Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335704 ครั้ง)

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #240 เมื่อ08-05-2016 20:48:47 »




Chapter 6



เช้าวันเสาร์ กนธีตื่นตั้งแต่เช้ามืด เขาลุกขึ้นมาทำกับข้าวเพื่อไปใส่บาตรให้ทันเพล เป็นของง่ายๆอย่างผัดผักบุ้งกับฟักทองผัดไข่ที่ศรัณย์ชอบ
   
ปกติแล้วเขาไม่ได้ทำอาหาร แค่เคยลุกมาทำอะไรตอบแทนคนรักบ้าง เพราะส่วนใหญ่แล้ว หน้าที่เข้าครัวจะเป็นของศรัณย์ เจ้านั่นไม่ค่อยอยากให้เขาพึ่งร้านอาหารข้างนอก หรือกินแต่กับข้าวสำเร็จในซุปเปอร์มาร์เก็ตนัก
   
ลงมือทำครั้งแรก กนธีเกือบทำไฟไหม้ครัว ก็เพราะผัดผักบุ้งไฟแดงที่หวิดจะทำเอาเขากับศรัณย์โดนไฟครอกตายนั่นแหละ หลังจากเสียผักบุ้งไปเกือบกระบุง ศรัณย์ก็สอนเขาทำได้สำเร็จ มันเป็นเมนูที่อีกฝ่ายชอบ รสชาติที่ทำออกมา ค่อนข้างจืด พอๆกับฟักทองผัดไข่ที่เละบ้างแข็งบ้าง แต่ก็เป็นรสของ ‘ครอบครัว’

“รู้ไหมว่ารสมือพี่กุนต์เนี่ย เหมือนที่พ่อผมเคยทำให้กินเลย” ศรัณย์ยิ้มให้
   
“พี่ว่าคุณพ่อของรัณย์ต้องทำอร่อยกว่านี้นะ” กนธีปาดเหงื่อ เขามันไม่เหมาะกับงานบ้านจริงๆ เอแคลร์จานบินเมื่อตอนครั้งแรกที่เจอกัน ศรัณย์ยังไม่ได้บทเรียนอีกหรือไง
   
“รสแบบนี้แหละ จืดๆเค็มๆ พ่อทำให้แม่กินครั้งแรก ตอนแม่ผมแพ้ท้อง แม่อยากกินแต่ผัดผักบุ้งกับผัดฟักทอง” ดวงตาคู่นั้นเป็นประกาย “ไม่ได้อร่อยมากมายหรอกครับ..แต่มันคือรสของความพยายามและความใส่ใจที่พ่อทำให้แม่ ผมก็เลยติดรสชาติแบบนี้มา..”
   
กนธียิ้มรับ ลูบหัวคนรักอายุน้อยของตนอย่างเอ็นดู ศรัณย์กุมมือเขาไว้ รั้งมาแนบแก้มก่อนจะจูบแผ่วเบา 
   
“ถึงตอนนี้ พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว ผมขออาศัยกินของโปรดจากฝีมือพี่กุนต์แทนแล้วกันนะครับ”
   
“อย่าทำหน้าเศร้าสิ” เขาปลอบ “เอาเป็นว่าถ้าไม่เบื่อ อยากกินเมื่อไรก็บอก..จะพยายามไม่ทำไฟไหม้”
   
ศรัณย์หัวเราะ “อย่าทิ้งผมเสียก่อนล่ะ ห้ามไปทำให้ใครกินด้วย ไม่ยอมจริงๆ”

   
กนธีหลับตานิ่ง หยุดความคิดที่นึกถึงเรื่องอดีต เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในครัวอย่างเหงาหงอย

..ในห้องที่กว้างขวาง..กลับมีแต่เขาเพียงคนเดียว..
   
กนธีเหม่อลอยอยู่พักใหญ่ก็ดึงสติตัวเองกลับมา จัดแจงทำของที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อนจะตักกับข้าวใส่ทัฟเปอร์แวร์ หิ้วไปกับตะกร้าผลไม้และชุดสังฆทาน เขาไปถึงวัดทันเพล เลยได้ถวายอาหารและกรวดน้ำให้อดีตคนรัก
   
เสียงพระสวดทำให้จิตใจคนฟังสงบลง ดวงตาแห้งผากทอดมองสายน้ำที่ตนรินลงสู่ถาดรอง
   
เขาขออุทิศบุญที่ได้ทำในครั้งนี้ให้กับศรัณย์..คนที่เข้ามาในชีวิต และทำให้รู้จักกับความสุข คนที่ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน..เขาก็สัญญาว่าจะระลึกถึงอยู่เสมอ
   
กนธีเอาน้ำไปเทลงโคนต้นไม้ใหญ่ เก็บข้าวของเข้ารถแล้วใส่เงินลงในตู้ปัจจัย สมทบทุนสร้างโบสถ์ ชำระหนี้สงฆ์
   
วัดนี้เป็นวัดที่อยู่ค่อนมาทางนอกเมือง ไม่ค่อยมีญาติโยมมากเท่าวัดใหญ่ๆในกรุงเทพ ที่รู้จักก็เพราะศรัณย์ชวนมา เจ้านั่นเป็นคนชอบทำบุญ ถ้าไม่ได้คบกัน เขาก็คงไม่ถูกดึงมาทางศีลทางธรรม
   
หลังจากทำบุญเสร็จ เขาก็เอาไม้กวาดมาทำความสะอาดลานวัดที่มีใบโพธิ์ร่วงลงมาเกลื่อนกลาด วันนี้เขามีแผนจะขับรถไปชลบุรี ไม่อย่างนั้นจะเข้าไปล้างห้องน้ำที่เขาร่วมสมทบทุนสร้างต่อ ศรัณย์บอกว่าทำแล้วได้บุญมาก
   
เขาไม่ได้หวังให้ตัวเองมีบุญเยอะๆหรอก..หวังแค่ว่าสิ่งที่ทำจะช่วยส่งผลไปยังคนที่เขารักเท่านั้นเอง
   
ตอนกวาดลานโล่งไปจนถึงเจดีย์ที่บรรจุกระดูก กนธีหันไปมองรูปถ่ายขาวดำของศรัณย์ เขายิ้มให้คนในนั้น
   
“ปีที่สามแล้วเนอะ” เสียงสั่นเครือพึมพำ “มาบ่อยๆแบบนี้ เบื่อหน้ากันหรือยัง..”
   
สายลมเอื่อยเฉื่อยพัดมา กนธีหลับตาลง รู้ว่าดูบ้าบอที่พูดอยู่คนเดียว แต่ให้ทำอย่างไรได้..ในเมื่อเขาคิดถึงศรัณย์สุดหัวใจ วันคืนที่ผ่านมาโดยไม่มีอีกฝ่าย มันทรมานยิ่งกว่าความทุกข์ครั้งไหนๆ
   
“พี่มีชีวิตใหม่แล้วนะ ไม่ได้นอนซม เข้านอนทั้งน้ำตา ตื่นมาทั้งน้ำตาอีกแล้ว” เขาก้มหน้ากวาดพื้นต่อ “ตอนนี้กินได้ นอนหลับ เที่ยวบ้าง ทำงานบ้าง แล้วก็..หากิ๊กไปวันๆ รัณย์อนุญาตใช่ไหม”
   
แน่ล่ะ..มันคือการบอกเล่า เพราะไม่ว่าจะถามอะไรไปมากแค่ไหน สิ่งที่ได้กลับมา
   
..ก็มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง..
   
“เจ้าไผ่มันก็คิดถึงรัณย์ แต่พี่ไม่ให้มันมา ก็ปีหนึ่งพี่จะมาที่นี่สักหน เลยไม่อยากให้มีคนอื่น ไม่อยากให้มันห่วงด้วยว่าผ่านมาสามปีแล้ว..แต่พี่ก็ยัง..” เขายิ้มจาง “รักแต่รัณย์..”
   
ชายหนุ่มคุกเข่าหน้าเจดีย์ ปัดเศษดินและถอนต้นหญ้าเล็กๆที่ขึ้นเกะกะ จุดธูปหนึ่งดอกขึ้นไหว้    
   
“ศรัณย์คนดี..พี่มาทำบุญให้ครั้งนี้ หวังว่าจะไปถึงเรานะ” เขาพูดเสียงเบา “ถ้ารัณย์ยังนึกถึงพี่ ก็อดทนรอพี่หน่อย สักวันเราคงจะได้เจอกันอีก”
   
เขาปักธูปลงกระถางกระเบื้อง ลูบลงรูปถ่ายของคนที่จากไปพลางระบายยิ้มอยู่ตามลำพัง
   
“แล้วพี่จะมาใหม่นะครับ..”

.

.

.



อินทัชมาถึงที่ร้านตอนประมาณสองทุ่ม ก่อนนี้เขาไปเจอผู้ว่าจ้างรายใหม่มา คนหนึ่งคือคุณพสิษฐ์ที่อ้างว่าเป็นญาติผู้น้องของคุณกนธี อีกคนเป็นเพื่อนของฝ่ายนั้น ชื่อนฤเบศร์ ถึงจะไม่ได้แนะนำว่าทำอาชีพอะไร แต่ดูท่าทางการพูดจากับเนื้อหาที่บอกเล่า เขาเดาว่าเป็นหมอแน่ๆ
   
“ผมอยากทำความเข้าใจใหม่ ฟังครั้งก่อนยังงงๆอยู่” อินทัชออกปากถามทันทีที่เจอหน้า “สรุปว่า ผมต้องทำตัวเลียนแบบ หรือพูดง่ายๆคือแอคติ้งเป็นคุณศรัณย์ใช่ไหม”
   
“ไม่ใช่ครับ” นฤเบศร์พูดแก้ “ผมอยากให้คุณทำตัวตามปกติ ไม่ต้องแสดงบทสมมติเลียนแบบใคร แค่ให้คุณโต้ตอบด้วยใจ เข้าใจความรู้สึกคุณกนธีเหมือนเข้าไปนั่งในใจเขา แต่ไม่ต้องมากขนาดนั่งร้องไห้หรือเศร้าตามไปด้วย และหากว่าคุณอยู่ในสถานะของศรัณย์ แฟนคุณจมอยู่กับความรู้สึกผิด คุณจะคุย จะให้กำลังใจคุณกนธียังไงบ้าง คือไม่ใช่พูดปลอบไปลอยๆ ผ่านๆแบบคนนอก..ผมย้ำแบบนี้ เพราะมันต่างกัน ระหว่างพูดด้วยใจ กับพูดแค่ให้มันจบเรื่องไป”
   
“โอเค..” เขาพยักหน้า “อันดับแรกคือมี empathy ไม่ใช่ sympathy”
   
นฤเบศร์เลิกคิ้ว ประหลาดใจไม่น้อย
   
“คณะผมอยู่ใกล้ๆคณะจิตวิทยา” อินทัชเล่า “พอจะจับจุดได้แล้วล่ะครับ..พูดแบบบ้านๆก็ เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วก็ support เขาในฐานะคนใน ไม่ใช่คนนอก”
   
“คุณหัวไวมาก”
   
เด็กหนุ่มไม่ได้ว่าอะไร “คุณบอกชัดๆแบบนี้ดีแล้วล่ะครับ เพราะปกติ ผมไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกคนอื่นนักหรอก พวกกระด้างน่ะ..ปลอบใครไม่เป็น แต่ถ้ารู้จุดประสงค์แล้ว ผมก็จะพยายามเต็มที่”

   
อินทัชถอนหายใจแผ่ว ตอนแรกเขาค่อนข้างมั่นใจ แต่พอก้าวขาเข้าร้านมา ก็เริ่มกังวลนิดๆ เขาคิดไม่ออกว่าจะเริ่มเข้าหาพี่กุนต์ด้วยวิธีไหน จู่ๆจะให้เดินไปตบไหล่ บอกว่า ผมเข้าใจพี่ มันก็คงแปลกพิกล โดยเฉพาะถ้าทางนั้นไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะอยากให้มีใครเข้ามาพูดคุยด้วย
   
..ถ้ากนธีไม่ปล่อยความรู้สึกในใจออกมา เขาก็เข้าหาไม่ได้..
   
อินทัชชั่งใจอยู่พักหนึ่งถึงได้โทรออกหาพสิษฐ์ รออึดใจ อีกฝ่ายก็รับสาย “คุณอยู่ไหนครับ”
   
‘ห้องอาหารด้านล่าง ผมกับหมอไม่อยากให้พี่กุนต์เห็น..’
   
“ผมขอถามอะไรเพื่อความแน่ใจหน่อย” อินทัชเดินไปทางห้องพักพนักงาน “แผลตกสะเก็ดที่ข้างในยังไม่หายดี ในกรณีที่แผลมันเปิดออกมา..แล้วผมห้ามเลือดไม่ทัน คนที่จะช่วยคือคุณหมอใช่ไหม”
   
‘ใช่ครับ..เขาจะรอที่นี่ ถ้าคุณอยากได้ความช่วยเหลือก็โทรมา’
   
“ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ” เขาพึมพำ “เรื่องสุดท้าย..คุณคิดว่าถ้าเปรียบความรักของสองคนนั้นกับเพลง มันจะเป็นเพลงอะไรได้บ้าง”
   
ปลายสายนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบ เขาพยักหน้ารับรู้แล้วกดวางสายไป
   
..ตอนนี้เขาก็แค่รอเวลาเท่านั้น..
   
ตอนที่เปิดประตูห้องพักเข้าไป อินทัชเจอเพื่อนสนิทอยู่เพียงลำพัง

“สน..” เขาเรียกคนที่นั่งเหม่ออยู่ตรงโต๊ะยาวแต่ปาลินไม่มีทีท่าว่าจะได้ยิน เพราะเจ้าตัวกำลังขมวดคิ้วมุ่นกับเครื่องคิดเลขและสมุดจดบันทึกรายรับรายจ่ายตรงหน้า “คุณลูกสน..” เขาเรียกชื่อเล่นเต็มยศของอีกฝ่าย

ปาลินหันมามอง ท่าทางดูอิดโรย มือข้างหนึ่งกำทิชชู่เอาไว้ จมูกแดงเรื่อเพราะฤทธิ์ไข้หวัดที่เป็นมาร่วมสี่ห้าวันแล้ว “หือ..โอ๊ตเรียกเราใช่ไหม”

“ก็ใช่น่ะสิ” อินทัชนั่งหมิ่นๆบนขอบโต๊ะ ขยี้หัวเพื่อนจนยุ่งเหยิง “ดูโทรมชะมัดเลยนะเรา”

“แย่เลยเนอะ” ปาลินหัวเราะเฝื่อน จามฟึดออกมาครั้งหนึ่งด้วยคัดจมูก เพื่อนตัวสูงเลยส่งทิชชู่ให้อีกแผ่น “ขอบคุณครับ”

“ไปพักเถอะ คืนนี้ขอพี่เขากลับก่อนก็ได้ ไม่ไหวก็อย่าฝืน แล้วนี่กินข้าวกินยาหรือยัง”

“กินแล้ว ค่อยยังชั่วขึ้นมาบ้าง แต่ง่วงสุดๆเลย” เขาถอนหายใจ ก้มหน้ากดเครื่องคิดเลขใหม่

“คิดวุ่นวายอะไรอยู่ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว ค่าหน่วยกิตก็จ่ายไปแล้วนี่”

“พรุ่งนี้เขาเรียกเก็บเงินรุ่นน่ะ คือ..เราค้างจ่ายมาสามงวดแล้ว คราวนี้เลยเบี้ยวไม่ได้ เดี๋ยวที่คณะจะมีกิจกรรมหลายอย่าง ต้องเตรียมงานบายเนียร์รุ่นพี่ เป็นค่าจองโรงแรมกับจัดงานด้วย..” ปาลินหน้าหมอง “ที่คิดเยอะเพราะเราต้องแบ่งไปจ่ายค่าอุปกรณ์วาดรูป ไหนจะเรื่องที่บ้านอีก พี่ศรคนเดียวไม่ไหวหรอก”

อินทัชพยักหน้ารับรู้ “เอาที่เราก่อนไหม”

“โอ๊ตมีหรือ” ปาลินถามอย่างเกรงๆ “เอ่อ..แต่อันที่จริง..เราไม่อยากรบกวน”

“เรารับงานคนๆหนึ่งมา วันเดียวเขาจ่ายตั้งห้าหมื่น นี่เขาโอนมัดจำมาแล้วสองหมื่นห้า” เด็กหนุ่มเล่าให้ฟัง “เรายังไม่มีเรื่องต้องใช้ตอนนี้ สนก็เอาไปจ่ายก่อน มีเมื่อไรค่อยคืน จะได้ไม่ต้องฝืนทำงานเกินตัวไง”

ปาลินมองเพื่อนอย่างซึ้งใจ “ถ้าอย่างนั้น..เราขอรบกวนนะ ภายในอาทิตย์หน้า เราจะเอามาคืนให้”

“ไม่ต้องรีบหรอก ไม่คิดดอกเบี้ย” อินทัชยิ้มจาง “เอาล่ะ..เบาใจแล้วก็ไปขอพี่เขากลับบ้านก่อนดีไหม” เขาแตะหน้าผากเพื่อนแล้วรู้สึกว่ายังมีไข้รุมๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราของีบสักสิบห้านาที ยังมีเวลาก่อนลูกค้าจะมา” ร่างเล็กยิ้มตาปิด “ขอบคุณนะโอ๊ต..”

อินทัชพึมพำรับคำ มองตามปาลินที่เดินเนือยๆไปยังโซฟายาวในห้อง มุมนี้มีไว้สำหรับให้พวกพนักงานมาพักผ่อน บ้างก็อาศัยนอนหลับก่อนเข้างานกะดึก

พอหัวแตะบนหมอน ปาลินก็หลับไปอย่างรวดเร็ว ดูก็รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน

ร่างสูงของเพื่อนรุ่นเดียวกันมองมาด้วยสายตาอ่อนโยน ความเงียบปกคลุมอยู่ในห้อง มีเพียงเสียงของเข็มนาฬิกาที่ดังแว่ว กับเสียงของเครื่องปรับอากาศที่เปิดไว้เย็นพอตัว

อินทัชหยิบเสื้อกันหนาวมาคลุมให้อีกฝ่าย ลูบปอยผมสีอ่อนที่ตกระอยู่บนใบหน้าได้รูปแผ่วเบา

ภายใต้แสงนีออน เด็กหนุ่มคุกเข่าลงข้างโซฟา โน้มตัวลง และแตะริมฝีปากลงกับแก้มอุ่น..เฉียดผ่านเรียวปากของฝ่ายตรงข้ามไปเพียงผิวเผิน

..เขาชอบปาลิน..

ถึงปากจะบอกว่าเป็นคนกระด้าง ไม่สนใจใคร แต่ความรู้สึก ‘รัก’ เขาก็สัมผัสกับมันมาแล้ว

.

.

.


[ต่อด้านล่าง]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2016 20:57:17 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #241 เมื่อ08-05-2016 20:49:06 »


.

.

.


กนธีขับรถกลับมาจากชลบุรีโดยใช้ความเร็วไม่มากนัก พอถึงกรุงเทพก็เป็นเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง ตอนแรกเขาว่าจะกลับไปนอน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ขับไปที่ Vin Santo
   
ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะต้องยิ้มให้ได้ในวันที่ไม่มีใครบางคนอยู่ข้างกัน แต่วันนี้..เขาขออ่อนแอสักวัน

ตั้งแต่เมื่อเช้า เขาพูด เขาคุย สร้างภาพเหมือนว่าศรัณย์ยังมีชีวิต และในตอนนี้ เขาขอแค่ได้มองหน้า..คนที่คล้ายคลึงกับศรัณย์ เขาคงจะมีความสุข
   
ที่จริง เขาควรจะทำใจรับความสูญเสียได้เร็วกว่านี้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนใกล้ชิดจากไป แต่เพราะมันยังมีอะไรบางอย่างค้างคา เขาถึงยังติดอยู่ที่เดิม

ถ้าเป็นไปได้..กนธีก็อยากจะขอซื้อเวลาสักหนึ่งชั่วโมง ยื้อให้ศรัณย์กลับมา ให้เขาได้พูดคุยสิ่งที่อยู่ในใจ

..และเพื่อจะได้บอกคำว่า ‘รัก’ เป็นครั้งสุดท้าย..

“สวัสดีครับ คุณกนธี” ปาลินตรงเข้ามาหาแขกของทางร้าน

เจ้าของชื่อยิ้มให้ สังเกตเด็กหนุ่มที่ดูกระตือรือร้นมาต้อนรับทั้งที่ตาปรือปรอย จมูกแดงเรื่อเหมือนเป็นหวัด

“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ดูเพลียๆนะ”

ปาลินหัวเราะแหะ “นิดหน่อยครับ วันนี้เลยไม่ขอเสิร์ฟอาหาร จะอยู่คิดบิลแทน” จะให้เขาเดินใส่ผ้าปิดปากเดินไปทั่วก็คงดูไม่ดี “เอ่อ..พอดีผมจองที่ไว้ให้คุณแล้ว”

กนธีหันไปมองโต๊ะวีไอพีที่จัดไว้ริมระเบียงของอาคารสูง จากตรงนั้นจะมองเห็นเวทีได้ชัดเจนเพราะยกพื้นขึ้นมาอีกระดับ มีต้นราชาวดีกั้นเป็นสัดส่วนทำให้แยกออกมาจากโต๊ะอื่น ที่นั่งเป็นโซฟาหวายยาว คั่นด้วยโต๊ะกลาง บรรยากาศโดยรอบดูสบายและเป็นส่วนตัว
   
“ผมไม่ได้โทรมาก่อนนี่นา” เขาถามอย่างประหลาดใจ
   
“โอ๊ตบอกให้จองเผื่อไว้น่ะครับ เพราะคุณกนธีเป็นแขกประจำของที่นี่”
   
คนฟังครางในลำคอ เขาเหลือบมองไปตรงลานด้านหน้าโดยอัตโนมัติ เด็กคนนั้นยังไม่ขึ้นร้องเพลง อินทัชนั่งอยู่ตรงซุ้มกุหลาบขาวด้านข้างเวทีและกำลังเล่นเปียโนเป็นทำนอง Rainy Days and Mondays ของ The Carpenters
   
“น้องเขาเล่นเปียโนเป็นด้วยหรือ” เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
   
“เป็นบางวันครับ” ปาลินยิ้ม “ปกติพี่อีกคนจะเล่น แต่วันนี้ทางนั้นลาหยุด โอ๊ตเลยเล่นเอง”

“เขาน่าจะเล่นบ่อยๆนะ..เพราะมาก”

“เขาบอกว่าไม่ค่อยถนัดน่ะครับ”

“ไม่จริงหรอกมั้ง” กนธีเดินตามเด็กอีกคนไปที่โต๊ะโดยไม่รู้ว่าใครอีกคนเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา
   
ปาลินยื่นเมนูให้แขกก่อนจะรอรับออเดอร์ น่าแปลกที่วันนี้คุณกนธีที่ดื่มแต่น้ำผลไม้ กลับสั่งเปิดไวน์แดง Pix Merlot ปี 2000 มาขวดหนึ่งโดยไม่เลือกอาหารมาทานด้วย
   
“ขอโทษทีนะ..กินไม่ค่อยลง” คนอายุมากกว่ายิ้มจาง “เอาแค่นี้แล้วกัน ถ้าจะสั่งอะไรเพิ่มแล้วจะเรียก”
   
อีกฝ่ายรับคำ แอบมองใบหน้าขาวที่ซีดเซียวแล้วอยากถามไถ่อาการ ขนาดเขาเป็นหวัด ยังดูไม่ซึมเศร้าแบบนี้เลย
   
ปาลินกลับมาอีกครั้งเพื่อเอาไวน์มาเสิร์ฟพร้อมกับลอบพิจารณาคนที่นั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย เขาเท้าคางมองวิวของตึกสูงอย่างเหม่อลอย 

กนธี สิงหนาทเป็นผู้ชายหน้าตาดี ไม่ได้หล่อเหลาในแบบไทยแท้ แต่กระเดียดไปทางเชื้อจีน อาจจะด้วยผิวที่ขาวสะอาด เกลี้ยงเกลา เครื่องหน้าทุกอย่างได้รูปเหมาะเจาะ ดวงตากลมสวย มีสีน้ำตาลอ่อนปนและจะยิ่งอ่อนลงมากเมื่อถูกแสง จมูกที่โด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบาง ทุกอย่างดูลงตัว เมื่อบวกกับรอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้าอยู่เสมอทำให้เป็นคนที่น่าเข้าหา หากไม่บอกอายุก็คงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ใกล้จะสี่สิบแล้ว
   
เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่มีบุคลิกคล้ายสายน้ำไหลเอื่อยๆ เสียงของเขานุ่มทุ้ม ฟังรื่นหู เมื่อได้ใกล้ชิดจะให้บรรยากาศของพี่ชายที่ไม่เคยไว้ตัว ทั้งยังชอบลงมาเล่นกับน้องๆแบบเป็นกันเอง
   
“ถ้าต้องการอะไรเพิ่ม เรียกผมได้เลยนะครับ” ปาลินบอกอย่างนอบน้อม
   
กนธีพยักหน้า ทิปให้หนึ่งร้อยบาทและกลับไปสู่ภวังค์ของตนเองอย่างเก่า
   
เสียงเปียโนยังคงบรรเลงต่อ เขาถูกดึงดูดความสนใจให้เผลอไปกับท่วงทำนองหวานซึ้งของบทเพลง The Sound of Silence ที่เคยเปรยไว้กับอินทัชว่าอยากจะฟัง ไม่รู้ว่าเป็นเพียงความบังเอิญ หรือเด็กหนุ่มจงใจจะเล่นให้ ถึงอย่างนั้น กนธีก็ไม่ได้สงสัยมากนัก เพราะเขากำลังใช้เวลาส่วนตัวนี้รำลึกถึงความหลังเก่าเก็บ
   
ศรัณย์เคยพยายามเล่นกีต้าร์เพราะรู้ว่าเขาชอบฟังเพลง โดยเฉพาะเพลงสากลเก่าที่หาฟังการเล่นสดๆในคอนเสิร์ตได้ยากแล้ว ตอนนั้นคนที่น่าสงสารนั่นฝึกหนักเสียจนนิ้วบวมแดง กระทั่งเขาที่นึกเอ็นดูต้องบอกให้พอ
   
“ซื้อแผ่นมาฟังกับฟังสดๆมันต่างกันนี่ครับ พี่กุนต์ก็บอกเองไม่ใช่หรือ”
   
“แค่ตั้งใจทำเพื่อพี่ เท่านี้ก็ดีใจแล้ว ขอรับไว้แต่ความคิดของรัณย์ก็แล้วกัน”
   
ศรัณย์ถอนหายใจ “อย่างน้อยเล่นได้สักเพลงก็น่าจะดี ถ้าไม่ได้อันนี้ จะลองเปลี่ยนไปดีดเปียโนดูบ้าง”
   
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”
   
“ผมอยากให้พี่กุนต์มองผมแบบที่มองพวกนั้น” เขาหมายถึงวง Santana วง The Eagle นักร้องคู่หูอย่าง Simon กับ Garfunkel และ Bee Gees “ตาเป็นประกายเกินไปไหมครับ ไม่เก็บความชอบเลย”
   
กนธีหัวเราะ “เพี้ยน”
   
“ครับ..เพี้ยน” ศรัณย์วางกีต้าร์ เขาเป็นคนร้องเพลงไม่ได้เรื่อง ดังนั้น..แค่การบรรเลงทำนอง ขอพยายามสักหน่อยเถอะ “ผมบอกพี่แล้ว..ว่าผมขี้หึง กับนักร้องก็หึงครับ ไม่มีข้อยกเว้น”
   
เขายิ้ม “ไม่ได้ครึ่งของพี่หรอก..”
   
“เรื่องอะไรครับ เรื่องเพี้ยน? หรือว่า..เรื่องที่ขี้หึง”
   
“ทั้งสองอย่าง”

   
กนธียิ้มให้กับเรื่องราวในอดีตที่ดูจะเลือนลางไป ระยะหลังนี้ เขาพยายามจะทบทวนแต่ช่วงเวลาที่มีความสุข แม้ว่าในความเป็นจริง การคบหากันของเขากับศรัณย์จะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาฝันไว้ตลอดเวลา
   
มีเสียงปรบมือดังมาจากลูกค้าของเลานจ์ เขาหันมอง เห็นว่าอินทัชเล่นเปียโนเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มเดินลงมาหาแขกเพื่อรับทิป เขาเองก็อยากจะให้ แต่วันนี้ยังไม่มีอารมณ์คุยกับใคร
   
..แค่อยากจะมองใบหน้านั้น และดื่มดำกับความทรงจำสีจางก่อนที่จะกลับสู่ความเป็นจริง..
   
ไวน์แดงพร่องลงไปครึ่งขวด ในท้องที่ว่างเปล่ามีแต่แอลกอฮอล์ขมปร่า ลิ้นเขาไม่รู้รสความนุ่มละมุนขององุ่นแดงที่หมักบ่มไว้ในถังไม้โอ๊ค รู้แต่ว่าอยากจะดื่ม..โดยไม่มีเหตุผล และมันทำให้หวนคิดถึงความทรมานเมื่อสามปีที่แล้ว

..เขากิน นอน และหายใจ แบบไร้ความหมาย..
   
เสียงกีต้าร์ดังขึ้น เพลงหนึ่งถูกร้องขึ้นมา กนธีไม่ได้ใส่ใจ กระทั่งเพลงนั้นจบลง แขกปรบมือ และเพลงที่สองขึ้นตามด้วยทำนองที่คุ้นเคย เขาถึงได้ชะงักนิ่ง
   
..เพลงนี้..   

ร่างสูงใหญ่ของคนอ่อนวัยนั่งอยู่กลางเวที ปลายนิ้วเรียวพลิ้วไปตามสาย ดวงตาคู่สวยหลุบต่ำลงมองกีต้าร์ที่วางพาดกับตัก ใบหน้าหล่อเหลานั้นโน้มลงใกล้ไมโครโฟนก่อนจะกระซิบเสียงนุ่มละมุนออกมา

“Though we gotta say goodbye for the summer. Darling, I promise you this. I'll send you all my love everyday in a letter.” เขาเงยหน้าขึ้น มองผ่านแขกนับสิบคนไปยังโต๊ะวีไอพีด้านหลัง “Sealed with a kiss”

หยดน้ำตาร้อนผ่าวร่วงลงเงียบเชียบ หูที่รับฟังได้ดีเหมือนจะอื้ออึง

ศรัณย์ที่ล้มเลิกจากการเล่นกีต้าร์ ใช้เวลาถึงปีกว่าในการเรียนเปียโนกับพสิษฐ์ และเพลงแรกที่เขาร้องในวันคล้ายวันเกิดของกนธีก็คือเพลงนี้

“Yes it's gonna be a cold, lonely summer. But I'll fill the emptiness” ศรัณย์ที่น่าสงสารทุ่มเทสุดตัวในการร้องเพลงให้ถูกคีย์ “I'll send you all my dreams everyday in a letter…..Sealed with a kiss”

กนธีเบือนหน้าหนี ริมฝีปากที่เม้มแน่นสั่นริก

“I'll see you in the sunlight.” คนรักเขายิ้มกว้าง “I'll hear your voice everywhere.”

“I'll run to tenderly hold you” อินทัชทอดเสียงอ่อนลง และในความคิดของคนฟัง เสียงของศรัณย์เทียบคนๆนี้ไม่ติดเลยด้วยซ้ำ “But darling you won’t be there.”
   
..แต่กนธีก็ซ้อนทับคนทั้งสองเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิทไปเสียแล้ว..

ชายหนุ่มยกหลังมือขึ้น ปิดบังใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา

เพลงนี้มีความหมายมากกว่าแค่ศรัณย์ได้เล่นเปียโนครั้งแรกในวันเกิดของเขา แต่มันเป็นเหมือนเรื่องราวเก่าๆที่เป็นจุดเริ่มต้น ตอนนั้น..พวกเขาต่างแอบชอบอีกฝ่ายแต่ไม่กล้าพูด เขายอมรับในตัวศรัณย์..แต่ไม่คิดคาดหวังเพราะรู้ดีว่าคนที่อายุน้อยกว่ามีสิทธิ์ที่จะเลือกคนอื่นเข้ามาได้อีกมากมาย ในขณะที่ศรัณย์คิดเทียบตัวเองกับเขาว่าด้อยกว่าในทุกทาง

ความรู้สึกที่อัดอั้น ถูกระบายผ่านทางจดหมาย และคนที่มีโอกาสได้รับรู้ก็คือพสิษฐ์ พวกเขาคิดว่าหมอนั่นอยู่ไกล คงไม่มีทางแย้มพรายความลับนี้ให้อีกฝั่งฟังได้แน่ ใครจะรู้..พสิษฐ์จะแอบยุยงให้ศรัณย์เดินหน้า ในวันที่พวกเขาตัดสินใจคบกัน พสิษฐ์กลับมาเมืองไทยและยื่นถุงที่ใส่จดหมายทั้งของเขากับศรัณย์มาให้

“ให้ตายเถอะ..จะจีบกันก็ไม่รู้จักพูดกันเอง ระบายใส่คนกลางอยู่ได้” พสิษฐ์ทำหน้ายียวน “คนนั้นพร่ำแบบนี้ คนนี้พรรณนาแบบนั้น หนุ่มโสดอย่างผมขนลุกเป็นบ้า”

“ไอ้เด็กเปรต!” เขาหน้าร้อนจัด

“อะไรคือ..ผมอยู่ต่ำกว่า ไม่กล้าหวังสูง แต่ถ้าคลาดไปจากคนนี้ต้องตายแน่” พสิษฐ์ยกจดหมายศรัณย์มาแกล้งอ่าน จากนั้นก็หยิบจดหมายอีกใบมาเปิด “ส่วนนี่ก็..แค่ได้อยู่ใกล้ๆก็ดีแล้ว ไม่กล้าหวังให้เขามาชอบ รัณย์ยังเด็ก..คงไม่สนคนอายุมากกว่า”

จำได้ว่าเขากระโดดล็อกคอญาติผู้น้อง บีบคอมันอย่างแรงจนเจ้านั่นแทบลงไปกลิ้ง

“สรุปว่าไอ้ที่ส่งๆมาไม่เคยถามสารทุกข์สุกดิบน้องชายเลย พี่กุนต์ก็เอาแต่พูดถึงศรัณย์ และศรัณย์ก็เอาแต่พูดถึงพี่กุนต์ ส่วนนายไผ่ก็เป็นตู้จดหมายจำเป็น!”

“โธ่..คุณไผ่อย่าน้อยใจไป” ศรัณย์เองก็หน้าแดงจัด

พสิษฐ์กอดอก หัวเราะหึๆ “ใจตรงกันแล้วนี่ ทีหลังเขียนหากันโดยตรงเลยนะ แล้วอย่าลืมจูบปิดผนึกไปด้วยล่ะ”

“ไอ้ไผ่! ไอ้เด็กปากมาก!” 

“เคยฟังไหม Sealed with a kiss”


กนธีเช็ดน้ำตาอีกครั้ง พอดีกับที่เสียงทุ้มต่ำร้องท่อนสุดท้าย

“I'll send you all my love everyday in a letter” ปลายนิ้วที่ดีดเพลงขยับช้าลง “Sealed with a kiss”

มีเสียงปรบมือจากแขกดังขึ้นอีกครั้ง เขากะพริบตาถี่ ไล่ความทรงจำในอดีตที่กลั่นออกมาเป็นหยดน้ำ

อินทัชยังไม่ลงจากเวที เขาก้มหัวขอบคุณลูกค้าของเลานจ์

ดวงตาสีเข้มมองเลยผ่าน จับจ้องอยู่ตรงที่นั่งริมระเบียง เขารู้สึกได้ว่าพี่กุนต์กำลังบังคับตัวเองสุดความสามารถ แต่เขาจะไม่ปล่อยเวลานี้ให้ผ่านไปเฉยๆ

“ผมเชื่อว่าทุกคนมีความรัก” อินทัชยิ้มจาง สะกดคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน “ในเวลาที่ความรักหอมหวาน ก็เปรียบได้เหมือนเพลงรักที่หวานซึ้ง ความทรงจำในช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งที่มีค่า”

กนธีหันมามอง ดวงตาสั่นไหวอย่างไม่เข้าใจ

“แต่ความรักที่แท้จริง ไม่ได้มีแต่ช่วงที่เป็นสุข ในเวลาที่ความรักถึงทางตัน และต่างฝ่ายต่างต้องปล่อยมือ ไม่ว่าจะหมดรักแล้ว..หรือต้องจากไปทั้งที่ยังรัก มันก็ทรมานด้วยกันทั้งนั้น..” เขาพึมพำ “คืนนี้ เรามาลองเปิดใจและสัมผัสความเจ็บปวดที่ว่าดู..มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกครับ”

คนฟังกำมือแน่น ฟันขาวขบริมฝีปากล่างจนสั่นริก

“เพลงนี้ค่อนข้างเศร้านะครับ แต่อย่ากลัวน้ำตาของตัวเอง อย่ากลัวที่จะร้องไห้..อย่ากลัวที่จะปลดปล่อยความทุกข์ ความเหงาออกมา..ปล่อยความรู้สึกไปกับเพลง เหมือนทิ้งตัวลงแม่น้ำ..ยอมให้กระแสน้ำพัด จนกว่าจะถึงจุดหมาย..” เขาพูดแฝงความนัย “ผมจะอยู่ข้างๆคุณ”

“มาฟังกันอีกสักเพลงนะครับ” อินทัชเปลี่ยนท่านั่งให้ถนัดขึ้น นิ้วเรียวยาวดีดกีต้าร์ “My Love is Gone from Me”

กนธีอยากจะลุกหนีออกไป แต่สองเท้าของเขากลับไม่ขยับ หูยังทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเคยเมื่อเนื้อเพลงที่แสนเศร้าของรสชาติความรักที่จากไปถูกร้องออกมา

“Like a dream taken from the dreamer. Like a streamer sailing out to sea. Like the sinking sun when day is done.” อินทัชจงใจมองที่แขกคนสำคัญ “My love is gone from me”

กนธีปล่อยน้ำตาร่วง วันคืนที่เขาสูญเสีย มันไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกนั้น

..Like the stars vanished from the heaven..

..Like the red leaves falling from the trees..

ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ไม่ว่าจะมองอะไร

..ทุกสิ่งทุกอย่าง..เหมือนขาดวิญญาณ..

..แห้งแล้ง เดียวดาย ไร้ซึ่งจิตใจ..

..Like the winter storm can come no more..

..My love is gone from me.. 

ร่างที่นั่งนิ่งสั่นไหว มือทั้งสองกำแน่น จิกปลายเล็บลงกับฝ่ามือ ขณะที่น้ำตาไหลไม่หยุด

“Where are the days we used to know. Roaring the hill and the shore”

ภาพในวันนั้นฉายชัด เขาดื้อรั้น ทำตัวโง่เง่า ไม่ฟังคำทักท้วงของศรัณย์ ไม่สนที่อีกฝ่ายเป็นห่วง สนแต่อยากจะเอาชนะ เขาไปงานเลี้ยง จงใจดื่มเหล้า จงใจโทรหาศรัณย์ เขาอยากให้คนรักสนใจเขามากกว่าที่เป็น

“When will I find true love again. Never, never more”

..ใช่..เขาไม่มีวันพบเจอความรักที่แท้จริงได้อีก..ไม่มีวัน..

..ถ้าไม่ใช่เพราะเขา..ศรัณย์ก็ไม่ต้องมาตายแบบนั้น!..

กนธีตัวสั่นเทา เขาควบคุมร่างกายไม่อยู่ จากการร้องไห้โดยไม่มีเสียง..เขารู้สึกว่ากำลังสะอื้น 

เขาเกลียดตัวเอง..เกลียดที่วันนั้น เขาหันไปบอกเพื่อนด้วยสายตาของคนชนะ

“ศรัณย์มาแล้ว..เขากำลังขับรถมา”

“เขาเป็นคนของฉัน ต้องเชื่อฟังฉัน ไม่ว่าจะสั่งอะไร เขาก็พร้อมทำตามทุกอย่าง”

“อย่าว่าแต่ต้องอดนอน ขับรถมารับตอนตีสามทั้งที่เป็นไข้เลย ให้ศรัณย์ต้องเจ็บ ต้องเสี่ยงเพื่อฉัน เขาก็ทำ”


“Like a dawn, painting in the shadow. Like a wild bird suddenly set free Like the April days that slip away” อินทัชดีดกีต้าร์ท่อนสุดท้าย “My love is gone from me”

เสียงปรบมือจากแขกทุกคนดังขึ้น หากใครอีกหนึ่งไม่สามารถรับรู้ได้

กนธีร้องไห้รุนแรง ฝ่ามือกำแน่น..เหมือนกำลังลากเอาความรู้สึกผิดที่ผูกกันเป็นโซ่ขึ้นมาแล้วขยุ้มเอาไว้จนเลือดไหลโซมมือ

..เขามันโง่เง่า..โง่สิ้นดี..
   
สมใจไหม..ที่ทำให้ศรัณย์ได้พิสูจน์ความรัก เพียงเพื่อจะเอาชนะเพื่อนของตนที่ปรามาสมา เขาถูกคำพูดไร้สาระแทงลงกลางใจ คำพูดที่ว่าความรักของเขาอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะซื้อศรัณย์ด้วยเงิน
   
“ที่เขาเอาใจ ไม่คิดหรือว่าเขาทำไปเพราะหน้าที่”
   
“ศรัณย์ไม่เคยขอเงินจากฉัน” เขาหงุดหงิด โวยวายเพราะเหล้าเข้าปาก “เขามีศักดิ์ศรีมากพอ!”
   
“หลอกตัวเองหรือเปล่า”
   
“เป็นแค่คนนอก..ไม่รู้อะไรก็อย่ามาพูดดีกว่า” เขาข่มอารมณ์ แต่ก็รู้ดีไม่น้อยว่าเรื่องนี้มันเหมือนหนามยอกอก
   
ก่อนมาที่งาน เขาทะเลาะกับศรัณย์ด้วยเรื่องบ้านที่เจ้านั่นไปแอบซื้อ เรื่องผู้หญิงที่ส่งข้อความมาหาแฟนของเขา เรื่องที่อีกฝ่ายปฏิเสธ ไม่ยอมรับความช่วยเหลือให้ได้เลื่อนตำแหน่งในบริษัท

เขาแค่อยากเป็นคนที่ศรัณย์พึ่งพาได้มากที่สุด อยากเป็นไม้ใหญ่ให้อีกคนได้อาศัย นั่นเพราะเขาคิดไปไกล ว่าเมื่อถึงเวลาที่ศรัณย์หมดรัก อย่างไรก็คงไปไหนไม่พ้น ในเมื่อเขายังมีประโยชน์..ยังมีหลายสิ่งให้ตักตวง

เขาหวังลึกๆในใจ แอบคิดอยู่ตามลำพังว่าอยากจะให้ฐานะ เงินทอง ตำแหน่งหน้าที่การงาน..เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์นอกเหนือไปจากความผูกพันทางร่างกายและจิตใจ

“ทำใจเถอะ..มีแฟนเด็กกว่าก็เป็นแบบนี้ ปัญหาน่ะมันมาอยู่แล้ว แค่จะมาช้าหรือเร็ว” ทางนั้นหัวเราะ “มีสติหน่อย..คิดดูดีๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเราซื้อเขาไว้ เขาจะยอมอยู่ใต้อาณัติหรือ”

“เงียบ!” ต่อให้เขาอยากใช้เงินเหนี่ยวรั้งศรัณย์แล้วจะทำไม มันเป็นเรื่องของเขา!

ถึงจะเป็นความวาดหวังในใจ แต่เขาก็ไม่คิดจะให้ใครรู้ เพราะสุดท้าย..เขาก็อยากให้ ‘ความรัก’ เป็นเหตุผลแรก ที่ทำให้ศรัณย์เลือกเขา มันเป็นเหมือนปมที่ขัดแย้ง..ถึงได้เกลียดที่ถูกพูดแทงใจดำ
   
“เมาแล้ว เรียกคนขับรถมารับสิ หรือจะเรียกเด็กของตัวเองมารับดี” เสียงขบขันกระเซ้ากลับ “ตีสาม..ไม่อยู่บ้านแบบนี้ เขาอาจจะไปกกคนอื่นอยู่ก็ได้ หรือไม่ก็ไม่มีใจจะมารับใครบางคน..ก็ไม่ได้รักนี่นะ”
   
“ไม่มีทาง! เขาอยู่ที่บ้าน นอนอยู่ เรื่องอะไรฉันต้องให้คนไม่สบายถ่อมาถึงนี่เพื่อพิสูจน์คำยุของคนอื่น”
   
“ไม่กล้าก็บอกมา..”
   
เขาโกรธจัด เมามายจนไม่คิดหน้าคิดหลัง หยิบมือถือและต่อสาย
   
“มารับหน่อย..ทำเพื่อพี่ได้ไหมรัณย์”   

   
การเฝ้ารอในวันนั้น..คือการเฝ้ารอไปตลอดกาล
   
กนธีไม่รู้ตัวว่าร้องไห้หนักแค่ไหน รู้แต่ว่าในช่วงเวลาที่สับสน ความทรงจำทุกอย่างพร่างพรู มีอ้อมกอดแข็งแรงของใครคนหนึ่งโอบรัดมา 

แผ่นอกกว้างให้ความรู้สึกอบอุ่น ฝ่ามือคู่นั้นสัมผัสเขาแผ่วเบา ปลายนิ้วอีกฝ่ายไม่ได้เช็ดน้ำตาให้ แต่กลับสอดเข้ามา ค่อยๆคลายมือของเขาที่กำแน่น ใช้รองปลายเล็บที่จิกเกร็งเหมือนกำลังลงโทษตัวเอง

ใครคนเดิมเปิดปากกระซิบข้างหูขณะประคองตัวเขาให้ลุกขึ้นยืน

แม้จะแตะต้องนุ่มนวล แต่ก็เป็นหลักที่มั่นคง 

“ไปกับผม..”





.................................................................................






ผิดไปแล้ววว ผิดไปแล้ววว แต่ก็ยังยืนยัน ว่าฉัน..ตั้งใจ    :katai5:

หายหัวไปเขียนเรื่องสั้น ฮือออ ขอโทษก๊าบบบ

ต่อตอนหน้าน้าา



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2016 20:56:37 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #242 เมื่อ08-05-2016 20:58:44 »

พุ่งเข้าเสียบ ย้ากกกกกก

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #243 เมื่อ08-05-2016 21:12:23 »

ฮือออ สงสารพี่กุน คุณนิกิริเป็นคนที่เขียนแล้วเราอินมากๆๆๆๆ
คือมันรู้สึกร้าวไปด้วยเลย โมโหอินทัชหน่อยๆ อย่าไปแอบชอบปาลินเส่ะ
ถึงจะรู้ว่าไม่ผิดก็เหอะ555 แต่ตอนนี้เข้าข้างพี่กุนสุด อินทัชต้องชอบพี่กุนเท่านั้นน
รอนะคะ :3123:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #244 เมื่อ08-05-2016 21:12:53 »

เศร้า สงสารพี่กุณ

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #245 เมื่อ08-05-2016 21:14:42 »

 :sad4: ดราม่าเบอร์นั้น ฝังใจ แอบรัก

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #246 เมื่อ08-05-2016 21:20:45 »

กรีดและบาดมากเลยค่ะ เหมือนความทุกข์ที่พี่กุณมียังสดใหม่อยู่เลย เพลงก็ช่าง.... ฮือ...
ประโยคสุดท้ายนั่นก็เท่มาก

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #247 เมื่อ08-05-2016 21:25:46 »

ในความเศร้ามันเจือไปด้วยความลึกซึ้งของความผูกพัน
นี่เป็นมุมหนึ่งของความรักที่ไม่ค่อยได้ถ่ายทอดผ่านนิยายวายกันสักเท่าไหร่
สุดยอดมากๆ ครับ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #248 เมื่อ08-05-2016 21:26:56 »

ร้องไห้เป็นเพื่อนพี่กุนต์ :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #249 เมื่อ08-05-2016 21:31:04 »

โอ๊ยยยยยย น้ำตาไหลเลยอ่ะ สงสารพี่กุนอ่ะ แล้วก็ค้างไปอีก ไปกับผมเนี่ยจะพาพี่เขาไปไหนจ๊ะโอ๊ต

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
« ตอบ #249 เมื่อ: 08-05-2016 21:31:04 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #250 เมื่อ08-05-2016 21:51:34 »

สงสารรรรรร.... น้ำตาซึมๆตาม 

:mew4: ตอนไปหาศรัณย์


เห็นเพลง sealed with a kiss
นี่น้ำตาไหลเลย  :sad4: ร้องได้นะ (รุ่นๆ เหอะ!)

เราคล้ายๆพี่กุนแหละ ชอบฟังเพลง
แล้วก็ร้องไห้กับเพลงเก่าๆ เห้อออออ :serius2:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #251 เมื่อ08-05-2016 21:52:00 »

สงสารพี่กุนย์. อินทัชคงไม่มาหลอกพี่กุนย์นะ :hao5:

ออฟไลน์ benbencoffee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #252 เมื่อ08-05-2016 21:56:51 »

มาถึงก็ทำเราเสียน้ำตา.. แต่ดีใจนะคะที่กลับมา
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #253 เมื่อ08-05-2016 22:10:24 »

สงสารศรันย์

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #254 เมื่อ08-05-2016 22:20:32 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


ขนาดทำใจไว้แล้วก่อนอ่าน แต่น้ำตาก็ซึมตั้งแต่ย่อหน้าแรกเลยค่ะ
ฮือออออออออออออออออ สงสารพี่กุนต์คนดีของน้อง
อยากกอด อยากปลอบว่าไม่เป็นไรนะคะคนดี TvT

เม้นท์ไม่ออกบอกไม่ถูก แต่อ่านแล้วจุกในใจจังเลย ; - ;
พี่กุนต์ถึงจะบอกว่ามีชีวิตใหม่แล้วแต่ก็แบกรับความเจ็บปวดเอาไว้มาตั้งสามปี
วันนี้แผลเก่าโดนซ้ำเลือดใหญ่ซิบเลย ฮืออออออออออออออออออ

แล้วไอ้ประโยคไปกับผมตอนสุดท้ายเนี่ย..
นังเด็กอินทัชชชชชชชชชชชชชชชช #กรีดร้องงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #255 เมื่อ08-05-2016 22:21:24 »

งืมมมมมมมม :hao5:
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก โอ๊ยทำไมมันรวดร้าวได้ขนาดนี้ :m15: :m15:
เข้าใจเลยว่าทำไมพี่กุนเป็นได้ขนาดนี้ โอ๋น้า :mew2:
มันไม่ง่ายเลยจริงๆที่จะยอมรับว่าพรุ่งนี้ไม่มีเขาอยู่แล้ว
ขอให้พี่กุนเจอรักครั้งใหม่ ที่ดีกว่า ไม่ว่ากับใครก็ตาม :hao4:  :hao4:

ออฟไลน์ Lookwa1007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #256 เมื่อ08-05-2016 22:21:48 »

อยากจะร้องไห้ สงสารพี่กุนต์

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #257 เมื่อ08-05-2016 22:26:15 »

คุณพระ น้ำตามาค่ะ ตอนเดียวเท่านั้น ปรกติจะอ่านซึมซับทั้งเรื่องแล้วมาพีค น้อยเรื่องอีกต่างหาก
อันนี้ตอนเดียวว ร้องไห้เพราะศรันย์+พี่กุนเลย :ling3:

ออฟไลน์ DATAs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #258 เมื่อ08-05-2016 22:27:51 »

 :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #259 เมื่อ08-05-2016 22:31:02 »

แทบจะร้องไห้ไปกับพี่กุนต์
ชื่อเรื่องจะหมายถึงใครกันนะ
รอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
« ตอบ #259 เมื่อ: 08-05-2016 22:31:02 »





ออฟไลน์ ~tai~

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #260 เมื่อ08-05-2016 22:41:14 »

 อ่านจบ...ไม่รู้ทำไมตาบวมเลย... :sad4:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #261 เมื่อ08-05-2016 22:50:23 »

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกน้ำตาปริ่ม สงสารพี่กุนกะรันมาก ทำไงดี ไม่อยากให้ใครมาแทนรันเลย มันแทนกันไม่ได้หรอก ยิ่งอินทัชรักปาลินแล้ว ยิ่งเข้าไปใหญ่
#อยากให้ไผ่เป็นนพระเอกอะ แลดูอบอุ่น รู้ทางพี่กุนด้วย มโนไปไกลละ มาต่อไวๆนะคนเขียนที่รัก :mew2:

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #262 เมื่อ08-05-2016 22:55:55 »

จำได้นะเออว่าคุณข้าวปั้นเคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยดราม่า เบา ๆ สบาย ๆ  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #263 เมื่อ08-05-2016 23:27:41 »

 :sad11: :sad11:

นึกถึงคนรักที่จากไปแล้วมันกลั้นน้ำตาได้ยากจริงๆ และยิ่งเราเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม่มีเขาอยู่ข้างๆด้วยแล้ว ... ฮืออออ พี่กุนต์

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #264 เมื่อ08-05-2016 23:28:50 »

รวดร้าว

แผลนี้ไม่หายง่าย ๆ เวลาแค่นี้ทำได้แค่เจือจางมันเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ไอ้เพื่อนเลวที่ยุให้หวาดระแวงนี่มันใจร้ายที่สุด

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #265 เมื่อ08-05-2016 23:30:04 »

โอ้ยยย ฆ่าฉันเถอะ

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #266 เมื่อ09-05-2016 00:04:50 »

สงสารพี่กุนน :o12:

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #267 เมื่อ09-05-2016 00:16:55 »

เขียนได้ดีมากเลยค่ะ เศร้าสุดๆ
 :sad11:

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #268 เมื่อ09-05-2016 00:56:23 »

โอ้โห อินแบบสุดๆอ่ะ  :hao5:
แบบไม่ไหวแล้ว เหมือนเห็นเรื่องราวเป็นฉากๆ
เบื้องหลังการตายของศรัณย์เป็นอย่างนี้นี่เอง
พี่กุณเลยไปไหนไม่ได้ ติดอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา
แล้วยังมาอินทัชที่ชอบปาลินอีก
ถ้าสองคนนี้เป็นพระ นาย คงไม่ได้รักกันแบบง่ายๆแน่
ก็คิดอยู่แล้วว่าเรื่อง ซิน นี่มันดราม่าทั้งหมด  55555
แต่คือชอบมากกกกอ่า มันอ่านแล้วได้อารมณ์ ได้ความเศร้า
รับรู้ความรู้สึกของตัวละครผ่านตัวหนังสือเลย พีคมากกก  o13

ออฟไลน์ Mom2maM

  • DRaMa ADdiCTeD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.6] pg.9 -- 8/5/59
«ตอบ #269 เมื่อ09-05-2016 00:57:34 »

รอตอนต่อไป
อยากรู้ว่าในความเป็นจริง
ศรัณย์ยังคงเป็นคนมั่นคงกันกนธีจริงๆ
หรือว่าสมองของกนธีบังคับให้จดจำว่าศรัณย์ยังรักกับตัวเองอยู่
เพราะอาจจะรู้สึกผิดที่ตัวเองมีส่วนทำให้ศรัณย์ตาย

#บ้านที่ซื้อและข้อความจากผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด