บันทึกปีใหม่ของอ้น
...................................................................................................
- 30 ธันวาคม พ.ศ. 25xx -อาทิตย์ที่แล้วพี่กุนต์บอกว่าจะพาไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่พี่โอ๊ตไม่อยากไป พี่โอ๊ตบอกว่าคนเยอะ รถแยะ ไปแย่งกันกินแย่งกันใช้ บรรยากาศมันวุ่นวายไปหน่อย อยู่บ้านเฉยๆดีกว่า พี่กุนต์เลยบอกว่าจะพาไปไหว้พระ จะได้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดีทั้งครอบครัว พี่โอ๊ตยังอยากจะนอนขี้เกียจอยู่บ้าน พี่กุนต์เลยเลิกสนใจแล้วชวนอ้นกับน้องอุ้มแทน (พี่โอ๊ตเป็นหมาหัวเน่าอีกแล้ว) อ้นกับน้องอุ้มเลยตกลงทันที พวกเราคุยกันว่าจะทิ้งพี่โอ๊ตอยู่บ้านคนเดียว ไม่ไปก็อย่าไป (พี่กุนต์บอกแบบนั้น)
คืนนี้พี่กุนต์ปิ้งบาร์บีคิวให้กิน อร่อยมากๆ พี่กุนต์ให้คนละห้าไม้ แต่พี่โอ๊ตมาแย่งของน้องๆกิน พี่กุนต์เลยตีก้นพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตไม่โกรธนะ แต่หันมามองหน้าแล้วบอกว่าจะเอาคืนสิบเท่า พี่โอ๊ตเดินเข้ามาหาพี่กุนต์ ทำหน้าเหมือนหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ (ต้องมาแกล้งแน่ๆ นิสัยไม่ดีเลย) อ้นกับน้องเลยแท็คทีมกัน อ้นเข้าไปดึงตัวพี่โอ๊ต ส่วนน้องอุ้มก็เอาหัวโหม่งพุง พี่กุนต์หัวเราะชอบใจใหญ่ บอกว่าพวกเราเป็นอัศวินของพี่กุนต์
ถ้าใครทำพี่กุนต์ อ้นก็ไม่ยอมหรอกถึงจะเป็นพี่ชายก็เถอะ!
สรุปว่า พี่โอ๊ตแค่แหย่พี่กุนต์ ไม่ได้ลงโทษพี่กุนต์จริงๆ
.........................................................................................
- 31 ธันวาคม พ.ศ. 25xx -สวัสดีวันสุดท้ายของปี วันนี้พี่กุนต์ขอบตาดำคล้ำ อ้นเป็นห่วง พอถามพี่กุนต์ก็บอกว่านอนดึก ไม่ได้เป็นอะไร พี่โอ๊ตถามว่า ไปวัดความดันครั้งสุดท้ายตอนไหน พี่กุนต์บอกว่าความดันปกติ แต่ความดันทุรังของใครบางคนน่ะสูงกว่า อ้นก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก พี่ๆชอบพูดอะไรให้รู้กันสองคน บางทีก็น้อยใจนะ แต่คิดว่าส่วนใหญ่ก็คงคุยกันเรื่องงานนั่นแหละ อ้นก็เลยเฉยๆ (น้องอุ้มเคยบอกว่า พี่อ้นไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้..แหงะ)
ช่วงปีใหม่ พี่ๆที่ทำงานให้พี่กุนต์กลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดกัน พี่กุนต์ให้หยุดไปเที่ยวได้ทุกคนเลย ในบ้านเลยเงียบเหงา พวกเราไม่ได้มาอยู่คอนโด เพราะไม่มีใครดูแลแกงส้มกับสี่ถั่ว พี่โอ๊ตเป็นคนทำงานทุกอย่างเอง พี่กุนต์จะช่วยแต่พี่โอ๊ตไม่ยอม (พี่ชายอ้นก็เป็นคนขยันดีเหมือนกัน)
ตอนเช้าเรากินไส้กรอก ไข่กับขนมปังปิ้ง อ้นได้เข้าไปช่วยในครัว ตอนนี้อ้นทอดไข่คล่องแล้ว เลยทำไข่เจียวแฮมให้พี่กุนต์กิน พี่กุนต์ชมใหญ่ บอกว่าหอมเนย พอพี่กุนต์จะกินอีก พี่โอ๊ตก็เอาไข่ลวกมาวางแทน บอกว่าให้พี่กุนต์กินเยอะๆ จะได้มีแรง (เป็นแบบนี้ตลอดอ่ะ ทำไมชอบแย่งเอาใจพี่กุนต์ คนขี้อิจฉา! นี่น้องชายนะ!)
ตอนสายๆ พี่กุนต์ขับรถพาไปนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ อ้นกับน้องอุ้มชอบมาก พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะใช้การเดินดูเงียบๆ แต่ที่นี่มีแสงสีเสียง น่าตื่นเต้นสุดๆ เราได้นั่งเรือจำลองด้วย มีฝนตกแบบเหมือนจริง สุดยอดมาก ต้องเล่ายาวเลย เอาไว้อ้นจะเขียนอีกทีเรื่องพิพิธภัณฑ์
พี่กุนต์ถามว่าพวกเราชอบเรียนประวัติศาสตร์ไหม อ้นชอบนะ อ้นรู้สึกว่ามันคือเรื่องราวที่ผ่านเวลามานาน อ้นอยากรู้ว่าสมัยก่อนมีอะไรเกิดขึ้น (เพราะอ้นเกิดไม่ทันไง) แล้วเราผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง พี่กุนต์ถามอีกว่าเราเรียนประวัติศาสตร์เพื่ออะไร อ้นเลยตอบว่า เอาไว้รู้เรื่องอดีต อะไรที่ดีก็ดี เอาไว้ต่อยอด เอาไว้พัฒนา อะไรที่แย่ เราจะไม่ทำซ้ำ เพราะมนุษย์ควรมีการเรียนรู้ พี่กุนต์ปรบมือให้ด้วย ชมใหญ่ว่าอ้นตอบได้เยี่ยมมาก
พี่โอ๊ตฟังแล้วหาว พี่โอ๊ตบอกว่า สำหรับผม แค่รู้ชีวิตลุงเต่าย้อนหลังไปสี่สิบกว่าปีก็มีเรื่องราวสารพัดเต็มไปหมดแล้ว อัดข้อมูลอื่นอีกไม่ไหวหรอก พี่กุนต์เลยเขกกะโหลกพี่โอ๊ตทีเดียวห้าทีเลย (สมน้ำหน้า~)
ตอนเย็น พี่กุนต์พาไปกินร้านอาหารริมแม่น้ำ น้องอุ้มเกาะขอบระเบียงดูเรือที่แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยาตาวาวเลย น้องบอกว่าอยากขึ้นไปบนนั้น พี่กุนต์เลยสัญญาว่าครั้งหน้าจะพาล่องเรือ
.........................................................................................
- 1 มกราคม พ.ศ. 25xx - ตื่นเช้าวันนี้ พี่กุนต์ขอบตาคล้ำกว่าเมื่อวานอีก ที่หนักกว่าคือดูปวดหลังชอบกล วันนี้พี่กุนต์บอกว่าจะพาไปไหว้พระ แต่อ้นเป็นห่วง กลัวพี่กุนต์ไปไม่ไหว พี่กุนต์บอกว่าไปไหว ยังไงก็จะไปวัด เพราะเมื่อคืนเจอเปรตจนตีหนึ่ง อยากทำบุญทำทานให้มันอิ่มบ้าง พี่โอ๊ตหัวเราะลั่นเลย ไม่รู้ขำอะไรนักหนา ผีเนี่ย..พูดทีไรก็น่ากลัว น้องอุ้มยังกลัวเลย ถามอ้นใหญ่ว่าบ้านพี่กุนต์มีเปรตจริงๆเหรอ
พี่กุนต์พาพวกเราไปไหว้พระหลายวัดเลย เราไปวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ แล้วก็นั่งเรือข้ามฟากไปที่วัดระฆัง วัดอรุณ น้องอุ้มชอบเซียมซี ที่จริงไม่ได้อ่านคำทำนายหรอก แต่น้องอุ้มชอบเขย่าไม้ พี่กุนต์ขอให้เลือกเซียมซีแค่หนึ่งวัด เพราะเขาใช้ทำนาย เอามาเล่นสนุกคงจะไม่ค่อยเหมาะ น้องอุ้มก็ทำตาม
อ้นก็เซียมซี ใบทำนายบอกว่าทุกอย่างดีหมด อนาคตรุ่งเรือง มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชู อ้นอ่านแล้วอดไม่ได้ ต้องเข้าไปกอดพี่กุนต์ คนนี้แหละ..ผู้ใหญ่ใจดีของอ้น พี่กุนต์รู้เรื่องเลยกอดอ้นกลับ พี่โอ๊ตมองใหญ่ (อิจฉาอ่ะดิ)
พวกเราไปยืนให้อาหารปลา มีนกพิราบมาขอกินด้วย พี่กุนต์บอกให้ระวังเรื่องการหายใจ ให้อยู่ห่างๆ อย่าเข้าไปใกล้หรือเข้าไปเล่นคลุกคลี เพราะอึนกพิราบมีเชื้อราอะไรสักอย่างที่ทำให้เราเป็นโรคสมองอักเสบได้ น้องอุ้มที่นั่งยองๆ จะให้ขนมปังนกกับมือเลยโยนให้มันไปกินไกลๆ แต่โยนสุดแรงเกิดไปหน่อย ขนมปังเลยตกลิ่วลงแม่น้ำทั้งก้อน
วันนี้เรากลับมาถึงบ้านตอนหกโมงเย็น พี่กุนต์แวะไปซื้อขนมกับคุกกี้ที่ S&P แล้วก็ให้อ้นช่วยผูกโบว์ ให้น้องอุ้มช่วยเขียนว่า Happy New Year พี่กุนต์ทำแบบนี้ทุกปี คือจะมีขนมปีใหม่ให้กับคุณบุรุษไปรษณีย์ คุณตำรวจจราจรแถวถนนหน้าบ้าน คุณยามและรปภ.ละแวกนั้น แล้วก็ให้คุณๆที่มาเทขยะทั้งที่เป็นช่วงปีใหม่ด้วย พี่กุนต์บอกว่าเป็นการขอบคุณที่พวกเขาช่วยเหลือเรามาโดยตลอด งานพวกนี้ต้องเสียสละแรงกายและแรงใจ อยากจะสวัสดีปีใหม่และให้กำลังใจพวกเขา
พูดถึงตรงนี้ทีไร พี่โอ๊ตมองพี่กุนต์ไม่วางตาทุกทีแล้วก็พูดพึมพำซ้ำไปซ้ำมาว่า How lucky I am to have you in my life. พี่โอ๊ตพูดบ่อยจนอ้นจำได้ขึ้นใจแล้ว
.........................................................................................
- 2 มกราคม พ.ศ. 25xx - พี่กุนต์นอนตื่นสายแต่พี่โอ๊ตตื่นเช้ามาก อ้นเป็นห่วง จะเข้าไปหา พี่โอ๊ตดันเข้ามาแทรกก่อนแล้วผลักหัวอ้นออกมา บอกว่าพี่โอ๊ตไปปลุกมาแล้ว พอดีพี่กุนต์เพลียนิดหน่อย เมื่อคืนทำงานกันจนเกือบไม่ได้นอนเลยอยากให้พักผ่อนต่อ อ้นชะโงกเข้าไปมอง เห็นพี่กุนต์นอนขดเป็นลูกฟุตบอล คลุมโปงอยู่บนเตียง ในห้องเปิดแอร์เย็นเฉียบ ข้าวของในห้องก็เกลื่อนกลาด หมอนตกไปทาง เสื้อผ้าก็กองบนพื้นเกะกะ ชามไข่ลวกก็วางอยู่บนพรม อ้นฉุนจริงๆนะ พี่โอ๊ตไม่ทำความสะอาดห้องให้พี่กุนต์เลย พี่โอ๊ตบอกว่ารอพี่กุนต์ตื่นแล้วจะจัดการให้ (ขี้เกียจแบบนี้ พี่กุนต์น่าจะตัดเงินเดือน)
วันนี้พี่กุนต์ดูเพลียจริงๆ น่าจะเป็นหวัดด้วย เพราะว่าแต่งตัวเหมือนหนอนปลอกอีกแล้ว มีผ้าปิดปาก มีผ้าพันคอพัน ใส่เสื้อกันหนาวแล้วก็มีผ้าห่มใบตองมาคลุมเหมือนเดิมไม่มีผิด พี่โอ๊ตบอกว่าจะทำข้าวต้มให้ พี่กุนต์จ้องพี่โอ๊ตตาเขม็ง เหมือนจะว่าอะไรสักอย่าง แต่พี่โอ๊ตหัวเราะชอบใจอย่างเดียว
พี่กุนต์แย่จริงๆนะ ได้แต่นั่งอยู่บนโซฟา เดินแทบไม่ไหว ขนาดจะเข้าห้องน้ำ พี่โอ๊ตยังต้องมาอุ้มไปชิ้งฉ่องเลย แย่จัง..เป็นขนาดนี้ยังไม่ไปโรงพยาบาลอีก อ้นกับน้องอุ้มขอให้ไปหาหมอ แต่พี่กุนต์บอกว่าเย็นนี้ก็หาย จะหายได้เองจริงหรือเปล่า..หน้าแดงก่ำขนาดนั้น (พี่โอ๊ตบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ขาไม่มีแรงนิดหน่อย ปวดเอวจนยืนไม่อยู่ สะโพกยอกนิดๆ คืนนี้เส้นก็คลาย)
ตอนบ่าย พี่โอ๊ตออกไปห้าง จะไปซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของมาทำกับข้าวเย็นนี้ อ้นกับน้องอุ้มเลยขอไปด้วย ที่จริงอยากอยู่เฝ้าไข้พี่กุนต์ แต่พวกเราวางแผนกันว่าจะไปซื้อของขวัญปีใหม่มาให้พี่กุนต์เลยขอไปกับพี่โอ๊ตด้วย
อ้นถามน้องอุ้มว่ามีเงินเท่าไร น้องอุ้มแหวกกระเป๋าเงินให้ดู น้องมีเงินหนึ่งร้อยบาท ส่วนอ้นมีเงินสองร้อยบาท อ้นอยากซื้อเบาะรองหลังเพื่อสุขภาพให้พี่กุนต์ ส่วนน้องอ้นอยากจะซื้อต้นตะบองเพชรเพราะได้ยินทีวีบอกว่าตะบองเพชรมันช่วยดูดซับรังสีที่มาจากคอมพิวเตอร์ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าของจะแพงแค่ไหน
ตอนลงจากรถแท็กซี่ ก่อนจะเข้าห้าง มีคุณยายคนหนึ่งนั่งยองๆอยู่ริมกำแพง คุณยายแก่มากแล้ว นั่งตากแดดด้วย ข้างหน้าคุณยายมีตะกร้าสองอัน ใส่ลูกอมกับทิชชูตะกร้าหนึ่ง อีกอันใส่ตุ๊กตาถักหลายแบบ น้องอุ้มเลยกระตุกแขนพี่โอ๊ตให้หยุดแล้วชวนอ้นเข้าไปหา
คุณยายไม่มีเงิน มานั่งขายของอยู่ข้างถนนในวันปีใหม่ พวกเรามองหน้ากันว่าจะเอายังไงดี มีเงินอยู่แค่นี้แต่ก็อยากจะช่วยอุดหนุน คุณยายขายลูกอมห่อละสิบบาท ตุ๊กตาตัวละสามสิบห้าบาท ถ้าซื้อสามตัวคิดหนึ่งร้อยบาท
อ้นเลยเอาแบงค์ร้อยให้คุณยาย แล้วขอตุ๊กตามาแค่ตัวเดียว คุณยายจะได้ขายต่อ คุณยายจะทอนเงินให้ แต่อ้นไม่เอา เงินหนึ่งร้อยบาท คุณยายคงจำเป็นต้องใช้มากกว่าอ้น ส่วนน้องอุ้มก็อยากช่วย แต่น้องไม่ได้ซื้อลูกอมมาสิบห่อหรอก น้องเอาเงินไปซื้อข้าวกล่องกับน้ำในเซเว่นแถวนั้นมาให้คุณยาย เพราะว่าคุณยายยังไม่ได้กินอะไรเลย
พี่โอ๊ตมองพวกเราแล้วยิ้มแล้วพี่โอ๊ตก็ก้มลงนั่งยองๆ เอาเงินสองร้อยบาทให้คุณยาย กำชับให้เก็บไว้ดีๆ คุณยายอวยพรให้ยาวเหยียด พี่โอ๊ตยกมือไหว้รับ คุณยายก็บอกสวัสดีปีใหม่อีกครั้ง
อ้นเหลือเงินหนึ่งร้อยบาท และน้องอุ้มก็เหลือเงินสี่สิบบาท หมอนเพื่อสุขภาพราคาสามร้อยกว่า และต้นตะบองเพชรที่เห็นว่าขายในร้านดอกไม้ก็ราคาเกินงบ สรุปว่าวันนี้ เราไม่มีของขวัญปีใหม่ไปให้พี่กุนต์อย่างที่ตั้งใจ แต่ว่าพวกเราสองคนไม่ได้เศร้าเลย มันรู้สึกอุ่นใจและยิ้มออกมาได้ ถึงจะรู้สึกเสียดายนิดๆที่ไม่มีของ แต่ก็ไม่ได้เสียดายที่เอาเงินไปใช้แบบนั้น
พี่โอ๊ตเพิ่งรู้ว่าอ้นกับน้องอุ้มอยากเซอร์ไพรส์พี่กุนต์ แต่ว่าเงินไม่พอแล้ว เลยถามว่าจะยืมเงินไหม อ้นกับน้องไม่เอา ถ้าไม่มีเงินก็คือไม่มีนั่นแหละ การยืมบ่อยๆไม่ใช่นิสัยที่ดี เดี๋ยวจะเคยชินแล้วไปยืมคนอื่นเข้า
พี่โอ๊ตยิ้มให้ พี่ชายก้มลงกอดพวกเราแน่นแล้วก็ถามว่า ผิดหวังไหมที่แผนที่วางไว้ไม่เป็นไปอย่างที่คาด พวกเรายอมรับว่ามีบ้าง แต่มันไม่ได้ผิดหวังรุนแรง เพราะพวกเรามีความสุขมากกว่าที่การผิดแผนในครั้งนี้สร้างรอยยิ้มให้กับคุณยาย เงินหนึ่งร้อยอาจจะซื้อของขวัญปีใหม่ได้ แต่มันจะมีประโยชน์มากกว่าถ้าได้เป็นค่าอาหารมื้อต่อไปของคุณยาย
พี่กุนต์เคยสอนว่า การที่เรารู้จักให้โดยไม่หวังผล มันไม่ใช่เรื่องของการเสียเปรียบ มันคือเรื่องของการเสียสละและเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน
พี่โอ๊ตยกนิ้วโป้งให้ ถามพวกเราอีกรอบว่า รู้ไหม..ความสุขคืออะไร
น้องอุ้มชี้ไปหน้าห้าง น้องบอกว่า นั่นแหละ..ความสุขของหนู
อ้นเห็นด้วยนะ เห็นด้วยมากๆ ความสุขมันไม่มีคำอธิบาย แต่ยังสัมผัสได้จากความรู้สึก และความสุขก็คือการให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทนแบบที่พี่กุนต์ทำให้พวกเราเห็น
ปล. สุดท้ายแล้ว พวกเราสามคนก็รวมเงินกันและซื้อเสื้อยืดให้พี่กุนต์ตัวหนึ่ง พี่กุนต์ชอบมากเลยแหละครับ พี่โอ๊ตบอกว่า พี่โอ๊ตร่วมหุ้นกับอ้นและอุ้มซื้อเสื้อให้ พี่กุนต์จะได้เอามาใช้แทนเสื้อเด็กปากช่องที่พี่โอ๊ตเผลอเอาไปทำเป็นผ้าขี้ริ้วเมื่อวันก่อน (พี่ชายยืนยันว่าเผลอจริงๆ..ไม่ได้แกล้งเลย)
FIN
ขอโทษที่ให้รอคร้าบ งานเข้าล้นมือ มกราคงจะได้ไม่กี่ท่อน
ยังไงตามความคืบหน้าในเพจได้น้า ฮือออ ว่าแล้วก็ยังไม่ได้ทำงานค้าง
