(ต่อค่า)
::เชส::
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ...นายคนเดียวทำอะไรไม่ได้หรอก!!”เสียงตะโกนของผมที่มนุษย์เพียงคนเดียวในที่นี้ดังขึ้นพรางมองตรงไปยังไดโนเสาร์ตรงหน้าแต่ดูเหมือนเสียงที่ทุกครั้งจะไปถึงครั้งนี้มันกลับไม่ถึงเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมหันหน้ามาเผชิญกันเหมือนอย่างทุกที
การต่อสู้ที่แสนเสียเปรียบ
มันจะมีทางชนะได้ยังไง!
บาดแผลก็เต็มตัวแบบนั้น...แผลครั้งก่อนพึ่งหายก็ต้องมาบาดเจ็บซ้ำอีกเพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากให้นายออกไปสู้น่ะอานโน่!
ขนาดผมที่อยากจะช่วยยังไม่สามารถทำอะไรได้แล้วถ้าเป็นคนอื่นที่จะมาเป็นคู่หูจะไม่ปล่อยอานโน่ไว้แล้วหนีไปยังเหรอ?
ความน่ากลัวของความตายผมได้เกือบจะลิ้มรสมันไปแล้วถ้าไม่ได้ไดโนเสาร์ตรงหน้าเข้ามาช่วย
“อานโน่!!”ผมตะโกนอีกครั้ง
งี๊ดดดด~
เสียงครางสูงดังตอบรับเพียงแต่ไม่ยอมทำตามราวกับกำลังฝืนตัวเองเพื่ออะไรสักอย่างอยู่
กรรรร!
กรรรร!
ฝูงมาพูซอรัสและอานโน่วิ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนผมแทบไม่กล้าดูภาพที่ผิวหนังสีน้ำเงินนั่นถูกเขี้ยวของอีกฝ่ายกัดเข้าเต็มแรงจนเลือดไหลนองไปหมด
“อ่านโน่...บ้าเอ้ย!...ทำไมฉันถึงทำอะไรไม่ได้สักอย่างทั้งที่บอกว่าอยากเป็นคู่หูกับนายแต่สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงแค่มองดูนายเจ็บรึไง!!”ผมตะโกนออกไปอย่างหมดความอดทนกับตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง
เพิ่งสำนึกว่าความอ่อนแอของตัวเองมันมีมากขนาดไหนและเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้มากเพียงใด
“คู่หูเหรอ?...นายเป็นคู่หูของอานโน่เหรอ?”เสียงทุ้มจากด้านหลังทำให้ผมหันควับไปมองทางต้นเสียงอย่างรวดเร็วก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นคน4คนเดินมาทางนี้ ทั้งที่เป็นคนเหมือนๆกันแต่บรรยากาศรอบๆนั้นต่างกับมนุษย์ปกติอย่างชัดเจน
“หนูว่าไม่ใช่นะ...พี่อานโน่ไม่ยอมรับใครเป็นคู่หูนี่นา”เสียงหวานของสาวที่มีสีผมสีชมพูแซมดำอันแปลกตาทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้เป็นใคร
“หน่วยปฏิบัติการพิเศษ?”ผมพึมพำออกไปอย่างไม่เชื่อสายตา
“ถูกต้อง...เราเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศฝรั่งเศสเรื่องแนะนำตัวค่อยว่ากันตอนนี้อานโน่ท่าจะไม่ไหวแล้ว...เชสต้า”หนุ่มผมสีดำพูดกับผมก่อนจะหันไปเรียกชื่อเด็กหนุ่มผมสีเหลืองแซมน้ำตาลด้านข้าง
“...”คนที่ถูกเรียกทำแค่พยักหน้าก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปยังการต่อสู้ตรงหน้า ร่างของเด็กหนุ่มกลายเป็นไดโนเสาร์สี่เท้าอย่างรวดเร็วกระดูกที่ยื่นออกมาบนหัวใช้เป็นอาวุธกระแทกฝูงมาพูซอรัสทีเดียวกระเด็นไปหลายตัว
“โยดารี่ไปช่วยด้วย”ชายผมน้ำตาลที่ทักผมคนแรกหันไปบอกหญิงสาวผมสีชมพูแซมดำที่อยู่ด้านข้างบ้าง
“แหม...ไม่สุภาพเลยนะแต่ช่วยไม่ได้...ไปก็ได้”พูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปร่วมการต่อสู้โดยที่ร่างเพรียวของหญิงสาวกลับเปลี่ยนเป็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่ยืนด้วยสองเท้าเขี้ยวอันคมกริบที่เห็นจากการอ้าปากเข้าไปขย้ำมาพูซอรัสที่อยู่ใกล้ๆอย่างรวดเร็ว
กรรร!
กรรรร!!
การต่อสู้ที่ดูไม่สูสีเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ...นี่คือความสามารถของไดโนเสาร์กลายพันธุ์งั้นเหรอ?
ผมยืนมองการต่อสู้ตรงหน้าอย่างไม่วางตา...อานโน่ที่มีพวกเข้ามาช่วยก็สามารถถอยออกมาพักได้และพอมีช่องว่างก็จะกลับเจอข้าไปต่อสู้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
“พึ่งเคยเห็นการต่อสู้ครั้งแรกล่ะสิ”ชายผมน้ำตาลตาสีฟ้าหันมาถามด้วยรอยยิ้ม
“...ครับ”
“ที่บอกว่าเป็นคู่หูจริงรึเปล่า?”เขาถามต่อ
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันไม่เห็นได้ยินเลยว่ามีคู่หูมนุษย์ที่อายุน้อยขนาดนี้แถมยังได้จับคู่กับอานโน่ด้วย”ชายผมดำถามสบทบ
“แปลกเหรอถ้าผมจะเป็นคู่หูของเขาน่ะ?”ผมถามออกไปอย่างสุภาพ
“แปลกสิเพราะเขาไม่เคยยอมให้ใครเป็นคู่หูเลยนี่ฉันเองก็ถูกปฏิเสธมาเมื่อหลายปีก่อน”ชายผมน้ำตาลคนเดิมอธิบาย
“...”คนที่อานโน่ปฏิเสธ?
ผมหันไปมองอีกฝ่ายชัดๆทั้งรูปร่างหน้าตาแค่ภายนอกก็ดูจะสมบูรณ์ยิ่งความรู้สึกแปลกๆที่สัมผัสได้ทำรู้ว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา
“ว่ายังไงล่ะ?”ชายผมน้ำตาลถามย้ำอีกครั้ง
“อานโน่บอกว่าอยากได้ผมเป็นคู่หู...”
“พูดเป็นเล่น?”ทั้งสองคนพูดพร้อมกับมองมาที่ผมอย่างอึ้งๆทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยคเลย
“ผมพูดจริงนะ...แต่พอผมบอกว่าจะเป็นให้เขากลับบอกว่าไม่เอา เขาไม่อยากให้ผมเจอกับอันตรายซึ่งผมเองก็ไม่ยอมรับที่เป็นแบบนั้นเลยมัดมือชกจนได้เป็นคู่หูของเขาแต่มันก็แค่คำพูดเท่านั้น”
“แปลว่านายคงมีอะไรบางอย่างที่อานโน่รู้สึกได้แต่เพราะไม่อยากดึงให้คนธรรมดาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเลยพูดออกไปแบบนั้น”ชายผมดำวิเคราะห์อย่างรวดเร็วจนผมต้องหันไปมองอย่างอึ้งๆ
คนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นแบบนี้ทั้งหมดเลยเหรอ?
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ...การที่จะได้เป็นคู่หูน่ะไม่ใช่แค่อยากแล้วก็จะได้หรอกนะ”ชายผมน้ำตาลเสริม
“ผมก็พอรู้มา”
“ฉันชื่อบราวเรียกพี่บราวก็ได้...การจะได้รับเลือกนั้นจำเป็นต้องมี3สิ่งนี้ก่อน...อย่างแรกต้องมีทักษะการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์หรือการต่อต่อสู้แม้แต่คิดแผนต่างๆก็ต้องทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว”พี่บราวอธิบายพร้อมชูนิ้วขึ้นมา1นิ้ว
“ต่อมาคือทักษะการต่อสู้และการใช้อาวุธไม่ว่าจะเป็นมีดสั้น...ปืน...ธนูหรือพวกดาบต้องมีอาวุธที่ถนัดและใช้อย่างชำนานไม่ต่ำกว่า2ชนิดและต้องเป็นอาวุธระยะไกลและใกล้อย่างละอัน...อย่างสุดท้ายให้โชบอกละกัน”เขาว่าพร้อมกับมองไปยังชายผมดำด้วยรอยยิ้ม
“ได้...สุดท้ายคือความเชื่อใจ...ในบรรดาทั้งหมดข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะถ้าไม่มีความเชื่อใจก็ไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์ดังนั้นเมื่อเราเจอกับคู่หูครั้งแรกก็จะถูกตัดสินว่าสมควรได้รับความเชื่อใจหรือไม่...สำหรับอานโน่เขาเป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่พิเศษเพราะมีทั้งอาวุธที่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นไม่มี”
“แถมยังมีปีกที่สามารถบินได้เพียงตัวเดียวขององค์กรด้วย...เขาถูกวางให้ทำงานโดยเน้นด้านอากาศเป็นหลักด้วยอายุขนาดนั้นควรจะมีคู่หูมาตั้งหลายปีแล้วแต่เพราะไม่มีคู่หูที่คู่ควรเลยยังไม่สามารถปฏิบัติภารกิจจริงได้”พี่บราวอธิบายต่อ
“อายุขนาดนั้น?...เขายังเด็กอยู่เลยนะ?”ดูยังไงก็เท่าๆกับผม
“ภายนอกก็ใช่แต่ถ้าเทียบกับไดโนเสาร์ถือเป็นวัยผู้ที่ใหญ่ที่พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่สุด...อีกอย่างอานโน่ก็ชอบที่จะต่อสู้และมีแรงจูงใจที่จะไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเจอกับศัตรูแบบไหนก็ตาม”
“แรงจูงใจ?”
“โอ๊ะ...พูดมากไปแล้วสิ...ต่อจากนี้ถือเป็นความลับของหน่วยถ้าอยากรู้ก็เข้ามาอยู่ในหน่วยเดียวกันให้ได้สิ”พี่บราวพูดก่อนจะส่งยิ้มมาให้
“...”เข้าไปอยู่ในหน่วยงั้นเหรอ?
“บราว...เข้าไปสมทบได้แล้วมั้งรีบจัดการให้จบสักที”พี่โชเรียกพี่บราวโดยที่สายตายังมองไปยังการต่อสู้ตรงหน้า
“นั่นสิ...รีบทำให้จบซะก่อนที่อานโน่จะทนไม่ไหว”
“ทำไมคุณถึงดูเป็นห่วงอานโน่ขนาดนี้”ก่อนที่พวกเขาจะไปผมเอ่ยถามคำถามสุดท้ายออกไป
“ง่ายๆ...เพราะชอบหมอนั่นมากไงล่ะถึงตอนนี้ก็ยังอยากจะได้มาเป็นคู่หูอยู่เพราะงั้นถ้านายปล่อยเขาหลุดมือพี่บราวคนนี้จะเข้าไปแทนที่เอง”
“ฉันไม่ยกอานโน่ให้หรอก!”ผมตะโกนออกไปอย่างสุดทนโดยไม่สนว่าจะไม่สุภาพหรืออะไร
ผมไม่ยอมยกอานโน่ให้ใครเด็ดขาด
“ความกล้านั่นใช้ได้แต่มีแค่นั้นไม่พอหรอกนะ...พวกเราจะแสดงให้เห็นว่าการสู้ร่วมกับคู่หูจริงๆมันเป็นยังไง...โยดารี่!”พี่บราวพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปสบทบการต่อสู้พร้อมหยิบมีดที่เหน็บไว้ที่เอวออกมา
ไดโนเสาร์สีน้ำตาลแซมชมพูที่ยืนสองขาหันมาหาคู่หูตน เพียงพริบตาเดียวที่ทั้งคู่สบตากันเหมือนล่วงรู้ความคิดของอีกฝ่ายทำให้โยดารี่จัดการมาพูซอรัสตรงหน้าให้อยู่นิ่งๆพี่บราวที่วิ่งไปกระโดดขึ้นไปบนหลังของเธอพร้อมๆกับจัดการเทยาบางอย่างอาบใบมีดแล้วกรีดเข้าที่ผิวของศัตรูตรงหน้าอย่างรวดเร็วแค่เสี้ยววินาทีร่างนั้นก็ล้มลงไปนอนนิ่งกับพื้น
“เชสต้า...ป้องกัน!”เสียงตะโกนของคู่หูอีกคู่ดังขึ้นเมื่อพี่โชเห็นมาพูซอรัสตัวหนึ่งกำลังพุ่งตรงไปยังหอประชุมกลางที่อัดแน่นไปด้วยนักศึกษา
กรรร!
เสียงขู่ร้องดังขึ้นก่อนที่ร่างสี่ขาจะวิ่งตรงมาแทบจะทันทีจนในที่สุดก็สามารถมาดักหน้ามาพูซอรัสได้อย่างทันถ่วงที...พี่โชคว้าคันธนูที่อยู่บนหลังพร้อมลูกดอกที่ตรงปลายมีน้ำยาบางอย่างทาไว้ทั้งที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะจัดท่าทางแต่ลูกศรที่ยิงออกไปกลับถูกเป้าหมายราวกับคำนวณไว้แล้ว
การต่อสู้อันยาวนานจบลงภายในไม่กี่สิบนาทีที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้ามาสมทบ ผมได้แต่ยืนมองภาพอันสุดยอดโดยที่กำมือของตัวเองแน่นด้วยความโกรธที่ตัวเองเองไม่มีพละกำลังมากพอที่จะช่วยอานโน่ได้
ทำได้แต่ปากดีบอกว่าจะช่วยแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายที่โดยปกป้องอยู่ฝ่ายเดียว
งื๊ดดดดด~
เสียงร้องของไดโนเสาร์ทั้งสามตัวดังขึ้นพร้อมกันเป็นสัญญาว่าการต่อสู้นี้จบลงจริงๆแล้ว...ไดโนเสาร์สองเท้าโยดารี่เข้าไปคลอเคลียอานโน่ที่ร่างเกร็ดสีน้ำเงินเต็มไปด้วยบาดแผลกลับมาเป็นสีเงินตามปกติ ท่าทางของอานโน่ที่คลอเคลียตอบทำให้คิ้วผมกระตุกอย่างไม่พอใจ
ไม่นานร่างสีเงินก็เดินมาตรงหน้าผมพร้อมปากเรียวที่เข้ามาคลอเคลีย...ผมทำได้เพียงกอดอีกฝ่ายไว้ด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง
“กลับร่างได้แล้วโยดารี่”พี่บราวบอกกับไดโนเสาร์ตรงหน้า
“...ชอบสั่งกันจริง”ร่างเพรียวของหญิงสาวปรากฏขึ้นพร้อมกับกระชากเสื้อที่คู่หูตนใส่อยู่ออกแล้วสวมทับให้ตัวเอง
“เชสต้า”พี่โชเองก็หันไปบอกกับไดโนเสาร์ด้านข้างเหมือนกัน
“...ขอบคุณครับ”เชสต้าที่กลับร่างถูกสวมเสื้อคลุมทันให้ในทันที
ตอนนี้ก็เหลือเพียงอานโน่เท่านั้น
ผมเองก็ถอดเสื้อคลุมของตัวเองที่เปื้อนเล็กน้อยออกก่อนจะหันไปสบกับดวงตาสีแดงสดตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม...
“กลับร่างเถอะอานโน่”
งื๊ดดด!
เสียงร้องเบาๆดังขึ้นพร้อมกับเส้นผมสีเงินยาวแซมน้ำเงินจะปรากฏขึ้นพร้อมกับกระโดดกอดผมเต็มแรงจนเกือบล้ม ด้วยความที่นึกได้ว่าอานโน่เปลือยอยู่มือที่ถือเสื้อคลุมเลยรีบคลุมร่างนั้นไว้ก่อนที่จะถูกใครเห็น
“...อานโน่...หนักนะ”ผมกระซิบบอกพร้อมกอดตอบอีกฝ่าย
“...ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ”เสียงกระซิบที่ได้รับทำให้ตัวผมถึงกับยืนนิ่ง
ทำไมต้องขอโทษทั้งที่คนที่ควรจะเอ่ยประโยคนั้นคือผมไม่ใช่อานโน่
“...อานโน่”
“ขอโทษที่ทำให้นายได้รับอันตรายฉันขอโทษ...ขอโทษนะ”น้ำเสียงที่สะอื้นกว่าเดิมทำให้ผมกระชับอ้อมกอดแน่นก่อนจะกระซิบตอบอีกฝ่ายไปเช่นกัน...
“อย่าขอโทษอานโน่นายไม่ได้ทำอะไรผิดฉันต่างหากที่อ่อนแอเป็นได้แค่ตัวถ่วงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง...มีแต่ต้องมองนายสู้แบบนั้น”
“ไม่ใช่นะ...ไม่ใช่เพราะเชสเลย...เพราะฉัน...”
“ไม่ต้องพูดแล้วอานโน่”ไม่อยากฟังคำปลอบโยนทั้งที่รู้ถึงความอ่อนแอของตัวเองอยู่เต็มอก
“แต่...”
“ขอบคุณที่ช่วยฉัน...ครั้งหน้าฉันจะไม่ยอมให้นายปกป้องฝ่ายเดียวแน่นอน...ขอสัญญา”
.....................................................................................
::มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์::
มาพูซอรัส (Mapusaurus) มาจาก มาพูเช (Mapuche) มาพู เป็นคำใน ภาษากรีก แปลว่า "ตุ๊กแก" เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อ สปีชีส์ ใหม่ที่ค้นพบ มันคล้าย ไจแกนโนโตซอรัส และ ไทรันโนซอรัส แต่ตัวยาวกว่า กะโหลกเบากว่า ฟันคมกว่า และกระดูกแข้ง ของมันยาวที่สุดในไดโนเสาร์กินเนื้อทั้งหมด
พาพูซอรัส อยู่ในยุคสมัยเดียวกับหนึ่งในไดโนเสาร์กินพืชที่ใหญ่ที่สุดอย่าง อาร์เจนติโนซอรัส เพื่อที่จะล้มเหยื่อใหญ่ขนาดนี้ได้พวกมันจึงพัฒนาจาก ล่าตัวเดียวมาเป็นล่าเป็นกลุ่ม
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:http://www.dek-d.com/board/view/3177061/
.............................................................................................
สวัสดีค่า
อย่างแรกเลยต้องสวัสดีวันสงกรานต์นะคะ
ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขกันตลอดปีเลยค่าาา
ช่วงนี้หลายคนคงกำลังออกไปเที่ยวหรือเล่นน้ำกันซึ่งเราอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย...เศร้ามากกก
การเลี้ยงสุนัข4ตัวนี่ทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวได้ดั่งใจแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเราชอบสุนัขมากกว่าการไปเที่ยวแถมยังได้พักและแต่งนิยายในวันหยุดตุนไว้ได้อีกด้วย
ในตอนนี้คงได้รู้จักกับตัวละครใหม่กันแล้วนะคะ
หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง
คงมีหลายคนที่อยากให้ยูทาร์กับเซโครออกโรง...ความจริงก็อยากให้ออกมานะคะแต่คิดว่ายังไม่ถึงเวลา
รออีกสักหน่อยทั้งคู่ได้ออกมาเจอเชสแน่นอนค่ะ
มารอลุ้นกันว่าเชสจะได้เป็นคู่หูอานโน่เมื่อไหร่และด้วยวิธีไหน
บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่จะได้เป็นคู่หูกับอานโน่ 555
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้นะคะ
แค่ได้อ่านคำว่า มาต่อเร็วๆรออยู่ ก็ดีใจมากๆเลยค่ะเหมือนมีหลายคนที่กำลังรอนิยายเรื่องนี้อยู่
ขอบคุณนะคะ
เป็นกำลังใจได้มากจริงๆ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪