Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335991 ครั้ง)

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #720 เมื่อ20-07-2016 23:40:38 »

ป๋าก็มีอยู่กลัวอะไร, ปัญหาอย่างเดียวคือ ปาลินนี่แหละ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #721 เมื่อ21-07-2016 00:40:12 »

 :fire:ใคร ใครมันเป็นคนปล่อยข่าว ขอให้กรรมมันตามสนองพวกขี้อิจฉา พวกปากเปาะมันทุกคนเลย

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #722 เมื่อ21-07-2016 08:05:43 »

ต้มน้ำรอนานแล้วนะ เมื่อไหร่คนเขียนจะเอามาม่ามาใส่สักที อิอิ :katai4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #723 เมื่อ21-07-2016 10:02:18 »

ออกมาก็ดีนะโอ๊ต

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #724 เมื่อ21-07-2016 10:12:36 »

เกิดเป็นตัวเอกของนิยายคุณข้าวปั้น บอกแล้ว ชีวิตมันไม่ง่ายยยยยยย

เลิกไปเลยก็ดีนะโอ๊ต แต่ถ้ายังเสียดายรายได้ก็แค่หาที่ใหม่ โอ๊ตเป็นซุปตาร์ขนาดนี้ หาที่ใหม่ทำได้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ๆๆๆๆๆ อย่าบอกว่าจะคิดขายคืนละสามหมื่นให้อิเจ๊นะ ถึงเป็นผู้ชายไม่เสียหายอะไรมากก็เหอะ เดี๊ยนเสียดาย เก็บไว้รอเดี๊ยนเถอะ 55555 #ไม่มีเปย์แต่กล้าขอ

ใจเย็นๆโอ๊ต ลองปรึกษาพี่กุนต์ดูก่อน เผื่อได้ข้อคิดหรือทางออกอะไรดีๆ ...

น้ำที่โอ๊ตเก็บไว้กินให้ชุ่มชื่นและประทังชีวิต ไม่รู้จะพอต้านทานปัญหาต่างๆที่เข้ามาของโอ๊ตช่วงนี้ไหม? เปิดใจหน่อยไหมโอ๊ต บางทีดวงอาทิตย์ก็อาจจะไม่ได้ให้แก่แสงสว่างและความอบอุ่น เพียงเท่านั้นนะ

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #725 เมื่อ21-07-2016 11:53:45 »

สบายๆค่ะฟิลกู๊ด เหลือเกิน
ไม่เป็นเนอะแค่ตกงาน ป๋ากุนต์เรารวยซะอย่าง
5555555555555555555555555555555
สงสัยจะเป็นปีชงของโอ๊ต
ตอนหน้าคงต้อง "แก้" เคล็ดสะเดาะเคราะห์
 :hao7:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #726 เมื่อ21-07-2016 15:52:32 »

_ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นต่อไปนะโอ๊ต สู้ๆ อย่างไรก็ต้องปรึกษาพี่กุนต์นะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #727 เมื่อ21-07-2016 17:24:55 »

กลัวโอ๊ต ทำพี่กุนต์เสียใจจัง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #728 เมื่อ21-07-2016 17:28:30 »

พี่โอ๊ตสู้สู้

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #729 เมื่อ21-07-2016 19:52:29 »

เออนะ รุมเร้าเกินไปไหมชีวิต โอ๊ตคงเซ็งมาก ท้อด้วย คือไม่ยุ่งกับใครแต่ก็มีคนอยากจะยุ่งเนาะ
กุนต์น่ารักมากเลยค่ะ อย่าพึ่งไปหลงโอ๊ตนะ ตอนนี้น้องยังไม่ปลื้มกุนต์แบบนั้น

อ้นอุ้มน่ารักมากค่ะ เด็กน้อยเรียนรู้ไว เข้าใจง่าย พี่กุนต์เจอแล้วหลงรักมาก

ขอถามค่ะ กุนต์เป็นรุก จริงหรอคะ จริงจังใช่ไหม จะได้เปลี่ยนจิ้นทัน 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
« ตอบ #729 เมื่อ: 21-07-2016 19:52:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #730 เมื่อ21-07-2016 20:50:26 »

โอเค โอ๊ต...ไปลาออกจากงานซะ
 แล้วไปอยู่เกาะสักพักนะ
 เกาะนั้นก็  ...คื้อออออออออ กนธี//หลบรองเท้า!!!!

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #731 เมื่อ21-07-2016 21:24:23 »

โอ้โห ผีซ้ำด้ำพลอยจริงๆ

ออฟไลน์ ☥ŹeMî☠kändä☥

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #732 เมื่อ22-07-2016 00:04:39 »

ตอนแรกว่าจะไม่อ่าน เพราะกลัวจะน้ำตานองและเจ็บปวดหัวใจแบบพี่หมู
แต่สุดท้ายก็หลวมตัวมาอ่านจนได้.... ติดอีกแล้ว ติดงอมแงม ; - ;
หลงรักพี่กุนต์ไปหมดหัวใจแล้วค่ะ ช่วยเขียนให้โอ้ตนางไปได้ดีกับคนอื่นแล้วส่งพี่กุนต์มาทางนี้ได้ไหมคะ?   :กอด1:
อ่านแล้วมีแต่เคืองโอ้ต อยากจะเห็นวันที่โอ้ตทรมานดับดิ้นเพราะพี่กุนต์ไม่สนใจแบบเม่นทะเลสักเรื่องนึงของข้าวปั้น (กอดพี่หมู)
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ต่อไป  :L2:
ปล. feel goods ของข้าวปั้นหมายถึงหลังผ่านพ้นมาม่าชามยักษ์ไปแล้วใช่ไหมคะ?   :hao5:

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #733 เมื่อ22-07-2016 02:42:25 »

ช่วงมรสุมชีวิตของโอ๊ตป่ะเนี่ย สู้ๆคับ

ออฟไลน์ Rebtur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #734 เมื่อ22-07-2016 06:33:06 »

อาจถึงเวลาแล้วโอ๊ต ที่นายจะได้เป็นเด็กเลี้ยงของจริง 55555555
หยอกๆน้าา พี่กุนต์คงไม่ทำเหมือนคนอื่นๆหรอก คงได้อยู่กับพี่กุนต์ไปยาวๆ

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #735 เมื่อ22-07-2016 09:21:41 »

สารเลวววววววว ทำกับอินทัชเยี่ยงนี้ได้อย่างไรรรรรรร ขอร้านเจ๊ง ขอให้ร้านน้ำไม่ไหล ขอให้ร้านไฟไหม้ ขอให้เปลี่ยนจาเลาจ์เป็นเล้าาาาาาาาาา

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #736 เมื่อ22-07-2016 12:24:57 »

ฟีลกู้ด.. >> -__-
เป็นเรื่องอีกแล้วววว ใครมันบังอาจคาบข่าวไปบอกเนี่ยยย
งั้นไปทำงานช่วยพี่กุนต์แทนเหอะ
มันจะหวานก็ไม่สุดสักที T^T เรื่องปาลินยังไม่ทันจะเคลียร์เลย
แต่ตอนนี้ขำคุณไผทอ่ะ เค็มขนาดนี้ คุณไผ่ขะขัดการยังไงน้อ :hao7:

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #737 เมื่อ22-07-2016 17:29:06 »

สงสารโอ้ตนะเอาจริง ที่ทำงานคงมีคนหมั่นไส้เยอะ
พอได้โอกาสก็มีคนมาเหยียบย่ำ และโอ้ต้องก็หางานที่ได้เงินเท่านี้แทบไม่มี
กลัวว่าโอ้ตจะถูกเหล่าคุณนายมาล่อลวงให้ไปขาย
เข้าใจเหมือนกันถ้าโอ้ตจะไม่อยาดพึ่งพาพี่กุนต์
ดูไม่ใช่วิถีทางของลูกผู้ชายถ้าต้องขอความช่วยเหลืออยู่เรื่อย
แต่ตอนนี้อยากให้พี่กุนต์ช่วยนะเอาจริง สงสาร
อย่างน้อยผู้ใหญ่อย่างพี่กุนต์ก็ไว้ใจได้

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.15] pg.24 -- 20/7/59
«ตอบ #738 เมื่อ25-07-2016 03:54:34 »

พี่กุนต์คนแมน รุกใช่มั้ยคะนี่ :hao6:

นังโอ๊ตคนอ่อนแอ อ้อยพี่กุนต์อยู่ได้เริ่มหมั่นไส้ละ 555555

ติดตามตอนต่อไปค่าาาา  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #739 เมื่อ25-07-2016 19:23:00 »





Chapter 16



วันนี้เป็นวันย้ายเข้าอพาร์ทเมนท์ของเด็กๆ กนธีรู้สึกเหงานิดหน่อย เขาช่วยเก็บข้าวของแล้วขับรถไปส่งที่ห้อง พอรถวิ่งเข้าไปจอดด้านหน้า เขาก็เห็นปาลินยืนรออยู่ตรงทางเข้าตึก
   
“อ้าว..มาช่วยเพื่อนหรือ” กนธีดับเครื่องแล้วลงมาทักเด็กหนุ่ม
   
ปาลินกระพุ่มมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า เขารู้จากโอ๊ตว่าจะย้ายห้องเลยมาช่วยขนของ เห็นว่าที่นี่ไม่มีลิฟท์ ส่วนห้องก็อยู่ชั้นสี่ คงต้องขึ้นลงหลายรอบหน่อย
   
“ดีเลย กำลังคิดว่าจะจ้างรปภ.ให้ช่วยยก พี่เห็นจะไม่ไหว กระดูกกระเดี้ยวไม่ค่อยแข็งแรง” เขาคลำเอวตัวเองป้อยๆ
   
อินทัชส่ายหัวยิ้มๆ พี่กุนต์ชอบพูดเกินไป คนกระดูกไม่แข็งแรงคนนี้ วันก่อนยังทุ่มคนตัวใหญ่เทอะทะอย่างไอ้พันลงไปนอนกองเลย แล้วไม่ใช่กระดูกข้อนิ้วหรอกหรือที่ใช้ซัดมันจนเลือดโชกหน้าน่ะ
   
“ถ้างั้นขนของลงก่อน เดี๋ยวพี่จะเอารถไปจอด” กนธีเปิดท้ายรถให้ ส่วนมากก็มีพวกเสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม โต๊ะพับได้ พัดลมตัวเล็ก ข้าวของเครื่องใช้จิปาถะ แล้วก็ลังใส่หนังสือเรียน
   
อ้นประคองกระบะเพาะต้นอ่อนทานตะวันลงมา รากมันเริ่มงอกให้เห็นแล้ว เด็กชายนั่งลุ้น มองอยู่ทุกวัน
   
“ขึ้นไปกันก่อนนะ อยากกินน้ำอะไร พี่จะซื้อมาให้ หน้าปากซอยมีกาแฟเจ้าหนึ่งอร่อยมาก ขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อ” ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน ในเมื่อให้หลับตาเข้าซอยยังจำได้เลย “เอ้า..ใครกินอะไรว่ามาครับ”
   
ปาลินยิ้มเก้อเขิน ช่วยแบกของไปวางที่บันไดทางเข้า อินทัชเห็นแล้วเลยตอบแทน
   
“ผมกับน้องกินนมเย็นด้วยกันก็ได้ ส่วนสนเอาชาเย็นครับ”
   
“สามคนจะไปแบ่งกันดูดทำไม เดี๋ยวอร่อยแล้วต้องลงมาซื้อเองนะ” เขาหันไปถามเด็กๆ น้องอ้นอยากกินโอวัลตินเย็น ส่วนน้องอุ้มขอกินนมเย็น “โอ๊ตล่ะ..ลองกาแฟเย็นไหม อร่อยนะ”
   
อินทัชพยักหน้ารับ เขายิ้มเล็กน้อยแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย บอกให้น้องๆวิ่งตามพี่สนไปก่อน ส่วนตัวเขาเองได้แต่ยืนมองหน้าพี่กุนต์นิ่งๆ ท่าทีอ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด
   
“มีอะไรหรือเปล่า”
   
เด็กหนุ่มถอนหายใจ ส่ายหัวเนือยๆ “กาแฟ..เอาเข้มหน่อยก็ได้ครับ คืนนี้ทำงาน”
   
กนธีมองสีหน้าเหน็ดเหนื่อยแล้วตบบ่ากว้างแผ่วเบา “โอเค..ขึ้นไปจัดของแล้วก็นอนเอาแรงซะ”
   
อินทัชมองตามแผ่นหลังอีกฝ่าย เขาระบายลมหายใจยาวก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปตามลำพัง
   
ห้องที่พี่กุนต์หามาให้ ดีกว่าห้องในบ้านเช่าหลายเท่า ก่อนหน้านี้เขาเคยมาที่นี่แล้วแต่ไม่ได้ขึ้นมาดูห้อง พี่กุนต์แค่พามาทำเอกสาร ที่นี่มีอยู่หกชั้น ส่วนใหญ่ปล่อยเช่า บางห้องก็ขายขาด คนซื้อจะปล่อยเช่าต่อก็ได้ แต่จะต้องให้ผู้เช่ามาแจ้งตัวตนว่าจะย้ายเข้ามา ในนี้จะมีนิติบุคคลคอยดูแลเรื่องอาคาร น้ำไฟ และคอยตรวจสอบคนเข้าออกที่ไม่ใช่คนใน ถึงจะไม่ได้เคร่งครัดนัก แต่ก็นับว่าสภาพแวดล้อมดีกว่าในซอยเก่ามาก
   
ตอนที่ขึ้นไปถึงด้านบน อ้นกับอุ้มกำลังตื่นเต้นกับห้องใหม่ เขามองแล้วก็ยิ้ม ไอ้แสบสองตัวจองเตียงบน ส่วนเขาก็นอนเตียงล่างเหมือนเดิม เวลาไม่ใช่ก็เลื่อนรางกลับเข้าที่ จะได้ประหยัดพื้นที่ห้อง
   
“หูย..มีห้องน้ำด้วย ห้องน้ำสวยจัง” อ้นเดินสำรวจบริเวณ
   
ตรงหน้าต่างมีประตูออกไปที่ระเบียง ตรงนั้นมีพื้นที่กว้างพอประมาณ พี่กุนต์ให้ปูกระเบื้องลายไม้และจัดสวนเล็กๆให้ อ้นเลยเอากระบะต้นอ่อนทานตะวันไปวางบนโต๊ะไม้ใกล้กับคอมเพรสเซอร์แอร์
   
“ดีจัง ดูสบายกว่าห้องเก่าเยอะเลยโอ๊ต” ปาลินยิ้ม ช่วยเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ตรงหน้าห้องน้ำ
   
อินทัชมองความสะดวกสบายทั้งหลายที่ได้รับ ในห้องมีตู้เย็นขนาดเล็กไว้แช่ของได้นิดหน่อย มีเตาไมโครเวฟ ทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำร้อน เห็นว่าพี่กุนต์เคยทำเป็นห้องเช่าให้นักศึกษา แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้
   
“นี่เดือนละห้าร้อยจริงๆหรือ”
   
“เอาเข้าจริงก็คงหลายพัน แต่พี่เขาใจดีกับพวกเรามากน่ะ” อินทัชพูด มองฟูกนอนใหม่เอี่ยมที่ฝ่ายนั้นซื้อมา
   
น้องอุ้มลงไปกลิ้งอยู่กับโซฟาในห้อง ดูท่าจะชอบเอามาก
   
“อย่าทำห้องรกนะ แล้วก็ห้ามทำสกปรก ห้ามเขียนอะไรบนกำแพงด้วย” เขาปรามน้อง “นี่ไม่ใช่ห้องของเรา พี่กุนต์เขายังต้องเอาไปปล่อยเช่าต่ออีก”
   
อุ้มตะเบ๊ะรับ นั่งแบบสงบเสงี่ยมเรียบร้อยแทน
   
“แล้วพวกน้องๆไปโรงเรียนยังไง” ปาลินถาม
   
“ปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ ไว้จ้างไปส่งอ้นกับอุ้มได้ พรุ่งนี้เราว่าจะไปคุย”
   
ปาลินกับอินทัชลงไปขนของขึ้นมาอีกสองรอบก็ครบ พวกเขาช่วยกันหิ้วลังพลาสติกใส่หนังสือของสามพี่น้องที่หนักกว่าเพื่อน พอขึ้นมาถึงชั้นสี่อีกทีก็หอบเบาๆ
   
“เอ้า..ลุกขึ้น จะได้ยกเข้าห้อง” ปาลินกระตุ้นเพื่อนที่นั่งพักหน้าห้อง
   
อินทัชเอนศีรษะพิงกำแพงด้านหลัง หน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้มสมกับที่ได้ห้องใหม่ ปาลินเลยออกปากถาม
   
“มีอะไรหรือเปล่า ดูไม่ค่อยดีเลย” เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากเพื่อน
   
ร่างสูงหลับตานิ่ง ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่จากข้อมืออีกฝ่าย
   
“โอ๊ต..”
   
“อืม..” เขาถอนหายใจ จับข้อมือเล็กแล้วกำไว้หลวมๆ “เหนื่อย..หมดแรง บางทีก็ไม่อยากทำอะไรเลย”
   
ปาลินขยับเข้าไปใกล้ วางมือลงบนไหล่หนาอย่างให้กำลังใจ อินทัชไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง เขาเพียงแต่แตะปลายนิ้วคนข้างกายไว้ บีบกระชับบางเบา
   
“คืนนั้น..มีคนบอกว่าผู้จัดการเรียกโอ๊ตเข้าไปคุยหรือ”
   
อินทัชไม่ตอบ แต่ปาลินไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้คนเดียว
   
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เจ้าตัวมองอย่างกังวล “เกี่ยวอะไรกับที่ตำรวจมาวันนั้นไหม”
   
เพื่อนสนิทของเขาถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อคิดได้ว่าปกปิดไปก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรเสียอีกคนก็ต้องรู้อยู่ดี เลยจำใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ปาลินมุ่นหัวคิ้ว พอรู้ว่ามีคนปากโป้ง เที่ยวดิสเครดิตอินทัช เขาก็โกรธเอามาก

“อย่าให้เรารู้นะว่าเป็นใคร” ปาลินคิดอย่างคั่งแค้น เพื่อนเขาไม่เคยไปมีเรื่องบาดหมางกับคนอื่น มีแต่คนอื่นนั่นแหละที่มีดีไม่เท่า แล้วหาทางจะกดคนสูงกว่าเพื่อหาที่ให้ตนเอง

“เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ทำอะไรไม่ได้หรอก” อินทัชพึมพำ “เรามีเวลาถึงสิ้นเดือน..ต้องหางานใหม่ให้ทัน”
   
“แล้วจะไปทำที่ไหน”
   
“ลองมองๆไว้แล้ว แต่วุฒิเราแค่ ม.หกเอง งานมันเลยแคบ แล้วยังเรื่องเวลาอีก หาพาร์ทไทม์ตอนเย็นหรือตอนกลางคืนไม่ค่อยได้” อินทัชลืมตาขึ้น เหม่อมองไปไกล “แต่ก็ยังดีที่ต้นเดือนหน้าจะปิดเทอมแล้ว ทำอะไรได้เต็มที่หน่อย”
   
หลังจากสอบไฟนอลจะมีหยุดยาวอีกเกือบสามเดือน เขาพอจะใช้เวลาว่างช่วงนี้หางานทำในตอนกลางวันได้ โชคดีที่มีเงินเก็บหลักแสน แต่ถ้าคิดคำนวณเรื่องค่าใช้จ่าย มันก็พอที่จะอยู่ต่อไปได้ไม่นานนัก
   
“ขอให้พี่กุนต์ช่วยได้หรือเปล่า” ปาลินเสนอ
   
อินทัชส่ายหัว “เราไม่ได้หยิ่งหรืออีโก้สูงขนาดจะไม่ขอความช่วยเหลือใครนะ แต่เรารบกวนเขาบ่อยมากทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกัน..ถ้าเรากวนเขาบ่อยๆ เขาจะมองเรายังไงล่ะ”
   
“มันก็จริง..”
   
“เราอยากพยายามด้วยตัวเองก่อน ไม่ไหวจริงๆ จะขอให้เขาช่วยหางานให้ ไอ้ที่จู่ๆจะงอมืองอเท้า นิดๆหน่อยๆก็เรียกหา มันดูเหมือนเด็กอมมือไป ถ้าเป็นเราก็คงไม่อยากช่วยไอ้คนที่ไม่คิดจะลองทำอะไรเองก่อนหรอก”
   
ปาลินหัวเราะอย่างระอา “เอาไงก็เอา..เราจะช่วยหาประกาศรับสมัครงานด้วยอีกแรงนะ เผื่อย้ายตามโอ๊ตไปด้วยเลย”
   
“อยู่ที่นี่แหละดีแล้ว จะออกไปลำบากทำไม”
   
“ไม่มีโอ๊ต เราก็ไม่มีเพื่อนรู้ใจแล้ว ทำไปก็ไม่มีความสุขหรอก”
   
อินทัชมองเพื่อนสนิท เอื้อมมือไปโยกหัวอีกฝ่าย
   
“ลุกได้แล้ว ไปเก็บของแล้วจะได้เตรียมตัวทำงานคืนนี้” ปาลินบอก “ตักเงินให้เต็มคราบเลย มีทิปเท่าไรลงกระเป๋าตัวเองให้หมด ไม่ต้องเข้าส่วนกลางหรอก หึ..”
   
“ร้ายนะเรา”
   
“ในเมื่อไม่มีความดี จะทำไม่ดีนิดหน่อย ก็ไม่เห็นเป็นไร”
   
คนฟังหัวเราะ ลุกขึ้นยืนไล่ความเมื่อยขบแล้วช่วยกันลากกล่องหนังสือเข้าห้องไป

......



สองทุ่มครึ่ง เด็กหนุ่มทั้งสองคนมาทำงานตามปกติ อินทัชวางแผนไว้ว่า ภายในสิ้นเดือน เขาต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นทุนสำรอง หลังจากนี้เขาจะไม่ไปช่วยชงเครื่องดื่มอีก แต่จะร้องเพลงและนั่งกับแขกอย่างเดียว โชคดีที่พี่นักดนตรีสนิทกับเขาพอประมาณ พอรู้ต้นสายปลายเหตุจากอินทัชเลยจะช่วยจัดคิวให้ทุกวัน

คืนนี้ ปาลินเองก็ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี คอยยุแขกหลายโต๊ะให้เรียกอินทัชไปนั่งด้วย คิดว่าเพื่อนเขาน่าจะหาเงินได้หลายพัน ทำต่อเนื่องไปตลอดระยะเวลางานที่เหลือ ก็น่าจะได้หลายหมื่น
   
อินทัชขึ้นเวที เปิดด้วยเพลง Hotel California ที่เขาเคยใช้หัดเล่นกีต้าร์ครั้งแรก และดูท่าว่าแขกทั้งหลายจะชอบเอามาก เขาถึงได้ทิปเต็มไปหมด
   
“ขอบคุณมากครับ” อินทัชก้มหัวให้ ยิ้มน้อยๆ “ท่านไหนอยากได้เพลงอะไร เขียนใส่กระดาษบอกมาได้เลยนะครับ”
   
ปาลินเป็นคนรับโน้ตขอเพลง ทั้งยังเป็นคนเก็บทิปที่ได้มาพร้อมกับกระดาษด้วย เขาจงใจไม่เอาไปใส่กล่องทิปรวม ในเมื่อแขกชอบใจเพื่อนเขา โอ๊ตก็ควรจะได้ทั้งหมดไม่ใช่หรือ
   
“หนู..” หญิงสาวที่เป็นแขกขาประจำเรียก “บอกเขาว่าฉันอยากฟัง How can I tell Her ของ Lobo ถ้าร้องได้ถูกใจ ฉันให้สองพัน”
   
ร่างเล็กวิ่งหน้าตั้งมากระซิบบอกเพื่อนที่เวที อินทัชยิ้มแล้วมองสาวคนเดิม เธอยังคงถือคติตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกจริงๆ แต่เขาเองยังไม่ใจอ่อนตามไปด้วยง่ายๆ
   
“ต่อกันด้วยเพลงนี้นะครับ..ให้คุณผู้หญิงข้างหน้าของผม” เขาเริ่มดีดกีต้าร์ตามทำนองเพลง “She knows when I’m lonesome and she cries when I’m sad. She’s up in the good times. She’s down in the bad. Whenever I’m courage, she knows just what to do. But girl she doesn’t know about you.”
   
ดวงตาเรียวรีที่จ้องมองแสดงความชื่นชม เธอหยิบค็อกเทลสีสดในแก้วขึ้นจิบโดยไม่ยอมละสายตาไปจากเด็กหนุ่มตรงหน้า
   
“How can I tell her about you. Girl...please tell me what to do. Everything seems right whenever I’m with you........” เขาทอดเสียงนุ่ม “So girl won’t you tell me, how to tell her about you.”
   
ปาลินเดินไปบริการโต๊ะถัดไป มีแขกบางคนยื่นทิปให้ เขาเลยยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เด็กหนุ่มนับเงินแล้วนึกดีใจ เลยหันไปชูนิ้วโป้งให้กำลังใจเพื่อนสนิทที่ร้องเพลง อินทัชหันมาแล้วยิ้มให้เขาเช่นกัน
   
..คืนนี้น่าจะได้ไม่ต่ำกว่าห้าพัน..
   
เขาเอาเครื่องดื่มมาบริการให้แขก จากนั้นก็เดินไปเก็บโต๊ะริมที่เพิ่งทานอาหารเสร็จ เช็ดให้เรียบร้อยและยกถาดไปไว้ในครัวแล้วเดินวกเข้าห้องน้ำไปล้างมือในส่วนของพนักงานชาย
   
ในนั้น ปาลินเจอเพื่อนพนักงานด้วยกันยืนล้างมืออยู่ เขามองหน้า แต่ไม่ได้ทักอีกฝ่ายเพราะไม่ค่อยถูกชะตานัก หมอนี่เป็นพวกขี้อิจฉา และถ้าจะให้นึกคาดเดาว่าใครที่เป็นคนคาบเรื่องของอินทัชไปบอกแขก เขาพนันว่าเป็นไอ้คนนี้นี่แหละ
   
“ไง..เดินวนเสียรอบเลยนะ” อีกฝ่ายออกปากทักก่อน “ได้ทิปมาเท่าไรล่ะ”
   
“เยอะ..แขกของเราใจดี คิดว่ากว่าจะหมดคืนก็ได้มาหลายพัน” เขาตอบส่งๆ แกล้งพูดให้มันอิจฉาเล่น “แล้วนายล่ะ..ได้มากี่ร้อย”
   
คนฟังเหยียดปาก รู้สึกหงุดหงิดแต่พยายามระงับอารมณ์ไว้
   
“ก็ไม่ค่อยเยอะนักหรอก แต่ไม่เป็นไร เรายังมีเวลาอีกนาน อยู่รับทิปได้จนกว่าจะเบื่อ ในเมื่อไม่ได้ถูกผู้จัดการไล่ออกแบบไอ้คู่หูของนาย”
   
ปาลินหันมอง กำหมัดแน่น “รู้เรื่องนี้ได้ยังไง” เขาไม่คิดว่าโอ๊ตจะเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้คนไม่สนิทฟัง และไม่คิดเหมือนกันว่าทางเจ้านายจะออกมาป่าวประกาศ เพราะเพื่อนเขายังไม่ทันได้ส่งใบลาออกอย่างเป็นทางการเลย
   
“อ้าว..หรือไม่จริง? ทำเรื่องงามหน้าไว้ จริงๆผู้จัดการไม่น่าจะปล่อยผ่านนี่นา” ฝ่ายนั้นยักไหล่ “แต่จะว่าไป ถึงโดนไล่ออกแล้วจะทำไมล่ะ ถ้าเก่งจริงก็ไปหางานใหม่ซะสิ เอ..หรือไม่เดือดร้อนเพราะว่ามีรายได้จากการค้ายาอยู่แล้ว”
   
ปาลินกัดฟันกรอด มองด้วยดวงตาโกรธจัด
   
“นายใช่ไหมที่เป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแขก”
   
“ถ้าเราบอกแล้วจะทำไมหรือ” เขาหัวเราะ “ยังไงแขกก็รู้ไปแล้ว..”
   
ร่างเล็กพยายามปรับลมหายใจที่พลุ่งพล่านของตน เขามองคนที่เดินออกไป ไม่อยากโต้เถียง แต่แล้วเลขหนึ่งถึงสิบที่นับในใจก็มีอันได้หยุดอยู่แค่สามเพราะได้ยินเสียงฮัมเพลงไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเพื่อนร่วมงาน
   
ปาลินก้าวยาวๆเข้าไปหา เขาก็กระชากคอเสื้อของมัน เจ้านั่นหันกลับมาอย่างงุนงง และโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันคาดคิด เขาก็ง้างหมัดชกเข้าสุดแรงจนมันเซถอย ล้มกระแทกพื้นเสียงดังโครม
   
“เชี่ยเอ๊ย..” คนตัวใหญ่กว่ายกหลังมือขึ้นเช็ดจมูก เลือดกำเดาไหลเป็นทาง “วอนตีนซะแล้วมึง!”
   
ปาลินไม่หลบ เขายอมแลกกันอีกหมัด ถ้าโดนเรื่องทะเลาะวิวาท ยังไงโทษก็เบากว่าทำร้ายร่างกาย
   
“มึงเริ่มก่อนเองนะ!” มันเงื้อกำปั้นสูง
   
ตอนนั้นเองที่ฝ่ามือของใครคนหนึ่งคว้าหมับเข้ามาที่แขน แรงจากด้านหลังนั่นมากพอที่จะหยุดทุกการกระทำให้ชะงัก ตัวต้นเหตุหันไปมอง ตั้งใจจะเปิดปากด่าคนที่เข้ามาขัด แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นแขกวีไอพี
   
ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทยืนนิ่ง ดวงตาคมกริบมองเด็กทั้งสองคน
   
“ที่นี่คัดพนักงานยังไง ถึงได้จ้างคนที่ชอบใช้ความรุนแรงมาบริการแขก”
   
“ผมเปล่านะ! ไอ้นี่มันชกผมก่อน!”    
   
ชายหนุ่มใช้สายตานิ่งเย็นมอง มือกำแขนอีกคนแน่นขึ้นไปอีกจนฝ่ายตรงข้ามนิ่วหน้า แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กเมื่อวานซืนกลัวจนต้องล่าถอยไปเอง พอถูกปล่อยก็รีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
   
ปาลินก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตาคนเบื้องหน้า
   
“ขอบคุณนะครับ..คุณภวินท์”
   
ภวินท์เพียงแต่ยืนเฉย ไม่ตอบรับคำขอบคุณ ปาลินยืนเก้กัง ทำตัวไม่ถูกโดยเฉพาะเมื่อมีนัยน์ตาสีเข้มจ้องมอง ถึงจะไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆบนสีหน้าเฉยชานั้น แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมองเขาติดลบไปแล้ว
   
“เอ่อ..ผมขอตัว” เขาค้อมตัวเมื่อเดินผ่านคนอายุมากกว่า
   
“ทำตัวให้ดีหน่อยปาลิน” เสียงเย็นชาพูดขึ้น “อย่าให้พี่ชายของนายต้องผิดหวังไปมากกว่านี้”
   
ร่างเล็กชะงัก ได้แต่พึมพำรับคำแล้วรีบเดินออกไป ความรู้สึกย่ำแย่ไม่รู้มาจากไหน เพียงแค่ถูกตำหนิด้วยคำไม่กี่ประโยค เขาก็รู้สึกตันขึ้นมาในลำคอ
   
“สน..” อินทัชเพิ่งลงจากเวที เขาได้ยินว่าเพื่อนพนักงานถูกปาลินต่อยเลยรีบตามหา “มานี่..ทำอะไรลงไปน่ะ”
   
ภวินท์ก้าวออกมาจากทางเดินไปห้องน้ำพนักงาน เขาเห็นเด็กหนุ่มอีกคนดึงแขนปาลินไว้แล้วลากตัวไปทางห้องพัก แขนข้างนั้นโอบรอบไหล่ สีหน้าแสดงความกังวลตอนที่พูดคุยกัน
   
ชายหนุ่มเหยียดริมฝีปาก ไม่คิดสนใจอีกแล้วเดินกลับไปยังห้องรับรองแขกตามเดิม
   
อินทัชลากแขนปาลินไปที่ห้องพนักงาน เขาจับตัวอีกฝ่ายสำรวจว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า
   
“เราไม่ได้โดนทำอะไร เราต่างหากที่ไปชกมัน” เจ้าตัวหัวเราะ

“ทำไมใจร้อนแบบนี้นะ”

“ก็มันเลือดขึ้นหน้านี่” เขายักไหล่ “อย่างมากก็ถูกไล่ออก ข้อหาทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงาน”

“สน..” อินทัชถอนหายใจ “หัดคิดให้มากๆก่อนทำได้ไหม”

“ก็มันเป็นคนเอาเรื่องของโอ๊ตไปบอกแขก ต่อยหมัดเดียวยังน้อยไ..” ปาลินนิ่งอึ้งเมื่อทั้งตัวถูกอีกฝ่ายลากไปกอด อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดจนตัวเขาแทบจมหายลงไปกับแผ่นอกหนา “โอ๊ต..”

อินทัชก้มหน้าลง ปลายจมูกซุกลงกับกลุ่มผมนุ่ม ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายนั้นทำให้ใจเขาเต้นแรง

“ขอบคุณนะ..ที่อยู่ข้างเรา”

ปาลินเงยหน้ามอง เพื่อนสนิทยังกอดกันแนบแน่น เขาเลยได้แต่ยกมือขึ้นโอบแผ่นหลังกว้างโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก พวกเขากอดอีกฝ่ายอยู่เงียบๆอย่างนั้นร่วมนาที กระทั่งมีเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาถึงได้ผละออก

“เอาล่ะ..ไอ้ตัวแสบ” อินทัชบิดจมูกเชิดรั้น “เราไปทำงานก่อน ส่วนนายก็นั่งอยู่ในนี้จนกว่าจะอารมณ์ดีขึ้น แล้วอย่าไปต่อยใครไม่เลือกอีกล่ะ”

“รู้แล้วน่า” ปาลินยิ้ม ชูนิ้วโป้งให้ “สู้ๆนะ..”
   
“อืม..” เขายิ้มตอบ จัดแจงตัวเองแล้วออกไปบริการแขกตามเดิม

......



อินทัชกลับถึงห้องพักตอนตีสอง เขาไขกุญแจเข้าไปอย่างเงียบเชียบ มีแสงจากสายไฟประดับที่พี่กุนต์ซื้อมาให้อ้นกับอุ้มแต่งห้องเป็นตัวให้ความสว่าง 

เขายิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงตอนกลางวันที่พี่กุนต์กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสารพัด แล้วก็เอาสายไฟที่ห้อยหลอด LED ทรงกลม พันด้วยเส้นไหมพรมหลากสีมาให้น้องๆของเขา จากนั้นผู้ใหญ่กับเด็กก็ช่วยกันแขวนไว้ตรงขอบหน้าต่าง

“ไม่ยักรู้ว่าพี่เป็นคนโรแมนติก” เขาออกปากแซว

พี่กุนต์หัวเราะ “เปล่า..พี่เห็นว่าโอ๊ตกลับดึกๆแล้วไม่กล้าเปิดไฟเพราะกลัวน้องจะตื่นใช่ไหม พี่เลยซื้ออันนี้มาให้ เปิดแล้วมันเป็นแสงสีนวลๆ เสียบไว้ตลอดคืนก็ไม่รบกวน โอ๊ตก็จะได้มองเห็นด้วยไง”

   
เขาไม่ทันคิดว่าอีกฝ่ายจะนึกถึงเขาขนาดนี้
   
อินทัชยิ้มจาง ล็อกกุญแจห้องแล้วถอดรองเท้าไว้ตรงทางเดิน แสงสีเหลืองนวลเหนือเตียงส่องให้เห็นน้องชายทั้งสองคนที่นอนหลับอุตุ กอดกันตัวกลม ห่มผ้ามิดถึงคอ แอร์คงจะเปิดไว้เย็นเกิน เขาเลยปิดแล้วเปิดพัดลมแทน
   
ดึกดื่นป่านนี้ แต่เขายังนอนไม่หลับ พออาบน้ำเสร็จให้หัวมันเย็นลง เขาก็มานั่งคำนวณค่าใช้จ่ายที่โต๊ะหนังสือ เปิดไฟหลอดเล็ก แสงจะได้ไม่แยงตาน้องๆ
   
ถึงแม้จะตัดภาระเรื่องค่าเช่าห้องออกไปได้บ้าง เขาก็ยังมีเรื่องอื่นๆต้องจ่ายแบบเลี่ยงไม่ได้ แต่ละวัน จะมีค่ากินมื้อเช้ากับมื้อเย็นประมาณสองร้อย เงินที่ให้น้องไปใช้จ่ายที่โรงเรียน อ้นหนึ่งร้อย อุ้มห้าสิบ และเงินในส่วนของเขาเองอีกสองร้อย เท่ากับว่าเฉพาะส่วนนี้ ก็ปาเข้าไปเดือนละหมื่นหกแล้ว รวมค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ เฉลี่ยแล้วหนึ่งพัน เป็นหมื่นเจ็ด
   
เขายังต้องจ่ายค่าวินมอเตอร์ไซค์ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น ค่าข้าวของเครื่องใช้บางอย่างในบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่ารักษาพยาบาลที่ส่งให้ยายเดือนละหมื่น ทั้งค่าหมอ ค่ายาเบาหวาน แล้วยังค่าฟอกไต รวมกับเงินค่าจ้างคนดูแลยายอีกหลักพัน และเมื่อถึงเวลาแต่ละเทอม เขาก็ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนให้น้องชายสองคน ค่าชุดนักเรียนใหม่ ค่าหนังสือ และอะไรอีกมากมาย ส่วนตัวของเขาเอง แม้ว่าปีหนึ่งจะได้ทุนจากมหาวิทยาลัย แต่ขึ้นปีสอง เขาอาจจะไม่ได้อีก เท่ากับว่าต้องเตรียมเงินไว้สำรองอีกเยอะ
   
อินทัชฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เขายังไม่ถึงกับเดือดร้อนก็จริง แต่ก็ต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดี เขาเพิ่งจะปลดหนี้จำนวนแสนต้นๆจากสมัยที่แม่ยังอยู่ได้ เลยไม่ต้องการซ้ำรอยเดิม
   
เด็กหนุ่มเปิดสมุดบัญชี คำนวณว่าหากไม่ได้งานในเร็ววันนี้ จะพออยู่พอกินไปได้อีกนานแค่ไหน แล้วถ้างานที่หาได้ ทำให้รายได้น้อยลงกว่าเก่าเกินครึ่ง เขาจะต้องทำอย่างไรต่อ
   
เขาถอนหายใจ จัดการลิสต์รายชื่อแต่ละที่ที่จะไปสมัครงาน เงื่อนไขที่ฝ่ายนั้นต้องการและจำนวนเงินค่าจ้าง พอเทียบกับงานเก่าแล้ว เขาต้องพยายามทำใจกับเงินที่ลดน้อยลงมาครึ่งหนึ่ง อยู่ที่เลาจน์ เขาก็แค่ร้องเพลง เสิร์ฟอาหาร นั่งกับแขก แล้วถ้ายอมทำตามความต้องการของแขกบางคน ให้จับบ้าง จูบบ้างนิดๆหน่อยๆ เขาก็ได้เงินมาง่ายๆแล้ว
   
อันที่จริง ถ้าเขายอมไปกับแขกตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ทำงาน ป่านนี้คงสบายไปแล้ว กับเพื่อนบางคนก็ยอมลาออกไปเป็นเด็กเลี้ยงของคนมีเงิน เจอกันอีกทีก็เห็นว่าอยู่ดีมีความสุขกว่าเก่ามาก
   
เขาส่ายหัว พยายามปัดแรงจูงใจแบบนั้นออกไป แต่แล้วก็พาลคิดไปถึงคำพูดของหญิงสาวที่ตามตื๊อ

“ถ้าอยากนอนคุยกับเธอ..สามหมื่น ยอมหรือเปล่า”

แค่คืนเดียว..ได้สามหมื่น เป็นเงินที่มาแบบง่ายๆ ไม่ต้องทำอะไรนักหนาเลย

..ก็แค่..ขายบริการ..

อินทัชถอนหายใจ เขาเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมานับเงิน คืนนี้เขาหาได้ประมาณหกพัน หนึ่งในนั้น มีเงินสองพันที่เขาได้จากการร้องเพลง How can I tell her ให้กับแขกสาวคนเดิม ไม่ต้องสงสัยก็รู้ว่าเธอรวยแค่ไหน แค่ร้องเพลงให้เพลงเดียวยังได้ทิปหนักขนาดนี้

แสงไฟสีขาวจากโต๊ะส่องให้เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนด้วยดินสอบนเนื้อธนบัตร มีรูปหัวใจอันน้อยอยู่ด้านข้าง

อินทัชหัวเราะ กำลังจะลบเบอร์ของเธอทิ้งเพื่อความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย แต่แล้วไม่รู้คิดอย่างไร ถึงได้จดเบอร์ของเธอเอาไว้ตรงปฏิทินเล่นๆ
   
..ใครจะไปรู้ เผื่อว่าวันหนึ่ง เขาอาจต้องการเงินสามหมื่นต่อคืนขึ้นมา..
   
ร่างสูงปิดไฟ เดินเนือยๆไปตรงเตียงล่างที่เจ้าอ้นกับอุ้มจัดไว้ให้แล้ว เขาล้มตัวลงนอนก่ายหน้าผาก มีเสียงขยับตัวเล็กน้อยจากอ้น เขาหันไปมอง เห็นน้องเพิ่งจะลืมตา ปากน้อยๆอ้าหาวเสียกว้าง
   
“พี่โอ๊ตไม่ง่วงหรือ” อ้นนอนตะแคง ตากลมโตจ้องพี่ชาย
   
“กำลังจะนอน แล้วทำไมเรายังไม่นอนล่ะ” เขาลูบหัวเล็ก “พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่หรือไง”
   
“นอนแล้วตื่นแล้ว เห็นพี่โอ๊ตนั่งกลุ้มอยู่ที่โต๊ะตั้งนาน มีอะไรอ่ะ”
   
เขาส่ายหัว ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้น้องมากังวลไปด้วย “เปล่า..”
   
“เหนื่อยหรือครับ” อ้นยื่นมือมาลูบแก้มพี่ “เหนื่อยก็พักได้นี่นา”
   
อินทัชยิ้ม เขามักได้กำลังใจจากน้องๆเสมอ “อืม..หายเหนื่อยแล้ว”
   
“หยุดสงกรานต์อาทิตย์หน้า กลับไปหายายไหมพี่โอ๊ต”
   
เขานิ่งคิด อันที่จริงไม่อยากใช้เงินพร่ำเพรื่อนัก แต่ว่าในหนึ่งปีจะมีหยุดยาวแค่ครั้งเดียว แล้วยายก็แก่แล้ว ไม่เห็นลูกหลานนานๆ แกคงจะน้อยใจ อีกอย่าง..ถือว่ากลับไปหนุนตักยาย พักเอาแรงเสียหน่อย มีกำลังใจแล้วจะได้กลับมาสู้ต่อ
   
“กลับก็ได้..พรุ่งนี้บอกอุ้มด้วยนะ”



......................................................................................






[ต่อด้านล่าง]




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2016 19:27:39 โดย nigiri-sushi »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
« ตอบ #739 เมื่อ: 25-07-2016 19:23:00 »





ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #740 เมื่อ25-07-2016 19:23:19 »

.

.

.


อินทัชกำลังอ่านหนังสือสอบ ช่วงหยุดยาวเขาจะได้นอนขี้เกียจได้เต็มที่ ตอนนี้เขากำลังคิดว่ากลับไปน่าน เขาจะไม่ทำอะไรเลย ถือว่าชาร์จแบตให้ตัวเอง แล้วค่อยลุยกันใหม่ตอนกลับมากรุงเทพ
   
หลายวันที่ผ่านมา เขาลองหางานที่มีกำหนดเวลาและจำนวนเงินพอจะรับได้ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นงานในออฟฟิศจะเจอฟูลไทม์ ซึ่งเขามีเวลาแค่สามเดือน ยังไม่ทันได้ผ่านโปรอะไรเลย ซ้ำต้องไปเทรนใหม่อีก ถ้าเป็นพนักงานในร้านอาหารที่อาศัยแค่การบริการ เงินเดือนจะได้ประมาณหนึ่งหมื่นกว่า เรียกว่าลดฮวบลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อินทัชก็คิดว่าควรจะคว้าเอาไว้ก่อน แล้วค่อยไปหางานรอบดึกทำเพิ่ม อาจจะเป็นพวกร้านเหล้า คาราโอเกะ หรือตามสถานบันเทิงที่เปิดตอนกลางคืน คงต้องเหนื่อยสองเท่า แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็จะหาเงินได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย
   
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เขาพยายามทำสมาธิเพราะใกล้จะสอบเต็มทีเลยจำเป็นต้องแบ่งเวลาให้ได้
   
เด็กหนุ่มวางชีทเรียนจองโต๊ะอาหารเอาไว้แล้วเดินไปสั่งข้าวเที่ยง เขาหยุดยืนอยู่ที่ร้านอาหารตามสั่ง ไม่รู้นึกอย่างไร ถึงได้คิดอยากจะลองกินผักคะน้าขึ้นมา 
   
“คะน้าหมูกรอบครับป้า” เขาสั่งแล้วหยิบเงินขึ้นมาจ่าย ยืนรอสักพักก็ได้อาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ
   
ตอนที่เดินกลับมา เขาสวนกับใครบางคนที่อยู่อีกคณะหนึ่ง ไม่ได้เห็นหน้านานแล้วตั้งแต่คราวนั้น
   
“ไง..” ไววิทย์ยกยิ้ม “เด็กใหม่ของคุณกนธี”

อินทัชขมวดคิ้ว วางจานข้าวบนโต๊ะแล้วหันมาเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม “มีอะไรจะคุยกับผมหรือไง”
   
“เปล๊า” ทางนั้นแบมือสองข้างออก ทำท่าไม่แยแส “พอดีวันก่อนเห็นขึ้นรถไปกับพี่กุนต์ ก็ว่าหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหน พอเห็นวันนี้เลยนึกได้..เลยอยากมาทักทายรุ่นน้อง..”
   
“ผมกับคุณอยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน ไม่มีใครเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง” เขาตอบเสียงนิ่ง
   
“ไม่ต้องมาทำเนียนหรอกน่า” ไววิทย์เหยียดปาก “ของแบบนี้เรารู้ๆกันอยู่ ไงล่ะ..เขาให้เดือนละเท่าไร”
   
อินทัชยืนเฉย เขารู้แล้วว่าไอ้หมอนี่คือ ‘เด็กคนที่สี่’ ของพี่กุนต์
   
“ผมได้เท่าไรแล้วจะทำไมหรือครับ” ร่างสูงหัวเราะหึ “คุณจบไปแล้วก็จบสิ ต้องอยากรู้เรื่องคนอื่นด้วยหรือไง”
   
ไววิทย์ดูไม่สบอารมณ์ “ก็ไม่ได้อยากรู้นักหรอก แค่จะมาเตือนในฐานะรุ่นพี่ว่าระวังจะถูกเขี่ยทิ้ง” เขายิ้มมุมปาก “พี่กุนต์จ่ายหนักก็จริง แต่เขารักใครไม่เป็นหรอก เพราะงั้น..ไม่ต้องหวังสูงอยากจีบ แล้วถ้าเขาเจอคนใหม่วันไหนนะ เตรียมตัวเก็บกระเป๋าไว้ได้เลย”
   
“น่าแปลกนะ..” อินทัชส่ายหัว “คุณอยู่กับพี่กุนต์มานานกว่าผม แต่กลับไม่รู้จักนิสัยเขาเลย”
   
“อะไรวะ”
   
“คนอย่างพี่กุนต์ ไม่เขี่ยใครทิ้งก่อนหรอก ถ้าเด็กคนนั้นของเขามันเลี้ยงได้เชื่องพอ” เขาว่าเยาะ “หมามันยังรู้จักกระดิกหางให้คนที่ยื่นลูกชิ้นให้เลย แล้วคนที่กินของจากคนหนึ่ง แต่กลับไปกระดิกหางให้ผู้หญิงคนอื่น..มันจะต่ำกว่าหมาแค่ไหนกันล่ะครับ”
   
ไววิทย์อ้าปากค้าง “มึงว่ากูหรือวะ!” เขาตั้งท่าจะเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อ แต่เพื่อนของอินทัชที่นั่งอยู่ที่โต๊ะลุกพรวดกันขึ้น ทุกสายตาเริ่มหันมามอง
   
“อย่าดีกว่า” อินทัชเตือน “คุณชกผมหนึ่งหมัด ผมจะเอาคืนให้หนักกว่าสองเท่า แลกกันไหม..”
   
อีกฝ่ายชะงักทั้งที่ยังหัวเสีย เอาเข้าจริง เขาก็ไม่กล้ามีเรื่องไม่ว่าจะในหรือนอกมหาวิทยาลัย
   
“คุยด้วยดีๆไม่ฟัง เรื่องของมึงแล้วกัน!” ไววิทย์เดินออก แต่ยังไม่วายจงใจชนไหล่คนตรงหน้า 
   
อินทัชพรูลมหายใจอย่างระอา เขากลับไปนั่งที่โต๊ะ เพื่อนๆถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาส่ายหัวปฏิเสธ
   
“หมาบ้าเห่าใบตองแห้งน่ะ สนใจก็เปลืองเวลาเปล่าๆ กินข้าวเถอะ” เขาตักผักคะน้าขึ้นมาเคี้ยว
   
..ขม..พี่กุนต์ชอบกินเข้าไปได้ยังไงกัน..
   
ระหว่างกินข้าว เขาหยิบมือถือขึ้นมาไล่ดู ไม่รู้ทำไมถึงหยุดอยู่ที่ไลน์ของใครคนหนึ่ง เขามีเบอร์โทรของพี่กุนต์ มันเลยแอดไลน์ขึ้นอัตโนมัติ แต่พวกเขาไม่เคยคุยกันผ่านตัวอักษรเลย
   
อินทัชไม่รู้จะเริ่มทักอย่างไร เลยถ่ายรูปคะน้าก้านแข็งส่งไปให้ ตามด้วยอีโมชั่นร้องไห้
   
‘โอ๊ตหรือ?’
   
เขายิ้มโดยไม่รู้ตัว และเพื่อนก็พากันสะกิดมอง เขาเลยชูนิ้วกลางด่าให้มันเลิกสนใจ
   
‘ทักทายตอนเที่ยงครับ..วันนี้กินผักคะน้า ขมมาก’
   
‘555+ หวานเป็นลม ขมเป็นยา ของดีกินยาก’ ทางนั้นตอบกลับ

‘พี่กินข้าวหรือยัง อยู่คอนโดหรือ’

‘เปล่า อยู่สตาร์บั๊คส์ พารากอน วันนี้เลิกเรียนกี่โมง ถ้าเลิกไวก็มานั่งด้วยกันสิ’

อินทัชไม่ได้ตอบไลน์ แต่เขาเงยหน้าถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจ “บ่ายนี้แคนเซิลคลาสใช่ไหมวะ”

“เออ..ถามทำไม จะไปเจอแฟนล่ะสิ” เพื่อนๆแซว “มีแฟนไม่บอกเพื่อนเลยไอ้ห่า”

“เป็นพี่เป็นน้องกันเว้ย” เขาขี้เกียจจะเถียงกับมัน พูดไปก็เรื่องยาว "อายุห่างกันเกินรอบ"

“โอ้โห..เดี๋ยวนี้ริกินคนวัยทำงานหรือ” พวกมันโห่ฮา “แต่ก็ดีนะเว้ย คบกันแบบผู้ใหญ่ ไม่ต้องมีเรื่องงี่เง่า งอแง พวกผู้หญิงอายุยังน้อยน่ะ เอาใจยาก บางทีก็ง้องแง้งน่ารำคาญ”

อินทัชไม่ได้ตอบอะไร เขาพิมพ์ไลน์กลับไปสั้นๆ

‘อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ’

......



กนธีมีนัดกับเพื่อนใหม่ที่พารากอน เขาถือโอกาสมาเดินเล่นฆ่าเวลาไปพลางๆ จากนั้นก็มานั่งรอเวลาที่ร้านกาแฟ สั่งชาเขียวมาแก้วหนึ่งกับมัฟฟินแล้วนั่งแช่ไปเรื่อย
   
ตอนที่เขาได้ไลน์จากโอ๊ต เขากำลังใส่แว่นสายตา เล่นเกมหาของในเฟซบุ๊คเกี่ยวกับวัตถุในคดีฆาตกรรมอย่างเมามัน เสียดายที่ต้องมีพลังงานชีวิตถึงจะเลื่อนขึ้นด่านถัดไปได้ เขารีเควสขอพลังงานจากไอ้ไผ่ จนมันจะบล็อกเฟซบุ๊คเขาอยู่แล้ว
   
‘อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ’
   
กนธียิ้ม อันที่จริง เขานัดเจอเพื่อนที่พารากอน เพราะกะว่าคุยธุระเสร็จ จะหาเรื่องแวบไปแถวมหาวิทยาลัยของโอ๊ต แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ฝ่ายนั้นถึงได้ทักมาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าอินทัชจะมีมุมของเด็กวัยรุ่น อย่างถ่ายภาพสะเปะสะปะมาชวนคุย ชายหนุ่มเลยถ่ายเม็ดช็อกโกแลตส่งกลับไปให้
   
เขาว่ามันเริ่มประหลาดเต็มที..อาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตอนที่เขากำลังคบหากับเด็กแต่ละคน อย่างตอนที่ยอมห้อยตุ๊กตาหมีที่ไววิทย์ซื้อมาฝากนั่นไง
   
กนธีคิดว่า..เขาคงชอบอินทัชขึ้นมาจริงๆ แต่ชอบถึงระดับไหน มากแค่ไหน เขายังไม่แน่ใจ
   
คนอย่างเขา ไม่ใช่พวกที่ชอบอะไรแล้วต้องเอาให้ได้ ทุกอย่างขึ้นกับความสมัครใจของอีกฝ่าย ถ้ายินยอมด้วยก็คุยกันง่ายขึ้น ความสัมพันธ์หลังจากนี้ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน
   
เขาชอบที่จะเป็นต้นไม้ใหญ่ให้พึ่งพิง พร้อมที่จะให้ร่มเงาอย่างเต็มที่ ขอเพียงอีกฝ่ายรดน้ำพรวนดินให้เหมาะกับความต้องการ ไม่เฉไฉ เอาใจออกห่าง อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับที่เขาให้ เท่านั้นก็พึ่งพากันได้ยาวนานแล้ว
   
เขาไม่รู้ว่าอินทัชจะมีใจเอนเอียงมาสักแค่ไหน แต่ของแบบนี้ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ส่วนใหญ่..พอเริ่มรู้ตัวว่าถูกใจใคร เขาจะไม่บอกโต้งๆ แต่จะอยู่ในที่ของตนเองจนกว่าฝ่ายนั้นจะเดินมาหา
   
..เท่าที่ผ่านมา..ก็ไม่นานเกินรอ..
   
“พี่กุนต์..” อินทัชปรากฏตัวขึ้นด้านข้าง หอบหายใจเล็กน้อยเพราะวิ่งมา
   
กนธียิ้มบาง “ไม่เห็นต้องรีบ ห้างยังไม่ปิดในไม่กี่นาทีนี้หรอกน่า” เขาบุ้ยใบ้ให้นั่งลงฝั่งตรงข้าม “อยากกินอะไรไปสั่งเลย เอ้า..” เขายื่นเงินให้
   
เด็กหนุ่มมองแล้วส่ายหัว “กินมาแล้วครับ”
   
“วิ่งมาขนาดนี้ ไม่หิวน้ำหรือไง” เขาลุกไปซื้อโกโก้เย็นกับน้ำเปล่ามาให้ “นั่งพักเหนื่อยก่อน”
   
อินทัชพึมพำขอบคุณ ตอนที่คิดจะมาเจอพี่กุนต์ เขาก็ไม่ทันได้นึกเหมือนกันว่าจะมาเจอทำไม รู้แค่ว่าอีกคนอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยของเขาเท่านั้นก็ตรงมาหาเลย..แต่ไหนๆก็มาแล้ว น่าจะลองถามเรื่องงานด้วย
   
“มีอะไรอยากจะคุยหรือเปล่า” กนธีเดาท่าทางออก    
   
“ผม..” เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี พอจะเล่าตั้งแต่เรื่องที่ถูกผู้จัดการขอให้ออก ก็นึกสมเพชตัวเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เอ่อ..พี่ยังอยากกินกุ้งเผาอยู่ไหม”
   
คนอายุมากกว่าเลิกคิ้ว งุนงงไปชั่วครู่ “อะไรนะ?”
   
อินทัชนวดคลึงหว่างคิ้วของตน “ขอโทษครับ..ขอตั้งสติใหม่”
   
“อืม..ใจเย็นๆ นั่งหายใจไปก่อนค่อยว่ากัน”
   
“ผมตั้งใจจะถามว่า..ที่ตกลงเรื่องจะเลี้ยงข้าว ผมขอเลื่อนไปก่อนได้ไหม” เขาถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ในรอบสัปดาห์ “คือ..ผมกำลังจะย้ายงานใหม่” เขาเลี่ยงคำว่า ถูกขอให้ลาออก “อะไรๆเลยยังไม่ลงตัว แต่ผมก็ไม่ลืมสัญญาหรอกนะครับ”
   
“ที่จริงพี่ก็อายุขนาดนี้แล้ว กินกุ้งเผาไปอาจจะตายเร็วก็ได้ คอเลสเตอรอลทั้งนั้น” กนธีหัวเราะ “เอาเป็นว่า ถ้าพร้อมเมื่อไร พี่ขอแค่คะน้าฮ่องกงราดน้ำมันหอยสักจานก็พอแล้ว”
   
อินทัชยิ้มเฝื่อน “ขอโทษครับ..” เขานี่มันเด็กจริงๆ ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง
   
“แล้วไปไงมาไงล่ะ ทำไมถึงจะย้ายงาน” เขาเขี่ยน้ำแข็งในแก้วขึ้นมาอม “ย้ายแล้วจะไปทำอะไร”
   
“กำลังหาอยู่ครับ อาจจะทำร้านฟาสต์ฟู้ดก็ได้” เขามองฝ่ามือของตนเอง ลูบไปแล้วก็รู้สึกว่ายังนุ่มอยู่ ไม่ได้หยาบกร้านจากการทำงานหนัก ดังนั้น..ถ้ายังไม่ต้องลงไปเป็นจับกัง ยังไม่เหนื่อยแทบขาดใจ แปลว่าเขายังไหวอยู่
   
“ผิดวิสัย” กนธีส่ายหัว “พี่รู้ว่ารายได้จากร้านฟาสต์ฟู้ดสู้งานที่เราทำทุกวันนี้ไม่ได้หรอก คงมีอะไรแน่ๆใช่ไหม”
   
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง ท่าทางอ่อนล้าแต่ก็ยังพร้อมที่จะเดินต่อ
   
“ถ้าไม่อยากเล่า พี่ก็จะไม่ถาม แต่พี่ว่าถ้าจะย้ายงานทั้งที่ อย่างน้อยก็ต้องให้ได้เงินที่มันมากกว่าห้าหมื่นต่อเดือนสิ จริงหรือเปล่า”
   
“ตอนนี้ยังหาไม่ได้ครับ”
   
กนธีพยักหน้ารับ เขาพอจะเข้าใจอะไรได้แล้ว เกิดเป็นผู้ชายก็ลำบากแบบนี้ จะเอ่ยปากขอให้ใครช่วย มันมักพ่วงมาด้วยทิฐิและศักดิ์ศรีเสมอ การเป็นผู้หญิง บางทีอาจง่ายกว่า แค่เปิดขวดน้ำสักขวด ยังยื่นให้คนอื่นช่วยได้โดยไม่ต้องคิดตะขิดตะขวงเลย
   
ชายหนุ่มมองเด็กอ่อนวัยที่นั่งแกะพลาสติกขวดน้ำดื่มท่าทางเหม่อลอย เขาเลยโน้มตัวเข้าไปหา ดึงมาฉีกออกให้และหมุนฝาดังกริ๊ก เสียบหลอดและส่งกลับ
   
“โอ๊ตเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาใช่ไหม” เขาครุ่นคิด “พอจะมีเวลาว่างอาทิตย์ละสองวันหรือเปล่า ช่วงเย็นก็ได้”
   
“ถ้าช่วงปิดเทอม ผมว่างทุกวัน”
   
“เพื่อนพี่เขาอยากได้ครูสอนว่ายน้ำให้ลูกชายกับลูกสาวฝาแฝดของเขาน่ะ คนโตป.สาม ส่วนฝาแฝดก็ป.หนึ่ง” กนธีพูดยิ้มๆ “สอนสามคน เขาให้ครั้งละสามพัน แต่ต้องไปสอนที่บ้านเขา สอนไปเรื่อยๆจนกว่าเด็กจะว่ายเป็น แต่ต้องบอกก่อนว่าเด็กเรียนมาหลายครั้งแล้วแต่ว่ายไม่ได้สักทีเพราะว่าซนมาก เราคิดว่าทำไหวไหม”
   
“ผมอยากทำครับ” อินทัชดูสนใจขึ้นมา “เรื่องเด็กซน คิดว่ารับมือได้”
   
“เยี่ยม” เขาหัวเราะ “ขออาทิตย์ละสองวัน เย็นวันเสาร์กับอาทิตย์ได้ไหม”
   
“ได้ครับ” เด็กหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้น เขาขอรับงานพิเศษอันนี้ไว้ก่อน ถ้าเด็กเลิกเรียนเมื่อไรค่อยหาลู่ทางต่อไป
   
“แล้วก็..ช่วงปิดเทอมนี้ ลูกค้าของพี่ที่มีโรงเรียนอนุบาลเอกชนเขาเปิดคอร์สซัมเมอร์ กำลังหาครูพละไปสอนกรีฑาน่ะ อย่างมากก็วิ่งผลัด วิ่งแข่ง แอโรบิค หัดวอร์มร่างกายแล้วก็คูลดาวน์ ทำนองนี้ ถ้าสนใจก็เอาประวัติมา เรื่องอื่นพี่จัดการให้เอง” 
   
อินทัชรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขายกมือไหว้ขอบคุณ
   
“ที่จริงรายได้รวมกันก็ยังไม่เท่าของเดิมที่หาหรอกนะ แต่ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน พี่จะช่วย..” กนธีบอก “รู้แบบนี้ก็เลิกทำคิ้วขมวดได้แล้ว เรื่องบางอย่างเครียดไปก็ไม่ช่วยหรอก”
   
เขายกมือขึ้นแตะหัวคิ้วของตัวเองอย่างไม่รู้ตัวจนคนอายุมากกว่ายิ้มด้วยความเอ็นดู   
   
“อ้าว..” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง “ไม่ยักรู้ว่าคุณกนธีมีแขก”
   
เจ้าของชื่อหันไปมอง ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยิ้มให้ เขาดูสะอาดเกลี้ยงเกลาเมื่อตัดผมสั้นรองทรง โครงหน้าได้รูปยิ่งโดดเด่นโดยเฉพาะเมื่อเห็นห่วงเงินเนื้อหนาที่เจาะอยู่ตรงติ่งหูทั้งสองข้าง เขาสวมเชิ้ตเนื้อดี เข็มขัดหนังและกางเกงยีนส์สีดำของลีวายส์ยิ่งขับให้ช่วงขาเพรียวยาวดูสูงสง่า รองเท้าหนังแท้สีเข้มตามรูปแบบที่ชอบทำให้ดูสบายๆ กลิ่นน้ำหอมสปอร์ตของ Dolce & Gabbana เข้ากันได้ดีกับผิวกายสีแทน 

กนธีลุกขึ้นยืน จับมือทักทาย “คุณไผท”

อินทัชนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาลุกขึ้นยืนเพราะตรงที่นั่งอยู่มีเก้าอี้แค่สองตัว ในเมื่อพี่กุนต์บอกว่ารอเพื่อนมา และไม่ได้คิดจะย้ายโต๊ะ เขาก็ควรจะไปได้แล้ว
   
“ถ้าอย่างนั้น..ผมขอกลับก่อนนะครับ” เขาก้มลงหยิบแก้วโกโก้ที่พี่กุนต์ซื้อให้มาถือ
   
กนธีพยักหน้ารับ “ถ้าได้เรื่องแล้วพี่จะติดต่อไปนะ กลับดีๆล่ะ”
   
เด็กหนุ่มเดินออกมาจากร้านกาแฟ เขาก้าวผ่านกระจกใสด้านข้าง เหลือบมองผู้ชายที่มาใหม่
   
..แค่เพื่อนจริงๆอย่างนั้นหรือ..
   
กนธีเพิ่งได้มีโอกาสเจอไผทเป็นครั้งที่สอง ก่อนหน้านี้เขามีเหตุให้รู้จักกัน จากเรื่องที่เจ้าไผ่ขับไปชนวัวของอีกฝ่าย ตอนนั้นคุณไผทโวยวายเสียแทบจะฆ่าน้องชายเขา ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้หนุ่มตัวเลอะเทอะดินโคลน ไว้หนวดและปล่อยผมรุงรังที่ขี่ม้าตามมาดูเหตุการณ์คือใคร เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเจ้าของไร่ก็ตอนที่มีการแนะนำตัว พอมาเปลี่ยนลุคเป็นหนุ่มเมืองกรุงแล้ว นับว่าดูดีอย่างหาตัวจับยากจริงๆ
   
“คุยกันต่อก็ได้นะครับ ผมไม่รีบ” ไผทนั่งลงฝั่งตรงข้าม
   
“อ๋อ..ไม่เป็นไรครับ น้องชายผมมาคุยเรื่องอยากจะเปลี่ยนงานใหม่ ตอนนี้เขาทำงานพิเศษอยู่แต่ว่าเวลามันดึกเกิน ไม่ดีกับสุขภาพน่ะครับ ผมเลยลองมองๆที่อื่นไว้ให้” กนธีพูดให้เรื่องฟังดูดีขึ้น
   
“ยังเรียนอยู่เลยนี่” เขาดูจากแบบฟอร์มที่สวมอยู่ และต่อให้กนธีจะบอกว่าเป็นน้องชาย เขาก็รู้ดีว่าไม่ใช่ นอกจากหน้าตาไม่เหมือนกันแล้ว ถ้าเป็นญาติพี่น้องของสิงหนาท คงไม่มีทางมาทำงานพิเศษหรอก
   
เรื่องที่คนตรงหน้าเขามักมีคู่ควงวัยเด็ก ทำไมเขาจะไม่รู้..สงสัยก็แต่ว่ายังไปไม่ถึงขั้นไหนต่อไหนกัน เพราะแว่วมาว่าหากกนธีรับดูแลใคร เด็กคนนั้นก็จะสบายไปอีกนาน งานการไม่ต้องทำ รอรับเงินและคอยเอาใจอย่างเดียว
   
“เพิ่งจะเรียนปีหนึ่ง แต่อีกไม่กี่เดือนก็ขึ้นปีสองแล้ว”
   
“เขาหางานอะไรอยู่” ไผทถาม “สนใจอยากมาทำที่ร้านอาหารของผมไหม”
   
กนธีที่กำลังดื่มน้ำเลิกคิ้วขึ้น “จริงหรือเปล่าคุณไผท”
   
“เรียกว่าไทก็ได้” เขายิ้ม “เขาทำอะไรได้บ้างล่ะคุณกนธี”
   
เจ้าของชื่อหัวเราะ “กุนต์ครับ..ผมชื่อเล่นว่ากุนต์”
   
“โอเค..คุณกุนต์”
   
“น้องผมเล่นดนตรีได้ กีต้าร์ เปียโน ร้องเพลงเพราะมาก ที่เก่าเขาเป็นบาร์เทนเดอร์ด้วย แล้วก็เล่นกีฬาเก่งทุกชนิด แต่อันหลังคงไม่เกี่ยว”
   
“อ้อ..ถ้าอย่างนั้นก็มาร้องเพลงที่ร้านอาหารได้ เริ่มงานตอนหกโมงถึงแค่สี่ทุ่ม ตอนนี้ผมยังไม่ได้จ้างใครไว้” เพราะว่าเปลือง.. ไผทคิดในใจ “ถ้าเขาโอเคที่จะมาเป็นนักร้องนักดนตรีเดี่ยวๆที่ร้าน ผมก็โอเค”
   
“ขอบคุณมาก ยังไงผมจะลองคุยกับเขาดูนะครับ” กนธียิ้ม ดึงเอกสารออกมาจากกระเป๋า “คุยเรื่องคอนโดของคุณกันดีกว่า..ผมเกรงว่า..”
   
“ไปดูหนังกัน”
   
คนฟังนิ่งงัน “อะไรนะครับ”
   
ไผทยิ้ม อวดฟันขาววับ เห็นเขี้ยวซี่เล็กดูแล้วชวนให้นึกถึงตัวแทสเมเนียนเดวิลในลูนี่ย์ตูนส์ 
   
“ผมอยากดูหนัง แต่ไม่มีเพื่อนไปด้วย วันนี้เลยชวนคุณกุนต์ออกมา”
   
“ไม่อยากดูคอนโดแล้วหรือครับ” เขางงเล็กน้อย
   
“ยังไม่ใช่ตอนนี้” ไผทลุกขึ้นยืน ขืนอยู่นานแล้วไม่สั่งสตาร์บั๊คส์ อาจถูกมองว่าขี้งกได้..แต่เขาก็งกจริงๆนั่นแหละ
   
กนธีหัวเราะ เก็บเอกสารไว้ที่เดิมแล้วลุกตาม “อยากดูเรื่องอะไรครับ”
   
“Lights out”
   
“โอ้..หนังผี” เขาก็สนใจอยู่เหมือนกัน สมัยก่อนเขาชอบชวนคู่ควงไปดู เวลาเห็นเด็กสะดุ้ง มันชวนให้อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ยักเจอช็อตโผเข้ามาซบอกแบบคู่อื่นเลย ทำเอาเขาเบื่อไปพักใหญ่
   
“ผมน่ะกลัวผี แต่ก็อยากดูนะ”
   
“จริงหรือครับ” เขาถามยิ้มๆ “โชคดีที่ผมไม่กลัว”
   
“ถ้าป๊อปคอร์นกระจายก็ขอโทษล่วงหน้าแล้วกัน”
   
กนธีหัวเราะ เขาว่าคุณไผทดูตลกดี ทั้งเป็นธรรมชาติ แล้วก็เข้าหาได้ง่ายด้วย
   
“แต่ว่าป๊อปคอร์นถังหนึ่งตั้งสองร้อยกว่านะ กระจายไปครึ่งก็เหลือร้อยบาทแล้ว”
   
“โธ่..คุณกุนต์”
   
ชายหนุ่มทั้งสองเดินคู่กัน และพูดคุยเรื่องไร้สาระไปตลอดทาง




.....................................................................................





 :hao7:  เปิดตัวคุณไผท




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2016 11:31:28 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #741 เมื่อ25-07-2016 19:42:14 »

ปักก่อนอ่าน  :z13:
-----
ปาลินเริ่มเข้ามามีบทเรื่อยๆ พอนางโผล่มาทุกครั้งรู้สึกเศร้าแทนพี่กุนต์ทุกที  :ling1:
แล้วคุณไผทจะเข้ามามีบทกับพี่กุนต์หรือกับไผ่ แต่คุณไผทกับพี่กุนต์โผล่มาแปปเดียวเคมีก็พุ่งเข้าหากันเลยอะ จิ้นอีกคู่ได้ไหมพระเอกสำรอง 5555 :katai4:
โอ้ยยยยยยยยย ไม่ชอบเลยเวลาต้มน้ำเดือดแต่ไม่มีมาม่า อิอิ  o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2016 20:11:43 โดย ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ »

ออฟไลน์ WinterRose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #742 เมื่อ25-07-2016 19:57:42 »

อ๊ากกกกกกกกกกกกกก นี่จิ้นคุณผไทร่างเคะไว้ค่าาาาา ตายแล้วๆๆๆๆ

แต่เป็นความเข้าใจผิดที่ฟินม๊ากกกกกกกก ชอบบบบบ ชอบแบบนี้จังเลยยยย
เปลี่ยนพระเอ๊กกกกก เปลี่ยนเลยค่า เปลี่ยนตอนนี้ หนูจะเอาคุณผไทให้พี่กุนต์ ฮื๊อออออออออออ

ตายแล้วๆๆ คุณผไทออกถึงสามนาทีมั้ยคะ ทำไมดิฉันหน้าร้อน ดิฉันเขินนางมากเลย
ผู้ชายอะไรเหมือนแทสเมเนี่ยนเดวิล ฮื้ออออ ชอบคนฟันเขี้ยวอ่ะ
บ้าจัง เขินเลย
ไม่ยกพี่กุนต์ให้ใครแล้วนะคะ ให้คุณผไทคนเดียว ยอมมมม XDDD

ปล. คุณข้าวปั้นฟิตจริงๆ ล่วย ขอแบบนี้ไปจนถึงตอนจบเลยนะคะ สาธู๊

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #743 เมื่อ25-07-2016 19:58:19 »

ก่อนหน้านี้เจ้าไผ่ทำนายไว้ว่าไม่เกินกี่เดือนนะ อินทัชได้ตำแหน่งเด็กคนที่ 5 แน่ๆ
จะรอดูว่าแม่นแค่ไหน 5555555555555555

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #744 เมื่อ25-07-2016 20:05:01 »

เฮ้อ....หน่วงจัง สงสารโอ๊ตด้วย
จะเกิดอะไรต่อไปนะ...

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #745 เมื่อ25-07-2016 20:13:09 »

 :pig4:

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #746 เมื่อ25-07-2016 20:13:54 »

 :katai2-1: เดี๋ยวค่ะทคุณผไทปิ๊งพี่กุนต์หรา อิอิ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #747 เมื่อ25-07-2016 20:19:14 »

ว๊าววว คุณไผท จะจีบนางเอกรวย อย่างกสิคะ ไม่ดี

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #748 เมื่อ25-07-2016 20:31:06 »

ไม่คิดว่าคุณไผทจะเป็นหนุ่มชาวไร่เต็มตัวขนาดนี้ :ling2:
โอ๊ต อยากหางานก็รีบหน่อยเดี๋ยวตำแหน่งมันจะเต็ม
เงินดีงานสบายใช่ว่าจะหาง่ายนะ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.16] pg.25 -- 25/7/59
«ตอบ #749 เมื่อ25-07-2016 20:34:35 »

ไม่ได้เกลียนปาลินนะ แต่อยู่ทีมพี่กุนอ่ะ แง้ๆๆ โอ๊ตห้ามทำให้พี่กุนเสียใจนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด