✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60  (อ่าน 242716 ครั้ง)

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เชสกลับบ้านจะเป็นไงบ้างน้อออ...

เป็นห่วง  :hao7: :katai5:

อานโน่นี่เตรียมห้องหอรอละก่ะ  :hao6:

ร้ายกาจ !

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Kitsune1st

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฉากคลอเคลียอิ๊บอิ๊วมาก -..-

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอยย น่ารักกันงุ้งงิ้งๆ  :mew3:

ปิดเทอมนี้จะมีอะไรให้ตื่นเต้นไหมน้าาาาา

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
รีบหนีไปบ้าน(ว่าที่)คู่หูเร็วๆนะเชสสส

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เชส หวงหนักมากกกก

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ขอให้ไปได้ด้วยดีนะคะ :mew1: :katai3: :katai2-1:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ฮ่าๆ แม่บ้านแม่เรือนมากอานโน่ ว่างๆมาทำความสะอาดบ้านเรามั่งสิ  :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ryneyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :-[ ขอบคุณมากนะค่ะที่มาต่อ 

ออฟไลน์ love noon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เค้ามุ้งมิ้งกัน  :katai2-1:

ออฟไลน์ SarangHAE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เข้ามารอแต่เช้า~ สู้ๆน๊า :mew1:

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
รอมานาน น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
คลอเคลียกันได้น่ารักมาก 5555

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
• •* หาคู่*• •วันที่12



ปิดเทมอเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาหลายคนต่างใฝ่ฝันที่จะให้มาถึงเร็วๆแต่ละคนต่างก็วางแผนการเที่ยวและพักผ่อนกันล่วงหน้าทั้งนั้นแต่สำหรับคนที่ไม่มีนัดอะไรแบบผมนั้นการปิดเทมอเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อที่สุดแต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าและไม่มีอะไรทำ

ในตอนแรกที่ต้องทำความสะอาดก็ดีอยู่หรอกแต่พอเสร็จแล้วก็ต้องมานั่งนิ่งๆจนรู้สึกอารมณ์เสีย...วันต่อมาเลยไปเดินตลาดเพื่อซื้อพวกของสดมากเตรียมไว้ทำอาหาร การทำอาหารทำให้หายเบื่อได้ดีทีเดียวถึงแบบนั้นก็ใช้เวลาไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นแถมแต่ละครั้งที่ทำก็จะมากจนสามารถกินได้ทั้งวัน

พอไม่ได้ออกกำลังพลังงานก็จะไม่ถูกระบายออกส่งผลให้ตอนกลางคืนนอนไม่หลับ

ขนาดเหนื่อยมากอย่างตอนทำความสะอาดยังนอนไม่หลับเลย

“เชส...”ผมพร้อมหลับตาลงโดยที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องรับแขกด้านล่าง

นี่ผ่านมากี่วันแล้วนะตั้งแต่ที่แยกกับเชส

5วัน

อาทิตย์หนึ่ง

หรืออาทิตย์ครึ่ง

“ไม่อยากคิดแล้ว”เสียงตะโกนจากผมดังขึ้นพร้อมกับซุกหน้าลงบนหมอนที่โซฟาตัวยาว

ไม่เคยคิดว่าการห่างจากใครแล้วจะรู้สึกคิดถึงมากขนาดนี้แม้แต่พ่อกับแม่ยังไม่คิดถึงมากแบบนี้เลยอย่างมากก็แค่รู้สึกเหงาๆในช่วงแรกแต่พอผ่านไปสักระยะก็ไม่เป็นไรแล้ว...

ไม่เหมือนกับเชสที่ต่อให้ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่หายคิดถึงมีแต่คิดถึงมากขี้นเรื่อยๆ

อยากเห็นดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่น

อยากได้ยินเสียงทุ้มที่ชอบกวนโอ๊ยนั่น

อยากนอนตักที่เปรียบเหมือนหมอนส่วนตัวนั่น

อยากได้กลิ่นหอมอ่อนๆที่แสนดึงดูดนั่น

อยากได้สัมผัสอันอ่อนโยนนั่นจากเชส...

“บ้าเอ้ย!...นี่เราเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย”ผมพลิกตัวนอนหงายพร้อมกับบ่นออกมาไม่หยุดในหัวมีเพียงแค่อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยู่เต็มไปหมด

ครืดดด~

เครื่องมือสื่อสารที่สั่นอยู่บนโต๊ะถูกคว้าขึ้นมาและเพียงแค่เห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอความขุ่นมัวในใจก็ปลิวหายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว

“เชส!”ผมตะโกนเรียกชื่อปลายสายเสียงดังพร้อมเด้งตัวขึ้นมานั่ง

(เสียงดังไปแล้วนะ)เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานทำให้รอยยิ้มที่มีกว้างขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

“พูดอีกสิ”

(หื้อ?...พูดอะไร?)

“อะไรก็ได้พูดหน่อยเร็วๆ”ผมเร่งปลายสาย

(...เป็นอะไรน่ะอานโน่?...ป่วยเหรอ?...หรือไข้ขึ้น?)

“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ”

(แต่พูดจาเริ่มไม่รู้เรื่องแล้วนะ)

“ไม่รู้เรื่องตรงไหนกัน?”แค่ให้พูดนี่มันยากตรงไหน

(ทั้งหมดแหละ...เอาเถอะฉันกำลังจะไปที่บ้านนายน่าจะถึงช่วงเย็นเตรียมเปิดบ้านรอได้เลย)

“จริงเหรอ?...เยี่ยมเลย...เดี๋ยวจะทำมื้อเย็นไว้รอ”ผมบอกพร้อมกับนึกรายการอาหารที่จะทำช่วงเย็น

(จะกินได้ไหมนั่น?)

“พูดหาเรื่องกันใช่ไหมเชส?”ผมถามกลับเสียงเข้ม

ประโยคของเขาก็ไม่ต่างกับคำดูถูกที่บอกว่าผมทำอาหารไม่เป็นนั่นแหละ

(แค่เผื่อไว้...ว่าแต่มีร้านขายยาแถวนั้นใช่ไหม?)

“มาถึงนายโดนแน่!”ผมตะโกนบอกปลายสาย

(ฮะฮะฮะ...จะรอดู เจอกันตอนเย็นนะอานโน่)

“ได้”

การสนทนาที่จบไปทำให้คนที่ซึมอยู่เกือบ10วันกลับมามีแรงใจอีกครั้ง ผมลุกขึ้นไปยังห้องครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อดูวัตถุดิบว่าเหลือพอจะเอามาทำอาหารมื้อเย็นอะไรได้บ้าง

จากที่มองภายในตู้เหลือเพียงไข่3ฟองกับน้ำเปล่าอีก2ขวดใหญ่เท่านั้น

“ออกไปซื้อของดีกว่า”ผมตัดสินใจก่อนจะเดินไปจัดการตัวเองที่ปล่อยผมสีเงินแซมน้ำเงินโดยการใส่วิกและคอนแทคเลนส์ถึงจะบอกว่าไม่กลัวที่ใครจะรู้ความจริงแต่ก็ไม่อยากโดนถามในระหว่างไปซื้อของหรอก

พอเสร็จจากการปลอมตัวก็หยิบกระเป๋าเงินแล้วออกจากบ้านไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้ๆโดยปกติผมมักจะไปที่ตลาดเพราะสามารถต่อราคาได้แต่ถ้าต้องรอตลาดก็ต้องรอตอนเย็นก็เลยตั้งสินใจว่าไปห้างดีกว่า

ระหว่างทางที่เดินไปยังแผนกของสดในหัวก็คิดถึงเมนูที่อยากทำเพราะไม่มีอะไรที่อยากทำเป็นพิเศษเลยต้องมาคิดหนักว่าจะทำอะไรดี...ขณะที่นึกอยู่ๆอาหารชนิดหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัว

“สตูเนื้อ”ผมพึมพำออกมาโดยจำได้ว่าเชสชอบกินสตูเนื้อ

นั่นทำให้อาหารอย่างแรกที่จะทำคือสตูเนื้อ...อาจเป็นโชคดีที่แม่เคยสอนวิธีทำสตูเนื้อให้ตอนอยู่บนเกาะ ช่วงเวลาที่แม่ว่างจากภารกิจก็มักจะสอนทำอาหารบ้าง พาไปผจญภัยบ้างหรือพาไปทำการทดลองที่แล็บบ้างตามแต่สะดวกความรู้ที่ผมมีจึงอยู่ในระดับที่สูงกว่ามนุษย์ปกติที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมากพอควรจึงอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กๆที่เชสได้คะแนนพอๆกัน

ไม่แปลกเลยที่เขาจะถูกเรียกว่าอัจฉริยะตั้งแต่ยังเด็ก

เมื่อซื้อวัตถุดิบที่ต้องการเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำสตูเนื้อนั้นจะอร่อยต้องเคี่ยวให้นานหน่อยผมเลยตัดสินใจเริ่มทำจากสตูก่อน...ส่วนอย่างอื่นที่คิดจะทำก็มีสลัดผักกับแซลมอนอบสองอย่าง

ใช้เวลาเรียกว่านานพอสมควรกว่าที่ทุกอย่างจะเสร็จ สลัดผักกับแซลมอนอบไม่ได้ยากเท่าสตูเนื้อที่ต้องใช้เวลาทำนานกว่าหลายเท่า กว่ารสชาติจะได้ตามที่ต้องการก็ปาไปช่วงเย็นแล้ว

เชสบอกจะมาถึงตอนเย็นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเย็นแค่ไหน

จะไปรอข้างหน้าก่อนดีไหมนะ?

ผมคิดในหัวเรื่อยเปื่อยพร้อมๆกับถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วเดินไปที่ประตูแต่ก่อนที่จะเปิดออกไปก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นมาหยุดอยู่แถวๆหน้าบ้านแถมไม่นานกลิ่นของคนที่คิดถึงมาตลอดก็ลอยเข้ามา...

ผมไม่รอให้เชสแม้แต่จะเคาะประตูหรือกดกริ่งรีบเปิดประตูบ้านสีขาวสะอาดออกก่อนจะพุ่งเข้าไปกระโดดกอดคนที่สะพายเป้อยู่ที่หลังอย่างรวดเร็วจนอีกฝ่ายเซไปเล็กน้อยเพราะตั้งหลักไม่ทัน

“คิดถึงจัง”ผมบอกพร้อมกับซุกตัวลงที่คอของเชสแล้วสูดกลิ่นที่แสนคิดถึงจนเต็มปอด

“เว่อร์ไปแล้วอานโน่”เสียงทุ้มที่ได้ยินข้างหูรู้สึกดีมากกว่าได้ยินทางโทรศัพท์หลายเท่า

“เว่อร์ที่ไหนกัน”เขาไม่รู้หรอกว่าหลายวันมานี้มันผ่านไปอย่างอยากลำบากขนาดไหน

“หึ...ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”พูดจบมือแกร่งก็ยกขึ้นกอดตอบพร้อมกระชับตัวผมให้แนบสนิทกันมากขึ้น สัมผัสของลมหายใจที่คลอเคลียบริเวณต้นคอทำให้รู้สึกสยิวแปลกๆ

“ยะ...อย่าหายใจรดต้นคอแบบนั้นสิ”

“ทีนายล่ะ?”เสียงทุ้มสวนกลับ

“ฉันไม่ได้หายใจรดสักหน่อย”

“อืม...ไม่ได้หายใจรดแต่ดมเอาโต้งๆเลย”

“ไม่ต้องพูดก็ได้น่า”พอได้ยินแล้วมันอายนะ

“...อานโน่”เสียงเรียกทำให้ผมผละออกแล้วเงยหน้าขึ้นสบดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่แสนคิดถึง

“...??”

“คิดถึงเหมือนกัน”คำธรรมดาๆที่ได้ยินคนอื่นพูดด้วยมากมายแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่หัวใจเต้นแรงขนาดนี้ มือของผมยกขึ้นกำที่หน้าอกแน่นพร้อมกับเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นอย่างไม่เข้าใจ

ความรู้สึกนี้...

มันคืออะไรกัน?

“อานโน่?”

“ห๊ะ?...อะไร?”เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเมื่อใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม

“เหม่ออะไรน่ะ?”

“เปล่านี่”

“ฉันต้องเชื่อคำโกหกนั่น?”อีกฝ่ายถามด้วยใบหน้าจริงจัง

“เออ!...เพราะงั้นห้ามถามด้วย”พูดจบผมก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านโดยไม่หันไปมองคนที่ยืนหัวเราะอยู่ด้านหลังด้วยความสนุกที่ได้เห็นผมทำท่าทางเป๋อๆนั่น

ก็รู้อยู่แล้วไม่มีทางโกหกได้แต่จะให้ทำยังไงล่ะปากมันหลุดออกไปเองนี่

พอเดินเข้ามายังห้องครัวแล้วจัดการตักสตูเนื้อที่กำลังร้อนอยู่ใส่ชามทำท่าเป็นไม่สนใจคนที่เดินตามเข้ามาทั้งที่เอียงหูฟังอยู่ไม่ห่าง เสียงฝีเท้าของเชสดังขึ้นก่อนจะมาหยุดอยู่ด้านข้างที่เป็นเคาน์เตอร์ไว้สำหรับกินข้าว

“นี่”

“ใครชื่อนี่?”ผมหันไปมองแขกคนเดียวของบ้านพร้อมทำหน้าบึ้ง

“อานโน่ก็ได้ครับ”

“น้ำเสียงไม่จริงใจเลยแฮะ”ผมบ่นอุบอิบพร้อมยกถ้วยสตูเนื้อมาตั้งไว้บนโต๊ะเคาน์เตอร์โดยที่มีเชสอยู่มองอยู่

“สตูเนื้อ?”

“อืม...ใช้ได้ใช่ไหมล่ะ?”ผลงานที่ภาคภูมิใจขนาดนี้เป็นใครก็ต้องอยากอวดบ้างแหละ

“ของแบบนี้ต้องดูที่รสชาติ”สายตาที่ส่งมาราวกับจะท้าทายนั่นทำให้ผมถึงกับคิ้วกระตุกก่อนจะหันหลังไปหยิบช้อนที่ถูกทำความสะอาดอย่างดีจนขึ้นเงาส่งให้คนที่กล้ามาท้าทายอาหารที่แสนภาคภูมิใจของผม...

“ลองเลยสิ...ถ้านายบอกไม่อร่อยฉันยอมโดนทำโทษเลย”คำพูดที่เอ่ยออกไปอย่างไม่คิดทำเอาคงตรงหน้าถึงกับคิ้วกระตุกแล้วเผยรอยยิ้มออกมา

“จริง?”

“...เอ่อ...ล้อเล่น”

“เสียใจด้วยที่ฉันไม่ยอมรับคำว่าล้อเล่นนั่น”เชสว่าก่อนจะใช้ช้อนที่ให้ไปตักสตูเนื้อเข้าปากคำโต

“เป็นไงบ้าง?”ผมเร่งถามเพราะอีกฝ่ายใช้เวลากลืนมันนานไปแล้ว

“หึ...”

“ไม่เอาหึดิ”

“งั้นจะเอาอะไร?”อีกฝ่ายถามกลับ

“เอาคำว่าอร่อยมาก”ผมบอกอย่างไม่ต้องคิดแต่ถึงจะบอกไปแบบนั้นก็ไม่คิดว่าเชสจะพูดมันออกมาจริงๆหรอก...ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่คนตรงหน้ากลับยกยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ยคำพูดหนึ่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ใบหน้าผมร้อนขึ้นทันตาเห็น...

“อร่อยมากเลยอานโน่”

“...”

“อานโน่?”

“...คนขี้โกง”ผมบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปิดใบหน้าตัวเองที่แผ่รังสีความร้อนออกมาจนสัมผัสแล้วหันหลังหนีเชสที่จ้องมาอย่างไม่วางตา

“ขี้โกง?”

“ใครจะคิดว่านายจะพูดชมล่ะ”ผมบอกเสียงเบา

“ว่าอะไรนะ?”

“ฉันบอกว่า...อ๊ะ...”ทันทีที่หันไปใบหน้าของเชสก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้น มือของคนตรงหน้าจับข้อมือผมไว้ก่อนจะดึงเข้าไปหาจนช่วงอกเราสัมผัสกันเบาๆ

“ว่าอะไร?”เสียงทุ้มเอ่ยถามต่อด้วยแววตาที่เป็นประกาย

“...ใครจะคิดว่านายจะพูดชมเล่า?!!”ผมตะโกนออกไปเสียงดังก่อนจะผลักเชสออกไปเต็มแรง

“แล้วไม่ดีใจ?”

“ดีใจสิ...ดีใจจนจะแย่แล้วเนี่ย!”ผมตะโกนตอบคำถามนั่นด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีกว่าเดิม

“หึ...”

“ไม่ต้องมาหึเลยนะ”

“พาลกันนี่”

“ไม่รู้ล่ะ...กินมื้อเย็นได้แล้ว”ในที่สุดก็สามารถเปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ

“กินก็ได้แต่นายต้องถอดวิกกับคอนแทคเลนส์ที่ใส่อยู่ออกก่อน”คำพูดของเชสทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังใส่วิ่งกับคอนแทคเลนส์อยู่ตั้งแต่กลับมาจากไปห้าง

ลืมถอดได้ยังกัน

“ลืมไปแล้วนะเนี่ย...ความจริงไม่เห็นต้องถอดก็ได้นี่”ถึงปากจะบ่นแต่มือก็จัดการถอดวิกที่สวมอยู่ออกก่อนจะตามด้วยคอนแทคเลนส์

“ฉันไม่ชอบ”

“ไม่ชอบอะไร?”

“...ต้องบอกอีกเหรอ?”เสียทุ้มดังขึ้นพร้อมจ้องมาทางผมเขม็ง

“ไม่บอกแล้วจะรู้ไหมเล่า”

“งั้นก็ไม่ต้องรู้มันอยู่แบบนี้แหละ”พูดจบเชสก็นั่งลงที่เก้าอี้อย่างแรงราวกับไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่

“เชส”ผมเรียก

“...”

“นี่”

“ใครชื่อนี่?”

“นายย้อนฉัน?”ผมถึงกับคิ้วกระตุกที่โดนย้อนกลับ

“หึ”

“เชส!”เสียงเรียกชื่อทวีความดังขึ้นอีกขั้นเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองที่พอใจ

“กินข้าวได้แล้ว”

“ก็บอกมาก่อนสิว่าโกรธอะไร?”ผมยังคงไม่ยอมแพ้

“ไม่ได้โกรธ”

“งั้นก็โมโห?”

“ไม่ได้โมโห”อีกฝ่ายยังคงยืนยัน

“งั้นเป็นอะไรล่ะ?”

“แค่หงุดหงิด”

“หงุดหงิด?...เรื่องอะไร?”ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ

“ไว้กินเสร็จจะบอก”

“พูดแล้วนะเชส...ห้ามลืมด้วย”ดวงตาสีแดงอ่อนจ้องไปยังดวงตาสีน้ำเงินเข้มเพื่อสื่อไปว่าจะไม่ยอมให้กลับคำแน่

“รู้แล้ว”

หลังจากตกลงกันได้พวกเราก็ลงมือจัดการมื้อเย็นที่มีทั้งสตูเนื้อ สลัดและแซลมอนอบผ่านไปอย่างไม่รีบร้อนตามวัฒนธรรมของคนฝรั่งเศสที่จะกินมื้อเย็นนานกว่ามื้ออื่นพอสมควร


::เชส::

เจ้าของบ้านชั่วคราวลุกขึ้นเก็บจานชามที่เหลือเพียงจานเปล่าไปล้างท่ามกลางสายตาของแขกผู้มาเยือนอย่างผมที่จ้องตามตาไม่กระพริบ...ผมมองแผ่นหลังที่กำลังล้างถ้วยชามอยู่ในครัวด้วยความรู้สึกที่อึดอัดขึ้นทุกวันๆตั้งแต่ได้เจอกัน

อึดอัดเพราะไม่สามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้ดั่งใจ

อึดอัดเพราะไม่สามารถบอกความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ออกไปได้

และอึดอัดที่คนตรงหน้าแสดงออกราวกับกำลังยั่วให้ผมหมดความอดทน

แค่คำสั้นๆที่บอกว่าคิดถึงก็ทำให้ความเครียดจากครอบครัวหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“เชสกินเสร็จแล้วนะ”เสียงจากคนที่ล้างจานดังขึ้นพร้อมกับเหล่มองมายังผม

“แล้ว?”รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรแต่ก็อดไม่ได้ที่จะแหย่ไปแบบนั้น

“เชส”

“หึ”น่ารักซะจริง

ไม่อยากเชื่อว่าอานโน่จะเป็นเป็นไดโนเสาร์เกร็ดเงินที่ตัวยาวกว่า8เมตรนั่นได้...ไดโนเสาร์ แค่ได้ยินชื่อก็รับรู้ถึงความดุร้ายแทบจะทันทีแต่อานโน่กลับไม่เหมือนกับไดโนเสาร์ที่จินตนาการไว้สักเท่าไหร่

“หึตลอด...บอกมาได้แล้วว่านายหงุดหงิดอะไร?”น้ำเสียงคาดคั้นดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผม มือสองข้างที่ท้าวเอวนั่นดูก็รู้เลยว่าคงจะไม่ยอมแน่ถ้าไม่ได้คำตอบ

“อยากรู้?”

“ไม่อยากแล้วจะถามทำไมเล่า!”

“นั่นสินะ”

“เชส”

“รู้แล้วน่า...ฉันไม่ชอบให้นายใส่ทั้งวิกและคอนแทคเลนส์ต่อหน้าฉันแบบนี้...”

“แค่ดูก็รู้แล้วน่าเรื่องนั้น...ที่อยากรู้คือทำไมถึงไม่ชอบ?”

“ฉันยังพูดไม่จบประโยคเลยนะ”ผมบอกพร้อมถอนหายใจแรงๆที่ถูกขัดสิ่งที่พูด

อุตส่าคิดคำพูดดีๆไว้แล้วเชียว

“...งั้นเหรอ...โทษที...ว่าต่อเลย”

“เฮ่อ...ก็การที่นายใส่วิกและคอนแทคเลนส์ต่อหน้าฉันก็เหมือนว่านายกำลังปิดบังตัวตนจริงๆอยู่นั่นเป็นเหตุผลที่หงุดหงิด”

“...เชส”ดวงตาสีแดงอ่อนที่ได้ยินคำตอบดูเหมือนจะอึ้งไปพอสมควร

“อย่าปิดบังอะไรฉันอานโน่”ผมบอกสิ่งที่ต้องการออกไปตามตรงพร้อมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาที่สั่นระริกนั่น ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อรอยยิ้มกว้างของคนตรงหน้าปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงนุ่มๆที่เอ่ยบางคำออกมา...

“ได้เลยเชส”

การมาค้างคืนที่บ้านของอานโน่ผ่านไปหลายวัน ในตอนเช้าว่าที่ผู้นำตระกูลเฟวรีเย่อย่างผมก็ลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงบางอย่างที่เข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นเสียงคนอื่นก็คงไม่ทำให้คนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นมาได้แต่นี่เป็นเสียงของอานโน่ผมจึงค่อยๆลืมขึ้นพร้อมฟังบทสนทนาบางอย่างข้างกาย

“แม่จะให้ผมไปเหรอ?”เสียงนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงข้างกายผมดังขึ้น

“ก็ไม่ใช่ไม่ว่างหรอก...แล้วพวกพี่บราวล่ะ?”

ชื่อของบุคคลที่สามที่เข้ามาในบทสนทนาทำให้ผมเด้งตัวขึ้นพร้อมจ้องไปยังอานโน่ที่กำลังคุยโทรศัพท์กับปลายสายอยู่...นาฬิกาพึ่งบอกเวลา8โมงซึ่งถือว่าเช้ามากสำหรับนักศึกษาที่กำลังปิดเทมออยู่แบบนี้

“อ้อ...เข้าใจแล้วครับถ้าแค่นั้นละก็...”

“ครับๆ...คิดถึงเหมือนกันครับ...ไว้เจอกัน...บาย”ไม่นานบทสนทนาก็หยุดลงโทรศัพท์สีเงินถูกวางลงที่หัวเตียงตามเดิมก่อนดวงตาสีแดงอ่อนจะหันมาสบผมที่นั่งจ้องอยู่

“อรุณสวัสดิ์”เสียงทักทายยามเช้าดังขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“อืม...อรุณสวัสดิ์”

“วันนี้ฉันมีธุระล่ะนายรออยู่บ้านสักครึ่งวันนะ”

“ไม่”ผมสวนกลับอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอก

“เชส”

“จะไปไหน?”ผมถามต่อ

“...ไปทำธุระไงก็บอกอยู่”

“ก็นั่นแหละ...ธุระอะไร?”ผมยังคงถามย้ำ จากที่คิดวิเคราะห์ด้วยบทสนทนาที่ได้ยินเมื่อครู่ก็ไม่อยากที่จะเดาได้ว่าธุระที่ว่าเป็นเรื่องอะไร

ทั้งชื่อของบุคคลที่3อย่างพี่บราว

ทั้งคำเลี่ยงที่ไม่อยากให้ผมไปด้วย

ทั้งหมดนั่นพอเอามารวมกันก็รู้ได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้วอย่างไดโนเสาร์แน่นอน

“นี่มันเรื่องส่วนตัวฉันนะเชส”คำพูดที่ได้ยินสร้างความหงุดหงิดได้ในทันที

ผมไม่ตอบอะไรแต่จัดการผลักร่างอานโน่ที่นั่งอยู่ให้นอนราบบนเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว...ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของผมจ้องไปยังคนด้านล่างด้วยความหงุดหงิดอย่างมากที่ถูกทำเหมือนตัวเองเป็นคนนอกที่ไม่มีสิทธิจะรับรู้อะไรได้เลยสักอย่าง

“...เชส”

“...นั่นสิ...มันเรื่องส่วนตัวนายนี่”มือของผมทั้งสองข้างกำแน่นอย่างข่มอารมณ์ที่กำลังจะปะทุขึ้น ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังประตูก่อนที่ตัวเองจะเผลอทำอะไรแย่ๆลงไป

มันถูกแล้วที่อานโน่พูด

เขาก็มีเรื่องส่วนตัว

มีสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้

มีหลายอย่างที่ยังคงเป็นความลับ

ทั้งที่รู้แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด

“เดี๋ยวเชส!”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับมือของเจ้าของเสียงที่ดึงข้อมือผมไว้แน่น

“ปล่อย”ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรทั้งนั้นแหละ

“เชสฟังฉันก่อน”

“ไม่...ปล่อยเดี๋ยวนี้”ผมยังคงยืนยันแล้วสะมือที่จับข้อมือผมไว้ออก

หมับ!

“เดี๋ยวก่อน...ฟังฉันก่อนมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด...ไม่ใช่จริงๆ”ครั้งนี้ไม่ใช่มือที่จับเพื่อไม่ให้หนีแต่อานโน่กอดเอวผมจากด้านหลังก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง

“...”

“ให้ฉันได้อธิบายหน่อยนะครับ...นะ”น้ำเสียงอ้อนๆที่ไม่ได้ยินมานานมีอิทธิพลกับหัวใจอย่างรุนแรงจนต้องถอนหายใจออกมาดังๆ

“ว่ามาสิ”สุดท้ายก็ต้องยอม

“ฉันแค่ไม่อยากให้นายเข้ามายุ่งไปมากกว่านี้...ถ้านายเข้ามาก็อาจเป็นอันตรายได้”

“เกี่ยวกับไดโนเสาร์ใช่ไหม?”ผมถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบดี

“...อืม...แม่ให้ฉันไปที่สวนสัตว์เพื่อจัดการกับไดโนเสาร์ที่กำลังทะเลาะกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ พอดีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของพี่บราวกับพี่โชกำลังติดภารกิจใหญ่อยู่คนที่พอช่วยได้เลยมีแค่ฉัน...แต่ถ้าบอกไปนายก็คงจะขอตามไปฉันก็เลยต้องพูดไปแบบนั้น...ขอโทษนะเชส”คำอธิบายทั้งหมดดังขึ้นพร้อมกับคนด้านหลังที่กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นพลางซุกหน้าลงบนแผ่นหลังผมจนสัมผัสได้ถึงเสียงของลมหายใจ

“แสดงว่าเป็นสายพันธุ์ที่อันตรายสินะ?”ผมลองถามต่อเพื่อจะได้เก็บข้อมูล

“ไม่ได้อันตรายขนาดนั้นหรอก...ฉันจะกลับมาอย่างไม่บาดเจ็บให้ดู”

“ฉันไปด้วย”

“เชส”

“นายบอกเองนะว่าไม่อันตรายขนาดนั้น”

“ก็ใช่แต่ว่าถ้านายได้รับอันตรายอะไรขึ้นมาฉันจะทำยังไงล่ะ?”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงทำให้ความหงุดหงิดที่มีหายไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่ยอมให้เป็นแบบตอนนั้นอีก”

“แต่...”

“นายคงไม่คิดว่าตลอด10วันที่ผ่านมาฉันกลับไปนอนเล่นที่บ้านเฉยๆหรอกนะ”

“หมายความ...ว่ายังไง?”

“ทักษะการต่อสู้...ทักษะการใช้อาวุธ...ตอนนี้ฉันมีหมดทุกอย่างแล้ว”ผมบอกออกไปตามตรง ในช่วงที่แยกจากอานโน่ผมกลับบ้านจริงแต่ไม่ถึงวันด้วยซ้ำที่เหลือก็ไปอยู่ที่สนามฝึกทั้งศิลปะป้องกันตัวและอาวุธอย่างปืนและมีด

“เวลาสั้นๆแบบนี้นายจะชำนาญได้ยังไง?”

“ถ้าบอกว่าฉันเคยเรียนมาล่ะ?”

“ห๊ะ?”

“ฉันเป็นถึงว่าที่ผู้นำตระกูลเฟวรีเย่คนต่อไปเลยนะ ต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ตั้งแต่เด็กแต่เพราะไม่ได้สนใจเลยไม่เก่งเท่าที่ควร...ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วฉันอยากเก่งขึ้นไม่ใช่แค่ปกป้องนายแต่จะปกป้องตัวเองไม่ให้นายต้องมาคอยผะวงเวลาที่ต่อสู้...เชื่อฉันอีกครั้งเถอะอานโน่”ครั้งนี้จะไม่ยอมให้ทั้งตัวเองหรือคนสำคัญต้องเจ็บอีกแล้ว

“...เชส”

“นะอานโน่”

“...แค่ครั้งนี้นะ”

“ขอบคุณ”

“เราจะไปสวนสัตว์ที่อยู่กรุงปารีส”มือที่ผมอยู่คลายออกก่อนที่อานโน่จะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ติดผนัง

“งั้นก็ต้องนั่งเครื่องไป”

“ใช่”

“แล้วจองรึยัง?”ช่วงปิดเทมอแบบนี้ควรจะจองเครื่องก่อนล่วงหน้าสักอาทิตย์กันไว้

“ของฉันไม่มีปัญหาหรอกแต่ของนายน่ะสิ”

“ฉัน?”ทำไมของผมต้องมีปัญหาด้วย?

“อืม...ถ้าไปแล้วไม่มีที่นั่งฉันจะทิ้งนายไว้ที่สนามบินแน่”ถึงน้ำเสียงที่พูดนั่นจะปกติแต่แววตานั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเอาจริงแน่

“หึ...นายมากกว่ามั้งที่จะถูกทิ้ง”มาดูถูกคนของตระกูลเฟวรีเย่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดแบบนี้ก็แย่สิ

แค่ตั๋วเครื่องบินใบเดียวถ้ายังหาไม่ได้ก็เสียชื่อแล้ว

“ก็มารอดูกัน”

สนามบินเป็นอย่างที่คาดที่ผมได้คาดการณ์ไว้เพียงแค่มาถึงก็มีผู้คนมากมายยืนออกันอยู่ที่บริเวณทางเข้าออกและด้านในของสนามบิน ไม่ต้องลองก็รู้ได้ในทันทีว่าคงไม่มีทางที่จะได้ตั๋วของวันนี้มาแน่ถ้าไม่ใช่ผม...อย่างที่บอกไปว่าตระกูลเฟวรีเย่เป็นตระกูลที่มิทธิมาก ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความที่คนในตระกูลมักจะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่เสมอเลยมีการทำข้อตกลงกับทางสายการบินว่าในทุกๆเที่ยวบินต้องมีที่ว่างอยู่ประมาณ2ที่เพื่อให้คนของตระกูลได้ขึ้นในเวลาที่ต้องการ

แต่ทุกอย่างล้วนมีข้อแลกเปลี่ยนทั้งนั้นการที่จะได้ตามที่ต้องการก็ต้องเสียเงินให้กับสายการบินในแต่ละเดือนซึ่งถือว่ามากโขเลยทีเดียว

“อานโน่”ผมเรียกคนที่เดินนำไปยังที่จำหน่ายตั๋ว เรือนผมสีเงินแซมน้ำเงินที่ปล่อยยาวกับดวงตาสีแดงอ่อนทำให้ผู้คนโดยรอบหันมามองเป็นตาเดียวแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาพูดคุยอะไร

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นอีกฝ่ายเปิดเผยตัวต่อสาธารณะ...ความรู้สึกหวงนั้นเข้ามาภายในใจอย่างรวดเร็วยิ่งเห็นว่ามีทั้งหญิงชายที่มองมาด้วยสายตาที่สนใจทำให้ผมเดินเข้าคู่กับคนที่ไม่รับรู้ถึงสายตาเหล่านั้น

อยากให้ทุกคนเห็นว่าคนคนนี้มีเจ้าของแล้ว

แม้ในความจริงผมจะไม่ใช่เจ้าของก็ตาม

“มีอะไรเชส?”

“ตั๋วฉันหาให้สองใบได้นะให้ฉันจัดการเถอะ”

“นายจะหามาจากไหน?”คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่พร้อมหันมามองอย่างสงสัย

“ตระกูลเฟวรีเย่น่ะทำสัญญากับสายการบินไว้”

“นั่นแปลว่าไม่ใช่นายที่หามาได้แต่เป็นตระกูลนายไม่ใช่รึไง?”

“...”สิ่งที่อานโน่พูดทำให้ผมชะงัก

ก็จริงอย่างที่ว่า...ไม่ใช่ผมที่หาได้แต่เป็นตระกูลเฟวรีเย่

“นายไม่ชอบใช้ชื่อตระกูลตัวเองนี่”

“ก็ใช่แต่ถ้าไม่ใช้เราจะไปยังไงล่ะ?”ผมถามกลับ

“เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องตั๋วให้ละกัน”อีกฝ่ายพร้อมเข้าไปคุยกับพนักงานที่ขายตั๋วเครื่องบิน

“ซื้อตั๋วที่ไปปารีสเร็วที่สุดครับ”

“ขอโทษด้วยคะ...ตอนนี้เครื่องเต็มแล้วคะ”พนักสาวตอบกลับมาด้วยประโยคที่ผมคาดการณ์ไว้

ว่าแล้วเชียว

“อานโน่...”ยังไม่ทันได้พูดอะไรผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคนตรงหน้าหยิบบัตรสีดำที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่องค์กรทั่วทั้งโลกรู้จัก
บัตรนั่นเป็นบัตรที่ใครต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้รับมัน...แค่มีมันในครอบครองก็เหมือนกับมีเหล่าอัจฉริยะทั้งสามของโลกคอยหนุนหลังเพียงแต่คนที่จะได้รับบัตรนั่นมีน้อยคนนักและส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีความสามารถระดับหัวกะทิเท่านั้น

ทำไมอานโน่มีได้กัน?

“ทางเราต้องขออภัยที่เสียมารยาทคะ...นี่เป็นบัตรที่นั่งวีไอพี2ที่....เชิญขึ้นเครื่องAC8ที่ประตู8ได้เลยคะ”พนักงานสาวรีบเอ่ยขอโทษพร้อมยื่นบัตรให้อย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณครับ...ไปกันเถอะเชส”อานโน่ว่าพร้อมกับเดินไปยังเครื่องที่ต้องขึ้นท่ามกลางความสงสัยของผมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

.............................................................................

สวัสดีค่ะ

มาอัพต่อแล้วว

ตอนหน้ามีการบู๊เล็กน้อย

เชสเองก็มีส่วนบู๊ด้วยนะ อิอิ

วางให้เชสเป็นพวกการต่อสู้อยู่ก่อนเพราะง่ายต่อการแต่งค่ะ

แถมด้วยความที่เป็นตระกูลดังก็ต้องมีการเรียนทักษะการต่อสู้อยู่บ้างจึงเป็นโอกาสดีที่จะให้เชสเป็นการต่อสู้มาก่อน

แต่ที่ครั้งก่อนสู้ไม่ได้อาจเพราะอะไรหลายๆอย่าง ไม่พร้อมบ้าง ตกใจบ้าง ไม่ได้ฝึกมานานบ้าง หรือลืมพวกการต่อสู้ไปบ้าง

จากนี้เชสคงจริงจังกับการฝึกมากขึ้นแล้ว 555

หลังจากตอนนี้ไปจะเริ่มเข้าเนื้อหาเข้มข้นแล้ว

ยังไงก็รอติดตามกันนะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

บ๊ายบาย :mew1:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
แค่เจอไดโนเสาร์ก็ไม่รู้จะสู้ด้วยยังไงแล้ว   ฝึกสู้กับคนกับฝึกสู้กับไดโนจังไม่เหมือนกัน

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :hao7:   พี่เชสของชร๊าน อาการหนักพอกันน้องอานโน่เลย   อยากให้คุณพ่อตากับแม่ยายมาฟาดกับพี่เชสไวๆแล้ว   อยากรู้จังว่าจะมั่นอีกมั้ย   :z2:  โรคจิตอยากเห็นพี่เชสโดนซัด    :hao7:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ต่างฝ่ายต่างหวง ห่วง กันคนละอย่าง น่ารักอะ  :impress2:

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ไปเจอพ่อตาแม่ยายซะนานจะได้ไม่ตกใจแต่ระวังช๊อคตายตอนเจอกันนะเซส

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เริ่มแสดงด้านหวงออกมาเรื่อยๆละนะเชส

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
เชส นายยังคงต้องเกิดอาการมึนงงอีกเยอะ เพราะงั้นจงทำตัวให้ชิน ฮ่าๆๆๆๆ    :laugh:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อั๊ยย่ะ ทำไมแลดูอานโน่จะเทพกว่าเชสอีกนะเนี่ย ก็แม่กับปู่เป็นคนดังนี่นา รอภาคบู๊

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
มาแล้วๆ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว~

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ เชสตะลึงละสิ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เชสเวลาอยู่กัอานโน่ เหมือนเด็กน้อยเลย น่ารักทั้งคู่เลยยย

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อยากให้เชสเจอว่าที่พ่อต่แม่ยายแล้ว
เชสอย่ายอมให้อานโน่เหนือกว่านะ ต้องเอาให้อยู่

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
เชสสู้ๆนะลูก

ฝึกฝนเยอะๆเข้าไว้นะ สู้ตายยยยยย

ไปสวนสัตว์คราวนี้เราคงได้เห็นทั้งคู่บู๊กันแล้วสินะ

อานโน่อ้อนน่ารักอ่าาาาาาา   :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เชสฟาร์มมาเรียบร้อยละ อานโน่ไม่ต้องห่วง เชสซับได้แน่นอน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด