บทที่ 27
"กลับมาไวจัง" เสียงทักของเซียดังขึ้นทันที่มาวิคก้าวเข้ามาในห้องพัก
"ไวอะไรนี่สองทุ่มแล้ว"
"ไหนพรีมว่าโดนไมเรคลากไป นึกว่าคืนนี้จะไม่กลับห้อง" รอยยิ้มกรุ้มกริ่มถูกส่งมาให้ พร้อมไอ้ตัวต้นเรื่องที่เดินหัวเปียกออกจากห้องของทั้งคู่ มานั่งจุมปุกอยู่ตรงหน้าคนสวยที่รับเอาผ้าขนหนูในมือมันไปเช็ดให้อย่างรู้งาน เป็นภาพที่เห็นจนชินตาเพราะสองคนนี้เขาสวีทกันตลอด
"แล้วยังไง คิดว่าฉันจะไปทำอะไรกับหมอนั่นหรือไง" คนถูกถามบอกเสียงขุ่น
"หึๆ หน้าแดงนะเพื่อน"
"สรุปกับไมเรคนี่ยังไง" พรีมเงยหน้าขึ้นมาถาม
"ดูๆ กันไปก่อน" มาวิคตอบไปตามตรง ก่อนจะชิ่งเข้าห้องตัวเองเพราะไม่อยากโดนซักไปมากกว่านี้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวก็มีเวลามานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย กับไมเรคยอมรับตามตรงว่าหมอนี่พิเศษสำหรับเขา และดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นมานานแล้ว เพียงแต่ตอนแรกมันคือความผูกพันของเด็กคนหนึ่งแต่ตอนนี้มันมีอะไรมากกว่านั้น การที่อีกคนเป็นฝ่ายเข้ามาหา และแสดงออกชัดเจนว่าชอบหากปฏิเสธไปก็เหมือนโกหกตัวเอง
เรื่องความสัมพันธ์ทางกาย แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้ซีเรียสอะไร แบบสนุกชั่วครั้งคราวก็มีบ้าง แต่กับไมเรคนั้นต่างออกไปเพราะจะไม่ใช่แค่ทางกายแต่มันส่งผลต่อความรู้สึกที่มีต่อกันจึงไม่อยากเร่งรีบ รายนั้นก็เหมือนจะเข้าใจบอกจะให้เวลา ถึงจะรู้จักกันมาแต่เด็ก แต่จากกันไปนานก็เหมือนคนแปลกหน้าที่ต้องเรียนรู้กันใหม่ และที่สำคัญคนเป็นฝ่ายเสียบมาตลอดจะเป็นฝ่ายโดนเสียบมันทำใจไม่ได้โว้ย เสียเชิงหมด ลองหมอนั่นบอกจะยอมเป็นเมียเขาสิจัดเดี๋ยวนี้ก็ยังได้
"เฮ้ยดูสิ ใครมา" ฟาเรสสะกิดเพื่อนยิกๆ ขณะที่ทุกคนกำลังทานมือเช้ากันอยู่ที่โรงอาหาร
"ใครอัญเชิญมันวะ" มาวิคว่าพลางมองตามสายตาเพื่อน ก็เห็นไมเรคเลิกคิ้วแบบกวนๆ พลางเดินตรงมาทางโต๊ะเขา แถมฟาเรสที่นั่งข้างๆ ยังขยับที่นั่งให้อย่างรู้งาน
"ไงทุกคน" คนอื่นทักทายตอบแทบทันทีเว้นไว้คน ที่กำลังมองคนมาใหม่หน้ายุ่ง
"นี่มันโรงอาหารนักเรียน อาจารย์ฝึกสอนมาทำไม" มาวิคแขวะเข้าให้
"อยากรู้ไหมมาทำไม" เสียงทุ้มกล่าวเนิบๆ
"ทำไมครับ/ค่ะ" พรีมถาม พยายามปั้นหน้าไม่รู้เต็มที่มีแฟนมันเป็นลูกคู่
"มาจีบมาวิค"
"ฮิ้ววววววว" สิ้นคำก็ได้รับเสียงแซวจากทุกคนในโต๊ะทันที จนคนถูกกล่าวถึงทำหน้าไม่ถูก อายจนแทบแผ่นดินหนีเพราะโต๊ะอื่นๆ ก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว
"อะ...เอ่อ ฉันไปก่อนนะ" ว่าแค่นั้นเจ้าตัวก็เก็บกระเป๋าออกไปทันที พน้อมกับไมเรคที่เดินตามไปติดๆ
"เดี๋ยวเก็บจานให้นะพวก" โอซี่ตระโกนตามหลัง คนอื่นๆ หัวเราะร่วนกับสิ่งที่เกิด ใครจะรู้ว่าคุณชายจอมกระล่อน ยิ้มเก่งแถมเฟรนลี่ตัวพ่ออย่างมาวิคจะต้องมาเขินจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้
"อารมณ์ดีเชียวนะ" ฟาเรสหันไปคนตัวโตที่ยิ้มกริ่มพลางมองหน้าเขา
"หึๆ ไม่ต้องกลัวใครแย่งแล้วไง"
"ไอ้บ้า"
"นายไม่ควรทำแบบนี้" มาวิคว่าคนที่เดินตามเขามา ก้าวช้าๆ จนอีกคนเดินมาทัน
"แบบไหน"
"แบบเมื่อเช้า ที่เล่นประกาศออกไปแบบนั้นว่าจะ...เอ่อ นั่นละ" แม้จะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก แต่พอจะพูดคำว่า จีบ...มันก็รู้สึกประหม่าเสียดื้อๆ
"ที่บอกว่าจะจีบนะหรอ" ไมเรคยิ้มบางๆ เมื่อเห็นแก้มใสขึ้นสีแม้เจ้าตัวจะตีหน้ายุ่งก็ตาม
"เออ นั่นละ"
"อ่าว ทำไมละ นี่อุส่าทำตามขั้นตอนเลยนะ อยากให้เราเรียนรู้กันใหม่นี่ไง กำลังทำอยู่เลย เริ่มง่ายๆ จากการจีบนี่ไง" คนแก่กว่าแกล้งอธิบายเสียงดังฟังชัดทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาหันมอง ดวงตาสีน้ำตาลถลึงมองอย่างโกรธๆ
"พูดเบาๆ ก็ได้ยินไหม"
"หรือไม่อยากให้จีบ งั้นก็ยอมๆ พี่ซักทีสิ" อีกคนยังคงเย้าแหย่ ยิ่งเห็นท่าทางฟึดฟัดของอีกฝ่ายยิ่งสนุกเขาละ
"ฝันไปเถอะ"
"เอ้า โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ สรุปยังไงครับคุณชาย" เสียงทุ้มเอ่ยกวนๆ ไอ้ท่าทางไม่ได้ดั่งใจนั่นมองๆ ไปก็น่าดูเอ็น...เอ้ย!! เอ็นดูอยู่ไม่น้อย
"ไม่รู้โว้ยย!!!" มาวิคตัดบททำท่าจะเดินหนี แต่กับถูกอีกคนรั้งไว้
"มาวิค พี่จริงจังนะ" ดวงตาสีน้ำเงิน สบลึกลงไปในตัวตาสีน้ำตาลอ่อนของอีกคน มันทั้งหนักแน่นมั่นคง ตอกย้ำว่าที่เขาพูดคือความจริง มาวิคนิ่งไป มันรู้สึกประหม่ากับสายตาคู่นั้น แต่ก้ไม่อาจผลักไสได้ คนเด็กกว่าอึกอัคอยู่ครู่ใหญ่ จนเต้นแรงจนต้องก้มหน้าหลบ
"ยะ...อยากทำอะไรก็ทำ" เสียงสั่นๆ ตอบออกมาในที่สุด
"หึ พูดเองนะ"
"ทีนี้ก็ปล่อยได้แล้ว จะไปเรียน" ว่าพลางดึงแขนออกจากอีกฝ่ายแล้วรีบเดินจากไปในทันที ไมเรคมองตามแผ่นหลังนั่นจนลับตา เด็กชายตัวน้อยในวันวานบัดนี้เติบโตเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการ แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนแต่ไอ้ท่าทางทางดื้อดึง ชอบย้อนแบบนั้นไม่เคยเปลี่ยน ถึงจะไม่ขี้อ้อนแต่ก็ยังน่ามองสำหรับเขาอยู่ดี
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาคนถูกจีบต้องคอยรับมือกับไมเรคทุกวี่วัน แถมไอ้เพื่อนตัวดีทั้งหลายยังให้ท้ายไอ้ผู้ชายกวนประสาทนั่นเสียด้วย โดยเฉพาะพรีมกับโอซี่ที่เห็นดีเห็นงาม แทบจะจับเขาใส่พานถวายให้มันไปเลย มาวิคไม่ชินกับการถูกรุก เพราะที่ผ่านมาเขามักจะเป็นฝ่ายตามจีบเสมอหากรู้สึกสนใจใคร พอมีคนคอยมารับมาส่ง ชวนไปกินข้าว ดูแลเทคแคร์สารพัดจีงพลอยทำให้วางตัวไม่ถูกไปตามๆ กัน แต่ก้ต้องยอมรับ ว่าเขาเองก็รู้สึกดีเหมือนกันที่ถูกเอาใจใส่ อาจเพราะคนที่ทำคือไมเรคเพราะหากเป็นคนอื่นอาจรู้สึกอึดอัดพอสมควร
"เสาร์นี้กลับเข้าเมืองหรือเปล่า" ไมเรคถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินไปทางหอพัก เพราะไมเรคแม้จะไม่มีสอนในคลาสของมาวิคแต่ก็มารอรับเจ้าตัวอย่างเช่นทุกวัน (ก็แค่เดินไปส่งหอพัก ซึ่งมันไม่ไกลเลยซักนิด)
"มีอะไร จะชวนเดทหรือไง" มาวิคถามเสียงเรียบ
"อยากไปบ้านนาย ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เห็นอีกเลย" ดวงตาสีน้ำเงินมองตรงไปเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด "สวนหลังบ้านนั่นยังอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม"
"อืมม แต่ตรงลำธารสร้างสะพานให้ข้ามแล้วละ" มาวิคว่าพลางนึกถึงธารน้ำเล็กๆ หลังบ้านที่ตอนเด็กๆ มีเพียงไม้แผ่นพาดให้ข้ามไปยังสวนดอกไม้อีกฝั่ง เป็นที่ที่อีกฝ่ายมักพาเขาไปเล่นเสมอ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้กลับบ้านมาเดือนสองเดือนแล้วสินะ พ่อแม่เขานะหรอไม่มีถามถึงหรอก ติดทั้งงานสังคมทั้งงานส่วนตัวจนไม่มีเวลาสนใจลูกแบบเขาหรอก
"เฮ้ ทำหน้าเศร้าทำไม"
"ตาลายหรือไง" มาวิคกลบเกลื่อน "ก็ว่าจะกลับพอดี พรุ่งนี้เก้าโมง มาช้าฉันไม่รอด้วย"
"ครับๆ"
เช้าวันเสาร์ไมเรคและมาวิคนั่งเรือจากเกาะอนิมาเข้าเมือง โดยมีรถของที่บ้านมาวิคมารอรับที่ท่าเรือ ดวงตาสีน้ำเงินมองออกไปนอกหน้าต่าง เดสเซนท์เป็นเมืองที่เจริญมากแทบจะเป็นคนละโลกกับเรดิเอนซี่ ที่นั่น เทคโนโลยีต่างๆ มีให้เห็นแค่ในเมืองใหญ่ หรือหมู่บ้านหลักๆ นอกนั้นจะพึ่งพาธรรมชาติและเวทย์มนต์มากกว่า ซึ่งมันก็ดีคนละอย่าง ไม่ได้รูสึกว่าที่ไหนน่าอยู่น้อยกว่ากัน
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านของตระกูลสเตวาร์ท ซึ่งตอนนี้เจ้าบ้านเป็นถึงผู้ว่าการของเมืองแห่งนี้และแน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านนัก มีเพียงคนรับใช้และคนสวนรวมถึงหัวหน้าพ่อบ้านเท่านั้นที่ออกมาต้อนรับคุณชายคนเดียวของพวกเขา คฤหาสก์หลังใหญ่หรูหราแต่มันไม่เคยน่าอยู่เลยสำหรับมาวิค
หลังจากทักทายทุกคนเจ้าบ้านก็เดินนำแขกไปยังสวนหลังบ้าน พืชพรรณในสวนถูกดูแลตกแต่งเป็นอย่างดี ดอกไม้ทีบานรับแสงแดดในยามสายส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ มาตามลม ...คิดถึง คำนี้ผุดขึ้นใมใจ ร่างสูงมองภาพตรงหน้า ที่เดิมๆ กับคุณชายตัวน้อยของเขาคนเดิม ทำให้ยิ้มออก ความสุขความสงบอบอวนใจจิตใจหลังจากที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มาแสนนาน
มาวิคเดินนำไปนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่มีเสื่อและของว่างถูกเตรียมเอาไว้ คิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างขัดใจ เหมือนคู่รักมาออกเดตเลยให้ตายสิ แต่ก็ไม่ได้บ่นออกไปเพราะไม่อยากขัดคนที่กำลังดื่มด่ำบรรยากาศตอนนี้อยู่ สองหนุ่มนั่งลงข้างกัน ต่างคนต่างเงียบเพราะจมอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่ครู่ใหญ่
"ทำไมถึงมาที่นี่ละ" มาวิคถาม ในสิ่งที่เขาน่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว
"พี่มาเพราะเราไง" ไมเรคตอบด้วยรอยยิ้ม
"อันนั้นรู้อยู่แล้วละ" อีกคนตอบเสียงแผ่ว ชันขาขึ้นนั่งกอดเข่าพลางทอดมองไปเบื้องหน้า "แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาช่วยสอนในอนิมาด้วย"
"จะลาออกจากเอแวนการ์ด เขาเลยขอให้มาช่วยเป็นวิทยากรที่มหาลัยก่อนออก"
"ลาออก...ทำไมละ"
"เพราะตั้งใจจะช่วยเวลอร์กับฟาเรส ส่วนหนึ่งนะเพราะถูกชะตาหมอนั่นและคิดว่าเรื่องอินเวียโน่มันน่าสนุกดี" ร่างสูงว่าพลางหันมาสบตากับอีกคนอย่างมีความหมาย "มีอีกอย่าง..."
"อะไร..."
"เราเองก็ตั้งใจจะช่วยฟาเรสเรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไหมละ"
"แน่นอน ก็เจ้านั่นเป็นเพื่อนฉันนิ" มาวิคสวน นึกแปลกใจที่เดี๋ยวนี้พูดคำว่าเพื่อนกับฟาเรสได้เต็มปาก
"นั่นละอีกเหตุผล พี่ไม่อยากให้เราต้องไปลำบากคนเดียว อย่างน้อยพี่ก็สบายใจที่ไม่ได้ปล่อยให้คนสำคัญเผชิญหน้ากับอันตรายเพียงลำพัง อยากจะสู้ไปพร้อมๆ กัน"
"หึ สำคัญ" มาวิคทวนคำเสียงสั่น "ถ้าสำคัญทำไมถึงทิ้งผมไปโดยที่ไม่บอกอะไรเลยละ ทำไมถึงปล่อยให้รอ ทำไม ฮึก....ทำไมไม่กลับมาหาบ้าน ทำไมละ" หยาดน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาไม่ได้อยากจะอ่อนแอ แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่เฝ้าคอยมันกับรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"พี่ขอโทษ" คนตัวโตรนรานเมื่อเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ เขารั้งเด็กหนุ่มเข้ามากอดไว้ เข้าใจดีว่าเรื่องนี้ผิดเต็มประตู "พี่ยอมรับว่าตอนนั้นลืมนึกถึงเราไปจริงๆ แต่นี้พี่รู้แล้ว"
"รู้บ้าอะไร ปล่อยเลย" คนในอ้อมกอดทั้งสะอื้นทั้งโวยวาย พูดมาได้ว่าลืมกัน แล้วนี่ยังมีหน้ามาบอกว่าเขาสำคัญอีกหรอ
"ชู่ววว!!! ฟังพี่นะ ขอร้องละ" ไมเรคว่าพลางลูบหลังจนอีกคนสงบลงและยอมให้เขากอดดีๆ จึงตีเนียนดึงเด็กน้อย(ที่ตัวไม่น้อย" ขึ้นมานั่งตัก
"ตอนนั้นท่านพ่อตัดสินใจแต่งงานใหม่ ภรรยาใหม่ของท่านเป็นคนเคลวิช ท่านพ่อจึงย้ายไปประจำการที่นั่นเพื่อไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นและบังคับให้พี่ย้ายไปด้วย ตอนนั้นพี่เองก็ไม่ค่อยถูกกับแม่เลี้ยงซักเท่าไหร่แถมยังมีปัญหากับลูกติดของเธออีก พ่อมักจะเข้าข้างฝ่ายนั้น ตอนนั้นเคว้งสุดๆ รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวเลย มันบานปลายถึงขั้นทะเลาะกับพ่อตัวเอง พี่หนีออกจากบ้าน เหลวแหลก ปะชดชีวิต เสเพลไปวันๆ มันมีอะไรหลายอย่างเข้ามาจนทำให้ลืมเราไป ขอโทษนะขอโทษจริงๆ"
มาวิคนิ่งฟัง ไม่เคยคิดว่าก่อน ว่าที่ผ่านมาคนๆ นี้ต้องเจอกับอะไรบ้างเอาแต่โกรธที่ถูกทิ้งไปจนลืมนึกไปว่า ต่างคนต่างมีปัญหาของตัวเอง
"จนวันหนึ่งเอแวนการ์ดประกาศรับสมัครทหารรับจ้างไปเรดิเอสซี่ คิดอะไรห่ามๆ กะไปตายเอาดาบหน้าเลยสมัครเข้าไป จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นหน่วยพิทักษ์ ก็สนุกดีกับพวกภาระกิจเสี่ยงตาย เอาชีวิดรอดไปวันๆ แลกกับเงินมากมายที่ไม่มีแม้เวลาจะใช้...หึ จนมาเจอเราอีกครั้ง..."
มือใหญ่เชยคางคนในอ้อมกอดขึ้นสบตา ดวงตาสีน้ำเงินที่มักจะดุดันกลับเต็มไปด้วยประกายความอบอุ่นจนมาวิคไม่อาจละสายตาไปได้
"มาวิค...คนที่ทำให้ตระหนักได้ว่า ครั้งหนึ่งคนอย่างพี่เคยมีความสุขแค่ไหน ที่ได้อยู่กับคุณชายตัวน้อย ที่แม้จะดื้อและเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็ทำให้พี่ยิ้มและหัวเราะได้เสมอ ดังนั้นพี่ควรจะรักษาความสุขนี้เอาไว้ ไม่ปล่อยให้หายไปไหนอีก อยู่กับพี่นะ อยู่เป็นความสุขให้ผู้ชายคนนี้ได้ไหม" คนตัวโตยิ้มให้ สายตาที่มองมาอ้อนวอนอยู่ในที จนคนถูกมองซูกหน้าลงกับอกด้วยความเขิน ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบไหม้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขาหน้าแดงแค่ไหน
"ห้ามทิ้ง" เสียงผะแผ่วเอ่ยออกมาก
"หืม...ว่าไงนะ"
"ถ้ายอมอยู่ด้วยแล้วห้ามทิ้งไปไหนอีก" มาวิคว่าเสียงดัง พลางเงยหน้ามองคนฟัง ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเขม็งเอาแต่ใจ "ถ้าทิ้งอีกฉันจะตามไปฉีกนายเป็นชิ้นๆ เลยคอยดู"
"กลัวแล้วครับ คนเก่ง" เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีกปากหวานของคุณชายของเขาอย่างเอาใจ...น่ารักแบบนี้จะไปไหนรอด
...................Talk Talk......................
- คู่นี้NC ควรเขียนเป็นตอนต่อจากนี้หรือแยกเป็นตอนพิเศษไปดี ช่วงนี้หัวมันตึบๆ มีพลอตก็จริง แต่กลัวบรรยายออกมาไม่ดีเลยยังไม่อยากเข้าเรื่องหลักเท่าไหร่นัก อย่างที่บอก พลอตเรื่องเดาพอได้ตามไสตนิยายแฟนตาซีทั่วไปค่ะ
- เรื่องอัพช้า อันนี้ข้าน้อยน้อมรับความผิดแต่โดยดีเจ้าค่ะ ท่านผู้อ่านจะ ลงโทษเช่นไร จับขึง แซ่เคี่ยนเป็นอีเย็น จะชำเราเช่นไร ไรท์ยินดีค่ะ หรืออยากให้ไถ่โทษเป็นสิ่งใดเรียกร้องมาได้เลยเจ้าค่ะ
-ของฝากๆ ฉลอง ไปถอย artisul d13D (เมาส์ปากกา แบบวาดบนจอ) มาค่ะ อันนี้ภาพเทส จากเรื่อง Night Knight นะค่ะ จำเขาได้ไหมเอ่ย
- ส่วนนี่ ตังใจจะวาดลงหนังสือค่ะ แต่ สัดส่วนยังไม่โอเลยโล๊ะ ตั้งใจให้ภาพประกอบออกมาที่สุดค่ะ