หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64522 ครั้ง)

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
     




นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองนะคะ ต่อจาก หลานคุณย่า(คีริน+พาย) มีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งเนื้อหา และตัวละคร




      กฤษติณ (ครัวซอง) ธีรธำรงค์กุล  ผู้ชายที่ดูภายนอกนิ่งยิ่งกว่าน้ำแข็ง  แต่แฝงด้วยความร้าย ดูเป็นสุภาพบุรษสำหรับสาวๆ แต่แท้จริงแล้วคือซาตานร้ายดีๆ นี่เอง

 
  คิรากร (มิน) ภักดีการณ์  เด็กผู้ชายตัวเล็ก ตาตี่ ตัวอ้วนไร้ซึ่งความน่ารักตั้งแต่เด็ก ตัวขาวยิ่งกว่ากระดาษ ซีดราวกับผีดิบ  นิสัยร่าเริง  แต่เก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้

 

                                                ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

'ผมอยากไปส่งพี่นะ แต่ไม่อยากให้พี่รู้สึกไม่ดีก่อนที่จะจากที่นี่ไป เพราะผมเองนี่แหละที่คงเป็นความทรงจำแย่ๆเพียงอย่างเดียวในชีวิตของพี่'

 

“ใครจะนับญาติกับไอ้เด็กอ้วนก็เชิญแต่พี่ไม่”

 

 

‘ผมเตรียมของขวัญไว้ให้พี่ด้วยนะ แต่คงไม่มีโอกาสได้ให้ เพราะพี่คงไม่อยากได้มันหรอก’

 

            'ต่อจากนี้ไปผมต้องเข้มแข็งมากกว่านี้  ชีวิตที่ไม่มีพี่อยู่ใกล้ๆ มันจะเป็นยังไงบ้างนะ ผมจะพยายาทำมันให้ดีทำทุกวันๆวันให้ดีกว่าเดิม แม้พี่จะไม่ได้อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมแต่ผมก็จะพยายามเผื่อวันที่พี่กลับมาจะรู้สึกดีขึ้นกับตัวผมบ้างในวันที่ผมดีกว่านี้  ในวันที่ผมไม่ใช่เด็กน้อยกะโปโล'

           

             'มึงผิดเองที่กล้ามารักคนอย่างกู'
[/color]
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ฝากอีกเรื่องด้วยนะคะ

หลานคุณย่า(คีริน+พาย)




สารบัญ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2016 09:22:51 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก (ครัวซองต์+มิน)  ตอนที่1 อดีต


                                             

  (มินนี่ )

ผมชื่อมิน(มินนี่)ครับ อายุก็เท่าๆกันกับบราวนี่แหละครับ บ้านเราอยู่ติดกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ผมชอบมุดรั้วบ้านเข้าไปเล่นที่บ้านบราวนี่เป็นประจำ  ถึงแม้ว่าบ้านเราจะอยู่ติดกัน แต่ฐานะทางบ้านก็ต่างกันเหลือเกิน บ้านของบราวหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ส่วนบ้านผมน่ะเหรอก็แค่บ้านคนฐานะธรรมดาคนหนึ่ง เป็นบ้านปูนสองชั้นมีพื้นที่ไม่ถึงร้อยตารางวา บ้านหลังเล็กที่ผมอาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน เพราะพ่อผมเสียไปตั้งแต่เรียนอยู่มอปลาย

 

 

บ้านของบราวนี่มีพี่น้องสามคน ซึ่งทุกคนก็น่าจะทราบกันดี ผมเข้าออกบ้านของบราวตั้งแต่เด็กจนเป็นเรื่องปกติที่คนบ้านนั้นจะคุ้นเคยกับผม และเอ็นดูเหมือนผมเป็นญาติคนหนึ่ง ยกเว้นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยญาติดีกันเลยตั้งแต่เด็ก คนนั้นก็คือพี่ชายคนโตของบ้าน ผมยังจำเรื่องราวตั้งแต่ตอนเด็กได้ดี เหมือนกับเรื่องราวทุกอย่างพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน ทั้งๆที่มันผ่านมานานหลายปี แต่ในความทรงจำจองผมภาพนั้นยังคงชัดเจนที่สุด

 

“หมูน้อยมาเล่นซ่อนหากัน” บราวนี่ในวัยเด็กเอ่ยชวนผม เพราะเราชอบเล่นกันบ่อยๆ

 

“งั้นมาเป่ายิ่งฉุบว่าใครจะได้ซ่อน”

 

“ทำอะไรกันเหรอ พี่เล่นด้วยสิ” เสียงพี่พายดังมาแต่ไกล

 

“อ่า ดีเลยจะได้เล่นกันหลายๆคน ตัวมาทีหลังต้องเป็นคนหานะ” บราวนี่จอมเจ้าเล่ห์เอ่ยกับพี่ชายเสียงใส

 

 

“ก็ได้ งั้นหมูน้อยกับบราวรีบไปซ่อน พี่จะนับหนึ่งถึงร้อย” ผมกับบราวนี่รีบวิ่งไปซ่อนคนละทาง เพราะพื้นที่บ้านค่อนข้างใหญ่จึงมีที่ซ่อนเยอะมาก ผมค่อยๆ วิ่งดุ๊กดิ๊กหาที่ซ่อน ด้วยความที่ตอนเด็กๆ ผมอ้วนเลยทำให้วิ่งช้าๆ หาที่ซ่อนอย่างร้อนรน ขณะที่กำลังหาที่ซ่อนก็กลับวิ่งไปชนกับอีกคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ผมจะค่อนข้างอ้วน แต่ผมก็ยังเด็กมาก เมื่อปะทะกับร่างใหญ่ที่เดินมาจึงทำให้ผมล้มก้นจ้ำเบ้าในทันที

 

“ทำไมไม่รู้จักระวัง มาเล่นบ้านคนอื่นเค้าแล้วยังไม่มีมารยาท” พี่ชายตัวโตว่าผมออกมาเสียงดัง ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาดู แต่ก็รู้ว่าคนๆ นี้คือใคร ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพี่ซองเพียงแว๊บเดียว แล้วก็ก้มหน้าซ่อนดวงตาที่กำลังสั่นไหวเพราะความกลัว เท้าผมก็เจ็บสงสัยจะแพลงแต่ก็ทำได้เพียงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น

 

“ทำไมไอ้เด็กอ้วนตาตี่ว่าแค่นี้ทำเป็นจะร้อง ขี้แง” พี่เขายังต่อว่าผมเหมือนทุกครั้งที่เข้ามาที่บ้าน ด้วยความที่เป็นเด็กยังไม่รู้อะไรมาก เวลาโดนด่า โดนว่าก็โกรธเขาแค่แป๊บเดียว พอหายก็กลับมาเล่นอีกเหมือนเดิม เป็นแบบนี้ซ้ำๆ ตลอดตั้งแต่เด็กจนโต

 

****************************

 

“คุณย่าทำคุกกี้เยอะแยะเลย หมูน้อยทานกับเค้านะ” บราวนี่เอ่ยชวนในตอนเย็นวันเสาร์ที่เรามักจะเล่นด้วยกัน ก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่เข้ามาเล่นกับบราวนี่

 

“น่าอร่อยจัง เค้าทานได้เหรอ”

 

 

“ได้สิ ก็คุณย่าทำให้พวกเราทานด้วยกันไง” บราวนี่ดึงแขนผมมานั่งโซฟาห้องรับแขก ก่อนที่เราจะนั่งทานขนมและดูการ์ตูนด้วยกัน

 

 

“อร่อยๆ จังเลย ทานหมดเลยได้ไหม” ผมทานไปยิ้มไปจนตาหยี

 

 

“ฮ่าๆๆ หมูน้อยหน้าตลกจัง” บราวชอบหัวเราะผมเวลาผมทานอะไรที่อร่อยๆ มักจะยิ้มจนตาเป็นสะระอิ ซึ่งนั่นก็ทำให้บราวขำแทบจะทุกครั้ง

 

“ว่าเค้าอีกแล้ว” พูดจบปุ๊บผมก็หัวเราะประสานเสียงกันเสียงดัง

 

“ที่บ้านไม่มีขนมทานเหรอถึงต้องมาอาศัยบ้านคนอื่นตลอด”เสียงของผู้เข้ามาใหม่เอ่ยแทรกเสียงหัวเราะของเราสองคน

 

“พี่ซองว่าหมูน้อยอีกแล้วนะ” บราวนี่เอ่ยเสียงห้วนกับพี่ชาย

 

“มันก็จริงนิ ไอ้เด็กอ้วนตาตี่นี่มันมาอยู่บ้านเราทุกวัน  สงสัยที่บ้านมันจะไม่มีอะไรกิน หรือไม่มันก็คงกินไม่อิ่ม ก็มันอ้วนซะขนาดนี้” พี่เขาว่าผมอีกแล้ว ตอนนี้ผมไม้ใช่เด็กห้าขวบเหมือนเมื่อก่อนที่จะไม่รู้อะไร ผมอายุสิบสองแล้ว เริ่มเข้าใจแล้วว่าคำพูดแบบไหนคือรัก คำพูดแบบไหนคือเกลียด ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมพี่ชายตัวโตถึงมีท่าทีรังเกียจผมนักตั้งแต่เด็ก

 

 จนตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งเกลียดผมมาก ผมคิดเอาเองว่าที่เขาเกลียดอาจจะเป็นเพราะผมเป็นเด็กอ้วนตาตี่ ไม่ได้น่ารักเหมือนน้องชายทั้งสองคนของเขา คนบ้านนี้เกิดมาหน้าตาดีทั้งบ้าน ซึ่งตรงข้ามกับผมทุกอย่าง หรือไม่อีกสาเหตุหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะบ้านผมไม่ได้รวยเหมือนเขา จึงทำให้คนตัวโตไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย เพื่อนๆ ของพี่ซองแต่ละคนมีแต่ระดับลูกมหาเศรษฐีทั้งนั้น สังคมเขาจึงไม่เหมือนกับผม

 

“บราวนี่ เค้ากลับก่อนนะ เย็นแล้วเดี๋ยวแม่เป็นห่วง” ผมเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคนที่เขาไม่อยากจะเห็นหน้าผม

 

 

“ฮึ”เสียงหัวเราะในลำคอของคนที่ยืนอยู่ ทำให้ผมต้องรีบก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

 

“ทำไมพี่ซองพูดแบบนี้ หมูน้อยเป็นเพื่อนบราวนะ”ผมได้ยินเสียงบราวนี่แว่วมาตามหลัง

 

“ทำไม? เพื่อนน้องบราวแต่ไม่ใช่เพื่อนพี่”

 

“แต่คุณย่าบอกว่าเราเป็นเหมือนพี่น้องกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ต้องรักกัน” บราวนี่ยังเอ่ยเถียงพี่ชายอย่างไม่ลดละ

 

“ใครจะนับญาติกับไอ้เด็กอ้วนก็เชิญแต่พี่ไม่” เสียงยังคงดังแว่วเข้าหัวผมจนกระทั่งผมเดินไปถึงหน้าบ้านเสียงทะเลาะกันของสองพี่น้องจึงเบาลง

 

 

ตอนนี้ไม่ต้องมีใครบอกหรืออธิบายอะไรกับผม ผมก็รู้แล้วว่าพี่ซองเกลียดผมขนาดไหน แม้ทั้งคุณย่าและ แม่ผมจะพยายามพูดให้ผมเข้าใจว่าพี่เขาเป็นวัยรุ่น ย่อมมีโลกส่วนตัวและไม่ชอบให้ใครวุ่นวายก็เลยแสดงท่าทางแบบนั้นใส่ผม แต่ผมรู้ว้ามันไม่ใช่เลย เพราะผมไม่เคยคิดจะเข้าไปวุ่นวายกับเขาเลยแม้แต่น้อย    ทั้งๆที่รู้ว่าพี่เขาเกลียดผมมาก แต่ใจของผมก็ยังแอบรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคนๆ นี้ เคยแอบหวังว่าสักวันพี่เขาจะคุยกับผมดีๆ ซักครั้ง มันเป็นความคิดที่งี่เง่ามากเลยใช่ไหมครับ ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้แทบจะเป็นศูนย์ หรืออาจจะติดลบเลยด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ขำตัวเอง เพ้อเจ้ออะไรไปเรื่อยเปื่อย

 

ตอนนี้ผมจะอายุสิบสามแล้ว กำลังจะเข้าเรียนมัธยมต้น แม่บอกว่าน่าจะให้เรียนโรงเรียนรัฐบาลใกล้ๆ บ้าน เพราะพ่อกำลังตกงาน ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวให้มากที่สุด ผมก็เห็นด้วยกับแม่นะ ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนไหนก็ไม่เป็นไร แต่ผมแค่เสียดายที่จะไม่ได้เรียนที่เดียวกันกับบราวนี่ก็แค่นั้น วันนี้คุณย่าเรียกแม่เข้าไปคุย แล้วก็ให้ผมไปด้วย แต่ผมไม่รู้หรอกว่าผู้ใหญ่คุยอะไรกัน แต่พอแม่ออกมาจากห้อง ท่านกลับบอกผมว่าจะให้ผมเรียนที่เดียวกันกับบราวนี่ซะอย่างนั้น

 

ผมเรียนที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังเช่นเดียวกับบราวนี่ ไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไมคุณย่าถึงทำแบบนี้  จนแอบได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน ทำให้ผมเข้าใจว่าเป็นความต้องการของคุณย่า ทีแรกแม่ก็ปฏิเสธเพราะเกรงใจท่าน คุณย่าท่านช่วยครอบครัวผมมาตลอดเท่าที่ผมรู้ พ่อก็ไม่อยากให้แม่รบกวนท่านเหมือนกันจึงเกือบทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้

 

 

แม่บอกว่าคุณย่าไม่ยอมให้ผมเรียนโรงเรียนแถวบ้าน เพราะอยากให้ผมมีอนาคตที่ดี และอย่างน้อยก็ได้เรียนที่เดียวกันกับบราวนี่จะได้ช่วยเหลือกัน ถ้าแม่ไม่รับข้อเสนอของคุณย่าจะโดนคุณย่าตัดขาดอย่างแน่นอน เพราะท่านบอกว่าผมเป็นหลานคนหนึ่งเหมือนกัน ที่ทำทุกอย่างก็เพื่อหลานใช่เพื่อแม่หรือพ่อผม ถ้าอยากตอบแทนท่านก็ให้พ่อผมไปทำงานที่บริษัทท่าน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับท่านเพราะท่านแก่มากแล้วดูแลแทบจะไม่ไหว หลานๆ ก็ยังเรียนไม่จบสักคน แม่ของผมจึงได้แต่เออออตามท่านไป

 

ผมเกิดมาโชคดีที่ได้เจอคนดีๆ อย่างคุณย่าและครอบครัวของท่านทุกคน คุณย่าเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ผมแทบจะทั้งหมด มีเพียงค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยในแต่ละวันเท่านั้นที่แม่ผมเป็นคนให้ทุกวัน เวลามีค่ากิจกรรมต่างๆ บางครั้งผมก็ไม่อยากบอกท่านเพราะเกรงใจ แต่มีหรือที่คุณย่าจะไม่รู้เพราะผมเรียนห้องเดียวกันกับบราวนี่ ท่านเรียกผมมาดุเสียยกใหญ่ที่ไม่ยอมบอกเรื่องค่ากิจกรรมต่างๆ ให้ท่านทราบ หลังจากนั้นผมเลยไม่กล้าโกหกท่านอีกเลยกลัวคุณย่าโกรธ

 

การใช้ชีวิตในแต่ละปีของผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป และต้องเจอกับผู้คนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นความคิดผมก็โตขึ้นตามอายุ แต่มีอยู่อย่างเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนไปจากชีวิตผม คือความเกลียดชังที่พี่ชายข้างบ้านมีให้ จนทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมหรือไม่ก็อาจจะเพิ่มมากขึ้นก็ได้

 

ผมอายุย่างเข้าปีที่สิบสี่แล้ว เรียนอยู่ชั้นม.สอง เห็นอย่างนี้ผมก็เรียนเก่งนะเออ เกรดเฉลี่ยผมค่อนข้างจะดีติดอันดับท็อปของระดับชั้นเลยก็ว่าได้ ทุกๆวันผมกับบราวนี่จะทำการบ้านด้วยกันตลอด เราสองคนจะไปทำในห้องนอนของบราวนี่ เพราะผมต้องเลี่ยงการที่จะเจอกับใครคนนั้น ไม่อยากให้เขามาว่า ไม่อยากใหเขารำคาญเพราะเห็นหน้าผม

 

 

ปีนี้แล้วสินะเขาจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และเราคงไม่ได้เจอกันอีกหลายปี แต่มันก็น่าจะดีแล้วสำหรับผม บางทีอาจจะทำให้ผมลืมความรู้สึกบ้าๆ ที่มีต่อเขาได้  ไม่ต้องมานั่งเสียใจเวลาที่โดนอีกคนว่าแรงๆใส่ ไม่ต้องมาคอยอิจฉาพวกเพื่อนๆของเขาที่ได้รับรอยยิ้มที่แสนจริงใจทั้งๆที่ผมไม่เคยได้รับ ผมเหมือนคนโรคจิตที่คอยเฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆ มองเวลาเขายิ้ม หัวเราะให้กับทุกคนยกเว้นผมวันนี้แล้วสินะที่พี่จะไปอยู่ในที่แสนไกล และที่ตรงนั้นไม่มีผม

 

 

'ผมอยากไปส่งพี่นะ แต่ไม่อยากให้พี่รู้สึกไม่ดีก่อนที่จะจากที่นี่ไป เพราะผมเองนี่แหละที่คงเป็นความทรงจำแย่ๆเพียงอย่างเดียวในชีวิตของพี่'

 

‘ผมเตรียมของขวัญไว้ให้พี่ด้วยนะ แต่คงไม่มีโอกาสได้ให้ เพราะพี่คงไม่อยากได้มันหรอก’ ผมแค่นยิ้มให้กับคำพูดในสมุดบันทึกที่ผมมักจะเขียนมันประจำ แม้จะไม่ได้เขียนมันทุกวันแต่เวลาที่มีเหตุการณ์สำคัญผมมักจะไม่ลืมเขียนมันลงไปในนี้เสมอ

 

‘ขอให้พี่เดินทางโดยสวัสดิภาพ และมีความสุขในทุกๆวันนะครับ’

 

                ผมปิดสมุดบันทึกลงพร้อมกับล็อคกุญแจอันเล็กไว้กันคนอื่นมาอ่าน เพราะสมุดบันทึกเล่มนี้มันจะเป็นความลับของผมคนเดียว ที่ผมจะเก็บไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้  ก่อนที่จะเก็บลงกล่องแล้วล็อคมันอีกที

 

 

                อยู่ดีๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมา ทำไมผมอ่อนแอทั้งๆ ที่พยายามจะเข้มแข็ง ต่อจากนี้ไปผมต้องเข้มแข็งมากกว่านี้  ชีวิตที่ไม่มีพี่อยู่ใกล้ๆ มันจะเป็นยังไงบ้างนะ ผมจะพยายาทำมันให้ดีทำทุกวันๆวันให้ดีกว่าเดิม แม้พี่จะไม่ได้อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมแต่ผมก็จะพยายามเผื่อวันที่พี่กลับมาจะรู้สึกดีขึ้นกับตัวผมบ้างในวันที่ผมดีกว่านี้  ในวันที่ผมไม่ใช่เด็กน้อยกะโปโล

**********************************


บังอาจมากแต่งเรื่องที่สองทั้งๆ ที่เรื่องแรกยังไม่ถึงไหน ลองอ่านดูนะคะ   :hao5: :katai4: :m15:


                      TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2016 19:23:10 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ kajeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • กาเจี๊ยว
เปิดเรื่องมา เศร้าเลย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ร้องไห้ไปกับน้องมินเลยเนี่ย
ทำไมครัวซองค์ใจร้ายกับน้องมินจัง

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตามอ่านทั้งสองเรื่องเลย    :hao7:

เรื่องของ  ครัวซองกับมิน  ท่าจะเร้าร้อนน่าดูชม   :z1:   

ไม่ใช่ว่าครัวซองเกลียดน้องมินหรอก  ที่ทำท่าว่าเกลียดอ่ะ  ส่วนใหญ่ทั้งชอบทั้งรักทั้งหลงเลยแหละ   o13

โบราณเค้าว่า  เกลียดอะไร  มักได้อย่างนั้น  นะน้องมิน   :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่าจะมีอะไรมากกว่าเกลียดขี้หน้านะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่ครัวซองใจร้าย

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ตามอ่านทั้งสองเรื่องเลย    :hao7:

เรื่องของ  ครัวซองกับมิน  ท่าจะเร้าร้อนน่าดูชม   :z1:   

ไม่ใช่ว่าครัวซองเกลียดน้องมินหรอก  ที่ทำท่าว่าเกลียดอ่ะ  ส่วนใหญ่ทั้งชอบทั้งรักทั้งหลงเลยแหละ   o13

โบราณเค้าว่า  เกลียดอะไร  มักได้อย่างนั้น  นะน้องมิน   :laugh: :laugh: :laugh:



ลึกซึ้งมากค่ะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก2 ความเจ็บที่หวนคืน


(มินนี่)


 ผมเดินไปซื้อขนมหน้าปากซอยบ้าน ได้ขนมมาเยอะเลย วันนี้เป็นวันหยุดช่วงปิดเทอมของผม ดีใจใช่ไหมล่ะ ผมจบม.หกแล้ว สอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ด้วยนะครับ แม้ว่ามันจะเป็นแค่คณะคหกรรม แต่ผมก็ดีใจสุดๆ เลย ทั้งแม่และคุณย่าชมผมใหญ่ว่าเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่คะแนนผมสูงจนสามารถยื่นกับคณะที่เข้ายากกว่านี้ได้ แต่ผมก็เลือกที่จะเรียนคณะนี้  ผมมีความฝันของผม ความฝันของเด็กตัวน้อยๆ  อ้อ! ลืมบอกเลย ว่าผมไม่อ้วนเหมือนสมัยเด็กๆ แล้วนะ แต่ตาตี่ๆ ผิวซีดๆ ก็ยิ่งซีดหนักกว่าเดิม ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆ ที่มันควรจะคล้ำลงบ้างจากการการถูกแดดเผา

 
ผมเดินมาตามทางเดินที่คุ้นชิน เพราะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้มาตั้งแต่เกิด ไอติมที่ผมเดินกินมาตามทางเริ่มละลายอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะแดดเมืองไทยนี่ช่างร้ายกาจเหลือเกิน ผมเลียตรงที่มันเริ่มจะหยดอย่างเสียดาย แม็กนั่มเชียวนะ อุตส่าห์ตัดใจซื้อเพราะอยากกิน เสียดายเงินก็เสียดาย ต้องกินให้คุ้ม ผมเดินมาถึงร่มไม้ใหญ่ ก่อนถึงบ้านประมาณร้อยเมตร ตัดสินใจยืนกินไอติมแท่งโปรดด้วยเกรงว่ามันจะละลายหมดเสียก่อน ผมอยากจะค่อยๆ ละเลียดทีละนิด เพื่อซึมซับรสชาติของมัน แต่ทำไม่ได้เพราะเจ้าไอติมแท่งดำๆ มันแทบจะละลายไปหมดแล้ว  แอบมองมันอย่างหัวเสียอยู่คนเดียว แต่ความซวยของผมยังไม่จบแค่นั้น  เพราะเจ้าไอติมที่เกาะไม้อยู่ดีๆ มันก็ร่วงหล่นลงพื้นผมมองตามมันด้วยสายตาละห้อย เหลือแต่ไม้ที่ถือติดมือ ยิ่งกว่าหนังดราม่าอีก เสียใจอ่ะบอกเลย

 
ขณะที่ผมยังอาลัยอาวรณ์กับไอติมแท่งโปรด เจ้าหมาตัวเล็กสีน้ำตาล ตัวผอมโซเดินมาจากไหนไม่อาจทราบได้ เดินมาก้มเลียไอติมที่หล่นลงพื้นอย่างเอร็ดอร่อย ผมเคืองเจ้าหมาน้อยอ่ะ มาแย่งไอติมผมได้ไง ถึงแม้ว่ามันจะร่วงหล่นลงพื้นแล้วก็ตามที

 
“ไอ้หมาบ้ามาแย่งไอติมมินได้ไง” ผมนั่งลงข้างๆ ก้มลงมองหมาตัวเล็ก มันเหล่ตามองผมแค่แว้บเดียวแล้วก็ก้มลงกินต่อ

 
“แย่งกินแล้วยังมาเชิดใส่อีกนะ” ผมด่าเจ้าหมาตัวเล็กทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจรึเปล่า พอไอติมหมดมันก็เงยหน้ามองทำตาละห้อยเชียว ผมจำใจต้องหยิบขนมปังใส้สังขยาที่ชื่นชอบออกมาให้กับมัน ค่อยๆ บิเป็นชิ้นเล็กๆ วางลงพื้นให้มันกิน

 
“สงสัยจะหิวมากล่ะสิ หึหึ”  นั่งมองหมาตัวน้อยกินขนมเพลินๆ จนหมดห่อเลย ไม่รู้ว่ามันจะอิ่มรึยัง

 
“เอาอีกไหมเจ้าปลาทอง”  ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมจึงเรียกมันว่าปลาทอง ผมอยากตั้งชื่อให้มันว่าแบบนี้ ไม่มีเหตุผล  แต่คราวนี้กับเชิดหันหน้าหนีซะอย่างนั้น

 
“เลือกกินอีก” ผมจึงจำใจหยิบขนมปังสังขยาออกมาอีกถุง ให้เจ้าตะกละกินจนหมด มันอิ่มจนร่างผอมโซของมัน เริ่มมีพุงน้อยๆ ป่องออกมา

 
“มินจะกลับแล้วนะเจ้าปลาทอง” ผมยกมือลูบัวมันเบาๆ อย่างอาวรณ์ สงสารอยากจะเอามันไปเลี้ยง แต่ตัวเองยังต้องให้แม่กับคุณย่าเลี้ยงอยู่เลย ผมจำใจลุกเดินไปจากตรงนั้น ค่อยๆ ก้าวทีละก้าวอย่างช้าๆ เจ้าปลาทองก็ทำตาม ผมเดินมันก็เดิน เมื่อผมหยุดมันก็หยุดเหมือนกัน

 
“บอกว่าเลี้ยงไม่ได้ไง ไม่ต้องตามมาเลย” มันนั่งแหงนหน้ามองผม ไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะ  ผมเดินเร็วๆ ไม่หันกลับไปมองมันอีก หวังว่ามันจะไม่ตามมานะ ผมเหนื่อยหอบเมื่อถึงหน้าบ้าน ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูรั้ว อยู่ๆ เจ้าปลาทองมันก็กระโดดมาใกล้ๆ วิ่งวนรอบตัวผม

 
“มาได้ยังไง เมื่อกี้ไม่เห็นตามมาเลย ไอ้หมาเจ้าเล่ห์” อยากจะหัวเราะเสียงดังๆ กับความฉลาดแถมเจ้าเล่ห์ของหมาตัวน้อย

 
“คุยอะไรกับใครอยู่มิน” แม่ผมตะโกนออกมาจากข้างในบ้าน

 
“เปล่าฮะแม่” ตอนนี้ที่บ้านมีแค่ผมกับแม่สองคน เพราะพ่อผมเสียไปเกือบปีแล้ว ท่านป่วยหนักช่วงที่ผมขึ้นม.หก แม่น่าสงสาร ท่านรักพ่อมากผมก็รักไม่ต่างกัน แต่วันที่พ่อเสียแม่กลับมีน้ำตาแม้สักหยด ท่านคงเข้มแข็งเพื่อผมที่ยังอยู่กับท่าน

 
“กลับไปเลย แม่มาแล้วเห็นไหม เดี๋ยวโดนตีนะ” ผมยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ เจ้าตัวเล็กที่ไม่มีท่าทีจะกลัว กลับวิ่งวนไปวนมาอย่างกับดีใจอย่างนั้นหละ

 
“จะไปด้วยกันจริงๆ ใช่ไหม ถ้าแม่ไม่ให้เลี้ยงก็เลี้ยงไม่ได้นะ เข้าใจไหม” มันคงเข้าใจหรอกเนอะ ว่าผมบอกมันว่ายังไง

 
ผมเดินตรงเข้าไปในบ้านโดยมีเจ้าปลาทองเดินตามอย่างกระดี๊กระด๊า แม่ผมนั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ท่านเอาเหล่าบรรดาจานชามที่ไม่ค่อยได้ใช้มาขัดๆ ถูๆ  ทำความสะอาด เพราะเก็บไว้นานฝุ่นเริ่มจะเกาะ

 
“ไปเอาหมาจากที่ไหนมาเนี่ยลูก” แม่ผมตกใจเล็กน้อย ที่อยู่ดีๆ ก็มีหมาน้อยผอมโซเดินตามมา

 
“เจ้าปลาทองมันตามมินมาเอง มินเห็นมันที่ข้างนอกมันหิวก็เลยเอาขนมให้กิน มันเลยเดินตามไม่ห่างแบบนี้”  ผมตอบก่อนจะยิ้มแหยๆ ให้กับผูหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ที่ดูยังไงก็ยังสวยไม่สร่าง เหมือนสมัยสาวๆไม่มีผิด  แต่ทำไมแม่จึงมารักกับพ่อก็ไม่รู้ พ่อผมตัวดำ ตาตี่ แต่ตัวสูงใหญ่ ผมได้พ่อกับแม่มาอย่างล่ะครึ่ง ผิวขาวกับตัวเล็กเหมือนแม่ ตาตี่เหมือนพ่อ จนกลายมาเป็นมินนี่ตัวน้อยที่น่าเกลียดในสายตาใครๆ

 
ผมเคยขอแม่เลี้ยงน้องหมาตอนเด็กๆ ร้องห่มร้องให้จะเป็นจะตาย แทนที่จะปลอบกับเจอไม้เรียวของท่านแม่ไปซะเต็มๆ พ่อห้ามไว้แม่ก็ไม่ฟัง พอตีเสร็จ แม่ก็เข้ามาปลอบ บอกเหตุผลให้ผมรู้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างตามประสาเด็ก แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยขอท่านเลี้ยงอะไรอีกเลย

 
“จะเลี้ยง?” แม่หันมามองก่อนที่จะก้มลงเช็ดจานต่อ

 
“ปละ...เปล่าฮะ ถ้าแม่ไม่อนุญาตก็ไม่เลี้ยงหรอก” ผมตอบไม่เต็มเสียง เพราะที่จริงก็อยากเลี้ยงมันแทบตาย สงสารเจ้าปลาทองตัวน้อย

 
“ถ้าแม่อนุญาต....”

 
“เย้ๆๆๆๆ ดีใจที่สุดเลย” ผมกระโดดหยองแหยงอย่างดีใจ เจ้าปลาทองก็วิ่งไปรอบๆ

 
“แม่พูดยังไม่จบ” ตาผมอ่อนแสงลง เพราะแม่คงไม่อนุญาตแล้ว

 
“ตาละห้อยเลย  ถ้าจะเลี้ยงต้องดูแลมันเองทุกอย่าง แม่จะไม่ยุ่ง ส่วนเงินที่แม่ให้ใช้ทุกวันก็จัดสรรปันส่วนเอาเอง ว่าจะทำยังไงก็พอกับสองชีวิต เข้าใจไหม” แม่อนุญาตแล้ว ดีใจๆ สุดๆ ไปเลย

 
“เจ้าปลาทองแม่อนุญาตแล้ว ดีใจไหมๆ” ผมก้มลงไปอุ้มเจ้าหมาน้อย มาแนบอก

 
“อะไรนะมิน มันชื่ออะไรนะ” แม่ผมถาม

 
“ปลาทองฮะ มันชอบชื่อนี้”

 
“รู้ได้ไงว่ามันชอบ คิดเองเออเองนะเรา”

 
“แฮ่ๆๆ” มันไม่ได้ชอบหรอก ผมนี่แหละชอบเอง ก็ชื่อมันน่ารักดี หมาน้อยชื่อว่าปลาทอง

 
“บ็อก บ็อก”

 
“ไปๆ พามันไปอาบน้ำ แล้วจะเอามันนอนไหน”

 
“นอนกับมิน”

 
“ไม่ได้ ให้มันนอนข้างล่าง”

 
“ก็ได้ ไปๆ อาบน้ำกันดีกว่า” นี่แหละครับคือสาเหตุที่ผมได้เลี้ยงเจ้าปลาทอง

 
ผมกับเจ้าปลาทองอยู่ด้วยกันมาอาทิตย์กว่าๆ แล้ว มันซนจนผมอยากจับมาทำหมาแดดเดียว ตอนนี้ก็เหมือนกัน ผมตามจับมันเพื่อที่จะพาไปอาบน้ำ ไม่รู้ไม่มุดอะไรมา คราบน้ำมันเต็มตัวเลย จับได้ต้องตีสักทีสองที  ไม่รู้ว่าวิ่งหนีไปไหนแล้วตอนนี้ หาไม่เจอเลย  ผมรีบวิ่งไปหาที่หน้าบ้านก็ไม่เจอ หายไปไหนนะ

 
“ปลาทองอยู่ไหน ปลาทอง”  ผมร้องเรียกหาเจ้าหมาน้อยจอมซนไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ไหน

 
“บ็อก บ็อก.....” เสียงเจ้าจอมซนแว่วออกมาให้ได้ยิน ทางฝั่งรั้วบ้านของคุณย่า  ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วที่เชื่อมกันระหว่างสองบ้าน ตอนแรกมันก็ไม่มีหรอก แต่คุณย่าท่านเห็นว่าผมชอบแอบมุดไปหาบราวนี่ประจำ ท่านเลยทำประตูให้เลย

 
“ปลาทอง ปลาทอง” เจ้าหมาน้อยตัวสีน้ำตาลที่ตอนนี้เริ่มจะอ้วนขึ้นมาบ้างแล้ว รีบวิ่งหูตั้ง หางกระดิกมาหาผมทันที

 
“ซนจริงๆ เลย” ผมก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่กระดิกหางดิ๊กๆ อย่างรอคอย ขาก็ตะกายเข้ากับหน้าแข้งของผม

 
“บ็อก บ็อก”

 
“ยังมีหน้ามาเถียงอีกนะ  เดี๋ยวเอาไปปล่อยไว้ที่เดิมเลย” ผมด่าเจ้าตัวเล็กเสียงดัง มันก็ยังเห่าไม่ยอมลดละ จนผมเริ่มจะเอือมแล้วตอนนี้

 
“ตั้งแต่เด็กจนโต วุ่นวายบ้านคนอื่นไม่เคยเปลี่ยน” เสียงที่คุ้นหูทำเอาผมตัวชา ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จะมีก็แต่เจ้าปลาทองที่ยังเห่าอย่างไม่เลิก

 
ผมลืมไปเลยว่าบราวนี่บอกว่าพี่จะกลับมาช่วงปิดเทอม ลืมไปเลยว่าเขากลับมาแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า  แค่ได้ยินเสียงก็ทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกเดิมๆ ถูกดึงกลับเข้ามาในหัวสมอง ทั้งๆ ที่คิดว่าลืมไปได้แล้ว แต่พอต้องมาเผชิญหน้าคนตรงหน้าจริงๆ กลับรู้สึกราวกับมันเพิ่งผ่านมาไม่นาน ทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่มันอาจจะหลบอยู่ในซอกหลืบที่ลึก จนทำให้ผมไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีก

 
“ฮึ ไร้มารยาทสิ้นดี ไม่เจอกันตั้งนาน กลับไม่มีแม้แต่คำทักทาย”  พี่ต้องการอะไรจากผม ในเมื่อเราต่างคนต่างอยู่มาแต่ไหนแต่ไร ทำไมถึงต้องมาต้องการแค่คำทักทายจากผม คนที่พี่ไม่เคยอยากรู้จักเลยแม้แต่น้อย แค่ความบังเอิญที่บ้านของเราอยู่ข้างกันก็แค่นั้น

 
“สวัสดีฮะ ไม่เจอกันนานเลย” ผมเอ่ยออกมาในที่สุด พยายามยิ้มทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าสีหน้าตอนนี้ของตนเป็นอย่างไร

 
“นานแล้วนะที่ไม่เจอกัน มึงก็ยังเป็นเด็กที่ไม่รู้จักคำว่าเกรงใจไม่เปลี่ยน” คำพูดที่แทงใจผม มันกลับมาทำร้ายผมอีกแล้ว คำพูดเดิมๆ จากคนเดิมๆ

 
“ผมขอโทษที่เข้ามา ไม่รู้ว่าคุณกลับมา” พยายามกลั้นเสียงสั่นๆ ของตนเอง ไม่ให้เขาจับได้ว่าคนอย่างผมกำลังจะร้องให้เพราะเขา

 
“ถ้ากูไม่กลับ มึงก็คงวุ่นวายไม่เลิก ย่ากูใจดีกับมึงเกินไปรึเปล่า” คำพูดนิ่งๆ แต่แฝงด้วยความเกลียดชังของคนตรงหน้า ทำให้ผมต้องรีบหันหลังเดินกลับไปทางเดิม ไม่มีคำล่ำลาออกจากปากของคนอย่างผม  อยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้วแม้เพียงเสี้ยววินาที  หัวใจดวงเดิมกลับมาเจ็บซ้ำๆอีกรอบ เหมือนเขากระชากหัวใจของผมไว้ใต้ฝ่าเท้า แล้วเหยียบมันซ้ำๆ อย่างไร้ความปราณี

 
ไม่ใช่ความผิดของพี่ที่เกลียดผม แต่เป็นเพราะตัวผมเองที่ไม่รู้จักระวัง ปล่อยให้หัวใจมันนำทาง นำความรู้สึกที่เจ็บปวดกลับคืนมา

 
ตลอดเวลาสี่ปีที่พี่ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ผมยังแอบดูเขาตลอดผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่สมัยนี้ใครๆ ก็เล่น เขาไม่ได้ตั้งความเป็นส่วนตัว ผมจึงเข้าไปแอบส่องอยู่บ่อยๆ ตลอดเวลาที่พี่โพสต์รูปลง มักจะมีสาวๆ อยู่ข้างกายเสมอ ผมไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นใคร เป็นเพื่อนจริงๆ เพื่อนนอน หรือแฟนพี่กันแน่

 
พี่เขายิ้มกว้างทุกครั้งเวลาที่ล้อมรอบด้วยเพื่อนๆ ของเขา ผมได้เพียงแอบมองมาตลอด แม้กระทั่งตอนนี้ที่ผมกำลังเสียใจเพราะเขาอีกครั้ง

 
เคยคิดว่าเข้มแข็งแล้ว ไม่มีใครสามารถมาทำร้ายหัวใจได้อีกแล้ว แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าผมกำลังหลอกตัวเองอยู่  ผมยังคิดถึงเขาตลอดเวลา

 
ผมอุ้มเจ้าปลาทองจอมป่วนไปอาบน้ำที่ข้างบ้าน มันดิ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำที่ผมเปิดน้ำใส่กะละมังไว้ เจ้าตัวเล็กมันไม่ชอบอาบน้ำ ใครบอกว่าหมาทุกตัวชอบน้ำนี่ผมเถียงขาดใจเลย เพราะผมเห็นมากับตา  ผมพยายามอาบน้ำให้เจ้าปลาทองอย่างระวัง แต่ผมกลับเหม่อจนเผลอเทน้ำราดหัวเจ้าตัวเล็ก จนมันเห่าประท้วง

 
“ขอโทษๆ มินไม่ได้ตั้งใจ” ผมเอ่ยกับเจ้าหมาน้อยอย่างสงสาร ลูบหัวมันเบาๆ ก่อนที่มันจะครางหงิงๆ อย่างอ้อนๆ

 
“เดี๋ยวก็เสร็จแล้วปลาทอง เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ” ผมผ่อนคลายลงเยอะหลังจากที่ได้เล่นกับเจ้าตัวเล็ก มันช่วยให้ผมคลายเหงาได้จริงๆ เลย

 
***********************************

 

ตอนแรกว่าจะยังไม่อัพ พึ่งแต่งเสร็จเมื่อกี้ เลยเอามาลง เอาเป็นว่าเราจะไม่กำหนดแล้วนะคะว่าจะอัพเรื่องนี้ตอนไหน ถ้าว่างก็จะแต่งอัพให้อาทิตย์ละครั้ง  ตอนนี้ยังอยู่ในพาร์ทอดีตอยู่นะคะ อีกสองสามตอนถึงจะเป็นพาร์ทปัจจุบันแต่ถ้าไม่ว่างก็อ่านเรื่องคุณคิณกับน้องพายรอไปก่อน  ไม่ว่ากันนะคะ สนุกไม่สนุกเม้นให้ด้วยนร้า  :sad4: :L3: :katai4:

 

1เม้น

 

1กำลังใจ

 

ให้คนแต่ง



                   TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2016 12:46:55 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ทำไมซองต้องเกลียดถึงขนาดนั้น แย่จริงๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เจ้าหมาน้อยปลาทองแสนรู้ดีนะ

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
การศึกษาไม่จรรโลงใจเลยหรือ? ดูเกลียดชังแบบอยากให้ตายๆไปเลยนะนั่น

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พระเอกร้ายไปเปล่า? มีเหตุผลอะไรที่ทำกับมินนี่แบบนี้  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :z6:
ไม ซอง ยังนิสัยไม่ดีไม่เปลี่ยนเลย ชอบทำร้ายจิตใจน้องมิน ของเจ้

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กะจะร้ายให้เค้ามาสนใจรึเปล่าเนี่ย  พ่อพระเอก    :hao3:



ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชอบชอบ แบบแนวแอบรัก กะหน่วงนิดๆ จี๊ดใจอ่ะ

 :z6:   :z6:  :z6:  :z6:

  :z3:  :z3:  :z3:  :z3:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao4: พี่ครัวซองนี้นิสัย! สงสัยเป็นโรคจิตไม่นิดละนั้น อคติมากมาย

หมูน้อยสู้ๆ รออ่านทุกวันเลย

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
โหดไปใหนกันนะ พี่ซอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก3...............



                (มินนี่)

             

ผมเริ่มบอกตัวเองอีกครั้ง ว่าควรที่จะเรียนรู้ที่จะรักให้เป็น ไม่ให้มันมาทำร้ายตัวผมเอง สมุดบันทึกที่ก่อนหน้านี้ผมชอบบันทึกอะไรลงไป ตอนนี้มันถูกผมลืมเลือนไปแล้ว เพราะผมไม่อยากยึดติดกับอดีต ในเมื่อคนที่เราห่วงหาอาทร กลับไม่ได้มีความรู้สึกแบบเดียวกับเรา ผมก็ไม่ควรที่จะไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

               

ตอนนี้ผมมีความสุขดีครับ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย  ทำงานที่ร้านอาหารวันละสามชั่วโมง ทำแค่พาร์ทไทม์ เจ้าของร้านก็ใจดีกับผม คุณย่าท่านโมโหมากที่ผมแอบมาทำงานแบบนี้ ท่านบอกไม่อยากให้ผมลำบาก แต่ผมบอกท่านไปแล้ว ว่ามันมีประโยชน์กับตัวผมเอง ทั้งในเรื่องการเรียน แล้วก็แบ่งเบาภาระแม่ได้ด้วย

 

ผมเรียนอยู่ปีหนึ่งใกล้จะสอบปลายภาคแล้ว ยุ่งดีชะมัดเลย วันนี้วิ่งวุ่นทั้งวัน ทั้งเรื่องงานที่จะทำส่งอาจารย์ ทั้งเรื่องสอบย่อยอีก

 

“เฮ้ย! มินเย็นนี้ไปทานข้าวกัน”  เพื่อนสนิทผมเองครับ ผมมีเพื่อนไม่เยอะหรอก เพราะเอาเวลาส่วนใหญ่ทำงานพิเศษเสียมากกว่า

 

“เราต้องไปร้านอ่ะ วันนี้พี่คนอยู่ประจำเขาลาด้วย”  กรีนเพื่อนสนิทผมเริ่มหน้ามุ่ยแล้ว เพราะชวนทีไรผมก็ไม่เคยไปซะที

 

“อีกแล้วนะแก พวกฉันชวนทีไรไม่เคยไป ทำงานตลอด”  หลิวเพื่อนอีกคนเอ่ยเสริม

 

“ก็มินไม่ว่างจะอะไรกันพวกแกนี่” เมฆที่นั่งอยู่อีกฝั่งเอ่ยแย้งขึ้น

 

“เข้าข้างกันตลอดนะยะ ทีฉันอ่ะเรียกแกย่างนั้นอย่างนี้ ทีกับไอ้มินนี่พูดซะเพราะ พวกฉันเป็นผู้หญิงนะเว้ยไม่ใช่ไอ้มิน” กรีนแหวใส่เมฆที่นั่งทำหน้ามึนๆ อยู่ข้างๆ ผม เขาพูดเพราะกับผมเสมอ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้ง ๆที่ผมก็เป็นผู้ชาย

 

“อยากให้พูดเพราะๆ ด้วยเหรอครับคุณกรีน คุณหลิว” เมฆพูดเสียงอ่อนเสียงหวานยังคงต่อปากต่อคำกับเพื่อนอีกสองคน ผมก็ได้แต่นั่งหัวเราะที่สองสาวทำท่าเหมือนจะอ้วกออกมา

 

“ใครทำแกสองคนท้องเนี่ย แถมท้องพร้อมกันสองคนเลยด้วย” สองสาวสงสัยจะหมั่นใส้คนข้างๆ มาก ฝ่ามือเล็กๆ สองข้างประเคนใส่หลังเมฆจนเต็มแรง สงสัยคงจะเจ็บน่าดู หน้าตาเหยเกจนผมยังเจ็บแทน

 

พวกเรานั่งเล่นที่ใต้ตึกคณะรอเวลาเรียนคาบบ่าย  พูดคุยเล่นกันไปเรื่อย เมฆอาสาไปซื้อน้ำให้ผมกับสาวๆ อีกสองคน  ตอนนี้เป็นคาบว่าง  อ่านหนังสือบ้าง คุยไร้สาระบ้างในบางครั้ง ไม่มีอะไรที่ต้องเครียดมาก

 

“หมูน้อยยยย” เสียงเรียกผมดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งยิ้มร่ามาหาผม ไม่เคยคิดจะอายใครหรอกครับคนอย่างบราวนี่ แต่เพราะเขาเป็นคนน่ารัก จึงมีแต่คนจ้องมองด้วยสายตาแพรวพราว โดยเฉพาะพวกหนุ่มๆ ที่เห็นหน้าตาน่ารักของบราวนี่ทีไรก็พากันเคลิ้ม จนผมเริ่มที่จะรำคาญไอ้พวกผูชายเจ้าชู้พวกนี้แล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ชอบเข้ามาถามว่าบราวนี่คนน่ารักมีแฟนยัง มีเบอร์ไหม จีบได้ไหม จนผมอยากตะโกนดังๆ ออกไปว่าให้ไปถามเอาเอง แต่ก็ได้แค่คิด ไม่กล้าพูดหรอก กลัวรุ่นพี่จะโกรธ  ถึงคณะที่ผมเรียนจะเป็นคหกรรม แต่ก็มีทั้งบรรดา หนุ่มแท้หนุ่มเทียมเรียนเยอะพอสมควร การที่ผู้ชายรักกับผู้ชายจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่

 

“เสียงดังทำไมบราว เค้าอยู่แค่นี้” ผมว่าไอ้คนที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกเลยแม้แต่น้อย

 

“ฮี่ๆ ก็เค้าดีใจที่เจอหมูน้อยนี่นา ไม่ได้เจอกันเกือบสองอาทิตย์” เสียงเล็กๆ เริ่มตัดพ้อผม เพราะเราสองคนเรียนกันคนละคณะ แล้วผมก็ยังทำงานพิเศษอีกจึงไม่มีเวลาที่จะได้เจอกัน แต่ก่อนเราเรียนด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะตลอด ตัวติดกนยังกับปลาท่องโก๋

 

“แล้วมีอะไรเนี่ย มาหาถึงที่นี่” อีกคนเข้ามานั่งข้างๆ เอาหัวมาถูไถผมแบบที่เจ้าตัวชอบทำตั้งแต่เด็กจนโต เวลาที่ต้องการจะอ้อนคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างผม

 

“คิดถึง คุณย่าก็คิดถึง บอกว่าตัวไม่เข้าไปทานข้าวที่บ้านเลย รู้ไหมว่าย่าน้อยใจใหญ่แล้ว” นี่ล่ะสินะคือสาเหตุที่บราวนี่มาหาผม

 

“ก็บอกคุณย่าแล้วนี่นาว่าทำงานพิเศษ” ผมสองคนคุยกันไปเรื่อยโดยที่สองสาวเอา แต่นั่งจ้องกับท่าทางของเราสองคน

 

“เราขอขัดจังหวะได้ไหม นายสองคนใครรุกใครรับ” กรีนเอ่ยถามขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของเราสองคน

 

“อะไรนะกรีน อะไรรุกๆ รับๆ” ผมงงกับคำถามของเพื่อน จึงถามย้ำอีกครั้ง

 

“ก็นายสงคนไง ใครรุกใครรับ” กรีนคิดว่าผมสองคนเป็นแฟนกัน

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆ เรา ฮึ...ฮ่าๆๆๆ ขอหัวเราะก่อนนะ”  บราวนี่หัวเราะเสียงดังกับคำถามบ้าบอของเพื่อนผม แต่ผมนี่ยิ้มไม่ออกนะครับ

 

“บ้ารึไงกรีน เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ติดกัน คุณย่าของบราวนี่ก็เหมือนย่าของเรา” ผมพยายามอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ แต่อีกคนเอาแต่ขำ ท้องคับท้องแข็ง

 

“ใช่ๆ เรา ฮ่าๆ เป็นเพื่อนกัน”  หมั่นใส้บราวนี่จริงๆ เลยเอาแต่หัวเราะ ไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับเขาสักอย่าง

 

“ฉันก็ว่างั้นแหละยายกรีน แกจะเอาเคะมาชนเคะหรือไง ฟ้าผ่าตาย” ดูเพื่อนผมแต่ละคนสิครับ สนับสนุนให้ผู้ชายกินกันเองไม่พอ ยังจะมาจับคู่ให้ผมกับบราวนี่อีก

 

“พอๆ เลยพวกเธอเลิกไร้สาระได้แล้ว ส่วนบราวเมื่อไหร่จะเลิกขำ”

 

“อือๆ ฮึ เขาเลิกก็ได้” แม้จะพยายามกลั้น แต่ก็ยังแอบหัวเราะออกมาอีก จนผมหันไปมองค้อนเพื่อรักที่หนึ่ง

 

“บราวนี่น่ารักอ่ะ เราชอบ” กรีนส่งยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตให้กับบราว

 

“จีบเราเหรอ”

 

“คิๆๆๆ ใครเขาจะจีบล่ะ เราแค่อยากหาแฟนให้บราว”

 

“เอาสวยๆ เลยนะคร้าบบบบ” บราวนี่ยังไม่รู้ตัวล่ะสิว่าความซวยกำลังจะมาเยือนถ้าให้ยายสองสาวนี่หาแฟนให้สงสัยจะได้สามีมากกว่า

 

“อย่างบราวนี่ต้องหาแฟนหล่อๆ ล่ำๆต่างหาก” หลิวแท็กมือกับกรีนอย่างเห็นด้วย สองสาวนี่ท่าจะบ้าไปใหญ่แล้ว  ผมก็เคยโดนตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ

 

“บ้าแล้ว เราผู้ชายนะ”บราวนี่แหวเสียงดังอย่างขัดใจ

 

“แต่ผู้ชายแบบบราวนี่กับมิน ต้องเหมาะกับเมะล่ำๆ หล่อๆ ชายได้ชายเป็นยอดชายนะจ๊ะ” ใครก็ได้ช่วยพายายสองคนนี่ไปล้างสมองทีครับ สางสารพ่อแม่ของพวกเธอจริงๆ เลย

 

เมฆที่ไปซื้อน้ำนานจนผมลืมไปเลย เดินกลับมาพร้อมน้ำหลากสีตามที่พวกผมสั่งไป แต่ไม่มีของบราวเพราะไม่รู้ว่าจะมาเลยไม่ได้สั่งเผื่อ

 

“สวัสดีเมฆ” บราวนี่เอ่ยทักผู้เดินเข้ามาใหม่ ก่อนที่จะส่งยิ้มน่ารักตามแบบของตนเอง

 

“สวัสดีครับบราวนี่”  เมฆเอ่ยทักบ้างพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆ บราวนี่

 

ผมหยิบแก้วชานมเย็นปั่นมาดื่ม ก่อนที่จะยื่นให้บราวนี่ แต่รายนี้เขาไม่ชอบหรอก ชอบดื่มชาเขียวใส่นมเยอะๆ  แต่ก็ยอมดื่ม สงสัยจะหิวล่ะสิ

 

“บราวทานข้าวมารึยัง”

 

“ทานแล้ว แล้วตกลงเย็นนี้ว่าไง บอกบราวมา” เจ้าตัวคะยั้นคะยอผมไม่ยอมหยุด รายนี้ไม่ชอบให้คนขัดใจ

 

“โธ่ บราวอ่ะ วันอาทิตย์ได้เปล่า เราลางานก่อน” หาทางเลี่ยงเพราะไม่อยากให้คนที่ร้านรอ เพราะไม่พนักงานไม่พอ อีกอย่างก้ตกลงกับพี่ๆ ที่ร้านไว้แล้ว

 

“หมูน้อยอ่ะ” พูดอย่างนี้คืองอนเต็มขั้นแล้วครับ หน้างอๆ ตาเชิดๆ ที่ตอนนี้ส่งมาให้ผม ชอบให้คนอื่นง้อเป็นที่หนึ่งเลย

 

เสียงฝีเท้าคนที่เดินมาตรงนี้ ทำให้ผมต้องหันไปสนใจผู้มาใหม่ ก่อนที่จะเห็นว่าเป็นพี่พาย ปกติเขาจะไม่มาหาผมที่คณะหรอกครับ  พี่พายสวยในแบบที่ผู้หญิงหลายๆ คนยังต้องอาย ตาคม ปากเล็กๆ จมูกเล็กๆ โด่งไม่มากรับกับใบหน้า  ริมฝีปากบางๆ ของพี่พายยกยิ้มสวยส่งมาให้ผมส่วนพวกหนุ่มๆ สาวๆ ที่อยู่โต๊ะข้างๆ อยู่ดีๆ ก็เอ่ยเสียงดังเซงแซ่ จนผมหันไปมองจึงรู้ว่าพวกนั้นกำลังจ้องผู้มาใหม่อย่างเอาเป็นเอาตาย

 

“พี่พายมาได้ไง” ผมยิ้มให้พี่พายบ้าง ส่วนเมฆนี่เอาแต่นั่งอ้าปากค้าง อยู่อย่างนั้น ตาก็มองพี่ชายผมไม่กระพริบเลย ไม่ต่างกับสองสาวที่มองตาค้างสะกิดแขนกันเบาๆ แล้วกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้

 

“มาตามเจ้าตัวแสบ”

 

“นั่งนี่เลยครับ” เมฆตั้งสติได้รีบลุกขึ้นให้พี่พายนั่งลงที่ๆ ตัวเองนั่งอยู่ก่อนแล้ว

 

“ไม่ป็นไรหรอก พี่มาแป๊บเดียว”

 

“นั่งเถอะค่ะ ให้ไอ้เมฆมันยืนน่ะดีแล้ว” หลิวนี่เห็นผู้ชายหน้าตาดีไม่ได้ครับ ตาเยิ้มเชียว

 

“จริงๆ ค่ะ พี่นั่งเลย ไอ้เมฆมันถึก มันอึด ไม่เป็นไรหรอก” กรีนเป็นฝ่ายสนับสนุนเข้าขากันดี  ถ้าคนหนึ่งเป็นนักร้องอีกคนก็คงจะเป็นมือกลองคอยตบให้เข้าจังหวะ

 

“ขอบคุณนะ” พี่พายยิ้มเผื่อแผ่ให้ทุกคน รวมทั้งเมฆที่มองตามตาละห้อยเลยงานนี้

 

“เดี๋ยวมินแนะนำเพื่อนให้รู้จักนะฮะ” ผมแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการ พวกเพื่อนๆ ผมก็ยกมือไหว้พี่พายกันใหญ่

 

“หน้าตาดีกันทั้งบ้านเลยอ่ะ อิจฉาจัง ทำไมผู้ชายสมัยนี้ ทั้งสวย ทั้งน่ารักแบบนี้ แล้วผู้หญิงอย่างกรีนกับหลิวจะมีที่ยืนเหรอคะ”  มันก็จริงครับ อย่างที่ผมบอกว่าบ้านนี้เขาหน้าตาดีทั้งบ้าน แต่ละคนหน้าไม่เหมือนกันหรอก พี่ซองคนโตออกแนวหล่อแบดบอย พี่พายดูสวยคม ส่วนบราวนี่ดูน่ารักแบบแก่นๆ เซี้ยวๆ

 

“ฮ่าๆ แกก็ยืนอยู่ที่เดิมของแก เพียงแต่ไม่มีใครสนใจก็เท่านั้น” เมฆปากร้ายว่าเพื่อนผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง

 

“แกไม่ต้องมาว่าฉันหรอก ไอ้ยักษ์ปักหลั่น ตัวดำทะมึน” เป็นหลิวที่ร้องด่าเมฆออกมาเสียงดัง

 

“พี่พาย กับบราวนี่ไม่ต้องตกใจนะคะ เราแค่คุยกัน ไม่ได้ทะเลาะกันหรอก” กรีนพูดก่อนที่จะยิ้มบางๆ ส่งให้พี่พายสงสัยจะเขิน

 

“ไม่เป็นไรหรอก พี่ว่าตลกดี”

 

“แล้วตัวตามเค้ามาทำไม” บราวนี่หันไปถามพี่พายหลังจากที่นั่งเงียบมาสักพัก

 

“ก็บอกว่ามาตามเจ้าเด็กแสบเอาแต่ใจไง คุณย่าบอกแล้วไงว่าบราวทำงานพิเศษ วันอาทิตย์ค่อยเข้าไปที่บ้านก็ได้” เริ่มจะมีอะไรตะหงิดๆ น่าสงสัยซะแล้ว

 

“บราวบอกว่าคุณย่าคิดถึง น้อยใจที่มินไม่ได้เข้าไปหาไม่ใช่เหรอ” ผมหันไปถามพี่พาย น่าจะได้คำตอบมากกว่า

 

“เจ้าตัวแสบต่างหาก บังคับให้คุณย่าโทรหาหมูน้อยด้วย แต่คุณย่าไม่โทรเลยมาเอง” ผมเริ่มจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว

 

“บราวหลอกมินเหรอ” ผมหันไปมองบราวนี่อย่างเคืองๆ ที่จริงก็ไม่ได้โกรธหรอก แค่แกล้งไอ้คนที่ชอบเอาแต่ใจเล่นเท่านั้นเอง

 

“ฮี่ๆ แกล้งเล่นเฉยๆ  ก็บราวคิดถึงมินอ่ะ ตั้งแต่เด็กเราอยู่ด้วยกันตลอดนี่นา” หน้าตาน่าสงสารส่งมาให้ผม สายตาอ้อนๆ คู่เดิมตั้งแต่เด็กจนโต ผมก็ใจอ่อนตามเคยครับ

 

“มินทำงาน วันอาทิตย์จะเข้าไปหาแต่เช้าเลย”

 

“จริงๆ นะ”  อีกคนพุ่งเข้ากอดผม จนตั้งตัวไม่ทัน เกือบตกเก้าอี้ทั้งสองคนแล้วไหมล่ะ จนผู้คนที่นั่งมองกลุ่มเราอยู่หันมาจ้องเป็นตาเดียวกัน จะไม่ให้มองได้ไงล่ะ ก็ผู้ชายสองคนมานั่งกอดกันแบบนี้ ใครๆ ก็มองทั้งนั้นแหละ อีกทั้งยังมีพี่พายคนสวยนั่งอยู่ด้วยจึงเป็นจุดสนใจได้ไม่ยาก

 

“พอแล้วน้องบราว คนมองกันใหญ่แล้ว” เป็นพี่พายที่ห้ามไว้ เพราะคนแถวนี้คงม่ไมีใครคิดว่าเพื่อนผู้ชายจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันขนาดนี้

 

“ไม่นะคะพี่พาย กำลังฟินเลย”

 

“จริงๆ ค่ะ เคะชนเคะก็ไม่เป็นไรแต่ตอนนี้กรีนว่ากอดกันต่อเลยค่ะ ทำเยอะกว่านี้ก็ไม่ว่า ผลัดกันรุกผลัดกับรับ หนูชอบ”  ประสาทจะเสียเพราะเพื่อนผมสองคนนี่แหละ

 

“ไร้สาระจริงๆ พวกแกสองคนเนี่ย” เมฆเอ่ยขัดความสุขของสองสาวที่ที่นั่งเคลิ้มๆ อยู่

 

“แกไม่เข้าใจสาววายอย่างฉันหรอก เงียบๆ ปากไปเลยไป” หลังจากนั้นก็เป็นการปะทะคารมของสองสาวกับหนึ่งหนุ่ม อย่างเช่นทุกครั้ง มีความสุขในทุกๆ ครั้งที่ผมได้อยู่กับเพื่อน มันเป็นความทรงจำที่ผมไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือไม่ดี ทุกข์บ้างสุขบ้าง ทะเลาะกันบ้างตามประสาแต่ผมก็จำทุกช่วงเวลา

 

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี  แม้ผมจะยังไม่สามารถลืมคนที่อยู่ในใจได้ แต่ผมก็แค่เก็บเขาไว้ในซอกหลืบของหัวใจให้ลึกที่สุด ไม่ให้ความรู้สึกนี้มาทำร้ายผมอีก ตอนนี้ผมใกล้จเรียนจบแล้ว บราวนี่ก็เหมือนกัน ส่วนพี่พายเรียนจบไปสองปีกว่าแล้ว ตอนนี้เปิดร้านเค้กเล็กๆ อยู่ มีผมเข้าไปช่วยบ้างหลังเลิกเรียน ผมไม่ได้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารแล้ว มาช่วยพี่พายแทน เป็นลูกมือคอยช่วยทำเค้กเมนูต่างๆ พี่พายก็สอนผมอย่างตั้งใจ จนตอนนี้ผมทำได้หลายเมนูแล้ว

 

ผมเคยบอกตัวเองไว้ ถ้าวันที่ผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจของผมกลับมา แล้วผมยังไม่สามารถลืมเขาได้ ผมจะทำอะไรบางอย่าง เพื่อเป็นตัวตัดสินชีวิตของผมในอนาคต ผมคิดดีแล้ว จะไม่เสียใจในสิ่งที่ตนเองตัดสินใจไปแล้ว ผมแค่รอเวลาก็เท่านั้นเอง

 

ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น  ผมแค่ยังอยู่ในที่ของผม ที่ๆ ไม่มีผู้ชายอีกคนที่ผมเฝ้ามองมาตลอด ผมจะใช้ชีวิตให้ดี เพราะยังมีแม่กับเจ้าปลาทองจอมซนอยู่ข้างๆ ผม อีกทั้งพี่พาย บราวนี่ คุณย่า ทุกๆคนรักผม แค่นี้ก็พอแล้ว

 

ผมนั่งมองอีกคนที่ผมเคยแอบเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปเขาไว้เมื่อนานมาแล้ว ถ่ายจากกรอบรูปที่บ้านของเขาครับ  มันเป็นเพียงรูปเดียวที่ผมมีอยู่ ผมเอามาเปิดดูทุกวันเพื่อตอกย้ำความรู้สึกตนเอง เพียงแค่อยากรู้ว่าผมลืมเขาได้รึยังก็แค่นั้น มันไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายหรอกครับ ความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้เจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน เพียงแต่ยังรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าเขาคือคนสำคัญของผม

 

อีกไม่กี่เดือนเขก็จะกลับมา พร้อมกับรับตำแหน่งประธานบริษัท หน้าที่การงานที่ผมไม่มีทางจะเทียบได้ แค่นี้เราก็ห่างกันจนไม่มีทางที่จะเดินมาบรรจบกันแล้ว วันข้างหน้าที่เขาประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งจะทำให้เราต่างกันเกินกว่าที่คนอย่างผมจะสามารถเดินบนเส้นทางเดียวกันกับเขา

 

ผมคนนี้พร้อมที่จะสู้กับอนาคตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า วันที่เขากลับมาผมจะยิ้มให้เขาอย่างเข้มแข็ง จะไม่มีมินคนเดิมที่เอาแต่ร้องให้สียน้ำตาอีกต่อไป หัวใจผมเข้มแข็งมากพอแล้วในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถทำลายมันได้อีก

 

 

***********************************


มาแล้วๆ ขอโทษที่มาช้า :impress3: :impress3: ตอนนี้เนื้อหาก็เรื่อยๆ นะคะ เป็นตอนที่มินนี่น้อยเรียนมหาวิทยาลัย ว่ามีใครเป็นเพื่อนสนิท เพื่อจะได้เชื่อมโยงกับตอนปัจจุบัน 

ตอนหน้าอีพี่ซองจะกลับมาแล้วเป็ยังไงก็คอยติดตามเนอะ จะมาดีมาร้ายก็คอยดูเอา จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างรึเปล่า คอยติดตามนะ :m31:

ขอบคุณหลายๆ คนที่อ่านแล้วเม้นให้ตลอด เป็นกำลังใจที่ดีเสมอค่ะ สนุกไม่สนุกบอกกันได้นะคะ ยินดีรับทุกคำติชม




                               TBC.




                 

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มันหน่วงเนอะๆ แอบชอบแอบรักมานานแต่เค้าเกลียดเราแบบออกนอกหน้าเนี่ย  :hao5:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
อยากให้ มินตัดใจจัง อยากมห้ซองเสียใจด้วย เอาแบบที่มินไม่มองหน้าเลยนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบจังที่มินคิดได้แบบนี้ ชีวิตเรายังมีอะไรอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องเอาทั้งหมดไปผูกไว้กับคนๆเดียว

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao4: ดูจากที่พี่ซองพูดจากะพี่คิณแล้วงานนี้อคติต่อคนนอกบ้านล้วนๆเลย ยากแน่ๆ

แล้วถ้าน้องเมฆมาหาหมูน้อยให้พี่แกเห็นอาจโดนด่าว่าให้เสียใจเข้าไปใหญ่ อยู่ที่คนแต่งละหล่ะ ให้น้องหมูเอาชนะใจพี่แกง่ายๆที่เถอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตั้งตารอตอนที่พี่ซองหึงมิน   o22  (คงอีกนาน    :laugh:  )


ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
น้องมินคงต้องมีน้ำตาอีกหลายตอนเลย พี่ชองดูร้ายๆ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด