ตอนที่ 20
เชอเบทตัดสินใจออกกจากสตูดิโอเกือบเที่ยงคืน คิดว่าคงจะต้องเรียกแท็กซี่กลับเองวันนี้แต่ผิดคาด…ฟ้าลั่นยังนั่งกอดอกรออยู่ใต้อาคาร…แผ่นหลังกว้างพิงเสาตาหลุบลงเหมือนคนนั่งหลัง…
คงจะนอนไม่ค่อยสลบายเพราะคิ้วขมวดแน่นแถมมียกมือปัดๆยุงที่พยายามจะดูดเลือด ความรู้สึกแปลกๆวูบวาบอยู่กลางอก
ขายาวเดินเข้าไปหาเขย่าแขนแกร่งปลุกให้ตื่น ฟ้าลั่นลืมตามองก่อนจะลุกขึ้นช่วยถือของแล้วเดินเคียงคู่กันไปที่รถ ไม่มีคำพูดอะไรสักคำ บรรยากาศเงียบๆแม้แต่วิทยุก็ไม่เปิด
แวะกินข้าวร้านข้างทาง ก่อนจะเข้าบ้านเชอเบทเหมือนเดิม…ต่างคนต่างอาบน้ำแล้วจมอยู่กับงานตัวเอง กระทั่งตีสามกว่าเชอเบทก็ถูกปลุกจากกองกระดาษให้ไปนอนบนเตียง
ด้วยความง่วงทำให้ไม่ได้สังเกต…ว่าวันนี้เป็นตัวเองที่ซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง…ไม่มีอ้อมแขนอุ่นที่ดึงเข้าไปกอดเหมือนทุกคืน
เข้าสู่สัปดาห์สอบเต็มตัว เหมือนสถานการณ์บังคับให้แยกกัน…เชอเบทสอบแค่สองวิชาแต่มีส่งโปรเจค ส่วนฟ้าลั่นมีสอบห้าวิชาและส่งความคืบหน้างานธีซิส ชีวิตถูกแยกออกจากกัน
เชอเบทกลับมาใช้รถตัวเองเทียวไปเทียวมากับบ้านและคณะ เมื่อไม่มีเรียนก็เลือกปั่นงานที่บ้านมากกว่า ส่วนฟ้าลั่นก็ไม่ได้กลับมานอนด้วยกันสามคืนแล้วเพราะต้องไปติวสอบให้เพื่อนและรุ่นน้อง
ช่วงนี้คนที่เชอเบทคุยด้วยบ่อยดันเป็นเพื่อนของเพื่อนที่เคยฝากมาขอไลน์…ผู้ชายที่น่ารักเหมือนปริ๊นซ์ แถมชวนคุยด้วยตลอด
พายไงจะใครล่ะ? : ปั่นงานถึงไหนแล้ววว ถ่ายรูปมาอวดเลยยยย
ข้อความล่าสุดที่ส่งมา เชอเบทเพิ่งพักจากการนั่งทำแบบมาดูมือถือก็เลยถ่ายรูปงานตัวเองที่เสร็จไปแล้วเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ส่งไป มือเรียวกดสลับแอพพลิเคชั่นดูโซเชียลอื่นๆพลางเดินไปที่ครัวเพื่อหาอะไรกิน
มือเปิดตู้เย็นก่อนจะคว้ากล่องน้ำผลไม้แล้วชะงัก…สายตาละจากหน้าจอมาที่กล่องน้ำส้มว่างเปล่าในมือ
‘น้ำแอปเปิ้ลหมดแล้ว คราวนี้น้ำส้มนะเชอ กินด้วยล่ะมีประโยชน์’ เสียงทุ้มของฟ้าลั่นดังขึ้นในหัว…เขาเป็นพวกใส่ใจโภชนาการตัวเองต่ำ เป็นฟ้าลั่นทุกทีที่คอยซื้อนั่นซื้อนี่มาใส่ตู้ที่เคยมีแค่น้ำเปล่า เบียร์ และไข่ไม่กี่ฟอง
ตอนนี้มันกลับมาโล่งอีกครั้ง…เหลือแค่แกลลอนนมจืดที่ใกล้จะหมดเต็มที
นานแค่ไหนแล้วที่ฟ้าลั่นไม่กลับมาที่นี่?
สาม…หรือสี่วัน?...ไม่สิ ห้าวันแล้ว อันที่จริงช่วงนี้คุยกันน้อยลงมาก…มากจนเกือบจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนคุยกันเยอะแยะขนาดนั้นได้ยังไง
หัวใจหล่นวูบ…
ขายาวพาตัวเองกลับไปที่โต๊ะทำงานที่ฟ้าลั่นยึดไว้อ่านหนังสือ…สมุดเลคเชอร์กับหนังสือหายไปหมดเหลือแค่ที่คั่นหนังสือและปากกาไฮไลท์หมึกหมดวางไว้กับชีทเก่าๆ
กี่วันแล้วที่หายไป? ทำไมเพิ่งสังเกต
มือกดสลับแอพพลิเคชั่นไปที่ไลน์ ข้อความล่าสุดของฟ้าลั่นคือวันที่อีกฝ่ายนั่งรอเขาใต้ตึก ซึ่งเขาแค่อ่านและไม่ได้ตอบกลับไป
Fhafa : เฮ้…กำลังขึ้นไปหา วันนี้กินสเต๊กกัน
ก่อนหน้านั้นเขาบ่นกับอีกฝ่ายว่าอยากกินสเต๊กมาหลายวัน…ไม่ได้ไปสักที…จนกระทั่งฟ้าลั่นว่างไม่ต้องซ้อมละครเวที แต่เป็นเขาเองที่ใช้เวลาอยู่แต่ในสตูแถมไล่อีกฝ่ายออกไป
แถมยังรอใต้ตึกจนค่ำมืดอยู่คนเดียว…
SB : ฟ้า อยู่ไหน?
ส่งข้อความกลับไป หวังว่าอีกฝ่ายตอบแล้วคงได้คุยกัน ตอนนี้ทำได้แค่เก็บความรู้สึกไว้ก่อนเพราะอีกสองวันคือกำหนดส่งโปรเจค ห้ามส่งเกินสิบโมงเช้าไม่งั้นห้องปิด
ปั่นงานถึงไหนไม่รู้ แต่สะดุ้งอีกทีก็ตอนมือถือดังเพราะคนโทรมา มือวางกระดาษรีบเดินไปหยิบมือถือที่วางอยู่ไกลๆขึ้นมารับ
“ครับ”
“เชอ มีอะไรหรือเปล่า? เห็นไลน์มา”
เสียงฟ้าลั่น…น่าแปลกที่คิดถึงอย่างประหลาด
“เปล่า…น้ำส้มหมด”
คำพูดโคตรแย่…กลอกตาพลางด่าตัวเองในใจ ไม่คุยกันห้าวันดันบอกมันว่าน้ำส้มหมด
“หึ…คิดถึงกูก็บอก”
“มโนละสัส…อยู่ไหน?”
“หอปิง ติวกันอยู่”
“สอบเสร็จวันไหนวะ?”
“ถามกูรอบที่ล้านละมั้ง”
“แหะๆ…ลืม บอกใหม่นะ รอบนี้ไม่ลืม”
“พรุ่งนี้วิชาที่เรียนกับมึงไง อย่าบอกนะว่าลืม?”
“เหี้ย ลืมจริงว่ะ สัสยังไม่ได้อ่านเลย”
“กูซีลอคสรุปทิ้งไว้บนโต๊ะให้แล้ว ลองดูดีๆ”
“ผู้ช่วยชีวิตกูแท้ๆเลยว่ะ ขอบคุณคร๊าบบบ”
”หึหึ โปรเจคถึงไหนแล้วล่ะ?”
ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเลื่อนประตู คงออกมาคุยที่ระเบียง…เหมือนกับที่เชอเบทคว้าบุหรี่เดินออกมานั่งพิงกระจกหน้าบ้าน ที่เดียวกับที่ชอบมานั่งสูบบุหรี่คู่กันประจำ
“เจ็ดสิบเปอร์ เมื่อยคอเหี้ย”
ใช้คอหนีบมือถือก่อนจะเคาะบุหรี่หนึ่งมวนส่งเข้าปากและจุดดูด ปล่อยควันเทาๆลอยไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิท แม้แต่ดาวก็ไม่มีสักดวง…
“นี่ก็ปวดหลังเหมือนกัน สอบเสร็จคงต้องไปนวดกันแล้วล่ะ”
“ลงอ่างด้วย นวดและนาบ”
เสียงหัวเราะทุ้มๆดังมาตามสาย
“เงี่ยนหรอมึง?”
“สู้มึงไม่ได้หรอกครับฟ้า”
“หึหึ… แล้วกินข้าวยัง?”
“ยังเลย เอาจริงปะกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้กี่โมง มืดสนิทเลยว่ะ”
“อยู่แต่กับงาน ออกมาเดินเล่นรอบบ้านบ้างสิวะ เดี๋ยวลืมวันลืมคืนไปส่งงานผิดวันทำไง”
“กูตั้งเตือนความจำไว้แล้ว ตั้งกันทั้งคณะเพราะกลัวเป็นแบบมึงว่าอ่ะ ฮ่าๆ เคยมีนะเว่ยตอนปีหนึ่งเพื่อนที่แบบหลงวันไปเลย แต่ดีที่หลงไปส่งก่อนกำหนดเลยทัน”
เสียงเรียกฟ้าลั่นดังจากไกลๆ ได้ยินเสียงคนในสายหันไปตอบรับกลับ
“เชอกูต้องไปติวให้เพื่อนต่อ มึงไปหาข้าวกินด้วย ไม่รู้จะกินอะไรต้มมาม่าก็ยังดี”
“ฟ้า เดี๋ยว…”
ยังไม่ทันได้ถามคำถามที่ค้างในใจอีกฝ่ายก็ตัดสายไปแล้ว เชอเบทถอนหายใจมองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะวางลงแล้วขยี้หัวตัวเอง
แรงๆ
ยังไม่รู้เลย…ว่าจะกลับมาวันไหน
จะกลับมาหรือเปล่า? หรือจะไม่กลับมาแล้ว หรือยังไง? ..ถ้าไม่กลับมาจะทำยังไงดี
มือถือสั่นแจ้งเตือนข้อความไลน์เข้า…ตาเรียวหันไปมองคิดว่าคงเป็นพายคนที่คุยด้วยบ่อยช่วงนี้ แต่กลับยิ้มจนรู้สึกได้ว่ามันคงกว้างน่าดู
Fhafar : c u tomorrow
เหมือนได้ชาร์จแบต เชอเบทยืดตัวเต็มความสูงบี้บุหรี่ลงกับพื้น เดินผิวปากตามทำนองเพลงฝรั่งที่ติดหูมาหลายปีกลับเข้าบ้าน…
“ฟ้า น้องไผ่ขอมาหามึง”
แท็ปส่งโทรศัพท์ตัวเองให้เพื่อนที่เพิ่งเดินกลับมานั่ง ฟ้าลั่นเลิกคิ้วหยิบโทรศัพท์เพื่อนมาอ่านแชทเฟสบุค...น้องไผ่บริหารที่ทักแชทแท๊ปมาเพราะอยากรู้จักเขาแต่ไม่กล้ามาคุยเอง
ทิวไผ่ : พี่แท็ปถ้าไผ่ไปหาได้ปะครับ ไผ่อยากซื้อนมร้อนไปฝากพี่ฟ้า อ่านหนังสือถึงกี่โมงอ่า ไผ่สัญญาถ้าไปจะนั่งเงียบๆ
Top’tap : พี่ถามให้แล้วกัน
ทิวไผ่ : แหะๆ กลัวพี่ฟ้ารำคาญจัง ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับบบบบบ
“พวกมึงว่าไง?”
จะมาก็มาได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะมาก็ไม่ได้คุยอะไรอยู่ดี ช่วงสอบเขาไม่สนใจจะทำตัวลัลล้าเหมือนเดิม ยังไงเรื่องเรียนก็ต้องมาเรื่องแรก แต่มันห้องแท็ป จะให้เขาตัดสินใจไม่ได้
“ปิงอยากกินนมร้อนปะ”
ปิงสะลึมสะลือตื่นมาจากกองชีทพอดีพยักหน้าหงึกๆ ปาดน้ำลายที่หยดเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำ
“ตามนั้นล่ะเพื่อน”
ฟ้าลั่นส่งมือถือคืนให้แท๊ปไปจัดการคุยต่อ เขายังไม่ถึงขั้นจะสานสัมพันธ์กับอีกฝ่าย น้องก็ไม่ได้ทักมาคุยกับเขาเอง โอกาสจะคุยตรงๆก็ไม่มี แล้วเขาก็ไม่ว่างด้วย แล้วก็มีไอ้เชอแล้วด้วยถึงมันจะยังไม่อยากมีเขาเท่าไหร่
“ปิง ไวๆจะติวต่อ”
“เสร็จแล้วๆ”
หน้าฉ่ำน้ำเพราะล้างหน้าเรียกสติกลับมานั่งที่เดิม วงติวหนังสือก็เลยเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ส่วนมากก็เป็นฟ้าลั่นที่อธิบายให้เพื่อนฟัง มีแท็ปคอยเสริมบ้าง ส่วนปิงหน้าซื่อบางทีก็ไม่เข้าใจว่ามันเคยเรียนด้วยหรอ
“ปิงมึงหลับทุกคาบจริงๆใช่ปะ”
แท๊ปเขกหัวเพื่อนหนึ่งที ก่อนจะเริ่มอธิบายใหม่ จนกระทั่งมีคนมาเคาะประตูห้อง แท็ปกับฟ้าสบตากันก่อนเจ้าของห้องจะเดินไปเปิด
เด็กผู้ชายปีสอง หน้าตี๋ ใส่เหล็กสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาพร้อมถุงน้ำร้อนและขนมปังสังขยาสองชุด
“โหหหห หิวเลยยย พักก่อนๆๆๆๆ”
ปิงเข้าไปรีบแย่งของมาช่วยถือ
“สวัสดีครับพี่ๆ”
ยกมือไหว้ทั้งสามคนก่อนจะเขินเมื่อฟ้าลั่นพยักหน้ารับยิ้มๆ รีบไปช่วยปิงเทนมร้อนกับขนมปังใส่จานแก้เขิน แท็ปเหล่มองฟ้าลั่นแซวๆ
“ร้านไหนเนี่ยน้องไผ่”
“ตรงฝั่งศิลปกรรมอ่ะครับ หอผมอยู่แถวนั้น อร่อยจริงๆนะ”
“มีแก้วสามใบว่ะ แต่มีสี่ถุง”
“พวกมึงกินกันก่อน กูทีหลัง”
ฟ้าลั่นเอ่ยก่อนจะก้มหน้าสนใจชีทตัวเองต่อ แผ่นหลังกว้างเอนพิงหัวเตียงหกฟุต แต่ก็มีแก้วนมยื่นมาตรงหน้าจนต้องละสายตาจากชีทมามอง
“พี่ฟ้ากินก่อนเลยครับ เดี๋ยวติวดึก ไผ่กินทีหลังเอง”
“เอางั้นหรอ ขอบใจนะ เท่าไหร่ล่ะเดี๋ยวพี่เอาเงินให้?”
“เฮ้ยไม่เป็นไรครับๆ ไผ่อยากซื้อมาให้เอง”
“ไม่เอาน่า พี่จ่ายให้”
“เอาไว้พี่ฟ้าไปเลี้ยงข้าวผมแทนดีกว่า”
คนตัวเล็กยิ้มกว้างจนเห็นยางสีชมพู และตายิบหยี ฟ้าลั่นหลุดขำออกมาเบาๆ อันที่จริงสไตล์นี้เขาค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ ตัวเล็กๆยิ้มน่ารักๆ
“ได้ ไว้สอบเสร็จนะ”
ยกมือยีหัวอีกคนก่อนรับแก้วนมมาดื่ม สักพักก็เปลี่ยนมานั่งกันที่พื้นแทนเพราะเดี๋ยวของกินหกเลอะเตียงนอน น้องไผ่ยึดพื้นที่ข้างฟ้าลั่น เอนตัวนั่งพิงเตียงด้วยกัน
ไม่มีอะไรให้ใส่ใจมากเพราะอีกฝ่ายก็แค่หยิบมือถือเล่นไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้ทำเสียงดัง เวลาล่วงเลยถึงตีสองกว่าก็ตัดสินใจหยุดติวเพราะเดี๋ยวตื่นไปสอบกันไม่ไหว
“ฟ้าจะนอนนี่ปะหรือกลับ?”
“กลับดีกว่า ไม่ได้หยิบเสื้อมาด้วย”
“ปิง นอนดีๆ”
แท๊ปลากเพื่อนอีกคนไปนอนบนเตียง ก่อนจะช่วยกันเก็บแก้วและจานไปไว้ที่ซิงค์นอกระเบียง น้องไผ่อาสาจะล้างให้แต่แท็ปบอกให้ทิ้งไว้
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่งน้องไผ่เอง เจอกันพรุ่งนี้มึง”
“เออเค เจอกัน”
ฟ้าลั่นก้าวนำรุ่นน้องตัวเล็กมาที่ลิฟต์ แอบสังเกตคนที่ก้มหน้าหงุดๆเหมือนเขินตลอดเวลาไม่กล้าแม้แต่จะคุยกับเขาแล้วอดยิ้มจางไม่ได้
“แล้วไผ่มายังไง?”
“อ้ะครับ? ผมขับมอไซต์มาครับ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งก่อนแล้วกัน”
“ไม่เป็นไรครับๆ พี่ฟ้ากลับเลย ไผ่กลับได้”
“ดึกแล้วนะ อยู่ฝั่งศิลปกรรมด้วยมันไกล”
“โห ผมผู้ชายน่า แค่นี้ชิวมากกกกกก”
“งั้นถึงแล้วเฟสมาบอกพี่ด้วย ไม่ต้องไปบอกไอ้แท็ปล่ะ หึหึ”
แซวกลับนิดหน่อยเรื่องที่ชอบแชทไปถามเรื่องเขากับแท็ป รุ่นน้องน่ารักยิ้มเขินก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ ตาคมมองส่งร่างเล็กขับสกูปปี้ไอออกไปถึงไปที่รถตัวเองบ้าง
กลับบ้านนอนเอาแรงไปสอบสามชั่วโมงพรุ่งนี้…วิชาสุดท้ายของมิดเทอม
ขายาวก้าวลงจากรถเดินเข้าบ้าน เปิดไฟก่อนจะเดินไปหาน้ำผลไม้กิน น้ำส้มแมนดารินกล่องใหญ่เหมือนที่เชอเบทโทรมาบ่นว่าหมด…ยิ้มจางแตะริมฝีปาก จะว่าไปบ้านเขาตอนนี้ก็มีของเชอเบทอยู่เต็มไปหมด
เบียร์นอกที่อีกฝ่ายชอบกินก็แช่ทิ้งไว้อยู่ มีขนมคบเคี้ยวประปราย…
ยิ่งบนห้องนอนตอนนี้มีหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะที่มันไปเหมาซื้อมาจากเซเว่นเพราะอยากอ่านกองอยู่ข้างเตียง ครีมบำรุง โลชั่นตอนนี้วางปนกันจนไม่รู้ของใครเป็นของใคร
เสื้อผ้าสี่ห้าชุดก็แขวนอยู่รวมกับของเขา…
ฟ้าลั่นเดินผิวปากขึ้นห้องไปอาบน้ำ หยิบครีมอาบน้ำกลิ่นเชอเบทมาใช้…คราวก่อนครีมอาบน้ำหมดเขาเป็นคนบอกให้อีกฝ่ายซื้อมาให้เพราะตัวเองลืมซื้อ ก็ได้ครีมอาบน้ำกลิ่นมันมาใช้ซะเลย
ก็เหมือนกับที่บ้านมันมีแชมพูกลิ่นของเขา…ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวตนอีกฝ่ายอยู่รอบตัวกันและกันขนาดนี้ มันเป็นความอุ่นใจเหมือนมีเส้นใยบางอย่างระหว่างกันทั้งๆที่ไม่มีเรื่องของเซ็กส์เหมือนแต่ก่อน แต่อีกใจก็รู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างระวังความรู้สึกของตัวเอง…
ตัวเขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เกินไป ตัวเชอเบทเองก็มีระยะปลอดภัยของตัวมันเอง
มันถึงยังไปมากกว่านี้ไม่ได้….ระยะปลอดภัยคงไม่ดีในระยะยาว
จริงๆแล้วเขาเองรู้ตัวว่าก้าวข้ามเส้นแบ่งของคำว่าเพื่อนไปแล้ว…รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่มันไปมากกว่านี้ไม่ได้ถ้าอีกฝ่ายยังรักษาเลเวลนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น
เชอเบทคงรู้สึก…อยู่กันตัวติดกันแบบนี้ไม่รู้สึกก็คงไม่ใช่ แต่มันจะรู้หรือเปล่าว่าเขากำลังรอ…สิ่งที่เขาไม่แน่ใจคือมันจะกล้าพอจะข้ามมาหรือเปล่า
แล้วตัวเขาเองมั่นใจในความรู้สึกนี้แค่ไหน?=============================================
สังเกตได้ว่าเรื่องนี้มันเนิบ 5555 เนิบแบบ นี่ 20 ตอนละ เวลาในเรื่องเพิ่งจะสอบมิดเทอม เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์มันก็จะไปแบบเนิบๆนะคะ
55555 ขัดใจกันใช่หมัย

น่าาาา นิยายเรื่องนี้แฮปปี้เอนดิ้ง
ปล. สอบเสร็จจะมาอัพตอนที่ 21 นะคะ แล้วอาจจะหายสักพักเพราะจะไปอเมริกาค่า ไม่รู้ว่าจะต่อเน็ตได้เมื่อไหร่

สปอย : ตอนหน้าเชอเบทร้องไห้ (ร้องเพราะอะไรติดตามตอนต่อไปปปปป)