Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335579 ครั้ง)

ออฟไลน์ catchy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.23] pg.44 -- 2/9/59
«ตอบ #1410 เมื่อ09-09-2016 23:26:40 »

มารอพิ๊หนูกุนต์ :impress2:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1411 เมื่อ10-09-2016 01:27:28 »





Chapter 24




“คุณกุนต์เป็นอะไร ทำไมดูเหม่อๆ” ไผทวางแก้วกาแฟลงกับโต๊ะไม้พลางเอ่ยปากทัก ‘หุ้นส่วน’
   
กนธีละสายตาจากวิวเจ้าพระยาตอนบ่ายแก่ แดดเป็นประกายส่องลงผืนน้ำ สะท้อนเงาระยิบระยับ เขายืดตัวตรงก่อนจะพิงพนักเก้าอี้ด้านหลัง “เปล่าครับ..พอดีกำลังใช้ความคิด”
   
“โจทย์ที่ผมขอไอเดียของคุณ..ไม่น่ายากเกินความสามารถมั้ง”
   
คนฟังยิ้มจาง ใครจะบอกออกไปว่าเขาไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย

..นอกจากเรื่อง ‘จูบ’ เมื่อคืนของเขากับอินทัช..
   
กนธีขยับแว่นสายตาให้เข้าที่ เขากำลังอ่านเอกสารและดูบัญชีที่ผ่านมา วันนี้เขานัดเจอคุณไผท จะได้คุยเรื่องที่ตกลงทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกัน ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจุกจิกยิบย่อยมากกว่า เขาพิจารณาดูแล้ว ร้านเดิมค่อนข้างเก่า อยากจะรีโนเวทบางส่วนและเจาะกลุ่มลูกค้ากลางคืนมากขึ้น เลยอยากจะเพิ่มในส่วนของบาร์และดนตรี แทนที่จะเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป กินเสร็จแล้วกลับเลยเหมือนอย่างแต่ก่อน
   
“ผมว่าเราน่าจะรับพ่อครัวเพิ่ม อาหารไทยอย่างเดียวมันเรียบไป” กนธีเขียนลิสต์ลงในกระดาษ การมีเมนูที่หลากหลาย มีเครื่องดื่มสารพัดในตัวเลือกจะเป็นอีกอย่างที่ดึงดูดผู้คน
   
ไผทพยักหน้ารับ ถึงแม้จะยังไม่อยากทุ่มงบตรงนี้ แต่เขาก็คล้อยตามเพราะค่อนข้างวางใจในตัวอีกฝ่าย
   
“ถ้าปรับปรุงพื้นที่ริมระเบียง เพิ่มโต๊ะ ส่วนนี้จะรับลูกค้าเพิ่มได้” คนอายุมากกว่าเคาะปากกาลงแผนผังของร้าน “รื้อผนังตรงนี้ออก เปิดเป็นมุมกว้าง จะได้เห็นวิวแม่น้ำตอนกลางคืน โต๊ะริมน้ำส่วนใหญ่คนจะจองกันเยอะที่สุด ขอบรรยากาศดีๆ เพลงเพราะๆ มีอะไรให้ดื่มสักหน่อย เท่านี้ก็ดึงคนได้หลากหลายแล้ว ทั้งวัยรุ่น กลุ่มเพื่อน คู่รัก แล้วก็ครอบครัว”
   
ไผทกอดอกมองอีกฝ่ายพูดไปเรื่อย เขายิ้มน้อยๆ ดูท่าทีเป็นการเป็นงานของคนตรงหน้า
   
“ความเห็นของผมมีแค่นี้ คุณว่ายังไง มีอะไรจะเสริมไหม” กนธีถอดแว่นออก
   
“ผมชอบให้คุณใส่แว่น”
   
เจ้าตัวนิ่งอึ้ง “ผมใส่แว่นแล้วเกี่ยวอะไรกับร้านอาหารของเรา”
   
ไผทหัวเราะ “ร้านอาหารของเรา..ชอบคำนี้ชะมัด”
   
กนธีส่ายหัว ถึงอย่างนั้นก็อดยิ้มขันไม่ได้ “มีสมาธิหน่อยครับ เมื่อกี๊หาว่าผมเหม่อ..ตอนนี้คุณเหม่อเสียเองนะ”
   
“ผมไม่ได้เหม่อ” เขาบอก “ผมมองคุณอยู่ต่างหาก ถ้าสายตาโฟกัสที่ใคร ใช้คำว่าเหม่อไม่ได้ครับ”
   
คำพูดของไผทคล้ายคลึงกับใครบางคนเมื่อคืนราวกับนัดกันมา
   
“ติดใจอะไรกับมือของผมหรือครับ”
   
“รู้ได้ยังไงว่าพี่มอง”
   
“ก็ผมจ้องพี่อยู่”

   
กนธีกระแอมในลำคอ ทำเป็นฟังผ่านเลยไป เขาอายุขนาดนี้แล้ว ผ่านการเชิญชวนแบบนี้มานักต่อนัก เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรมาทำให้ไขว้เขวได้ ถ้าเขาไม่ได้เริ่มชอบอีกฝ่ายก่อน
   
ดังนั้น..ประโยคเดียวกัน แต่ต่างคนพูดกัน ย่อมมีผลต่อเขาไม่เหมือนกัน
   
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ใช่ไหมครับ ถ้าคุณไม่เสนออะไร ผมจะเผด็จการแล้วนะ”
   
ไผทยักไหล่ เขาอ่านท่าทีมองเมินของกนธีออก ดังนั้นเขาจะไม่รีบร้อนรุกเข้าหา ร่างสูงเลยปรับท่าทีให้เคร่งขรึม ตัดอาการไร้สาระและดูช่างตื๊อทิ้ง
   
“ตกลงตามที่คุณว่า เพียงแต่ผมอยากให้แผนของเราค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อนทำโครมเสียทีเดียว”
   
กนธียิ้ม “โอเคครับ ทำทีละสเต็ป..ถ้าอย่างนั้นอันดับแรก....”
   
ไผทกลับมาสนใจเอกสารบนโต๊ะแทนใบหน้าของอีกฝ่าย การเว้นระยะห่างและรู้จักช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้กนธีรู้สึกสบายใจที่จะเพิ่มความใกล้ชิดมากขึ้น
   
เป็นธรรมดาของคนเรา เวลาถูกใครไล่ตาม ก็มักจะขอเผื่อช่องว่างระหว่างกันเอาไว้เพื่อรักษาพื้นที่ส่วนตัว เขาเองก็ควรจะเคารพขอบเขตตรงนี้เป็นการให้เกียรติฝ่ายตรงข้ามด้วย
   
..เขาคิดว่าเขาแคร์คุณกุนต์..เพราะคนๆนี้ไม่เหมือนกับใครอื่นที่เขาเคยเจอมา..
   
หลังจากคุยธุระเสร็จ กนธีก็ขอตัวกลับบ้านเลย พวกเขาตกลงว่าจะแบ่งหน้าที่กันดูแล เมื่อไรที่ไผทไม่อยู่กรุงเทพ กนธีจะเข้ามาคุมงานแทน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีอะไร แค่คอยดูความเรียบร้อยและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
   
“กลับบ้านไปก็พักผ่อนด้วยนะคุณ” ไผทเดินมาส่งที่รถ “ดูท่าทางเหมือนคุณนอนไม่พอ”
   
กนธีนวดคลึงต้นคอตัวเอง ยิ้มบาง “เมื่อคืนนอนไม่หลับนิดหน่อยครับ”
   
..แน่ล่ะ..กว่าจะข่มตาได้อีกครั้งก็ปาเข้าไปตีสอง..
   
..เพราะอาการร้อนๆหนาวๆที่ถูกปลุกด้วย ‘รสจูบ’ ของใครบางคนนั่นแหละ..
   
“นอนตกหมอนหรือไง”
   
เขาส่ายหัว “เมื่อคืนไปเฝ้าไข้คุณยายของโอ๊ตมา โซฟามันเล็ก ผมเลยวางหมอนแนวตั้ง รู้สึกไม่ค่อยถนัดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ..ขอบคุณที่ถาม”
   
ไผทไม่ได้สนใจประโยคหลังเท่ากับคำว่า ‘เฝ้าไข้คุณยายของโอ๊ต’
   
..สนิทกันถึงขั้นนี้เลยหรือไง..ทุ่มเทให้มากไปหรือเปล่า..
   
“คืนนี้ขอให้หลับสนิท แล้วก็หายปวดแล้วกันนะครับ” เขาส่งยิ้มให้ ช่วยเปิดรถอย่างสุภาพ
   
กนธียิ้มรับ บอกขอบคุณคนที่ปิดประตูให้เสร็จ จากนั้นก็สตาร์ทเครื่อง ขับออกไปจากลานจอดรถของร้านโดยมีใครอีกคนมองตามไม่วางตา

.

.

.


เย็นนี้กนธีไม่ได้กลับไปที่คอนโด เขามีนัดกับเด็กๆจะดูหนังด้วยกัน เมื่อช่วงเช้าหลังจากที่พาคุณยายกลับบ้านแล้ว เขาก็ไปส่งโอ๊ตที่บ้านเพื่อน ตอนนี้ได้เวลาเลิกสอนพอดี เขาเลยถือโอกาสไปรับเจ้านั่นด้วยเลย
   
อินทัชออกมายืนรอหน้าปากซอย พี่กุนต์จะได้ไม่ต้องขับรถเข้าไป เขาเพิ่งสอนว่ายน้ำเสร็จ กว่าจะจับปูใส่กระด้ง กว่าจะเข้าบทเรียนเล่นเอามือเท้าเกือบเปื่อย แต่พอเข้าขากับน้องๆได้ดีแล้วทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็สนุกมากขึ้น
   
การรับมือกับเด็กวัยกำลังซนไม่ใช่เรื่องยาก เขาเองมีน้องอยู่สองคนเลยพอจะคล่องกว่าคนอื่น อาศัยแค่มีความใจเย็นและเอ็นดูเข้าว่า งานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไร
   
บีเอ็มสีดำคันคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดเทียบข้างถนน อินทัชยิ้มทักอีกฝ่ายเมื่อขึ้นมานั่งข้างกัน
   
“ทำไมไม่เช็ดผมให้แห้ง” กนธีออกปากเมื่อเจอหน้า “ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหน เช็ดซะ เดี๋ยวเป็นหวัด”
   
“ผมแข็งแรงกว่าที่พี่คิดเยอะนะ” เขาหัวเราะ ถึงอย่างนั้นก็ยอมรื้อผ้าขนหนูผืนเล็กออกมา เขาเช็ดไปบ้างแล้ว แต่รีบไปหน่อยเลยยังเปียกอยู่บ้าง
   
“แข็งแรงแค่ไหนก็ป่วยได้ อย่าประมาท” ชายหนุ่มบ่น อาศัยจังหวะรถติด ดึงผ้าที่เด็กมันคลุมหัวไว้เฉยๆมาถือ แล้วรั้งต้นคอให้ก้มลงใกล้ จัดการขยี้ผมอย่างไม่ออมแรงนัก

“เจ็บๆๆๆ” อินทัชครางอู้ “หนังหัวผมหลุดหมดแล้ว”

“เจ็บก็เช็ดเอง เอ้า!”

อินทัชหัวเราะ กลับมานั่งพิงเบาะแล้วยีหัวตัวเองช้าๆ ไฟเขียวพอดี พี่กุนต์เลยต้องหันไปขับรถ ระหว่างที่เขานั่งเช็ดผมไปเรื่อย สายตาก็ลอบมองคนข้างกายด้วยความเผลอตัว

“พี่ปวดคอหรือ” เขาเห็นพี่กุนต์คลึงต้นคอหลายครั้ง

“อืม..ปวดเมื่อยนิดหน่อยน่ะ จริงๆก็แทบจะทั้งตัว คนแก่ก็งี้ นอนขดบนที่แคบนาน กระดูกกระเดี้ยวก็ไม่ค่อยสมประกอบอยู่ด้วย”

อินทัชนึกถึงคนที่นอนห่อตัวอยู่บนโซฟา ตั้งแต่ที่เขาตื่นกลางดึกแล้วเจอพี่กุนต์นั่งหลับอยู่ พออุ้มฝ่ายนั้นไปนอน เขาเองก็กลับไปนั่งสัปหงกจนเช้า ตื่นขึ้นมาถึงได้เห็นว่าพี่กุนต์นอนตะแคงข้าง เอามือหนุนแก้ม ขดเป็นตัวเอสกับเบาะ แล้วจะไม่ให้ปวดเมื่อยไปหมดได้อย่างไร

“ถ้านอนหงายก็ไม่เป็นไรแล้ว” เด็กหนุ่มพึมพำ

กนธีได้แต่นึกอยู่ในใจ..ไม่ใช่ว่าตอนแรกเขานอนหงายหรอกหรือ..นอนอยู่แบบนั้นกระทั่งถูกเจ้านี่มัน..ลักจูบเอานั่นแหละ เขาเลยกึ่งหลับกึ่งตื่น ได้แต่เอาหน้าซุกผ้าห่มไปกระทั่งเช้า

“แต่ผมก็ขอบคุณนะครับที่พี่อุตส่าห์ไปนอนเฝ้าไข้ยาย” อินทัชยิ้มจาง “ดูแลดียิ่งกว่าหลานสะใภ้เสียอีก”

คนฟังแทบจะสำลัก “หาได้แล้วหรือไง หลานสะใภ้ที่ว่าเนี่ย”

“ผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง”

กนธีขบขัน กลับมาตั้งใจขับรถต่อ ถนนขาออกนอกเมืองค่อนข้างโล่ง ส่วนขาเข้ารถเริ่มติดประปราย อาจจะเพราะกลับมาจากต่างจังหวัดกัน

กำลังขับกลับบ้าน เขาก็เหลือบเห็นรถคันหนึ่งเปิดไฟกะพริบจอดอยู่ข้างทาง มีผู้หญิงเดินกระสับกระส่ายเหมือนกำลังรออะไรสักอย่าง เขาเห็นว่านี่ก็เริ่มมืด เสาไฟแต่ละต้นก็ห่างกัน เลยตัดสินใจไปยูเทิร์นเอาข้างหน้าทั้งที่ขับผ่านมาแล้ว

“มีอะไรหรือครับ”

“ผู้หญิงคนนั้นรถเสียน่ะ พี่ว่าจะไปดูหน่อย”

อินทัชหันกลับไปมอง เขานั่งอยู่ฝั่งซ้าย ยังไม่ทันสังเกตเหมือนพี่กุนต์เลย

“พี่นี่ใจดีชะมัด” เขาบอก “แต่ถ้ามาคนเดียว อย่าลงไปดูสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ”

กนธียิ้ม เขาเข้าไปจอดห่างๆ เว้นช่วงจากรถคันที่เสียประมาณหนึ่งและเปิดไฟท้ายกะพริบไว้เช่นกัน

“ตอนนี้มีโอ๊ตอยู่ด้วยไง..พี่ถึงวางใจ”

อินทัชนิ่งเงียบกับคำพูดแสดงความมั่นใจในตัวเขาแบบโจ่งแจ้ง เด็กหนุ่มได้แต่ถอนใจอย่างระอาเมื่อพี่กุนต์ปลดล็อกประตูแล้วเดินลงไปถามไถ่หญิงสาวตรงหน้า

..คนๆนี้..จะใจดีกับทุกคนเกินไปแล้ว..

..ในร้อยคน จะมีแบบพี่กุนต์สักคนบ้างหรือเปล่านะ..

“ขอโทษนะครับ..รถเป็นอะไรหรือเปล่า” กนธีออกปากถามเจ้าของที่ดูท่าทางเป็นกังวล

อินทัชตามลงมา เขาคอยมองหลังระวังรถที่แล่นผ่าน ยังดีที่การจราจรไม่หนาแน่นมาก และไม่ได้มีใครขับเร็วขนาดที่จะมองไม่เห็นรถสองคันที่จอดต่อกัน

“ยางรั่วน่ะค่ะ..สงสัยจะขับทับเศษแก้ว”

กนธีนั่งยองๆลงมอง เธอบอกว่าล้อหน้าทางซ้ายทับแก้ว พอเขาลองดู ก็เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริง

“มียางสำรองไหมครับ” เขาพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาแล้วดึงชายเสื้อออกนอกกางเกงให้ทะมัดทะแมงขึ้น “อุปกรณ์..ประแจขันน็อตกับแม่แรงอยู่หลังรถไหม”

“คิดว่ามีค่ะ” เธอตอบ “เดี๋ยวเปิดท้ายรถก่อนนะคะ”

อินทัชเดินมาดู เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นพี่กุนต์ควักแว่นสายตามาใส่พลางบอกให้เขาใช้มือถือเปิดไฟส่องที่ล้อ
   
“พี่จะทำอะไรน่ะ”
   
“เปลี่ยนยางให้คุณเขาน่ะสิ”
   
อินทัชอึ้งไป “ทำเป็นหรือพี่ รอช่างมาทำให้ไม่ดีกว่าหรือ”
   
“เปลี่ยนเองใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีหรอก แต่รอคนมาเนี่ย นานแน่” เขาหันมองหญิงสาวที่เดินมาหา “เจอไหมครับ”
   
“เจอค่ะ..คือคุณจะช่วยหรือคะ” เธอถามอย่างงุนงง เพราะนี่ก็จอดรถไว้ข้างทางแบบนี้มาสักพักแล้ว ไม่เห็นจะมีใครลงมาช่วยดู เพิ่งจะมีคุณผู้ชายคนนี้คนแรกนี่แหละ
   
“ผมทำเป็นครับ รับรองว่าขับไป ล้อไม่หลุด” กนธียิ้มขัน “โอ๊ตไปเอาของมาให้พี่หน่อย แล้วกลับมาฉายไฟให้ด้วย”
   
อินทัชทำตามอย่างว่าง่าย พอหิ้วยางรถกับอุปกรณ์มาวาง เขาก็ถอยมาก้าวหนึ่งเพราะตัวเองทำไม่เป็น ได้แต่มองพี่กุนต์เอาแม่แรงสอดเข้าข้างรถ จากนั้นก็เอาประแจสวมน็อต ขึ้นไปเหยียบให้มันคลาย

ชายหนุ่มผละออกมาโยกแม่แรงให้รถสูงขึ้นแล้วค่อยเอาน็อตออก ถอดล้อที่ยางรั่วมาวางด้านหลัง
   
“ส่งล้อใหม่มาที” เขาบอกเด็ก
   
กนธีคุกเข่ากับพื้นถนน ค่อยๆใส่ล้อสำรองเข้าไป หมุนน็อตและบิดไว้พอประมาณ จัดการไขแม่แรงลงแล้วก็ย้ำน็อตล้ออีกทีด้วยประแจ เขาใช้เท้าเหยียบเพื่อให้มันแน่นที่สุด
   
“เรียบร้อยครับผม” ร่างสูงโปร่งปัดมือที่เปื้อน ช่วยแบกล้อเก่าไปใส่ไว้หลังรถให้เรียบร้อย
   
“ขอบคุณนะคะ..ขอบคุณจริงๆ” หญิงสาวมองเขาด้วยท่าทีซึ้งใจ “ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี คือถ้าไม่รังเกียจ..” เธอเปิดกระเป๋าเงิน แต่ก็ดูลังเลเพราะเห็นบีเอ็มคันโก้ที่จอดซ้อนหลัง ราคารถของเขาแพงกว่าโตโยต้าที่เธอขับด้วยซ้ำ
   
กนธีรีบปฏิเสธเมื่อรู้ว่าเธออยากให้สินน้ำใจ “ผมขอแค่น้ำล้างมือก็พอครับ..ถ้าคุณมี”
   
สาวเจ้ายิ้มเก้อเขิน รีบเอาน้ำขวดในรถมาส่งให้ ผู้ชายคนนั้นผละไปล้างมือที่เปื้อนคราบแล้วเดินกลับมาหา
   
“ยังไงถ้าไม่แน่ใจ ขับไปอีกระยะจะมีปั๊มน้ำมัน ลองให้เด็กปั๊มเช็กดูครับ” เขาบอก “ผมคงต้องขอตัวก่อน เดินทางปลอดภัยนะครับ”
   
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอท้วง “คือ..ถ้าจะขอเบอร์ติดต่อ เผื่อว่าอยากจะเลี้ยงกาแฟสักแก้ว..”
   
“อย่ากังวลเลยครับ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผมหรอก คนเราเห็นใครเดือดร้อนก็ควรเข้ามาช่วยโดยเฉพาะกับผู้หญิงตัวคนเดียวค่ำๆมืดๆแบบนี้” กนธียิ้มจาง “ผมกลับก่อนนะ ขับรถระวังๆนะครับ”
   
เธอยิ้มส่ง ทั้งยังตามมาขอบคุณถึงที่รถด้วย
   
ตอนกลับเข้ามา อินทัชหันมองคนที่หยิบทิชชูจากด้านหลังมาเช็ดเหงื่อบนหน้า ข้างนอกอากาศร้อนอบอ้าว แต่พี่กุนต์ก็ไม่บ่นสักคำ ยังเต็มใจช่วยเหลือเธออย่างดี
   
กนธีขับออกจากข้างฟุตปาธ รู้สึกสบายใจที่ไม่ยอมปล่อยผ่าน
   
“ผมว่านะ..ถ้าพี่ให้เบอร์คนทุกคนที่พี่ช่วยและยอมสานต่อ พี่อาจจะหาเนื้อคู่เจอแล้วก็ได้”
   
“เกี่ยวอะไรกัน” เขางุนงง เร่งแอร์ขึ้นอีก
   
อินทัชยิ้ม เท้าแขนกับขอบประตูรถ “สาวคนเมื่อกี๊ท่าทางถูกใจพี่มากเลย ผู้หญิงขอเบอร์ เขาก็อยากคุยต่อเหมือนกันนะ อุตส่าห์จะเลี้ยงกาแฟ พี่ก็ปฏิเสธซะงั้น”
   
“ถ้าบอกว่าจะเลี้ยงน้ำมะเขือเทศ พี่จะพิจารณา” กนธีขำ
   
“น้ำมะเขือเทศน่ะ ผมไปซื้อให้กินก็ได้”
   
“ว่าแล้วก็อยากกินน้ำส้มจัง ในตู้เย็นน่าจะยังมีส้มเหลือ” คนอายุมากกว่าอมยิ้ม หันมาหาอีกฝ่าย “เอาไว้กลับถึงบ้าน ให้โอ๊ตทำให้กินได้ไหม..พี่ชอบน้ำส้มคั้นของโอ๊ตมากเลย”
   
อินทัชนิ่งไปอีกอึดใจกว่าจะเรียบเรียงความคิดได้ เขาหัวเราะ นวดคลึงหว่างคิ้วอย่างปวดหัวนิดๆ

บางครั้งก็ขำตัวเอง ทุกวันนี้เขาไม่ค่อยจะได้เป็นผู้นำนัก ส่วนใหญ่มีหน้าที่ทำงานบ้านและทำกับข้าว ตอนพี่กุนต์ชมว่าเขาทำอาหารอร่อย มันก็รู้สึกดีอยู่หรอก แต่ไปๆมาๆ พอเริ่มทำอาหารรสถูกปากอีกฝ่าย แต่ไม่มีหน้าที่เท่ๆอย่างอื่นให้ทำ ขับรถก็ไม่ได้ เปลี่ยนล้อก็ไม่เป็น เขาเลยเคอะเขินไม่น้อย 
   
“รู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายภรรยาชะมัด..”
   
“หือ..บ่นอะไร” กนธีฟังไม่ถนัดเพราะกำลังหมุนหาคลื่นวิทยุช่องเพลงสากล
   
“เปล่าครับ” เด็กหนุ่มยิ้มจาง มองคนข้างกายที่ยกมือขึ้นเสยผม
   
เศษทิชชูติดอยู่ข้างแก้มพี่กุนต์ เขาเลยรอจังหวะรถติดแล้วเอื้อมมือไปดึงออกให้
   
“ดึงแก้มพี่ทำไม” กนธีมองเลิ่กลั่ก
   
“ผมดึงทิชชู ไม่ได้ดึงแก้มพี่”

“ไหนทิชชู”

อินทัชแบมือว่างเปล่า ก็เขาปัดมันออกไปแล้ว จะมีหลักฐานได้ยังไง “ถ้าผมอยากจับแก้มพี่ ผมขอตรงๆก็ได้ ไม่แกล้งจับแล้วมาโทษทิชชูหรอกน่า”

กนธีหน้าร้อนวูบ หันกลับไปมองไฟแดงพลางดูตัวเลขร้อยกว่าที่ค่อยๆลดลง

“ทีเมื่อคืน..ยังไม่ขอเลย”

..แน่นอนว่าอินทัชได้ยิน..

“เมื่อคืน..” เขาหลุบตาลงมองริมฝีปากอีกฝ่าย “ผมไม่ได้ขอ เพราะว่าพี่หลับไปแล้ว”

กนธีไม่ตอบ ทำเป็นหูทวนลม โชคดีที่ช่องนี้เปิดเพลงเพราะ เขาเลยชี้ให้ฟัง “Killing Me Softly ไม่ได้ฟังมานานแล้ว”

อินทัชไม่ได้สนใจเพลงเท่ากับสล็อธสูงอายุที่ดูจะเชื่องช้า มะงุมมะงาหรา และทำอะไรติดขัดหนักกว่าเก่าเมื่อถูกพูดจี้จุด..เป็นแบบนี้ก็น่าเอ็นดูดีเหมือนกันนะ

“ผมเพิ่งรู้ว่า ถ้าจะทำอะไรพี่ ต้องขอเป็นทางการเสียก่อน”

กนธีหน้าร้อนอีกครั้ง “มันก็ไม่ขนาดนั้น..”

เด็กหนุ่มอมยิ้ม ขยับเข้าไปใกล้ วูบแรกในใจ เขาอยากหยอกเอิน “แต่มันก็ดีเหมือนกันนะครับ จริงจังดี อย่างเช่นว่า..พี่กุนต์..ผมขอจูบพี่ได้ไหม แล้วพี่ก็ตอบว่า ได้สิ..”

คนฟังหันมองไปนอกหน้าต่างรถ

อินทัชมองใบหูที่ขึ้นสีแดงของอีกฝ่าย ความรู้สึกบางอย่างแล่นผ่านในใจ เรียกร้องให้เขาลองจับปลายติ่งหูนั้นดู..อยากรู้ว่าจะนุ่มนิ่มเหมือน ‘แก้ม’ ไหม แต่เพราะว่าพี่กุนต์หันมาก่อน เขาเลยไม่ได้ทำอย่างที่สงสัย

ที่จริงแล้ว..เขาเปลี่ยนโฟกัสสายตาจากใบหู..เป็นเรียวปากสีอ่อนแทน

“พี่กุนต์..” เขาพึมพำ

“อะไร”

“ผมขอลองจูบ..แบบที่พี่ไม่ได้หลับดู..จะได้หรือเปล่าครับ”

กนธีมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ และอินทัชก็ลงความเห็นว่ามันคือสายตาของหนูแฮมสเตอร์เวลาตกใจ
   
“ก็พี่บอกให้ขอ ผมเลยขอไง”
   
“ไม่ต้องตรงไปตรงมาขนาดนั้น!”
   
“แปลว่าทำได้เลย?”
   
“ก็ไม่ใช่อย่างที่คิด..” คนอายุมากกว่าหลับตาลง
   
ให้ตายเถอะวะ..หัวใจเขาเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ กลัวว่ากว่าจะถึงคราวมีอะไรกัน..อาจจะหัวใจวายเฉียบพลัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
   
“พี่กุนต์..” อินทัชเรียก
   
กนธีหันมอง ว่าจะแกล้งดุเด็กที่ซนไม่เข้าเรื่อง ตอนนี้รถติด มันไม่น่ามาแหย่เขาแบบนี้ แต่พอเอียงหน้าไปทางคนด้านข้าง ไอ้ตัวร้ายก็ชะโงกเข้าหาแล้วประกบปากลงอย่างไม่รีรอ
   
โชคดีเหลือเกิน..ที่รถคันนี้ติดฟิล์มค่อนข้างหนา
   
ชายหนุ่มหลับตานิ่ง ความตั้งใจหดหายเมื่อถูกขบปากเบาๆทั้งด้านบนและด้านล่าง ปากร้อนผ่าวเปิดออก จากนั้นก็เม้มลงอย่างอ่อนโยน เบาหวิวคล้ายกับปุยนุ่น
   
อินทัชล่าถอยไปอึดใจแล้วถึงเข้าหาใหม่ คราวนี้เขาค่อยๆแทรกลิ้นเข้าไปด้านใน วินาทีแรกโลมเล้าตามไรฟันขาวสะอาด แล้วจึงเริ่มไล้เลีย ซุกซนเหมือนกำลังตามหาเป้าหมาย พอปลายลิ้นแตะต้องลิ้นของอีกฝ่ายก็ตรงเข้าหยอกเย้า ยั่วอีกคนให้ตอบสนองกลับ
   
ความอุ่นชื้นและเปียกชุ่มกวัดกวาดซึ่งกันและกัน ใบหน้าทั้งสองเอียงหากัน และเสียงจูบก็ดังผะแผ่ว
   
..ไม่ต่างไปจากเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรง..
   
พวกเขาจูบกัน กระทั่งตัวเลขบนไฟถอยลงมาถึงยี่สิบ และยังลดต่อไปเรื่อยๆ แต่ละฝ่ายเลยต้องผละออก
   
“คราวนี้..” อินทัชพึมพำ   

“คราวนี้อะไร..” คนถูกกระทำยกหลังมือขึ้นเช็ดปากของตน มันยังร้อนและชุ่มฉ่ำเหมือนเคย 
   
“จะถามว่า..คราวนี้ พี่หายใจทันหรือยัง”
   
กนธีหน้าร้อนจัด “เห็นเป็นหนูทดลองจูบหรือ”
   
“หนูกุนต์..” อินทัชยิ้มขัน “ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพี่..มันเลยต้องซ้อมบ่อยไงล่ะ”
   
อีกคนได้แต่มองถนน จมูกกลายเป็นสีเรื่อขึ้น
   
..เลี้ยงเด็กมาสี่คน..ทำไมเจ้าเด็กคนที่ห้าถึงทำให้เขาเหนื่อยได้ขนาดนี้นะ..
 
..อาจเพราะว่า ‘หัวใจ’ เต้นแรงบ่อย..แทบไม่ค่อยได้พักเลย..

.

.

.


“เย้~ พี่กุนต์มา” อ้นกับอุ้มวิ่งหน้าตั้งเข้ามารับ ตอนนี้เด็กๆเห่อพี่ชายคนใหม่ เลยหลงลืมพี่โอ๊ตไปเสียสนิท
   
“เออ..เรามันหมาหัวเน่า” อินทัชบ่น ช่วยหอบของลงมาจากท้ายรถ สาวใช้ของพี่กุนต์จะมารับแทน แต่เขาบอกปัด
   
กนธีขบขัน เขาหิ้วกล่องอันใหญ่เข้าบ้าน พอดีก่อนหน้าที่จะไปหาคุณไผท เขาแวะห้างแล้วซื้อของมาฝากเด็กๆนิดหน่อย ถือเป็นของขวัญต้อนรับ
   
“มาดูนี่เร็วอ้น..อุ้ม ไม่รู้ว่าพวกเราชอบไหม”
   
สองหน่อวิ่งเร็วปรื๋อตามพี่กุนต์ไปทางห้องรับแขก พี่กุนต์นั่งลงกับพื้นใกล้โต๊ะกระจก จากนั้นก็หงายกล่องกระดาษที่ด้านหนึ่งเป็นพลาสติกใสขึ้นมาให้ดู
   
“แต๊น!” กนธียิ้ม “เรือกับเฮลิคอปเตอร์”
   
เด็กๆส่งเสียงฮือฮา ลูกตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น มือน้อยๆลูบคลำเรือบังคับสีแดงแบบ Racing boat ยาวหนึ่งร้อยยี่สิบเซนติเมตร มีรีโมทบังคับเป็นแบบไกปืน ใช้เร่งเครื่องและเลี้ยวได้ตามใจ อีกอันเป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ ความยาวจากหัวถึงท้ายประมาณร้อยยี่สิบห้าเซนติเมตร หน้ากากเป็นพลาสติกพ่นสีน้ำเงินสวย โครงสร้างเป็นโลหะอัลลอย บังคับด้วยรีโมท เร่งได้ทั้งความแรงมอเตอร์และบังคับให้บินขึ้นลงหรือไปซ้ายขวา
   
อินทัชเท้าคางมองของเล่นที่พี่กุนต์สรรหามาปรนเปรอให้น้องชายของเขาแล้วได้แต่ส่ายหัว ถึงอย่างนั้นก็อดยิ้มตามท่าทางตื่นตะลึงของไอ้แสบสองตัวไม่ได้
   
“พี่ไม่รู้ว่าใครชอบแบบไหน เพราะฉะนั้น..แบ่งกันเล่นนะครับ” กนธีบอก “เอาไปชาร์จไฟก่อน พอเต็มแล้วก็เอาไปลุยกันเลย เล่นในสระว่ายน้ำนะ ถ้าลงบ่อปลาคาร์ฟ ปลาพี่จะตกใจตายกันหมด”
   
อ้นกับอุ้มโผเข้ากอดผู้ใหญ่ตรงหน้า ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างเรียบร้อย ตั้งแต่เกิดมา สองพี่น้องยังไม่เคยได้แตะของเล่นราคาพันกว่าแบบนี้มาก่อน ถึงจะเกรงใจพี่กุนต์มาก แต่ก็ปกปิดความตื่นเต้นยินดีไว้ไม่มิดเหมือนกัน
   
“คราวนี้ก็มีครบ ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ” อินทัชถอนหายใจ “ถนอมให้ดีนะ ห้ามทิ้งขว้าง เล่นเสร็จก็ต้องเก็บ”
   
เด็กๆตะเบ๊ะรับ ต่างฝ่ายต่างแบกของเล่น วิ่งตัวปลิวไปอ่านคู่มือการเล่น
   
คล้อยหลังเจ้าสองตัว อินทัชก็หันมาทางคนด้านข้าง พี่กุนต์ยังมีกล่องของที่ยังไม่ได้แกะอยู่อีก ท่าทางหลังจากส่งยายกลับบ้าน เจ้าตัวจะไปช็อปปิ้งเพลิน
   
“นี่อะไรครับ”
   
“โมเดลรถไฟไทยน่ะ” กนธีหยิบแว่นมาสวม
   
“ละเอียดน่าดูเลย” เขาก้มลงมองดีเทลยิบย่อย โมเดลชิ้นนี้ไม่เหมือนของเล่นพลาสติกทั่วไป มันเก็บรายละเอียดตู้รถไฟอย่างชัดเจน ทั้งสี ทั้งเครื่องจักรแต่ละชิ้น

“ดูนี่สิ..ข้างในมองทะลุเห็นที่นั่งด้วย” กนธีมีท่าทางภูมิใจ

อินทัชมองตาม เขายิ้มมุมปากก่อนจะเบนสายตาไปยังใบหน้าของคนอายุมากกว่าที่ดูจะตื่นเต้นเหมือนเด็ก

“พี่กำลังสะสมทีละโบกี้ แล้วก็เก็บของแต่งไปด้วย ในอนาคต ถ้าไม่แก่ตายไปก่อน พี่จะสร้างทางรถไฟจำลอง ทำภูเขา ทำอุโมงค์ ทำต้นไม้”

เด็กหนุ่มขำ นัยน์ตาสีอ่อนคู่นั้นเป็นประกายวาววับเหมือนกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกหน พี่กุนต์ลุกขึ้นยืน เดินไปทางตู้โชว์กระจกใสในห้องรับแขก เขาเพิ่งสังเกตว่าในนั้นมีโมเดลยานพาหนะชิ้นอื่นอยู่ด้วย แต่ดูท่าทางอีกฝ่ายจะชอบรถไฟเป็นพิเศษ
   
“ถ้าพี่ซื้อชินกันเซนผมก็เข้าใจนะ แต่รฟท. ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง มันน่าสนใจยังไงหรือ”
   
กนธีเปิดตู้กระจกออก ค่อยๆวางโมเดลลงไปอย่างระมัดระวัง “น่าสนใจตรงความเก่านี่แหละ คลาสสิคดี”
   
“เคยขึ้นรถไฟตู้ธรรมดาหรือยังครับ..จะได้รู้ถึงความคลาสสิคโคตรๆ” 
   
ชายหนุ่มหัวเราะ “ยังเลย ไม่รู้จะขึ้นไปไหน”
   
อินทัชอมยิ้ม “เอาไว้สักวัน..ผมจะชวนพี่นั่งรถไฟไปเที่ยวทะเล ผมว่าสนุกดีนะ”
   
“พรุ่งนี้เลยไหม”
   
“ยังครับ” เขาหลุดหัวเราะ “ใจเย็นๆ ทำใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้”
   
กนธีเตะถุงพลาสติกใส่อีกฝ่าย “หาว่าพี่แก่อีกแล้วไอ้โอ๊ต”
   
“อะไรกัน พี่คิดไปเองต่างหาก” อินทัชขำ ก้าวหนีคนที่เตะแผ่นโฟมใส่เป็นประการต่อไป “ฝุ่นเยอะนะพี่”
   
“กินฝุ่นไปซะ! แก่กว่าแล้วไงวะ” เขางุ่นง่าน “เห็นแก่แบบนี้ แต่จริงๆยังวัยรุ่นเว้...” เสียงโวยวายหายไปในลำคอเมื่อฝ่ายตรงข้ามโน้มหน้าลงมาหา..ปากอุ่นร้อนประกบจูบอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
   
กนธียืนอึ้ง มองเจ้าโอ๊ตที่ผละออกไปตาไม่กะพริบ
   
ร่างสูงยิ้มจาง จ้องแฮมสเตอร์ขี้ตื่นด้วยความเอ็นดู เขาก้าวเข้าหา ช่วงตัวสูงใหญ่ยืนเบียด

“จะว่าไปก็ยังเด็กอยู่จริงๆด้วย” เสียงทุ้มต่ำพึมพำ ไล้ปลายนิ้วโป้งที่แก้มคนตรงหน้า “ทั้งที่แก้ม..” จากนั้นก็เลื่อนนิ้วลงมาลูบริมฝีปากอ่อนนุ่ม “แล้วก็ปาก..” ชะโงกหน้าเข้าไปจูบอีกครั้ง “นิ่มเหมือนเด็กแรกเกิดเลย..”
   
คนฟังรู้สึกหูอื้อ ตาลาย ก่อนที่ไอร้อนผ่าวจะพุ่งสูงในตัว
   
“ผมไปดูข้าวเย็นให้นะครับ..” อินทัชกระซิบ กดจูบเรียวปากอุ่นอีกครั้งด้วยความมันเขี้ยว ถือโอกาสขบกัดไปหน่อยเป็นการเย้าแหย่ “เลิกอึ้งได้แล้ว..จูบแค่นี้ทำช็อกไปได้”
   
..ถ้าทำมากกว่านั้น..ไม่สลบไปเลยหรือไง..
   
“ม..ไม่ได้ช็อกเว้ย” เขาแก้ต่าง แค่ตกใจต่างหาก ไม่คิดว่ามันจะจู่โจมเข้ามา
   
..ไหนบอกว่าจะขอก่อนไงล่ะ!..
   
“เอาน่า..ไม่ช็อกก็ไม่ช็อก แค่ไม่ชินใช่ไหมล่ะครับ” อินทัชยักไหล่ ค่อยๆถอดแว่นสายตาออกให้แล้วส่งคืนพี่กุนต์ “จูบบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง”
   
กนธีมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินหายไปทางห้องครัว เขาผ่อนลมหายใจออกพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง



[ต่อด้านล่าง]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2016 01:35:40 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1412 เมื่อ10-09-2016 01:28:17 »


.

.

.



หลังมื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตากัน คุณยายขอปลีกตัวไปพักผ่อน ส่วนอ้นกับอุ้มกำลังเห่อของเล่นใหม่ เลยขออนุญาตพี่กุนต์ไปเล่นเรือที่สระ กนธีให้สาวใช้ตามไปดูแลเด็กๆ ส่วนเขายืนเชียร์อยู่สักพักก็ปลีกตัวเข้าห้องโดยไม่ลืมกำชับว่าหลังจากน้องๆเล่นเหนื่อยแล้วก็ให้พาเข้านอนด้วย
   
เขาเข้าไปอาบน้ำสระผม ตอนออกมาด้านนอก กระจกขึ้นฝ้าขาวเพราะไอน้ำ กนธีใช้ฝ่ามือลูบให้มันหายพลางมองปลายผมที่ยาวระต้นคอ คิดว่าในวันสองวันนี้จะต้องไปตัดให้สั้นเหมือนเดิมสักที
   
เงาสะท้อนจากกระจกเผยให้เห็นผู้ชายวัยสี่สิบ ร่องรอยตามใบหน้าเริ่มชัดขึ้น ทั้งริ้วตรงหางตา เส้นบางๆแถวมุมปากที่เพิ่มเวลาหัวเราะ และบ่อยครั้ง เขาก็มักจะเจอผมขาวแซมขึ้นมาให้รำคาญใจเล่น
   
กนธีได้แต่ยิ้มขัน เขารักษาสุขภาพก็จริง กินผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่า ออกกำลังกาย พักผ่อนให้พอ แต่มันก็คงจะรั้งได้เท่านี้ นับวันตัวเลขยิ่งเพิ่มมากขึ้น ปลายปีนี้ เขาจะสี่สิบเต็ม ล่วงเข้าเดือนใหม่ก็จะกลายเป็นสี่สิบเอ็ด
   
..อีกหน่อยก็กลายเป็นคุณลุง..คุณตา..
   
นึกแล้วก็ต้องถอนหายใจเนือยๆ
   
ปูนนี้แล้ว..ลุงอย่างเขายังใจเต้นกับการหยอกล้อของเด็กหนุ่มอยู่ได้
   
“ตั้งสติหน่อยลุง” กนธีส่ายหัว วัยขนาดนี้ สายเกินไปจะมาเริ่มต้นใหม่แล้วล่ะมั้ง..และถึงจะปลอบใจตัวว่าไม่แก่เกินแกงอย่างไร การจะหาคนจริงใจอย่างวันเก่าๆ มันก็คงยากเต็มที
   
เว้นแต่จะคิดว่า ‘ขอให้ได้รักอีกสักครั้ง ตายไปก็ไม่เสียดาย’ แบบนั้นค่อยว่าไปอย่าง
   
เขามองตนเองอย่างขบขัน เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวม เอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกโชก ขณะก้าวออกจากห้องน้ำ ปากก็พึมพำ “สังขารไม่เที่ยงแท้ ตีนกาสองเส้นวันนี้ก็ไม่เที่ยงแท้..ให้หมอขึงเดี๋ยวก็หาย” แต่อันที่จริง..มันจะย่นก็ให้ย่นไปตามธรรมชาติร่วงโรยเถอะ อย่าไปฝืนแรงโน้มถ่วงโลกเลย
   
“ตายไปเดี๋ยวก็เผา” เขาถอนหายใจ เดินกลับเข้าห้องนอนแล้ววางหมอนตั้งพิงหัวเตียง ตั้งใจจะเป่าผมและอ่านงานไปพลางๆ ผมแห้งเมื่อไรแล้วค่อยเข้านอน
   
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น กนธีเงยหน้าจากเอกสารที่ดิน เขากำลังนั่งนวดคอตัวเองเพราะเมื่อคืนไปนอนเฝ้าคุณยายของอินทัชมาแล้วโซฟามันค่อนข้างเล็ก นอนไม่ถนัดนัก
   
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนไล่ความเมื่อยขบ พอเปิดประตูออกก็เจออินทัชยืนอยู่ เด็กหนุ่มอาบน้ำ ใส่ชุดนอนเรียบร้อย ท่าทางจะเพิ่งสระผมมาเหมือนกัน คงเพราะวันนี้ไปแช่คลอรีนตั้งหลายชั่วโมง
   
ใจคนมองเต้นแรงอยู่ห้าวินาที พอปรามตัวเองได้ถึงจะสงบลงบ้าง
   
“อะไรหรือ” เขาหลุบตาลงดู อินทัชถือแก้วกระเบื้อง มีน้ำต้มอะไรสักอย่าง กลิ่นจะว่าหอมก็หอม แต่เดาได้เลยว่าขมแน่
   
“เห็ดหลินจือครับ ยาอายุวัฒนะของจีน” อินทัชพูดยิ้มๆ
   
กนธีหัวเราะ เขากำลังปลงตกว่าสังขารไม่เที่ยงแท้ จะตายวันตายพรุ่งก็ต้องทำใจ แต่ตอนนี้เด็กมันเอาสมุนไพรมายืดชีวิตให้เฉยเลย “จะได้ตายช้าหน่อยใช่ไหม” เขารับมาจิบ จากนั้นก็ตีหน้าปุเลี่ยน..ขมจริงๆพับผ่า
   
“ฝืนใจหน่อยพี่ หวานเป็นลม ขมเป็นยา เหมือนรสผักคะน้าที่พี่บอกผมไง”
   
..ก็ยังอุตส่าห์จำได้นะ..
   
เขายิ้มบาง กลั้นใจดื่มจนหมดแก้วแล้วส่งคืน แต่อินทัชยังไม่ขยับตัวไปไหน
   
“มีอะไรหรือเปล่า” เขาเหลือบมองนาฬิกา เห็นว่าสี่ทุ่มกว่าแล้ว เด็กมันยังไม่ไปนอนอีก
   
“จะไม่ชวนผม...เข้าห้องหน่อยหรือครับ”
   
กนธีชะงัก ไอร้อนผ่าวพลันแล่นวูบขึ้นมาสองข้างแก้ม
   
“มัน..ดึกแล้วนะ” เขาพึมพำ “คืนวันอาทิตย์ไม่มีบิ๊กซีนีม่า”
   
อินทัชเหลือบมอง “ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะเข้าไปดูหนัง”
   
กนธีกลั้นหายใจ เสียงในอกเต้นรัวแรง เขาได้แต่กระแอมเบาๆแล้วถอยหลังให้ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา วางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะด้านข้างตอนที่เขางับประตูปิด
   
พวกเขาเงียบกันไปทั้งคู่ อินทัชกวาดมองรอบด้านก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่เตียงหลังใหญ่ ผ้าปูที่นอนยับย่น หมอนสองใบบนฟูกตั้งพิงเบาะหัวเตียงไว้ มีกองกระดาษวางกระจัดกระจาย แปลว่าพี่กุนต์ยังไม่นอน

“ผมเห็นพี่บ่นว่าปวดคอ..ก็เลยจะมานวดให้”

“อย่างนั้นหรือ” กนธีลอบถอนหายใจ แต่แล้วก็หลุบตามองมือของอีกฝ่าย “ไหนล่ะ..เคาน์เตอร์เพน”

อินทัชชะงัก แบมืออย่างจนมุม รู้สึกเคอะเขินที่หลงลืมไปเสียสนิท

“พี่น่าจะมีนะ..ขอไปหาก่อน” เขาเดินผ่านคนอายุน้อยกว่าแต่เจ้าโอ๊ตรั้งข้อมือไว้

เด็กหนุ่มจับติ่งหูคนตรงหน้าแล้วบีบเบาๆ “หูแดงแน่ะครับ..”

กนธีหันมาเผชิญหน้า เขาอาจจะเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านเรื่องพรรค์นี้มาพอสมควรแล้วก็จริง อาจจะพูดเรื่องบนเตียงได้อย่างไม่กระดากปากตอนยื่นข้อเสนอ แต่พอถึงเวลา ‘ปฏิบัติ’ มันก็ชวนให้เก้กังทุกทีไป

..แก่ขนาดนี้แล้ว ถึงความอายจะน้อยลง แต่จะให้อ้าแขนเชิญชวน บอกให้เข้ามาทำเลยก็ใช่เรื่อง..

“แดงมาถึงหน้าแล้ว” อินทัชทัก

“เงียบเถอะ” เขาขมวดคิ้ว ดุไอ้เด็กกวนอารมณ์ มันขยันปั่นหัวเขาเสียจริง “ลงไปเอาเคาน์เตอร์เพนมาไป”

กนธีหายใจติดขัดเมื่ออีกคนเดินเข้าหา แขนแข็งแรงรวบตัวเขาเข้าไปกอด เสียงพร่าต่ำกระซิบข้างหู

“เอาไว้ทีหลังได้ไหมครับ”

ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำ กนธีปิดตาลง ขณะพยายามควบคุมลมหายใจของตนเอง ปากอบอุ่นก็ทาบทับ เขายอมให้เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายจูบก่อน ทั้งยังเผลอแย้มปาก ยินยอมให้ฝ่ายตรงข้ามสอดปลายลิ้นเข้าโลมเลีย

ฝ่ามือกร้านสอดเข้าประคองต้นคอ เขาไม่อยากให้พี่กุนต์เงยหน้ามากเกินจนปวดกว่าเก่า ดังนั้นเลยค่อยๆรุกเข้าหา เจ้าตัวต้องก้าวถอยหลัง กระทั่งขาชนเข้ากับขอบเตียง

กนธีก้มลงมอง แก้มร้อนหนักกว่าเดิม แต่อินทัชจับหน้าให้หันกลับมาแล้วก้มลงจูบใหม่ เขาเอียงรับ เป็นฝ่ายจูบเด็กกลับไปบ้าง หากไม่ทำแบบนี้แล้วจะถูกหัวเราะเอาได้ว่าไม่สมอายุ

..ทั้งที่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะเกินกำลัง..

อินทัชค่อยๆประคองอีกฝ่ายลงนอนราบกับฟูก เขาตามติดลงมา คร่อมสองแขนเหนือร่างพร้อมวนเวียนจูบไม่ห่าง เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ติดใจรสจูบของพี่กุนต์นัก จะว่าเป็นจูบแรก หรือเป็นจูบที่มีอารมณ์ร่วมไปด้วยก็ยังสงสัยอยู่

รู้แต่ว่า..ปากของพี่กุนต์ทั้งนุ่มทั้งอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนขนมที่เพิ่งออกจากเตา ทุกครั้งที่ประกบปากลงไปก็เหมือนกำลังถูกถ่ายทอดความร้อนมาให้ ทั้งยังทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า..รสจูบที่คนเคยเปรียบว่าหวาน แท้จริงมันไม่ได้มีรสชาติ แต่มันมีแรงดึงดูดให้หลงจนหาทางออกไม่เจอต่างหาก

เด็กหนุ่มเกลี่ยปลายจมูกกับแก้มพี่กุนต์ นอกจากจะหลงจูบแล้ว เขายังหลงหอมแก้มคนๆนี้อีกด้วย แต่จะว่าไป..เขายังไม่ได้ทดลองสำรวจร่างกายส่วนอื่นเลยว่าจะดีกว่าที่ลิ้มลองมาแล้วมากน้อยแค่ไหน

แทบจะในทันทีที่คิด อินทัชไล่จูบจากเรียวปากนุ่มลงมาถึงต้นคอขาว ปากอุ่นร้อนขบเม้มไปเรื่อย ลามเลยมายังผิวเนื้ออ่อนที่โผล่พ้นสาบเสื้อคลุมออกมา ทุกครั้งที่กดปาก เขาจะได้ยินเสียงครางเครือของพี่กุนต์ ยิ่งทำให้นึกลำพอง

“คืนนี้ได้ใช้เต้าหู้หรือเปล่าครับ” เขาพึมพำ

กนธีปรือตามอง “เปล่า..”

“ไม่จริงหรอก” เด็กหนุ่มค่อยๆสอดมือเข้าไป แยกชุดคลุมสีขาวออกจากกัน เขายืดตัวขึ้นกระซิบ “ผมยังได้กลิ่นเต้าหู้ที่ตัวพี่อยู่เลย” มันอาจจะกลายเป็นกลิ่นกายของอีกคนไปแล้วก็ได้ และมันก็ทำให้เขาอดใจไว้ไม่อยู่ ต้องขบกัดและดูดคลึงอย่างเผลอตัว

“โอ๊ต..” กนธีนิ่วหน้า เจ็บแปลบที่ยอดอก

ดวงตาคมกล้าปรายมอง เส้นผมสีดำระอยู่แถวช่วงบน ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียไม่ห่าง ฝ่ามือทั้งสองประคองแผ่นอกเรียบเนียนและบีบคลึงแผ่วเบา จ้องมองปลายยอดที่ขึ้นสีเรื่ออย่างสนอกสนใจ หนักเข้าก็ขบกัดเข้าให้อย่างมันเขี้ยว

“อือ..”

อินทัชฟังเสียงครางของคนใต้ร่าง ปฏิกิริยาบางอย่างดุนดันผ่านกางเกงนอน เขาปวดร้าว ชาไปทั่วหน้าขาเมื่อรับรู้ว่าความต้องการกำลังพุ่งสูง

เด็กหนุ่มก้มลงจูบอีกครั้ง ลากมือผ่านชายเสื้อแล้วปลดสายรัดออก ค่อยๆดันขาข้างหนึ่งที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นตั้ง เลื่อนปลายนิ้วผ่านผิวขาว สอดเข้าไปยังบางส่วนที่ลึกกว่า

“ไม่ได้ใส่ชั้นในนี่ครับ..”

“เงียบน่า..” กนธีสาบานว่าไม่ได้คิดเตรียมการมาก่อน เขาแค่ยังไม่ได้ใส่ชุดนอนต่างหาก

“ผมไม่ได้ว่าอะไร” อินทัชกระซิบ ดึงขอบกางเกงนอนของตัวเองลงเล็กน้อย “ผมก็ไม่ได้ใส่เหมือนกัน”

คนฟังร้อนวูบ เขาไม่รู้ว่าการไม่ได้ใส่ชั้นในของอีกฝ่ายเป็นเรื่องปกติธรรมดา หรือเป็นเรื่องที่ตระเตรียมเอาไว้แล้วกันแน่ 

อินทัชข่มใจให้เย็นลง เขาหลุบตามองคนที่นอนหอบหายใจถี่ เสี้ยวหน้าได้รูปเป็นสีเรื่อ ปากบวมแดงเพราะเขาจูบไม่หยุด แผ่นอกขาวเป็นรอยจ้ำเพราะเขาขบกัดอย่างย่ามใจ ขาข้างหนึ่งยกวางบนฟูก อีกข้างตกระอยู่ข้างเตียง ชายเสื้อคลุมเลิกรั้งถึงช่วงเอว แต่ยังปิดบัง ซ่อนบางส่วนไว้ภายใน

ถึงตอนนี้..เขาอยากรู้ว่าใต้ร่มผ้านั้นจะดึงดูดกันแค่ไหน

“พี่กุนต์ครับ..” เขากระซิบข้างหู “คืนนี้ผมพร้อมแล้ว..”

กนธีตัวร้อนจนแดงไปหมดแทบทุกตารางนิ้ว เขารับรู้ความพร้อมของเด็กหนุ่มตั้งแต่ที่ช่วงล่างทาบทับกันมา บางส่วนแข็งขืน ดึงดัน ดุนผ่านเนื้อผ้า ซ้ำยังร้อนระอุจนสัมผัสได้

“ผมขอมีเซ็กซ์กับพี่ได้ไหม..”

คนฟังใจเต้นแรง คำพูดตรงไปตรงมาทำให้เขายิ่งพลุ่งพล่าน ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องข่มใจ

“สวมถุงยางด้วยนะ..” มันเป็นคำอนุญาตกลายๆ

อินทัชนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาสบถในใจ เขาไม่ได้พกมันไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ทุกเวลาสักหน่อย

“พี่มีสำรองไว้บ้างหรือเปล่า”

กนธีส่ายหัว

“ไม่มี?” เขาเลิกคิ้ว “แล้วที่ผ่านมา ถ้าเป็นเวลากะทันหันแบบนี้..พี่ทำยังไง”

“ถ้าที่คอนโดน่ะมี..แต่ที่นี่ไม่มี พี่ไม่เคยพาใครมาที่บ้าน” เขาพึมพำ

อินทัชเงียบไปเสี้ยววินาที “แล้วกับคุณ....” เขาเผลอหลุดปากจนได้

“กับรัณย์?” กนธียิ้มขัน “เขาไม่ได้ใช้หรอก”

“แล้วถ้าผม..ขอไม่ใช้บ้างได้ไหม” เขาอ้อน “ผมปลอดภัยนะ..พี่ได้ใบตรวจเลือดของผมแล้วนี่”

อีกคนพยายามปรับลมหายใจให้มั่นคงขึ้น ถึงอารมณ์จะเหนี่ยวรั้งนำพา แต่เขาก็ยังมีสติมากพอ
   
“พี่ไว้ใจโอ๊ต..แต่ว่า ทำให้ชินเป็นนิสัยเถอะ” เขาลูบหัวเด็กหนุ่ม “อีกอย่าง..ถ้าจะสัมผัสด้วยเนื้อต่อเนื้อน่ะ เก็บเอาไว้ทำกับคนรักจะดีกว่านะ”
   
อินทัชรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่พี่กุนต์กำลังสื่อ
   
“แล้วคืนนี้จะทำอะไรได้บ้าง” เขาถามตรงๆ ไม่ปิดบังว่าอยากร่วมรักกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน
   
กนธีค่อยๆยันตัวขึ้นเพื่อจะขยับมาตรงกลางฟูก เขานอนราบไปกับเตียงอีกครั้งทั้งยังดึงคอเสื้อเด็กหนุ่มให้เข้ามาหา อินทัชล้มลงทาบทับ จงใจสอดตัวลงตรงกลางเผื่อว่าพี่กุนต์จะยอมใจอ่อน
   
..แต่คนตรงหน้ากลับใจแข็งกว่าที่คิด..

“พี่จะใช้มือให้”

ถึงคำตอบจะลดทอนความหวัง แต่เขาก็ยังคงตื่นเต้นเมื่อปลายนิ้วเรียวล้วงลงในกางเกงนอน มืออีกข้างช่วยดึงขอบยางลงไปไว้ที่สะโพกอย่างหมิ่นเหม่

ทันที่แตะต้อง บางส่วนก็ร้อนจัดกว่าเก่า กนธีไม่ได้ก้มลงมอง เขาได้แต่หลับตา ใช้จินตนาการระหว่างกันทดแทน เขาดึงให้อินทัชลงมาใกล้ คนอายุน้อยกว่าพยายามใช้แขนยันลำตัวเอาไว้ จะได้ไม่ถ่ายน้ำหนักลงมาทั้งหมด

“ไม่เป็นไร..ไม่หนักหรอก” เขาพึมพำ “จะกอดพี่เอาไว้ก็ได้”

อินทัชทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาหอบหายใจ สองแขนกอดรัดร่างพี่กุนต์ไว้แนบอกเมื่ออุ้งมือนุ่มประคองตัวตนของเขาแล้วค่อยๆรูดรั้ง

มันเป็นความรู้สึกที่วูบวาบ หวามไหวรุนแรงกว่าการช่วยตัวเองหลายสิบเท่า ความตื่นเต้นทำให้หยดเหงื่อผุดซึมที่ขมับ เขาเสียวปลาบไปทั่วตัว ปลายเท้าจิกเกร็ง รู้สึกเหมือนกำลังไต่ขึ้นที่สูง ทั้งยังจะหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ

“ดีไหม” กนธีกระซิบข้างหู กอดแผ่นหลังกว้างแล้วลูบไล้ปลอบโยน

เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อฝ่ามือนั้นเริ่มเคลื่อนถี่ เขาขบฟัน กระทั่งทนไม่ไหว สะโพกสอบจึงเริ่มขยับไปตามจังหวะกระตุ้นเร้า

“อึก..” อินทัชคราง กอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นกว่าเดิม มือของพี่กุนต์กอบกุมรอบเขา ทั้งร้อนทั้งนุ่ม ทั้งยังขนาดพอดี เมื่อหลับตา คิดวาดไปว่ากำลังสอดใส่อยู่ในร่างตรงหน้า เขาก็ยิ่งพองโต

กนธีหน้าร้อนผ่าว ตัวไหวคลอนไปตามจังหวะที่เด็กหนุ่มขยับเข้าหา ความรู้สึกอุ่นชื้น ลื่นร้อน เสือกไสเข้าใส่มือของเขาถี่รัว ถึงแม้เขาจะไม่ได้ร่วมรับรู้อารมณ์หวามซ่านนั้นไปด้วย แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้เหมือนกันว่าพฤติกรรมนี้ไม่ต่างจากการมีเซ็กซ์แบบสอดใส่เท่าไรนัก

“อยากเข้าไป..” อินทัชครางต่ำ กดจูบที่ใบหูเล็ก รู้สึกนัยน์ตาพร่าพราย เขากำลังจะระเบิด แต่ก็รับรู้เช่นกันว่ามันยังไม่เพียงพอ ยังอยากจะถ่วงเวลา ยังอยากจะสัมผัสให้ได้มากกว่าที่เป็น “ขอมากกว่านี้ได้หรือเปล่า แค่ข้างนอก..ขอใช้แค่ขาของพี่ก็ได้”

กนธีนิ่งอึ้ง ใจเต้นรัวกับคำขอ เจ้าเด็กนี่ไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิด อย่างน้อย เขาก็มั่นใจว่ามันต้องศึกษามาบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าออกปาก

“นะครับ..” เขากดจูบที่ปากบวมเรื่อ “สัญญา..จะไม่ใส่เข้าไปในตัวพี่แน่”

“เลิกพูดเรื่องน่าอายซะที” เขาเบือนหน้าหนี สุดท้ายเมื่อเห็นนัยน์ตาอ้อนวอนนั้นก็ใจอ่อนยวบ “อือ..ตามใจแล้วกัน”

อินทัชยิ้ม กัดเรียวปากล่างนั้นอย่างหลงใหล เขาขออนุญาตพี่กุนต์และประคองร่างอีกฝ่ายลงนอนคว่ำ ดวงตาคู่สวยจับจ้องที่สะโพกตึงแน่นใต้เสื้อคลุม

“ขอดึงขึ้นนะครับ..ผมต้องสัมผัสตัวของพี่”

กนธีเอาหน้าซุกหมอน พึมพำด่ามันในลำคอ..ไอ้เด็กเปรต

..หัวใจเขาแทบจะทะลุออกมาข้างนอกแล้ว..

ร่างสูงถอดกางเกงนอนออก เหลือเพียงแต่ท่อนบนที่ยังสวมเสื้อ เขาใช้แขนยันน้ำหนักพร้อมกับขยับเข้าใกล้คนข้างใต้อย่างไม่รีรอ มือข้างหนึ่งเลิกชายเสื้อคลุมขึ้น กระทั่งเนินเนื้อขาวสะอาดปรากฏต่อหน้า ท่อนขาเพรียวยาววางราบ แนบชิดกัน

อินทัชค่อยๆสอดตัวเองลงในช่องว่างระหว่างขาหนีบ รับรู้ได้ว่าพี่กุนต์เกร็งตัวขึ้นมาเล็กน้อย

“ขอขยับนะครับ”

กนธีกำมือแน่น ใบหูเป็นสีแดงจัดไม่ต่างอะไรกับมะเขือเทศสุก นอนคว่ำแบบนี้ เขามองไม่เห็นอะไร รู้แต่เพียงว่าบางอย่างที่สอดแทรกเข้ามาและเริ่มเคลื่อนไหว มันร้อนจัด ร้อนกว่าตอนอยู่ในอุ้งมือของเขาหลายเท่า ทั้งยังขยายตัวได้มากกว่าเก่า เพิ่มไปตามอารมณ์ของเด็กวัยรุ่น

เสียงทุ้มต่ำครางอยู่ข้างหู เขาเสียววูบในท้องน้อย บางอย่างเสียดสีเข้า..และออก จากเนิบช้า เปลี่ยนเป็นถี่รัว ขยับรุนแรง มากขึ้น และมากขึ้น กระแทกกระทั้นจนผิวกายกระทบกันดังลั่น เตียงทั้งหลังลั่นเอี๊ยด

กนธีอับอายจนได้แต่ซุกหน้ากับหมอน ความร้อนเหมือนไฟลวกกำลังสอดใส่เข้าออกอยู่ที่ช่วงขา เขากำผ้าปูที่นอน ฟังเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงขาเตียงไหวสั่น เสียงครางต่ำในลำคอ

ทั้งร่างโยกคลอนตามแรงกระแทก ส่วนที่เสียดรั้งกันกำลังปลุกเร้าปฏิกิริยา เขาสอดมือลงไป หวังจะสัมผัสของตัวเองเป็นการช่วยลดทอนอารมณ์บ้าง แต่อินทัชดึงท่อนเอวให้ลอยขึ้นก่อน

ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง ทั้งตัวกระตุกวาบเมื่อฝ่ามือใหญ่เอื้อมเข้ามากอบกุมเขาไว้ อินทัชให้เขาช่วยปลดปล่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะช่วยปรนเปรอความรู้สึกของเขาเช่นกัน

“หันมาหน่อยครับ”

กนธีไม่ยอมทำตาม อีกคนได้แต่ขมวดคิ้ว ต้องก้มลงใกล้แล้วดึงใบหน้าให้หันมารับจูบ

“อือ..อื้อ..” ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้ามา เชิญชวนให้เกี่ยวกระหวัดกันก่อนจะผละออก

เสียงครางของคนสองคนผสมปนเป ทั้งสองร่างสอดประสาน เคลื่อนไหวหนักหน่วงขึ้น ฝ่ายที่คุกเข่าอยู่บนเตียงเริ่มอ่อนแรง แต่ก่อนที่จะล้มลงไป คนด้านหลังก็กระแทกเข้ามาหนักๆสองสามครั้ง จากนั้นก็ปล่อยน้ำรักออกมาอย่างรุนแรง

อินทัชยังขยับอีกสักพัก เขาเสียดสีร่องสะโพก ให้ผิวเนื้อขาวรีดเร้นของเขาจนหมดทุกหยาดหยด ขณะที่มือก็ยังช่วยปลอบโยนให้ กระทั่งพี่กุนต์ปลดปล่อยตามมาอีกคน

สองร่างทรุดลงกองกับพื้นเตียง กนธีหอบหายใจถี่ เขานอนคว่ำหน้า เสื้อคลุมที่สวมยังติดอยู่กับตัวแต่ก็เปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวอุ่นร้อนเป็นรอย เจ้าตัวค่อยๆเอื้อมมือดึงชายเสื้อที่โดนถลกไปกองเหนือเอวลงมาปิดบังส่วนล่าง

อินทัชหายใจหนักๆ ดวงตาพร่าพรายไปด้วยความสุขสม นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้ทำแบบนี้ และเขาก็ยังรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีนัก มันเร็วเกินไป..เขาเสร็จก่อนพี่กุนต์ด้วยซ้ำ

เด็กหนุ่มเหลือบตามองคนด้านข้าง เขาค่อยๆยันตัวแล้วพลิกขึ้นจูบบนหัวไหล่เปลือยที่ลอดผ่านเสื้อคลุมคอกว้าง

“ยังไม่พอหรือ” กนธีผงกหัวขึ้นมอง

“เปล่าครับ” เขายิ้มจาง เลื่อนมือล้วงเข้าไปใต้ชายเสื้อ สัมผัสท่อนขาเปลือยที่ยังร้อนจัดเพราะแรงเสียดสี พี่กุนต์เกร็งตัวเล็กน้อย “ผมแค่จะตรวจดูว่าทำพี่เลอะแค่ไหน”

กนธีหันหนี แก้มเป็นริ้วเลือด “ไม่เป็นไร..เดี๋ยวอาบน้ำใหม่ได้”

“ให้ผมทำให้นะครับ” เขาพักจนหายเหนื่อยแล้วผละไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำใส่กะละมังมาเช็ดตัวให้

“ไม่ต้องๆ พี่ทำเองดีกว่า” คนเป็นผู้ใหญ่รีบบอกปัดพร้อมกับดึงเสื้อคลุมลงมาตามเดิม “อาบน้ำใหม่..น่าจะโอเค”

..ก็เด็กมันทั้งเลีย..ทั้งกัดตลอดช่วงตัว แค่เช็ดคงไม่พอมั้ง..

“เอางั้นหรือครับ” อินทัชรู้สึกผิดเล็กน้อย “ผมทำให้พี่เดือดร้อน”

กนธีอยากเขกหัวมันนัก ถ้ารู้ว่าจะทำเขาเดือดร้อน มันจะดึงดันขอแต่แรกทำไม

“ผมขอโทษนะครับ..” เขาบอกคนที่พยุงตัวลงจากเตียง นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองคราบน้ำรักที่เขาฉีดพ่นรดท่อนขาเปลือย ถึงตอนนี้ มันค่อยๆไหลลงมาประจาน กระตุ้นให้เจ้าของร่างอับอายกว่าเก่า

“ขอโทษเรื่องอะไร” กนธีหันรีหันขวาง อาศัยจังหวะที่โอ๊ตไม่ได้มอง รีบดึงทิชชูมาซับ

..แต่เขาไม่รู้เลย ว่าทุกกิริยาถูกจับจ้องอยู่ตลอด..

“ขอโทษที่ผมลืมพกถุงยาง” อินทัชมองอีกฝ่าย พูดหนักแน่น “ครั้งหน้า..รับรองว่าไม่ลืมแน่”

กนธีร้อนวูบ รีบสาวเท้าเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูแน่นหนา เขายืนพิงผนัง ปรับลมหายใจให้มั่นคง

..แพ้สายตาแบบนั้นจริงๆ..ให้ตายเถอะวะ.. 






.........................................................................................








:hao7: อ่านเม้นแล้ว....หื่นนะตะเองงง 
อย่าเพิ่งเขวี้ยงไข่ซีนถุงยาง 55555+ เราควร safe sex ไว้นะก๊ะ /ทำหน้ามีมโนธรรม

จริงๆคือ ในอนาคต จะเขียนซีนที่ไอ้โอ๊ตควันออกหู ทะเลาะกันเสร็จก็บังคับปล้ำลุงแบบสดๆ  :impress2:
ตีนกาก็ตีนกาเหอะ ยังไงเนื้อก็ยังเด้ง ปั๋วเด็กก็ยังรักยังหลง
มันซาบซ่านจริงๆพับเผื่อยย   
//แอร๊ะ แม่บอกว่าห้ามเปิดเผยตัวจริงถ้าไม่จำเป็น   :-[





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2016 01:43:26 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1413 เมื่อ10-09-2016 01:56:21 »


อ๊างงงงงงงงงงงงงงง

อ่านช่วงแรก ก้อมีแต่ จูบ จูบ แบบไม่ทันตั้งตัว เขินแทนพี่กุนต์เลยอ่ะ:-[

เราก้อนึกว่าใสๆๆ  ที่ไหนได้  แต่ก้อมีฉากที่รอคอย  :hao3:

 อ่านแล้วนึกว่าเป็นพี่กุนต์
  o22   


 :heaven :heaven :heaven :heaven

งวดหน้า  อย่าขึ้ลืม นะ ข้าวโอ๊ต ... xoxo

ออฟไลน์ Nighttime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1414 เมื่อ10-09-2016 02:17:26 »

กรี้ดดดดอารัยกันค้าาา  :hao6: พี่กุนต์ โดนน้องจับชิมแล้วว  :z1:
แวะมาส่องก่อนนอน ไม่คิดว่าจะทันได้อ่านพอดี อิอิ ขอบคุณค่าา  :heaven

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1415 เมื่อ10-09-2016 02:21:58 »

 :jul1:  ตายอย่างสงบมาก

ตอนหน้าขอฟลูซีน พร้อมถุงยาง

รอฉากโอ๊ตปล้ำพี่กุนต์ด้วย 5555

ออฟไลน์ catchy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1416 เมื่อ10-09-2016 02:25:17 »

กรี๊ดดดดดเด็กมันร้ายยยยยยย พิ๊กุนต์รึจะทันมัน
ตอนนี้เริ่นต้นด้วยจิกหมอนเพราะเขิน :o8:
ตามมาด้วยเลือดพุ่ง :pighaun: ขนาดยังไม่ได้กันนะงื่อออ :-[

ออฟไลน์ wed4th

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1417 เมื่อ10-09-2016 02:47:47 »

เอาจริงๆนะ ไม่ทันได้เตรียมใจ
เปิดอ่านเข้ามาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น อ่านจบเป็นบ้า
ใจเต้นมากกกกกกก และคิดว่าเป็นเพราะเขายังไม่ได้กันดี(?) มันเลยเต้นแรงขนาดนี้
เพราะส่วนตัวคิดว่าถ้าเขาได้กันฉึบๆเลยเนี่ย มันจะไม่เร้าใจขนาดเน้  :hao7:
ทึ้งหัวตัวเองเลยง่ะ เขิน 5555555
เป็นกำลังใจให้นะฮับ ♡ อาจจะเม้นท์งงๆวนๆบ้าง เพราะตอนนี้เขินไปหมด /บิดตัวเป็นเลขแปด

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1418 เมื่อ10-09-2016 03:00:44 »

โอ๊ตอย่าคิดว่าพี่กุนต์เป็นตัวแทนของใครเชียวนะ  :katai1:

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1419 เมื่อ10-09-2016 03:13:47 »

ไอ้โอ๊ต!! แกลืมได้ไงเนี่ยของสำคัญ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
« ตอบ #1419 เมื่อ: 10-09-2016 03:13:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1420 เมื่อ10-09-2016 04:33:16 »

แอร๊ยยยยยยยยยยย ขนาดนี้แล้วครั้งหน้าไม่ต้องถุงเยิงถุงยางมันแล้วววว
เด็กมันร้าย มันเรียนรู้เร็ว  :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1421 เมื่อ10-09-2016 05:06:01 »

โอ้ตตตต ทำไมไม่พกถุงงง

แค่กๆ

ออฟไลน์ homnoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1422 เมื่อ10-09-2016 05:54:23 »

โอ๊ต รอบหน้าพกไปสักสามกล่องนะ เผื่อพี่ด้วย

ออฟไลน์ Loogling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1423 เมื่อ10-09-2016 06:39:22 »

โถ่วววว
ลุงก็ยอมหน่อยไม่ได้ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1424 เมื่อ10-09-2016 06:44:00 »

 :mew1:

ออฟไลน์ SOBANG✖

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1425 เมื่อ10-09-2016 07:06:00 »

หนูกุนนนนนนนนนนนนนต์ ~

ทำไมใจแข็งแบบนี้ห้ะะะะ

ไม่เข้าใจคนรอหรือไงงง #ฉันเองค่ะ

รอศุกร์หน้าแบบใจจดใจจ่ออออออ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1426 เมื่อ10-09-2016 07:30:57 »

โอ้ตตตต ทำไมไม่รู้จักเตรียมพร้อมมมม!!!!

ออฟไลน์ uchikas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1427 เมื่อ10-09-2016 07:32:03 »

ยาวได้ใจมากค่ะ ตอนนี้
เสียเลือดกันเลยทีเดียว เฮือกกก
ทำไมนังโอ๊ตลืมพกถุง แกไม่รอบครอบเอาซะเลยนะ
แต่แค่นี้คนอ่านก็จะไม่ไหวแล้วค่ะ
 :haun4:  :jul1:

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1428 เมื่อ10-09-2016 07:37:32 »

 :jul1:

ออฟไลน์ สายรุ้งสีเทา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1429 เมื่อ10-09-2016 07:41:04 »

 :serius2:

"ไอ้ตัวร้าย" ก็ชะโงกเข้าหาแล้วประกบปากลงอย่างไม่รีรอ
   
โอ๊ต เธอคือ ไอ้ตัวร้าย มาขอกินพี่กุนต์ของเราได้งาย

ถถถถถภ อย่าว่าแต่พี่กุนคนดีหายใจติดขัด เลาคนอ่าน ยังอ่านได้ทีละนิด ๆ พักไปสูดหายใจเข้าเป็นพัก ๆ เลย


รอวันโอ๊ต สด //จัดเลยๆๆ

รักนะ พี่กุน แต่จริง ๆ เลาทีมหื่น 5555

 :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
« ตอบ #1429 เมื่อ: 10-09-2016 07:41:04 »





ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1430 เมื่อ10-09-2016 07:43:53 »

ค่อยๆขยับ จากอยากลองจูบ ได้จูบแล้วติดใจ สุดท้ายเกินเลยแบบ  :hao7:

ต่อไปคงบ่อยๆ ถี่ๆ เด็กวัยรุ่นก็งี้ แรงเยอะ พี่กุนต์โดนแน่

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1431 เมื่อ10-09-2016 07:51:33 »

โอ๊ตค่ะ ต้องเอ็นดู อ่อนโยน ดูแลและใส่ใจสล็อตสูงอายุลูกผสมแฮมสเตอร์ที่ขี้อายและตกใจง่ายแบบพี่กุนต์ให้ดีน๊ะคะ :mew1:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1432 เมื่อ10-09-2016 07:52:46 »

ชอบคำว่าปั๋วเด็กกก รอพี่กุนต์ถูกเด็กกินวนไปค่ะ ><

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1433 เมื่อ10-09-2016 08:10:11 »

 :ling1:  ทำไมไม่ซื้อถุงยางติดตัวไว้เล่า ยืดอกพกถุงไง มาๆเดี๋ยวซื้อให้ยกกุลุดเลยยยยยยยยย  ปาดูเร็กซ์ใส่หน้ารัวๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1434 เมื่อ10-09-2016 08:15:32 »

 :haun4: แค่นี้ก็ฟิน โอ๊ตมิธรรมดา อิอิ รุก เร้า ดีจริมๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1435 เมื่อ10-09-2016 08:53:59 »

โอย...ใจเต้นรัวตามหนูกุนต์ไปติด ๆ
น้องข้าวโอ๊ตเป็นเด็กดี จะทำอะไรก็ขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน วุ้ย! น่ารักน่าหยิก

สารภาพว่า เรายังไม่อยากให้เขาได้กันจริง ๆ
แทะ ๆ เล็ม ๆ อ้าปากงับแก้มันเขี้ยวอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็กิ๊วก๊าวใจดีนะ


ปล. 1 : ในฐานะคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนไทย ฝาบ้านไม้มันไม่เก็บเสียงนะจ๊ะ ห้องใกล้ ๆ ทำอะไรได้ยินหมด  :hao6:
ปล. 2 : อยากเล่นเรือกะเฮลิคอปเตอร์บ้างงงงงง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2016 12:18:20 โดย alternative »

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1436 เมื่อ10-09-2016 08:56:20 »

โอ๊ย โอ๊ตตต คือเอาจริงๆ โอ๊ตอยากทำเพราะเป็นพี่กุนต์ แล้วก็ไม่ใช่แค่อยากลองใช่มั้ย พี่กุนต์จะรู้สึกไงหว่า คือแบบตัวเองก็ชอบโอ๊ต แต่มันก็แบบ อธิบายไม่ถูก คือพอเสนอความช่วยเหลือ มีข้อแลกเปลี่ยน แล้วโอ๊ตมาทำงี้กะทันหัน มันคงรู้สึกแบบกึ่งๆ อะไรแบบนี้มั้ย คือไม่มีทีท่ามาก่อน ดังนั้นจะรู้สึกมั้ยว่าอาจเป็นแค่หน้าที่จากข้อตกลงกันอะไรงี้ แต่ตัวเองชอบอีกฝ่ายอยู่ ดังนั้นอาจรู้สึกแบบครึ่งๆ กลางๆ รึเปล่า

*editเพิ่ม จะบอกว่าตอนนี้อ่านไปแล้วเขินไป แล้วแบบอ่านจบวรรคจะค่อย เลื่อนลงมาอ่านต่อ แบบว่าเขินมากมาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2016 09:30:18 โดย AeRoMoZa »

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1437 เมื่อ10-09-2016 09:07:42 »

ในอนาคต จับปล้ำสดๆ งั้นเหรอ
ก็นึกว่า ฟิลกูด โอ๊ตขอไม่ใช้พร้อมสารภาพเพราะคนที่ผมรักคือพี่ ไรงี้ 555555555
ตอนนี้ซาบซ่านดี ตื่นเต้น  คนนึงอยากลอง คนนึงโดนลอง555 //พี่กุนต์อย่าตีวินะ
ปล. เอาไงก็เอาๆ กันเยอะๆ เถอะ //นั่นน

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1438 เมื่อ10-09-2016 09:30:53 »

คนอ่านก็นกไปพร้อมๆกับโอ๊ต 5555555 :katai1:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.24] pg.48 -- 10/9/59
«ตอบ #1439 เมื่อ10-09-2016 09:37:53 »

ฮือออออ รุนแรงกับใจมาก
ใจเต้นตึกตักๆเลย โธ่ หนุ่มน้อย ลืมถุงได้ไงเนี่ยะ55
แต่ว่าตาโอ๊ตหื๊นหื่น จะตะครุบกินลุงเขาท่าเดียว
ซึ่งมันดีมาก คนอ่านชอบ5555
คุณข้างปั้นน่ะ ทำเราอยากอ่านฉากหึงเลย
หื้อ จินตนาการไปไกม
รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด