Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335829 ครั้ง)

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2850 เมื่อ06-12-2016 07:47:08 »

ตอนที่ 37 เหมือนจะหายไปนะครับ ข้ามมาที่ตอนที่ 38 เลยครับ


ตอน 37 อยู่หน้านี้ค่ะ -->  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52504.2610

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2851 เมื่อ06-12-2016 09:29:43 »

เอาแล้วไง คุณไผ่แอบทิ้งระเบิด
สะใจเบาๆค่ะ
โอ๊ตมันจะได้รู้สักที ถึงลุงจะแก่
แต่ลุงก็ยังไปเดทได้นะเว้ย
 :a5:

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2852 เมื่อ06-12-2016 09:35:57 »

ชอบแบบนี้แหละค่ะ

ออฟไลน์ +pEnGuIn+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2853 เมื่อ06-12-2016 09:53:32 »

ก็อยากให้มันอุ่นไปเรื่อยๆแบบนี้นะคะ
หวั่นใจดราม่าจริงๆน้ออออออ
โอ๊ตรู้ตัวซักทีเถอะว่ารักพี่กุนต์
อย่าทำให้พี่กุนต์เสียใจเลย สงสารลุงแก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2854 เมื่อ06-12-2016 10:19:08 »

 :katai2-1: ยกนิ้วให้หมาหัวเน่าของลุงเลยตอนนี้พูดได้ถูกใจที่สุด เอาซี้นุงโอ๊ต ไม่หึง ไม่คิดให้มันรู้ไปคนรอต่อคิวยังมีนะยะ วะ ฮ่า ฮ่า

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Chapter 39] pg.93 -- 5/12/59
«ตอบ #2855 เมื่อ06-12-2016 14:38:41 »

พี่กุนต์ของน้องง รักนะคะคนดี น้องอ้นน้องอุ้ม พี่อยากได้แพคกลับบ้าน

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2856 เมื่อ06-12-2016 17:56:33 »






Chapter 40






ปาลินตามมาสมทบกับคุณกนธีที่มูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้า ตอนแรกเขาไม่แน่ใจที่อยู่นัก แต่พี่กุนต์ไลน์แผนที่มาให้เลยเรียกให้แท็กซี่มาส่งเอา
   
เขาแวะสำเพ็ง ซื้อตุ๊กตาลูกหมาขนนุ่มแบบที่เหมือนกันมาประมาณห้าสิบตัว เด็กๆจะได้ไม่แย่งกันว่าของใครสวยกว่า พี่ศรก็ช่วยร่วมด้วยเมื่อรู้ว่าวันนี้เขาจะมาเลี้ยงอาหารเด็กกับพี่กุนต์ ตอนที่ลงจากรถถึงกับต้องแบกหลังแอ่น แต่ถึงแม้จะซื้อมามากแล้วก็คิดว่ายังไม่พอกับทุกคน คงต้องแบ่งกันเล่นและเลือกแจกเป็นวัยไปเพราะเด็กที่มีเยอะมาก ตั้งแต่วัยทารกจนถึงสิบกว่าขวบ
   
ปาลินมองซ้ายขวา ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ได้เวลาเลี้ยงอาหารหรือยัง จะโทรหาพี่กุนต์ก็เกรงใจ เลยต้องโทรหาเพื่อนสนิทแทน “โอ๊ต..เรามาถึงแล้ว”
   
อินทัชโผล่หน้ามาจากอาคาร เห็นปาลินแบกของเหมือนซานตาครอสเลยรีบวิ่งเข้ามาหา ฉวยได้ถุงใหญ่ยักษ์ก็คว้าขึ้นพาดไหล่ “ทำอะไรไม่ดูตัวเอง”
   
“มาถึงก็บ่นเป็นตาแก่เลย” เจ้าตัวย่นจมูก
   
“หรือไม่จริง” เขาส่ายหัว ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ “เช็ดเหงื่อซะ เด็กกะโปโล”
   
ปาลินทำเสียงฮึดฮัด คล้อยหลังเพื่อนก็เอาผ้าผืนนั้นมาเคี้ยวจนยับเยิน ดีล่ะ..หาว่าเขากะโปโล ไม่ต้องคืนมันเลย เอาไปรองขาโต๊ะให้เข็ด!
   
กนธีกำลังช่วยเจ้าหน้าที่เตรียมอาหาร พอเห็นปาลินก็ยิ้มทัก “น้องสน” เขามองถุงตุ๊กตาที่โอ๊ตเอามา “น่ารักจังครับ ขอบคุณนะที่มาช่วย”
   
ร่างเล็กยิ้มเก้อเขิน แต่คงยิ้มกว้างไปหน่อย อินทัชเลยผลักหัวจนเซ
   
“โอ๊ต..แกล้งเพื่อนอีกแล้ว” กนธีโบกมือไล่ให้ไปช่วยตักกับข้าว “น้องๆกำลังจะมากินข้าวเย็น โอ๊ตกับสนไปช่วยทางนั้นนะ ตักจากในหม้อใส่จานให้ที”
   
ร่างสูงพึมพำรับ อ้นกับอุ้มยืนข้างพี่กุนต์ ช่วยกันเรียงผลไม้สดกับขนมทองหยอดและฝอยทองใส่จาน คุณไผ่คอยตักข้าวให้ “เอ้า..มัวแต่เหม่อ” 
   
ปาลินเบะปาก เขาไม่ได้เหม่อ เขามองพี่กุนต์อยู่ต่างหาก เขาชื่นชมผู้ชายคนนั้นจริงๆ คนที่รวยแล้วมีใจนึกถึงคนอื่นน่ะ หาได้ไม่ง่ายนักหรอก
   
เศรษฐีหลายคนไม่ทันสังเกตคนที่ด้อยกว่าเพราะไม่มีเหตุการณ์ในชีวิตที่จะเอื้อให้ร่วมรู้สึกว่าคนที่ขาดแคลนต้องอยู่กันยังไง แต่คุณกนธีกลับเข้าใจและไม่เอาแต่เงยหน้ามองฟ้าหรือเดินอยู่เฉพาะโลกของตน
   
“ถ้าไม่ติดว่าเป็นของเพื่อนนะ..จะจีบจริงๆ” ปาลินบ่น
   
อินทัชเลิกคิ้ว วันนี้เมนูต่างไปจากมื้ออาหารทั่วไป พี่กุนต์ให้คนที่ร้านทำข้าวผัดปูเน้นเนื้อขาวอวบชิ้นโต กุ้งชุบแป้งทอด ไข่เป็ดทอดทรงเครื่องที่ราดจนเต็มหน้า กับต้มยำทะเลไม่ใส่พริก มีกุ้ง หมึก ปลากะพง เห็ดฟางแบบเต็มพิกัด
   
เจ้าหน้าที่ช่วยตักต้มยำใส่ถ้วย ส่วนพวกเขาตักข้าวผัดและวางกุ้งทอดกับไข่ดาวลงในจานหลุม เด็กๆเดินมาหยิบไปวางที่โต๊ะแล้วมาต่อคิวเอาจานขนมกับผลไม้ ตามด้วยเครื่องดื่มคือน้ำลำไยที่ใส่ลำไยแห้งจากเชียงใหม่จนแน่นแก้ว
   
“มีกับข้าวเผื่อทางเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ” กนธียิ้มให้ “ผมแยกไว้แล้ว”
   
อ้นช่วยหยิบขนมไทยที่พี่กุนต์ให้ที่ร้านทำ เน้นไข่แดงเต็มที่และปรับรสให้หวานน้อยลง อ้นเองยังน้ำลายสอ ตอนที่วางจานกับโต๊ะ มีเด็กชายคนหนึ่งเดินมารับ ดวงตากลมโตจ้องมองเขาและเงยหน้ามองพี่กุนต์ ใบหน้านั้นมีแววของความสุขแต่ก็ดูเศร้าและหงอยเหงาในคราวเดียว
   
“พวกพี่..” หนูน้อยอ้ำอึ้ง ทำเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่ก็ไม่พูด
   
กนธีก้มมอง ยิ้มให้อย่างใจดี “ไงเอ่ย..อยากได้เพิ่มไหมครับ บอกได้นะ” เขาให้น้องอุ้มใส่ถุงมือแล้วจับผลไม้เรียง ส่วนตัวเองตักลำไยล้นแก้วยื่นให้น้อง
   
ร่างเล็กส่ายหัว ก้มหน้าก้มตาเดินจากไป น้องอุ้มมองตาม พี่ชายคนนั้นยังไม่ได้น้ำลำไยเลย แต่ว่าดูไม่กล้าเข้ามาเอา ขนมก็ยังไม่มาหยิบ
   
กนธีอ่านภาษาเด็กออกเลยกระซิบกับน้อง “ช่วยพี่กุนต์หน่อยคนดี เอาขนมกับน้ำไปให้พี่เขาได้ไหมครับ ถ้าหนูอยากพูดให้กำลังใจเขาก็พูดได้นะ”
   
อุ้มพยักหน้ารัว ไอ้ตัวน้อยหยิบจานที่มีทองหยอด ฝอยทองกับผลไม้คือเมล่อนญี่ปุ่นและแอปเปิ้ลแจ๊ส เด็กชายเดินไปหาพี่คนเดิมที่ก้มกินข้าว
   
“พี่ชายฮะ” อุ้มฉีกยิ้มให้ รั้วหน้าแหว่งไปหน่อยแต่ก็กำลังมีฟันขึ้นเล็กๆ “พี่กุนต์ให้หนูเอามา พี่ยังไม่ได้ขนมกับน้ำ อ้าว..” ตัวเล็กมองซ้ายมองขวา บอกว่าพี่เขาไม่มีน้ำแต่อุ้มก็ลืมหยิบน้ำมาให้เสียเอง “แป๊บนึงๆ หนูจะไปเอาให้”
   
เด็กโตกว่าหันมอง หายไปแวบเดียว น้องก็เดินรี่มาถึงโต๊ะ มือป้อมยื่นน้ำลำไยที่ตักใส่จนล้นปริ่มมาให้ แต่น้องทำหกไปแล้วส่วนหนึ่ง “ข..ขอบใจนะ”
   
อุ้มยิ้มกว้าง “ขอให้พี่ชายมีความสุขนะฮะ”
   
เจ้าตัวมองค้าง ก้มหน้าลงต่ำอย่างประหม่า “มีความสุขหรือ..เวลาคนมาก็มีความสุขนะ แต่พอกลับไปก็ไม่มีความสุขเลย..อยากให้มาหาบ่อยๆจัง”
   
น้องอุ้มเอียงคอมอง “วันนี้หนูก็มีความสุข”
   
“ต้องมีความสุขอยู่แล้วแหละ มีคนดูแล มีครอบครัว มีพ่อมีแม่พร้อม”
   
อุ้มทำปากยื่น ส่ายหัวดิก “หนูไม่มีพ่อ ไม่มีแม่นะ มีแต่พี่ชายคนนู้น” เจ้าแสบชี้ไปทางพี่โอ๊ต “กับพี่คนนั้น” ชี้ไปทางพี่อ้น “แล้วก็พี่คนนี้” ชี้พี่กุนต์
   
“ตัวเองไม่มีพ่อแม่ด้วยหรือ” อีกฝ่ายถามอย่างงุนงง
   
“อื้อ! ไม่มีหรอก พ่อทิ้งไปแล้ว แม่ก็ตายแล้ว” อุ้มยิ้มให้ “แต่ว่าหนูก็มีความสุขนะ แล้วพี่ล่ะ..มีความสุขไหม โตขึ้นหนูจะเป็นคนดีแหละ” เรื่องที่พูดไม่ค่อยเกี่ยวข้อง แต่อุ้มอยากบอก “มีความสุขที่ได้เป็นคนดีก็พอ..พี่กุนต์บอกหนู”
   
เด็กชายน้ำตาคลอ..โดยไม่ทันรู้ตัว น้องก็เข้ามากอด

ความอบอุ่นจากการเป็นที่ต้องการของใครสักคนแผ่ซ่านในใจ พวกเขาแค่ต้องการมีคนรัก มีครอบครัวเหมือนเด็กคนอื่น แค่ถูกกอดเท่านี้ก็พอใจแล้ว
   
“หนูไปแล้วนะ” อุ้มโบกมือ “กินแล้วมีตุ๊กตาให้แหละ มานะ..มานะ”
   
“อือ..ขอบใจนะ”
   
อุ้มยิ้มเริงร่า วิ่งตุปัดตุเป๋กลับมาซบขาพี่กุนต์ กนธีคอยมองอยู่ตลอด พอเห็นแบบนั้นก็ลูบหัวน้อง แต่เขาไม่ได้ก้มลงกอดตอบหรอก เพราะไม่อยากจะแสดงความรักกับอ้นและอุ้มต่อหน้าเด็กที่น่าสงสารเหล่านี้ หากว่าจะกอดใครสักคน เขาก็ต้องการกอดทุกคนที่อยู่ที่นี่อย่างเท่าเทียม เลยได้แต่ออกปากชมน้อง
   
“เก่งจริงๆอุ้มของพี่ ทีนี้ก็มาช่วยกันใส่ผลไม้ต่อนะครับ” เขายิ้ม กลับไปนับเนื้อลำไยให้ถึงยี่สิบลูก นานๆจะได้กินที เขาอยากให้กินของดีแบบเต็มอิ่ม
   
เด็กๆยังทยอยกันมารับอาหาร หลายคนยิ้มให้ หลายคนบอกขอบคุณ หลายคนแสดงความดีใจอย่างไม่ปิดบัง อาหารอร่อย ขนมหวานแปลกตา ผลไม้ก็ไม่เคยกิน แล้วยังจะมีตุ๊กตามาให้อีก ทุกคนตื่นเต้นกันมาก
   
เด็กหญิงตัวน้อยเดินมารับน้ำลำไย เห็นเนื้อลำไยอันโต๊โตแล้วอดก้มลงงับมาชิมไม่ได้ “หวาย..อร่อยจังเลย ขอบคุณค่ะ” ย่อตัวไหว้จนติดพื้น

กนธียิ้ม มองอย่างเอ็นดู “กินหมดแล้วมาเติมอีกได้นะคะ มีเพียบเลย”
   
สาวตัวจ้อยยิ้มเอียงอาย ขยับออกไปให้เพื่อนมาหยิบบ้าง
   
กนธีตักน้ำใส่จนครบทุกคนแล้วก็ผละออกไปคุยกับเจ้าหน้าที่ นอกจากจะมาเลี้ยงอาหารเด็ก เขายังเอาของบริจาคที่จำเป็นมาให้ ทางคนดูแลขอบคุณและถามว่าเขาต้องการจะถ่ายรูปตอนส่งมอบไหม แต่กนธีปฏิเสธ
   
เขามาเลี้ยงเด็กๆในนามของตัวเอง ไม่ได้ทำในนามของบริษัท และทำเพื่อความสุขส่วนตัว ไม่ได้ทำเพื่อจะเอาภาพไปบันทึกในโปรไฟล์อะไร อย่างมากก็ส่งข่าวต่อกันเพื่อที่ว่าเพื่อนคนอื่นจะได้อยากมาเลี้ยงอาหารน้องบ้างเท่านั้น
   
“ขอบคุณนะคะ ทุกคนดูมีความสุขมาก” เจ้าหน้าที่บอก “เด็กทุกคนหวังและรอคอยให้มีคนมาเยี่ยม มาคุยและมากอดที่สุด”
   
กนธีรับฟังอย่างเข้าใจ ระหว่างยืนคุย มีน้องคนหนึ่งมายืนเมียงมอง เขาเลยยิ้มให้ เด็กน้อยโผเข้ากอดหมับ เอาหน้าซุกขาและรัดแน่นไม่ปล่อย
   
“อ้าว..คนเก่ง” ชายหนุ่มก้มลงใกล้ เพียงเท่านั้นเด็กก็เข้ามาซุกอก เขานิ่งอึ้ง หัวใจไหววูบไปด้วยความสงสาร ต้องยกแขนขึ้นกอดน้องและลูบหัวเบาๆ
   
“กินข้าวเสร็จแล้วหรือคะ..ไปกินข้าวก่อนเร็ว” คนดูแลบอก
   
เจ้าหนูส่ายหัวดิก ไม่ยอมปล่อยกนธี “พ่อจ๋า..พ่อมารับหนูเหรอ”
   
คนอายุมากกว่ารู้สึกจุกในอก ลำคอตีบตันขึ้นเหมือนมีอะไรขวาง ทางพี่เลี้ยงจะเข้ามาปลอบและพาไป แต่เขาขอเวลากอดน้องให้แน่นกว่านี้อีกหน่อย
   
“หนูน้อย” กนธีลูบหัวอย่างอาทร เจ็บปวดในหัวใจที่สุด

“เป็นพ่อของหนูได้ไหมจ๊ะ” เด็กชายมองด้วยดวงตากลมป๊อง “พาหนูกลับบ้านไปด้วยได้ไหม หนูอยากมีพ่อ อยากมีแม่ อยากมีคนกอดเหมือนคนอื่น”

เขาสะอึก ในอกเหมือนถูกบีบ เขาไม่สามารถพูดตอบรับอะไรที่จะเป็นการให้ความหวังเด็กออกไปได้ ทำเพียงแค่กอดน้องให้แน่น “ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นพ่อลูกกัน แต่ทุกคนที่มาที่นี่ก็มีความรักมาให้พวกหนูเต็มที่นะครับ”

ร่างเล็กดูซึมเซา มือน้อยๆที่เปื้อนคราบดำเพราะพี่เลี้ยงดูแลได้ไม่ทั่วถึงบิดชายเสื้อของคนตรงหน้า “จะมาหาหนูอีกใช่ไหมจ๊ะ”
   
กนธีสอดมือเข้าไปกุมปลายนิ้วของน้อง เขาเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเหนียวกลางฝ่ามือให้อย่างใส่ใจและไม่นึกรังเกียจทั้งที่เด็กน้อยเพิ่งจะเอานิ้วเข้าปากและเช็ดน้ำมูกของตัวเองมา เขายิ้มอ่อนโยน ลูบหัวชื้นเหงื่อเบาๆ
   
“พี่คงบอกไม่ได้ว่าจะมาอีกเมื่อไร” เขาปลอบ “แต่วันนี้ พี่ดีใจที่ได้มาหาหนูกับเพื่อนๆนะครับ ตอนแรกพี่กังวลมากเลยว่าหนูๆจะอยากเจอพี่ไหม”
   
“อยากเจอ อยากเจอมากๆเลย” เจ้าหนูพยักหน้าหงึก “พี่ๆใจดี”
   
กนธียิ้ม “พวกหนูเองก็น่ารักและต้อนรับพวกพี่ดีมาก ขอบคุณนะครับ” เขาเช็ดแก้มที่เปื้อนคราบน้ำมูกให้ “ทีนี้..เราไปกินข้าวกันนะ ข้าวเย็นหมดแล้ว”
   
เด็กชายเดินตามคนที่จูงมือไปที่โต๊ะอย่างเชื่อฟัง
   
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของอินทัชตลอด เขาตักอาหารเสร็จแล้ว กำลังช่วยปาลินนับตุ๊กตาอีกรอบ แต่นับผิดนับถูกอยู่เรื่อยเพราะไม่มีสมาธิ
   
“รู้ตัวไหมว่าตั้งแต่เรามา โอ๊ตมองพี่กุนต์ตาไม่กะพริบเลย” ปาลินแซว
   
อินทัชขมวดคิ้ว “พูดอะไรน่ะ” เขาคิดว่าไม่ได้เปิดเผยท่าทีออกไปแล้ว
   
“นี่..ถ้ารู้สึกอะไรกับพี่เขาก็แสดงให้ชัดเลยเถอะ” พูดด้วยสีหน้าจริงจัง บุ้ยใบ้ให้ดูผู้ชายที่ดีอย่างหาตัวจับยาก “หนึ่งในร้อยจะมีสักคนนะ”
   
ร่างสูงเงียบกริบ เขาหยุดนับแล้วเงยหน้ามองปาลิน ดูเพื่อนสนิทก้มลงสำรวจสภาพว่าไม่มีตุ๊กตาตัวไหนขาดหรือเย็บลวกๆ
   
..เมื่อไรกัน..ที่หัวใจไม่ได้เรียกร้องอยากให้มีอีกฝ่ายเหมือนเคย..
   
“ครบแล้ว น่าจะโอเคแหละ” ปาลินพึมพำ นี่คือครั้งแรกที่ซื้อของมาแจกเด็กเลยอดเกร็งไม่ได้ “เสียดายแฮะ พี่ศรน่าจะมาด้วย ใช่ไหมโอ๊ต..” เอียงคอมองคนที่ดูเหม่อลอย เลยโบกมือตรงหน้า “เฮ้..มองเลยไปไหน..คุณอินทัช”
   
เจ้าของชื่อจับปลายนิ้วที่ปัดไปมา เขากุมมันไว้ ค้นหาสัมผัสอุ่นละมุนและความห่วงใยที่เคยมีเมื่อได้อยู่ใกล้ชิด แต่ยิ่งสำรวจลึกลง มันก็ยิ่งเบาโหวง
   
ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยแสดงความรู้สึกที่เข้มข้นชัดเจนกับปาลิน เขาพอใจที่จะรักษาสถานภาพความเป็นเพื่อนเอาไว้ ยอมมองอยู่ไกลๆ ไม่ดิ้นรนอยากได้ ไม่ทุรนทุรายอยากครอบครอง ไม่เคยกราดเกรี้ยวหึงหวง ที่เป็นแบบนี้จะด้วยเหตุว่าเขาขี้ขลาด ไม่กล้าเสี่ยง หรือเพราะความรู้สึกยังหนักแน่นไม่พอให้สารภาพออกไปก็ตาม แต่เขาก็คิดว่าเขาชอบปาลินจริงๆ สังเกตจากความอบอุ่นที่เต็มตื้นในอกและความสุขเวลาอยู่ใกล้กันอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใครในชีวิต 

เขาเป็นแบบนี้มานานโดยไม่เคยคิดติดใจในความรู้สึกตน   

แต่มาวันนี้ ความชอบของเขากลับเบาบางและห่างไกลจนสัมผัสไม่ได้ มันไม่ได้มีความสุข ไม่ได้อยากใกล้ชิด ไม่ได้ใจเต้น ไม่ได้ต้องการมีตัวตนอยู่ในสายตาของปาลินอีก ความรู้สึกที่ราบเรียบและธรรมดาเหมือนสายน้ำในบึง ตอนนี้กลับยิ่งสงบนิ่งและจับต้องไม่ได้ราวกับหมอกควัน

..คล้ายกับว่า..เขาไม่ได้ชอบปาลินอีกต่อไป..

“โอ๊ต..” ปาลินอ้ำอึ้ง มองคนที่ประสานนิ้วลงมากับมือเขา “ทำอะไร”
   
อินทัชนิ่งเงียบ เขากำลังคิดไม่ตก..คำถามต่อมาก็คือ ความรู้สึกที่มีต่อปาลินมันลดน้อยถอยลงไป เพราะอะไร..เพราะใครบางคนที่ชื่อกนธีใช่ไหม
   
แล้วถ้าอย่างนั้น ความรู้สึกที่เขามีต่อพี่กุนต์ มันเข้มข้นจริงจังมากน้อยแค่ไหน จะมีวันลดทอนและเปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่า จะรับผิดชอบและรักษาคำพูดของตนโดยไม่ทำให้ใครบางคนเสียใจได้หรือไม่..ในเมื่อเขาเปลี่ยนใจจากปาลินเพราะกนธีได้..มันจะมีวันที่เขาเปลี่ยนใจจากกนธีไปหาคนอื่นไหม
   
..เขาไม่มีคำตอบตรงนี้เอาไว้เลย..
   
“โอ๊ต” ปาลินดึงมือหนี ทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนจ้องมอง “เมาค้างหรือไง”
   
อินทัชได้สติ เขาขยับตัวนั่งพิงเสาพลางหลุบตาลงต่ำ “เปล่า..”
   
“ถ้าเลิกเหม่อก็ขนตุ๊กตาไปตรงนู้นดีกว่า น้องๆกินเสร็จแล้วแหละ”
   
เขาพยักหน้า ก้มลงแบกถุงของไปวางที่ลานกิจกรรมโดยไม่ทันเห็นว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งมองมา..สายตาของคนที่เป็นต้นเหตุให้เขาวุ่นวายใจ

หลังจากเด็กกินข้าวเสร็จ กนธีบุ้ยใบ้ให้ปาลินเป็นคนแจกตุ๊กตาน้องๆเพราะเจ้าตัวอุตส่าห์ไปซื้อมา เขาเพียงแต่นั่งมอง ปรบมือไปกับความตื่นเต้นดีใจของทุกคนและคุยกับเจ้าตัวน้อยคนอื่นที่มายืนออ บางคนก็ขอให้เขากอดสักครั้ง
   
กนธีคุกเข่าลง กอดเด็กที่เข้ามาซุกในอ้อมแขน เขาลูบแผ่นหลังเล็กด้วยความอ่อนโยน “ขอให้หนูเป็นเด็กดีนะครับ..พี่ดีใจที่ได้มาเจอทุกคนนะ”
   
เด็กเล็กยืนเก้กัง อยากจะเข้ามาหาบ้างแต่ถูกเด็กโตเบียดเสียด กนธีผลัดไปกอดทีละคนและเป็นฝ่ายเดินไปหาเจ้าตัวจ้อยที่ไม่กล้าเข้ามา เขายิ้มให้ เอ่ยปากทักทายและลูบแก้มแผ่วเบา เพียงเท่านั้นน้องก็เข้ามากอดรัดแน่น

ทางด้านพสิษฐ์นั้น เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ เลยพยายามทำตัวลีบเพราะกังวลว่าเด็กจะกลัว แต่พอนั่งยองๆลงคุย เขาก็แทบถูกรุมทึ้งจากบรรดาเด็กหญิงเด็กชายทั้งหลาย ไม่ต่างจากอินทัชกับปาลินเลย

ทุกคนโหยหาความรักความอบอุ่น นั่นเป็นพื้นฐานของการมีชีวิต ไม่มีหัวใจดวงไหนจะแข็งแกร่งและเผชิญโลกภายนอกได้อย่างเข้มแข็งถ้าปราศจากพลังใจที่ดี การถูกทอดทิ้งสามารถสร้างความคิดฝังใจให้เด็กๆได้ว่าชีวิตนี้หนูคงไม่เป็นที่ต้องการของใคร ดังนั้นกนธีจึงมาที่นี่เพื่อจะเผื่อแผ่ความรู้สึกของคนที่อยู่บนโลกใบเดียวกัน เพื่อบอกว่ายังมีคนที่พร้อมให้ความรักกับน้องทุกคนเสมอ

อ้นกับอุ้มยืนมองพี่กุนต์กอดเด็กๆในมูลนิธิ ทุกครั้งที่พี่กุนต์กอดคนไหน คนนั้นจะยิ้มสว่างไสวเหมือนโลกทั้งใบมาอยู่ตรงหน้า อ้นกับอุ้มเลยจำภาพนั้นได้ขึ้นใจว่าการกอดกันมีความหมายและสร้างความสุขได้มากแค่ไหน

การเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าในวันนี้จบลงด้วยดี เด็กๆโบกมือและยิ้มให้พี่ๆที่มากันอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาเจ้าของวันเกิดอย่างกนธีเดินตัวเบา

อินทัชเก็บขยะพวกพลาสติกกับกล่องที่บรรจุอาหารใส่ถุงดำและทิ้งลงถังใหญ่ พวกถาดอาหารที่มาจากร้าน เขากับปาลินเอาไปเก็บไว้ท้ายรถตู้ ขามา มีพี่ที่ร้านขับรถกระบะมาส่งเพราะทำอาหารกันสดๆตอนเที่ยง เรียกได้ว่าวันนี้เด็กทุกคนได้กินของร้อนๆใหม่ๆ ทั้งคุณภาพดีและถูกอนามัยกันแบบถ้วนหน้า

“ครบหรือยัง” เขาถามเพื่อนที่วางถาดใบสุดท้าย

“อื้อ” ปาลินพยักหน้า ช่วยปิดท้ายรถ “ขอไปล้างมือก่อนนะ”

“เราไปด้วย” ร่างสูงเดินตามไปที่ก๊อกน้ำด้านหน้า เขารอสบู่จากปาลินและถูมือตัวเองบ้าง “วันนี้สนุกไหม เราไม่เคยมาที่แบบนี้เลย”

“มากๆ” เจ้าตัวยิ้ม “พี่กุนต์ทำให้เราคิดได้ว่า วันเกิดเราปีนี้ หาเวลาไปเลี้ยงอาหารเด็กหรือซื้อของไปแจกคนที่เขาไม่มีดีกว่า รู้ไหมว่ารอยยิ้มของทุกคนที่เราให้ความรักกับเขาน่ะ มันมีความสุขกว่าคำอวยพรที่เราได้มาหลายเท่า”

อินทัชยิ้มตาม เขาเองคงไม่ได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ถ้าไม่ได้มากับพี่กุนต์..คิดมาถึงตรงนี้ ความภูมิใจก็วาบเข้ามาอย่างไม่ให้ตั้งตัว

กนธีพาอ้นกับอุ้มไปขึ้นรถ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็หกโมงกว่าแล้ว เขาตั้งใจจะให้คนขับรถไปส่งปาลินที่บ้าน น้องจะได้ไม่ต้องเดินทางกลับเอง

“ไผ่เห็นโอ๊ตกับน้องสนหรือเปล่า” เขาถามพสิษฐ์ที่ยืนกินเมล่อนที่เหลือ

“น่าจะไปล้างมือนะ” ชายหนุ่มเคี้ยวเอื่อย “ยังเหลือไหม แบ่งมาบ้างสิ”

กนธีส่ายหัวระอา ไอ้หมอนี่ก็ตะกละเหมือนเขานั่นแหละ “มีอีกลูกสองลูกที่บ้าน คืนนี้มากินด้วยกัน พวกป้าๆเขาอยากกินพิซซ่า พี่เลยให้เขาโทรสั่ง”

คนฟังหัวเราะในลำคอ บ้านกนธีก็เป็นแบบนี้ วันเกิดเจ้าภาพไม่มีงานเลี้ยงรื่นเริงหรอก มีแต่ออกไปทำบุญ จากนั้นก็กลับมาทำอาหารหรือสั่งอะไรมากินแล้วแต่ว่าคนในบ้านจะอยากทานอะไร ปีก่อนไปบ้านพักคนชรา แล้วตบท้ายด้วยบาร์บีคิว ปิ้งย่างกับจุ่มแซ่บในสวน ไอเดียป้าคนครัว ปีนี้กลายเป็นพิซซ่า ปีหน้าอาจจะเป็นไก่เคเอฟซีหรือเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ก็ได้
   
“อยากกินสเต็กโคขุน” พสิษฐ์บอก “พิซซ่านี่มันแป้งนะ”
   
“พี่ไม่กินเนื้อเว้ย ถ้าอยากกินเอาไว้ไปปากช่องกับพี่แล้วจะเลี้ยง”   

คนฟังหัวเราะหึ “ไปหาไอ้ขี้เกลือน่ะหรือ..ผมไม่ไปด้วยหรอก”
   
กนธีขบขัน “เราอยู่บ้านเรา เขาอยู่บ้านเขา กลัวอะไรน่ะ”
   
“นั่นแหละ มีเพื่อนบ้านแบบนี้ ซวยบรม” พสิษฐ์ถอนหายใจ “ไปตามเด็กๆมาไป จะได้กลับกัน นี่ถ้าไม่เห็นว่าพี่จะเลี้ยงพิซซ่านะ ผมไม่กินจริงด้วย”
   
“ไอ้ขี้เกลือคนที่สอง!” เชื่อน้องมันเลย ติดเชื้อผ่านทางคำด่าหรือไง
   
กนธีเดินไปตามอินทัชกับปาลิน เห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ก็ยิ้มไปแต่ไกล
 
ปาลินเพิ่งล้างมือเสร็จ เขาเอี้ยวหลบเพื่อนที่ดีดน้ำใส่หน้า ไม่รู้หมั่นไส้อะไรนัก เขาแค่พูดว่าวันนี้พี่กุนต์ดูดี น่าจีบแค่นั้นเอง “เข้าตาหมดแล้ว~”
   
“โทษๆ..มานี่มา เดี๋ยวดูให้” อินทัชหัวเราะ “ไหนผ้าเช็ดหน้าเรา”
   
“เนี่ยเรอะ..กัดขาดไปเรียบร้อย” เขาชูให้ดู ไม่ได้ขาดจริงหรอก แค่แหย่
   
กนธีมองอินทัชที่ล็อคคอปาลินแล้วขยี้หัวจนยุ่งเหยิง เขาบอกกับตัวเองว่าเด็กทั้งสองสนิทกันดี และเจ้าโอ๊ตมีเพื่อนที่ดีแบบนี้เขาก็ควรวางใจ
   
“โอ๊ต..สน” เขายิ้ม “กลับบ้านกันเถอะ พี่จะให้คนขับแวะไปส่งสนด้วย”

“อ๊ะ..ไม่เป็นไรครับพี่กุนต์ ผมกลับเองได้” ปาลินยัดผ้าเช็ดหน้าคืนเพื่อน
   
กนธีหลุบตามอง ผ้าเช็ดหน้าลายสก็อตของ Burberry ผืนนั้น เขาจำได้ว่าซื้อให้อินทัชในวันที่ไปเดินห้างด้วยกัน เป็นวันเดียวกันกับที่ซื้อชุดนิสิตใหม่ให้ เพราะเสื้อตัวเก่ามันคับและกางเกงก็ขาสั้นขึ้นเพราะเด็กหนุ่มสูงขึ้นรวดเร็ว
   
เมื่อคิดว่าอินทัชยกผ้าเช็ดหน้าให้เพื่อนสนิทใช้ เขาก็เสียดแวบในใจ
   
กนธีปรามตัวเองให้หยุดงี่เง่า “มาเถอะ อย่าคิดมากเลย”
   
ปาลินดูเกรงใจไม่น้อยจนเขาสงสาร ถึงกับต้องนึกด่าตนอย่างหนักที่เผลอใจแคบแม้กระทั่งกับผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว..ช่างไร้สาระเสียจริง
   
“เอ่อ..ขอรบกวนด้วยนะครับ” ร่างเล็กหัวเราะแหะ ตามไปขึ้นรถตู้
   
อ้นกับอุ้มนั่งอยู่เบาะหลังกับคุณอาไผ่ เจ้าแสบสองตัวเดินกันมาทั้งวัน สุดท้ายก็ผล็อยหลับอยู่ข้างพสิษฐ์ที่ต้องแบ่งแขนซ้ายกับแขนขวาให้น้องๆพิง
   
อินทัชเข้ามานั่งข้างกนธี ฝ่ายนั้นหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูไลน์ที่ไม่ได้อ่านเกือบทั้งวัน เขาเหลือบมองเห็นบทสนทนาจากคุณไผทขึ้นมายาวเหยียด
   
ดูเหมือนว่าสองคนนี้ ต่อให้ไม่ได้เจอหน้าก็ยังคงติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ
   
“สายตาเสียนะครับ” เขาบอก “มันมืดแล้ว หน้าจอก็สว่างเกิน”
   
กนธีเลยเอื้อมมือเปิดไฟเหนือหัว อินทัชขมวดคิ้ว..คนอะไร รั้นกว่าเด็ก
   
“รถเคลื่อนอย่าเอาแต่เพ่งครับ” เด็กหนุ่มเตือน แต่อีกฝ่ายทำหูทวนลม สุดท้ายเขาเลยเอามือวางทับหน้าจอแล้วจัดการปิดไฟทันที “พี่มีตาคู่เดียวนะ ไลน์น่ะจะตอบเมื่อไรก็ได้ ให้เขารอแค่นี้คงไม่ดิ้นตายหรอกมั้ง”
   
คนฟังบ่นในลำคอ แว่วเสียงปาลินหัวเราะคึ่กๆแล้วชะโงกหน้ามาคุย
   
“ขี้บ่นเหมือนพ่อเลยใช่ไหมครับพี่กุนต์” เขาย่นจมูกใส่เพื่อน
   
กนธีส่ายหัวตาม หลุดยิ้มออกมาเมื่ออินทัชบ่นต่อ ไอ้เด็กเปรตนี่ถึงจะพูดมากและคอยตามประกบเหมือนผู้ปกครอง แต่เขาก็รู้สึกดีที่มัน..ห่วงใย
   
..แค่นี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง..ทำไมไม่รู้จักจำ..
   
รถของพสิษฐ์มาส่งปาลินถึงหน้าบ้าน กนธีเป็นคนเลื่อนประตูให้แล้วยิ้มส่ง บอกว่าค่อยเจอกันพรุ่งนี้ ปาลินเลยยกมือไหว้ขอบคุณ
   
“สุขสันต์วันเกิดครับพี่กุนต์ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ”
   
กนธียิ้มรับ อดละอายใจขึ้นมาไม่ได้ที่วูบหนึ่งเขาคิดอะไรไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย เด็กคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของอินทัช จะคิดเล็กคิดน้อยไปทำไม
   
“ขอบคุณมากนะน้องสน..เอาไว้วันไหนเราไปเที่ยวกัน” เขาชวนอย่างจริงใจ “เพื่อนพี่ที่อยู่ปากช่องเขาชวนไปเยี่ยมบ้าน ไว้ว่างๆไปกันนะ”
   
ปาลินดูเคอะเขิน ไม่ได้ตอบรับอะไรนอกจากยกมือสวัสดีแล้วยืนส่ง
   
“พี่จะไปจริงหรือครับ” อินทัชถามคนที่ขยับมานั่งที่เดิม
   
“อ้าว..แล้วจะไปปลอมๆทำไมล่ะ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี เวลาที่กำจัดความคิดด้านลบออกไปได้จะรู้สึกว่าใจเบาโหวง แบบนี้แหละดีที่สุด
   
“ผมว่าเขาชวนพี่คนเดียวมั้ง” ร่างสูงเหยียดปาก “คนอื่นน่าจะตัวแถม ตามไปคงเกะกะเปล่าๆ” คุณไผทยังไม่ออกปากชวนคนที่เหลือสักคำ
   
“คุณไทชวนพี่ไปบ้านเขา แต่พี่จะชวนพวกเราไปบ้านของไผ่..โอเคไหม”
   
อินทัชไม่โต้ตอบอะไร อย่างน้อยก็ดีกว่าการที่พี่กุนต์จะไปคนเดียว
   
เมื่อกลับมาถึง ปาร์ตี้พิซซ่าเล็กๆในสวนก็เริ่มขึ้น แสงสีเหลืองนวลจากหลอดไฟที่พันอยู่รอบต้นไม้ให้ความสว่าง โต๊ะยาวถูกลากออกมาวาง เด็กๆในบ้านช่วยกันตัดดอกไม้มาปักแจกัน จุดเทียนในแก้วเพิ่มความโรแมนติกอีกนิด เท่านี้การกินมื้อค่ำก็ดูเหมือนงานเลี้ยงย่อยๆแล้ว
   
ยายแวะมาหาครู่หนึ่งก่อนกลับไปพักผ่อน แกเพิ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จจึงไม่ได้มานั่งที่โต๊ะด้วย คุณพยาบาลพาแกเข้านอนแล้วเลยมาร่วมแทน
   
กนธีนั่งหัวโต๊ะ คอยฟังพวกเด็กๆคุยกันเฮฮาและเหมาพิซซ่าหน้าซีฟู้ดคนเดียวสามชิ้น กินปีกไก่แบบไม่กลัวเป็นโรคเกาต์ ตามด้วยขนมปังกระเทียมและน้ำอัดลมสองแก้วใหญ่แข่งกับอ้นและอุ้มจนเผลอสะอึกออกมาติดกัน
   
อินทัชไม่ค่อยชอบกินแป้งเยอะนัก เขาเน้นไปทางโปรตีนมากกว่า พอเห็นพี่กุนต์ซัดมื้อดึกเต็มที่แบบนั้นก็ต้องเดินมาหยิบพิซซ่าชิ้นที่สี่ออกจากมือ
   
“ชิ้นนี้ขอเป็นสลัดแทนดีกว่าพี่ เดี๋ยวก็อ้วนเป็นลูกขนุนหรอก”
   
“อ้นกับอุ้มคิดว่าพี่จะกลายเป็นลูกขนุนไหม” กนธีหาตัวช่วย
   
“ม่าย~” น้องๆส่ายหัวดิก “พี่กุนต์กินทั้งถาดก็ยังล้อหล่อ!”

เจ้าตัวเลยยักไหล่ อ้าปากงับแป้งหนานุ่มชิ้นนั้นเข้าไปจนได้ แต่พอเห็นเด็กมองคล้ายกับว่าเหนื่อยจะพูด เขาก็ต้องหยุดเคี้ยว เลื่อนสลัดจานเดิมกลับมาตรงหน้าก่อนยัดมะเขือเทศเข้าไปทีเดียวสามลูกจนแก้มตุ่ยอย่างเซ็งๆ

“เก่งมากครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม “ผมไม่อยากพูด แต่พี่อ้วนขึ้น รู้ตัวไหม”

กนธีกัดมะเขือเทศดังกร๊อบเป็นการแก้แค้น ก็ช่วงนี้เขาต้องทำงานที่ร้าน เลยไม่มีเวลาเข้าฟิตเนส ไม่ได้ออกกำลังกายเลยด้วย จะไม่อ้วนได้ไงวะ

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะจับพี่ไปเล่นกีฬา” อินทัชบอก “ผมเองก็เริ่มอ้วนแล้วเหมือนกัน อยู่ดีกินดีเกิน ขืนเป็นแบบนี้ต่อ เปิดเทอมมาคงต้องคลานไปเรียน”

“พี่ไม่มีเวลานี่ ต้องไปร้านทุกวันเลย”

“ถ้าตั้งใจจริงก็อ้างคำนั้นไม่ได้ครับ” เขาดุ “ครึ่งชั่วโมงก็ออกกำลังกายได้แล้ว ว่ายน้ำก็ยังดี หรือจะวิ่งเหยาะๆก็ไหว ผมรู้นะว่าพี่แค่ขี้เกียจ”

“ฮึ่ม..” กนธีเอาฟันฉีกผักเบบี้คอสเป็นชิ้นๆ เจ็บใจจริงๆให้เด็กมาว่า

พสิษฐ์ที่กำลังกินพิซซ่าชิ้นที่ห้าหลุดยิ้ม รู้สึกเบาใจไม่น้อยที่พี่กุนต์ได้เด็กมันมาดูแล ถ้าลุงคิดจะเริ่มต้นใหม่กับคนคนนี้ เขาก็คิดว่าไม่เลวนักหรอก

..แต่อันดับแรก..คว้าหัวใจของเด็กมันมาให้ได้ก่อนก็แล้วกัน..



.

.

.





ต่อด้านล่าง






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2016 18:08:57 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2857 เมื่อ06-12-2016 17:58:09 »



.

.

.





ปาร์ตี้ของทุกคนยังดำเนินต่อไป ช่วงดึก ลุงคนสวนเอาทีวีแบบพกพามาตั้งและส่งเสียงเชียร์การแข่งขันกีฬากับพวกป้าๆ กนธีอนุญาตให้กินเหล้ากับเบียร์ได้แต่ห้ามเอะอะโวยวายรบกวนเพื่อนบ้าน พวกนั้นเลยยิ่งสนุกกันใหญ่

ป้าแม่ครัวเอาเฟรนช์ฟรายทอดเองมาวางเป็นตะกร้า พอเห็นคุณกุนต์ลุกจากโต๊ะแล้วสะอึกสามครั้งก็ชวนให้อยู่ต่อ “เดี๋ยวมีแข่งบอล ดูด้วยกันไหมคะ”

กนธีโบกมือ สะอึกอีกรอบ “ตามสบายครับ ผมไม่ไหวแล้ว”

อ้นกับอุ้มกินจนพุงป่อง เด็กๆแทบจะเอาหัวจุ่มน้ำอัดลม พี่โอ๊ตอนุญาตให้ดื่มเต็มที่ได้วันเดียว คราวหน้าให้ดื่มนมแทนถ้าไม่อยากอ้วนและกระดูกพรุน

“พี่จะขึ้นแล้วหรือครับ” อินทัชที่กำลังลุ้นเกมการแข่งไปด้วยหันมามอง

กนธีพยักหน้า กวักมือเรียกสองหน่อให้มาด้วยกัน “พี่จะไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวอ้นกับอุ้มพี่ดูแลให้เอง..อึก” กระเพาะคนแก่นี่มันแย่จริง กินโค้กแค่นี้ สะอึกเรื่อย “โอ๊ตดูกับพวกลุงๆไปเถอะ แล้วไผ่..คืนนี้ค้างนี่นะ มีห้องให้ลุงคนขับด้วย”

พสิษฐ์กระดกเฟรนช์ฟรายในปากเล่น เขากำลังจ้องทีวีติดพันเลยโบกมือปัดๆ คิดว่าคงได้ดูแข่งบอลอยู่ในสวนจนข้ามวันกับพวกป้าๆลุงๆนี่แหละ

“ฝันดีสี่สิบเอ็ดนะพี่”

“อะไรวะ” กนธีมุ่นหัวคิ้ว “กินพิซซ่าจนเบลอหรือ”

“ราตรีสวัสดิ์ให้คนแก่ที่มีอายุเข้าเลขสี่สิบเอ็ดในวันพรุ่งนี้ไง”

“ไม่แก่แล้วไป!” พี่ชายอยากเตะน้องนัก แต่มีเด็กๆอยู่ด้วยมันจะไม่ดี
   
อินทัชกลั้นขำ หันมาเชียร์แข่งกีฬากับคุณพสิษฐ์ต่อ กนธีจูงอ้นกับอุ้มไปที่ห้อง เด็กๆนอนห้องใกล้คุณยาย แต่ก่อนก็นอนกับพี่โอ๊ต แต่หลังๆไอ้คนโตมันเกเร อ้างว่าต้องช่วยงานเขาเลยย้ายขึ้นไปอยู่ข้างบนเองแบบไม่ทันเชิญ
   
“มาครับ อาบน้ำกัน” กนธีถอดเสื้อให้น้องอุ้ม แต่น้องอ้นบิดไปบิดมา ไม่ถอดเสื้อผ้าสักที “แกะกระดุมไม่ได้หรือครับ” เขายื่นมือไปที่กางเกงน้อง
   
อ้นเบี่ยงหนี แก้มกลมเป็นสีแดงเข้ม “อ้นเขิน..พี่กุนต์อย่ามอง”
   
คนฟังหัวเราะพรืด สงสัยว่าน้องอ้นจะเริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว “โอเคๆ ถ้าอย่างนั้นพี่จะรออยู่ในห้องนะครับ อ้นพาน้องไปอาบน้ำ สระผมให้หอมๆแล้วกลับเข้ามาให้พี่เป่าผมนะ พักนี้อุ้มผิวแห้งเป็นขุยหมดเลย ลืมทาเต้าหู้ใช่ไหม”
   
น้องอุ้มหัวเราะแหะ ตอนนี้อุ้มแห้งไปยันหน้าเลย จับทีหลุดเป็นแผ่น
   
“ไปครับไป ยิ่งดึกเดี๋ยวจะไม่สบาย” กนธีเปิดประตูห้องน้ำ “เอาน้ำอุ่นไหมครับ พี่จะเปิดให้ แต่ตอนจะปิดให้เรียกพี่นะ มือเปียกๆห้ามจับครับ”
   
ชายหนุ่มต้อนลูกหมูสองตัวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวและปรับระดับน้ำให้อุ่นพอดีก่อนส่งให้เด็กๆ เขางับประตูเอาไว้และออกไปนอนรอที่เตียง
   
นานเท่าไรไม่แน่ใจ รู้แต่ว่ามีปากอุ่นร้อนเข้ามากดจูบที่ราวคอ ตอนแรกเขากลั้นหัวเราะ นึกว่าเป็นน้อง แต่พอมีมืดสอดเข้ามาใต้เสื้อ กนธีก็ลืมตาพรึ่บ

“เปิดช่องโหว่นะครับ” อินทัชยิ้มบาง “ถ้าเป็นคนอื่นคงปล้ำพี่ไปแล้ว”

กนธีก้มมองเสื้อที่เลิกขึ้นมาถึงหน้าท้อง “แบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าปล้ำ?”
   
เด็กหนุ่มหัวเราะหึๆ เขาคุกเข่าอยู่ข้างเตียง เลยเท้าแขนกับฟูก ชะโงกเข้าไปกระซิบข้างหู “ปล้ำของผมต้องมีการ ‘สอดใส่’ ครับ”
   
เขาเกือบจะบีบคอมันแล้วถ้าไม่ติดว่าอ้นกับอุ้มเปิดประตูเข้ามา น้องอ้นมีเสื้อคลุมตัวเล็กปกปิดเรียบร้อย ส่วนน้องอุ้มยังวิ่งโทงเทงอยู่เลย
   
“หัดอายบ้างสิวะไอ้อุ้ม” พี่โอ๊ตว่า โยนกางเกงในให้ “ขึ้นป.หนึ่งแล้วนะ”
   
กนธีเหลือบมองเด็กปีสองที่บางครั้งก็เดินเปลือยท่อนล่างต่อหน้าเขา
   
..นี่มันอิเหนาชัดๆ..
   
“เด็กๆปิดน้ำอุ่นแล้วหรือครับ” เขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้
   
“พี่โอ๊ตปิดให้หนูแล้วฮะ” น้องอุ้มวิ่งล่อนจ้อนไปที่โต๊ะ ปีนขึ้นเก้าอี้ไปหยิบโลชั่นเต้าหู้ลงมาบีบพรืดๆ แปะตามตัวแล้วเอาแป้งเด็กโรยจนเหนียวหนึบ
   
“ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนั้น” อินทัชถอนหายใจ “หมูชุบแป้งทอด?”
   
กนธีหัวเราะ เลือกชุดนอนตัวใหม่ให้ ชุดเก่าน้องๆใส่กันครบอาทิตย์แล้วเขาเลยเอาไปใส่ตะกร้ารอซัก “ลายเป็ดเหลืองน่ารักเนอะ”
   
อ้นเอาชุดนอนเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำตามประสาเด็กกำลังโต แต่น้องอุ้มอยากอวดรูปร่างที่แสนภูมิใจเลยกางแขนกางขาให้พี่กุนต์ใส่เสื้อให้
   
“พุงมันใหญ่จนมองไม่เห็นปลายเท้าแล้วนะอุ้ม” พี่โอ๊ตทัก
   
เด็กชายก้มลงมอง ยกขาขึ้นใส่กางเกงในลายเต่า “นี่..สะดือ”
   
“พี่หมายถึงพุง”
   
นิ้วเล็กๆจิ้มลงในรูโบ๋ “สะดือหนู..”
   
อินทัชเหนื่อยสุดๆ “โอเค..สะดือก็สะดือ อยากอวดสะดือว่างั้น”
   
กนธีหัวเราะตัวโยน กลัดกระดุมเสื้อให้น้องและอุ้มไปนั่งที่เก้าอี้ เอาไดร์ออกมาเป่าผมให้ น้องอุ้มหลับตาพริ้ม นั่งพิงอกพี่กุนต์อย่างสบายใจ ส่วนอ้นที่ใส่เสื้อเสร็จแล้วก็ตามออกมาและรอคิวเป็นคนถัดไป ไม่มีใครอ้อนพี่โอ๊ตเลย
   
“เอาล่ะเรียบร้อย หล่อทุกคน” กนธีเอาแปรงไม้มานวดหัวให้ กระตุ้นบ่อยๆ เลือดจะได้ไหลเวียน เส้นผมที่มีสุขภาพดีจะแข็งแรงและดำเป็นเงา
   
“นอนได้แล้ว” อินทัชหิ้วปีกสองแสบขึ้นเตียง “พี่ก็จะไปนอนเหมือนกัน”
   
อ้นยกแขนให้พี่ชายห่มผ้า น้องอุ้มก็ให้พี่กุนต์ห่มให้ หลอดไฟอันเล็กในห้องถูกเสียบไว้เผื่อว่าเด็กๆจะเข้าห้องน้ำ สองหน่อบอกฝันดีกับพี่ๆ
   
“สุขสันต์วันเกิดครับพี่กุนต์” อ้นบอกผู้ใหญ่ที่กำลังจะเดินออกนอกห้อง
   
กนธีหันมอง ยิ้มรับคำ “ขอบคุณครับสุดหล่อของพี่ ฝันดีเจอกันพรุ่งนี้”
   
อินทัชปิดประตูห้องนอนของพวกมัน เพิ่งมาคิดได้ว่าพอพี่กุนต์พาพวกเขามาอยู่ด้วย เขาถึงได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันกับอ้นและอุ้มหลังจากที่ปล่อยให้น้องดูแลกันเองมานาน นึกๆแล้ว..พวกมันก็ยังโตได้ไม่เท่าไรเลย
   
“อาบน้ำนอนกันเถอะ” กนธีหาวหวอด เขาเลิกสะอึกสักที
   
ร่างสูงตามหลังมา เขามองพี่กุนต์ที่ดูเหนื่อยๆ ฝ่ายนั้นเดินลากขาไปทางตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนตัวใหม่ที่แม่บ้านเอามาเก็บไว้พลางหาวอีกครั้ง
   
กนธีตาแทบปิด ขณะกำลังมองหาชั้นใน ฝ่ามืออุ่นร้อนก็ทาบลงต้นคอแล้วนวดคลึงอย่างเบาแรง เขายิ้มบาง ไอ้เด็กคนนี้มันช่างเอาใจเสียจริง
   
“นั่งรถทั้งวัน เมื่อยไหมครับ” อินทัชถาม ขยับมายืนซ้อนหลัง
   
“นิดหน่อย” เขาตอบ แตะปลายนิ้วและบีบกระชับ “ขอบคุณที่เป็นห่วง”
   
“ไปอาบน้ำเถอะพี่” เด็กหนุ่มกระซิบ เลื่อนแขนลงมากอดเอวไว้หลวมๆ เวลาที่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ เขาอยากสวมกอดและโอบตัวอีกฝ่ายให้แน่นหนา
   
..เพราะมันให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน..

กนธียืนนิ่ง ร้อนวูบที่หลังคอเมื่ออีกคนก้มลงจูบ เขาแทบยืนไม่ติด

“โอ๊ต..” เขาพึมพำ รับสัมผัสลมหายใจร้อนระอุที่รินรด “มีอารมณ์หรือ”

อินทัชหัวเราะแผ่ว เอียงหน้าซบกลุ่มผมนุ่ม “นิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าพี่เหนื่อย ไปอาบน้ำนอนเถอะ” เขาผละออก เดินเลี่ยงไปเปลี่ยนเสื้อ

กนธีนึกชั่งใจ พอหยิบชุดนอนได้ก็ตามออกมา เอื้อมคว้าชายเสื้อเด็ก

“ที่จริง..พี่สัญญาเอาไว้แล้ว” เขาพูดเสียงเบา “จะทำอะไรก็ยอม” 

อินทัชนิ่งอึ้ง มองคนที่เอาตัวเข้ามาขึ้นเขียงให้แล้วอดเอ็นดูไม่ได้ เขาต้องดึงเอวพี่กุนต์เข้ามาแล้วกอดแนบอก กดจูบสองข้างแก้มอย่างห่วงหา

“อย่าทำตัวแบบนี้บ่อยๆนะครับ ไม่งั้นผมฟัดไม่เลือกที่จริงด้วย”

กนธีมองเขม่น เขาเตะหน้าแข้งมันแบบไม่แรงนักแล้วถอยออก เด็กมันยืนยิ้ม ถอดเสื้อยืดทิ้งและเอาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวก่อนปลดกางเกงยีนส์ลงไปกอง

“มีพุงแล้วแฮะ” อินทัชมองตัวเอง “พรุ่งนี้ต้องเริ่มเข้าฟิตเนสสักที”
   
คนแก่กว่าเผลอจ้องตาม ไม่เห็นว่าหมอนี่จะมีพุงตรงไหน ช่วงแขนยังดูแข็งแรง แผ่นอกสีแทนล่ำสันและลอนกล้ามเนื้อยังคงเครียดครัด บั้นเอวสอบ สะโพกแน่นตึง กับหน้าท้องแนววีที่ผลุบหายลงใต้ผ้าขนหนู..ก็ยังดูดีเหมือนเคย
   
“มองแบบนี้ผมอายเป็นนะพี่” อินทัชหยิบเสื้อมาบังตัวเอง “เขิน..”
   
กนธีเพิ่งรู้ตัวว่าจ้องไปนานแค่ไหน ใบหูเขากลายเป็นสีแดงก่ำ
   
..เด็กวิทย์กีฬามันดีกว่าหมอจริงๆนั่นแหละ..
   
เขารีบเดินเข้าห้องน้ำ แต่พอเห็นเจ้าโอ๊ตยังนั่งยิ้มหน้าแป้นอยู่ก็หันมามอง “ไม่อาบน้ำหรือ” เขาเหลือบมองนาฬิกา “ดึกแล้วนะ”
   
“รอพี่อาบก่อนก็ได้ครับ ผมไม่รีบ” อินทัชยิ้ม “พอพี่เป่าผมเสร็จ ผมก็อาบเสร็จพอดีแหละ จะได้เข้านอนพร้อมกัน” เขาเช็ดหัวแป๊บเดียวก็แห้ง แต่พี่กุนต์จะต้องอืดอาด มะงุมมะงาหราเหมือนเต่ากลบไข่ไปอีกครึ่งชั่วโมง
   
“แล้วคืนนี้..” กนธีกัดปากตัวเองอย่างลังเล “ไม่..ทำหรือ”
   
“อา..” ร่างสูงครางในลำคอ พยายามอดใจไว้ “คืนนี้ไม่ดีกว่า” หักโหมเกินไปก็ไม่ดี เขาไม่อยากเอาเปรียบพี่กุนต์ “พี่เหนื่อยไม่ใช่หรือครับ ผมน่ะทนได้”
   
“อืม..เหนื่อย” เขาพึมพำ “งั้นพี่อาบก่อนนะ” ผลุบหายเข้าไปประมาณสองนาทีแล้วถึงจะโผล่ออกมาแต่หัว อ้าปากพูดอะไรบางอย่างด้วยแก้มแดงจัด
   
“น้ำไม่ร้อนหรือครับ” อินทัชเลิกคิ้ว ยังนั่งเล่นที่เตียงอย่างเกียจคร้าน
   
“เปล่า..” กนธีหลุบตาลงมองแต่พื้น ร้อนไปทั่วหน้า
   
“น้ำไม่ไหล?”

เขาส่ายหัว พูดเสียงเบา “ถ้า..จะเข้ามาอาบด้วยกัน..ก็มาได้..นะ” จากนั้นก็ปิดประตูดังปังใหญ่ หายเงียบไปอีกห้านาทีถึงจะมีเสียงฝักบัว

อินทัชงุนงง เขาคิดว่าได้ยินอะไรแว่วๆเช่น..เข้ามาอาบด้วยกัน

เด็กหนุ่มร้อนวูบ คิดอย่างไรไม่รู้ถึงได้เดินไปหน้าห้องน้ำ ทดลองหมุนลูกบิดแล้วก็ต้องตกใจเมื่อมัน..ไม่ได้ล็อค เขาเลยค่อยๆผลักเข้าไปภายใน

ข้างหลังบานกั้นกระจกมีฝ้าขาวขึ้นจับ เสียงน้ำตกกระทบพื้นดังแว่ว ไอร้อนของน้ำอุ่นวาบออกมาจนเขานึกสงสัยว่าพี่กุนต์ไม่กลัวผิวสุกหรือไง

อินทัชแก้ความสงสัยนั้นด้วยการปลดผ้าเช็ดตัวที่พันท่อนล่างลงไปกองกับพื้นแล้วก้าวเข้าไปในที่อาบน้ำ ลำคอแห้งผากเมื่อไล่สายตาลงดูร่างเปลือยที่กำลังสระผมอย่างไม่รู้อะไรเลย เขาจดจ้องภาพตรงหน้าด้วยความเผลอไผล

ปลายผมสีดำสนิทเปียกลู่ลงมา ฟองขาวเกาะเคลียหัวไหล่ พี่กุนต์ยังหลับตานิ่ง แหงนหน้ารับน้ำจากฝักบัวระหว่างยกมือขึ้นลูบแชมพูออกจนหมดจด เจ้าตัวกดสบู่เหลวแล้วลูบลงตามผิวเนื้อ หากเป็นผู้ชายคนอื่นก็คงจะอาบเสร็จภายในไม่กี่นาที แต่กับคนที่เชื่องช้า ทำอะไรไม่ทันการแบบนี้ มันทำให้ภาพที่ดูธรรมดาๆกลายเป็นภาพที่ชวนให้ปลุกเร้าอารมณ์อย่างรุนแรง

อินทัชตื่นตัวจนปวดร้าวไปหมด ส่วนนั้นของเขาพลุ่งพล่านออกมา

เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปด้านหน้า ใช้ปลายนิ้วไล้ลงบนส่วนโค้งของแผ่นหลังเรียบเนียน พึมพำเสียงพร่าต่ำ “พี่ครับ..”

กนธีหันขวับมามอง เขากำลังล้างหน้าอยู่เลยไม่ทันได้สนใจ ชายหนุ่มลืมตากะทันหันจนโฟมเข้าเต็มที่ “แสบๆๆ” รีบวักน้ำขึ้นล้าง “ข..เข้ามาตอนไหน”

อินทัชไม่ตอบ ทันทีที่พี่กุนต์หันมาทางเขา ร่างสูงใหญ่ก็ผลักอีกฝ่ายไปชิดกับผนัง อุ้งมือกร้านคว้าเข้าปลายคางแล้วก้มลงฉกจูบทันที

ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าภายใน บดจูบอย่างตะกรุมตะกราม พี่กุนต์สำลักจนหน้าแดงก่ำ ป่ายมือพยายามจะกดปิดฝักบัวแต่เขายึดรั้งไว้ก่อน

“เดี๋ยวโอ๊ต..พี่..หายใจไม่ทัน” เขาเบือนหนี ดันบ่ากว้างออก

“ผมคิดว่าคืนนี้จะไม่ทำแล้วเชียว” อินทัชสบถ เขาซุกไซ้ที่ราวคอแล้วกัดลงเนื้อขาวอย่างมันเขี้ยว “ยั่วผมเองนะ ชวนอาบน้ำแล้วยังไม่ล็อกประตู”

กนธีอับอายแทบมุดท่อหนี “ไม่..ไม่ได้ยั่ว ก็แค่ชวน..”

“ชวนผู้ชายอาบน้ำด้วยกันเขาเรียกว่ายั่วครับ” เขาขยับเข้าหา เบียดช่วงตัวเปล่าเปลือยของตนเข้ากับแผ่นอกขาว กดให้ส่วนล่างทาบทับ

“ขอโทษ~” จะว่าไม่ตั้งใจก็ไม่ใช่..จริงๆก็ตั้งใจนั่นแหละ

“ไถ่โทษซะนะครับ” อินทัชยิ้ม เลื่อนมือขึ้นบดคลึงยอดอกสีเรื่อ กลิ่นครีมอาบน้ำที่พี่กุนต์ใช้มันยั่วเย้าจนเขาอดไม่ได้ ต้องก้มลงขบกัดแล้วดูดกลืน

กนธียืนไม่ติด ขาเขาสั่นกึกจนจะล้ม แต่เด็กมันยกรั้งขึ้นพาดเอวก่อน

“อาบให้เสร็จแล้วไปที่เตียงดีไหม” เขาต่อรอง “กลัวลื่น..” ล้มมาทีนี่กระดูกหักเลยนะ แก่ปูนนี้แล้ว ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตละวะ

“โอเคครับ..ไปข้างนอกกัน” อินทัชว่า ยกยิ้มมุมปากพลางจูงมือพี่กุนต์เดินออกมาจากส่วนเปียก “นอกห้องอาบน้ำ..แต่เป็นหน้ากระจก”

กนธีเบิกตากว้าง ทั้งตัวถูกจับให้ยืนเกาะเคาน์เตอร์ล้างหน้า เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาซ้อนหลัง ใช้ส่วนที่ร้อนระอุแนบเข้ามากับสะโพกของเขา

..ท่านี้มัน..น่าอายเกินไปแล้ว!..

เขาหายใจติดขัด หน้าร้อนวูบ ดีแต่ที่กระจกขึ้นฝ้าเลยมองไม่เห็นภาพของตัวเอง แต่ยังโล่งใจไม่ทันไร เด็กมันก็เอื้อมมือมาเช็ดไอขาวที่บังเงานั้นทิ้งไป

“โอ๊ต!” กนธีร้องแต่ถูกจับหลังคอและบังคับให้หันกลับมามองตัวเอง

ภาพสะท้อนผู้ชายที่ยืนเปลือย เรือนผมเปียกโชก หยดน้ำเกาะพราวบนลำตัว ท่อนล่างลงไปมีขอบเคาน์เตอร์ปิดบัง แต่มันไม่ช่วยเลยที่เบื้องหลังมีผู้ชายตัวใหญ่และอ่อนวัยอีกคนยืนแนบชิด ใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาคมกล้าจ้องมองเงานั้นกลับด้วยสายตาที่ฉายแววความปรารถนาอย่างโจ่งแจ้ง

“หยิบถุงยางให้ผมหน่อยสิครับ” อินทัชกระซิบ ใช้ตัวเองดุนดันกระตุ้น

กนธีสั่นกึก เขาเหลียวมองรอบตัว “แต่..ในนี้ไม่มีถุงยาง..”

เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก สองมือยึดไหล่ลาดแน่น “เอาไงดีนะ..”

เขาสบสายตาที่จ้องกันผ่านกระจก ปากแห้งผากกับท่าทางออดอ้อน

.

.

.




เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ท่อนขาแน่นตึงกระแทกเข้ากับสะโพกเป็นจังหวะหนักหน่วง เรี่ยวแรงที่ส่งเข้ามาทำให้ทั้งตัวอีกคนโยกคลอนไม่หยุด
   
กนธีป่ายมือยึดรั้งขอบกระเบื้องไว้ เขาหลับตาแน่น ไม่กล้ามองใบหน้าของตนว่าจะเป็นสีแดงจัดแค่ไหน นิ้วจิกเกร็งกับพื้นเย็นขณะที่ร้อนไปทั่วร่าง
   
อินทัชจ้องมองพี่กุนต์ผ่านกระจกเงาอย่างไม่ละสายตา เขาบดกรามเป็นสันนูน เสียวซ่านในอกจนต้องเลื่อนมือไปบีบกระชับต้นขาได้รูป เขามองคนที่อยู่ในความครอบครอง มองคนที่ตกเป็นของเขา มองคนที่กำลังถูกเขาบดเบียด กลืนกินกันแบบแนบชิด ใช้ผิวกายเปลือยเปล่าสอดใส่กันเป็นครั้งที่สอง
   
กนธีหลุดร้องคราง พอรู้ตัวก็พยายามกลั้นเสียง แต่เขานึกได้ใจ ต้องส่งแรงกระแทกกระทั้นหนัก เขารู้ดีว่าตรงไหนที่พี่กุนต์จะยอมแพ้ ตรงไหนที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ ตรงไหนที่กระตุ้นมากเข้า..แล้วอีกฝ่ายจะต้องมีความสุขรุนแรง
   
..เขารู้ดี..แล้วคนอื่นรู้ดีเหมือนเขาไหม..
   
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว นึกไปถึงไลน์ของใครบางคนที่ส่งมาแล้วร้อนวาบ ต้องก้มลงกอดรัด เคลื่อนไหวถี่รัว เขาโอบพี่กุนต์แน่น เหมือนจะฝังร่างนั้นลง
   
“อื้อ..” กนธีกัดปากจนห้อเลือด “ช..ช้าหน่อย..” 

“ไม่..” เขาปฏิเสธอย่างดื้อดึง

คนฟังครางเสียงพร่า ถูกจับหันแล้วเปิดปากให้รับจูบ ลิ้นร้อนสอดเข้ากวัดกวาดไปทั่วแนวฟัน กระตุ้นให้เขาจูบกลับและเป็นฝ่ายดูดกลืนลิ้นอีกฝ่าย

“พี่กุนต์” อินทัชกระซิบ กดเอวไว้แน่นระหว่างที่เบียดเสียดเข้าหาอย่างตะกละ “น่ารักมากครับ..อืม” เขานิ่วหน้า แน่นไปหมดจนแทบทนไม่ไหว

“พี่..อ..อื้ออ..”

“เรียกชื่อผมสิครับ” เขากัดปลายหู ยกยิ้มสมใจ “เรียกผม..”
   
กนธีกลั้นเสียงคราง เขาไม่กล้าหันไปมอง รับรู้ได้แต่ว่ามีบางอย่างที่ร้อนจัดและแข็งกร้าวดุนดันเข้ามา ผลุบเข้าออกภายใน กระแทกเข้าหาไม่หยุด ส่วนปลายเสียดสีเข้ากับบางจุดที่ทำให้เขาสุขสมจนต้องจิกเกร็ง
   
“พี่ครับ..” อินทัชกอดรัดแน่นขึ้นไปอีก หลุดร้องเมื่อใกล้จะถึงจุด
   
“โอ๊ต..” เขาครวญคราง “พี่ไม่ไหว..โอ๊ต”
   
เจ้าของชื่อยิ้มรับ “ลืมตาหน่อยครับคนดี”
   
ทั้งที่ไม่อยากจะทำตาม แต่คำกระซิบนั้นทำให้เขาต้องปรือตาขึ้นมองอย่างไร้สติ กนธีหน้าร้อนจัด มองภาพที่ตนเองไหวคลอนไปตามจังหวะร่วมรัก
   
ดวงตาคมกริบมองเขาผ่านกระจกเงา จ้องมองอย่างเร่งเร้าและร้อนพล่าน สีหน้าของเด็กหนุ่มที่บิดเบี้ยวอย่างมีความสุขเพราะเขาบีบรัด ทำให้เขาไหววูบขึ้นในท้องน้อย เผลอตัวกลืนกินเข้าไปจนสุดและโอบกระชับหนักกว่าเก่า
   
อินทัชครางต่ำ สองมือจับยึดเอวอีกฝ่ายและเร่งจังหวะหนัก เขาเพียงกระแทกเต็มแรงอีกสองสามครั้ง พี่กุนต์ก็ปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง
   
เด็กหนุ่มรีบตวัดร่างที่ร่วงลงไปกองขึ้นมา จับยกพาดบนเคาน์เตอร์ เขาวางขาเปลือยตั้งชัน จูบข้างขมับชื้นเหงื่ออย่างเอ็นดูแล้วผละออกมามอง เห็นผิวเนื้อบางส่วนแดงก่ำเป็นสีกุหลาบเพราะถูกเสียดสี ดูน่ารักจนต้องก้มลงจูบ
 
“โอ๊ต!!” กนธีตกใจจนแทบหมดสติ เขาลนลานจะลง แต่ถูกเด็กยึดขาไว้แน่นระหว่างที่โน้มหน้าเข้ามาและใช้ปลายลิ้นเล้าโลมบริเวณส่วนที่บวมจัด
   
..ไอ้เด็กเปรต! ศรัณย์ยังไม่เคยทำถึงขนาดนี้เลย!..
   
“ทำไม่ได้ ทำไม่ได้นะ!” เขาขยุ้มปอยผมของอินทัชแล้วดึงอย่างแรง
   
“ผมแค่จะปลอบใจ” ร่างสูงยิ้ม “เพราะมันต้องรองรับผมอีกนาน”
   
กนธียกหลังมือปิดหน้า ไอ้หมอนี่ผละออกมาจูบซอกขาของเขาแล้วสอดนิ้วกลางเข้าไปขยายเพิ่ม เขาไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากเสียงชื้นแฉะที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของปลอกเนื้อเมื่ออีกฝ่ายกลับมาสอดใส่อีกครั้ง
   
อินทัชจับพี่กุนต์ให้เอนตัวลงพิงกระจก ยกขาทั้งสองขึ้นพาดบ่าแล้วกระแทกหนักหน่วง เขากอบกุมไหล่ลาด อาศัยเป็นหลักยึดไว้แนบแน่น
   
กนธีต้องเกาะผนังข้างเอาไว้ไม่ให้ตัวร่วงหล่น เด็กนี่ส่งแรงเข้ามาไม่กี่ครั้ง ทั้งตัวก็ลื่นไถลจนเกือบลงไปกอง เขาหลับตา เบือนหน้าหนี ปล่อยให้มันกอดจูบ เล้าโลมทั่วทุกตารางนิ้วแม้กระทั่งหลังเท้าที่เป็นจุดอ่อน
   
“อึก..อื้อ!” เขาหอบหายใจ เสียงในอกเต้นแรง “อ..ย่า..จะไป..”
   
เขาปลดปล่อยออกมาครั้งที่สอง ตอนที่อินทัชสอดใส่ลึกสุดและกระตุกอย่างรุนแรง ร่างหนาหนักสั่นเทิ้มพร้อมกับหลุดร้องเสียงดัง
   
กนธีรู้สึกถึงของเหลวร้อนจัดที่พุ่งวาบเข้ามาภายใน เขาร้องคราง มันท่วมท้นและไหลเข้าเป็นระลอก แต่ส่วนนั้นก็ยังไม่หยุดขยับ เขาเองก็โต้ตอบด้วยการรีดเร้นจนหมดทุกหยาดหยด ซ้ำยังเก็บขังเอาไว้ในตัวเมื่อเด็กยังแช่ค้าง
   
อินทัชหอบหายใจ ทันทีที่ถอนตัวออกมา น้ำรักอุ่นร้อนก็ไหลหยดลงพื้น
   
“ขอโทษนะครับ” เขาค่อยๆยกขาที่วางพาดบ่าลง นวดคลึงอย่างเอาใจ
   
กนธีตัวอ่อนปวกเปียก ปล่อยให้เด็กตวัดร่างขึ้นอุ้มและพาไปลงอ่างน้ำ มันจะทำอะไรกับเขาต่อ ตอนนี้เขาไม่มีแรงจะท้วงแล้ว
   


.

.

.




[ต่อด้านล่าง]






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2016 18:05:36 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2858 เมื่อ06-12-2016 17:58:31 »



.

.

.




เวลาผ่านไปได้สักพัก คนทั้งสองก็สะอาดเอี่ยมอีกครั้ง อินทัชอาบน้ำให้ตัวเองและพี่กุนต์ใหม่ ใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ เขาประคองร่างนั้นไปที่เตียง เป่าผมให้แห้งด้วยความอ่อนโยน..สุดท้ายแล้วความตั้งใจที่จะผ่านคืนนี้ไปเฉยๆก็ล้มเหลว
   
“เด็กเปรต” กนธีด่างึม ตาปิดจนแทบลืมไม่ขึ้น..ขาของเขาก็เช่นกัน
   
อินทัชหัวเราะ สอดตัวลงใต้ผ้านวมและดึงอีกฝ่ายเข้ามาซุกอก พี่กุนต์ทำตัวว่าง่ายและน่ารักกว่าเก่าหลังจากถูกร่วมรักจนหมดเรี่ยวแรง
   
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ..คนดีของผม” เขากระซิบ เกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากแล้วก้มลงจูบด้วยความรู้สึกที่อุ่นอวลและสนิทแนบกว่าครั้งไหน
   
กนธียิ้มบาง สอดแขนเข้ากอดเอวเด็กหนุ่ม ไม่มีคู่ควงคนไหนเลยที่เขาจะกอดและถูกกอดด้วยความจริงใจแบบนี้..มีความสุขจนแทบล้น
   
“อยู่กันไปนานๆได้ไหม..อย่าเพิ่งทิ้งพี่เลยนะ”

“โธ่..อย่าพูดเหมือนตัวเองไม่มีค่าสิครับ” เขาจูบบนผมสีเข้ม

“ขอบคุณนะที่โอ๊ตดูแลพี่อย่างดีและอยู่กับพี่ด้วยความซื่อสัตย์” กนธีพึมพำ “เด็กทุกคนที่ผ่านมา มีแต่โอ๊ตที่พี่รู้สึกได้ว่าจริงใจแค่ไหน”

พสิษฐ์เคยพูดว่าอินทัชโชคดีที่เจอเขา แต่กนธีคิดว่าเขาต่างหากโชคดีที่เจออินทัช ด้วยสถานะของเขา อายุและสิ่งฉาบฉวยภายนอก มันทำให้เจอคนที่เข้ามาโดยไม่หวังผลประโยชน์ยาก ยิ่งอินทัชแสดงท่าทีว่าการคบกันต้องอาศัยเวลาพิจารณาให้นาน เขายิ่งรู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้มองเขาแค่ของนอกกายจริงๆ

อินทัชยิ้มบาง ลืมตามองในแสงสลัว “ผมไม่มีวันหลอกพี่” เขาลูบเส้นผมนุ่มลื่นที่สระให้กับมือ สูดกลิ่นหอมนุ่มเข้าเต็มปอด “เชื่อใจผมนะครับ”

กนธีซุกหน้าเข้ากับแผ่นอก คำพูดนั้นทำให้อุ่นวาบทั้งยังรู้สึกราวกับถูกความมั่นคงนี้โอบกอดไว้แนบสนิท เหมือนอินทัชเป็นหลักที่แน่นหนักและซื่อตรง

ก่อนที่จะทันได้ห้ามปรามหัวใจตน เขาก็เผลอหลุดคำ

“พี่รักโอ๊ต..”
   
อินทัชนิ่งเงียบ เขาหลับตาลง กระชับอ้อมกอด “ขอบคุณครับ”

เด็กหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ ถึงอย่างนั้นเขาก็เข้าใจได้

“อย่าคิดมากนะ” กนธีเงยหน้ามอง ขยับขึ้นจูบปลายคางได้รูป “พี่รู้ว่าเราอยากได้เวลา..พี่ให้ได้ พี่รอได้ คิดตกเมื่อไรค่อยว่ากัน แต่บอกพี่ที..ตอนนี้เรื่องระหว่างเรามันเป็นบวกหรือว่าเป็นลบ..พี่จะได้ทำใจ”

อินทัชแตะแก้มอีกฝ่ายและก้มลงหอมฟอด “บวกครับ”

“ดีใจ..” เขาแนบหน้ากับท่อนแขนแข็งแรง อาศัยอ้อมกอดนี้นอนหนุน

ร่างสูงลูบแผ่นหลังอีกฝ่าย “ขอโทษนะครับที่มาขอเวลากับเรื่องแบบนี้”

“เอาน่า..” เขาหัวเราะ “พี่น่ะสี่สิบ แต่โอ๊ตเพิ่งจะยี่สิบ ยังไงคนที่ต้องคิดให้หนักก็คือโอ๊ตอยู่ดี พี่จำได้ว่าตอนแรกเราบอกว่าหากจะมีใครก็อยากได้คนวัยเดียวกัน ที่พี่ไปพาโอ๊ตมาอยู่ด้วยก็คงทำให้เราลำบากใจพอตัวแล้ว”

“ผมไม่เคยรู้สึกลำบากใจที่มาอยู่กับพี่ครับ” อินทัชยืนยันเสียงหนักแน่น “เพราะฉะนั้นอย่าคิดแบบนี้อีกนะ..อย่าทำร้ายใจตัวเองแบบนี้อีก”

กนธีเอาหัวโขกอกของเด็กเบาๆ..มันพูดกับเขาแบบนี้ ขี้โกงจริงๆ
   
“พรุ่งนี้พี่ก็สี่สิบเอ็ดแล้วนะ” ชายหนุ่มพึมพำ ดึงมือเด็กมาลูบ “ถึงปากจะบอกว่ารอได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน ถ้าปล่อยตามธรรมชาติคงช้า ยังไงเราลองมาทำความรู้จักกันไปวันละอย่างสองอย่างดีไหม”
   
“ยังไงครับ” เขาก้มมองอย่างเอ็นดู “ประมาณ..พี่คือคุณกนธี สิงหนาท สูงร้อยเจ็ดสิบแปด เลือดกรุ๊ปโอ เป็นมังสวิรัติที่ไม่เคร่งนัก กินผักเหมือนหนอน อมข้าวเหมือนหนู อืดอาดเหมือนเต่า งานอดิเรกเล่นเกมผลไม้..แบบนี้หรือเปล่า” 
   
กนธีหัวเราะ ขยี้หัวมันไปมา “หมายถึงข้อดีข้อเสียของพวกเราน่ะ”
   
“อ้อ..” อินทัชพยักหน้ารับ “ข้อเสียของพี่คืออะไรครับ”
   
เขาครุ่นคิด “อืม..เอาที่ผ่านมาแล้วกัน พี่เป็นคนชอบเอาเรื่องเล็กน้อยมาคิดแล้วก็เก็บข้อมูลไว้ ถ้าเป็นจริงตามที่คาดก็จะติดลบคะแนนไปเรื่อยๆ พอถึงขีดศูนย์ก็จบกัน แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ยังไม่ทันติดลบก็ตัดขาดไปแล้ว”
   
“น่ากลัวแฮะ” เขาเลิกคิ้ว “ไม่มีสัญญาณเตือนสักนิดเลยหรือครับ”
   
กนธีส่ายหัว “ไม่มี..ตัดเลย ไปเลย นิสัยเสียใช่ไหม”
   
“ขี้โกงไปหน่อยครับ” อินทัชบอก “สมมติว่าผมทำอะไรไม่ดี พี่ก็จะติดลบคะแนนผม พอถึงศูนย์ก็ทิ้งผมไปโดยไม่บอกให้ปรับปรุงตัวเลยใช่ไหม”
   
“นั่นสินะ..ไม่ค่อยโอเคจริงด้วย”
   
“ไม่โอเคน่ะสิครับ ผมจะรู้ได้ไงว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร บางอย่างถ้าไม่ถูกใจพี่ ผมก็อยากให้พี่บอกผมตรงๆนะ เช่นว่า..ผมขี้บ่นเกินไปแล้ว”
   
กนธีหัวเราะ “อีกเรื่องหนึ่ง..พี่ไม่ค่อยชอบการทะเลาะ เพราะฉะนั้นในเรื่องบางเรื่องพี่จะพยายามเยียวยาตัวพี่แล้วปล่อยให้จบในตัวเอง ไม่อยากงี่เง่าในสายตาอีกฝ่ายหนึ่งอย่าง แล้วก็ไม่อยากจุดชนวนระเบิดอีกอย่าง ทำให้เหมือนภูเขาไฟที่สะสมแม็กม่าน่ะ..เด็กคนอื่นไม่รู้เรื่องนี้หรอกนะ..แต่ศรัณย์โดนมาแล้ว”
   
อินทัชครางในลำคอ “โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอให้พี่ถามผมตรงๆ คุยกับผมตรงๆได้ไหม ไม่ต้องเยียวยาหรือปลอบใจตัวเองทั้งนั้น”
   
“พี่จะพยายาม” นิสัยก็คือนิสัย มันแก้ได้ยาก แต่คิดว่าในเมื่ออินทัชเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เคยอ้อมค้อม มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเปิดใจพูดคุยกัน
   
“สุดท้าย..เท่าที่คิดออกวันนี้” กนธียิ้ม “สมัยอยู่กับรัณย์ พี่เป็นคนไม่มั่นคงในตัวเอง ขี้หึง ขี้หวง คิดนั่นผสมนี่ไว้จนกลัวเขาไม่รัก บางอย่างก็ต้องยอมตามจนอึดอัดเพราะกลัวเขาจะว่างี่เง่าแล้วรักพี่น้อยลง ความรักของพี่กับเขามันเลยง่อนแง่นอยู่สักหน่อยเพราะต่างฝ่ายต่างฝืนไปไม่น้อย”
   
คนฟังมองอย่างสงสาร “อยู่กับผม เป็นตัวของตัวเองนะครับ..ถ้าดื้อเกินไป ทำนิสัยเสียมากไป ผมจะตีพี่แล้วบอกให้แก้ไขตัวเองซะ”
   
“โอเคครับ” กนธีหัวเราะร่วน ดึงฝ่ามือใหญ่มาแนบแก้ม “คิดว่าตอนนี้น่าจะดีขึ้นแล้ว เพราะตั้งแต่คุยกับหมอบี พี่รู้สึกว่าที่จริงพี่เองก็หล่อเลือกได้ว่ะ”
   
“ครับ..หล่อเลือกได้” อินทัชหยิกแก้มพี่กุนต์จนยืดด้วยความหมั่นไส้ “ผมจะเพิ่มให้อีกข้อนะ..พี่กุนต์น่ะ ชอบพูดถึงผู้ชายคนเก่าๆให้ฟัง”
   
“อ้าว..” เขาไม่ยักคิดว่ามันไม่ค่อยโอเคกับคนใหม่
   
“ไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากฟังเรื่องอดีตที่ผ่านมาของคนที่ตัวเองกำลังคุยอยู่หรอกครับ มันเหมือนข้อเปรียบเทียบแล้วก็อดกลัวไม่ได้ว่าถ้าตัวเองกลายเป็นอดีตเหมือนกัน จะถูกเอาไปเล่าต่อกับคนใหม่แบบไหน”
   
กนธีเพิ่งรู้ว่าเด็กมันคิดไปถึงขั้นนี้เลย “โอเคๆ..ไม่เล่าแล้ว”
   
“ถ้าเล่าเป็นวิทยาทานให้ผมระวังตัว ผมก็โอเคนะ” เขายิ้ม “แต่เล่าว่าคนเก่าดีแค่ไหนนี่ อย่าเล่าเลยครับ แสลงใจ..ยิ่งลีลาบนเตียงน่ะ กราบล่ะครับ”
   
“โธ่..ขวัญเอ๊ยขวัญมา” เขาขบขัน ขยับตัวขึ้นจูบแก้มเด็ก “ขอโทษครับ ต่อไปนี้จะระวังให้มาก แต่ถ้าหลุดปากก็ทำโทษได้เลย” เขายื่นมือให้
   
อินทัชหัวเราะหึ ดึงรั้งต้นคออีกฝ่ายเข้าหาก่อนเปิดปากจูบ
   
“แบบนี้ต่างหากครับ..ถึงจะเรียกว่าทำโทษ”
   
อีกคนหัวเราะชอบใจ “พรุ่งนี้เล่าเรื่องของตัวเองบ้างได้ไหม”
   
“โอเคครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม กอดพี่กุนต์แนบอก “เราค่อยๆมาเรียนรู้กัน ผมคิดว่าผมคงได้แสดงข้อเสียของตัวเองให้พี่เห็นอีกหลายครั้งแน่..รับให้ได้แล้วกัน”
   
“พี่โอเคอยู่แล้ว” กนธียิ้ม “จะรอนะ”
   
..เพราะการอยู่ร่วมกัน..ไม่ใช่การรับได้แต่ข้อดี..






..................................................................................








พี่กุนต์ไปปากช่อง โอ๊ตไปปากช่อง ปาลินไปปากช่อง คุณไผทอยู่ปากช่อง

เดาๆ 55555555555555+



 :really2:



เฉลย!!




คุณไผท ได้ ปาลิน



แค่กๆๆๆ  :hao7:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2016 18:08:34 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ sutos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2859 เมื่อ06-12-2016 18:43:45 »

เหหหหห จริงหรอเนี่ยยย นี่จิ้นคุณไผทกับเจ้าไผ่มาตั้งนานนน 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
« ตอบ #2859 เมื่อ: 06-12-2016 18:43:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2860 เมื่อ06-12-2016 18:50:42 »

กลัวพี่กุนค์ขาดใจตาย :hao7:

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2861 เมื่อ06-12-2016 18:57:11 »

พี่รักโอ๊ต
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2862 เมื่อ06-12-2016 18:58:06 »

ห๊ะคุณปลาเค็มได้ปาลิน แค่กๆ
คุณไผทกินเด็ก

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2863 เมื่อ06-12-2016 19:02:24 »

อ่านตอนนี้ บอกได้เลยว่า มีหลายอารมณ์ปะปนมาก ..

1. ร้องให้ตาม น้ำตาไหลเลย ตอนกุนต์พาทุกคนไปเลี้ยงข้าวน้องๆ รู้สึกสงสารเด็กๆที่นั่นมาก เราเคยไปเห็นภาพนั้นมาแล้ว สะเทือนใจจริง
2. รู้สึก.. ลุ้น  อะยะ! อิโอ๊ตเริ่มรู้ตัว เริ่มสังเกตุเห็นว่าตัวเองไม่ใจเต้นเวลาอยู่ใกล้ปาลินแล้ว
3. เอ็นดูพี่กุนต์ นางมีความเจียมตัวเจียมใจ เห็นโอ๊ตเอาผ้าเช็ดหน้าที่ซื้อให้ ให้ปาลินไป นางเสียดใจแค่ไหน นางยังทนบอกตัวเอง ปาลินเป็นเด็กดีโชคดีของโอ๊ต โอ๊ยยยย นางเอกมาก พี่กุนต์ของฉ้านนนน
4. หื่นตาม ฮาาาาาา nc คุณข้าวปั้นนี่ ... มันถึงใจจริงๆ  อิโอ๊ตนี่ก็เทินโปรไวเกิ๊นนน ได้ข่าวพี่กุนต์เพิ่งเปิดซิงไปแหมบๆ ฮาาาาา
5. อยากจะทุบอิโอ๊ต หล่อเลือกได้เหลือเกิ้นนน พี่กุนต์บอกรัก นางมีขอเวลา จ่ะ! เอาให้คุณผไทเขาจีบพี่กุนต์ให้หนัก ให้พี่กุนต์หวั่นไหว แล้วแกค่อยตอบก็ได้โอ๊ต เอาที่แกสบายใจเล้ยยย
6. อิจฉาโอ๊ต เขาอยากได้พี่กุนต์ งืออออออ คนดีจริงๆทูนหัวของบ่าวเอ้ยยย มีบอกรักเขา มีขอโอกาส ตายๆๆๆๆๆ #ทีมพี่กุนต์
7. มีความ ห๊ะ!!! คือระ?? คุณข้าวปั้นทิ้งระเบิดไว้ช่วงท้าย ไม่เอาดิ.... ต้อง ไผทกับไผ่เท่านั้น ไม่ยอมๆๆๆๆ :ling3:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2864 เมื่อ06-12-2016 19:12:29 »

 แบบนี้ดีกว่า
คุณผไทจะปล้ำพี่กุนต์ที่ปากช่อง 
ปาลินจะปล้ำพี่กุนต์ที่ปากช่อง 
โอ๊ตจะปล้ำพี่กุนต์ที่ปากช่อง
คุณไผ่เป็นหมาหัวเน่า ( เรื่องปกติ )  555555555555
 
ปล. เจ้าโอ๊ตเอาผ้าเช็ดหน้าที่พี่กุนต์ซื้อให้ไปให้ปาลิน  จับไม้จับมือ แหมมมมๆ
 ระวังจะติดลบไปเรื่อยๆแบบไม่รู้ตัวนะพ่อคุณ ถึงวันที่แมกม่าระเบิดละแกเอ้ยยย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2865 เมื่อ06-12-2016 19:15:23 »

อ้าว ไม่ใช่คุณผัดไทกับพี่ไผ่เหรอค่ะ นึกไม่ออกเลยถ้าปาลินคู่กับคุณผัดไทจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2866 เมื่อ06-12-2016 19:17:47 »

สรุปแล้วน้องสนคู่กับคุณ ผัดไทย เอ้ย(ผไท) จริงๆใช่ไหม


 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2867 เมื่อ06-12-2016 19:19:01 »

โอ้ยยยยยยยยยย อิโอ๊ตหื่นมากกก 55555555555555 พอสองคนคุยกัน เปิดใจ อะไรๆก็ก็ดีขึ้น เหลือแต่โอ๊ตจะมั่นใจในตัวเองเมื่อไหร่ จะสายเกินไปมั้ย รออออออ รอดราม่า อิอิอิ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2868 เมื่อ06-12-2016 19:22:16 »

โอยยย ตอนนี้เรียกเลือดมากเลยค่ะคุณขา

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2869 เมื่อ06-12-2016 19:29:08 »

ยิ่งอ่านยิ่งเขิล :o8:
งานนี้โทษเด็กมันอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ
เดี๋ยวนี้พี่กุนหันมาปลูกไร่อ้อยแล้วเหรอคะ
น้องของเหมาทั้งไร่เลย :katai2-1: :katai2-1:
โอ๊ยแก้มจะแตกไม่ไหวละ ร้อนไปหมด :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
« ตอบ #2869 เมื่อ: 06-12-2016 19:29:08 »





ออฟไลน์ ravyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2870 เมื่อ06-12-2016 19:35:00 »

อ้าวววววววววววววววว 555555555
จะเป็นไอ้ไผ่หมาหัวเน่าจริงๆเรอะะะะ  :sad4: ไม่เป็นไรน้าาา ยังไงหมาหัวเน่าก็น่ารัก น้องอุ้มบอก กร้ากกกกกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2871 เมื่อ06-12-2016 19:35:13 »

อือ.....บางทีก็คิดว่าโอ๊ต ใช้เวลานานไปและ
ที่จะถามตัวเองว่ารักพี่กุนต์ ได้หรือยัง
โอ๊ต อย่าสับสนตัวเองนานๆ คิดได้เสียที
ขนาดปาลิน ยังจับสังเกตได้ว่าโอ๊ตเอาแต่มองพี่กุนต์
พี่กุนต์ พูดดีมาก ที่ว่า ยังหล่อเลือกได้ :mew1: :mew1: :mew1:
และบอกนิสัยตัวเองให้โอ๊ตฟัง ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่กุนต์ เหมือนแม็กม่า รอวันปะทุ ระเบิดเลย
จบเป็นจบ ไม่รั้งรอ ไม่ง้อด้วย หนาวเลยนะโอ๊ต :katai1: :katai1: :katai1:
คิดๆ ไว้แล้วเชียว ว่าปาลิน น่าจะคู่กับไผ-ท ไผท 
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2016 19:43:12 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2872 เมื่อ06-12-2016 19:40:28 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2873 เมื่อ06-12-2016 19:40:54 »

คึคึ ปาลินกับไผทเร๊อะ ยังไงก็ด้ายย เพราะการได้กัน เอ้ย การรักกันคือสิ่งสวยงาม :katai2-1: :katai3:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2874 เมื่อ06-12-2016 19:42:40 »

โอ๊ตฉลองวันเกิดพี่กุลซะหมดแรง  :haun4: :haun4:
                                                                     :HBD2: พี่กุล

ออฟไลน์ MARAKORR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2875 เมื่อ06-12-2016 19:44:00 »

ทำ/มเราเชียร์คุณผไท/ด้กับพี่กุนต์555

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2876 เมื่อ06-12-2016 19:51:14 »

กรี๊ดดดด นี่ว่าแล้วว่าโมเมนต์อิโอ๊ตกะปาลินนี่พี่กุนต์ต้องมาเห็นแล้วเก็บเอาไปคิดแน่ๆ  :katai1:
พี่กุนต์คนดี รักนะคะ  :กอด1: อิโอ๊ตอุตส่าห์เหมือนจะรู้ตัวขึ้นมานิดนึง แต่พี่กุนต์ดันเข้าใจไปนู่น แงงงง
ถ้าได้ไปปากช่องกันจริงๆ เราว่าคุณไผทต้องจับสังเกตเรื่องที่โอ๊ต (เคย) แอบชอบปาลินได้แน่ๆ เลยอ่ะ แค่คิดก็ปวดหัวล้าววว
ตอนนี้ล่อไป 3 พาร์ท ยาวจุใจมาก รักก ขอบคุณมากนะคะ ><
Nc นี่กร๊าวใจดีจริงๆ เลย หุหุ ไอ้โอ๊ตมันหื่นนน~ ตอนนี้พี่กุนต์อ้อยคว่ำมาก 555 แต่แบบน่ารักอ่ะ ชอบบบ

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2877 เมื่อ06-12-2016 19:57:00 »

ความดีของพี่กุนต์แทรกซึมเข้าไปในใจของโอ๊ตโดยไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2878 เมื่อ06-12-2016 19:59:56 »

เหยยย จริงอะ นี่จิ้นคุณผไทกับไผ่หมาหัวเน่ามาตลอดเลยนะจริงๆ อีกอย่างคู่ของปาลินไม่ใช่พี่น้องตระกูลภาษยวัตอ่อ แต่ที่แน่ๆพี่กุนต์น่าฟัดอีกแล้ว งืออ ยอมใจเคะลุงแบบนี้จริงๆ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: Sins : Greed -- [Chapter 40] pg.96 -- 6/12/59
«ตอบ #2879 เมื่อ06-12-2016 20:01:31 »

 :-[ o13 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด