หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64460 ครั้ง)

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เอาให้หนักเลยค่ะ ยังจุกกะตอนที่แล้วไม่หาย ไอ้บ้าพี่ซองปากร้าย สมน้ำหน้า  :angry2: :angry2:
 :pig4: :L2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
#ทีมมินนี่


น้องสตรอง น่ารัก ไม่ต้องแคร์ค่ะ แค่ตัวผู้ห่วยๆ ทิ้งมันไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ชอบนายเอกฉลาดๆมีสมองความคิดเป็นของตัวเอง ที่สำคัญคือการที่เจ็บแล้วต้องจำ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอาเลยหมูน้อย นี่คือช่วงเวลาเอาคืนแล้ว

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เพิ่งจะเริ่มคิดได้นะ พี่ซอง

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เกลียดที่ปากร้ายมากๆ หมดเสน่ห์ไปเลยผู้ชายพรรค์นี้

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เอาคืน เอาคืน อย่างสาสม ..

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
     
:mew1: วันว่างๆ ของหนุ่มๆ :mew1:


พาย: คุณคิณเดินตามพายอะไรนักหนาครับ ไปนั่งเล่นกับพี่ซองนู่นไป

คิณ: ใครเขาจะไปนั่งกับไอ้ซองปากหมาเล่า ไม่เอาหรอก

พาย: พี่ชายพายนะนั่น พูดแบบนี้ได้ไง(ตากลมโตถลึงใส่สามีจอมกวนประสาท)

คิณ: มันก็จริงนี่ครับ นั่งใกล้มันทีไร มันชอบปล่อยหมาออกมาจากปากตลอด

พาย: คุณคิณก็อย่าไปกวนพี่ซองเขามากสิครับ

คิณ: ถ้ามันเลิกปากหมาเมื่อไหร่ ผมก็เลิกกวนเมื่อนั้น

(ผมปวดหัวมากเลยครับเวลาที่สองคนนี้มาเจอกัน แทบจะฆ่ากันให้ตายด้วยคำพูด คุณคิณนี่ก็จอมกวนประสาท ส่วนพี่ซองก็ชอบแขวะคุณคิณตลอด พูดง่ายๆ ก็ปาก...เหมือนที่คุณคิณว่านั่นแหละ)

ซอง: มึงว่าอะไรกูไอ้คิณ

(เสียงแห่งความวุ่นวายเริ่มมาแล้วครับ ผมรีบหลบฉากไป ปล่อยให้สองเสือปะทะกันให้ตาย เหนื่อยแล้วก็หยุดตัวใครตัวมัน แก่ๆ กันแล้วนี่)

คิณ:ใครจะกล้าว่าคนปากหมาๆ อย่างมึง มึงรู้ไหมคนอ่านเขาเกลียดมึงหมดแล้ว(อันนี้คือไม่กล้าว่า)

ซอง:ใช่สิ ก็ mookratai เขาแต่งซะมึงเป็นสุภาพบุรุษ แต่กูนี่ซาตานชัดๆ

คิณ: แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครลูกรักลูกชัง

ซอง:เออ! ก็กูไงลูกชัง ตั้งแต่ต้นเรื่องมากูยังไม่มีดีสักอย่างแมร่ง ว่าแล้วก็อยากจับนางไปฆ่าทิ้ง

คิณ: ก็มึงอยากทำร้ายมินนี่น้อยทำไมวะ มึงรู้ไหมคนอ่านเขาเชียร์ให้เมียมึงนะหาผัวใหม่

ซอง: ก็ลองดูดิ กูจะบุกไปหาทีละคนแล้วจับปล้ำแม่งเลย(นางมาสายโหดและหื่น)

คิณ: ไอ้ห่า เขาไม่แจ้งจับมึงก็บุญหัวแล้ว ถ้ามึงทำอย่างนั้นน่ะ

ซอง: ใครจะกล้าแจ้งตำรวจว่ะ กูกลัวแต่จะนอนฟินทั้งคืนสิไม่ว่า

มินนี่: ได้ยินแว่วๆ ว่าพี่ซองจะไปทำอะไร ฟินๆ นะฮะ (เสียงหวานๆ ส่งมาให้แต่สายตานี่ไม่ใช่นะขอบอก น่ากลัวมากเลยเมียกู

คิณ: ก็ไอ้ซองนะสิครับ มันบอกว่าจะบุกไปปลำ้ลีดเดอร์ โทษฐานที่เข้าข้างน้องมิน ไม่สงสารมันบ้าง

มินนี่: จริงรึเปล่าฮะ (เสียงนี่เย็นยะเยือกสู่ขั้วหัวใจ แสยะยิ้มมุมปากด้วยเมียกู)

ซอง: พี่พูดเล่นเฉยๆ นะครับมินนี่ สุดที่รักของพี่น่ารักขนาดนี้จะไปทำแบบนั้นกับคนอื่นได้ไงครับ(อ้อนไว้ก่อนครับกลัวตาย เมียผมโหด)

มินนี่:  ก็ดี แต่อย่าให้รู้นะว่าทำจริงๆ  เพราะลีดเดอร์น่ะเป็น fc. มิน ถ้ามินจับได้พี่ตาย

คิณ: ฮ่าๆๆๆ ที่แท้ก็เกลียมัว ไม่เหมือนกู

พาย:อะไรนะครับ

คิณ: ปละเปล่าครับเมีย

ซอง: มึงก็ไม่ต่างจากกูหรอกไอ้คิณ กูเกลียวมัว แต่มึงนะกลัวเมีย 5555 จริงไหมครับน้องมิน(พูดจบปุ๊บก็กอดมินนี่อ้อน อย่างเอาใจ เพราะรู้ว่าตัวเองมีความผิด)

คิณ:ที่ร้ากกกครับ ปะเราไปที่อื่นดีกว่าเนอะ อยู่ใกล้ไอ้ซองปากหมามากๆ ไม่ดี( มือบางตีแขนแกร่งดังเพี๊ยะ ก่อนที่จะเดินตามแรงดึงของคนรักไป)

 

(*^_^*)ヽ(´▽`)/∩˙▿˙∩(´ヮ`)( ^∇^)(^v^)囧rz(´△`)

 

★★★★★★★★★★★★

อีซองมันจะฆ่าเค้าง่ะ ไม่แต่งเรื่องมันต่อดีไหม  :m31: หรือเปลี่ยนพระเอกดี #ไอ้ซาตานปากหมา ด่ามัน :angry2:

 

วันนี้สารภาพตามตรงเลยว่ามีได้ลงทั้งสองเรื่องเลยนะคะ :-[ :impress2: แต่กลัวคนอ่านคิดถึง คิดเองเออเองนะเรา #คิดถึงมั้ย

เม้นให้ด้วย บังคับนะขอบอก แต่งเล่นๆ สั้นๆ มาฝากทั้งสองเรื่อง #ทีมอีซองเกลียมัว #ทีมคุณคิณกลัวเมีย :heaven
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 15:20:31 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น้องมินจ้ะ เกรงว่าที่เข้าบ้านน้องมาจะเป็น
โจร :serius2:
ปล้นสวาท :z1:
ที่ชื่อ ซอง
 :haun4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก ตอน6


 

(มินนี่)

 

วันนี้เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ผมไม่มีโปรแกรมที่จะไปไหน ว่าจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณนายเขาหน่อย ตื่นอาบน้ำตั้งแต่เช้า เพราะตั้งใจจะไปใสบาตรกับแม่ ท่านใส่บาตรแทบจะทุกเช้า เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ คงใส่ใหพ่อผมนั่นแหละ เพราะท่านเสียนานแล้ว แม่ยังแอบนั่งมองรู)พ่ออยู่เลย

 

“ตื่นสายเชียวนะเจ้าตัวดี” คำแรกที่ทักทายกันก็ป็นแบบนี้แหละ คำหวานๆ นี่ไม่คิดจะพูดกับลูกบ้างหรอก ดีนะที่ยังไม่ถึงขั้นพูดกูมึง

 

“สายไรเล่าคุณนาย ตื่นทันใส่บาตรด้วยเห็นไหม” พึ่งจะหกโมงหน่อยๆ เอง พระท่านมาตั้งเกือนหกโมงครึ่ง จะให้แหกขี้ตาตื่นกี่โมงไม่ทราบครับคุณนาย

 

“เออๆ เตรียมยกโต๊ะไปตั้งหน้าบ้านเร็ว เดี๋ยวพระท่านมาจะไม่ทันเอา” ผมตะเบ๊ะให้แม่หนึ่งที ก่อนที่จะโดนมะเหงกลูกใหญ่ส่งตามมา

 

“เจ็บนะแม่ เล่นไรไม่รู้”

 

“ใครเล่นกับแกห๊ะ เร็วๆ เข้าอย่ามาทะลึ่ง”  บ่นผมตลอดแหละตั้งแต่เด็กจนโตไม่รู้อะไรของนาง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าความสุขของคุณนายคือการได้บ่นผม ด่าผม ก็ปล่อยๆ ไปครับ จะได้อายุยืนๆ อยู่กับผมไปนานๆ แต่ช่วงนี้บ่นเยอะเป็นพิเศษสงสัยจะย่างเข้าวัยทอง เพราะไม่เห็นซื้อผ้าอนามัยมาหลยเดือนแล้ว ผมชอบแกล้งคุณนาย เพราะมันเป็นเหมือนยาชูกำลังอย่างหนึ่งในชีวิตของเราสองคน การที่อยู่บ้านแค่สองคนถ้าไม่ได้หยอกกันบ้างทะเลาะกันกับนางบ้างบ้านก็คงจะเหงา ผมรู้ว่าแม่ผมเหงามาตลอดหลังจากที่เสียพ่อไป แต่ท่านก็ยังยิ้มให้ผมเสมอ ผมจึงตอบแทนด้วยการคอยกวนบ้าง ยั่วโมโหบ้างเพื่อให้แม่ลืมความเหงาที่ขาดพ่อไปได้บ้าง แต่มักจะโดนทำร้ายกลับตลอด แม่ผมน่ะชอบทำร้ายลูก ต้องแจ้งมูลนิธิปวีณาไหม เขาจะได้เข้ามาคุ้มครองผมจากการโดนมารดาทารุณกรรม ฮี่ๆ

 

วันนี้แม่ต้มซุปไก่หม้อใหญ่มีมะเขือเทศลูกโตๆ มันฝรั่งหั่นท่อน อีกทั้งหอมหัวใหญ่กลิ่นหอมฉุย กับไข่เจียวกุ้งสับ ใส่หอมหัวใหญ่หั่นเป็นลูกเต๋าลงไปด้วย นี่แหละของโปรดผม ทั้งๆ ที่บ่นตลอด แต่ก็มักจะทำของที่ผมชอบให้ทานเสมอ ผมรักแม่ว่ะ แต่ไม่บอกหรอก เดี๋ยวจะโดนมะเหงกของคุณนาย เพราะไม่ชอบฟังอะไรหวานๆ เคยบอกว่ารักคุณนายครั้งสุดท้ายนี่ตอนจบมอหกน่ะถ้าจำไม่ผิด โดนด่ามาซะยับเลย หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยบอกรักนางอีกเลย นอกจากว่าอยากจะแกล้ง หรือไม่โดนมะเหงกนานแล้วมันคิดถึง

 

“ไร้สาระจริงแก ไปๆ”

 

“ก็รักแม่นี่นา” อยากอ้อนเหมือนแม่ลูกคู่อื่นเขาบ้าง

 

“ไม่ต้องมาพูดไร้สาระ ไปซักผ้าเลยไป” ไม่ซึ้งแถมยังไล่ไปทำงานพร้อมกับโดนมะเหงกไปเต็มๆหนึ่งที ถ้าผมฉี่รดใสที่นอนนี่โทษคุณนายคนเดียวเลยนะขอบอก  มินเสียใจ

 

“ไม่ซึ้งเลยรึไง เซ็ง” พูดไปอย่างนั้นแหละรู้ว่าคุณนายเขาเขิน จึงกลบเกลื่อนด้วยการทารุณกรรมลูกตัวเอง

 

ใส่บาตรตอนเช้าด้วยกันเสร็จก็เข้ามาทานอาหาร โดยไม่ลืมเทอาหารให้เจ้าปลาทองจอมตะกละ ที่เดินวนไปวนมารอบๆ ชั้นที่วางหัวอาหารมันไว้ แม่ทำอาหารอร่อยส่วนผมก็ทำเป็นแทบจะทุกอย่าง แต่สู้ฝีมือแม่ไม่ได้หรอก จึงชอบให้คุณนายทำให้กินมากกว่า

 

นั่งเล่นนอนเล่นกับคุณนายตั้งแต่เช้า จนสายๆ หน่อยจึงเอาเสื่อไปปูใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ข้างๆ บ้าน ไม่รู้ว่ามันคือต้นอะไร แต่มันเป็นพุ่มใหญ่จนสามารถบังแดดได้ดี แถมยังเย็นอีก  คุณนายเอาไหมพรมมาถัก เพราะว่างไม่มีอะไรทำ แม่นั่งพิงต้นไม้ต้นใหญ่ ส่วนผมพอได้ที่ก็ล้มตัวลงนอนที่ตักแม่เลย แฮ่ๆ คุณนายหันมามองแว๊บหนึ่ง ก่อนที่จะยกมือลูบหัวผมสองสามที มันรู้สึกอุ่นในใจขึ้นมาอย่างประหลาด แม้จะไม่มีคำบอกรักหวานๆ เหมือนแม่ลูกคู่อื่น แต่ก็มีความสุข อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่าความรักโดยไม่มีข้อแม้

 

แม่ถักนิตติ้งเป็นผ้าพันคอ บอกว่าถักให้ผม แต่ผมจะมีโอกาสได้ใส่ไหมหนอ ประเทศไทยมันหนาวซะที่ไหนล่ะ โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครเนี่ย มีแต่ฤดูร้อน กับฤดูฝนแค่นั้นแหละ

 

ถักผ้าพันคอสีฟ้าน้ำทะเลสลับกับสีเทาหม่น สวยดีครับ ผมหันหน้าเข้าหาหน้าท้องของคุณนายกลิ่นตัวคุณนายหอมจังเลย ได้กลิ่นทีไรมักจะเคลิ้มหลับทุกที มือเล็กของผมเอื้มไปกอดเอวเล็กไว้ แล้วหลับตาลง เพียงไม่นานผมก็เข้าสู่ห้วงนิทรา  หลับจนไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานแค่ไหน จนได้ยินเสียงแว่วๆ  ของคนที่มาเรียกแม่ แต่ผมก็ไม่คิดจะลืมตาขึ้นมาดูหรอก สงสัยคงจะฝันไป เสียงคนในฝันนี่คุ้นๆ ดีจัง ฟังดูอบอุ่น อยากได้ยินเสียงนี้บ่อยๆ จัง แต่ก็แค่คนในความฝัน ผมกลับมาหลับสนิทอีกครั้งเมื่อเสียงคนนั้นหายไปแล้ว 

 

หลับต่อจนได้ยินเสียงคุณนายบ่นว่าเมื่อยแล้ว จึงเริ่มขยับยุกยิกสองสามทีก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา ส่งยิ้มให้คุณนายทั้งๆ ที่คราบขี้ตาเกรอะกรัง

 

“ไม่ต้องมายิ้ม เมื่อยไปหมดแล้วเนี่ย” ผมยกมือลูบหน้าาลูบตาสองสามทีก่อนที่จะเอามือเล็กๆ ของตนบีบๆ นวดๆ ให้คนขี้บ่น

 

“โอ้ย! หึหึ พอแล้วๆ นี่แกจะฆาตรกรรมแม่ตัวเองรึไง” สงสัยจะจั๊กจี้

 

“โธ่! คุณนาย นวดให้หายเมื่อยนะเนี่ย”

 

“ก่อนที่จะหายเมื่อยฉันขาดใจตายก่อนพอดี” คุณนายเป็นคนบ้าจี้  มีอยู่หลายจุดที่จับไม่ได้ จับทีไรหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ผมก็ชอบแกล้งสนุกดี

 

“ตอนเย็นกินข้าวกับอะไรอ่ะคุณนาย มินอยากกินต้มแซบกระดูกอ่อน กับผัดผัก”  ผมถามทั้งๆ ที่มือยังสาละวนอยู่กับต้นขาอวบๆ ของแม่

 

“คุณย่าให้ไปทานข้าวที่บ้านนู้น” แค่บอกว่าไปทานข้าวที่บ้านนู้นผมก็ไม่อยากไปแล้ว ไม่ใช่ไม่อยากทานข้าวกับคุณย่าและคนอื่นๆ แต่ไอยากอึดอัดที่ต้องเจอเขามากกว่า

 

“ไม่ไปได้ไหมคุณนาย”

 

“เสียมารยาทแย่เลย พี่เขาอุตส่าห์มาชวนถึงที่บ้าน”

 

“ใคร? พี่พายเหรอ ทำไมแม่ไม่เรียกมิน”

 

“เปล่า ตาซองน่ะ เขามาตอนที่เราหลับอยู่” ผู้ชายคนนั้นเข้ามาบ้าน เฮอะ ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะเหยียบบ้านหลังนี้ แล้วนี่คิดยังไง ผมยิ้มเยาะให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว

 

“ยิ่งไม่อยากไปใหญ่เลย” คุณนายยกมือตีแขนดังเพี๊ยะ แต่ไม่ได้เจ็บอะไรมาก

 

“โตๆ กันแล้ว ยังจะเอาเรื่องตอนเด็กมาคิด ทิฐิเราน่ะวางมันลงซะบ้าง”  ผมนี่นะมีทิฐิ เขาต่างหากที่ไม่อยากคุยดีๆ กับผม จนทุกวันนี้กลายเป็นมองหน้ากันไม่ติดแล้ว เพราะผมเลือกที่จะเดินบนเส้นขนานกับเขาแล้ว ไม่มีทางที่มันจะมาบรรจบกันหรอก

 

“ก็ได้ แต่ทานเสร็จมินกลับเลยนะ”

 

“ไม่อยู่คุยกับคุณย่าก่อนล่ะ ท่านบ่นคิดถึง เราน่ะไม่เข้าไปหาท่านเป็นเดือนแล้วนะ”

 

“แม่ก็รู้ว่าเพราะอะไร ไม่ต้องมาบ่นมินหรอก” ทำไมผมจะไม่คิดถึงคุณย่า แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เจ้าของบ้านเขากลับมาแล้ว แล้วเขาก็หวงที่ของเขามากเสียด้วย จะให้ผมไปวิ่งเข้าวิ่งออกเหมือนเดิมได้ยังไง

 

“เออๆ แกไม่ต้องพูดแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาจะไปได้ไปบ้านนู้นกัน” ผมลุกขึ้นยืนเก็บเสื่อเรียบร้อยแล้วจึงเดินนำเข้าบ้าน เจ้าปลาทองก็วิ่งตามหลังจากที่เกลือกกลิ้งอยู่สนามหญ้ามาครึ่งค่อนวัน

 

*******************************

 

 

“มากันแล้วเหรอ ย่าว่าจะให้คนไปตามอยู่พอดี”

 

“สวัสดีฮะ ย่า” ยกมือไหว้ผู้อาวุโสของบ้าน รู้สึกผิดนิดๆ ที่ผมไม่ได้มาหาท่านเลย

 

“มาหาย่าเจ้าตัวเล็ก ไม่คิดจะมาหาคนแก่เลยรึไง” คุณย่าน้อยใจผมเหรอเนี่ย รีบตรงเข้าไปอ้อนคนแก่ก่อนครับ ไม่อยากให้งอนนาน ผมกอดร่างหญิงสูงวัยอย่างแสนรัก ย่ายกมือหยาบตามวัยมาลูบหัวผม

 

“ไม่ใช่ซะหน่อยฮะ มินคิดถึงย่าที่สุด”

 

“หมูน้อยยยย”  เสียงบราวนี่ดังมาแต่ไกลอีกแล้วครับ ทำเหมือนไม่ได้เจอกันนานทั้งๆ ที่เราสองคนทำอยู่ร้านเค้กด้วยกัน

 

“นี่ก็อีกคนพูดไม่เคยฟัง ร้องเสียงดังได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน”

 

“โหดังขนาดนั้นเลย” คำพูดของบราวนี่เรียกเสียงหัวเราะได้ดี ยกเว้นคุณย่าที่ยืนมาตาเขียวที่หลานรัก ทั้งดื้อทั้งซนเหมือนเด็กตลอด

         

              “แล้วนี่พี่เราไปไหน”

 

“พี่คนไหนฮะ? พี่พายไปกับผู้ชาย ส่วนพี่ซองไปเรียกแล้ว”

 

“ดูเจ้าตัวสบพูดสิแม่ดาว พูดอะไรก็ไม่รู้คนแก่รับไม่ค่อยจะทัน” ดาวคือชื่อแม่ของผมครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยชินหรอกเพราะเรียกตาคุณนายจนติดปาก

 

“ขนาดไม่ทันนะเนี่ย ยังยอมให้พี่พายคบกับพี่คิณเลย”

 

ยังไม่ทันที่คุณย่าจะว่าอะไรต่อ เสียงฝีเท้าหนักๆ ของอีกคนก็เดินตรงเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร ผมแสร้งทำเป็นไม่เห็น ไม่อยากทัก ก่อนที่คุณย่าจะนั่งลง เราทุกคนจึงนั่งตามลงไป

 

คุณย่านั่งอยู่หัวโต๊ะ ส่วนบราวนี่นั่งถัดจากคุณย่าตามด้วยผู้ชายคนนั้น  แม่นั่งถัดจากคุณย่าอีกฝั่ง ผมจึงต้องนั่งตรงข้ามกับคนที่ผมไม่ค่อยอยากจะเห็นหน้าไปโดยปริยาย

 

อาหารถูกนำมาเสริฟ เราทุกคนเริ่มลงมือทานอาหร ผมตักทานไปเรื่อยไม่คิดจะสนใจอีกคน แต่มันแปลกๆ ที่เหมือนเขาพยายามลอบมองผม เพราะหางตาผมสะดุดเข้ากับสายคมแทบจะตลอดเวลาที่ผมเงยหน้าขึ้น แต่ผมก็เลิกที่จะคิดเอามาใส่ใจ เพราะเขาไม่ได้มีความสำคัญกับผม หรือบางทีผมอาจจะคิดไปเอง

 

“ทานเยอะๆ นะน้องมิน ดูสิย่าไม่เจอแป๊บเดียงผมเหลือแต่กระดูกแล้ว” ย่าก็พูดเกินไปครับ น้ำหนักผมลดลงก็จริง แต่แค่โลสองโลคงไม่ทำให้ผมเหลือแต่ก้างขนาดนั้น

 

“ย่าก็ทานเยอะๆ นะจะได้แข็งแรง” ผมส่งยิ้มให้คุณย่าก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเองต่อ วันนี้คุณย่าคงลงมือทำอาหารเอง เพราะรสมือแบบนี้ไม่มีใครนอกจากคุณย่ากับพี่พาย แต่พี่พายไม่อยู่ ผมยกมือขึ้นเอื้อมไปหยิบช้อนกลางที่วางอยู่ในชามที่มีต้มจืดกระดูกหมูใส่หน่อไม้สด จังหวะเดียวกันกับที่อีกคนก็เอื้อมมาหยิบเหมือนกัน ผมรีบชักมือกลับโดยเร็ว เพราะเพียงแค่ปลายนิ้วที่สัมผัสกันก็ทำให้ผมรีบดึงมันออกมาทันที  ผมตักอย่างอื่นขึ้นมาทาน ไม่สนใจต้มจืดชามนั้นอีกต่อไป ผมเมินมันเหมือนกับที่เมินอีกคน

 

มันเป็นมื้ออาหารที่อึดอัดดีเหลือเกิน แม้ว่าผมไม่ได้เจ็บปวดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว แต่มันยังเหลือความรู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องอยู่ใกล้อีกคน

 

“ทำไมหมูน้อยไม่ทานต้มจืดอ่ะ ของโปรดไม่ใช่เหรอ” อีกคนพูดพร้อมกับตักมันแบ่งใส่ถ้วยเล็กมาให้ผม ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าจะไม่กินมันแล้วเชียว

 

“ขอบใจ บราวก็ทานเยอะๆ” ผมตักอาหารคืนให้บราวบ้าง แม้ว่าเราจะนั่งค่อนข้างไกล แต่ผมก็อยากตอบแทนบราวนี่ที่ห่วงใยผมตลอดเวลา

“อิ่มแล้วมีของหวานนะ น้องมิน ย่าทำบัวลอยเผือกของโปรดเราด้วย”  ผมยิ้มรับในทันที ไม่ได้กินมานานแล้ว ผมชอบทานฝีมือคุณย่า ท่านมักจะทำแล้วเรียกผมมาทานเสมอ เพราะบราวนี่ไม่ชอบ ส่วนพี่พายก็ทานแค่นิดหน่อย แต่ผมนี่ทานได้ไม่หยุด ก็เพราะมันอร่อย เคยคิดอยากให้คุณย่าสอนทำแต่ก็ยังไม่ได้ลองสักที

 

“หึ..ทำให้แต่หลานรัก ที่น้องบราวนะไม่ทำให้หรอ๊ก” เสียงกระเง้ากระงอดของบราวนี่ดังขึ้น พร้อมๆ กับท่าทางที่บ่งบอกว่างอนเต็มที่

 

“เราน่ะทานของโปรดแทบจะทุกวัน วันนี้ย่าเลยทำให้มิน”

 

“ลำเอียง” ตาโตๆ ที่ส่งค้อนให้ย่ากับผมเสียเต็มที่ บวกกับหน้ามุ่ยๆ ที่ส่งมาให้นี่ตลกดีชะมัด จนผมอดที่จะขำออกมาไม่ได้

 

“ทานๆ ไร้สาระใหญ่แล้วเรา แล้วนี่ตาซองเป็นอะไร ไม่พูดไม่จาตั้งแต่ลงมาแล้ว” จะเป็นอะไรได้ นอกจากรำคาญสายตาที่ต้องมานั่งเห็นหน้าคนอย่างผมน่ะสิ

 

“เปล่าครับย่า” หันไปตอบย่า แต่ก็ยังไม่วายส่งหางตามามองผมอีก ก็ช่างสิ ไม่ได้ทำอะไรผิดสัหน่อย ที่มานี่ก็แค่มาหาคุณย่า ถ้าไม่ติดว่าอยู่บ้านเดียวกัน ผมก็ไม่คิดจะเจอเขาหรอก

 

“ทำไมไม่คุยกับน้องบ้าง”  คุณย่าไม่ต้องคิดที่จะหาทางให้เราสองคนญาติดีกันหรอก เพราะมันคงไม่มีทางเป็นไปได้

 

“ไม่มีอะไรจะคุยครับ” พูดยังไม่ทันขาดคำอีกคนก็เอ่ยตัดบทสนทนาเสียดื้อๆ

 

“ตามนั้นฮะย่า ไม่ต้องคุยน่ะดีแล้ว” ผมยกยิ้มมุมปากแบบที่ไม่เคยทำ ใครจะไปสน นึกว่าตัวเองเกลียดคนอื่นเป็นคนเดียวรึไง  เหอะ!

 

“สองคนนี้นี่ยังไง โตๆ กันหมดแล้ว ทำไมยังไม่เลิกนิสัยเกลียดชังกันอีก” ถามหลานชายคุณย่าสิครับ ผมไม่ได้เริ่มก่อน ถ้าเขาไม่ทำให้ผมเจ็บก่อนเรื่องมันก็จะไม่เป็นแบบนี้หรอก อยู่ใครอยู่มันดีที่สุด

 

“แบบนี้ก็ดีแล้วฮะย่า ต่างคนต่างอยู่ แค่ไม่เข้ามาวุ่นวายชีวิตของอีกคนก็พอแล้ว”

 

“มึงสิวุ่นวาย กูอยู่บ้านดีๆ แล้วมึงมาทำไม” ทั้งคุณย่าทั้งแม่ผมดูท่าท่านทั้งสองจะตกใจมากเหมือนกัน คงไม่คิดล่ะสิว่าหลานชายจะเป็นคนปากสุนัขมรับประทานขนาดนี้

 

“ผมแค่มาหาย่า แล้วก็ได้ข่าวว่ามีบางคนป็นคนไปเรียนเชิญถึงที่”

 

“ใครเขาอยากจะไปวะ แค่ย่าสั่งก็ทำตามแค่นั้น”  ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเลย ให้คนอื่นไปเรียกก็ได้ โทรศัพท์ก็มีให้คนโทรตามสิ

 

“พอๆ ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย แล้วก็ไม่ต้องไปแขวะน้อง” สมน้ำหน้าไอ้คุณซองปากปีจอ  ด่ามันเยอะๆ เลยย่า อย่าให้มันนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่อย่างนี้ หมั่นใส้ว่ะ

 

“ถ้าอย่างนั้นมินกลับก่อนดีกว่าฮะย่า ไม่อยากอยู่ใกล้หมาบ้าหรอกเดี๋ยวจะติดเชื้อ ยังไม่อยากที่จะไปฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้า”

 

“มินทำไมว่าพี่เขาแบบนี้” แม่ยกมือบางตีแขนผม แต่ใครจะสนล่ะ มันว่ามินก่อนทำไม ไม่มีทางยอมเหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว โตแล้วด้วย แม้ว่าจะตัวไม่สูงใหญ่เท่าไอ้หมาบ้า แต่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่กลัวหรอก

 

“ไปๆ ไปตักเอาของหวานก่อน แล้วค่อยกลับ ย่าล่ะปวดหัว”

 

“ขอโทษฮะย่า”  ยกมือไหว้ขอโทษผู้อาวุโสก่อนที่จะเดินไปในครัว ตักเอาของหวานแล้วตรงกลับบ้านเลย ไม่เดินออกไปทางเดิมหรอก ไม่อยากเห็นหน้าไอ้คนเลว เดี๋ยวันจะกัดเอาอีก ไม่รู้ว่าวันๆ หนึ่งกินอะไรเข้าไปถึงได้ปากเสียขนาดนี้ พี่น้องคนอื่นในบ้านเขาก็ไม่เป็นมีอยู่คนเดียวนี่แหละ ที่ผ่าเหล่าผ่ากอ

 

ผมเดินออกประตูหลังบ้าน แล้วตรงไปที่ประตูข้างกำแพงที่ใช้ประจำ ว่าจะไม่ใช้แล้วนะ แต่ก็ไม่อยากเดินผ่านหน้าไอ้คนเลว เดินไปยังไม่ถึงประตูก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของคนตัวใหญ่ๆ ยืนอยู่ก่อนแล้ว

 

ไอ้หมาบ้ามาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แล้วจะไปยังไงล่ะทีนี้ เดินกลับไปหน้าบ้านดีกว่า คิดได้อย่างนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินกลับไปทางเดิม เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า

 

“ทำไมกลัวรึไง ถึงกับต้องเดินหนี”

 

“ใครกลัว บ้าไปแล้ว”

 

“ดี ไม่กลัวก็ดี”  ผมไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก ตั้งใจจะเดินผ่านหน้าอีกคนไปเลย แต่มือหนาๆ กลับรั้งผมไว้

 

“จับทำไม ปล่อย”

 

“เหอะ ใครอยากจับ” อ้าวไอ้นี่ ก็เห็นๆ อยู่ไหมล่ะ หลักฐานก็มียังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้

 

“ไม่อยากจับก็กรุณาปล่อย จะกลับบ้าน”

 

“ก็กลับไปสิ ใครเขาจะรั้งไว้ล่ะ”  พูดจบปุ๊บก็รีบปล่อยมือผมทันที อยากจะเอาอะไรมาขูดหน้าไอ้บ้านี่สักทีสองทีดีไหม ทำไมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง

 

ผมสะบัดหน้าน้อยๆ เดินออกไปทางประตูข้างบ้าน ไม่สนใจหรอกคนพรรค์นั้น  ไม่อยากเจอแล้วจะมาวุ่นวายด้วยทำไม ไปไกลๆ เลยไป

 

 
********************************

วันนี้มาสองเรื่องเลย ว่างจัดนั่งเขียนตั้งแต่เช้า :katai4: ตอนที่แล้วอินเนอร์แต่ละคนนี่มาเต็มเลย  จะเปลี่ยนพระเอกดีไหม :mew2:

(เค้าล้อเล่น)  สงสารนางเถอะ  :hao5: ไม่รู้ผิดที่คนเขียนหรืออีตาซอง ที่ทำให้พี่ซองเป็นพระเอกในคราบตัวร้ายได้ขนาดนี้ ส่วน

ใครที่อยากอ่านมุมของอีตาซองปากหมาบ้างต้องรอก่อน   :katai5: รอให้เกลียดมันเยอะๆ ก่อน แล้วพี่ซองมันจะ

ออกมาเรียกคะแนนสงสารให้ตัวเอง



       TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 15:22:10 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ถ้าคนแต่ง ให้มินนี่ ใจอ่อนง่ายๆ เขาตะโกรธคนแต่ง มาก จะแช่งให้หาแฟนไม่ได้ด้วย คอยดูนะ ใหัไอ้ซองปากหมา มันตามง้อ มินนี่ จนขาดใจเลยนะ รออยู่

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
จะมาชอบซองคงยากเพราะไม่ชอบซองมาแต่ต้น

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao3: หมูน้อยสู้ๆ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ถ้าคนแต่ง ให้มินนี่ ใจอ่อนง่ายๆ เขาตะโกรธคนแต่ง มาก จะแช่งให้หาแฟนไม่ได้ด้วย คอยดูนะ ใหัไอ้ซองปากหมา มันตามง้อ มินนี่ จนขาดใจเลยนะ รออยู่

555น้องมินไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอกค่ะ ไม่ต้องกลัว อีซองมันต้องได้รับบทเรียนนะ ยังไม่ได้จัดหนักให้เลย

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่ซองนี่เป็นประเภทปากหมาที่ไม่ตรงกับใจป่ะ :katai1:
คำพูดกับการกระทำนี่สวนทางตลอด :katai5:
ปวดหัวแทนน้องมิน

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
มาชูจักกะแร้ยกมือให้บทเรียนอีตาซองหนักๆเลย
ชิส์. ปากร้ายกับมิน. ทำมินเสียใจได้งัย
มินเข้มแข็งไว้
ยึดคติรักเดียวใจเดียวนะ
555 เอ๊ะ ยังงัยหว่า
#ทีมน้องมิน.
 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:



ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไอ้พี่ซองนี่มันเป็นคนประเภทปากอย่างใจอย่างป่าวว่ะ การกระทำกับคำพูดแม่งขัดแย้งกันว่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ถ้าจะปากเสียขนาดนี้ ใส่ตระกร้อเถอะค่ะ

นี่เมนท์แบบอินมาก เพราะเข้าข้างมินเต็มที่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
โอ๊ยยโตยังเนี่ย มาพูดกลางวงผู้ใหญ่ได้ไงวะ  :beat:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ปากแข็ง แต่ ใจอ่อน ..

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก ตอน7

                                             
 (มินนี่)

วันนี้ผมมาร้านตั้งแต่เช้า ไม่ไดมากับบราวเหมือนเช่นทุกที เพราะเขาโทรมาบอกแต่เช้าว่าพี่ชายจะมาส่ง ส่วนพี่พายคุณคิณก็มารับประจำอยู่แล้ว

 

คุณนายเคยบอกให้ผมซื้อรถเล็กๆ สักคน แต่ผมไม่ซื้อหรอกเสียดายเงิน นั่งรถเมล์มาแบบนี้ก็สะดวกดี ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ใช่ว่าที่บ้านผมจะไม่มีรถ แต่ผมไม่ขับมันหรอก มันเป็นรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ที่พ่อซื้อไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ เอาไว้ให้คุณนายเขาใช้เผื่ออยากไปที่ไหนมาไหนคนเดียว

 

มาถึงร้านแปดโมงกว่าๆ ยังไม่มีใครมาผมจึงจัดการเปิดร้านด้วยตนเองคนเดียว กว่าน้องๆ จะมาถึงก็น่าจะเก้าโมง ผมลงมือทำความสะอาดร้านอย่างที่เคยช่วยน้องๆ ทำประจำ จนเกือบเก้าโมงน้องๆ อีกสามคนก็ทยอยมา แถมยังมีหน้าแซวผมอีก ว่ามาแต่เช้า

 

"พี่ซองไม่ไปทำงานรึไงมานั่งทำไมที่ร้าน" เอ๊ะ! เสียงบราวนี่คุยกับใคร

 

"พี่ไม่มีงาน จะนั่งเล่นที่ร้านน้องตัวเองไม่ไดเลยเหรอ"

 

"ตามใจ แต่ห้ามนั่งทำหน้าดุนะ ยิ้มเยอะๆ ลูกค้าจะได้เข้าร้าน" เสียงทะเลาะกันแว่วๆ ของสองพี่น้อง ดังเข้ามาในครัว บราวนี่น่าจะมาถึงแล้ว แต่พี่พายไม่รู้ว่าใกล้จะถึงรึยัง ผมเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาก่อนที่จะลงมือทำเค้ก ผมไม่ได้มีพรสวรรค์เหมือนพี่พายที่สามารถคิดสูตรดัดแปลงนั่นนี่ได้ ทำได้แค่ตามที่พี่พายสอนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นขนมปังต่างๆ ผมทำเก่งกว่าพี่พาย แต่ร้านของเราเน้นเค้กมากกว่าเลยไม่ค่อยได้โชว์ฝีมือเท่าไหร่ ลงมือทำได้ไม่นานพี่พายก็มาถึง ได้ยินแต่เสียงทะเลาะกันจองคุณคิณแล้วก็เขาคนนั้น วันนี้เขาคิดยังไงไม่รู้ถึงมาส่งบราวนี่ ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศยังไม่เคยเห็นเขามาเหยียบที่นี่เลยสักครั้ง

 

"ทะเลาะกันอีกแล้ว" พี่พายบ่นขณะที่เดินเข้ามาในครัว สงสัยจะเอือมระอา คนหนึ่งก็พี่ชายส่วนอีกคนก็คนรัก

 

"หึหึ" ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ แทนคำตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไง

 

"ทำอะไรไปแล้วบ้างหมูน้อย"

 

"พึ่งเตรียมของเองฮะพี่พาย มินว่าจะทำช็อกหน้านิ่มก่อนเดี๋่ยวไม่ทัน"

 

"ตามนั้น เดี๋ยวพี่ทำอย่างอื่นแล้วกัน" พี่พายสวมผ้ากันเปื้อนก่อนที่จะลงมือเตรียมทุกอย่างๆ ทะมัดทะแมง เราสองคนหันไปคุยกันบ้าง เงียบไปบ้างเพราะตั้งหน้าตั้งตาทำส่วนของตนเอง

 

"พายครับ" เสียงคุณคิณดังมาจากข้างหลัง ผมหันไปดูแว๊บนึง หน้างอมาเชียว สงสัยจะเข้ามาอ้อนพี่พาย

 

"อะไรครับ" อีกคนตอบรับแต่ไม่ยอมหันหน้าไปหา ก้มหน้าก้มตาทำเค้กอย่างไม่สนใจ

 

"จะไปทำงานแล้ว"

 

"ก็ไปสิครับเดี๋ยวสาย"

 

"สนใจคิณหน่อยสิครับ" เห็นไหมครับคุณคิณชอบอ้อนพี่พาย ทั้งๆ ที่ดูภายนอก พี่พายควรจะเป็นฝ่ายอ้อนมากกว่า พี่พายเหมือนผู้ชายตัวเล็กๆ นิสัยอ้อนๆ แต่จริงๆ เขากลับเป็นคนนิ่งๆ มากกว่า แต่คุณคิณนี่ตรงกันข้ามทุกอย่าง

 

"ว่ามาสิครับ พายทำงานอยู่"

 

"เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะครับ" พอพูดจบปุ๊บก็ยื่นหน้าเข้าหอมพี่พายปั๊บ จะไม่เห็นได้ยังไงก็ผมแอบดู คู่นี้เขาอ้อนกันน่ารักตลอด

 

"ไปได้แล้วครับสายแล้ว" พี่พายละมือจากงานที่ทำเงยหน้าขึ้นคุยกับคุณคิณ แอบหล่มองผมนิดหน่อยก่อนที่จะหอมแก้มคุณคิณบ้าง ไม่รู้ล่ะสิว่าผมแอบดู อิอิ

 

"ครับๆ ไปแล้วนะครับน้องมิน"

 

"ฮะ" ผมยกมือขึ้นไหว้คุณคิณก่อนที่จะหันกลับมาทำงานต่อ เราสองคนทำงานในครัวจนเกือบเที่ยง ในครัวไม่มีอะไรที่ต้องเตรียมแล้ว

 

ผมเดินออกมาดูลูกค้าหน้าร้าน  เหลือแต่พี่พายที่แต่งหน้าเค้กยังไม่เสร็จ ผมลืมไปเลยว่ามีอีกคนที่ผมไม่อยากเจอนั่งอยู่ ช่วงนี้เขาค่อนข้างแปลกมากๆ ทำไมต้องมาที่ร้านทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะมา

 

ผมออกมาช่วยชงกาแฟ ปล่อยให้น้องๆ ไปเสริฟ ส่วนบราวนี่นั่งเล่นโทรศัพท์ที่ประจำของเขา ผมหยิบกระดาษจดรายการขึ้นมาอ่านทีละใบ ก่อนที่จะเริ่มทำเมนูที่ลูกค้าสั่งตามลำดับ

 

"เอสเพรสโซ่แก้วนึง" เสียงดังมาจากคนที่นั่งอยู่ข้างหลังแต่ผมไม่สนใจที่จะหันไปโต้ตอบกับเขา ก้มหน้าก้มตาทำเมนูที่ลูกค้าสั่งต่อไป

 

"บอกว่าเอสเพรสโซ่แก้วนึงไง ไม่ได้ยินเหรอวะ" เหอะ คิดจะบอกคนอื่นให้ทำให้ เขาพูดกันอย่างนี้เหรอ ถ้าอยากดื่มมากนักก็มาทำเองสิ นั่งอยู่ทำไมตั้งนาน

 

"เปรี้ยวมาชงเอสเพรสโซ่ให้คนข้างหลังแก้วนึง" เปรี้ยวทำหน้างงๆ ก่อนที่ผมจะชี้ไปหาคนที่นั่งมองผมอย่างไม่สบอารมณ์ ผมจึงเป็นคนยกเครื่องดื่มให้ลูกค้าแทน ไม่หันไปสนใจเขาอีก อยากจะโกรธจะโมโหก็เรื่องของเขา

 

 ลูกค้าประจำหลายคนที่นั่งอยู่ในร้าน ผมพูดคุยเล่นกับเขาบ้าง เพื่อให้บรรยากาศในร้านไม่น่าเบื่อ บางคนมาจนสนิทกัน แถมยังมีขนมมาฝากผมด้วย จนรู้สึกเกรงใจ ทั้งๆ ที่เขามาเป็นลูกค้าเราแล้วยังต้องมาเสียเงินซื้อของมาฝากอีก คุยกับลูกค้าเพลินๆ ก็เกือบเที่ยงแล้ว ลูกค้าเริ่มทะยอยเข้ามาเยอะขึ้น

 

"มินนี่" เสียงใครเรียกผม

 

"มาได้ยังไง ไม่ได้ทำงานกันเหรอ" ผมเอ่ยถามเพื่อนทั้งสามคนที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักหนึ่งแล้ว เมฆเรียนจบก็ไปช่วยกิจการร้านอาหารของครอบครัว ส่วนสองสาวกรีนและหลิวรวมหุ้นกันเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ ตอนแรกพวกเธอสองคนก็ชวนผมทำด้วย แต่ผมอยากอยู่ช่วยพี่พายมากกว่า เลยมาเป็นลูกน้องพี่พายแทน แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นลูกจ้างหรอกครับ เพราะผมก็มีหุ้นอยู่ด้วย แม้ว่าจะไม่ได้ลงทุนอะไร

 

"ปิดร้านย่ะ เลยบังคับไอ้เมฆมาด้วย" ตลอดเลยสองสาว จะไปไหนต้องบังคับเมฆตลอด รายนั้นก็บ่นๆ นะแต่ก็ยอมตามใจ

 

"มานั่งก่อนสิ ทานอะไรกันดี" ผมดีใจที่เพื่อนๆ ยังคิดถึงผม ตั้งแต่เรียนจบไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ก็ยังโทรหากันเสมอ

 

“มีอะไรแนะนำล่ะคะคุณเจ้าของร้าน” หลิวพูดประชดผม

 

"แล้วอยากทานอะไรล่ะ" ผมหันไปถามทั้งสามคนอีกครั้ง

 

"โหยแก เป็นเจ้าของประสาอะไร มีเมนูไหนอร่อยๆ ก็แนะนำสิคะ "

 

"มินไม่ได้ป็นเจ้าของซะหน่อย แค่มาทำช่วยพี่พายเฉยๆ" ผมไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเจ้าของร้านหรอก เงินก็ไม่ได้ช่วยออกสักบาท แค่พี่พายให้มีหุ้นด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว

 

"แล้วพี่พายคนสวยไปไหนอ่ะ คิดถึงไม่ได้เจอตั้งนาน" หลิวมองหาทั่วร้านแต่ก็ไม่เจอคนที่พูดถึง

 

"อยู่ในครัว น่าจะใกล้จะออกมาแล้วนะ"

 

“จะได้เจอไหมเนี่ย” กรีนทำหน้าหงอยๆ รายนี้เขาปลื้มพี่พายตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เก็บเอามาเพ้อตลอดเวลา

 

"แกๆ ผู้ชายคนนั้นหล่ออ่ะ แต่โคตรแบดบอยเลย" หลิวชี้ไปทางเขาที่นั่งทำหน้าไม่รับแขกอยู่ตรงโซฟด้านหลังโต๊ะแคชเชียร์

 

"พี่ชายคนโตของพี่พาย กับบราวน่ะ แต่อย่าไปยุ่งกับเขาเลย"  เขาจ้องมองมาทางนี้เขม็งเลย  ไม่รู้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไร

 

"ฉันว่าเขามองแกนะมิน"

 

"จะมองมินทำไม มินไม่ได้อะไรกับเขาสักหน่อย"  ผมรู้แหละว่าเขามองผมแทบจะตลอดเวลาแต่ไม่อยากจะยอมรับ เกลียดสายตาคู่นั้นที่เหมือนจะจับผิด ไม่ว่าผมจะเยื้องกายไปตรงไหน

 

"เออ! ฉันก็ว่าอย่างนั้น หรือว่าหึงแก กับไอ้เมฆ" ดูหลิวพูดสิครับ หึงเหิงอะไรจะฆ่ากันตายอยู่แล้วทุกวันนี้

 

"ดูสิๆ จ้องไอ้เมฆสลับกับแกใหญ่เลย"

 

"บ้าไปแล้วพวกเธอสองคน มินกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วจะจ้องทำไม" เออด่าหน่อยเมฆ พูดไปเรื่อยเปื่อยแล้วเพื่อนผม จนลืมสั่งเครื่องดื่มแล้ว อยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นไปทั่ว

 

"แล้วตกลงจะไม่ทานแล้วใช่ไหมครับสาวๆ ทั้งสองคน"

 

"ทานสิๆ แกเอาอะไรมาก็ได้ อร่อยๆ เครื่องดื่มด้วย ขอพวกฉันส่องผู้ชายก่อน" อยากจะบ้ากับความคิดของหญิงสองคนนี้จริงๆ เลย

 

 "แล้วเมฆล่ะ"

 

"เราเอาอะไรก็ได้ " ผมลุกเดินไป ไปจัดเค้กกับเครื่องดื่มให้เพื่อนๆ แต่สายตาอีกคนนี่กลับมองตามผมแทบจะตลอดเวลา ผมไม่ได้มองเขาหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกไงครับ เวลาที่มีคนจ้องมองเรามันจะสามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก

 

"มินไม่ให้เพื่อนๆ มานั่งข้างในล่ะ จะได้คุยกัน" เสียงพี่พายดังมาจากข้างหลัง สงสัยจะทำเค้กเสร็จหมดแล้ว

 

"นั่งตรงนั้นแหละดีแล้วฮะ ไม่อยากให้เพื่อนเข้ามาวุ่นวายข้างใน" ที่จริงผมเกรงใจพี่พายครับ แค่นี้ก็รบกวนเวลาทำงานจะแย่แล้ว

 

"หน้าบานเชียวนะผู้ชายมาหา" เสียงที่ผมไม่อยากได้ยิน ดังเข้ามาในโสตประสาท อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเลย เอาที่พอใจเลย ผมจะยิ้มจนปากฉีกถึงรูหูมันก็ปากผมไหมล่ะ ไม่ได้ยืมปากหมาๆ ของใครมายิ้มซะหน่อย ผมหันไปตักเค้กสามชิ้น แล้วก็เตรียมเครื่องดื่มให้กับเพื่อนๆ ก่อนที่ผมจะเดินไป ไอ้หมาบ้ามันยังมองผมตาเขียวอยู่เลย สมน้ำหน้ามัน ใครเขาจะไปสนใจคนปากไม่ดี

 

“อ้อ! พี่พายฮะกรีนบอกว่าคิดถึง” ผมหันกลับไปหาพี่พายเมื่อนึกได้ว่าเพื่อนตัวดีอยากเจอคนที่เขาปลื้ม

 

“จ๊ะ เดี๋ยวพี่เดินไปหา” ผมเดินกลับมาถึงโต๊ะ สองสาวก็สอดรู้สอดเห็นทันที

 

"แก เมื่อกี้แกคุยอะไรกับพ่อแบ๊ดบอยของฉันอ่ะ เขาหึงแกเหรอ" ยังไม่ทันที่ผมจะวางเค้กกับเครื่องดื่มลงบนโต๊ะเลย เสียงแหลมๆ ของกรีนก็รีบเอ่ยถามผมทันที

 

"จะบ้ารึไง บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่เขาทำแบบนั้นเขาเกลียดมินต่างหาก ไม่ถูกกันตั้งแต่เด็กแล้ว"

 

"ไม่ใช่อ่ะสายตาคนที่เกลียดกันไม่ใช่แบบนี้ แบบนี้เขาเรียกว่ารักแต่ไม่แสดงออก" เป็นหมอดูเหรอห๊ะ หรือว่าไปศึกษาการอ่านความรู้สึกจากสายตาคนมา ปวดหัวกับพวกนี้จริงๆ

 

"ไปกันใหญ่แล้วพอๆเลิก คุยเรื่องอื่นเลย" ผมรีบตัดบทก่อนที่สองสาวจะมโนเพ้อพกไปกันใหญ่

 

ผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ เพราะขออนุญาตพี่พายแล้ว สรวลเสเฮฮาตามประสาของเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน

 

"แกๆ ผู้ชายคนนั้นหล่ออ่ะ ยิ้มโปรยเสน่ห์มาแต่ไกลเลย"เสียงของยัยเพื่อนตัวแสบผมดังขึ้นมาอีกรอบ ผมหันไปตาทิศทางที่สองสาวมอง พี่ทิมนี่เองครับ ทำไมวันนี้มาได้ก็ไม่รู้

 

"มินๆ เขาตรงมาทางนี้แล้วยิ้มให้ฉันด้วย หล่ออ่ะ พ่อเทพบุตร" คราวนี้หลิวเอ่ยขึ้น

 

"พี่ทิมสวัสดีฮะ"

 

"ครับ" พี่ทิมยกมือรับไหว้ผม ก่อนที่ผมจะแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จัก สองสาวนี่จ้องจนพี่ทิมจะละลายแล้วครับ รายนี้ก็ยิ้มจนปากจะฉีก คุยเล่นกับเพื่อนผมเหมือนกับรู้จักกันมานาน พี่ทิมเป็นคนไม่ถือตัวคุยได้กับทุกคน แถมยังยิ้มแทบจะตลอดเวลา

 

"พี่ทิมจะทานอะไรครับ"

 

"เอาเหมือนเดิมเลยครับ น้องมินทำอเมริกาโน่ให้พี่ด้วยนะครับ"

 

"ได้ครับ รอแป๊บนึง" ผมต้องเดินไปตรงไอ้หมาบ้าอีกแล้วครับ ไม่รู้ว่าคราวนี้จะแขวะอะไรผมบ้าง

 

เขานั่งมองผมจริงๆ นะครับ มองแบบไม่วางตา จนผมเดินมาถึงนั่นแหละปากหมาๆ ของเขาก็เริ่มจะเอื้อนเอ่ย

 

"หึ คราวนี้ควบสองเลย จะเอาใครดีล่ะ เพื่อนหรือว่าไอ้หน้าโง่นั่น" ใครก็ได้ช่วยพาไอ้หมาบ้านี้ไปผ่าหมาออกจากปากทีดูท่าจะเยอะ คิดคำมาว่าผมนี่ไม่เคยซ้ำ

 

"ผมจะเอากับใครมันก็เรื่องของผม จะเอาทีละกี่คนก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่น" แรงมาผมก็แรงกลับครับงานนี้ ร้ายมาผมก็ร้ายกลับ

 

"มึงกล้าเหรอมิน ห๊ะ" เขากัดฟันกรอด ด่าผมออกมา

 

"ทำไม่จะไม่กล้า ผมมันวิปริตอยูแล้วนี่"

 

"อย่ามาปากดีใส่กูนะมิน มึงลองไปเอากับพวกมันดูสิ จะได้รู้ว่าาจะเกิดอะไรขึ้น"

 

"ทำไมเล่า คุณมาเกี่ยวอะไรด้วย อย่าบอกน่ะว่าเสียดายผมขึ้นมาน่ะ หรือว่าอยากสนุกกับพวกเรา ถ้าอยากบอกได้นะ" ผมก็กวนประสาทคนเป็นนะครับ ไม่น้อยกว่าใคร คำพูดเลวๆ ผมก็พูดได้ เพียงแต่ผมไม่เคยคิดที่จะพูดมันกับคนอื่น แต่กับคนปากร้ายแบบนี้มันอดไม่ไหว

 

"มึง...." พี่พายถึงกับต้องออกมาห้ามทัพ ไม่อย่างนั้นคงยาว ถึงกับพูดไม่ออกเลยล่ะสิคราวนี้ ทำไมล่ะเกิดมาหึงมาหวงอะไรผมตอนนี้ เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักนิด  ผมหันมาทำอเมริกาโน่ให้พี่ทิม ก่อนที่จะตักช็อกโกแล็ตเค้กใส่จานไปเสริฟให้พี่ทิม

 

"อ้าว! พี่ทิมไปไหน" เดินกลับมาอีกทีพี่ทิมก็ไม่อยู่ที่โต๊ะแล้ว

 

"ไปเข้าห้องน้ำย่ะ แล้วนี่แกตกลงจะเลือกใคร" กรีนเริ่มอีกแล้วครับ คะยั้นคะยอผมเรื่องไร้สาระตลอดเวลา

 

"อะไร"

 

"อย่าไปฟังสองคนนี้เลยมินไร้สาระ" เพื่อนทั้งสามคนของผมก็มีเมฆนี่แหละ ที่ดูจะปกติที่สุดแล้ว ส่วนสองสาวปล่อยให้เขาอยู่ในโลกของสาววายต่อไป

 

"ตรงไหนที่ไร้สาระห๊ะเมฆ ฉันจริงจังนะ" หลิวหันไปแหวใส่เมฆ รายนั้นก็เงียบทันที  ผมรู้ว่าเมฆแอบชอบหลิวแต่ไม่ยอมบอกซักที แต่ผมไม่ช่วยหรอกให้เขาหาทางจีบกันเอาเอง

 

"เออแกเงียบปากไปเลย" ลูกคู่ตอบรับในทันที

 

"พวกเธอพูดอะไรกัน มินไม่เข้าใจ"

 

"ก็ผูชายสองคนอ่ะ พ่อเทพบุตรทิม กับพ่อแบดบอยอ่ะจะเลือกใคร" ดูเธอพูดเข้าสิ ผมอยากจะถามจริงๆ เลย ว่าสองสาวนี่เป็นผู้ชายแปลงเพศมาใช่ไหมทำไมถึงห้าวหาญขนาดนี้

 

"จะบ้าเหรอมินจะเลือกทำไม"

 

"แต่ฉันเชียร์พ่อแบดบอยนะ น่าจะเร้าใจดีอ่ะ ดูสิหุ่นนี้อื้อ น่าขย่ำ เอากันน่าจะมันดีนะแก" กรีนเริ่มสาธยายอะไรไปเรื่อย ดูคำพูดที่ออกจากปากหญิงสาวสมัยนี้สิครับ น่ากลัวมาก

 

"ฉันว่าพี่ทิมดีกว่าเยอะ หุ่นก็ไมต่างกันหรอกย่ะ ยิ้มแต่ละทีนี่ใจฉันแทบละลาย แถมยังเฟรนลี่ด้วย หรือว่าแกอยากได้สามีโหดๆ แล้วรู้ได้ยังไงว่าเทพบุตรแสนดีเอาไม่มัน" พูดจบปุ๊บก็ยกยิ้มชั่วร้ายจนน่าตกใจ ผมล่ะกลัวแทนเมฆจริงๆ รักใครไม่รักดันมารักยายหลิวปากร้าย

 

"พอแล้วน่าทั้งสองคน พี่ทิมเขากลับมาแล้ว" ดีที่เมฆพูดขัดขึ้นมาก่อนไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้จะตอบแม่สองสาวนี้ยังไง

 

“เอาเป็นว่าจะเอใครก็มันทั้งคู่แหละ หรือว่าจะสามพี” ยังไม่หยุดอีกครับ

 

“คุยอะไรกันครับ น่าสนุกเชียว”  ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ ให้พี่ทิมน่าสนุกตรงไหนครับพี่ทิม สองสาวนี่น่ากลัวจะตาย

 

“เรื่อยเปื่อยค่ะ ว่าแต่ว่าพี่ทิมมีแฟนรึยังคะ”

 

“ยังไม่มีครับ แต่...น่าจะอีกไม่นานถ้าเขาตกลงนะ” พี่ทิมส่งยิ้มชวนละลายมาให้ผม มองผมแปลกๆ อีกคราวนี้ ดูมีเลศนัยยังไงชอบกล

 

“ว้ายยยยย จริงเหรอคะ คนนี้รึเปล่า” กรีนพูดกับพี่ทิมก่อนที่จะส่งสายตามาทางผม

 

“ถ้าเขาตกลงนะครับ” อะไรกัน พี่ทิมจะจีบใครเหรอ ทำไมผมไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงใคร

 

 

“หลิวเชียร์ขาดใจเลยค่ะ คนนี้น่ารักที่ซู๊ด”

 

ตามสบายครับพูดถึงใครก็แล้วแต่ สงสัยเขาจะคุยกันตอนที่ผมไม่อยู่ ผมเลยไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ คนที่พี่ทิมจีบคงจะน่ารักจริงๆ นั่นแหละ เพราะพี่ทิมทั้งหล่อ แล้วก็แสนดี

 

 
***************************
มาแล้วนะคะ สนุกไม่สนุกก้เม้นให้หน่อยนะคะ :t3: :t3:

                           TBC.

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอาให้อีพี่ซองคลั่งตายไปเลยหมูน้อย. สมน้ำหน้าอีพี่ซอง หมูน้อยเป็นแฟนพี่ทิมไปเลย สะใจๆๆ

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สนุกมากกกกกกกกก ชอยที่มิน ไม่สนใจไอ้ซอง เอาให้มันหึงจน ตายไปเลยนะ ห้ามใจอ่อนด้วยนะมิน ไม่งั้นคนแต่ง จะขึ้นคานนะ อิอิ แต่ถ้าจะให้ดีมาลงทุกวันสิ ชอบแนวนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao3: สะบัดบ๊อบ คนน่ารักมักใจแข็ง เอาให้คลั่งไปเลย คนประสาท

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ระอากับปากพี่ซองจริงจริง :ling2:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มินนี่หนูสวยเลือกได้ถูกแล้วจ้ะ เชิดใส่มันไปเลย!  :laugh:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สวยๆเลือกใครก็ได้ เราชอบอ่านนิยายเรื่องนี้มากเลยสนุกดี

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เชิ่ดใส่ค่ะ!! อิพี่ซองผีบ้าหมาหวงก้าง เชอะ!!  :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด