วิหารจันทรา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณชอบตอนจบแบบไหนของนิยายเรื่องนี้

รพีพันธ์ได้เจอกับจันทิรักษ์
204 (80.3%)
รพีพันธ์ได้ลูกชายฝาแฝด คืออัสสะ&จันทริ
50 (19.7%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 165

ผู้เขียน หัวข้อ: วิหารจันทรา  (อ่าน 232472 ครั้ง)

++Mizuki++

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #30 เมื่อ19-07-2008 12:53:17 »

มาแว้วๆ นิยายเรื่องใหม่ของคุณบุหรง รอติดตามอยู่เจ้าค่ะ  :oni2:

sun

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #31 เมื่อ19-07-2008 14:13:46 »



กว่าจะหนีบเอาความขยันอยากจะอ่าน ให้ตัวเองได้เอิ้กๆ  คุนบุหรงก้อลงไปตอนที่ 2 แล่ว แหะๆ  :m23:

มาอ่านช้า แต่ มาอ่านค่า อิอิ 


แล่ะแล้ว เทพแห่งดวงอาทิตย์ก้อปรากฎ ขึ้นแล้วเนาะ


เอิ่ม... “รพีพันธ์ ... ผู้สืบสายจากดวงอาทิตย์ ... บุรุษแห่งสุริยาเทพ”  << อ่านแล้ว ก้อ แอบมีคำถาม หน่อย

ผู้สืบเชื้อสายมาจากดวงอาทิตย์  ใช้คำว่า สุริยา หรือ สุริยะ   เหมือนกันมะคะ แหะๆ
คำว่า บุรุษแห่งสุริยาเทพ   น่าจะเป็น บุตรแห่งสุริยา(ยะ)เทพ  แค่ นึกตามความรู้สึกตัวเองอ่ะค่ะ น่าจะเรียกแบบนั้น
ใครรู้ช่วยบอกซินทีเอิ้กๆ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #32 เมื่อ19-07-2008 18:36:47 »



เอิ่ม... “รพีพันธ์ ... ผู้สืบสายจากดวงอาทิตย์ ... บุรุษแห่งสุริยาเทพ”  << อ่านแล้ว ก้อ แอบมีคำถาม หน่อย

ผู้สืบเชื้อสายมาจากดวงอาทิตย์  ใช้คำว่า สุริยา หรือ สุริยะ   เหมือนกันมะคะ แหะๆ
คำว่า บุรุษแห่งสุริยาเทพ   น่าจะเป็น บุตรแห่งสุริยา(ยะ)เทพ  แค่ นึกตามความรู้สึกตัวเองอ่ะค่ะ น่าจะเรียกแบบนั้น
ใครรู้ช่วยบอกซินทีเอิ้กๆ

คำว่า สุริย เป็นคำบาลี-สันสกฤต แปลว่าดวงอาทิตย์ พอไทยนำมาใช้ก็มีการแผลงคำ (หรืออะไรสักอย่าง จำมะได้แล้ว  :o11: ) ให้ได้รูปเสียงต่างๆกันไป อย่าง สุริยา สุริยะ สุริยน สุริยัน  และอาจจะมีอีกหลายคำ นึกมะออก แต่ทุกคำแปลว่า พระอาิทิตย์ หรือดวงอาทิตย์ หรือดวงตะวัน
ส่วนคำว่า รพี รพิ รวี รวิ รำไพ คำพวกนี้ก็เป็นคำที่มาจาก บาลี-สันสกฤต เหมือนกัน และแปลว่า พระอาทิตย์ หรือดวงอาทิตย์
การนำคำมาใช้ก็แล้วแต่ชอบและบริบทครับ

คำว่า พันธ์ ก็แปลคล้ายกับคำว่า พงศ์ คือ เชื้อสาย, เทือกเถา, เหล่ากอ, สกุล ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นบุตรค๊าบ ผมถึงเลือกใช้ีคำอธิบายว่า ผู้ถูกส่งมาโดย หรือ บุรุษแห่งสุริยาเทพ เพราะไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร สำคัญที่สัญลักษณ์ที่ติดตัวมากกว่า

แต่คำในภาษาบาลี-สันสกฤต จริงๆ ต้องมีการผันรูปสระท้ายให้มีความหมายแตกต่าง ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว อย่างสุริยะ สุริโย แค่นี้ก็แปลต่างกันแล้วครับ
สุริยะ อันว่าดวงอาทิตย์
สุริโย ซึ่ง-สู่-ยัง-สิ้น (ใช่หรือเปล่าหว่า  :try2: )
แต่พอมาเป็นคำไทย คงจะใช้ในความหมายเดียวกัน เพราะเรามีคำมากกว่านั่นเองครับ

ที่อธิบายมาไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เพราะคืนอาจารย์ไปเยอะแล้ว ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยนะค๊าบ  o1
*แอบมาเพิ่มเติมนิดนุง
อ้างถึง
“รพีพันธ์ ... ผู้สืบสายจากดวงอาทิตย์ ... บุรุษแห่งสุริยาเทพ” เขายิ้มให้เงาในกระจกอีกครั้งหนึ่ง
มานเป็นคำพูดของตัวละคร อย่าสนจายยยย 
ตา รพีพันธ์ เอ๊ย...แต่ชื่อตัวเองก็แปลมะถืกกกก  :laugh: :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2008 21:08:43 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #33 เมื่อ19-07-2008 19:20:16 »

 :a4: :a4: :a4: :a4:  จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตั้ม

กระจ่างเชียวคับ

 :a11: :a11: :a11: :a11:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #34 เมื่อ19-07-2008 20:56:32 »

 :m13:
แอบปลื้มเรื่องนี้ด้วยคน

อิอิ

 :laugh:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: วิหารจันทรา : สัมมนาวิชาการ
«ตอบ #35 เมื่อ20-07-2008 17:56:15 »

 :m22: :m22: :m22:  หายไปไหนหว่า


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #36 เมื่อ20-07-2008 19:12:20 »

๐๓

“เฮ้ย จะมาถึงกันกี่โมงวะ” รพีพันธ์กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์มือถือ
“สงสัยจะมืดเลยหว่ะ อาจจะดึกเลยด้วย นี่ช่างกำลังซ่อมอยู่ อาจจะเสร็จเย็นๆ แล้วพวกกูจะรีบบึ่งไปหาเอ็งเลย” เพื่อนเขาตอบกลับมา
“เออ รีบมาแล้วกัน แล้วนี่กูจะทำอะไรดีวะ เซ็งเลย”
“ใครให้เอ็งเจือกนั่งเครื่องบินไปล่ะวะ ไอ้คุณชาย บอกให้นั่งรถตู้มาด้วยกันก็ไม่ยอม”
“แล้วรถตู้ก็ไปเสียกลางถนนเนี่ยนะ กูนั่งตากแอร์อยู่นี่สบายกว่าหว่ะ”
“เอางี้ เอ็งไปรอที่เชื่อนเลยแล้วกัน จะได้เข้าไปเตรียมที่พักไว้ให้พวกกูด้วย พอไปถึงเอ็งก็บอกชื่อกูไป เพราะกูติดต่อไว้เรียบร้อยหมดแล้ว”
“เออ ... ดีเหมือนกันหว่ะ งั้นเดี๋ยวกูไปรอที่โน่นเลย”
พูดจบ รพีพันธ์ ก็กดปุ่มวางหูโทรศัพท์ เดินไปเอากระเป๋าเดินทางใบย่อมที่ฝากไว้ที่แผนกรับฝากของ แล้วไปสอบถามที่ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม เพื่อสอบถามวิธีการเดินทางไปยังเขื่อน แล้วเขาก็เลือกวิธีที่สบายที่สุด นั่นคือเช่ารถของทางโรงแรม
.............................................................
...........................
รพีพันธ์ หรือชายหนุ่มที่มีชื่อเล่นว่า อาทิตย์ พร้อมกับเพื่อนๆและแฟนสาวของเขา พากันเดินทางมาเที่ยวยังเขื่อนใหญ่ทางภาคเหนือของประเทศ เพื่อเป็นการฉลองการสอบเสร็จ ในภาคเรียนสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเป็นการฉลองการได้งานทำในบริษัท ที่แต่ละคนผ่านการสัมภาษณ์งาน และได้รับการตอบรับให้เข้าทำงานภายในต้นเดือนหน้า

ด้วยความที่ไม่อยากนั่งรถเป็นระยะทางไกล และใช้เวลาหลายชั่วโมง เขาจึงโดยสารเครื่งบินมาในตอนสาย หลังจากที่เพื่อนๆออกเดินทางด้วยรถตู้ตั้งแต่ตอนเช้า เมื่อมาถึงเขาเช่ารถจากสนามบินเข้ามายังตัวเมือง ฝากกระเป๋าเดินทางไว้กับแผนกรับฝากของของโรงแรมใหญ่ แล้วไปรับประทานอาหารกลางวัน ในห้องอาหารที่ค่อนข้างหรูของโรงแรมนั้น หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปนั่งฟังสัมมนาทางวิชาการ ที่เขาเห็นป้ายประกาศโดยบังเอิญ

จากการที่เขาโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบเวลาที่เพื่อนๆจะมาถึง ทำให้ได้รู้ว่า รถตู้ที่เพื่อนๆขับกันมาจากกรุงเทพฯนั้น จู่ๆเครื่องก็ดับไปเมื่อเข้าสู่ตัวจังหวัดตาก อีกเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นเองก็จะมาถึงลำปาง อาการของรถคงจะหนักเอาการ ทำให้ต้องเสียเวลาซ่อมหลายชั่วโมง ทำให้ไม่มาสามารถมาถึงได้ในเวลาที่คาดกันไว้ เขาจึงต้องเดินทางไปยังเขื่อน แล้วเข้าสู่ที่พักตามลำพัง
.............................................................
...........................
บรรยากาศยามเช้าบนเรือนแพ ทำให้ รพีพันธ์ รู้สึกสดชื่นมาก แสงแดดอ่อนๆที่กระจายลงมา สะท้อนอยู่บนริ้วคลื่นเล็กๆในกระแสน้ำ ส่องแสงระยิบระยับเป็นประกาย ตัดกับสีเขียวของทิวไม้ที่ทอดยาวอยู่ตามริมน้ำ สายลมอ่อนๆยิ่งทำให้บรรยากาศสดชื่น เป็นบรรยากาศที่คงจะหาไม่ได้ในตัวเมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพฯ ที่เขาใช้ชีวิตอยู่ เมืองแห่งความสับสนวุ่นวาย ที่เขาปลีกตัวออกมาชั่วคราว เพื่อนๆพากันทยอยออกมายืนชมธรรมชาติกับเขา หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อย เมื่อทุกคนพร้อมหน้าแล้ว ก็พากันไปยังห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า


“เฮ๊ย สองคนนั้นน่ะยืนชิดๆกันหน่อย” เจ้าแว่น เรียกพลางยกกล้องขึ้น เตรียมจะถ่ายรูป รพีพันธ์ ในชุดเสื้อโปโลสีแดงสด กางเกงขาสั้นสีเทา รองเท้าสาน ขยับตัวเข้าไปโอบไหล่แฟนสาวของเขา เพื่อให้เพื่อนของเขาถ่ายรูป เสร็จแล้วต่างก็ชี้ชมธรรมชาติริมฝั่งน้ำ ที่เรือแพกำลังล่องผ่านไปอย่างช้าๆ เพื่อนเขาบางคนใช้กล้องส่องทางไกล ส่องดูนกที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ไกลๆ โดยที่เจ้าแว่นไล่ถ่ายรูปคนโน้นคนนี้ อย่างเพลิดเพลิน
“ทิตย์ นั่งแบบนั้นเดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” จันทิรา แฟนสาวของ รพีพันธ์ พูดอย่างเป็นห่วง เมื่อเขาดันตัวขึ้นไปนั่งบนราว ที่ทำกั้นไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้นบนเรือแพ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ทำไว้แข็งแรงดีออก” รพีพันธ์ พูดพลางขย่มตัวไปบนแผ่นไม้ที่นั่งอยู่ “เห็นมะ” เขาพูดย้ำ

แกร๊ก ... เสียงบางอย่างดังขึ้นเบาๆ
เป๊าะ .......................ตูม ..............
“ว๊ายยยยยยยย” จันทิรา กรีดร้องเมื่อแผ่นไม้นั้นหักลง ร่างของ รพีพันธ์ หงายร่วงหล่นลงไปในน้ำ เสียงโวยวายจากบรรดาเพื่อนๆที่มาด้วยกัน ดังขึ้น เจ้าหน้าที่สองคนที่มากับเรือแพ พุ่งตัวลงไปในสายน้ำ แล้วดำน้ำลงไป สักครู่หนึ่งก็โผล่ตัวขึ้นมาหายใจ พลางมองไปรอบๆแล้วดำลงไปอีกครั้ง เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบ ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกคน
“ไม่เจอเลยครับ ไม่รู้โดนพัดไปทางไหน” เจ้าหน้าที่พูดอย่างอ่อนใจ หลังจากที่ดำลงไปค้นหาอยู่หลายรอบ
.............................................................
...........................
รพีพันธ์ รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกัน ที่จู่ๆร่างของเขาก็ร่วงหล่นลงมาในน้ำ ยังดีที่เขาพอมีสติอยู่บ้าง จึงรีบกลั้นหายใจได้ทันท่วงที แต่ในขณะที่เขาพยายามถีบตัวขึ้นไปบนผิวน้ำ กลับรู้สึกว่ากระแสน้ำรอบตัวพัดตัวเขาให้หมุนวน จนไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศไหน แล้วก็ต้องตกใจมากขึ้น เพราะเขารู้สึกตัวว่า เขากำลังจะหมดความสามารถในการกลั้นหายใจไว้เสียแล้ว และมันก็เริ่มเป็นอย่างที่เขาวิตก เมื่อเขากลั้นหายใจไว้ไม่ได้ ปากและจมูกก็เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ แต่แทนที่จะเป็นอากาศ กลับเป็นน้ำที่ไหลเข้าไปตามปากและจมูก ทำให้เริ่มสำลักและเริ่มหมดสติ แต่แล้วเหมือนมีแสงสว่างลูกใหญ่ปรากฏขึ้น กลางแสงนั้นมีคนคนหนึ่ง คนคนนั้นว่ายน้ำเข้ามาใกล้แล้วรวบตัวเขาเข้าไว้ ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบลงไป เขามองเห็นรอยปานสีขาวกลางหน้าผากของผู้ที่มาช่วยเหลือเขา
 
... รอยปานสีขาวรูปจันทร์เสี้ยว ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2008 18:39:05 โดย บุหรง »

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #37 เมื่อ20-07-2008 19:26:57 »

:o
อาทิตย์มีแฟนแล้ววววววว งอนนนนนน
พระจันทร์มาช่วยพระอาทิตย์แล้วววว  :m4:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #38 เมื่อ20-07-2008 21:59:26 »

มาแล้ว รอยปานรูปจันทร์เสี้ยว

อยากรู้เรื่องต่อ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #39 เมื่อ20-07-2008 22:06:25 »

 :m15: มีแฟนแร้วซะงั้น

ว่าแต่ใครมาช่วยไว้หว่า

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อคับ

 :m4: :m4: :m4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: วิหารจันทรา
« ตอบ #39 เมื่อ: 20-07-2008 22:06:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ εїзป่วงน้อยεїз™

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #40 เมื่อ20-07-2008 22:57:14 »

ย้อนอดีตแน่ๆเลย มารอตอนต่อไปค่า  :m4:

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #41 เมื่อ20-07-2008 23:59:06 »

แล้วชื่อของอีกคนจะหมายความถึงพระจันทร์ด้วยซินะ  :m12:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #42 เมื่อ21-07-2008 00:36:38 »

เจอกันแล้ว  :m1:


ผมว่าน่าจะเป็นสุริยเทพ ส่วน สุริยาเทพคล้ายว่าจะเป็น สุริยะ+อะ+เทวะ  o2 งง เหมือนกัน ไม่แน่ใจนะครับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #43 เมื่อ21-07-2008 17:27:59 »

 :m22: :m22: :m22: ยังไม่มาอีกหรอค๊าบ....... รออ่านอยู่น๊า.......


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
Re: วิหารจันทรา
«ตอบ #44 เมื่อ22-07-2008 13:46:12 »

๐๔

“อืม ...” รพีพันธ์ ส่งเสียงครางเบาๆ รู้สึกหนักไปทั่วทั้งตัว แม้แต่ตาก็ลืมไม่ขึ้น
“ท่านปลอดภัยแล้ว” เสียงนุ่มๆเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน แว่วเข้ามาในหู
“หากรู้สึกไม่สบายก็หลับเสียก่อนเถิด” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่ามือข้างหนึ่งของเขา ถูกกุมเอาไว้ด้วยมือที่อ่อนนุ่มและอบอุ่น
“หลับเถิดท่าน พักให้สบาย ข้าจักดูแลท่านเอง” สำนวนการพูดแปลกๆ แต่ก็ทำให้เขาหลับลงไปได้ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

แล้วเขาก็รู้สึกเหมือนหลับๆตื่นๆอีกหลายครั้ง ทุกครั้งที่เขาส่งเสียงเหมือนรู้สึกตัว ก็จะมีเสียงนั้นคอยพูดปลอบโยน มือก็ได้รับการเกาะกุมด้วยมืออันอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา บางครั้ง เหมือนมีของเหลวหวานๆป้อนให้กับเขา ตามด้วยน้ำอีกเล็กน้อย มือนุ่มๆนั้น ลูบใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน เป็นบางคราว

“หนาว”
รพีพันธ์ ส่งเสียงเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้นอกจากอาการหนักตามร่างกายแล้ว เขายังรู้สึกหนาวคล้ายจับไข้ แล้วร่างกายท่อนบนของเขาก็ถูกยกขึ้น แล้ววางอิงไว้กับร่างกายที่อบอุ่น
“ดื่มสักหน่อย ยานี้จักช่วยให้อาการไข้ลดลง” เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นอีกครั้ง แล้วเหมือนมีอะไรแข็งๆมากระทบกับริมฝีปาก เขาเผยอปากขึ้นเล็กน้อยตามสัญชาติญาณ ของเหลวหวานๆปนขมเล็กน้อย ก็ค่อยๆไหลรินเข้าปากทีละนิด เขาค่อยๆกลืนมันลงไป ความชุ่มชื้นรสหวานปนขมนั้น ทำให้ลำคอที่แห้งผากของเขาชุ่มชื่นขึ้น เมื่อหมดลง ก็ตามมาด้วยน้ำเปล่า แล้วร่างของเขาก็ถูกวางลงให้นอนหงายตามเดิม

“หนาว” รพีพันธ์ ร้องครางเบาๆอีกครั้ง
สักพักหนึ่ง ก็รู้สึกเหมือนผ้าห่มที่คลุมร่างเขาอยู่ถูกเลิกขึ้น มีคนเข้ามานอนข้างๆเขา แล้วห่มผ้าลงเช่นเดิม ศรีษะเขาถูกยกขึ้นเล็กน้อย แขนข้างหนึ่งก็สอดเข้ามาใต้ศรีษะ แล้วโอบเข้าไปซบลงกับไหล่ของใครบางคน  ร่างกายถูกดึงให้นอนตะแคงก่ายแขนไปกับร่างนั้น เขาโอบแขนกอดร่างนั้นเหมือนจะแสวงหาความอบอุ่น ในยามที่ร่างกายรู้สึกหนาว ขาของเขาก็ก่ายเกยร่างกายของคนคนนั้น จากสัมผัสที่แนบชิด ทำให้เขารู้ว่าร่างกายของเขา และร่างกายของคนคนนั้น เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ แขนอีกข้างหนึ่งของคนคนนั้นกอดเขาไว้ พลางลูบไหล่ของเขาเบาๆ
“หนาวเพราะพิษไข้ มิเป็นไรดอก ข้าจักทำให้ท่านอบอุ่น พักผ่อนเถิดหนา หลับให้สนิท ตื่นขึ้นมาจักได้หายไข้ จักได้สบายขึ้น” เสียงนุ่มๆ สำนวนแปลกๆ ที่เริ่มจะคุ้นหู กระซิบอยู่ริมหู

รพีพันธ์ ซุกใบหน้าลงไปยังอ้อมอกที่อบอุ่น มือเขาก่ายกอดพลางลูบหลังของคนคนนั้นเบาๆ รู้สึกสบายใจและอบอุ่นที่มีคนอยู่ข้างๆในยามที่รู้สึกไม่สบาย และยังได้กลิ่นหอมอ่อนจาง คล้ายกลิ่นดอกไม้จากผิวนุ่มๆที่เขาได้สัมผัส เขารู้สึกเหมือนหายหนาวไปมาก แล้วเขาก็ค่อยๆหลับไหลไปอีกครั้ง
..........................................................................
.....................................
รพีพันธ์ เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ความรู้สึกแรกของเขาคือ ความแห้งผากของริมฝีปากและลำคอ
“น้ำ ... อืม ... ขอน้ำ” เราพูดเบาๆ
ร่างกายท่อนบนของเขาถูกยกขึ้น แล้วความอบอุ่นอันคุ้นเคยมาให้เขาพิงตัวไว้ มีบางอย่างที่แข็งและเย็นมาแตะริมฝีปากของเขา
“ดื่มน้ำเสีย จักได้สบายขึ้น” เสียงคุ้นหูดังขึ้นเบาๆทางด้านหลัง เขาอ้าปากขึ้นเล็กน้อย ความเย็นฉ่ำของน้ำก็ไหลรินเข้าสู่ปาก เขารีบกลืนอย่างกระหาย
“อย่าได้รีบร้อนนัก เดี๋ยวจักสำลักได้ ค่อยๆดื่มเถิดไ เขารู้สึกได้ถึงความห่วงใย ที่แฝงมากับกระแสเสียง
“ขออีก” เขาพูดสั้นๆ แล้วเขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ เหมือนกับเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ขอบคุณ” เมื่อเขาดื่มน้ำหมด เขาก็หายใจแรงๆ ๒-๓ ที ก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจลง
“นอนพักอีกสักครู่เถิด ให้สบายขึ้นอีกนิด จึงค่อยลุกเดิน” เสียงนั้นดังขึ้นอีก แล้วก็รู้สึกว่าตัวเขาค่อยๆถูกวางให้นอนลงอย่างนุ่มนวล สักพักหนึ่งเมื่อเริ่มปรับสายตาได้แล้ว จึงค่อยๆมองไปรอบๆตัว หลังคาด้านบนมุงไว้ด้วยกิ่งไม้ ผนังทั้งสามด้านก็เช่นกัน ตัวเขานอนอยู่บนเตียงไม้ มีของนิ่มๆรองอยู่ใต้ร่าง ปูทับด้วยผ้าอีกทีหนึ่ง ส่วนตัวเขานั้นมีผ้าห่มค่อนข้างหนาคลุมอยู่ เมื่อหันไปมองอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นว่าเป็นด้านที่เปิดกว้างไว้ ไม่มีฝาผนัง มองออกไปด้านนอก ก็เห็นคนรูปร่างสูง ในชุดผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้ม คล้ายชุดของชาวชนบททางเหนือ สวมรองเท้าที่คล้ายรองเท้าสานแบบรัดข้อ  กำลังเดินไปนั่งที่หินใหญ่ริมต้นไม้ มีกรอบไม้ขนาดใหญ่ที่ขึงผ้าสีแดงสดขึงไว้ คนคนนั้นนั่งลงบนก้อนหิน แล้วทำอะไรสักอย่างกับผ้าที่ขึงไว้

“คนนี้มั๊งที่ช่วยเราไว้” รพีพันธ์ พึมพำเบาๆ แล้วมองไปที่คนคนนั้นอีกครั้ง พลางคิดถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่ม และร่างกายที่อบอุ่น ที่เขาได้รับในตอนที่เขารู้สึกตัวอย่างเลือนราง แล้วเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาตอนนี้เปลือยเปล่าอยู่ รพีพันธ์ ตกใจนิดหน่อย แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆอีกครั้ง ก็มองเห็นเสื้อผ้าของเขาพับไว้อย่างเรียบร้อย วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กๆที่อยู่ทางด้านปลายเตียง จึงค่อยๆลุกขึ้นไปหยิบมาสวมใส่ โดยที่ยังมีผ้าห่มพันร่างกายท่อนล่างเอาไว้

sun

  • บุคคลทั่วไป
ตกน้ำตูม...แล้วหลุดไปอยู่ในช่วงเวลาไหนเนี่ย รพีพันธ์  :m29:

ได้เจอกันเร็วกว่าที่คิด  แต่จะมีอะไรตามมาอีกป่ะ
เหมือน รพีพันธ์หลุดเข้าไปอยู่ ในอีกช่วงเวลาหนึ่งเลยนะ ชิมิ คุนบุหรง

ออฟไลน์ duchess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
 :m13:

อ่ะนะ นายเอกเราไม่ค่อย...เรย

เจอกันครั้งแรกก้อจับพระเอกเปลื้องผ้าซะแระ

คริๆ

ป.ล. ลุ้นอยุ่ว่านายเอกจะชื่อจันทรา หรือ พระจันทร์ รึป่าว อิอิ

ติดตามผลงานคุณบุหรงมานานค้าบ  เรื่องนี้รออ่านอยุ่น้า

มาอัพไวๆนะคับ

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :o โดนลักหลับเปล่าเนีย
 
:a11:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
:o โดนลักหลับเปล่าเนีย
 
:a11:

แหม่ คิดไปด้ายนะเนี่ย แต่ก็  :m20: :m20:

ขอบคุณคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า.....


ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3


ตามมาอ่านแล้วจ้า   :a1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m22: :m22: หายไปไหนน๊า.........

คิดถึง จัง


ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :o11: สงสัยไม่มา

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๕

“กินอาหารเสียหน่อย ท่านคงหิวแล้ว หากมีอะไรสักครู่ค่อยสนทนากัน”
รพีพันธ์ หันมาตามเสียงเรียกเมื่อเขาแต่งตัวเสร็จ ก็มองเห็นถาดไม้วางไว้บนเตียง ภายในถาดวางไว้ด้วยถ้วยหลายใบ พร้อมกับอ่างดินเผาใบเล็กๆวางอยู่นอกถาดอีกใบหนึ่ง ส่วนคนที่นำของเหล่านั้นมาวาง ก็เดินกลับไปนั่งที่ก้อนหินก้อนเดิม

รพีพันธ์ เดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าในถ้วยบนถาด บรรจุไว้ด้วยข้าวต้ม เนื้อสัตว์ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ไข่เค็ม ผักดอง กล้วยน้ำว้าสองผล ถ้วยบรรจุน้ำผึ้ง และถ้วยน้ำสะอาด ในอ่างใบเล็กก็เป็นน้ำเปล่า มีผ้าผืนเล็กๆพับพาดไว้ที่ขอบอ่าง เขาคิดว่าคงจะเป็นน้ำสำหรับล้างมือนั่นเอง พอเห็นแล้วเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

ข้าวต้มอุ่นๆ เนื้อที่เป็นเนื้อไก่ปรุงรสหวานๆเค็มๆ ผักดองรสเปรี้ยว แทรกไว้ด้วยความเผ็ดเล็กน้อย กับไข่เค็ม เขากลับรู้สึกเอร็ดอร่อยกับมันมาก ถึงแม้จะเป็นอาหารพื้นๆก็ตาม นึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะปรกติอาหารเช้าของเขาอาจจะเป็นข้าวต้มเครื่องอย่างดี หรืออเมริกันเบรคฟราส ข้าวต้มกับเครื่องเคียงพื้นๆแบบนี้ ไม่เคยอยู่ในความคิดของเขาเลย เสร็จจากอาหารคาว ก็ตามด้วยผลไม้ เขาค่อยๆปอกเปลือกกล้วยน้ำว้า แล้วจุ่มกินกับน้ำผึ้ง
“อร่อยดีเหมือนกันนี่หว่า ถ้าเป็นกล้วยหอมทอดนะ .... เจ๋ง” เขาพึมพำกับตัวเอง
พอกินเสร็จเรียบร้อย ก็ล้างมือในอ่างน้ำใบเล็กนั้น แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดมือ

“พอดีอิ่มหรือไม่ หากไม่ ยังพอมีกล้วยน้ำว้าอีกหลายผล” เสียงนุ่มๆดังขึ้นอีกครั้ง แล้วร่างสูงโปร่งก็มายืนอยู่ข้างๆเขา พลางก้มตัวหยิบถาดอาหารและอ่างน้ำออกไป ตอนนั้นเองที รพีพันธ์ ได้มองเห็นคนผู้นั้นอย่างชัดเจน

เรือนร่างสูงโปร่ง ผิวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวบาง ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย ริมฝีปากบางเบาเป็นสีแดงเรื่อ มุมปากเหมือนจะมีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่เสมอ อายุคงจะน้อยกว่าเขาหลายปี

... ผู้ชาย ... รพีพันธ์ คิดขึ้นมา เมื่อมองสำรวจไปตามส่วนต่างๆของร่างกายคนคนนั้น

ชายคนนั้นเดินออกไปนอกเพิง สักครู่ก็เดินกลับเข้ามา แล้วนั่งลงบนเตียง หันหน้ามาทาง รพีพันธ์
“ยังรู้สึกปวดหัวอยู่หรือไม่” เสียงนุ่มใส แฝงไว้ด้วยความห่วงใย
“ไม่แล้ว แต่เหมือนจะมีไข้เหลืออยู่หน่อย” รพีพันธ์ พูดพลางเอามือแตะไปตามลำคอของตัวเอง “แต่ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณนะ”
รพีพันธ์ มองไปรอบๆอีกครั้ง เหมือนจะมองหาใครสักคน
“คนที่ช่วยผมไว้ล่ะ ผมอยากจะขอบคุณเค้าซะหน่อย”
“มิต้องขอบคุณดอก เป็นเรื่องที่ข้าต้องกระทำอยู่แล้ว”
 “คุณน่ะเหรอที่เป็นคนช่วยผม” เขาถามออกไปอย่างสงสัย และยังสงสัยถึงสำนวนพูดแปลกๆ ของชายหนุ่มตรงหน้า
“ข้าเอง”
“แต่ผมจำได้นี่นา ว่าคนที่ช่วยผมไว้ ดูเหมือนจะมีปานสีขาวที่หน้าผาก ... ปานสีขาวรูปจันทร์เสี้ยว” ชายหนุ่มพูดพลางมองไปที่หน้าผากอันเนียนเรียบ ไร้รอยตำหนิใดๆของคนที่อยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้ รพีพันธ์ อย่างอ่อนโยน ... เจือไปด้วยความอ่อนหวานในความรู้สึกของชายหนุ่ม
“คุณ ... เอ้อ ... คุณชื่ออะไร” รพีพันธ์ รู้สึกว่าหน้าเขาแดงขึ้น ด้วยความขัดเขินอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้
“จันทริ คือนามของข้า ... ท่านเล่า”
“ผมชื่อ รพีพันธ์ เรียกผมว่า อาทิตย์ ก็ได้”
“รพีพันธ์” จันทริ ทวนคำ “ผู้สืบสายจากองค์เทพแห่งสุริยา”
ดวงตาของ จันทริ เป็นประกายแวววาว
“บุรุษแห่งสุริยาเทพ ข้าขอต้อนรับท่านสู่วิหารจันทรา”

“วิหารจันทรา” รพีพันธ์ ทวนคำ พลางทำท่าคิด เพราะเหมือนกับว่า เขาเคยได้ยินคำเหล่านี้มาก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-07-2008 19:36:24 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 o13 o13 o13

ว่างๆ ต้องหาเวลาไปอ่านอีกเรื่องของคุณบุหรงซะแล้ว

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ดำเนินเรื่องได้เร็วดี  สนุกค่ะ

รอนะคะ

ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
เข้ามาลงชื่อติดตามผลงานค่ะ

เห็นชื่อเรื่องหลายวันแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านซักกะที ชื่อเรื่องเพราะจังค่ะ น่าสนใจ

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านนะคะ + ๑ ให้กับคุณบุหรงไว้ก่อน

เป็นกำลังใจให้นะคะ   :L2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4: มาต่อแระดีใจจัง

ว้าว เริ่มเข้มข้นแร้ว

รออ่านต่อไปค๊าบ......

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
อ่านอร่อยจริงๆ  ^-^

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :o หุหุพระเอกเราไฮโซจัง  :m12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด