{ เรื่องสั้น } ของขวัญจากความลับ [จบ] ... for Valentine's day 2016
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { เรื่องสั้น } ของขวัญจากความลับ [จบ] ... for Valentine's day 2016  (อ่าน 20786 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
















{ เรื่องสั้น } ของขวัญจากความลับ
 BY : Chiffon_cake









   



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2016 21:30:41 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ของขวัญจากความลับ
By Chiffon_cake





12 กุมภาพันธ์ 2016

        “มึงอยู่ไหนเนี่ย”
   เช้าวันศุกร์ของวันที่จะใกล้วันวาเลนไทน์ ผมกดโทรออกหาเพื่อนสนิทที่ชื่อ ‘ไอ้อ๊อฟ’ ตอนที่ผมเข้ามาในโรงเรียนและยังไม่เห็นเงาของมัน
   “อืม...” เสียงยานคางแบบนี้แปลว่ายังไม่ตื่นใช่มั้ยเนี่ย
   “สัด มึงอยู่ไหน” ผมถามต่อไป
   “บ้าน”
   “มึงไม่มาโรงเรียนเหรอวะ” ผมมองนาฬิกา ตอนนี้ปรากฏเป็นเวลา 07.30 น. ถ้าตอนนี้ไอ้อ๊อฟยังอยู่บ้าน แสดงว่ามันสายเหี้ยๆ สำหรับวันนี้แล้วครับพี่น้อง ผมรู้ดีเลยทีเดียวเพราะบ้านผมอยู่ห่างจากบ้านมันไม่เท่าไหร่...
   “ไม่ไปอ่ะ”
   “เป็นอะไร”
   “กู...”
   “ไม่สบายเหรอ”
   “ไม่ใช่”
   “แล้วเป็นเหี้ยอะไร”
   “กูขี้เกียจไป วันนี้วันที่ 12 ใช่ป่ะ แล้ววันอาทิตย์แม่งก็เป็นวันที่ 14...”
   ผมรู้ดีว่าไอ้เชี่ยอ๊อฟหมายถึงอะไร วันที่ 14 ที่จะถึงนี้คือวันวาเลนไทน์ มันเป็นวันอาทิตย์แน่นอนว่าโรงเรียนไม่ได้เปิดทำการแต่อย่างใด นักเรียนส่วนใหญ่เวลาจะให้ของขวัญวาเลนไทน์ก็ให้กันวันนี้นี่แหละ
   ผมรู้ดีอยู่แก่ใจ เพราะกล่องของขวัญที่ผมเตรียมมาอยู่ในกระเป๋านักเรียนของผมมันก็สั่นไปมาตามแรงที่ผมเดิน เป็นการตอกย้ำเป็นอย่างดีว่าผมรู้ถึงงานเทศกาลนี้ขนาดไหน
   “แล้วยังไง...”
   “กูขี้เกียจไปขนของขวัญกลับบ้าน”
   เหอะ หนุ่มฮอตอย่างมันทุกปีแม่งก็จะมีอารมณ์แบบนี้ อารมณ์ที่ไม่อยากอยู่โรงเรียนตอนใกล้วันวาเลนไทน์เพราะขี้เกียจรับของขวัญ จริงอยู่ที่ไอ้อ๊อฟพูดนั้นแม่งโคตรน่าหมั่นไส้ แต่ก็เป็นอย่างที่มันพูดนั่นแหละครับ สาวๆ จากทั่วทุกสารทิศหอบของขวัญมาให้มันในวันแบบนี้ทั้งเล็กทั้งใหญ่ จนหลายครั้งที่มันต้องโทรรบกวนคนที่บ้านให้มาขนกลับไปให้ มันจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องทำนองนี้อีก
   ยิ่งเป็นปีสุดท้ายที่มันจะได้เรียนอยู่ที่นี่ด้วยแล้ว...มันยิ่งต้องหลบแฟนคลับตั้งแต่ม.1 ยันม.6 ของมันอีก...

   ถือซะว่าผมเข้าใจ...

   “ตกลงไม่มาใช่ป่ะ”
   “อืม”
   “งั้นแค่นี้นะ”
   “เดี๋ยวๆ” ไอ้อ๊อฟพูด “มึงเรียนคนเดียวไหวใช่มั้ยวะ ไม่มีใครนั่งข้างๆ อ่ะ”
   “ไอ้สัด มึงไม่มาเดี๋ยวคนอื่นแม่งก็เดินมานั่งข้างกูอยู่ดีนั่นแหละ”
   “...อืม”
   “กูวางละ”

   ผมกดวางสายพร้อมกับถอนหายใจยาว...

   แม้จะเข้าใจแต่ก็ผิดหวังฉิบหาย...

   ของขวัญที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากูเนี่ย...กูเอามาให้มึงนะอ๊อฟ...ไอ้หนุ่มฮอตเอ๊ย

   วาเลนไทน์ปีสุดท้ายที่จะได้อยู่กับมันในชีวิตมัธยมของผม








   มันช่างเป็นวันที่น่าห่อเหี่ยวหัวใจเหลือเกิน
 
   ทั้งโรงเรียนเต็มไปด้วยสีแดงและก็สีชมพู มีทั้งดอกกุหลาบ ทั้งตุ๊กตาหมี และก็ช็อคโกแลต จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นวันที่ผมยินดีปรีดาและมีความสุข แต่ไม่เลยครับ...ผมควรจะได้ให้ของขวัญกับคนที่ผมชอบสิ ถ้าผมได้ให้ผมอาจจะรู้สึกมีความสุขกับวันนี้มากขึ้นก็ได้ เพราะอะไรน่ะเหรอ...อย่างน้อยผมก็จะได้แชร์ความรักที่อยู่ในความลับของผมมานานถึงหกปีไง...
   อ๊อฟคือคนที่ผมแอบชอบตั้งแต่ม.1 มันเป็นอดีตเพื่อนห้องข้างๆ ตอนม.ต้นและม.ปลายถึงได้มาอยู่ห้องเดียวกัน มันกับผมเริ่มสนิทกันตั้งแต่ม.4 จนตอนนี้พวกเราอยู่ม.6 แล้ว แน่นอนว่าผมรักษาความลับไว้เป็นอย่างดี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการเป็นเพื่อนไอ้อ๊อฟอย่างแนบเนียนและในที่สุดผมก็ตัดสินใจว่าวันนี้ผมจะบอกความรู้สึกที่ผมมีให้แก่มันไป...

   ...เพราะอีกไม่นานก็ปัจฉิมนิเทศชั้นม.6 แล้วครับ...

   ผมคงจะไม่ได้เจอมันอีกนานเลย...แม้ว่าบ้านเราจะอยู่ในละแวกเดียวกัน

   ผมต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ในขณะที่มันเพิ่งสอบติดจุฬาฯ ไป...เรื่องนี้มันยังไม่รู้ครับ มันคิดให้ผมว่ายังไงซะผมก็ต้องเลือกแอดมิชชั่นเข้าจุฬาฯ ตามมันอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้น...

   เพราะงั้นผมถึงมีความกล้ามากขึ้นที่จะบอก เมื่อเราสองคนเติบโตไปก็อาจจะได้เจอกับใครใหม่ๆ หากผมหมดความรู้สึกกับมันไปแล้ว อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่คิดย้อนหลังกลับมาด้วยความเสียดายว่าทำไมวันนี้ถึงไม่ได้บอกรักมันไปนะ

   แต่มันเสือกที่จะไม่มาโรงเรียนวันนี้ด้วยสิ...ความกวนตีนมันอยู่ตรงนี้แหละ

   “เย็นนี้ไปไหนวะปั้น” ไอ้อ้วนเพื่อนร่วมห้องถาม ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วครับ
   “กลับบ้านว่ะ” ผมตอบสั้นๆ
   “นึกว่าจะไปฉลองกับสาวที่ไหน”
   “ไม่ฉลองหรอก รีบกลับดีกว่า มองไปทางไหนก็เอียน เห็นแต่คนรักกัน” ผมแกล้งบ่น ไอ้อ้วนหัวเราะ ก่อนที่จะเดินนำหน้าผมออกไปทางประตูหลังห้อง
   “เออมึง...” ไอ้อ้วนเอ่ย “มึงจะทำยังไงกับของขวัญของไอ้อ๊อฟวะ จะทิ้งไว้ที่นี่น่ะเหรอ”

   อ้วนกับผมมองดูของขวัญที่กองพะเนินเทินทึกอยู่บนโต๊ะของไอ้อ๊อฟ สงสารคนที่ชอบมันจริงๆ เลย(สงสารตัวเองด้วย) คนฮอตอย่างมันควรจะมาในวันนี้แท้ๆ กลับเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน

   ผมมองของขวัญพวกนั้นอย่างครุ่นคิดว่าจะเอายังไง...สาวๆ (และก็มีหนุ่มๆ เป็นบางส่วน) บางคนที่เข้ามาในห้องและก็ไม่เจอไอ้อ๊อฟก็ฝากฝังเอาไว้กับผมว่าฝากให้อ๊อฟหน่อย แล้วถ้าผมทิ้งไว้แบบนั้นมันจะโอเคเหรอ

   บางชิ้นเป็นช็อคโกแลตอย่างดีด้วย ทิ้งไว้ข้ามวันเสาร์วันอาทิตย์แบบนี้มันยังไงๆ อยู่นะ

   “มึงกลับยังไงวะวันนี้” ไอ้อ้วนค่อยๆ ถามผม
   “รถไฟฟ้า...”
   “...”
   “...แต่โทรเรียกให้แม่มารับก็ได้”

   กว่าแม่จะมาถึงหน้าโรงเรียนผมก็เกือบชั่วโมงหนึ่ง ผมกับไอ้อ้วน(ที่ใจดีอยู่เป็นเพื่อนรอผม)พากันขนของขวัญไอ้อ๊อฟใส่หลังรถแม่อย่างยากลำบาก ตอนแรกที่แม่เห็นแม่ก็ตกใจเป็นอย่างมาก นึกว่าลูกแม่อย่างผมคือหนุ่มป๊อบที่มีแฟนคลับมหาศาลในโรงเรียน

   “ของอ๊อฟมัน...” ผมบอกแม่

   แทนที่แม่จะทำหน้าผิดหวัง แต่แม่กลับทำหน้าเฉยชาซะงั้น “รู้อยู่แล้วล่ะ ลูกแม่จะมาป๊อบสู้น้องอ๊อฟได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย”

   “นั่นสินะแม่”
   “แล้วนี่ต้องขนไปให้อ๊อฟเหรอ เจ้าตัวไปไหนซะแล้วล่ะ”
   ผมมองหน้าไอ้อ้วนอย่างขอความเห็น ก่อนที่จะตอบ “มันไม่สบายน่ะครับ”
   “งั้นเหรอ”
   “...”
   “เป็นเพื่อนที่ดีจังเลยนะเรา ขนของขวัญวันวาเลนไทน์ที่เพื่อนได้กลับไปให้เพื่อนด้วย”
   “บางคนเขาฝากผมเอาไปให้อ๊อฟน่ะครับ”
   “อืม งั้นก็รีบๆ ขึ้นรถมาเถอะ แค่นี้รถก็ติดจะแย่อยู่แล้ว” แม่ไปเปิดประตูฝั่งคนขับ ไอ้อ้วนบอกลาผมเพราะมีนัดต่อ ส่วนผมทำหน้าที่เป็นคนปิดฝากระโปรงหลังรถที่มีของขวัญมากมายที่เป็นของไอ้อ๊อฟทั้งหมด

   ก่อนปิด...ผมมองของขวัญที่อยู่ในกระเป๋าตัวเองอย่างชั่งใจ

   เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน ให้มันอ่านจดหมายเอาน่าจะดีกว่าให้มันรู้จากปากของผมเอง

   ผมหลับตาปี๋ หยิบของขวัญของผมเองที่มีขนาดเล็กเท่ากำปั้นใส่ลงไปรวมกับของคนอื่นก่อนที่จะปิดฝากระโปรงหลังรถและก็รีบไปนั่งข้างแม่เพื่อที่จะกลับบ้าน








   
   “รายงานตัววันที่เท่าไหร่นะปั้น”
   “รายงานตัวอะไรแม่”
   “ทุนที่จะไปออสเตรเลียไง”
   ผมถอนหายใจ “วันจันทร์นี้...”
   “ลูกอยากไปแน่ใช่มั้ย แน่ใจแล้วเหรอว่าอยากเดินเส้นทางนั้นน่ะ”

   ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง อยากจะสารภาพจากใจว่าส่วนหนึ่งที่ผมอยากไปต่างประเทศก็เพราะไอ้อ๊อฟ หกปีที่ผมชอบมันนั้นมันเปลี่ยนความรู้สึกจากความประทับใจในวัยแรกรุ่นเป็นความรักเมื่อได้ชิดใกล้ ประมาณของมันมากพอที่จะทำให้ผมไม่สามารถทำใจอยู่ใกล้ๆ มันตามเดิม และมองดูการเปลี่ยนแปลงของมันเรื่องที่ว่ามันคบใครต่อใครได้อีกต่อไป

   ผมอาจจะทนเห็นมันเปลี่ยนแฟนมานาน...เจ็บจนชินและชา...แต่ทว่าความเจ็บนั้นใช่ว่าผมอยากที่จะเจอมันอีก

   พูดง่ายๆ ก็คือหนีรักไปเรียนนั่นแหละครับ

   “แน่ใจ...มั้งแม่” ผมพูด
   “แม่ไม่ได้ว่าอะไรนะ ลูกเป็นคนเรียนเก่ง จะเลือกทางไหนแม่ก็รู้ว่าลูกต้องทำได้ดีแน่ๆ” แม่พูดไปเรื่อยก่อนที่จะหันมามองหน้าผม “บอกอ๊อฟหรือยังล่ะ ได้ข่าวว่าจะเข้าจุฬาฯ ด้วยกัน”

   แม่กับอ๊อฟสนิทกันเพราะอ๊อฟชอบมาเล่นที่บ้านผม...ผมส่ายหน้าเบาๆ

   “ตายแล้ว นี่อ๊อฟยังไม่รู้เหรอ”
   “ครับ”
   “รีบบอกเลยนะ เดี๋ยวจะมีปัญหากัน”
   “ไม่มีหรอกแม่...”
   “...”
   “...หลังจากวันนี้ไป อ๊อฟมันอาจจะรู้สึกดีก็ได้ที่ผมห่างมันออกไป”
   “ทำไมล่ะ”

   ผมถอนหายใจอีกครั้ง...ไม่ตอบอะไรแม่ แม่ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ส่งให้ผม

   หลังจากที่มันได้อ่านการ์ดของผมที่รวมอยู่ในกองของขวัญมหาศาลของมัน...มันก็คงจะเป็นอย่างที่ผมพูดนั่นแหละ มีอย่างที่ไหนเพื่อนซี้ตัวเองมาชอบตัวเอง คนแมนล้านเปอร์เซ็นต์อย่างมันคงไม่พอใจหรอกครับ

   อีกอย่าง...ผมก็รู้ว่ามันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว...เป็นสาวจากต่างโรงเรียนคนหนึ่งที่สวยมากจนมันต้องบากหน้าเข้าไปขอไลน์เขา และตอนนี้ก็กำลังคุยกันอยู่ด้วย...

   ...คงไม่มีใครชอบให้เพื่อนมาชอบหรอกครับ...

   “ถึงแล้ว...โทรเรียกอ๊อฟออกมาสิลูก”

   หน้าบ้านไอ้อ๊อฟ ผมออกมาจากรถและก็โทรเรียกให้อ๊อฟมันออกมาหน้าบ้านเพราะผมขนของขวัญมาให้ ผมเห็นสภาพมันแล้วอยากจะเอาดอกไม้มาฟาดหน้ามันมาก เพราะแม่งแต่งตัวหล่อตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว
   ให้กูเหนื่อยขนของขวัญมาให้ แต่มึงแต่งหล่อเตรียมออกไปเดตเนี่ยนะ

   แม่งเอ๊ย...หัวใจของกู...เจ็บแปลบไปหมด

   “เชี่ยปั้น”
   “เอาของขวัญมาให้”
   “หา”   

   ผมเปิดฝากระโปรงรถ ไอ้อ๊อฟทำตาโตใส่ปริมาณของขวัญที่ทั้งมหาศาลและก็ถูกยัดแน่นจนไม่แทบไม่เหลือที่ว่าง หนึ่งในนั้นมีของขวัญของผมด้วย...แต่ผมปล่อยไม่ให้มันรู้หรอกครับ ให้แม่งไปเปิดด้วยตัวของมันเองดีกว่า

   “มึงซื้อให้กูหมดนี่เลยเหรอ”
   “บ้านมึงสิ” ผมตอบ “เร็วๆ เลย ขนเข้าไปในบ้าน”
   “โห อุตส่าห์เป็นธุระให้...พ่อพระฉิบหาย”
   “กูกลัวช็อคโกแลตละลาย สงสารคนให้ว่ะ”
   “จิตใจดีงามนะมึงน่ะ”
   “เพราะกูรู้ไงว่าคนให้รู้สึกยังไง มึงรับมาตลอด มึงไม่รู้หรอกใช่มั้ย”
   “แล้วจะแซะเพื่อออออออ” ไอ้อ๊อฟร้องโวยวาย “ที่กูไม่ไปก็เพราะเคยมีผู้หญิงตบกันแย่งกูในวันนี้ มึงเป็นเพื่อนกูมึงก็น่าจะรู้ดีนี่”

   จริงของมัน...ทำไมผมลืมไปนะ...ผู้หญิงเคยตบกันแย่งไอ้อ๊อฟในวันวาเลนไทน์ ข่าวแม่งก็ออกจะใหญ่นี่หว่า การที่มันทำให้ผู้หญิงเขาโดนภาคทัณฑ์แบบนั้นทำให้มันไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนในวัน(ที่ใกล้)วันวาเลนไทน์อีกเลย...

   ลืมไปเสียสนิท...

   “เอาเถอะ รับๆ ไป คนสวยๆ มาให้มึงเยอะเลย” ผมพูด ค่อยๆ ขนช่วยมันทีละนิดๆ ส่วนแม่ของผมน่ะเหรอ นั่งเติมแป้งอยู่ข้างในรถครับ
   “ใครบ้าง จูนมามั้ย”
   “มา”
   “น้องอีฟ”
   “มา”
   “ไตเติ้ล”
   “มา...มั้งนะ”
   “น้องออม”
   “คนนี้ไม่เห็น”
   “อืม แค่นี้ก็ถือว่าการันตีความฮอตของกูละ”

   หมั่นไส้แม่ง...ผมขนไปเบะปากไป มันบอกให้ผมขนขึ้นไปบนห้องของมันเลย เพราะถ้าพ่อแม่มันเห็นเดี๋ยวจะหาว่าทำบ้านรกอีก วันนี้อ๊อฟมันอยู่บ้านกับแม่บ้านของมันครับ พ่อกับแม่ยังไม่กลับจากที่ทำงาน

   ตอนที่อ๊อฟลงไปขนรอบสอง ผมมองดูของขวัญของตัวเองที่ไม่แตกต่างอะไรจากของขวัญของคนอื่น บางคนนี่ทั้งดูแพงและก็ดูสวยกว่าของผมตั้งเยอะ ผมมองอย่างชั่งใจ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่ผมจะเก็บของขวัญของผมกลับคืนและปิดเรื่องความรู้สึกที่ผมมีต่อมันไว้เป็นความลับต่อ แต่ทว่า...ถ้าไม่บอกมันวันนี้ ผมอาจจะไม่มีโอกาสบอกอีกเลยก็ได้

   หลายคนอาจจะมองว่าวันแห่งความรักเป็นวันแห่งการอวดแฟน วันที่คนโสดเจ็บนักเจ็บหนาเรื่องไร้คู่ แต่สำหรับผมนั้นมันเป็นวันที่ถือเป็นฤกษ์งามยามดีในการบอกความรู้สึกของตัวเองว่ะ

   ถ้าไม่ใช่วันนี้...ผมก็คงไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองแน่ๆ จริงๆ นะครับ

   เอาก็เอาวะ...ผมหันหลังกลับไปทิ้งของขวัญของตัวเองไว้อยู่ข้างหลัง แต่ตอนที่ผมหันมา ผมก็เห็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาบังหน้าผมเอาไว้ซะก่อน

   ผมตกใจแทบล้มหงายหลัง ไอ้อ๊อฟหัวเราะ เดินเข้ามาในห้องของมันและก็ปิดประตู

   “อ้าว แม่กูล่ะ”
   “กูบอกว่ามึงจะอยู่เล่นกับกูก่อนแล้วค่อยกลับบ้านน่ะ” มันวางตุ๊กตาหมีของมันลงกองรวมกับของขวัญชิ้นอื่นๆ
   “เล่นเหี้ยอะไร มึงกำลังจะออกไปเดตไม่ใช่หรือไง”
   “อีกตั้งนาน...”
   “กับใครวะ”
   “ไอ้นี่ มึงก็น่าจะรู้ๆ อยู่ กูจีบใครอยู่ล่ะ”

   คนที่มันบากหน้าไปขอไลน์...ชื่อผ้าไหม ดาวโรงเรียนแสนสวยที่เพื่อนผมชอบกดไลค์และก็กดฟอลโลว์กัน

   “แล้วจะให้กูอยู่เพื่ออะไร ให้กูไปนอนเถอะ”

   หมับ...ไอ้อ๊อฟคว้าคอเสื้อนักเรียนของผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะเดินออกไปได้ทัน

   “กูขอแม่มึงแล้ว มึงต้องอยู่”
   “แต่มึงไม่ได้ขอกู”
   “แต่แม่มึงอนุญาตแล้วไง”
   “สัด” บังคับกันชัดๆ ผมสะบัดมือมันออก โยนกระเป๋านักเรียนของตัวเองทิ้งไว้มุมห้อง ก่อนที่จะนั่งลงในมุมห้องที่ผมชอบนั่ง
 
   มันจะเล่นอะไรกับผม...อยากจะรู้นัก...

   “มีอะไร...”
   “กูมีเรื่องปรึกษา”
   “เรื่อง?”
   “ผ้าไหม”

   ถ้าผมดื่มน้ำอยู่ผมคงจะสำลักไปแล้ว ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำให้เหมือนทุกครั้งที่ผมทำเวลาพูดเรื่องผู้หญิงนั่นก็คือ...ทำความรู้สึกของตัวเองให้เหมือนเป็นเพื่อนมัน

   ทั้งๆ ที่ผมน่ะชอบมันฉิบหาย ชอบมันแทบบ้า...

   “มีอะไรล่ะ”
   “กูว่าเค้าเยอะว่ะ”
   “ยังไง” ผมคิ้วขมวด
   “ก็เยอะอ่ะ” อ๊อฟกวาดของขวัญของมัน เพื่อที่มันจะมีที่ว่างนั่งบนเตียง ผมเห็นของขวัญของผมกลิ้งไปไกล ไม่รู้กลิ้งไปถึงไหนแล้ว นั่นทำให้ผมเจ็บอยู่ลึกๆ

   มึงหาของขวัญกูให้เจอตอนมึงเริ่มแกะของขวัญนะ ไม่งั้นกูโกรธ...

   “เขาเอาแต่ใจ เขาไม่ยอมปล่อยให้กูไปหาที่โรงเรียนตอนเลิกเรียนเลย เขามาหากูแทน ทั้งๆ ที่กูเป็นคนขอไลน์เขาอ่ะ มึงงงมั้ย”
   “ไม่เห็นน่างงเลย ก็เขาชอบมึงไง”
   “แต่กูเริ่มคิด...เรื่องที่กูอาจจะไม่ได้ชอบเขาว่ะ”

   หัวใจของผมที่ห่อเหี่ยวแลดูเหมือนจะมีน้ำมาเติมให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

   “จำได้มั้ย หลายครั้งที่กูเลิกกับแฟนคนแล้วคนเล่า เพราะกูคิดว่ากูแม่งไม่เคยชอบใครแบบที่กูชอบจริงๆ สักที ส่วนใหญ่ที่กูคบก็เพราะเขาสวย และเขาก็ดัง...”

   มึงนี่มันเพลย์บอยขนานแท้ ผมทำหน้าเฉยๆ ขณะรับฟัง เรื่องราวเหล่านี้เกี่ยวกับตัวไอ้อ๊อฟ มีหรือที่คนอย่างผมจะไม่รู้ อ๊อฟมันเป็นเด็กผู้ชายที่ทั้งเด่นและก็ดังในโรงเรียน คนที่เข้ามาหามันส่วนใหญ่ก็มีแต่สวยหยาดฟ้ามาดินและก็เป็นเน็ตไอดอล พอคบกับคนเหล่านั้นทีไร...ไปได้ไม่สวยทุกที เพราะลงท้ายด้วยการที่ว่าอ๊อฟไม่ได้ชอบผู้หญิงพวกนั้นจากใจของมัน

   ผ้าไหมคนนี้ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น...

   “หลังจากนี้กูคงต้องพอแล้วมั้งเรื่องนี้...” อ๊อฟเปรย หยิบช็อคโกแลตในกองของขวัญของมันขึ้นมากินเล่น “...กูคงต้องรอใครสักคนที่กูชอบเขาจริงๆ และเขาก็ชอบกูว่ะ”

   ช่วยเก็บกูไว้ไปพิจารณาได้มั้ยเพื่อน T_T แม่งจี๊ดมาก มันจี๊ดจริงๆ นะครับ การที่มันพูดอะไรทำนองนี้แสดงว่ามันมองข้ามผม มองไม่เห็นหัวผมเลย

   ปลายทางของผมกับไอ้อ๊อฟ ผมมองเห็นน้ำตาและก็ความผิดหวังของตัวเอง...

   แม้จะทำใจกับเรื่องนี้มานานมากแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เจ็บอยู่ดีนั่นแหละ

   “กินมั้ย” จู่ๆ ไอ้อ๊อฟก็นั่งลงข้างหน้าผม และก็ยื่นช็อคโกแลตเข้ามาป้อน

   ผมกลืนน้ำลาย ก่อนที่งับช็อคโกแลตชิ้นนั้นจากนั้นก็เคี้ยวเบาๆ ไอ้อ๊อฟทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผม พร้อมๆ กับเอามือโอบรอบคอของผม

   เกลียดมันก็ตรงนี้...

   เชี่ยอ๊อฟชอบสกินชิพ

   มันทำให้ความรู้สึกของผมจากที่ประทับใจมันกลายเป็นความรักความลุ่มหลงก็เพราะมันชอบสกินชิพกับผมนี่แหละ! เกลียดฉิบหาย!

   ผมเอามือมันออกไป แต่แล้วมันก็เอามือมาโอบรอบคอผมอยู่ดี สัดเอ๊ย

   “อะไรวะเนี่ย ไปไกลๆ กูร้อน”
   “วันนี้มึงได้ของขวัญป่ะ”

   ผมส่ายหน้า...

   “จริงดิ” อ๊อฟที่อยู่ใกล้ผมทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผมเบี่ยงหน้าหนีมันเพราะไม่อยากใกล้กว่านี้ “เหลือเชื่อว่ะปั้น หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ”
   “หน้าอย่างกูทำไม...”
   “มึงก็...หน้าตาดีอ่ะ” มันพูด “น่าจะได้ของขวัญบ้างนะ”
   อยากจะดีใจที่มันชม แต่ก็อยากจะลบตรรกะนี้ออกไปจากหัวมัน “คนหน้าตาดี ใช่ว่าจะมีคนชอบนะเว้ย”
   “เหรอวะ...” อ๊อฟเคี้ยวช็อคโกแลต ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบกล่องของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะส่งมาให้ผม “งั้นกูให้มึงแล้วกัน”
   ผมอ้าปากค้าง... “อะไร”
   “ของขวัญไง”

   อ๊อฟไม่กล้าสบตาผม มันเอาแต่มองหน้ามันด้วยความตกตะลึงงัน จนในที่สุดมันก็พูดว่า...

   “มึงจะตกใจอะไรนักหนา ก็เป็นของขวัญที่ผู้หญิงเขาเอามาให้กูนั่นแหละ กูใช้ไม่หมดหรอก แบ่งๆ มึงไปใช้บ้าง”

   “ฟวยเอ๊ย” ผมโยนของขวัญที่มันให้ใส่หน้าแม่ง “เห็นกูน่าสมเพชขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วนี่ผู้หญิงเขาให้มึงนะ ทำไมมึงต้องเอาไปให้คนอื่นด้วย สัด”

   “ใจเย็น ใจเย็น” อ๊อฟยัดกล่องของขวัญกล่องนั้นลงในกระเป๋าของผม... “เอาไปเหอะ สักชิ้นก็ยังดีนะ”

   “โกรธมึงละ ไปไกลๆ ส้นตีนเลย” ผมทำท่าจะลุกหนีมัน มันเอามือมาจับแขนผมเอาไว้

   “อย่าเพิ่งไป” อ๊อฟหยิบเอกสารอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าของผม ผมรีบเอามือไปคว้าไว้แต่คว้าไว้ได้ไม่ทัน

   เอกสารทุนเรียนต่อออสเตรเลียของผม

   “นี่อะไรวะ” อ๊อฟมองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย “มึงจะไปต่อออสเตรเลียเหรอ”
   “อืม”
   “ทำไมไม่บอกกู” อ๊อฟร้อง “แล้วจุฬาฯ ล่ะ ไม่มาเรียนกับกูหรือไง”
   ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะพูด “กูจะไปต่อนอกว่ะอ๊อฟ”
   “ทำไม”
   “เพราะกูจะไปไง”
   “กูไม่ให้ไป”
   “เชี่ยอ๊อฟ”
   “เก่งๆ อย่างมึงยื่นแอดก็ติดจุฬาฯ อยู่แล้ว ไม่ต้องไปนอกหรอก”
   “กูต้องไปเพื่อน”
   “กูไม่ให้มึงไป” อ๊อฟจับไหล่ผมแรงมากจนผมปวดไปหมด “มึงต้องเรียนที่เดียวกันกับกูเท่านั้น”
   “อย่าเอาแต่ใจตัวเองดิวะ”
   “มึงลืมสัญญาที่เราสองคนเคยให้กันไว้แล้วเหรอวะ”
   “สัญญาที่มึงพูดเองเออเองอ่ะนะ”
   “ว่าไงนะ...”
   “กูยังไม่ได้ตอบตกลงด้วยซ้ำ มึงเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว คิดอยู่ฝ่ายเดียวว่ากูควรทำอะไรหรือเรียนที่ไหน มึงไม่ถามกูเลยว่ากูต้องการอะไร”

   อ๊อฟดูอึ้งมากเมื่อเห็นผมพูดอย่างจริงจัง มันปล่อยผม และมันก็เอาแต่นั่งทำหน้าช็อคอยู่แบบนั้น

   “ให้กูไปเถอะ...”

   “...”

   “กูอยู่ข้างมึงแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วว่ะ”

   มันยากนะกว่าที่จะพูดออกไปแบบนั้นได้ อ๊อฟมองมาที่ผมด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่า

   “เพราะกูเป็นเพื่อนที่แย่มากเลยใช่มั้ย มึงถึงไม่อยากอยู่กับกูแล้ว”

   “ไม่ใช่อย่างนั้น”

   กูอยากที่จะลืมมึงต่างหาก...

   อยากที่จะลืมว่ากูรักมึง...


   “กูเข้าใจแล้วปั้น” อ๊อฟลุกขึ้นยืน “ไว้ค่อยคุยกันนะ”

   มันเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง ผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องโกรธและก็งอนผม แต่ว่าครั้งนี้ผมไม่สามารถง้อมันได้อีกต่อไปแล้ว ผมจำเป็นต้องใจแข็ง เพื่อที่จะให้มันได้รู้ว่าผมเอาจริง

   และก็ให้ตัวของผมทำใจได้ไวมากยิ่งขึ้น...

   วันที่สิบสองของผมกับมัน...คงไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว

        ของขวัญของผมคงถูกลืมไว้ที่มุมห้อง
        ไอ้อ๊อฟก็คงจะโกรธผมที่ผมไม่ได้เรียนที่เดียวกันอย่างที่มันปรารถนา

        ความรู้สึกของผม...ก็คงจะถูกเก็บเอาไว้ที่มุมห้องตามที่อยู่ของของขวัญของผมนั่นแหละ






ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
13 กุมภาพันธ์ 2016




   “ปั้น เพื่อนมาหาแน่ะ” เสียงแม่ร้องเรียกผม ผมขยับตัวไปมาในเช้าวันที่สิบสามด้วยอาการงัวเงีย เมื่อคืนกว่าผมจะได้นอนก็ตีสี่ มัวแต่คิดมากเรื่องไอ้อ๊อฟนี่แหละ

   ปัง!

   ผมยังไม่ทันถามด้วยซ้ำว่าใครมา ไอ้ตัวปัญหาที่ทำให้ผมนอนไม่หลับก็เดินเข้ามาในห้องของผมซะแล้ว นอกจากมันจะเปิดประตูเสียงดังแล้ว มันยังปิดประตูเสียงดังอีกต่างหาก มันทำหน้าบึ้งตึงขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ที่ๆ ผมนอนอยู่อย่างถือวิสาสะ
   “เหี้ยอะไรเนี่ย” ผมง่วงเกินกว่าที่จะอยากรู้ว่ามันมาทำไม นี่มันเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าเองไงครับ แล้วผมก็นอนตีสี่ ผมง่วงมากๆ เลย ผมเอาผ้าห่มมาปิดหน้า แต่มันดึงออก “มีอะไรวะ...”
   “ไปเที่ยวกัน”
   “เที่ยวเหี้ยไร ไม่ไป” ผมปฏิเสธ และก็แย่งผ้าห่มจากมันมาห่มบนตัว

   ไอ้อ๊อฟแม่งดื้อและก็เอาแต่ใจ มันทิ้งตัวนอนทับผม แต่เป็นนอนแนวขวางนะครับไม่ใช่นอนแนวเดียวกันกับผม

   “ลุกขึ้นเลย ไอ้ตัวแสบ”

   นอกจากมันจะนอนอย่างนั้นแล้วมันยังกลิ้งไปกลิ้งมาบนตัวผมเพื่อที่จะแกล้งอีกด้วย

   “เชี่ย ซี่โครงกูจะหัก มึงแม่งหนัก!”

   อ๊อฟชะงักและก็ลุกขึ้นนั่งตามเดิม...
   จากสภาพการณ์แล้วมันแม่งยังไม่ได้แตะต้องอะไรของขวัญของผม...เพราะมันทำตัวปกติมากถึงมากที่สุดนั่นก็คือบังคับและก็ขู่เข็ญให้ได้มายังสิ่งที่มันปรารถนานั่นก็คือ...ไปเที่ยว

   “จะไปไหนล่ะ” ผมลุกขึ้นบ้างและก็ถาม
   “มึงเลือก” มันตอบสั้นๆ ผมมองดูสภาพมันตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูก็รู้ว่าต้องสยามหรือไม่ก็ห้างที่ไหนสักที่แน่ๆ
   “ขออาบน้ำก่อนละกัน” ผมพูดอย่างมึนๆ นัยน์ตาของผมก็เหมือนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ หัวของผมเอียงไปมาเหมือนคนงัวเงียอย่างรุนแรง
   “มึงจะอาบน้ำทั้งๆ ที่มึงนั่งหลับเนี่ยนะ” ไอ้อ๊อฟหัวเราะเบาๆ
   “อือออ” ผมเอียงหัวไปซบกับไหล่ของมันและก็หลับนิ่งๆ โบราณเขากล่าวไว้ว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนง่วง(คนเมาไม่ใช่เหรอ?) เพราะงั้นตอนที่ผมยังไม่ได้อยู่ห่างจากมัน ผมก็จะขอตักตวงจากมันหน่อยก็แล้วกัน

   ไหล่แม่งกล้ามแข็งโป๊กตามประสาคนเล่นกีฬาเป็นประจำ...ฟินฉิบ...

   ฟินจนลืมง่วง

   “ให้กูเป็นหมอนให้เลยมั้ย” อ๊อฟขัดฟินของผมด้วยการจับหัวผมให้กลับมาตั้งตรงดังเดิม “ไปอาบน้ำ”
   “แม่งงงงง”

   ผมโวยวายเสียงยานคาง ก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำตามคำพูดของมัน

   ผมไม่รู้ว่าอ๊อฟเดินไปที่กระเป๋านักเรียนของผม มองดูของขวัญที่มันให้ผม แล้วมันก็บ่นเบาๆ กับตัวเองว่า

   “ยังไม่เปิดดูอีกเหรอ”







   ทำไมแทงหวยไม่เคยถูกแบบนี้วะ...
   ไอ้เชี่ยอ๊อฟพามาสยามจริงๆ ด้วย ผมกะแล้วเชียวที่มันแต่งตัวจัดหนักจัดเต็มมาขนาดนี้เพราะมันจะมาสยามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกเรามาในเวลาที่ห้างเปิดแน่นอน เพราะกว่าผมจะอาบน้ำ แต่งตัวและก็กินข้าวเช้า ก็ปาเข้าไปเกือบสองชั่วโมง แหะๆ มันจัดเต็มผมก็ต้องจัดเต็มดิ ผมไม่อยากยอมแพ้แม่ง...
   แอบดีใจเหมือนกันครับที่มันชวนมาเที่ยว ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเหมือนผมกับมันจะทะเลาะกันเลย ไอ้อ๊อฟทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะงั้นผมก็เลยสบายใจไปเปราะหนึ่ง

   “มึงอยากทำอะไร” มันเอียงคอมาถาม
   “ช้อปปิ้งมั้ง”
   “สัด เปลืองตังค์”
   “แล้วจะมาทำซากอะไรที่สยามถ้าไม่ช้อปปิ้ง”
   “แดกสิวะ” ไอ้อ๊อฟเอ่ย

   ก็จริงของมัน...แต่ผมเพิ่งกินมา ผมยังไม่หิวอะไรเลย

   “เออ ช้อปก็ช้อป ตามใจมึง”

   แปลกแฮะ นานๆ ทีเชี่ยอ๊อฟจะตามใจผม ผมพามันเดินดูร้านเสื้อผ้าตั้งแต่ฝั่งสยามสแควร์ก่อนจะไปฝั่งพารากอน บอกเลยว่าเด็กม.6 ที่มีที่เรียนแล้วอย่างผมมีเงินถุงเงินถังในการช้อปเพราะเพิ่งได้รางวัลจากญาติๆ มาเรื่องสอบติดก็หลายตังค์อยู่ มันช่างแฮปปี้...

   “อันนี้เหมาะกับกูมั้ย” ผมหันไปถามไอ้อ๊อฟที่ลองหมวกอยู่

         เชี่ย หล่อฉิบหาย
         เฮ้ย ผมต้องไม่ชมมันในใจ
         สิ่งที่อยู่ในมือผมคือผ้าพันคอสีเทาสลับดำลวดลายแนวสตรีทที่โดนใจผมมาก

   “เมืองไทยร้อน มึงไม่ต้องซื้อผ้าพันคอหรอก”
   “กูนึกไปถึงตอนกูไปเรียนที่โน่นน่ะ”

   ไอ้อ๊อฟชะงัก ชั่วครู่หนึ่งที่ผมเห็นมันทำนัยน์ตาเศร้าก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้น

   “ซื้อดิ ก็เท่ดี เหมาะกับมึง”

   ทำไมผมต้องรู้สึกผิดด้วยฟะ...ผมค่อยๆ วางผ้าพันคอเก็บไว้ตามเดิม ก่อนที่จะมาเป็นฝ่ายรอไอ้อ๊อฟเลือกหมวกแทน รู้สึกแย่ชะมัดเมื่อผมเห็นความเศร้าของไอ้อ๊อฟที่มีต้นเหตุมาจากผม

   แต่ถ้าผมไม่หนีมันไป...ใจผมก็จะแย่เอาเหมือนกันนะครับ...

   ก็ขอเวลาเซฟตัวเองหน่อยได้มั้ยล่ะเพื่อน ถ้ากูไม่เป็นไรแล้ว กูจะกลับมาหามึงในแบบที่เป็นเพื่อนได้อย่างบริสุทธิ์ใจ...









   ตอนบ่ายแก่ๆ
   กิจกรรมที่ผมกับมันเลือกก็คือดูหนัง ช่วงนี้มีหนังฮีโร่มาร์เวลที่กวนตีนและแหวกแนวอยู่เรื่องหนึ่งกำลังเข้า ผมเห็นอ๊อฟมันบ่นว่าอยากดูประจวบเหมาะกับที่ผมกับมันว่างพอดี (ผมน่ะว่างเสมอ แต่มันน่ะดันไม่มีนัดกับสาวที่ไหน) เพราะงั้นเราก็เลยคิดเหมือนกันว่าควรดูหนังกัน
   และเชี่ยอ๊อฟแม่งก็เสือกจะป๋า เลี้ยงหนังโรงที่ที่นั่งเป็นคู่ ราคาที่นั่งละหลายพัน
   กูไม่รู้ว่ามึงไปถูกหวยที่ไหนมา แต่มึงจำเป็นมั้ยที่จะต้องดูหนังในโรงที่ที่นั่งแพงแบบนั้นน่ะฮะ

   “ก็กูอยากลอง” มันเถียงเมื่อผมกำลังเถียงกับมันหน้าที่เครื่องซื้อตั๋วหนัง “กูไม่เคยดูหนังโรงที่ที่นั่งสบายแบบนั้น”
   “มันแพง!”
   “ฉายระบบ IMAX ด้วยนะมึง”
   “ไม่”
   “บนจอซิลเวอร์สกรีน”
   “ไม่เว้ย”
   “ระบบสามมิติด้วย”
   “...”
   “งั้นกูเลี้ยง”

   เพราะงั้นผมก็เลยมองเงินหลายพันที่อ๊อฟมันจ่ายไปด้วยสายตาละห้อย ผมแพ้มันทุกครั้งที่เถียงเพราะใจผมเองนี่แหละเลือกที่จะยอมมัน ครั้งนี้เองก็เหมือนกัน
   ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแม่งฟรีด้วยนั่นแหละ เหอๆ

   “อ๊อฟ” เสียงหนึ่งเรียกขึ้น ผมเห็นผ้าไหมกับเพื่อนสาวสุดสวยของเธอกำลังโบกมือเรียกไอ้อ๊อฟให้ไปหา ใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ยิ่งเห็นว่าผ้าไหมในวันนี้สวยแค่ไหนใจผมยิ่งหล่นลงไปแรงมากขึ้นเท่านั้น

   อ๊อฟทำหน้าไม่ถูก ขณะที่มองผมกับผ้าไหมสลับกัน ผ้าไหมเธอเดินมาพร้อมๆ กับถามว่าอ๊อฟมาดูหนังเหรอ

   “เอ่อ...”
   “ดูเรื่องอะไรล่ะ ซื้อตั๋วหรือยัง”

   ผมเป็นคนกำตั๋วในมือไม่รู้ทำไมต้องกำแน่นขึ้น ไอ้อ๊อฟไม่ทันได้ตอบอะไร ผ้าไหมกับเพื่อนก็พากันคิดเองเออเองว่าอ๊อฟควรดูหนังกับพวกเธอ

   “แล้วมึงล่ะ...” อ๊อฟถามเบาๆ

   ผมดึงตั๋วในมือฉีกออกมันสองอัน อีกอันให้ไอ้อ๊อฟ อีกอันให้ผม

   “กูไปดูหนังโรงหรูเอง มึงไปกับสาวๆ เหอะ”

   มันคงเสียดายตังค์มากเลยล่ะสิ ดูซิ ทำตาละห้อยเลย...
   แต่ทำไมต้องทำตาแบบนั้นใส่ผมด้วยนะ...

   “แต่ว่า...”
   “เรื่องนี้มึงอยากดูนี่ มีโอกาสแล้วก็ดูไปเลย”
   “กูไม่...” มันพยักพเยิดไปที่ผ้าไหมราวกับต้องการสื่อให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้ชอบเธอ ผมยักไหล่ ผู้ชายอย่างเราๆ บางครั้งก็ไม่ควรปฏิเสธผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ อย่างผ้าไหม...

   ผมพูดไปงั้นแหละ ที่จริง...ถ้าผมดูหนังกับมันล่ะก็...ผมคงตัดใจจากมันได้ยากมากขึ้นแน่ๆ

   แค่นี้ก็ยากมากพอแล้ว

   หลายครั้งที่ผมตื่นเช้า เฝ้าคิดกับตัวเองว่าจะตัดใจจากไอ้อ๊อฟ แต่พอเห็นหน้ามันที่โรงเรียน ผมก็ต้องเริ่มใหม่ในเช้าต่อไปทุกที เป็นอย่างนี้ติดต่อกันสองปีแล้วมั้ง...

   ครั้งนี้แม่งก็อาจจะเหมือนกัน...

   เอาเป็นว่า...ผมดูหนังก่อนดีกว่าครับ เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดทีหลัง








   พระเจ้า ผมสัมผัสได้ถึงความหรู มันเป็นที่นั่งกึ่งโซฟาที่โคตรสบาย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมื่อมองที่ข้างๆ ที่ว่าง และก็มองไปทั่วโรงที่มีแต่คู่หนุ่มสาวมาสวีทกัน ผมก็รู้สึกว่างโหวงในใจยังไงก็ไม่รู้...

   ผมเงยหน้าตั้งใจมองดูหนังตัวอย่าง จนภาพยนตร์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น...

        ผมดูได้ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ นอกจากใจจะไม่อยู่กับหนังแล้ว ซับยังไปไวโพดอีกต่างหาก (ผมอ่านช้าเองนี่แหละ) ผมนั่งอึนๆ มึนๆ อยู่ตัวคนเดียวได้สักพัก เงาดำๆ ทะมึนๆ ของใครคนใดคนหนึ่งก็เข้ามาทิ้งตัวนั่งลงข้างผม

         เชี่ยอ๊อฟ!

         ผมอึ้งมาก...ผมอ้าปากค้างในขณะที่มองหน้ามันตอนที่มันแย่งน้ำในมือผมไปดูด ดูเหมือนมันเพิ่งวิ่งหนีอะไรมาชอบกล
 
         “ทำไม...” ผมเอ่ยถาม
         “กูขอมาเข้าห้องน้ำ แล้วกูก็หนีออกมาเลย” มันพูดยิ้มๆ หลังจากนั้นก็เอนตัวลงนั่งอย่างสบายอกสบายใจ “อา...ดีชะมัด”

          ผมอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นึกว่าจะโดนมันทิ้งไว้กลางทางเสียแล้ว...(ซาวน์พี่ปั๊บก็มา) ตอนนี้ผมดูหนังได้รู้เรื่องขึ้น และก็อ่านซับทันขึ้นด้วย เพราะไอ้อ๊อฟหรือเปล่าวะเนี่ย...
          มือเรียวๆ ของไอ้อ๊อฟค่อยๆ เอื้อมมาโอบเอวผมเอาไว้แบบที่ผมไม่รู้ตัว
          ตอนนั้นถึงตอนที่ผมต้องตั้งใจอ่านซับอย่างหนักพอดี
          อ๊อฟแอบขำที่ผมไม่รู้ตัว มันโอบตัวผมแน่นขึ้นจนในที่สุดผมก็รู้สักที
          มันถูกผมตีไปหนึ่งที แต่แม่งหน้าด้าน ไม่ยอมปล่อยมือ แถมรัดตัวผมเอาไว้มากขึ้นกว่าเดิม ผมดิ้นไปดิ้นมา จนคนที่กำลังดูหนังอยู่เริ่มรำคาญผม เพราะฉะนั้นผมก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย นั่งเป็นตุ๊กตาให้ไอ้เชี่ยอ๊อฟกอดเล่นอยู่แบบนั้น

          เสือกจะเอาจมูกมาฝังตรงเส้นผมของผมด้วย...

          ไอ้เสือสกินชิพเอ๊ย!

         มือข้างหนึ่งที่โอบเอวของผมขยับนิ้วไปมาเบาๆ...ผมสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจที่แผ่วเบา รวมกับเสียงเต้นแรงของใจผมเอง

         “ไม่ไปเรียนที่ออสเตรเลียได้มั้ย...”

          ผมได้ยินชัดเต็มสองหู...แต่ความเงียบงันคือสิ่งที่ผมตอบกลับไป...

          เพราะอยู่ใกล้มึงแล้วจะเป็นแบบนี้ไง กูถึงตัดใจจากมึงไม่ได้สักที





         “กูกลับได้ยัง” รถแท็กซี่มาจอดอยู่หน้าบ้านของมัน ผมบอกให้พี่คนขับจอดที่นี่เองเพราะผมจะเป็นคนเดินกลับไปเอง ไอ้อ๊อฟมองหน้าผม ทำท่าเหมือนไม่อยากให้ผมกลับยังไงชอบกล
         “พรุ่งนี้วันอะไร” แทนที่มันจะตอบ มันเสือกถามผมกลับ
        “วันอาทิตย์”
        “เอาดีๆ กูรู้ว่ามึงรู้”
        “วาเลนไทน์ไง” ผมตอบให้มันชื่นใจแบบประชดประชัน
        “มึงไปแกะของขวัญกูด้วยนะ” อ๊อฟพูดเสียงเหนื่อยๆ
        “ของขวัญไหน”
        “ที่กูให้มึงอ่ะ...แกะวันนี้ตอนเที่ยงคืนพอดี จะได้เป็นวันที่สิบสี่”
        “ของขวัญที่มึงจิ๊กจากของที่สาวๆ เขาให้มึงน่ะเหรอ” ผมยังเคืองเรื่องนี้ไม่หาย
        “ไอ้สัด” อ๊อฟด่า “กูพูดเล่นอันนั้นน่ะ”
        “...”
        “จริงๆ กูให้มึง”

       ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

       เสียงหัวใจของผมดังชัดเจนพอๆ กับสีหน้าของอ๊อฟที่ผมเห็นในตอนนี้

       “เผื่อจะช่วยรั้งให้มึงอยู่กับกูต่อ...”

       ผมนึกว่าเป็นของขวัญที่มันไม่ได้ตั้งใจให้ผมซะอีก...ของขวัญชิ้นนั้นมันตั้งใจให้ผมจริงๆ เหรอ
       ผมยังคงอึ้งไม่เลิก ยืนนิ่งและก็อ้าปากค้างอยู่แบบนั้น...

       “ปั้น”
       “...”
       “ไอ้ปั้น”
       “หา”
       “กลับบ้านได้แล้ว” มันพูด ก่อนที่จะหันหลังกลับไปเปิดประตู
       “เดี๋ยว” ผมพูด รอให้มันมองกลับมา
       “ว่าไง”

       ผมกลืนน้ำลายพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างเตรียมพร้อม

      “กูมีความลับ...”

       อ๊อฟทำสีหน้าอยากรู้กับผม

      “...ความลับที่กูซ่อนไว้ในของขวัญ...ของที่กูให้มึง”

       อีกฝ่ายกระพริบตาปริบๆ ใส่ผม

      “ให้กู?”
      “ใช่”
      “อันไหน” อ๊อฟทำสีหน้างงงัน

       ผมยิ้มอย่างสดใสก่อนที่จะแสยะยิ้มอย่างสะใจ “ไปหาเอาเอง”

       “เชี่ยยยยยย” อ๊อฟร้องโอดโอย “มีเป็นร้อยจะรู้มั้ยว่าอันไหน”
       “มึงต้องสู้นะ” ช่วยไม่ได้ อยากไม่เห็นความสำคัญของของขวัญผมเองนี่ (ผมยังจำภาพที่มันกวาดของขวัญทิ้งให้มันมีที่นั่งบนเตียงได้ #กูไม่รู้ #กูพาล) “ไปละ...”
       “กูสัญญา  กูจะหาให้เจอก่อนวันที่ 14 กุมภาละกัน…”
       "มึงเจออยู่แล้วล่ะ”
   “...”

   “ถ้าหนูไม่ขโมยมันไปซะก่อน”








ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
14 กุมภาพันธ์ 2016 00.00 น.




       หลังจากที่ผมจดจ้องของขวัญไอ้อ๊อฟมานาน ในที่สุดผมก็ได้ฤกษ์เปิดมันสักที ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะลงมือหยิบกล่องของขวัญจากไอ้อ๊อฟขึ้นมา...
       ...แล้วก็ต้องเอามันลงไปวางไว้ที่เดิมเพราะมีคนมาร้องเรียกผมอยู่หน้าบ้าน

       ไอ้อ๊อฟ...

       “มีอะไร” ผมเปิดหน้าต่างแล้วร้องตอบมันไป
       “กูหาของขวัญมึงไม่เจอ!” อ๊อฟร้องพร้อมกับทำสีหน้าเดือดเนื้อร้อนใจมาก “มึงต้องมาช่วยกูหา”
       “ก็อยู่ในกองเมื่อวานนั่นแหละ หาๆ เอา ไม่ยากหรอก” จริงๆ ยากมาก...เพราะของขวัญผมเล็กจิ๊ดเดียว ของคนอื่นๆ ที่ให้มันก็มีขนาดเดียวกันกับผม สรุปก็คือหายากนั่นแหละครับ ช่วยไม่ได้ ไอ้คนรับมันเสือกฮอตเองนี่
       ผมทำท่าจะปิดหน้าต่าง แต่เชี่ยอ๊อฟง้างมือที่กำก้อนหินเตรียมจะโยนใส่ผม

       “มึงปิด กูโยน”
       “พ่องตาย!” ผมร้องด่า “ออกไปเลยนะ ก่อนที่พ่อแม่กูจะตื่น”
       “ก็ลงมาช่วยกูหาสิ”
       “หาเอง ของขวัญมึง”
       “แต่มึงเป็นคนให้”
       “...”
       “กูต้องหา กูต้องรู้ความลับของมึงให้ได้”

       ผมมองใบหน้าหล่อๆ ที่ดูร้อนใจอย่างรุนแรง เห็นแล้วสงสาร ผมคงไปสร้างปมปัญหาที่แก้ยากสำหรับมันสินะ ดูทำหน้าเข้า...น่าสงสารฉิบหาย
       แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ นานๆ ทีผมจะถือไพ่เหนือกว่ามัน

      “งั้นรอแป๊บนะงั้น” ผมพูด หยิบกล่องของขวัญของมันออกไปด้วยพร้อมๆ กับกุญแจบ้าน

       ไม่นานนักผมก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามันที่หน้าบ้าน เราสองคนใส่ชุดนอนกันทั้งคู่ คนที่มองอยู่ก็คงจะคิดว่าตลกดี แต่ใครเล่าจะมอง ในเมื่อมันดึกขนาดนี้แล้ว...แม้จะเป็นคืนเริ่มต้นวาเลนไทน์ก็เหอะ

       “มึงห่อของขวัญสีอะไรวะ” ระหว่างที่เดินไปบ้านมัน เจ้าของของขวัญของผมก็ถามขึ้นมาทันที
       “สีแดง”
       “แม่ง มีตั้งเยอะ” อ๊อฟบ่น ก่อนที่จะมองของขวัญในมือของผม “มึงยังไม่แกะของกูอีกเหรอ”
       “หมาตัวไหนบอกให้รอวันที่สิบสี่ กูก็รอให้ถึงวันที่สิบสี่ พอกำลังจะแกะ หมาตัวนั้นแม่งก็โผล่มา...”
       “ถ้ากูเป็นหมา กูก็เป็นหมาแพง”
      “พันธุ์อะไร...”
      “หล่อๆ อย่างกูต้องชิสุอยู่แล้ว”

       ไอ้บ้าเอ๊ย...ผมหัวเราะกับมุขของมัน ตอนนั้นเราสองคนถึงหน้าบ้านของมัน มันค่อยๆ เปิดประตูรั้วช้าๆ เพราะกลัวคนในบ้านจะตื่นขึ้นมากันหมด
       บ้านปิดไฟมืด...ผมค่อยๆ ย่องตามไอ้อ๊อฟขึ้นไปบนบ้านและในที่สุดผมก็มาถึงห้องมันสักที
       ของขวัญทุกชิ้นถูกเก็บไปหมดแล้ว...

       “อ้าว ไหน...”

      อ๊อฟส่งยิ้มให้ผม ก่อนที่จะไปหยิบของขวัญของผมที่วางไว้อยู่บนเตียงมันขึ้นมาแล้วก็ยื่นมาให้ผมดู

       “เปิดพร้อมกัน...”

       “เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมร้องเสียงดังโดยไม่สนใจว่าใครในบ้านไอ้อ๊อฟจะว่าอะไรมั้ย “มึงตอแหลกูนี่หว่า” เหนือกว่าคำว่าโกหก ก็ตอแหลนี่แหละไอ้สาดดดดดด

        ผมไม่อยู่แม่งแล้ว ผมจะกลับ...ผมหันหลังพร้อมเตรียมก้าวฉับๆ กลับบ้าน แต่ทว่าโดนมือของมันรั้งผมเอาไว้จนหลังของผมชิดเข้ากับตัวของมัน...

        ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

   “ถ้ากูมีอะไรสงสัยกูจะได้ถาม...ตอนที่มึงอยู่ใกล้ๆ กู”
   “...”
   “ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ไม่ดีกว่าเหรอ”

   ผมไม่เข้าใจในความหมายที่มันพูดเท่าไหร่ แต่ผมก็อายเกินกว่าที่จะอยู่ต่อหน้ามันในเวลาที่ของขวัญอยู่ในมือมันแบบนี้ จำได้มั้ยครับว่าผมชอบที่จะให้มันเห็นตอนที่ผมไม่อยู่ด้วยน่าจะดีกว่า

   เพราะผมเขินแม่งฉิบหายยย เขินจริงๆ นะครับ...

   “มึง กูไหว้ล่ะ ให้กูกลับเถอะ”
   “มึงส่งระเบิดมาให้กูใช่มั้ยปั้น”
   “จะบ้าเหรอ”
   “ถ้าไม่ใช่ก็อยู่เหอะ...ไม่มีอะไรต้องอายหรอก”

   มึงมันไม่รู้อะไรไงไอ้เชี่ยอ๊อฟ...

   “เอางี้...”

   มันค่อยๆ ลากตัวผมไปนั่งกับมันบนเตียง ให้ผมนั่งอยู่ตรงหว่างขาของมัน ตัวของผมก็นะ...เล็กจิ๋วกะทัดรัดเหมาะสำหรับการเป็นตุ๊กตาของไอ้อ๊อฟที่สูงร้อยแปดสิบต้นๆ ฉิบ...มันควบคุมผมได้สบายๆ จากขาและก็อ้อมแขนของมัน ณ ขณะนี้

   “แบบนี้มึงก็ไม่เห็นหน้ากูแล้วใช่มั้ย”

   ใช่ ไม่เห็น...แต่แค่หันไป(ในมุมเงย)ก็เห็นคอ เห็นคาง เห็นหัวมึงละฟาย...

   หน้าผมแดงก่ำ แก้มร้อนราวกับว่ามีใครเอาไฟมาเผาใส่

        ผมที่อยู่ในอ้อมแขนของไอ้อ๊อฟตอนนี้ตัวสั่นไปหมด เหมือนกลัวความผิดที่ตัวเองไม่ได้ผิด

       “เป็นอะไรวะ” อ๊อฟหัวเราะ ในขณะที่ผมนั้นไม่มีอารมณ์ขันร่วมกับมันเลย “ใจเย็นๆ นี่กูเองนะ กูไม่แดกมึงหรอก”\

        มึงนั่นแหละน่ากลัวที่สุดแล้ว...

        “ชู่วๆๆ” มันกอดผมจากทางด้านหลังและก็ส่งเสียงปลอบ “มึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
        “กูไม่ได้กลัวเว้ย” ผมยังมีแรงเถียงกับมันอยู่
        “แล้วมึงเป็นอะไร”
        “กู...กู...กูตายแน่”

        ไอ้อ๊อฟหัวเราะอีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบของขวัญของมันขึ้นมาส่งให้ผม

       “แกะของกูก่อนก็ได้...”
       “...”
       “ดีนะเนี่ย...นั่งแบบนี้...มึงจะได้ไม่ต้องเห็นหน้ากูในตอนนี้เหมือนกัน”

        ผมมองของขวัญที่อยู่ในมือของผมอย่างเริ่มอยากรู้สิ่งที่อยู่ภายใน...ผมค่อยๆ แกะกระดาษห่อของขวัญออกอย่างเชื่องช้า สัมผัสได้ว่าคนที่อยู่ข้างหลังผมนั้นตัวชาและก็แข็งทื่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        “คือในตอนแรกอ่ะ...กูกะจะให้มึงในวันปัจฉิม...”

        ข้างในกล่องกูอัลบั้มรูปเล็กๆ เหมือนถูกเจาะรูและก็ใช้เหล็กกลมห้อยรวมกันอย่างสร้างสรรค์

        “...แต่อย่างที่บอก...กูแม่งไม่เคยรู้เหี้ยอะไรเกี่ยวกับใจกูเลย จนกระทั่งวันที่มึงมาบอกว่ามึงจะจากกูไป...”

        ข้างหน้าอัลบั้มเป็นกระดาษสา ถูกเขียนเอาไว้ด้วยลายมือของไอ้อ๊อฟ

         อัลบั้มของข้าวปั้น

         เป็นภาพของผมตั้งแต่ตอนม.4 จนถึงตอนม.6 เป็นรูปที่ Print มาจากรูปในโทรศัพท์ของไอ้อ๊อฟ รูปส่วนใหญ่เป็นรูปทีเผลอ ที่มันแต่งเองผ่านสิ่งที่เรียกว่าแอพลิเคชั่น ความคมชัดนั้นพัฒนาเพิ่มตามชั้นปีและก็รุ่นโทรศัพท์ เหมือนฝีมือในการถ่ายรูปของไอ้อ๊อฟ
         ผมอึ้งมาก...บางภาพผมยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ...

      “...เพราะมึงบอกไม่ได้อะไรจากใครในวันวาเลนไทน์กูก็เลยให้ไอ้นี่กับมึงไปก่อน...”
       “...”
       “แต่ว่าจริงๆ ก็ดีนะ...มึงจะได้รู้ไงว่าที่ผ่านมามึงไม่เคยอยู่นอกสายตากูเลยแม้แต่นิดเดียว”
       “...”
       “มึงอาจจะเป็นคำตอบที่กูตามหามาโดยตลอดก็ได้ปั้น”


       ผมเปิดทีละรูปดูอย่างเชื่องช้า...บางรูปก็เป็นตอนที่ผมหลับ บางรูปก็เป็นตอนที่ผมไปเฝ้าไอ้อ๊อฟซ้อมบาส บางรูปก็เป็นตอนที่ผมยืนรอมันอยู่ในโรงเรียน
       มันถ่ายก่อนที่จะเดินเข้ามาหาผม...

      “มึงอาจจะเป็นคำตอบของกูที่ว่ากูไม่สามารถมีใครเข้ามาในใจได้เลย”
       “...”
       “เพราะใจกูมีมึงอยู่ก่อนแล้ว”
ริมฝีปากของไอ้อ๊อฟจุมพิตเข้าที่ขมับของผมอย่างแผ่วเบา “กูคงไม่รู้ตัวช้าเกินไปใช่มั้ยปั้น...”

       น้ำตาของผมเอ่อคลออยู่ที่ขอบตา...อ๊อฟดึงสิ่งที่อยู่ในมือของผมออกไปอย่างเชื่องช้า และก็ดึงกล่องที่เป็นของขวัญจากผมมาอยู่ตรงหน้าแทน

       ตอนนี้ผมไม่มีแม้แต่ความอายหลงเหลืออยู่ ผมมีแต่ความตื้นตันใจ...และก็ดีใจ...

       ของขวัญที่ผมมอบให้อ๊อฟก็คือสร้อยคอที่ผมสั่งทำเป็นพิเศษ ตรงจี้ที่ห้อยอยู่เป็นอักษรรูปตัว A ที่เป็นชื่อของมัน แต่ทว่าในกล่องกลับมีจี้อีกอันหนึ่งนั่นก็คือตัว P แต่ไม่ได้ห้อยไว้ร่วมกัน
       ในนั้นมีจดหมายขนาดเล็กที่ผมเขียนไว้...

       จากปั้นถึงอ๊อฟ
       สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะมึง ตกใจมั้ยที่กูให้ของขวัญมึงอ่ะ ฮ่าๆๆ กูเองก็ตกใจเหมือนกัน ว่าทำไมกูต้องให้มึงด้วย...
เขาบอกว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก กูให้ของขวัญในวันแห่งความรักกับมึง งั้นก็แสดงว่า...กูรักมึงสินะ
       ใช่...กูรักมึง
       กูขอโทษที่คิดกับมึงแบบนี้ แต่มึงมาเป็นเพื่อนกูตอนที่กูแอบรักมึงไปแล้ว เพราะฉะนั้นกูไม่ผิด กูไม่ได้ทรยศในมิตรภาพ มึงมันหล่อตั้งแต่ม.ต้นและก็กูเอาแต่มองมึงตั้งแต่ตอนนั้น เพราะงั้นถ้ามึงจะเกลียดกูเพราะกูรักมึง กูก็จะถือว่าไม่ใช่ความผิดกู ความรักไม่ใช่สิ่งที่ผิดและกูก็ไม่เคยร้องขอให้มึงมารักกูตอบ
       กูรักมึง...มากพอๆ กับน้ำที่กูซื้อให้มึงตอนมึงซ้อมกีฬาเสร็จ
       กูรักมึง...มากพอๆ กับจำนวนการบ้านที่มึงลอกกูก่อนเข้าห้องเรียน
       กูรักมึง...มากพอๆ กับความรู้สึกที่มีต่อมึงของสาวๆ ในคอลเลคชันมึงรวมกัน
       กูรักมึง...มากจนกูรู้สึกเหมือนกูจะขาดใจตายแน่ๆ ถ้ากูไม่ได้บอกมึงไปในวันนี้
       แต่กูเข้าใจมึงนะ...หากมึงจะไม่ได้รักกูแบบที่กูรัก กูไม่ได้ว่าอะไรเลย กูขออย่างเดียวขอแค่มึงอย่าเลิกเป็นเพื่อนกับกู เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นกูคงไม่มีวันทำใจได้
       กูจะไปเรียนที่ออสเตรเลียเพื่อที่จะตัดใจจากมึง ขอโทษที่ไม่ได้เรียนจุฬากับมึงนะ...หวังว่ามึงจะเข้าใจกู
       รัก
       จาก ปั้น


       ผมหลับตาจนทำให้น้ำตาไหลออกมาหนึ่งหยด...

       “คิดไปเองแท้ๆ” ไอ้อ๊อฟยังคงหัวเราะอยู่ มันวางจดหมายลงหลังจากนั้น...

        มันก็โผเข้ากอดผมชนิดที่เรียกว่าตะครุบก็น่าจะไม่ผิด

       “โอ๊ยยย” ผมร้อง เพราะแม่งรัดผมแน่นมากจนผมเจ็บไปหมด
       “ถ้าใจตรงกันขนาดนี้แล้ว...ไม่ไปที่อื่นได้มั้ยวะ”
       “...”
       “เถอะนะ ใจกูขาดแน่เลย มึงคือคำตอบของกู มึงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นไอ้ปั้น”
       “สาดดด อนาคตกูเลยนะ” ผมยังคงแกล้งมันต่อไป
       “ไม่เอา”
       “อ๊อฟ...”   
       “หา”
       “ปล่อยกู” ผมพูด เขย่าแขนมันแรงๆ ให้มันปล่อยผม

   ผมหันกลับไปมองหน้ามันที่แดงก่ำจนเหมือนลูกมะเขือเทศ น่ารักฉิบหายจนอยากจะถ่ายรูปเอาไว้ ฮ่าๆๆ

   “มึงเป็นอะไร” ผมยิ้ม แม้จะยังเขินๆ อยู่ก็ตามแต่ก็ต้องถามมันออกไปเพราะอยากจะแกล้ง
   “กู...กังวล”
   “...”
   “จริงๆ แล้วกูก็เขินด้วยนั่นแหละนะ” อ๊อฟเกาหัว เอามือผมมาจับ “ตกลงมึงไม่ไปต่อนอกแล้วใช่มั้ย”
   “บอกไม่ได้ว่ะ”
   “ทำไมล่ะ”
   “เพราะกูไม่ได้ยื่นที่ไหนไว้สำรองเลยน่ะสิ”
   “แอดมิชชั่นไง เลือกจุฬาไปเลยสี่อันดับ”
   “มั่นหน้ามากเลยเนอะ” ผมรำพึง
   “คะแนนมึงก็มากพอที่จะทำให้มั่นหน้าอยู่...ขอร้อง...เดี๋ยวกูช่วย”
   “อยากให้กูไปเรียนด้วยขนาดนั้น”
   “ใช่” อ๊อฟทำหน้าขึงขัง
   “แล้วตอนที่ยังไม่รู้ใจกันอ่ะ มึงอยากให้กูไปเรียนด้วยทำไมวะอ๊อฟ”

   อ๊อฟบีบมือผม ก่อนที่จะพูดออกมาช้าๆ

   “บอกแล้ว...กูชินกับการที่มีมึงอยู่เคียงข้างจนกูลืมคิดไปว่านั่นแหละคือการที่มึงมานั่งอยู่ในใจของกูแล้ว มึงเข้าใจมั้ยวะ...”
   “...”
   “ที่กูจีบผ้าไหม กูจีบคนนั้น กูคบคนนี้ เหมือนกูรู้ว่ายังไงมึงก็ไม่ไปจากกู จนกระทั่งมึงบอกเรื่องไปต่อนอกนี่แหละ”
   “...”
   “กูก็เลยคิด...ไม่มีมึงกูคงแย่...ไม่มีมึง...กูคงแอบแต๊ะอั๋งใครไม่ได้อีกแน่ๆ และก็กูทำแบบนั้นกับใครไม่ได้ด้วย”
   “มึงไม่ได้ชอบสกินชิพกับทุกคนเหรอ” ผมถามอย่างอึ้งๆ
   “จะบ้าเหรอ จะให้กูกอดเอวไอ้อ้วนเนี่ยนะ กูทำไม่ได้” อ๊อฟทำท่าสยอง
   “สันดานชอบสกินชิพนี่ก็เฉพาะกับกูงั้นสิ...”
   “ใช่ นั่นก็ส่วนหนึ่งที่กลายมาเป็นคำตอบของกู...”
   “มึงนี่เห็นแก่ตัวนะ...”
   “อะไรว้า” อ๊อฟทำเสียงผิดหวัง
   “คิดได้ยังไงว่ากูจะอยู่กับมึงตลอดเวลา มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
   “เพราะงั้นกูถึงรู้ใจตัวเองยังไงล่ะปั้น” อ๊อฟดึงมือผมให้ผมเข้าไปหาช้าๆ “พอเถอะนะ...กูพูดออกไปหมดเปลือกแล้วเนี่ย อย่าให้กูทรมานใจอีกเลย”
   “ทรมานใจเรื่อง?”

   “เรื่องมึงไงไอ้สัดดดดด” อ๊อฟดึงผมเข้าไปฟัดหนึ่งที โดยการฝังจมูกเข้ามาที่คอผม

   “ไอ้เหี้ย!!!!” ผมดันหน้ามันออกไปไกลๆ

   “ไม่ต้องไป ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น อ้อ...” อ๊อฟบีบมือผมแน่นขึ้น “...เป็นแฟนกูด้วยนะ”

   ผมหน้าร้อนขึ้นแต่ก็พยายามปั้นหน้าเหมือนไม่ได้เป็นอะไร “เป็นแฟน...แต่ไปต่อนอกได้มั้ย”

   มันหน้าบูดบึ้ง “ไม่เอาหนึ่ง กูจะเอาสอง”

   “โลภมาก”

   “มึงเชื่อใจแฟนมึงคนนี้เหรอ” มันพูดเองปุบปับอย่างไวมากเรื่องสถานะใหม่ของเราสองคนพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ใส่ “มึงก็รู้ว่ากูเจ้าชู้ เอ๊ย ไม่สิ มีผู้หญิงมายุ่งด้วยเยอะมาก มึงยังจะปล่อยให้กูอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจอีก...”

   “มึงนี่มัน...” ผมห้ามใจตัวเองไม่ให้ชกหน้าไอ้อ๊อฟ “เออ อยู่ก็อยู่”

   “เยส!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

   “แต่ไม่รู้ว่าจะติดจุฬามั้ย...”
   “ติดอยู่แล้วล่ะ...”
   “กูไปนอนได้หรือยัง” ผมถาม “เดี๋ยวพ่อแม่จะสงสัยว่ากูไปไหน”

   “ได้ไงล่ะ...” ไอ้มือปลาหมึกเอื้อมมือมาจับผมไปกอดพร้อมๆ กับเอาหน้ามานัวเนียผมไม่ขาด ตอนเป็นเพื่อนว่ามันเล่นหนักแล้ว ตอนนี้น่าจะเล่นใหญ่กว่าอีกหลายเท่า...

   เหนือคำว่าสกินชิพคือคำว่าลวนลาม...

   ลามไปหมดแล้วเนี่ยไอ้เหี้ยยยยย

   “พอออออออ” มันดันหัวไอ้อ๊อฟออกไป “ไม่งั้นกูเปลี่ยนใจ...”
   “โอเค” อ๊อฟถึงกับนิ่ง หยิบของขวัญของเราสองคนไปวางไว้บนเตียง จากนั้นก็เดินไปปิดไฟ และก็เอาผ้าห่มมาคลุมร่างที่นอนอยู่ของเราสองคน

   ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก...และไม่ถึงสิบห้าวินาที...

   “ของขวัญของมึง...ไม่น่าจะเรียกว่าความลับนะ...” อ๊อฟรำพึงในความมืด
   “เรียกว่าความลับสิ”
   “ตอนแรกมีมึงรู้อยู่คนเดียว ตอนนี้มีกูรู้ด้วยแล้วไง...”
   “ความลับของเราสองคนไงไอ้สัด...”
   “เออ! กูชอบคำนี้นะ...”
   “...”
   “พรุ่งนี้โรงเรียนต้องวินาศสันตะโรแน่ๆ”
   “ทำไม”
   “เพราะกูจะเปิดตัวแฟนกู!” อ๊อฟพูดเสียงดังขึ้น
   “เชี่ยยย ไม่ต้อง คบกันเงียบๆ พอแล้ว”
   “ไม่ล่ะ กูชอบแกรนด์โอเพนนิ่ง”
   “เชี่ยอ๊อฟ”
   “อะไร...”
   “ถ้ามึงเปิดแบบเอิกเกริก กูจะเปลี่ยนใจ...”
   “โอเคครับเมีย...แล้วแต่เลย”
   “เมียเหี้ยไร...”
   “อย่างมึงจะเป็นผัวได้เหรอ ตัวแค่นี้”
   “จะนอนมั้ย ไม่งั้น...”
   “ไม่งั้นจะเปลี่ยนใจ” เชี่ยแม่งล้อเลียนผม...


   “ไอ้อ๊อฟ...”


   “เอาจริงๆ เปลี่ยนใจเรื่องไปเรียนนอกได้นะ...แล้วแต่มึงเลย...แต่ว่า...”


   “...”


   “อย่าเปลี่ยนใจไปจากกูก็พอ...”




   “อ้วกได้มั้ย...”

   เรื่องราวของคู่รักใหม่คู่หนึ่งที่เกิดขึ้นในวาเลนไทน์ปี 2016 จบลงด้วยประการฉะนี้



   [END]






Talk : สุขสันต์วันวาเลนไทน์ปี 2016 นะคะทุกคน

 :mc4: :mc4: :mc4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2016 23:45:48 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ความลับจริงๆด้วย :)

ออฟไลน์ Morgen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักๆๆๆ ฟินๆวันแห่งความรัก เกือบแล้วนึกว่าหาของขวัญไม่เจอ 5555 :-[

ออฟไลน์ brave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ว้าววว น่ารักมากๆจ้ะ ลุ้นไปกับปั้นด้วยตลอด  :mew1:

ออฟไลน์ JARKISREAL

  • [ ฉันเอง ]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
กี้สสสสสสสสส..ฆ่าคนโสดชัดๆวันนี้ :ling2:
อ้อฟน่ารักกก. จ้องจะงับเพื่อนสนิทตัลหลอด 555 คือร่ะะ กอดเอวกันในโรงหนังแบบน้านนนน ~ เขินแทนนนน

สุขสันต์วันแห่งความรักนะค้าาาาา

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
ความลับ ความรัก

น่ารักจริงๆ ขอบคุณชิฟฟ่อนสำหรับเรื่องสั้นอีกเรื่องจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยยย ใจตรงกันจนได้  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Faiia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
น่ารักกกกกกลุ้นทุกวันเลยกว่าจะถึงวาเลนไทน์ว่าจะจบแบบไหนนะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ซึ้ง

นึกว่าจะ sad ending


ขอบคุณมากๆค่าาาา

ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
น่าย้ากกกกกกกกกกก >.<

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :-[ ได้เรื่องนี้ฮีลความเจ็บปวดจากวาเลนไทน์จริงๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่ารักอย่างแรง

ออฟไลน์ Dreameekitanai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 นึกว่าจะโดนทรมาน ในวันวาเลนไทน์ ซะแล้ว
กว่าจะแฮปปี้ ปวดใจ แลน้ำตาคลอเลย  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
น่ารักอ่ะ ถึงอ่านตอนแรกๆแล้วมันหวิวๆหัวใจก็เหอะ รู้สึกชอบ :impress:
ดีที่อ๊อฟรู้ใจตัวเองก่อนที่มันจะสายไป ดีใจด้วยจริงๆนะ

ออฟไลน์ faungwipamkai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากกกกกกเขินนนนน ><
 :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
อิจฉาคนเค้ามีคู่จังเลย

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
อ่านไปยิ้มไป หวานได้อีก อิจฉาคนมีความรัก

ออฟไลน์ grayliette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อิจฉาคนมี่คู่รุนแรง อ๊อฟนี่เนียนมาก สกินชิพไม่ธรรมดา เปลี่ยนเป็นแฟน ปั้นไม่น่ารอดเลย555

ออฟไลน์ kpHJstdy

  • HHD요
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แงงงงงงงงงง น่ารักกกกกกก ใสๆวัยมัธยม ชอบมากกกกก :o8: :o8: :o8:
มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้วนะน้องปั้น เพราะนอกจากจะเป็นความลับของอ๊อฟกับปั้นแล้ว
เราชาวเล้าก็ได้รู้ความลับนี้ด้วย 555555555555555 เป็นเรื่องที่ฆ่าคนโสดเหลือเกิน
น่ารักอะไรขนาดนี้ รวมถึงของขวัญของน้องอ๊อฟด้วย น่ารักที่สุด ตอนแรกเดาๆดู
ไม่คิดว่าจะเป็นรูปถ่ายแบบนี้เลย แอบโรแมนติกนะเนี่ย  :impress2:

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โอ้ยยย ยิ้มแก้มแตก เขินแทน 555
น่ารักมากเลยค่าา

ออฟไลน์ Pandora20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โง้ยยยยย เขิลจรุมมมมม 555555
ขอน้องปั้นได้มั้ย คนอะไร นั่ลล้าคคคคคค 55555

ออฟไลน์ am_ma

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :-[ :o8: :o8: :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2:


เขิลๆๆๆๆๆๆหนักมากกกกกก
อยากมีตอนแกรนด์โอเพ่นนิ่งจังเลย  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อยากอ่านตอนยู่มหาลัยยยย :hao7:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ทั้งน่ารักทั้งอิจฉาา แงงงงงงงง :ling1: :z3:
มีต่ออีกได้มั้ยน้อออ  :impress2:

ออฟไลน์ DZiik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น่ารักอ้ะ  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด