Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335756 ครั้ง)

ออฟไลน์ lukYRKM

  • Yesung ♥ Ryeowook | Kyuhyun ♥ Sungmin | FOREVER!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1560 เมื่อ17-09-2016 13:46:09 »

กว่าจะถึงประสบการณ์ครั้งแรกของโอ๊ต 5555555555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1561 เมื่อ17-09-2016 14:13:10 »

ต่างฝ่ายต่างเตรียมพร้อม~

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1562 เมื่อ17-09-2016 14:28:22 »

2(3)+2(3)=12

ครั้งแรกของหนุ่มๆ มักจะมากกว่า 1 แต่จะถึงโหลหรือเปล่าน้า

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1563 เมื่อ17-09-2016 15:18:49 »



โอ๊ตมั่นคงกับความรู้สึกที่มีต่อปาลินมาก
แต่เอาจริงๆ นะ ตอนนี้โอ๊ตไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังหลงพี่กุนต์แบบสุดๆ
เอะอะขอจูบ เอะอะขอกอด มาขอนอนด้วยอีกต่างหาก
นี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าได้กันแล้ว ไอ่โอ๊ต(เลียนเสียงพี่กุนต์)มันต้องหลงเมียแก่แบบหัวปักหัวปำแน่ๆ ฮึ!

ถุงยางสี่กล่องนั่นถ้าใช้ไม่หมดไม่ต้องกลับมากันนะ!

งานนี้ต้องขอบคุณคุณไผ่ค่ะ 5555555555555 คิดถึงเหลือเกิน นานๆ จะโผล่มาที ทูนหัวของน้อง
ยุยงส่งเสริมให้เขาได้กันขนาดนี้ ขอบุญกุศลในคราวนี้ช่วยทำให้คุณผัดไทยว่าง่ายกับคุณไผ่นะคะ #เดี๋ยววว

รอตอนที่ 26 ไม่ไหวแล้วค่ะะะะ
ง่อววววววววววว >_<

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1564 เมื่อ17-09-2016 16:08:55 »

รอจ้าาา   :-[ :impress2:
/ดาดฟ้า /ลมทะเล /ชายหาด /เสียงคลื่น /บรีซเซอร์ /ผ้าห่ม /และถุงย...  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ Minzero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1565 เมื่อ17-09-2016 16:43:40 »

อ๋อยยย(?) รอฉากต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :hao7: บรรยากาศกินนม  เอ๊ย! กินลมของเด็กหนุ่มและคนแก่จะเป็นเยี่ยงไรน๊าา  ลุ้น :katai5:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1566 เมื่อ17-09-2016 17:40:59 »

ตอนหน้าคงต้องเตรียมผ้าไว้ซับเลือดแล้วล่ะซิ  :m25: :m25: :m25:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1567 เมื่อ17-09-2016 18:05:06 »

ต่างคนต่างเตรียมการเลยค่ะคราวนี้ อิอิ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1568 เมื่อ17-09-2016 18:40:40 »

พึฟนเแลนอลาืลส้ขรกะค
โอ้ยยยยยย หวีดดดดดดดดดด
ดีมากอ่าาาา ฮือออ ฟีลกู้ดดดด
ยังไม่ได้รักตอนนี้ ปต่ไม่ใช่ตลอดไป ชอบฟีลเอาใจใส่ผูกพัน แล้วเดี๋ยวก็เป็นความรักที่มั่นคง
ฮึ้บบบบบบบบ
รักก

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1569 เมื่อ17-09-2016 19:22:39 »

นึกว่าจะตอนนี้ซะแล้ววว
จริงๆโอ้ตเริ่มมีใจให้กุนต์ละนะ ยกให้พี่มาก่อน คิดว่าทุกวันนี้โอ้ตหลอกตัวเองว่าที่รู้สึกดีๆกับพี่เพราะเรื่องบุญคุณ แต่เราว่าโอ้ตเริ่มชอบพี่เค้าแล้ว เริ่มอยากลองแบบไม่ตะขิดตะข่วนใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
« ตอบ #1569 เมื่อ: 17-09-2016 19:22:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1570 เมื่อ17-09-2016 20:35:23 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ tiamo1717

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1571 เมื่อ17-09-2016 20:53:05 »

อยากให้ถึงตอนโอ๊ตรักพี่กุนต์ไวๆ จังเลย จะได้ชีช่ำกะหล่ำปลีกะเขาบ้าง ชิชะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1572 เมื่อ17-09-2016 23:30:54 »

โอ๊ตยังไม่รักพี่กุนต์ตอนนี้ ก็ใช่ว่าต่อไปจะไม่รักนี่นา

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1573 เมื่อ17-09-2016 23:40:25 »

รอออออออออ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1574 เมื่อ17-09-2016 23:53:17 »

นังโอ๊ตตตตตตตตต  :z3:

ออฟไลน์ ปุยหมาม่วง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-7
Re: Sins : Greed -- [Ch.25] pg.51 -- 17/9/59
«ตอบ #1575 เมื่อ18-09-2016 00:03:27 »

โอ๊ตเป็นเด็กที่ใฝ่ดีมากๆ ที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ  สามารถยกเรื่องบุญคุณให้มาก่อนเรื่องความรู้สึกส่วนตัวได้ น้อยคนมากนะที่จะทำแบบนี้ได้

เราเข้าใจนะที่อ๊ตจะยังรักปาลินอยู่ เพราะนั่นแปลว่าโอ๊ตเป็นคนรักเดียวใจเดียวไม่ใช่คนหลายใจเพราะถ้าหากว่า โอ๊ตตัดใจจากปลาลินง่ายๆ เราก็คงอดคิดไม่ได้เหมือนกันนะ ว่าแล้วตอนรักพี่กุนต์ จะโลเลง่ายมั้ย

แต่เราก็เชื่อนะว่าตอนนี้น่ะโอ๊ตเองก็น่าจะรู้สึกดีกับพี่กุนต์เกินกว่าทำเพราะบุญคุณไปบ้างแล้วเพียงแต่ว่ายังฝังใจกับปาลินอยู่ เพราะก็ชอบมานาน

รักพี่กุนต์ พี่กุนต์เป็นเคะที่เรารักที่สุดตัวนึงเลยนะ
เค้าน่ารัก น่าเอ็นดู จิตใจดี และก็น่าสงสารไปพร้อมๆกัน

รออ่านตอนที่พี่กุนต์เสียใจแล้วโอ๊ตเป็นฝ่ายตามพี่กุนต์บ้าง (ชอบจริงๆดราม่าแบบนี้ 5555555)

หลังจากนั้นอิโอ๊ตแกต้องรักและดูแลอย่าให้พี่กุนต์เสียใจอีกนะ


ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1576 เมื่อ18-09-2016 00:20:45 »




Chapter 26




พวกเขาถึงรีสอร์ทตอนบ่ายโมงกว่า วันนี้แดดร่มลมตก ท้องฟ้าขมุกขมัวเหมือนใกล้จะมีฝน อากาศเย็นสบาย ลมทะเลพัดโกรก หอบเอากลิ่นไอบริสุทธิ์จากเกลียวคลื่นพัดเข้าหาฝั่ง
   
เจ้าของที่ออกมาต้อนรับ หลังจากพูดคุยแนะนำตัวแล้ว ทางนั้นก็พาไปที่ห้องพักสำหรับคืนนี้
   
“ไผ่บอกว่าพี่กุนต์จะมากับน้องอีกคน ยังไงถ้าไม่สะดวกจะให้เปิดบ้านอีกหลังก็บอกได้นะครับ” 
   
กนธียิ้มรับ เขาเดินตามหลังพลางมองสำรวจไปด้วย ส่วนต้อนรับแขกจะอยู่ด้านหน้าสุด ถัดไปเป็นบ้านหลังน้อยที่ตั้งเรียงรายเลียบชายฝั่ง พื้นที่สร้างรีสอร์ทยกสูงขึ้นจากระดับน้ำทะเลเกือบสองเมตร ด้านล่างเลยสร้างแนวเขื่อนกั้นไว้ไม่ให้หน้าดินถล่ม ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นบันไดเดินลงไปยังชายหาดที่ทอดยาว แต่หาดตรงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นก้อนกรวดและเศษหินมากกว่าเป็นเม็ดทราย

บริเวณหน้าบ้านเป็นสนามหญ้าสีเขียวสด มีแผ่นศิลาแลงปูเอาไว้แทนทางเดิน เพื่อนของพสิษฐ์เลือกบ้านหลังตรงกลางไว้ให้ เพราะมุมนี้จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกกลางทะเลได้สวยที่สุด

“ยังไงก็พักผ่อนกันก่อนนะครับ เอาไว้เย็นๆเดี๋ยวผมจะให้เด็กมาเชิญ” เขาให้พนักงานของรีสอร์ทช่วยแบกสัมภาระมาไว้ที่ห้อง

กนธีบอกขอบคุณ เขาชอบบ้านหลังเล็กๆของที่นี่ มันใช้บริเวณไม่มากนัก อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นห้องๆหนึ่งที่มีดาดฟ้าก็ยังได้ ผนังด้านนอกเป็นเนื้อไม้ ติดสปอร์ตไลท์หน้าบ้านสองดวงสำหรับให้แสงสว่างตอนกลางคืน ด้านข้างของตัวบ้านมีบันไดทอดยาวขึ้นไปบนดาดฟ้าโล่ง ข้างบนมีโต๊ะเตี้ยและเบาะวางเอาไว้ หลังคาที่สร้างคลุมอีกชั้นเป็นเพียงตับจาก ให้ความรู้สึกเหมือนกระท่อมบนชายฝั่ง

เลื่อนประตูกระจกสีขาวที่มีม่านทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวเข้าไป จะเห็นเตียงหนึ่งหลัง ความกว้างประมาณห้าฟุต พอนอนสองคนได้สบาย ข้างกันเป็นโต๊ะทำงาน มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้ใช้ มีตู้เย็นขนาดเล็ก ไม่มีทีวีกับโซฟา ในบ้านมีห้องน้ำในตัว ดูสะอาดสะอ้าน ไม่คับแคบชวนอึดอัดเกินไปนัก

รีสอร์ทแบบนี้ ดูเหมือนจะสร้างขึ้นมาเพื่อคู่รักมากกว่าการมาเที่ยวแบบครอบครัว เพราะดูขนาดบ้านแล้วไม่น่าจะอยู่กันได้เกินสามคน ถ้าหากว่าเขาคิดจะซื้อก็ต้องมีการปรับปรุงและขยายกลุ่มลูกค้าบ้าง เท่าที่เดินมาตั้งแต่หลังแรกจนหลังสุดท้าย เขาเห็นแขกมาเข้าพักไม่เกินสามหลังด้วยซ้ำ ทั้งที่ดีไซน์บ้านก็น่ารัก มีชายหาดส่วนตัว เงียบสงบไม่มีความวุ่นวาย

อินทัชวางเป้ของเขากับพี่กุนต์ไว้ชิดผนังด้านหนึ่ง คืนนี้งัวเงียตื่นมาจะได้ไม่เดินสะดุด

“เป็นไงโอ๊ต” กนธีหันมาถาม “พอนอนได้หรือเปล่า เขาบอกว่าเปิดบ้านอีกหลังให้ได้นะ”

“นอนได้พี่..ผมน่ะสบายมาก พี่นั่นแหละ สะดวกหรือเปล่า”

“หัวถึงหมอนก็ไม่รู้เรื่องแล้ว” 

อินทัชพยักหน้ารับพลางเอาถุงขนมไปคล้องหัวเก้าอี้ไว้ ขืนวางบนทางเดิน มดจะได้หามไม่ต้องหลับกัน

กนธีขยี้หัวเด็กหนุ่ม นึกเอ็นดูที่มันสนใจของกินออกนอกหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็เดินเล่นแถวนี้ไปก่อนนะ พี่ขอไปคุยกับทางเจ้าของนิดหนึ่ง ได้เวลาแล้วจะมาเรียกไปกินข้าว อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ไม่กลัวผีนะ”

ร่างสูงมองเหล่ “เห็นผมเป็นเด็กน้อยหรือไง”

“ก็เด็กสำหรับพี่อยู่ดี” เขาหัวเราะร่วน เลื่อนประตูแล้วใส่รองเท้าแตะ “ถ้าจะไปไหนก็พกมือถือกับกระเป๋าเงินไปด้วยนะ” 

คนฟังยิ้มรับ พอคล้อยหลังพี่กุนต์ เขาก็รื้อเสื้อผ้าออกมาพาดกับราวไม้ มันจะได้ไม่ยับ จากนั้นก็หยิบนมกล่องกับน้ำผลไม้ออกมา ตามด้วย Breezer ของคนใจแตกอย่างพี่กุนต์ จะได้แช่เย็นไว้สำหรับคืนนี้

ของอย่างสุดท้ายที่เขาหยิบออกมาทีหลัง ก็คือดูเร็กซ์สองกล่องนั่นแหละ

“เฟเธอร์ไลท์ อัลติมา..บางกว่ารุ่นเดิม” อินทัชนั่งยองๆอ่านตัวอักษร ตอนหยิบเขาก็ไม่ได้ยืนเลือกเสียด้วย “หนึ่งกล่องบรรจุสามชิ้น” เอามาสองกล่องก็หกชิ้นสิวะ แล้วมันเก็บไว้ได้นานแค่ไหนเนี่ย

เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวา สุดท้ายก็เอาเก็บไว้ในเป้ตัวเองทั้งสองกล่อง

มีเสียงไลน์เข้า อินทัชที่จัดของเสร็จแล้วเลยผละมาหยิบมือถือไปดู..เป็นปาลินที่ทักมาหา

ระยะนี้เขาก็มีคุยกันบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าเดิมเพราะพยายามหลีกเลี่ยง ยิ่งต่างฝ่ายต่างทำงานพิเศษของตนไปตามปกติแล้วไม่ได้เจอกันทุกคืนเหมือนสมัยที่ยังอยู่ Vin Santo ก็เลยแทบจะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก เขาเองก็ไม่อยากให้ทุกลมหายใจเข้าออกต้องระลึกถึงปาลินอยู่ตลอดเวลา เพราะแบบนั้นมันจะไม่ยุติธรรมกับพี่กุนต์ เอาแค่ยังรับรู้ว่าในใจชอบใครอยู่ก็เพียงพอแล้ว อย่าให้ถึงกับต้องเอาคนหนึ่งมาสวมรอยทับคนหนึ่งเลย มันไม่ดีกับทั้งสองฝ่ายหรอก

เขาปลดล็อกมือถือแล้วเปิดไลน์ออกอ่าน สักพักก็ขมวดคิ้วกับข้อความบอกเล่าจากอีกฝ่าย

‘ลาออกจาก Vin Santo แล้ว ตอนนี้รับสอนพิเศษให้เด็กแถวบ้าน ถ้ามีเพื่อนคนไหนอยากได้ภาพวาดไปแต่งบ้าน ก็บอกได้นะ เรารับทำ 55+’

อินทัชสัมผัสได้ถึงความเครียดผ่านตัวอักษร เขาเลยตัดสินใจโทรหา เพียงอึดใจเดียว ปลายสายก็กดรับ

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมลาออก”

‘ไม่อยากทำแล้ว ถึงเงินจะดีแต่ว่าระยะหลังแขกไม่ค่อยโอเค เพื่อนร่วมงานก็แย่ ไม่มีโอ๊ตอยู่..เราไม่สู้’

เขานิ่งเงียบไป “ขอโทษนะที่ทิ้งสนมา..”

‘ตลกน่า ไม่ใช่ความผิดโอ๊ตสักหน่อย โอ๊ตเองก็ไม่ได้อยากลาออกใช่ไหมล่ะ ความจำเป็นมันบังคับ ส่วนเราน่ะอยากออกแล้ว ฝืนไปก็ไม่ช่วยอะไร ไม่มีความสุข’

“แล้วจะไปทำอะไรที่ไหน หรือว่าพี่ศรไม่ให้ทำแล้ว”

‘ไม่นะ..เอาเป็นว่าพักนี้เขาแทบไม่ค่อยรู้อะไรเลยมากกว่า พอดีตอนนี้งานใหม่เขาดูยุ่งๆ บางทีก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ยอมรับว่าเงินเดือนดีมากเลย เจ้านายก็ใจดี ทำเอาพวกเราสบายขึ้นเยอะ แต่เราก็ไม่อยากรับฝ่ายเดียว เลยยังมองหางานอื่นเรื่อยๆน่ะ เพียงแต่ว่าไม่ต้องซีเรียสมากแบบแต่ก่อนแล้ว’

อินทัชพอจะโล่งใจขึ้นบ้างที่ได้ยินแบบนั้น “ตอนนี้เราสอนว่ายน้ำเด็กกับสอนพละคอร์สซัมเมอร์ที่โรงเรียนอนุบาลน่ะ เหลืองานร้องเพลงที่ร้านอาหาร จะเริ่มวันหยุดนี้”

‘โห..จริงดิ ร้านแถวไหน เขายังพอจะรับพนักงานใหม่หรือเปล่า’

“สนอยากมาสมัครหรือ” อินทัชถาม ใจหนึ่งก็ยินดี แต่อีกใจก็ไม่อยากจะใกล้ชิดกันมากนัก

‘ช่วงปิดเทอมมันว่างน่ะ ถ้าแค่ชั่วคราวก็อยากทำนะ ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ’

“เรื่องนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องถามพี่กุนต์เอา เขาเป็นหุ้นส่วนของร้าน” เขาตอบกลับ “ยังไงเราจะลองถามให้ แต่เงินเดือนมันไม่ได้ดีมากนะ ต้องรอจนกว่าพี่กุนต์จะเข้ามาดูแลบัญชีแบบเต็มตัว แล้วก็ต้องรอเขาปรับปรุงร้านดึงลูกค้าเพิ่มด้วย ตอนนั้นคงได้ทิปเยอะขึ้น” เท่าที่พี่กุนต์เล่าให้ฟัง เขาคิดว่าอนาคตร้านนี้คงสดใสกว่ามีเจ้าของแบบคุณไผทคนเดียวแน่

‘อือ..ไม่เป็นไร เราทำได้ทุกอย่าง ขอให้ได้เงินเถอะ ยังไงก็ขอบคุณโอ๊ตมากๆ’ ปลายสายพูดเสียงร่าเริง ‘โอ๊ตเองก็อย่าทำงานหนัก ดูแลสุขภาพแล้วรีบๆจีบพี่กุนต์ซะทีนะ คนดีแบบนั้นเดี๋ยวหลุดมือไปหรอก’

อินทัชยิ้มระอา ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็มีเสียงเคาะประตูบานเลื่อน เขาเปิดม่านดู เห็นว่าเป็นพนักงานของรีสอร์ทมาเชิญให้ไปทานมื้อเที่ยงที่ค่อนมาจนถึงบ่ายแล้ว

“เราวางก่อนนะสน ได้เรื่องยังไงจะไลน์บอกอีกที”

‘ขอบคุณคร้าบ’

อินทัชรอให้อีกฝ่ายตัดสายไปก่อนแล้วถึงเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง เขาเดินตามพนักงานไปตรงส่วนกินข้าวที่สร้างเป็นกระท่อมไม้ริมน้ำ มองจากพื้นไม้ไผ่เห็นคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก ทั้งสี่ด้านไม่มีกำแพง เรียกว่าเปิดโล่งจนหมด ลมเลยพัดโกรกเย็นสบายตลอดเวลา

“มากินข้าวกันโอ๊ต” กนธีกวักมือเรียก เขาเลือกที่นั่งริมสุด มีเสาไม้รวกขวางไว้ไม่กี่ท่อน ต้องระวังไม่ให้พิงเต็มตัว ไม่อย่างนั้นได้กลิ้งลงทะเลไปแน่ “พี่จำได้ ตอนนั้นโอ๊ตบอกว่าชอบก้ามปูนึ่งใช่ไหม นี่สั่งมาโลครึ่ง กินให้หมดนะ”

อินทัชเลิกคิ้ว มองก้ามปูเนื้อแน่นขาวอวบเพิ่งนึ่งมาใหม่ๆส่งกลิ่นหอมฉุยในจานเปล มีกุ้งทะเลเผาอีกโลกว่า ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ กับกะพงทอดน้ำปลา ทั้งหมดเป็นของโปรดเขาทั้งนั้น ส่วนจานตรงหน้าพี่กุนต์คือผัดผักดอกชมจันทร์

“พี่จำได้หมดเลยหรือว่าผมชอบอะไร”

“แน่นอน พักนี้กินกิงโกะด้วยน่ะ” กนธีหัวเราะ

“ความใส่ใจไม่ได้เกี่ยวกับความจำหรอกครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม “ขอบคุณจริงๆนะพี่..ที่เอาใจใส่ผมขนาดนี้ ปกติมันต้องเป็นหน้าที่ผมไม่ใช่หรือครับ”

จมูกของอีกคนแดงเรื่อขึ้นมา โดนเด็กมันจับไต๋ได้ เสียมาดหมด

“เอาน่า..ผลัดๆกัน ต่างคนต่างดูแล” กนธีตักเนื้อปลาไปใส่จานอีกฝ่าย “กินๆๆ”

“พี่ก็กินด้วยนะ อย่าเอาแต่ตักให้ผม” เขาแกะกุ้งไปใส่จานพี่กุนต์บ้าง พอเหลือบเห็นเจ้าตัวยกโค้กมาดื่ม เขาก็พูดปรามเหมือนบอกเด็ก “อย่ากินบ่อยนะครับ กระดูกพรุนหมด”

“ขอวันเดียวนะ” กนธีฉีกยิ้ม

“กินอาหารทะเล คอเลสเตอรอลเพียบ กลับไปผมจะต้มชาดอกคำฝอยให้ หรือจะเอาน้ำกระเจี๊ยบดี”

“ไม่เอาเปรี้ยว ไม่เอาขม”

“งั้นก็ชาดอกคำฝอย” อินทัชตักปลาให้พี่กุนต์ “คนอะไรกินยากชะมัด”

กนธีหัวเราะ นั่งกินนั่งคุยกับอีกฝ่ายอยู่สองคนท่ามกลางลมทะเลตอนบ่ายคล้อย ชีวิตเรียบเรื่อยแบบนี้ เขามีความสุขจริงๆ

หลังมื้อบ่ายเกือบเย็น อินทัชไปเดินถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อย ส่วนพี่กุนต์นั่งดื่มกาแฟและคุยงานกับทางเจ้าของรีสอร์ท เขาไม่ได้เข้าไปฟังด้วย ได้แต่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น พอไม่รู้จะทำอะไรก็เดินลงไปตรงหาด อัดคลิปวีดีโอ เก็บภาพเคลื่อนไหวและเสียงคลื่นไว้แกล้งน้องๆ

ฆ่าเวลาด้วยการเดินกลับไปกลับมา กระทั่งพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน เขาเลยปีนขึ้นมานั่งตรงสันเขื่อนแล้วถือโอกาสถ่ายรูปเอาไว้หลายช็อต แสงสีส้มเรื่อฉาบแดงคล้ำค่อยๆแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ตัดกับท้องฟ้าสีม่วงเจือจางและปุยเมฆขาวหม่น กระทั่งขอบสีแดงหย่อนลงผืนน้ำ ความมืดก็เริ่มโรยตัว

ลมเย็นชื่นพัดอ่อน เสียงคลื่นสาดเข้าหาฝั่งดังแว่ว ทอดสายตาไปเบื้องหน้า เห็นแต่ความเวิ้งว้างและเส้นขอบฟ้าที่ดูไกลสุดลูกหูลูกตา มีเสียงนกร้องตอนบินกลับรัง รอบด้านของเขาไร้ผู้คน มันเงียบสงบ แต่ก็รู้สึกเหงาหงอยไปในคราวเดียว

..เขาไม่ชอบแบบนี้เลย..อยากให้มีใครสักคนอยู่ด้วยมากกว่า..

“พระอาทิตย์ตกดินที่นี่สวยดีเนอะ” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง

อินทัชหันไปมอง เขาไม่รู้ว่าพี่กุนต์มายืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่กี่นาทีที่แล้ว ที่แน่นอนกว่านั้น ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวจากการปล่อยใจไปตามบรรยากาศกำลังถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกวูบไหวในอก

เด็กหนุ่มหลุบตามองพื้นหญ้าก่อนจะเงยขึ้นจ้องอีกฝ่าย เขาหลุดยิ้มจาง

ไม่ว่าเมื่อไร ไม่ว่าตอนไหน พี่กุนต์มักมาปรากฏตัวในเวลาที่เขารู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆเสมอ เป็นแบบนี้แล้ว มันจะไม่แย่เอาหรือ เหมือนกำลังถูกวางเงื่อนไขในชีวิต..ให้ขาดคนๆนี้ไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น

“คุยงานเสร็จแล้วหรือครับ” เขานั่งเพลิน จ้องทะเลจนลืมเวลาไปเลย ตอนนี้บ้านแต่ละหลังเริ่มเปิดสปอร์ตไลท์กันแล้ว

“อืม..หิวหรือเปล่า” กนธีถือไอศกรีมกะทิในลูกมะพร้าวมาด้วย “พี่เอามาเผื่อ กินสิ”

อินทัชตบลงบนขอบปูนข้างตัวเป็นเชิงบอกให้พี่กุนต์นั่งด้วยกัน กนธีเลยขยับไปนั่งบนสันเขื่อน ห้อยขาลงไปด้านล่างแล้วกินไอศกรีมต่อด้วยท่าทางน่าอร่อย

“ดูเหงาๆนะเรา เป็นโรคไม่ถูกกับทะเล?”

“เป็นโรคไม่ถูกกับการอยู่ตามลำพังมากกว่าครับ” อินทัชเขี่ยเนื้อมะพร้าวอ่อนขึ้นมากิน

“เป็นหนุ่มขี้เหงาซะด้วย” กนธีเขี่ยถั่วลิสงไปใส่ถ้วยอีกฝ่าย “ขอเนื้อมะพร้าวได้ไหม แลกกับถั่ว”

คนฟังขบขัน “ปกติแฮมสเตอร์ต้องชอบถั่วสิ ทำไมมาขอแลกถั่วกับมะพร้าวแทนล่ะ”

อีกฝ่ายเลิกคิ้ว “แฮมสเตอร์อะไรวะ”

อินทัชทำไม่รู้ไม่ชี้ เขาจะบอกได้ยังไงว่าแอบเปรียบเทียบพี่กุนต์เป็นสัตว์ตัวจ้อยสารพัดอย่างมาหลายครั้งแล้ว

“ให้ชิ้นเดียวนะครับ ผมก็ชอบเหมือนกัน” เขาแหย่ ตักเนื้อมะพร้าวไปใส่ไอศกรีมคนด้านข้าง

“โห..ชอบมะพร้าวมากกว่าพี่อีกหรือ พี่อุตส่าห์ชอบโอ๊ตมากกว่าถั่วเลยนะ”

อินทัชสำลักโขล่ก พี่กุนต์หัวเราะชอบใจที่ได้แหย่เขา ชอบเขามากกว่าถั่วที่เจ้าตัวมักเขี่ยทิ้งลงถังขยะเนี่ยนะ รู้สึกมีค่าอย่างไรชอบกล

“ผมชอบพี่มากกว่ามะพร้าว แต่ว่าของกินเนี่ย ต้องตีกันตายไปข้าง”

“ไอ้ขี้งก” กนธีเหลือบมองเนื้อมะพร้าวอย่างอาลัยอาวรณ์

“อ่ะๆ ยอมแล้วครับ” อินทัชได้แต่ส่ายหัว “จ้องแบบนี้ใครจะกินลง”

เด็กหนุ่มลอบมองคนที่กินไอศกรีมต่อท่าทางมีความสุข เขาชอบมองพี่กุนต์ ชอบที่จะได้เห็นคนๆนี้ร่าเริง พี่กุนต์เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นคนที่ทำให้เป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องพยายาม เป็นคนที่ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ เพราะรอยยิ้มอบอุ่นและความสุขสงบที่ฉายชัดออกมาทางแววตาอีกฝ่าย

“เหมือนยุงจะเริ่มมาแล้ว เราเข้าบ้านดีไหม ไปอาบน้ำทายากันยุงแล้วค่อยไปนั่งเล่นบนดาดฟ้าดีกว่า”

“โอเคครับ พี่เข้าไปอาบก่อนเลย เดี๋ยวผมต่อ”

กนธีเอื้อมมือรับลูกมะพร้าวที่เด็กกินหมดแล้วไปทิ้งขยะให้ จากนั้นก็เดินตรงเข้าบ้านที่อยู่ด้านหลังพวกเขาเพียงไม่กี่ก้าว อินทัชตามมาติดๆ ถ้าเปิดประตูทิ้งไว้นาน เดี๋ยวยุงจะเข้าไปหามเอา

“เออ..จำได้ว่าเอาผ้าเช็ดตัวมาด้วย” เขารื้อกระเป๋าเป้ “หรือจะลืมวะ”

อินทัชขำ ส่งผ้าขนหนูของเขาให้แทน “ใช้ของผมได้ไหม..”

“ขอบคุณครับ” กนธีรับมาแล้วลุกขึ้นยืน เขาปลดกระดุมเสื้อหลวมๆก่อนจะเอาผ้าพันท่อนล่าง พอกำลังจะถอดกางเกงก็ชะงัก “เอ่อ..ถ้าพี่ใช้ก่อน จะรังเกียจหรือเปล่า”

เด็กหนุ่มงุนงง “ที่ผมยื่นให้ ก็เพราะจะให้พี่ใช้ก่อนนี่แหละ”

“คือถ้าพี่เช็ดทั้งตัวเนี่ย..จะเป็นอะไรไหม เช็ดหัวถึงขาอะไรแบบนี้ ถ้าไม่สะดวก พี่สะบัดเอาก็ได้นะ”

ร่างสูงกลั้นขำ พี่กุนต์พูดเสียเห็นภาพชัดเจน “เลิกคิดเยอะแล้วไปอาบน้ำครับ”

“พี่เช็ดข้างล่างด้วยนะ อย่าเอามาเช็ดหน้าล่ะ”

อินทัชผลักกนธีเข้าห้องน้ำ พออีกฝ่ายปิดประตูลง เขาก็เอาหัวชนกับผนัง รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาหน่อยเมื่อคิดภาพอีกฝ่ายใช้ผ้าเช็ดตัวของเขาลากไปตามผิวเนื้อเปล่าเปลือย

..ยังมาคิดว่าจะรังเกียจอะไรอีก ในเมื่อ ‘จูบ’ ไปทั้งตัวแล้ว..

“โอ๊ต” เสียงเรียกดังมาจากในห้องน้ำ

อินทัชเกือบสะดุ้ง เพราะเขายังไม่ได้ออกไปไหนไกล “ครับพี่”

“พี่ลืมหยิบสบู่ น่าจะอยู่ในช่องเดียวกับแปรงสีฟัน วานหยิบมาพร้อมกันเลย”

เด็กหนุ่มเดินกลับไปค้นกระเป๋า เป้ของพี่กุนต์มีสารพัดช่องไปหมด หาไปหามา เขาก็เจอเข้ากับกล่องอะไรบางอย่างที่คุ้นตาเหลือเกิน “เฮ้ย..” เขารีบพลิกดู ไม่แน่ใจว่าพี่กุนต์เห็นถุงยางในเป้เขาแล้วเอามาเก็บไว้เองหรือยังไง

..แต่เฟเธอร์ไลท์ ผิวเรียบ..มันคนละอย่างกับของเขานี่..

อินทัชรีบรื้อกระเป๋าของตัวเองดูอีกครั้ง มันต่างกันตรงที่ของพี่กุนต์เป็นแบบบาง..แต่ที่เขาซื้อคือบางยิ่งกว่าบางเสียอีก แล้วแบบนี้จะใช้ของใครล่ะ

“โอ๊ต..หาเจอหรือเปล่า”

เขารีบยัดกล่องถุงยางอนามัยใส่เป้ตามเดิม แต่พอเห็นว่าใส่สลับกันเลยต้องเปลี่ยนมาคืนที่เก่า ของเขาบางพิเศษ แต่ของพี่กุนต์บางปกติ..น่าปวดหัวชะมัด

ร่างสูงเคาะประตูห้องน้ำ รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงไปหมดเมื่อระลึกได้ว่าพี่กุนต์มีถุงยางติดไว้เพื่ออะไร

กนธีโผล่หน้าออกมาจากด้านใน เขาเลิกคิ้ว มองคนที่ไม่กล้าสบตา “เป็นอะไร ไม่สบายหรือ เป็นไข้หรือเมารถเมาเรือ”

“เมาความบาง”

“ห๊ะ?” เขายิ่งงงกว่าเก่า “เดี๋ยวพี่อาบเสร็จแล้วไปขอยาให้ไหม”

“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวก็หาย” อินทัชส่งสบู่ แปรงสีฟันกับยาสีฟันให้คุณลุงขี้ลืม

กนธีผลุบหัวกลับเข้าไป สักพักก็อาบเสร็จ ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขายาวเรียบร้อย เขาเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ พอมาถึงเตียงก็เห็นว่าเจ้าโอ๊ตนอนแผ่อยู่

“ไม่สบายหรือเปล่า” เขาเอามือเย็นๆแตะบนใบหน้า รู้สึกว่ามันร้อนนิดหน่อย “หรือว่าติดไข้พี่”

อินทัชปรือตามอง เขาเผลองีบหลับไปสิบนาที พอเห็นว่าพี่กุนต์อาบเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง “ตัวผมมันร้อนเป็นปกติอยู่แล้วครับ ไม่ได้เป็นไข้หรอก”   

“ถ้างั้นก็หายห่วง เอ้า! ผ้ามันเปียกไปหมด ขอโทษทีนะ” กนธีสะบัดสองสามครั้งแล้วส่งคืน “พี่เช็ดแต่ข้างบน ข้างล่างเดี๋ยวพี่เป่าพัดลมเอา”

คนฟังขบขัน รับผ้าเช็ดตัวคืนมาแล้วเอาพาดบ่า ตอนกำลังหยิบชุดนอน พี่กุนต์ไปยืนให้พัดลมเป่าจริงๆ เขาเห็นแล้วอายแทน ทั้งยังรู้สึกวาบหวามแปลกๆด้วยเมื่อพาลคิดจินตนาการไปว่า พี่กุนต์คงจะอาบน้ำจนสะอาดหมดจด..เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเขาแน่ๆ 

..รู้สึกตื่นเต้นยังไงชอบกล..

“อาบน้ำแล้ว มันก็ต้องนี่..” กนธีรื้อตู้เย็นกุกกัก “Breezer! Come to daddy!”

อินทัชนึกขำ พี่กุนต์หอบขวดแก้วกับถุงขนมกรุบกรอบเต็มมือ เจ้าตัวบอกว่าจะไปขอน้ำแข็งกับแก้วจากทางรีสอร์ท เดี๋ยวค่อยเจอกันบนดาดฟ้า

ตอนเขาอาบน้ำเสร็จแล้วตามขึ้นไปด้านบน พี่กุนต์กำลังปลุกปล้ำอยู่กับการผสมเครื่องดื่ม เทนั่นนิดนี่หน่อยมาชิมแล้วทำหน้าปุเลี่ยน เขาเลยได้แต่หัวเราะ เข้าไปนั่งข้างกันและลองผสมให้

“อร่อย!” กนธีนึกชอบใจ เขาเปิดห่อขนมออกมากินก่อนเพื่อน “คาลบี้นี่รสจัดกว่าฮานามิอีก”

อินทัชเพียงแต่ยิ้มรับ เขาล้วงข้าวเกรียบในถุงมากินบ้าง มันรสจัดจริงอย่างที่ว่า

คนอายุมากกว่านั่งชันเข่า เอนหลังพิงไปกับหมอนสามเหลี่ยมพลางเงี่ยหูฟังเสียงคลื่น กลางคืนแบบนี้สงบเงียบ ได้ยินแต่เสียงลมพัด เสียงน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ แล้วม้วนตัวกลับลงสู่ผืนน้ำสีทึบ

“คืนเดือนหงายสินะ พระจันทร์ขึ้นเต็มดวงเลย” กนธีแหงนหน้ามองด้านบน ท้องฟ้าเป็นสีเข้มจัด เห็นกลุ่มดาวตัดกับพื้นสีดำที่แผ่กว้างออกไปสุดตาชัดเจน จันทร์สีเหลืองนวลปนส้มส่องแสงสว่างให้ความรู้สึกอุ่นอวลในใจ

“ท้องฟ้าที่น่านก็สวยเหมือนกัน” อินทัชเล่าให้ฟัง “บ้านผมอยู่ติดกับทุ่งนา ถ้าหากว่าพี่ไปยืนกลางที่โล่งแล้วเงยหน้ามอง จะเห็นดาวเต็มไปหมด ตอนดึกๆลมเย็นมาก อยากให้พี่ได้เห็นสักครั้ง”

“ถ้ามีโอกาสจะขอไปเที่ยวนะ” กนธียิ้ม สังเกตสีหน้าของเด็กหนุ่มแล้วรู้สึกได้ว่าเจ้าโอ๊ตน่าจะมีอะไรบางอย่าง “เป็นไข้หรือเปล่า แน่ใจนะว่าสบายดี”

อินทัชพยักหน้ารับ “ปกติครับ ไม่ต้องห่วง”

“อืม..สีหน้าไม่ค่อยสดชื่นเท่าไรเลยนะเรา” เขากระดกค็อกเทลขึ้นดื่ม “หรือว่ามีอะไรในใจ”

เด็กหนุ่มเงียบไป เขาโคลงแก้วในมือไปมา

“เฮ้..เราคุยกันได้นะ” กนธีเอาแก้วไปชนกับอีกฝ่าย “ดื่มเข้าไปอึกหนึ่งแล้วหายใจลึกๆ ถอนหายใจยาวๆ เสร็จแล้วบอกมาเลยว่าเป็นอะไร..พี่รับฟังได้ทุกเรื่องนะ”

“คือว่า..” อินทัชเกาท้ายทอย “เพื่อนผม..ปาลินน่ะครับ พี่จำได้ไหม” เขาหยุดเพื่อดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย พี่กุนต์พยักหน้ารับ “เขาลาออกจากงานแล้ว ตอนนี้กำลังมองหางานใหม่ แล้วเขาอยากมาสมัครที่ร้านอาหารของพี่กับคุณไผท”

“โธ่..เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวพี่กลับไปแล้วให้เขามาทำงานได้เลย” กนธีตอบรับในทันทีแบบไม่ต้องคิดซ้ำสอง “แต่เขาโอเคใช่ไหมเรื่องเงินเดือน คือมันต้องรอจังหวะดีกว่านี้ แล้วพี่รับรองว่าจะขึ้นเงินให้พนักงานทุกคน ขอให้ร้านอยู่ตัวก่อนนะ”

“เรื่องเงินไม่น่าเป็นปัญหาครับ” อินทัชพึมพำ อันที่จริงมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นเขาเองต่างหากที่อยากลดความใกล้ชิดระหว่างเขากับปาลินลง

อยู่ห่างกันเข้าไว้..มันน่าจะดีกว่า เขาไม่อยากให้ความรู้สึกที่มีต่อปาลินมันเข้มข้นขึ้นในระหว่างที่ยังเป็นเด็กของพี่กุนต์อยู่ เพราะแบบนั้นมันไม่ค่อยยุติธรรมต่อพี่กุนต์เท่าไร

“อือ..ถ้าอย่างนั้นก็ลงตัวนะ เริ่มงานได้เลย อยากมาทำวันไหนก็เอา เดี๋ยวปลายอาทิตย์นี้คุณไทก็กลับปากช่องแล้ว ให้น้องเขามาหาพี่โดยตรงก็แล้วกัน” กนธีดื่มเข้าไปอีกครึ่งแก้ว “ว่าแต่ปาลินนี่ชื่อเล่นอะไร พี่ยังไม่เคยถามเลย”

“ชื่อสนครับ..ย่อจากลูกสน”

“น่ารักดีวุ้ย” เขาอมยิ้ม “ดีแล้วแหละที่ออกจากงานที่นั่น เด็กๆแบบพวกเราน่ะ แต่ละคืนต้องเจอแขกไม่ซ้ำหน้า ที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอนิสัยแย่ มันก็พูดยากใช่ไหม แบบนี้พี่ว่าสบายใจกว่า ไม่ต้องกลับบ้านมืดค่ำดึกดื่นด้วย มันอันตราย น่าเป็นห่วงรู้ไหม”

อินทัชมองพี่กุนต์แล้วยิ้มบาง คนๆนี้ช่างห่วงได้หมด ต่อให้ไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมก็ตาม

..ทำไมถึงเป็นคนดีแบบนี้นะ..ยิ่งพี่ดีต่อผมมากเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกละอายมากขึ้นเท่านั้น..

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือ ทั้งผม..แล้วก็เพื่อน” เขาพูดเสียงเบา “ผมจะเป็นเด็กดีของพี่..จะไม่ทำให้พี่รู้สึกแย่ที่เลือกผม”

กนธีอดประหลาดใจไม่ได้ที่วันนี้เจ้าโอ๊ตดูเป็นการเป็นงานเหลือเกิน

“มีเรื่องอื่นอยากพูดอีกไหม ไม่ต้องคิดมากนะ อะไรที่พี่ช่วยได้ก็จะช่วย”

อินทัชส่ายหัว “ไม่มีแล้วครับ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว” ที่เขาคิดมาก ก็เพราะรู้เรื่องที่เด็กของพี่กุนต์แต่ละคนทำเอาไว้ เขาอดนึกไม่ได้ว่า การที่ขอให้พี่กุนต์รับปาลินเข้าทำงาน มันจะเข้าข่ายการหาประโยชน์เพื่อพวกพ้องหรือเปล่า ยิ่งตัวเขาเองก็รู้สึกกับปาลินเกินกว่าเพื่อนด้วย แต่คิดดูอีกครั้ง มันก็ไม่ใช่การหลอกลวงขอเงินทอง แต่เป็นการของานทำต่างหาก

“อืม..ถ้าอย่างนั้นก็เลิกเอาคิ้วชนกันได้แล้ว ทำหน้าเหมือนตอนคิดไม่ตกว่าจะไปทำงานใหม่ที่ไหนเลย”

กนธีเอื้อมมือไปนวดคลึงหว่างคิ้วของเด็กให้อย่างนุ่มนวล เขายิ้มเล็กน้อย รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่เด็กมาขอความช่วยเหลือ

“ผมทำหน้าเครียดขนาดนั้นเลยหรือพี่” อินทัชเพิ่งรู้ตัว เขาก้มหน้าลงให้พี่กุนต์นวดคิ้วให้

“เออน่ะสิ” ชายหนุ่มขบขัน เขาละมือไปลูบหัวอีกฝ่าย “จำไว้นะโอ๊ต..ทีหลังมีอะไรก็คุยกันเลย ไม่ต้องลังเล ไม่ต้องเกรงใจ เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน..เข้าใจไหม”

คนฟังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ ความรู้สึกอุ่นซ่านแผ่ขยายในอกกับคำว่า ‘ครอบครัว’

“ไหนๆก็คุยกันมาถึงเรื่องนี้แล้ว เรามาเปิดใจกันดีกว่า” กนธียกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับเคี้ยวน้ำแข็งกรุบๆ “ตั้งแต่มาอยู่กับพี่ โอ๊ตเป็นยังไงบ้าง ที่ผ่านมามีอะไรติดขัดอึดอัดใจไหม พี่ใช้งานหนักไป พี่เรียกร้องมากเกิน พี่ดูแลยาก หรือทำตัวอะไรไม่ดีให้เรารู้สึกแย่หรือเปล่า..คุยกันได้นะ”

อินทัชมองกนธีเหมือนคนบ้า ทุกคำถามที่พรั่งพรู มันบ่งบอกว่าพี่กุนต์ใส่ใจและแคร์ความรู้สึกของเขาอย่างแท้จริง

เด็กหนุ่มรู้สึกว่ากระบอกตาของเขากำลังร้อนผ่าว แค่รับเลี้ยง รับดูแล ให้ที่อยู่ที่กิน ให้ความเอื้อเอ็นดูทั้งเขาและน้องชาย ตลอดจนญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเขา เข้ามารับผิดชอบความเป็นอยู่ ทั้งเงินเดือน ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล นั่นก็มากจนเกินกว่ามากแล้ว คนๆนี้ยังจะมาเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึก ยังยกให้เขาเป็นหนึ่งในครอบครัวอีก

ทำไมไม่ตักตวงหรือเรียกร้องจากเขาให้มากกว่าที่เป็น ทำไมไม่ลดทอนความสำคัญของเขาลงไปสักหน่อย

..ดีกับผมให้น้อยลงกว่านี้ได้ไหม..

..ถ้าชีวิตผมเคยชินกับการมีพี่อยู่..ผมจะทำยังไงต่อไปล่ะ..

“อ้าว..ถามแค่นี้ ร้องไห้เลย” กนธีตกใจ น้องมันไม่ได้สะอื้นตัวโยนหรือน้ำตาร่วงไม่หยุดหรอก เขาเห็นเพียงหยดน้ำที่คลอขึ้นแล้วเลือนหายไปก่อนจะไหลลงมาต่างหาก “มานี่ซิเรา..”

อินทัชถูกดึงให้เอนตัวลงซบกับไหล่ลาด เขาหลับตานิ่ง สูดลมหายใจเข้าลึก รับรู้กลิ่นกายนุ่มนวลที่เป็นลักษณะเฉพาะของพี่กุนต์ ทุกครั้งที่ความคิดหรือความรู้สึกมันวุ่นวาย สับสน เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ได้ฟังเสียงอ่อนโยน ได้รับสัมผัสแผ่วเบาและการปลอบประโลมที่หวังดีต่อกัน มันก็ทำให้ใจเขาสงบลงอย่างน่าประหลาด

“ถ้าพี่ทำอะไรไม่ดีลงไป โอ๊ตก็บอกพี่นะ..ไม่ต้องเก็บเงียบ ไม่ต้องเกรงใจ คิดเสียว่าพี่เป็นพี่ชายคนหนึ่ง ตำหนิได้ ดุได้ ว่าได้ถ้าพี่ทำผิด โอเคไหม”

เขาพยักหน้ารับ “พี่กุนต์ดีกับผมทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ไม่ดีหรอกครับ” เสียงพร่าต่ำพึมพำ “ถึงจะดื้อไปบ้างบางครั้ง แต่ผมกลับคิดว่า..แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ”

กนธีหัวเราะเบาๆ ยีหัวเด็กมันด้วยความเอ็นดู

“ผมสัญญานะพี่..สัญญาจากใจ” อินทัชกระซิบ “ผมจะไม่มีวันหักหลังพี่ จะไม่ทำให้พี่ต้องเสียใจเหมือนกับครั้งก่อนๆที่พี่เคยโดนมา ผมไม่มีวันทำกับพี่แบบนั้น..ไว้ใจ วางใจในตัวผมนะครับ”

เขายิ้มบาง “อืม..พี่ไว้ใจโอ๊ต”


.

.

.



[ต่อด้านล่าง]





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2016 00:25:02 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1577 เมื่อ18-09-2016 00:21:05 »



.

.

.


ดวงตาสีอ่อนทอดมองอีกฝ่าย รอยยิ้มอ่อนโยนส่งให้กันและกัน อินทัชค่อยๆยันตัวขึ้น แต่ยังไม่ละสายตาออกมา

กนธีนิ่งเงียบ เขากำลังถูกนัยน์ตาคู่นั้นดึงดูดให้นิ่งเฉย ไม่มีใครพูดอะไรระหว่างกันอีก มีเพียงความเงียบที่ปกคลุม กับเสียงของเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าสู่ชายฝั่งเป็นระลอก มันสาดซ่าแล้วลากตัวเองดังครืน ถอยห่าง กลับลงสู่ท้องทะเลก่อนม้วนตัวเข้าหาดอีกครั้ง และอีกครั้ง

ท่ามกลางแสงสลัวเลือน ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้าหา กนธีหลับตาลงเมื่อริมฝีปากสัมผัสแตะต้องกัน

ปากอุ่นร้อนขบเม้มที่เรียวปากล่างแล้วเลื่อนขึ้นไปด้านบน ค่อยๆลากลิ้นโลมเลีย สอดเข้าไปในโพรงปากนุ่ม สัมผัสได้ถึงรสหวานและขมปร่าของเหล้าผสม ความหอมหวาน ความร้อนที่แอบแฝงจากปลายลิ้นเป็นตัวกระตุ้นเร้า

อินทัชเอียงหน้าเข้าหา เขาอยากจูบพี่กุนต์ให้มากกว่านี้ อยากถ่ายทอดความรู้สึกว่าเขามีความสุขแค่ไหนกับความใส่ใจดูแลที่อีกคนมีให้ และเขาก็จะมอบมันกลับไปอย่างซื่อตรง โดยไม่มีการดึงใครมาทับรอยใคร

จากจูบนุ่มนวล เริ่มร้อนผ่าวและหนักหน่วง เขาไล่ปากแตะจูบไปทั่วใบหน้าได้รูป ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก แก้มทั้งสองข้าง และจบลงที่ปากอีกฝ่าย วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

กนธีครางในลำคอ เขายกมือขึ้น สอดปลายนิ้วเข้าไปในกลุ่มผมสีเข้ม ประคองใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนเยาว์ของอินทัชเพื่อจะจูบตอบ เขาขบเม้มริมฝีปากอุ่นจัด เป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปกระตุ้น ลิ้นหนาขยับโต้ ก่อนที่อุ้งปากนั้นจะดูดกลืนลิ้นเขาอย่างกระหาย ต่างฝ่ายต่างตักตวงจากกันและกัน

ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าใต้ตัวเสื้อ สัมผัสหน้าท้องเรียบลื่นแล้วกอบกุมแผ่นอกตึงแน่น ใช้ปลายนิ้วบดคลึง ขยี้ยอดอกตามแรงอารมณ์แล้วเปลี่ยนเป็นบีบเคล้น เคล้าขยำจนเต็มแรง

อินทัชไล่จูบลงมาที่ซอกคอ ปฏิกิริยาส่วนล่างของเขากำลังเพิ่มขึ้น มันปวดร้าวและชาปลาบอย่างเรียกร้อง เด็กหนุ่มกดจูบที่ปลายคาง จากนั้นก็ขบกัด โลมเลียที่ปลายติ่งหูอย่างลุ่มหลง

เขาไม่ได้ชอบกลิ่นโลชั่นเต้าหู้หรอก เขาชอบกลิ่นกายของกนธีต่างหาก

ฟันขาวขบกัด พี่กุนต์ไหวตัวเล็กน้อยเพราะถูกฝังเขี้ยวเต็มแรง อินทัชดูดกลืน จงใจทำรอยไว้โดยไม่ได้คิดว่าเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าตัวจะเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน เขาแค่อยากจะเอาแต่ใจสักหน่อยก็เท่านั้น

ร่างสูงไล่ริมฝีปากลงมา มือข้างหนึ่งค่อยๆถลกชายเสื้อของอีกฝ่ายและเลิกมันขึ้นมากองที่ราวคอ เขาก้มลงต่ำ เหลือบมองคนตรงข้ามสักนิดคล้ายเป็นการขออนุญาต แต่เมื่อการตอบรับมีเพียงเสียงหอบหายใจแผ่วเบาและใบหน้าแดงซ่าน เขาจึงไม่คิดจะถามย้ำรอบสอง

อินทัชครอบปากลงบนยอดอก ตวัดปลายลิ้นและดูดกลืนเนื้อสีอ่อนเต็มแรง เขาขบเม้ม ดูดคลึงสลับกันทั้งสองข้าง ทิ้งร่องรอยเปียกชื้นและร้อนซ่านเอาไว้ตอนที่ไล่ปากลงไปยังหน้าท้องแบนราบ

กนธีถูกประคองตัวให้นอนลง ชายเสื้อเลิกขึ้นมากองอยู่ตรงคอ เด็กหนุ่มแทรกลงกึ่งกลาง แทบจะทาบทับเขาไว้ทั้งร่าง สองแขนแข็งแรงคร่อมทับ ยันน้ำหนักเอาไว้ตอนที่ใบหน้าได้รูปโน้มลงคลอเคลีย

ปลายนิ้วยาวสอดเข้าใต้ขอบกางเกง ค่อยๆนวดคลึงและกอบกุมบางอย่าง กระตุ้นเร้ากันบางเบา

คนอายุมากกว่าหลับตาแน่น เขากลั้นเสียงครางเอาไว้เพราะตรงนี้เป็นที่โล่งแจ้ง ถึงจะไม่มีใครผ่านไปมา แต่เขาก็ยังกังวลอยู่นั่นเอง

อินทัชหายใจถี่ เขายืดตัวขึ้นจูบปากอีกฝ่ายตอนที่จับช่วงขาเพรียวยาวให้ตั้งชัน ค่อยๆสอดมือเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อใต้ร่มผ้า ถลกขากางเกงขึ้นสูงจนถึงหัวเข่า ละมาจูบปลีน่องขาวก่อนวกกลับไปบดเบียดริมฝีปากกันอีกครั้ง ระหว่างนี้ เขาค่อยๆสอดนิ้วกลางเข้าไปยังบางส่วนที่อุ่นชื้น

กนธีตะครุบมือซุกซนของเด็กเอาไว้ กระซิบเสียงพร่า “ลงไปข้างล่างเถอะโอ๊ต” 

พวกเขาแทบจะเดินไม่ตรงทาง อินทัชร้อนใจ เกือบจะตวัดร่างอีกคนขึ้นอุ้มแล้วก้าวข้ามขั้นบันไดที่ดูทอดยาวเหลือเกิน แทบจะทันทีที่ประตูบานเลื่อนปิดลง คนทั้งสองก็กอดจูบกันจนแทบจะกลืนกิน

กนธีถูกยกขึ้นนอนบนเตียง เขารู้สึกกระดากอาย เลยบอกให้เด็กปิดไฟ อายุขนาดนี้แล้ว ร่างกายของเขามันไม่ได้น่าชมนักหรอก

“ไม่เอา” อินทัชปฏิเสธอย่างแง่งอน “จะอายทำไมครับ”

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก เขาตวัดผ้านวมผืนใหญ่ออกคลุมร่างแล้วค่อยๆถอดกางเกงออก ดวงตาของเขาพร่าพรายระหว่างที่มองอินทัชก้มลงหยิบบางอย่างในเป้

“พี่มีนะ..” กนธีพึมพำ

“ผมก็มี” ร่างสูงอมยิ้ม หยิบกล่องแล้วล้วงมาซองหนึ่ง ฉีกมันออกด้วยฟัน

เขาถอดเสื้อออกทางหัว เปิดเผยร่างเปลือยท่อนบนที่ดูแข็งแกร่งกำยำอย่างนักกีฬา กล้ามเนื้อเรียงตัวสวย หน้าท้องเป็นลอนได้รูป ช่วงแขนและบ่ากว้าง ไล่เรื่อยลงถึงช่วงเอวสอบกับสะโพกตึงแน่นให้ความรู้สึกร้อนระอุ

กนธีหายใจติดขัดเมื่อเด็กหนุ่มปลดกางเกงนอนทิ้ง เจ้าโอ๊ตทำแบบนี้อีกแล้ว..มันไม่ได้สวมชั้นใน

“ไม่ได้ใส่ทุกคืนเลยหรือ”

“เฉพาะวันที่อยากมีเซ็กซ์ครับ”

คนฟังหน้าร้อนผ่าว เขาเกลียดคำพูดตรงไปตรงมาของมันพอๆกับที่รักนั่นแหละ

อินทัชเคยเรียนรู้การใส่ถุงยางอนามัยมาแล้ว แม้ว่าจะไม่เคยลองปฏิบัติจริงสักหน แต่ภาคทฤษฎี อย่างไรก็ไม่สู้วิธีปฏิบัติ เขาเลยต้องให้พี่กุนต์ช่วยดู

“แบบนี้ใช่ไหมครับ” เขาบีบส่วนปลายแล้วครอบมันลงไป ค่อยๆรูดเนื้อยางลงมาจนสุดความยาวของความกระหายอยากที่กำลังตั้งชัน

กนธีหน้าร้อนจัด หลังจากเออออไปกับเด็ก เขาก็เอื้อมมือไปปิดสวิทช์ไฟ ไม่เคยชินกับอะไรที่ชัดเจนต่อหน้าแบบนี้ เขามันแก่แล้ว จะให้หัวใจสูบฉีดเลือดบ่อยๆ คงจะไม่เข้าท่านัก

“ทำอะไรน่ะ” อินทัชก้าวขึ้นเตียง จับข้อมืออีกคนไว้ “ไม่ปิดครับ ผมสายตาไม่ดี”

อีกคนได้แต่หลับหูหลับตา เด็กจะเลิกผ้านวมขึ้น แต่เขาขอให้ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น

“เข้ามาในผ้าห่มนี่”

อินทัชทำตามแต่โดยดี เขาค่อยๆสอดตัวเข้าไปทาบทับ เนื้อต่อเนื้อเปลือยเปล่า เพียงเฉพาะส่วนล่างเท่านั้นที่เป็นผิวกายโล่ง พี่กุนต์ไม่ยอมถอดเสื้อออก

“ยกแขนหน่อยครับ” เขากระซิบ บังคับดึงเสื้อยืดอีกคน “แบบนี้มันไม่สะดวก”

“อะไร..” กนธีถาม แต่แล้วเสียงก็หลุดหายไปในลำคอเมื่อศีรษะได้รูปมุดลงใต้ผ้าแล้วฉกปากลงครอบแผ่นอกของเขาไว้ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่ไม่ยอมตวัดผ้านวมทิ้ง มองอะไรไม่เห็นแบบนี้ เขารู้สึกว่ามันเสียวซ่านมากกว่าเก่าหลายเท่านัก

เสียงครางเครือดังแผ่ว อินทัชเลื่อนตัวกลับขึ้นมาทาบ แขนข้างหนึ่งสอดเข้าใต้ราวเอวแล้วโอบกระชับตัวพี่กุนต์ให้แนบกัน เขาสอดเข้าใต้ข้อพับขา ดึงให้ตวัดมาวางบนสะโพกเขา

“เดี๋ยวก่อนนะ..” กนธีสูดลมหายใจ เขาเอื้อมมือลงไปข้างล่าง สอดนิ้วที่ตัดเล็บสั้นเข้าไปนวดคลึงตนเอง เตรียมให้พร้อมสำหรับความต้องการของเด็กวัยรุ่นที่เรียกร้องอยากแนบชิด

“ได้หรือยังครับ” อินทัชเร่ง

“เดี๋ยว..รอก่อน” เขาหายใจถี่ หน้าเป็นสีแดงจัด

“ผมอยากเข้าไป”

“รอหน่อย..” เขาปรับลมหายใจ พยายามผ่อนคลาย แต่ความตื่นเต้นก็ทำให้ยังตึงเครียดอยู่ดี “น่าจะได้แล้ว..” เขาพึมพำ “ค่อยๆเข้ามานะ..ช้าๆก่อน อย่าเพิ่งสุด”

อินทัชรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง เขาประคองบางส่วน เสียดสี และดุนดันผ่านร่องสะโพกแล้วค่อยๆกดตัวเข้าไปทีละน้อย เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง หายใจแรงขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่าตัวตนของเขากำลังจมลงสู่ความคับแคบและร้อนพล่านที่พร้อมจะดูดกลืนลงไปจนสุดความปรารถนา

ดวงตาสีเข้มจ้องมอง สบประสานกับสายตาคนใต้ร่าง เขาหอบหายใจ นิ่วหน้าเมื่อตัวเองไหลลื่นเข้าไปอย่างเชื่องช้า ทุกการขยับสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุ ผิวเนื้อของพี่กุนต์เต้นตุบ ตอดรัดเขาจนแทบแหลกสลาย

อินทัชควบคุมตนเอง หยดเหงื่อผุดซึมขึ้นทั่วแผ่นหลังทั้งที่ในห้องเย็นเฉียบ เขาเลื่อนมือไขว่คว้าหามือของกนธี เมื่อเจอแล้วก็สอดนิ้วเข้าไปกอบกุม พี่กุนต์มองตาเขา ต่างฝ่ายต่างจ้องกันและกันเหมือนคนเสียสติ หัวใจคนทั้งสองเต้นรัวแรง

..เขากำลังอยู่ในตัวพี่กุนต์..

เขาจับมือเรียวไว้แน่น เจ้าตัวเองก็จิกนิ้วลงบนหลังมือของเขาตอนที่รับรู้ได้ว่ากำลังกลืนกินกันเข้าไปเพื่อประสานเป็นหนึ่งเดียว

กนธีครางแผ่ว จุกเสียดในช่องท้องเมื่อความร้อนจัดสอดใส่เข้ามาทีละน้อย เขาผ่อนคลายตัวเอง เปิดรับอินทัชเข้ามาอย่างเต็มใจ ทั้งยังมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆ

..เขากำลังมีอะไรกับน้อง..

..ในที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างกันก็แนบชิดขึ้นกว่าเก่า..

..หัวใจเต้นแรง รู้สึกดีจนแทบรั้งไว้ไม่อยู่..

“บ้าเอ๊ย..” อินทัชสบถ เขาล้มตัวลงกอดรัดพี่กุนต์แน่น ซุกหน้าลงกับซอกคอ ตอนที่สอดใส่เข้าไปจนสุด ตัวเขาก็เริ่มสั่นไม่หยุด “ผมจะออก..”

คนอายุมากกว่ายิ้มเอ็นดู ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบหัว “ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งขยับ”

หากว่าเพิ่งจะเริ่มต้นร่วมรักแล้วเสร็จสมภายในนาทีแรก เด็กหนุ่มก็คงรู้สึกแย่ยิ่งกว่าแย่ ดังนั้นเขาเลยไม่ยอมทำอะไร ได้แต่นอนนิ่งๆ ปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ทั้งที่เสียงหัวใจเต้นรัวเหมือนมีคนตีกลองไม่หยุด

กนธีฝืนตัวเอง เขาอยากให้เด็กเริ่มขยับ แต่ก็ยอมทนต่อความวาบหวามนี้ ปล่อยให้การสอดประสานหยุดนิ่งอยู่ร่วมนาที เขาเองก็ห้ามใจไม่ไหว เผลอขยับรัดอีกคนอยู่เรื่อย และทุกครั้งมันก็ทำให้เจ้าโอ๊ตร้องคราง

“พี่กุนต์..แน่นชะมัด” อินทัชพึมพำ “ทั้งร้อน ทั้งแน่น รู้สึกดีจนจะตายให้ได้”

เขายอมรับว่าภูมิใจและรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจพองโต ใครๆก็อยากเป็นที่หนึ่งของคู่ตนทั้งนั้น

“ไม่ไหวแล้ว ถ้าอยู่ต่อต้องแย่แน่” ร่างสูงค่อยๆยันตัวขึ้น “ผมจะทำแล้วนะ”

กนธีไม่โต้ตอบ เขาเสมองไปด้านข้างตอนที่ลำตัวใหญ่โตด้านบนถ่ายน้ำหนักลงช่วงแขนแข็งแรงที่คร่อมอยู่แถวศีรษะของเขา สะโพกแข็งแรงเริ่มขยับเนิบนาบ และมันก็เสียดรั้งโดนจุดอ่อนไหวภายในจนเขาต้องนิ่วหน้า

“มองผมสิพี่” อินทัชเรียกร้อง ตื่นเต้นจนเหงื่อไหลซึม

คนอายุมากกว่าหันกลับมา มองตาเด็กพร้อมกับพยายามควบคุมสีหน้าเสียวซ่านของตนเอง แต่พอการเคลื่อนไหวเริ่มเร็วขึ้น จากเชื่องช้าเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง เขาก็สูญเสียการควบคุม

กนธีหลับตาแน่น หลุดเสียงคราง ทั้งยังกอดรัดแผ่นหลังกว้างจนแน่น เนื้อเปล่าเปลือยแนบชิด ผ้าผืนหนาเสียดสี ร่างทั้งสองเคลื่อนไหวตามแรงส่งอยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่

อินทัชขยับต่อเนื่อง เร่งตัวเองหนักหน่วงอย่างยั้งไม่อยู่ ช่วงจังหวะหลังเหมือนเด็กน้อยที่ยังจับจุดไม่ติด ได้แต่ใช้เรี่ยวแรงกระหน่ำลงไม่ยั้งจนเตียงไหวคลอน กนธียอมรับว่าสามารถทำให้เขามีความสุขได้ แต่มันก็ยังรุนแรงเกินไปอยู่ดี

คนรองรับเป็นฝ่ายเจ็บตัว ความใหญ่โตเสียดรั้ง ลีลารักนั้นสร้างความสุขสม แต่ก็สร้างความเจ็บแสบเหมือนกัน หากเขาก็อดทนเมื่อทั้งร่างถูกกระแทกจนสุดอยู่สองสามครั้ง 

อินทัชกระตุกเฮือก ปลดปล่อยน้ำรักออกมาอย่างรุนแรงอยู่ภายใต้ปราการบางๆ เขาล้มฮวบลงทับพี่กุนต์ หอบหายใจเสียงดัง

“ขอโทษครับ..” เสียงทุ้มต่ำพูดอย่างสำนึกผิด เขารู้ว่าพี่กุนต์คงเจ็บ แต่เขาหยุดตัวเองไม่ได้ นอกจากนี้ มันยังน่าอายเหลือเกินที่เขาเสร็จสมอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าพี่กุนต์ทันได้รู้สึกหรือยังด้วยซ้ำ “ขอโทษจริงๆ”

กนธีค่อยๆปรับการหายใจให้เป็นปกติ เขาลูบแผ่นหลังกว้างปลอบใจ การร่วมรักครั้งนี้ใช้เวลาประมาณเกือบสิบนาที ถือว่าเร็วเกินไปสำหรับเด็กหนุ่ม แต่เขารู้ว่าน้องกลั้นไม่ไหว มันเป็นครั้งแรกของเจ้าโอ๊ต

“ผมมันห่วยใช่ไหม” เขาเป็นกังวล เงยหน้าขึ้นมอง “พี่คงไม่อยากมีเซ็กซ์กับผมอีกใช่หรือเปล่า”

“ใจเย็นๆโอ๊ต” กนธียิ้มเอ็นดู ใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดหยดเหงื่อบนสันจมูกโด่งให้แผ่วเบา “นี่เพิ่งจะครั้งแรก ไม่เป็นไรนะ พี่ไม่ถือหรอก”

“แต่ผมอยากทำให้พี่รู้สึกดี” เขามันแย่จริงๆ เอาแต่ตัวเองจนได้

เขาน่ะรู้สึกดีมาก มีความสุขจนโลกทั้งใบเหมือนดับวูบแล้วพลันสว่างโพลง มันเป็นจุดสุดยอดที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนแม้กระทั่งกับการช่วยตัวเอง การได้ใช้เนื้อต่อเนื้อแนบกัน สอดใส่ เสียดสี ขยับประสานไปพร้อมกันมันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินบรรยาย แต่ขณะเดียวกัน เขามันก็แค่เด็กวัยรุ่นที่ไม่ประสา สร้างความรู้สึกดีให้กับคู่ไม่ได้เลย

“แค่นี้พี่ก็รู้สึกยอดเยี่ยมแล้ว” กนธีอมยิ้ม “เป็นครั้งแรกที่ได้ขโมยเวอร์จิ้นของเด็ก ภูมิใจชะมัด” สำหรับในฐานะของเด็กที่เขารับเลี้ยงน่ะนะ..ไม่ได้หมายรวมถึงคนรักหรอก

“ผมเป็นคนแรกจริงๆหรือ” อินทัชลังเล “แล้วคุณศรัณย์..”

คนฟังขยี้หัวชื้นเหงื่อ “จะเปรียบเทียบกับเขาทำไมเล่า คนละคนกันอยู่แล้ว”

“ก็เขาเป็นที่หนึ่งของพี่”

กนธีหัวเราะ “รู้แล้วจะได้อะไรล่ะ” ใช่แล้วแหละ..ศรัณย์เองก็มีเขาเป็นคนแรกเหมือนกัน เช่นเดียวกับที่เขามีศรัณย์เป็นคนแรก ประสบการณ์ครั้งแรกของคนสองคน มันไม่ได้วิเศษนักหรอก แต่ก็มีความสุขสุดๆ

..เพราะมันคือช่วงเวลาที่ความรักของพวกเขาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน..

มันคือการเปลี่ยนแปลงนามธรรมให้ออกมาแบบรูปธรรม เป็นวิธีที่ง่ายดายและจับต้องได้มากที่สุด

อินทัชถอนหายใจ “ให้ผมแก้ตัวใหม่นะพี่” เขาค่อยๆถอดถอนตัวออกมา พี่กุนต์นิ่วหน้า เมื่อหลุดออกจากร่างของอีกฝ่าย มันก็เหมือนมีแรงดึงดูดเชิญชวนให้กลับเข้าหา จนเขารู้สึกได้ว่ายังต้องการไม่หยุด

เขาลงจากเตียง หยิบกล่องถุงยางที่เหลือออกมา กนธียันตัวขึ้นมองอย่างตกใจ

“ผมไม่อยากจะโทษไอ้บางเฉียบจนเหมือนไม่ได้ใส่นี่หรอกนะ ผมมันอดทนไม่ได้เอง พี่ยังไม่ทันเสร็จด้วยซ้ำ ผมก็ไปก่อนแล้ว” อินทัชพึมพำ “ยังไงก็ขอให้ผมแก้ตัวใหม่อีกหนได้ไหมครับ”

“เอ่อ..” กนธีพูดไม่ออก “ไม่ได้คิดจะแก้ตัวจนครบจำนวนที่มีอยู่ใช่ไหม”

“แค่มีสำรองไว้ครับ” เขาหัวเราะ ใช้ทิชชูจับขอบพลาสติกแล้วรูดมันออก สักพักหนึ่ง ตัวตนของเขาก็แข็งกร้าวขึ้นใหม่โดยใช้เวลาไม่นาน “พี่หายเจ็บหรือยัง มันบวมไหม ขอผมดูหน่อย”

“ไม่ต้องๆ” กนธีไม่ยอมให้เด็กเปิดผ้าห่มออก เขายังกระดากอยู่ 

“อย่าดื้อสิครับ..ผมจะดูหน่อย” เขายึดรั้งผ้านวมกับอีกฝ่าย จนสุดท้ายก็ดึงมันออกสำเร็จ

อินทัชประคองต้นขาเพรียวให้แยกออกกว้าง ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองช่องทางสีแดงก่ำเบื้องหลัง รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันบวมร้อนเพราะถูกเสียดสีรุนแรง

“ปล่อยพี่นะโอ๊ต” กนธีแทบจะเอาหน้าซุกหมอน อายุปาเข้ามาจนสี่สิบ ยังไม่เคยมีใครมาจ้องเขาอย่างพิจารณาขนาดนี้เลย “ถ้าไม่ปล่อยพี่ถีบนะเว้ย”

แทนคำตอบ อินทัชกลับคุกเข่าลงข้างเตียงแล้วกดจูบที่ปลายเท้าอีกคนแทน กนธีชะงักกึก เสียวปลาบเข้ามาถึงกึ่งกลางลำตัว เขาตื่นตะลึง มองใบหน้าหล่อเหลาไล่จูบตั้งแต่นิ้วเท้า เรื่อยขึ้นมาถึงน่อง ต้นขา หน้าท้อง และลากไล้มายังหน้าอก วนเวียนแถวซอกคอแล้วประกบปากจูบหนใหม่

เขาถูกจูบจนหมดเรี่ยวแรง ไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอบสนองเด็กมันไปตอนไหน รู้แต่ว่าประคองเสี้ยวหน้าของอินทัชให้เอียงเข้าหาแล้วดูดคลึงปลายลิ้นอุ่นตอบกลับ

อินทัชเอื้อมมือหยิบถุงยางซองใหม่ เขาฉีกมันออกโดยไม่มอง แล้วอาศัยจังหวะที่จูบกับพี่กุนต์ สวมมันด้วยความคล่องแคล่วขึ้น จากนั้นเขาก็ปีนขึ้นเตียง คลอเคลียข้างซอกคอแล้ววกกลับเข้าไปจูบใหม่

คราวนี้เขาจะใจเย็นขึ้น ลดความตื่นเต้นลง

กว่ากนธีจะรู้ตัวว่าถูกสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง ก็ตอนที่เด็กมันเริ่มขยับตัวแล้ว

“โอ๊ะ..” เขานิ่วหน้า เสียววาบในช่องท้องเมื่อถูกเติมเต็มจนล้น

อินทัชควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น เขาสอดปลายนิ้วเข้ากุมมือพี่กุนต์ไว้ “ไปพร้อมกันนะครับ..ผมจะพยายาม”

กนธีพยักหน้ารับ เขาหลับตาลง เผลอกัดปากตัวเองเมื่อส่วนใหญ่โตร้อนจัดชนเข้ากับบางจุดที่ทำให้รู้สึกวาบหวามกว่าปกติ อินทัชเหมือนจะจับปฏิกิริยาไหวตัวของเขาได้ทัน เลยนึกรู้ขึ้นมา

“ตรงนี้หรือครับ” เขาลองผิดลองถูก กระทั่งรู้ว่าส่วนไหนที่พี่กุนต์จะรู้สึกเป็นพิเศษ

คนถูกถามหลุดเสียงคราง เจ้าโอ๊ตจงใจกระแทกที่เดิม จากนั้นก็เน้นย้ำ จากเรียบเรื่อย เปลี่ยนเป็นเร่งเร้า รุนแรง และถี่รัว

“อย่า..โอ๊ต..” กนธีพยายามกลั้นเสียง คราวนี้เขาจะถึงจริงๆ “ไม่ไหว..”

อินทัชหายใจถี่ เขาเพิ่มแรงเน้นหนัก แต่พยายามไม่ทำให้พี่กุนต์เจ็บ เขาจับจังหวะได้ รู้ว่าตอนไหนควรช้า ตอนไหนควรเร็ว และตรงไหนที่จะทำให้รู้สึกดีกันทั้งสองฝ่าย

“กอดผมสิครับ” เขาโน้มตัวลงใกล้ สอดแขนเข้าโอบรัดลำตัวขาวสะอาด อ้าปากขบกัด โลมเลียไปตามไรฟันขณะที่สะโพกสอบเคลื่อนไหวหนักแน่น เขาขยับตื้นๆแต่ถี่กระชั้น เร็วและแรงจนร่างข้างใต้ไหวคลอน

อินทัชร้อนวูบ กอดพี่กุนต์แน่นขึ้นอีกเมื่อใกล้จะถึงฝั่งฝัน เขาครางเสียงพร่า สุดท้ายก็ฉีดพ่นน้ำรักออกมาเป็นหนที่สอง และมันยังคงเอ่อล้นอยู่ภายใต้ถุงยางที่สวมใส่

กนธียังไม่ถึงจุด ความรู้สึกของเขากำลังไต่ระดับ แต่เด็กหนุ่มก็ยอมแพ้ไปก่อน ดังนั้นเขาเลยเอื้อมมือลงมาเพื่อปลอบโยนตัวเอง แต่อินทัชไม่ยอมให้ทำ เจ้านั่นปรนเปรอให้เขาด้วยฝ่ามือ

ร่วมนาที เขาถึงจะตามไปอีกคน เป็นการถึงจุดสุดยอดครั้งแรก

คนสองคนหอบหายใจ กอดรัดกันและกันจนแทบเป็นเนื้อเดียว อินทัชยังคงไม่พอใจ เขาจินตนาการไว้ว่าตัวเองจะต้องอดทน ทำได้นาน และช่วยให้พี่กุนต์สุขสมได้หลายครั้งติดกันในขณะที่เขาสามารถร่วมรักได้เป็นชั่วโมง

พระเอกหนังเอวีมันคงใช้เทคนิคช่วยสินะ หรือไม่ก็เป็นเขาที่ห่วยบรม

“เด็กดี..” คนอายุมากกว่าจูบแก้มอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู “เลิกขมวดคิ้วได้แล้ว ไม่เห็นจะต้องซีเรียสอะไรนักหนาเลย”

อินทัชนอนซบอกพี่กุนต์ รู้สึกย่ำแย่เหลือเกินที่ตนเองห่างชั้นเกินไป

“เอาน่า..พัฒนาการแค่นี้ก็ถือว่าไวมากจนพี่ตกใจแล้วนะ” กนธีปลอบโยน “ค่อยเป็นค่อยไปดีไหม..ไม่ต้องรีบร้อนหรอก”

เด็กหนุ่มพึมพำในลำคอ “ให้ผมลองอีกครั้งได้ไหม..”

“พอก่อนเถอะ” เขารีบปราม “พี่จะตายอยู่แล้ว เหนื่อยมาก”

“แต่ว่า..”

“แง่ดีของเด็กๆก็คือแรงดีนี่แหละ แต่พี่น่ะแก่แล้ว ปกติแทบจะมีอะไรกับคู่เดือนละครั้ง คืนนี้คืนเดียวมีไปสองครั้งมันเกินโควต้าแล้วนะ” กนธีคงไม่ไหวจริงๆ “ไฟแรงให้น้อยลงหน่อยเถอะ”

อินทัชไม่ได้ตอบรับอะไร เขาแค่ค่อยๆพลิกตัวลงนอนหงายแล้วเป็นฝ่ายดึงกนธีเข้ามานอนซบอกบ้าง อยากจะเป็นที่พึ่งพิงให้อีกฝ่ายได้สักครั้ง อย่างน้อยก็กับเรื่องบนเตียง

กนธีนิ่งเงียบ รู้สึกใจเต้นรุนแรงกับการถูกสวมกอดเอาไว้ทั้งตัว เขาวางมือลงบนแผ่นอกแข็งแกร่ง สัมผัสความร้อนและความอบอุ่นจนกระทั่งผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน

..อย่าทำให้หลงไปมากกว่านี้เลย..


...................................................................................................







อึดน่ะอึดแน่ แต่พี่โอ๊ตมันแย่ที่เรือล่มปากอ่าว 55555555+   :hao7:

จากนี้ไป ไอ่โอ๊ตจะเป็นพระเอกคนแรกที่นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ น้ำ น้ำ  :z6:

/ก็ตามความเป็นจริงอ่ะเนอะ ก๊ากกก

/รอดูหลังๆก่อนเต๊อะะ จะหาว่าพี่โอ๊ตม่ายเตือน







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2016 00:57:25 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ wed4th

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1578 เมื่อ18-09-2016 00:29:06 »

"สุราเป็นเหตุให้เสียตัวได้นะครับ"

...   :ling1: :hao7:


กรี๊ดดด จะเม้นของตอนที่แล้ว ไม่เห็นว่ากำลังลงตอนใหม่ ขอโทษค่ะ T_T



“ไม่ได้ใส่ทุกคืนเลยหรือ”
“เฉพาะวันที่อยากมีเซ็กซ์ครับ”

เด็กบ้าาาทฟหหกวกวสกาำาแตไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2016 00:45:26 โดย wed4th »

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1579 เมื่อ18-09-2016 00:49:07 »

อิ๊ อ๊ะ พี่กุนต์กะโอ๊ต ต่อไปคงเกินเดือนละครั้งแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
« ตอบ #1579 เมื่อ: 18-09-2016 00:49:07 »





ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1580 เมื่อ18-09-2016 00:50:52 »

ทำไม๊ถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเสียซิงไปกับโอ๊ต ไม่ก็กำลังพร่าซิงโอ๊ตมันเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2016 04:53:03 โดย Freja »

ออฟไลน์ Aueizii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1581 เมื่อ18-09-2016 00:56:40 »

เรื่องจริงเลย 55555

ออฟไลน์ mox2224

  • :นักเขียนสมัครเล่น:
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1582 เมื่อ18-09-2016 01:17:25 »

ต่างคนต่างซื้อ ว้าว ใจตรงกัน55555555
ใช้หมดนี่คงตายกันไปข้าง(พี่กุนต์ฝ่ายเดียว)

เรื่องที่โอ๊ตจะมีอะไรกับพี่กุนต์แล้วคิดถึงปาลินนี่ถ้ามีก็ขอให้เป็นคิดถึงแบบ รู้สึกผิดต่อปาลินดีกว่า
ไม่เอาแบบคิดว่าพี่กุนต์คือปาลินเทือกนั้น ไม่อ๊าว

รออ่านตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อ

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1583 เมื่อ18-09-2016 01:21:31 »

ทำไมอ่านแล้วเขิน
อย่างนี้ต้องฝึกบ่อยๆแล้วโอ๊ต จะได้ชิน  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1584 เมื่อ18-09-2016 01:45:20 »

นะนะนะนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1585 เมื่อ18-09-2016 01:47:10 »

อู่วววววววว.เด็กมันไฟแรงงง 55555

ออฟไลน์ ice-cream

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1586 เมื่อ18-09-2016 01:49:17 »

อัพสองคืนติดเลย อ่านไปเขินไป ไม่ไหวแล้วววววววว :pighaun: โอ๊ตต้องฝึกบ่อยๆนะจ๊ะ

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1587 เมื่อ18-09-2016 01:51:15 »

นังโอ๊ตตตต พี่กุนต์ไม่ไหวค่ะ จำ!
โอ้ยยยเด็กนี่มันร้ายเหลือเกินค่ะพี่กุนต์ ฮืออออ

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1588 เมื่อ18-09-2016 01:56:31 »

เด็กๆมันแรงดีแบบนี้แหละน๊าาาา

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.26] pg.53 -- 18/9/59
«ตอบ #1589 เมื่อ18-09-2016 02:01:35 »

เป็นฉากมหัศจรรย์ที่น่ารักนะ ไม่หวือหวามาก แต่อ่านไปเขินไป เรื่องนี้เขาเน้น 'พัฒนาการ' จริงๆ ทั้งพัฒนาการด้านความรู้สึกและประสบการณ์ 55555555555555555  :o8: :-[

อ้างถึง
“ผมสัญญานะพี่..สัญญาจากใจ” อินทัชกระซิบ “ผมจะไม่มีวันหักหลังพี่ จะไม่ทำให้พี่ต้องเสียใจเหมือนกับครั้งก่อนๆที่พี่เคยโดนมา ผมไม่มีวันทำกับพี่แบบนั้น..ไว้ใจ วางใจในตัวผมนะครับ”

เขายิ้มบาง “อืม..พี่ไว้ใจโอ๊ต”

จากประโยคนี้ มีลางสังหรณ์ว่าจะต้องเล่นดราม่ากับจุดนี้แน่นอน อย่าหนักหน่วงมากนะ เรื่องนี้ฟีลกู้ดเน้อ 5555555

ปล. อ่านตอนนี้แล้วพี่กุนต์ให้ความรู้สึกเหมือนตาลุงแก่ๆ ที่สวมเสื้อฮาวายเลย ฮาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด