ตอนที่ 22
การมีคนกินข้าวด้วยมันดีแบบนี้นี่เอง ช่วงที่ฟ้าลั่นไม่อยู่จะกินอะไรก็รีบๆเร่งๆเพื่อไปทำงานต่อ ไหนเลยจะมีเวลานั่งละเลียดแบบวันนี้ จริงๆก็รีบอยู่บ้างแต่คนตรงข้ามเหมือนบังคับให้ค่อยๆกิน
ฟ้าลั่นทำกับข้าวง่ายๆสองอย่าง ·ตัวเขาเองก็พอทำได้บ้างแต่จัดอยู่ในประเภททำง่ายๆ กินได้ รสชาติพอผ่าน แต่ฟ้าลั่นจะเน้นไปทางเมนูรักสุขภาพ น้ำมันไม่เยอะ เน้นครบห้าหมู่ ที่สำคัญกินแบบนับแคลลอรี่
ถ้าเขาหิวฟ้าลั่นจะตักให้เยอะ ตามใจอยากกินเท่าไหร่ก็กิน แต่ตัวมันเองจะกินเท่ากับปริมาณที่มันตั้งไว้ ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ขนมของเขาเป็นพวกขนมอบกรอบแต่ของฟ้าจะเน้นผลไม้กับถั่ว หรือ โยเกิร์ตและพุดดิ้งไขมันต่ำ
ก็ไม่แปลกถ้ามันจะกินแบบนั้นเพราะรักษาหุ่นมีกล้ามของตัวเองสุดๆ มันไม่ได้เยอะแต่ดูออกว่าเป็นคนฟิตหุ่น เสื้อนิสิตแขนยาวที่พับถึงต้นแขนโชว์มัดกล้ามชัด…น่ากัด
“มองแขนกูทำไม?”
“ห้ะ? เปล่าๆ”
รีบจ้วงข้าวเข้าปากกลัวจับได้ว่าอยากกัด…
“คิดอะไรหื่นๆแหง หน้าแดงว่ะ”
“เฮ้ยจริงดิ”
“หลอก ร้อนตัวชิบหาย หึหึ คิดอะไรหื่นกับพี่ครับน้องเชอ?”
ยื่นมือไปบีบแก้มนิ่มของคนร้อนตัว แต่ก็ถูกปัดออกทันที
“เปล่าโว้ยยยย แดกไปๆข้าวน่ะ”
“งานถึงไหนละ?”
“อีกนิดจะเสร็จแล้ว เหลือแค่ออกไปปริ๊นท์แบบที่ร้านดึกๆ”
“หือ ดึกๆร้านเปิด?”
“มันเป็นร้านเฉพาะสำหรับปริ๊นซ์ก่อนวันส่งงาน พวกสายปั่นมักจะไปวันสุดท้ายกันหมด ปกติกูไปไว แต่ว่าครั้งนี้ไม่ต้องรีบช่วยปริ๊นซ์มันทำเลยใส่ฝีมือเต็มที่”
“กูชอบนะ ไอเดียดี”
พิพิธภัณฑ์กีตาร์แนวลอฟต์ปูนเปลือยสีเทาตัดแดง….นอกจากชอบเพราะไอเดียดีแล้วยังชอบเพราะมันเหมือนบ้านเขา อย่างน้อยเชอเบทก็ดูจะคิดวนเวียนอยู่รอบตัวเขาเหมือนกัน
“ก้อปบ้านมึง”
ยอมรับโต้งๆ จนฟ้าลั่นยิ้มขำ
“ชอบกูอ่ะดิ เลยอยากมีกูในงานมึงด้วย”
“หลงตัวเองสัส ไม่ได้ชอบโว้ย”
“หรอ เชื่อๆ”
“กวนตีน ทำงานดีกว่า”
เดินหนีเอาจานไปเก็บก่อนจะเดินกลับไปที่กองงานบนพื้น วันนี้ไม่ได้ปิดฉากกั้นห้องครัวกับห้องทำงานส่วนนั้น ฟ้าลั่นเดินเอาจานไปเก็บก็กลับมานั่งเล่นมือถือที่เดิม วางขาพาดกับเก้าอี้อีกฝั่ง สายตามองคนผมยาวนั่งปั่นงานบนพื้นสักพักก็หลุบตาสนใจมือถือตัวเองต่อ
วันนี้ชาวเศรษฐศาสตร์ปีสี่ยังไม่นัดกินเหล้าสอบเสร็จเพราะบางคนยังมีเรียนอีกตัว สอบเสร็จพรุ่งนี้จึงนัดรวมกันไปกินเหล้าพร้อมกันทีเดียว ปกติแต่ละคนก็มีกลุ่มของตัวเองแต่นานๆทีก็มารวมกันแบบนี้ในโอกาสสำคัญๆ
ปิงกับแท็ปเชคอินอยู่ร้านเกมส์ตั้งแต่ชั่วโมงก่อน กดคอมเม้นแซวไปขำๆ ก็เปลี่ยนมาเลื่อนฟีดเฟสบุคเล่น ส่วนมากก็เป็นข่าวโปรโมทงานเปิดบ้านมหาลัยจากชมรมหรือกลุ่มนักศึกษาที่จะออกร้านขายของ คณะเศรษฐศาสตร์ปีนี้ก็ทำร้านข้าวไข่เจียว ปีสามเป็นคนจัดการ ส่วนปีสองทำซุ้มแนะแนวการศึกษาต่อคณะนี้ ปีหนึ่งเป็นลูกมือช่วยพี่ๆ ส่วนปีสี่สบายไม่ต้องทำอะไร ยกเว้นตัวเขาเอง ต้องไปเป็นพี่มากในละครเวที
โปสเตอร์โปรโมทละครเวทียังไม่ออก เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของทุกปีก็ว่าได้ สภานิสิตนัดถ่ายโปสเตอร์วันมะรืนนี้เพราะทุกคณะสอบเสร็จพร้อมกันหมดแล้ว
อาโปคนหล่อ : พี่ฟ้าคร้าบบบบบ
ไลน์เด้งเตือนขึ้นมาบนจอ ฟ้าลั่นกดแทปเปิดอ่านข้อความของอาโป รุ่นน้องจากสภานิสิตที่เป็นหนึ่งในทีมงานละครเวที ส่วนมากคนจากสภาจะทำหน้าที่ Backstage ประสานงานฝ่ายต่างๆหลังเวที
Fhafar : ว่าไงนุ้งโป๊
คำเรียกแซวของกองละครเวที เริ่มจากพวกศิลปกรรมปากหมาแซวชาวบ้านไปทั่ว แต่ละคนมีฉายาใหม่งอกกันเป็นทิวแถว
อาโปคนหล่อ : งุ้ยย ยังไม่เลิกเรียกงั้นอีก พี่นางฟ้า!!!
ฉายาของตัวเอง เรียกว่าสวนทางสุดกู่
อาโปคนหล่อ : สอบเสร็จยังครับบบบบบบ
Fhafar : เสร็จแล้ว วันนี้ล่ะ เราล่ะ?
อาโปคนหล่อ : เสร็จนานแล้วววว สองวันละ พี่ฟ้าฉลองไหนนนนนน
Fhafar : คงร้านประจำ พรุ่งนี้ล่ะ
อาโปคนหล่อ : ร้านไหนครับ โปก็นัดเพื่อนกินเผื่อบังเอิญที่เดียวกัน
Fhafar : ที่ What’s up!
อาโปคนหล่อ : โหยบังเอิญว่ะ เนี่ยเพื่อนก็ว่าจะไปร้านนั้น ไว้โปไปชนด้วยนะครับ
Fhafar : คร้าบ เจอกัน
น้องส่งสติกเกอร์มาแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สลับจอกลับไปที่เฟสบุคแทน ฟีดเริ่มเดิมๆไม่มีอะไรน่าสนใจ สะดุดตานิดหน่อยตรงเพจ Cute boy ของมหาลัย รูปล่าสุดที่อัพเป็นรูปนักศึกษาแพทย์ฝาแฝดเจ้าของบ้านกำลังนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ขนาดแค่ถ่ายจากด้านข้างและเป็นมุมเผลอ คอมเม้นยังเด้งเป็นร้อยแล้วตอนนี้
จะว่าไปเขาก็ติดหนี้น้ำใจอีกฝ่ายเหมือนกัน…เฌอแตมไม่ได้ดูหงิมๆเหมือนนักศึกษาแพทย์ที่ควรจะเนิร์ดเลยด้วยซ้ำ จอมวางแผนขัดกับท่าทางเหมือนจะนิ่ง
วันนั้นถ้าไม่ได้อีกฝ่ายจำเพื่อนน้องชายตัวเองได้ แล้วโทรหาชาร์ลให้คุยให้ พวกศิลปกรรมอารมณ์ดีมันคงไม่กล้าต่อยเขา เพราะไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน จะให้สร้างสถานการณ์ก็ดูแปลกๆ แต่ทุกอย่างก็ลงตัวแม้หลังจากนั้นจะเจ็บไปหลายวัน
“เมื่อยยยยยย”
เสียงบ่นจากคนนั่งขัดสมาธิ มือเรียวยกขึ้นบีบต้นคอตัวเอง ฟ้าลั่นวางโทรศัพท์ลุกเดินเข้าไปนั่งซ้อนหลัง ก่อนจะนวดไหล่ให้แทน
“พักบ้าง นั่งท่านี้บ่อยๆเสียสุขภาพ”
“ฮื่อออ สบาย”
ยิ้มจาง…ก่อนจะค่อยๆบีบไล่ไปตามไหล่บาง กลับมาที่ท้ายทอย นวดเบาๆไปถึงแขนใต้เสื้อนิสิตแขนยาว…ไปถึงมือเรียว ก่อนจะโอบล็อคอีกคนไว้ในอ้อมแขน
“แค่นวดโว้ย…เนียนว่ะ”
หัวเราะในลำคอไม่ปฏิเสธความผิด ปลายจมูกจรดลงที่กลุ่มผมยาว….ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมางับใบหูนิ่ม แก้มนุ่ม…และต้นคอเนียน…
“ฮื่อออ พอเลยยย หื่นละมึง”
ขัดขืนตัวออกไม่จริงจังนัก แต่ฟ้าลั่นก็ยอมหยุดแต่ยังโอบเอวไว้หลวมๆ ก่อนจะวางคางเคยไหล่บาง มองงานที่ใกล้เสร็จเข้าไปทุกที ตอนนี้เหลือแค่หลังคาแล้ว
“พรุ่งนี้ก็สบายแล้ว”
“ใช่ กูจะนอนให้เต็มอิ่มเลยสัส”
“ฉลองไหน? ขอบโลก?”
“อือ เหมือนเดิมแหละ มึงอ่ะ?”
“วอทซับ”
“คนละฝั่งเลยว่ะ”
เสียงลังเลนิดหน่อย ไปคนละร้านนี่จะไปพร้อมกันหรือจะต่างคนต่างไป? แล้วจะกลับมานอนที่บ้านเขา หรือบ้านมัน? หรือต่างคน
ต่างไป
“เดี๋ยวไปส่งก่อน แล้วกินเสร็จก็บอกจะไปรับ เดี๋ยวมึงเมากลับเองไม่ได้อีก”
“คร้าบพ่อ”
หัวเราะอารมณ์ดี ฟ้าลั่นยังคงเป็นฟ้าลั่น รู้หมดว่าเวลาไปกินเขาไม่ชอบขับรถไปเพราะบางทีก็อยากเมาเต็มที่ ไปให้สุด แล้วจบที่เตียงกับใครสักคน
“ไปๆ ทำงานต่อ กูไปวิ่งดีกว่า ไม่ได้ขยับหลายวัน”
พยักหน้าหงึกๆ ปล่อยให้ฟ้าลั่นผละออกไปสนใจเรื่องของตัวเอง ส่วนเชอเบทก็ลงมือจัดการกับงานอีกครั้ง ได้ยินเสียงฟ้าลั่นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป
ช่วงนี้มันไม่ค่อยได้ไปฟิตเนส เพราะติดหลายๆอย่าง คนบ้าออกกำลังกายก็เลยหาทางออกโดยการกระโดดเชือกบ้าง วิดพื้น ฟุตเวิร์คหรือการวิ่งในหมู่บ้าน
หลังรถฟ้าลั่นมีรองเท้ากีฬาหลายแบบสำหรับหลากหลายชนิดกิจกรรม หนึ่งในนั้นก็เป็นรองเท้าวิ่งไนกี้สีฟ้าสดใสที่ไปเลือกคู่ใหม่ด้วยการเมื่อช่วงก่อน จริงๆของตัวเองก็มีหนึ่งคู่วางคู่กับรองเท้ามันนั่นล่ะแต่ไม่ค่อยได้วิ่งด้วย จนมันเลิกชวนไปแล้ว
ฟ้าลั่นวิ่งจอกกิ้งไปเรื่อยๆตามถนนโล่งๆ อย่างว่าที่นี่ออกแนวเป็นหมู่บ้านแบบแบ่งที่ดินให้คนปลูกตามใจ บางที่ก็มีบ้าน บางที่ก็โล่ง อากาศดี ไม่วุ่นวาย ทุกหลังแยกกันอยู่ของใครของมัน
วิ่งจนเกือบหนึ่งชั่วโมงก็มาทำท่ากายบริหารง่ายๆก่อนจะจบลงที่ซิตอัพสองร้อยทีหน้าบ้าน เหงื่อโทรมกายเดินเข้าไปในบ้านคนปั่นงานก็ยังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับหลังคา อดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงไปหอมแก้มฟอดใหญ่ให้รู้สึกตัว
“เชี่ยเหงื่อป้ะล่ะ!!! โอ้ยสกปรก”
“หึหึ หน้าเครียดสัส”
“อ้าว ทุ่มแล้วหรอ”
รู้เวลาเพราะเซนเซอร์ไฟจะทำงานตอนหนึ่งทุ่ม ถ้าคนอยู่ไฟจะเปิดเองอัตโนมัติ จากไฟที่เปิดแค่ตรงที่ทำงาน กลับเปิดรอบบ้านพร้อมกันก่อนจะค่อยๆดับลงอยู่ในบริเวณที่มีคนอยู่
“อาบน้ำด้วยกันมา”
“เชี่ย อย่ามาโอบบ เหงื่อมันเลอะ สัสสสส กูจะทำงานนน”
ทั้งผลักทั้งดันกว่าคนตัวเหนอะจะผละออกไปด้วยเสียงหัวเราะทุ้มๆ เชอเบทบ่นหน้าร้อนผ่าว ทั้งหงุดหงิดทั้งรู้สึกแปลกๆ แม่งเอ้ย…
ฟ้าลั่นอาบน้ำสระผมสบายตัวก่อนจะนุ่งผ้าเช็ดตัวหมิ่นเหม่ผืนเดียวออกมา แกล้งมายืนพิงฉากกั้นห้องเสยผมเปียกโชว์เรือนร่างอวดคนปั่นงาน
เชอเบทถลึงตาใส่ก่อนจะเขวี้ยงยางลบใส่
“สัส ไปแต่งตัว ไอ้เหี้ย”
“ไล่พี่แล้วหน้าแดงทำไม ชอบให้พี่โชว์ก็บอกสิครับน้องเชอ…อยากจับมาจับได้นะ”
คนขี้อ่อยแกล้งขยับผ้าเช็ดตัวเวิบวับไปมา
“มึง ไป ไกล ไกล!!!”
แยกเขี้ยวทั้งหน้าแดงๆ ฟ้าลั่นถึงยอมกลับไปแต่งตัว เชอเบทหันไปอีกทีก็คันปากอยากด่าอีกรอบ เสื้อผ้าติดกายมีแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว มานั่งเอาผ้าขยี้ผมอยู่บนกองฟูก เปิดทีวีดูสบายใจ
“มองไร กูหล่ออ่ะดิ?”
“เฮ้อ”
“แล้วจะไปปริ๊นท์งานกี่โมง?”
“เดี๋ยวเสร็จก็ไปเลย จะเสร็จละ อีกสองสามชิ้น แล้วถ้าเชคโดยรวมโอเคก็ไป”
“งั้นเดี๋ยวกูขับรถให้”
“เห้ย ไม่เป็นไร มึงอาบน้ำแล้ว นอนเลยก็ได้ สอบเสร็จเหนื่อยๆ”
“ไม่ใช่คำถาม”
เดาะลิ้นยียวน…เลยได้แต่พยักหน้ารับเพราะสุดท้ายถึงห้ามมันก็คงจะไปให้ได้อยู่ดี เกือบสามทุ่มเชอเบทในชุดนักศึกษาตัวเดิมกับฟ้าลั่นในชุดเสื้อยืดขาสั้นง่ายๆก็พากันขึ้นรถอินโนว่าสีขาวกลับไปแถวมหาลัย
ร้านของเชอเบททำเอาขมวดคิ้วหลายรอบเพราะซอยมันวกวน แถมมืดๆเปลี่ยวๆ จอดตรงหน้าซอยมืดๆแห่งหนึ่งแล้วยังต้องเดินเข้าไปอีกเพราะรถผ่านไม่ได้แล้ว เดินจนไปทะลุถนนอีกฝั่งก็เห็นบรรดานักศึกษาสภาพเหมือนศพยืนออกันอยู่หน้าร้าน
“อ้าวเชอ”
“ไงต้า เสร็จแล้วดิ”
“เออ จะตายไอ้สัส เผาสุดชีวิต แล้วนั่น…”
ต้าชะงักมองคนที่เดินตามหลังเพื่อนมา หน้าคมนิ่งเฉยแต่มือวางอยู่บนไหล่เชอเบท เหมือนโอบแต่ก็ไม่เชิง
“ฟ้าลั่น เศรษฐศาสตร์ปีสี่อ่ะ”
“หวัดดีครับพี่”
“อื้อ หวัดดีๆ”
“มึงปริ๊นท์แล้วหรอต้า”
“รอคิว มึงหยิบบัตรคิวก่อนดิ อีกสิบกว่าคนแน่ะ”
เชอเบทรีบแทรกตัวไปหยิบบัตรคิว ก่อนจะกลับออกมายืนข้างเพื่อนเหมือนเดิม ฝั่งตรงข้ามของร้าน มีพวกนักศึกษาสถาปัตย์กำลังเป็นสิงห์รมควันกันทั้งกลุ่ม
“อยากสูบบ้างแล้วว่ะ”
“ไปฝั่งนั้นเลยเชอ กูมันคนรักสุขภาพ”
“ไม่ได้ติดมาเลย ฟ้าเอาบุหรี่มาปะมึง?”
“เปล่า พอๆไม่ต้องสูบ”
ดีดเหม่งคนเซี่ยนบุหรี่ไปที บ่นกระปอดกระแปดแต่ก็หันไปคุยกับเพื่อนตัวเองต่อ ก็ไม่พ้นเรื่องงาน
“แล้วปริ๊นซ์มาปริ๊นท์ยังวะ ? เห็นทุกครั้งมาด้วยกัน”
“เออ กูโทรหามันก่อน เกียร์มันคงช่วยทำคราวนี้”
ฟ้าลั่นกอดอกพิงกำแพง มองเชอเบทหยิบมือถือมากดหาเพื่อน…ถึงจะรู้ว่าไม่มีอะไรแต่ความรู้สึกกรุ่นๆในใจมันห้ามไม่ได้จริงๆ
“ปริ๊นซ์ มาปริ๊นท์แบบยัง?”
“หือ…เกียร์ไม่ได้อยู่ช่วยหรอ? อ้าวทะเลาะกัน? แล้วเหลือเยอะปะ”
“ส่งแบบมาก่อน เดี๋ยวปริ๊นท์ให้แล้วจะไปช่วยทำ อือๆ เมลกู”
คิ้วเข้มขมวดเมื่อเชอเบทเริ่มลังเล ดูท่าเพื่อนตัวเล็กคงจะมีปัญหาเรื่องงานเพราะพอวางหูก็หันมาทำหน้าลำบากใจใส่เขา
“จะไปหาปริ๊นซ์ ?”
“อื้อ มันทะเลาะกับเกียร์ ใกล้เสร็จแล้วล่ะแต่มันทำคนเดียวคงจะยาก มันทำไม่ค่อยเก่ง”
“เรียนทางนี้ไม่เก่งจะไหวหรอ?”
ฟ้าลั่นกรอกตาด่าตัวเองในใจ…จะไปประชดมันทำไมวะกู? คนผมยาวชะงักแล้วก็ถอนหายใจหนักๆ เป็นสัญญาณบอกว่าไม่พอใจ
“กูบอกว่าไม่มีอะไร”
“กูก็ยังไม่ได้ว่าอะไร”
“แล้วมึงจะรวนกูทำไม?”
“กูแค่พูดความจริง ปีสามแล้วยังไม่คล่องจะไปต่อสายนี้ได้ยังไง?”
“เฮ้ยๆใจเย็นๆ อย่าทะเลาะกันๆ”
“มึงสลับที่ยืนกับกูดิ๊ต้า”
ต้ารับคำงงๆก่อนจะมายืนตรงกลางระหว่างฟ้าลั่นกับเชอเบท ก่อนจะรู้สึกเหมือนคิดผิดเพราะสองด้านเหมือนขั้วน้ำแข็งที่จะแช่แข็งเขาให้ตาย
ถึงคิวตัวเองต้าก็รีบไปจัดการก่อนจะชิ่งไปอย่างไว เชอเบทยังต้องรออีกสามคนถึงจะคิวตัวเอง ฟ้าลั่นรออยู่หน้าร้านให้เชอเบทไปจัดการปริ๊นท์ของตัวเองกับของเพื่อนสนิทแล้วเดินออกมาพร้อมม้วนกระดาษแผ่นใหญ่สองม้วน
“กูจะไปหอปริ๊นซ์”
สบตาคมแล้วพูดความต้องการของตัวเอง ฟ้าลั่นถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า สองคนเดินกลับไปทางเดิมไม่มีใครพูดอะไร ในส่วนนี้เชอเบทรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายใจแต่เขาจะทิ้งเพื่อนไปไม่ได้
“ขึ้นไปด้วยกันดิ”
ชวนคนขับที่เงียบมาตลอดทาง
“เพื่อ?”
“จะได้รู้ไงว่าไม่มีอะไร”
“สนใจด้วยหรอ?”
“ฟ้า อย่ากวนประสาทกูได้ปะ มันเพื่อนกูนะเว่ย เราเคลียร์กันเรื่องนี้แล้วไง”
“เออกูแย่เอง…”
เชอเบทถอนหายใจก่อนจะดึงมือหนาที่วางอยู่บนเกียร์มาจับ บีบเบาๆ แล้วเอนตัวลงซุกหน้าลงกับไหล่แกร่ง ขยี้เบาๆทำเสียงงุ้งงิ้ง
“โอ๋เอ๋”
“เป็นหมารึไง”
เริ่มหลุดยิ้ม…ไอ้นี่มันอ้อนเป็นกับเขาด้วย?
“อารมณ์ดีแล้ว ไปกัน ไปช่วยปริ๊นซ์ทำงาน”
“เฮ้อ…เออๆ ลงรถ”
“เดี๋ยวคืนนี้ให้กอดทั้งคืน”
“ทั้งคืนก็เหี้ย จะเช้าอยู่ละไอ้สัส”
“งั้นอยากได้ไร”
“มีอะไรกันเถอะ…ชอบนะอยากมีอะไรด้วย หึหึ”
ขาที่เดินนำชะงัก หันขวับมามองคนพูดตรงๆ ฟ้าลั่นยิ้มยียวนเดาะลิ้นกวนอารมณ์
“เชี่ย”
“ไม่ได้ทำกันนานแล้วนะ กูลืมแล้วเนี่ยว่ามังกรกูใช้งานยังไง”
“กูยังไม่ลืม เดี๋ยวกูเสียบเอง”
“ปากดี…เดี๋ยวเจอของใหญ่ยัดปากนะน้องเชอ”
“สัส!”
=======================================================
เชอต้องเจอพี่ฟ้าสั่งสอนให้เข็ด! ดื้อจีจีนุ้งเชอ #ทีมพี่ฟ้า
ขอบคุณนักอ่านจากทวิตเตอร์ด้วยนะคะ #ฟ้าลั่นรัก จะพยายามไปอ่านเท่าที่เน็ตจะอำนวยน้าาาาา
====================================
ที่เมกาเน็ตกากมากค่ะทุกคน เนื่องจากแบมมาอยู่บนแกรนแคนย่อน 555555 สัญญาณโทรศัพท์และเน็ตน้อยมากกกก กว่าจะเจอที่เน็ตดี(ดีสุดแล้วแต่ต่อยากมาก) เรียกว่าน้ำตาจะไหล
ปล。วันที่อาจจะช้าหรือไม่ตรงกะไทยนิดนึงนะคะ ยึดวันที่อัพตามเมกา อาจจะช้ากว่าไทยหรือเหลื่อมๆนิดนุง
