้อ?”

“จะไปเมื่อไหร่?”คำถามเดิมถามซ้ำอีกครั้ง

“...ก็คงสอบเสร็จ”

“...สองวันสินะ”

“อืม...”

บรรยากาศเงียบๆเข้าปกคลุมห้องอย่างรวดเร็วเชสที่นั่งพิงหัวเตียงก็ไม่ได้พูดหรือหยิบหนังสือมาเปิดอ่านเหมือนก่อนหน้านี้ ท่าทางของเขาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

ผมเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน

ความรู้สึกเหมือนไม่อยากไปนี่มันอะไรกัน

“...ไม่อยากไปเลย...”สิ่งที่คิดอยู่ดังขึ้นเบาๆก่อนที่ผมจะล้มตัวลงนอนโดยคว่ำหน้าเข้ากับหมอนพร้อมพูดเสียงอู้อี้ต่อไปทั้งๆแบบนั้น...

“...อยากอยู่ห้องนี้...อยากนอนเตียงนี้...อยากคุยกับนาย...อยากหนุนตักนาย...อยาก...อยู่กับนายแบบนี้”คำพูดเห็นแก่ตัวมากมายถูกถ่ายถอดออกไปพร้อมกับใบหน้าที่ซุกหมอนใบใหญ่มากขึ้น

“งั้นก็อยู่สิ”ฝ่ามืออุ่นๆวางลงบนหัวผมก่อนจะบอกเสียงเบา

“...อย่าพูดเหมือนง่ายสิ”ผมเงยหน้าขึ้นไปไปเหล่มองอีกฝ่ายที่ชอบพูดเหมือนทุกเรื่องง่ายไปหมด

“แล้วยากตรงไหน?”

“ตรงที่ฉันก็มีรูมเมทที่รออยู่ถ้าไม่กลับไปต้องมาตามแน่”ผมอธิบายไปเพราะรู้นิสัยเจฟดี...การที่มีผมมาเป็นรูมเมททำให้เจฟมีเพื่อนคุยถึงจะเรียกว่าเพื่อนคุยแต่ผมก็ทำเพียงนั่งฟังเท่านั้น

“ก็บอกไปสิว่าไม่อยู่ด้วยแล้ว”

“เชส...มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก...อยู่ๆจะให้ไปบอกแบบนั้นเดี๋ยวเจฟก็ได้คิดว่าถูกเกลียดพอดี”

“แล้วไม่ใช่?”

“ก็ไม่ใช่นะสิ...นายหมายความว่ายังไงน่ะ?”ผมถามอีกฝ่ายที่ก้มลงมามองอย่างไม่เข้าใจ

“การที่อยากอยู่นี่ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่นี่นั่นรึไง?”

“เปล่า...ก็อยากอยู่...”

“งั้นทำไม?”ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมาอย่างคาดคั้นคำตอบทำให้ผมได้แต่บอกความรู้สึกจริงๆออกไป

“...อยากอยู่กับเชสมากกว่า”

“หึ...”

“อะไรเล่า”

“...เหมือนกัน”อีกฝ่ายมองมาด้วยดวงตาที่สื่อความหมายบางอย่างพร้อมรอยยิ้ม

“อะไรเหมือน?”

“ไม่รู้สิ”

“เชส!”

“เลิกเรียกแล้วนอนไป”เจ้าของชื่อพูดพร้อมกดหัวผมลงหมอนใบใหญ่

“อื้อๆ...แฮ่ก...นายนี่มัน!”

“มัน?”

“เผือกมั้ง!!”ผมตะโกนใส่ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้เชสแล้วหลับตาลงโดยมีเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากด้านหลัง



(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)

::เชส::


ฤดูการสอบกลางภาคได้ผ่านพ้นไปพร้อมๆห้องกว้างหมายเลข610ที่กลับมาเงียบเหงาอีกครั้งหนึ่ง เส้นผมสีน้ำตาลของผมถูกเสยขึ้นไปก่อนจะพลิกตัวไปมาอยู่กลางเตียงมานานกว่าชั่วโมงโดยไม่มีการลุกไปไหนเลย

ในหัวตอนนี้มีเพียงแค่ประโยคที่รูมเมทคนแรกและคนเดียวพูดก่อนไปเท่านั้น...

‘ฉันรู้แล้วว่าจะทำยังไงดี...ไว้อีกสักพักฉันจะมานอนห้องนายนะแบบว่า...สลับกันนอนสองที่ไง!’

พูดไว้แบบนั้นแต่นี่ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะกลับมานอนเลย...ตู้เสื้อผ้าก็ยังมีเสื้อผ้าของอานโน่อยู่เต็มเพราะผมเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องเอาไปหมด

ห้องที่อยู่คนเดียวมันเงียบได้ขนาดนี้เลยเหรอ?

เมื่อก่อนยังอยู่ได้และรู้สึกสบายมากกว่ามีคนอื่นมานอนด้วยแต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่...เพียงเดือนเดียวที่บนเตียงมีคนอื่นนอกจากตัวเองอยู่มันทำให้ชินถึงขนาดที่นอนคนเดียวไม่ได้เลยงั้นเหรอ?

คำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามาแต่คำตอบนั้นดูจะหาไม่ได้เลยสักอย่าง

ไม่รู้ว่าที่ห้องนั้นอานโน่ต้องใส่คอนแทคเลนส์ไว้ตลอดไหม

พอคิดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกดวงตาคู่สวยสีแดงอ่อนนั่น ตอนแรกที่เห็นก็ตกใจอยู่เพียงแต่พอความตกใจหมดไปสิ่งที่รู้สึกได้คือดวงตาสีแดงอ่อนนั่นเหมาะกับอีกฝ่ายมากจริงๆ

แม้ว่าจะเป็นสีที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและคิดว่าไม่น่าจะมีใครในโลกที่มีตาสีนี้ด้วย...เหตุผลที่อีกฝ่ายบอกเป็นความจริงที่ยังบอกไม่หมด เหมือนมีบางอย่างที่ปิดบังไว้และต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากแน่

ทั้งที่ผมควรจะปล่อยไปแล้วทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เห็นเหมือนอย่างเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกอยากรู้และต้องการที่จะรู้ถึงความจริงพวกนั้น...ยิ่งความจริงนั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงผมที่รู้เท่านั้นยิ่งทวีความอยากรู้ให้มากขึ้นไปอีก

“เฮ่อ...”

เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นก่อนที่ผมจะพลิกตัวไปปิดไฟแล้วหลับตาลงท่ามกลางความมืดมิด ร่างกายขยับเข้าไปยังฝากหนึ่งของเตียงตามความเคยชินก่อนจะปล่อยสติให้เข้าสู่ห้วงนิทราโดยหวังว่าพอตื่นมาข้างเตียงนี้จะไม่ได้นอนอยู่เพียงลำพัง

แสงแรกของวันส่องสว่างเข้ามาภายในห้อง610ทำให้เจ้าของห้องอย่างผมพลิกตัวไปอีกด้านเพื่อหวังจะหนีแสงอาทิตย์ยามเช้าแต่ทันทีที่พลิกตัวมือก็ไปโดนอะไรบางอย่างที่อุ่นๆทำให้ดวงตาสีน้ำเงินเข้มลืมขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเส้นผมสีน้ำตาลกับใบหน้าขาวนวลนอนขดตัวอยู่ข้างๆ

“...อานโน่”ผมเรียกชื่อคนที่นอนหลับสนิทอย่างไม่เชื่อสายตา

นี่คงไม่ใช่ความฝันสินะ

ผมเอื้อมมือไปลูบแก้มขาวๆที่เย็นเล็กน้อยก่อนจะได้ยินเสียงครางพร้อมกับปัดมือผมออกแล้วพลิกตัวไปนอนต่อ ท่าทางแบบนั้นเรียกรอยยิ้มที่ไม่ได้มีมานานกว่าอาทิตย์ได้อย่างง่ายดาย

“...งืมม...เชส...”เสียงละเมอเรียกชื่อเรียกทำฝห้ผมขยับเข้าไปใกล้คนบนเตียงด้วยความอยากรู้ว่าในความฝันนั่นผมมีบทบาทอะไร

“ฝันอะไรน่ะอานโน่?”

“...อื้มม~...โกหก!”อยู่ๆเสียงนุ่มก็ตะโกนขึ้นท่ามกลางความเงียบก่อนทั้งห้องจะเงียบลงอย่างรวดเร็ว

“หึ...ฮะฮะฮะ...”เป็นอีกครั้งที่ผมหลุดขำออกมา

หมอนี่มันน่ารักชะมัด

กึก!

ความคิดที่ว่าทำให้ผมเกร็งตัวพร้อมขมวดคิ้วคิดแน่นโดยที่ในหัวกำลังตีกันด้วยคำถามอยู่...

นี่ผมคิดว่าผู้ชายน่ารัก?

ผู้ชายเนี่ยนะ?!

แถมยังเป็นอานโน่?!

“...อื้อ...เชส?...ตื่นเช้าจังเลยนะ”คนที่หลับสนิทปรือดวงตาสีแดงอ่อนขึ้นก่อนจะส่งยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาทั้งอาทิตย์มาให้

“...ใครจะตื่นสายเหมือนนายล่ะ?”ผมย้อนก่อนจะยิ้มออกมาไม่ต่างกัน

“ใครสายกัน...รู้ไหมว่าฉันมานี่กี่โมงน่ะ?”

“ไม่รู้”จะว่าไปก็สงสัยอยู่เหมือนกัน

“ตี2...ตั้งตี2เลยนะ”อานโน่ว่าพร้อมคิ้วสองข้างที่ขมวดเข้าหากันแน่น

“มาทำไมดึกนัก?”

“ก็เจฟน่ะสิ...หมอนั่นเล่นยกเพื่อนขโยงเพื่อนมาค้างตั้งแต่กลับหอพอฉันบอกว่าจะมานอนห้องนายก็ถูกกักตัวไว้ซะงั้นโชคดีเมื่อคืนหนีมาได้”

“แปลว่าถ้าอยากมานอนนี่?”ผมถามโดยที่พอคาดได้ว่าคำตอบที่ได้จะเป็นแบบไหน

“แน่สิ...บอกแล้วไงว่าชอบกลิ่นนาย”น้ำเสียงและรอยยิ้มนั่นทำให้ในหัวผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว...

‘อย่าไปพูดและยิ้มแบบนี้กับใครเชียว’

.....................................................................................

สวัสดีค่ะ

วันนี้มาอัพเร็ว ฉลองที่เพจมียอดติดตามทะลุ1000คน

คือทั้งปลาบปลื้ม ภูมิใจ ดีใจและตกใจมาก แถมยังยิ้มออกมาไม่หยุดเลย

ความจริงก็เกิน1000ตั้งแต่เมื่อวาน(มีคนที่1000แคปจอมาให้ดูด้วย...ขอบคุณนะจะเก็บไว้เป็นที่ละลึก)

ต้องขอบคุณจริงๆนะคะที่ติดตามกันมากมายขนาดนี้...ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอบคุณเลยค่ะ555

เข้าเรื่องกันดีกว่า...

ตอนนี้สีตาถูกเปิดเผยแล้ววว

อีกไม่นานเชสคงได้รู้ความจริง(แต่ยังแต่งไม่ถึง ฮือออ)

แต่งเรื่องนี้แล้วตื่นเต้นมากราวกับเมะชนเมะ

ไม่มีใครยอมใครจริงๆ

หรือว่าแต่งไปแบบนี้แล้วไม่มีฉาก...ดีนะ หึหึ

เรื่องราวในตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร

คอยติดตามด้วยนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ

ปล.ถึงจะมาอัพวันจันทร์แล้วแต่ก็ยังเจอกันในวันพฤหัสเหมือนเดิมไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรอถึงอาทิตย์หน้านะคะ

จะรีบแต่งให้จบโดยเร็วที่สุดเลยค่ะ อิอิ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคะ

บ๊ายบาย :hao5:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หม่ามี้จะมาหาลูกรักที่ม.บ้างไหมคะ?

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
อยากไปดมกลิ่นเชสมั่งเลย  อิจฉาอานโน่ซะแล้ว  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ PingPong_Hunlay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักมากเลย :-[ อยากให้อานโน่บอกเชสให้หมดเลยว่าเป็นอะไร จะได้ไม่มีเรื่องปิดบังกัน :o8:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ชอบอานโน่ น่ารักดี แบ๊วๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ paraprove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากจับอานโน่มาฟัดแรงๆ 

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :o8: :o8: โอย อานโน่ น่ารักเกินไป อร๊ายยยยยยยยย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ชบเรื่องนี้มากน่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อัพเร็ว  ดีใจจนน้ำตาไหล :o8:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารักดี ดูท่าเชสใกล้จะทันความรู้สึกตัวเองที่มีต่ออานโน่แล้วนะ
ว่าแต่อานโน่จะได้ย้ายมาอยู่กับเชสไหมนะ หรือว่าจะไปๆมาๆอยู่อย่างนี้ (จริงๆเราชอบเจฟอยู่นะ แบบว่าเป็นคนตลกดี ถ้าหายไปคงขาดสีสัน)

ปล. เทอม เขียนอย่างนี้นะจ๊ะ แก้ไขด้วยนะ ไม่ใช่ เทมอ
ปล2. เห็นด้วยกับเม้นท์บน... พ่อกับแม่อานโน่จะมาเยี่ยมเยือนลูกชายที่มหาวิทยาลัยบ้างไหมนะ :D

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ถ้าคนอื่นรู้ว่าอานโน่เป็นลูกของเซโครนะ มหาลัยถล่ม  :katai2-1:

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อูยยย เห็นสีตาแล้ว เหือแค่วิกสินะ
อยากรู้ว่าถ้าเชสรู้ว่าอานโน่ไม่ใช่มนุษย์จะเป็นยังไง
อานโน่ พาเชสไปอยู่ที่เกาะด้วยนะ
ปล. คิดถึงเซโครจางงง

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ตอนแรกนึกว่าจะได้เจอคุณพ่อคุณแม่ตอนมารับไดโนเสาร์กับลูกๆเมื่อตอนที่แล้วซะอีกค่ะ มั่นใจ 100% ว่าถ้ายูทาห์ได้มาเจอ(ว่าที่)ลูกเขย
รับรองแค่มองตาก็รู้ทันอยู่ละ เผลอๆรู้ก่อนเจ้าตัวไปอีก 55555555 เชสรีบรู้ใจตัวเองเร็ว~ แบบนี้มันไม่ปกติแล้วนะบอกเลยย
ชอบเวลาเค้าอยู่ด้วยกันมากเลยค่ะ น่ารักมากกก เป็นบรรยากาศสบายๆแบบรู้กันแค่เราสุดๆ ชอบเวลาหยอกกัน เวลาคุยกัน
มุ้งมิ้งมากกก บรรยากาศหวานๆตลอดเลย อานโน่น่าจะรู้ใจตัวเองแล้วยังคะเนี่ย ? ชอบตอนน้องบอกความในใจออกมาหมดเลยค่ะ
แต่แมนมากจริง มี เฮ้ย! ใส่ด้วยอ่ะ 55555555 อ่านแล้วขำเลย เชสปล่อยตัวตามสบายสุดๆเวลาอยู่กับน้อง รักกกกก
ไม่รู้ตอนนี้จะเริ่มจับทางได้รึยังว่าน้องไม่ใช่คน (?) - . - .. รอลุ้นต่อค่าาา
เป็นกำลังใจให้เหมือนเช่นเคยเลยนะคะ!  :L2:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อานโน่ขี้อ้อนจังง น่ารักกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
อ้อนขนาดนี้ พี่เชสจะไปไหนรอดดดด :o8:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
อ่าว ตอนแรกเรานึกว่าเชสรับ อานโน่รุก55555
แต่ว่าอานโน่รับแล้วดีย์ ชอบเชสด้วย รู้สึกเป็นผช.อบอุ่น
ชอบตอนที่อานโน่นอนพิงเชส มันดูกุ๊กกิ๊กหัวใจดีจัง555
รออ่านต่อนะคะ อยากรู้ว่าเชวจะรู้ความจริงตอนไหน

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
อานโน่น่ารักกกกกกมากกกกก
ไม่แปลกใจเลยที่เชสจะรัก

ออฟไลน์ Ra_rena~*

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ้อนได้น่ารักจริงๆ :mew3:

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เริ่มมีอาการหวงแล้วสินะเชส อิอิ :hao3:


ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด