เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}  (อ่าน 154158 ครั้ง)

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เกลียดวินนนนนนนนนนนนนนนนน เกลียดตั้งแต่ตอนนี้ยันตอนจบเลย ต่อให้เป็นพระเอกก็เกลียดดดดดดดดดด ทำไมถึงอินขนาดเนนนนนนน้ ยังไม่มีอะไรเลยยยยยยย จะรีบร้องไห้ทำไมมมมม  :z3: :z3: :z3:
อินจนเป็นบ้า ฮือ แต่งดีค่ะชอบ  :hao5:

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ไม่เคยอ่านเรื่องไหนแล้วเกลียดตัวละครมากขนาดนี้เลย ไอ้วิน เป็นคนแรกที่อ่านแล้วเกลียดสุดๆ เพราะใจไอ้วินคิดจะทำลายชีวิตคนอื่นน่ะ
  รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ป้อน้องกานต์นี่จะใช่ผู้ชายที่พ่ออิตาวินรักป้ะนี่

สงสารน้องกานต์จัง อิวินมันเลววววววววว

 :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีวินนี้เลวมากๆๆๆ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
สนุกมากๆค่ะ ภาษาสละสลวยมากค่ะ   สงสารทั้งรพิน และกานต์เลยโดนสองพ่อลูกใจร้ายทำร้ายจิตใจ สงสารณัฐด้วย ทั้งที่ดีแสนดีแต่กลับโดนแย่งไป

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ตอนที่๘ กระทิงคลั่ง


“พี่วินเป็นยังไงบ้าง”

รพีกานต์กึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าตื่นปรี่เข้ามาหาหน้าตาร้อนรนด้วยความเป็นห่วง

“แสบจังครับ”

 อัครวินท์ทำสีหน้าออดอ้อนสุ้มเสียงฉอเลาะราวกับเจ็บปวดเสียเต็มประดา อารามมัวห่วงหารพีกานต์ไม่ทันนึกเฉลียว แค่ได้ยินเขาบอกว่าเจ็บ หัวใจก็พลันอ่อนยวบยาบนึกอยากเจ็บแทนเหลือเกิน

“คนบ้า ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลย ทำไมไม่แวะเข้าห้องน้ำไปล้างตัวก่อนล่ะครับ อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยครับ เรารีบไปห้องกานต์ก่อน ส่งกุญแจรถมาครับ เดี๋ยวกานต์ขับให้ แล้วนี่น้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้ากานต์ พี่วินเอาซับตรงที่โดนลวกก่อนนะครับ”

รพีกานต์ละล่ำละลักรัวลิ้นเร็วจนแทบจะพันกันด้วยห่วงแสนห่วง ร่างโปร่งไม่ประวิงเวลา มือเรียวรีบเทน้ำเย็นราดใส่ผ้าเช็ดหน้าส่งให้ซับรอยถูกลวกไปพลาง ๆ ก่อนฉวยกุญแจรถจากมือหนาทำหน้าที่โชเฟอร์ให้ อัครวินท์รีบเดินไปเปิดประตูรถอีกด้านแทรกตัวเข้าไปทันที เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาดีกรีเดือนมหาวิทยาลัยเหลือบมองโชเฟอร์ข้างกายที่ทำหน้าคล้ายกับว่าตนเองเป็นฝ่ายปวดแสบปวดร้อนเสียเอง รพีกานต์คิ้วขมวดมุ่น สีหน้าร้อนรนอย่างห่วงใยเสียเต็มประดาอย่างกับตนเองเป็นฝ่ายถูกลวกเสียอย่างนั้น น้ำเสียงนุ่มตำหนิเพียงเล็กน้อยให้รู้ว่าห่วงแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีกนอกจากส่งทอความห่วงใยมาให้ทางสายตา

“พี่วินรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ เดี๋ยวก็ถึงหอพักกานต์แล้ว อดทนอีกนิดนะครับ”

รพีกานต์เป็นห่วงเป็นใยเขามากเสียเหลือเกิน มากจนแทบอยากเจ็บแทนเขา ทำไมหนอ ยิ่งเห็นน้ำก๋วยเตี๋ยวที่ราดรดลงถูกเสื้อมีคราบพริกติดมาด้วยแล้ว ร่างเล็กกว่าก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วครับ ผ้าวิเศษของคนพิเศษช่วยพี่ได้จริง ๆ”

 อัครวินท์ไม่วายหยอดคำป้อหวานจนคนฟังแก้มร้อนขึ้นริ้วเรื่อจาง ๆ รพีกานต์ขับรถเขาเข้าไปจอดในที่จอดรถของอะพาร์ตเมนต์ก่อนจะเผลอลืมตัวจับมือเขาเดินลิ่ว ๆ ตรงดิ่งไปที่ลิฟต์


ห้องสีขาวสะอาดสะอ้านเปิดรับแขกที่ชื่ออัครวินท์เป็นครั้งแรก รพีกานต์รีบพาเขาตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำทันทีเพื่อล้างตัว

“พี่วินถอดเสื้อผ้าออกก่อนนะครับ เดี๋ยวกานต์เปิดน้ำราดตัวให้”

รพีกานต์บอกโดยไม่ได้คิดอะไรนอกจากความห่วงใยมากมาย ร่างเล็กกว่าหันไปเปิดฝักบัวอาบน้ำหันมาอีกทีก็เจอกับอัครวินท์ในสภาพเปลือยท่อนบนอวดแผงอกแน่นและมัดกล้ามสวยงาม รพีกานต์ชะงัก นิ่งอึ้งไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวขึ้น

“น้องกานต์ดูให้หน่อยสิครับว่าเป็นอะไรมากไหม พี่มองเห็นไม่ชัดเลยครับ ไม่รู้ว่าพองหรือเปล่า”

อัครวินท์จับมือบางที่ขาวเรียวดุจมือสตรีสัมผัสไปตามแผงอกหนา มือขาวนุ่มสั่นระริกเย็นเฉียบจนอัครวินท์อดยกยิ้มขำไม่ได้

“อายพี่หรือครับ”

“พี่วิน...”

รพีกานต์ก้มหน้างุดด้วยความสั่นประหม่า หัวใจเต้นหนักหน่วงสั่นไหวรุนแรงราวจะหลุดออกมาข้างนอกอก

“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วงพี่”

อัครวินท์ย่ามใจโน้มลงจูบหน้าผากเนียนพร้อมสูดกลิ่นแชมพูหอมอ่อน ๆ เข้าจมูก รพีกานต์ยืนตัวแข็งทื่อปล่อยฝักบัวกระแทกผลัวะลงพื้น ดวงหน้าขาวเนียนขึ้นสีฝาดแดงอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลาม อัครวินท์ฉวยโอกาสจับมือบางขึ้นจูบพร้อมส่งสายตาเสน่หาให้

“ถ้าไม่ได้มือนุ่ม ๆ นี่ช่วย พี่ต้องแย่แน่ ๆ”

 อัครวินท์งับปลายนิ้วเล็กอย่างหยอกล้อขณะสายตามองแก้มแดงซ่านของคนที่เอาแต่อายม้วนต้วนอย่างน่ารักน่าชัง ร่างแกร่งกำยำขยับเข้าชิดใกล้ก่อนจะโน้มใบหน้าลงยื่นปลายจมูกโด่งฉกหอมแก้มขาวฟอดใหญ่

ฟอด

“หอมชื่นใจพี่จัง แค่นี้พี่ก็หายแสบแล้วครับ”

“พี่วิน!”

รพีกานต์เพิ่งได้สติ กายบางผงะทั้งดวงตาเบิกโต หน้าแดงแปร๊ดเหมือนโลหิตทั้งร่างกายไหลมารวมที่จุดเดียว

“พี่รักกานต์ ต่อให้ต้องเจ็บกว่านี้ พี่ก็ยอม เพื่อให้ได้รักกานต์”

 อัครวินท์จ้องดวงตาคู่สวยไร้เดียงสานัยน์ตาหวานเชื่อม รพีกานต์ตรึงอยู่กับที่ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งมนตร์ขลังสุดเสน่หายามสบตากับเขา จนไม่อาจละสายตาไปได้ รู้ตัวอีกที กลีบปากนุ่มก็ถูกไอกรุ่นร้อนจากริมฝีปากอุ่นที่ทาบทับลงมาแนบชิด ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดผิวหน้าชวนวาบหวิวใจเตลิดปลิวไปไกล อัครวินท์รั้งเอวบางเข้าแนบชิด บดคลึงริมฝีปากนุ่มก่อนจะส่งปลายลิ้นร้อนเซาะกลีบปากหยุ่นละเลียดสัมผัสแนวฟันเรียงรายก่อนจะเข้าไปฉกชิมความหวานซ่านภายใน ปลายลิ้นเล็กยังมีรสหวานของน้ำหวานที่อีกฝ่ายเพิ่งดื่มติดอยู่  อัครวินท์เกี่ยวรัดเรียวลิ้นนุ่ม ดูดดุนเบา ๆ อย่างเย้าหยอก คนจูบไม่เป็นที่ยืนตัวแข็งทื่อเป็นหิน รพีกานต์ตัวเกร็งอย่างคนไม่รู้วิธีหายใจ รสจูบหวานลึกล้ำอ้อยอิ่งไม่ประสีประสาขยับตามแต่เขาจะชักนำ อัครวินท์ย่ามใจลูบไล้แผ่นหลังบางก่อนจะเลื่อนมือสอดเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อใต้โครงเสื้อ ผิวกายรพีกานต์เนียนละเอียดแม้มองไม่เห็น ความนุ่มเนียนลื่นมือราวอาบน้ำนมนั้นถูกใจอัครวินท์นัก

อือ อืม

รพีกานต์จิกปลายเล็บลงบนแผ่นอกแน่นเมื่อเริ่มถูกช่วงชิงลมหายใจหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนหายใจไม่ออก ในสมองขาวโพลน หัวใจล่องลอยเบาหวิวราวปุยนุ่นตามแต่เขาจะนำพา

อะ อื้อ

กำปั้นเล็กทุบลงแผ่นอกไม่แรงหนัก อัครวินท์ถอนริมฝีปากหลุบเปลือกตามองกลีบปากเจ่อแดงจัดของร่างที่หอบสะท้านโกยอากาศเข้าปอด ริมฝีปากยกยิ้มยินดีที่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังบริสุทธิ์แม้กระทั่งริมฝีปากที่ยังไม่เคยถูกใครแตะต้อง รพีกานต์หายใจหายคอโล่งขึ้นจึงได้สติเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าแก้มแดงจัด

“พะ พี่วินท์อาบน้ำนะครับ กานต์ กานต์จะไปเตรียมผ้าเช็ดตัวให้กับยาทาให้”

รพีกานต์เอ่ยเสียงสั่นลิ้นแทบจะพันกันก่อนจะรีบเผ่นผลุงออกมาจากห้องน้ำโดยเร็ว ร่างเล็กปิดประตูห้องให้ก่อนจะมายืนหอบหายใจระทึกโครมครามดั่งรัวกลองเพล

“จะ จูบ...แล้ว”

เสียงหวานแผ่วหวิว แก้มขาวร้อนซ่านยามนึกถึงรสจูบแสนวาบหวามซาบซ่านในอก นิ้วเรียวแตะกลีบปากบางเบาอย่างเขินอาย อ่านบทกวีกลอนมาไม่รู้เท่าไหร่เพิ่งซึ้งใจเมื่อเจอกับตัว นี่น่ะหรือรสจูบ บทกวีที่ว่าหวานแสนหวาน รพีกานต์เพิ่งแจ้งใจก็วันนี้ นึกถึงท่าทีไม่ประสีประสาที่มีเขาชักนำของตัวเองแล้วก็ได้แต่อายม้วน

แกรก

“น้องกานต์อย่าลืมผ้าเช็ดตัวของพี่นะครับ”

อัครวินท์เปิดประตูออกมากำชับยิ้ม ๆ ทันได้เห็นร่างเล็กที่ยังไม่ไปไหนไกลประตูสะดุ้งโหยงราวกระต่ายตัวน้อย ๆ ที่ตื่นตูมกับเสียงดังจนคิดว่าฟ้าถล่ม ริ้วแดงเรื่อที่ข้างแก้มนั้นน่ารักจนอยากจะฝังจมูกลงไปสูดดมกลิ่นหอมของผิวเนียนอีกสักหลายหน

“คะ ครับพี่วิน”

รพีกานต์ก้มหน้างุดรีบออกไปจากตรงนั้นทันที อัครวินท์ยกยิ้มงับประตูปิด มือหนาปลดเข็มขัดรูดซิปกางเกงลง ใจไพล่คิดไปถึงถุงยางอนามัยที่ชายหนุ่มพกใส่กระเป๋าสตางค์ติดไว้ตลอด แววตาร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาสะท้อนในกระจก

“หวานคอแร้งล่ะ อุตส่าห์มาถึงห้อง ยังไงก็ไม่เหลือ หึ”

ร่างเปลือยเปล่าก้าวเข้าไปใต้ฝักบัวเงยหน้าชโลมน้ำอย่างชุ่มฉ่ำพร้อมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ถึงจะผู้ชายด้วยกันก็เถอะ แต่ผิวเนียนจากการที่ได้ลูบไล้แผ่นหลังเมื่อกี้มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แถมริมฝีปากนุ่มนั่นก็หวานล้ำไม่หยอก รพีกานต์หน้าหวานอย่างกับผู้หญิง มองผ่าน ๆ ดูเหมือนทอมบอยเสียมากกว่าจะเชื่อว่าเป็นผู้ชาย เอาเถอะ ศึกษาวิธีการมาแล้ว
คนอย่างอัครวินท์ ถ้าอยากจะได้ก็ต้องได้

รีบเผด็จศึกจบเกมเร็ว ๆ จะได้ไปหาเป้าหมายใหม่ต่อ วันนี้ตอนนั่งในโรงอาหารแอบเห็นสาวสวยเฉี่ยวส่งสายตาทอดสะพานมาให้แล่นไปสานต่อ ก็อยากจะไปอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าวันนี้มีภารกิจ

“กระต่ายน้อย พี่อาบน้ำเสร็จแล้วครับ ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหนเอ่ย”

อัครวินท์เยี่ยมหน้าออกมาร้องถามหาผ้าเช็ดตัวจากคนที่กำลังนั่งดูรายการทำอาหาร รพีกานต์สะดุ้งโหยงก่อนจะเดินก้มหน้ามาส่งผ้าเช็ดตัวให้ อัครวินท์แกล้งเอื้อมจับมือบางทำท่ายักแย่ยักยันกันจนดึงตัวบางมาใกล้ ๆ ได้

“พี่วิน!”

รพีกานต์ร้องเสียงหลงเพราะรู้ดีว่าหลังประตูนั้นคือร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม

“ร้องเสียงหลงเชียวนะครับ กระต่ายขี้กลัว กลัวพี่ทำอะไรหรือครับ ฮึ”

อัครวินทำสายตากระลิ้มกระเหลี่ยเต็มที่

“พี่วินท์แกล้งกานต์”

 เสียงหวานพ้อ ทำหน้าจะร้องไห้เมื่อถูกไล่ต้อนจนมุม แถมหัวใจเจ้ากรรมยังเต้นกระหน่ำไม่เพลาลงบ้างเลย

“โอเค พี่ไม่แกล้งแล้ว งั้นเดี๋ยวกานต์ทายาให้พี่หน่อยนะครับ”

อัครวินท์ทำตาเจ้าชู้ไก่แจ้ ร่างสูงใหญ่ออกจากห้องในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมานั่งปุบนเตียงพลางส่งสายตาให้ร่างเล็กกว่าเข้าไปหา รพีกานต์ใจสั่นหวั่นไหวลมแทบจับเมื่อมองแผงอกหนาล่ำสันพราวไปด้วยหยดน้ำเกาะ

“พี่วินไม่เช็ดตัวก่อนล่ะครับ”

“กานต์ก็เช็ดให้พี่สิครับ”

สายตาคมแพรวพราวจนรพีกานต์ต้องหลุบตาหลบ มือบางกล้า ๆ กลัว ๆ หยิบขนหนูกับยาเดินเข้าไปหา รพีกานต์ก้มหน้าก้มตามองแค่แผงอก

หมับ

มือหนากุมทับมือนุ่มที่บรรจงเช็ดตัวให้ อัครวินท์โน้มจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนุ่มก่อนจะซุกไซ้ซอกคอจู่โจม มือหนารั้งตัวบางพลิกลงแนบเตียงพร้อมขึ้นคร่อมเหนือร่างอีกฝ่าย

“พี่วิน”

“กานต์ทำให้พี่ร้อน รับผิดชอบซะดี ๆ”

ริมฝีปากร้อนจาบจ้วงประกบจูบ ฝ่ามือเชี่ยวลูบไล้เรือนกายบางทอนกำลังอีกฝ่าย รพีกานต์สมองตื้อทำอะไรไม่ถูก สัมผัสของอัครวินท์ชวนให้ใจสั่นหวั่นไหวเหลือแสน ยามลิ้นร้อนรุกไล่เกี่ยวรัดลิ้นเล็กไม่ประสา มือหนาปลดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็วพร้อมสะกิดยอดอกเล็กลูบผ่านไปทั้งตัว

“อา พี่วิน”

อัครวินท์ถอนปากออกจ้องมองร่างตรงหน้าอย่างหื่นกระหายราวกระทิงป่ากลัดมันอยากโจนเข้าหากระทิงสาว

“พี่ขอนะ”

ไม่รอให้ตอบ ซอกคอหอมถูกซุกไซ้ รพีกานต์แอ่นตัวอย่างสยิวยามปลายลิ้นชุ่มสะกิดเลียยังยอดอกเล็ก ความเสียวซ่านแล่นปลาบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าว

“อา พี่วิน”

รพีกานต์สมองขาวโพลน ร่างกายร้อนฉ่าราวนาบไฟ เสียงครางหวานระบายความเสียวซ่านแปลกใหม่ที่ได้รับ มือเรียวกดแทรกศีรษะอีกฝ่ายแหงนหน้าเริดส่งเสียงครางหวานหู อัครวินท์ตวัดปลายลิ้นละเลงยอดอกเล็กขึ้นไตขณะสายตามองใบหน้าแดงซ่านซับด้วยไฟอารมณ์ที่เขาจุดไฟอย่างกระหยิ่มใจ

Tru Tru Tru

รพีกานต์สะดุ้งโหยงผละออกทันควัน ใบหน้าขึ้นริ้วแดงบ่ายไปทางเสียงโทรศัพท์ใกล้ตัว เหลือบเห็นหน้าจอเป็นใบหน้าของณัฐธีร์ที่โทรมา อารมณ์พลุ่งพล่านลดลงฮวบด้วยความรู้สึกหลากหลาย รพีกานต์สบตากับคนที่อยู่เหนือร่างที่จ้องมองอย่างกดดันสลับกับเสียงโทรศัพท์ที่แผดเสียงไม่หยุด อัครวินท์หงุดหงิดทำท่าจะจับขว้างทิ้งแต่ช้ากว่ารพีกานต์ที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับ

“ครับพี่ณัฐ”

“....”

“กานต์ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ พี่ณัฐไม่ต้องมาหรอก”

“...”

“โธ่พี่ณัฐ กานต์บอกว่ากานต์ไม่ได้เป็นอะไรมากไง แล้วนี่พี่ณัฐรู้ได้ยังไงว่ากานต์ไม่สบาย สปายเยอะจริงนะ”

“...”

“พี่ณัฐกานต์บอกไม่ต้องมาไง...โอเค ๆ ให้มาก็ได้ แต่อย่าบอกพ่อนะ เดี๋ยวพ่อเป็นห่วง”

รพีกานต์เสียงอ่อนเมื่ออีกฝ่ายขู่จะบอกพ่อรพินทร์ ซึ่งรพีกานต์ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง จึงต้องยอมให้ณัฐธีร์มาดูให้แน่ใจ รพีกานต์วางสายก่อนจะหันมาหาคนที่ได้ยินทุกบทสนทนาเมื่อครู่

“พี่วินคงได้ยินแล้ว...ว่าพี่ณัฐจะมา”

รพีกานต์ไม่กล้าสบตาอัครวินท์ขึ้นมาดื้อ ๆ เหมือนคนมีความผิดติดตัว

“งั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อน เจ้าของเขามาแล้วนี่ พี่จะอยู่ไปทำไม”

 อัครวินท์ทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงมือเสยผมอย่างหงุดหงิด

“ไม่ใช่นะครับพี่วิน กานต์กับพี่ณัฐไม่ได้เป็นอย่างที่พี่วินเข้าใจ จริงอยู่ที่พี่ณัฐขอจีบกานต์ แต่เราสองคนไม่เคยทำอะไรเกินเลยต่อกันนะครับ”

“หรือครับ”

 อัครวินท์ทำเสียงขึ้นจมูกเหมือนไม่อยากเชื่อ

“พี่วินเชื่อกานต์นะครับ กานต์กับพี่ณัฐไม่เคยมีอะไรกันจริง ๆ กานต์ผูกพันเห็นพี่ณัฐเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง”

รพีกานต์ละล่ำละลักอธิบายด้วยกลัวเขาจะคลางแคลงใจมากไปกว่านี้

“แล้วพี่ละครับ พี่เป็นอะไรสำหรับกานต์ บอกตรง ๆ ว่าพี่ไม่ชอบเลยที่เห็นพี่ณัฐเข้านอกออกในห้องกานต์ได้ตลอด แต่พี่กลับต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนพวกชายชู้”

 อัครวินท์ตัดพ้อเหมือนน้อยใจนักหนา

“พี่วิน...ตอนนี้กานต์ยังตอบพี่วินได้ไม่เต็มปาก แต่ความรู้สึกของกานต์ที่มีต่อพี่วินแตกต่างกับพี่ณัฐแน่นอนครับ เพราะงั้นเชื่อใจกานต์นะครับ”

รพีกานต์เว้าวอน อัครวินท์จ้องร่างเล็กตรงหน้านิ่ง รู้สึกเสียศูนย์ไม่น้อยที่อุตส่าห์บุกถึงห้อง ฟัดจมเตียงจนจะได้ครอบครองตัวอยู่แล้วยังมีมารมาผจญ แถมมารตนนั้นยังสามารถทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายระเห็จออกไปอีก รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดจนแทบอยากจับคนตัวเล็กมาเขย่าแรง ๆ ให้หัวสั่นหัวคลอนนัก อุตส่าห์ไปศึกษาวิธีทำมาเสียดิบดีกะว่าได้เผด็จศึกแน่ ๆ ที่ไหนได้ ไอ้หมาวัดดันมาขัดขวาง

“โอเค พี่จะกลับก่อน”

อัครวินท์เดินเข้าไปใส่เสื้อผ้าชุดเดิมในห้อง มือเปิดประตูผัวะออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาพยายามระงับอารมณ์ขุ่นมัวไม่อาละวาดกับร่างเล็กทั้งที่ปกติไม่เคยต้องอดทนกับอะไรนาน ๆ อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแท้ ๆ ให้ตาย

“พี่วินเปลี่ยนชุดก่อนไหมครับ”

“ช่างมันเถอะ”

อัครวินท์จับลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออก ทว่าชายเสื้อที่ถูกรั้งไว้ทำให้หันมามอง

จุ๊บ

“ขับรถดี ๆ นะครับ”

สัมผัสแผ่วเบาแตะเรียวปากก่อนจะละออกอย่างรวดเร็ว เจ้าของรอยจูบยืนก้มหน้างุดตรงหน้า อัครวินท์ตะลึงไปชั่วครู่ไม่คิดว่ารพีกานต์จะเป็นฝ่ายรุกก่อน ก่อนมือหนาจะคว้าเอวบางเข้าใกล้พร้อมตะโบมจูบหนักหน่วงรุกรานทันที

อือ

หวานล้ำ รสชาติของรพีกานต์หวานล้ำจนไม่อยากหยุด อัครวินท์ดันร่างเล็กชิดประตู มือหนาล้วงเข้าไปลูบไล้สัมผัสแผ่นหลังเนียนนุ่มลื่นมือก่อนจะเลื่อนลงบีบขยำสะโพกนุ่ม ไฟปรารถนาถูกจุดจนคุโชนอีกครั้งพร้อมกระโจนเข้าหา

Tru Tru Tru

“อื้อ ! พี่วิน แฮก! พี่ณัฐจะมาแล้ว”

รพีกานต์ผลักร่างหนาออกหอบแฮกโกยอากาศเข้าปอด ไม่นึกว่าแค่จูบเบาๆ ปลอบใจเขาจะเลยเถิดมาขนาดนี้ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปทั้งเนื้อทั้งตัวจนมองเห็นไหล่ลาดเนียนและยอดอกสีอ่อน

“พี่วินกลับไปก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวกานต์โทรหา”

รพีกานต์เงยหน้าขึ้นอ้อนวอน ใบหน้าสวยหวาน ดวงตาคลอฉ่ำด้วยหยาดน้ำ กลีบปากนุ่มบวมเจ่อ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย สภาพน่ากระชากลงเตียงมากกว่าที่จะล่าถอยกลับไป แต่กระนั้นถ้าเขาหักหาญน้ำใจตอนนี้ที่หย่อนเบ็ดล่อคงจะพังหมด

“ก็ได้ พี่จะรอ”

อัครวินท์กระชากประตูห้องเปิดออกเดินลิ่ว ๆ ออกไปทั้งที่อารมณ์บางอย่างพลุ่งพล่านจนแทบคลั่งกับความต้องการในตัวรพีกานต์ คลั่งจนแทบอยากจะฆ่าคนที่ขวางทางทั้งที่เห็นสวรรค์รำไร ร่างใหญ่เหลือบมองณัฐีร์ที่กำลังนั่งรอรพีกานต์ที่ม้านั่งหน้าอะพาร์ตเมนต์อย่างหัวเสีย นึกอยากจะเดินลิ่วเข้าไปตะบันหน้ามันให้หน้าหันนัก

“หมูเขาจะหาม ดันเสร่อเอาคานเข้ามาสอด ไอ้คาน”


 :katai2-1:
 วินหื่นจริงไรจริง กระทิงกลัดมัน

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ติดตามมมมมมม จะเป็นแฟนคลับตัวยงเลยค่ะ เขียนดีทุกเรื่องเลยยยยยยยย :m1:

ออฟไลน์ LapiN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอเลยค่ะ นายวิน เลวไว้ให้เต็มที่ เด๊ยวถึงเวลาจะได้รู้สึกเยอะๆ หึหึ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :katai1: อึดอัดเหมือนเดิม รอเวลาเตะนังแหลวินออกไปจากเรื่อง

คิดว่าวินคงไม่ใช่พระเอก แต่เป็นตัวร้ายที่มาสร้างปมให้กานต์มากกว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
คู่พ่อก็น่าสงสาร พ่อเปิดใจเร็วๆนะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
กานต์ไม่ทันเล่ห์ของวินจริงๆ คงเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมของกานต์กับวินแตกต่างกันมากๆ
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ตอนที่๙


“กานต์เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอไหม”

ณัฐพุ่งพรวดเข้าหาตอนที่รพีกานต์เปิดประตูออกมารับ น้ำเสียงร้อนรนรัวถามด้วยความห่วงใยมากมายจนน้องน้อยรู้สึกผิดไม่กล้าสบตา เมื่อได้โป้ปดไปแล้วครั้งหนึ่งก็ย่อมจะต้องมีครั้งสองตามมา
   
“ดีขึ้นแล้วครับ เดี๋ยวไปคุยบนห้องนะ”

รพีกานต์เบือนหลบสายตาณัฐธีร์อย่างรู้สึกผิดเต็มเปี่ยม ร่างโปร่งพาพี่ชายวัยเยาว์เข้ามาคุยในห้องด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในใจ
   
“คราวหน้ามีอะไรกานต์ต้องบอกพี่รู้ไหม ให้พี่รู้จากคนอื่นแบบนี้ พี่เป็นห่วงกานต์มากเลยนะครับ”

 ณัฐธีร์วาดมือโอบตัวบางรั้งเข้าแนบอกพลางลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน รพีกานต์ผละออกโดยละม่อมเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชาย

“พี่ณัฐ กานต์ขอโทษ คือกานต์...”

รพีกานต์กระอักกระอ่วนที่จะสารภาพ ยิ่งเห็นแววตาอ่อนโยนที่มองทอดมาสุดลึกซึ้งก็ยิ่งรู้สึกน้ำท่วมปากพูดไม่ออก
   
“คือกานต์...”
   
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ได้โกรธหรือดุกานต์นะ พี่แค่เป็นห่วงกานต์มากไปก็เท่านั้น พี่เจอรินที่โรงอาหาร รินบอกอยู่ ๆ กานต์ก็พรวดพราดออกมา พี่ก็เลยรีบมาหา กลัวกานต์เป็นอะไรมาก กานต์นอนพักนะครับคนดี เดี๋ยวพี่จะอยู่เป็นเพื่อน กานต์มีพี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่เป็นไรนะครับ”

ณัฐธีร์ปลอบน้องเสียงนุ่ม

“พี่ณัฐ...”

รพีกานต์ครางชื่อพี่ชายเสียงแผ่ว ความดีของณัฐธีร์บีบคั้นความรู้สึกอัดอั้นเหมือนคนขาดอากาศ มีคนแสนดีขนาดนี้อยู่ตรงหน้า แต่หัวใจไม่รักดีกลับหวั่นไหวให้ใครอีกคนเสียได้ แค่ได้อยู่ใกล้อัครวินท์ สมองก็พลันลืมสิ้นทุกอย่าง ทำไมเป็นคนแบบนี้นะรพีกานต์

“ชู่ พี่รับปากกับคุณพ่อของกานต์แล้วไงครับ ว่าจะดูแลน้องน้อยของพี่ให้ดี เพราะงั้นถ้าเป็นเรื่องของกานต์ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่พี่ก็ปล่อยผ่านไปได้หรอก”

ณัฐธีร์ลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู สายตาอ่อนโยนทอดมองน้องน้อยตรงหน้าอย่างรักใคร่สุดหัวใจ ทว่ารพีกานต์กลับรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ

“พี่ณัฐดีกับกานต์ขนาดนี้ กานต์กลัวกานต์จะรับไว้ไม่ไหว กานต์กลัว...กานต์จะทำให้พี่ณัฐเสียใจ”

 รพีกานต์เสียงสั่นพร่าพรั่งพรูความรู้สึกปวดหน่วงออกมา หัวใจพิศุทธิ์ดวงน้อยเหมือนถูกบีบคั้นรุนแรงเกินกว่าจะทานทนไหว ร่างกายสั่นระริกราวลูกนกตัวน้อย ๆ ขาดไออุ่นจนณัฐธีร์รู้สึกได้

“โอ๋ เด็กน้อยคิดมากเรื่องนี้เองหรอกหรือ ปล่อยตามสบายเถอะครับ เวลานี้กานต์ควรจะตั้งใจเรียนมากกว่านะ”

ณัฐธีร์ปลอบโยนร่างเล็กไม่อยากให้ต้องคิดมาก พลางคิดทบทวนในใจว่าเขารุกหนักน้องน้อยมากไปไหม เขาประกาศโจ่งแจ้งต่อใคร ๆ เพื่อกันท่าคู่แข่งทุกคนออกไปจากวงโคจรแถมตามประกบแจไม่ห่าง อาศัยความผูกพันแต่เยาว์วัยรัดรึงหัวใจน้องน้อยเอาไว้กับเขาแต่เพียงผู้เดียว รพีกานต์คือดวงอาทิตย์ส่องสว่างเพียงดวงเดียวในชีวิตของเขา ดวงอาทิตย์ที่รักของณัฐธีร์

“ครับพี่ณัฐ กานต์จะตั้งใจเรียน”

รพีกานต์ตอบเสียงแผ่วขณะซบหน้าลงซุกอกพี่ชาย ไม่วายสายตาเหลือบมองโทรศัพท์มือถืออย่างกังวล

“พี่เองก็จะพยายามให้มาก พยายามมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะต้นทุนมีน้อยกว่าใคร ๆ พี่เลยต้องหามาเติมให้มากหน่อย พี่อยากมีงานทำแล้วก็ดูแลกานต์ให้ดีได้สักครึ่งของคุณรพินทร์ การตั้งใจเรียนคือความรับผิดชอบขั้นแรกที่พี่จะแสดงให้คุณพ่อของกานต์ได้เห็นและวางใจในตัวพี่”

 ณัฐธีร์ยกยิ้มโยกตัวบางในอ้อมกอดเบา ๆ พลางวาดฝันแสนงาม ดวงตาคมหลุบมองคนในอ้อมอก ก่อนประทับจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากเนียนอย่างทะนุถนอม ร่างสูงกระชับอ้อมกอดโยกตัวบางปลอบโยนอย่างทุกครั้งที่น้องน้อยขวัญเสีย ณัฐธีร์ไม่เคยละลาบละล้วงไปมากกว่านี้ รพีกานต์ดวงตาสั่นระริก อ้อมกอดพี่ชายอุ่นซ่านในความรู้สึกไม่เสื่อมคลาย ทว่าหัวใจขบถกลับไพล่ถวิลหาอีกคน ร่างกายร้อนผ่าววูบวาบราวนาบด้วยเปลวไฟทุกครั้งที่เข้าใกล้เขา ลมหายใจอุ่นผ่าวรินรดผิวแก้มใสยามเขาโน้มกระซิบถ้อยมธุรสหวานหูพาหัวใจเผลอเตลิดตามทุกครั้ง กายหนุ่มแน่นร้อนระอุเจือกลิ่นน้ำหอมราคาแพงแผ่ซ่านรัญจวนพาใจสั่นหวิวหลุดการควบคุมตัวเอง...พี่วิน

“กานต์ น้องกานต์ครับ”

ณัฐธีร์สะกิดตัวบางของคนเหม่อลอยในอ้อมแขน

“คะ ครับ พี่ณัฐ”

รพีกานต์สะดุ้งโหยง รีบดึงสติกลับ เผลอลืมตัวไปเสียได้ทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดพี่ชายแท้ ๆ

“ยังปวดอยู่หรือครับ”

 ณัฐธีร์โน้มใบหน้าลงแปะหน้าผากตัวเองอังหน้าผากมน จำได้ว่าน้องน้อยเคยปวดท้องเพราะอาหารเป็นพิษจนมีไข้อ่อน ๆ มาแล้ว ชายหนุ่มจึงอดกังวลไม่ได้ ใบหน้าหล่อคมสันถอนออกจ้องมองใบหน้าหวาน

“ตัวไม่ร้อน กานต์นอนพักนะครับ”

ชายหนุ่มพาน้องน้อยไปส่งห้องนอนพร้อมห่มผ้าคลุมให้เรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอ่อนมองคนตรงหน้า มืออุ่นปัดปอยผมปรกหน้าให้น้องน้อย ชีวิตเด็กกำพร้าที่ถูกนำมาทิ้งวัดตั้งแต่เพิ่งจะลืมตาดูโลก แค่มีแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวอย่างรพีกานต์ ณัฐธีร์ก็มีกำลังใจที่จะมุมานะต่อสู้กับชีวิตเพื่อยอดสิเน่หาเพียงหนึ่งเดียวของเขาแล้ว

“เดี๋ยวพี่จะอ่านหนังสือ ทำรายงานด้านนอก กานต์มีอะไรก็เรียกพี่นะ พี่จะเปิดประตูแง้มไว้”

ณัฐธีร์จูบหน้าผากเนียนส่งน้องเข้านอนอีกหน ร่างสูงเหยียดตัวเต็มความสูงก่อนจะผละห่างออกไปให้น้องน้อยได้พักผ่อน
รพีกานต์กระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาบนเตียง สายตาคอยแต่จะจดจ้องโทรศัพท์ไม่วางตา แรงขับเคลื่อนบางอย่างกระตุ้นให้กระวนกระวายใจเฝ้านึกถึงแต่อีกคน รสจูบแรกที่ได้สัมผัสร้อนแรงวาบหวามเหมือนจะกระชากวิญญาณออกจากร่าง ยามลิ้นร้อนเกี่ยวรัดดูดดุนลิ้นเล็กไม่ประสีประสา รพีกานต์ซาบซ่านวาบหวิวเหมือนตัวจะลอย สมองขาวโพลนมึนงงไปชั่วขณะ เคยแอบอ่านนิยายอีโรติกบทวาบหวามที่พ่อแต่ง

ยามชายหนุ่มบดเบียดริมฝีปากร้อนผ่าวมอบจุมพิตปรารถนาสุดร้อนแรงราวกับจะช่วงชิงลมหายใจ จนหญิงสาวอ่อนระทวยเป็นลูกไก่ในกำมือ ความร้อนคั่งกดแทรกลงยังกลีบฉ่ำเรียกเสียงสูดปากด้วยความสยิวจากเจ้าหล่อน...

แก้มขาวแดงซ่านอย่างเขินอาย ตอนนั้นรพีกานต์อ่านไปก็ครุ่นคิดตามไปทุกตัวอักษรแต่ก็ไม่ใคร่เข้าใจนัก จนได้สัมผัสด้วยตัวเองในวันนี้กับรสจูบแรกที่อัครวินท์มอบให้ รสปรารถนาลึกล้ำหวามไหวสะกดหัวใจให้ดำดิ่งลงไปสู่ความลุ่มหลงร้อนรุ่ม ยิ่งนึกถึงสรีระเกาะพราวด้วยหยดน้ำของเขาแก้มขาวก็ยิ่งร้อนวูบวาบ สมองคิดเตลิดไปถึงตอนที่เรือนร่างสมบูรณ์แบบขยับอยู่บนตัว...

แนวฟันขาวเผลอขบริมฝีปากล่าง มือบางเผลอขยำผ้าปูที่นอนด้วยความลืมตัว

“...กานต์ กานต์ครับ”

ณัฐธีร์เขย่าเรียกเบา ๆ รพีกานต์สะดุ้งรีบดึงสติปรับสีหน้าพัลวัน

“ทำไมหน้าแดง ๆ อืม เหมือนตัวจะอุ่นขึ้นนะ กานต์ไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวพี่อุ้มไปขึ้นรถนะ”

ณัฐธีร์เอ่ยหน้าซื่อมองใบหน้าซับสีเลือดด้วยความเป็นห่วง รพีกานต์หน้าม้านเมื่อได้ยิน ความละอายใจเกาะกุมหัวใจหนักอึ้ง ที่หน้าแดงไม่ใช่เพราะป่วยแต่มาจากสาเหตุอื่นต่างหาก

“กานต์ไม่เป็นไรครับ นอนพักอีกเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”

“งั้นกานต์อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้”

ณัฐธีร์ถามอย่างเอาใจเช่นทุกที

“ไม่ละครับ กานต์ไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้อง เดี๋ยวออกไปกินข้างนอกดีกว่า”

“โอเค งั้นพี่ไม่กวนละ”

ณัฐธีร์ผละไปโดยแง้มประตูห้องนอนเอาไว้นิดหน่อยเช่นเคย รพีกานต์หยิบโทรศัพท์ขึ้นเช็กดูความเคลื่อนไหวจากอีกฝ่าย

“ไม่มีข้อความจากพี่วินเลย”

ร่างโปร่งพึมพำเบา ๆ อดรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ไม่ได้

“หรือว่าพี่วินจะโกรธมาก”

นิ้วเรียวคลึงปากนุ่มอย่างครุ่นคิด อีกใจก็รู้สึกผิดต่อณัฐธีร์นักหนา จะเดินหน้าหรือหยุดที่ความฉาบฉวยนี้ดีหนอ มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูอย่างลังเลก่อนตัดสินใจพิมพ์ข้อความหา

“พี่วิน กานต์ขอโทษเรื่องพี่ณัฐนะครับ”



กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ๆ ๆ ๆ

เสียงกดกริ่งรัวหน้าประตูห้องอย่างไม่กลัวถูกเฉ่งบ่งบอกอารมณ์เอาแต่ใจของคนกด และความสนิทสนมกับเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี ประตูห้องเปิดออกผลัวะด้วยสีหน้ายุ่งของเจ้าของห้อง ก่อนดวงตากรีดอายไลเนอร์เฉี่ยวจะเบิกกว้างอย่างคนเจอเรื่องเซอร์ไพรส์

“ว้าว ลมที่ไหนหอบสุดหล่อมาหากันกลางวันแสก ๆ ได้เนี่ย”

“ถามมากน่า”

อัครวินท์ดันร่างอวบอัดกลับเข้าไปในห้องก่อนจะตะโบมปิดปากช่างจ้อด้วยความอยากอันร้อนระอุในตัวที่คั่งค้างมาจากรพีกานต์ ปลายลิ้นช่ำชองต่างโรมรันกันและกัน ต่างฝ่ายต่างช่วยกันสลัดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย กายแน่นเปลือยเปล่าบดเบียดความเร่าร้อนกระสันอยากโจจ้วงลงในร่างกายอวบอิ่ม เขาไม่ได้มีรสนิยมชมชอบผู้ชาย ทั้งรังเกียจขยะแขยงและชิงชังนับแต่เจอภาพนั้นบนเตียงเมื่อวัยเด็ก

พ่อของเขากับไอ้ตัวสารเลว

‘รพินทร์’

ชื่อของชายชู้ที่เขียนบรรจงไว้ข้างหลังรูป เจ็บใจอะไรก็ไม่เท่าเห็นพ่อเอากับไอ้ตัวผู้ด้วยกันนี่ละ เป็นชู้เป็นเตียงไม่พอ พ่อยังเทิดทูนมันขนาดเก็บรูปไว้ในกระเป๋าสตางค์ เขาในวัยแตกหนุ่มพานเลือดกำลังร้อนบังเอิญเห็นเข้า เอาออกมาฉีกทำลายจนถูกพ่อตั๊นหน้าหัน อัครวินท์ขบกรามกรอดจ้องบุพการีด้วยสายตาวาวโรจน์อย่างโกรธจัด บ้านอิศวัชร์ร้อนระอุเป็นไฟ พ่อลูกมองหน้ากันไม่ติดมานับแต่นั้น

“เชี่ยวินคิดถึงใครอยู่วะ แกเอากับฉันอยู่นะเนี่ย”

 เสียงหวานห่ามเรียกดึงสติร่างที่เผลอหลุดเข้าโลกส่วนตัวตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม อัครวินท์รู้สึกตัวจัดการบรรเลงให้เจ้าหล่อนเก็บปากไว้ร้องครางแทนการส่งเสียงถามน่ารำคาญ

ปึก ปึก ปึก อาห์

“ซี้ด วิน แกไปอดอยากที่ไหนมา ตะกละชะมัด”

 พูดไปแต่ก็ชอบใจนักกับลีลาความอึดของอีกฝ่าย ทั้งหน้าตา ลีลาที่จัดว่าโคตรเด็ด เสียอย่างเดียว คนอย่างอัครวินท์ฟันแล้วทิ้ง ไม่คิดจริงจังกับใคร แค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว

อัครวินท์มองร่างบิดเร่าตรงหน้า นึกภาพตนเองทำกับผู้ชายแล้วแขยงจนแทบหมดอารมณ์ แต่พอนึกภาพเป็นใบหน้าหวานของรพีกานต์ยามครวญครางใต้ร่างเขา กายเล็กบิดเร่าด้วยความกระสันเสียวในรสสวาท น้ำเสียงกระเส่ายามถูกแผดเผาด้วยไฟรัญจวน อยากรู้นักว่าจะเป็นแบบไหน อยากได้! อยากได้จนจะบ้าอยู่แล้ว ไม่เคยที่คนอย่างอัครวินท์จะต้องรออะไรนานขนาดนี้ อัครวินท์ฮึดฮัดกัดฟันกรอดเดินหน้าปลดปล่อยความร้อนคุคั่งออกจากร่างกายก่อนจะคลั่งตายเพราะความอยากได้ในตัวรพีกานต์


“พี่วิน กานต์ขอโทษเรื่องพี่ณัฐนะครับ”

ข้อความไลน์ที่ส่งไปนานหลายชั่วโมงก็ยังไม่ขึ้นว่า ‘อ่านแล้ว’ เสียที จนคนส่งใจแป้วนอนคอยแล้วคอยเล่าเฝ้าถอนหายใจเฮือก ๆ

“เฮ่อ ส่งข้อความไปตั้งนานแล้ว พี่วินยังไม่เปิดอ่านเลย หรือพี่วินจะโกรธน้องกานต์แล้ว”

น้ำเสียงหดหู่เศร้าสร้อย หัวใจดวงน้อยมีแต่ความกังวลอย่างคนเจอทางตัน ครั้นจะหักหาญน้ำใจพี่ชายเห็นสายตาณัฐธีร์ทีไรก็น้ำท่วมปาก ครั้นจะปลีกตัวหนีจากอัครวินท์ แค่คิดหัวใจก็แทบพังภิณท์กระวนกระวายคล้ายคนจับไข้

“เฮ่อ แล้วต้องทำยังไงละเนี่ย”

คิดถึงอดีตยามเยาว์กับพี่ชายแล้วก็พาลใจร้ายไม่ลง วันที่หกล้มข้อเท้าแพลงได้ขี่หลังพี่กลับบ้าน รองเท้านักเรียนเชือกหลุดลุ่ยพี่ชายก็ก้มลงผูกเชือกให้ ขี่จักรยานซ้อนท้ายพี่ชายปั่นน้องน้อยก็คอยป้อนลูกชิ้นเติมพลัง เที่ยวงานกาชาดดูรถไต่ถังตื่นเต้นจนเผลอจับมือพี่ชายแน่นฝ่ามือชื้นเหงื่อ  การบ้านยาก ๆ ก็ได้พี่ชายช่วยสอน  ยามถูกข่มเหงก็ได้พี่ชายปกป้อง แถมกลับวัดไปพี่ยังต้องโดนหวายหลวงตาเฆี่ยนอีกหลายหน เจ็บตัวซ้ำสอง ความผูกพันที่เหมือนสายใยโอบพันรอบกาย ทำอย่างไรบัวถึงจะไม่ช้ำ น้ำถึงจะไม่ขุ่นตม

“พี่วินกานต์ต้องทำยังไง”

 เสียงนุ่มพึมพำ นิ้วเรียวลูบคลึงริมฝีปากอย่างเผลอไผล นึกถึงสายตา น้ำเสียงถ้อยกระซิบ ลมหายใจร้อนผ่าว สัมผัสอุ่นซ่านจากมือหนาที่ลูบไล้เรือนกาย แก้มขาวร้อนวูบวาบ รพีกานต์รีบสลัดความคิดทะลึ่งออกไปด้วยความขวยเขิน ถอนหายใจอีกหนล้มตัวลงนอน สายตาจดจ่อไม่คลาดจากโทรศัพท์ จ้องนานมากปากก็เริ่มหาวหวอด เผลอหลับไม่รู้ตัว โดยที่คล้อยหลังจากรพีกานต์หลับไปแล้ว ข้อความในไลน์จึงขึ้นว่า ‘อ่านแล้ว’


“อ่านแล้วแต่ไม่ตอบ คอยดูว่ากระต่ายขี้ตกใจจะทำยังไงต่อ”

อัครวินท์ยกยิ้มอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ตนเองเป็นต่อ ขายาวปลีน่องตึงแน่นวาดลงพื้นหยัดยืนเต็มความสูงทั้งร่างเปลือยเปล่าสมบูรณ์แบบไร้ตำหนิ ราวผลงานชิ้นเอกที่สลักเสลาอย่างประณีต มือหนาหยิบเสื้อผ้าที่กองกระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นสวม เช็กความเรียบร้อยหน้ากระจกก่อนจะหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง มือคว้ากุญแจรถเปิดประตูออกจากห้อง เดินฉิวผิวปากหวือ ในหัวก็คิดถึงเรื่องสนุกไปด้วย นึกถึงสีหน้ากระวนกระวายของกระต่ายตัวน้อย ๆ ในกำมือ แค่นี้เขาก็รู้สึกสนุกครื้นเครงอย่างบอกไม่ถูกเพราะรพีกานต์อ่านได้ง่าย ๆ จากสีหน้าที่แสดงออก มือหนาเปิดประตูเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย ดวงตาคมคายกลอกไปมาอย่างใช้ความคิดก่อนจะต่อสายหาน้องรหัสที่พักอะพาร์ตเมนต์เดียวกับรพีกานต์ คนที่เคยเป็นกามเทพนำดอกแก้วไปให้รพีกานต์ในคราวก่อน

“โย่ว ป๋าวินโทรมาจะนัดเลี้ยงหรือครับสุดหล่อ เอาแบบคราวก่อนได้มั้ยป๋า ที่ป๋าพาไปเลี้ยงเหล้าเคล้าฮาเร็มสาวสวยอ่ะ แต่ละคนของป๋านี่ อื้อหือ ปาดน้ำลายแผล็บ เด็ด ๆ ทั้งนั้น”

น้องรหัสสายพันธุ์เดียวกันเปิดฉากพล่ามเสียงทะเล้น

“ไอ้ห่า เดี๋ยวกูให้โพยเบอร์ ไอจี ไอดีไลน์ มึงอยากได้คนไหนก็ไปเต๊าะเอา แต่ตอนนี้ช่วยไรกูก่อนดิวะ”

 อัครวินท์ปรามก่อนอีกฝ่ายจะออกทะเล สายรหัสเสือสายพันธุ์ดุและม่อเก่งเป็นตำนานตั้งแต่ปู่ยันหลานรหัส

“ช่วยไรอ่ะป๋า”

น้องรหัสหูกระดิก รู้ดีว่าป๋าวินท์ไหว้วานอะไรแล้วของตอบแทนลาภปากเสมอ ลูกชายเจ้าของธนาคาร ส่วนแม่ทำธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้าในเครือรวมไปถึงบริษัทเครื่องเพชรและจิวเวลี อัครวินท์ยกยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยไหว้วานบางอย่างออกไป

“เรียบร้อยแล้วคืนนี้มึงไปแดกร้าน XX ก็ลงบัญชีกูไว้ เดี๋ยวกูไปเคลียร์”

“โอเคป๋า ว่าแต่ว่าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวหรือไง ติดใจความแน่นประตูหลังละซี ผมนี่ลองแล้วอย่างฟินอ่ะ ฟิตดีเป็นบ้า แต่กานต์นี่แฟนเขาเป็นรุ่นพี่วิศวะ ปีสามนี่ หูย กี่ตีนวะนั่น”

“ไอ้ห่า ไม่ต้องสอดรู้เลยมึง เดี๋ยวกูโบกให้”

เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังมาตามสาย มือหนากดตัดสายดื้อ ๆ เสร็จเรื่องราวเพลย์บอยหนุ่มจึงสตาร์ตรถกลับคอนโดไปอาบน้ำแปลงโฉมใหม่หล่อเฟี้ยวให้บางคนใจสั่นเล่น




“ไปปั่นจักรยานเล่นกันไหม เดี๋ยวพี่เล่นกีตาร์ให้ฟังด้วย”

ณัฐธีร์เอ่ยถามน้องน้อยที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยในชุดใหม่ รพีกานต์พยักหน้าหงึกเดินเคียงพี่ชาย ในใจคอยพะวงกับข้อความในไลน์ที่อัครวินท์อ่านแล้วแต่ไม่ตอบอะไรกลับมาคล้ายว่าขุ่นเคืองใจ แค่คิดว่าพี่วินจะไม่พอใจ น้องกานต์ก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“รอตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่ไปเอาจักรยานแป๊บ”

พาหนะลดโลกร้อนสองล้อมือสองขี่มาเทียบใกล้คนซ้อนหน้าใส ณัฐธีร์ยิ้มหวาน รพีกานต์รับกระเป๋าสะพายกีตาร์โปร่งหลุดจำนำมาถือให้พร้อมขึ้นนั่งซ้อนหลัง ณัฐธีร์แวะซื้อลูกชิ้นปิ้ง น้ำหวานกับขนมให้คนเป็นน้องไว้กินเล่น รถจักรยานสองล้อแล่นไปตามถนนด้วยหัวใจพองฟูของคนปั่นแต่หัวใจคนซ้อนกลับลีบแฟบพิกล ทั้งที่สายตาหลายคู่ต่างมองมาที่ทั้งคู่อย่างอิจฉาแกมชื่นชม เพราะณัฐธีร์เองก็จัดว่าหน้าตาดีและฮอตในหมู่สาว ๆ หนุ่ม ๆ ไม่น้อย ทั้งเรียนเก่ง ใจดี แถมไม่เจ้าชู้ สาว ๆ เลยยิ่งปลื้มหนัก แต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนอกสนใจคนไหนจนรพีกานต์ปรากฏตัว

“ตรงนี้เลย”

ณัฐธีร์จอดจักรยานในสวนที่นิสิตชอบมานั่งเล่น หรือออกกำลังกายกันตอนเย็น ๆ ร่างสูงกุลีกุจอปูเสื่อให้นั่ง มือหนารับแก้วน้ำจากมือบางมาดูด แย่งลูกชิ้นน้องกิน สำราญใจแล้วจึงเริ่มเกากีตาร์เบา ๆ บรรยากาศยามเย็นแดดร่มลมตกกำลังสบาย รพีกานต์เอนกายลงนอนมองฟ้า มีเสียงกีตาร์สบาย ๆ คอยดูแลอยู่ข้างๆ

“พี่ณัฐ พี่ณัฐว่าระหว่างคนที่ดีกับคนที่รัก พี่ณัฐจะเลือกคนไหน”

รพีกานต์ผินหน้ามาถามคำถามพี่ชาย

“พี่เลือกคนที่พี่รัก”

ณัฐธีร์ตอบอย่างไม่ลังเล มือหนาวางกีตาร์ลงก่อนจะเอี้ยวตัวหันไปทำบางอย่างหยุกหยิก คนแสนดีเฉลยความสงสัยด้วยแหวนถักดอกหญ้าวงเล็กที่บรรจงสวมเข้านิ้วเรียวของรพีกานต์

“ตอนนี้พี่ให้กานต์ได้แค่นี้ กานต์รอพี่นะ เรียนจบมีงานทำแล้วพี่จะซื้อแหวนวงที่ดีกว่านี้ให้กานต์”

ณัฐธีร์กุมมือบาง สายตาแน่วแน่มั่นคงสบดวงตางามแสดงให้เห็นถึงถ้อยคำมั่น รพีกานต์น้ำตารื้นจนภาพพี่ชายพร่าเบลอไปหมด หัวใจคนเปลี่ยนสั่นไหว ที่อยากจะพูดก็พูดไม่ออกเหมือนมีก้อนอะไรแล่นมาจุกอยู่ที่คอ ที่อยากจะบอกกับพี่ชายก็กลายเป็นไม่กล้า ไม่กล้าทำให้พี่ชายเสียใจ เพราะรู้ดีว่าตนเองคือดวงตะวันเพียงดวงเดียวในใจพี่ชายตลอดมา รพีกานต์ไม่กล้าพอที่จะหักดิบดับแสงสว่างเพียงดวงเดียวในชีวิตของณัฐธีร์ หยดน้ำตาร่วงเผาะลงบนแหวนดอกหญ้า ไม่มีคำพูดใดจากปากรพีกานต์ มีเพียงรอยยิ้มเคล้าหยาดน้ำตาของน้องน้อย

ติ๊ง

เสียงข้อความไลน์ดังแทรก รพีกานต์ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดูก่อนจะตาโตรีบเข้ารหัสเครื่องเปิดอ่านข้อความข้างใน รูปรพีกานต์กำลังนอนมองฟ้าเมื่อครู่คือภาพที่อัครวินท์ส่งมาให้ ใบหน้าขาวกวาดสายตามองหาโดยรอบกลับไม่พบตัวคนส่งภาพแต่อย่างใด

“กานต์มองหาอะไรหรือ”

ณัฐธีร์ถามอย่างสงสัยพลางกวาดสายตามองตามไปด้วย

“ไม่มีอะไรครับ พอดีมีคนแกล้งกานต์”

รพีกานต์บอกปัดด้วยหัวใจเต้นกระหน่ำ

“แล้วกานต์หิวยัง อยากกินอะไรดี ไปร้านเดิมไหม”

ณัฐธีร์ถามหน้าซื่อ รพีกานต์เพียงพยักหน้าตอบรับ สองร่างลุกขึ้นเก็บของ ณัฐธีร์พาสองล้อออกตัวแล่นไปข้างหน้า ทว่าคนซ้อนไม่วายหันกลับมาเหลียวหาคนแอบถ่ายรูปส่งให้



กับข้าวสามอย่างยกมาเสิร์ฟควันฉุยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ณัฐธีร์ตักชิ้นเนื้อปลาของโปรดให้น้องน้อยอย่างรู้ใจ รพีกานต์เอ่ยขอบคุณพร้อมตักผัดเห็ดให้พี่บ้าง ความเอาใจใส่ของณัฐธีร์ไม่เคยพร่องลง มีแต่เพิ่มขึ้น พอ ๆ กับหัวใจรพีกานต์ที่หวั่นไหวให้ใครอีกคนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

“พี่วิน!”

เสียงแผ่วหลุดอุทาน รพีกานต์ตัวชาดิก หัวใจหวิวเมื่อร่างสูงใหญ่ที่เดินผ่านไปทิ้งตัวลงนั่งหันหน้ามาทางรพีกานต์ในโต๊ะถัดไป อัครวินท์สบตากับเจ้าของนัยน์ตาหวานแวบหนึ่งก่อนมองเมินผ่านไปเหมือนคนไม่รู้จักกันขณะหันไปคุยกับเพื่อนเด็กบริหารฯด้วยกัน รพีกานต์หน้าชาเหมือนถูกตีแสกหน้า ขอบตาร้อนผ่าว ดวงตาหม่นหลุบลงมองจานข้าวซ่อนอาการใจเสีย

“เห็ดเข็มทองผัดเนยของโปรดกานต์อร่อยมากเลย”

ณัฐธีร์ตักเมนูโปรดวางลงจานน้องน้อยอย่างเอาใจ รพีกานต์เอ่ยขอบคุณเสียงแผ่วพยายามเก็บซ่อนอาการสั่นไม่ให้ใครเห็น มือตักข้าวเข้าปาก สายตาสั่นไหวลอบมองอีกฝ่ายที่แสดงท่าทีเมินเฉยชัดเจน

“พี่วินโกรธกานต์หรือครับ กานต์ไม่รู้ว่ากานต์ต้องทำยังไงจริง ๆ”

ข้อความไลน์ถูกส่งไปให้ อัครวินท์เพียงแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตวัดสายตามองคนส่งแวบหนึ่ง ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วหันไปสนใจเพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันต่อ


 :hao3:  o18

วินเอ้ย เรตติ้งแกดีจริง ๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เกลียดอีพวกรู้ดีเวลาจีบหญิงอ่ะ เกลียดมากๆ คิดว่าช่ำชองนักเหรอห๊า!!
สงสารพี่ณัฐ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
นึกถึงเพลงนี้เลย  " รักทำไมให้เจ็บให้ช้ำ รักทำไมกับคนไม่ดี คนดีๆทำไมไม่รัก " สงสารจริงๆ ทำไมคนเราชอบคนเลว ก็คงเพราะคนเลวชอบเอาใจและหลอกล่อเราเหมือนกับวินที่ขยันมีลูกล่อลูกชน ขณะที่ณัฐดูธรรมดา ทั้งที่ณัฐทั้งดีทั้งจริงใจ สงสารกานต์จริงๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
วินนี่ไม่ใช่พระเอกใช่ไหม?  เลวเกินค่ะ

ออฟไลน์ athena_tiew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เสน่หานี้ จะไม่ช้ำซ้ำสองใช่ไหมคะ 
ที่วินคิดร้ายกับกานต์เพราะเห็นว่าน้องสาวทำท่าจะหลงกานต์ใช่หรือเปล่า 
คงไม่ใช่เพราะรู้ว่ากานต์เป็นลูกพ่อรพินทร์นะ 
เพราะถ้าวินจะไม่ชอบเพศที่สาม ก็ไม่น่าจะเจาะจงแค่กานต์คนเดียว 
 นอกจากน้องกานต์ กับพี่ณัฐ เราว่าพ่อรพินทร์ ต้องเจ็บมากกว่าใครแน่ ถ้ารู้ว่าวินเป็นลูกใคร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 00:26:25 โดย athena_tiew »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
บทเรียนราคาแพงของกานต์กำลังดำเนินไปตามทางของมัน เพราะคนๆเดียว ไอ้วิน
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ คนๆเดียวที่ชื่อ ไอ้วิน มันจะทำร้ายใจใครบ้าง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ติดตามค่ะ หวังว่าไม่เจอมุกลูกเรียกร้องหาพ่อกับถูกชักจูงง่ายนะคะ

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดตามค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ตอนที่๑๐


รพีกานต์ปั้นหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนถูกเมิน ขอบตาร้อนผ่าว ลำคอตีบตันพาลกลืนอะไรไม่ลงเอาเสียดื้อ ๆ จนณัฐธีร์ผิดสังเกต

“กานต์ปวดท้องหรือครับ”

“เปล่าครับ กานต์อิ่มแล้ว”

รพีกานต์รวบช้อนหยิบทิชชู่ซับปาก รู้สึกผิดที่กินเหลือเพราะปกติพ่อรพินทร์สอนเสมอเรื่องอย่ากินทิ้งกินขว้าง แต่ตอนนี้กลืนไม่ลงจริง ๆ

“เดี๋ยวนั่งรอพี่กินหมดก่อนนะ เสียดายกับข้าว แล้วกานต์อยากกินขนมไหม ร้านนี้บัวลอยสามกษัตริย์ของโปรดของกานต์ขึ้นชื่อมากเลยนะ เอาไหมครับ เดี๋ยวพี่บอกเขาใส่ถุงกลับไปกินที่ห้อง เผื่อกานต์นึกหิว”

ณัฐธีร์ถามอย่างอาทรเอาใจ วันนี้น้องน้อยกินข้าวเหมือนแมวดมจนน่าห่วง รพีกานต์ส่ายหน้ามุมปากยกยิ้มอ่อน ณัฐธีร์เสียดายข้าวที่แทบไม่พร่องจึงยกจานข้าวของน้องมากินต่อ จังหวะเดียวกับที่อัครวินท์หันมาเห็นพอดี สายตานิ่งอ่านไม่ออกส่งตรงมาที่ร่างเล็กราวกับเจ้าตัวเป็นเด็กที่กำลังทำผิดนักหนา อารามน้อยใจทำให้รพีกานต์ไม่หลบสายตาอีกฝ่ายแถมจ้องตากลับนิ่ง ๆ เช่นกันก่อนบ่ายหน้าหนีเสียอย่างนั้น อัครวินท์คิ้วกระตุกกับการถูกเมินจากกระต่ายดื้อเงียบ

“ว้าว ร้านนี้ให้กุ้งตัวใหญ่ดีแฮะ กานต์ลองชิมดูซี”

ณัฐธีร์ลองมุกหลอกล่อตักกุ้งจ่อตรงปาก

“พี่ณัฐ”

แก้มขาวขึ้นริ้วสีเรื่อ รพีกานต์รีบแตะมือพี่ชายเป็นเชิงให้ลดมือลง อย่างไรเสียก็ไม่อยากให้ประเจิดประเจ้อมากนัก น้องน้อยไม่อยากให้พี่ชายเสียความตั้งใจจึงจับช้อนในมือณัฐธีร์ส่งกุ้งเข้าปาก

“คิดถึงกุ้งแม่น้ำที่บ้านเลยเนอะ กุ้งเผาสะเดาลวกน้ำปลาหวานฝีมือพ่อรพินทร์อร่อยเหาะ แล้วน้ำพริกเผากุ้งแห้งสูตรโบราณที่พ่อรพินทร์โขลกใส่กระปุกให้พี่มานะ อื้อหือ พวกเพื่อน ๆ ของพี่มันชอบกันใหญ่ เอาใส่มาม่า ทากับขนมปัง คลุกกับข้าวก็อร่อย”

ณัฐธีร์ทำท่าน้ำลายสอติดตลก เห็นน้องน้อยท่าทีเซื่องซึมจึงอยากทำให้ยิ้ม และก็ได้ผลเมื่อมุมปากเรียวจุดประกายยิ้ม จนลักยิ้มสองข้างแก้มบุ๋มลงอย่างน่ารัก ณัฐธีร์อดที่จะยื่นมือไปบีบแก้มนิ่มไม่ได้

“อี๋ พี่ณัฐมือสกปรก แกล้งกานต์

“ฮ่า ๆ ๆ คราวนี้จะฟ้องใคร หลวงตาไม่อยู่ที่นี่เสียด้วย ฮึ ๆ”

ณัฐธีร์ลอยหน้าลอยตาเย้า รพีกานต์ย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้

“เอ ทำไมพี่ถึงหยอกกานต์เล่นน้า”

ณัฐธีร์ทิ้งปริศนาให้คิดตามก่อนจะโน้มหน้ามากระซิบใกล้ ๆ

“รักดอกถึงหยอกเล่นไง”

 พ่อหนุ่มวิศวะหยอดคำหวานก่อนจะยักคิ้วให้คนอ้าปากพะงาบ ๆ เสียงหัวเราะระเบิดออกจากคนเป็นพี่ที่ชนะน็อคใส ๆ ภาพหยอกเอินตรงหน้าแผดเผาสายตาคนมองจนร้อนระอุ อัครวินท์เผลอกำหมัดแน่นขบกรามกรอด นึกอยากลุกจากโต๊ะไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายตั๊นหน้าสักหลาย ๆ หมัด สายตาวาวมองสองร่างที่จ่ายเงินแล้วพากันออกจากร้านไป รพีกานต์สบตากับเขาแวบหนึ่งตอนผุดลุกจากเก้าอี้ก่อนจะผินหน้าไป ทำทีไม่สนใจเขาอีก

...หนอยแน่ กล้าเมินคนอย่างอัครวินท์อย่างนั้นหรือ...

“มึงจีบถึงไหนแล้ววะเชี่ยวิน กูเห็นแฟนเขาประกบแจ ไร้น้ำยาแล้วหรือมึงน่ะ พี่ณัฐแฟนเขาก็ฮอตเอาเรื่องอยู่นะเว้ย นอกจากความรวยที่สู้มึงไม่ได้ อย่างอื่นนี่สาว ๆ ปลื้มกันใหญ่ ทั้งเรียนเก่ง ทั้งกิจกรรม แถมนิสัยดีไม่เจ้าชู้แบบมึง”

อัครวินท์คิ้วกระตุกเมื่อถูกสัพยอกลูบคมเข้าให้

“มึงไม่เคยได้ยินหรือวะ ผู้หญิงชอบคนเลว รพีกานต์ก็ไม่มีข้อยกเว้นหรอกเว้ย”

อัครวินท์ว่าอย่างมั่นอกมั่นใจ แม้จะหัวเสียนิดหน่อยที่ณัฐธีร์ไม่มีข้อเสียอะไรเลยนอกจากฐานะทางการเงิน

“มั่นใจในหนังหน้าและคารมว่างั้น นี่ก็ใกล้ลอยกระทงละ เมื่อไหร่มึงจะได้เผด็จศึก”

“ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม อยากจะได้เมียเขามันก็ต้องเร้าใจหน่อยสิวะ มึงคอยดูแล้วกัน”

อัครวินท์ยกยิ้มกระหยิ่ม ยิ่งยากยิ่งนึกสนุก ยิ่งรพีกานต์ทำเมินใส่ แถมมีณัฐธีร์คอยเอาใจก็ยิ่งท้าทายให้อยากกระชากออกจากอก
บรรยากาศยามค่ำคืนดาษดื่นไปด้วยรถราของเหล่านิสิตวิ่งสวนไปมาขวักไขว่ ณัฐธีร์เลี้ยวรถลัดเลาะมาตามเส้นทางที่รถบางตา สายลมพัดพายอ่อน ๆ เย็นสบาย รพีกานต์พิงศีรษะกับแผ่นหลังกว้างที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยเสมอ ณัฐธีร์ปั่นช้า ๆ ร้องเพลงคลอให้น้องน้อยฟังไปด้วยอย่างอิ่มเอม รพีกานต์ฟังเสียงร้องเพลงของพี่ชายแต่หัวใจไพล่คิดถึงคนที่เพิ่งเจอในร้านข้าว รอยกังวลปรากฏบนดวงหน้าน่ารักอย่างคนจนแล้วซึ่งทางออก ใจกระหวัดไพล่ไปหาพ่อรพินทร์ อยากกลับไปนอนหนุนตักพ่อเหลือเหลือเกิน

...พ่อจ๋า กานต์ควรทำยังไง...

“ลอยกระทงปีนี้ มอเราจัดงานด้วยนะ กานต์อยากลอยกระทงสระน้ำในมอ หรือกลับไปลอยที่ท่าน้ำหลังบ้านดี ครับ”

ณัฐธีร์ถามพลางแอ่นหน้ารับลมเย็น ๆ รพีกานต์อยากลอยกระทงที่ไหน ตัวเขาก็พร้อมไปลอยด้วยอยู่แล้ว ร่างเล็กดันตัวตั้งตรงตอบคำถาม

“กานต์อยากลอยที่...”

คำพูดชะงักค้างเมื่อหัวใจดันเผลอไพล่คิดถึงใบหน้าของใครอีกคน

“กลับบ้านก็ได้ครับ กานต์อยากไปลอยกับพ่อด้วย วันศุกร์กานต์มีเรียนถึงเที่ยง”

“ถ้าอย่างนั้นเรียนเสร็จแวะกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับเนอะ กานต์จะได้นั่งรถกลับสบาย ๆ ไม่ต้องหิ้วท้องหิวมาก”

ณัฐธีร์คิดถึงรพีกานต์ก่อนตัวเองเสมอ นัดแนะเสร็จสรรพคนเป็นพี่ฉีกยิ้มแก้มแทบแตก ต่างจากคนน้องที่แค่นยิ้มยากเย็นแทบเอาคีมง้าง ศีรษะทุยพิงซบแผ่นหลังอุ่นอีกหน มือล้วงโทรศัพท์ขึ้นดูแต่ก็ยังเงียบฉี่ไร้วี่แวว ในใจอึดอัดหนักอึ้ง หรืออัครวินท์จะรามือเพียงเท่านี้

“คนใจร้าย”



โครงเหล็กสี่ล้อสัญชาติยุโรปแล่นออกจากกรุงเทพเกือบบ่าย สารถีรูปหล่อประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัยพาตุ๊กตาหน้ารถหนุ่มหน้าใสกลับบ้านไปลอยกระทงกับครอบครัว รพีกานต์เปิดเพลงฟังเบา ๆ ขณะมือเล่นโทรศัพท์เช็กความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล หลายวันแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวอัครวินท์เลยนับแต่เจอกันที่ร้านอาหารวันนั้น คนที่มาเย้าหยอกให้รพีกานต์หวั่นไหวแล้วก็หายตัวจ้อยเข้ากลีบเมฆอย่างไร้ร่องรอย ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี ไม่มีความเคลื่อนไหวจากผู้ชายชอบสังคมคนนั้นเลย ทั้งที่ก็มีเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊กเข้ามาโพสต์ชวนไปลอยกระทงอยู่เนือง ๆ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด

“หายไปไหนนะ หรือจะไปลอยกระทงกับใคร”

รพีกานต์คิดในใจเงียบ ๆ แนวฟันขาวขบลงกลีบปากล่าง ความฟุ้งซ่านตีรวนในอก

“พี่วินจะถอดใจแล้วจริง ๆ หรือครับ ไหนบอกว่ารักบอกว่ารอได้ จะถอดใจยอมง่าย ๆ แค่นี้เองหรือ”

รพีกานต์พึมพำ ศีรษะเอนพิงกระจกอย่างเหงาหงอย

“กานต์ง่วงหรือครับ ปรับเบาะลงนอนไหม เดี๋ยวถึงแล้วพี่จะปลุก”

ณัฐธีร์ยิ้มอ่อนโยนตีความไปว่าน้องน้อยหนังท้องตึงหนังตาคงเริ่มหย่อน รพีกานต์ยิ้มบางให้พี่ชาย สายตาส่องดูความเคลื่อนไหวใครบางคนอีกนิดหน่อยก่อนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าปิดตาลงอย่างอดน้อยใจลึก ๆ ไม่ได้




“พ่อจ๋าคิดถึง”

เสียงนุ่มร้องอ้อนขณะเปิดประตูลงจากรถแล่นถลาไปหาผู้เป็นบิดา รพินทร์กำลังนั่งง่วนอยู่กับนิยายเรื่องใหม่ตรงศาลานั่งเล่นสไตล์โคโลเนียลในสวน ใบหน้าขาวนวลดูมีเสน่ห์แม้ล่วงเลยวัยหนุ่มละสายตาขึ้นยิ้มให้บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่รีบจ้ำพรวดเข้ามากอดเอวหมับซบหน้าออดอ้อน

“มาถึงก็อ้อนเชียว ณัฐมาเหนื่อย ๆ ดื่มน้ำฝนโรยมะลิเย็น ๆ ก่อนนะ”

รพินทร์รับไหว้ณัฐธีร์ที่เดินตามมานั่งทีหลัง ก่อนเอ่ยปากเชื้อเชิญให้ดื่มน้ำท่าที่เจ้าตัวเตรียมไว้ให้ตอนลูกชายโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว รพินทร์ลูบศีรษะทุยเอาใจลูกชายก่อนเอื้อมตัวเปิดฝาชีอวดขนมที่เตรียมไว้รอท่าลูกกลับ

“พ่อมีขนมไทยของโปรดไว้ให้กานต์กับณัฐด้วยนา”

“โอ้โห ขนมจ่ามงกุฎของไทยแท้ดั้งเดิมสมัยรัชกาลที่สอง ขนมดาราทอง เสน่ห์จันทร์ บุหลันดั้นเมฆ ช่อม่วงอัญชันก็มี พ่อทำเองหมดนี่เลยหรือครับ”

รพีกานต์ตาโตกับขนมไทยแต่ละอย่างที่หาทานได้ยากและใช้ความประณีตในการทำมาก

“พ่อทำจ่ามงกุฎ กับดาราทองน่ะ นอกนั้นคุณธุเอามาฝาก เผอิญว่าแวะมาไหว้พระเก้าวัดกับคุณจะเด็ดแฟนเขา เลยเอาขนมของที่ร้านมาฝาก ฝีมือคุณธุเชียวนา ออร์เดอร์ยาวเป็นหางว่าว”

รพินทร์บอกลูกชายที่หยิบดาราทองส่งเข้าปากอย่างถูกอกถูกใจ
   
“อื้ม อร่อยทั้งคู่ มีความสุขจัง”

รพีกานต์ทำหน้าเคลิบเคลิ้ม มือซนยื่นขนมจ่อปากคนเป็นพี่ก่อนวกกลับเข้าปากตัวเองเคี้ยวตุ้ย ๆ ลอยหน้าลอยตา ณัฐธีร์มันเขี้ยวคาดโทษตัวแสบพลางส่งขนมเข้าปากเคี้ยวหยับ ๆ สายตาจ้องมองตัวป่วนไม่วางตา รพินทร์มองลูกชายหยิบขนมกินอย่างมีความสุข ก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

“อ้อ เดี๋ยวณัฐแวะไปหาหลวงตาที่วัดอย่าเอาลืมนี่ไปด้วยนะ พ่อแบ่งไว้ให้ณัฐเอาไปถวายหลวงตาท่านแล้ว”

รพินทร์เลื่อนกล่องใส่ขนมให้ ณัฐธีร์ประนมมือไหว้พลางหันมาถามตัวแสบ

“แล้วตกลงจะทำกระทงเอง หรือจะซื้อมาลอย”

“ทำเองดีกว่า พี่ณัฐซื้อต้นกล้วยฐานกระทงเข้ามานะ เดี๋ยวกานต์จะเก็บดอกไม้รอ”

“ได้ ๆ แล้วเดี๋ยวไปเที่ยวงานวัดกัน คุณรพินทร์ไปด้วยกันนะครับ”

ณัฐรับคำหันมาชวนบุพการีของน้องน้อยเพราะคุณรพินทร์ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนสักเท่าไหร่

“พ่อไปเถอะ ชวนพี่รุตบ้านข้าง ๆ นี่ไปเที่ยวด้วยกัน เที่ยวหลาย ๆ คนสนุกออก”

รพีกานต์เขย่ามือผู้เป็นบิดาชวนเผื่อไปยังเพื่อนบ้านเรือนเคียง รพินทร์พยักหน้ารับ ณัฐธีร์ขอตัวแวะไปหาหลวงตาที่วัด ส่วนรพีกานต์ก็กุลีกุจอไปหาเก็บดอกไม้มาเตรียมทำกระทง


ณัฐธีร์แวะมาตอนประมาณสี่โมงเย็นพร้อมต้นกล้วยในมือสำหรับกระทงสามใบ ของเขากับกานต์ใบเดียวลอยด้วยกันจะได้ไม่ต้องกังวลกระทงจะหลงกัน อีกสองใบเป็นของคุณรพินทร์และเพื่อนบ้าน มาถึงรพีกานต์เก็บดอกไม้สอยใบตองคอยท่าไว้แล้ว สองศรีพี่น้องช่วยกันทำกระทงสามใบง่วน คุณรพินทร์แยกไปเตรียมมื้อเย็นรอ ประดิษฐ์กระทงเสร็จแยกกันไปอาบน้ำก่อนมารวมกันอีกครั้งบนโต๊ะอาหารพร้อมวิศรุตอีกคนที่รพินทร์ชวนมา รับประทานมื้อเย็นกันเรียบร้อยจึงถือกระทงเดินไปลอยที่ท่าน้ำหลังบ้านรพินทร์ที่ทำเป็นศาลานั่งเล่นสไตล์โคโลเนียลรับลมเย็น ๆ มองวิวแม่น้ำ

“กานต์อธิษฐานพร้อมพี่เลยนะ”

ณัฐธีร์จับกระทงใบเดียวกับน้องน้อยยกขึ้นอธิษฐาน กระทงใบงามล่องผ่านกระแสน้ำเปลวเทียนส่องสว่างจ้า ณัฐธีร์ยิ้มย่อง นึกคิดเอาเองว่าชีวิตรักของเขาและรพีกานต์จะสว่างไสวเฉกเช่นเปลวไฟ

วูบ

ยิ้มได้ไม่ทันไรก็กลายเป็นยิ้มค้างฝันสลายเมื่อสายลมพัดวูบเทียนดับพรึบต่อหน้าต่อตา ณัฐธีร์ใจหายวูบอย่างบอกไม่ถูก

“ลมแรง เลยพัดเทียนดับ”

รพินทร์เปรยขึ้นพลางหย่อนกระทงของตนเองลงแม่น้ำบ้าง วิศรุตปล่อยกระทงลงเคียงกัน กระทงสองใบล่องลอยเคียงคู่ราวคู่รักเกี้ยวพาเคียงข้างร่วมทางไปด้วยกัน วิศรุตยกยิ้มอิ่มเอมขณะปรายตาหนุ่มรุ่นพี่ข้างกาย

“ไปเที่ยวงานกันต่อเถอะครับ”

รพีกานต์หันชวนพี่ชาย ทั้งหมดหันหลังตรงไปที่รถ คล้อยหลังเพียงครู่กระทงของรพินทร์และวิศรุตก็หักมุมแยกกันคนละทาง
บรรยากาศงานลอยกระทงในวัดละแวกบ้านคึกคักครึกครื้น ผู้คนคลาคล่ำดาหน้าไปเที่ยวงาน รถราแล่นสวนกันขวักไขว่หนาตากว่าปกติ ภายในงานไม่พ้นชิงช้าสวรรค์ ตักไข่ปลาเสี่ยงโชคกิจกรรมร่วมทำบุญนำเงินเข้าวัด ร้านรวงออกงานจำพวกปาเป้า ยิงปืนเจาะลูกโป่งแลกตุ๊กตา ร้านขายของกินจำพวกลูกชิ้นปิ้งทอด น้ำอัดลม ไข่ปิ้ง สายไหม ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านขายกระทงมีตั้งแต่หน้าวัดเรียงรายไปยันใกล้ท่าน้ำหลังวัด รพีกานต์ถือสายไหมในมือแต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก เมื่อครู่อัครวินท์เพิ่งโพสต์ภาพกระทงใบสวยลงบนโซเชียลพร้อมแคปชัน ‘with someone’ โดยไม่ระบุตัวบุคคลและสถานที่ มีคนเข้าไปกระหน่ำไลค์พร้อมถามหาบุคคลผู้โชคดีกันขรม รพีกานต์มือสั่น  หัวใจคนรอข่าวคราวมาหลายวันกระตุกไหวกระวนกระวายคล้ายจับไข้

“พี่วินไปลอยกระทงกับใครกันนะ”

สีหน้ารพีกานต์ไม่ใคร่แช่มชื่นนัก หัวใจวูบโหวงคล้ายหล่นหาย มฤคน้อยต้องบ่วงสวาทของนายพรานมือฉมัง หัวใจก็ยากจะหลุดพ้น เท้าเดินไปตามแต่ณัฐธีร์จะพาไป แต่หัวใจกลับไพล่พะวงหาแต่อีกคน

“กานต์ดูไม่สนุกเลย เหนื่อยหรือครับคนดี”

ณัฐธีร์เอ่ยถามหลังทั้งคู่ลงจากชิงช้าสวรรค์แล้ว พี่ชายพาน้องน้อยมายืนคอยปลาหมึกบดจึงได้เอ่ยปากถาม

“คนเยอะเดินเบียดกัน กานต์เวียนหัวน่ะครับ”

รพีกานต์บอกเสียงอ่อย รู้สึกไม่ดีนักที่ทำให้คนอื่นพลอยหมดสนุกไปด้วย แต่ตอนนี้ถ้าให้ยิ้มคงได้แค่แสร้งทำ

“ถ้าอย่างนั้นซื้อหมึกบดเสร็จแล้ว เรากลับกันไหม กานต์จะได้พักผ่อน วันนี้ทั้งวันแล้วนี่เนอะ ลิงน้อยถ่านคงใกล้หมดเต็มที”

รพินทร์เย้าลูกชายอย่างเอ็นดู ปกติเคยเซื่องซึมอย่างนี้เสียที่ไหน ได้มาเที่ยวอย่างนี้ขี้คร้านจะชอบแกล้งพี่ณัฐให้วุ่นวาย

“อยู่ต่ออีกนิดก็ได้ครับ พ่อกับพี่รุตจะได้เที่ยวนาน ๆ หน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่ชวนมาด้วยนี่ก็สนุกแล้วละครับ”

วิศรุตยิ้มละไมให้คนลูกเผื่อแผ่ไปถึงคนพ่อ สนุกเพราะได้เดินกับคุณรพินทร์นี่ละ

“โอเค งั้นกลับกันเถอะ พรุ่งนี้วันเสาร์ น้องกานต์อยู่กับพ่อได้อีกวัน”

ตกลงกันเรียบร้อยขบวนพลก็เคลื่อนไปที่จอดรถ สามคนกลับบ้านเพราะณัฐธีร์อยู่ค้างที่วัด
รพีกานต์กลับมาถึงบ้านก็แยกย้ายกับพ่อเข้าห้องอาบน้ำก่อนนอนอีกหน ร่างโปร่งทิ้งตัวปุคว่ำลงบนเตียง มือฉวยโทรศัพท์มากดดูความเคลื่อนไหวของใครบางคนแต่ก็ไม่เห็นอัครวินท์จะโพสต์อะไรอีก ใบหน้าใสห่อเหี่ยวระบายลมหายใจพรูเดินไปพิงกรอบหน้าต่างแหงนหน้ามองพระจันทร์หงอย ๆ

“คนใจร้าย”

ตัดพ้อกับพระจันทร์ไปเรื่อย นึกภาพกระทงใบสวย คนถือคงเดินเคียงข้างไปลอยกับใคร กระต่ายน้อยเลยได้แต่แหงนคอหงอยคอยมองพระจันทร์

ติ๊ง

เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ทีแรกรพีกานต์คิดว่าเป็นข้อความจากณัฐธีร์จึงไม่ได้กระดิกกระเดี้ยขยับตัวหันมาดู ‘พี่ชายจ๋า หัวใจน้องน้อยไม่รักดี มันคอยพะวงหาแต่คนใจร้าย และน้องเองก็ใจร้ายกับพี่ต่อ’

ติ๊ง

เสียงข้อความที่สองตามมาไม่นานนัก รพี่กานต์ไม่อยากให้คนส่งข้อความต้องรอคอยเหมือนตนเองจึงหันมาหยิบโทรศัพท์หวังตอบข้อความกลับ แต่ก็ต้องตาเบิกโตเมื่อเห็นชื่อคนส่งข้อความมา พร้อมรูปกระทงที่เห็นโพสต์ลงโซเชียลเมื่อตอนค่ำ

‘อุตส่าห์พายเรือย่องมาหาที่ท่า คนแสนงอนปล่อยเราเดียวดายจนถูกยุงรุม’

ข้อความตัดพ้อส่งมาให้เหมือนน้อยอกน้อยใจเสียเต็มประดา รพีกานต์ถือโทรศัพท์มือสั่นเงอะงะจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะตั้งสติได้ กดพิมพ์ข้อความส่งกลับไป

‘พี่วินอยู่ที่ไหนครับ’

‘ท่าน้ำหลังบ้านใครไม่รู้ ยุงชุ้มชุม ดุเหมือนเจ้าของบ้าน กัดพี่เจ๊บเจ็บ’

“พี่วินมาที่นี่”

รพีกานต์ตกตะลึงนิ่งไปก่อนจะขยับขาก้าวออกจากห้องลงจากบ้านตรงไปที่ท่าน้ำ

“พี่วิน...มายังไงครับ”

รพีกานต์ไม่อยากคิดว่าตัวเองตาฝาด เบื้องหน้าตรงศาลาใกล้ท่าน้ำคือร่างสูงใหญ่ของคนที่หายหน้าหายตาไปหลายวันจนรพีกานต์เฝ้าพะวงถึงไม่เป็นอันทำอะไร เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในโซเชียลก็ไม่เห็นข่าว บทจะโผล่มาให้เห็นหน้า อิเหนารูปงามก็มาแบบไม่บอกกล่าว

“พี่พายเรือมา ยืมของโฮมเสตย์น่ะ เหนือบ้านกานต์ขึ้นไปเปิดโฮมเสตย์ริมแม่น้ำบรรยากาศดี พี่จองห้องไว้พร้อมสั่งเขาทำกระทงให้ด้วย แล้วก็ขอยืมเรือพายมาเซอร์ไพรส์ชวนใครบางคนลอยกระทงด้วยกัน”

อัครวินท์ฉีกแก้มขยับเข้ามาใกล้จนกายชิดอีกฝ่าย สายตาเสน่หาลึกซึ้งทอดมองดวงหน้านวลไม่วางตา รพีกานต์แก้มร้อนเห่อกับสายตาคมกริบฉายความนัยชัดเจนแต่ก็ไม่ได้ขยับหนี ใบหน้าใสก้มงุดซ่อนความอายระคนดีใจเป็นนักหนา

“ดีใจไหมครับที่เจอพี่ คิดถึงพี่ไหม พี่คิดถึงกานต์ทุกวันเลยนะ”

เสียงทุ้มนุ่มกระซิบถาม รพีกานต์แก้มร้อนจัดเมื่อลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดหน้าผากบ่งบอกว่าอิเหนาของรพีกานต์อยู่ใกล้มากแค่ไหน หัวใจเต้นกระหน่ำ น้ำเสียงนุ่มส่งเสียงถามออกไปทั้งไม่กล้าเงยหน้า

“พี่วินปากหวาน รู้ได้ยังไง ว่ากานต์อยู่ที่นี่”

“น้องสาวของพี่เป็นเพื่อนของกานต์นะครับ แล้วอีกอย่างกานต์ยังจำได้ด้วยหรือครับว่า...ปากพี่น่ะหวานแค่ไหน”

อัครวินท์กระเซ้า สายตาเจ้าชู้หลุบมองลูกไก่ในกำมือตรงหน้า จมูกโด่งคลอเคลียสูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ใกล้พวงแก้มใสอย่างจงใจให้ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดผิวแก้มรื้อฟื้นความทรงจำครั้งก่อน รพีกานต์แย้งไม่ออก รสจูบร้อนแรงยังซ่านติดลิ้นทุกวันนี้ ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งอายตัวเอง

“พี่คิดถึงกานต์จะแย่ แต่ก็ต้องอุบไว้ เดี๋ยวจะไม่เซอร์ไพรส์”

มืออุ่นจับมือบางยกขึ้นจรดริมฝีปากจูบ รพีกานต์อ่อนทั้งกายและใจให้คนตรงหน้าอย่างไร้ข้อกังขา

“พี่วินไม่โกรธกานต์เรื่องพี่ณัฐแล้วหรือครับ”

“ใจจริงพี่อยากให้กานต์เคลียร์นะ แต่พี่จะให้เวลากานต์ก็แล้วกัน ขอโทษที่พี่เผลอหึงงี่เง่าไปหน่อย ตอนนี้อย่าพูดเรื่องคนอื่นเลย มาพูดเรื่องของเราดีกว่า ลอยกระทงกับพี่นะครับคนดี”

อัครวินท์ตะล่อมเสียงนุ่ม รพีกานต์พยักหน้าหงึกยินยอมให้อีกฝ่ายจูงมือไปนั่งยอง ๆ ตรงท่าน้ำ

“กานต์ประคองกระทงขึ้นอธิษฐานสิครับ”

อัครวินท์บอกหลังจากจุดไฟติดเทียนจนส่องสว่าง รพีกานต์ทำตามอย่างว่าง่าย มือเรียวประคองกระทงขึ้น อัครวินท์ที่รอจังหวะอยู่แล้วรีบประคองมือซ้อนมือของอีกคน สายตาเจ้าชู้ส่งให้อย่างไม่ปิดบัง กลายเป็นรพีกานต์ที่อายม้วนตัวแทบระเบิดจะหลบทางไหนก็ไม่พ้น

“พี่วินจ้องกานต์แบบนี้ เดี๋ยวเทียนละลายหมด กานต์ก็คงไม่ได้อธิษฐาน”

รพีกานต์บอกเสียงอู้อี้ เขินเต็มกำลัง

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะหลับตา แล้วอธิษฐานถึงกานต์”

พูดพลางปิดเปลือกตาลงอย่างปากว่า รพีกานต์มองใบหน้าหล่อเหลาท่ามกลางแสงเทียนอย่างหลงใหลก่อนได้สติรีบหลับตาอธิษฐานบ้าง อัครวินท์ลืมตาขึ้นก่อนพลางจ้องมองดวงหน้านวลต้องแสงเทียนสว่าง ปากคอคิ้วคางรับกันทั้งเครื่องหน้าโดยปราศจากเครื่องสำอางติดผิวหน้าแม้แต่น้อย แต่ก็ยังนวลผ่องน่ามองอย่างไม่รู้เบื่อ รพีกานต์ลืมตาขึ้นสบสายตาคมที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว ตาจ้องตา หัวใจเปิดประตูให้อีกฝ่ายก้าวเข้ามาข้างในอย่างเต็มใจ

“ลอยกระทงกันเถอะ ลอยกระทงใบเดียวกัน กานต์จะได้ไม่ห่างไปจากพี่”

อัครวินท์กระชับมือบางประคองกระทงหย่อนลงน้ำ กระทงใบสวยล่องลอยไปตามสายธารา เปลวเทียนส่องสว่างท่ามกลางกระแสลมพัดไหว

“อ๊ะ เทียนดับ”

รพีกานต์อุทานอย่างหวั่นใจ เมื่อหัวค่ำกระทงใบที่ลอยกับณัฐธีร์เทียนดับยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่พอเป็นอัครวินท์หัวใจก็พลันหล่นไปตาตุ่ม เปลวไฟสว่างไสวลู่ตามลมจนเกือบมอดดับก่อนจะเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นอีกครั้งให้คนมองใจชื้น รพีกานต์มองกระทงที่ตนเองและอัครวินท์ปล่อยลงขอขมาพระแม่คงคาด้วยหัวใจที่อิ่มเอมก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจมูกโด่งกดฟอดลงที่พวงแก้มนุ่ม

ฟอด

“แก้มใสหอมจัง นุ่มด้วย”

อัครวินท์โปรยยิ้มเสน่ห์มองคนเอามือกุมแก้มหน้าแดงแปร๊ด

“พี่วิน!”

   
แปะ

   
“อูย ตรงนี้ยุงชุมจัง พี่แพ้ยุง แต่อยากคุยกับกานต์ต่ออีกหน่อยให้สมกับที่คิดถึง ขึ้นไปคุยที่ห้องได้ไหม ยุงกัดเดี๋ยวเป็นไข้เลือดออก น่ากลัวนะ”

ยังไม่ทันที่รพีกานต์จะโวยวาย อัครวินท์ก็ตบยุงเปาะแปะทำท่าเกาคะเยอเบี่ยงเบนความสนใจเสียก่อน ใบหน้าหล่อเหลาออดอ้อนพาใจคนมองอ่อนยวบ รพีกานต์เหมือนคนต้องมนตร์ไปเสียแล้ว ยามนี้อัครวินท์ขออะไรร่างเล็กก็ไม่ขัด

“ครับ ๆ งั้นเราย้ายไปคุยที่ห้องกานต์ก่อนก็ได้ พี่วินท์จะได้ทาคาลาไมน์ด้วย”

อารามห่วงเขา แค่ได้ยินว่าอัครวินท์แพ้ยุง รพีกานต์พยักหน้าหงึกนำอีกฝ่ายขึ้นไปที่ห้องอย่างไม่ทันระแวดระวัง เสือหนุ่มยิ้มย่องถือตะเกียงเจ้าพายุเดินตามอีกฝ่ายไป สายตาลามเลียมองก้นงอนขยับยักย้ายตามจังหวะการเดิน รพีกานต์แขนขาเรียวเอวคอดอย่างคนไม่มีกล้ามแถมผิวพรรณขาวเนียนเปล่งปลั่งไม่ต่างจากผู้หญิง สังเกตดูบ้านพักอาศัยก็พอจะรู้ได้เลา ๆ ว่าฐานะดีไม่หยอก คงจะถูกเลี้ยงมาแบบไม่เคยลำบาก ถึงได้ผิวพรรณดีนัก นึกถึงณัฐธีร์ที่ตามก้อร่อก้อติกรพีกานต์แล้วก็อดแค่นยิ้มหยันไม่ได้

...ดอกฟ้ากับหมาวัดชัด ๆ...

“ห้องกานต์หอมจัง”

อัครวินท์ชมเปาะสายตากวาดมองทั่วห้อง ห้องรพีกานต์สะอาดสะอ้าน ข้าวของจัดเรียงเป็นระเบียบ หอมกลิ่นอ่อน ๆ ของบุหงารำไปช่วยให้ผ่อนคลาย อัครวินท์นั่งปุลงบนเตียงก่อนใช้ความเจ้าเล่ห์เกี่ยวเอวเล็กนั่งทับบนตัก

ฟอด

“แก้มกานต์ ตัวกานต์หอมกว่าเยอะเลย”

ปากหวานมือไว ฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเนียนลื่น

“พี่วิน กะ กานต์จะรินน้ำให้ดื่ม ปล่อยกานต์ก่อนนะครับ”

รพีกานต์ดิ้นขลุกขลัก พยายามแกะมือปลาหมึกที่รัดเอวไม่ปล่อย ใบหน้าเบี่ยงหนีปลายจมูกโด่งที่คอยซุกไซ้

“พี่อยากกินน้ำบ่อน้อยต่างหาก”

“อื้อ!” 

ริมฝีปากร้อนผ่าวบดเบียดกลีบปากนุ่ม รพีกานต์อ่อนยวบแพ้ชั้นเชิงอีกฝ่าย ปลายลิ้นร้อนเซาะเข้าฉกชิมรสหวานฉ่ำข้างในอย่างช่ำชอง ฝ่ามือร้อนลูบไล้เรือนกายเนียนนุ่มทั่วร่าง รพีกานต์ร้อนวูบวาบเหมือนกระแสไฟแล่นผ่านทั่วตัว มือเล็กเผลอขยำเสื้ออีกฝ่ายแน่น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความไม่เคย อัครวินทร์ดูดดุนเกี่ยวรัดลิ้นเล็กอย่างกระหาย รพีกานต์ทำให้เขาลืมความเป็นชายของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง รู้แต่ว่าความไร้เดียงสานี้ช่างหอมหวานนัก หวานไปทั้งตัวจนอยากจะกลืนกินให้หมด มือร้อนสอดลงในกางเกงนอนตัวบางปลุกปั่นความต้องการตามธรรมชาติของอีกฝ่าย

“กานต์น่ารักมาก”

อัครวินท์ถอนจูบออกกระซิบชิดกลีบปากแดงเจ่อ รพีกานต์อ่อนระทวยในอ้อมแขน ดวงตาฉ่ำคลอ หัวใจเต้นกระหน่ำหอบแฮก อัครวินท์รั้งร่างบางลงแนบเตียงพลางขึ้นคร่อมจ้องมองดวงหน้าหวาน

“พี่รักกานต์นะครับ”

เสียงทุ้มพร่ำบอกด้วยถ้อยกระซิบหวาน อัครวินท์พรมจูบแผ่วเบาอย่างถนอม สายตาคมปลาบจ้องลึกเข้าไปในดวงตากวางอย่างเสน่หาราวกับจะสะกดให้อยู่ในอาณัติ รพีกานต์อ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งถูกลนด้วยเปลวไฟ ไฟแห่งราคะร้อนแรงที่ลนเผาหัวใจและร่างกายให้โอนอ่อนยอมตกเป็นของเขาแต่โดยง่าย หลงลืมหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง ความสุขแสนหวานดำเนินไปตามครรลองปรารถนาอย่างสุดจะต้านทาน

“อาห์ พี่วิน กานต์ กานต์ก็รักพี่วินนะครับ”


 :hao7: :katai5:


เรียบร้อยโรงเรียนอัครวินท์ เราเดินเรื่องค่อนข้างเร็วนะคะ บางช่วงลากช้าบ้าง มือสมัครเล่นโนะ อย่าถือสา แฮ่
จริง ๆ วินไม่ได้เกลียดเพศที่สามมากหรอก วินเกลียดแค่พ่อกับรพินทร์ สังเกตว่าเพื่อนวินก็เสือไบ มันเป็นอารมณ์หมั่นไส้ อยากแกล้ง อยากเอาชนะน่ะ เห็นคนอื่นมีความสุขแล้วอยากทำลาย คือว่าด้วยเรื่องอารมณ์ล้วน ๆ วินไม่ใช่คนมีเหตุผลอะไร เห็นได้จากการเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่รังแกฉันในสังคมน่ะแหละ นี่คือสิ่งที่เราใส่ให้ในตัววิน กานต์เองก็โตในสิ่งแวดล้อมอีกอย่าง ณัฐก็อีกอย่าง(เด็กวัดแถวบ้าน ตอนเด็กมีแต่คนดูถูก เดี๋ยวนี้น้องได้ดี คนก็ชื่นชม) เราเขียนจากการสังเกตพฤติกรรมรอบด้าน แล้วจับทุกตัวละครมาเจอกัน

ขอบคุณสำหรับทุกคน สำหรับทุกคอมเมนต์นะคะ อ่านแล้วมีความสุข ด่าอีวินตามสบาย เราเองก็หมั่นไส้มัน

เราแนบรูปขนมไทย ๆ ที่น้องกานต์กินมาให้ดูกันด้วย มีขนมจ่ามงกุฎของแท้ดั้งเดิมร.๒ ขนมดาราทอง(คิดขึ้นสมัยจอมพลป.) และมงกุฎเพชร เพิ่งคิดขึ้นฉลองเนื่องในวาระใดนี่ล่ะ หาดูเพิ่มเติมในอากู๋นะ

รักคนอ่านจ้า :katai2-1:


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สงสารน้องหนู
เตรียมตัวให้พร้อม มาม่าชามโตกำลังมา
 :a5:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เข้ามาส่องทุกวันเลยค่ะแต่ยังไม่กล้าอ่าน รอเลยระยะทำใจได้ก่อน 555555

ออฟไลน์ VICTORY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 787
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
กานใจง่ายไปนะจ้ะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นณัฐ
คนดีมักจะได้เป็นพระรองเสมอ :hao5:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ทำไมไม่มีใครสอนคนสวยๆอย่างน้องว่าให้ระวังไอ้เสือพวกนี้ห๊าาา อยากมุดไปกระชากน้องแล้วตีก้นแรงๆ แล้วขังไว้เพื่อสั่งสอน 

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
อ่านตอนนี้แล้วแบบ ความรักเหมือนโคถึก พิขังไว้ จริงๆ ยิ่งอ่านตอนย่อหน้าสุดท้ายยิ่งชัดเจนเลย โดยธรรมชาติอารมณ์ไฟราคะในตัวผู้ชายปลุกง่ายขึ้นง่ายอยู่แล้ว ถ้ามีแต่ไฟราคะอย่างเดียวทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ม่เท่าไหร่ นี่เล่นเอาอารมณ์ความรักไปผสมด้วย นี่ลุ้นเลยคับว่าตอนต่อไปกานต์จะเป็นยังไง รอ รอ รออ่านตอนต่อไปนะคับ 

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
ความรักเหมือนโรคา     บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล          อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก    กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป   บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้           ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง          บ หวนคิดถึงเจ็บกาย

"มัทนะพาธา" มีความหมายว่า ความเจ็บปวดและความเดือดร้อนเพราะความรัก
 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด