Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335625 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #930 เมื่อ05-08-2016 10:39:31 »

โอ่ยยยยยย
หายใจโล่งมากค่ะครึ่งนี้ หลังจากวิตกมาหลายวัน
พี่กุนต์รู้ว่าคุณผไทจะจีบ แต่ห้ามพี่กุนต์รู้สึกดีไปกับเขาด้วยนะ
สงสารอ้นกับอุ้มมัน 55555555555555 เกี่ยว ?
รอที่เหลือนะคะ คืนนี้จะมาไหม
 :katai1:

ออฟไลน์ ติชิลา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #931 เมื่อ05-08-2016 10:52:28 »

โอ๊ยยยย มันใช่

จุดพลุดีใจน้องโอ๊ตยังไม่โดนใครกิน  :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ imAWESOMEz

  • :: AWE ::
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #932 เมื่อ05-08-2016 13:59:28 »

ดันน :katai5:

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #933 เมื่อ05-08-2016 20:03:39 »

เริ่มอยากเปลี่ยนคู่ละ พี่กุนต์กับคุณผไทเคมีเข้ากันตลอดดดด กรี๋ดดดดด แถมตอนนี้โอ๊ตกับพีกุนต์ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลยอ่าถ้าไม่ติดอ้นกับอุ้มคงเลิกติดต่อกันไปตั้งแต่นิยายตอนแรกๆแล้ว 55555 โอ๊ตก็เพ้อถึงปาลินมากขึ้นทุกวันๆ ถ้าไม่ใช่ช่วง hard time หรือมีอะไรต้องคิดต้องแก้ก็ไม่มีบทพี่กุนต์อยู่เลยอ่า พี่กุนต์ก็ถูกคิดถึงเป็นคนสุดท้ายเสมอ   :เฮ้อ:
นิยาย Feel good จริงๆ 55555 :katai4:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #934 เมื่อ05-08-2016 21:20:28 »


 :hao5:

โอ้ยยยย

อ่านตอนนี้แล้วช่วงแรกที่โอ๊ตไปกับเจ๊คนนั้นอิชั้นกำก้านมะยมแน่นมาก
ถึงกับกลั้นหายใจอ่าน ภาวนาขอให้พี่กุนต์โทรมา แต่สรุปพี่กุนต์ไม่โทรมา แต่เป็นผัวเจ๊แทน ขอบคุณค่ะ /กราบบ 5555
ยังไงก็อยากให้คนแรก(และคนสุดท้าย)ของโอ๊ตเป็นพี่กุนต์อยู่ดี
เด็กหนุ่มเนื้อแน่นกล้ามฟิตขนาดนี้เร้าใจคนแก่ดีแท้น้อออออออ >_<
(แต่จำได้ พี่กุนต์เคยบอกว่าแก่แล้ว หลายรอบไม่ค่อยไหว #เดี๋ยวๆๆๆ)

อ่านจบแล้วอยากเข้าไปลูบหัวโอ๊ตแล้วบอกว่าไม่เป็นไรมากๆ
ชีวิตเราความจำเป็นมันต่างกันเนอะ ;-; เข้าใจความรู้สึกโอ๊ต มีครอบครัวอีกสามชีวิตให้ต้องดูแล
คือมันหนักเกินไปสำหรับเด็กอายุแค่นี้จริงๆ โอ๊ตทำดีที่สุดแล้วแหละ
นี่เอาใจช่วยอยู่ (ถึงจะแอบหมั่นไส้บ้างอะไรบ้างเป็นบางครั้ง 5555555555)


รออีกครึ่งนึงที่เหลืออออ
เค้าคิดถึงคุณไผ่ม๊ากกก มากกกก
คนดีย์ของบ่าววว น้องรักพี่กุนต์ โผล่มาทีนึงก็กวนตีนคนพี่เค้าตลอด ช่างน่ายกสมบัติให้จริงๆ 555555555


ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #935 เมื่อ05-08-2016 22:41:59 »

ตายแล้ว ทำไมไม่เลือกไปซบอกพี่กุนต์
เทอจะมากินหญิงไม่ได้นะโอ๊ต

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #936 เมื่อ05-08-2016 23:08:27 »

มานั่งรอ :really2:

ออฟไลน์ NUBTANG

  • Nothing is impossible. "[+++++]"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #937 เมื่อ05-08-2016 23:13:16 »

เอ้ยยย ตัดฉับมากกก รอครับบบ รอออ

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #938 เมื่อ06-08-2016 00:47:09 »

รออีกครึ่งที่เหลือค่าาาาาาาาา

ออฟไลน์ mokupirin

  • ความดีก็เหมือนกางเกงใน ใส่ติดตัวไว้แต่ไม่ต้องโชว์บ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #939 เมื่อ06-08-2016 21:52:22 »

 :ling1: รอค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
« ตอบ #939 เมื่อ: 06-08-2016 21:52:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #940 เมื่อ07-08-2016 23:16:10 »

เกือบไปแล้วนังโอ๊ตตตตต โอ้ยยยยย พี่กุนต์รีบกลับม๊าาาาาา  :katai1:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.18] pg.29 -- 1/8/59
«ตอบ #941 เมื่อ07-08-2016 23:54:57 »


พี่กุนต์ มาไวไวน้าาาา~   น้องอ้น น้องอุ้ม คิดถึงมากมากๆๆๆ 

กลับมาอ่านอีกที   มีบทน้องอุ้มมาเพิ่ม ด้วย  เย้ๆๆๆ  :กอด1:


 ฉากนี้ ยิ่งอ่าน ก้อ สะเทือนใจเหลือเกินนน  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

อ้างถึง
เด็กหนุ่มก้าวออกจากห้อง เจ้าอ้นกับเจ้าอุ้มเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มเผล่

“เป็นไงบ้างพี่โอ๊ต ยายแข็งแรงดีใช่ม้า~”

เขากลั้นหยดน้ำตาเอาไว้ รู้สึกเหมือนกำลังนับถอยหลังช่วงเวลาบางอย่าง แต่เมื่อได้มองหน้าน้องๆ เขาก็รับรู้ได้ว่า น้องและยาย คือครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เขามี และเขาจะต้องรักษาไว้อย่างเต็มที่ จะไม่ยอมซ้ำรอยเดิมเหมือนคราวแม่ของเขาเอง

“ยายแข็งแรงดี” อินทัชพึมพำ ยิ้มจาง “แค่ว่าเป็นโรคตับนิดหน่อย ต้องรักษาตัว”

“เหรอๆ..ดีจัง”

เขาลูบหัวเด็กๆ ข่มใจให้สงบ “จะเป็นอะไรไหม ถ้าพี่ไม่ได้พาไปเที่ยวงานแล้ว”

“อ้าว..” น้องอุ้มทำคิ้วผูกกัน...


  “ น่าสงสารอ๊าา~  .... น้องอุ้ม อดดูบั้งไฟ เลย

  :m15: :m15: :m15: แต่ที่สงสารหนักกว่า คือ พี่โอ๊ต ต้องแบกรับภาระทุกอย่างไว้คนเดียว.....รอ พี่กุนต์มาเป็นพระเอกขีม้าขาว นาาา

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #942 เมื่อ08-08-2016 01:52:09 »





Chapter 19





“ดื่มอะไรไหม”

อินทัชนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา ไม่ปริปากพูดหรือชวนอีกฝ่ายคุยสักคำตั้งแต่ออกจากเลานจ์ ขึ้นรถมากับเธอ กระทั่งตามเข้ามาถึงห้องชุดในคอนโดระดับไฮเอนด์

เขามองโต๊ะกลางด้านหน้า คล้ายกับสนใจดอกไม้พลาสติกในแจกันมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง

..เขาไม่ได้บอกน้องชายว่าคืนนี้คงไม่ได้กลับ..

..อ้นกับอุ้มจะงอแงหรือเปล่า..

“นี่..” แขกสาวเดินเข้ามาหา เธอเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงเป็นสลิปเปอร์ลายกระต่ายสีชมพู “เป็นอะไรไปจ๊ะ..ไม่สบายหรือไง” มือเรียวสวยแตะปลายคางคนอ่อนวัยกว่าให้เงยขึ้น

อินทัชมองอีกฝ่าย แต่แล้วก็หลุบตาลงต่ำ เสมองภายในห้องแทน มันตกแต่งอย่างเรียบง่าย ดูแล้วไม่เหมือนห้องของผู้หญิงที่มักจะเน้นของกระจุกกระจิก แต่กลิ่นอายที่มาจากน้ำหอมราคาแพงก็บอกว่าเธอเป็นเจ้าของห้องจริงๆ

“ถ้าไม่ดื่มอะไร งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” เธอผละจากเขา เดินเข้าไปที่วอล์คอินโคลเซ็ทและหยิบเสื้อคลุมมาสวม “เปิดทีวีดูไปก่อนก็ได้..ไม่ต้องรีบหรอก เรามีเวลาทั้งคืน”

เขานิ่งเงียบ มองแก้วไวน์ที่เธอรินมาให้อย่างเหม่อลอย

อันที่จริง อินทัชรู้ดีว่าเป็นผู้ชายมันไม่เสียหาย หากว่าเราจะมีความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวกับคนที่ไม่ใช่คู่รัก แต่เขาก็ยังรู้สึกอดสูใจไม่ได้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องทำเรื่องพรรค์นี้..ก็เพื่อเงิน

เสียงสายน้ำจากฝักบัวดังกระทบพื้นแว่วมาเมื่อเขาเดินเข้าไปแถวห้องน้ำ ตอนนั้นใจหนึ่งกำลังลังเล คิดอยู่ว่าจะปล่อยให้เรื่องดำเนินจนถึงตอนจบ หรือกลับออกไปในตอนนี้เลย

แต่เขาต้องการเงิน..ซ้ำยังต้องการอย่างมากด้วย

ประตูห้องน้ำเปิดออก อินทัชชะงักเมื่อหญิงสาวก้าวออกมา เธอสวมชุดคลุม ไม่ใส่บราเซียร์ ซ้ำยังผูกสายคาดเอวไว้หลวมๆ ทุกครั้งที่ก้าวเดิน รอยแหวกของผ้าจึงเปิดเปลือย คล้ายจงใจกระตุ้นเร้ากัน

“จะอาบน้ำหรือ ไปสิ..” เธอเช็ดปลายผมที่เปียกชุ่ม “ฉันจะรอที่เตียงนะ”

อินทัชเงียบ ได้แต่ยืนมองคนที่หันหลังให้ เธอปลดเสื้อคลุมออก ทิ้งลงไปกองตรงข้อเท้าโดยไม่มีท่าทีเขินอายใดๆ เขาเองเสียอีกที่อดหน้าร้อนผ่าวไม่ได้เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงที่เจริญพันธุ์เต็มที่

ดวงตาสีเข้มเผลอไล่มองทรวดทรงอ่อนช้อยของสรีระเพศตรงข้าม เธอปล่อยผมให้ยาวสยายถึงกลางแผ่นหลังขาวเนียน เขามองเรื่อยตั้งแต่ช่วงเอวคอด ลงมาถึงสะโพกอวบอิ่มที่ผายออก กระทั่งขาเพรียวยาวไปจนข้อเท้ากลมกลึง

“อย่ามัวแต่จ้องอย่างเดียว” เธอหัวเราะคิก ก้าวขึ้นไปแล้วเปิดผ้านวม ซุกตัวลงตรงกลางพลางเท้าหัว ใช้สายตามองเย้ายวน “ถ้าไม่อาบน้ำก็มาตรงนี้”

อินทัชเกิดความละอายแก่ใจขึ้นมาชั่ววูบหนึ่งเมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองมีปฏิกิริยาเล็กน้อยกับการปลุกเร้าด้วยท่าทางของเธอ ตอนนั้นเขานึกถึงหน้าของใครบางคน..ที่เขาแอบชอบ มันเป็นเหมือนปราการด่านสุดท้าย ก่อนที่เขาจะทำอะไรลงไป

เขารู้สึกผิด..เหมือนกำลังนอกใจ

แต่เพราะว่าปาลินไม่ได้มีใจให้เขา..แล้วมันจะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร

อย่างมากถ้ารู้เรื่องคืนนี้..ปาลินก็คงจะผิดหวังที่เขาตัดสินใจ ‘ขายตัว’ แลกเงิน

แต่คงไม่ได้เจ็บปวด และไม่ได้รู้สึกอื่นใดกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เขาทำ

“เรื่องคืนนี้..” อินทัชพึมพำ “อย่าบอกใครได้ไหมครับ”

เธอเลิกคิ้ว จากนั้นก็หัวเราะเสียงใส “อะไรกัน..กลัวว่าจะรั่วไปถึงหูของแฟนหรอกหรือ โธ่เอ๋ย..พ่อคนน่าสงสาร” สาวเจ้าพลิกตัวลงนอนคว่ำ “วางใจเถอะ..ฉันไม่ปากโป้งหรอก”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นผมขอไปอาบน้ำก่อน..”

“ไม่ต้องแล้วก็ได้ ฉันไม่ถือ” เธอยิ้ม “ไปหยิบถุงยางตรงลิ้นชักล่างสุดในตู้เสื้อผ้ามาก็พอ”

เขาเดินไปทำตามคำบอกอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็มาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง เธอบอกให้ถอดเสื้อออก เขาเลยปลดกระดุมเชิ้ตแล้ววางพาดไว้กับเก้าอี้ด้านหลัง

คนอายุมากกว่าไล่สายตามองรูปร่างของอีกคนอย่างชื่นชม เขามีรูปร่างสูงใหญ่แม้จะยังโตไม่เต็มที่ ช่วงบ่ากว้างและแขนแข็งแรงให้ความรู้สึกร้อนซ่าน แผ่นอกล่ำสันรับเข้ากับกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับได้รูป ผิวสีแทนของนักกีฬาเมื่อทาบเกี่ยวกับผิวเนื้อขาวจัดคงให้อารมณ์ระอุพล่าน

เธอมองท่อนขาเพรียว และจ้องเงาสะท้อนจากกระจกสูงท่วมหัวด้านหลัง มองสะโพกเคร่งครัดที่อยู่ใต้กางเกงสแล็ค สงสัยว่าตอนที่เขาขับเคลื่อนตัวเองด้วยความร้อนแรง เธอจะต้องกระหวัดปลายเท้าไว้ตรงไหน เขาจะเข้ามาลึกจนเธอหวีดร้องไม่เป็นศัพท์หรือไม่ และเขาจะฉุดรั้งกันขึ้นไปถึงความชุ่มฉ่ำในชีวิตแห้งผากของเธอได้มากน้อยเท่าไร 

สี่หมื่น..แลกกับความหฤหรรษ์ในยามค่ำคืน เธอไม่นึกเสียดายหรอก

..ใช่เงินของเธอเองเสียเมื่อไร..

เธอยิ้มมุมปากขณะลุกขึ้นนั่ง ผ้านวมที่คลุมร่างหลุดเลื่อนลงไปกองที่เอว จากนั้นก็คุกเข่าลงและจัดการปลดเข็มขัดกางเกงของอีกฝ่ายออก อินทัชขมวดคิ้ว วูบไหวในช่องท้องเมื่อจ้องมองคนที่ใช้ฟันรูดซิปกางเกงให้

“ตอบฉันซิหนุ่มน้อย..” เธอยิ้มยั่ว ล้วงมือเข้าไปสัมผัสเนื้อผ้าของชั้นในอย่างไว้เชิง “เธอเคยมีอะไรกับใครมากี่คนแล้ว”
   
เขาเริ่มมีปฏิกิริยา ปวดแปลบกลางลำตัวเมื่อนิ้วเรียวลูบไล้ให้ “ยัง..ไม่เคยครับ”
   
หญิงสาวชะงัก มีท่าทีประหลาดใจ จากนั้นก็หัวเราะคิก
   
“ตายแล้ว..ไม่เคยมีอะไรกับแฟนเลยหรือ”
   
อินทัชเงียบ เขาไม่ได้เป็นคนดี ขนาดที่จะปล่อยแฟนของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยโดยไม่ทำอะไรหรอก แต่เพราะว่าปาลินไม่ใช่แฟนของเขา แล้วจะเคยมีความสัมพันธ์กันได้อย่างไร
   
“โถ..ไม่เป็นไรๆ” เธอค่อยๆปลดกางเกงเด็กหนุ่มลงมา “ให้ฉันสอนวิธี ‘ขึ้นครู’ ให้เองนะจ๊ะ”
   
“ถ้าผมทำไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วย”
   
“เด็กหนุ่มๆน่ะประสบการณ์น้อย ครั้งแรกอาจจะขลุกขลัก แต่ก็มีดีตรงที่..ความอึด” เธอยิ้ม เอานิ้วเกี่ยวขอบชั้นในออกให้ “ผ่อนคลายเข้าไว้..ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ เอาความกดดันทั้งหมดของเธอมาลงที่ฉันนี่..”
   
อินทัชมองคนที่ถอยหลังไปนั่งบนเตียง เธอเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นปิดปากแล้วทำตาโตตอนที่มองสำรวจร่างกายเปลือยเปล่าของเขา เจ้าหล่อนทำทีขวยอายเหมือนสาวไม่ประสา แต่ดวงตากลับจ้องไม่ยอมละ
   
“ให้ตาย..” เธออุทาน เหลือบมองกล่องถุงยางบนโต๊ะด้านข้าง “ไอ้นี่มันเล็กไป..”
   
เขาชะงัก ถ้าไม่มีถุงยาง เขาก็คงไม่รับงานนี้ เพื่อความปลอดภัยทั้งเขาและเธอ
   
เด็กหนุ่มก้มลง จะหยิบชั้นในมาสวม “ผมเห็นร้านเซเว่นอยู่หน้าปากซอย ยังไงก็ต้องใช้..” พูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็คว้าเข้าที่แขนแล้วลากเขาล้มลงบนฟูก เขาต้องเอามือยันพื้นโดยอัตโนมัติเมื่อสัมผัสได้ว่าท่อนล่างกำลังเบียดเสียดกัน
   
ปฏิกิริยาของร่างกายเริ่มปะทุขึ้นเมื่อแผ่นอกแนบชิดกับทรวงอกอวบ ผิวเนื้อร้อนผ่าวทาบเกี่ยว มันเร่งเร้าและสะกิดความต้องการเหมือนกับประกายไฟตกลงบนน้ำมัน
   
“ช่วงนี้ปลอดภัย” เธอกระซิบ ขบปากลงบนติ่งหู “เธอไม่เคย และฉันก็สะอาดนะ..”
   
อินทัชพยายามจะลุกขึ้น เขาไม่เห็นด้วยกับข้อนี้ แต่เธอเอาแขนคล้องคอเขาไว้ ลากมือลูบไล้ไปตามช่วงบ่า
   
“เดี๋ยวครับ..”
   
“จูบก่อน” เธอท้วง สอดนิ้วเข้าขยุ้มท้ายทอยและรั้งใบหน้าอ่อนเยาว์ลงมาใกล้ เปิดปากขบเม้มบนปลายจมูกโด่งเป็นสัน ลากลิ้นโลมเลียเรียวปากล่างของเด็กอายุน้อยกว่า ผิวเนื้อที่ตึงแน่น ให้ความรู้สึกถึงความเป็นชายทั้งเนื้อทั้งตัวนั่นเร้าอารมณ์จนหวามไหว
   
อินทัชขัดขืนได้ไม่นานก็คล้อยตาม เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ความรุ่มร้อนของวัยหนุ่มทำให้ร่างกายเริ่มตอบโต้ไปตามสัญชาตญาณ
   
เขาก้มลงกดจูบบนซอกคอนวลเนียน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆล่อลวงให้เขาสูดดม ฝ่ามือใหญ่ลากผ่านต้นขาอวบอิ่ม สูงขึ้นไปยังทรวงอกและกอบกุมมันไว้ เธอครวญครางเมื่อเขาลากริมฝีปากลงมาครอบครอง
   
มือข้างหนึ่งของเธอจิกลงบั้นเอวของเขา เรียวขาแยกออกกว้างเป็นการเชิญชวน อินทัชลังเล เขามองไปที่กล่องถุงยาง คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะลองใส่ดูก่อน
   
“ทำไมคุณถึงมีถุงยางอยู่ในห้องตั้งเยอะ” จู่ๆเขาก็ฉุกคิดขึ้นได้ ยันตัวขึ้นเหนือร่างเล็กบาง “หรือว่า..”
   
เสียงริงโทนมือถือแผดดัง คนทั้งคู่หันขวับไปมอง นายจ้างของเขาถึงกับชะงัก แต่เพียงไม่นานเท่านั้นก็หันมาวุ่นวายกับเขาใหม่ เธอพยายามกอดจูบ เหนี่ยวรั้งให้เขาร่วมเล่นไปด้วย
   
“มีคนโทรมา” เขากระซิบ “อาจจะเป็นธุระด่วน”
   
หญิงสาวจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด คว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วลุกออกจากเตียง อินทัชเลยถอยตาม เขาคว้าชั้นในมาสวมอีกครั้งและใส่กางเกงให้เรียบร้อยตอนที่เธอเดินหัวเสียไปรับสาย
   
“ตีสองแล้ว..บ้าหรือเปล่าโทรมาป่านนี้” เธอสบถ มองหน้าจอก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็กดรับ ทำเสียงอ่อนเสียงหวานพลางหันมาจุ๊ปากให้เขาเงียบ “ว่าไงคะ..ที่รัก”
   
อินทัชตัวเย็นเฉียบ เพิ่งจะได้คำตอบว่าทำไมเธอถึงได้มีกล่องถุงยางไซส์เดียวกันในตู้เสื้อผ้า
   
“อะไรนะคะ” เธอดูตกใจ “กำลังมา? ไหนคุณบอกว่าคืนนี้ไม่มาไง”
   
เด็กหนุ่มรู้สึกถึงเหตุการณ์ที่ไม่สู้ดี เขารีบคว้าเสื้อมาสวมตอนที่เธอทำใจดีสู้เสือ ตอบรับเสียงอ่อนกับปลายสาย
   
“ค่ะ..ได้ค่ะ พอดีฉันนอนอยู่ ตกใจที่คุณมาเอาป่านนี้..ตีสองกว่าแล้ว..” เธอเดินวนไปมาเหมือนหนูติดจั่น “ได้ค่ะ ยังไม่นอนต่อ จะรอคุณที่ห้องนะ..”
   
อินทัชกลัดกระดุมเสื้อเมื่อเธอปราดเข้ามาหา
   
“ท่านจะมา” เธอลนลาน “รีบออกไปเร็วเข้า ถ้าท่านรู้ว่าฉันเอาเธอมานอน ฉันโดนดีดออกจากทำเนียบอนุแน่”
   
เด็กหนุ่มฟังอย่างตกใจ ที่เลวร้ายกว่าการมีอะไรกับเมียคนอื่น ก็คือการมีอะไรกับเมียน้อยของคนอื่นนี่แหละ
   
เขาส่ายหัว คว้ากระเป๋าขึ้นสะพายข้างแล้วเดินออกจากห้องในทันที
   
“รีบๆเข้า แล้วอย่าเดินผ่านล็อบบี้นะ ไปออกด้านหลังเลย เข้าใจไหม!” เธอรีบร้อน “ฉันจะติดต่อไปทีหลัง ระหว่างนี้ห้ามมาหาฉันที่นี่ เรื่องเงินเอาไว้ค่อยเคลียร์”
   
อินทัชมองเธออย่างดูแคลน แต่ให้ทำอย่างไรได้ เขาเองก็ใช่ว่าจะดีนัก
   
หลังจากที่หลุดออกมาจากคอนโดหรูนั่นได้สำเร็จ เขาก็เดินทอดน่อง เตร็ดเตร่อยู่ข้างถนน ใบหน้าได้รูปแหงนมองบนท้องฟ้า ในเมืองหลวงไม่ค่อยมีดาวให้เห็น อาจเพราะแสงไฟจากตึกกลบเกลื่อนมันไปจนหมด
   
มีรถเบนซ์คันงามแล่นผ่านไปและเลี้ยวเข้าซอยที่คอนโดนั่นตั้งอยู่ เขาเหลือบมอง ไม่เห็นว่าใครขับเพราะฟิล์มค่อนข้างทึบ แต่ก็เผลอหยุดยืนอยู่ข้างเสาไฟ เหมือนคนเพิ่งจะทำความผิดอะไรมา
   
พอรถคันนั้นแล่นผ่าน เขาก็ตั้งสติได้และเดินต่อ จู่ๆ อินทัชนึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้นเอง
   
..เขาก็แค่..ขบขันทางเลือกของตนเหลือเกิน..

.

.

.




“เลิกนั่งเล่นไลน์สักทีน่า” พสิษฐ์ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงด้านข้างกระดิกเท้าไปมา
   
ตั้งแต่พี่กุนต์มาถึงโรงแรมก็แชทไร้สาระอยู่ตลอด เขาว่าแชทไปหัวเราะไป ไม่น่าจะคุยกับลูกค้า อันที่จริง ดูเหมือนพี่กุนต์จะมาเล่นเยอะเอาช่วงหลังๆ ตั้งแต่ที่ ‘ไอ้ตึ๋งหนืด’ เข้ามายุ่มย่ามในชีวิต
   
“สรุปว่าเลิกคั่วกับเด็กมหา’ลัย มาสนใจไอ้หนุ่มบ้านไร่ทะเลเรียกพ่อแล้วใช่ไหม”
   
“กินแลคตาซอยแล้วไปนอนไป” กนธีส่ายหัว “จริงๆคุณไทก็ไม่ได้เค็มนะ เขาแค่รู้จักใช้เงิน”
   
พสิษฐ์ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อหู “ไปเที่ยวกันไม่กี่วัน พี่ถูกเขาเป่าสมองขนาดนี้แล้วหรือ!”
   
“ล้างสมองเว้ย”
   
ชายหนุ่มเซฟภาพ ราตรีสวัสดิ์ แล้วส่งให้ไผท พร้อมกันนั้นก็ส่งเข้าไลน์ของอินทัชด้วย ของคุณไผทนั้นขึ้นว่า Read แทบจะทันที แต่ของอินทัช คิดว่ากว่าจะได้อ่านก็คงจะเช้าอีกวัน ตอนนี้หมอนั่นคงกำลังทำงานอยู่
   
กนธีวางโทรศัพท์ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง วันนี้เขามาดูที่ดินในจังหวัดสุโขทัยที่จะมีคนขายให้ เลยถือโอกาสชวนพสิษฐ์นั่งรถมาเป็นเพื่อน ระหว่างทาง เขาเล่าให้ฟังเรื่องที่มีเพื่อนใหม่เป็นคุณไผท
   
ตอนที่เจ้าไผ่รู้ว่าฝ่ายนั้นอยากได้คอนโดสเปคสูง แต่มีงบให้แค่ไม่เกินสองล้าน มันก็ก่นด่า ซ้ำยังช่วยตั้งนิคเนมให้คุณไผท เป็น ‘ไอ้ตึ๋งหนืด’ ‘ไอ้เดดซี’ และ ‘ไอ้เกลือสมุทร’ อีกต่างหาก
   
โดยสรุป เขาหาคอนโดในราคานั้นให้ไม่ได้ เขาเลยถามว่าจะเพิ่มงบประมาณได้ไหม คุณผัดไทยเลยขอลดสเปคลงแทน และเขาก็หาให้ได้ภายในเวลาไม่นาน ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แต่โดยดี
   
“แกต้องเข้าใจเขานะไผ่” กนธีอธิบาย “คุณไทลำบากมาก่อน เขาเริ่มต้นจากติดลบด้วยซ้ำ แทบจะกัดก้อนเกลือกิน”
   
“ถึงได้เค็มทุกอณูลมหายใจยังไงล่ะ” พสิษฐ์หัวเราะหึ ยังนึกขุ่นใจกับข้อหาที่ว่าไปทำแม่วัวของเจ้านั่น ‘เต้าตัน’   

คนเป็นพี่ส่ายหัว “คนเราเวลาขาดอะไร โตขึ้นเขาก็ต้องโหยหาสิ่งนั้นเป็นธรรมดา ไม่แปลกหรอกที่เขาจะกลัวมาก แล้วก็ไม่อยากกลับไปยากจนเหมือนเดิมอีก สิ่งที่แกต้องโฟกัส ก็คือความพยายามลุกขึ้นยืนของเขาต่างหาก”
   
พสิษฐ์ครางในลำคอ “พี่นี่มันเทวดาลงมาเดินดินชัดๆเลยพี่กุนต์”
   
กนธีเตะหมอนใส่น้องชาย “หัดมองคนในแง่ดีแบบไม่มีเงื่อนไขบ้างสิเว้ย!”
   
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” เขาหัวเราะ “จริงๆผมก็ว่าเขาเป็นคนตลกดีน่ะนะ ไม่น่ามีพิษภัย ไม่น่าใช้สิบแปดมงกุฎ” เขาลูบปลายคางครุ่นคิด “แต่มันก็น่าสงสัยอยู่นา..ทำไมเขารุกเข้าหาพี่เร็วขนาดนี้ มาจีบหรือเปล่า..”
   
“ถ้าอินโนเซ้นท์สักหน่อย ก็คงจะทำท่าไม่เชื่อแล้วก็ถามว่า แก่ปูนนี้ ยังมีคนมาจีบอยู่อีกหรือ..” กนธียิ้มมุมปาก “แต่บังเอิญพี่รู้ตัวว่ะ ว่าคนแต่ละคนที่เข้ามาหาพี่ เขามาด้วยจุดประสงค์อะไร”
   
คนฟังหรี่ตามอง “หมายความว่ายังไง สรุปมาจีบจริง?”
   
“ระดับพื้นผิวมันบอกว่าอย่างนั้น..ระดับลึกลงไปยังไม่ชัดเจน แต่ให้เดาก็คงไม่ยาก” เขาหัวเราะ “แต่ถามจริงๆเถอะ จะมีสักกี่คนที่สนใจตัวพี่..เพราะพี่เป็นพี่จริงๆ ไม่ใช่สนใจเพราะความเป็นสิงหนาทที่พ่วงมาด้วยเงินในบัญชีกับทรัพย์สินส่วนตัวอีกเป็นพะเรอ”
   
พสิษฐ์นิ่งเงียบ วูบหนึ่ง เขาคิดว่ายังสัมผัสความเศร้าสร้อยของพี่กุนต์ได้อยู่บ้าง
   
..ยังอาลัยรักศรัณย์ไม่เปลี่ยน..
   
“พี่กุนต์..” เขาถอนหายใจ แต่แล้วก็ยิ้มเผล่ “ผมไง..ผมรักพี่ที่พี่เป็นพี่ ถึงจะแก่ สายตายาว มักง่าย สกปรก รกรุงรัง ทำอาหารสุนัขไม่รับประทานยังไง..ผมก็ยังรักนะ ไหน..มาให้น้องชายกอดที” ร่างสูงอ้าแขนออก คลานเข่าบนฟูก
   
กนธีเตะหมอนอีกใบใส่หน้ามัน ไอ้ไผ่หงายท้องกลิ้งแทบตกเตียง
   
“แกนั่นแหละไม่น่าไว้ใจที่สุด! เอาที่ดินปากช่องของพี่ไปฟรีแล้วยังไม่ยอมเสียค่าโอนอีก ไอ้ไข่เค็ม!”
   
“อย่าพี่! มันเข้าคู่กับไอ้ตึ๋งหนืดเกินไป!” เขาโวยวาย ทำท่าขนลุก
   
“กลัวมากนัก คอยดูเถอะวะ” กนธียิ้มเหี้ยม “หนีกันไม่พ้นแน่”
   
“!!!”



.................................................................................................




อินทัชละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์เพราะเพ่งมาประมาณชั่วโมงกว่า เขาหยุดพักการพิมพ์ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างลงในตารางเอ็กซ์เซล เด็กหนุ่มนวดคลึงหว่างคิ้ว ปวดกระบอกตาเล็กน้อยเพราะปกติแล้วไม่ได้จ้องหน้าจอคอมฯนานขนาดนี้
   
วิทยานิพนธ์ของอาจารย์ทำกับกลุ่มตัวอย่างประมาณสี่ร้อยคน เป็นเด็กในมหาวิทยาลัย กระจายตามคณะต่างๆ เขาเป็นคนรับจ้างเก็บข้อมูลและเอาดาต้ามากรอก ก่อนหน้านี้ก็ใช้เวลาที่พอมีเดินไปตามมหาวิทยาลัย สุ่มคนตามสะดวกและขอความร่วมมือให้ช่วยตอบแบบสอบถามจำนวนห้าสิบข้อ บางคนก็ไม่ว่าง บางคนปฏิเสธ ทำให้ต้องเสียเวลาในการเก็บมากขึ้น
   
ตอนนี้เขาเก็บได้ประมาณร้อยกว่าคนแล้ว เลยใช้เวลาหลังเลิกเรียนทยอยพิมพ์ข้อมูลลงตารางก่อน จากนั้นค่อยก๊อปปี้ไปลงโปรแกรม SPSS ที่ใช้คำนวณค่าสถิติ
   
อินทัชกลับมามองหน้าจออีกครั้ง เขาตั้งใจจะพิมพ์ให้เสร็จก่อนไปทำงาน พอหันมองกระดาษคำถามก็ต้องถอนหายใจ คนๆนี้ไม่ตั้งใจตอบคำถาม เอาแต่วงคำตอบเดียวยาวลงมา นับว่าข้อมูลชุดนี้ไม่น่าเชื่อถือ
   
ถ้ากลุ่มตัวอย่างมีประมาณสี่ร้อยคน ก็ต้องเก็บเผื่อมาเยอะพอควร เอาไว้สำรองในกรณีที่มีมิสซิ่งจำนวนมาก หรือผู้ตอบไม่ตั้งใจตอบ เขาเลยได้แต่ถอนหายใจ นวดคลึงต้นคอของตนเองอย่างเพลียๆ
   
กำลังมองปึกกระดาษอีกห้าสิบคนที่ยังไม่ได้พิมพ์ เขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีสัมผัสเย็นเจี๊ยบแตะเข้าที่หน้า
   
“เฮ้..” ปาลินปรากฏตัวขึ้นด้านข้าง ยิ้มให้พลางส่งกระป๋องกาแฟสำเร็จรูปมา “เอาหน่อยไหม”
   
อินทัชที่กำลังล้าหลุดยิ้ม รู้สึกอุ่นซ่านในใจทุกครั้งที่ได้เจออีกฝ่าย “ขอบคุณ” เขาเอื้อมมือไปรับ แต่ปาลินยื้อกลับ ส่งขวดซุปไก่สกัดมาให้แทน
   
“เอานี่เถอะ โด๊ปหน่อย พักนี้ดูไม่ได้เลย” ปาลินลากเก้าอี้มานั่ง แอบเอาเครื่องดื่มใส่เป้เข้ามาในหอกลาง
   
คนฟังหัวเราะแผ่วเบา รับมาเปิดขวดแล้วดื่ม จากนั้นคนข้างกายก็ส่งน้ำเปล่าให้
   
“เหลืออีกเยอะไหม” ปาลินชะโงกหน้ามอง “เออ..ที่ฝากเราเก็บ เราไปเดินแถวคณะมาให้แล้วก็เลยไปฝั่งตึกวิทย์ด้วย ได้มาตั้งเจ็ดสิบกว่าคนแน่ะ..”
   
อินทัชไม่รู้จะขอบคุณอีกฝ่ายอย่างไรดี ปาลินอาสามาช่วยโดยไม่ขอรับเงินส่วนแบ่งแม้แต่น้อย เขาเองต่างหากที่ไม่ประเมินศักยภาพตัวเอง ขอเป็นคนเก็บข้อมูลทั้งหมดทั้งที่น่าจะรู้ว่าทำคนเดียวมันต้องใช้เวลามาก
   
“พิมพ์เลยดีไหม ของโอ๊ตเหลือกี่คน”
   
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราค่อยๆทำไป” เขาแย้ง แต่ปาลินก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
   
“เอ้า..แบ่งให้เท่าๆแล้วมาแข่งกัน” เจ้าตัวถกแขนเสื้อ “ใครเสร็จทีหลัง เลี้ยงโจ๊กสามย่านซะเลย”
   
อินทัชหัวเราะ หันกลับมาทำงานของตนเองต่อ
   
เสียงรัวแป้นพิมพ์ดีดดังต่อเนื่อง อินทัชยอมรับว่าสายตาค่อนข้างล้า กว่าจะเสร็จเอกสารส่วนที่เหลือ ปาลินก็นำหน้าไปไกลเสียแล้ว
   
เด็กหนุ่มยังคงกรอกข้อมูลต่อไปเรื่อยๆ ในห้องสมุดค่อนข้างเงียบ นิสิตแต่ละคนเริ่มทยอยกลับ กระทั่งตรงห้องคอมพิวเตอร์เหลือแต่เขากับปาลินเท่านั้น
   
คนด้านข้างเงียบเสียงไปสักพักแล้ว อินทัชที่เพิ่งจะกดเซฟข้อมูลชุดสุดท้ายเลยหันไปมอง เห็นเจ้าตัวนั่งกอดอก ก้มหน้าลงต่ำ หลับตานิ่ง ไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไร
   
เขายิ้มบาง เปิดข้อมูลประมาณหกสิบชุดที่ปาลินพิมพ์ให้ก่อนหันมามองคนที่เริ่มจะตัวเอียงไปด้านข้าง เขาแอบหัวเราะ เอื้อมมือหวังจะประคองช่วงคออีกคนให้ตั้งตรง
   
ระยะที่ห่างแค่เพียงฝ่ามือทำให้ใครบางคนชะงัก เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าก้มหน้าลงไปใกล้แนวแก้มของอีกฝ่ายตั้งแต่เมื่อไร รู้เพียงว่าความรู้สึกอุ่นอวลในอกเมื่อคนๆนี้อยู่ใกล้กัน มันผลักดันให้เขากระทำ
   
ปลายจมูกแตะผ่านผิวเนื้อขาว สัมผัสแผ่วเบาคล้ายปุยนุ่นพลิ้วผ่าน อินทัชผละออกมาตอนที่ปาลินขยับตัว เขากลับมานั่งที่ตัวเอง กลบเกลื่อนสีหน้าและอารมณ์ที่เผลอไผลเมื่อคนด้านข้างปรือตามอง
   
“เสร็จแล้วหรือ” ปาลินหาวหวอด บิดขี้เกียจอย่างง่วงเหงา
   
“อืม..” เขาเก็บกระดาษสองปึกใส่ถุง “ขอบคุณมากนะที่มาช่วย”
   
“ตกลงว่าเราทำเสร็จก่อนนะ” ว่าแล้วก็ฉีกยิ้ม “เลี้ยงเลย เอาโจ๊กหมูใส่ไข่พิเศษสองชาม!”
   
อินทัชหัวเราะ เก็บข้าวของแล้วกดชัทดาวน์เครื่องคอม “ไปสิ..กินสักสาม สี่ ห้าชามเลยก็ไม่ว่า”
   
“เอาแบบไม่ใส่ผัก”
   
“ตลกแล้ว คนอะไรไม่กินผัก รู้หรือเปล่าว่ากินผักแล้วหล่อนะ” เขาหัวเราะ “เท่ระเบิดเลยแหละ”
   
ปาลินขำ “นี่เอามุกนี้ไว้หลอกน้องอุ้มใช่ไหม”
   
อินทัชชะงักไปนิด ไอ้ประโยคที่ว่านั่นเหมือนขึ้นมาในหัวอัตโนมัติ เขาแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าติดคำพูดแบบนี้มาจากพี่กุนต์ตั้งแต่เมื่อไร อาจเพราะว่าเมื่อตอนบ่าย เขาได้ไลน์ภาพฟักทองมาจากฝ่ายนั้น ตามด้วยข้อความบอกว่ากำลังเดินทางกลับ เขาเลยส่งมะเขือเทศไปให้ และบอกว่าขอให้ขับรถปลอดภัย ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ 
   
..คนกินผักคนนั้น..ป่านนี้จะกลับมาถึงกรุงเทพแล้วหรือยังนะ..

เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มจาง หยิบเป้มาพาดบ่าและเดินคล้องคอเพื่อนสนิทของตนออกไปจากห้องสมุด
   
หลังออกจากสามย่าน อินทัชพาปาลินแวะไปที่ห้อง จะได้อาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้างานตอนกลางคืนด้วยกัน

ตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่แถวมหาวิทยาลัย ปาลินก็แวะเวียนมาเสมอเพราะอพาร์ทเมนท์หลังนี้อยู่ใกล้กว่าบ้าน ในตู้เสื้อผ้าของอินทัช มีชุดฟอร์มพนักงานของปาลินแขวนไว้กับชุดลำลองอีกตัวสองตัว พวกเด็กๆเองก็คุ้นเคยกับเพื่อนสนิทของพี่ชายมากขึ้น

“น้องอ้นทำอะไร..” ปาลินนั่งยองๆลงดูน้องชายของเพื่อนที่จดบันทึกอยู่หน้ากระบะเพาะต้นไม้ “ต้องวัดส่วนสูงด้วยหรือครับ การบ้านที่โรงเรียนหรือ”

อ้นหันมาฉีกยิ้ม “วิชาวิทยาศาสตร์ ให้สังเกตการเติบโตของต้นมะขามครับ”

“ต้นมะขามตอนอายุน้อยๆหน้าตาแบบนี้นี่เอง” เขาอมยิ้ม

“อ้นปลูกต้นอ่อนทานตะวันด้วยครับ เอาไว้กินได้ อ้นจะเก็บให้พี่สนนะ”

ปาลินหัวเราะ ขยี้หัวน้องคนกลางอย่างเอ็นดู พอหันมาด้านหลังก็เจอน้องอุ้มยืนยิ้มให้ เจ้าตัวน้อยเพิ่งจะเปลี่ยนปลอกหมอนของตัวเองเสร็จ เพราะเมื่อคืนหลับน้ำลายยืด เป็นคราบเปื้อนเต็มไปหมด

“แล้วอุ้มล่ะ อุ้มปลูกอะไรครับ”

“หนูไม่ได้ปลูกอะไร” เด็กชายยิ้มยิงฟัน “หนูไม่ชอบกินต้นไม้”

“ต้นไม้กินไม่ได้ทุกต้นนะครับ อย่างต้นมะขามก็กินไม่ได้” เขาขบขัน เขี่ยพุงกลมป่องเป็นการหยอก “กินมากกว่านี้ก็เป็นลูกหมูแล้วนา”

อินทัชเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เหลือแค่กระดุมเสื้อที่ยังไม่ได้ติด เด็กหนุ่มพยักพเยิดบอกให้เพื่อนเข้าไปอาบน้ำ

“อ้น อุ้ม กินข้าวแล้วกินนมคนละกล่องนะ” เขาก้มลงยีหัวน้อง “พี่จะไม่ซื้อนมน้ำผึ้งให้กินแล้ว น้ำตาลเยอะ พี่กุนต์บอกว่าให้กินไทยเดนมาร์กหรือว่านมจิตรลดาแทน นมจืดกินยาก แต่ควรจะกินมากกว่านมหวาน”

ปาลินที่กำลังรื้อเสื้อผ้าออกมาจากตู้แอบอมยิ้ม พออินทัชหันไปเจอเลยถามว่าเป็นอะไร

“กับคุณกนธี..สนิทกันมากเลยหรือ”

คนถูกถามนิ่งไปครู่หนึ่ง “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”

“ก็พักนี้น่ะเราได้ยินชื่อ ‘พี่กุนต์’ เรื่อยเลยนี่”

อินทัชเงียบอยู่อึดใจ “วันนี้พูดไปครั้งเดียวเอง”

“แล้ววันอื่นๆล่ะ” ปาลินมองเจ้าเล่ห์ “พี่กุนต์ช่วยหาห้อง พี่กุนต์ช่วยหางาน พี่กุนต์จะขับรถมาส่ง พี่กุนต์ซื้อของมาให้ พี่กุนต์ให้อ้นปลูกผัก พี่กุนต์ให้กินนมจืด ไม่นับเรื่องอย่างอื่นที่ไม่มีคำว่าพี่กุนต์นำ แต่เนื้อหาน่ะ..มาจากพี่กุนต์แน่ๆ เช่นว่า กินผักแล้วหล่อ”

“ไปอาบน้ำเลย” เขาผลักหัวอีกฝ่ายในขณะที่น้องๆหัวเราะก๊าก

“ชอบเขาแล้วหรือเปล่า” ปาลินแหย่ “เขาเป็นคนดีขนาดนี้ อย่าปิดกั้นตัวเองนักสิ”

อินทัชถอนหายใจ โยนผ้าขนหนูผืนใหม่ให้ “เขาเป็นเหมือนผู้ปกครองของเรา..เหมือนพี่ชายคนโต เราพึ่งพาเขาบ่อย มันก็เป็นธรรมดาที่เราจะเผลอพูดถึงเขานี่นา”

“ชอบก็บอกมาน่า~”

“ถ้าไม่ไปอาบน้ำตอนนี้ ก็จะช่วยถอดเสื้อผ้าให้” เขาขู่เสียงเรียบ

ปาลินเลยวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำ “ไปแล้วๆ พูดแทงใจดำแค่นี้ต้องดุด้วย!”

อินทัชมองประตูที่ปิดดังปึงแล้วก็ส่ายหัว เขาไม่ปฏิเสธที่ว่าพี่กุนต์เป็นคนดี..ซ้ำยังดีต่อครอบครัวเขาเหลือเกิน ถ้าหากว่าเขายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับใคร คนๆนี้ก็อาจจะเป็นคนแรกที่เขาเผลอใจให้

..แต่เพราะว่า เขามองแต่ปาลินไปแล้ว..เขาจะมองพี่กุนต์ในแง่นั้นได้ยังไง..

..คนเราน่ะ..ให้ชอบใครสองคนพร้อมกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก..

.

.

.





[ต่อด้านล่าง]







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2016 01:58:11 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #943 เมื่อ08-08-2016 01:53:02 »


.

.

.



หลังออกจากอพาร์ทเมนท์ อินทัชขอแวะเข้าไปโอนเงินที่ตู้อัตโนมัติ เขาดูยอดเงินคงเหลือในบัญชี อดรู้สึกหนักใจไม่ได้ ลำพังถ้าไม่มีเรื่องรักษาพยาบาลของยาย คงจะพอยืดเวลาให้เขากับน้องอยู่กันได้สบายๆ
   
เด็กหนุ่มหยุดคิด เขาไม่อยากนึกถึงตอนที่ไม่ได้จ่ายค่ารักษาหลักหมื่นให้แก เพราะนั่นย่อมหมายถึง วันที่ยายไม่ได้อยู่กับพวกเขาสามพี่น้องอีกแล้ว..เขาไม่ต้องการให้ถึงวันนั้น ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อย เขาก็จะทำทุกทางเพื่อจะยืดเวลาของความสูญเสียออกไปให้ไกลที่สุด

ขอแค่กำลังใจที่มีเพียงหนึ่งเดียวนี้จะยังคงอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พักพิงในวันที่เขาเหนื่อยล้า

..ให้ลำบากแค่ไหน ให้เสียศักดิ์ศรีเท่าไร..เขาก็ยอม..

“เรียบร้อยแล้วหรือ” ปาลินมายืนคอย

อินทัชพยักหน้ารับ เขาโทรออกหาป้าคนดูแลเพื่อจะบอกว่าโอนเงินไปให้แล้ว

ทุกๆครึ่งเดือน เขาจะโอนเงินไปให้แก เป็นค่าใช้จ่ายทั่วไป ค่ายาค่าหมอ ค่าจ้างดูแลคนป่วยกับค่าน้ำมันรถที่พายายเข้าไปโรงพยาบาลในตัวเมือง นอกเหนือจากนั้น ถ้ามีอะไรต้องจ่ายเป็นพิเศษ ป้าก็จะให้หลานถ่ายรูปบิลมาเบิกกับเขา อินทัชก็จะรีบไปจัดการให้ในทันที

แต่ก่อนเขาไม่เดือดร้อนเท่าไร หากตอนนี้ค่อนข้างติดขัดอยู่บ้าง เพราะอีกแค่ไม่ถึงอาทิตย์ เขาก็ต้องออกจากงานแล้ว

นึกถึง ‘งาน’ เมื่อสองสามวันก่อนที่เขาเกือบจะได้ค่าจ้างสี่หมื่น อินทัชก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ แต่มาคิดอีกที เขาก็โล่งใจไม่น้อยที่ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปเป็นชู้ของเมียน้อยคนอื่นเขา

..คนเรา..ดูผิวเผินแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ..

พวกเขาสองคนเข้าทำงานตรงตามเวลา วันนี้อินทัชไม่ได้ขึ้นร้องเพลง เพราะเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เลยอาศัยแวะไปตามโต๊ะ ชงเครื่องดื่ม พูดคุยเอาใจแขกเพื่อจะเก็บค่าดื่มตามปกติ

ตอนที่ไปสั่งเปิดไวน์ให้แขกผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเดินสวนกับคู่กรณีที่ปาลินบอก ว่ามันเป็นคนเอาเรื่องยาเสพติดไปเป่าหูแขก อินทัชไม่ได้สนใจจะมองด้วยซ้ำ เขาถือว่าตนเองมีดี ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปทะเลาะกับใคร มันเสียอีกที่ต้องร้อนรนอยู่ไม่สุขเพราะอิจฉาเขาจนต้องเอาตัวมาแข่งขัน มาเปรียบเทียบกันตลอด

“เหลือเวลาอีกไม่กี่คืนแล้วสิ” หมอนั่นพูดเยาะ “ผู้จัดการก็ใจดีจังนะ อุตส่าห์ยืดเวลาให้ตั้งเกือบเดือน”

อินทัชไม่ได้ฟัง เขามองว่า พวกหมาเห่าใบตองแห้งนั้น มันมักจะเห่าจนกว่าเสียงแหบนั่นแหละ

“ได้ข่าวว่าเริ่มรับแขกแล้วหรือ” มันยังพูดต่อ “คราวก่อนไปกับคุณผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ สงสัยจะห่วยแตก ลีลาไม่เอาอ่าว เธอเลยหนีหาย ไม่ยอมมาที่นี่เลย”

อินทัชไม่ได้เจอผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่วันที่เขาไปกับเธอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ขอแค่ไม่ใช่เรื่องทำร้ายร่างกายกันก็พอ เธออาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น ต้องคอยเอาใจสามีแก่ หรือไม่ก็ถูกจับตามองอยู่ เลยไม่ได้มาอีก

“ถ้าทำกับผู้หญิงไม่รอด ลองไปเป็นเด็กของเสี่ยสักคนไหมเล่า จะช่วยแนะนำให้”

ปาลินเดินสวนเข้ามา จงใจเอาตัวกระแทก มันหันมาชักสีหน้า กำหมัดแน่น

“งวดก่อนมีแขกมาช่วยเลยรอด งวดนี้คิดว่าจะรอดหรือไง”

“ก็เอาสิวะ คนมีมือมีตีน ไม่ให้ทำฝ่ายเดียวหรอก”

อินทัชขยับเข้ามาขวาง เขาจับไหล่เพื่อนสนิทเอาไว้ ส่ายหัว “ไปทำงานเถอะ..”

ปาลินหงุดหงิด แต่ก็ยอมถอยโดยดี ครั้งที่แล้วที่ชกมันไป ไอ้หมอนี่ไม่กล้าเอาไปฟ้องผู้จัดการเพราะกลัวจะถูกหางเลขไปด้วย เขาเลยรอดหวุดหวิด โชคดีที่ไม่มีพยานว่าเขาต่อยมัน จะมีก็แต่คุณภวินท์..ที่ดูเหมือนจะเอนมาทางเขามากกว่า

เด็กหนุ่มเหลียวมองห้องวีไอพี รู้สึกหงอยเหงาเล็กน้อยที่ไม่เห็นคนๆนั้น

อินทัชเอาไวน์ไปให้แขกแล้วแยกตัวออกมาเมื่อเพื่อนของลูกค้าเข้ามาที่โต๊ะ เขามองหาแขกรายใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าหาใคร บริกรคนหนึ่งก็เข้ามากระซิบ บอกว่าโต๊ะวีไอพีในห้องกระจกเรียกหาเขา

“แขกจะทานอะไรหรือเปล่า” เขาถาม

“เขาบอกว่าอยากนั่งคุยกับนายน่ะ”

เขาเลิกคิ้ว ปกติไม่ค่อยมีผู้ชายสนใจเขานัก อาจเพราะรูปร่างที่ไม่น่าจะตรงสเปคในแง่นั้นเท่าไร ส่วนใหญ่คนที่เรียกเขาไปนั่งด้วยมักจะเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ส่วนบรรดาผู้ชาย ถ้าไม่เรียกเด็กสาวๆ ก็มักจะเป็นหนุ่มน้อยที่น่าเอ็นดูกว่า

“สวัสดีครับท่าน” เขายกมือไหว้อีกฝ่าย “มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ”

“มาชงเหล้าให้หน่อย” ชายแก่คราวพ่อตบเบาะ ใช้สุ้มเสียงแข็งกระด้างสั่ง “มานั่งตรงนี้ด้วย”

อินทัชนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะค้อมหัวเล็กน้อย จังหวะที่เดินเข้าไปใกล้โซฟา เขาเหลือบมองออกไปนอกห้องส่วนตัว เลยทันได้เห็นสายตาสะใจจากคู่แค้นของตน ก็พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง

เอาเถอะ..ใช้รูปร่างหน้าตาแลกกับเงิน มันจะเสียหายมากแค่ไหนกัน

เขาจัดการชงเครื่องดื่มให้แขกคนสำคัญพลางถามว่าอยากฟังเพลงอะไรไหม จะได้เปิดแผ่นเสียงให้

“คิดคืนเท่าไร”

อินทัชขมวดคิ้ว เกือบทำสีหน้าไม่ดีออกไปแล้วแต่ยังยั้งทัน “หมายความว่าอะไรครับ”

“ค่าตัวของนาย..คิดเท่าไร” เขาดึงกระเป๋าเงินออกมา นับแบงค์พันแล้ววางบนโต๊ะสองใบ “นี่ค่าชงเหล้า กับค่าเรียกมานั่งด้วย แต่ฉันไม่อยู่นานหรอก..เพราะฉะนั้นก็รีบๆเรียกเงินมา เราจะได้ออกไปต่อกัน”

เด็กหนุ่มกำหมัดแน่น ความรู้สึกโกรธพลุ่งพล่าน เขาอาจจะทำงานที่โดนดูถูกได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยินดีให้แขกใช้คำพูดส่อเสียดตัดสินกันแบบนี้

..แต่ให้ทำอย่างไรเล่า ตั้งแต่ที่เขาไปกับผู้หญิงคนนั้น..

..เขามันก็เป็น ‘เด็กขาย’ ดีๆนี่แหละ..

“ถ้าแค่ไปเที่ยวเฉยๆ ผมคิดสองหมื่น” อินทัชตอบเสียงเรียบ

“ฉันไม่โง่เอาเด็กไปนั่งรถเล่นด้วยโดยไม่ทำอะไรหรอกนะ” เขามองกวาด “คิดค่าบริการอย่างอื่นมาซิ”

“ผมไม่ได้..”

“ร่วมข้างหลัง..ต้องจ่ายเท่าไร”

อินทัชขบกรามกรอด มันไม่ได้ฟังที่เขาพูดแม้แต่น้อย “ขออภัยครับ ผมไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้”

“โก่งค่าตัวเหมือนที่เพื่อนนายพูดไว้จริงด้วย” หมอนั่นยิ้มเยาะ “แล้วถ้าจะให้ทำหน้าที่นี้ให้ได้ล่ะ ว่าราคามา..”

เขามองหน้าอีกฝ่าย “ผมไม่รับงานชั่วคราว ผมรับแบบถาวร คุณต้องเซ็นสัญญามา ขอบ้านหนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน เงินสดห้าแสน”

คนฟังนิ่งอึ้ง จากนั้นก็หัวเราะ “คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เรียกร้องเหมือนเป็นดารา”

“ผมบอกคุณแล้วไงครับว่าไม่ทำ แต่คุณจะถามให้ได้ ผมเลยตอบเท่าที่ผมคิด” อินทัชลุกขึ้นยืน “ผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณที่มาใช้บริการ”

เด็กหนุ่มก้าวไปที่ประตูห้อง ยังไม่ทันได้เปิด คนด้านหลังก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“ฉันให้ห้าหมื่น..แค่ใช้มือให้ก็พอ”

อินทัชชะงัก หันกลับมามอง เสี้ยววินาทีแรก เขารู้สึกขยะแขยงเหลือทน แต่เพียงอึดใจต่อมา จำนวนเงินที่มากกว่าครั้งนั้นก็กลายเป็นตัวล่อลวงชั้นดี

“ใจป้ำขนาดนี้ นายยังจะไปหาราคาดีๆได้จากไหนอีก หืม..” ฝ่ายนั้นยิ้มเยาะ

เขาเงียบกริบ สุดท้ายก็ปรับสีหน้าของตนให้ราบเรียบ

“ที่นี่ไม่เป็นส่วนตัว แล้วผมก็ยังไม่เลิกงาน..”

“รถฉันจอดอยู่ใต้ตึก” 

.

.

.


.

.

.


อินทัชไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่..บางที เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้ตอนที่เดินตามผู้ชายวัยกลางคนมาที่ลิฟท์
   
ระหว่างทางมีแต่ความอึดอัด เขาเลือกที่จะไม่พูดคุยอะไรและข่มใจปรามตัวเองให้ยอมลดศักดิ์ศรีและทิฐิลง ยอมก้มหัวทำอะไรแค่นี้ไม่กี่นาที เขาก็ได้เงินมาห้าหมื่น มันใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้ยายได้ตั้งเท่าไร
   
..แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เงินก้อนนี้ได้มาง่ายกว่าทำงานอย่างอื่นทั้งวันเสียอีก..
   
ทำงานแบกดินแบกทราย ค่าจ้างยังได้แค่สามร้อย เขายอมลดตัว ทิ้งความเย่อหยิ่งของตนเพื่อแลกกับการซื้อเวลา แลกกับการได้เงินมาอย่างง่ายดาย มันจะยากตรงไหนกัน
   
อินทัชมองคนตรงหน้าปลดล็อครถ จากนั้นชายร่างอ้วนท้วนก็ย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลัง พื้นที่ระหว่างเบาะมีมากพอที่เขาจะก้าวเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ
   
“ลังเลอะไร..ทำสิ”
   
เขาขบฟัน ค่อยๆเอื้อมมือออกไปรูดซิปกางเกง กลั้นใจ หลับหูหลับตา บริการ ปรนเปรอให้ด้วยอุ้งมือของตน เขารู้สึกย่ำแย่เมื่อได้ยินเสียงครางแหบต่ำ เสียงสูดปากฟังดูหยาบโลน สะโพกหนาใหญ่เริ่มเคลื่อนไหว ซ้ำยังกระตุกสั่นเมื่อเขาเร่งจังหวะเพื่อให้พ้นช่วงเวลาเลวร้ายนี้โดยเร็ว
   
“ใกล้แล้ว..” หมอนั่นครางต่ำ “เร่งมือเข้า..เร็ว!”

กระบอกตาของเขาร้อนผ่าว อดสูใจจนเกินทน

“อ้าปากซิ..”

อินทัชเงยหน้ามอง คาดไม่ถึง

“ให้เพิ่มอีกสองหมื่นถ้าใช้ปาก”

เขาฟังคำพูดแสลงใจด้วยหยดน้ำตาของความคับแค้น เด็กหนุ่มไม่ยินยอมให้ตัวเองคิดมากไปกว่าที่เป็นอยู่ เขาหลับตาลง กดความน้อยเนื้อต่ำใจในโชควาสนาของตนลงลึก

อินทัชข่มความคลื่นเหียน ยินยอมเปิดปาก ให้อีกฝ่ายกระแทกตัวตนเข้ามาไม่ยั้ง เขาพยายามหายใจทางจมูก แต่กลิ่นของความโสมมก็เข้ามาแทรก

มันคือกลิ่นอายของเหงื่อ กลิ่นสาบของผู้ชายเจ้าเนื้อตัวใหญ่ กลิ่นของความสกปรก หมักหมมด้วยเหงื่อไคล ความอับชื้น และของเหลวที่คั่งค้างตามร่องรอย ลิ้นต้องมารับรสความฝาดเฝื่อนของน้ำที่คาวคลุ้ง ผสมรวมไปกับสัมผัสหยาบกระด้างของผิวเนื้อ

น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมา เขาหายใจไม่ออก หัวถูกขยุ้ม เส้นผมโดนกำแน่น รสขมปร่าทิ่มแทงจนถึงลำคอ เขาอยากอาเจียน ตั้งท่าจะขย้อน แต่กลับต้องเก็บกลืนความขื่นขมลงไป

..เพื่อเงิน..ท่องเอาไว้..เพื่อเงิน..

“ห่อปากหน่อย เก็บฟันซะไอ้หนู”

อินทัชร้องไห้ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เขาไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีในตนเองอีกแล้ว เขาถูกใช้เป็นเครื่องมือปลดเปลื้องอารมณ์ ไม่ใช่ในฐานะมนุษย์ด้วยซ้ำ เป็นเพียงแค่ช่องทางที่สะดวกต่อการเรียกหา

ชายแก่ขยับตัวเองเร็วขึ้น สูดปากด้วยความเมามันในอารมณ์ เขากระหายอยาก สนใจในตัวไอ้หนุ่มนี่มานานร่วมเดือน มองมันทุกครั้งที่ขึ้นเวที เขาอยากรู้ว่า ปากที่ใช้ร้องเพลง ถ้ามันใช้อมของเขา จะให้ความรู้สึกอย่างไร

“ดี..ดีมาก ใช้ลิ้นบ้างสิ”

อินทัชผละออก แต่กลับถูกกระชากคอกลับมาใหม่ มันยัดเยียดตัวเองเข้ามา เหมือนพยายามจะร่วมรักกับปากเขา เด็กหนุ่มพยายามอ้าให้กว้าง พยายามให้สัมผัสของลิ้นกับอวัยวะนั่นแตะต้องกันน้อยลง หากยิ่งฝืน ยิ่งต่อต้านก็เจ็บปวดจนชาไปทั้งกราม

“จะออกแล้ว!”

เขาตื่นตกใจ เพราะว่าผละหนีกะทันหัน ฟันเลยขบเข้ากับส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่าย

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยเอ้ย!”

กำปั้นหนาหนักซัดเข้ามาที่ใบหน้า เขามึนงง ชาวูบจนทำอะไรไม่ถูก

“เป็นไอ้ตัวชั้นต่ำแล้วยังจะทำโง่เง่าอีก!” มันตะคอก “มึงจะเอาไหมเงินน่ะ!”

หากเป็นช่วงเวลาอื่น เขาคงไม่ยอมให้กดขี่ แต่เพราะว่าเหตุการณ์มันสายเกินไปแล้ว ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาถึงทำได้แค่การยกมือไหว้ขอโทษ ‘แขกวีไอพี’

“ขอโทษครับ..ผมไม่ระวังเอง”

“มึงอย่ากล้ากับกูนะ อ้าปาก!”

อินทัชทำตามคำสั่ง แต่เพราะไม่ทันใจ เขาถึงได้ถูกกระชากผมขึ้น ตามด้วยการกดกระแทกเข้ามาจนสุด

มันครางเสียงหลงหลังจากสอดใส่เข้าออกในโพรงปากของเขาอย่างรุนแรงอีกร่วมนาที จากนั้นก็ปลดปล่อยของเหลวลื่นเมือก กลิ่นหยาบช้าเหม็นเปรี้ยวเข้ามาในลำคอ

อินทัชสำลัก เขาไม่ทันตั้งตัวแม้กระทั่งตอนที่ถูกฝ่าเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนบ่า มันรูดรั้งส่วนกลาง เกร็งกระตุกและหลั่งรดน้ำเชื้อลงสู่ใบหน้าเขา ราวกับว่าภาคภูมิใจที่ได้กระทำ

ประตูรถถูกเปิดออก และเขาก็โดนโยนออกมาทั้งตัว

ไอ้แก่นั่นแต่งตัวเรียบร้อย ปรายตามองคนบนพื้นที่คล้ายกับจะยังรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

“ห่วยแตก..ไปเที่ยวซ่องยังได้บริการดีกว่านี้” มันหัวเราะหึ หยิบเงินออกมานับ “แต่ก็ช่างเถอะ จะให้ค่าแรงก็แล้วกัน”

อินทัชนอนนิ่ง ตัวคลุกอยู่บนพื้น ความเจ็บปวดกัดกินจากก้นบึ้งเมื่อเงินปึกหนึ่งถูกโยนใส่หน้า เขาหันมามอง ทำทีเพิกเฉยต่อความอับอายที่โดนดูหมิ่น เด็กหนุ่มหยิบเงินมานับ

“คุณให้ไม่ครบ!” เขาท้วงคนที่เดินออกไป

“กูให้สามหมื่นก็บุญหัวแล้ว! ไม่ต้องมาเรียกร้อง จะไปไหนก็ไป!”

คนฟังกำหมัดแน่น เขายั้งตัวเอง ปรามโทสะร้ายกาจของตนเอง เขาจะเข้าไปทำร้ายมันตอนนี้ก็ได้ กู้คืนศักดิ์ศรีของตนกลับมาก็ย่อมได้ แต่ถ้าทำแล้ว..เขาก็คงไม่พ้นข้อหาทำร้ายร่างกาย

ตำรวจคงถาม ทำไมต้องทำร้ายผู้ชายคนนั้น และเขาคงต้องตอบ..เพราะว่าหมอนั่นให้เงินไม่ครบตามที่ตกลง

..เงินค่า ‘ใช้ปากทำรัก’ ให้กับชายแก่คราวพ่อ..

อินทัชหลับตานิ่ง ใช้ฝ่ามือเช็ดธนบัตรใบละพันปึกนั้นให้สะอาด เก็บใส่กระเป๋าเสื้อแล้วใช้แขนเช็ดหน้าลวกๆ ยันตัวเองขึ้นด้วยสภาพที่ไร้อารมณ์ไปยังห้องน้ำรปภ.ที่อยู่ใต้ตึก

เขาล้างหน้าล้างตา รู้สึกเจ็บแถวโหนกแก้มที่ถูกชก ตอนนี้มันเริ่มเป็นจ้ำสีแดงช้ำแล้ว

มองคนในกระจก แล้วเขาก็หัวเราะเสียงหยัน

“อินทัช..แปลว่าอะไรหรือ”

“เกิดจากผู้ยิ่งใหญ่ครับ”


..ยิ่งใหญ่เหลือเกิน..ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับผงธุลีดิน..

เขาทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพงอับชื้นด้วยเชื้อรา เริ่มต้นร้องไห้อย่างคับแค้นใจ ร้องไห้..จนความเจ็บแค้นและน้ำตามันแห้งเหือดไปเอง

นานเท่าไรไม่รู้ เขาปล่อยเวลาให้ไหลเรื่อย กระทั่งมีเสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงสั่นครืด

อินทัชหยิบมันออกมา เปิดดูอย่างเลื่อนลอย บางที..ปาลินอาจจะโทรตาม

..แต่หน้าจอกลับเป็นชื่อของใครคนนั้น..

..แสงอาทิตย์ในชีวิตมืดดำของเขา..

..ทำไมนะ..ทำไมพี่ถึงได้ยื่นมือเข้ามาหา..ในช่วงเวลาที่ผมต้องการใครสักคนเสมอ..

“พี่..กุนต์”

.

.

.



กนธีนั่งดูรายการตอนดึกอยู่ที่โซฟา เขากลับถึงห้องสักพักแล้ว กำลังคิดจะนอน แต่นึกขึ้นมาได้ว่าซื้อทองม้วนสดมาฝากเด็กๆ เลยตัดสินใจไลน์หาอินทัช ฝ่ายนั้นไม่ได้ตอบกลับ เลยลองโทรหาอีกสักครั้ง ถ้าหากว่ายังไม่รับอีก เจ้านั่นอาจจะยังทำงานอยู่ ทองม้วนสดกล่องนี้ก็คงต้องลงท้องเขาคนเดียวแน่ๆ
   
รออยู่สักพัก ปลายสายก็กดรับ กนธียิ้มออกมาได้
   
‘พี่..กุนต์’
   
เขานิ่งไปอึดใจ น้ำเสียงอีกฝ่ายดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย “โอ๊ต? ไม่สบายหรือเปล่า”
   
อีกฝ่ายไม่ตอบ กนธีเลยถามย้ำ “ไม่ได้ทำงานหรือ ทำไมมันเงียบๆ”
   
‘อยากเจอ..’ อินทัชพูดสั้นๆ เสียงสั่นพร่า
   
“อยู่ที่ไหน พี่จะไปหา” เขาลุกพรวด หยิบกุญแจรถที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะอาหาร เจ้านั่นบอกว่ากำลังจะเดินออกมา “จะไปไหน อยู่ตรงนั้นก่อน รอพี่แป๊บเดียว” เขาบอกอย่างร้อนใจ เสียงของเด็กมันไม่ดีเลย
   
..ทำไมนะ..เราถึงต้องเจอกัน ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่เสมอ..
   
กนธีขับรถไปถึงตึกสูงระฟ้าที่อินทัชทำงานภายในเวลาไม่นานนัก แต่เขายังไม่ทันได้เลี้ยวรถเข้าไปจอด ก็เห็นเงาร่างหนึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงฟุตปาธ เขาขับเข้าไปเทียบ ไม่ยอมบีบแตร แต่ลดกระจกลงแล้วเรียกชื่อ
   
“โอ๊ต..ขึ้นมา”
   
อินทัชเงยหน้ามอง “พี่กุนต์..”
   
เขาใจหาย มองใบหน้าซีดเซียว แสงไฟข้างถนนส่องเข้ามา เห็นร่องรอยถูกทำร้ายบนแนวแก้ม
   
“กลับห้องเถอะ..พี่จะพาไปส่ง”

เด็กหนุ่มส่ายหัว “ผม..ไม่อยากให้น้องๆเห็น”

กนธีสงสารอีกฝ่ายจับใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปค้างห้องพี่ อ้นกับอุ้มคงหลับแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง”

อินทัชยอมขึ้นรถมากับคนตรงหน้า พอก้าวมาได้ เขาก็หันหนีออกนอกหน้าต่าง

“อย่ามองผม”

“ทำไม..”

“ผม..สกปรก” เขาอับอาย..ตามตัว เสื้อผ้า เส้นผม มีกลิ่นของไอ้ชาติชั่วนั่น เขาล้างแล้ว..แต่ก็เอาออกไม่หมด

กนธีเอื้อมมือไป หวังจะลูบหัว แต่อินทัชผละหนี

“อย่าจับ!”

“โอ๊ต..” เขาพูดเสียงอ่อน แตะช่วงบ่ากว้างให้หันมา “ไม่เป็นไรนะ..ไม่เป็นไร”

น้ำเสียงที่อ่อนโยนเทียบเท่ากับพี่ชายคนหนึ่ง เรียกร้องให้อินทัชหันไปหา เขาปลดปล่อยความอ่อนแอ ซบหน้าลงกับไหล่ลาด ปล่อยให้พี่กุนต์ลูบหลัง ลูบบ่าปลอบประโลม

“ผมอยากได้เงิน..ผมเลยไปขายตัว” เขาพูดเสียงขื่น “ครั้งแรก ผมขายให้ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ว่าสามีเธอมาก่อน”

กนธีนิ่งเงียบ รับฟังอย่างไม่ตัดสินใดๆ

“ครั้งนี้ ผมยังไม่เข็ด” อินทัชหัวเราะเยาะตนเอง “มันบอกว่า ถ้าผมใช้มือให้ มันจะให้ห้าหมื่น แต่ถ้าใช้ปาก มันจะให้เพิ่มอีกสองหมื่น มันหลั่งเข้ามาในปากผม หลั่งใส่หน้าผม แล้วโยนเงินมาให้สามหมื่น”

“โอ๊ต..” เขาเจ็บแปลบไปทั้งใจ

“ทำไมต้องโกหก สามหมื่นเป็นแค่เศษเงินของมัน แต่สำหรับผม..มันมีค่ามาก ผมผิดหรือไง ผมก็แค่..” เขาร้องไห้ “ผมแค่อยากได้เงิน..”

“อยากได้เท่าไร” เขาถามแผ่วเบา “ทำไมไม่มาหาพี่”

“พี่เป็นเพื่อนผม..” อินทัชพูดเสียงพร่า

กนธีเจ็บปวดหัวใจเมื่อมองลึกลงในดวงตาอีกฝ่าย เขาแตะรอยช้ำที่ขึ้นเป็นปื้นบนใบหน้า

“อยากได้เงินไปทำอะไร หืม..”

“ให้ยาย..ให้น้อง..”

“ต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง”

อินทัชหลับตานิ่ง “ตอนนี้..แค่อยากได้ค่ารักษายาย..ยายเป็นมะเร็ง”

กนธีลูบหัวอย่างอาทร “อายุแค่นี้ ทำไมต้องมารับผิดชอบขนาดนี้นะ” น้ำตาที่ไหลลงมา มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนัก และเขาเองก็สัมผัสได้ว่ามันจะต้องกลั่นตัวมาจากความกดดัน อึดอัด แค้นเคืองในใจ

“ร้องซะให้พอ..อย่ามัวแต่เข้มแข็งอยู่เลย”

อินทัชซบหน้าลงกับบ่า ปล่อยหยดน้ำตาจนชุ่มเสื้อที่พี่กุนต์สวม

“แล้วเงยหน้ามาตอบพี่..” เขาพึมพำ “จะให้โอกาส..พี่ได้ดูแลโอ๊ต ดูแลน้องๆ ดูแลยายของเราได้ไหม”

เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้า แววตานั้นไม่ได้ล้อเล่น เขาคิดว่าตนเองเข้าใจ แต่ก็ยังอยากถาม

“หมายความว่ายังไงครับ”

“พี่ชอบอะไรหลายอย่างในตัวเรา” กนธีบอก “ได้ดูแลคนที่ชอบ พี่ไม่เดือดร้อนหรอกนะ”

“พี่กุนต์..”

“พี่ไม่ได้ต้องการอะไรเลยโอ๊ต..ไม่มีอะไรมากเลย” เขาเช็ดน้ำตาให้ “ถ้าเราเองคิดจะทำเรื่องอย่างนั้นอีกกับใครก็ได้ที่ไม่รู้จัก..ให้คนๆนั้นเป็นพี่ จะไม่ดีกว่าหรือไง”

“พี่จะบอกให้ผมเป็นเด็กของพี่หรือ” อินทัชผละออกมา “ผมไม่ได้คิดถึงพี่ในแง่นั้น..”

“มันเป็นแค่การแลกเปลี่ยน” กนธีไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า “หากว่าโอ๊ตดูแลพี่..พี่ก็จะดูแลทุกอย่างของเรา”

คนอายุน้อยกว่ามีท่าทางสับสน
   
“ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ พี่ให้เวลาคิด..คิดได้เมื่อไร ค่อยมาบอก” เขาหันกลับมามองถนน เข้าเกียร์และขับออกไป
   
ท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใครพูดคุย รถเก๋งคันงามแล่นฝ่าท้องถนนในยามค่ำคืน แสงไฟตามร้านรวงยังเปิดสว่าง รถติดไฟแดงสักพักก็ได้ไปต่อ อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงคอนโดของคนข้างกายแล้ว
   
อินทัชเอนตัวซบเบาะหนัง นาทีนี้เขาอ่อนแอ อยากไขว่คว้าหาหลักยึดที่ยื่นเข้ามา

“หากว่าโอ๊ตดูแลพี่..พี่ก็จะดูแลทุกอย่างของเรา”

“พี่กุนต์ครับ..” เขาเรียกอีกฝ่าย

กนธีไม่ได้หันมามอง “ว่าไง”

“ผม..ตกลง”




.............................................................................................





อู้มานาน กลับมาล้าววว  :katai4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2016 14:10:29 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #944 เมื่อ08-08-2016 02:10:09 »

สะเทือนใจตอนนี้มากค่ะ
แต่พออ่านถึงตอนท้ายนี่กรี๊ดเลย พี่กุ้นนนนนนต์
พี่กุนต์เท่มากๆ ชัดเจนมาก รักพี่กุนต์เลยค่ะ /ควักหัวใจให้

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #945 เมื่อ08-08-2016 02:32:16 »

สะเทือนใจมากๆคับ ยิ่งตอนโอ๊ตกับผู้ชายคนนั้นยิ่งอยากจะร้องไห้
 :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #946 เมื่อ08-08-2016 02:41:40 »

ความเจ็บปวดนี้   ฮื้อสงสารโอ๊ตจริงๆนะ
แบบมันบรรยายไม่ถูกเลย  นี่คือนิยามฟีลกู๊ดของคุณข้าวปั้นหรือคะ ฮื้อออออ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #947 เมื่อ08-08-2016 03:08:04 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #948 เมื่อ08-08-2016 03:11:55 »

เป็นอีกตอนที่อ่านไปแล้วแทบกรี๊ด  :hao5: :hao5: :hao5:
สงสารโอ๊ตมาก คือรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วยจนต้องอ่านแบบผ่านๆ ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นตอนไปกับอิตาลุงนั่น
ปกตินี่ต้องละเลียดอ่านทีละบรรทัดเพราะไม่อยากให้จบตอนเร็วๆ  คุณข้าวปั้นทำให้เค้ารู้สึกสะเทือนใจตามโอ๊ตไปด้วยจริงๆ นะ
T__T นี่อยากยื่นมือไปลูบหัวปลอบแล้วกอดแรงๆ มาก อยากจะโอ๋ว่าไม่ว่าเป็นไรนะ พี่กุนต์อยู่นี่แล้ว
คนนี้แหละคือแสงสว่างที่จะทำให้โอ๊ตเดินต่อไปได้ ที่เหลือคือโอ๊ตต้องเข้มแข็งและห้ามดูถูกตัวเองนะ
ลุกขึ้นมาดูแลน้องกับยายต่อ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป สู้ๆๆ TvT


อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ

ไม่ไหวกับใจแล้ว ฮือออออ
ตอนนี้พี่กุนต์ป๋าเหลือเกินนน รักกกกกกกกกกกกกก TvT
พี่กุนต์ดีมาก ฮีลมากกก เยียวยาโอ๊ตแล้วมาเยียวยาคนอ่านด้วยนะคะ เก๊าจะรอออออ

ออฟไลน์ sincere13

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #949 เมื่อ08-08-2016 04:40:39 »

โอ้ยยยย เกลียดเวลานังคุณอินทัชนางไปก้อร้อก้อติกกับคุณสน เกลียดมากกกก เหมือนนางนอกใจและไม่จริงใจกับคุณพี่กุนต์ เซงอะ สลับคู่เหอะ ให้คุณกุนต์คู่กับพ่อหนุ่มไผท นังอินทัชก้ปล่อยไปชายเลกับสนซะ  :katai1: :katai1: อ่านแล้วอึดอั้ดดด อึดอัดสมกับเป็นนิยายฟีลกู้ดจริงๆค่ะ ให้ตายเต้อะ สงฝสารพี่กุนต์ เจอใครก็ไม่มีใครจริงใจ เส้า :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
« ตอบ #949 เมื่อ: 08-08-2016 04:40:39 »





ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #950 เมื่อ08-08-2016 04:52:28 »

โอ้ว....อิโอ้ต ตั้งแต่ต้นมาถึงตอนนี้ ฉันเครียดตามแกไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย...

พี่กุนต์อ่ะะะะะ ชอบอะไรหลายอย่างในตัวอิโอ๊ต
แล้วต่อไปชอบมากกว่านี้ล่าาา ดราม่าาาาาาาาา

ฮือออออออ วิ่งไปหยิบพี่หมูมาอ่านต่อ//อ่านซ้ำๆ //ถึงตอนทะเลาะกันประตูพังแล้วพี่ถ่อยเราก้ไปสงบสติอารมณ์หลังจากน้อยใจเมีย ใน'คู่แข่ง'

ไหนว่าเรื่องนี้ไม่ม่าไง ฮือออ ชีวิตพระเอก...........〒_〒
//ดีๆ เป็นประสบการณ์ไว้เล่าให้กันฟัง ..อ้าวว 5555

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #951 เมื่อ08-08-2016 05:20:20 »

โธ่เอ๋ย   โอ๊ตเอ๊ย

เอาเถอะ  ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา  คิดดี ทำผิดวิธี แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นผลลบไปหมด   เรียนรู้จากความผิดพลาด ความเน่าเหม็นของสังคม ความจริงของชีวิต   แล้วก็เรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้มากขึ้น   ที่โอ๊ตเจอก็เหมือนกับดักที่ใครต่อใครหลายๆคนเจอมาแล้ว   เงินที่ได้มาง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่เต็มไปด้วยความขมขื่นและชิงชังตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ตัดสินว่าโอ๊ตเป็นคนเลว   

คุณข้าวปั้นแต่งได้บีบคั้นความรู้สึกมากๆค่ะ   เรียลด้วยเพราะถ้าเป็นนิยายขายฝันพี่กุนต์ก็คงจะอุปการะครอบครัวของโอ๊ตทั้งหมด  แต่นี่พี่กุนตฺยื่นขอเสนอที่สมน้ำสมเนื้อให้โอ๊ต  จุดพลิกผันของความสัมพันธ์ระหว่างโอ๊ตกับพี่กุนต์   

กับปาลินนั้นเป็นรักแรก  ไม่มีใครลืมรักแรกได้ลงแต่ก็ไมไ่ด้หมายความว่าคนเราจะต้องฝังใจ   ไม่ใช่ทุกคนที่สมหวังกับรักแรกเสมอไป

เปรียบเทียบแล้วเราว่าเหมือนพี่กุนต์กับโอ๊ตกำลังเริ่มปลูกต้นไม้ด้วยกัน เริ่มจากการเพาะต้นอ่อนเลยทีเดียว   ไม่เหมือนคนอื่นที่พี่กุนต์ไปเดินเลือกเอา

ขอบคุณมากค่ะ



ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #952 เมื่อ08-08-2016 05:30:05 »

สงสารโอ๊ตมากเลยยย
แต่พี่กุนต์เลือกถามในเวลาที่เหมาะสมมากเลยยย
รอตอนต่อไปนะคะะะข

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #953 เมื่อ08-08-2016 05:33:31 »

โอ้ยยย เครียด สงสารน้องโอ้ต นี่ถ้ามีเงินเท่าพี่กุนต์ นังน้องโอ้ตไม่รอดหรอก เหอๆๆๆ  ตกลงไปซะดีแล้วววว กินคนแก่นี่ อายุยืนนะ

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #954 เมื่อ08-08-2016 05:44:32 »

ชีวิตของโอ๊ตทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้ ดีนะที่มาเจอพี่กุณฑ์
ต่อไปชีวิตของโอ๊ตคงจะดีขึ้น สู้ๆนร้าาาาา

ออฟไลน์ Aueizii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #955 เมื่อ08-08-2016 05:56:11 »

อ่านฉากบนรถแล้วรู้สึกจะอ้วกตามโอ๊ต พี่กุนธ์มาช่วยเอาไว้ตลอดเลย เรื่องนี้คงไม่ดราม่ามากใช่ไหมคะ อิอิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #956 เมื่อ08-08-2016 06:08:32 »

 :mew1:

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #957 เมื่อ08-08-2016 06:42:22 »

ชอบคุณภวินท์ล่ะสิสน หึหึหึ เค้าไม่มาก็หน้าจ๋อย เฮ้ออออออ!!!!
ตอนหน้าคนแก่กะเด็กซิงเค้าจะได้ผูกสัมพันธ์กันไหมคะข้าวปั้นขาาาาา รอๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #958 เมื่อ08-08-2016 06:42:31 »

นั่นสิโอ๊ต ทำไมเป็นพี่กุนต์ไม่ได้ พี่กุนต์ดีกว่าใครเป็นไหนๆ คนที่มายืนอยู่ข้างเราเสมอเวลาที่เราอ่อนแอหาไม่ได้ง่ายๆ นะ เปิดใจมองคนอื่นบ้าง อย่ามัวแต่จมปลักกับคนที่ไม่มีวันหันมามองเราสิ

ออฟไลน์ lukYRKM

  • Yesung ♥ Ryeowook | Kyuhyun ♥ Sungmin | FOREVER!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.19] pg.32 -- 7/8/59
«ตอบ #959 เมื่อ08-08-2016 06:43:43 »

สงสารโอ๊ต :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด