ตอนที่ 31
ฟ้าลั่นตื่นเช้าตามปกติ ก่อนจะนอนตะแคงใช้มือรองหัวมองคนผมยาวที่ยังหลับสนิท หน้าซุกอยู่กับหมอนอีกใบไม่ได้นอนหนุนแขนเขาเหมือนทุกคืน หมอนข้างที่กั้นไว้ตรงกลางเตียงถูกโยนทิ้งไปตั้งนานแล้ว และสุดท้ายเจ้าตัวก็มาขยับเบียดเขาอยู่ดี
มือหนายกขึ้นจิ้มปลายจมูกอีกฝ่ายให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น ครางด้วยความรำคาญแล้วหันหนี แต่มือซนก็ยังตามไปแกล้งดึงหนวดเหนือริมฝีปากบาง คราวนี้ตาเรียวเริ่มปรือออก
“อรุณสวัสดิ์ครับแฟน”
คราวนี้ตาเรียวเบิกกว้างก่อนจะหันขวับมามองหน้าฟ้าลั่น ปากพะงาบๆ แล้วขาก็ยกถีบคนยิ้มอารมณ์ดีตกเตียงไปในที่สุด…
“โอ้ย มึงเขินอะไรนักหนาเนี่ย”
ลุกขึ้นยืนคิ้วขมวดมุ่นมองคนที่เขยิบหนีไปจนสุดขอบเตียงอีกฝั่ง
“มึงห้ามพูดคำนั้นนะ”
“คำไหน”
คิ้วเขิ้มเลิกขึ้นก่อนจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
“แฟน?”
“เชี่ย หุบปาก”
หมอนใบแรกถูกโยนใส่ฟ้าลั่นที่โยกตัวหลบชิลๆ
“แฟนครับ”
หน้าคนถูกเรียกเห่อแดงเพราะความเขิน ซุกหน้าลงกับหมอนอีกใบ
“แฟน….”
เสียงทุ้มต่ำปลายเสียงติดจะอ้อน…คราวนี้คนเขิดจัดกระเถิบตัวหนีจนหงายหลังตกเตียงอีกฝั่งไปพร้อมผ้าห่ม เดือดร้อนฟ้าลั่นที่ขำก๊ากเดินข้ามเตียงไปแงะคนเขินออกจากกองผ้าห่มที่ม้วนพันเป็นเกี๊ยว
“เล่นอะไรเนี่ย เดี๋ยวแผลที่เท้าก็อักเสบ”
“มึงอ่ะกวนตีน”
“หึหึ ไปๆอาบน้ำ เดี๋ยวช่วยอาบ มึงต้องทำแผลตัวเองเปียกน้ำแน่ๆ”
“มือมึงก็จะเปียก”
เออว่ะ….คราวนี้เกาหัวแกรกๆพยายามหาทางออกให้กันและกัน
“กูนั่งอาบก็ได้ ยกขาพาดเก้าอี้ ส่วนมึง…เดี๋ยวกูช่วยอาบแล้วกัน มือยกสูงๆ”
“เดี๋ยวช่วยอาบ”
“กูอาบเองได้”
“เออน่า…”
“มึงหน้าหื่น”
“หึหึ….ทำอย่างกับไม่เคย”
คนน้องแยกเขี้ยวแต่ก็ถูกคนพี่แบกขึ้นไหล่ไปห้องน้ำอยู่ดี จะดิ้นก็คงไม่หล่นเพราะฟ้ามันแรงเยอะ แล้วถ้าตกขึ้นมาคงจะซวยตัวเองเปล่าๆ
“ฟ้า…ไม่เอา”
“ถูก่อน เดี๋ยวสกปรก”
ยิ้มมุมปากมองคนหน้าแดงก่ำหอบเบาๆ
“ใครเขาถูตรงนั้นวะ….”
“หึหึ กูไง”
มือตอกเข้าออกแรงๆ จนคนน้องครางกระสัน หน้าซุกลงกับบ่ากว้าง ตัวสั่นสะท้านเมื่อปลายเล็บสะกิดส่วนปลายจนเสียวซ่าน
“เชอ…เชอครับ”
“อื้ออออ”
เสียงแหบพร่าดังข้างหู ยิ่งทำเอาอารมณ์เตลิดเปิดเปิง ปลายจมูกโด่งที่ขโมยความหอมของแก้มนิ่มหลายทีเริ่มเปลี่ยนเป็นงับเบาๆที่ใบหูแดงระเรื่อ
“แฟนจ๋า…”
สิ้นเสียงอ้อนชิดใบหู น้ำนมขาวพุ่งออกมาเต็มมือ…บางส่วนเลอะมาถึงหน้าท้องแกร่ง ส่วนคนพึ่งแตะขอบฟ้านอนตัวอ่อนหลับตาสนิท ปากเม้มแน่นด้วยความเขินอาย
“น่ารักว่ะ…”
“เหี้ย…”
หลังจากจัดการคนน้องเรียบร้อยก็ไล่ออกไป ไม่กล้าเสี่ยงให้มันอาบให้กลัวน้ำโดนแผลมัน แม้จะลำบากในการอาบน้ำใช้มือข้างเดียวแต่ก็ไม่เป็นไร แผลนิดเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว
แต่งตัวเรียบร้อยก็จับคนน้องนั่งบนเตียงยกขาขึ้นมาพาดตักเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ ตาเรียวมองมือแกร่งที่ค่อยๆพันผ้าให้ช้าๆ ก่อนจะมองหน้าคนพี่ที่ดูตั้งใจ
ทำไมจะไม่รู้…
ฟ้าลั่นดูแลเขาดีมาก…
ทุกอย่าง ทุกการกระทำ แสดงออกถึงความใส่ใจ…
“อ่ะเสร็จแล้ว”
“มา เชอทำให้”
“พี่พันเองได้นะ”
“ไม่เป็นไร อยากทำให้”
ฟ้าลั่นจุดยิ้มมุมปากก่อนส่งมือให้คนน้องเปลี่ยนผ้าพันแผลให้บ้าง จริงๆการออกกำลังกายหนักๆมักได้แผลมาบ้างจึงถนัดเรื่องพวกนี้แต่ดูอีกคนตั้งใจทำทั้งๆที่ไม่ถนัดมันก็รู้สึกดี
คิ้วเรียวขมวดมุ่นค่อยๆพันแผลที่เล็กนิดเดียวให้
“เบี้ยวแล้ว”
“ฮื่อ แปปสิ”
มองดูคนน้องตั้งใจจนเสร็จ เลยยกมืออีกข้างยีหัวเป็นการให้รางวัล
“สัส ไม่ใช่เด็ก”
“หึ ป่ะกินข้าว”
ช่วงนี้อาหารเช้าเป็นซีเรียลธัญพืชที่ให้วิตามินหลายชนิดกับนมงาดำ ส่วนเชอเบทที่เกลียดงาดำเป็นชีวิตจิตใจก็มีนมจืดพร่องมันเนย ผลไม้จากซุปเปอร์มาเก็ตที่ตัดมาแล้วห่อแพคขาย มีทั้งแอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอ องุ่นไร้เมล็ด และกีวี่
เชอเบทมองภาพฟ้าลั่นหยิบผลไม้ใส้ชามซีเรียลตัวเองแล้วยิ้มขำความรักสุขภาพของฟ้าลั่น ส่วนตัวเองมีโอริโอ้จุ่มนมสุดอร่อย
“กินผลไม้ด้วย”
“รู้แล้วน่า”
หยิบองุ่นไร้เมล็ดโยนเข้าปาก ไม่ชอบอะไรที่มีเม็ดอย่างฝรั่งเท่าไหร่ กินเสร็จก็เตรียมอุปกรณ์การเรียนที่ฟ้าลั่นยกชั้นด้านล่างฝั่งหนึ่งให้ เรียกว่าตอนนี้บ้านหลังนี้มีทุกอย่างที่เขาต้องใช้ยกเว้นโต๊ะเขียนแบบ
“แล้วรองเท้าจะเอาไงดีอ่ะ”
“ก็ใครให้มึงโยนทิ้งโยนขว้างล่ะวะ”
“ก็กูโมโห ยังไม่เคลียร์นะ”
ชี้หน้าคาดโทษคนพี่ที่ส่ายหัวขำๆ
“ไม่งอนนะ ไม่มีอะไรเลย ชอบเขาแล้วจะมาขอมึงเป็นแฟนทำไม”
“เผื่อมึงอยากมีกิ๊ก”
หลิ่วตามองไม่ไว้ใจ แต่ถูกฟ้าลั่นดีดหน้าผากดังเป๊าะ แล้วล็อคคอมาหนีบไว้แน่นอีก
“มึงสิอยากมี ใส่แตะไปก่อนเท้าเป็นแผล เค๊? แล้วดินระวังๆด้วย”
“รู้แล้ว ปล่อยโว้ยยย”
ยื้อยุดกันซักพักก็ยอมปล่อยแล้วดึงยางมัดผมจากข้อมืออีกฝ่ายมารวบผมให้ เชอเบทบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมนั่งลงบนโซฟาให้อีกคนมัดได้ถนัด สุดท้ายแว่นวินเทจที่เสียบอยู่กับกระเป๋าเสื้อก็ถูกยกมาสวม
วันนี้ใส่เสื้อนักศึกษาแขนสั้นตัวใหญ่กับกางเกงขาเดฟสีซีดจัด จริงๆควรได้ใส่ผ้าใบแต่เท้าไม่ปกติเลยได้ใส่แตะมาแทน
ฟ้าลั่นมองคนที่นานๆจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ก่อนจะดึงหนังสือในมืออีกฝ่ายมาถือแล้วโอบเอวประคองไปที่รถ เตรียมไปมหาลัยด้วยกัน
“ปริ๊นซ์”
“เชอ เอ้าพี่ฟ้าสวัสดีครับ เชอเป็นไรอ่ะ”
มองเพื่อนที่มีร่างสูงประคองมาถึงหน้าห้องเรียน
“ดื้อไงไปเดินเหยียบเศษแก้ว”
“สัส เพราะมึงนั่นล่ะ ไปไกลๆเลย กูมีเมียดูแลแล้ว”
“เออ ตอนเย็นเดี๋ยวมารับ”
“อื้อ”
ฟ้าลั่นส่ายหัวมองคนที่ไปทำตัวเป็นปลิงเกาะหลังเพื่อน ยีหัวมันอีกทีก่อนจะเดินออกมา ไม่ได้อะไรแล้วเรื่องปริ๊นซ์เพราะมันยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้ว
ถึงแม้จะมีเงื่อนไขว่าอย่าเพิ่งบอกใครเพราะมันยังทำใจไม่ได้
“ทำไมวันนี้เพื่อนฟ้าอารมณ์ดีจังวะ มีไรดีๆใช่มะ?”
“เสือกไรล่ะปิง”
“เชี่ยว่ากูอ่ะ”
“หึหึ เสือกอ่ะมึงเสือก”
ปิงเบ้ปากก่อนจะหันไปวุ่นวายกับแท๊ปแทน ฟ้าลั่นสไลด์มือถือตัวเองไปเรื่อยๆก่อนจะกดเปลี่ยนสเตตัสตัวเองเป็น In relationship แต่ไม่ได้บอกว่ากับใคร
คนกดไลค์เร็วเป็นน้ำป่าทะลัก มืทั้งเม้นถามว่าใครอะไรยังไงแต่ฟ้าลั่นไม่ได้ตอบ แค่แคปหน้าเฟสบุคตัวเองส่งไลน์ไปหาอีกคน
Fhafar : (ส่งรูป) มีแฟนแล้วนะ ห้ามจีบ
SB : สัสสสสสสสสส
Fhafar : ขอโทษนะที่ทำให้น้องเชอต้องอกหัก พอดีพี่รักแฟนมาก
SB : เชี่ย มึงเล่นไรเนี่ยยย
ฟ้าลั่นหัวเราะขำ อีกฝ่ายตอนนี้คงหน้าแดงทำหน้ายุ่งไปแล้ว
Fhafar : ตั้งใจเรียนล่ะ
SB : มึงนั่นแหละไอ้สัส!
“เชี่ยฟ้า มึงมีแฟนใหม่หรอวะ!”
ปิงตะโกนลั่นก่อนคนทั้งเซคชั่นจะหันมามอง ก่อนจะมีเสียงแซวขำๆว่าจะคบนานแค่ไหน แต่ละคนที่ฟ้าลั่นคบนี่มาไวไปไว
“คนนี้จริงจัง ใจพังก็ยอม”
ยิ้มมุมปากตาพราวเรียกเสียงโห่ฮา ก่อนอาจารย์จะเข้ามาทำให้ห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง แท๊ปที่นั่งขั้นกันส่งสายตาแซวมาเป็นอันรู้กัน เหลือแต่ไอ้ปิงที่ยังทำหน้าโง่มายิกๆถามว่าเชอเบทหรือเปล่า
“อาจารย์คร้าบบ ปิงไม่ตั้งใจเรียบคร้าบ”
“เชี่ยแท๊ป!”
“ไอ้ปิง พูดกับเพื่อนๆดีสิยะ เอ้ะหรือแฟน?”
อาจารย์ที่ปรึกษาของปิงที่เป็นอาจารย์ประจำวิชานี้แกล้งดุแถมแซวตบท้ายจนไอ้ปิงเขินหน้าแดง เพื่อนฮากันทั้งเซคชั่น
“สัสเอ้ยยยย”
“เอ้ะ พี่ฟ้าตั้งสถานะมีแฟนอ่ะ ใครอ่ะ? ไม่ใช่กับเชอหรอ”
“หือ ไรนะ?”
ได้ยินแล้วแต่ทำไม่ได้ยิน ยังไม่อยากจะตอบคำถามนี้ตอนนี้ มันทำหน้าไม่ถูก ยิ่งฝ่ายนั้นเพิ่งแคปรูปมากวนตีนยิ่งหมั่นไส้!
“เนี่ยๆ ดูดิ”
รับมือถือมาดูสเตตัสฟ้าลั่นที่คนกดไลค์จะทะลุหลักพันแล้วพร้อมคอมเม้นอีกเพียบแล้วทำหน้าไม่ถูก มันก็ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงนะว่าจะไม่บอกใครว่าคบกัน มันแค่บอกว่าตัวเองมีแฟน
โอ้ยยยย แต่คนใกล้ชิดมันก็รู้ปะวะ?
ยังไม่ทันได้ตอบอะไรปริ๊นซ์มือถือตัวเองก็ไลน์เด้ง
Chertam : ไม่ตั้งสถานะบ้างล่ะ?
เชอเบทอยากจะเอาหัวโขกกำแพงตาย….ไลน์จากฝาแฝดมาไวชิบหาย
SB : เลิกกี่โมง มาหาหน่อย
Chertam : ก็มาหาที่คอนโดดิ ลำบากกูมั้ย?
SB : เท้าเจ็บ ฟ้ามันมาส่ง
เวลาอารมณ์ดีๆ ฝาแฝดก็หาเรื่องกัดกันเล่นๆเป็นธรรมดา กวนกันไปกวนกันมาสุดท้ายก็แง่งใส่กันนี่ล่ะชีวิตเขากับเฌอแตม
Chertam : ถ่ายรูปมาดู
SB : (ส่งรูป)
Chertam : เออ เดี๋ยวไปรับบ่ายสาม ซุ่มซ่ามอ่ะดิ
SB : เออน่ะ รำคาญว่ะ
Chertam : มีแฟนแล้วก็ไปอ้อนแฟนให้ดูแล หึหึ
SB : กูลำบากใจ
Chertam : เลิกคิดมาก กูไม่เหงาหรอก ;’)
SB : โกหก
Chertam : เออน่า ช่วงนี้กูมีเด็ก
SB : เด็กแล้วมันแฟนมั้ย? ไม่เหมือนกันโว้ย
Chertam : มีแฟนแล้วสอนกูหรอ?
SB : สัส กูจริงจัง เหี้ย กูไม่น่าเป็นแฟนมันเลยว่ะ
Chertam : เลิกคิดมาก กูมีความสุขดี
SB : มึงก็เป็นแบบนี้ตลอด ความสุขเหี้ยๆ
Chertam : เชอ…ชีวิตมึงเป็นของมึง
SB : ก็ของกูไง
Chertam : ไปเรียน เจอกันบ่ายสาม
ฝาแฝดคงเรียนแล้ว ส่วนเชอเบทถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะสลับหน้าแชทไปหาฟ้าลั่นแล้วพิมพ์บอกว่าไม่ต้องมารับ เฌอแตมจะมาหา
“ขึ้นรถมา”
ยาริสสีดำจอดเทียบก่อนคนขับจะลดกระจก แต่ที่นั่งข้างๆกลับไม่ได้ว่าง…ผู้ชายคนหนึ่งจับจองไว้ อีกฝ่ายก็ดูทำหน้างงๆแต่ก็ผงกหัวทักทาย
เชอเบทกระโดดกระต่ายขาเดียวขึ้นไปนั่งเบาะหลัง ก่อนจะเลิกคิ้วให้ฝาแฝดที่สบตากันผ่านกระจกส่องหลัง เฌอแตมแค่ยักคิ้วกลับก่อนจะละสายตาไปที่ถนน
“จะกินไร?”
“อาหารญี่ปุ่นดีมั้ยครับ?”
“กูถามมึง? เชอจะกินไร?”
“ร้านเดิมปะล่ะ?”
เฌอแตมรับคำก่อนจะขับไปตามทาง ร้านเดิมคือร้านอาหารตามสั่งติดแอร์ที่ค่อนข้างไกลจากมหาลัยเล็กน้อย เขาและเฌอแตมชอบข้าวผัดต้มยำร้านนี้เหมือนกัน
“กินทำไมบ่อยๆอาหารญี่ปุ่น”
“อ้าว ก็แตมชอบกินอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่หรอ กินตามจนชอบแล้วเนี่ย”
“บอกให้เรียกพี่ ปีนเกลียวกูหรอ?”
“ดุว่ะ”
เชอเบทมองความขัดแย้งตรงหน้า ก่อนจะพอมองออกลางๆ เฌอแตมดูจะยังไม่ชอบมันเท่าไหร่แต่พามาขนาดนี้คงอยากทำให้เขาสบายใจ
รถยาริสจอดหน้าร้านก่อนฝาแฝดจะไล่คนนั่งข้างกันไปจองโต๊ะแล้วหันมาจ้องหน้าเชอเบท
“ดุไปไหนวะ”
ยกมือปัดผมหน้าม้ายุ่งๆของฝาแฝด
“เด็กมันกวน”
“ชอบแนวนี้หรอ”
“มันก็ดี มึงเลิกคิดมากได้แล้วเข้าใจมั้ย”
ดึงเชอเบทมากอดแน่นซุกหน้าลงกับไหล่แฝดผมยาว
“มึงจะไม่เหงาแล้วแน่นะ?”
“ไม่เหงาหรอก มีเด็กกวนตีนยิ่งไม่เหงา คันตีนมากกว่า”
เชอเบทหลุบตามองสบตาแฝดที่เอียงหน้าสบตากัน ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน สุดท้ายก็ยกแขนกอดตอบแฝดโยกไปมาเบาๆ
“ฟ้ามันขอเป็นแฟนเมื่อคืน”
“มันเหมาะกับมึง”
“เหมาะยังไง”
“มึงตอบตกลงแสดงว่ามึงชอบมันมากกว่าที่ชอบกู”
“กูรักมึงต่างหาก”
“กูก็รักมึง”
“คบกันเองเลยดีมั้ย?”
“อยู่กับมึงทั้งชีวิตกูต้องอ้วกแน่ เรารักกันแต่เราไม่ได้ชินที่จะอยู่ด้วยกัน”
ความจริงที่รู้กันมาตั้งนาน ฝาแฝดที่โตมาคนละสภาพแวดล้อม อยู่กันได้สักพักเชอเบทก็หอบผ้าหอบผ่อนไปสร้างบ้านอยู่เอง เฌอแตมก็ไม่อึดอัดเหมือนเดิม
“เซ็กเฟรนด์ไง?”
“กูเคยนับมึงเป็นเพื่อนด้วยหรอเชอ?”
“นี่กูอ่อยแล้วนะ?”
“ฟ้าลั่นแม่งตาบอด”
“ไอ้เด็กมึงนั่นก็ตาบอด”
ขายาวยกถีบขาฝาแฝดเซไปเล็กน้อย ก่อนคนโดนถีบจะซี้ดปากเบาๆเพราะลงน้ำหนักเท้าที่เจ็บ
“โอ้ะ สำออยว่ะ”
“สัสเอ้ย มึงมันเหี้ยจริงๆ”
ยกขาเตะคืนแต่ว่าที่คุณหมอก็เบี่ยงหลบทันก่อนจะเดินลิ่วๆเข้าร้านไป เชอเบทได้แต่สบถตามแต่ก็เดินตามเข้าไป …
เวลาอารมณ์ดี…กัดกันเองประจำ
================================================================
อิอิ ใกล้จบแล้วววววววววววววววววววววววว
เราไม่ดึงประเด็นเฌอแตมต่อนะคะ เพราะที่ผ่านมาพี่ฟ้าแม่งทุ่มเทฝ่ายเดียว ให้น้องมันเห็นน้ำใจพี่ฟ้าบ้างเหอะ 5555 ไม่งั้นพี่ฟ้าชอกช้ำ แม่ยกร้องไห้กันหมด อิอิ
แล้วประเด็นเฌอแตมให้ไปเด่นในเรื่องของแตมเองดีกว่า อิอิ
>___________<