(ต่อค่ะ)
วันเวลาได้ผ่านไปหลายอาทิตย์หลังจากที่ผมได้ขอเวลาสักพักในการเตรียมใจจนมาถึงกิจกรรมอีกอย่างที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเป็นประจำในทุกปีแต่ด้วยความที่พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกทำให้ผมที่กำลังจัดการกับการบ้านวิชาภาอังกฤษเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปถามเพื่อนร่วมห้องที่ยกขโยงเพื่อนหออื่นมานั่งอยู่จนแทบไม่มีที่เดิน
“ทัศนศึกษา?”
“ช่ายยย...อะไรนี่นายไม่เคยไปทัศนศึกษาเหรออานโน่?”เจฟที่นอนครองเตียงอยู่เด้งตัวขึ้นมาถาม
“ก็...นิดหน่อย”
“นิดหน่อยคือ?...เอาเหอะ...ทัศนศึกษาที่ว่าก็เหมือนการไปเข้าค่ายแหละมีทั้งให้ทำกิจกรรม...เดินป่า...ทำอาหาร...กางเต้นท์และยังมีช่วงโมงว่าให้ไปเล่นน้ำด้วย”เจฟอธิบายด้วยสีหน้าเริงร่า
“ดูน่าสนุกนะ”ผมบอก
“ยิ่งกว่าสนุกอีกเนอะเฟต”
“ถูกเจฟ...แค่คำว่าสนุกคงยังไม่พอในทุกๆปีจะไปเข้าค่ายคนละที่กันทำให้ทุกๆครั้งที่ไปมีความสนุกและตื่นเต้นอยู่เสมอรวมถึงครั้งนี้ที่ที่พวกเราปี4จะไปกันน่ะเป็นสถานที่ที่สุดยอดมากๆ...ไม่คิดเลยว่าเราจะได้ไปที่นั่นกันจริงๆ”เฟตพูดยาวเหยีดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มบ่งบอกว่าเขารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
“อ้อ...ได้ยินมาเหมือนกันแต่นั่นไม่ใช่ข่าวลือเหรอ?”หนุ่มแว่นเพียงหนึ่งเดียวดันแว่นขึ้นก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่นะๆ...ที่คลาสฉันเมื่อเช้ามีประกาศแล้วว่าเป็นที่นั่นจริงๆเนอะโฟ”อิลล์ที่นั่งอยู่บนโซฟาหันไปถามเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ใช่ๆได้ยินมาแบบนั้นจริงๆ”
“พูดอะไรกันน่ะ?”ผมที่ทนความเงียบไม่ไหวเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็สถานที่ทัศนศึกษาของพวกเราปี4ก็คือที่อุทยามงตานย์ ฟอเคร่ไงล่ะ”โฟหันมาบอกด้วยรอยยิ้ม
“อุทยามงตานย์ ฟอเคร่?”ผมถึงกลับขมวดคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน ถึงจะเริ่มชินกับการใช้ชีวิตที่นี่แต่ถ้าถามเรื่องนอกมหาวิทยาลัยก็บอกได้เลยว่าไม่รู้
“ไม่รู้จักเหรอ?...อุทยานที่ได้ชื่อว่ามีบรรยากาศอันงดงามของธรรมชาติทั้งป่า ภูเขาและทะเลสาบ...ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากมายจนแทบไม่มีวันว่างเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใครๆต่างก็อยากไป ปกติทางมหาวิทยาลัยจะพาไปพวกสวนสัตว์ โรงงานขนาดใหญ่หรือพวกน้ำตกไม่เคยมีพาไปสถานที่ชื่อดังแบบนี้มาก่อน”เฟตอธิบายให้ฟัง
“อ้อ...แปลว่าถือเป็นโชคดีของพวกเราสินะ”รอยยิ้มปรากฏขึ้นทันทีที่รู้ข้อมูลของอุทยานมากขึ้นแค่ฟังก็ดูน่าสนุกแล้ว
การผจญภัยผมล่ะชอบจริงๆ
“ใช่เลย...เตรียมตัวไว้ดีกว่านะเพราะมีเวลาอีกแค่3วันเท่านั้น”เฟตบอกต่อ
“3วัน...โอเคจะเตรียมเก็บของ”ผมพยักน้าตอบก่อนจะหันไปทำการบ้านที่เหลือต่อจนเสร็จก็ย้ายมานอนบนเตียงพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ส่งไลน์ไปหาเชสสักพักอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา พวกเรามักจะไลน์หากันช่วงที่ผมนอนนี่เสมอ
เมื่อวานผมยังนอนห้องเชสอยู่เลยถ้ารู้ว่าจะมีคนมาเต็มห้องแบบนี้นอนต่ออีกสักคืนก็ดีหรอก
เนื้อหาของการพูดคุยมีทั้งมื้อเย็นที่กินไปจนถึงเรื่องของการทัศนศึกษาที่กำลังจะถึงเพราะถึงจะได้ไปที่เดียวกันแต่ด้วยคณะและสาขาที่ไม่เหมือนกันทำให้ต้องแยกกันโดยที่ไม่รู้ว่าทางอุทยานจะจัดที่พักให้ยังไง
ก่อนจะจบบทสนทนาในหัวก็นึกเรื่องที่ต้องบอกความจริงกับเชสขึ้นมาได้ผมเลยพิมพ์ข้อความสุดท้ายไปก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์เหมือนทุกครั้ง
‘กลับมาจากค่ายฉันจะบอกทุกอย่าง’
ไม่กี่อึดใจวันที่ต้องเดินทางก็มาถึงนักศึกษาทุกคนต่างตื่นเต้นกันมากกว่าปกติทำให้มีเสียงดังวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดินทาง การเดินทางไปอุทยามงตานย์ ฟอเคร่นั้นทางมหาวิทยาลัยมีรถส่วนตัวพาไปในตอน8โมงเช้ากว่าจะถึงก็ปาไปเกือบเที่ยง
ลูกครึ่งไดโนเสาร์อย่างผมเดินไปรวมกับนักศึกษานับร้อยที่เข้าแถวหน้ากระดานอยู่หน้าเวทีโดยที่สายตามองหาคนที่อยู่คณะเดียวกันก่อนจะกระชับเป้ใบแล้วเดินไปต่อแถวที่มีกลิ่นของมนุษย์ชายหญิงตรงหน้าตีกันจนวุ่นไปหมด
โชคดีที่ผมค่อนข้างชินเลยไม่รู้สึกแย่เหมือนเมื่อก่อน...จมูกมลขยับไปมาเล็กน้อยทันทีที่กลิ่นหนึ่งลอยเข้ามาใบหน้าขาวก็หันควับไปทางภูเขาอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดระแวง
กลิ่นของไดโนเสาร์
ทำไมถึงมีกลิ่นไดโนเสาร์ที่นี่?...หรือว่าที่นี่ปล่อยไดโนเสาร์ให้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ?
เรื่องพวกนี้ผมเคยได้ยินแม่เล่ามาอยู่เหมือนกันว่าในบางที่มีการปล่อยไดโนเสาร์ให้อยู่อย่างอิสระเหมือนบนเกาะแต่ส่วนมากจะเป็นไดโนเสาร์ที่ไม่ทำร้ายมนุษย์หรือไม่ก็มีเขตแดนกั้นอย่างชัดเจน
“สวัสดีนักศึกษาปี4ทุกคน ยินดีต้อนรับสู่อุทยามงตานย์ ฟอเคร่นะครับ...ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำกิจกรรมขอบอกกฎของที่นี่ไว้หน่อยนะครับ...”ชายวัยกลางคนรูปร่างบึกบึนในชุดเดินป่าเดินมาอยู่บนเวทีก่อนจะอธิบายถึงสิ่งที่ต้องรู้
“หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่นี่มีไดโนเสาร์อยู่ด้วย...”ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมานักศึกษาหลายร้อยชีวิตถึงกับร้องออกออกมาด้วยความกลัวก่อนที่จะส่งเสียงซุบซิบกันดังลั่น
“ใจเย็นๆก่อนครับ...ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่ก็เป็นสัตว์เลื้อยคลานมีปีกที่มีชีวิตอยู่ในยุคไดโนเสาร์เท่านั้นเอง...ชื่อของมันคืออัซห์ดาร์คิด...เป็นสัตว์เลื้อยคลานมีปีกขนาดใหญ่พวกมันอาศัยอยู่แทบภูเขาด้านหลังบริเวณใกล้ๆทะเลสาบขนาดกลาง...”
“ในวันนี้จะมีการพาไปเดินป่าที่นั่นถ้ามีใครได้เห็นจะได้ไม่ต้องตื่นตกใจแม้ว่าโอกาสที่ได้เจอจะน้อยมากก็ตาม...สิ่งที่อยากบอกอีกอย่างคือถึงแม้พวกมันจะไม่ดุร้ายมากแต่ไม่ใช่ว่าไม่ทำร้ายมนุษย์ดังนั้นอย่าเข้าใกล้หรือหลงเข้าไปบริเวณนั้นเป็นดีที่สุดเพราะอัซห์ดาร์คิดนั้นหวงอาณาเขตของตัวเองมาก...เอาล่ะ...วันนี้มีกิจกรรมเดียวคือพาเดินป่าฉันจะแบ่งให้ว่ากลุ่มไหนไปเวลาไหนบางกลุ่มอาจได้เดินป่าช่วงบ่ายหรือเย็นตามแต่ดวง หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการมาเที่ยวครับ”พูดจบเสียงของเหล่านักศึกษาก็ดังขึ้นด้วยความตื่นเต้นจนแทบไม่ได้ยินประโยคที่พูดเพราะเสียงเหล่านั้นตีกันไปหมด
คณะที่ผมอยู่ได้เดินป่าเป็นกลุ่มแรก...ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการเดินครั้งนี้มากเพราะอาจได้เจอกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ชื่อสายพันธุ์ที่ไม่คุ้นหูทำให้รู้ว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ปู่สร้างขึ้น...วิทยาการสมัยนี้มันก้าวล้ำจนมีหลายองค์กรที่สามารถเพาะพันธุ์สัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้วให้กลับมามีชีวิตได้ง่ายๆ
เส้นทางที่พวกเราใช้เดินเป็นเหมือนทางอ้อมที่ทั้งต้องปีนต้องไต่และกระโดดข้ามไปตามหินบริเวณแม่น้ำสายเล็กทำให้มีเสียงหัวเราะและเสียงบ่นดังขึ้นอยู่เสมอ กว่าจะเดินเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีใครที่ได้เจอกับอัซห์ดาร์คิดเลยสักคนแม้แต่ผมเองที่พอจะเดาได้ว่าอยู่แถวไหนก็ยังมองไม่เห็นตัว...
รู้สึกจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในกว่านี้อีกเยอะ
พวกสัตว์ส่วนมากไม่ค่อยอยากออกมายุ่งกับมนุษย์เพราะมนุษย์นั้นทั้งขี้ตื่นและขี้ตกใจแค่มีขนาดใหญ่กว่าก็กรีดร้อง แค่ขยับเข้าใกล้ก็ตัวสั่นวิ่งหนีทั้งที่เราไม่ได้คิดจะทำร้ายสักหน่อย
พอจบการเดินป่าในวันแรกก็มีการพาไปกินมื้อเย็นรวมทั้งแนะนำที่พักที่เป็นบ้านพักขนาดใหญ่ที่นอนได้ชั้นละเป็นร้อยแม้จะไม่มีเตียงนุ่มๆแต่ด้วยฟูกที่มีและระยะห่างของแต่ละคนที่เป็น0ทำให้ภายในห้องอุ่นขึ้นมาทันตาเห็น
“แย่แล้วๆ”เสียงตะโกนของชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องขนาดใหญ่ที่อ้าออก
“มีอะไร?”คนที่อยู่ใกล้ๆถามชายที่เหงื่อท่วมตัวและหอบแฮ่กอยู่ จากที่มองต้องวิ่งมาจากที่ไกลพอสมควร
“มีเพื่อนเราหายไปล่ะเห็นว่าหายไประหว่างเดินป่าทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทันสังเกตรู้อีกทีก็ตอนที่พวกผู้หญิงถามหาแล้ว”อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงร้อนลง
ทำไมใบหน้าของเชสถึงผุดขึ้นมาตอนนี้กัน?
“ใครล่ะที่หายไป?”
“หมอนั่นไง....คนดังของวิทยาลัยเราน่ะเจ้าชายน้ำแข็งผู้เพียบพร้อม...”
“กลาเช่ เฟวรีเย่ไง!!”เสียงตะโกนบอกทำให้ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์เบิกกว้างขึ้นทันที
เชสหายไป?!!
...................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
อัซห์ดาร์คิด (azhdarchid) ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานมีปีกขนาดใหญ่กว่าเทอโรซอร์ชนิดอื่นๆ โดยที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดหนักถึง 250 กิโลกรัม เมื่อกางปีกออกมีความกว้างราว 10 เมตร และลักษณะความสูงคล้ายกับยีราฟ
นักวิจัยเมืองผู้ดีศึกษาใหม่ พบหลักฐานบ่งชี้ไดโนเสาร์มีปีกไม่ได้บินโฉบจับปลาทะเลกินเป็นอาหารอย่างที่คิด แต่กลับเดินตะคุ่มๆ ย่องเงียบ คอยจับเหยื่อบนบกกินเป็นอาหารเหมือนไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดอื่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000064964..................................................................................
สวัสดีค่า
มาอัพต่อแล้ว
ใครรออยู่บ้างเอ่ยยยย
มีหลยคนอยากอ่านฉากบู๊แล้ว
บอกเลยว่าตอนหน้าบู๊แหลกลาน
อานโน่ของเราจะโดนรุมอย่างแน่นอน
แต่สาเหตุที่โดนรุมนั้นจะเพราะอะไร...หลายคงคงเดาๆกันได้เนอะ555
ตอนหน้าถือเป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องก็ว่าได้...
เพราะว่า...
เพราะ...
เพราะจะรอให้คนอ่านลุ้นเอาเอง
บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกเนอะ อิอิ
อาจมีหลายคนเดาออกก็ได้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากตอนนี้ไปจะเริ่มเข้าสู้เนื้อเรื่องอย่างจริงจังที่จะมีไดโนเสาร์เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่อยๆแล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้นะคะ
ทุกแรงใจจากนักอ่านทำให้เราสามารถแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาได้ค่ะ^^
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪