[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์  (อ่าน 92712 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตามอ่านถึงตอนดราม่าพอดี ง่อว~

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
น้ำตาลสาดโรงบ่มกันเลยทีเดียว อิอิ รอรับมาม่าค่ะ น่าจะอืดไม่น้อย

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 18





หลังจากกลับมาจากน้ำตกท้ายไร่ตะวันก็ตรงเข้าห้องของรัชพลไปพร้อมกับภุมริน เพราะเปียกโชกจะแย่แล้ว ห้องของภุมรินก็โดนภูวดลยึดไปเรียบร้อย ส่วนสิตางศุ์กับรัชพลที่เปียกบ้างเล็กน้อยก็พากันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของสิตางศุ์ รัชพลรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้อยู่กับสิตางศุ์สองต่อสองแบบนี้ เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้อยู่กับสิตางศุ์สองคน





ไม่นานรัชพลก็ออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ สิตางศุ์ที่อาบน้ำก่อนก็นั่งรออยู่บนเตียงเพื่อที่ว่าจะไปทานข้าวด้วยกันข้างล่าง วันนี้รัชพลให้ป้าจันจัดเตาปิ้งย่างไว้ที่หน้าบ้าน เพราะตะวันก็จะค้างที่นี่ ไหนจะเพื่อนของสิตางศุ์ที่มาจากกรุงเทพฯอีก ยังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับหรือคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่เลย





“สิตางศุ์ครับ” รัชพลเรียกสิตางศุ์ที่หันหน้าออกไปข้างนอกหน้าต่าง





“ครับพี่รัช” คนตัวบางนั้นหันมาก็เจอรัชพลทำหน้าเหมือนเด็กอยู่ใกล้ๆเสียแล้ว





“เช็ดผมให้หน่อย” รัชพลยิ้ม สิตางศุ์มองพร้อมกับถอนหายใจ มาแบบนี้อีกแล้ว





“ทำไมชอบอ้อนจังนะ” ประโยคนั้นทำให้รัชพลขำเล็กน้อย ก็มีแฟนจะไม่ให้อ้อนแฟนแล้วจะไปอ้อนใครล่ะ เขาเห็นตะวันอ้อนภุมรินออกจะบ่อย





“ก็พี่อยากให้ตางสนใจพี่บ้าง ได้มั้ยครับ พี่อยากอ้อนแฟนบ้างอะไรบ้าง นะครับน้องตาง เช็ดผมให้หน่อย” ไม่พูดเปล่ารัชพลยังเข้ามาคลอเคลียสิตางศุ์อีกจนเจ้าตัวต้องยอมรับผ้านั้นมาแล้วดันให้รัชพลนั่งดีๆ





“จะให้เช็ดก็นั่งดีๆพี่รัช” คำประกาศิตของสิตางศุ์นั้นมีเหรอที่รัชพลจะไม่ฟัง เจ้าของไร่น้ำรินที่เพิ่งจะพ้นช่วงวัยเบญจเพสมาหมวดๆยิ้มกว้างแล้วนั่งดีๆอย่างที่สิตางศุ์ว่าโดยหันหน้ามาทางคนที่เช็ดให้





สิตางศุ์เช็ดผมให้รัชพลไปต้องแอบหลบตาบ้างเพราะอีกคนเอาแต่จ้องอยู่อย่างนั้น กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปไม่น้อยเหมือนกัน





ทั้งสองคนลงมาสมทบกับภุมริน ตะวันและภูวดลข้างล่างที่ตอนนี้กำลังปิ้งย่างกันอย่างสนุก ภุมรินฝากนพที่ไปทำธุระในตัวเมืองซื้อของสดเข้ามาให้ มีทั้งเนื้อ หมูและของทะเล บรรยากาศกลางเขาตอนดึกๆนั้นก็ดีไม่น้อย ไฟในไร่น้ำรินก็เปิดไม่กี่ดวงนอกจากไฟตามรายทาง มันทำให้เห็นดาวชัดเจน คนกรุงอย่างภูวดลดูจะชอบอกชอบใจไม่น้อยกับบรรยากาศที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัส





“แล้วนี่พี่ตางไปตกลงคบกับพี่รัชได้ยังไง  ก่อนหน้านั้นรินคิดว่าจะไม่ชอบหน้ากันซะอีก” ภุมรินเป็นคนเปิดประเด็น ทำเอาสิตางศุ์ที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูให้รัชพลต้องหยุดชะงัก





“ก็สิตางศุ์เค้าก็ชอบพี่ เรื่องอะไรเค้าจะปฏิเสธพี่ล่ะ” รัชพลที่นั่งข้างๆตอบแทบสิตางศุ์





“รินไม่ได้ถามพี่รัช รินถามพี่ตาง” และสงครามระหว่างสองพี่น้องก็เริ่มขึ้นอีกรอบ ภุมรินรู้สึกว่าพี่ชายของตัวเองช่วงนี้ชั่งน่าหมั่นไส้เสียจริง





“รินก็ไปถามคุณสิตางศุ์เค้าตรงๆแบบนั้น ใครเค้าจะตอบกัน คนเค้าก็อายเป็น หยุดพูดเลยตัวเล็ก กินนี่ไปเลย” เป็นตะวันที่เข้ามาจัดการแทน เจ้าของตลาดประสิทธานนท์นั้นจับกุ้งตัวโตยัดเข้าปากคนรักจนภุมรินหันไปแหวแทบไม่ทัน สร้างเสียงหัวเราะให้ทั้งวง





“ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ อะไรทำให้คุณรัชชอบไอ้แห้งมัน สิตางศุ์น่ะมันไม่เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วอยู่ๆทำไมคุณรัชถึงทำให้เพื่อนของผมคนนี้ใจอ่อนได้ล่ะครับ” ภูวดลถามบ้าง เขาเองก็อยากจะรู้ว่าคนธรรมดา จืดชืด วันๆเอาแต่ทำหน้าอมทุกข์อย่างสิตางศุ์เพื่อนของเขาไปถูกตาต้องใจอะไรรัชพลได้ แล้วสิตางศุ์คนที่ไม่เคยมีความคิดเรื่องความรักในหัวอยู่ๆดันตอบตกลงกับรัชพล ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปจีบกันอีท่าไหน





“ผมอาจจะเป็นคนที่ชอบปกป้องใครก็ได้มั้ง เพราะตั้งแต่เด็กผมก็เกิดมาเพื่อปกป้องทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะรินน้องชายของผม ในเมื่อวันนี้รินมีตะวันแล้วผมเองก็จำเป็นจะต้องมีใคร สิตางศุ์เป็นคนเงียบๆไม่พูดก็จริง แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันฉายออกมาจากแววตานั้น ผมรับรู้ได้ และผมก็อยากเป็นคนที่สิตางศุ์อยากให้อยู่เคียงข้างในวันที่ไม่มีใคร ผมรู้ว่าความรู้สึกที่ผมมีมันเติมเต็มในส่วนที่สิตางศุ์ต้องการได้ และสิตางศุ์เองก็รับรู้ได้เช่นกัน นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เราคบกัน” รัชพลพูดพร้อมกับมองหน้าของสิตางศุ์ที่กำลังมองเขาตอบไม่ต่างกัน รัชพลไม่สนใจคนถามทั้งๆที่เขากำลังตอบคำถามของภูวดลอยู่ ราวกับว่าคำตอบนั้นเขาพูดให้สิตางศุ์ฟังแค่คนเดียว





“พูดซะหล่อเลยพี่รัช แล้วเลิกมองพี่ตางแบบนั้นได้แล้ว จะหวานกันไปไหนเนี่ย” ภุมรินยื่นตะเกียบไปคั่นตรงกลางระหว่างรัชพลกับสิตางศุ์ เป็นสิตางศุ์ที่ต้องหลบหน้าก่อนเพราะเขินสายตาคู่นั้น





“แล้วเราล่ะยุ่งอะไรด้วยตัวเล็ก ตะวันมึงเก็บแฟนมึงไปเลยนะ ก่อนที่จะเอาไปฆ่าแล้วฝังในไร่” รัชพลจ้องน้องชายเขม็ง แต่ภุมรินก็ไม่ได้สนใจสายตาดุๆนั้นของพี่ชาย





“มีพี่ตางแล้วลืมน้อง เมื่อก่อนใครไปต่อยพี่ตะวันแย่งรินมา” ภุมรินยังไม่หยุดพูดจนรัชพลต้องคีบหมูคีบผักแถวนั้นยัดปากน้องชายให้เงียบ





ทั้งวงหัวเราะลั่นโดยเฉพาะตะวันคนรักของภุมริน แทนที่จะช่วยกันห้ามกลับมาร่วมกันหัวเราะซะนี่ ไอ้พี่ตะวัน คอยดูเถอะ





“รัช พ่อขอคุยด้วยหน่อยสิ สิตางศุ์ด้วยนะ” แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลงเมื่อร่างของบุรินทร์ปรากฏ รัชพลหันไปมองบิดาก่อนจะหันมามองสิตางศุ์ที่หน้าเจื่อนลง




“พ่อมาตอนไหนครับ” รัชพลถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะคงที่เท่าไหร่





“ซักพักแล้วล่ะ ตามพ่อไปในบ้านนะ” พูดจบบุรินทร์ก็เดินเข้าไปในบ้านทิ้งบรรยากาศอันน่าอึดอัดให้ทั้งห้าคนต้องเผชิญ รัชพลก้มหน้าลง





ไม่ช้าก็เร็วบุรินทร์ก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี รัชพลมั่นใจว่าบิดาต้องไม่พอใจเรื่องนี้แน่นอน เพียงแต่แสดงออกไม่เท่าตอนเรื่องของภุมรินเท่านั้นเอง บุรินทร์เป็นคนหวงลูกมากแค่ไหนใครๆก็รู้โดยเฉพาะตะวันที่เหมือนจะรู้ดีที่สุด





สิตางศุ์เองก็นิ่งเงียบไป เขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของบุรินทร์ แน่ล่ะ รัชพลเป็นชายหนุ่มสุขภาพดีอายุยี่สิบห้าที่ในอนาคตก็ต้องรับช่วงดูแลไร่น้ำรินต่อไป และการที่รัชพลมารักมาชอบอยู่กับสิตางศุ์ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน และยิ่งไปกว่านั้นคือทำประโยชน์อะไรให้ไร่น้ำรินไม่ได้เลย มันทำให้สิตางศุ์รู้ว่าทางรักครั้งนี้มันไม่ง่าย บุรินทร์นั้นอาจจะยากแล้ว ถ้าเป็นคุณหญิงพิมลย่าของเขานั้นรับรองว่ายากกว่า แค่คิดมันก็ไม่สนุกแล้ว





“เอาน่าพี่รัช พ่อไม่ว่าหรอก ลองไปคุยกับท่านดีๆก่อน มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้” ภุมรินพูด





รัชพลถอนหายใจหนึ่งรอบก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของสิตางศุ์ไว้มั่น มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดไม่น้อยเลยทีเดียว การเผชิญหน้าต่อครอบครัวของตัวเองนั้นมันเป็นเรื่องลำบากใจเมื่อตัวเขาเองกำลังจะรักกับเพศเดียวกัน





รัชไม่เคยคิดในเรื่องที่จะรักกับผู้ชายด้วยกันมาก่อนในชีวิต เมื่อครั้งภุมรินกับตะวันนั้นเขาก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร แต่พอมาเจอกับตัวเองเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาแค่รักในสิตางศุ์ ต่อให้สิตางศุ์คือใครรัชพลก็ยังจะรักโดยไม่มีเหตุผลและข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น





“เชื่อใจพี่นะสิตางศุ์” รัชพลกุมมือนั้นไว้แน่นก่อนจะลุกขึ้นแล้วพาสิตางศุ์เข้าไปในบ้านตามที่บุรินทร์ได้บอกไว้เมื่อครู่





สิตางศุ์ทำหน้าคิดหนัก ถ้าเกิดบุรินทร์ไม่ยอมล่ะ ถ้าหากบุรินทร์ไล่เขาออกไปจากไร่น้ำริน เขาอาจจะไม่ได้พบรัชพลอีก เมื่อนั้นไออุ่นรอบๆตัวของเขาก็จะหายไป ความเหน็บหนาวก็จะเข้ามาโอบล้อมอีกครั้ง สิตางศุ์ในตอนนี้ถ้าเกิดไม่มีรัชพล เขาคงต้องเดียวดายทนกับความอ้างว้างนั้นอีกแล้ว





ไม่เลยสักนิด สิตางศุ์ไม่อยากให้รัชพลต้องอยู่ไกลจากเขา คำว่ารักจากใจจริงที่เพิ่งเคยได้สัมผัส ตอนนี้มันกำลังจะหายไป






เมื่อเข้ามาในบ้านก็เจอบุรินทร์กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ของบ้านรักษ์นทีโดยที่มีป้าจันกำลังเอาน้ำมาให้อยู่ด้วย ป้าจันหันไปสบตารัชพลเล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจก่อนจะถอยออกไปในครัวเหมือนเดิม





“นั่งสิ” บุรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่นั่นทำให้รัชพลและสิตางศุ์รู้สึกไม่ปกติ





“พ่อจะพูดเรื่องสิตางศุ์ใช่มั้ยครับ” รัชพลนั่งลงตรงข้ามพร้อมกับสิตางศุ์ เขาเปิดประเด็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าบิดาจะพูดเรื่องอะไร





“รู้ก็ดีแล้ว พ่อเพิ่งรู้เรื่องนี้จากป้าจัน แต่ไม่ต้องไปว่าอะไรแกนะ เพราะพ่อเป็นคนคาดคั้นเอง ถึงพ่อไม่อยู่บ้านแต่พ่อก็รู้ความเป็นไปทุกอย่างในไร่นี้ดี รัช... น้องก็มีตะวันไปแล้วนะ รัชไม่คิดจะหาผู้หญิงซักคนมาเป็นแฟนเหรอ ใช่ว่าสิตางศุ์นั้นจะไม่ดี แต่รัชเองก็ควรจะคิดถึงเรื่องอนาคตของตัวเองด้วย” นายเหนือของไร่น้ำรินพูดอย่างตรงไปตรงมา นั่นทำให้สิตางศุ์กำมือแน่น คำพูดนั้นทำให้สิตางศุ์หน้าชาไม่น้อย





นั่นสิ รัชพลควรที่จะมีผู้หญิงดีๆซักคนเพื่อมาเป็นแม่ของลูก เพื่อมาเป็นภรรยาที่ดี ไม่ใช่คนที่มาขออาศัยอยู่ที่บ้านเค้าตั้งนานสองนานแล้วยังจะเป็นภาระให้ในหลายๆเรื่อง เป็นธรรมดาที่บุรินทร์จะไม่พอใจ เขาไม่ได้มีอะไรดีเลยสักนิด แค่เด็กมีปัญหาที่ครอบครัวแตกแยกและหนีออกจากบ้านมาก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเจ้าของไร่น้ำรินอย่างรัชพลเลยสักนิด





“รัชคิดเรื่องอนาคตตัวเองดีแล้วครับ รัชรักสิตางศุ์ และสิตางศุ์คืออนาคตของรัช รัชรู้ว่าพ่อจะพูดอะไร แต่พ่อเปลี่ยนใจรัชไม่ได้หรอกครับ” รัชพลมองหน้าผู้ให้กำเนิดอย่างแน่วแน่ รัชพลรู้ว่าบิดาคิดอะไร ผู้หญิงซักคนเหรอ ถ้าคนคนนั้นเป็นคนที่รัชพลไม่ได้รัก มันก็ไม่มีความหมาย ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่สิตางศุ์มันจะสำคัญอะไร





“คุณรัช” สิตางศุ์เรียกชื่อรัชพลเบาๆเมื่อเห็นว่ารัชพลนั้นเริ่มขึ้นเสียงกับบุรินทร์ สิตางศุ์ไม่อยากเป็นตัวปัญหาที่ทำให้พ่อลูกทะเลาะกัน แค่นี้เขาก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว





“แล้วความสัมพันธ์แบบนี้มันจะไปได้นานแค่ไหนกันรัช ตอนนี้ลูกอาจจะคิดว่ามันดี มันใช่ แต่สักวันหนึ่ง...”





“มันไม่มีวันนั้นแน่นอนครับพ่อ พ่อก็รู้ว่ารัชเป็นคนยังไง รัชไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ รัชโตแล้วนะพ่อ รัชอายุยี่สิบห้าแล้ว พ่อจะมาบังคับรัชเหมือนรินไม่ได้ พ่อจำที่คุณยายพูดไม่ได้เหรอครับว่าวันหนึ่งรัชหรือแม้แต่รินก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง รัชรู้ว่าพ่อรักลูกทุกคน พ่อรักรัช พ่อรักริน และรัชก็รักตัวเองด้วย และความรักของรัชตอนนี้มันกำลังเผื่อแผ่ไปถึงใครอีกคน ใช่ว่ารัชรักกับสิตางศุ์แล้วรัชจะทำงานให้พ่อไม่ได้ ใช่ว่ารัชจะไม่ได้เป็นลูกของพ่ออีกต่อไป” รัชพลเริ่มมีน้ำโห เขาใช้โทนเสียงที่แรงขึ้นจนสิตางศุ์ต้องรีบกุมมือคู่ใหญ่นั้นไว้ รัชพลตัวสั่นแล้วมองหน้าบิดาอย่างไม่วางตา เขาอยากให้พ่อรู้ ว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน





“รัชจะพูดยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้พ่อขอบอกรัชไว้เลยว่าพ่อไม่อนุญาตให้คบกับสิตางศุ์ แล้วเราล่ะสิตางศุ์ พ่อแม่รู้เรื่องนี้รึยัง แล้วไหนจะออกจากบ้านมาตั้งเป็นเดือนๆ ไม่บอกให้พ่อแม่รู้หน่อยเหรอ แล้วการที่ตกลงคบกับรัชคิดว่ามันดีแล้วหรือไง ลองคิดเรื่องนี้ดูดีๆนะ” บุรินทร์เบนความสนใจมาที่สิตางศุ์แทน สิตางศุ์นั้นไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาบุรินทร์





มันก็ใช่ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ พ่อกับแม่นั้นไม่สนใจเขาอยู่แล้ว แต่คุณย่าล่ะ... ท่านจะอนุญาตมั้ย ขนาดแม่ของเขาท่านยังยากจะทำใจยอมรับเลย แล้วรัชพลท่านจะทำใจยอมรับได้เหรอ สิตางศุ์เองก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาแนวไหน เพราะตัวเองก็ยังไม่เคยมีเรื่องทำนองนี้ให้คุณย่าต้องคิดเลยสักครั้ง แต่ที่แน่ๆด้วยนิสัยส่วนตัวของท่านแล้ว ไม่มีทางยอมอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน





“ถึงพ่อไม่อนุญาตแต่รัชก็จะคบกับน้องต่อไป ส่วนเรื่องที่บ้านของสิตางศุ์นั้นรัชจะจัดการเอง” รัชพลจับมือสิตางศุ์แล้วพาเดินออกไปข้างนอกบ้าน ทิ้งให้บุรินทร์มองตามด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก





ที่เขาไม่คิดจะให้รัชพลคบกับสิตางศุ์ก็เพราะว่ารัชพลต้องดูแลไร่น้ำรินในอนาคต เขาต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องดูแลบ้านรักษ์นที และสิตางศุ์คือผู้ชาย เด็กคนนั้นไม่มีใครรู้เรื่องหัวนอนปลายเท้าเลย รู้จักกันแค่ผิวเผินเท่านั้น ใช่ว่าเขาจะอยากกีดกันเรื่องรักๆใคร่ๆของลูกไปเสียทุกคน เพราะรัชพลกับภุมรินก็โตแล้ว แต่เอาเถอะ ตอนนี้เขายังไม่อนุญาต แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะไอ้ลูกชายคนโตของเขาเองก็ท่าทางจะเอาจริงเสียด้วย





ยิ่งคิดบุรินทร์ยิ่งปวดหัว เขาทิ้งตัวลงกับโซฟา แล้วคิดถึงหน้าแม่ยายที่คอยด่าเขาอยู่ร่ำไป ถ้าริลณีรู้แน่นอนว่าต้องด่าเขาอีกแน่นอน ไม่พ้นต้องโดนบ่นหูชาเป็นแน่ คิดอีกแง่ เขาเองก็แก่ตัวลงมากแล้ว ถ้าเรื่องนี้รัชพลพิสูจน์ว่าจริงจัง เขาเองก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ต้องคุยกับฝ่ายสิตางศุ์ให้แน่ชัดด้วย อย่างเรื่องของตะวันกับภุมรินนั้นจัดการได้ง่ายเพราะเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้ว สิตางศุ์คนนี้ล่ะ เป็นใคร แล้วจะจริงใจกับรัชพลด้วยหรือไม่ เขาเองก็ไม่อาจรู้ได้












รัชพลเดินหัวเสียออกจากบ้านมาพร้อมกับสิตางศุ์ที่หน้าถอดสี การที่บุรินทร์พูดแบบนั้นมันชัดเจนแน่แล้วว่าไม่ต้องการให้เขาคบกับรัชพลต่อ





“คุณรัช ผมว่าเรื่องของเรา...”





“หยุดพูดนะสิตางศุ์ เรื่องเขาเราก็คือเรื่องของเรา อย่ามาถอดใจง่ายๆแบบนี้ พ่อก็พูดไปอย่างนั้นแหละ อย่าเก็บมาใส่ใจเลย แล้วเราตกลงกันว่ายังไง เรียกพี่รัชไม่ใช่เหรอ” รัชพลเผลอใช้น้ำเสียงที่คุยกับบิดาพูดกับสิตางศุ์ จนคนตัวเล็กผงะไปเล็กน้อย





“พะ...พี่รัช แต่คุณบุรินทร์เหมือนไม่ชอบผม เขาคงอยากให้พี่เจอคนดีๆ มากกว่าคนที่ไม่มีอะไรเลย แล้วยังมีปัญหาครอบครัวอีก” สิตางศุ์ก้มหน้า คิดถึงเรื่องของตัวเองแล้วรู้สึกสมเพชทุกครั้งไป





“ฟังนะสิตางศุ์ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง แม้คนนั้นจะเป็นพ่อของพี่ก็เถอะ พี่ก็ยังยืนยันว่าเราจะรักกันอย่างนี้ เข้าใจมั้ยครับ อย่าคิดมาก” รัชพลจับแก้มทั้งสองข้างของสิตางศุ์แล้วเชยขึ้นเพื่อให้อีกคนสบตาเขา น้ำเสียงนั้นเริ่มลดระดับลงเมื่อรู้ว่าตัวเองชักจะพูดแรงเกินไปกับสิตางศุ์





สิตางศุ์จ้องเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า รัชพลหนักแน่นจนเขารู้สึกผิด ผิดที่คิดจะถอย ทั้งๆที่เราอุตส่าห์รู้สึกเหมือนกันแล้วแท้ๆ แต่เขากลับคิดท้อทั้งๆที่มันแค่เริ่มเท่านั้นเอง





“เด็กดี อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้ ไม่ต้องกลัว พี่จัดการเอง ส่วนสิตางศุ์ก็อยู่ข้างๆพี่ไม่ไปไหนก็พอ” พูดจบก็จูบหน้าผากสิตางศุ์ไปหนึ่งทีก่อนจะพาไปหาทั้งสามคนที่รอลุ้นอยู่ตรงหน้าบ้าน





“พ่อว่าไงบ้างพี่รัช” ภุมรินถามคนแรกเมื่อรัชพลกับสิตางศุ์เดินมาถึง





“พ่อไม่อนุญาตให้คบ แต่พี่ไม่สน” รัชพลพูดพร้อมกับพาสิตางศุ์มานั่งที่เดิม






“เอาอีกแล้วอาบูร โรคหวงลูก” ตะวันยิ้มอย่างขยาด เขารู้ฤทธิ์ของบุรินทร์ดีเรื่องหวงลูก ขนาดรัชพลยังหวง แล้วภุมรินที่เขาอุตส่าห์ไปฉุดจากอกพ่อเสือมาได้นี่ต้องหวงกว่าอยู่แล้ว แค่คิดถึงตอนนั้นตะวันก็ขนลุกขนพอง





“อย่าไปยอมนะพี่รัช พ่อชอบเป็นอย่างนี้ตลอด” ภุมรินเริ่มจะโมโหแทน





“พ่อคุณรัชหวงคุณรัชอย่างนั้นเหรอ” ภูวดลที่ฟังอยู่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายตัวใหญ่ๆ อายุอานามก็น่าจะดูแลตัวเองได้แล้ว ทำไมพ่อยังจะมาหวงอีก





“ก็ใช่น่ะสิพี่ภู พี่รัชแก่ขนาดนี้แล้วยังจะหวงไม่เลิก” ภุมรินว่า





“เหอะๆ ด่านแรกก็สนุกแล้ว ระวังไว้นะคุณรัช ย่าไอ้แห้งยิ่งกว่านี้อีก คุณหญิงพิมลน่ะนอกจากจะเป็นที่รู้จักในวงธุรกิจแล้ว รู้อะไรมั้ย ท่านยังเป็นที่รู้จักในวงการอะไรอีก”





คำพูดของภูวดลทำเอาทุกคนต้องหันไปมอง รัชพลจ้องตากับภูวดล ดูเหมือนว่าไอ้หนุ่มแบรนด์เนมชักจะสนุกกับเรื่องนี้คนเดียวเสียแล้ว เพราะแววตาของภูวดลตอนนี้มันฉายภาพออกมาได้ชัดเจน





“คุณหญิงพิมล ศิรินทรา ยังเป็นที่รู้จักในวงการเจ้าพ่อเจ้าแม่ของไทยอีกด้วย ไม่ใช่ศาลเจ้าหรอกนะ แต่หมายถึงมาเฟียน่ะ หึๆ คิดจะสอยไอ้แห้งต้องผ่านปืนหลายกระบอกหน่อยนะครับคุณรัช” ภูวดลยักคิ้วให้รัชพลหนึ่งครั้งก่อนจะก้มลงกินต่อราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงอะไร





แต่รัชพลนี่สิ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทุบหัวให้หนักอึ้ง ...ใครว่าสิตางศุ์คนนี้ธรรมดากัน
































*******************************************************************************


















เอาแล้วววววววววววววววววว พี่รัชเอาแล้วววววววววววววววววววววววววววววว  :katai1: จะจัดการยังไงล่ะทีนี้ เล่นกับใครไม่เล่น ฮี่ๆ คุณพ่อหวงลูกอีกแล้ว หวงลูกทุกคน อิพี่รัชก็ไม่เว้น ฮ่าๆ เอาใจช่วยพี่รัชด้วยนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่าน  :katai5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
สงสารไม่ถูกเลยพี่รัชน้องตาง สู้นะ เชื่อว่าบ้านพี่รัชนี่เบาสุดแล้วล่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ namtan15

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรานี้อยากจะจับคู่ให้  คุณพ่อบุรินทร์  กับ  ภูวดล  :hao6: :hao6:
 จิมๆเลย
ติดตามทุกเรื่องชอบคร้าาาาาา
#เป็นกำลังใจให้น่าาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ต้องให้แม่ยายของฝั่งรัชมาไฝว้กับย่าของสิตางศ์ุสิ หึ หึ หึ   :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ของพี่รัชโหดกว่าตะวันและรินอีกนะเนี่ย
ฝ่าดงปืน.... o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 19





“ภูก็พูดเกินไป ไปว่าท่านแบบนั้น” สิตางศุ์แก้ต่าง เขาไม่อยากให้รัชพลคิดมาก เพราะแค่คุณบุรินทร์ก็น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับพวกเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของคุณย่าเขาไม่อยากให้รัชพลคิดตอนนี้





“เกินไปที่ไหน หรือมึงจะปฏิเสธว่ามึงไม่ได้เป็นหลานมาเฟีย บ้านไอ้แห้งมันนะเป็นมาเฟียมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เผลอๆทวดอีก แม้จะทำธุรกิจอย่างอื่นแต่ความเป็นมาเฟียของบ้านมันก็ยังอยู่ในสายเลือดและการกระทำก็ด้วย เห็นไอ้ตางมันอย่างนี้ บอดี้การ์ดนี่เพียบ แล้วหนีมาอย่างนี้ย่ามันจ้างนักสืบให้วุ่น แต่แม่งเล่นหายมาดื้อๆ ปิดมือถือขาดการติดต่อ แล้วมาอยู่ไร่น้ำริน คุณย่าท่านไม่คิดหรอกว่ามันจะรู้จักใครนอกจากภูวดลคนนี้ ไอ้เราก็ไม่คิดว่ามันจะหนีมาหาริน ไอ้ภูไม่อยากจะคิดเลย ถ้าคุณย่าท่านรู้ว่ามึงมาอยู่นี่ เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ แล้วถ้าท่านรู้เรื่องแม่มึงอีกนะไอ้ตาง น้ามินไม่รอดแน่” ภูวดลพูด สิตางศุ์หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด





ที่ภูวดลพูดมันก็ใช่ คุณย่าท่านมีอิทธิพลและอำนาจมากแค่ไหนใครก็รู้ ไม่ใช่แค่ในวงธุรกิจแต่ในวงการมาเฟียอีก มือท่านไม่สะอาดอย่างที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก เพราะท่านเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยเก็บใคร ยิ่งเป็นคนที่ท่านคิดว่าไม่สมควรอยู่บนโลกนี้ต่อไป





มินตรา แม่ของเขาอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็ถือว่าเก่งพอสมควร และถ้ารู้ว่าเขามาอยู่ไร่น้ำริน รู้ว่าเขาคบกับรัชพล เรื่องมันจะออกมาเป็นอย่างไหนยังไม่รู้เลย เขาไม่อยากให้คนที่นี่เดือดร้อน เพราะแค่นี้เขาก็สร้างปัญหามากพอแล้ว





“งานหนักกว่ากูอีกไอ้รัช” ตะวันพูด เขาเองยังผวาแทนเมื่อฟังจากภูวดลพูด รัชพลกำลังก้าวขาเข้าไปในกรงเสือข้างหนึ่งแล้ว แถมยังแอบอุ้มลูกเสือติดมือมาอีกหนึ่งตัว ไม่อยากจะคิดภาพต่อไปเลยสักนิด





“มันไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่รัช คุณย่าท่านไม่ใจร้ายขนาดนั้น” สิตางศุ์พยายามพูดให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเมื่อเห็นว่ารัชพลเริ่มขมวดคิ้ว ในใจก็อยากจะว่าภูวดลเหลือเกิน มาพูดอะไรตอนนี้กันเล่า





“เอาแล้วไงพี่รัช เอาแล้วไง ทำไมรินไม่รู้มาก่อนเลยเนี่ย งานหนักแน่คุณรัชพลคนเก่ง นั่นแหละกีดกันน้องไว้เยอะนัก เจอเองเลยเป็นไงล่ะ” ภุมรินพูด






“จะพูดให้มันเครียดเพิ่มทำไมได้แสบ นั่งนิ่งๆเลย” ตะวันรีบปิดปากคนรัก แต่รัชพลนี่สิหน้าเครียดไปเรียบร้อย สิตางศุ์เริ่มใจแป้ว





อย่างนี้รัชพลยังอยากจะคบเขาต่อมั้ยนะ...





“ถอดใจตอนนี้ก็ทันนะคุณรัช” ภูวดลพูดทีเล่นทีจริง รัชพลหันขวับอย่างรวดเร็ว





“ไม่มีทางหรอก ต่อให้ยากกว่านี้ผมก็ต้องทำให้ย่าของสิตางศุ์เชื่อให้ได้ว่าผมรักจริงและสามารถดูแลสิตางศุ์ได้” รัชพลพูดอย่างหนักแน่น นั่นทำให้ภูวดลพอใจไม่น้อย





“เก่งแต่พูดรึเปล่า” เหมือนภูวดลสนุกกับการได้แหย่รัชพล โดยมีสิตางศุ์นั่งมองค้อนเขาอยู่ไม่ไกล รัชพลผู้หนักแน่นคนนี้ เจอปืนของคุณหญิงพิมลเข้าไป คงไม่วิ่งหางจุกตูดไปก่อนนะ





“แล้วคุณจะรู้ว่าผมเก่งแต่พูดรึเปล่า” พูดจบก็ลุกแล้วเดินหนีไป





“ภูนะภู พี่รัชเค้าเพิ่งเครียดเรื่องพ่อมา จะมาพูดเรื่องคุณย่าทำไมตอนนี้” สิตางศุ์ว่าเพื่อนแล้วเดินตามรัชพลไปทิ้งให้ภูวดลหัวเราะลั่นอยู่คนเดียว





“เรื่องนี้อีกยาวแน่ ฮ่าๆ” เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องนี้ไอ้หนุ่มแบรนด์เนมนั้นสนุกอยู่คนเดียว ภุมรินกับตะวันที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองหน้ากันแล้วคิดหนัก





เอาเข้าจริงๆก็เป็นห่วงพี่รัชไม่น้อยเหมือนกัน











“พี่รัช อย่าไปฟังที่ภูมันพูดมากเลย” สิตางศุ์คว้าแขนของรัชพลเอาไว้เมื่อขึ้นมาชั้นบนของบ้านรักษ์นที





“พี่ไม่ได้คิดเรื่องที่คุณย่าของตางเป็นใครหรอกนะ พี่แค่ไม่ชอบที่เพื่อนของตางมาพูดว่าพี่เก่งแต่ปาก” รัชพลทำหน้าไม่พอใจ





“แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมรู้ว่าพี่รัชจริงจังมากแค่ไหน และพี่รัชต้องทำให้คุณพ่อของพี่ รวมทั้งคุณย่าเข้าใจ ไม่ต้องกังวลนะครับ” สิตางศุ์ลูบแขนคนตัวโตกว่าเพื่อที่จะให้รัชพลอารมณ์เบาลง จนรัชพลถอนหายใจหนักๆออกมานั่นแหละ





“พี่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเป็นยังไงนะสิตางศุ์ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่ถอดใจ และพี่จะมั่นคงอย่างนี้ ขอแค่สิตางศุ์ยังอยู่ข้างพี่ก็พอ” รัชพลมองหน้าอีกคน มันคงเป็นเวรกรรมที่เขาขัดขวางตะวันกับภุมรินไว้มาก พอมาถึงเรื่องของตัวเองแบบนี้ มันก็เลยมีอุปสรรคเป็นสองเท่า ทั้งพ่อทั้งย่าของสิตางศุ์ ไอ้รัชมันจะผ่านไปได้ซักด่านไหมนี่





“ก็อยู่ตรงนี้ไง ไม่ไปไหนหรอก อย่าเพิ่งคิดมาก พี่รัชเป็นคนบอกผมเองนะ” สิตางศุ์สวมกอดคนตรงหน้าแล้วลูบแผ่นหลังของรัชพลเบาๆเพื่อเป็นการปลอบ รัชพลยิ้มเล็กน้อยแล้วซบหน้าตัวเองลงกับไหล่เล็กน้อย





“พี่รักสิตางศุ์นะครับ” คำพูดไม่กี่คำนั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มผ่อนคลายลง





“คืนนี้จะนอนห้องผมก็ได้นะ คุณตะวันคงนอนกับริน” สิตางศุ์รู้สึกเขินเมื่อพูดประโยคนั้นออกไป แต่รัชพลกลับยิ้มกริ่มเสียนี่





“อะไรกัน ชวนผู้ชายเข้าห้อง” ร่างสูงผละออกแล้วทำหน้ากรุ้มกริ่ม





“ถ้าอย่างนั้นก็ไปนอนโรงบ่มคนเดียวเลย” สิตางศุ์ค้อนแล้วเดินเข้าห้องไป เขาอุตส่าห์เอ่ยปาก ไหงมาแซวเสียได้





“ล้อเล่นครับน้องตาง ให้พี่รัชนอนด้วยนะ” รัชพลรีบตามเข้าไปก่อนจะปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยโรงเรียนรัชพล





เมื่อเข้ามาในห้องสิตางศุ์ก็ชิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก รัชพลจึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม แม้ว่าวันนี้จะมีเรื่องให้คิดมากมาย แต่ตอนนี้ข้างกายเขามีสิตางศุ์ แค่นี้มันก็พอแล้ว เขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ยังมีอีกคนคอยอยู่ข้างๆ วันหน้าถ้าพ่อยังไม่เข้าใจหรือคุณย่าของสิตางศุ์คิดจะสั่งเก็บเขา มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว





ก่อนอื่น คืนนี้จะนอนกอดน้องตางให้หนำใจไปเลย











เช้าวันใหม่ของไร่น้ำรินยังคงเหมือนเดิม แต่จะไม่เหมือนเดิมก็ตรงที่วันนี้รัชพลตื่นสายกว่าปกติและมีอีกคนกำลังนอนซุกอกเขาอยู่ เมื่อคืนกว่าจะนอนกันได้สิตางศุ์ก็ต้องหลบมือปลาหมึกของเจ้าของไร่เป็นพัลวันก่อนที่คืนนั้นจะจบลงด้วยจูบแสนหวาน นั่นทำให้รัชพลมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว สิตางศุ์ที่เขินหนักสุดท้ายกลับกอดรัชพลแน่นแล้วหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เจอรัชพลกำลังจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว นั่นทำให้ร่างเล็กหลบตาวูบแล้วพลิกตัวหนี





“หันหน้าหนีพี่ทำไมสิตางศุ์ เขินรึไง” รัชพลแหย่ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอาเอวนั้นมารวบไปไว้แน่น จนสิตางศุ์ต้องหันหน้ามามอง





“กอดอะไรนักหนา เมื่อคืนก็กอดทั้งคืน” คนตัวเล็กว่า รัชพลก็เจอค้อนวงงามจากสิตางศุ์แต่เช้าไปเต็มๆ





“อยากกอดแฟน” พูดจบก็หอมหน้าผากสิตางศุ์ไปฟอดใหญ่





“มาหอมอะไรแต่เช้าเนี่ยพี่รัช ฟันก็ยังไม่ได้แปรงเลย ไปเลยนะ ไปล้างหน้าแปรงฟันเลย วันนี้มีงานต้องทำ ตื่นซะสายขนาดนี้” สิตางศุ์ดันร่างใหญ่นั้นออกจากตัวก่อนจะลุกออกจากเตียง ขืนอยู่อย่างนั้นรัชพลไม่ยอมปล่อยเขาลุกแน่ นี่ก็สายมากแล้ว





“ครับที่รักครับ” รัชพลลุกตามก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ขโมยหอมแก้มสิตางศุ์ไปหนึ่งที สิตางศุ์ได้แต่มองค้อนแล้วหน้าแดงสลับซีด





ขืนนอนกับรัชพลทุกวันเขาคงเขินตายแน่ๆ





เมื่อรัชพลเข้าห้องน้ำไปเขาก็เลยนั่งรออยู่บนเตียง ป่านนี้ภุมรินคงไปส่งองุ่นเหมือนทุกวันแต่วันนี้คงจะไปพร้อมตะวัน ส่วนภูวดลเพื่อนของเขานั้นก็คงไปเที่ยวเล่นในไร่นั่นแหละ เห็นบอกเขาว่าได้คนพาเที่ยวแล้ว เหลือแต่เขากับรัชพลนี่แหละที่ยังคงนอนกินบ้านกินเมืองอยู่ เพราะรัชพลแท้ๆเลย





ครืด...





เสียงที่ดังขึ้นข้างๆตัวทำให้สิตางศุ์ต้องหันไปมอง มันคือโทรศัพท์ของรัชพลนั่นเอง ไม่มีทางแน่นอนที่จะเป็นโทรศัพท์ของเขา เพราะเวลานี้มันก็ยังคงปิดสนิทเหมือนเดิม สิตางศุ์จับมือถือเครื่องเล็กนั้นขึ้นมา ชื่อที่ปรากฏนั้นทำให้เขาแปลกใจ





‘ไอ้เมฆตัวป่วน’





เมฆ? เมฆไหน สิตางศุ์ไม่เคยรู้จักคนคนนี้มาก่อน อาจจะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของรัชพล แต่ด้วยชื่อที่เมมไว้นั้นทำให้เขาแปลกใจไมน้อย คนปกติเขาเมมชื่อกันอย่างนี้เหรอ เสียงร้องจากโทรศัพท์นั้นยังไม่หยุด และรัชพลก็ยังคงไม่ออกมา สิตางศุ์เลยถือโอกาสกดรับแทน เขาเป็นคนรักกับรัชพล แค่รับโทรศัพท์แทนกันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





“รับช้าจังเลยตาแก่แช่โรงบ่ม พี่รัชจ๋า น้องเมฆคิดถึ๊งคิดถึง” เสียงที่ดังจากปลายสายนั้นแสดงได้ถึงความสนิทสนมกับเจ้าของโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี และคำพูดที่ใช้เรียกกันนั้นทำให้สิตางศุ์คันยุบยิบที่หัวใจไม่น้อย





“เอ่อ...” สิตางศุ์ไม่รู้จะพูดอะไรดี จะบอกว่าเขาไม่ใช่รัชพลอย่างนั้นหรือ ใช่แล้ว... ต้องบอกให้ปลายสายรู้ก่อน





“ใครโทรมาน่ะตาง” รัชพลที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์กำลังคุยโทรศัพท์ของเขา เพราะอยู่ในห้องน้ำเขาเองก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เหมือนกัน





“เอ่อ... เหมือนจะเป็นคนชื่อเมฆครับ” สิตางศุ์ลดโทรศัพท์ลงไปแล้วยื่นให้รัชพล อีกใจหนึ่งก็กลัวคนรักจะตำหนิที่ถือวิสาสะไปรับแทน





“อ๋อ ไอ้เมฆ” รัชพลรับโทรศัพท์มาแล้วไปนั่งคุยบนเตียง สิตางศุ์เลยลุกไปเข้าห้องน้ำแทน แต่ในใจก็เริ่มสงสัย ว่าเมฆคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้สนิทกับรัชพลถึงขั้นนี้





“โทรมาทำไมเอาตอนนี้ครับคุณหมอ เพิ่งจะนึกได้รึไงว่ามีรัชพลคนนี้อยู่บนโลก” รัชพลพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเตียง สิตางศุ์เข้าห้องน้ำไปแล้วแต่ก็คงได้ยินบทสนทนานั้นอยู่





“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย บอกว่าคิดถึงพี่แล้วทำไมไม่เคยโทรหากันเลยห๊ะ” รัชพลำเสียงขุ่น





“น้องนุ่งก็มีงานต้องทำป่ะ เป็นหมอนะ ปีสุดท้ายแล้วด้วย ใครจะเหมือนเจ้าของไร่น้ำรินล่ะ ทำงานนิดๆก็มีเงินใช้แล้ว” คำพูดของเมฆาบวกกับคำพูดนั้นทำเอารัชพลอยากจะเขกหัวเพื่อนรักของน้องชายตัวเองเสียจริง เมฆาตัวป่วนที่ทำเรื่องไว้มากมาย ยังคงเป็นเด็กน่าหมั่นไส้เหมือนเดิมไม่มีผิด





“ดูมันพูดเข้า แล้วคิดยังไงถึงโทรหาพี่รัชคนนี้ครับน้องเมฆ” รัชพลแสร้งทำเสียงเป็นพี่ชายที่แสนจะคิดถึงน้อง นั่นทำให้เมฆาต้องเบ้ปากเมื่อได้ฟัง





“ก็ได้ข่าวใหม่มาจากรินไรงี้ ว่าตาแก่แช่โรงบ่มอย่างพี่รัชมีฟงมีแฟนกับเค้าแล้ว ใครอ๊ะ!” เมฆาเริ่มเข้าประเด็น รัชพลหัวเราะในลำคอ ตลอด... เรื่องของเขานี่ภุมรินไม่เคยพลาดที่จะเล่าให้เมฆาฟัง ไอ้แสบไอ้ป่วน เจอกันแล้วปวดหัวทุกที





“ก็ใช่ แล้วไง” รัชพลตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยี่หระ





“แล้วไงล่ะ ลืมเมฆแล้วไง”





“ใครจะลืมน้องเมฆลงล่ะครับ ถึงพี่จะลืมเมฆก็ทำให้จำอยู่ดี จำจนขึ้นใจแล้วเนี่ยว่าเมื่อก่อนป่วนอะไรไว้” รัชพลพูดถึงตอนที่เมฆาสร้างเรื่องไว้ตอนตอนตะวันกับภุมรินแอบพากันหนีไปตอนนั้น





“จำแต่เรื่องดีๆของน้องบ้างเหอะ เมฆมีเวลาไม่มาก เล่ามาเลย ว่าแฟนพี่รัชเป็นใคร!” เมฆาทำเสียงเข้ม





“ใช่ว่าไปถามรินมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมาทำเป็นอยากรู้เลย” รัชพลดักทางอย่างรู้ทัน





“โว๊ะ! รอเลยนะ รอเมฆกลับไปเลยนะ ซักจนขาวสะอาดแน่”





“ครับผม พี่รัชคนนี้จะรอน้องเมฆมาซักให้สะอาดเลย ไปเลยไอ้ป่วน ทำงาน”





“ครับพี่รัชพลสุดหล่อ ไปละ คนมีงานมีการต้องทำ” พูดจบเมฆาก็วางสายไป รัชพลหัวเราะร่วน เมฆาก็ยังคงเป็นเมฆาวันยังค่ำ





น้องชายของตะวันเพื่อนรักพ่วงตำแหน่งเพื่อนซี้ของภุมรินน้องชายของเขา ความสนิทสนมนั้นมีมาตั้งแต่เด็กจนโต จนรัชพลถือว่าเมฆาเป็นน้องชายไปอีกคน และแน่นอนว่าพอเขามีเรื่องอะไรก็ตามเมฆาก็ต้องไอ้รับรายงานจากภุมรินทุกครั้งไป สองคนนี้ไม่เคยจะปิดบังอะไรกันเลย





แต่ความสนิทนั้นทำให้สิตางศุ์ไม่เข้าใจ เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังรัชพลแต่อย่างใด แต่ทุกคำพูดของคนรักมันทำให้สิตางศุ์แอบคิดอยู่เหมือนกัน เมฆาคนนี้เป็นใครกันนะ แค่โทรมาหารัชพลไม่กี่นาทีก็ทำให้คนตัวโตหัวเราะได้ และคำพูดที่หยอกล้อกันนั่นอีก





สิตางศุ์รู้สึกเหมือนมีคนมากระชากหัวใจของเขาไป เขาเป็นกังวล กังวลว่ารัชพลอาจจะมีคนที่สนิทอยู่แล้ว อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากจะคิด ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ล่ะ นั่นแปลว่าเขาเองไม่ไว้ใจรัชพล






แต่ในฐานะคนรัก เขาเองก็อยากจะหึงหวงรัชพลบ้างเหมือนกัน








******************************************************************************







ตอนนี้ให้พักหายใจแป้บนึง ตอนหน้าเข้าสู่ดราม่าเลเวลหนึ่ง และมันจะเป็นดราม่าอีกยาวไกลแสนไกล  :hao7: ตอนนี้สิตางศุ์แอบหึงเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการเท่าอิพี่รัชหรอก ตัวนั้นหนักสุด  :hao3: น้องเมฆโผล่มาทักทายเล็กน้อย ฝากเนื้อฝากตัวไว้ก่อน เรื่องต่อไปจะได้เจอเต็มๆ  :katai5: ใครลุ้นพี่ภูกับคุณพ่อ อย่าเลยค่ะ คนเขียนขอร้อง  :serius2: แล้วมีคนลืมโรจน์กับอิเสี่ยทรงยศรึยังล่ะนี่ หึๆ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เตรียมตัวรับดราม่าสินะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ต้มน้ำรอ ไม่อยากกินเลย  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 20





มันชั่งเป็นมื้อเช้าที่รัชพลรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง ตั้งแต่ลงมาทานข้าวสิตางศุ์ก็ยังไม่พูดกับเขาเลยซักคำเดียว แถมเจ้าตัวก็เอาแต่ทำหน้านิ่ง หากมองเผินๆมันอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่รัชพลรู้ว่ามันไม่ปกติ อะไรทำให้สิตางศุ์มีท่าทีแบบนี้กับเขากัน อยู่ๆก็ทำเหมือนโกรธ





สิตางศุ์ทานอาหารเช้าเสร็จก็ลุกออกไปก่อนโดยที่รัชพลยังทานไม่เสร็จด้วยซ้ำ เจ้าของไร่หนุ่มต้องรีบยกน้ำตามแล้ววิ่งออกไปหาคนรักที่ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรเขา หรือสิตางศุ์จะกังวลเรื่องครอบครัวอีกแล้ว





“เดี๋ยวก่อนสิตางศุ์” รัชพลคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของสิตางศุ์





สิตางศุ์เงยหน้ามองอีกคนแล้วเบือนหน้าหนี ใจจริงอยากถามออกไปแต่กลัวว่านั่นจะทำให้รัชพลไม่พอใจที่เขาไปก้าวก่ายชีวิตของอีกคนมากเกินไป สิตางศุ์ไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาหึงหวงใครแบบนี้ แต่เขารู้สึกไม่สบายใจ เห็นหน้ารัชพลก็พาลให้นึกถึงคำหวานที่รัชพลพูดกับคนอื่น เพราะฉะนั้นการหลบหน้านั้นน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุดในตอนนี้ แต่สิตางศุ์ไม่รู้ว่าสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกไปนั้นมันสื่อถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด





“สิตางศุ์ครับ มองหน้าพี่หน่อย เป็นอะไรครับ ไม่พอใจอะไรรึเปล่า” รัชพลเชยคางอีกคนขึ้น อยู่ๆสิตางศุ์ก็มีท่าทีไม่พอใจเขา ทั้งๆที่รัชพลเองก็ยังไม่รู้เลยว่าไปทำอะไรให้อีกคน





สิตางศุ์ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เขาชินกับการไม่พูดเมื่อมีปัญหาในใจ เพราะชีวิตในวัยเด็กมันหล่อหลอมเขามาแบบนั้น





“ถ้าตางไม่พูดพี่ก็ไม่รู้ว่าตางคิดอะไรอยู่ และตางก็จะโกรธพี่อยู่อย่างนี้” รัชพลว่า





“ไม่ได้โกรธซักหน่อย” สิตางศุ์สวนทันควัน เขาไม่ได้โกรธรัชพล เขาแค่อึดอัดใจที่รัชพลไปสนิทกับคนอื่นขนาดนั้น





“ไม่ได้โกรธก็บอกพี่มาสิครับว่าทำไมไม่พูดกับพี่” รัชพลแอบยิ้มเล็กน้อยเมื่อสิตางศุ์ยอมพูดกับเขาแล้ว





“เอาตรงๆเลยนะครับ... เมื่อเช้าคนที่โทรมาคือใคร” สิตางศุ์จ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาที่จริงจัง รัชพลที่ยิ้มอยู่แล้วก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก





“ทำไมน่ารักอย่างนี้นะสิตางศุ์” คนตัวโตหอมหน้าผากสิตางศุ์ฟอดใหญ่จนสิตางศุ์ต้องย่นตัวหนี แล้วมองอีกคนด้วยแววตาที่ไม่พอใจ





“อะไรกันเนี่ยพี่รัช มาหอมทำไม ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ” สิตางศุ์เริ่มจะขึ้นเสียง เขาจริงจังแต่รัชพลกับทำเป็นเล่นไปได้ เขาอยากรู้ว่าคนนั้นคือใคร เมฆาอะไรนั่นทำไมดูสนิทกับรัชพลขนาดนั้น





“พี่ชอบเวลาตางหึง” รัชพลยิ้มกริ่ม สิตางศุ์หน้าแดงเห่อ ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่ที่รัชพลจับได้ว่าเขาหึงคนตัวโต





“ก็มันน่ามั้ยล่ะ ทำไมดูสนิทกับคนที่โทรเมื่อตอนเช้า แล้วยังพูดคำหวานใส่กันอีก” ประโยคหลังสิตางศุ์ลดเสียงลงให้เป็นปกเมื่อรู้ว่าตัวเองชักจะเสียงดังเกินไปแล้ว





“สิตางศุ์ครับ พี่จะบอกอะไรให้นะ พี่ไม่มีใครนอกจากสิตางศุ์หรอก นั่นน่ะไอ้เมฆเพื่อนรินมัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และการที่พี่พูดคุยกับเมฆแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติของพี่อยู่แล้ว” รัชพลพูดด้วยแววตายิ้มๆ ใจนึงก็นึกอยากจะขอบคุณเมฆาที่โทรมาหาแต่เช้า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้เห็นสิตางศุ์ในมุมนี้






“จริงเหรอ” สิตางศุ์สบตากับอีกคน ถึงแม้ว่ารัชพลจะพูดว่าไม่ได้มีอะไรมากกว่าพี่น้องหรือคนรู้จัก แต่สิตางศุ์เองก็ยังไม่มั่นใจ ก็เพราะการพูดหยอกล้อของรัชพลกับเมฆานั้นมันน่าคิดเป็นที่สุด





“จริงสิครับ ไอ้ป่วนน่ะมันโทรมาถามพี่ว่ามีแฟนแล้วทำไมไม่บอก เมฆมันยังอยากจะรู้เลยว่าสิตางศุ์เป็นใคร ทำไมถึงทำให้พี่รักได้ขนาดนี้”





ไม่พูดเปล่ารัชพลยังดึงเอาตัวของอีกคนเข้ามากอดแน่น สิตางศุ์ก้มหน้าลง รู้สึกอายไม่น้อยที่ตัวเองคิดเป็นตุเป็นตะไปเสียไกล





“ต่อไปนี้นะตาง เวลามีอะไรก็ถามตรงๆ อย่างเรื่องวันนี้ มันไม่มีอะไรเลย ถ้าตางมัวแต่เก็บเงียบคนเดียวมันจะกลายเป็นว่าเราจะเข้าใจไปเองและทำให้เกิดปัญหาได้ เข้าใจมั้ยครับ” รัชพลพูด นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกผิดไม่น้อย





“ขอโทษครับ ผมแค่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง” กล่าวขอโทษอีกคน เรื่องการเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนั้นเป็นนิสัยที่ไม่เคยจะแก้หายของเขาเอง เพราะมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก การจะเปิดใจเล่าทุกเรื่องหรือบอกทุกอย่างกับใครอีกคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายอะไรเลย





“คราวนี้ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่คราวหน้ามีอะไรต้องบอกนะ” รัชพลคาดโทษไว้ก่อน





“ครับ” สิตางศุ์รับคำ บางทีมันก็น่าจะถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้ใครอีกคนอย่างเต็มที่แล้ว ตอนนี้ไม่ได้มีแค่สิตางศุ์ แต่ยังมีรัชพลคนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต





หลังจากคุยกันเรียบร้อยรัชพลก็พาสิตางศุ์ไปทำงานที่สำนักงานอย่างเดิม ตอนนี้สิตางศุ์เข้ามาทำงานที่นี่อย่างเต็มตัวแล้ว เงินเดือนที่รัชพลให้ก็มากขึ้นกว่าเดิมเพราะต้องดูแลบัญชีถึงสองขั้นตอน เจ้าหมาด่างตอนนี้ก็เริ่มจะขาหายดีบ้างแล้วแต่ก็ยังวิ่งซนไม่ได้ ก้องก็เปิดเทอมจึงไม่ได้เข้ามาช่วยงานที่ไร่ ส่วนหมอชาญก็เหมือนจะหายไปจากสาระบบชีวิตของสิตางศุ์เลยก็ว่าได้ รู้อีกทีก็กลายเป็นไกด์พิเศษให้ภูวดลไปเรียบร้อย





“ไปในเมืองกับพี่มั้ยตาง” รัชพลดินมาหาสิตางศุ์ในสำนักงาน





เขาจะเข้าตัวเมืองเพราะต้องไปดูเรื่องปุ๋ยและสารเคมีอื่นๆที่ใช้ในไร่เพิ่ม วันนี้ภุมรินไม่สะดวกไปเขาเลยจะไปแทนน้องชาย ถ้าโอเคแล้วค่อยให้คนงานที่ไร่ไปจัดการต่อ เลยมาชวนสิตางศุ์ไปด้วยกันเสียหน่อย






“แต่งานยังไม่เสร็จเลยนะครับ” สิตางศุ์พูด งานนั้นยังไปไม่ถึงไหนเลย เขาเองก็เพิ่งไปซื้อของกับหมอชาญมาวันนั้นเอง วันนี้รัชพลจะมาชวนไปอีกแล้ว





“เอาน่า เดี๋ยวค่อยกลับมาทำ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ ทีกับหมอชาญยังไปได้เลย” ประโยคหลังของรัชพลทำให้สิตางศุ์ต้องละมือจากงานที่ทำอยู่ ร่างเล็กมองค้อนคนตัวโต รัชพลเอาเรื่องนี้มาอ้างอีกแล้ว





“ไปก็ไปครับ แล้วก็หยุดพูดเรื่องนั้นซักทีเถอะน่า” สิตางศุ์รวบเอกสารไว้แล้วจัดให้เข้าที่ก่อนจะลุกมาหารัชพลที่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ





“ดีมากครับที่รัก” รัชพลเดินอารมณ์ดีนำสิตางศุ์ออกไป แต่สิตางศุ์นี่สิรู้สึกหมั่นไส้คนรักเสียจริง





รถคันโตของที่มีสติกเกอร์ขนาดใหญ่ของไร่น้ำรินแปะไว้ข้างหน้าแล่นออกจากไร่ตรงไปยังตัวอำเภอ ซึ่งการจะเข้าตัวเมืองนั้นต้องลงจากเขา คนของไร่น้ำรินนั้นลงไปไม่บ่อยนัก เพราะคนงานส่วนใหญ่ก็มาจากหมู่บ้านผาตะวันบนเขาทั้งนั้นหรือไม่ก็ชาวบ้านละแวกนั้น รวมไปถึงคนงานประจำที่มีที่พักอยู่ในไร่อีกด้วย จะมีก็แต่ภุมรินและนพที่ลงมาทุกวันเพราะต้องเอาองุ่นไปส่งในตลาดประสิทธานนท์ รัชพลก็ไม่ค่อยลงมาถ้าหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ การขับรถขึ้นลงเขาไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกแต่อย่างใด





ไม่นานทั้งสองก็มีถึงร้านในตัวเมือง รัชพลเข้าไปคุยธุระกับเจ้าของร้านโดยมีสิตางศุ์นั่งรออยู่ข้างนอก ร่างบางอ่านหนังสือพิมพ์ที่ทางร้านเอามาไว้บนโต๊ะหน้าร้านไปเรื่อย เวลาผ่านไปไม่นานรัชพลก็ออกมา





“ไปหาอะไรทานกันมั้ย ตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว” ถามคนรัก





“ดีเหมือนกันครับ” สิตางศุ์วางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะเดินตามรัชพลไปที่รถ แต่หางตาก็พลันเหลือบไปเห็นรถสีดำคันคุ้นตาที่อยู่ไม่ไกล





...รถของบ้านคุณย่า






สิตางศุ์หน้าซีดลง เขาจำรถของบ้านศิรินทราได้ดี ด้วยความที่มันเหมือนกันเกือบทุกคัน ไม่ใช่แค่รถของคุณย่าเท่านั้น แต่รวมไปถึงรถของเหล่าลูกน้องของคุณย่าด้วย และมันยิ่งชัดเจนเมื่อเขามองเห็นชายชุดดำสามสี่คนอยู่รอบๆบริเวณนั้น เขาอยู่ที่นี่มาสองเดือนคุณย่าไม่เคยเจอ






ภูวดล...






ต้องตามภูวดลมาแน่นอน เขามั่นใจว่าภูวดลไม่มีทางบอกว่าเขาอยู่ที่นี่ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการที่คุณย่าให้คนพวกนี้ตามภูวดลมา และตอนนี้มันเข้าใกล้เขาไปทุกทีแล้ว





“พะ...พี่รัช ผมว่าเรากลับไปกินที่ไร่เถอะ” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ






“อ้าว ทำไมล่ะ นานๆลงมาที พี่มีร้านเด็ดอยากพาตางไปเลยนะ” รัชพลถามด้วยความสงสัย อะไรของสิตางศุ์กัน กลับไปกินที่ไร่ทำไม ไหนๆก็ลงมานี่แล้ว





“ไปเถอะนะครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง” ไม่รอช้าสิตางศุ์พุ่งตัวเข้าไปในรถก่อน รัชพลแม้จะยังงงๆแต่ก็ยอมทำตามที่อีกคนต้องการ






ไม่ไกลจากรถของไร่น้ำริน ชายชุดดำคนหนึ่งมองเห็นรถกระบะสีขาวคันใหญ่อันมีชื่อไร่น้ำรินแปะอยู่อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนในรถเป็นใคร แต่การเจอรถของไร่น้ำรินก็ถือว่าเป็นเรื่องดี





“นั่นรถของไร่น้ำรินครับคุณโชติ” ชายหนุ่มคนหนึ่งหันไปบอกโชติ ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในรถ





“ตามรถคันนั้นไป” โชติออกคำสั่งก่อนที่ชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนจะรีบขึ้นรถหรูคันโต





ไร่น้ำรินอย่างนั้นเหรอ ไร่ที่ภูวดลต้องการจะมา นอกจากจะให้คนตามหาภุมรินแล้ว คุณหญิงพิมลยังให้คนตามภูวดลด้วยเพราะรู้ว่ายังไงแล้วหลานรักของท่านก็ต้องติดต่อเพื่อนคนนี้มาอย่างแน่นอน และมันก็รอกว่าสองเดือน กว่าที่สิตางศุ์จะติดต่อกลับมาและตอนนี้ก็ใกล้จะเจอสิตางศุ์แล้ว












สิตางศุ์ที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนรถนั้นรู้สึกสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ คุณย่าเจอเขาแล้ว มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าตอนนี้เขาไม่ได้กำลังคบกับรัชพล เขายินดีกลับบ้านและเจอกับปัญหาทุกอย่าง แต่ตอนนี้มีเรื่องของรัชพลเข้ามายุ่งด้วย เขาไม่รู้ว่าคุณย่าจะคิดยังไง แต่มันไม่ง่ายแน่นอน





“มีอะไรเหรอตาง เกิดเรื่องอะไรขึ้น” รัชพลจับสังเกตของสิตางศุ์ที่ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนได้ ทำไมอยู่ๆสิตางศุ์ถึงได้เหมือนกังวลเรื่องอะไรซักอย่าง





“ตอนนี้ เหมือนมีคนของคุณย่าตามเรามาครับ” บอกอีกคน และแน่นอนว่ารัชพลก็หันไปมองกระจกหลัง รถสีดำคันใหญ่ขับตามมาไกลๆ ตามขึ้นมาที่ไร่น้ำริน






“มีรถตามเรามาจริงๆด้วย” รัชพลพูด






“พี่รัช จะทำยังไงดี คุณย่ารู้แล้ว รู้แล้วว่าผมอยู่ที่นี่” สิตางศุ์รน





“ใจเย็นๆนะตาง มันไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพี่จัดการเอง” รัชพลพูดให้อีกคนคลายกังวล สิตางศุ์เหมือนจะสติหลุดไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงเขาก็แอบกังวลไม่น้อยไปกว่าสิตางศุ์เหมือนกัน เรื่องนี้ไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า





“ไม่มีทางจัดการได้หรอก พี่คุยกับคุณย่าตรงๆไม่ได้ เพราะท่านไม่เคยฟังใคร” มันคือความจริงที่ทุกคนรู้ว่าคุณหญิงพิมลไม่เคยฟังใครเลย แล้วรัชพลคนที่เหมือนจะไม่มีประโยชน์ในสายตาของเธอมีหรือที่เธอจะฟัง





คำพูดของสิตางศุ์ทำให้รัชพลเริ่มวิตกมากขึ้น เขารู้ว่าสิตางศุ์กังวลใจมากแค่ไหน เพราะไม่มีใครรู้จักคุณย่าของสิตางศุ์ดีเท่าสิตางศุ์อีกแล้ว แต่เมื่อเรื่องมันเกิดแบบนี้เขาเองก็ต้องทำให้คุณหญิงพิมลรู้ว่าเขาจริงจังกับสิตางศุ์มากแค่ไหน ถ้ามันจะตายกันไปข้างหนึ่งก็ให้มันรู้ไป






เอี๊ยด!





เสียงที่ดังขึ้นทำให้รัชพลต้องหันกลับไปมองถนนข้างหน้าอย่างทันท่วงที รถกระบะเขรอะฝุ่นจอดขวางอยู่ข้างหน้าในระยะประชิดจนรัชพลต้องรีบเบรกอย่างรวดเร็ว





“เกิดอะไรขึ้นพี่รัช” สิตางศุ์ถามด้วยความตกใจเมื่อตัวรถกระชากอย่างแรงตอนเบรก






“ไม่รู้ แต่มีรถจอดข้างหน้า” รัชพลปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนที่เดินออกมาคือโรจน์และชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมอีกหลายคน





“โรจน์...” สิตางศุ์เรียกชื่อนั้นออกมาเบาๆ





“ไอ้โรจน์!” รัชพลคว้าปืนมาจับไว้ก่อนจะออกจากรถไปด้วยอารมณ์โมโห สิตางศุ์เห็นดังนั้นก็เลยตามไปบ้าง






“สวัสดีคุณรัช และคุณสิตางศุ์” โรจน์แสยะยิ้ม





“สวัสดีไอ้โรจน์” รัชพลกำปืนไว้มั่น เขาไม่รู้ว่าโรจน์รอดคุกมาได้ยังไง แต่ที่แน่ๆตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมกับลูกน้องของเสี่ยทรงยศที่ใครๆก็รู้จัก





“ต้องขอบคุณคุณสิตางศุ์นะครับที่ทำให้ไอ้โรจน์คนนี้ไปนอนในคุกมาหนึ่งคืน แต่ก็นั่นแหละตำรวจที่นี่กับเสี่ยทรงยศก็น่าจะรู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน ผมเลยขอเสี่ยมาจัดการธุระส่วนตัวกับคุณสิตางศุ์เสียหน่อย ที่ทำให้ต้องเกือบไปกินข้าวแดงในคุก” โรจน์ขึ้นเสียงจนเกือบจะกลายเป็นตะโกน





“มึงอย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้สิตางศุ์” รัชพลจับมือสิตางศุ์ที่ยืนตัวสั่นไว้แน่น ไอ้โรจน์มันคงแค้นสิตางศุ์ที่ทำให้มันโดนจับ แต่เขาไม่ยอมแน่ ไอ้พวกนี้ไม่มีทางได้เข้าใกล้สิตางศุ์แน่นอน





“มึงเองก็อย่าหวังว่าจะรอดเลยไอ้รัช มึงไปทำอะไรไว้ มึงทำให้เสี่ยต้องขาดทุนย่อยยับ อยู่ดีไม่ว่าดีอยากเสือกเรื่องชาวบ้าน” สรรพนามของโรจน์ที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้รัชพลสัมผัสได้ถึงความเดือดดาลของคู่กรณี





“กูไปทำอะไรให้เสี่ยมึง ก็แค่เรื่องธุรกิจมันก็ต้องมีแข่งขันกันอยู่แล้ว” รัชพลเองก็เริ่มจะโมโห





“มึงจำไม่ได้เหรอว่ามึงทำอะไรไว้ เพราะมึงเสี่ยเลยค้าไม้ได้ยากกว่าเดิม ถ้ามึงไม่เอาตำรวจไปกวาดล้างเมื่อปีที่แล้วมันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก” โรจน์เผลอพูดออกมา





“ไอ้ห่าโรจน์มึงจะบอกมันทำไม” ไม้ที่ยืนอยู่ข้างๆตะโกนว่า เอาแล้วไง ไอ้โรจน์ ไอ้ปากเปราะ





“นี่เสี่ยทรงยศอยู่เบื้องหลังการค้าไม้เถื่อนนั้นเหรอ” สิ่งที่รู้มาใหม่นั้นทำให้รัชตกใจไม่น้อย 






เขารู้ว่าเสี่ยทรงยศก็ไม่ได้มีสะอาดมาก แต่ไม่คิดว่าจะสกปรกขนาดนี้ เรื่องค้าไม้นั่นมันเกิดเมื่อปีที่แล้ว เขาบังเอิญไปร่วมมือกับตำรวจกวาดล้างเพราะชาวบ้านที่หมู่บ้านผาตะวันเป็นคนเจอว่ามีคนแอบตัดไม้พะยูงอยู่ เรื่องมันเลยบานปลายจนตำรวจรวบมาเกือบหมด แต่ก็ยังจับคนบงการไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นเสี่ยทรงยศ





“รู้ก็ดี แต่ขอโทษนะ เพราะว่ายังไงมึงก็ไม่รอดไปบอกตำรวจหรอก เสี่ยสั่งกูมาเก็บมึงละ รวมไอ้คุณสิตางศุ์ที่เสือกเรื่องของคนอื่นนั่นด้วย” โรจน์แสยะยิ้มเหี้ยม





“คุณรัช” สิตางศุ์จับมือของรัชพลไว้แน่น เขารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ เรื่องครั้งนี้มันไม่ต่างกับครั้งก่อน ครั้งที่รัชพลโดนยิงตอนวันเกิด สิตางศุ์ไม่อยากเห็นรัชพลต้องเจ็บตัวแบบนั้นอีกแล้ว





“ไม่ต้องกลัวสิตางศุ์ไม่ต้องกลัว” รัชพลบอกอีกคน






สองคนต่อคนเป็นสิบมันเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะรอดไป และแถวนี้ก็ไม่มีคนหรือบ้านคนอยู่แล้ว มันเป็นทางขึ้นไร่น้ำรินที่มีแต่ไร่และป่าเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขอความช่วยเหลือจากใคร





“ไปเอาตัวมันมา!” โรจน์สั่ง ลูกน้องของเสี่ยทรงยศพุ่งเข้าไปหาทั้งรัชพลและสิตางศุ์ รัชพลยกปืนขึ้นแล้วดันสิตางศุ์ไปอยู่ข้างหลัง






“มึงอย่าหวังว่าจะได้แตะต้องสิตางศุ์” รัชพลประกาศก้อง





“อย่าโง่หน่อยเลยคุณรัช มึงคนเดียวจะสู้อะไรพวกกูได้” โรจน์ไม่ฟังก่อนจะเดินมากระชากแขนสิตางศุ์ออกไป





“มึงมานี่ได้คุณสิตางศุ์ เสือกนักนะมึง” มือหยาบกร้านนั้นบีบข้อมือสิตางศุ์แน่นจนแดงปื้น รัชพลจึงเล็งปืนไปที่โรจน์แทน





“อย่าคิดจะลองดีเลยคุณรัช” ไม้พูดพร้อมยกปืนขึ้นจ่อรัชพล ไม่ต่างกับลูกน้องที่เหลือ






เอี๊ยด!






ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นรถสีดำคันใหญ่ที่เริ่มจะเปื้อนฝุ่นบนทางลูกรังขึ้นไร่น้ำรินก็มาจอดตรงหน้า พร้อมชายชุดดำทั้งห้าคนด้วยอาวุธครบมือ






“ปล่อยมืออกจากนายน้อยเดี๋ยวนี้!” เสียงของโชติตวาดก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งหมดหันไปมองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจ มีแต่สิตางศุ์ที่รู้ว่าคืออะไร






“คุณโชติ...” ร่างน้อยในมือโรจน์เรียกชื่อนั้น






โชติ มือซ้ายของคุณหญิงพิมล ศิรินทรา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน!








***************************************************************************





ความเข้มข้นเลเวลหนึ่ง! เอาแล้ว คุณย่าหาเจอแล้ว อิโรจน์ก็มาแล้ว มากันไหม้หมดไปเล๊ยยยยยยยยยยย เรื่องราวจะวุ่นวาย ดราม่าน้ำตาตกใน อิพี่รัช สิตางศุ์กลัดหนองแค่ไหนต้องติดตาม ฮี่ๆ ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอาสิ ใครจะมาทำอะไรนายน้อยได้
นายโรจน์คราวนี้ไม่ต้องไปกินข้าวแดงละนะ กินดินแถวนั้นแหละ 5555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิโรจน์ คราวนี้ไม่ต้องกินข้าวแดงและนะแก คงได้กินลูกปืนแทนล่ะคราวนี้ o18  o18

คนเขียนคะ ขอตอนต่อไปรัวๆค่า
 :impress:

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
คุณย่าจะมาแล้ว ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะ

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 21





“ปล่อยมืออกจากนายน้อยเดี๋ยวนี้!” เสียงของโชติตวาดก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งหมดหันไปมองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจ มีแต่สิตางศุ์ที่รู้ว่าคืออะไร





“คุณโชติ...” ร่างน้อยในมือโรจน์เรียกชื่อนั้น ใช่จริงๆ คุณย่าตามเจอเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณโชติคงไม่มาอยู่ที่นี่แน่นอน





“มึงเป็นใคร มายุ่งเหี้ยไรด้วย กูจะฆ่าไอ้หน้าอ่อนนี่ตอนนี้ก็ยังได้ เสือกดีนัก” โรจน์ยังคงนิ่ง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวเพราะคนของเขานั้นมีมากกว่าตั้งสองเท่า มือกร้านนั้นบิดแขนสิตางศุ์จนสิตางศุ์ต้องร้องออกมา





“โอ้ย!”





ปัง!





ไม่มีคำพูดใดต่อจากนั้น โชติยิงเข้าที่ขาของโรจน์อย่างรวดเร็วก่อนที่ชายชุดดำหนึ่งในนั้นจะพุ่งเข้ามาหาสิตางศุ์แล้วดึงมาจากโรจน์โดยที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว





“ฉันเตือนแล้ว” น้ำเสียงนั้นราบเรียบราวกับว่าการยิงคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไร





“โอ้ยไอ้เหี้ย ยืนมองทำเหี้ยอะไร มันยิงกู จัดการมันสิวะ!” โรจน์ตะโกนลั่น มือข้างหนึ่งกุมแผลไว้





รัชพลตั้งสติได้ก่อนจึงซัดศอกเข้าไปที่อกของไม้ซึ่งใช้ปืนจ่อเขาอยู่ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น ลูกน้องของโรจน์ยิงไปที่ชายชุดดำพวกนั้นแต่ก็ช้ากว่าบอดี้การ์ดมืออาชีพอย่างคนของโชติ โชติลากสิตางศุ์ให้ข้ามไปอีกฝั่งของรถเพื่อหลบกระสุน รัชพลก็ตามอีกคนไป แต่ชายชุดดำทั้งหลายก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้กับสิตางศุ์เลยสักนิด





ด้วยกำลังคนที่มีมากกว่านั้นทำให้คนของโรจน์ระดมยิงอย่างบ้าคลั่ง เสียงปืนคงดังสนั่นไปทั่วทั้งเขา แต่การ์ดชั้นดีของคุณหญิงพิมลนั้นแม่นกว่า ยิงเจาะขาเจาะแขนของลูกน้องเสี่ยทรงยศไปหลายคน ไม่มีใครตั้งใจจะยิงเพื่อให้ตาย พวกเขามาที่นี่เพื่อตามตัวนายน้อยกลับ ไม่ใช่การมาฆ่าใครหากไม่ได้รับคำสั่งจากนายใหญ่





“นายน้อยครับ อย่าเงยหน้าขึ้นมา” โชติดันหัวสิตางศุ์ให้อยู่ต่ำที่สุดก่อนที่เขาเองจะเปลี่ยนปลอกกระสุนแล้วเอี้ยวตัวไปยิงต่อแล้วหลบมาที่หลังรถอย่างรวดเร็วอีกครั้งเพื่อเป็นเกราะกำบัง





“พี่รัช พี่รัชล่ะ” สิตางศุ์ละล่ำละลักพูดพร้อมกับมองหารัชพลไปทั่ว แล้วก็ใจชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารัชพลนั้นก็มาหลบกระสุนพร้อมกับเขาแต่อยู่ตรงส่วนข้างหลังรถ นอกจากนั้นรัชพลเองก็ยังมีปืนในมือเพื่อป้องกันตัวเองเช่นกัน เห็นดังนั้นสิตางศุ์เลยรีบลุกแล้วเดินไปหารัชพลที่อยู่ไม่ไกล





“นายน้อยครับ” การ์ดคนหนึ่งเรียกเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์ลุกออกไปจากตรงนั้น





“พี่รัช” คนตัวเล็กเรียกรัชพล





“สิตางศุ์! นั่งลง!” รัชพลตะโกนลั่นแต่ก็ยังช้ากว่าลูกกระสุนที่ทะลุเข้ากลางลำตัวของสิตางศุ์ เลือดที่สาดกระเซ็นเต็มหน้าของรัชพลนั้นทำให้ปืนในมือของเขาหล่นลงกับพื้น





“นายน้อย!!!” โชติเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเช่นเดียวกับทุกคน ร่างของสิตางศุ์นั้นล้มลงตรงหน้าของรัชพล เมื่อเป็นดังนั้นชายชุดดำทั้งหมดก็สวนปืนออกไปอย่างไม่ต้องกังวลว่าจะโดนจุดสำคัญของคนร้ายแล้วทำให้ตาย





เพราะการที่มันมายิงนายน้อยก็เท่ากับว่าลมหายใจสุดท้ายของพวกมันได้หมดลงแล้ว!!!





เสียงปืนดังระรัวขึ้นหลายนัดจนดังสนั่นไปทั่ว แต่รัชพลกลับไม่รับรู้อะไรแล้วนอกจากร่างของสิตางศุ์ที่ล้มลงต่อหน้าของเขา รัชพลโอบกอดร่างที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานนั้นไว้อย่างคนเสียสติ หน้าของเขาซีดเผือด ใจเหมือนหล่นวูบหายไปตั้งแต่เสียงปืนนัดนั้นดังเข้ามาในหัว





“ตะ ตะ...ตาง สิตางศุ์” รัชพลยังคงควบคุมสติตัวเองไม่ได้ น้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เลือดของสิตางศุ์ยังคงไหลไม่หยุด เปลือกตาสีน้ำนมที่ปิดสนิทแน่นั้นทำรัชพลทำตัวไม่ถูก





“รีบพานายน้อยไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ เร็ว!” รัชพลไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รู้สึกตัวอีกทีร่างของสิตางศุ์ก็ถูกพาขึ้นรถ เขาได้แต่เดินตามไม่ห่าง ไม่นานก็มาอยู่บนรถพร้อมสิตางศุ์เรียบร้อย





รถที่เต็มไปด้วยรอยกระสุนพุ่งตัวลงเขาอย่างรวดเร็วท่ามกลางพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าลง รัชพลร้องไห้... เขากำลังร้องไห้ไม่หยุด สิตางศุ์นิ่งสนิท เขาจำหน้าของคนรักตอนที่กำลังจะเดินมาหาเขาได้ สิตางศุ์ยิ้มให้เขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ สิตางศุ์เริ่มตัวซีดลง เลือดก็ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง





ไม่นานทั้งหมดก็พากันมาที่โรงพยาบาล สิตางศุ์ถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว รัชพลที่ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดกำลังนั่งอยู่หน้าห้องนั้นอย่างสติหลุดลอย ชายชุดดำวิ่งกันให้วุ่น ไม่ใช่แค่ห้าคนแต่ตอนนี้กลับมีมาเพิ่มจนเต็มโรงพยาบาลไปหมด รัชพลไม่สนใจใครพอๆกับที่ไม่มีใครสนใจเขา





รัชพลรู้สึกเหมือนตัวเขากำลังเคว้งไปหมด สิตางศุ์โดนยิงเพราะเดินมาหาเขา น้องต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา และเรื่องของเสี่ยทรงยศเขาก็เป็นคนก่อทั้งนั้น สิตางศุ์ไม่น่าจะต้องมีโดนยิงเพราะเขาแบบนี้ ยิ่งคิดรัชพลก็ยิ่งโทษตัวเอง ความจริงสิตางศุ์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย สิตางศุ์ไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้





รัชพลยกมือขึ้นยีหัวเราตัวเอง หยดเลือดที่สาดใส่เขานั้นยังอยู่เต็มร่างกาย เลือดของสิตางศุ์ เพียงแค่มองชายหนุ่มร่างสูงก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง หากสิตางศุ์ต้องเป็นอะไรไปเพราะเขา เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเองแน่นอน ขอแค่สิตางศุ์ปลอดภัย อะไรเขาก็ยอม ได้โปรด...





อีกมุมหนึ่งโชติรีบกดโทรหาคุณหญิงพิมลอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการตามหาสิตางศุ์ แต่กลับปล่อยให้สิตางศุ์ต้องถูกคนร้ายยิง เรื่องนี้เขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่นานปลายสายก็รับ





“ว่าไงโชติ” คนรับนั้นไม่ใช่ใคร ชัชคนสนิทของคุณหญิงพิมลซึ่งถือว่าเป็นมือขวาของเธออีกด้วย





“มีเรื่องจะรายงานนายหญิงเรื่องนายน้อย ท่านสะดวกรึเปล่า” โชติพยายามควบคุมน้ำเสียงให้ปกติที่สุด





“ท่านกำลังคุยธุระอยู่กับลูกค้า เดี๋ยวฉันจะไปเรียนท่านให้” ปลายสายตอบมาก่อนจะเงียบไป โชติหายใจเข้าลึกๆเพื่อเตรียมรับบทลงโทษจากนายเหนือหัว











ในร้านอาหารจีนระดับห้าดาว มีคนสามคนกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ ซึ่งรอบๆก็รายล้อมไปด้วยชายชุดดำแต่มันก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศภายในห้องอาหารน่าอึดอัดแต่อย่างใด





“ตาอัคนี่เก่งจังเลยนะ แหม...ถ้าย่ามีหลานสาวคงต้องขอดองยายณีไว้ก่อนแล้ว เสียดายมีแต่หลานชาย” คุณหญิงพิมลพูดพร้อมกับยิ้มให้สองคนตรงหน้า หุ้นส่วนคนสำคัญของศิรินทรากรุ๊ป คุณหญิงริลณีและอัคคีหลานชาย ถือว่าเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญเลยก็ว่าได้ และยังเป็นเพื่อนของเธอสมัยเรียนอีกด้วย





“ตาอัคน่ะมีแฟนแล้วจ้ะ ถึงเธอมีหลานสาวก็คงดองไม่ได้” ริลณีตอบกลับ อัคคีหลานชายคนโตของเธอเพิ่งจะมาคุยเรื่องธุรกิจกับเธอเป็นครั้งแรก ดูจะถูกตาต้องใจคุณหญิงพิมลไม่น้อยเลยทีเดียว





คุณหญิงพิมลไม่ได้ทันพูดอะไรต่อชัชก็เข้ามาพร้อมกับก้มลงกระซิบอะไรบ้างอย่างแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ เธอหันมายิ้มให้หุ้นส่วนตรงหน้า





“ขอคุยโทรศัพท์ซักครู่นะ พอดีเรื่องด่วนจริงๆ” ไม่บ่อยนักที่เธอจะเสียมารยาทต่อหน้าแขก แม้ว่าจะเป็นคนรู้จักกันก็ตาม แต่เรื่องของสิตางศุ์หลานชายคนเดียวของเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน





“ไปคุยเถอะ” ริลณีพูด เธอเข้าใจพิมลเพื่อนของเธอดี คุณหญิงพิมลพยักหน้าก่อนจะรับสายนั้น





“ว่าไงโชติ” น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้นเมื่อคุยกับลูกน้อง





“ตอนนี้เจอตัวคุณสิตางศุ์แล้วครับ อย่างที่นายคิดไว้ คุณภูวดลมาที่เชียงรายเพราะมาหาคุณสิตางศุ์ คุณสิตางศุ์อยู่ไร่น้ำริน ซึ่งเป็นไร่ของรุ่นน้องสมัยเรียนครับ” โชติรายงานตามที่ให้คนไปสืบมา





“ดีมาก รับพาหลานฉันกลับมาเดี๋ยว ฉันต้องการรู้ว่านังมินตรามันทำอะไรหลานฉัน ถึงต้องหนีไปแบบนั้น” คุณหญิงพิมลพูดเสียงเหี้ยม ที่เธอยังไม่ทำอะไรอดีตลูกสะใภ้ตอนนี้เพราะเธอต้องการให้สิตางศุ์เป็นคนบอกเธอให้แน่ชัดเสียก่อน เธอไม่ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้นานหรอก ถึงจะเป็นแม่ของหลานเธอก็ตาม





“คงไม่ได้ครับ เอ่อ... คือว่าตอนนี้นายน้อยถูกยิงอาการสาหัสครับ” คำรายงานของโชติทำให้เกิดเสียงตบโต๊ะดังลั่นไปทั่วห้อง พร้อมกับร่างของผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในที่นี้ลุกพรึบอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนสะดุ้งเป็นแถบๆ





“ปล่อยให้หลานฉันโดนยิงได้ยังไง! ใครเป็นคนยิง!” คุณหญิงพิมลตวาดลั่น ตอนนี้เธอโมโหมาก มือบางนั้นกำแน่นจนโทรศัพท์แทบจะแหลกคามือ





ริลณีและอัคคีที่ไม่เคยเจอมุมนี้ของเธอถึงกับผวาแล้วนั่งเงียบ แต่ดูเหมือนคนในห้องนี้จะไม่มีปฏิกิริยาตอบกับ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ





“เป็นคนของเสี่ยทรงยศ ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนี้ครับ เขามีปัญหากับไร่น้ำรินที่นายน้อยมาอาศัยอยู่ ตอนนี้ผมจัดการพวกนั้นไปแล้ว และให้คนไปเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วครับ” โชติรายงานต่อ ข้อมูลที่เขาต้องการนั้นหาได้ไม่ยาก





“แล้วไอ้นักเลงบ้านนอกนั่นกล้าดียังไงมายิงหลานฉัน แล้วไอ้ไร่อะไรนั่นมันเป็นสาเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิงอย่างนั้นเหรอ ฉันจะขึ้นไปหาสิตางศุ์ตอนนี้!” คุณหญิงพิมลเดือดดาล เธอโยนโทรศัพท์ให้ชัชอย่างแรงแต่ชัดก็รับไว้อย่างแม่นยำ





เรื่องนี้เธอไม่อยู่นิ่งแน่ กล้าดียังไงมายิงสิตางศุ์ ทั้งไอ้เสี่ยทรงยศอะไรนั่น และไร่น้ำรินที่เป็นคนทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัว เธอจะไม่ปล่อยไว้ซักคน!





“ขอโทษนะณี วันนี้ฉันต้องขอตัวก่อน คงต้องให้เลขาฯคุยต่อ” เธอหันมาพูดกับริลณีและอัคคีที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง





“เอ่อ... ถ้ามีธุระด่วนก็ไม่เป็นไร” ริลณียิ้มเจื่อน ใช่ว่าคุณหญิงพิมลจะไม่เคยของขึ้น ออกจะอารมณ์เสียบ่อยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง





“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัว ขอโทษอีกครั้ง” พูดแค่นั้นก่อนจะหันไปสบตาเลขาฯสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ รมิตาเลขาฯของคุณหญิงพิมลเองก็รู้หน้าที่แล้วเดินมาประจำตำแหน่งแทน





ร่างเล็กของหญิงวัยหกสิบกว่าเดินไม่สบอารมณ์ออกมาจากห้องอาหารโดยมีคนติดตามเดินตามหลังเป็นพรวน เธอกำมือแน่นเมื่อคิดถึงเรื่องสิตางศุ์หลานชายของเธอ แค่เรื่องลูกสะใภ้ตัวดีสร้างไว้ยังไม่จบ แล้วหลานรักของเธอยังหนีไปจนตามไม่เจอตั้งสองเดือน เจออีกทีก็โดนยิงบาดเจ็บสาหัส เธอเลี้ยงสิตางศุ์มาดีแค่ไหนใครๆก็รู้ แผลแม้แต่นิดเดียวเธอก็ไม่ให้มี สิตางศุ์ไม่เคยเจ็บตัวเพราะเธอ แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร!





“หาข้อมูลไอ้เสี่ยทรงยศอะไรนั่นให้ฉัน แล้วส่งคนไปไร่น้ำรินด้วย ฉันต้องการรู้ระหว่างสองเดือนที่สิตางศุ์ไปอยู่ที่นั่นทั้งหมด!” เสียงนั้นดังลั่นเป็นอันว่าคำสั่งได้ถูกถ่ายทอดไปที่ชัชเรียบร้อยแล้ว





พิมล ศิรินทราคนนี้ไม่เคยทำใครก่อน แต่ถ้ามายุ่งกับเธอหรือคนของเธอ เธอก็ไม่ปล่อยไว้เช่นกัน!











ประตูหน้าห้องฉุกเฉินถูกเปิดขึ้นหลังจากที่มันปิดเงียบมาหลายชั่วโมง ร่างของคุณหมอหนุ่มเดินออกมาด้วยท่าทางที่เหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด รัชพลรีบพุ่งตัวไปพร้อมกับกับโชติที่รออยู่ตลอดเวลา





“สิตางศุ์เป็นยังไงบ้างครับ” รัชพลละล่ำละลักถาม





“ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ โชคดีที่กระสุนไม่โดนส่วนสำคัญ” นายแพทย์ทศพรพูด นั่นทำให้รัชพลใจชื้นขึ้นมา โชติถอนหายใจอย่างโล่งอก





“ขอบคุณมากครับคุณหมอ” ชายวัยกลางคนเอ่ยขอบคุณ ทศพรยิ้มก่อนจะเดินออกไป





รัชพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หลังจากที่เขายืนมานาน รอซักพักร่างของสิตางศุ์ที่นอนนิ่งก็ออกมาจากห้องผ่าตัด รัชพลจะเข้าไปหาแต่ก็โดนกันจากชายชุดดำหลายคนที่รายล้อมไม่ห่าง เขาได้แต่เดินตามหลังไปอย่างนั้นแม้จะเข้าไม่ถึงตัวสิตางศุ์ก็ตาม แค่ได้เห็นว่าสิตางศุ์ของเขายังปลอดภัยก็ดีมากแล้ว





รัชพลเดินตามมาถึงห้องพักของสิตางศุ์ เขาได้เข้ามาในห้องก็จริงแต่ก็ยังเข้าใกล้สิตางศุ์ไม่ถึงห้าเมตรเลยด้วยซ้ำ ทุกคนทำเหมือนรัชพลไม่มีตัวตนในนี้ ทุกสายตามุ่งไปยังสิตางศุ์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเรียบร้อย รัชพลได้แต่ทำตาละห้อยมองอยู่ไกลๆ ร่างสูงยิ้มเล็กน้อย เขาดีใจที่สิตางศุ์ปลอดภัย สิตางศุ์ของพี่รัช





รัชพลยืนมองสิตางศุ์ไม่วางตา แล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นภุมรินที่โทรมา รัชพลกดรับแต่สายตาก็ยังคงทอดมองไปหาสิตางศุ์





“พี่รัช รินรู้เรื่องแล้วนะ พี่ตางเป็นยังไงบ้าง” ภุมรินถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก





“ตอนนี้สิตางศุ์ปลอดภัยแล้ว ตางปลอดภัยแล้วริน” รัชพลพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆและใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและคราบน้ำตา





“โล่งอกไปที พี่ภูไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วนะพี่รัช พี่ตะวันไปส่ง รินกับพ่ออยู่ที่ไร่ คนมาเต็มไร่เลย พ่อโมโหมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้” ภุมรินบอก ตอนนี้สถานการณ์ที่ไร่น้ำรินก็ใช่ว่าจะดีนัก





“เดี๋ยวพี่จะกลับไป แต่ตอนนี้พี่ขออยู่กับสิตางศุ์ก่อน” รัชพลยังคงมองสิตางศุ์ไม่วางตา ตอนนี้ชายชุดดำไม่ล้อมสิตางศุ์ไว้แล้ว แต่กลับแยกตัวกันไปอยู่คนละมุมห้องแทน ส่วนโชตินั้นก็นั่งบนโซฟาโดยไม่มีใครสนใจรัชพลที่ยืนอยู่





“ตาง!” ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับภูวดลที่พุ่งตัวเข้ามา รัชพลตัดสายภุมรินทิ้งพร้อมกับเก็บมือถือ





“สวัสดีครับคุณภู” โชติลุกขึ้นแล้วทุกคนก็เปิดทางให้ภูวดลเข้าไปหาสิตางศุ์ รัชพลจะเดินตามแต่ก็ถูกกันไว้





“ตางเป็นยังไงบ้างครับคุณโชติ” ภูวดลตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าสิตางศุ์โดนยิง เขารีบมาหาอย่างรวดเร็ว





“ปลอดภัยแล้วครับ คุณภูครับ อีกสักพักนายหญิงจะมาที่นี่ รบกวนคุณภูอยู่คุยกับท่านด้วยนะครับ” โชติพูด ภูวดลพยักหน้ารับ





“เอ่อ... คุณภูครับ” รัชพลเรียกอีกภูวดลเบาๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่คนในห้องนี้หันมาสนใจรัชพล





“คุณรัช ทำไมเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดแบบนี้ล่ะครับ” ภูวดลที่เพิ่งเห็นเดินตรงมาหารัชพล เขารู้ว่ารัชพลเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่คิดว่ารัชพลจะสภาพเป็นแบบนี้





“ผม...” รัชพลพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เขาอยากอยู่ใกล้สิตางศุ์





“เอาเป็นว่าตอนนี้คุณกลับบ้านไปจัดการตัวเองก่อนนะครับ เรื่องสิตางศุ์ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมดูแลให้” ภูวดลพูดกับรัชพลที่ตอนนี้ยืนทำหน้าเจื่อน ผิดกับตัวตนจริงๆของรัชพล





“แต่ว่า” รัชพลอยากจะค้านแต่สายตาที่โชติมองมานั้นใครๆก็รู้ว่าไม่พอใจแค่ไหน เขาเลยต้องเก็บความต้องการของตัวเองไว้ในใจ ไม่กล้าเอ่ยว่าอยากจะกอดสิตางศุ์สักครั้ง





“เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าห้องครับ คุณตะวันเป็นคนพาผมมา” ภูวดลต้องเป็นคนพารัชพลที่สติยังคงไม่อยู่ครบออกไปนอกห้อง





ตะวันที่รออยู่หน้าห้องก็ตรงมาหาภูวดลและรัชพลที่สภาพดูไม่ค่อยดีนัก ตะวันมองหน้าภูวดลเป็นเชิงถาม ภูวดลได้แต่ส่งสายตาเป็นเชิงว่าไม่ควรจะถามอะไรตอนนี้





“กลับไร่ก่อนนะไอ้รัช เดี๋ยวค่อยมาเยี่ยมคุณสิตางศุ์ใหม่” ตะวันบอกกับเพื่อน สีหน้ารัชพลตอนนี้ไม่สู้ดีนัก





“ฝากด้วยนะครับคุณตะวัน” ภูวดลเองก็เห็นใจรัชพลไม่น้อย แต่สถานการณ์ตอนนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้มากเช่นกัน





“ภู!” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กของหญิงวัยหกสิบกว่าเดินมาหาภูวดลพร้อมกับชายชุดดำอีกหลายคนโดยไม่สนใจรัชพลกับตะวันเลยสักนิด





“สวัสดีครับคุณย่า เชิญข้างในก่อนครับ” ภูวดลยกมือไหว้ คุณหญิงพิมลรับไหว้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว





รัชพลมองแผ่นหลังที่หายเข้าไปในห้องนั้นด้วยแววตาที่รู้สึกสมเพชตัวเอง แม้แต่หน้าของเขายังไม่มีใครอยากจะมองเลย ไม่มีใครสนใจว่ามีเขาอยู่ ระยะห่างระหว่างเขากับสิตางศุ์เหมือนไกลออกไปทุกที เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าเมื่อเทียบกับสิตางศุ์แล้ว





รัชพลคนนี้คงเป็นได้แค่ชาวไร่ธรรมดาที่ไม่สมควรได้ใกล้ชิดกับคุณสิตางศุ์ ศิรินทราที่สูงส่งเลยสักนิด แค่คิดรัชพลก็น้ำตาไหลอีกรอบ





ตะวันได้แต่ตบไหล่เพื่อนรักเบาๆเพื่อให้กำลังใจ เหมือนเส้นทางรักของรัชพลจะไม่เรียบง่ายอีกต่อไปแล้ว












*****************************************************************************















ดราม่าเลเวลสองงงงงงงงงงงงงงง  :katai1: มาเอาใจช่วยพี่รัชกันดีกว่า คุณรัชผู้อยู่นอกสายตาเมื่อนายน้อยสิตางศุ์อยู่ในมือคุณย่าแล้ว จะรอดมั้ยพระเอกของช้านนนนนนนนนนนนน ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมพี่รัชมัวแต่เจียมตัว น้อยใจอยู่ได้ สู้สิเพ่!! สู้สิ กลับมาโชว์ฟอร์มให้สมกับเป็นว่าที่หลานเขยมาเฟียสิ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด