Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1334362 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องอ้นกับน้องอุ้มน่ารักมาก
นิสัยดีตั้งแต่เด็กๆเลย
ส่วนเจ้าโอ็ต เบาเครื่องหน่อยไหมแก
สงสารคนแก่
55555555555555

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ใจงามมากน้องๆ น่าปลื้มแทนพี่โอ๊ตและพี่กุนต์
แต่รู้สึกโอ๊ตจะใช้พี่กุนต์คุ้มมากเลย ยกขันหมากไปขอเดี๋ยวนี้ เอาจนป่วยไข้ตลอดๆ
แต่ก็ไม่อยากว่ามาก เพราะส่วนใหญ่ขานั้นแหละไปยั่วเขาก่อน ก็อยากน่ารักทำไมล่ะพี่กุนต์
โอ๊ตมันก็มันเขี้ยวเด่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mymiracle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นอกจากจะหวงพี่กุนต์แล้ว..ทำไมอ่านตอนนี้แล้วชักหวงแสบทั้งสอง..อย่าว่าแต่พี่กุนต์อยากได้มาเลี้ยง..นี่ก้อยากได้..อ้นอุ้มของพี่  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ชื่นใจแทนพี่กุนต์จัง น้องๆเติบโตขึ้นอย่างน่ารักน่าเอ็นดู  /ร๊ากกกกพี่กุนต์ รักน้องอ้น เอ็นดูน้องอุ้ม... อยากหอม อยากรวบกอดให้แน่นๆจัง อ๊ากกก หมั่นเขี้ยว...

อ่ะ....รักพี่โอ๊ตด้วยก้อด๊ะ... เดี่ยวเด็กมันจะน้อยใจ ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ เมษายน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เด็ก ๆ ต้องเติบโตมาเป็นชายหนุ่มที่อบอุ่นเหมือนพี่กุนต์แน่

ออฟไลน์ Iceiceice

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยังรออยู่น้าาาาาาา น้องอ้นตั้ลล้ากกมากก

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ใครที่ได้อ่านเรื่องพี่กุนต์แล้วได้แรงบันดาลใจที่จะทำดีมีเมตตาและรู้จักเผื่อแผ่ให้คนที่มีน้อยกว่า

สังคมเราก็จะมีคนอย่างพี่กุนต์ โอ๊ต อ้น และอุ้มกันเยอะ ๆ

ขอบคุณคุณข้าวปั้นที่สร้างตัวละครที่ดีงามมาให้ทุกคนได้หลงรักกัน

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ orra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สวัสดีปีใหม่จ้า ตอนนี้เป็นเจ้าของเล่ม1 ไปแล้ว รอเล่มสองออกนะจ๊ะ หลงรักพี่กุนต์เข้าแล้ว :mew1:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


รักน้องอ้นกับน้องอุ้มมาก
แต่เอาจริง ๆ ป้าอยากอ่านความร้ายกาจของพี่โอ๊ตมากกว่า
ฮรือ! ป้าชอบให้พี่โอ๊ตทำร้ายพี่กุนต์มั่ก ๆ เลย เพราะแม้พี่กุนต์จะหลักยอก เดินขัด ๆ แต่ป้าสัมผัสได้ว่าพี่กุนต์มีความสุขจนเปล่งปลั่งเปี่ยมด้วยพลังแห่งวัยหนุ่ม (ผ่านการทำงานอันขมักเขม้นของโอ๊ต วะฮ่า ๆๆๆ)

เป็นกำลังใจให้คุณคนเขียน และจะติดตามตอนต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ
(ป้ารักพี่กุนต์ ป้าจะไม่ไปไหน - เกี่ยวก้อยสัญญา)  :กอด1:


ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
ได้แต่รอๆๆๆ  :katai5: :katai4: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายแนวนี้ให้ได้อ่าน
อ่านไปแล้วซึ้งมากประทับใจมากในหลายๆตอน
ยิ่งตอนที่ไปบ้านเด็กกำพร้าแล้วพี่กนต์ให้น้องอุ้มไปปลอมใจเด็กกำพร้าอ่านไปแล้วมีคอตีบโดยไม่รู้ตัว
แล้วอีกตอนที่รักมากๆคือตอนที่น้องอ้น กับน้องอุ้มยังอยู่ที่ห้องเช่าเก่าแล้วน้องๆต้องพึ่งตัวเองต้องหาข้าวกินเองล้างจานและทำอะไรเองทุกอย่างอ่านแล้วหลงรักน้องๆที่สุดเราวาดภาพน้องๆในจินตนาการไว้น่ารักมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายแนาวน่ารักๆแบบนี้นะคะ
รู้สึกเสียดายที่จบแล้วยังอยากอ่านไปเรื่อยๆอิอิหลงรักทุกคนในเรื่องขอบคุคะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แก้มกลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่กุนต์ขา นู๋คิดถึงงงงงงงงง :hao5:

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เด็กดี มาก หันมองตัวเอง แล้วเห็น...เพราะครอบครัวที่เรามี สอนให้เราเข้าใจชีวิตครึ่งนึง ประสบพบเจอเองอีกครึ่งนึง แล้วทำให้เกิดความคิด ความเข้าใจ การกระทำออกมาได้ ..มีฟาร์มสุข

ออฟไลน์ แก้มกลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงพี่กุนต์ทุ๊กวันเลย เมื่อไหร่พี่กุนต์คนดีจะมาสักทีหล่ะค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
คิดถึงลุงกุนต์ :hao4:

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
คิดถึงแล้วว :hao5:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คิดถึงหนูกุนต์

ออฟไลน์ orra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงๆ หนูกุนต์

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
มารอน้องโอ๊ตครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
เห็นพี่กุนต์กินต้นอ่อนทานตะวันเลยลองกินดูบ้าง กินดิบเราว่าไม่ค่อยอร่อยเท่าไรนะกลิ่นแรงไปหน่อย
แต่ถ้าต้มกับผัดอร่อยมากอ่ะ ช่วยปีใหม่กลับบ้านนอกกินหมดเป็นกระสอบเลย  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Pimjean

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงพี่กุนต์ค่ะ

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
17 วัน ที่รอคอย

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


nigiri มาแล้วๆๆๆ :กอด1:

ฝากแฟนๆๆ ที่ไม่ได้เข้า Dek-D


พาพี่กุนต์ ขับรถ  พาพี่โอ๊ต จูงน้องอ้น จูงน้องอุ้ม มาอัพเดทเล็กๆๆ ที่นี่แล้วนะ


https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1427231&chapter=45


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
พี่โอ๊ต พาพี่กุนต์กับเด็กๆไปเที่ยวนานจัง คิดถึงแล้วน่ะ

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.42] pg.106 -- 22/1/60
«ตอบ #3175 เมื่อ22-01-2017 00:22:34 »






Chapter 42





เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ตอนตีห้าครึ่งดังข้างหัวเตียง อินทัชหยิบมากดปิดก่อนจะขยับเข้าหาคนที่นอนหันหลังให้ สอดแขนใต้ราวเอวแล้วลากร่างนั้นมาแนบอก กนธีขยับเล็กน้อยก่อนพลิกเข้าไปซุกหน้าในอ้อมกอดอบอุ่น
   
อินทัชมองฝ่าความมืด ยิ้มตามรอยยิ้มเล็กๆมุมปากของคนหลับ เขาลูบแก้มพี่กุนต์แผ่วเบาและจูบบนหน้าผาก กระซิบถาม “จะออกกี่โมงครับ”
   
“แปดโมงครับ” กนธีพึมพำ แนบแก้มกับท่อนแขนแข็งแรงที่สอดให้หนุน
   
“งั้นผมตื่นก่อน สักหกครึ่งจะมาปลุกไปกินข้าวนะ” เขาทำท่าจะลุกจากเตียงแบบอ้อยอิ่ง แต่มือข้างหนึ่งของพี่กุนต์ฉุดกลับลงมาก่อน
   
“หนาว..” เจ้าตัวบ่นอุบ หน้านิ่วคิ้วขมวด “กอดกันเถอะ”
   
อินทัชหน้าร้อน ปีนกลับขึ้นเตียงแบบทันทีทันใด แต่พอจะขยับเข้าทาบ พี่กุนต์ก็เอาขายันไว้แล้วเปิดตาข้างหนึ่งขึ้นมอง
   
“กอด..เฉยๆ” คนอายุมากกว่ายิ้มบาง ตบฟูกปุๆ “พี่ต้องขับรถยาว”
   
เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขาลืมตัวไปหน่อย “โอเคครับ..กอดเฉยๆ” เขารวบตัวอุ่นๆเข้ามาหา ซุกปากลงกับซอกคอแล้วจูบแผ่วเบา “นอนต่อเถอะพี่”
   
“อื้อ..” กนธียิ้มละมุน ดึงมือน้องมาจับ สอดปลายนิ้วเข้าประสาน
   
อินทัชลูบแขนอีกฝ่ายกระทั่งพี่กุนต์ผล็อยหลับไปอีกครั้งถึงได้ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวและออกไปซื้ออาหารเช้าให้ เมื่อคืนพี่กุนต์บอกว่าอยากกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ เขาเลยเรียกแท็กซี่ไปซอยจุฬาสิบเอ็ดและซื้อโจ๊กสามย่านกลับมาให้
   
เรื่องบางเรื่องดูเหมือนไร้สาระ แค่โจ๊กถุงสองถุง ซื้อแถวไหนก็มี ไม่ต้องถ่อนั่งรถออกไปแต่เช้ามืดก็ได้ แต่อินทัชอยากทำและเต็มใจทำยิ่งกว่าอะไร

..อันที่จริงเขาไม่ได้ตามใจพี่กุนต์หรอก..

..เขาตามใจตัวเองที่อยากเห็นรอยยิ้มของฝ่ายนั้นต่างหาก..

กนธีตื่นตอนหกโมงครึ่ง อินทัชกลับมาจากข้างนอกพอดี เมื่อเห็นโจ๊ก ปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ในมืออีกฝ่าย เขาก็ตกใจ “เฮ้ย! ไปมาตอนไหน”
   
“ตอนพี่หลับไง” ร่างสูงวางของบนโต๊ะ หยิบชามมาแกะใส่ “ลองดูครับ นี่โจ๊กขึ้นชื่อตรงจุฬา ผมว่าก็อร่อยดีนะ คนซื้อเยอะ ถ้าไปสายจะเหลือแต่หมูสับ”
   
“ไปถึงสามย่านมาเลยหรือ” เขายิ่งเซอร์ไพรส์หนักกว่าเดิม
   
“ใช่พี่” อินทัชยิ้ม หยิบจานมาใส่ปาท่องโก๋และเทน้ำเต้าหู้ให้เสร็จ
   
กนธีมองน้องอย่างรักใคร่ เขาเดินเข้าไปหา “เอาใจเก่งแบบนี้ ถ้าพี่ให้ทิปบ่อยๆคงล่มจมแน่” หยิบปาท่องโก๋ขึ้นมาเคี้ยวเล่น
   
“ไม่ได้บอกว่าจะเอาทิปสักหน่อย” เขามองคนที่กระดกแป้งทอดในปากเล่น “แค่ยิ้มให้ผมทุกครั้งที่ผมตามใจพี่..ได้เท่านั้นก็พอแล้ว”
   
หยอดแบบนี้..คิดว่าได้ผลหรือไง กนธีนึกด่าเด็กในใจตอนที่จมูกขึ้นสีแดง เขาได้แต่ยัดปาท่องโก๋ตัวนั้นเข้าไปเต็มปาก ไม่ได้อายนะ แค่อร่อย!
   
“ไหน..หันมายิ้มให้ผมก่อน” อินทัชจับตัวพี่กุนต์ไว้
   
“ยุ่งน่า” ขนาดบอกตัวเองว่าอย่ายิ้ม อย่าหลุดนะเว้ย มันยังไม่เชื่อฟังเลย ทรยศคำสั่งสมองทั้งหน้านั่นแหละ ถ้าไอ้ไผ่รู้มันคงว่าเขาไม่ยอมไว้ท่าบ้าง
   
เด็กหนุ่มหัวเราะหึ พี่กุนต์กัดปาท่องโก๋ค้างไว้ เขาเลยก้มลงไปช่วยแย่ง ไม่ได้ใช้มือหรอก ใช้ปากดึงออกมานั่นแหละทำเอาหนูกุนต์ของเขาตาโตเลย

กนธีนิ่งค้างเมื่อน้องเข้ามางับทั้งปากทั้งของกินไปพร้อมกัน

“ทำไมไม่หยิบชิ้นใหม่~” เขาอมอยู่ครึ่งหนึ่งนะนั่น อมจริงๆ!

“ก็แล้วทำไมจะกินจากปากพี่ไม่ได้ล่ะ” อินทัชยักคิ้วถาม

แน่นอนว่ากนธีไม่มีคำตอบ เถียงก็ไม่ได้ ดังนั้นเลยหยิบชิ้นใหม่ขึ้นมากิน มองอย่างท้าทายว่าอยากได้ก็เข้ามาเอาสิ..เอาจากปากเขานี่แหละ

..คิดหรือว่าอินทัชจะกลัว..

เช้านั้น พวกเขาเลยจูบกันหลายต่อหลายรอบทั้งที่มีปาท่องโก๋คั่นกลาง
   
กว่าจะได้ออกเดินทางก็ปาเข้าไปแปดโมงกว่า อินทัชลงมาส่งกนธีที่ชั้นจอดรถ ย้ำแล้วย้ำอีกให้ขับช้าๆ ห้ามเล่นมือถือระหว่างอยู่บนถนน
   
“สมอลทอล์คอยู่ไหนพี่” เขายืนคุมคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย “เอามาวางให้เห็นชัดๆ อย่าให้รู้ว่าขับไปดูหน้าจอไป ผมจะบีบคอให้ตายเลย”
   
“ดุจังวุ้ย” เรื่องนั้นเขาไม่ทำอยู่แล้ว เห็นมาเยอะคนที่ขับรถแล้วก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วย ขนาดอยู่บนทางด่วน กำลังจะลงหัวโค้งก็ยังไม่วาย

เรื่องพวกนี้ควรมีสามัญสำนึกจริงๆ อุบัติเหตุเกิดได้เสมอ ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น คนอื่นจะพลอยรับเคราะห์จากความประมาทและคิดน้อยของเราไปด้วย
   
“แล้วก็นี่” อินทัชยื่นกระติกร้อนให้ “ผมชงเอง อร่อยกว่าอเมซอนอีก จิบหน่อยครับ จะได้ตาสว่าง ถ้ารู้สึกง่วงก็แวะพักหรือโทรหาผมนะ”
   
กนธีรินกาแฟมาดื่มตามคำสั่ง พอเข้าปากก็ต้องเบ้หน้า เกือบบ้วนทิ้งแล้วเพราะขมสุดๆ แต่เด็กมันยืนมองอยู่เขาเลยจำใจกลืนลงท้องไป “อร่อยครับ”
   
..ถ้าไอ้โอ๊ตเป็นเมียเขา..เขาก็คือพ่อบ้านกลัวเมียดีๆนี่เอง..
   
อินทัชยิ้มระรื่น เท้าแขนกับหลังคารถ หลุบตาลงมองคนที่สตาร์ทเครื่อง
   
“ลืมอะไรหรือเปล่าพี่”
   
“ไม่นะ” กนธีเช็กดูแล้ว กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ แว่นกันแดด หูฟัง กระติกกาแฟ ได้มาครบถ้วน “อ้อ..คาดเข็มขัด” เขาดึงเบล์ทมาเสียบและยิ้มให้น้อง
   
“ลืมนี่ต่างหากครับ” เด็กหนุ่มแตะปากตัวเอง
   
อีกคนเลยยิ่งเก้อเขิน จูบมันไปหนหนึ่งตอนที่เด็กก้มมาหา
   
..ความรักเนี่ย..หวานกว่าน้ำต้มผักจริงๆว่ะ..
   
กนธียิ้มค้างอยู่แบบนั้นกระทั่งออกจากคอนโด ขับได้สักพัก เขาก็ตบหัวตัวเอง ดันลืมสำเนาเอกสารที่จะให้ลูกค้าดูไว้บ้านใหญ่ สุดท้ายก็ต้องวกกลับ
   
อ้นกับอุ้มหูผึ่งเมื่อได้ยินเสียงรถพี่กุนต์ เด็กๆวิ่งมารอรับหน้าบ้าน พอดีคุณป้ายืนคอยพี่กุนต์อยู่ก่อนแล้ว ในมือมีซองสีน้ำตาล พอเจ้าตัวมาก็ส่งให้เลย
   
“อ้าว..ว่าไงครับ” กนธีลดกระจกหน้าต่าง “ตื่นเช้ากันจัง” ถ้าเป็นเขานะ ปิดเทอมแบบนี้จะล่อมันสักสิบโมงค่อยลงจากเตียง
   
เจ้าตัวน้อยยกมือไหว้เขากันหน้าสลอน “พี่กุนต์จะไปไหนครับ”
   
“พี่มีธุระต้องไปต่างจังหวัดครับลูก” เขายิ้มให้ นึกขึ้นได้ “อยากไปกับพี่ไหม นั่งรถเล่นกัน เสร็จงานแล้วจะพาไปปากช่อง ไปซื้อข้าวโพดหวาน”
   
ไม่รอให้พี่กุนต์ชวนรอบสอง อ้นกับอุ้มก็กระโดดขึ้นรถมาเรียบร้อย
   
กนธีหัวเราะ หันมาบอกแม่บ้านที่ยืนยิ้มเอ็นดู “รบกวนช่วยหยิบเสื้อกันหนาวให้น้องหน่อยครับ แอร์มันเย็น เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
   
ป้าหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมเสื้อสองตัว “มือถือน้องอ้นค่ะ คล้องคอไว้นะ ระวังหาย” แกส่งซองพลาสติกที่มีสายห้อยให้น้อง
   
“ขอบคุณค้าบ” อ้นยิ้มดีใจ เดี๋ยวจะถ่ายรูปข้าวโพดมาอวดพี่โอ๊ต
   
“คุณยายเป็นยังไงบ้างครับ ทานข้าวเช้าหรือยัง”
   
“ตอนเจ็ดโมง พยาบาลเอาไปให้ แต่คุณยายไม่ค่อยหิวค่ะ ทานซุปใสได้นิดเดียวก็ขอไปนอน” แกรายงานให้ฟัง “ดูเพลียๆแต่ไม่น่าจะมีอะไร”
   
“โอเค ผมฝากด้วยนะ ถ้ายังไงโทรหาผมได้ตลอด หรือโทรหาโอ๊ตก็ได้”
   
แม่บ้านยิ้มรับ โบกมือบ๊ายบายน้องๆกระทั่งคุณกนธีขับออกไป
   
อ้นมานั่งเบาะหน้า ส่วนน้องอุ้มนั่งด้านหลัง พี่กุนต์ให้น้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย ถึงลุงจะขับช้าเป็นเต่าแต่ก็ปลอดภัยเอาไว้ก่อน
   
“พี่โอ๊ตไม่ไปด้วยหรือครับ” อ้นเงยหน้าถามผู้ใหญ่ด้านข้าง
   
“พี่โอ๊ตติดสอนเลยอดไปครับ”
   
“ดีเลย วันนี้พี่กุนต์เดทกะอ้น เดทกะอุ้มแทน” เด็กชายยิ้มเผล่
   
กนธีสำลักหน้าแดง “ไปรู้จักคำว่าเดทตอนไหนเนี่ย..หืม”
   
“พี่โอ๊ตเคยพูดให้หนูฟัง” น้องอุ้มที่นั่งพุงป่องอยู่เบาะหลังเล่า
   
“เดทแปลว่าเที่ยว อ้นรู้นะ”
   
“โอเคครับ..งั้นหนูๆไปเดทกับพี่แล้วกัน” เขากลั้นขำ “วันนี้ลุงฮอทจริงๆ มีทั้งหนุ่มเอ๊าะหนุ่มกระเตาะ..” แบบฟันน้ำนมเพิ่งหัก “มาเดทด้วยตั้งสองคน”
   
กนธีขับรถไปยังจุดหมายที่อำเภอวังม่วง สระบุรี ถึงจะตื่นเช้าแต่ก็ไม่รู้สึกง่วงเลยเพราะมีเจ้าตัวน้อยสองคนคอยชวนคุยตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่อง ‘นินทา’ พี่ชายคนโตเสียมากกว่า
   
“พี่โอ๊ตน่ะ เดี๋ยวนี้ส่องกระจกบ๊อยบ่อย” อ้นบอก “แล้วก็เลือกเสื้อตั้งนาน ตัวนั้นไม่ดี ตัวนี้ไม่เอา เพิ่งตัดผมมาก็จะไปตัดใหม่ อยากได้หล่อๆ”
   
กนธีกลั้นขำจนตัวโยน ไส้ศึกในบ้านนี่อันตรายจริงๆ
   
“หนูเอาเยลลี่มาทาขา พี่โอ๊ตก็ดุ” น้องอุ้มบ่นบ้าง
   
“แต่แอบมาใช้เต้าหู้ของน้องอุ้มแล้วไม่บอก”
   
เขาหัวเราะพรืด..นึกคึกอะไรของมันเนี่ย
   
“พี่กุนต์เคยเห็นหนูเต้นไก่ย่างอ๊ะยาง~”
   
“ยังเลย” กนธีมองกระจกหลังแล้วยิ้มให้ “หมูย่างถูกเผางี้หรือ”
   
“ไก่ๆ หนูเป็นไก่ ไม่ได้เป็นหมู” น้องอุ้มส่ายหัว “ไก่ย่างถูกเผา อ๊า~”
   
“โหย..อยากเห็นจัง ไก่อุ้มจะน่ารักขนาดไหนนะ”

“หนูเต้นเพราะพี่โอ๊ตจะเลี้ยงไอติม” อุ้มตีปีกพั่บๆ “รถมาจอดด้วย! แต่พอถึงบ้าน พี่โอ๊ตก็เบี้ยวอ่ะ เอายาคูลท์แช่เย็นให้หนูกินแทน”

“โธ่..” กนธีหัวเราะอย่างสงสาร “เอาไว้คราวหลังแก้แค้นพี่โอ๊ตกันเนอะ”

อ้นพยักหน้าแบบเห็นด้วย “อ้นจะเอาหมากฝรั่งพี่โอ๊ตมาเป่าให้หมด!”

“โอเค เดี๋ยวพี่ช่วยเป่า” เขาแปะมือแท็คทีมกับเด็กๆ

..ถ้ารู้ว่าหมากฝรั่งของอ้นคืออะไร เขาจะรีบถอนคำพูดมันตอนนี้เลย..

ขับรถมาได้ชั่วโมงกว่า กนธีได้ยินเสียงร้องเบาๆอยู่ด้านหลัง พอเหลือบมองกระจกก็เห็นน้องอุ้มทำหน้าดำหน้าแดง ขนลุกตัวสั่นอยู่ตามลำพัง

“เป็นอะไรครับอุ้ม” เขาเบาแอร์ลง “หนาวหรือเปล่า”

น้องส่ายหัว เอาสองมือดึงกางเกงแล้วหน้าเบ้ “หนู..ปวด..ฉี่”

ชายหนุ่มร้องในลำคอ ตบหน้าผากตัวเองเมื่อน้องอ้นหันมาพยักหน้าเหมือนกัน เขานี่มันใช้ไม่ได้เลย ลืมถามเด็กๆไปสนิท น้องเกรงใจจนไม่กล้าบอก

“รอแป๊บนะลูกชาย พี่จะแว้นเข้าปั๊มให้เดี๋ยวนี้แหละ กลั้นไว้ๆ”

อีกประมาณกิโลเมตรจะมีปตท. กนธีเลยเข้าเลนซ้ายแล้วรีบหาที่จอด พอดับเครื่องและล็อครถได้ก็รีบพาเด็กๆวิ่งฉิวเข้าไปชิ้งฉ่อง

อ้นตัวสูงกว่าน้องเลยใช้โถด้านหน้าได้ไม่ยาก แต่น้องอุ้มตัวสั้นนิดเดียว พี่กุนต์ต้องพาเข้าไปฉี่ในห้อง อารามรีบร้อน น้องยิ่งรูดซิปผิดๆถูกๆเข้าไปใหญ่

“จะไหลแล้วๆ” น้องอุ้มร้อง “บรื๋อ~”

กนธีรีบถอดกางเกงให้เด็กแล้วน้องอุ้มก็ปล่อยโจ้กลงส้วมซึมแบบสุดกลั้น คงจะทนมาสักพักแล้วแต่ไม่กล้าบอกเพราะฉี่อย่างแรงเป็นครึ่งนาทีเลย

เขาลอบขำ ลูบหัวด้วยความเอ็นดูเมื่ออุ้มส่ายเอวเบาๆเป็นสัญลักษณ์ว่าฉี่หมดกระเพาะเรียบร้อย “โอเค~” เขาก้มลงจุ๊บเหม่ง “ไปล้างมือกัน”

“พี่กุนต์จ๋า” น้องทำปากยู่ “หนูฉี่ใส่รองเท้า..”

คนอายุมากกว่าพยายามไม่หัวเราะแทบแย่ “ไม่เป็นไรครับคนดี เดี๋ยวพี่ล้างให้” บอกน้องอุ้มจับเสื้อเขาเอาไว้แล้วยืนขาเดียว ยกขาขึ้นมาทีละข้าง ตักน้ำใส่ขันล้างเท้าลงในโถให้อย่างเบามือ ตามด้วยการล้างรองเท้าจนเอี่ยมอ่อง

“อ้นฉี่เสร็จแล้ว” อ้นโผล่หน้าเข้ามาดู “ล้างมือแล้วด้วย”

“อุ้มก็เสร็จแล้วครับ” เขาอุ้มน้องไปถูสบู่ที่อ่าง “เดี๋ยวหนูรอข้างหน้านะ ขอพี่เข้าบ้าง” เขาบอก “ใครเรียกไปไหนห้ามไป ใครให้ขนมก็ห้ามรับนะครับ”

อ้นกับอุ้มพยักหน้าแข็งขัน พี่คนกลางจูงน้องเล็กออกไปด้านนอก กนธีทำธุระไป ใจพะวงไป เลยรีบจัดการให้เสร็จแล้วตามออกมา

อ้นกำลังนั่งยองๆเอาทิชชูเช็ดรองเท้าให้น้อง พอเช็ดเสร็จ น้องอุ้มก็ลากพี่ไปล้างมือที่อ่าง อ้นเลยยกตัวน้องขึ้นล้างด้วยอีกคน เขาเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้

“เก่งจังเลยครับ” กนธีชม บอกคำไหนทำตามคำนั้น ไม่มีดื้อไม่มีซน เชื่อฟังทุกอย่างแล้วยังช่วยดูแลกันและกันอยู่ตลอดเวลาด้วย “เอาล่ะ..หิวกันไหม”

เด็กชายมองหน้ากัน ท่าทางเกรงใจเหมือนเคย

“ไม่เอานะ..ห้ามกลัวพี่จะเสียเงิน” กนธีบอกกติกา เข้ามาจูงอ้นข้างซ้าย จูงอุ้มข้างขวาแล้วพาไปที่ร้านจิ๊ฟฟี่ในปั๊ม “หนูอยากได้อะไรก็บอก ปวดฉี่ก็บอกเลยนะลูกชาย เราคนกันเอง เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเขินอายครับ”

กนธีพาน้องไปซื้อของกิน มีน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ขนมกรุบกรอบ นมรสจืด เบอร์เกอร์กับข้าวกล่องและพายมะพร้าว พายทูน่าที่อุ่นร้อนในตู้ “พอไหมครับ”

อ้นกับอุ้มคงจะพุงแตกแน่ๆถ้ากินหมดทั้งถุงยักษ์นี้ 

“พี่กินข้าวพะแนงดีกว่า” กนธีก้มลงหยิบของตัวเองบ้าง “ไอ้โอ๊ตไม่ยอมให้พี่กินกะทิ ก็คนมันอยากกินอ่ะ ห้ามมากเดี๋ยวมีน้ำโหเลย”

เด็กๆหัวเราะชอบใจ พอพี่กุนต์จ่ายเงินเสร็จก็พาเดินไปขึ้นรถ แต่อ้นยื้อแขนพี่กุนต์สุดแรง น้องถามว่าพี่กุนต์ไม่กินกาแฟดำหรือ

“พี่โอ๊ตชงมาให้แล้วครับ อยู่ในกระติก” เขายิ้ม

“พี่โอ๊ตชงไม่อร่อย อ้นเห็นพี่กุนต์ทนกิน” เด็กชายส่ายหัว “ไปกันๆ ไปซื้อกาแฟ เดี๋ยวอ้นจะเลี้ยงกาแฟพี่กุนต์เองนะครับ”

“โธ่..ไม่เป็นไรครับอ้น พี่กินของพี่โอ๊ตได้ เดี๋ยวกลับบ้านไปกาแฟเหลือเต็มกระติก พี่โอ๊ตจะเสียใจ หาว่าชงให้แล้วไม่ยอมกิน”

อ้นได้ยินแบบนั้น เลยแก้ปัญหาด้วยการเปิดประตูรถแล้วเอากาแฟของพี่โอ๊ตไปเทที่อ่างล้างหน้า อ้นไม่ได้ใจร้ายนะ แต่เห็นพี่กุนต์ทนกินแบบฝืนตัวเองสุดๆมาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพแล้ว อ้นไม่อยากให้พี่กุนต์ท้องเสียหรืออาเจียน

กนธีขำพรืด ถ้าเจ้าโอ๊ตรู้จะบ่นยาวแค่ไหนกันเนี่ย

“นี่ถือเป็นความลับนะเด็กๆ อย่าบอกพี่ชายล่ะ”

อ้นทำหน้าจริงจัง “พี่กุนต์ไม่ต้องเอาใจพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตชงไม่อร่อย พี่กุนต์ก็บอกได้ครับว่าไม่อร่อย พี่โอ๊ตจะได้ปรับปรุงตัว” น้องเข้าข้างพี่กุนต์เต็มที่ “วันนี้พี่กุนต์กินอเมซอนก่อนนะ รออ้นโต อ้นจะชงกาแฟที่อร่อยกว่าสตาร์บั๊คส์ให้เอง”

เขาหัวเราะก๊าก ชอบใจสุดๆ เด็กน้อยของเขารู้จักสตาร์บั๊คส์ด้วย

น้องอุ้มยืนเอียงคอมอง “หนูชงกาแฟไม่เป็น แต่หนูชงนมเป็นนะ”

“ครับๆ..รอกินจากหนูทั้งสองคนเลยลูก” กนธีหอมหัวเหม่ง มีความสุขมากที่ถูกเด็กเอ๊าะๆเนื้อขบเผาะรุมกันแย่งความรัก กระชุ่มกระชวยชะมัด

อ้นลากพี่กุนต์เข้าไปซื้อกาแฟที่อเมซอน เด็กชายจำได้ดีว่าพี่กุนต์กินกาแฟดำ พอถึงคิวที่ต่อไว้ น้องเลยยกมือขึ้นแล้วพูดเสียงดังฟังชัดกับพนักงาน

“โอเลี้ยงแก้วนึงครับ!”

กนธีกลั้นขำเพราะเอ็นดูเหลือเกิน พวกสาวๆในนั้นก็อมยิ้มกันทั้งแถบ เขาเลยขยับเข้าไปแล้วกระซิบกับคนรับออเดอร์ “แบล็คคอฟฟี่น้ำผึ้งครับ”

อ้นส่งเงินให้พี่คนขายแล้วถอยออกมายืนรอกาแฟให้พี่กุนต์ด้วยความภูมิใจ ส่วนอุ้มก็สะกิดให้พี่อ้นหยิบหลอดกับซองน้ำตาลให้ อุ้มจะรอส่งให้พี่กุนต์

“กินเค้กกันไหมลูก” กนธีลูบหัวเด็กๆ “เอาน้ำอะไรครับ โกโก้? ชานม?”

“หนูเอาโกโก้~” น้องอุ้มยกมือหรา

“อ้นกินกับน้องอุ้มก็ได้ครับ เดี๋ยวน้องอุ้มกินไม่หมด เสียดายเงิน” อ้นช่วยพี่กุนต์ประหยัด แต่สุดท้ายพี่กุนต์ก็ซื้อให้คนละแก้วอยู่ดี

“เอาแซนด์วิชแฮมไปอีกสองอันเนอะ เผื่อไม่อยากกินข้าว” กนธีจ่ายเงินส่วนที่เหลือแล้วจูงน้องออกมา มีเด็กเดินตามแบบนี้ รู้สึกเหมือนพ่อลูกอ่อนเลย

เขาส่งน้องอุ้มไปนั่งเบาะหลัง เอาที่วางแก้วตรงกลางลงมา คาดเข็มขัดให้น้อง ตามด้วยการให้น้องอ้นนั่งเบาะหน้า รัดเข็มขัดและกลับมาประจำที่

“พี่กุนต์กินกาแฟครับ” อ้นส่งแบล็คคอฟฟี่ให้อย่างรู้ใจ

“แบบนี้รักตายเลย” ก้มลงดูดจากหลอดที่น้องยื่นมา “อืม..อร่อยมาก สุดหล่อที่ไหนน้อ เลี้ยงกาแฟพี่แก้วนี้ ดีใจจังครับ”

เด็กน้อยยิ้มยิงฟัน เป็นชัยชนะเล็กๆที่มีเหนือพี่โอ๊ต..ในเรื่องกาแฟ

ใกล้เที่ยง กนธีนัดเจอกับลูกค้าที่ขับรถมาจากบลูสกายวิลล่า รีสอร์ท เขาใหญ่ ทางนั้นพาลูกหลานมาพักผ่อน เลยถือโอกาสคุยเรื่องที่ดิน

เขาพาครอบครัวของลูกค้าไปเลี้ยงข้าวที่ร้านบ้านบนดอยในวังม่วง เด็กๆจะได้เห็นวิวเขื่อนป่าสักด้วย เขาเคยมาหลายหน ที่นี่บรรยากาศดี ลมพัดสบายต่อให้เป็นตอนเที่ยง วิวสวยอยู่บนเนิน มองไปเห็นรถรางวิ่งเลาะเขื่อน

“ปลากับกุ้งที่นี่สดมากนะครับ อาหารอร่อยหลายอย่างเลย”

อ้นกับอุ้มออกจะเกร็งเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ แต่ทางนั้นเองก็ดูใจดี ซ้ำยังมีหลานวัยอ่อนกว่ามาด้วย ทั้งคู่เลยช่วยกันดูแล

“ตัวเองชื่ออะไร” เด็กหญิงตัวจ้อยชวนคุย

อ้นที่กำลังเอาคีมคีบน้ำแข็งให้น้องสาวคนนี้อยู่หันมาบอก “พี่ชื่ออ้น”

“เค้าชื่ออุ้ม” ไอ้ตัวเล็กยิ้มเผล่ “เธอชื่ออะไร”

“หนูชื่อคิทตี้” น้องหมุนตัว โชว์กระเป๋าลายคิทตี้

“เค้าไม่รู้จัก เค้ารู้จักแต่ คิดจะพักคิดถึงคิทแคท” อุ้มบอก

กนธีกลั้นหัวเราะ ปล่อยเด็กๆคุยกัน ส่วนตัวเขาก็คุยกับพวกผู้ใหญ่ไป ลูกค้าของเขาเป็นชายวัยเกษียณ อีกฝ่ายพาภรรยามาพักผ่อน พ่วงด้วยลูกชายวัยสามสิบกว่าอีกคนที่เป็นหม้ายลูกติด ทางนั้นเองดูสนใจที่เขาเป็นซิงเกิ้ลแด๊ด

ซิงเกิ้ลแด๊ดอะไรเล่า..ขโมยน้องคนอื่นมา ยังไม่ได้บอกไอ้พี่ตัวร้ายสักคำ

“ลูกชายคุณน่ารักทั้งคู่เลย มีสองคนหรือครับ”

กนธีหัวเราะ “อ่า..ครับ ชื่ออ้นกับอุ้ม จริงๆอีกคนชื่อโอ๊ต แต่ไม่ได้มา”

“ลูกสามคนเชียวหรือครับ” อีกฝ่ายนึกทึ่ง

เขายกน้ำขึ้นจิบ ยิ้มจาง ไม่รู้จะบอกอย่างไรเลยได้แต่ปล่อยผ่าน

..ถ้าไอ้โอ๊ตได้ยิน มันคงควันออกหู..

“ผมเลี้ยงคนเดียวยังแย่ พอดีภรรยาเสียไปแล้วตั้งแต่คลอดน้อง ผมเลยเลี้ยงแกมาเอง” คนเป็นพ่อพูด “โชคดีที่โตมาแล้วสดใสแบบนี้”

ชายหนุ่มฟังอย่างเห็นใจ “การเป็นพ่อต้องใช้พลังกายพลังใจมากเลยล่ะครับ นับถือคุณจริงๆ” สำหรับเขาที่เป็นพ่อคนไม่ได้ รู้สึกยอมรับอีกฝ่ายมาก

“ลูกๆคุณก็น่ารักเหมือนกัน ตัวแค่นี้ดูแลน้องเก่งชะมัด” เขามองน้องอ้นที่ตักข้าวให้ลูกสาว ส่วนน้องอุ้มที่โตกว่าก็อาสารินน้ำให้ด้วย 

กนธีได้แต่ยิ้มรับ จะบอกยกความดีให้พี่โอ๊ตก็เดี๋ยวจะมีคำถามลามไปว่าพี่โอ๊ตอายุเท่าไร ถ้าพูดอายุของมัน คงถูกตีความว่าเขาไปทำสาวท้องตั้งแต่อยู่ปีสอง ไอ้จะเล่าว่ารับเด็กมาเลี้ยงก็กระไรอยู่ เอาเป็นพูดไว้แค่นี้พอ

“ไว้แลกไลน์กันนะครับ คบกันไว้ไม่เสียหาย” คุณพ่อลูกหนึ่งยิ้มให้

“อ้อ..ได้สิครับ ยินดี” เขาบันทึกเบอร์อีกฝ่ายและแอดไลน์เรียบร้อย

..เมียช่างจับผิดที่บ้านคงไม่ได้มาค้นมือถือเขาหรอกมั้ง..

ออกจากร้านอาหาร กนธีพาลูกค้าไปดูที่ดิน เขาเอาโฉนดที่ดินตัวก๊อปปี้ที่ได้มาจากเจ้าของให้ดูบริเวณทั้งหมด ที่ตรงนี้ติดกับถนน ด้านหลังเป็นวิวภูเขา น้ำไฟเข้าถึง เดินทางออกง่าย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เปลี่ยวจนเกินไป

ราคาขายในเรทนี้กำลังพอเหมาะ สำหรับอดีตผู้บริหารธนาคารที่มีเงินก้อนสะสมและไม่มีภาระอย่างอื่น นับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุยกันได้พอควร อีกฝ่ายก็ตกลงใจ พวกเขาเลยนัดวันทำการซื้อขายกับทางเจ้าของอีกที

ก่อนที่ครอบครัวนั้นจะแยกย้ายกลับรีสอร์ท พ่อหม้ายหนุ่มยังเดินมาหา

“ไว้เจอกันนะครับคุณกุนต์ ผมจะชวนไปกินข้าว พาน้องๆมาด้วยนะ” เขาก้มลงจูงมือลูกสาว “คิทตี้บ๊ายบายพี่เขาสิครับ เดี๋ยวพี่ๆจะกลับแล้ว”

น้องน้อยโบกมือหยอยๆ ส่งจูบให้พี่อ้นกับพี่อุ้มด้วยแน่ะ

กนธียิ้มเอ็นดู ลูกชายเขานี่..เนื้อหอมแต่เด็กเลยวุ้ย

“เจอกันที่กรุงเทพครับ”

เขายิ้มรับ นายหน้าก็ดีแบบนี้ ได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ได้คอนเนคชั่นอีกเยอะ ยิ่งเป็นครอบครัวนายแบงค์ เขายิ่งรู้จักคนวงในมากขึ้นไปอีก

“เอาล่ะ..เสร็จธุระแล้ว เราไปซื้อข้าวโพดหวานกันลูก”

“พี่อ้นไปกินข้าวโพด~” น้องอุ้มเรียกพี่คนกลาง

น้องอ้นกำลังกดถ่ายวิวภูเขาแชะๆ แต่ส่วนใหญ่จะแอบถ่ายพี่กุนต์ทีเผลอมากกว่า เด็กชายจงใจส่งไลน์ไปให้พี่โอ๊ต รายงานว่ามา ‘เดท’ กับพี่กุนต์

กนธีต้อนน้องๆเข้ารถ ตั้งใจว่าจะโทรบอกอินทัช บ่ายสองกว่า ป่านนี้คงจะสอนเสร็จและกลับบ้านแล้ว พอหยิบมือถือขึ้นมา ยังไม่ทันโทรออก สายเข้าจากเด็กก็แผดลั่น ตามด้วยการโวยวายยกใหญ่ว่าเขาหนีเที่ยว

“ก็ชวนแล้วเราไม่ว่างไม่ใช่หรือไง” เขาส่ายหัวอย่างระอา แต่ปากก็ยิ้ม

‘ไม่ได้บอกนี่ว่าจะเอาไอ้แสบสองตัวไปด้วย ทิ้งผมไว้คนเดียวซะงั้น’

“อายุเท่าไรวะเนี่ยไอ้เด็กโข่ง กับน้องกับนุ่งยังอิจฉา”

‘ไอ้อ้นมันไลน์มาเยาะเย้ยผม บอกว่าพี่โอ๊ตถูกทิ้ง มันส่งรูปกุ้งเผากับปลาเผามาให้ดูด้วย ภาพวิวด้านหลังอีก..ไปเที่ยวเขื่อนป่าสักกันมาหรือไง’ 

กนธีหัวเราะยกใหญ่ “เอาน่าๆ ไว้คราวหลังจะพามากินสเต็กโชคชัย”

‘หึ..แล้วนี่กำลังจะไปไหนกันครับ’

“ไปซื้อข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ กินกะหรี่ปั๊บไหม พายองุ่นก็มีนะ”


.

.

.



[ต่อด้านล่าง]



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 00:27:34 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.42] pg.106 -- 22/1/60
«ตอบ #3176 เมื่อ22-01-2017 00:23:54 »


.

.

.



อินทัชหรี่ตาลงอย่างนึกจับผิด เขากลับมาจากสอน ไม่เจอไอ้สองตัวมารับหน้าเลยเดินหา พอดีป้าแม่บ้านมาบอกว่าไปกับคุณกุนต์ตั้งแต่เช้าเลยไม่คิดอะไร ใครจะรู้ว่าไอ้อ้นกล้าส่งไลน์มาแหย่ ได้เที่ยวแล้วยังแกล้งคนทำงานอีก
   
“ข้าวโพดหวานเนี่ย..อยู่ปากช่องสินะครับ ยังจะถ่อไปอีก”
   
‘โธ่..มันก็ไม่ได้ห่างกันเท่าไร พี่อยากกินข้าวโพดนี่’
   
“แล้วตั้งใจจะไปไหนอีก”
   
‘ไปดูลูกม้า แหะๆ..’ ปลายสายหัวเราะเสียงแห้ง
   
“นี่มันกี่โมงแล้วครับ” เขาขมวดคิ้ว “กว่าจะขับรถกลับมาจากตรงนั้น อย่าหาว่าผมเรื่องเยอะเลย แต่งานนี้ไม่อนุญาตครับ”
   
‘ไม่ได้ขออนุญาตสักหน่อย จริงไหมเด็กๆ’ มีเสียงลูกคู่ช่วยรับอีก
   
“จะเล่นกับผมใช่ไหม” เขาถามเสียงเย็น “คิดว่ากลับจากปากช่องแล้วจะรอดได้นานแค่ไหนครับ ถามตัวเองดูดีๆ” คดีเสื้อเด็กปากช่องยังไม่ชำระความ นี่จะไปหาคุณไผทถึงที่ ไม่ข้ามหน้าข้ามตากันไปหน่อยหรือไง
   
ทางนั้นบ่นยาวเป็นหางว่าว เขาก็ปล่อยให้บ่นจนพอใจ
   
‘ทำเหมือนพี่เป็นเด็ก ไม่ไปก็ไม่ไปเว้ย ที่ยอมนี่ไม่ได้กลัว แค่ขี้เกียจง้อ!’
   
“ควรง้อครับ สามีรูปหล่อวัยเอ๊าะพ่วงลูกอีกสองแบบผมหาง่ายที่ไหน”
   
‘เอออ..ไอ้พวกหลงตัวเอง ไอ้คนชงกาแฟอร่อยกว่าอเมซอน!’

ได้ยินเสียงไอ้อ้นร้องว่าอ้นจะชงให้อร่อยกว่าสตาร์บั๊คส์แทรกมา 

‘ได้ทีขี่แพะไล่นะ..เห็นว่าตาแก่คนนี้หลงรักเลยสั่งได้สั่งดี’
   
อินทัชหัวเราะในลำคอ เกิดมาไม่เคยมีแฟน บทจะมีคู่ขึ้นมาก็ได้คุณลุงงอแง “อย่าหาว่าผมกำกับชีวิตเลย ในเมื่อเรากำลังเปิดใจให้กัน กฎของพี่ก็เป็นโมฆะ เรื่องของพี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกแล้ว..มันเป็นเรื่องของผมด้วย”
   
ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนพึมพำ ‘ไอ้เด็กเวรขี้โกง’
   
“พูดไม่เพราะ..จูบปากหนึ่งที” เขายิ้ม เลี่ยงออกมาคุยตรงสวน
   
‘ไอ้เด็กเปรต’
   
“โดนเข้าแล้วสองที..”
   
‘เด็กกวนตีน’
   
“จูบสามที” เด็กหนุ่มหัวเราะหึๆ “พูดอีกจะไม่ใช่แค่จูบแล้ว จะปล้ำ..”
   
‘ไม่พูดหรอกเว้ย! อย่ามาหลอกให้ยาก’
   
“วะเว้ยได้ไง ไม่เพราะเลย..สรุปโดนปล้ำแน่ๆคืนนี้”
   
‘ไอ้เด็กนรกกก’
   
“โอเคครับ..คำที่สี่ โดนแน่นอนไม่ต้องมาเลี่ยง คืนนี้เจอกัน” อินทัชแหย่อย่างชอบใจ “อ้อ..เห็นไอ้อ้นไลน์มาขู่ว่าพี่กับพวกมันจะเอาหมากฝรั่งผมไปเป่าเล่น ผมช่วยสงเคราะห์ให้แล้วนะ ทิ้งถังไปเรียบร้อยแล้ว กลัวเมื่อยปาก”
   
‘ห๋า..แล้วไง ไม่เข้าใจ’

“หมากฝรั่งไอ้อ้น..ก็คือถุงยางของผมนั่นแหละ สรุปว่าคืนนี้..เราไม่มีถุงยางให้ใช้นะครับ” เขาหัวเราะร่วนเมื่อพี่กุนต์ร้องโวย “อยากทำเร็วๆจังน้า~”

..ตัวเปล่าๆกับคุณกนธีเนี่ย..นึกแล้วเซ็กซี่ชะมัด..

‘ฝันไปเถอะโว้ย!’ พูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที

อินทัชยืนฟังเสียงสัญญาณตื๊ด ตื๊ดด้วยรอยยิ้มขบขัน เขาสาวเท้ากลับเข้ามาในบ้าน ยังไม่ทันผ่านห้องรับแขก เสียงแก้วแตกเพล้งก็ดังมาจากห้องยาย

เด็กหนุ่มชะงัก รีบวิ่งไปทางต้นเสียงแล้วกระแทกประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นหญิงชราล้มอยู่กับพื้น

“ยาย!” อินทัชปราดเข้าหา ค่อยๆประคองแกขึ้น “ยายเป็นอะไร”

แกยกมือบอกปัด “ไม่..ไม่เป็นอะไร แค่หน้ามืด”

ยายนอนอยู่ในห้องตั้งแต่เช้า แกกินอะไรไม่ลง รู้สึกแน่น จุกเสียด เจ็บตรงชายโครงขวาตลอดเวลา ขยับตัวก็อึดอัด หายใจลำบากจนต้องอยู่เฉยๆ ทั้งร่างกายก็อ่อนเพลียแบบไม่เคยเป็น พอเด็กเอาซุปมาให้ก็กินได้ไม่กี่ช้อนแล้วขอนอนต่อ เพิ่งมาตื่นเอาตอนนี้เอง บางทีอาจจะนอนนานไปหน่อยเลยมึนหัว

“ยายหิวน้ำ..ลุกแล้วไม่ทันระวังแค่นั้นเองแหละลูก” แกยิ้มเฝื่อน ตอนยืนขึ้นข้างหน้ามันวูบไป แกเลยวัดเอาแก้วบนโต๊ะตกลงมาแตกด้วย

อินทัชขมวดคิ้ว ก้มลงมองกลางฝ่ามือแล้วเพิ่งเห็นว่ายายถูกแก้วบาด ดีที่ไม่ลึกมากนักแต่เลือดก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ “ไปหาหมอเถอะยาย”

พยาบาลรีบเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียง พอดีเธอไปพักกินข้าว ส่วนเด็กอีกคนก็ไปตุ๋นน้ำแกงให้คุณยายเลยไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน

“เป็นยังไงบ้างคะ” เธอรีบห้ามเลือดให้

ยายส่ายหัว ฝืนจะลุกแต่ไม่ไหว เรี่ยวแรงจะพยุงตัวยังไม่มี อินทัชเลยอุ้มยายขึ้นนอนบนเตียงก่อนตัดสินใจพาไปหาหมอเพราะอาการดูแย่เหลือเกิน

“ให้เรียกคนขับรถไหมคะ”

“รบกวนด้วยครับ” เขาเองก็เกรงใจ แต่พี่กุนต์ไม่อยู่คงต้องขอพึ่งคนอื่น

ก่อนจะขึ้นรถ อินทัชยังฝากบอกแม่บ้านว่าอย่าโทรบอกพี่กุนต์ ทางนั้นกำลังขับรถ เขาไม่อยากให้พะวงเรื่องอื่น ถ้ารีบร้อนมากลัวจะอันตราย

ป้าแกรับปาก แต่ว่าทางพยาบาลไม่รู้เรื่องนี้เลยโทรไปรายงานเจ้านาย

กนธีเองตอนที่รับสายก็ร้อนใจเหมือนที่อินทัชคิดไว้ไม่ผิด ลำพังเขาเองจะขับเร็วขึ้นก็ไม่เป็นไร แต่ว่ามีน้องๆสองคนมาด้วย เขาต้องระวังให้มาก

“ยายเป็นอะไรหรือครับพี่กุนต์” อ้นละปากจากการแทะข้าวโพด

“เอ่อ..ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ” เขาเอื้อมมือเช็ดปากให้น้อง ข้าวโพดเปรอะเต็มแก้ม “เด็กๆไม่ต้องกังวล คุณยายเวียนหัวนิดหน่อยครับ”

กนธีรู้สึกผิดไม่น้อยที่ต้องโกหก อาการหลายอย่างของคุณยายเป็นตัวบอกว่ามะเร็งตับที่เป็นแพร่กระจายไปทั่วและมาถึงระยะสุดท้ายของมันแล้ว ที่เหลือก็คือการนับถอยหลัง เพราะว่าไม่ได้ให้เคมีบำบัด ไม่ได้ฉายแสง เลยต้องรักษาแบบประคับประคองตามอาการ ช่วงนี้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาต้องเอาใจใส่กันเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอื่นแทรกซ้อนขึ้นมาทำให้อาการแย่ลง

ชายหนุ่มนึกชั่งใจว่าจะฝากใครช่วยดูแลแทน พอดีคิดถึงปาลินเลยโทรหา ลูกน้องคนขยันของเขารับสายได้เร็วเหลือเชื่อ

“สนหรือครับ..เราทำอะไรอยู่ ว่างไหม พี่ขอวานหน่อยสิ” เขาถามอย่างรวดเร็ว “พอดีคุณยายของโอ๊ตไม่ค่อยสบาย ตอนนี้กำลังไปหาหมอ พี่ขอรบกวนสนให้ช่วยดูคุณยายหน่อยได้ไหม เรียกแท็กซี่ไปก็ได้ พี่จะจ่ายค่าเดินทางให้ แล้วก็เรื่องค่าเสียเวลา พี่ขอถือโอกาสจ้างสนเป็นงานพิเศษเลยได้หรือเปล่า”

ปาลินดีใจหาย นอกจากจะตกลงทันทีแล้วยังไม่ขอรับเงินอะไรทั้งนั้น

‘โอ๊ตเป็นเพื่อนผมครับ ผมยินดีช่วยเขา พี่กุนต์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ’

กนธียิ้มออกมาได้ อย่างน้อยก่อนที่เขาจะตามไปสมทบที่โรงพยาบาลก็ยังมีปาลินล่วงหน้าไปก่อนคนหนึ่ง เจ้าโอ๊ตจะได้มีเพื่อนคอยอยู่ข้างๆด้วย

“ถ้ามีอะไรด่วน ฝากโทรบอกพี่ด้วยนะครับ”

ปาลินรับปากอย่างดี เขาเลยเบาะใจไปเปลาะหนึ่ง

พวกเขาถึงกรุงเทพตอนทุ่มเศษ ปาลินโทรบอกว่าคุณหมอมาดูอาการแล้ว สภาพร่างกายของคุณยายอ่อนแอลงมากเลยให้พักอยู่โรงพยาบาลก่อน

อ้นกับอุ้มหลับมาในรถ พอหาที่จอดใต้อาคารได้ กนธีก็ปลุกน้องอ้นให้ตื่น ส่วนน้องอุ้ม เขาจะพาไปเอง ระหว่างทางเขาแวะซื้อข้าวให้น้องกินรองท้องไปเรียบร้อย แต่เดี๋ยวคงจะหิวขึ้นมาอีก ไว้ตอนนั้นค่อยพาลงไปหาอะไรกิน

“เดินไหวไหมครับอ้น” เขาก้มลงถามเด็กที่เดินเซไม่ตรงทาง

อ้นหาวหวอด ยกมือขยี้ตาอย่างงัวเงีย “ที่นี่ที่ไหนครับ”

“พี่แวะมาเยี่ยมคุณยายหน่อยครับ หนูไปนอนต่อที่ห้องนะ” เขาให้น้องจับชายเสื้อแล้วเดินตามเพราะสองมืออุ้มน้องคนเล็กที่หลับคอพับคออ่อน


.

.

.



อินทัชนั่งหน้าเครียดอยู่ข้างเตียงคนไข้ ยายหลับไปหลังจากหมอมาดูอาการเมื่อตอนสี่โมง เขาเพิ่งมาสังเกตดีๆว่ายายผอมลงมากกว่าเดิมแค่ไหน ที่จริงแล้ว ยายอดทนมาตลอด ไม่เคยบ่นหรือโอดครวญอะไรให้ฟังแม้แต่น้อย เขาก็เข้าใจว่าแกดีขึ้น แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นแค่เรื่องหลอกตัวเอง
   
หมอบอกว่าคนไข้อ่อนเพลียเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำ เซลล์มะเร็งที่แพร่รวดเร็วเป็นตัวทำลายตับจนไม่สามารถผลิตกลูโคสได้ หมอยังให้ระวังเรื่องของบาดแผล ยายเป็นเบาหวาน ปกติแผลก็หายยากอยู่แล้ว ยิ่งมาประจวบเข้ากับตัวโรคร้ายที่ตับ ปัจจัยที่ทำให้เลือดแข็งตัวก็ลดลง เลือดจะออกง่ายและหยุดยาก ถ้าม้ามทำงานผิดปกติจนทำลายเกล็ดเลือดมากขึ้นจะยิ่งแย่ซ้ำซ้อน บางรายที่เป็นตับแข็งระยะท้ายๆอาจมีการอาเจียนเป็นเลือด บวกเรื่องภูมิต้านทานต่ำก็ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ส่งผลให้ตับวายเร็วขึ้นด้วย 
   
“โอ๊ต..” ปาลินเพิ่งลงไปซื้อข้าวที่ตลาดวังหลังมาให้ เขาแกะใส่ถุงและยกมาวางบนโต๊ะ “กินข้าวก่อนเถอะ ยังไม่ได้กินเลยไม่ใช่หรือ”
   
อินทัชส่ายหัว ไม่หิวเลยสักนิด เห็นยายกินไม่ลงแล้วไม่อยากกินตาม
   
“อย่าดื้อน่า” เขาผลักโต๊ะเลื่อนของคนป่วยเข้ามาให้ “สักคำนะ”
   
“ไม่หิวเลย”
   
ปาลินเข้าใจดีว่าเพื่อนกำลังรู้สึกแย่ เขาขยับเข้าไปนั่งด้านข้าง ลูบหลังปลอบใจ “เรารู้ว่าโอ๊ตเครียด แต่ยังไงก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยได้ไหม”
   
“สนกินเถอะ เราไม่หิวจริงๆ”
   
“ถ้าโอ๊ตไม่กิน เราก็ไม่กิน” ปาลินเล่นวิธีนี้
   
“กระเพาะไม่ได้ติดกันสักหน่อย”
   
“ไม่ติดก็ไม่กิน เพื่อนอด เราอดด้วย ไม่เป็นไร ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว” เขาพูดปาวๆแต่ท้องกลับร้องโคร่กขึ้นมา ได้ยินแล้วเกิดนึกอายเสียเองแต่ก็ยังดันทุรัง
   
อินทัชยิ้มระอา สุดท้ายก็ต้องยอมกินข้าวเป็นเพื่อนปาลิน พอเข้าปากสักคำ ในท้องก็ประท้วงอยากได้คำต่อไป ในที่สุดก็หมดทั้งจาน
   
“เก่งมาก” ปาลินยิ้ม ส่งน้ำให้ “กินน้ำแล้วไปพักซะ เราจะล้างจาน”
   
“สนจะกลับยังไง” เขาเป็นห่วง นี่ให้ลุงคนขับกลับบ้านไปก่อนแล้ว ตอนแรกจะรบกวนไปส่งปาลิน แต่เจ้านี่รั้นหัวชนฝา อ้างว่าพี่กุนต์ฝากไว้เลยจะอยู่เฝ้า

“เรากลับพรุ่งนี้ไง โอ๊ตนี่พูดไม่รู้เรื่อง” เขารวบรวมชามไปที่ซิ้งค์

“บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ต้อง”

“เงียบเถอะ” เขาล้างจานอย่างรวดเร็วก่อนเอาผลไม้ที่ซื้อติดมือจากในตลาดมาปอก ไอ้โอ๊ตจะได้กินแล้วสงบปากคำบ้าง “กินอะไร แอปเปิ้ลหรือฝรั่ง”

“เลิกวุ่นวายแล้วมานั่งเฉยๆซะที”

“แอปเปิ้ลแล้วกันนะ โอ๊ตชอบแอปเปิ้ลฟูจิใช่ไหม เราจำได้” พูดไปมือก็ปอกเปลือกด้วยมีดสองคมท่าทางคล่องแคล่ว “เราซื้อนมกล่องมาให้ด้วย จำได้ว่าเด็กแถวนี้เคยบอกว่าติดนิสัยต้องกินนมก่อนนอน”

อินทัชยิ้มบาง เรื่องของเขา ปาลินยังคงจำได้ทุกคราวไป

..ดีใจ..ที่เพื่อนยังอยู่ข้างๆเขา..
   
“ขอบคุณนะ” เสียงทุ้มต่ำพึมพำ “ไม่ว่าจะครั้งไหน..สนก็ดีกับเราเสมอ”

“เพื่อคุณอินทัช..น้อยกว่านี้ได้ไงกัน” ปาลินเอาจานใส่ผลไม้มาวาง

เขามองยิ้มๆ ไม่หยิบขึ้นมาสักทีจนเพื่อนต้องเอาแอปเปิ้ลยัดปากให้ อินทัชเคี้ยวเชื่องช้า ปลายลิ้นฝืดเฝื่อนแต่ก็กินต่อไป

“จะค้างที่นี่จริงหรือสน แล้วพี่ศรล่ะ”

“บอกไว้แล้ว คืนนี้ไม่กลับมั้ง คงอยู่ทำโอที” เจ้าตัวเข้ามานั่งบนโซฟา ขัดสมาธิและหันซ้ายหันขวา “เอ..ไม่มีเสื่อเลย ทำไงดี”
   
ห้องนี้เป็นห้องธรรมดา มีแค่เตียงคนไข้และโซฟายาวนอนได้คนเดียว
   
“เราบอกแล้วว่าไม่ต้องมา มันลำบากใช่ไหม”
   
“เงียบน่า” ปาลินแคร์เสียที่ไหน “ไม่มีที่นอน เรานั่งหลับก็ได้”
   
“รั้น ยายตัวเองก็ไม่ใช่ ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา”
   
“โอ๊ตไม่โอเคหรือไงที่เรามาอยู่เป็นเพื่อน” เขายู่หน้า “คนเดียวหัวหาย สองคนช่วยกัน จะได้ไม่วูบๆโหวงๆ เพื่อนจะมีประโยชน์ก็ตอนนี้นี่แหละ”
   
อินทัชรู้สึกอุ่นอวลในใจ อดไม่ได้เลยต้องยกมือขึ้นโยกหัวเพื่อน ปาลินหัวเราะเบาๆเพราะไอ้โอ๊ตทำเขาหัวยุ่งหมด ถึงอย่างนั้นก็ดีใจที่อีกคนยิ้มได้
   
“สำนึกไว้ด้วยล่ะว่ามีเพื่อนอย่างเรานี่ดีที่หนึ่ง”
   
เขานึกมันเขี้ยวเลยดึงคอเจ้าสนเข้ามากอดรัด ไอ้ตัวเล็กขำใหญ่
   
“ไปอาบน้ำไป หัวล้านเหม็นเขียวแล้ว”
   
“โห..ไอ้หมอนี่..” ปาลินนึกฉุน หาว่าเขาหัวเหม็น เอาให้มันดมซะเลย
   
“ไปห่างๆไป” อินทัชหัวเราะแผ่วเมื่ออีกคนเอาหัวทิ่มเข้าหน้าเขา
   
มีเสียงเปิดประตูเข้ามา คนที่กำลังหยอกล้อกันเลยหันไปมอง
   
กนธีที่เห็นเด็กหนุ่มสองคนนั่งเล่นกันอยู่ตรงโซฟาชะงักไปครู่หนึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็ยิ้มทักพลางจูงน้องอ้นเดินมาหา มืออีกข้างอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้

“โอ๊ต..สน” เขามองไปที่เตียงคุณยาย “ท่านเป็นยังไงบ้าง”
   
อินทัชลุกขึ้นยืน ปาลินก็รีบเข้าไปรับน้องอุ้มมานอนที่เบาะ ส่วนน้องอ้นเดินงัวเงียไปเกาะข้างเตียงของยายแล้วกลับมานอนปุข้างๆน้อง
   
“ยังโอเคอยู่ครับพี่ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทรุดลงอีกวันไหน”
   
กนธีพยักหน้ารับ เขาตบบ่าน้องปลอบใจ ทั้งที่อยากจะกอดไว้ด้วยสองแขนเพราะรู้ดีว่าอินทัชกำลังรู้สึกแย่ แต่ต่อหน้าปาลิน เขาทำได้แค่นี้เอง
   
พูดคุยกันจนสามทุ่มกว่า อินทัชก็ถาม “จะค้างกันหมดนี่จริงๆหรือครับ” 
   
“โอ๊ตจะพาสนกับเด็กๆกลับก่อนไหม ขับรถเป็นแล้วนี่ พี่อยู่เฝ้าให้เอง”
   
“ผมยังไม่มีใบขับขี่เลย ขับกลางคืนไม่ชินด้วย” อินทัชบอก “พี่นั่นแหละ มาเหนื่อยๆน่าจะกลับไปนอนให้สบาย ตรงนี้อยู่กับหมอ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
   
ถึงน้องจะบอกอย่างนั้นว่าไม่ต้องห่วง แต่หน้าตาก็เครียดน่าดู ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาไม่อยากท้วงหรือมากความให้น้องลำบากใจอีก “อ่า..งั้นคืนนี้พี่คงต้องกลับก่อน จะได้พาอ้นกับอุ้มไปพัก แล้วสนล่ะครับ ให้พี่ไปส่งบ้านไหม”
   
“ไม่เป็นไรครับพี่กุนต์ ไหนๆก็มาแล้ว ผมช่วยเฝ้าอีกคนก็ดี โอ๊ตคนเดียวน่าจะลำบาก นี่ตอนเย็นก็เกือบจะไม่ยอมกินอะไร ต้องขู่เข้าให้”
   
“ขู่ว่า?” เขาส่ายหัว เจ้าโอ๊ตนี่ทำตัวเป็นเด็กไปได้
   
“ขู่ว่าถ้าไม่กิน ผมจะอดไปด้วย อยากแกล้งเพื่อนก็เอา โอ๊ตเลยกิน”
   
กนธีหัวเราะแผ่ว ขับรถมาหลายชั่วโมง เขาทั้งล้าทั้งเหนื่อย กังวลเรื่องอาการคุณยายด้วย แต่พอรู้ว่าโอเคขึ้นแล้วก็เบาใจ ตอนนี้เป็นห่วงอ้นกับอุ้มต่อ
   
“ถ้างั้นพรุ่งนี้พี่จะมาใหม่นะ ฝากสนด้วยนะครับ”
   
ปาลินตะเบ๊ะรับก่อนหันไปลากเก้าอี้กับเบาะมาต่อเป็นที่นอน อินทัชเห็นพี่กุนต์ยกไอ้อุ้มขึ้นพาดบ่าก็เข้าไปช่วย ไอ้อ้นถูกปลุกให้ตื่นอีกรอบยิ่งงัวเงีย
   
“ไม่เป็นไรโอ๊ต..พี่พาน้องไปได้ โอ๊ตเฝ้าคุณยายเถอะ” กนธียิ้ม
   
“ไปได้แน่นะครับ” เขามองคนที่พาน้องๆเดินออกไปจากห้อง
   
“อืม..เจอกันพรุ่งนี้” ชายหนุ่มก้มลงจูงมือน้องอ้นที่หาวแล้วหาวอีก
   
เมื่อประตูปิดลง กนธีก็ลอบถอนหายใจ ความรู้สึกแปร่งปร่าที่ปิดบังไว้ตอนที่เห็นเด็กสองคนหยอกล้อกันอย่างสนิทสนมผุดวาบขึ้น ต้องปรามตัวเองว่าอย่าไร้สาระให้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ….

ทำไมความงี่เง่าไร้เหตุผลของเขาถึงทำให้ปวดหน่วงในอกได้ขนาดนี้







.....................................................................................








ขออภัยอย่างยิ่งงงงงจ้าาา ที่ทำให้รอนาน   :hao5:  งานเยอะมากมาย หอบกลับมาทำบ้านตลอด เหอๆ

ตอนนี้ก็ 3/4 ของเรื่องแล้ว ยังไงก็จบปีนี้แน่ๆ 555+ /นี่ต้นปีเอง พูดซะยาว กรั้กก

พรุ่งนี้น้องที่ทำงานชวนไปทำโอที รถออกแต่เช้า ต้องรีบนอนแหล่ว  :z10:

ฝากไว้ด้วยน้าา กำลังใจก็มาจากการพูดคุยของนักอ่านนี่แหละค้าบ

หายเงียบไปแต่ก็เข้ามาอ่านบ่อยๆไว้เป็นน้ำมันหล่อลื่นนะ อิๆ

แล้วเจอกันจ้าา  :กอด1:


ปล. ติดตามที่เพจได้เน้อ ถ้าอัพสั้นๆก็จะลงในเพจ ลงในทวิต แท็ก #sinsgreed หรือถ้าทยอยอัพบ่อยๆจะเป็นเด็กดี ในเล้าจะลงแบบเต็มตอนทีเดียวคร้าบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 00:32:34 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.42] pg.106 -- 22/1/60
«ตอบ #3177 เมื่อ22-01-2017 00:48:38 »

อีโอ๊ตให้เกียรติพี่กุนต์บ้างก็ได้นะ เป็นแฟนกันแล้ว แต่ยังทำแบบนั้นกับอีสนอีก แถมไม่ใช่ครั้งแรกด้วย
สัมผัสได้ถึงพลังงานมาม่า 55555  :impress2: :fire:

ปล. สารภาพเลยว่าไม่เคยชอบอีสนเลยตั้งแต่ตอนแรกจนตอนนี้. เขียนบทหายสาบสูญให้นางที55

ปล2.มาต่อแล้วววว กรี๊ดดดด :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 01:00:52 โดย ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.42] pg.106 -- 22/1/60
«ตอบ #3178 เมื่อ22-01-2017 00:55:40 »

อ่านแล้วกลัว กำลังจะมาถึงแล้ว  เวลากินมาม่า

ออฟไลน์ tamakosou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.42] pg.106 -- 22/1/60
«ตอบ #3179 เมื่อ22-01-2017 01:14:23 »

จัดคู่แข่งมาเลยค่ะ :mew5: จัดมาให้ตาโอ๊ตรู้ตัวสักที ไม่รีบรักเดี๋ยวอีกหน่อยโดนซิวไปกินแน่ๆทั้งคุณไผทแล้วยังจะผู้ต้องสงสัยอย่างตาพ่อหม้ายอีก  :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 01:34:34 โดย tamakosou »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด