วิหารจันทรา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณชอบตอนจบแบบไหนของนิยายเรื่องนี้

รพีพันธ์ได้เจอกับจันทิรักษ์
204 (80.3%)
รพีพันธ์ได้ลูกชายฝาแฝด คืออัสสะ&จันทริ
50 (19.7%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 165

ผู้เขียน หัวข้อ: วิหารจันทรา  (อ่าน 232718 ครั้ง)

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
Re: วิหารจันทรา : ตอ&#
«ตอบ #90 เมื่อ29-07-2008 21:19:09 »

ตอนแรกรีบมาจิ้มไปหน่อย เลยไม่เห็นคำถามค๊าบ.....

“อยู่กับคุณน่ะเหรอ ... ก็ดีเหมือนกันนะ กลัวแต่คุณจะเบื่อที่ต้องดูแลผมน่ะสิ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ
“มันเป็นหน้าที่ของข้า” พูดแล้วใบหน้าของ จันทริ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ แววตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานกว่าปรกติ

ประโยคนี้มันเหมือนฝ่ายรับอ่ะ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายหรือฝ่ายรุกจะหน้าแดงเพราะประโยคนี้อ่า

แต่ตอนแรกที่อ่านเลยเนี่ย คิดว่า จันทริ เป็นรุกอ่า

ผมแค่คิดเฉย ๆ น๊า........

 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

อ้อ ที่แท้ งง ที่ จันทริ นี่เอง  :laugh3:
เพราะตอนแรกๆที่ตัวละครนี้ออกมา ดูจะเป็นฝ่ายปกป้องดูแล รพีพันธ์
ส่วน รพีพันธ์ ก็ดูออดอ้อนเกิน ... ประมาณนี้รึเปล่า  :laugh:

คือตอนที่เขียน คิดว่า รพีพันธ์ คงตกใจ และกลัว จนบางครั้งคุมสติไม่ค่อยอยู่
แล้วคิดว่าคนที่พอจะพึ่งได้ มี จันทริ คนเดียว การแสดงออกเลยเป็นแบบนั้น
ส่วนจันทริ ที่หน้าแดงเป็นเพราะ ..... เดี๋ยวอ่านไปก็รู้ อิ อิ  o22
ส่วน จันทริ เปลี่ยนบทมาเป็น สาวเสียบ ดีมะ กร๊ากกกกกกก  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2008 21:21:28 โดย บุหรง »

sun

  • บุคคลทั่วไป
   ว่าแต่..ว่า ไปอยู่ในถ้ำกันสองคนอ่ะ เพื่อ ทำพิธีหรืออะไรกันเหยอ     :o8:

อยากรุๆ คึคึ    :a3:


เข้ามาอ่านทีเดียว 3 ตอนรวด แหะๆ


.....

อ๊า คุนบุหรง เล่นมาพูดงี๊ ยิ่งอยากรู้น๊า...  :m23:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :o สงสัยตัวอิจฉาปรากฎ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ตอนแรกรีบมาจิ้มไปหน่อย เลยไม่เห็นคำถามค๊าบ.....

“อยู่กับคุณน่ะเหรอ ... ก็ดีเหมือนกันนะ กลัวแต่คุณจะเบื่อที่ต้องดูแลผมน่ะสิ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ
“มันเป็นหน้าที่ของข้า” พูดแล้วใบหน้าของ จันทริ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ แววตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานกว่าปรกติ

ประโยคนี้มันเหมือนฝ่ายรับอ่ะ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายหรือฝ่ายรุกจะหน้าแดงเพราะประโยคนี้อ่า

แต่ตอนแรกที่อ่านเลยเนี่ย คิดว่า จันทริ เป็นรุกอ่า

ผมแค่คิดเฉย ๆ น๊า........

 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

อ้อ ที่แท้ งง ที่ จันทริ นี่เอง  :laugh3:
เพราะตอนแรกๆที่ตัวละครนี้ออกมา ดูจะเป็นฝ่ายปกป้องดูแล รพีพันธ์
ส่วน รพีพันธ์ ก็ดูออดอ้อนเกิน ... ประมาณนี้รึเปล่า  :laugh:

คือตอนที่เขียน คิดว่า รพีพันธ์ คงตกใจ และกลัว จนบางครั้งคุมสติไม่ค่อยอยู่
แล้วคิดว่าคนที่พอจะพึ่งได้ มี จันทริ คนเดียว การแสดงออกเลยเป็นแบบนั้น
ส่วนจันทริ ที่หน้าแดงเป็นเพราะ ..... เดี๋ยวอ่านไปก็รู้ อิ อิ  o22
ส่วน จันทริ เปลี่ยนบทมาเป็น สาวเสียบ ดีมะ กร๊ากกกกกกก  :laugh:

 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3


หุหุหุหุ  ถึงตอนนั้น ผลัดกัน จิ้ม ก้ได้นะ ไม่ต้องแย่งซีนกันล่ะ อิอิอิ

แร้วราตรีใดจะบูชายันต์จ้ะ  :laugh:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

three

  • บุคคลทั่วไป
สรุปใครรุกอ่ะครับเนี้ย :m23:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๑๐

“นึกว่าจะมีปาร์ตี้ซะอีก ที่แท้ก็แค่กินข้าวกลางวันด้วยกันเอง” รพีพันธ์ พูดดังๆระหว่างทาง ที่เดินกลับสู่เพิงที่พัก
“ปาร์ตี้” จันทริ หยุดเดินหันกลับมาถามด้วยสีหน้างุนงง “คือสิ่งใด”
“แหม ... ก็งานเลี้ยงไง งานเลี้ยงฉลองน่ะ” รพีพันธ์ บอกพลางหัวเราะเบาๆ “แค่นี้ก็ไม่รู้” ผ่านมาหลายวัน เขาเริ่มรุ้สึกคุ้นเคย พอที่จะพูดจาหยอกล้อกับ จันทริ ได้บ้าง
“แค่เดินทางกลับมาถึงโดยปลอดภัย มิถึงกับต้องจัดงานฉลองดอก มิสำคัญถึงขนาดนั้น” จันทริ บอกยิ้มๆ
“แล้วคุณน่ะ เป็นมังสวิรัตเหรอ”
“มังสิวิรัติ คือสิ่งใด” จันทริ ขมวดคิ้วอีกครั้ง
“คุณนี่ ไม่รู้จักอะไรเลย” รพีพันธ์ พูดพลางกลั้นหัวเราะ “มังสวิรัติ ก็พวกที่ไม่กินเนี้อสัตว์ไง กินแต่ผัก ผลไม้ เหมือนที่คุณกินเมื่อกี้ แล้วคุณกินแบบนั้นทุกมื้อรึเปล่า”
“มิใช่ บางมื้อข้าก็กินข้าวบ้าง” จันทริ ตอบยิ้มๆ รู้สึกดีใจที่เห็นชายหนุ่มรื่นเริงขึ้นบ้างในวันนี้ และนึกขันที่หาว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
“แล้วทำไมคุณไม่กินเนื้อสัตว์เลยล่ะ จะว่าพวกเทพที่คุณนับถือห้ามก็คงไม่ใช่ เพราะผมเห็นคนอื่นเขาก็กินกันเป็นปรกติ”
“พวกเรานับถือจันทราเทพ ท่านมิได้ห้ามไว้  ความจริงเมื่อก่อนข้าก็กินเนื้อสัตว์เป็นปรกติ จนกระทั่งข้าอายุได้ ๑๒ หนาว ข้ากินได้แต่ผัก ผลไม้ น้ำผึ้ง”
“ว่าไปมันก็ดีเหมือนกันนะ เพราะกินแต่อาหารแบบนั้นมั๊ง ตัวคุณถึงได้มีกลิ่นหอมๆ” รพีพันธ์ พูดพลางคิดถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของร่างกายที่คอยให้ความอบอุ่นแก่เขา เมื่อตอนที่เขาไม่สบาย จันทริ ยังคงมองชายหนุ่มด้วยสายตาอ่อนโยนและรอยยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบคำ
“แล้วทำไมคุณถึงแยกไปอยู่คนเดียวนอกหมู่บ้านล่ะ แล้วผมไม่เห็นคุณออกไปทำงานในไร่เหมือนคนอื่น” รพีพันธ์ ถามคำถามที่เขาสงสัยมานาน
“เพราะข้าแตกต่างจากผู้อื่น” จันทริ ตอบช้าๆ
“นั่นสิ ... ผมก็ว่าอย่างนั้น” รพีพันธ์ พูดแล้วมอง จันทริ ไปทั่วทั้งตัวแล้วกลับมามองที่ใบหน้าอย่างพิจารณา “ใบหน้าคุณก็แปลกกว่าพวกเค้า คนในหมู่บ้านส่วนมากหน้าผากกว้าง กรามใหญ่ คิ้วหนา ตาชั้นเดียว ปากหนาเทอะทะ ตัวก็สูงใหญ่ ขนาดผู้หญิงยังดูล่ำบึก ตัวสูงปรี๊ด ดูมือดูเท้าก็ใหญ่ไปหมด ผมก็เส้นหนา แต่ดูคุณสิ”

รพีพันธ์ มองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า เรือนร่างสูงเพรียว ผิวเป็นสีน้ำตาลอ่อน ต่างกับผิวสีคล้ำของคนในหมู่บ้าน อาจเป็นเพราะคนเหล่านั้น ต้องออกไปทำงานในไร่ทุกวัน โครงร่างของชายหนุ่มดูบอบบาง ท่อนแขนกลมกลึง มองไล่ไปยังมือที่มีนิ้วมือเรียวยาว ที่เขาเคยสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มและอบอุ่น วกสายตากลับขึ้นไปมองที่ใบหน้ารูปไข่ หน้าผากมน คิ้วบางที่โค้งเรียวยาวจรดหางตา ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ดูแวววาวแจ่มใส อยู่ใต้เปลือกตาสองชั้น จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย ริมฝีปากบางที่แดงเรื่อ และเส้นผมที่เล็กละเอียดยาวปรกต้นคอ

“คุณต่างจากพวกนั้นจริงๆ” รพีพันธ์ พูดเบาๆพลางจ้องหน้า จันทริ อย่างไม่ยอมวางตา “แตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงนะ ผมต้องจีบคุณแน่ๆ”
“จีบ” จันทริ ทวนคำ  “คือสิ่งใดอีก” ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัย ทำให้ รพีพันธ์ อดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“จะว่ายังไงดี คือ ... เหมือนกับการแสดงออกให้รู้ว่าชอบ ว่ารัก อยากจะได้มาเป็นแฟน”
จันทริ ยิ่งทำหน้าสงสัยมากขึ้นอีก ทำเอา รพีพันธ์ ชักรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ จนต้องยกมือขึ้นเกาหัว
“แบบว่า อยากได้มาเป็นภรรยา อะไรแบบเนี๊ย” พูดจบเขาก็หัวเราะเบาๆ
“ถ้าเช่นนั้นมิต้องดอก มิมีความจำเป็น” จันทริ พูดพลางก้มหน้าลงต่ำ
“อ้าว” รพีพันธ์ อุทานออกมา ... จะโดนด่ามั๊ยวะเนี่ย จู่ๆไปบอกว่าอยากได้เค้ามาเป็นเมีย ...
“ข้าถูกกำหนดให้เป็นของท่านอยู่แล้ว และเพราะเหตุนี้ ท่านจึงได้ถูกนำพามายังที่แห่งนี้”
รพีพันธ์ สังเกตเห็นใบหน้าที่แดงเรื่อของ จันทริ ที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาแว่บหนึ่ง ก่อนจะหันเดินต่อไป เขายืนนิ่งด้วยความงุนงงอยู่พักหนึ่ง แล้วเดินตาม จันทริ  กลับไปยังเพิงอันเป็นที่พักของทั้งสองคน

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
โอ้วดีมาก ไม่ต้องเสียเวลาจีบ  :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
อร๊ายยยยยยย ยังไม่ถึงถ้ำ  :o8:

แหม ๆ จันทริกินแต่ ผัก ผลไม้ น้ำผึ้ง ถึงตัวหอม ต้องลองกินบ้างซะแล้ว เอิ๊กกกก

แอบอยากดมจันทริบ้างจัง เอิ๊กกกกก  :m1:

อ้างถึง
“ข้าถูกกำหนดให้เป็นของท่านอยู่แล้ว และเพราะเหตุนี้ ท่านจึงได้ถูกนำพามายังที่แห่งนี้”

ประโยคนี้ นายอาทิตย์ยังงงอยู่อีกเหรอ รีบเลย เค้าอุตส่าห์บอกความเป็นนัยแล้ว

เป็นกำลังใจให้คุณบุหรงนะคะ  :L2:

ปล.ไม่เอาจันทริเป็นสาวเสียบนะคะ รับไม่ด๊ายยยย  :serius2:


nartch

  • บุคคลทั่วไป
:laugh:
เด็กพวกนี้...นวนิยายเสียหายหมด จะมาอยากรู้ทามมายยยย
ใครจะเสียบ รึใครจะโดนเสียบ  จะมีรึเปล่ายังไม่รู้เลยยยย...  :m20:

เป็นตัวแทนแห่งเทพซะขนาดนั้น...
เค้าอาจจะชวนกันไปนั่งวิปัสสนากันที่วิหารจันทราก็ได้ใครจะรู้

อย่าไปคอยแต่ฉากจิ้มอย่างเดียวสิ...ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวดีกว่า
รอคนแต่งกับตอนต่อไปค๊าบบบบ....หนุกหนาน ๆๆๆ  :m1:

ปล. ใครจะเสียบหรือใครจะโดนเสียบ เค้าก็ชอบท้างน้านนนน  :m25:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

สงสัยพอเข้าถ้ำ  ก็พากันเดินจงกรม แหงมๆ   :m20:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m13: :m13:  แหม่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มีจีบกานด้วยอ่ะ

อิอิ.......

ขอบคุณนะคับคุณบุหรง  :pig4: :pig4:

รออ่านตอนต่อไปอยู่เน้อ

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ว่าแต่ ตอนนี้ทำไมสั้นจัง

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

three

  • บุคคลทั่วไป
จันทริไม่ได้เป็นสาวเสียบแล้ว :o8:

sun

  • บุคคลทั่วไป
ที่แท้ ก้อเป็นอย่างนี้ นี่เอง คึคึ     :a2:
ไม่ต้องเสียเวลาจีบจริงๆด้วย ฮ่าๆ   :laugh:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๑๑

รพีพันธ์ นั่งมองคนสองคนที่คุยกันอยู่ด้านนอกมาพักใหญ่แล้ว จันทริ นั่งอยู่บนก้อนหินใต้ต้นไม้ที่เคยนั่งอยู่เป็นประจำ ส่วนชายหนุ่มอีกคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นเบื้องหน้า จันทริ ทั้งสองคนดูเหมือนจะสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ บางครั้งชายหนุ่มคนนั้นจะเอื้อมมือไปจับอยู่ที่ข้อเท้าของ จันทริ อยู่บ่อยๆ และเป็นฝ่ายพูดเสียเป็นส่วนมาก ส่วน จันทริ ได้แต่นั่งฟัง นานๆจะพูดโต้ตอบไปสักครั้ง แต่สีหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เสียจนเขาอดหมั่นไส้ไม่ได้

ชายหนุ่มคนนั้นรูปร่างสูงพอๆกับเขาทีเดียว แต่รูปร่างค่อนข้างบึกบึนกว่า ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม หน้าผากกว้าง กรามใหญ่จนเป็นสัน  คิ้วดกหนา ดวงตากลมใหญ่เป็นประกาย จมูกโด่ง ริมฝีปากค่อนข้างหนา โดยรวมแล้ว นับว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาคมคายไม่น้อย และชายหนุ่มคนนี้เอง ที่มอง รพีพันธ์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา
... สงสัยเจ้าหนุ่มนี่มันหึงเรา ... รพีพันธ์ คิดแล้วก็อดขำไม่ได้
สักพักเขาก็เห็นชายหนุ่มคนนั้น ยื่นอะไรบางอย่างให้ จันทริ แต่เหมือนว่า จันทริ ปฏิเสธที่จะรับไว้ ชายหนุ่มต้องพูดอยู่นาน จน จันทริ พยักหน้ายอมรับ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน สวมของนั้นลงบนลำคอของ จันทริ ... สายสร้อยนั่นเอง และดูเหมือนจะมีจี้ร้อยอยู่กับสายสร้อยเส้นนั้นด้วย ชายหนุ่มโน้มตัวลงพูดอะไรกับ จันทริ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินจากไป คงจะกลับลงไปยังหมู่บ้าน พอชายหนุ่มคนนั้นเดินหายไปแล้ว รพีพันธ์ ก็เดินไปยืนข้างๆ จันทริ

“แหมปลื้มใหญ่เลยสิท่า” รพีพันธ์ พูดล้อเลียนเมื่อเห็นว่า จันทริ ลูบคลำจี้ที่ห้อยคออยู่ไปมา พลางยิ้มเหมือนมีความสุข “ไหนดูหน่อยสิว่าอะไร”
รพีพันธ์ โน้มตัวลงไปจับดูจี้ ที่ร้อยอยู่กับสายสร้อยที่ถักจากเชือกสีแดงขึ้นมาดู
“โธ่ นีกว่าอะไร ที่แท้ก็เปลือกหอยมุก” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ เพราะเขาคิดว่า น่าจะเป็นอะไรที่เป็นของมีค่า มากกว่าแค่เปลือกหอยธรมมดา
“ท่านรู้จักของสิ่งนี้”
“อื้อ ... ก็แค่เปลือกหอยทะเล เอามาขัดให้ขึ้นเงาแค่นั้นเอง”
“สำหรับที่ที่ท่านมา มันคงเป็นของที่หาได้โดยง่าย”
“แน่นอน มีขายเยอะไป ราคาก็ไม่เท่าไหร่หรอก”
“แต่สำหรับที่นี่ ของที่มาจากทะเลจักมีราคาสูงมาก” จันทริ พูดพลางมองเขาเหมือนจะเยาะเย้ย  แต่ รพีพันธ์ ไม่ทันได้เห็น เพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับสายสร้อยสีแดง ที่ถักจากการนำเชือกสีแดงเส้นเล็กๆ ๓-๔ เส้นมาถักร้อยเข้าด้วยกัน และจี้สีฟ้าครามที่ถูกตัดเป็นรูปจันทร์เสี้ยวด้วยฝีมือประณีต  “ของสิ่งนี้จึงมีราคาสูงยิ่ง แต่สำหรับข้า การที่ อัสสะ มีความตั้งใจนำมันมามอบให้นั้น มีค่ามากยิ่งกว่าราคาของมันเสียอีก”
“อ้อ ... ชื่อ อัสสะ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ “คงดีใจสิ ที่แฟนเอาของมาฝาก”
จันทริ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ...” ชายหนุ่มนึกขันในท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัยของ จันทริ “แฟนก็คนรักไง อัสสะ น่ะ ... คนรักของคุณใช่มั๊ยล่ะ ผมว่าแล้วเชียว เมื่อกลางวันมองผมตาเขียว”
สีหน้าของ จันทริ หม่นหมองลง แล้วถอนหายใจแรง
“อัสสะ เป็นสหายที่ดีของข้า เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ข้าหวังว่าต่อไปภายหน้าเมื่อข้าจากไป อัสสะ จะได้ภรรยาที่ดี และบุตรที่ดี”
“คุณจะไปไหน” รพีพันธ์ ถามอย่างแปลกใจในคำพูดของ จันทริ
จันทริ ไม่ตอบคำ ได้แต่ยิ้มด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย
.............................................................................
......................................


อากาศในคืนนี้เย็นกว่าที่เคย คงเป็นเพราะสายฝนที่พร่างพรมอยู่ปรอยๆ

... ยังมิต้องนำข้าวสารอาหารแห้งออกมา คืนนี้จะมีฝน ... ชายหนุ่มได้ยิน จันทริ บอกกับ กรินทร์ ผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเมื่อตอนบ่าย

“จันทริ” รพีพันธ์ เรียกคนที่นอนอยู่ข้างๆ
“จันทริ” ชายหนุ่มเรียกอีกครั้ง พลางตะแคงตัวหันไปหา จากแสงจันทร์ที่ส่องสว่างในคืนข้างขึ้น เขามองเห็น จันทริ ลืมตาหันหน้ามาหา
“คุณรู้ได้ยังไงว่าคืนนี้จะมีฝนตก”
“มิใช่ข้าที่รู้”
“ก็ผมได้ยินคุณพูดเมื่อตอนบ่ายนี่นา” จันทริ ขยับปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ รพีพันธ์ ก็ถามต่อทันที “อย่างกับพวกผู้หยั่งรู้ พวกนักพยากรณ์แน่ะ  ผมอยากรู้จังว่าตอนนี้คุณรู้แจ้งอะไรอีก” รพีพันธ์ พูดขำๆ
“ท่านอยากรู้อะไรเล่า”
“ผมเหรอ” รพีพันธ์ นิ่งเงียบไปสักครู่ “เฮ้อ...” ชายหนุ่มถอนหายใจ พลางพลิกตัวนอนหงายเหมือนเดิม
“ท่านกำลังกังวล ท่านคิดถึงบ้าน” จันทริ พูดช้าๆ
“ใช่ ผมคิดถึงบ้าน” ชายหนุ่มนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ “พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างไม่รู้ ผมหายมาแบบนี้ตั้งหลายวัน แล้วยัง...” รพีพันธ์ ถอนหายใจยาวอีก
“จันทริ” รพีพันธ์ ตะแคงตัวเหมือนเมื่อสักครู่
 “จันทริ” เขาเรียกคนข้างๆอีกครั้ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงขานตอบ
“อะไรหรือ”
“ผม ... เอ้อ ... คุณ” รพีพันธ์ ตะกุกตะกัก
“บอกข้ามาเถิด” เสียงของ จันทริ อ่อนโยน
“กอดผมหน่อยได้มั๊ย เหมือนตอนที่ผมไม่สบาย”
ไม่มีคำตอบ แต่แขนของ จันทริ สอดเข้ามาใต้ศรีษะของชายหนุ่ม พร้อมกับดึงศรีษะเข้าไปแนบอก ชายหนุ่มกอดร่างบางๆแนบแน่น พลางสูดความหอมอ่อนๆที่เขาได้กลิ่นเข้าไปเต็มปอด

“หลับเสียเถิด มิต้องกังวลใดๆ มินานดอกท่านจักได้กลับบ้าน ข้าสัญญา” เสียงพูดปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน พร้อมกับมือที่ลูบเบาๆไปตามปอยผม ทำให้รพีพันธ์รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๑๒

“อืม...”
รพีพันธ์ งัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึก อากาศค่อนข้างเย็นเนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูฝน และมีฝนตกต่อเนื่องกันมาหลายวัน ชายหนุ่มพลิกตัวนอนตะแคง เอื้อมมือหวังจะกอดก่ายคนที่นอนอยู่ด้านข้าง เหมือนที่เคยทำมา แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบกับความว่างเปล่า

“จันทริ” ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง แล้วเรียกหาพลางมองไปรอบๆ จากแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆได้ค่อนข้างชัดเจน
“จันทริ” รพีพันธ์ เรียกอีกครั้ง รู้สึกกังวลใจขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา จันทริ จะอยู่ข้างๆเขาเสมอเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในเวลาดึก อย่างเช่นตอนนี้ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียง สวมรองเท้าแล้วเดินออกไปนอกเพิงที่พัก มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของ จันทริ แล้วคิ้วของชายหนุ่มก็ต้องขมวดเข้าหากัน เพราะได้ยินเสียงบางอย่างแว่วมาแต่ไกล

เสียงขลุ่ย ผสานกับเสียงของเครื่องสาย กับเครื่องเคาะจังหวะ ดังแผ่วเบาอยู่ในอากาศ รพีพันธ์ มองขึ้นไปบนภูเขาที่เป็นที่มาของต้นเสียง ด้วยความสงสัยเขาก้าวขาเดินขึ้นเขาไปตามทางเดิน
... หากมิมีความจำเป็น อย่าได้ขึ้นไปบนเขา หากพลัดหลงไปจักลำบาก ... จันทริ เคยบอกเขาไว้ และเขาก็ปฏิบัติตามมาตลอด

รพีพันธ์เดินขึ้นไปตามทางเดิน เสียงดนตรีเริ่มดังชัดเจนขึ้น และเริ่มมองเห็นแสงไฟเป็นจุดๆอยู่เบื้องหน้า แต่อยู่ๆเสียงดนตรีก็เงียบลงไป แต่ชายหนุ่มก็พบจุดหมายที่เขาต้องการแล้ว เมื่อเดินไปถึงที่นั้น เขาจึงมองเห็นลานกว้างที่เหมือนกับปูไว้ด้วยทรายสีขาวสะอาดตา ลึกเข้าไปข้างในเป็นผนังหินขนาดใหญ่ มีคบไฟอยู่บนเสาไม้ ที่ตั้งอยู่รอบๆลานแห่งนั้น จากแสงจันทร์เพ็ญและแสงสว่างจากคบไฟ ทำให้เขาเห็นคนเป็นจำนวนมากนั่งอยู่ที่ลานกว้างนั้น ที่ด้านหน้า มีเก้าอี้วางอยู่สองตัว ตัวทางขวามือของเขาว่างเปล่า ส่วนเก้าอี้ทางด้านซ้ายนั้น นั่งไว้ด้วย จันทริ ที่มีใบหน้าเคร่งขรึมแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน จันทริ ก้มหน้าลงพูดอะไรอยู่กับ กรินทร์ ซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ส่วน อัสสะ ที่ยืนอยู่ข้างๆ จันทริ และผู้เฒ่าทั้งสี่ที่ยืนเป็นแถวอยู่หลังเก้าอี้ มีทีท่าสำรวม และนิ่งฟังในสิ่งที่ จันทริ พูดอยู่เช่นกัน สักพักหนึ่ง กรินทร์ ก็ลุกขึ้นยืนหันหน้ากลับมาหากลุ่มคน ทำมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนลุกขึ้นยืน และแบ่งเป็น ๒ ฟาก เว้นที่ตรงกลางไว้เหมือนเป็นทางเดิน จันทริ เงยหน้าขึ้นมา ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงมาที่เขา

ชายหนุ่มขยี้ตาเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ทั่วตัวของ จันทริ เหมือนมีแสงเรืองรองออกมารอบๆ รอยจันทร์เสี้ยวที่เขาเคยเห็น ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งที่กึ่งกลางหน้าผาก และเปล่งแสงสีทองอยู่เรืองรอง ท่าเดินที่เหมือนลอยละลิ่วเคลื่อนมาตามพี้น คล้ายเดินด้วยความรวดเร็ว แต่เสื้อแขนยาวสีขาว ที่ชายเสื้อยาวลงมาถึงเข่านั้น กลับไม่ไหวสั่นเลยแม้แต่น้อย แล้วยังมีสีหน้าที่เคร่งขรึมแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน จนเขาคิดว่านี่ไม่ใช่ จันทริ ที่เขารู้จัก

จันทริ หยุดยืนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม สายตามองนิ่งอยู่กับปานแดง ที่ปรากฏพ้นออกมาจากเสื้อคอลึกที่เขาสวมอยู่ สักครู่ก็เปลี่ยนมามองที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนเหมือนที่เคยเป็น
“มาแล้วหรือ รพีพันธ์ พวกข้ากำลังรอท่านอยู่”

แสงสว่างที่อยู่รอบๆตัวของ จันทริ หายไปแล้ว จันทร์เสี้ยวกลางหน้าผาก เหลือไว้เพียงรอยสีขาวเหมือนรอยปาน

จันทริ ยื่นมือซ้ายออกมาจับมือขวาของชายหนุ่มไว้ แล้วพาเดินไปยังด้านหน้าของกลุ่มคน รพีพันธ์ กวาดสายตามองดูรอบข้าง เห็นทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมและสำรวมอย่างยิ่ง ราวกับว่ากำลังประกอบพิธีสำคัญอยู่ จันทริ หยุดยืนเมื่อเดินมาถึงที่หมาย ด้านหน้าของเก้าอี้ทั้งสองตัว ชายหนุ่มเห็นผู้เฒ่าสองคนถือชามขนาดย่อมอยู่คนละใบ ยืนอยู่ข้างเก้าอี้ทั้งสองตัวนั้น

“รพีพันธ์ ...  ดวงอาทิตย์ของข้า” จันทริ หันมาพูดกับเขา “นับแต่นี้ข้าจักเป็นจันทราของท่าน”
พูดจบ จันทริ ก้มหน้าลงจูบที่รอยปานสีแดงกลางหน้าอกของ รพีพันธ์ อย่างแผ่วเบา ตอนนั้นเอง รอยปานนั้นก็ส่องแสงสีแดงเรืองรองออกมา แล้วค่อยๆหรี่ลง จนดับแสงไป
“นี่...นี่....” รพีพันธ์ รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก
“มิต้องตกใจ” จันทริ พูดเบาๆ “เชื่อใจข้าสิ”
รพีพันธ์ มองตาของ จันทริ แล้วรู้สึกไว้วางใจขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
“จูบข้าสิ จูบลงที่ดวงจันทรา” จันทริ พูดเบาๆพลางยื่นศรีษะเข้ามา รพีพันธ์ มองจันทร์เสี้ยวดวงนั้นอย่างลังเล
“มิเป็นไรดอก มันเป็นเพียงพิธีกรรม ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น” จันทริ พูดจบก็หลับตาพริ้ม

รพีพันธ์ ค่อยๆก้มหน้าลง จูบลงไปเบาๆที่ดวงจันทร์เสี้ยวนั้น แสงนวลสีขาวเปลี่ยนเป็นแสงสีทอง เรืองรองออกมาเป็นประกายอีกครั้ง แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวนวล และหายไปในที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2008 20:56:11 โดย บุหรง »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
>>>เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4: ทำไมจันทริถึงเศร้าอ่ะค๊าบ.........

งง...... แล้ว พิธีกรตอนสัมนาไปไหนหว่า

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปน๊า......

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๑๓

“เฮ...” เสียงชาวหมู่บ้าน โห่ร้องอย่างยินดี แล้วเสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ เป็นท่วงทำนองที่ค่อนข้างครื้นเครงสนุกสนาน
“นั่งลงเถิด” จันทริ พูดแล้วจูงมือพา รพีพันธ์ ไปนั่งที่เก้าอี้ เมื่อนั่งลงแล้ว ผู้เฒ่าทั้งสองก็ยื่นชามที่ถืออยู่นั้น ให้เขาและ จันทริ ชายหนุ่มมองดูของเหลวสีเหลืองใส มีกลิ่นหอมๆของน้ำผึ้งอยู่จางๆ ปนกับกลิ่นฉุนๆคล้ายกลิ่นเหล้า
“เป็นสุราที่หมักจากน้ำผึ้ง” จันทริ หันมาบอก แล้วยกชามเหล้าขึ้นจิบ
รพีพันธ์ เห็นอย่างนั้นก็ยกขึ้นจิบบ้าง สุรารสหวานหอม  ผสมด้วยรสที่คล้ายเบียร์เล็กน้อย เมื่อรู้ถึงรสชาดแล้ว เขาจึงดื่มอย่างวางใจ และเริ่มรู้สึกถึงความอร่อยของมันแล้ว ก็ยกชามดื่มเข้าไปจนเกือบหมด เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปยังหมู่ชาวบ้าน ก็เห็นทุกคนกำลังยกชามสุราชวนกันดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ยังกับมีพิธีฉลอง”
“ปาร์ตี้”
รพีพันธ์ หันไปมองคนพูดด้วยความสงสัย
“ท่านเคยบอกข้ามิใช่หรือ ว่างานฉลองเรียกว่าปาร์ตี้” จันทริ พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะ “อื้อ ใช่ ... ว่าแต่พวกคุณฉลองอะไรกันน่ะ”
“วิวาหะ”
“วิวาหะ ... แต่งงานน่ะเหรอ” รพีพันธ์ ทวนคำอย่างสงสัย แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ มอง จันทริ ที่กำลังยิ้มอย่างขบขัน ด้วยความตกตะลึง
“อย่าบอกนะว่า ... เอ้อ...”
“อย่างที่ท่านคิด” จันทริ สีหน้า จันทริ เหมือนกลั้นหัวเราะไว้อย่างเต็มที่ “วิวาหะของท่านกับข้า”
“อะไรนะ” รพีพันธ์ พูดเสียงดัง เบิกตาค้างด้วยความตกใจ จน จันทริ ก้มหน้าลงไปหัวเราะเบาๆ

“วันมงคล สมควรดื่มให้เต็มที่” กรินทร์ นั่นเองที่เดินเข้ามาหา รพีพันธ์ พลางรินเหล้าน้ำผึ้งจากไหใบย่อม ลงไปในถ้วยในมือชายหนุ่ม
“ท่านอย่ารินให้มากนัก เขายังต้องดื่มอีกมาก” จันทริ พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กรินทร์ จึงต้องหยุดรินเหล้าทั้งๆที่เพิ่งจะรินลงไปได้เพียงครึ่งชาม
“ดื่มให้หมด ดื่มให้แก่ท่าน ดื่มให้แก่จันทริ ฮ่าๆๆ” พูดจบ กรินท์ก็เอาชามเหล้าในมือมาชนกับชามเหล้าของ รพีพันธ์ แล้วยกขึ้นดื่มจนหมดชาม
... ต้องหมดถ้วยสินี่ เอาก็เอาวะ ... รพีพันธ์ คิดพลางยกถ้วยขึ้นดื่มบ้างจนหมดถ้วย ทั้งๆที่ยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
ต่อจากนั้น ผู้เฒ่าทั้งสี่ก็เข้ามารินสุราดื่มกับเขาทีละคน จนเขาเริ่มมึนศรีษะนิดๆ
“แรงเหมือนกันนี่ เห็นหวานๆแบบนี้” รพีพันธ์ บ่นพึมพำ
“ข้าขอดื่มให้แก่ท่าน” อัสสะ เข้ามารินเหล้าให้ รพีพันธ์ จนเต็มถ้วย “ดื่ม” อัสสะ ชนถ้วยแล้วยกถ้วยขึ้นดื่ม รพีพันธ์ จึงต้องดื่มบ้าง
“ความจริงคนที่บนนั่งบนเก้าอี้นี้ ควรเป็นข้า” อัสสะ พึมพำเบาๆ
“อะไรนะ” รพีพันธ์ ได้ยินแว่วๆแต่จับใจความไม่ค่อยได้ เพราะเริ่มจะเมาได้ที่
“อัสสะ ท่านมาหาข้า” จันทริ เรียกเบาๆ อัสสะ จึงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า
จันทริ เอื้อมมือหยิบไหจากมือของ อัสสะ แล้วรินเหล้าลงไปในถ้วยของชายหนุ่ม
“ข้าดื่มให้ท่าน” จันทริ พูดยิ้มๆ
“ดื่มให้ข้าหรือ” อัสสะ พูดด้วยสีหน้างุนงง
“ดื่มให้แก่อิสระของท่าน นับแต่นี้ท่านมิต้องเป็นตัวแทนของผู้ใดอีกต่อไป” แสงสีทองเปล่งประกายแวววับออกมาจากจันทร์เสี้ยว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและสำรวม ดูน่าเกรงขาม “จันทริ ต้องการให้ท่านมีความสุข” เสียงนั้นเยือกเย็นและสุขุม “แม้แต่จันทรายังมีขึ้นแรม ตัวข้าก็ยังเป็นเช่นนี้ เจ้าก็อย่าได้หลงติดกับภาพลวง”
“แต่ข้า ... ข้า” อัสสะ เหมือนจะแย้ง
“ข้ารู้ ... จันทริ ก็รู้ในสิ่งที่ท่านจะพูด แต่ท่านต้องทำใจยอมรับ มันเป็นชะตาที่มิอาจเปลี่ยนแปลง ตอนนี้พวกข้าขอดื่มให้ท่าน ต่อแต่นี้ขอให้ท่านคิดในสิ่งที่จะเป็นอนาคตของตัวท่าน” พูดจบ จันทริ ก็เอาชามในมือชนกับชามในมือของ อัสสะ แล้วดื่มเหล้าในชามจนหมด อัสสะ เองก็ดื่มเหล้าในถ้วยของตนเองจนหมดเหมือนกัน
“อัสสะ สหายรักของข้า ขอให้ท่านจงมีแต่ความสุข และต่อไป ท่านจงอย่าได้เปลี่ยนคำเรียกหาระหว่างเราท่าน มิว่าอย่างไร ท่านนับเป็นสหายที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของข้า ” น้ำเสียงของ จันทริ เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน สีหน้าแย้มยิ้ม แสงสีทองเรืองรองตอนนี้หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงดวงจันทร์เสี้ยวสีขาวนวล

รพีพันธ์ มองภาพตรงหน้าด้วยความงุนงง เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกิริยาที่แตกต่างกันเช่นนี้จาก จันทริ เหมือนกับว่ามีบุคคล ๒ คน ที่มีกิริยาอาการแตกต่างกัน ๒ แบบ อยู่ในตัวของ จันทริ ซึ่งจะสลับกันออกมาปรากฏตัว

จันทริ ที่เขารู้จักนั้น มักจะดูเฉยเมยเหมือนไม่ค่อยยินดียินร้าย หรือให้ความสนใจต่อสิ่งรอบข้าง แต่มักมีรอยยิ้มและท่าทีที่อ่อนโยนให้กับผู้อื่นที่เข้ามาหาเสมอ
จันทริ ที่เขาเห็นในวันนี้ มีท่าทางน่าเกรงขาม สีหน้าที่เคร่งขรึม และน้ำเสียงที่เอาการเอางาน เปี่ยมไปด้วยอำนาจ และพลังบางอย่างที่เขาไม่อาจบอกได้

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :o แต่งแล้วจะเข้าหอเลยไหม หุหุ
 :m22: จะได้แอบดูใครรุกใครรับ  :m25:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
:m4: :m4: ทำไมจันทริถึงเศร้าอ่ะค๊าบ.........

งง...... แล้ว พิธีกรตอนสัมนาไปไหนหว่า

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปน๊า......

 :L2: :L2: :L2: :L2:
ที่เศร้าเพราะว่า ... เพราะว่าอารายดีอะ รออ่านอีกหลายๆตอนแล้วกัน  :laugh3:
ส่วนพิธีกรตอนสัมมนา ไม่ได้ตกน้ำตามมาด้วยอะฮับ ตอนนี้คงเปิดสัมมนาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ฝากตามหาด้วยน๊า  :o8:
:o แต่งแล้วจะเข้าหอเลยไหม หุหุ
 :m22: จะได้แอบดูใครรุกใครรับ  :m25:
โหย ยังคาใจไม่หายอีกเหรอ  :try2:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m20:
ดูเหมือนพ่อพระเอกของเราจะยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยยยยย
จะเข้าหออยู่ร่อมร่อแล้วยังไม่รู้ตัวอีก... :m25:

sun

  • บุคคลทั่วไป


ให้ลุ้นจนถึงกระทั่งเข้าห้องหอเลยชิมิ คุนบุหรง เอิ้กๆ

เริ่มชักไม่แน่ใจ  ใคร จะรุกใคร ฮ่าๆ   :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
:o แต่งแล้วจะเข้าหอเลยไหม หุหุ
 :m22: จะได้แอบดูใครรุกใครรับ  :m25:



ให้ลุ้นจนถึงกระทั่งเข้าห้องหอเลยชิมิ คุนบุหรง เอิ้กๆ

เริ่มชักไม่แน่ใจ  ใคร จะรุกใคร ฮ่าๆ   :laugh:


ทำมายสงสัยกันเยอะจังหว่า  o2

เดี๋ยวให้ลุ้นกันอีกหลายๆตอนดีกั่ว  :laugh:

หรือทำเป็นทายปัญหาชิงรางวัลดี  :teach:
คิดว่า รพีพันธ์ เป็นรุก กด 1  :o8:
คิดว่า จันทริ   เป็นรุก กด 2   :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2008 07:03:31 โดย บุหรง »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด