ใครเล่นทวิตตต อย่าลืมแฮชแทก #ฟ้าลั่นรัก นะคะ
ตอนที่ 12
สองร่างนอนเกยกันอยู่บนเตียง…คนตัวขาวเปลือยเปล่านอนซุกอยู่ในอ้อมแขนสีแทน นาฬิกาปลุกดังจากมือถือบนหัวเตียง
คนป่วยที่เหน็ดเหนื่อยทั้งคืนทำเสียงรำคาญมุดหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง
ตาคมปรือช้าๆยื่นมือขึ้นไปหยิบมือถือมากดปิดเสียง…คางวางบนกลุ่มผมนิ่มมองจอโทรศัพท์…แปดโมงกว่า
สิบโมงครึ่งมีเรียนวิชาที่ต้องเรียนรวมกับสถาปัตย์ แต่จากอุณหภูมิเชอเบท…อยากให้นอนพักมากกว่า เมื่อคืนทำแค่รอบเดียวแต่มัน
ปวดท้องอยู่แล้ว
แขนกระชับกอด…ขายาวสอดเข้าไประหว่างขาขาว….เสียดสีกับผิวเนื้อด้านในเล่น
“ฮื้อออจะนอน”
หัวเราะทุ้มต่ำหยุดซนให้คนขี้เซานอนต่อ หันมาสนใจกับมือถืออัพเดทพวกแชทในแอปต่างๆ จะว่าไปก็ไม่ได้อัพรูปในไอจีมานานแล้วนะ?
นิ้วกดเข้าไอจีมองดูรูปตัวเองที่ส่วนมากเป็นรูปตั้งใจถ่ายผ่านกล้องโปร…มีคุมโทนตามประสาคนสนใจเรื่องกล้องบ้าง คนติดตามก็หลักหมื่น
คนฟอลใหม่ๆก็มีแต่ไม่ได้สนใจ นิ้วกดสลับมาที่เฟสบุคเลื่อนดูไทม์ไลน์ มีทั้งข่าวกีฬามหาลัยที่กำลังเป็นที่สนใจทุกคณะ ข่าวทะเลาะกันที่สนามบาสไม่มีไม่งั้นคงซวยกันหมด
“กี่โมงแล้ว”
เสียงสะลึมสะลือ…จมูกขาวขยี้ไปกับแผ่นอกสีแทน
“เก้าสิบห้า”
ปลายจมูกโด่งแตะเบาที่หน้าผากเนียนที่เงยขึ้นมา
“เชี่ยมีเรียน”
“โดดก็ได้”
ฟ้าลั่นยกยิ้ม
“เดี๋ยวปริ๊นเหงา กูนอนต่ออีกหน่อย มึงอาบน้ำก่อนเลย”
ฟ้าลั่นหอมแก้มเนียนอีกฟอดใหญ่ก็ลุกไปอาบน้ำแล้วออกมาใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมส่วนเสื้อยับจนไม่รู้จะยับยังไง ค่อยไปใส่เสื้อยืดที่มีติดรถกับเสื้อคลุมคณะเอา
“เชอตื่น”
“อือ…”
งัวเงียพาร่างเปลือยเปล่าขอตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ…ขาลากและมีคราบน้ำที่แห้งกรัง ผมยาวจรดบั้นเอวที่แม้ไม่ได้กลมกลึงเด้งเหมือนก้นผู้หญิงแต่รอยมือแดงๆที่ฟาดไปเมื่อวานยังชัด…เซ็กซี่
ฟ้าลั่นเดินไปจัดการเตรียมอาหารง่ายๆ อุ่นพิซซ่าที่ยังเหลือเมื่อคืน ปกติเขาไม่กินอาหารประเภทนี้เพราะเป็นคนรักสุขภาพ แค่เหล้าเบียร์บุหรี่ก็ทำร้ายตัวเองเกินไป
สงสัยต้องหาเวลาเข้าฟิตเนสสักที ตัวติดกับเชอเบทมาทั้งอาทิตย์ยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย
“มีไรกินวะ พิซซ่าหรอ”
อาบน้ำจนหอมกรุ่นใส่เสื้อนิสิตแขนยาวติดกระดุมคอและแว่นวินเทจ
“สายตาสั้นหรอถึงใส่”
“ข้างละห้าสิบ ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง เชี่ยหิวสัส”
ฟ้าลั่นกินแค่ชิ้นเดียว ส่วนเชอเบทซัดไปสามชิ้นรวดกับไก่น่องสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่
“เสื้อมึงอ่ะ?”
“ค่อยไปเอาในรถ”
พยักหน้าหงึกๆเดินไปล้างมือ ฟ้าลั่นเดินไปล้างจานปล่อยให้อีกคนวุ่นวายกับการเตรียมอุปกรณ์การเรียนของตัวเองที่อีกห้อง
“ไปเหอะเดี๋ยวสาย”
ลุคเซอร์ไม่ได้เข้ากับนิสัยกลัวไปเรียนสาย ยิ่งไปเรียนก็กลับในห้องแบบที่เคยเห็น
“มีกระดานวาดรูปด้วยหรอ?”
“อือ ดรออิ้งอ่ะ จริงๆปีสามไม่เรียนแล้วแต่วันนี้รับปากหลานรหัสจะไปสอนมันเลยเตรียมไปด้วย”
ฟ้าลั่นพยักหน้าก่อนดึงกระเป๋าใส่กระดานวาดรูปมาสะพายไหล่ไว้เอง ให้อีกคนก้มลงใส่รองเท้าหนักได้สะดวกของเขาใส่ง่ายแค่คัทชูหนังสีน้ำตาล สอดเท้าเข้าไปก็เสร็จเลย
“เชี่ยเอ้ยเจ็บตูด!!!!”
ขำก๊ากเมื่อเชอเบทเผลอเดินชนประตูรั้ว
“เชี่ย ขำไรสัส มึงแม่ง!!!”
“โอเคไม่ขำๆ หึหึหึหึหึ”
“เชี่ยฟ้า เกลียดมึงจริงๆเลยว่ะ”
“หึหึ เกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะเว่ย”
“สัสขยี้หัวกูทำเหี้ยไรเนี่ย”
โวยวายกันแต่เช้า
“เชออออ เป็นไงบ้างงงงงงงงง”
ฟ้าลั้นขอตั้งชื่อเพื่อนสนิทตัวเล็กของเชอเบทว่าหนูก๊อง มันดูก๊องแก๊งบ๊องแบ๊งวิ่งตะลุ้กปุ้กยังไงก็ไม่รู้ ท่าทางถลาเข้ามากอดเอวเพื่อนนี่อีก
“เออไม่เป็นไร เมื่อคืนเกียร์ส่งมึงถึงหอปะเนี่ย”
สองแขนล็อคคอเพื่อนตัวเล็กมากอดฟัดแก้มซ้ายขวา
“เชี่ยขนลุก กูกลับเองก็ได้ไม่เห็นต้องให้มันไปส่งเลย”
ดันตัวเชอเบทออกแต่ก็ไม่วายยังต้องยอมให้อีกฝ่ายโอบคอไว้
“ฟ้างั้นกูไปนั่งกับปริ๊นซ์นะ”
“ได้ๆ”
ยกมือลาแล้วเดินเข้าห้องไปก่อน มุมเดิมหลังสุดซ้ายที่เพื่อนจองไว้ให้ คณะเศรษฐศาสตร์เริ่มนั่งกันเต็ม สถาปัตย์ก็ประปราย
“วันนี้ใส่เสื้อยืดมาเรียนได้ไงวะเพื่อน”
ปิงเอ่ยทัก น้อยมากที่จะเห็นใส่เสื้อยืดแล้วมีเสื้อคลุมคณะทับ
“เสือกว่ะ แท๊ปจัดการดิ๊”
“วันนี้กูทีมปิง”
ยกนิ้วกลางให้เพื่อนแต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามเพราะอาจารย์เข้ามาแล้ว พวกเด็กสถาปัตย์ที่มากันช้าก็เริ่มทยอยเข้ามา เชอเบทกับเพื่อนก็นั่งกันแถวกลางๆ
จากมุมนี้เห็นชัด…เห็นว่ามีแต่ปริ๊นที่ตั้งใจเรียน
ส่วนเชอเบทก็ฟุบหน้าหลับ แว่นอันเดิมวางไว้ข้างๆ
เห็นแม้แต่ตอนมันสะลึมสะลือตื่นแล้วเอนตัวไปพิงไหล่ปริ๊นซ์หรือตอนที่มันหันไปหัวเราะกันเบาๆ
แม้กระทั่งตอนที่มันเขยิบไปไปดึงมือปริ๊นซ์มาจับ
หนูก๊องก็แค่บ่นแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออก…รู้ว่ามันสนิทกันขนาดเรียกันว่า ’เมีย’ แต่ไม่คิดถึงการสกินชิพในลักษณะนี้เลยสักครั้งเดียว
“ฟ้า หน้าเครียดไรวะ”
แท๊ปจับแขนถึงละสายตาไปมองจอข้างหน้า
“เหม่อๆน่ะ”
“กูเห็นเหมือนกัน…ไม่มีไรหรอก เพื่อนกันไม่ใช่หรอ”
เป็นครั้งแรกที่ใจมันหวั่นไหว…เพื่อนกันมันต้องสนิทกันขนาดนั้นเลยหรอวะ? ในใจเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นว่ามันกับเขาก็เพื่อนแล้วยังไง? ก็เกินเลยเหมือนกัน หรือมันจะเป็นแบบนั้นกับปริ๊นซ์ด้วย?
จบคาบเรียนชั่วโมงครึ่งสมุดโน้ตของฟ้าลั่นแทบไม่ได้เขียนอะไรเลย
“กินข้าวกันป่ะมึง”
แท๊ปตบไหล่เบาๆ ก็ได้แต่ลุกตามไป แต่ตามันก็ยังเห็นว่าคนผมยาวยังสะลึมสะลือมีปริ๊นซ์กำลังมัดผมให้อยู่
“ฟ้า หน้ามึงเหมือนเบื่อโลกเลยว่ะ”
ปิงมองข้าวที่เพื่อนตัวเองเขี่ยไปมา
“เฮ้อ ไม่ค่อยหิว”
“เป็นไรอ่ะ ไม่หร่อยหรอ”
เอาช้อนตักจานข้าวเพื่อนเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“หย่อย”
ฟ้าลั่นถอนหายใจกับปิง ส่วนแท๊ปกุมขมับ
“ปิง มึงกินไปสัส ฟ้ามึงก็กินอีกหน่อย”
“กูไปออกทริปดีกว่าว่ะ”
“หือ มีอารมณ์อยากถ่ายรูปแล้วหรอ”
ปิงเลิกคิ้ว…เพื่อนชอบถ่ายรูป บางทีก็ติดต่อสาวๆไปเป็นแบบให้ บางทีก็ถ่ายวิวถ่ายไปเรื่อย ฟ้าลั่นถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก แล้วมันก็ถ่ายสวยแต่ต้องตามอารมณ์
“ไม่มี แต่อยากไปไกลๆว่ะ”
“ไปดิ เผื่อจะคิดอะไรได้”
ฟ้าลั่นมองตาแท๊ปที่สื่อความหมายบางอย่างแต่ตัวเขาเองแสร้างเป็นไม่เข้าใจ…หันไปมองปิงที่ทำหน้าหมาโง่
“ปิง”
“ห้ะ”
“มึงนี่โง่จริงๆ”
“สัสฟ้า ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ปิง กินข้าวไปอย่าโวยวาย”
ยิ้มขำแท๊ปที่ยัดข้าวเข้าปากเพื่อน อย่างน้อยต่อให้โลกล่มสลาย…ไอ้ปิงก็ไม่เครียดแน่ๆ ข้าวเข้าปากแม่งก็ลืมว่าตัวเองโดนด่าหันไปกินต่อ
กินข้าวเสร็จก็กลับไปเรียน ไม่มีความจำเป็นต้องไปรับเชอเบท…รถมันก็จอดทิ้งไว้อยู่ที่นี่
“พี่ฟ้าลั่นครับบบบ”
ชะงัก…รุ่นน้องต่างคณะคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา ผมสีทองซีดสว่างไสวเด่นมาแต่ไกล เท้าที่กำลังจะเดินไปลานจอดรถเลยหันมาหาคนเรียกแทน
“ครับ?”
“คือว่าเดี๋ยวจบงานกีฬาจะมีงานเปิดบ้านมหาลัย สภานิสิตจะจัดละครเวทีครับแบบที่ปีที่แล้วจัดอ่ะครับ ละครเพลง”
“อ่าห้ะ แล้ว?”
“พี่ฟ้าสนใจเป็นพระเอกละครเวทีมั้ยครับ”
“เฮ้ย คนอื่นดีกว่ามั้ง”
“ปีนี้มีดาวเดือนปีสี่หลายคนครับที่จะจบ ปีก่อนเอาแต่ปีสองมาเล่น พี่ปีสูงๆเค้าบ่นกันว่าอยากได้พี่ๆที่ใกล้จบมากกว่าจะได้เก็บไว้คิดถึงกัน แหะๆ แล้วรุ่นพี่คณะอื่นๆบ้างก็ฝึกงาน แล้วพี่ฟ้าก็ดังสุดในรุ่นด้วย”
“แต่คนได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยปีพี่มันอยู่คณะอื่นไม่ใช่หรอ?”
“พี่เขาซิ่วไปแล้วค๊าบบบบบบ แหะๆ”
“อ้อ แล้วปีก่อนใครเล่น?”
“ปุ้นครับ ศิลปกรรม”
ไม่รู้จักแฮะ
“เล่นดิฟ้า พระเอกเลยนะเว่ย”
ปิงกระดี๊กระด๊า
“กูเล่นไม่เป็น”
น้องหน้าเสียแต่ก็คะยั้นคะยอ
“นะพี่นะ นะครับ บทเหมาะกับพี่สุดๆ ไม่เหมือนปีที่แล้วด้วย ปีก่อนเล่นแนวตะวันตกๆ รุ่นพวกผมจะทำแนวไทยๆบ้าง พวกสาวๆเค้าโหวตกันว่าพี่ฟ้าเหมาะสุดในสามโลก”
“บทไรวะ”
“พี่มากครับ ปีนี้จะทำแม่นาค พระโขนง….เวอร์ชั่น GTH อ่ะครับ”
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พี่มาก ดี๊ดี”
“นี่เอาฮาหรอวะ”
“แหะๆ สนุกนะพี่ นะพี่ฟ้ามาเล่นให้พวกผมเหอะ ไม่ได้ออกแนวไทยจ๋าครับ เวอร์ชั่นนี้จะแนววัยรุ่นสมัยเราๆนี่แหละแค่ฉากมันย้อนยุคเฉยๆ”
“…..ใครเป็นแม่นาค”
“พี่พิงค์ครับ ดาวรัฐศาสตร์ปีสี่ มีฉากสวีทนิดเดียวจริงๆพี่”
“อ๋อพิงค์ โอ้ยอิจฉา”
“แท๊ปๆ มาเอาเพื่อนมึงไปเก็บดิ๊”
แท๊ปที่พึ่งคุยกับอาจารย์เสร็จเดินตามมา ฟ้าลั่นรีบดันไอ้ปิงส่งต่อทันที
“งั้นก็ได้มั้ง พี่ต้องพูดอะไรไทยๆหรือเปล่า พี่ไม่เป็นเลยนะ”
“โอเคคร๊าบบบบบบบบบ ขอไลน์หน่อยครับ เดี๋ยวผมติดต่อไปมาซ้อมครับ มีชมรมการแสดงเทรนด์ให้ครับไม่ต้องห่วงเลย”
“แอดมาเลย”
ส่งมือถือตัวเองให้อีกฝ่ายแอด น้องตัวผอมๆ สูงแค่คาง ผมสั้นหน้าม้ากัดจนเป็นสีทองซีดแต่แต่งตัวเรียบร้อย
“ชื่ออะไรน่ะเรา?”
“เอ๋…ผมหรอครับ”
“อือ”
“ชื่ออาโปครับ อาโปที่แปลว่าน้ำ”
“ชื่อเพราะดี”
รับมือถือคืน ยิ้มขำกับท่าทางเขินอายของรุ่นน้องก่อนจะขอตัว
“เชี่ยฟ้าม่อเด็ก”
“ไม่ม่อสิแปลก”
“เชี่ยมึงสองตัว กูเสียหายว่ะ”
เด็กมันน่ารักก็ชมไปตามที่เห็นเอง
คืนวันเดียวกันเฟสบุคของฟ้าลั่นตั้งสเตตัส
“รับนางแบบผู้หญิงไปถ่ายชุดว่ายน้ำ(มีชุดมาเอง) 1 คนที่เกาะล้าน เดินทางพรุ่งนี้ ไม่มีค่าจ้างแต่ฟรีตลอดทริป ค้างหนึ่งคืน อินบ๊อกได้เลยครับ ”
“เชออออพี่ฟ้าลั่นเขาจะถ่ายรูปอีกแล้ว”
ปริ๊นเงยหน้าจากอกเพื่อนส่งมือถือให้ดู…วันนี้เชอเบทมานอนด้วยที่หอเพราะไปสอนหลานรหัสวาดรูปมาแล้วต้องมาทำรายงานกลุ่มกันต่อ และท่านอนประจำก็คอเชอเบทเห็นเขาเป็นหมอนข้างเหมือนเดิม ต้องดึงไปกอดไปฟัดจนชิน
“มันเป็นตากล้องหรอ”
อ้าปากหาวไถจมูกไปกับผมสั้นหอมแชมพู
“เค้าถ่ายบ่อยนะ รูปเค้าในเฟสเลยมีแต่สวยๆ อิจฉาเนอะๆๆๆ กูอยากมีรูปสวยๆบ้างจัง”
“ก็ไว้ให้มันถ่ายให้ดิ จะได้เลิกใช้รูปแมวเป็นรูปโปรไฟล์สักทีนะเมีย”
“เฮ้ยเค้าจะมาถ่ายให้ได้ไงเล่า”
“ไว้เจอมันจะถามให้ก่อน เค๊?”
“เย้ ฮ่าๆๆๆ”
ก้มหน้าลงไปเล่นมือถือต่อ ส่วนเชอเบทก็หาววอดกอดเพื่อนตัวเล็ก
“จะนอนแล้วหรอ เดี๋ยวกูไปปิดไฟก่อน”
“งื้ออออ มาเร็วๆเลย มึงตัวนิ่ม”
“สัส คนโว้ยไม่ใช่หมอนข้าง เดี๋ยวคิดค่ากอด”
หัวเราะไม่สนใจ ปริ๊นกลับมาที่เตียงก็ดึงเข้าสู่อ้อมแขนเหมือนเดิม
“เชอ มึงไม่หวั่นไหวกับพี่ฟ้าบ้างหรอวะ เห็นตัวติดกับเขาตั้งหลายวัน”
อ้อมแขนกระซับขึ้น…คนตัวเล็กซุกลงกับแผ่นอกอุ่น
“มึงก็รู้ กูคบใครไม่ได้”
================================================
เห็นเค้าลางความยุ่งยากและความหวั่นไหวหรือยัง 5555 เดี๋ยวอีกสองตอนจะเข้าใจนะคะว่ามันจะดราม่ายังไง อันนี้ถือว่าเป็นตอนที่
....เรียกผู้โดยสารเข้าสู่เครื่องบิน 555555 เมืองมาม่ากำลังรอเราอยู่ววววว
พี่ฟ้าหวั่นไหวหน่อยๆ แต่ดูฮีจะไม่รู้ตัวเนอะ? แล้วเชอล่ะ? หวั่นไหวอ้ะป่าววววน้าาา
หนึ่งเม้นของท่านคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่ของเรานะจะบอกให้ 555 ไม่เม้นในนี้ไปเม้าในทวิต ในเพจก็ได้น้าาา เราต้องการกำลังใจ
ปล . นิยายเรื่องนี้ได้รับการติดต่อรวมเล่มจากสำนักพิมพ์แล้วนะคะ <3