เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}  (อ่าน 154303 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
บอกเลยปู่อยู่ฝั่งหลาน

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
มันต้องแบบนี้!!! o13

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
มันต้องอย่างงี้ดัดนิสัยสะเลย

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
สะใจดีจัง  โดนซะมั่ง

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ติดตามๆ :กอด1:

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ๒๔
“ตัดบัวอย่าเหลือใย ตัดใจอย่าเหลือรัก”

 
“จะหักอื่นหมื่นแสนแม้นหักได้    หากหักใจไร้สวาทยากหนักหนา
มิเคยลืมเลือนรักสลักอุรา    ยากเพี้ยงว่าถ้าหักได้ใจขาดรอน”
-มญชุ์สิตางศุ์-

ทางแยกย่อยจากถนนสายหลักโรยด้วยหินคลุกทอดตัวไปสู่ท้ายไร่เขียวขจี รพีกานต์เหลือบสายตาแลอาณาเขตที่ดินที่บิดาซื้อเก็บไว้ปล่อยเช่าด้วยความนิยมชมชอบ พ่อรพินทร์เป็นนักเลงที่ดิน ชอบหาซื้อที่สวย ๆ เก็บไว้ปล่อยเช่า ด้วยคุณปู่กับคุณย่าเป็นผู้ดีเก่าที่มีฐานะร่ำรวยมั่งคั่งเป็นทุกเดิมอยู่แล้ว มรดกที่ตกทอดมาให้พ่อรพินทร์จึงมีไม่น้อย แถมบิดาของรพีกานต์ยังรู้จักต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่ให้เฟื่องฟูกว่าเก่า ครอบครัวจึงมีกินมีใช้ไม่ได้อนาทรร้อนใจอันใด และถึงจะมีกิน รพีกานต์ก็ถูกเลี้ยงมาแบบไม่ให้เป็นคนสุรุ่ยสุร่าย เด็กชายจึงรู้จักหาและเก็บออมมาตั้งแต่เด็ก และคาดว่าในอนาคตนิสัยมัธยัสถ์นี้จะถูกถ่ายทอดไปยังเจ้าสามแฝดเข้าด้วย

รถตู้หยุดกึกจอดลงหน้าบ้านไม้สไตล์ล้านนาซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแมกไม้เขียวขจี รพีกานต์เปิดประตูรถออกมายลบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่เต็มตาก็ตกหลุมรักในมนตร์เสน่ห์ที่รังสรรค์ออกมาได้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างเข้ากัน โดยเฉพาะรั้วบ้านที่มีต้นดาวนายร้อยกำลังเลื้อยเตาะแตะไต่ขึ้นบนรั้ว ดอกเล็กสีแดงสดน่ารักน่าชัง คนท้องสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นเข้าเต็ม ๆ ปอดขณะกวาดสายตามองภูเขา ต้นไม้โดยรอบ ที่นี่เหมาะนักสำหรับการพักฟื้นรักษาอาการป่วยของพ่อรพินทร์ และซ่อนเร้นอำพรางสามแฝดจากความวุ่นวายภายนอก ด้วยพื้นที่รอบตัวบ้านกั้นรั้วสูงแยกส่วนจากพื้นที่ให้เช่า จึงหายห่วงเรื่องจะมีใครมายุ่มย่ามรบกวน

“พี่ไทน์เป็นคนออกแบบให้เชียวนะ กานต์ชอบไหมลูก พอพ่อรู้ว่ากานต์จะมีน้อง คิด ๆ ดูแล้ว พากานต์มาหลบอยู่กับธรรมชาติคงดีกว่า จะได้ปลอดโปร่งทั้งกายทั้งใจ หลานพ่อคลอดมาแกจะได้เป็นเด็กอารมณ์ดี” รพินทร์ลูบศีรษะทุยแผ่วเบาขณะเงยหน้ามองบ้านหลังงามฝีมือออกแบบของสถาปนิกวาเลนไทน์ที่รู้จักมักจี่กันมาแต่นานนม รพินทร์คิดทุกอย่างฉับไวนับแต่รู้เรื่อง ต่อให้ป่วยอยู่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเตรียมสิ่งดี ๆ ไว้ให้ลูกและหลานในอนาคต

“ชอบครับพ่อ กานต์ชอบมากเลย พี่ไทน์ออกแบบสวยมาก เสียดายไม่ได้เจอกันที่มหา’ลัย พี่ไทน์เรียนจบออกไปเสียก่อน” รพีกานต์ยิ้มสดชื่นเมื่อเห็นที่พำนักใหม่ นึกถึงเพื่อนรุ่นพี่วัยเด็กที่เคยเล่นซนด้วยกัน พี่ไทน์ใจดียอมให้น้องกานต์ขี่หลัง ส่วนพี่ริสาแก่นเซี้ยวชอบพาน้องเข้าป่าเข้าดงลุยพงหญ้าหาจับด้วงกว่างมาเล่น สุดท้ายโดนฤทธิ์ตำแยคันคะเยอทั้งตัว เกาจนหนังแทบถลอก น้ำหูน้ำตาไหลเป็นเผาเต่า นึกแล้วก็ให้ยิ้มขำ เห็นกันผ่าน ๆ ทางเฟซบุ๊ก หลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอตัวเป็น ๆ ไม่รู้พวกพี่ ๆ จะเป็นยังไงกันบ้าง

“เข้าไปดูข้างในบ้านกันก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยแวะไปเยี่ยม ถ้าโชคดีพี่ไทน์กับแฟนยังไม่กลับกรุงเทพฯ ก็คงได้คุยกัน” รพินทร์รุนหลังลูกเข้าบ้าน นั่งรถมานาน ๆ เพลียอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นบ้านน้อยแล้วก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง

“เอ๋ พ่อเคยเจอแฟนพี่ไทน์แล้วหรือครับ สวยไหมครับพ่อ” รพีกานต์ตาวาวหูผึ่ง นึกอยากเห็นหน้าคนรักของพี่ชายคนรู้จักขึ้นมาครามครัน

“สวยน่ะไม่สวยหรอก แต่หล่อมาก ๆ หล่อแบบเห็นแล้วตะลึงใจเต้นโครมครามเชียวละ ไม่รู้จะบรรยายยังไงถูก รู้แต่ว่าตั้งแต่เห็นคนหล่อมา คนนี้หล่อสุดแล้ว กานต์ต้องเห็นเองน่ะลูก เดือนบริหารฯ ของกานต์เทียบไม่ติดฝุ่น” รพินทร์พาดพิงถึงอัครวินท์แบบไม่เอ่ยชื่อให้ลูกแสลงใจ แต่ยอมรับว่าความหล่อของคุณภีมพริษฐ์นั้นติดตาจนเขาเองแอบใจสั่นไม่น้อย เอาแล้วไหมละ จะเสียคนตอนแก่

“หล่อ ? แฟนพี่ไทน์เป็นผู้ชายหรือครับ ไม่น่าเชื่อ พี่ไทน์เนี่ยนะเป็นเกย์ ไม่มีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายเลยนะครับ” รพีกานต์เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหู ด้วยเจ้าตัวเคยเห็นพี่วาเลนไทน์ถักเดตร็อก นั่งดวดเหล้ากับคนงานในไร่ของบิดาตัวเองเมื่อก่อน แถมยังเป็นขาแว้นขี่มอเตอร์ไซค์หอบดอกไม้จากไร่ไปจีบสาวอีกต่างหาก

“ของแบบนี้ อะไรมันก็ไม่แน่หรอกลูก แฟนพี่ไทน์เขาก็ไม่ได้รักชอบผู้ชายมาก่อนเหมือนกัน ไม่รู้ไปสะดุดตาอะไรกันเข้า พ่อกับแม่พี่ไทน์เลยได้ลูกเขยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันกับเหมืองเพชรไป ไม่นับบริษัทในเครืออื่น ๆ อีก”

“โห ขนาดนั้นเลยหรือครับ งั้นก็รวยมาก ๆ เลยสิอย่างนี้”

“ก็รวยกว่าพ่อของสามแฝดน่ะลูก รวยด้วยฝีมือตัวเองด้วย แถมหล่อกว่า แต่ดูเป็นคนติดดินนะ ชอบอาหารกับวัฒนธรรมท้องถิ่น พี่ไทน์พากินอยู่แบบไหนก็ตามนั้น ไม่เรื่องมาก คุณพ่อกับคุณแม่พี่ไทน์เลยยิ่งชอบใจ”

“พ่อพูดเสียกานต์อยากเจอเลย แล้วพี่ริสาล่ะครับ”

“พี่ริสายังไร้วี่แววอยู่เลย คุณโสมเตียรถ์ก็เปรยขำ ๆ อยู่ว่า ลูกชายพาลูกเขยเข้าบ้าน แต่ลูกสาวเนื้อคู่ยังเงียบฉี่ ว่าแล้วก็ฮาครืนกันไป รายนั้นสายตลกกันทั้งครอบครัว แถมพ่อแม่หัวสมัยใหม่ ลูกชายรักชอบพอกับผู้ชายด้วยกันก็ยังไม่มีใครว่า”

“ไม่มีก็ยังดีกว่ามีแล้วเจอคนไม่ดีนะครับพ่อ อยู่คนเดียวสบายกว่าเป็นไหน ๆ” รพีกานต์เอ่ยพลางลูบท้องนูนน้อย ๆ แผ่วเบาสะท้อนในอก ชีวิตวัยสิบแปดปีที่ควรจะเริ่มต้นด้วยความสดใสในรั้วมหาวิทยาลัย กลับกลายเป็นต้องบากหน้าอุ้มท้องเริ่มต้นเป็นคุณแม่มือใหม่ จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง

“กานต์ พ่อจะบอกให้ฟังไว้นะลูก อะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามาในชีวิตเรา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันคือบทเรียนให้เราเรียนรู้ คือบททดสอบ เป็นข้อสอบปลายเปิดที่กานต์จะได้รับผลตามที่กานต์เลือก คนเราต้องเรียนรู้ไปทั้งชีวิตจนกว่าจะตายนั่นแหละ”

“ครับพ่อ ตอนนี้กานต์ทำใจกับพี่วินในระดับหนึ่งแล้ว ตั้งแต่มีลูก กานต์คิดอะไรได้เยอะ ความรักถ่ายทอดไปให้ลูก กานต์เลยไม่ฟุ้งซ่านกับพี่วินเท่าเมื่อก่อน ที่ตัดใจมาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็ววันหรอกครับ เดี๋ยวพี่วินก็หมดความอดทนกับกานต์ไปเอง คนอย่างพี่วินเบื่อง่าย ไม่มีความอดทนอะไรได้นานหรอกครับ” รพีกานต์เอ่ยแบบปลงตกแม้ภายในจะยอกแปลบ รสรักหวามเมื่อคืนยังอุ่นติดผิวเนื้อแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึก แม้จะกลั้นใจสะบั้นรักจากมาก็ใช่ว่าจะหักอกหักใจได้โดยง่าย เพราะรักแรกมันซึมลึกยึดพื้นที่ในใจมากมายเหลือเกิน

“กานต์...” รอยกังวลปรากฏบนใบหน้าผู้เป็นบิดาเมื่อเห็นบุตรชายเซื่องซึมลงทันตา รพีกานต์ยังรักอัครวินท์อยู่มากและยังปวดร้าวอยู่ลึก ๆ แม้จะเป็นฝ่ายหันหลังจากมาเอง

“กานต์ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเยียวยานานแค่ไหน กานต์ถึงจะไม่ทุรนทุรายคิดถึง แล้วก็ทำใจยอมรับเรื่องไม่มีพี่วินอีกแล้วครับพ่อ กานต์ยังรักพี่วินอยู่มากเหลือเกิน ถ้าไม่มีลูก กานต์คงใจอ่อนยอมให้พี่วินอีก” รพีกานต์สารภาพตามตรงน้ำเสียงสั่นเครือ กระบอกตาร้อนผ่าว หยดน้ำใสกลิ้งลงผิวแก้มร่วงผล็อย รพินทร์รั้งลูกเข้ามากอดแนบกายพลางลูบแผ่นหลังสั่นระริกปลอบแผ่วเบา ใช้ไออุ่นความรักที่มีทั้งหมดกางปกป้องหัวใจของลูก เขารู้ดี ความรักใช่ว่าจะตัดใจกันได้ง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ฟูมฟายเสียมากมายในวันที่สูญเสียอินทัชไป

“คิดถึงลูกเข้าไว้นะกานต์นะ เลี้ยงพวกแกให้ดี ๆ โตขึ้นจะได้ไม่ทำนิสัยเกเรกับใคร หรือถ้ากานต์อยากเรียนต่อ พ่อจะดูแลลูกให้เอง กานต์อยากเรียนในไทย หรือไปเรียนเมืองนอกก็ได้ เรียนช้ากว่าเพื่อนปีสองปีก็ลองคิดถึงคนที่ซิ่ว กว่าจะได้ที่เรียนถูกใจ บางคนตั้งหลายปี ไม่เป็นไรนะลูกนะ คนเรามีพลาดกันได้”

“พี่วินจะรู้บ้างไหม ว่าการกระทำของตัวเอง มันทำร้ายใครบ้าง”
รพินทร์กระชับอ้อมกอดรับแรงไหวสะอื้นน้อย ๆ ที่ซุกลงบนบ่า รองรับหยาดน้ำเปียกชุ่มเสื้อที่กลั่นออกมาจากหัวใจที่แสนร้าวรานของลูก สายลมระเรื่อยแตะผ่านผิวกายแผ่วเบา รพินทร์กระซิบบอกลูกอ่อนโยน

“ร้องไห้ให้เท่ากับที่กานต์เสียใจ พรุ่งนี้ วันต่อ ๆ ไป มันจะต้องดีขึ้น พ่ออยากให้กานต์คิดถึงแต่สิ่งดี ๆ นะ กานต์คิดอะไร ลูกในท้องเขารับรู้ได้หมด ชีวิตเราต้องก้าวไปข้างหน้า ถ้ากานต์จะมองย้อนกลับไปข้างหลัง ก็ให้มองว่ามันคือบทเรียนที่ผ่านมาแล้ว อย่าผิดซ้ำ”

“ครับพ่อ กานต์สัญญา พรุ่งนี้จะต้องเข็มแข็งกว่าวันนี้” รพีกานต์กระชับกอดอุ่น รักแท้ยืนอยู่ตรงหน้านี้ รพีกานต์สัมผัสและเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องไขว่คว้า ร่างสั่นสะอื้นทำใจอยู่ครู่จึงคลายวงแขนออกจากบิดา มือเรียวกรีดเช็ดน้ำตาตัวเอง สูดหายใจลึกเข้าปอด ทิ้งรักลวงไว้ข้างหลัง

“ดีมาก งั้นเราขึ้นไปดูห้องข้างบนกัน นี่พ่อไปเดินดูของตกแต่งมาจากถนนนิมมานกับพี่ไทน์ คิดว่ากานต์น่าจะชอบ แต่ละชิ้นพ่อเลือกเป็นของแฮนด์เมดสวย ๆ ทั้งนั้นเลย” รพินทร์กุลีกุจอเบี่ยงประเด็นให้ลูกหายเศร้า

“โธ่ พ่อป่วยอยู่แท้ ๆ ยังประคองตัวเองทำนั่นทำนี่ให้กานต์ไม่หยุด”

“เอาน่า แค่พ่อนึกภาพว่ากานต์ของพ่อจะดีใจ แล้วถ้ากานต์ดีใจ สามแฝดก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย เท่านี้พ่อก็มีความสุข ไม่คิดถึงเรื่องป่วยแล้วลูก” รพีกานต์ฉีกยิ้มได้อีกครั้งจากคำพูดของบุพการี สองคนยิ้มให้กันพลางเดินขึ้นไปชมห้องข้างบน

“ด้านหลังมีลำธารน้ำใสน่าลงเล่นจังครับ” รพีกานต์เอ่ยขึ้นขณะยืนรับลมอยู่ระเบียงหลังบ้าน สายตามองไปยังลำธารที่มีน้ำไหลมาจากภูเขา

“ถ้ากานต์จะไปเล่นก็เดินระวัง ๆ นะลูก เผื่อสะดุดหิน จะลื่นล้มเอาได้” รพินทร์เอ่ยสำทับ รู้ว่าบุตรชายชอบน้ำ สมัยเด็กก็โดดน้ำคลองตูม ๆ ทุกวัน ทุกทีมีพี่ณัฐคอยดูแลไม่ห่าง เที่ยวนี้พี่ณัฐติดธุระจะตามมาทีหลัง รพินทร์จึงนึกห่วงลูกขึ้นมา

“กานต์จะระวังครับ” เจ้าตัวบอกพลางเดินลงจากบ้านตรงไปลำธารอย่างสนใจ รพีกานต์เดินด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ  ค่อย ๆ หย่อนปลายเท้าลงแช่ความเย็นฉ่ำของสายน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากป่าต้นน้ำบนภูเขา เสียงกอไผ่สีสุกริมตลิ่งเสียดสีดังเอียดอาด  แมลงไพรกรีดเสียงลั่นประชันกันก้องป่า ลมเย็น ๆ พัดมาไม่ขาดระยะ รพีกานต์แหงนหน้าแกว่งเท้าเล่นสบายอุราดื่มด่ำกับธรรมชาตินฤมิต

ปลายเท้าเรียวสะดุดกึกกับดอกไม้ที่ลอยมาตามน้ำ รพีกานต์เข้าใจว่าคงเป็นดอกไม้ที่ต้นขึ้นอยู่ริมน้ำ ดอกจึงได้ร่วงโปรยลงน้ำลอยมา แต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง กลีบดอกไม้ลอยน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นกลีบกุหลาบราวกับมีใครเด็ดกลีบโปรยลงสายน้ำมา คิ้วเรียวขมวดด้วยความสงสัย แล้วความซุกซนเล็ก ๆ ก็ผุดขึ้นในหัว รพีกานต์ผุดยิ้มค่อย ๆ พยุงกายลุกขึ้นเดินทวนน้ำตามกลีบกุหลาบนั้นไป

สายตาใคร่รู้ชะเง้อเหลียวหาต้นตอที่มาของกลีบดอกไม้ลอยน้ำ ตอนเด็กเคยทำกระทงกลัดใบตองใส่ดอกไม้ลอยน้ำเล่นกับพี่ณัฐ บ้างนั่งหย่อนเท้าแกว่งเล่นบนสะพานลิดกลีบดอกไม้ทีละกลีบโปรยลงน้ำทำนายทายเรื่องที่อยากรู้ บางทีก็เอามายีทาหน้าพี่ณัฐเล่น หรือที่ครีเอตกว่านั้นก็จับพี่ณัฐโปะแป้งขาววอก ยีดอกคุณนายตื่นสายทาสองแก้มแดงแจ๋ เอากระดาษแผ่นยาวแตะน้ำลายแปะหน้าผากติ๊ต่างว่าเป็นยันต์ สุดท้ายพี่ณัฐกลายเป็นผีดิบจีนกระโดดหย็องแหย็งไล่กวดน้องกานต์ หัวเราะกันไปสนุกสนาน

“เห็นลำธารแล้วคิดถึงพี่ณัฐแฮะ น่าชวนมานั่งบนโขดหิน แช่เท้าในน้ำอ่านหนังสือไปด้วย พี่ณัฐต้องชอบมากแน่ ๆ” รอยยิ้มแย้มพรายนึกถึงพี่ชายคนดี เพราะผูกพันกันมายาวนานเกินกว่าจะตัดขาด ท้ายที่สุดพี่ณัฐก็ยังคงยินดีดูแลเคียงข้างไม่หายไปไหน เราร้องหาคนรักดี ๆ แต่พอคนดีที่ว่าเข้ามาให้รัก หัวใจก็ดันเกเรไปรักคนที่ไม่ควร ความรักช่างเป็นสิ่งละเอียดอ่อนและซับซ้อนอย่างที่รพีกานต์ไม่ค่อยเข้าใจนัก
เสียงน้ำไหลคละเคล้ากับเสียงนกร้องช่วยกล่อมเกลาจิตใจไม่น้อย กลีบดอกไม้ยังลอยละล่องมาตามสายน้ำ ยิ่งเดินตามขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งใกล้จะสุดเขตที่ดินของพ่อ กระนั้นรพีกานต์ก็ยังได้ยินเสียงแปลก ๆ เมื่อเงี่ยหูฟังจับน้ำเสียงนั้นดี ๆ ก็เดาว่าน่าจะเป็นเสียงของม้า

“ม้า ? แถวนี้มีม้าด้วยหรือ” รพีกานต์พึมพำชะเง้อมอง ตอนนี้เดินมาสุดเขตไร่ของพ่อแล้ว อาชาไนยสีเทากำลังกวัดแกว่งหางอยู่ไม่ไกลจากริมลำธาร ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างสนอกสนใจก่อนตวัดสายตาเหลือบไปประสานกับใครคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโขดหินเหนือขึ้นไป ในมือคนผู้นั้นมีดอกหญ้าเล็ก ๆ กำหนึ่ง

“เอ่อ...” ดวงตากระพริบปริบ ๆ ต่างฝ่ายต่างมองกันแต่ไม่มีใครเริ่มปริปาก เด็กหนุ่มหน้าตาดีมาก ตาคมคิ้วเข้มมองคนตัวเล็กหน้าใส ภายในใจนึกตรองว่าผู้ชายหรือทอม ที่แปลกใจคงเป็นในมือขาวมีดอกไม้ที่เขาลอยมันลงน้ำไปนั่นแหละ กุหลาบบานหนึ่งดอก ดอกตูมสองดอกมัดรวมเป็นช่อเล็ก ความหมายของรักที่แอบซ่อนเอาไว้ บัดนี้มันตกไปอยู่ในมือคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“คุณกานต์ คุณกานต์อยู่ไหนครับ คุณท่านเรียกหา” เสียงลุงคนดูแลบ้านร้องเรียก รพีกานต์ชะงักหันรีหันขวาง ดวงตากลมโตประสานสายตากับใครอีกคนแวบหนึ่งก่อนตัดสินใจหันกลับ ไม่วายละล้าละลังเหลือบกลับมามองอีกหน เสียงม้าร้องฮี่ ๆ ร่างสูงของใครคนนั้นนั่งอยู่บนหลังม้าสีเทาแล้ว สายตาที่มองมาเฉยเมยเหมือนไม่ยินยลต่อโลก ก่อนกระตุกเชือกควบม้าจากไป รพีกานต์มองแผ่นหลังตรงแน่วก่อนผินกลับมา พลางออกตัวเดินกลับที่พักของตัวเองบ้าง

เมนูแรกในบ้านหลังน้อยคือข้าวห่อใบบัว รพีกานต์อมยิ้ม เมื่อตอนขึ้นจากลำธารเห็นกอบัวขึ้นอยู่ริมลำธารกอหนึ่ง เมนูตรงหน้าคงมาจากบัวกอนั้น เห็นพ่อเตรียมของแห้ง พวกกะปิเอย พริกแห้งเอย กระเทียม กุ้งแห้งใส่โหลเรียงใส่ลังมาด้วยประสาคนชอบทำอาหารก็อดอมยิ้มไม่ได้ รพีกานต์กวาดมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความชอบใจ ตะเกียงแก้วเจียระไนจากฝรั่งเศสส่งแสงสว่างนวลอยู่กลางโต๊ะ ระเบียงนอกตัวบ้านพ่อรพินทร์ติดไฟหิ่งห้อยแถวราวระเบียงดูสวยระยิบระยับ โรแมนติกอย่างกับมาพักรีสอร์ต บรรยากาศสุดอิ่มเอม ดินเนอร์ท่ามกลางแสงเทียนเคล้าเสียงน้ำไหลจากลำธารใต้หมู่ดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้าปลอดโปร่ง เสียงจักจั่นแมลงกลางคืนกรีดเสียงเซ็งแซ่บรรเลงบทเพลงแห่งพงไพร พาใจสงบจากความวุ่นวายที่ปลีกตัวออกมา

“โรแมนติกจังครับ กานต์ชอบที่นี่จัง” ร่างเล็กทิ้งร่างลงนั่งพลางวางศีรษะซบไหล่บิดา มือขาวกอดเอวออดอ้อนเฉกเช่นวัยเยาว์ในวันวาน

“ถ้ากานต์ชอบ เราอยู่เลี้ยงสามแฝดที่นี่ก็ไม่เลวนะ พ่อชอบอากาศที่นี่เหมือนกัน เดี๋ยวเราเริ่มปลูกผักสวนครัวเล็ก ๆ ไว้กินเอง ส่วนโรงงานที่บ้านพ่อคุยกับอาเล็กแล้ว พ่อค่อยบินไปดูเดือนละครั้ง สองเดือนครั้งก็ไม่มีปัญหาหรอก”

“อ้ออีกอย่าง บ้านนั้นเขาออกตามหากานต์กันจ้าละหวั่นเลยละ” รพินทร์บอกลูกตามที่ได้รับข่าวมาจากน้องชาย

“ช่างเขาเถอะครับพ่อ ยังไงกานต์ก็ไม่ยกลูกให้พี่วินหรอก ทางนั้นเขาอยากได้หลาน แต่ไม่ได้อยากได้ตัวกานต์เสียหน่อย” ใบหน้าใสสลดวูบ

“ใครไม่อยากได้ก็ช่างเขาซี ก็แค่คนอื่น กานต์ของพ่อ พ่อรักออกปานนี้ คนอื่นช่างปะไร”

“ขอบคุณครับพ่อ” รพีกานต์ค่อยยิ้มออก ที่ระหกระเหินกันมาถึงนี่ก็เพราะบิดาอยากปกป้องเขาไม่ใช่หรือ แล้วทำไมจะต้องนึกถึงคนอื่น

“ดีแล้ว เฮ่อ จะว่าไป มีอย่างนึงที่พ่อเสียดาย” รพินทร์ทำหน้าเสียดายจริง ๆ อย่างปากว่า

“อะไรหรือครับ”

“พ่อเสียดายพี่ณัฐ ตอนแรกกะว่าถ้าคบกันยืด สินสอดไม่ต้อง พ่อยกน้องกานต์กับกิจการโรงงานของเราให้ดูแลต่อเลย กิจการของเราขยายตัวต่อไปได้เรื่อย ๆ ถ้าได้พี่ณัฐมาช่วยคงจะดีไม่น้อย”

“กานต์ขอโทษครับ ที่ทำให้พ่อผิดหวัง”

“พ่อไม่ได้ผิดหวัง พ่อแค่เสียดายคนดี ๆ น่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก คนเรามันต้องมีสมใจ ต้องมีเสียดายกันบ้างเป็นธรรมดา มา ๆ กินข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวเย็นชืดแล้วจะไม่อร่อย” รพินทร์ดึงความสนใจลูกมาที่อาหาร ถึงเสียดายก็ได้แต่ทำใจ ตัวเขาเองก็เคยเจอเหตุการณ์ข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้ามาแล้ว ถึงรพีกานต์จะต้องพบเจอความเสียใจ เขาก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งบังคับให้ลูกต้องรักใคร

“แต่ถ้าวันนึงกานต์ได้เจอใครสักคนที่รักโดยยอมรับข้อผิดพลาดของเราได้ละก็ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปนะลูกนะ”



ตีนฟ้ายกอรุณรุ่งย่ำเข้าสู่วันใหม่ ชีวิตในเมืองกรุงยังดำเนินไปด้วยความวุ่นวาย ใครคนหนึ่งกระวนกระวายด้วยปฏิบัติการณ์ดัดนิสัยสายฟ้าแลบ

“สองร้อยครับ” อัครวินท์ยื่นธนบัตรฉบับสีม่วงให้โชเฟอร์แท็กซี่ กำลังจะบอกว่าไม่ต้องทอนก็พลันต้องยั้งปากตัวเองไว้ ชีวิตที่จำกัดจำเขี่ยช่วงนี้ ทำให้ต้องกระเบียดกระเสียรจนเขาแทบจะเป็นบ้าตาย นึกเคืองอยู่หน่อย ๆ ว่าบิดาสั่งลงโทษเขาด้วยวิธีอื่นไม่ได้หรือ คนเคยใช้เงินมือเติบ วันหนึ่ง ๆ ใช้เงินไม่คณามือ เจอแบบนี้เข้าไปแทบกระอัก จะอุทรณ์ก็ไม่มีใครเข้าข้าง ร่างสูงรับเงินทอนแล้วเดินไปกดกริ่งหน้าคฤหาสน์ใหญ่ คนสวนของบ้านเลิกคิ้วด้วยความงุนงงเล็กน้อยที่วันนี้เห็นเพื่อนสนิทของลูกชายเจ้าของบ้านนั่งแท็กซี่มาแทนรถหรูหราของเจ้าตัว

“เชี่ยวินมาไงเนี่ย รถมึงไปไหนหมด” ร่างสูงตระหง่านเดินออกมาดูจากข้างในตัวบ้านอย่างไม่เชื่อสายตานักเมื่อเห็นอัครวินท์มาเยี่ยมหาในสภาพต่างจากทุกที

“มึงอย่าเพิ่งถาม ขอกูเข้าไปตากแอร์ข้างในก่อน แม่ง ร้อนฉิบ” อัครวินท์สบถ มือปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความหงุดหงิด ก่อนจับคอเสื้อเขย่ากระพือลมขณะเดินดุ่ม ๆ แทบจะนำเจ้าของบ้านเข้าไปข้างใน

‘กษิดิศ’ มองเพื่อนสนิทกรอกน้ำเย็นอึก ๆ ลงคอเหมือนเพิ่งหลุดมาจากทะเลทราย เขาไม่เซ้าซี้ถามนอกจากกอดอกนั่งรอเงียบ ๆ ให้เจ้าตัวเป็นฝ่ายเริ่มเปิดปาก สายตาคมกริบมองพิจารณาอัครวินท์ในใจเงียบ ๆ

“แม่ง พ่อดัดนิสัยกู ให้ใช้แค่เดือนละหมื่นห้า แถมยึดกุญแจรถทุกคัน” อัครวินท์เริ่มประเด็นในทันทีหลังหายคอแห้ง

“แล้วมึงไปทำผิดอะไรมา เขาถึงลงโทษ ปู่กับแม่ไม่ช่วยรับหน้าให้อย่างทุกทีหรือมึง” กษิดิศออกแปลกใจไม่น้อยเมื่อฟังที่เกริ่นมา

“ปู่มีแต่จะสนับสนุนพ่อต่างหากละ ส่วนแม่ก็ช่วยไม่ได้ ไม่งั้นพ่อจะเล่นงานแม่ด้วย พ่อกูเวลาเอาจริงขึ้นมาโคตรน่ากลัว”

“แล้วตกลงมึงไปทำอะไรมาวะ”

“มึงยังจำกานต์ได้ไหม กานต์เดือนอักษรฯ ปีหนึ่งที่พวกเราเคยเล่นเกมกันน่ะ”

“จำได้ เด็กคนนั้นรถคว่ำหลังเจอมึงอยู่กับคนอื่นแล้วก็สลัดเขาทิ้งนิ่ม ๆ แล้วยังไงวะ เด็กนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย” กษิดิศยิ่งงุนงงหนักกว่าเก่า เกมในตอนนั้นเขาไม่เห็นด้วยนักและไม่ได้ลงพนันด้วย แต่ก็สังเกตเห็นท่าทีเพื่อนสนิทเปลี่ยนไปเมื่อได้คบกับรพีกานต์

“ก็นั่นแหละ จุดเริ่มต้นมันมาจากเรื่องนั้นน่ะแหละ” แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็เริ่มต้นถ่ายทอดผ่านริมฝีปากของเพลย์บอยหนุ่ม กษิดิศนั่งฟังพลางคิ้วขมวดในบางจุด ต่อเมื่ออัครวินท์เปิดคลิปในโทรศัพท์ให้ดูจึงคลายความแปลกใจลง
 
 :katai5:

วินเอ๋ย สำเหนียกตัวไว้เถอะ ตำนานรักเรื่องใหม่ของกานต์กำลังจะเริ่มแล้ว

 ส่วนกวางน้อยวาเลนไทน์เป็นนายเอกเรื่อง อเวจีเสน่หา นะคะ อยากรู้เขารักกันยังไง จิ้มชื่อเรื่องโล้ด แต่ภาคสองถูกลบไปแล้วล่ะ เราไม่ได้ลงนาน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
โอ๊ะ เป็นเรื่องที่มีจุดเชื่อมกับอเวจีเสน่หาเหรอเนี้ย

คือรู้สึกเนื้อหา การบรรยายต่าง ๆ มันดีขึ้นมากกว่าเรื่องเดิมเยอะเลย

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากอ่าน เรื่องราวความรักใหม่ของกานต์
ชอบๆ รอตอนต่อไปค่ะะ มาเร็วๆนะ

ออฟไลน์ hiwawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
สนุกกกกกก  มารออย่างใจจดใจจ่อ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ตัวแปรโผล่มาแล้ว

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ๒๕

“สรุปตอนนี้มึงก็ต้องยอมก้มหน้ารับชะตากรรมให้พ่อมึงลงโทษสินะ ว่าที่พ่อลูกอ่อน นี่กูกำลังจะได้เป็นอาคนตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยหรือวะ” กษิดิศเอ่ยขึ้นหลังฟังเรื่องราวจนจบ อดจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้เมื่อเห็นสภาพเสือถูกถอดเขี้ยวเล็บ ผจญความลำบากนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ทำเหมือนจะเป็นจะตาย สำหรับคนอื่นอาจเล็กน้อย แต่สำหรับคุณชายที่มีรถโรลส์-รอยซ์ขับไปส่งโรงเรียนตั้งแต่อนุบาล ดูจะหนักหนาไม่ใช่เล่น

“เชี่ยเกรต มึงไม่ต้องมาเยาะเย้ยกูเลย” อัครวินท์ตาขุ่น อาศัยว่าสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาล เวลาเขาออกนอกลู่นอกทางเจ้านี่ก็จะคอยเตือนอยู่ห่าง ๆ มาตลอด ซึ่งอัครวินท์ก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างไปตามความคึกคะนอง แต่เวลาเกิดปัญหากษิดิศก็ได้ชื่อว่าไม่เคยทิ้งเพื่อน เพราะอย่างนั้นอัครวินท์จึงไว้วางใจเพื่อนคนนี้กว่าใคร

“แม่ง กูไม่เคยถูกใครฉีกหน้าอย่างนี้มาก่อนเลยนะเว้ย ตอนกลางคืนยังว่าง่ายยอมให้กอด ตื่นเช้ามาหายต๋อม หอบลูกในท้องย้ายที่อยู่หนีกูเฉยเลย กูนี่งงดิ เหมือนถูกกานต์ฟันแล้วทิ้ง นี่ถ้าวางเงินไว้ตรงโคมไฟหัวเตียงหน่อยนะใช่เลย ดีนะกานต์วางแค่ดอกไม้ไว้ให้ข้างหมอน เชี่ยเกรต อย่าหัวเราะกูดิวะ กูโดนเมียฟันแล้วทิ้งนะเว้ย กูซีเรียส” อัครวินท์หน้าบูดบึ้ง นัยน์ตาขุ่นกว่าเก่าที่คราวนี้เพื่อนรักระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนแทบลงไปกุมท้องตัวงอ ไม่ได้นิ่งฟังนิ่ง ๆ ถนอมน้ำใจกันเช่นทีแรก

“โอ๊ย เชี่ยวิน กูจี้ว่ะ ขอกูขำมึงหน่อยเหอะ ก็ช่างคิดได้นะว่าเมียฟันแล้วทิ้ง กูอยากให้กานต์มาได้ยินกับหูจริง ๆ” ใบหน้านิ่งสง่างามแบบผู้มีชาติกำเนิดดีหลุดการควบคุมเมื่อได้ฟังที่อีกคนเล่า กษิดิศละอยากจะให้รพีกานต์มาได้ยินคำกล่าวหานี้ด้วยตัวเองจริง ๆ อยากรู้ว่าคนตัวเล็กจะทำหน้าแบบไหนตอนได้ยิน ยิ่งคิดก็ยิ่งขำ กษิดิศขำตัวโยน มือกำกำปั้นทุบโซฟาด้วยความบ้าจี้ อัครวินท์เลยปล่อยให้ขำจนพอใจ ไม่วายยกเท้าเตะขาเป็นบางหนเมื่อเห็นว่าไม่หยุดหัวเราะเสียที

“สรุปตอนนี้มึงก็ต้องรอ เพราะไม่รู้กานต์ไปหลบอยู่ที่ไหน มึงก็หัดปรับตัวนั่งรถไฟฟ้าบ้างก็ได้นี่หว่า หรืออยากไปไหนโทรหากูเอาก็ได้ หรือเปิดเทอมแล้วยังหาไม่เจอ ให้กูไปค้างเป็นเพื่อนไหม จะได้นั่งรถกูมาเรียนด้วยกัน มันก็ไม่ได้ผิดข้อตกลงของพ่อมึงนี่” กษิดิศเสนอแนวทางให้หลังหายขำหน้าดำหน้าแดง

“กูเกรงใจว่ะ มึงก็ต้องอยากมีเวลาของตัวเองบ้างสิวะ จะให้มาเป็นสารถีขับรถพากูไปนั่นไปนี่ อย่างกับแฟนกันไปได้ ช่างเหอะ ปิดเทอมกูนอนเล่นอยู่บ้านเอาก็ได้วะ อีกอย่างมึงเรียนคนละคณะกับกู กูไม่อยากรบกวนเวลามึงว่ะ” คนไม่เคยพึ่งใครเอ่ยอย่างละอายปาก พอจะรู้ตัวว่าก่อเรื่องก็ควรรับผิดชอบเอง จึงไม่อยากลากเพื่อนมาลำบากไปด้วย

“แน่ใจว่าจะไม่เบื่อตายไปก่อน ปิดเทอมตั้งสามเดือน แพลนซิ่งรถ เที่ยวเมืองนอก แล้วอะไรอีกหลายอย่างก็ต้องพับเก็บหมดสิแบบนี้”

“เออ” อัครวินท์ตอบสั้น ๆ ด้วยความเซ็ง

“อีกอย่างมึงเป็นเพื่อนกู ไม่มีคำว่ารบกวนหรือลำบากหรอก มันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร ยืมรถกูไปขับก่อนสักคันไหม”

“ไม่ละ ขอบใจว่ะ กูรู้ว่ามึงรักรถเหมือนลูกทุกคัน แต่กูรับปากพ่อไว้แล้ว สัญญาลูกผู้ชาย กูไม่อยากลักไก่ลับหลังว่ะ”

“มึงมีความคิดก็ดี ถ้างั้นระหว่างรอหาตัวกานต์กับลูกเจอ มึงก็ลองพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นซีวะ ปิดเทอมตั้งนาน มึงก็ลองเข้าบริษัทไปช่วยงานแบ่งเบาพ่อมึงบ้าง ปู่มึงเกษียณตัวเองยกงานให้พ่อมึงรับผิดชอบ คงจะเหนื่อยน่าดู ฟื้นฟูสัมพันธภาพพ่อลูกหน่อยเป็นไง ทุกบาททุกสตางค์ที่หาได้ อาทัชเขาก็หามาให้มึงผลาญไม่ใช่หรือ” กษิดิศพูดตรง ๆ จากที่พอจะรู้เลา ๆ ว่าระหว่างอัครวินท์กับบิดานั้น ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ลงรอยกันอยู่

“ห่าเกรตแม่งเทศน์กู” อัครวินท์ฟึดฟัด แต่ไม่ใช่ว่าไม่ยอมฟังเสียทีเดียว อย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็ไม่เคยคิดร้าย ตอนอนุบาลยังเคยแบ่งกางเกงในให้ใส่หลังสุดหล่อฉี่รดกางเกงในจนร้องไห้จ้า

“กูพูดจริงเว้ย กูนี่พ่อถีบให้ไปทำงาน ให้หัดหาเงินใช้เองตั้งแต่เริ่มขึ้นม.ปลายละ ทำพาร์ตไทม์กว่าจะได้แต่ละบาท เลือดตาแทบกระเด็น แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี กูเข้าใจอะไรมากขึ้นว่ะ”

“เข้าใจอะไรของมึง หลักการมาเชียว”

“ก็เข้าใจว่านิยามการใช้ชีวิตคุ้มของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันสิวะ ถ้ามึงคิดว่ามึงกิน เล่น เที่ยวกลางคืน ลากสาวมาปี้ ตื่นมาเจอคนไม่รู้จักแล้วก็แยกย้าย มันคือใช้ชีวิตคุ้ม งั้นคนที่เขาไม่ชอบแบบนี้ เขาก็ใช้ชีวิตไม่คุ้มหรือวะ กูว่าการใช้ชีวิตคุ้ม คือมึงใช้เวลาทำอะไรก็ได้ที่มึงมีความสุข ไม่จำเป็นต้องทำตัวเสเพล เพลย์บอยอะ ไม่แน่นะ ถ้ามึงตั้งใจทำตัวให้ดีขึ้น กานต์อาจจะกลับมา”

“แล้วกูจะทำได้หรือวะ โลโก้เพลย์บอยแปะหน้าผากกูหราอยู่เนี่ย”

“มึงไม่เริ่มแล้วมึงจะรู้ได้ไง เริ่มจากมึงไปช่วยงานพ่อมึงนี่แหละ ครูที่ดีที่สุด พระประจำบ้านของมึงเนี่ย คนอื่นเข้ามาผลาญเงินมึง พ่อมึงเขามีแต่ให้ มึงเคยซื้ออะไรให้เขาอย่างเปย์ให้สาวบ้างไหมวะ ไอ้เพื่อนเวร”

“เชี่ยเกรตพูดซะกูจุก เถียงไม่ได้เลยมึง”

“กูพูดให้มึงคิดตาม ไม่ได้พูดให้มึงมาเถียงกู กูเสียพ่อกูไปแล้ว กลับมาไม่ทันดูใจ พ่อกูก็สิ้นลมไปก่อน ถึงอยากจะเตือนมึงไว้ รักกันตอนที่ยังหายใจเถอะว่ะ อาทัชรักมึงมากนะเว้ย รักมึงกว่าใคร”

“เชี่ยเกรตแม่ง กูก็รู้จะเว้ย ว่ากูทำตัวไม่ดี พ่อกูบอกสอนอะไร กูจะต้องรั้นทำตรงข้ามมันทุกอย่าง กูโกรธเขา รังเกียจเขา เลยงี่เง่าประชดใส่มันซะทุกเรื่อง แต่ตอนนี้กูกลับเป็นเสียเอง คิดแล้วก็ละอาย พ่อลงโทษกูแค่นี้ยังน้อยไป”

“ยังไม่สายหรอก อย่างน้อยพ่อมึงเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ เขาช่วยมึงตามหากานต์ ยอมรับสิ่งที่มึงทำผิดพลาดก็แสดงว่าเขารักมึงมาก แล้วมึงล่ะ รักเขามากพอไหม ตามเจอกานต์กับลูกก็ใช่ว่าเขาจะยอมกลับมา ถ้ามึงไม่พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าทุกอย่างจะไม่วนลูปเดิมอีก มึงคิดจะทำอะไรเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมาได้หรือยังวะ”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ กษิดิศไม่พูดอะไรต่อ ปล่อยให้เพื่อนได้คิดเอง ตัวเขานั้นสูญเสียบิดาไปเมื่อเรียนจบมัธยมปลายพอดี หลายสิ่งที่เกิดขึ้นตอนครอบครัวสูญเสียเสาหลักไปทำให้ชายหนุ่มเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดเกินตัว อัครวินท์นิ่ง คิดถึงความรักที่บิดามีให้ นึกถึงคำพูดถากถางมากมายที่ออกจากปาก ไม่มีอะไรจะทำให้เสียใจเท่าการทำร้ายกันเองในครอบครัว แล้วถ้าวันหนึ่งกรรมจะสนองกรรม สามแฝดจะทำอย่างนี้กับเขาบ้าง แค่คิดก็ปวดร้าวแล้ว ในสิ่งที่เขาทำกับพ่อ

“ขอบใจว่ะเกรต กูจะพยายามแก้ไขตัวเอง”

“ไม่เป็นไร กูเห็นมึงเป็นเพื่อน ไม่อยากให้ทิฐิมันบังตาจนสูญเสียไป มึงก็เห็น ตอนพ่อกูเสีย กูเป็นยังไง”

“กูจะพยายาม”

“เออ เดี๋ยวกินข้าวด้วยกัน สาว ๆ แม่บ้านเห็นมึงมา ป่านนี้ลงครัวช่วยกันแล้ว ไอ้ห่า ทำพี่เลี้ยงกูเสียคนหมด”

“ก็คนมันหล่อ แล้วแม่มึงไม่อยู่หรือวะ”

“ไปดูงานต่างประเทศน่ะ พ่อไม่อยู่ แม่กูก็เหนื่อยหน่อย กูช่วยเขาเท่าที่ช่วยได้ นี่ก็อยากเรียนจบไว ๆ จะได้มาช่วยแบ่งเบาภาระ
ของแม่ว่ะ ไปเถอะ ไปกินข้าว” สองหนุ่มลุกจากโซฟาเดินตรงไปห้องอาหาร เป็นอย่างที่กษิดิศบอกไว้ บรรดาสาวใช้สาว ๆ ต่างส่งยิ้มให้อัครวินท์ซึ่งชายหนุ่มก็เพียงยิ้มตอบตามมารยาท

อุ !

“วินเป็นอะไรวะ”

“กู !” ไม่ทันขาดคำ ร่างสูงใหญ่ก็รีบพุ่งถลาพรวดพราดไปยังห้องน้ำ อัครวินท์โก่งคออาเจียนเพียงแค่ได้กลิ่นเหม็นฉุนของอาหารบางชนิดบนโต๊ะ

“วินไม่สบายหรือวะ” กษิดิศเคาะประตูถาม เสียงอาเจียนเงียบลงตามด้วยเสียงกดชักโครก จากนั้นประตูจึงเปิดออกให้เห็นใบหน้าซีดเซียวยืนสะโหลสะเหล

“ไม่รู้เป็นอะไรว่ะ เป็นมาหลายเดือนแล้ว ไปหาหมอก็ไม่หาย กูก็ไม่ได้แพ้อะไรนะเว้ย แต่มันเหม็นกับข้าวบางอย่างน่ะ นี่ดีขึ้นแล้วนะ ช่วงสองสามเดือนก่อนแทบจะขนหมอนผ้าห่มไปนอนในห้องน้ำ”

“อ๋อ ที่ช่วงนั้นมึงหน้าซีด กินอะไรก็อ้วก วัน ๆ ร้องหาแต่ของกินเปรี้ยว ๆ ใช่ไหม หึหึ ไอ้พ่อลูกอ่อนที่แท้ก็แพ้ท้องแทนเมีย อาการนี้พี่กูเคยเป็น แม่งแพ้ท้องแทนพี่สะใภ้”

“มันมีด้วยหรือวะ แพ้ท้องแทนเมียนี่”

“มีดิ พี่กูเนี่ย อาการเหมือนมึงเด๊ะ ๆ พี่สะใภ้กูตั้งท้องไม่มีอาการอะไร แต่พี่กูนี่อ้วกเช้าอ้วกเย็น แทบนับญาติกับยาดม มะม่วงเอย มะปรางเปรี้ยว ๆ ตะลิงปลิง เฮียแกเหมาหมด ฟาดคนเดียวเรียบ”

“มึงพูดซะกูอยาก มีอะไรเปรี้ยว ๆ บ้างไหมวะ” อัครวินท์ได้ยินถึงกลับกลืนน้ำลายเอ่ยปากถามหา

“เออ เดี๋ยวกูบอกแม่บ้านเก็บกับข้าวแล้วทำยำ กับต้มยำมาให้ แล้วเดี๋ยวให้ไปดูผลไม้เปรี้ยว ๆ มาถวายคุณชาย ไอ้วินเอ๋ย เสือสิ้นลายเพราะแพ้ท้องแทนเมีย มึงนี่เข้าใจหาเรื่องมาให้ขำ” กษิดิศหัวเราะพลางตบบ่าพาเพื่อนเปลี่ยนไปนั่งรอรับมื้อเที่ยงในสวนแทน เพราะเดี๋ยวคุณชายจะเหม็นกลิ่นอาหารขึ้นมาอีก



คนหนึ่งแพ้ท้องแทน ส่วนอีกด้านนั้นขี้เซาขยันพาลูกนอน

“กานต์ลูก พี่ไทน์มาหาแน่ะ” รพินทร์เขย่าปลุกคนท้องขี้เซาเบา ๆ นัดกันว่าจะไปเยี่ยมหาครอบครัวพี่ชายวัยเยาว์ คนท้องก็ดันง่วงผล็อยหลับไปบนเก้าอี้นอนหวายริมหน้าต่าง รพินทร์จึงปล่อยให้นอนไปก่อน กะว่าพอรพีกานต์ตื่นแล้วค่อยพาลูกไป แต่ทางนั้นกลับเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเยียนเสียก่อน รพีกานต์ลืมตื่นสะลึมสะลือ มือปิดปากหาวหวอดพลางลุกขึ้นบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน ลมเย็นอากาศดี นอนรอบิดาเข้าห้องน้ำอยู่ดี ๆ ก็เผลอหลับ รพินทร์มองคนขี้เซาด้วยความเอ็นดู มือเกลี่ยปอยผมปรกหน้าให้เบา ๆ

“ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา ผัดแป้งนวล ๆ นะลูกนะ พี่ไทน์พาแฟนมาด้วยนา กานต์อยากเห็นคุณภีมไม่ใช่หรือลูก เดี๋ยวพ่อออกไปรับหน้าก่อน อย่านานนักนะ พี่เขารอ” ตาสว่างขึ้นมานิดหน่อยเมื่อได้ยินว่าพี่ชายวัยเยาว์พาคนรักมาด้วย จากที่บิดาโฆษณาเอาไว้เลยทำให้รพีกานต์พลอยอยากเห็นหน้าไปโดยปริยาย

รพีกานต์ลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าล้างตาผัดแป้งนวลผ่อง กำลังจะก้าวออกจากห้องก็พลันนึกถึงท้องนูน แม้จะใส่ชุดเอี๊ยมผ้านิ่มพรางไว้ แต่ก็สังเกตเห็นได้ไม่ยาก ตั้งแต่อายุครรภ์เริ่มเข้าเดือนที่สี่ สามแฝดก็พากันโตพรวด ๆ รพีกานต์ทั้งหิวกินจุกจิกบ่อย แถมนอนอุตุได้ตลอด จึงดูอวบขึ้นผิดหูผิดตา คิดมาถึงตอนนี้แล้วก็ให้ละล้าละลังไม่อยากออกไปเจอ แต่ก็เกรงจะเสียมารยาทจึงลงจากบ้านเดินก้มหน้าไปหา

“กานต์” สุ้มเสียงใจดีร้องทักขึ้น รพีกานต์ดวงตาหลุบต่ำขยับหลุกหลิกอย่างไม่มั่นใจในตัวเอง เท้าเหมือนก้าวช้าลงเรื่อย ๆ ด้วยความอึดอัดใจ กลายเป็นวาเลนไทน์ขยับเข้ามาใกล้ มือวาดแผ่นหลังพาพยุงไปนั่ง รพีกานต์เงยหน้าขึ้นสบตาทุกคนพลางกระพุ่มมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า

“พี่เอาลูกหม่อนมาฝาก เพิ่งเก็บสด ๆ จากต้น ยังไม่แก่มาก เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กานต์น่าจะชอบนะ” วาเลนไทน์เลื่อนตะกร้าบรรจุลูกหม่อนเกือบเต็มมาให้ตรงหน้า รพีกานต์มองพลางกลั้นใจเอ่ยปากถาม ดวงตาสวยอมโศกประสานสายตากับอีกฝ่าย

“พี่ไทน์รู้...” ความรู้สึกอายในความแปลกประหลาดของตนเองตีตื้นขึ้นมาในอก วาเลนไทน์เข้าใจสถานการณ์ดีจึงรีบเอ่ยปาก

“เราไปคุยกันตรงลำธารด้านหลังดีไหม น้ำใส ๆ อากาศน่าจะเย็นสบายกว่าตรงนี้” ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นก่อนแสดงท่าทีกระตือรือร้นอยากจะไปยังลำธารด้านหลังบ้าน ทางนี้ปล่อยให้ผู้ใหญ่พูดคุยกันเองน่าจะสะดวกใจแก่รพีกานต์กว่า

“ก็ได้ครับ” รพีกานต์ลุกตามอย่างว่าง่ายด้วยเข้าความหมายที่อีกฝ่ายแสดงออก วาเลนไทน์หยิบตะกร้าหม่อนส่งให้คนรักถือเดินตามหลัง

“เอ้อ จริงสิ ลืมแนะนำไป นี่คุณภีม เอ่อ...แฟนพี่เอง” วาเลนไทน์เอ่ยขึ้นหลังหย่อนกายลงนั่งในที่เหมาะ ๆ แก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีเรื่อยามสบตาคนรักตอนเปิดปากบอกสถานะความสัมพันธ์ รพีกานต์มองเห็นความรักมากมายที่ทั้งสองมอบให้แก่กันผ่านทางแววตา

“สวัสดีครับคุณภีม เอ่อ...พูด ฟังภาษาไทยได้ใช่ไหมครับ”

“ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องชายของกวางน้อย โทษที ผมแทนชื่อไทน์ว่ากวางน้อยน่ะ เขาพิเศษสำหรับผม” ภีมพริษฐ์เอ่ยเสียงเรียบ มุมปากยิ้มน้อย ๆ ตามนิสัยเจ้าตัว ไม่เพียงเท่านั้นมือหนายังเลื่อนมากุมมือบางของวาเลนไทน์ บ่งบอกความพิเศษตามปากว่า พี่วาเลนไทน์อดีตเด็กแว้นเก่า ยามความรักเบ่งบานเต็มที่ดูมีออร่าความสุขลอยอวลอยู่รอบตัว คุณภีมหล่อจริงอะไรจริง สะเทือนฟ้าสะเทือนดินอย่างที่พ่อรพินทร์เคยบอกไว้ แต่เหนืออื่นใด การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาถึงความรักที่มีต่อคนรัก ทำให้รพีกานต์นึกชื่นชมอย่างใจจริง

“แล้วพี่ไทน์ เอ่อ...รู้แล้วใช่ไหมครับ” รพีกานต์เอ่ยพลางลูบพุงกลมที่ขยายขนาดรวดเร็วจนมองเห็นได้แม้อำพรางด้วยเสื้อตัวโคร่ง

“รู้แล้ว” วาเลนไทน์ตอบรับ รู้ว่าน้องชายในวัยเยาว์กังวลไม่น้อยกับความผิดปกติของตนเอง

“กานต์แปลกประหลาด” รพีกานต์ก้มหน้างุดซ่อนความขมขื่น

“ทำไมกานต์ไม่คิดว่ามันคือความมหัศจรรย์ล่ะ” วาเลนไทน์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางคิดมากเป็นกังวล

 “ประหลาดกับมหัศจรรย์ ต่างกันแค่เส้นบาง ๆ ทางความคิด แค่กานต์ไม่เก็บเอาคำพูดคนอื่นมาเป็นตัวชี้วัดความสุขของตัวเอง ลูกก็นับเป็นของขวัญสุดมหัศจรรย์ในชีวิตไม่ใช่หรือ ผู้หญิงบางคนท้องไม่ได้ก็มีนะ นี่กานต์เป็นผู้ชาย กานต์ท้องได้ แสดงว่าธรรมชาติได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กานต์แล้ว กานต์น่าจะดีใจซี”

“พี่ไทน์...” รพีกานต์มองอีกฝ่ายด้วยความทึ่ง แค่คำพูดของวาเลนไทน์ก็เปลี่ยนความมืดมนขมขื่นเป็นแสงสว่างในทันที

“โลกเรามีเรื่องน่าประหลาดใจที่เราไม่รู้เยอะออก สิ่งที่แตกต่างนับเป็นความแปลกประหลาด หรือมหัศจรรย์ก็อยู่ที่มุมมอง คนร้อยคนเชื่อเถอะ มองไม่เหมือนกันทุกคนหรอก”

“ขอบคุณครับพี่ไทน์ ก่อนหน้ากานต์คิดว่าลูกเป็นของขวัญ แต่ก็อดกังวลใจไม่ได้ ได้ฟังพี่ไทน์พูดแล้ว กานต์สบายใจจัง” รพีกานต์ฉายรอยยิ้ม เหมือนกลุ่มเมฆที่บดบังแสงสว่างในใจเคลื่อนตัวออกไปแล้ว

“พี่ว่ากานต์โชคดีนะ ถึงคุณภีมจะไม่ได้คิดอะไรเรื่องมีลูก แต่พี่กลับคิดว่าพี่อยากให้คุณภีมมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าพี่มีตัวเล็กให้ได้คงจะดี”

“กวางน้อย เราคุยกันเรื่องนี้แล้วนี่” ภีมพริษฐ์หันขวับมาทางคนรัก ไม่อยากให้กวางน้อย ๆ ของเขาต้องกังวล

“ผมเข้าใจครับ แต่ถ้าจะมีอะไรทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นกว่าเมื่อวาน ถึงจะแค่เรื่องเล็ก ๆ ผมก็อยากทำนะ” วาเลนไทน์ยิ้มให้คนรัก รพีกานต์มองดูคนทั้งคู่ต่างพยายามทำเพื่อคนรัก เพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุขแล้วก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น รักคือคนสองคน ต่างฝ่ายต่างรักและทำเพื่อคนรัก จึงจะเรียกว่ารักแท้ ที่ผ่านมาระหว่างรพีกานต์เองและอัครวินท์ คือความลุ่มหลงและไล่ตาม สุดท้ายฝ่ายที่คอยวิ่งไล่ก็เหนื่อยล้าราแรงลง

พี่วินคงไม่คิดทำอะไรเพื่อกานต์...

“ขอบคุณพี่ไทน์กับคุณภีมมาก ๆ นะครับ” รพีกานต์ส่งยิ้มให้ทั้งคู่ พี่วาเลนไทน์ยังคงเป็นพี่ชายแสนดีไม่เสื่อมคลายเช่นวันวาน  ในขณะที่กำลังยิ้มนั่นเอง กลีบดอกไม้คุ้นตาก็ลอยมากับสายน้ำอีกครั้ง


ครอบครัวผู้มาเยี่ยมขอตัวกลับไปแล้วหลังรับประทานอาหารร่วมกัน ในบ้านมีผลไม้หลายอย่างที่แขกขนมาฝาก ซึ่งรพินทร์เองก็มีของฝากจำพวกน้ำพริกฝีมือปรุงเองนำมาจากที่บ้านมาให้ เสียงข้อความไลน์ดังเตือน เจ้าตัวหยิบมาดูก่อนอมยิ้ม นำไปยื่นให้รพีกานต์

“กานต์ พี่ณัฐส่งรูปอะไรมาให้ดูแน่ะ” รพีกานต์ตีคิ้วฉงนพลางยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์มาดู ครั้นเมื่อก้มลงมองก็ยังไม่ใคร่เข้าใจนัก

“พี่ณัฐส่งรูปถุงมือมาให้ดูครับ แต่มีข้างเดียว”

“สงสัยเพิ่งหัดถักเสร็จข้างเดียวแล้วเห่อน่ะซี เลยส่งมาให้ดูข้างเดียวก่อน ถุงมือของสามแฝดไง คล่องแล้วคงมีถุงเท้ากับหมวกตามมา”

“นี่พี่ณัฐหัดถักของใช้ให้สามแฝดหรือครับ”

“อือฮึ ที่หายเงียบไปก็เพราะนี่แหละ ตอนแรกเงอะงะน่าดู ผู้ชายมือใหญ่นี่นะ แต่ก็พยายามจนได้ถุงมือมาข้างนึงละ อีกหน่อยก็คงคล่อง เผลอ ๆ จะมีผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ให้กานต์ด้วย”

“พี่ณัฐ...”

“คนที่รักเรา เราไม่ต้องทำอะไรเลยเขาก็รักเราเนอะ กานต์คุยกับพี่ณัฐนะ พ่อจะไปงีบสักหน่อย” รพินทร์ว่าพลางลุกจากห้องไป

 :katai5:

เอาแล้ว ๆ วินกำลังจะกลับตัวแก้ไข คนใหม่กำลังจะมา พี่ณัฐก็ยังคงอยู่
ตอนนี้คิดกลอนไม่ออกนะคะ

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กานต์จะรู้ไหมว่าพ่อของลูกจะปรับปรุงตัวว :hao3: :hao3:


หรือว่าจะมีคนมาดามใจคุณแม่ :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อยากให้แฝดออกมาเร็ว ว๊าปไปถึงตอนนั้นเลยได้มะ :กอด1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
กว่าจะคิดได้นะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
หาคนดีสักคนเราว่าไม่แย่นะ

ออฟไลน์ Chompussru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรือข้อจะล่มมั้ย :katai4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: กานต์ควรเริ่มต้นใหม่ได้แล้วนะ อยู่กับเรื่องเก่า ๆ ทำให้เศร้าหมอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 พ่อของกานต์ป่วยยังช่วยดูแลลูกอีก นับถือความเป็นพ่อจริงๆ
   รออ่านตอนต่อไป สนุกมากๆ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
โธ่พี่ณัฐทูนหัวของบ่าว ประทับใจมากเลยค่ะ ความรักอันมากมายของพี่ณัฐ

ออฟไลน์ pawara123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากให้มาต่อไวๆ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
น้องกานต์สู้ๆน้าาาา

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มารอตอนต่อไป ด้วยใจจดจ่อคร่า :hao5:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
พ่อแฝดถ้าไม่รีบปรับตัว จะแย่ละนะ มีคนใหม่รออยู่แบบนี้

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารอตอนต่อไปค่าาาา :L1: :pig4:

ออฟไลน์ llSJAr34

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ก็ไม่รู้สินะไม่เคยรักใครจริงจัง แต่อ่านตอน 15แบะปากมองบน อยากให้อยู่คนเดียวไป ไม่ต้องมีก็ได้พระเอก อินมาระบายไม่ว่ากันนะครับ :m16: :serius2: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด