{{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย - Special Valentine - P.33 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย - Special Valentine - P.33 -  (อ่าน 259511 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คืนดีกันเถอะ :o12:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่เอกขาาาา อยากจะอยู่ทีมนายนะ แต่ ไม่เอาอ่าาา เราแพ้ผู้ชายทำอาหารได้ ทูนหัวของบ่าวววว

ออฟไลน์ Supak-davil

  • สาว Y = Why I don't have a boyfriend ??????????
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นายขา
งอนพี่เอกซัก 3 ตอนนะคะ
เดี๊ยนจะดูว่าพี่เอกจะง้อยังไง

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อ่านแล้วเหมือนนายงอนมากกว่าโกรธ ฮ่าๆๆ พี่เอกคนดีของน้อง ง้อนายหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ Lattechan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โถ่วววว พี่เอกทูนหัวของบ่าวววว
นายทนใจแข็งได้อย่างไร
เป็นเราจะไม่ทน  :hao7:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โถ๋ พี่เอก ช้ำไปหมด เจ็บตัวตลอด



มาใส่ยามาทาแผลมา แล้วยาแก้ฟกช้ำดำเขียว ป้าซื้อมาฝาก อ้อ น้ำใบบัวบกเย็นเจี๊ยบกินได้เลย



นายคะ ถ้านาย ทุบตีหรือไล่พี่เอกของป้าอีกครั้ง



ป้าจะยึดพี่เอกคืนไม่ ให้พี่เอกโดนซ้อมโดนไล่ ซ้ำๆแบบนี้แล้ว สงสารเด็ฏกำพร้าขาดความอบอุ่น

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ทำไมรู้สึกว่านายเจ็บว่าพี่เอกรัวๆเลย ตอนนี้นายได้คะแนนไปรัวๆๆๆๆเลย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
นาย ระวังความดันด้วยนะ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ตีพี่เอกแรงๆเลยนาย หมั่นไส้มานานแล้ว :katai4:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
พี่เอก สู้ ๆ ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่เอกทำลายความมั่นใจที่นายมีให้ คงยากจะได้คืนดีกัน ตอนนี้สงสารนายมากกว่าพี่เอกล่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โถ่นายคะ ตัวเองมีปมคนอื่นก็มี ตัวไม่ชื่อพี่เอกแต่แรกแล้วตัวคิดว่าตอนนั้นตัวมีอะไรให้เขาเชือเหรอ

โกรธเพราะตัวเองถูกทำเหมือนเป็นคนโง่และกลัวที่ควบคุมอะำรไม่ได้มากกว่ามั้ง

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
นายโกรธไม่หายอีก โธ่ อุตส่าห์หวานกันตั้งนิดนึง รออ่านน้า

ออฟไลน์ Lunar_lustre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมมีแต่คนเข้าข้างนาย เรากลับคิดว่านี่มันธรรมดาจะตายไป ไม่ว่าจะเรื่องอะไรในโลกนี้ถ้ายังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ ทุกคนพูดโกหก ปิดบัง ซ่อนเร้นกันทั้งนั้น แล้วยิ่งตัวนายเองเงินที่ใช้ก็มาจากการโกงชาวบ้านง่ะ โกรธพี่เอกทำไม :sad4:

ที่อ่านๆมาชอบตอนควีนสุดแซ่บกะพลพรรคคิงคลับมาแจมที่สุดอ่ะ ตอนอ่านไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าคนเขียนเขียนฉากพวกนี้ให้ดูแบบ joyfulสุดๆ อ่านแล้วหน้ายิ้มตามเลย o13

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่เอกคะ มาหาน้องมา เดี๋ยวช่วยปลอบใจ //อ้าแขน  :o8:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
พี่เอกเหมาะกับนายที่สุดแล้วนะ รู้ทักกันดีออก 5555

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดในตอนนี้เลย หรือเพราะมั่นใจในพี่เอกมากไป หรือรู้กันอยู่แก่ใจว่านายรักเอกแล้วกันแน่

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
นายแก่แล้วนะ  พ้นจากเอกก็ไม่มีใครจริงจังด้วยแล้วนะ  นายคิดดีๆ ไม่ค่อยจะเข้าข้างพี่เอกเลยกรู

ออฟไลน์ fukuroki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
6ตอนรวด โอยยยย สงสารใครก่อนดี นายหรือพี่เอก  :hao5:
พี่เอกนี่เนียนด่าน้องนิลไปเยอะเหมือนกันนะคะ o18
รักแก๊งคิงส์คลับอ่ะ ร่วมตัวกันมาดูใจ? พี่เอกรอบเตียงเชียว
นายจะยอมอภัยพี่เอกมั้ย พี่เอกทำทุกอย่างเพราะเหตุผลเดียวจริงๆ เพราะรักถึงจะออกแนวฮาร์ดคอไปหน่อยก็เหอะ

ลุ้นค่ะว่าจะไปไงต่อ คนแก่จะใจอ่อนมั้ย จะเลิกปากแข็งรึยังว่าจริงๆก้อหลงพี่เอกไปแล้ว  :impress2:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
นาย Part ‘5’

ผมหนีมานอนที่บริษัทได้สองวันแล้ว เพราะคิดว่าเอกคงไม่กล้าขนาดบุกขึ้นมาถึงห้องผู้บริหารชั้นบนสุด

แต่ผมคงดูถูกมันมากเกินไป

“ขอโทษนะคะท่านประธาน”

“ฉันบอกว่ายังไง หรืออยากโดนไล่ออก!”

“ตะ...แต่ว่า”

“อย่าอารมณ์เสียสิคุณ”

เอกเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาด้วยท่าทางสบายๆ แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยพลาสเตอร์ยาตามมุมปากและรอยช้ำตรงข้างแก้มรวมทั้งแผลที่ขมับ

“ออกไปก่อนเถอะ”

แถมยังหันไปพูดกับเลขาผมเหมือนกับว่าเป็นประธานบริษัทซะเอง

“แกทำอะไรลงไป” ผมพยายามระงับอารมณ์ ตลอดสองวันนี้ผมนำรูปเอกไปให้ยามหน้าประตูเพื่อกันไม่ให้มันเข้ามา แถมยังกำชับเลขาอย่างดี

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ปริปากเรื่องเราหรอก” เอกยักไหล่ ก่อนจะถือวิสาสะนั่งตรงข้ามกับผมราวเป็นคู่ค้า “ผมแค่กระซิบว่าคุณมีปัญหาเรื่องเงินที่ติดกับคลับใต้ดิน ถ้าไม่ให้ขึ้นไปจะเรียกพวกมาอาละวาด ก็รีบให้ผมขึ้นมาทันที อืม...คงเพราะหน้าผมเป็นแบบนี้เลยยิ่งน่าเชื่อถือ แล้วก็เพราะคุณหนีมาอยู่กินที่บริษัท เลขาหน้าห้องเลยคิดว่ากำลังหนีหนี้น่ะสิ”

“คนอย่างฉันไม่เคยติดหนี้ใคร!”

“ไม่มีใครรู้จักคุณดีเท่าผมนี่” เอกยังพูดเอาดีเข้าตัว ก่อนจะมองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนลงจนเกือบกลายเป็นความซาบซึ้งตรึงใจ “ผมคิดถึงคุณแทบแย่...”

น้ำเสียงคล้ายจะอ้อนวอนขอคืนดี แต่ผมไม่อยากรับรู้และรับฟัง

“ผมขอโทษ”

“เลิกพูดเถอะ ฉันสะอิดสะเอียน”

“ผมจะขอโทษจนกว่าคุณจะยอม”

“แกอย่าบ้าให้มากนัก!”

“งั้นคุณก็อย่าเชื่อคำพูด แต่ดูการกระทำผมสิ”

“การกระทำของแกก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นมาสักนิด!”

“จริงๆ เหรอครับนาย” เอกมองด้วยสายตาตัดพ้อ “ทุกๆ อย่างที่ผมดูแลคุณ ไม่ว่าจะเป็นตอนคุณสบายดีหรือป่วยไข้ ไม่ว่าจะเป็นตอนคุณหิวหรืออ่อนล้า มันไม่สามารถยืนยันความจริงใจของผมได้เลยเหรอ”

ในใจวูบโหวงไปครู่หนึ่ง ประโยคที่มันเคยพูดคล้ายกันนี้ดังแว่วขึ้นมาในความทรงจำ

‘ถ้าผมเป็นสายให้บอสเพื่อกันคุณให้ออกห่างจากควีนจริงๆ ผมจะลงไปซื้อยา แกะโจ๊ก นั่งรินน้ำอยู่ตรงนี้ แล้วรอล้างจานให้คุณทำไม ผมคงไม่ตกใจที่คุณล้มโครมจนรีบเข้ามาเปลี่ยนเสื้อ เช็ดพื้น ลงไปซื้อยาแล้วกลับขึ้นมาให้คุณถามย้ำอย่างนี้หรอก ถ้าผมเป็นสายจริงๆ ผมคงถือโอกาสนั้นหนีกลับคลับไปแล้ว’


แต่ประโยคหวานหยดพวกนั้นมาพร้อมกับความจริงอีกอย่าง

‘ที่สำคัญ...คุณเป็นคนเริ่มชวนผมก่อน และเป็นคนมาหาผมถึงที่คลับเอง ความจริงแล้วคุณต่างหากที่ใช้ผมเป็นสะพานไปหาควีน ลืมแล้วเหรอครับนาย...’


ใช่ ผมใช้เอกเป็นสะพานไปหานิลกาฬ แต่นี่เป็นข้อตกลงของเราแต่แรก มันเป็นฝ่ายยอมรับเอง ผมไม่เคยเอาเปรียบ หมกเหม็ด หรือทำอย่างที่มันทำ

นี่จึงไม่ใช่ข้ออ้างเลย

“น่าเสียดายนะ แต่ฉันไม่เชื่อทั้งคำพูดหรือการกระทำของนายทั้งนั้น” พูดจบผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น เตรียมว่าจ้างบอดี้การ์ดทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำเพราะออกจะไร้ความจำเป็น ผมไม่ใช่เศรษฐีร่ำรวยร้อยล้าน ลูกทายาทคนดังหรือคนสำคัญอะไรเลย

เอกมองราวรู้ทัน ก่อนจะพูดแทรกเสียงขรึม

“ผมอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว คุณจะหนีทำไม”

“ฉันไม่ได้หนี!” ผมบีบโทรศัพท์แน่น มองหน้าเอกด้วยสายตาเกรี้ยวกราด มันรู้จักผมดีจริงๆ

คนอย่างเจ้านายไม่ยอมให้ใครมาหยาม

ผมสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะวางโทรศัพท์แล้วตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย

เอกภพตามตื๊อไม่เลิกแน่

ต่อให้ผมคิดจะกำจัดมันออกไป แต่สุดท้ายมันก็หาทางกระเสือกกระสนมาอยู่ดี แล้วกับแค่คนบ้าคนหนึ่งผมจะเป็นเรื่องใหญ่ทำไม ต้องหดหัวอยู่ในกระดอง ปล่อยให้มันคุกคามยังไงก็ได้งั้นเหรอ

ถ้าอย่างนั้น...

“แกอยากจะทำอะไรก็ทำ”

ผมจะไม่หนี จะไม่เป็นฝ่ายเก็บข้าวของหลบหน้าหรือทำตัวหวาดระแวงราวเป็นคนผิด

“คุณหมายความว่าให้ผมไปอยู่ด้วยได้?”

“ฉันเหนื่อยจะคุยกับคนบ้าอย่างแกแล้ว” ผมกล่าว โบกมือไล่ให้เอกออกไปเพราะจะทำงาน “ไปรอฉันที่ห้อง อย่าเกะกะ”

“คะ...ครับ!”

เอกทำหน้าดีใจราวโล่งอกเป็นหนักหนา ผมมองแผ่นหลังที่รีบกุลีกุจอเหมือนกลัวผมเปลี่ยนคำพูดด้วยสายตาดูแคลน ไม่ควรเสียเวลาเล่นไล่จับกับมันตั้งสองวันเลยจริงๆ

ขั้นต่อไป คงไม่พ้นวัดความอดทน

ผมไม่เคยเห็นขีดจำกัดของมันเลยสักครั้ง ขนาดร้องไห้ต่อหน้าวันต่อมายังยิ้มระรื่นได้อีก

แต่ผมไม่คิดว่าจะแพ้หรอกนะ



หนึ่งทุ่มตรง กลิ่นอาหารโชยแตะจมูกทันทีที่เปิดประตู

ผมลอบประหลาดใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าเอกจะไปทำงานที่คลับแล้วซะอีก ถ้าอย่างนั้นการเตะถ่วงเวลากลับเสียดึกก็ไม่มีประโยชน์น่ะสิ

เมื่อได้ยินเสียงคนในครัวก็เดินมาต้อนรับทันที เอกสวมผ้ากันเปื้อน พอเห็นผมก็รีบยกจานมาเสิร์ฟแถมยังเปิดไวน์เสียด้วย แต่ผมมองผ่านมันวูบหนึ่ง ก่อนจะเดินสวนมันราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ เรื่องปากท้องไม่เป็นปัญหาเพราะก่อนจะเข้ามาผมก็ทานรองท้องมาแล้ว

“นาย...”

เอกพยายามจะเดินตามผม ซึ่งผมก็ปล่อยให้มันทำตามใจ เพียงแต่ไม่หันมองและเอียงหูฟัง ราวกับว่าทุกอย่างที่มันทำเป็นแค่เสียงนกเสียงกา

เอกเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ

“วันนี้ผมลาหยุด ผมจะอยู่กับคุณทั้งคืน”

ผมไม่ตอบ เดินไปอาบน้ำและสวมเสื้อคลุมพลางเดินไปทำงานตรงโซฟา เอกตามมานั่งข้างๆ รินไวน์วางบนโต๊ะใกล้มือผมอย่างเอาใจใส่ แต่ผมทำเหมือนมองไม่เห็น ไม่แม้แต่จะเหลือบมองคนที่แตะข้อศอกน้อยๆ อย่างวิงวอน การทำตัวนิ่งเงียบดีกว่าอาละวาดเป็นไหนๆ เพราะเอกแทบทำอะไรไม่ถูก แถมยังไม่กล้าล่วงเกินอีกต่างหาก

พอเริ่มรู้สึกกระหายผมก็ลุกไปรินน้ำเย็นดื่มหน้าตู้เย็น ไม่เปิดโอกาสให้มันเข้ามาช่วยบริการ ปล่อยไวน์ทิ้งให้วางแช่บนโต๊ะข้างโซฟาอยู่อย่างนั้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยงาน สายตาจดจ่อกับหน้าจอ จนกระทั่งเริ่มดึกจึงเก็บของ แล้วเดินเข้าห้องนอน

เอกตามเข้ามา

ผมปิดไฟ เปิดแอร์ ก่อนจะทิ้งตัวนอนและดึงผ้าห่มคลุมถึงอก หลับตานิ่งสงบราวอยู่ตัวคนเดียว

“...คุณหลับได้แล้วเหรอ” น้ำเสียงนั้นเจือความยินดีระคนเหงาหงอยเมื่อไม่เห็นผมกระสับกระส่ายเหมือนเคย

รู้สึกถึงน้ำหนักที่นั่งเคียงข้างพร้อมปลายนิ้วอุ่นแตะข้างแก้ม ลมหายใจผมสะดุด กลัวว่ามันจะทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมา แต่เอกเพียงช่วยเกลี่ยเส้นผม ก่อนจะผละถอยออกไป

“ราตรีสวัสดิ์ครับ”

ผมรอจนมั่นใจว่ามันเดินออกไปแล้วจึงค่อยลืมตาอีกครั้ง

มือกำผ้าห่มแน่น รู้สึกว่าหมากตานี้ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ดีอกดีใจขึ้นมาสักนิด




เช้าวันต่อมา ไม่มีวี่แววคนนอนเคียงข้าง

ผมนึกว่ามันจะหน้าด้านหน้าทนขนาดเข้ามานอนด้วยซะอีก แต่คงจะคิดผิดสินะ

ดวงตากะพริบปริบ ขับไล่ความรู้สึกมึนๆ จากความดันจนต้องนั่งปรับสายตาสักพักกว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ผมผูกเนคไทพลางมองเงาตัวเองในกระจก พบริ้วรอยของวัยที่ไม่อยากจะเห็น สงสัยต้องหาเวลานอนให้เต็มอิ่มและออกกำลังกายสักหน่อยแล้ว

ผมเดินออกจากห้องนอน ถือกระเป๋าทำงานติดมาด้วย แต่เดินได้เพียงสองก้าวเอกก็ถือกาแฟเข้ามา กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วอย่างดีแถมยังมีฟองนุ่มอย่างที่ผมชอบ มันสวมแค่กางเกงนอนตัวเดียว เปลือยอก ทำตัวตามสบายเหมือนตอนที่เรายังคบกัน

“ผมเตรียมอาหารเช้าให้คุณด้วย ไข่ดาวไม่สุกกับขนมปังปิ้งกำลังดี กินด้วยกันนะครับนาย”

ผมเหลือบมองโซฟาที่มีหมอนและผ้าห่มสำหรับแขกวางกองไม่เป็นระเบียบ เป็นคำตอบว่าเมื่อคืนมันนอนตรงไหน หึ ทำมาเป็นรู้ดีกลัวโดนผมถีบตกเตียงหรือยังไง แล้วดูทำหน้าเข้า วันนี้มันทั้งเว้นระยะห่างและพยายามไม่พูดเย้าแหย่ สงบเสงี่ยมเจียมตัวจนรู้สึกแสลงตา

“นาย...”

ผมเดินสวนมันออกจากห้อง ไม่แม้แต่จะหันมองหรือสนใจ เอกก็ไม่กล้าพอจะเดินตาม ปล่อยให้ผมขับรถไปบริษัทอย่างราบรื่น

แต่ถึงจะไม่เห็นหน้า มันก็ไม่วายส่งตัวแทน

เที่ยงตรง เลขาของผมที่ไม่รู้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ยังไงถือกล่องข้าวใหม่เอี่ยมส่งให้ด้วยท่าทางลำบากใจ

“เอ่อ...มีคนฝากมาให้ท่านประธานน่ะค่ะ”

ผมบอกให้เธอเอาไปทิ้ง

เย็นวันนั้น ผมทำงานล่วงเวลาและแวะรับประทานอาหารก่อนกลับ แม้ค่อนข้างมั่นใจว่าเอกคงไม่กล้าลางานหลายวัน แต่กว่าจะถึงห้องก็เกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว

เป็นอย่างที่คิด เอกไปคลับแล้วจริงๆ

ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าจะปนมาพร้อมความโหวงแหวงในอกก็ตาม ก่อนจะสะดุดตากับกระดาษบนโต๊ะ ทำเอารู้สึกลังเลขึ้นมาวูบหนึ่ง ถ้าไม่อยากจะสนผมก็ควรทำเป็นไม่เห็นสินะ แต่ในเมื่อมันเองก็ไม่อยู่ห้อง ผมจะเข้าไปดูสักนิดคงไม่เป็นไร

‘มีลาซานญ่าอยู่ในกล่องเก็บความร้อนที่ไมโครเวฟ ถ้าคุณหิวก็จัดใส่จานได้เลย

ปล.ผมทำสูตรเดียวกับที่เคยทำให้ วันนั้นคุณทานจนหมด แสดงว่าคุณชอบมากสินะ’

ไอ้ลาซานญ่าแบบผสมผสานจนแทบไม่เหลือรสเดิมน่ะเหรอ

ผมไม่อาจตอบได้ว่าไม่ชอบ เพราะรสชาติอร่อยแปลกใหม่ แต่ถ้าบอกว่าชอบ...ก็ไม่ใช่อีกเพราะไม่ใช่อย่างที่เคยกินเป็นประจำ

ความพิเศษของเอกคือรสอาหารของเขาไม่เหมือนกับที่ไหน

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเครื่องผูกมัดผมได้

ผมทิ้งกระดาษไว้ที่เดิม ทำเหมือนไม่เคยอ่านและทำตามกิจวัตรประจำวันของตัวเอง

คืนนั้น...

ในความมืดผมรู้สึกตัวตื่นแต่ไม่ลืมตา ได้ยินเสียงเท้าแผ่วเบาเข้ามาใกล้และหยุดนิ่ง ผมรู้ทันที...มันกำลังยืนมองผมนอนหลับอย่างที่เคยทำ พอใจกับการเฝ้ามองอย่างเงียบงัน แอบว่าผมบ้าง ช่วยดึงผ้าห่มให้ผมบ้าง ก่อนจะกลับออกไป

ตอนนั้นผมนึกประหลาดใจแกมขบขัน

ส่วนตอนนี้...

มันจุกตื้ออย่างบอกไม่ถูก




เท้าของผมเหยียบบนแผ่นกระดาษทันทีที่เดินออกจากห้องนอนในเช้าวันต่อมา

วูบหนึ่งผมคิดด่ากราด เกลียดนักคนที่ทำให้ห้องสกปรก แต่พอมองไปรอบๆ ก็พบว่าทุกอย่างยังคงสะอาดเอี่ยมดี เผลอๆ จะมีคนช่วยถูพื้นใหม่ให้ด้วยซ้ำ จึงก้มหยิบกระดาษที่ว่าขึ้นมาดู

ลายมือเป็นระเบียบถูกเขียนจนเต็มหน้าด้วยคำสามคำ

‘ผมขอโทษ’

ผมเลิกคิ้ว หันไปมองเอกที่นอนคลุมโปงบนโซฟา ในที่สุดมันก็เลิกพยายามอย่างเปล่าประโยชน์สักที ก็ดี ผมขย้ำกระดาษแล้วโยนไปบนตัวมัน นึกเคืองในใจว่ามันคิดให้ผมเป็นอาจารย์ ส่วนมันเป็นเด็กประถมที่คัดลายมือส่งเมื่อทำความผิดรึไง

คิดง่ายไปแล้ว





เที่ยงวันนั้นไม่มีของอะไรมาส่ง ผมนั่งรอจนถึงบ่าย เมื่อมั่นใจว่าไม่มีจริงๆ เลยตัดสินใจเลิกงานตรงเวลาไม่เถลไถล อย่างไรซะเอกก็คงไปที่คลับ เลิกวุ่นวายไร้สาระกับผมแล้ว

แต่ผมคิดผิดอีกครั้ง

“เหนื่อยหน่อยนะครับ”

บริษัทของผมไม่มีที่จอดรถในตึกเพราะไม่ใช่สำนักงาน แต่ใช้ลานกว้างร่วมกับระแวกใกล้เคียงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ และเพราะเหตุผลนี้เอง...เอกจึงสามารถทำตัวกลมกลืนเข้ามาอย่างง่ายดาย แถมยังสูบบุหรี่ยืนพิงกรอบประตูรถเฟอรารี่สีแดงราวเป็นเจ้าของเสียเอง

ผมเห็นมันตั้งแต่ไกลๆ แล้ว และเกือบจะชักเท้าหันหลังกลับเปลี่ยนไปเรียกแท็กซี่หน้าบริษัทเพื่อปล่อยให้เอกยืนรอเก้อ แต่มันดันเห็นผมไวพอกัน แถมยังโบกมือทักทายซะด้วย ถึงขนาดนั้นผมก็ไม่อาจถอยหนี ยังไงซะมันก็ไม่มีตัวตนในสายตาผมอยู่แล้ว จะกลัวอะไรล่ะ

ใช่...จะกลัวอะไร แม้ว่าทันทีที่ผมปลดล็อกประตู เอกจะเข้าไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับก็ตาม!

ผมไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเปรยกับการกระทำน่าโมโหของมันจริงๆ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้...คือการไม่มองไม่สนใจกับคนหน้าหนาที่รัดเข็มขัดซะเรียบร้อย แล้วยังหันมาจ้องตาแป๋วเหมือนรอให้ผมออกรถเสียที

ให้ตายเถอะ! ผมอยากจะตวาดเหลือเกิน อยากขับไสไล่ส่งให้มันลงไปกลิ้งกับพื้น แต่ถ้าทำลงไปพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า และเข้าทางเอกอย่างจัง

คล้ายได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเพื่อระวัดระดับความอดทน ผมขมวดคิ้วมุ่น ขับรถออกนอกลานกว้างก่อนที่จะมีใครมาเห็น

“ร้านอาหารตรงหัวมุมนั่นอร่อยนะครับ” ขับได้ไม่นานคนอยู่ไม่สุกก็เริ่มเปิดปากชี้มือบอกทิศทาง “เมนูแนะนำคือปลาทอดสมุนไพร คุณชอบนี่ครับ ลองแวะกันหน่อยมั้ย”

แน่นอนว่าไม่ ผมเลี้ยวรถเข้าไดรฟ์ทรูเพื่อซื้อเบอร์เกอร์กลับไปกินที่ห้องแม้ว่าจะไม่ชอบพวกอาหารขยะ แต่นับเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องรอนานและไม่ต้องทนนั่งกินข้าวกับคนข้างๆ ด้วย

“ไม่เลวนี่...” เอกหลุดชมเมื่อเห็นการตัดสินใจของผม ทำเอารู้สึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นเพราะนานครั้งจะแก้เกมทัน แต่มันกลับหัวเราะร่วน ยกมือคล้ายจะแตะไหล่ผม แต่สุดท้ายก็ชักมือกลับ “คุณน่ารักชะมัด”

...โคตรอยากถีบมันลงรถเลย

พวกเรานั่งกันอย่างสงบเกินคาดจนมาถึงคอนโด น่าจะเพราะครั้งนี้ผมทำเอกเสียแผนอีกฝ่ายจึงยอมเลิกรา ทันทีที่รถจอดสนิทดี ผมก็รีบหยิบถุงเบอร์เกอร์สำหรับคนเดียวเดินเข้าลิฟต์ แต่พอหันหลังกลับเพื่อกดชั้นที่ต้องการ ดันไม่เห็นหัวของเอกตามเข้ามาซะนี่

...ผมกดเปิดประตูค้างไว้ก่อนจะลอบชะโงกหน้ามองโดยไม่ให้ส่อพิรุธ เห็นเงาของคนคุ้นเคยยืนคร่อมบนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ เพราะมองไม่ชัดจึงต้องโน้มตัวอีกเล็กน้อย ค่อยเห็นว่าในมือของเอกถือหมวกกันน็อกเตรียมสวม

มันหันมาสบตาพอดี

“ผมจะเข้าคลับเลย คุณขึ้นไปก่อนเถอะ ไม่ต้องรอ” น้ำเสียงนั้นนุ่มทุ้มบอกกล่าวธรรมดา แต่สำหรับผมเหมือนเป็นการล้อเลียนจนรู้สึกกระดากอายอย่างบอกไม่ถูก

ประตูลิฟต์ปิดลง ผมยกมือกุมขมับ

...ระฆังตีหมดยก รอบนี้แพ้ภัยตัวเอง




หากไม่นับตอนกลางคืนที่มันจะมายืนมองนิ่งๆ แล้ว  ทุกเช้าจะมีกระดาษเอสี่วางหน้าห้องอย่างเรียบร้อยโดยมีที่ทับกระดาษอันเล็กกันปลิว

ประโยคที่คัดจนเต็มหน้าจะต่างไปในแต่ละวัน

‘ยกโทษให้ผมนะ’

ตัวอักษรบรรจง เรียงแถวสวยงามเหมือนเอาไม้บรรทัดมาวัด ไม่โย้เย้ทำส่งๆ และมีน้ำหนักเท่ากันอย่างตั้งใจ

ผมยืนพิจารณาโดยไม่สนใจความหมายก่อนจะขยำกระดาษและโยนบนตัวเอกที่นอนคลุมโปงโซฟา

เที่ยงวันนั้น เลขาถือช่อดอกกุหลาบสีแดงด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

ผมโยนทิ้งใส่ถังขยะที่ว่างเปล่าในห้อง ปล่อยกลิ่นหอมลอยตลบ มั่นใจแล้วว่าเอกไม่ถอยง่ายๆ เมื่อวานมันแค่แสร้งทำให้ผมตายใจอย่างที่ถนัดก็เท่านั้น ฉะนั้นผมต้องนิ่ง ต้องเยือกเย็นให้มากที่สุด

ผมท่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยิ่งย้ำกับตัวเองในตอนเย็น เอกทิ้งก้นบุหรี่ทันทีที่เห็นผม ก่อนจะรีบเสือกตัวเองขึ้นนั่งเมื่อผมปลดล็อกจนน่าฉงนว่ากำลังเป็นสารถีให้มันหรือยังไงกัน

“เมื่อวานนี้ที่คลับมีพนันกันด้วย” เอกเริ่มชวนคุย ส่วนผมมองถนนแน่วแน่ “ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าควีนรู้เรื่องของเรา และยังสนับสนุน อ้อ จะว่าไปเรื่องเครื่องอัดเสียงก็เป็นฝีมือควีน ผมลืมบอกเรื่องนี้สินะ ควีนส่งต่อให้กับหมอบ เรืออีกคนของคลับ แล้วโดนคุณนิดขโมยไป หรือก็คือเรื่องที่ผมทะเลาะกับคุณพวกลำดับสูงในคลับรู้กันเกือบหมด”

ว่าไงนะ!!!

ผมอยากจะตะโกนลั่นอย่างโมโห แต่ทำได้เพียงท่องยุบหนอพองหนอในใจ

“พอเห็นผมง้อไม่สำเร็จก็เลยเริ่มตั้งโต๊ะพนัน คิงส์คลับชอบเรื่องตื่นเต้นท้าทายอยู่แล้ว อัตราส่วนตอนนี้คุณได้มากกว่าผมอีก โดยเฉพาะควีนที่แทงข้างคุณไปตั้งเยอะ”

“...”

“แต่ควีนมากระซิบลับหลังผมว่าถ้าเขาไม่กล้าลงมากๆ คนอื่นคงไม่มีใครแทงข้างนาย” เอกหัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนความจริงแล้วทุกคนจะเชียร์ผมนะครับ”

“ฉัน...!!”

ซวยแล้วไง

เพราะกำลังขับรถอยู่ผมเลยทำได้เพียงกัดปาก และอดที่จะหันไปมองเอกด้วยใจนึกหวั่นไม่ได้ เป็นไปตามคาด...มันจ้องผมตาประกายวาวระยับเหมือนถูกแจ็คพ็อต ผมตกหลุมมันอีกแล้ว!

“ผมไม่คิดจะเอาชนะคุณหรอกนะ เรื่องแบบนั้นไม่สำคัญเลย ผมยอมให้คุณชนะร้อยครั้งพันครั้งก็ได้ถ้านั่นทำให้คุณยอมยกโทษให้” เอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจัง “ผมรอคุณได้ทั้งชีวิตนั่นแหละ แต่คุณล่ะ...”

ผมลอบกลั้นใจอย่างตั้งใจฟังโดยไม่รู้ตัว

“อายุคุณก็ไม่ใช่น้อยแล้ว ผมรอคุณได้อีกนาน แต่คุณจะรอได้ถึงเท่าไหร่ อย่าประวิงเวลาเลยครับนาย คุณกำลังเสียเปรียบอยู่นะ ปูนนี้แล้วต้องรีบกอบรีบโกย...”

ผมยื่นมือไปตีหัวมันอย่างอดไม่อยู่ ทำเอาเอกหน้าคว่ำเกือบกระแทกคอนโซลรถ แต่ก็ยังไม่วายมือไวคว้ามือผมไปจูบเบาๆ อย่างรวดเร็ว มันหัวเราะลั่น ส่วนผมนั่งขนลุกไปทั้งตัว

“คุณน่ารักชะมัดเลย”

เกลียดมันเป็นบ้า!



(ต่อด้านล่าง)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'



เช้าวันต่อมากระดาษคัดลายมือกลับกลายเป็นประโยคคำชมที่ผมไม่ต้องการ

‘คุณน่ารักจัง’

ผมบี้กระดาษเละกว่าทุกที แถมยังฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโปรยใส่ตัวเอกอย่างฉุนเฉียว

ฝันไปเถอะว่าผมจะระทวยเหมือนเด็กวัยรุ่น!





 “อะไรน่ะ”

เที่ยงวันนั้น ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นเลขา ‘โอบ’ กล่องของขวัญขนาดใหญ่เข้ามา

 “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะท่านประธาน”

...เล่นลูกไม้อะไรอีกเอกภพ

ผมโบกมือให้เลขาออกไปก่อนจะแกะกล่องดู ปรากฏว่าเจอกล่องขนาดเล็กอีกอันอยู่ข้างใน

แกะอีก เจอกล่องซ้อนอีก

ชั้นแล้วชั้นเล่า

ผมชักโมโห นึกได้ว่ามันคงเอาคืนที่ผมฉีกกระดาษเมื่อเช้าเลยเขวี้ยง กระแทกพื้น เสียงขลุกขลักดังขึ้น ผมมองอย่างนึกฉงน ที่แท้มันไม่ได้ใส่กล่องเปล่ามาแกล้งหรอกหรือ

นั่งชั่งใจคิดอยู่พักใหญ่ ผมก็ตัดสินใจเดินไปหยิบมาแกะต่อ ต้องสะกดอารมณ์ไม่ให้เดือดดาลเพราะเจอซ้อนอีกสองชั้น กว่าจะเจอกับตุ๊กตาล้มลุกตัวหนึ่ง...หน้าตา...ไม่นับว่าดี เพราะรอยยิ้มกว้างเกินเหตุ ดูไม่ทุกข์ร้อน แถมยังสวมเสื้อเขียนหมายเลข ‘หนึ่ง’ ไว้ซะด้วย

ส่งตัวแทนมารึไง

ผมโยนทิ้ง แต่พอมันล้มกลิ้งสามตลบก็ลุกขึ้นมาปั้นหน้าระรื่นใส่

ผมเดินไปเตะ เจ้าตุ๊กตาโอนเอียงเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ตั้งตรงเหมือนเดิม

“...”

ผมโทรเรียกเลขาให้มาจัดการเศษขยะที่กองเต็มห้องเพราะถังขยะถูกช่อดอกไม้จับจองพื้นที่จนไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีก เลขาเดินยิ้มๆ เข้ามา ก่อนจะเอ่ยชมตุ๊กตาล้มลุกบนโต๊ะทำงานของผม

“น่ารักดีนะคะ”

ผมไม่ตอบ ลับหลังเลขาก็ดีดนิ้วใส่ตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ริมโต๊ะทำงานอย่างไม่ใส่ใจ มันหมุนรอบตัวเองสามร้อยหกสิบองศา โยกเยกไปมาน่าหมั่นไส้จนเผลอเล่นหลายครั้งพร้อมอารมณ์ขมุกขมัวที่เบาบางลง

ของชิ้นนี้ไม่เลวเลย





“คุณชอบมั้ย”

ระหว่างทางกลับบ้าน ผมหยิบหูฟังใส่เพื่อบ่งบอกว่าวันนี้ไม่ว่ามันจะพล่ามอะไรก็แล้วแต่อย่าคิดว่าผมจะมีส่วนร่วมอีก แม้จะได้ยินเสียงพูดลอดเข้ามาเบาๆ ก็ตาม

เอกส่ายหน้าน้อยๆ ผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ เงาที่สะท้อนกับกระจกรถทำให้เห็นโดยไม่ตั้งใจน่ะสิ

สักพักเอกก็ฮัมเพลงออกมา

รู้ตัวอีกทีผมเบาเสียงหูฟังไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ




ตกกลางคืน ผมตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกแน่นท้องจนนอนไม่สบาย

ดูเหมือนสามวันกับอาหารขยะจะทำพิษ เริ่มมีอาการท้องอืดตามประสาร่างกายที่เริ่มเสื่อมสภาพและย่อยยาก ผมเดินไปหายาในห้องน้ำ ก่อนจะจำได้ว่าเอกย้ายไปไว้ในห้องครัว แต่พอรื้อดูก็พบแต่ยาแก้ไข้กับยาแดงทาแผล ผมทั้งง่วงทั้งจุกในท้องจึงอารมณ์ไม่ดี ควานหาอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงคนใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามา

เอกเอาเสื้อนอกพาดบ่า อ้าปากหาว ก่อนจะชะงักในท่านั้น พวกเราสองคนสบตาโดยไม่ตั้งใจ

“คุณตื่นขึ้นมาหายาเหรอ” เอกตาไว พอเห็นผมถือกล่องยาเลยรีบเข้ามาแตะหน้าผากและซอกคอโดยไม่มีความคิดอกุศลเจือปน แต่สัมผัสอุ่นๆ ที่ไม่ได้เจอมานานกลับทำเอาผมลอบสะดุ้งเหมือนไม่คุ้นชินซะได้ จะว่าไปผมก็ไม่แตะต้องตัวใครมาหลายวันทั้งที่เคยหักโหมกับกิจกรรมบนเตียงอย่างต่อเนื่อง

“ก็ไม่มีไข้นี่”

ผมไม่ตอบ วางกล่องยาทิ้งไว้และรีบเดินเข้าห้องเพื่อหลีกเลี่ยงการใกล้ชิด แต่เอกกลับจับต้นแขนรั้งเบาๆ

“รู้สึกไม่สบายตรงไหนบอกผมสิ ผมลงไปซื้อยาให้คุณได้นะ”

ผมสะบัดแขนหนี แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงมือมันก็ไม่ต่างกับปลาหมึก

“อย่าฝืนตัวเองน่าคุณ ถ้าป่วยเรื้อรังจะทำยังไง”

...แค่เรื่องถ่ายท้องคงไม่เรื้อรังหรอกมั้ง

คงเพราะเห็นผมไม่ยอมพูดยอมจาแถมยังไม่หันไปมองสักครั้งเอกก็ยอมแพ้ ถอนหายใจเฮือก ยอมปล่อยมือให้ผมกลับไปนอนต่อ

ได้ยินเสียงกุกกักเพราะเอกเข้ามาอาบน้ำ ทุกวันหลังจากสวมกางเกงตัวเดียวมันจะยืนกอดอกจังก้ามองผมยามหลับห่างๆ บ่นพึมพำแล้วกลับออกไป

“อย่าทำให้ผมเป็นห่วงนักจะได้มั้ย ตาแก่หัวดื้อ”

...ปากมันน่าจับตีจริงๆ





อย่างที่คิดไว้ไม่ผิด กระดาษคัดลายมือของเช้าวันต่อมาคือประโยคหวานๆ จากเมื่อคืน

‘ผมห่วงคุณนะ’

เห็นแล้วรู้สึกแสลงชอบกลเหมือนว่าอาการท้องอืดครั้งนี้หนักหนาสาหัส ผมขยำกระดาษโยนใส่เอกตามเคย พอจะออกจากห้องก็นึกลังเล วกกลับมาดึงผ้าห่มที่คลุมหน้าให้มันนอนหายใจสะดวก เพราะขนาดผมเองเห็นแล้วยังรู้สึกอึดอัดจนทนไม่ได้

ใบหน้ายามหลับที่เรียบนิ่งเหมือนคนไร้พิษสงและไม่คิดอะไรพิเรนทร์นั้นคล้ายไม่ได้เห็นมานาน ปกติแล้วผมจะตื่นก่อนมันเสมอเลยคุ้นชินกับภาพนี้ ชวนให้รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ

ผมยืนมองสักพักก่อนจะออกไปทำงาน ไม่ลืมแวะซื้อยาแก้ท้องอืดและบอกเลขาให้สั่งอาหารชีวจิตมาเป็นมื้อเที่ยง ผมมองอาหารที่เต็มไปด้วยสีเขียวอย่างไร้รสยิมแล้วนึกแหยง คนกินตามใจปากขอแค่รสชาติอร่อยอย่างผมทำแบบนี้ก็เหมือนให้ฝืนกินยาขมชัดๆ

ไม่นานเลขาก็เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องข้าวกล่องหนึ่ง

“มาส่งแล้วไม่ใช่รึไง”

“เอ่อ...อันนี้มาจากคุณคนเดิมน่ะค่ะ”

ผมเลิกคิ้ว รอจนเลขาออกไปจึงเปิดกล่องดู เป็นข้าวกับเต้าหู้ผัดและสารพัดเห็ด เทียบกับอาหารที่สั่งในราคาหลักร้อยกับกล่องข้าวในราคาสักสิบแล้ว...ผมเลือกรับประทานอันหลัง

ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่เอกก็รู้ใจผมจริงๆ





เย็นวันนั้นผมตัดสินใจแวะร้านอาหารที่มันพูดชวนตั้งแต่วันแรกเพื่อไม่ให้รู้สึกติดค้างบุญคุณ

“ผมเลี้ยงนะ”

ผมสั่งเมนูแนะนำปลาทอดสมุนไพรเป็นคำตอบ ปล่อยให้เอกที่นั่งตรงข้ามยิ้มเล็กยิ้มน้อยน่าขนลุกสิ้นดี พออาหารมาเสิร์ฟก็รีบกระตือรือร้นช่วยตักกับข้าวให้ผม แกะก้างปลาวางเป็นชิ้นๆ

ข้อดีของเอกคือไม่ได้เอาใจส่งๆ เหมือนพวกคู่นอนคนอื่นที่ชอบตักเอาทุกอย่างมากองบนจานผม แต่มันคอยตักทีละอย่างสลับกันเพื่อไม่ให้อาหารเสียรสชาติ และสังเกตตลอดเวลาว่าผมชอบอะไรเป็นพิเศษ

พอเดินกลับมาที่รถเอกก็ฉวยกุญแจในมือผมไปถือ

“ผมขับให้นะ”

เมื่อมีคนเสนอตัวเป็นสารถีผมก็ไม่ขัด

อาจเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ พอหนังท้องตึงหนังตาเลยเริ่มหย่อน ตอนแรกแค่อยากพักสายตา แต่กลายเป็นว่าเผลอหลับลึกโดยไม่รู้ตัว




สะดุ้งตื่นอีกครั้งตอนกลางดึก ผมกะพริบตาปริบมองรอบกาย ไม่น่าเชื่อว่าผมจะหลับสนิทชนิดที่เอกอุ้มขึ้นมาบนเตียงโดยไม่รู้ตัวสักนิด ผมสำรวจตัวเอง พบว่ายังสวมเสื้อตัวเดิมแต่สูทถอดพาดวางข้างๆ แสดงว่ามันยังไม่กล้าจับผมแก้ผ้าเปลี่ยนเสื้อตามใจชอบ

ผมลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ พอเห็นแสงจากใต้ประตูก็ลอบประหลาดใจเพราะนี่ปาไปตีห้า เอกควรจะนอนแล้ว

ผมแง้มประตู เห็นคนคนหนึ่งกำลังนั่งตรงโต๊ะอาหาร ถือปากกาบรรจงเขียนอะไรบางอย่าง

“วะ อีกแล้วเหรอเนี่ย!”

เอกขยี้หัวเมื่อมือเลอะปากกาแล้วเผลอปาดกระดาษจนเป็นทางยาว ใต้เท้าของมันมีกระดาษเสียขย้ำทิ้งเต็มไปหมด บางแผ่นคัดไม่ตรง บางแผ่นเขียนผิด บางแผ่นไม่สวย ผมมองภาพนั้นแล้วรู้สึกขำอย่างบอกไม่ถูก เผลอยืนอยู่นานจนชักเมื่อยจึงกลับไปนอนต่อ

คราวนี้หลับสนิทยาวถึงเช้า




‘อยากดูแลคุณ’

ผมมองข้อความในกระดาษด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

เอกเก็บกวาดหลักฐานซะเรียบ อาจจะขนไปทิ้งในถังขยะใหญ่ตรงทางหนีไฟข้างนอกก่อนจะกลับเข้ามา ใครเลยจะเชื่อว่าแค่กระดาษแผ่นเดียวทำเอาผู้ชายสัปหลับคนหนึ่งทะเลาะกับมันได้ค่อนคืน

ครั้งนี้ผมขยำไม่ลง แต่ถ้าวางไว้เฉยๆ เอกคงได้ใจ เลยจำใจเก็บไว้กับตัว

ให้มันนึกว่าผมเอาไปทิ้งแล้วกัน




แต่ประโยคแรกที่มันทักทันทีที่ขึ้นรถในตอนเย็นคือ...

“คุณเก็บกระดาษไว้เหรอ”

...ดูถูกมันไม่ได้เลยจริงๆ!

“ผมดีใจนะที่อย่างน้อยคุณก็ไม่ขยำทิ้งแล้ว”

ผมไม่ตอบ เลี้ยวเข้าร้านอาหารเพราะเริ่มรู้ตัวว่าจะทรมานตัวเองไปทำไม เมื่อตอนเที่ยงเอกทำอาหารมาให้ เจอรสชาติอร่อยเข้าไปก็ไม่อยากจะกลับไปกินอาหารขยะพรรค์นั้นแล้ว

“ผมเลี้ยงนะ”

ผมพยักหน้าส่งๆ ก่อนจะชะงักเมื่อเผลอแสดงกิริยาตอบรับมันไป

ครั้งนี้เอกไม่ล้อเลียนหรือกล่าวชม มันเพียงหัวเราะเบาๆ เหมือนสายลมอุ่นลอยเฉื่อย

...ผมชักลืมแล้วว่าเราสองคนกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ก่อนจะฉุกใจคิดได้ว่าผมกำลังโกรธ อยากจะตัดขาดกับผู้ชายคนนี้อยู่ต่างหาก

อย่าลืมจุดประสงค์แรกเริ่มสิเจ้านาย

-------

เจอคนอย่างพี่เอกนี่รับมือยากสุดๆ! พี่แกทุ่มคือทุ่ม! ตั้งแต่เปิดเรื่องมาคือใส่เกียร์เดินหน้าไม่มีหยุด เป็นคนที่ทั้งรักทั้งหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน 555

อย่าว่าแต่นายที่แพ้ ไอ้เราก็พ่ายแพ้ยกให้ทั้งใจเลยค่า เจอแบบนี้ใจแข็งแค่ไหนก็อ่อนยวบค่ะ อยากด่าไปจูบไป หมั่นไส้ปนเอ็นดู 555


ตอนหน้ากลับมาเจอมุมพี่เอกจอมมารยาและคุณนิดกับสมรกันค่ะ

   เพจนักเขียนที่อิจฉาตาร้อนเจ้านายเหลือเกิน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อือออออ. ยอมใจเด็กชายเอกภพคนที่นั่งคัดลายมือก่อนนอนจังค่ะ
คนแก่ต้องดูแลสุขภาพสิคะ. อย่าเครียดเลยน่า ปูนนี้แล้วยังคิดจะตัดสามีออกจากชีวิตอีกเหรอ. สามีเด็กนะคิดอีกทีสิคะนาย.
ขอบคุณค่ะ บอกเลยว่านายใจแข็งมากๆ เป็นเราจะระทวยตั้งแต่ตอนเดินมาวัดไข้แล้วนะ

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
ยอมแล้ววว T////T
พี่เอกกกกก  :-[

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
คนมันมีใจอ่ะเนอะเจ้านายยยยย ใจอ่อนหน่อยน๊า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ทุ่มเทให้ชั้นบ้างงง ทูนหัวววว

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อย่าเพิ่งใจอ่อนนะคะนาย ขออีกนิดให้พี่เอกง้อไปก่อน :laugh:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่เอกกกกกกก ฮืออออออ ดีต่อใจ ตอนนั่งคัดลายมือต้องน่ารักมากแน่ๆ โอ้ยยย นายไม่เอาเราเอาค่ะะะะ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :laugh: นายเริ่มใจอ่อนล่ะ..เอกสู้ๆ..อีกนิดเดียวจะได้เผด็จศึกล่ะ.. :jul3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด