สัญญาธนาการ (Eternity bondage) ภพ: สัญญา ตอนจบ[19/06/61 - แจ้งข่าวรวมเล่มหน้า 5]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญาธนาการ (Eternity bondage) ภพ: สัญญา ตอนจบ[19/06/61 - แจ้งข่าวรวมเล่มหน้า 5]  (อ่าน 60311 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ท่านเจ้าคุณคือคนในเหรียญ
แสดงว่าคุณนาวาไม่ใช่ท่านเจ้าคุณกลับชาติมาเกิดสินะ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ท่านเจ้าคุณคือคนในเหรียญ
แสดงว่าคุณนาวาไม่ใช่ท่านเจ้าคุณกลับชาติมาเกิดสินะ

ใช่แล้วครับ...ผมว่าน่าจะรู้นะครับว่าเป็นใคร
เพราะเนื้อเรื่องมีเฉลยแบบอ้อมๆไปแล้ว อิอิอิ
 :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
นาวา-คุณใหญ่
สอง-ขุน
เหรียน-ขุนพิชัย
แม่นาวา-หญิงเล็ก
ขาดแต่ขุนอะไรน่าที่คอขาดในสนามรบ จำชื่อไม่ได้และเนื้อเรื่องสนุกมากค่ะแบบ  :haun4: :jul1 ลุ้นต่อไปว่าจะเป็นยังไง รอ รอคนเขียน :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
  ภพ: สัญญา ตอน 11

   คุณหญิงรัมภาพรสุดจะทัดทานบุตรชายคนโตที่ยืนกรานจะร่วมห้องกับสองที่เรือนใหญ่ แรกเริ่มเธอต้องการให้สองไปอยู่ที่เรือนคนใช้แต่ถูกโวยวายใส่เสียจนแทบคลั่ง ผู้ชายบ้านนอกคอกนามีดีอะไรถึงทำให้ตาใหญ่หลงเสน่ห์หัวปักหัวปำ ถ้าเป็นสมัยก่อน ผู้ชายมากหน้าหลายตาที่เกี่ยวข้องพัวพันกับลูกชายเธอยังดูมีฐานะและชาติตระกูลที่ดีกว่านี้มาก กระนั้นทุกคนก็ยอมออกไปจากชีวิตของลูกชายเธอเพียงแค่รับข้อเสนอเล็กๆน้อยๆของเธอเท่านั้น

“จะทำอะไรก็ตามใจ ในเมื่อไม่เกรงใจหัวหงอกคนนี้ก็เชิญ” คุณหญิงกระแทกเสียงก่อนเรียกพิรุณให้พากลับห้อง สองได้แต่นิ่ง ถึงแม้ในใจจะคับข้องเสียจนอยากกลับเชียงใหม่แล้วก็ตาม

“อยู่กับพี่ที่นี่สักพักนะ รอเสร็จงานศพแล้วพี่จะพาเรากลับบ้าน” นาวาให้คำมั่น สองถอนหายใจเฮือกใหญ่ นาวาปล่อยให้เขาสำรวจบ้านได้ตามสบาย สองไม่แน่ใจว่ามันคือบ้านหรือวัง ด้วยคามโอ่โถงใหญ่โต แต่มีคนอยู่เพียงหยิบมือทำให้เขารู้สึกเศร้า บ้านหลังนี้ดูไร้ชีวิต ประตูห้องคุณนเรนทร์ปิดสนิท ราวกับรับรู้ว่าผู้เป็นเจ้าของจากไปแล้วตลอดกาล

   สองเดินเรื่อยเปื่อยมาจนถึงรูปเรือนโบราณหลังหนึ่ง เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ภาพในฝันผุดขึ้นมาชัดเจนยิ่งขึ้น มันคือเรือนของเจ้าคุณพิชัย เขาจำมันได้ติดตา ที่กรอบด้านล่างมีข้อความเขียนด้วยลายมือไว้ว่า “เรือนไทยเจ้าคุณทวด อ.ชุมแสง จ.พิจิตร”

“ขอโทษค่ะคุณ ขออนุญาตทำความสะอาดค่ะ” เสียงหนึ่งดังมาด้านหลัง คงเป็นเสียงแม่บ้านที่นี่ สองหันกลับ ก่อนจะตาเบิกโพลงอีกครา

“ตา!”

“พี่สอง!” ทั้งคู่ต่างตกใจที่ได้เจอกันนบ้านหลังนี้ “พี่มาที่นี่ได้ยังไง มาสมัครเป็นคนสวนใหม่เหรอ”

สองมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอชื่อเมตตา เป็นหญิงในวัยสาวที่สวยแต่ถูกความยากจนบังคับให้ต้องจากบ้านมาไกลเพื่อขายแรงงานเป็นแม่บ้านในเมืองกรุงแบบนี้ “เปล่า พี่มากับนายอำเภอน่ะ” หญิงชื่อตาเข้าใจในทันที

“ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะพี่” เมตตาวางอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ก่อนจะพาสองเดินไปคุยด้านนอก

“พี่ทำงานกับนายอำเภอที่เชียงใหม่น่ะ” สองดีใจอย่างเหลือล้น ที่อย่างน้อยบ้านหลังนี้ยังมีอีกคนที่เขารู้จักและพอคุยได้ “ตาสบายดีมั้ย นาเป็นไงบ้าง ตาหนูล่ะ”

“โอย พี่ถามเป็นชุดเลย” เมตตามัดผมยาวที่หลุดรุ่ย เธอเป็นคนสละสวยแต่จืดชืด ไม่เหมือนกรุณาพี่สาวของเธอที่สวยจัดจ้านน่าค้นหาและมีความทะเยอะทะยานมากกว่า สองจึงตัดสินใจจีบกรุณาและอยู่กินด้วยกันจนกระทั่งเธอหอบลูกชายของเขาหนีออกมา

“ตาหนูสบายดี อยู่บ้านกับพ่อแม่หนูแหละ แต่พี่นา...”

“นาทำไมรึ?”

“พี่นาป่วย ออดๆแอดๆมาปีกว่าละ เพิ่งหาย ตอนนี้กำลังพักฟื้น” ในชั่วแว้บหนึ่ง สองรู้สึกสะใจที่ได้ยินแบบนั้น ได้ยินว่าผลกรรมที่อดีตภรรยาทำกับเขามันตกตามทันท่วงนี้ก็ยินดี แต่มันทำให้เขาเสียใจที่ตนเองกลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และทำให้เขารู้สึกหดหู่ยิ่งขึ้นกับสิ่งที่กรุณาต้องเจอ

“เค้าเป็นอะไร” สองถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“มะเร็งน่ะพี่” สองตกใจอ้าปากค้าง ทำท่าจะพูดหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ชะงักเสียหมด จนต้องรวบรวมสติ

“เป็นตั้งแต่ตอนไหน”

“เป็นตั้งแต่ก่อนมากรุงเทพแล้ว”

“หืม...แล้วทำไมนาไม่บอกพี่ล่ะ ทำไมถึงหอบลูกหนีออกมาแบบนี้” น้ำเสียงสองเหมือนจะพาล

“หนูก็ถามพี่นาแบบนี้เหมือนกันนะ ว่าทำไมไม่บอกพี่สอง ทำไมพี่นาถึงทำแบบนี้” เมตตามองผู้ชายเบื้องหน้า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ได้เจอกัน เขาดูมีความสุข ดูมีสง่าราศีกว่าเดิมมากมายนัก

“แล้วนาว่ายังไง” คำถามง่ายๆแต่เมตตากลับมีท่าทีอึดอัด เธอลังเลชั่วครู่

“หนูไม่ควรบอกพี่นะ แต่หนูก็ไม่อยากปิดไว้” สองนิ่ง ตั้งใจฟัง “พี่นาบอกว่า ถึงพี่รู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตอนนั้นพี่เสียทั้งพ่อ เสียทั้งแม่และที่ดิน สติพี่ไม่อยู่กับร่องกับรอยแล้ว ถ้ามารู้ว่าพี่นาป่วยอีก พี่คงจะเตลิด” เมตตาถอนหายใจ

“พี่นารักและห่วงพี่มากนะพี่สอง การที่พี่นาพาลูกออกมาแบบนั้น เค้าไม่ได้เกลียดพี่นะ แต่พี่นาไม่อยากเพิ่มภาระให้พี่อีกทางเลยตัดสินใจออกมาอยู่กับชั้นที่กรุงเทพนี่” สองน้ำตาตกในที่ได้ยินเรื่องนี้ และยิ่งรู้สึกผิดที่ในใจของเขามีแต่ความชิงชังก่อนที่จะรับรู้เรื่องราว “ทำไมคิดอะไรโง่ๆแบบนี้ล่ะนาเอ๊ย”

“หนูก็คิดแบบพี่นะ ว่าผัวเมียควรอยู่ดูแลช่วยเหลือกัน แต่พี่นายืนกรานว่าตัวเองคิดถูกแล้ว พี่นาไม่ได้ดูถูกดูแคลนพี่นะคะ แต่พี่นารู้ว่าถ้าอยู่ต่อไป อาจจะพากันกินยาฆ่าตัวตายทั้งคู่ก็ได้ เราทะเลาะกันหลายครั้งแล้ว แต่พี่ก็รู้ว่าพี่นาน่ะเชื่อใครซะที่ไหน” สองน้ำตาซึม เขารู้สึกแค้นใจตัวเองที่ปล่อยให้ความสูญเสียในอดีตบดบังปัญญาของตัวเองจนลืมนึกถึงคนที่เคยอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้สังเกตอาการของนาเลยสักครั้ง ความผ่ายผอมที่เห็น อาการไอแห้งๆ เขาคิดว่ามาจากการป่วยเล็กๆน้อยๆ เขาจดจ่อแต่ความทุกข์ของตัวเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย เมตตาได้แต่นิ่ง เธอสงสารทั้งสองฝ่าย ทั้งพี่สาวที่ต้องทนทรมานจากความเจ็บป่วย ทั้งอดีตพี่เขยที่ต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆหลายอย่างแทบจะคราเดียวกัน ต่อให้เป็นภูผาสูง เมื่อยามเจออุกาบาตฟาดฟันก็ย่อมจะมีแตกสลายลงบ้าง นับประสาอะไรกับผู้ชายคนหนึ่งที่กลายเป็นคนอ่อนแอไปเสียได้

“แล้วตอนนี้นากับตาหนูอยู่ไหน”

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

   นาวาฟังเรื่องราวที่สองเล่าจนจบ เขารู้สึกโหวงๆและเห็นใจทั้งสองฝ่ายที่เรื่องราวต้องมาเป็นแบบนี้ สองเลือกที่จะเล่าความอัดอั้นให้เขาฟัง ยิ่งทำให้เขารู้สึกดีที่ได้รับความไว้ใจ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกแย่ที่ไม่อาจปล่อยให้สองไปดูแลกรุณาได้

“พี่พาผมไปหานากับลูกได้ไหม?” นาวาย้ายไปนั่งติดกับสอง เสียงเครื่องปรับอากาศดังแข่งกับเสียงหายใจของเขาทั้งคู่ ไอแดดสาดส่องในห้องนอนเขาโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้า สองนั่งจับเจ่าที่โซฟามานานกว่าชั่วโมงจนกระทั่งเขาสังเกตได้และสอบถาม
 
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” นาวาตอบ เขาดึงตัวสองมากอด ไอร้อนจากทั้งคู่ถ่ายเทส่งผ่านความรู้สึกให้กันโดยไม่ต้องอาศัยคำพูดใดๆ “พี่จะพาไปเองนะครับ” สองกอดชายร่างใหญ่แน่นขึ้น ความอ่อนแอสาดโครมราวกับเด็กน้อย ก้อนหินถึงแม้มันจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ย่อมกระเทาะและแตกหักได้หากถูกกระทบกระแทกด้วยสิ่งใดหลายๆอย่าง

“ขอบคุณครับ” สองพูดเบาๆ ก่อนที่จะหลับตาในอ้อมกอดใหญ่นี้ เขารู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องเสแสร้งว่าตัวเองนั้นเข้มแข็งเหมือนที่คนอื่นเห็น

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

“แม่ไม่เห็นด้วยนะตาใหญ่ ยังไงแม่ก็ไม่มีทางยอมรับไอ้บ้านนอกคนนั้นในฐานะคนรักของลูกหรอก มันน่ารังเกียจ น่าสะอิดสะเอียน รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น แกไม่เห็นแก่หน้าชั้นก็เห็นแก่บรรพบุรุษของแกบ้างสิ” คุณหญิรัมภาพรนั่งตัวหอบโยนในห้อง ผ้าพันแผลถูกเปลี่ยนไปแล้ว แต่สีหน้ายังคงไม่สดชื่น

“เราคุยเรื่องนี้ทีหลังไม่ได้เหรอครับแม่ รอให้พ้นงานศพตารองก่อนได้มั้ย”

“คุยตอนนี้หรือหลังจากนี้มันจะต่างกันตรงไหน” รัมภาพรแหว “ประเด็นคือ ชั้นไม่มีทางปล่อยให้ลูกชายชั้นหลงผิดไปคว้าผู้ชายด้วยกันมาเป็นคู่ชีวิตหรอกนะ แกจะต้องเลิกกับมัน ชั้นหาผู้หญิงไว้แต่งงานกับแกได้แล้ว”

“แม่!”

“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ชั้นนะ เมื่อไหร่แกจะรู้จักโตเสียทีตาใหญ่ ปีนี้แกก็สามสิบแล้ว ชาวบ้านร้านตลาดเค้าจะคิดยังไงกับผู้ชายอายุปูนนี้แต่ยังไม่ตบไม่แต่ง ลูกๆคุณหญิงแขก็แต่งงานหมดแล้ว ชั้นต้องคอยหลบเลี่ยงคำถามว่าทำไมแกยังไม่แต่งงานมาตลอด รู้มั้ยว่าชั้นอายแค่ไหน”

“สรุปว่าแม่อายเพื่อนเท่านั้นเหรอครับ ถึงต้องมาบีบบังคับผม”

“ใช่ ชั้นอาย แกจะให้ชั้นทำยังไง แกก็ไม่มีเมีย ตารองก็ตาย เหลือแต่ยัยนิดที่ไปอยู่บ้านผัว แล้วชั้นล่ะ แก่ปูนนี้แล้ว ชั้นจะฝากผีฝากไข้กับใครได้บ้าง แกเคยคิดถึงหัวอกชั้นบ้างมั้ย!” คุณหญิงรัมภาพรพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ร้องไห้

“ชั้นก็เหลือแต่แกนะตาใหญ่ แต่แกก็ไปอยู่เสียตั้งเชียงใหม่ แกจะทิ้งแม่ของแกแล้วไปอยู่กับไอ้บ้านนอกคนนั้นน่ะเหรอ มันจะอกตัญญูไปหรือเปล่า ห๊ะ!”

“แม่...”

“ยังไงชั้นก็ไม่ยอม ชั้นจะให้แกย้ายมาทำงานที่นี่ ชั้นรู้จักคนใหญ่คนโตหลายคนแกไม่ต้องห่วง ทิ้งมันแล้วมาอยู่บ้านเรานะลูก”

“แม่...!”

“ยังไงชั้นก็ไม่ยอมรับไอ้บ้านนอกนั้นหรอก แกจะต้องแต่งงานกับคนที่ชั้นเลือกไว้ให้”

นาวาไม่มีคำพูดใดๆนอกจากความโกรธถึงขีดสุด เขาเดินออกจากห้องผู้เป็นแม่พร้อมปิดประตูดังโครมใหญ่ รัมภาพรนั่งนิ่ง เธอคิดว่าสิ่งที่ทำนี้ถูกต้องแล้ว เธอทำเพื่อลูกชายทั้งสิ้น หากวันหนึ่งสิ้นผู้เป็นแม่ไป ตาใหญ่ก็จะยังมีเมียและลูกหลานคอยดูแลยามแก่เฒ่า คุณหญิงพิงหลังกับโซฟาหรูหรา หยิบเหรียญกษาปณ์เก่าขึ้นมาพินิจ

“หนูทำถูกแล้วใช่มั้ยคะ คุณพ่อ”


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วงเวลาก่อนหน้านี้....

   ร่างสูงใหญ่ชัดเจนขึ้นในความมืดจับจ้องไปที่เตียงคนไข้ หญิงชรานอนขดตัวดูเปราะบางน่าสงสาร ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงเสียนัก เหรียญกษาปณ์อันเก่าเปล่งประกายสีแดงฉานบนพื้นในห้องพักผู้ป่วย

“เล็ก” ร่างใหญ่ส่งเสียงเรียก “ตื่นเถอะลูก” หญิงชราค่อยๆลืมตาขึ้น มองร่างใหญ่ช้าๆก่อนจะยิ้มออกมาราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน 

“ฟังพ่อนะ...”

 “คุณเป็นใคร” รอยยิ้มของหญิงชราเหือดหาย ความคุ้นตามลายสิ้นเมื่อภาพตรงหน้านั้นไม่ใช่พ่อของเธอจริงๆ

“พ่อไงลูก พ่อพิชัยของลูก”

“พ่อชั้นไม่ได้ชื่อพิชัย คุณก็ไม่ใช่พ่อของชั้นด้วย” รัมภาพรพูดด้วยความยากลำบาก สายตาเพ่งไปยังบุรุษร่างใหญ่ เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูกทั้งๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนหน้านี้ สงสัยจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาแน่ๆ หรือว่าเธอกำลังฝันไป

“เล็ก ฟังพ่อนะ...ลูกไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น แค่หลับตาและฟังสิ่งที่พ่อจะเล่าให้ดี” รัมภาพรหลับตา ความเจ็บผ่อนคลายเหือดหายไป ภาพเรือนไทยหลังหนึ่งโผล่เข้ามาในนิมิตร

“เล็ก” เธอหันไปตามเสียงเรียก

“ท่านพ่อ” เธอโลดเต้นวิ่งไปทางผู้ที่เธอเรียกว่าพ่อ หญิงชราก้มดูเรือนร่าง สองมือของเธอช่างดูอ่อนเยาว์ แข้งขาหดสั้นราวกับเป็นเด็ก แต่ความดีใจที่ได้เจอคนเบื้องหน้าทำให้เธอสลัดทุกอย่างทิ้งไปหมด

   เจ้าคุณพิชัยก้มดูร่างหญิงชราที่นอนขดตัวหลับไหล เมื่อเขาสามารถติดต่อกับสองได้ เขาก็ทำกับรัมภาพรได้เช่นกัน...เรื่องราวต่างๆมันจะได้ง่ายขึ้น ถ้าทำมันในความฝัน...


---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอน 11 แล้วจ้า...

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
คุญหญิงจะใจอ่อนไหมมลุ้นไปอีก :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
  ภพ: สัญญา ตอน 12

   กรุณามีท่าตกใจมากที่ได้เจอกับอดีตสามี ถึงแม้ร่างกายของเธอผ่ายผอมแต่ผมที่หลุดร่วงเริ่มกลับมาแล้ว กระนั้นก็ยังมีแววตาของนักสู้ เธอยืนหยัดฟาดฟันกับโรคร้ายอย่างไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา ความซูบผอมทำให้เธอดูผิดตาจากที่สองเมืองเคยรู้จักราวกับคนละคน เธอมีรายได้จากการเปิดร้านอาหารตามสั่งแบบห้องแถวในตลาดขนาด 8 โต๊ะนั่งที่ผู้เป็นพ่อใช้เงินก้อนสุดท้ายเปิดให้ วันนี้มีลูกค้าพอสมควร สองไม่ประหลาดใจเพราะกรุณาเป็นคนที่มีฝีมือในเรื่องทำกับข้าว พวกเขาเคยช่วยกันเข้าครัวบ่อยๆตอนร่วมหอเคียงเรือน ยามนั้นแม้น้ำต้มผักยังหวานหอม สองคนคอยหยอกเย้ากันไปมาข้างเขียงและครก คิดถึงครั้งนั้นแล้วสองก็สะเทือนใจอยู่ไม่น้อย นอกจากรายได้ที่ร้าน กรุณายังมีเงินจุนเจือจากน้องสาวและการทำงานหนักของสามีใหม่ ถึงแม้ค่ารักษาจะแพงปานใด แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ แม้ร่างกายจะเจ็บแสนสาหัส และกล้ามเนื้ออ่อนล้าจนไม่มีแรงหลังจากรับการรักษา เธอก็จะไม่ย่อท้อ

เธอพาสองเมืองไปนั่งด้านหลังร้าน เสียงอึกทึกจากข้างนอกพอซาลงไปบ้าง สามีใหม่ของกรุณาไม่มีท่าทางระแวงหึงหวง นาวาไปทำธุระต่อที่ธนาคารและสัญญาว่าจะกลับมารับอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง

“พี่ขอโทษ” นั่นเป็นคำพูดแรกที่หลุดออกมาจากปากชายผู้เป็นพ่อของลูก

“อย่าคิดมากเลยพี่ ชั้นเลือกทางนี้เอง” กรุณานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับสองเมือง โดยมีลูกชายตัวน้อยนั่งยิ้มแป้นที่ตักของเขา

“อาการเป็นยังไงบ้าง” เขาถามแบบแกนๆ เพราะรูปลักษณ์ของคนเบื้องหน้าตอบทุกอย่างอยู่แล้ว

“หมอบอกว่าตรวจไม่เจอเนื้อร้ายแล้วล่ะ แต่ก็ต้องไปตรวจเรื่อยๆ เพราะมันอาจจะกลับมาได้”

“พี่...” สองพยายามจะพูดคำว่าขอโทษ แต่มันกลับจุกหายที่ลำคอ

“ชั้นไม่โกรธพี่หรอกพี่สอง ชั้นต่างหากที่ต้องขอโทษที่หนีออกมาแบบนั้น” กรุณายื่นน้ำดื่มให้เขา สองจิบพอเป็นพิธีก่อนจะพูดต่อ

“แต่พี่ก็ยังรู้สึกแย่ ที่ไม่เคยรู้เลยว่านาป่วย”

“พี่ไม่รู้นั่นแหละดีแล้ว ถ้าตอนนั้นพี่รู้ ชั้นว่าพี่คงกลายเป็นบ้าแน่ๆ” สองคอตก นึกโทษความอ่อนแอของตัวเองในตอนนั้น เขาเป็นผู้นำครอบครัว ควรจะมีสติให้มากกว่านี้ ไม่ควรจะโอดครวญและยอมแพ้กับโชคชะตาง่ายๆ “ชั้นหายแล้วพี่ ชั้นไม่เป็นไรแล้ว” กรุณาตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง เธอยังคงสละสวยราวกับหญิงสาววัยแรกแย้ม ถึงแม้จะผ่านความเจ็บป่วยเจียนตายมาแล้วก็ตาม

“ได้ยินอย่างนี้พี่ก็สบายใจ” ทั้งคู่เงียบงันไปพักใหญ่ ภูเขาน้ำแข็งที่เกาะกุมใจสองละลายเหือดแห้ง เขาเห็นแต่ความสวยงามของผู้หญิงที่นั่งเบื้องหน้า กับรอยยิ้มที่ระบายอย่างเต็มที่ทำให้เขายิ่งสะท้อนใจ แต่กลับยินดีที่ได้มาพบพาน

“นาหายดีแล้วจริงๆเหรอ”

“จริงๆก็ไม่เต็มร้อยหรอก แต่ชั้นมีกำลังใจที่ดี” กรุณามองไปทางชายอีกคนที่ทำอาหารอยู่ ด้านนอก สามีใหม่ของเธอที่คอยดูแลเธอและลูกชายไม่ห่าง สองมองตาม เขารู้ว่าเขาไม่มีความสำคัญอะไรกับที่นี่แล้ว ยกเว้นความเป็นพ่อของลูก

“แล้วนาจะยอมที่พี่ขอไว้มั้ย”

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ชั้นจะเก็บโฉนดที่ดินไว้ให้ตาหนูพี่ไม่ต้องห่วงนะ”

“แล้ว....”

“ขอชั้นคิดก่อนนะพี่ อยู่ๆพี่จะมาพาลูกไปตั้งเชียงใหม่ ถ้าพี่ไม่เอามาคืนล่ะ ชั้นจะทำยังไง”
สองหัวเราะ “พูดไปเรื่อย ทำยังกับไม่รู้จักบ้านพี่ยังงั้นแหละ”

“เออ นั่นสินะ” กรุณาหัวเราะตาม “งั้นดูแลลูกดีๆนะพี่ เปิดเทอมเมื่อไหร่ก็พามาส่งนะ”

สองยิ้มกว้าง ก้มหอมตาหนูอย่างรักใคร่ “ได้สิ พี่สัญญา”

“พ่อจะพาผมไปกับพ่อจริงๆนะครับ”

“ใช่ครับ”

“เย้ๆ ดีใจที่สุดเลย” เด็กน้อยซุกหัวกับอกแกร่งของผู้เป็นพ่อ ทั้งคู่ได้แต่ยิ้มให้กันอย่างสบายใจ มันเป็นความสบายใจที่เขาไม่เคยพบมาก่อนตลอดเวลาหลายปีมานี้...

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2016 11:13:36 โดย จากต้นจนอวสาน »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
“ถ้าอย่างนั้น สองก็พาลูกกลับเชียงใหม่ได้แล้วสิ” นาวาถาม เขาพิงศีรษะกับหัวเตียงใต้หมอนใบใหญ่ สองยืนเหม่อมองนอกหน้าต่าง คืนนี้อากาศยังเย็นพอประมาณ แต่เดือนหน้าเข้าฤดูร้อน เขาคิดว่ามันต้องเป็นหน้าแล้งที่ทรหดอีกปีแน่นอน

“ไปแค่ช่วงปิดเทอมครับ สอบเสร็จก็ไปได้เลย” สองพยายามมองหาแสดงดาว แต่มันกลับมืดสนิท

“ดีแล้วล่ะ สองจะได้ไม่เหงาช่วงที่พี่ไปทำงาน” นาวาเข้ามากอดสองสูดกลิ่นสบู่อ่อนๆจากแผ่นหลัง

“อย่าครับพี่ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” สองมองความมืดมิดภายนอก แม้จะไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต แต่เขารู้สึกราวกับมีคนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา นาวาเห็นสองเกร็งๆจึงปิดหน้าต่างและเปิดพัดลมช่วยระบายอากาศแทน

“ช่วงนี้คุณหญิงทำบุญตักบาตรทุกวันเลยนะครับ”

“คงทำบุญให้เจ้ารองน่ะ” นาวาตอบ เขายังไม่คลายอ้อมกอดจากชายตัวเล็กเบื้องหน้า นาวาไม่ใส่เสื้อและสวมกางเกงแพรตัวบาง เขาดึงตัวสองเดินถอยหลังพาร่างไปที่เตียง บั้นท้ายสองเบียดเสียดกับกางเกงผืนบางที่มีบางอย่างกำลังคึกคะนองรอการปลดปล่อย นาวาบดเบียดของสงวนกับบั้นท้ายกลมกลึงของอีกฝ่าย สองนั่งตักชายร่างใหญ่บั้นท้ายถูกจับวางให้ตรงกับท่อนแกร่งที่แข็งขันชูชันใต้ร่มผ้า สองเอี้ยวไปสบตาหวานเยิ้มที่บ่งบอกความต้องการอย่างเปิดเผยของนาวา “คืนนี้อย่าเลยนะพี่ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เขาลุกขึ้นแต่กลับถูกรั้งไว้ให้นั่งทับที่เดิม

“อย่าเพิ่งลุกสิ รอให้พี่สงบอารมณ์ได้ก่อน”

“ผมนั่งทับแบบนี้มันจะสงบได้เหรอพี่”

“ไม่ได้หรอก”

“อ้าว แล้วทำไมไม่ให้ผมลุกล่ะ”

“ลุกไปก็ไม่หาย” นาวายิ้มยั่ว

“อ้าว! แล้วต้องทำยังไงล่ะครับ”

“สองก็รู้นี่นา ว่าต้องทำยังไง” นาวาซุกมือสองข้างใต้เสื้อของสอง ไล้นิ้วใหญ่สัมผัสหน้าอกแบนราบ ฝังจมูกที่ซอกคอแน่น ริมฝีปากบดเม้มไล้เรื่อยถึงหัวไหล่ สองหอบหายใจแรงตามรอยสัมผัส หัวนมเม็ดเล็กชูชันตามแรงขยี้ นายอำเภอหนุ่มถอดเสื้ออีกฝ่ายออกเผยแผ่นหลังเนียนสีดำแดง กระดูกสันหลังปูดด้วยความผอมเกร็น ไรขนลุกชูชันด้วยความสยิว บั้นท้ายของสองบดเบียดกับท่อนลำของเขาไปมาด้วยความลืมตัว

   นาวาละมือจากอกแบน เลื้อยลงตามมัดกล้ามหน้าท้องและหยุดที่แก่นท้องน้อย สองรู้สึกหวิวหวามจนต้องครางกระเส่า มือใหญ่หนาปลดขอบกางเกงออกแผ่วเบา สองไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม บั้นท้ายเบียดผ้าแพรบางที่มีแก่นกายท่อนใหญ่เบียดเสียดรอการปลดปล่อย นาวาถอดมันทิ้งอย่างรีบร้อนปล่อยตัวเปลือยเปล่า สองสมองตื้อด้วยถูกมือหนึ่งกำรอบลำร้อนรูดขึ้นลงจนเสียวซ่าน บั้นท้ายกระดกไปมาด้วยความโหยหาและลืมตัว รูน้อยบดกับหัวบานใหญ่รอการรุกราน

   นายอำเภอพลิกตัวสองให้หันมานั่งหน้าขาใหญ่ สองคนสบตากันด้วยประกายหื่นกระหาย แท่งทวนสองชูชันเสียดสีกับหน้าท้องนายอำเภอ ริมฝีปากทั้งคู่บดเบียดฟาดฟัน กระแสไฟช็อตไปทั่วร่าง บั้นท้ายสองถูกยกจดจ่อกับท่อนเนื้อใหญ่ที่ชะโลมด้วยเจลถ้วนทั่วในจังหวะที่สองไม่รู้ตัว นาวากระชับสะโพกสองให้มั่น จ่อรูแคบด้วยปืนโต หัวบานค่อยๆสอดแทรกเข้าหลืบร่องทีละนิด สองเจ็บร้าวจนอ้าปากค้าง ซบหน้าที่ไหล่ขาวกว้าง น้ำตาไหลรินโดยไม่รู้ตัว

“เจ็บเหรอครับ”  สองพยักหน้าถูไถที่ไหล่แทนคำตอบ นาวาหยุดการเคลื่อนไหวให้ปลายปืนคารูที่บีบรัดแน่นราวกับพยายามผลักไสให้ท่อนลำหลุดออก “ก็พี่ไม่ทำแบบทุกครั้งนี่ครับ” สองพูดด้วยความยากลำบาก สองแขนกอดรัดลำคอแน่น ปลายนิ้วจิกกดแผ่นหลังเพื่อบรรเทา ปรกตินาวาจะต้องทำให้เขาคุ้นเคยก่อนจะบรรเลงเพลงรัก แต่ครานี้เขาให้ความต้องการครอบงำจนลืมนึกถึงความเจ็บปวดที่ฝังแผ่เข้าซอกหลืบน้อย

   นาวาพรมจูบที่ซอกคอสองแผ่วเบา สองตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บเหงื่อกาฬแตกพลั่กไหลเวียนทั่ว นาวาดูดเค้นที่คออย่างหื่นกระหาย ชิวหาซอกไซร้ใบหูฉกกระชากคว้านลึก สองครางอย่างลืมตัว นาวาอาศัยจังหวะสอดกดลึก ชายร่างเล็กกว่าผวาเฮือกกับความเจ็บที่แผ่ซ่าน สองมือคว้าไขว่หาที่จับตรงแผ่นหลังก่อนกดปลายนิ้วแน่น ปากกว้างงับที่ซอกไหล่ชายร่างยักษ์เต็มแรง แต่อีกฝ่ายหาได้รู้สึกเจ็บปวดไม่ หากมีแต่ความเสียวซ่านที่ตอดรัดท่อนลำแน่น ความร้อนในช่องแคบโอบรัดจนเขาแทบทนไม่ไหว นาวาใช้ความอดทนอย่างมากที่จะไม่เสยเข้าไปทีเดียวจนสุด เมื่อใดที่เขารับรู้ถึงแรงกัดที่หัวไหล่ เขาจะค่อยๆดันตัวสอดลึกเข้าทีละน้อย สองน้ำตาไหลเล็ด ความตึงที่บั้นท้ายเสียดแสบแล่นพล่าน เขารู้สึกปวดหน่วงราวกับถูกทึ้งกระชาก ความใหญ่โตบดเบียดเลาะลัดเข้าทีละนิด เขากัดไหล่หนาด้วยความปวดปร่าจนเลือดซึมและต้องกรีดร้องเมื่อนายอำเภอกระแทกท่อนลำสุดปลายโคน

“อื้อ เมียจ๋า” นาวาสบถ เขาใจจะขาดเมื่อร่องรูบีบแน่นจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้พลันรับรู้ถึงคามเจ็บแปลบที่หัวไหล่ “ซาดิตส์ก็ไม่บอกนะ กัดซะเลือดซึมเชียว” เขาแซว

“ก็ใครใช้ให้พี่แทงเข้ามาพรวดๆแบบนี้ล่ะ” สองต่อปาก นาวากระแทกบั้นท้ายปังใหญ่ “โอ๊ย เบาสิครับ ยังไม่หายเจ็บเลย”

“ใครให้ปากดีล่ะ” นาวายิ้มร่วน ดีใจที่ได้แกล้งคนตัวเล็ก

“ถ้ามันพังจนใช้งานไม่ได้ จะโทษผมไม่ได้นะ พี่รุนแรงเอง” สองยังไม่ล้มเลิกที่จะต่อปากต่อคำ

“พี่ไม่รุนแรงหรอก” นาวาพรมจูบที่ลำคอ ละเลงลิ้นโลมเลียจนสองซี๊ดปากก่อนที่บั้นเอวจะถูกยกขึ้น สองรู้สึกตัวเองเบาดุจใบไม้ที่ปลิดปลิวร่วงหล่นตามลมไหว นาวาถอนตัวแผ่วเบาให้ความใหญ่ไหลครูดตามรอยทาง ความเสียวแปลบแล่นดิ่งไปที่ปลายประสาท “อา...พี่อย่าทรมานผมเลย” สองร้องขอ เมื่อนาวาไม่ยิงตัวกลับมา เขารู้สึกคันยุบยิบตรงปากทางที่หัวทู่ใหญ่บานเสียบค้างไม่ยอมร่นแล่นกระแทกกลับ นาวาเลียริมฝีปากมองใบหน้าเหยเกที่กำลังร้องขอ สองมือยันบันท้ายไว้ไม่ให้อีกอีกกดทับลงมา “พี่จะทรมาน จนสองขาดใจตายตรงนี้” เขากระซิบข้างหูแผ่วเบา สองฉกลิ้นที่ติ่งหูหนา ใช้ฟันขบกัดเบาๆ เลื่อนปากเม้มซอกคอขาวของนายอำเภอที่กำลังเป็นต่อ ก่อนดึงใบหน้าหล่อนั้นมาประชิด

“ถ้าผมตาย พี่จะลืมผมไหม” สองถาม และประกบฝีปากอุ่นเบียดกระหวัดควานหาความอบอุ่น นาวาละมือจากบั้นท้ายมากอดร่างเล็กไว้ สองปล่อยให้ท่อนเนื้อดุ้นใหญ่ไหลกลับช่องรักอย่างโหยหา ความเสียวซ่านเสียดลึกจนสุดปลาย นาวายกบั้นท้ายบดเบียดดึงเข้าออกแม้ในยามที่ริมฝีปากทั้งคู่ต่างประกบแน่น สองหายใจหอบโยนราวกับจะขาดใจ บั้นท้ายถูกกระแทกเป็นจังหวะผับผับโครมครามราวกับคลื่นยักษ์กระแทกตลิ่ง มวลคลื่นมหาศาลไหลวนชนขอบจนแทบพังทะลาย เสียงลมหายใจของชายร่างใหญ่ช่างเซ็กซี่น่าหวงแหน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
   กลเกมหยุดกึก เมื่อสองถูกรั้งบั้นท้ายให้อยู่นิ่ง ร่างถูกพลิกอย่างง่ายดายราวกับเป็นคนไร้น้ำหนัก แผ่นหลังถูกรองด้วยหมอน สองขาถูกพาดที่ไหล่หนา บั้นท้ายชูเด่นในท่านอนหงาย นาวาถอนตัวออกจนสุด มองดูร่างเล็กผิวสีแทนสวยงามตรงหน้า ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะหักห้ามใจได้เลย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอยากเชยชม อยากทำมิดีมิร้ายปู้ยี่ปู้ยำให้สาสมใจเสียร่ำไป ประตูเล็กถูกเบิกกว้างอีกครั้ง ความฝืดคับถาโถมใส่ระลอกสอง ร่างเล็กสั่นเทาราวกับเด็กน้อย ความใหญ่โตเสียดแทงระลอกแล้วระลอกเล่าบดเบียดปลายทางด้วยแรงมหาศาล รูเล็กปูดปลิ้นด้วยความหฤหรรษ์ ความเจ็บแสบแปรเปลี่ยนเป็นความสุขอย่างบ้าคลั่ง สองลูบไล้ที่ไหล่หนา รอยกัดเป็นแผลลึกเลือดไหลซึมบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่เขาถูกสอดแทรก บั้นท้ายเล็กถูกเสียดสีหนักหน่วง ราวกับมีท่อนเหล็กใหญ่ยักษ์ทิ่มแทงลงทัณฑ์ รูแคบบีดรัดทำงานอย่างหนัก เลือดไหลซึมเพราะถูกความใหญ่ทะลวงทะลายหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง สองรับรู้ดีถึงความเจ็บปวด แต่เขาก็ยินดีที่จะรับความรู้สึกทั้งหมดที่ถูกสอดใส่เข้ามาจนมิดด้าม นาวาผู้มีแต่รอยยิ้มปลดปล่อยความตึงเครียดที่พบเจอทั้งหมดที่ร่างบางนี้ ราวกับวันพรุ่งนี้จะไม่มาถึง เขาปลดปล่อยความเสียใจที่ต้องสูญเสีย ความปวดร้าวที่ถูกผู้เป็นแม่บีบบังคับให้ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ความอิจฉาที่เห็นสองยิ้มกว้างต่อหน้าภรรยาและลูก เขาหน้ามืดตามัวด้วยความน้อยใจ ถาโถมแรงทั้งหมดที่มีใส่ร่างเล็กราวกับราชสีห์กำลังขย้ำเหยื่ออันโอชา

   ในมุมมืด...ร่างสูงใหญ่มองเกมกามด้วยแววตาแดงก่ำ ความริษยาเกาะกุมดวงจิตให้ยิ่งหม่นหมอง เจ้าคุณพิชัยมิอาจทัดทานสองคนที่กำลังเสพสมกันอยู่ได้ เขาไม่มีอำนาจใดๆที่จะหยุดยั้งถึงแม้จะเต็มไปด้วยความโกรธาเพียงใดก็ตาม แต่ความเสียใจล้นพ้นกลับมีมากเสียกว่า

“ขุนเสน่ห์เอ๋ย ที่รักของข้า...ใยท่านจักต้องตกหลุมรักลูกหลานคนนี้ของข้าเสียได้” เจ้าคุณพิชัยเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนเห็นภาพบาดตาได้อีกต่อไป

“ข้าจะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง...” ร่างทะมึนเลือนหาย พร้อมๆกับเสียงกระแทกสุดท้ายของชายชื่อนาวา...

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอน 12 จ้าาาาา
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
คลี่คลาย ไปเรื่อยๆ ..

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
กระจ่างไปอีกหนึ่ง  :pighaun:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
 ภพ: สัญญา ตอน 13


พฤษภาคม 2516


   สองใช้ฤดูร้อนหมดไปกับลูกชายของเขาที่เชียงใหม่ ปีนี้ฝนตกเร็วกว่าที่คิด แค่ชั่วลมหายใจก็ต้องพาลูกชายไปส่งให้ผู้เป็นมีที่กรุงเทพ สองอยากจะพาลูกนั่งรถไฟแต่นาวาอาสาขับรถมาส่งด้วยตัวเอง ฝนตกหนักมาตลอดทางจนต้องค่อยๆคืบมาทีละนิด ยามย่ำค่ำไร้แสงและข้างทางมืดมิดด้วยห่าฝนที่โหมกระหน่ำ มันตกหนักขึ้นเมื่อเข้าใกล้กรุงเทพ


สองไม่ฝันถึงเจ้าคุณพิชัยอีกเลยตั้งแต่กลับจากงานศพน้องชายนายอำเภอคราวก่อน ไม่มีคำบอกลาหรือคำอธิบายใดๆทั้งสิ้นว่าทำไมท่านเจ้าคุณถึงยังผูกติดอยู่กับตัวเขาในอดีต มันคือความรักอย่างนั้นหรือ? แต่ภพภูมิของเขาเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ใช่อดีตเมื่อห้าร้อยปีก่อน เขาอยู่กับคนข้างๆที่เรียกว่าปัจจุบัน เขานอนเต็มตื่นมากขึ้น ไม่มีความฝันประหลาดมารบกวนใจอีก ราวกับว่าเจ้าคุณพิชัยได้จากไปแล้วตลอดกาล

   เสียงดังตูมใหญ่ดังก้องฝ่าสายฝน รถที่วิ่งมาส่ายสะบัดหมุนติ้ว เด็กน้อยกรีดร้องหมุนเด้งตามแรงเหวี่ยง สองตกใจหวีดดังเมื่อเห็นลูกน้อยลอยกระเด็นต่อหน้าต่อตา ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีแต่ภาพที่ลูกชายกระเด็นผ่านหน้าเขากลับดูเคลื่อนไหวช้าๆ ใบหน้าที่ตื่นกลัวกรีดร้องเรียกหาพ่อน้ำตานองหน้า สองพยายามเอื้อมมือคว้าแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว นายอำเภอพยายามประคองรถที่ส่ายเสียหลัก แม้สายฝนเริ่มซาไปบ้างแต่ถนนลื่นจนควบคุมไม่ได้ กระจกแตกละเอียดเมื่อร่างน้อยปะทะหลุดปลิวออกไปข้างนอกกระแทกถนนเสียงดังตุบ! เศษกระจกบาดใบหน้าและตามตัวสองหนุ่มที่นั่งอยู่ภายใน ศีรษะของสองชนโครมที่ขอบประตูฝั่งที่ตนนั่งเลือดอุ่นๆไหลอาบรินลามตามกกหูด้านซ้าย ก่อนประตูเปิดอ้าเหวี่ยงร่างเขาออกไปกลิ้งกองบนพื้น รถพลิกตัวหมุนกลิ้งหลายตลบ ร่างใหญ่ของนาวาถูกเหวี่ยงทะลุออกมาราวกับก้อนเนื้อก้อนหนึ่งตามมาไม่ห่าง สองรู้สึกมึนชา หูอื้อ ภายในมีแต่เสียงวี้ดวิ้วโครมคราม เขากระดิกนิ้ว ... มันยังใช้การได้ เลือดไหลอาบทั่วตัว จุดที่เขานอนเห็นร่างใหญ่ของนาวาแน่นิ่ง เขาขืนตัวเองลุกขึ้น

“ลูก!” เสียงเพรียกแหบพร่าของเขาไม่ได้ดังเท่าเสียงลมเลย ความมืดปกคลุมแผ่กว้างราวกับโรคร้าย สรรพเสียงเงียบสงัด ไร้รถราแล่นผ่านในยามที่ฝนเพิ่งหยุดตกครานี้

เงาใหญ่ทะมึนเคลื่อนตัวหยุดกึกข้างตัวเขา สองส่องสายตามองร่างที่ยืนคร่อมอยู่ “ท่านเจ้าคุณ”

“ใช่ ข้าเอง”

“ทำไมท่านอยู่นี่ได้” สองรับรู้ว่าตัวเองพูดออกไปแต่ริมฝีปากไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิด ท่านเจ้าคุณดูเหมือนจะเข้าใจเขาแม้จะไร้เสียงใดๆก็ตาม

“ทำไมน่ะรึ ข้าน่ะอยู่ที่นี่ตลอด ไม่เคยไปไหน มีแต่เจ้า” ท่านเจ้าคุณเสียงดุเยือกเย็น “มีแต่เจ้านั่นแหละขุน ที่ทอดทิ้งข้าไปเสียทุกครา!”

“ท่านเจ้าคุณ ช่วยลูกผมด้วย” สองน้ำตาริน น้ำเสียงแผ่วเบาด้วยความมึนชา “ช่วยลูกผมด้วย”

“เขาไปดีแล้วขุนเอ๋ย”

“ม่ะ ไม่จริง...ท่านเจ้าคุณช่วยลูกผมด้วย จะให้ผมทำอะไรก็ยอม” น้ำตาสองไหลรินด้วยความเจ็บปวด ลูกชายคนเดียวของเขานอนแน่นิ่งอยู่อีกฝั่ง โดยที่เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะเข้าไปดูเลยแม้แต่น้อย สองพยายามฝืนตัวเองลุก เขาจะต้องลุกให้ได้ จะต้องทำให้ได้ สองขาที่อ่อนล้าไม่ฟังคำสั่ง เขาคลานตัวตะกายไปหาลูกน้อยที่นอนราวกับกำลังหลับไหล

“ตาหนู ลูกพ่อ ตื่นสิลูก” สองมองใบหน้าขาวซีดเต็มไปด้วยเลือดของลูกชายด้วยความหมดหวัง เขาร่ำไห้ราวจะสิ้นสติ

“ท่านเจ้าคุณช่วยลูกผมด้วย ช่วยลูกผมด้วย” เขารวบรวมกำลังที่เหลือก้มกราบเงาใหญ่ทะมึนที่กำลังแสยะยิ้มพึงพอใจอย่างน่ารังเกียจ “จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม”

“เจ้าพูดจริงหรือ สองเอ๋ย?” เสียงนั้นดูกังขา สองพยักหน้าตอบ “สาบานสิว่าเจ้าจะยอมทุกอย่าง”

“ผมสาบาน ขอแค่ลูกผมปลอดภัย ผมยอมทุกอย่าง” ท่านเจ้าคุณฉีกยิ้มกว้าง ไร้ความเมตตาต่อร่างที่นอนแน่นิ่งด้วยกำลังพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“ได้ ข้าจะช่วยเจ้า แต่เจ้าจะต้องไปกับข้าแทน” สองไม่ประหลาดใจกับคำขอนี้เลย เขาคิดว่าเขาเข้าใจเจตนาของเจ้าคุณพิชัยกระจ่างแจ้งแล้ว

“ผมยอม ยอมทุกอย่าง” สองตอบทันทีแบบไม่ลังเล แค่ชีวิตเขาแลกกับชีวิตลูกตัวเอง เขายอมได้เสมอ

“พอเถอะท่านเจ้าคุณ” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง สองเอี้ยวไปมองรูปกายนั้นด้วยความยากลำบาก ความเจ็บแล่นทั่ตัว เลือดที่ไหลอาบยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หยาดฝนซะล้างรอยเลือดเป็นทางแดงยาวไหลลงตามพื้นถนน

“พี่นาวา” เขาอุทานตาเบิกโพลง ร่างของนายอำเภอนอนแน่นิ่งอยู่ แต่กลับมีอีกร่างหนึ่งเดินมาอย่างสง่างาม

“ดูดีๆสิสอง เราไม่ใช่พี่ใหญ่หรอก” สองถอนหายใจ เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้า ตอนนี้เขาอยู่ใกล้ความตายแค่คืบ และยังเจอวิญญาณอีกตั้งสองดวง



ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
“เจ้าเป็นใคร?”

“ท่านเจ้าคุณจำลูกหลานตัวเองไม่ได้เหรอครับ ผมนเรนทร์ น้องชายพี่นาวาที่นอนตรงนั้นไง” เสียงนั้นตอบทีเล่นทีจริง ราวกับว่าเหตุการณ์เบื้องหน้าเป็นแค่เรื่องขำขัน

“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า บอกมาว่าทำไมเจ้าถึงมาขวางข้า”

“ผมมาขวางท่านไม่ให้สร้างบาปเพิ่มต่างหาก”

“สร้างบาปเพิ่ม หมายความว่าอะไรครับ” สองถามเสียงแผ่วเบา ริมฝีปากเขาปิดแนบแน่นด้วยไร้เรี่ยงแรง มันเป็นเสียงจากภายในจิตใจของเขาที่พยายามสื่อสารกับทั้งคู่

“ท่านเจ้าคุณ หยุดเถอะ” นเรนทร์ขยับตัวแผ่วเบาเข้ามาใกล้ “ทั้งฝนกระหน่ำ ทั้งยางรถแตก ทุกอย่างเพราะท่านทั้งนั้น ถูกไหม?”

“หุบปาก ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!” ท่านเจ้าคุณตวาด

“ในฐานะลูกหลานของท่าน ผมขอร้องให้ท่านหยุดเถอะ”

“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย”

“อย่างน้อย แม่ของผมก็ทำบุญให้ท่านจนท่านมีกำลังแบบนี้ ท่านไม่คิดหรือว่าแม่จะเสียใจแค่ไหนที่ทำบุญเพื่อให้ท่านทำร้ายลูกชายขอตัวเองต้องนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น” นเรนทร์หันมองร่างพี่ชายที่นอนไร้สติ

“นี่มิใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า หญิงเล็กก็คือลูกสาวข้าเช่นกัน”

“แต่นั่นมันนานมาแล้ว ท่านเจ้าคุณ มันหลายร้อยปีมาแล้ว”

“เป็นลูกข้าชาติหนึ่ง ก็คือลูกข้าตลอดไป” ท่านเจ้าคุณเสียงแข็ง และหันมาพูดกับสองเมืองที่ฟุบตัวอยู่เบื้องหน้า “เฉกเช่นเจ้า เป็นเมียข้าชาติหนึ่ง ย่อมต้องเป็นของข้าตลอดไป”

“ทำไมท่านยังยึดติดในภพภูมิเก่าเช่นนี้ ท่านเจ้าคุณ”

“นี่มิใช่กงการของเจ้า หลีกไปเสียเด็กน้อย เจ้าไม่มีเหตุให้ต้องเกี่ยวพันกับเรื่องนี้” ท่านเจ้าคุณขับไล่อย่างโจ่งแจ้ง

“ท่านแน่ใจเหรอว่าผมไม่เกี่ยว” นเรนทร์ฉีกยิ้ม หากเทียบกันแล้ว นาวาไม่ได้มีรอยยิ้มที่หล่อเหลาแบบนี้เลย “ในเมื่อขอในฐานะลูกหลานไม่ได้ งั้นข้าขอในฐานะ ไอ้โจรเขมได้ไหม”

สองตาเบิกโพลง เจ้าคุณพิชัยก็เฉกเช่นกัน

 “ถ้าท่านยังยืนกรานจะให้เป็นแบบนี้ ข้าขอท่าน ในฐานะที่ท่าน...ข่มเหง...ขุน ลูกชายผมเมื่อชาติปางก่อน หยุดการกระทำนี้เสีย” น้ำเสียงนเรนทร์กร้าวปนเปด้วยความโกรธ

“พ่อเขม” สองทวนคำ

“ใช่ ชาติกระโน้นผมคือพ่อเขมของคุณ”

“แล้วทำไมพ่อเขมไม่ช่วยตาหนู หลานพ่อล่ะ” สองตัดพ้อ

“สองเอ๋ย ภพภูมินั้นมันจบไปแล้ว ชาตินี้ผมชื่อนเรนทร์ เป็นลูกคุณหญิงรัมภาพร เป็นน้องชายพี่นาวา ที่ผมทำได้ คือต้องปกป้องคนในครอบครัวก่อน” สองสะอึก

“ท่านเจ้าคุณ หากท่านยังยึดติดกับอดีต ผมก็จะขอให้ท่านเห็นแก่อดีตครั้งนั้น เห็นแก่ความตายของผมบนเรือนนั้น เห็นแก่ความเป็นพ่อลูกของผมกับขุน ปล่อยสองไปเถอะ”

“ไม่ได้” เจ้าคุณพิชัยยื่นคำขาด

“ไม่เป็นไรครับคุณนเรนทร์ ผมไม่เป็นไร ขอแค่ท่านเจ้าคุณช่วยตาหนูไว้ ผมยอมไปกับท่านครับ”

   ท่านเจ้าคุณกระชากร่างสองที่นั่งสงบอยู่พื้นถนน ความปรารถนาที่ถูกจองจำไว้ห้าร้อยปีจะเป็นจริงแล้ว ขุนเสน่ห์จะกลับมาอยู่กับเขาในภพภูมิที่เป็นนิรันดร์ ไม่มีความเจ็บ ไม่มีผู้ใดแทรกแซง จะไม่พรากจากกันไปไหนได้อีก สองสงบกว่าที่คิด ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่การที่ปล่อยให้ลูกตัวเองตายต่างหากที่น่ากลัวยิ่งกว่าใดๆทั้งหมด ท่านเจ้าคุณใช้เวลามากโขกับการพยายามปลิดชีพสอง เขาพยายามดึววิญญาณของสองเมืองให้หลุดลอยแต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกหนักหน่วง ทั้งๆที่วิญญาณเป็นจิตอย่างหนึ่งที่ไร้น้ำหนัก แต่ยิ่งเขากระชาก กลับยิ่งเหมือนโดนยื้ดแย่งกลับ

“ทำไมข้าดึงวิญญาณเจ้าไม่ได้” เจ้าคุณพิชัยรำพันด้วยความเสียงประหลาดใจ

“ทำไมน่ะเหรอ” วิญญาณอีกดวงหนึ่งพูดแทรก “ก็เพราะสองยังไม่ถึงที่ตายน่ะสิท่าน แล้วอีกอย่าง สองเพิ่งสละชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับลูก ผลบุญใหญ่นี้ทำให้ท่านเข้าไม่ถึงเขา ผลบุญนี้ส่งให้เขาอยู่ในระดับที่สูงกว่าท่านแล้ว”

“ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ!”

“ยอมรับความจริงเถอะท่านเจ้า และอย่าลืมรักษาสัจจะที่ให้ไว้ด้วยล่ะ” นเรนทร์หัวเราะก้องด้วยความสะใจ

“ถ้าข้าไม่สมหวัง เอาเจ้าไปอยู่กับข้าด้วยไม่ได้ เจ้าก็จงอย่าสมหวังเลย” เจ้าคุณเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “สาบานกับข้าสิขุน ว่าหากข้าช่วยลูกชายเจ้าแล้ว เจ้าจะออกไปจากชีวิตผู้ชายที่นอนอยู่ตรงนั้น” ท่านเจ้าคุณชี้ไปทางร่างใหญ่ที่นอนนิ่ง เขารู้สึกสะอิดสะเอียนและรังเกียจบุคคลนี้มาร่วมห้าร้อยปี ลูกชายในชาติก่อนที่แสนจะเลวทรามมาแย่งเมียเขา ในชาตินี้ยังตามมาครองรักกันสุขสม ความแค้นที่ฝังบ่มช้าๆหลายศตวรรษสุมทรวงจนไม่อาจแงะงัดทิ้งไปได้

   สองน้ำตาไหล เขาไม่มีทางเลือกใดๆเหลือแล้ว นึกถึงคำขู่และข้อเสนอของคุณหญิงรัมภาพร ณ ตอนนั้น ทั้งเงินและที่ดินมากมายเพื่อให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับนาวา แต่เขามีศักดิ์ศรีและทางเลือกที่ดีกว่า แต่ตอนนี้ เขาไม่เหลือทางใดเลย ลมหายใจรวยรินของลูกชายทำให้เขาหมดสิ้นหนทาง

“ได้ ผมสาบาน ถ้าตาหนูของผมปลอดภัย ผมจะไม่เจอคุณนาวาอีกเลย”

“นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นะสอง”

“ถ้าผมไม่ทำ คุณช่วยลูกชายผมได้ไหม?”

“ผม...” นเรนทร์จนด้วยปัญญา เขาก็แค่คนที่ตายไปแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจใดๆที่จะช่วยเหลือคนที่ใกล้ตายได้ เจ้าคุณพิชัยยิ้มเยาะด้วยสาแก่ใจ

“รักษาคำพูดของเจ้าด้วยล่ะ ขุนเอ๋ย” สิ้นเสียงท่านเจ้าคุณ สองได้ยินเสียงไซเรนมาแต่ไกล น้ำตาเขาไหลรินเป็นทางด้วยความโล่งอกและเสียใจอย่างสาหัส

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ท่านแพ้อีกแล้ว ท่านพ่อเอ๋ย”

“ข้ารู้”

“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ?”

“ข้ามาไหว้วานเจ้าอย่างหนึ่ง”

“ว่ามาเลยค่ะท่านพ่อ”

“ช่วยเหลือคนชื่อสองและลูกของเขาให้ถึงที่สุด”

“แต่ก่อนหน้านี้ท่านพ่อยัง...”

“อย่าถามอีกเลยหญิงเล็ก ทำตามที่พ่อขอได้หรือไม่?”

“ได้ค่ะ หญิงจะทำตามที่ท่านพ่อขอ”

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าจงรักษาคำพูดและไปที่โรงพยาบาลทันที”

   เจ้าคุณพิชัยมองร่างแก่ชราที่นอนขดหลับไหลส่งเสียงพึมพำ สิ่งที่เขาต้องทำ คือรักษาคำสัตย์ มิเช่นนั้นความเคียดแค้นริษยาจากการเห็นคนรักในอดีตตกเป็นของบุตรชายที่เขาแสนจะเกลียดจะดำเนินต่อไป เพื่อหยุดความเจ็บปวดจากสิ่งนี้ แม้จะต้องพรากคนรักกัน เขาก็ยอม

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

“พี่ใหญ่จะเป็นอะไรมั้ยครับ” สองนอนแน่นิ่งในรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่หลายคนกำลังช่วยทำแผลเบื้องต้นให้เขาก่อนจะนั่งเรียงรายกันในรถ

พร้อมกับนเรนทร์!

“ไม่เป็นไรหรอกสอง ผมช่วยเต็มความสามารถแล้ว” นเรนทร์ตอบ

“แล้วทำไมคุณไม่ช่วยตาหนูของผมล่ะครับ?”

“ผมเป็นผีนะครับ ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร ผมทำได้แค่ปกป้องพี่ชายผมเท่านั้น”

“แล้วคุณทำยังไงล่ะครับ ในเมื่อคุณเป็นผี?”

“เรานี่ ถามเยอะจังวุ้ย! เรื่องของผี คนเป็นอย่ารู้เลย”

“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยพี่ใหญ่” สองน้ำตาริน

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก พี่ชายผมทั้งคน”

“แล้วเขาเป็นอะไรไหม?”

“ไม่เป็นไรหรอก เขาจะไม่เป็นไร”

“แล้วชาติก่อนนั้น...”

“ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะสอง อย่ายึดติดกับอดีตเลยนะ”

“ครับ...แต่ผมแค่อยากรู้”

“อยากรู้อะไรอีกล่ะ...นอนเถอะ นายต้องการการพักผ่อน” เสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านหน้าโรงพยาบาลไม่ทำให้สองตื่น เขาหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย คำพูดสุดประหลาดตลอดระยะทางมาที่นี่เป็นเรื่องชาชินของทั้งหมอและพยาบาลเสียแล้ว เขาเคยเห็นมาหลากหลายรูปแบบจนคิดว่ามันเป็นเรื่องปรกติ

   นเรนทร์มองดูสองที่โดนเข็นเข้าในโรงพยาบาลช้าๆ แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องจ้า พร้อมๆกับร่างกายที่เจือจางและหายไปราวกับอากาศธาตุ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จบตอน 13


ปล เผื่อมีคนสงสัยว่าทำไมนเรนทร์ไม่ไปรถคันเดียวกับนาวา
นาวาติดต่อวิญญาณไม่ได้นะครับ ที่เคยฝันเห็นเจ้าคุณก็เพราะสอง
(มีเฉลยกลายๆในเรื่องแล้วนาจา แต่ไม่ได้เขียนซ้ำ อธิบายนอกรอบเอา)

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
สงสารเด็กน้อยจัง แรงรักแรงแค้นช่างหน้ากลัวนัก
รอตอนต่อไปค๊าคนเขียน :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ใกล้จบแล้วน้าาาาา...มาอ่านต่อกันครับ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ภพ: สัญญา ตอน 14

   สองเมืองมองนาวาที่นอนหลับไหลบนเตียงผู้ป่วย คุณหญิงรัมภาพรให้เวลาเขาอยู่กับลูกชายเธอเป็นครั้งสุดท้าย สองยังแปลกใจที่เธอยอมให้เข้ามาอยู่ในห้องนี้ลำพัง คนที่นอนอยู่ไม่มีบาดแผลตามตัวแต่ยังไม่ได้สติเหมือนนอนหลับไปชั่วครู่ สองเสียอีกที่มีแต่รอยแผลทั้งรอยกระจกบาด แขนขาถลอกจากการครูดไปกับถนน กระนั้นเขาก็นอนไม่หลับ รู้สึกราวกับร่างกายแข็งแรงเสียจนบาดแผลแค่นี้ทำอะไรไม่ได้ ความว้าวุ่นกระวนกระวายในตัวลูกน้อยและคนรัก ทำให้เขาร้อนรนจนไม่อาจจะนอนอยู่นิ่งๆได้
เขานั่งลงข้างเตียงจับมือใหญ่แน่นจับจ้องภาพคนเบื้องหน้าให้ถึงที่สุด ถึงแม้ปริ่มจะร้องไห้ปานใด แต่ก็ต้องทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น สมองของเขาว่างเปล่า ความรู้สึกทั้งหมดมันเกินความเสียใจไปเสียนัก ก่อนหน้านี้เขามีความสุขราวกับกำลังโผบินบนท้องฟ้า แต่วันนี้เขาเป็นดั่งนกปีกหัก ถูกกระชากให้ถลาลู่ลมกระแทกพื้นโครมใหญ่จนเต็มไปด้วยบาดแผล แต่มันคือบาดแผลทางใจที่กรีดลึกและไม่อาจเยียวยาได้อีก

“ผมขอโทษครับพี่” สองพูดแผ่วเบาข้างๆหูนาวา เสียงลมหายใจแผ่วเบาคล้ายเสียงกรนตอบรับราวกับรับรู้ได้ถึงความเสียใจ

“ผมรักพี่นะครับ” น้ำตาเขาหยดริน โน้มตัวจูบที่หน้าผากขาวซีด

“แต่ผมต้องทำตามสัญญา” เขาเชื่อสนิทใจว่าเจ้าคุณพิชัยจะต้องช่วยเหลือลูกชายของเขาอย่างถึงที่สุด หากเขารักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ ลูกชายเขาจะปลอดภัย สองมองร่างที่นอนนิ่งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินออกไปจากห้องพักผู้ปวย

“นี่คือเอกสารทั้งหมด ชั้นจัดการเสร็จแล้ว หวังว่านายคงจะรักษาสัญญานะ” รัมภาพรจัดแจงทุกอย่างพร้อมสรรพ เธอนัดหมายเจ้าหน้าที่ราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ด้วยเส้นสายและอำนาจเงินที่มี ทุกคนต่างพร้อมใจมาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงแม้กรุณาจะยังงงงวยและเศร้าเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้นมาก็ตาม แต่เธอก็ต้องจำยอมยกลูกชายเป็นบุตรบุญธรรมของคุณหญิงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อข้อเสนอที่จะดูแลค่ารักษาการผ่าตัดสมองและตามร่างกายหลายส่วนทั้งหมด ด้วยวิทยาการแพทย์สมัยใหม่ที่มี แต่ต้องตกลงที่เงื่อนไขเดียว

“ครับ ผมจะรักษาสัญญา” สองบีบมือแน่น ความคับแค้นใจอัดแน่นพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ น้ำตาผุดผาดที่เขาต้องสะกดกลั้นไว้ มีแต่ความสั่นเทาทั่วร่างที่บอกถึงความคับข้องหมองใจจนแทบทนไม่ไหว

“ดี งั้นตกลงตามนี้ นายไม่ต้องห่วง ชั้นก็มีศักดิ์และศรีพอที่จะรักษาคำพูดเหมือนกัน” รัมภาพรพูดจบพลางสะบัดตัวหนี ทุกอย่างกำลังจะกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง เสี้ยนหนามใหญ่ถูกถอนรากถอนโคนหมดแล้ว

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

   สองนอนเฝ้าลูกน้อยไม่ห่าง ช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมาเหมือนฝันร้าย เขานึกถึงช่วงเวลาตลอดฤดูร้อน ที่สองพ่อลูกไปเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยกัน ตาหนูยังยิ้มอย่างเริงร่าและมีความสุข ภาพที่ลูกชายของเขาถูกเหวี่ยงจนกระเด็นหลุดไปนอกรถยังติดตา ใบหน้าหวาดกลัวนั้นกรีดแทงใจผู้เป็นพ่ออย่างเขาเสียยิ่ง และมันยิ่งกดทับจิตใจหนักหน่วงเมื่อเขาทำอะไรกับมันไม่ได้เลย

“พี่ตัดสินใจดีแล้วเหรอพี่สอง” กรุณานั่งข้างๆอดีตสามีที่อดหลับอดนอนมาหลายคืน เขาดูซูบผอมลงไปพอสมควร บาดแผลตามตัวดีขึ้น สองเมืองไม่ได้พักผ่อนเลยนับตั้งแต่วันนั้น ทั้งเขาและเธอต่างใจจดจ่ออยู่กับอาการของลูกชาย การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี “อืม...พี่ฝากนาดูแลลูกด้วยนะ”

กรุณาพยักหน้า “ได้สิพี่ ลูกฉันทั้งคนนะ”คุณหญิงรัมภาพรจัดแจงหาที่อยู่ใหม่ให้กับครอบครัวเธอทันทีเพื่อป้องกันลูกชายเธอออกตามหา ยิ่งเธอได้ยินว่าสองเมืองยอมรับเงื่อนไขว่าจะไปจากชีวิตนาวาแทบจะทันที เธอจึงไม่ลังเลที่จะจัดการทุกอย่างโดยเร็ว และบังคับทุกคนที่รู้เรื่องปิดปากให้สนิท กรุณารู้สึกสลดใจกับเรื่องที่รับรู้ ถึงแม้มันจะน่ารังเกียจเพียงใด แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ สองตัดสินใจแบบนี้ก็เพื่อรักษาชีวิตลูกชาย และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องเห็นด้วย

“แต่พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นี่นา”

“อย่าห้ามพี่เลยนา...พี่มันคนน่ารังเกียจ ถ้าตาหนูรู้ว่าพ่อของตัวเองมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน จะกลายเป็นปมด้อย” กรุณานิ่งงัน เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น วินาทีแรกที่รู้เรื่อง เธอถึงกับทรุด ปลายประสาทชาไร้เรี่ยวแรง ชายที่เคยร่วมหอลงโลงกันมาแปรเปลี่ยนจนเธอแทบรับไม่ได้ ถึงตอนนี้เธอได้แต่อยู่เงียบๆ จมเจ่าเฝ้าดูอาการของลูกชายและภาวนาให้เขาหายดี

   สองจับใบมรณะบัตรของตัวเอง พร้อมกับเอกสารทางราชการใหม่ที่ได้รับ “นายนเรนทร์ พิทักษ์นาวา” ชื่อเดียวกับบุตรชายคนรองของคุณหญิงรัมภาพร เธอมิได้แจ้งกับราชการเรื่องการจากไปของบุตรคนรองด้วยเพราะทำใจไม่ได้ แต่เมื่อต้องให้ใครสักคนตายไปเสีย รัมภาพรยินดีที่จะหยิบยื่นให้กับสองเมือง แต่ยังคงให้คนที่ชื่อนเรนทร์ยังมีชีวิตอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
“ท่านหาเราเจอแล้วหรือ เจ้าคุณพิชัย?”

“ทำไมเจ้าต้องทำเยี่ยงนี้ด้วย ขุนเอ๋ย?” ร่างใหญ่ทะมึนทรุดนั่งเบื้องหน้า ดวงตาแดงก่ำฉายแววเศร้าหมอง

“เราทำสิ่งใดไม่ดีอย่างนั้นหรือ?”

“มิใช่อย่างนั้นดอก...” เสียงเยือกเย็นนั้นสั่นเครือ “แต่ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้?” เจ้าคุณพิชัยก้มกราบพระธุดงค์ที่อยู่เบื้องหน้า เขาเสาะค้นหาชายที่สองเมืองมาร่วมสามปี แต่มิได้พานพบ ดวงจิตร่ำไห้เสาะแสวงหาด้วยความโศกา หากแต่วันหนึ่งที่หยุดพร่ำเพรียก ตั้งจิตภาวนาบำเพ็ญศีลและธรรม ทำให้เขาได้พานพบพระรูปหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้

“ท่านจำที่แห่งนี้ได้ใช่ไหม?”

“ขอรับ พระคุณเจ้า”

“ชาติก่อนโน้น ท่านบังคับให้เด็กคนหนึ่งต้องสาบานต่อหน้าองค์เจดีย์นี้” เจ้าคุณพิชัยมองความเก่าแก่ของเจดีย์ใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามและรุ่งเรือง “แต่กลับกลายเป็นว่าคำสาบานนั้นผูกมัดตัวท่านเสียแน่นขนัด จนท่านมิอาจไปที่แห่งใดได้”

“กระผมยินดีขอรับ ถึงแม้จะต้องรออีกกี่ร้อยปี แต่เพื่อได้พานพบกับท่านอีกครั้ง กระผมยินดียิ่งนักขอรับ...ขุนเสน่ห์ดวงใจข้า” พระคุณเจ้ามิได้ตอบโต้ หากแต่ลืมตามองดูเงาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุรุษกำยำร่างใหญ่

“ตื่นเถิด เจ้าคุณพิชัย หากท่านยังเป็นเช่นนี้ อีกกี่ร้อยปีท่านก็จะไม่พบทางสว่างที่แท้จริง”

“พระคุณเจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรรือขอรับ” เสียงลมหนาวพัดหวีดหวิว พระธุดงค์ปักกลดในป่าข้างเจดีย์ร้าง มีเพียงผ้าเหลืองและมุ้งผืนบางกั้นลมหนาวเท่านั้น ร่างกายที่เคยกำยำแข็งแรงผ่ายผอมเสียถนัดตา

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คงใกล้แยกย้ายแล้วสินะท่านเจ้าคุณ

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
คงใกล้ จบสิ้นแล้ว

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ใกล้จบแล้วววววว รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วครับ
ทีแรกจะตัดจบตั้งแต่ตอนนี้ แต่พอดีเหลือเงื่อนงำนิดหน่อย
เลยต้องยืดไปอีก 2 ตอน กลายเป็นจบตอนที่ 17

ฝากช่วยอ่าน แนะนำ บอกต่อและเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ

ปล ผมกำลังเขียนเรื่องใหม่ เร็วๆนี้ก็จะได้อ่านกันแล้วววว

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
 ภพ: สัญญา ตอน 15

พุทธศักราช 2548

“คุณพ่อ! ทำไมจู่ๆเปิดประตูมาแบบนี้คะ หนูกำลังโป๊อยู่เห็นมั้ย”

“ชั้นก็อยากเห็นหน้าหลานชั้นน่ะสิ แต่ว่าแกจะอายทำไม แกเป็นลูกชั้นนะ”

“โอ๊ย พ่ออย่าทำเป็นว่าพ่อรักหนูเลยค่ะ ยี่สิบแปดปีมานี้พ่อเคยกอดเคยหอมหนูกี่ครั้งกันเชียว” ชายแก่มองเด็กน้อยที่กำลังดูดนมจากผู้เป็นลูกสาว เขาเบือนหน้าหนีเสียทุกครั้งที่เห็นรอยแผลตรงช่วงอกของเธอ ตั้งแต่เล็กจนโต เขาได้แต่หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้เป็นลูกแท้ๆของตัวเอง

“เราอย่าเถียงกันเลย ขอพ่ออุ้มหลานหน่อย”

   เด็กน้อยถูกส่งผ่านมาที่มือใหญ่ของชายชรา ดวงตาปิดสนิท ปากนิดจมูกหน่อยดิ้นขลุกขลักในห่อผ้า ชายแก่สัมผัสมือแผ่วเบาตามใหน้าหนูน้อย “พ่อล้างมือมารึยังคะก่อนมาจับลูกหนูเนี่ย” เขาไม่ได้สนใจเสียงบ่นของบุตรสาวเท่าใดนักเพราะกำลังซึมซับความยินดีและปลาบปลื้มใจที่ได้อุ้มหลานชายในอ้อมกอด

“พ่อ หนูไม่ได้ว่าพ่อแรงขนาดนั้น พ่อร้องไห้ทำไมคะ”

“เปล่าหรอก ลูกไม่ได้ว่าอะไรพ่อหรอก” ชายชราร่ำไห้พลางกอดหลายชายอย่างรักใคร่และทะนุถนอม

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ท่านตรึกตรองดีๆสิท่านเจ้าคุณเอ๋ย ว่าเหตุใดจึงติดตามข้ามาจนถึงชาติปางนี้” พระคุณเจ้าถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“กระผมเฝ้ารอท่าน เพื่อจะให้เราได้กลับมาครองรักกันอีกครั้งหนึ่งขอรับ”

“แล้วเหตุใดท่านจึงต้องรอข้าด้วยเล่าท่านเจ้าคุณ”

“เพราะข้ารักท่านไงขอรับ ท่านคือขุนของข้าเมื่อชาติที่แล้ว และคือขุนเสน่ห์ของข้าในชาติก่อนหน้านั้น” น้ำเสียงของเจ้าคุณพิชัยเดือดดาลแต่กลับแฝงไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจมากกว่าจะโกรธขึ้ง

“ทำไมท่านถึงมั่นใจว่าข้าคือขุนเสน่ห์ของเจ้านักล่ะ”

“เพราะรอยแผลเป็นที่หูท่านขอรับพระคุณเจ้า ก่อนท่านขุนเสน่ห์จะสิ้น เขามีรอยแผลเป็นที่ใบหูขอรับ” พระธุดงค์หลับตาอีกครั้งเพื่อให้เห็นกายของบุรุษร่างใหญ่ การลืมตาสนทนากันนั้นท่านจะเห็นเพียงแค่เงาดำตะคุ่มเท่านั้น

“และชาติที่แล้ว ข้าก็ได้เจอเด็กคนหนึ่งถูกพามาที่เรือนด้วยพ่อเลี้ยงของเขา ข้าจดจำรอยแผลเป็นที่ใบหูนั้นได้ทันที ข้าจึง...”

“หยุดเล่าเถิดท่านเจ้าคุณ เรารู้เรื่องราวทุกอย่างแล้ว”

“ท่านรู้แล้วหรือขอรับ เมื่อท่านรู้แล้ว เหตุใดท่านจึงไม่มาอยู่กับข้าเล่า”

“มันไม่มีประโยชน์อันใดหรอกหากเราต้องไปอยู่กับท่าน”

“เพราะเหตุใดขอรับพระคุณเจ้า?” คำถามเจือไปด้วยความกังขา ยิ่งสนทนาเขายิ่งไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังได้ยิน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

พุทศักราช 2553

“คุณตาเล่านิทานให้ผมฟังหน่อยสิครับ” เสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วอยู่ข้างตัวชายชรา

“ได้สิ อยากฟังเรื่องอะไรล่ะ”

“เรื่องนี้ครับคุณตา” เด็กน้อยวิ่งลงไปหยิบหนังสือนิทานเล่มเล็กให้ชายแก่ก่อนจะขึ้นมานั่งบนบนตัก ผู้เป็นตาหอมกอดด้วยความรักใคร่ เด็กน้อยยิ้มเริงร่าและออดอ้อนตามประสา

“คุณพ่ออย่าตามใจตาหนูให้มากนักนะคะ เดี๋ยวลูกหนูเสียคน” เสียงหนึ่งตะโกนออกมาจากในบ้าน

“พ่อยังไม่ทันทำอะไรเลย แค่จะเล่านิทานเท่านั้น” ชายแก่เปิดหนังสือนิทาน เด็กชายพิงตัวซบหน้าอกที่เคยกำยำของผู้เป็นตาอย่างคุ้นเคย

   นิสาส่ายหัว ตั้งแต่มีหลานคนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้เป็นพ่อดีขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแสดงความรักกับเธอแทบจะนับครั้งได้ ไม่เหมือนกับน้องชายเธอที่ผู้เป็นพ่อให้ความเอาใจใส่มากกว่า พ่อไม่เคยอาบน้ำให้ ไม่เคยมองแผลเป็นที่หน้าอกเธอ ไม่เคยโอบกอดเธอเหมือนพ่อคนอื่นๆ ความเฉยชาของเขาก่อให้เกิดช่องว่างที่เกินจะเยียวยา แต่มันก็ยังไม่สายจนเกินไป เพราะนับแต่มีตาหนูเขามา ชายชราเปลี่ยนแปลงไปเสียจนเธอแปลกใจและเมื่อไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา พ่อเป็นชายแก่ที่น่าสงสารคนหนึ่ง และยังเป็นคุณตาที่ยอดเยี่ยมมาก

“อย่าบ่นนักเลยคุณ คุณพ่อยังไม่ทันทำอะไรเลยคุณก็บ่นเสียยกใหญ่ละ” สามีของเธอปรามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

“หยุดเข้าข้างคุณพ่อเลยนะคะพี่สิน” นิสาแหวสินธรผู้เป็นสามี ผู้เป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆของเธอเฉกเช่นกัน

“ผมไม่ได้เข้าข้างคุณพ่อนะ แต่อย่างน้อยท่านก็รักตาหนูไม่ใช่เหรอ”

“พี่สินจะสื่ออะไรมิทราบ นิไม่เข้าใจ” เธอประชด

“พี่ก็จะสื่อว่า อย่างน้อยคุณพ่อก็เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่มึนตึงกับนิเหมือนสมัยก่อน” นิสาเห็นด้วย หากไม่มีสินธรบุตรชายบุญธรรมของคุณย่า เธอคงเติบโตมาแบบเด็กขาดความอบอุ่นและเคว้งคว้าง ข้างกายเธอมีแต่สินธรนี่แหละที่คอยดูแลโอบอุ้มจนแปรเปลี่ยนเป็นความรักในที่สุด

“แต่ดูคุณพ่อจะทั้งรักทั้งหลงตาหนูเลยนะคะ” นิสาตั้งข้อสังเกต

“คนแก่ก็งี้แหละนิ เห่อหลานชายคนโตไง” นิสาพยักหน้าเชิงเห็นด้วย ก่อนจะเหความสนใจทำกับข้าวต่อไป

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ท่านไม่รู้ หรือท่านไม่เปิดใจที่จะรับรู้ล่ะ เจ้าคุณพิชัย” น้ำเสียงของพระธุดงค์ราบเรียบและใจเย็น

“หยุดยอกย้อนข้าเสียทีเถิดพระคุณเจ้า ท่านให้สัญญากับข้าไว้ ท่านจำได้ไหม” เจ้าคุณพิชัยตวาดด้วยน้ำเสียงเหลืออด ยิ่งสนทนาแล้วยิ่งวกวนจนเขาหาทางไปต่อไม่ได้แล้วยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนถูกดูแคลนอย่างร้ายแรง

“จำได้สิ และเราก็รักษาสัญญานั้นอยู่ ท่านไม่เห็นหรือ”

“ข้า...เอ่อ กระผม...”พระคุณเจ้าตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉย จนอีกฝ่ายอึกอัก

“หยุดสร้างบาปแก่ตัวเองเสียทีเถิด เจ้าคุณพิชัย มันสิ้นยุคสมัยของท่านแล้ว ท่านควรจะไปในภพภูมิอื่นเสีย”

“ทำไมเจ้าต้องคอยไล่ข้าร่ำไป ท่านขุนเสน่ห์!” เจ้าคุณพิชัยตวาดด้วยน้ำเสียงเหลืออดอีกครั้ง ลมบ้าหมูกระโชกแรงอย่างไร้ที่มาทำให้อากาศโดยรอบเหน็บหนาวยิ่งกว่าเดิม แต่พระธุดงค์กลับสงบนิ่งราวกับไร้ความรู้สึกร้อนหนาวใดๆเลย

“ดูก่อน เจ้าคุณพิชัย...ดูเสียดีๆเถิด” พระธุดงค์ยื่นเหรียญกษาปณ์เก่าออกมา มันส่องแสงสีแดงวาววับราวกับทับทิม

“เหรียญของท่านไง ขุนเสน่ห์”

“มันไม่ใช่ของเราหรอก เจ้าคุณพิชัยเอ๋ย”

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


   นาวานั่งเคียงข้างโกศบรรจุเถ้ากระดูกของชายคนรักด้วยอาการโศกเศร้า ร่างกายผ่ายผอมจากการตรอมใจ

“กลับบ้านเถอะตาใหญ่ ใกล้มืดแล้ว”

“ไม่จริงใช่มั้ยครับแม่ สองยังไม่ตายใช่มั้ยครับ” น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินเป็นสาย รัมภาพรไม่กล้าตอบสิ่งอันออกมาด้วยกลับพิรุธ สิ่งเดียวที่ทำได้คือปล่อยลูกชายคนโตร้องไห้อย่างน่าเวทนาในอ้อมกอดเท่านั้น

“กลับบ้านเถอะพี่ใหญ่” เสียงน้องสาวร่วมมารดาเรียกทักจากในรถ เธอกำลังท้องอุ้ยอ้ายเดินลำบากจึงไม่ได้ออกมาหาคนทั้งคู่

“ทั้งตารอง ทั้งสอง ทุกคนทิ้งผมไปหมดแล้ว” นาวาสะอื้นไห้ ผู้ชายที่เขารักทุกคนตายไปเสียหมดแล้ว ทั้งพ่อ น้องชายหรือแม้แต่คนที่เขารักสุดหัวใจ

“ผมไม่มีใครแล้ว” นาวาทรุดตัวกองกับพื้น รัมภาพรต้องคอยตระกองกอดราวกับเป็นเด็กสิบขวบ

“ใหญ่ยังมีแม่ไงลูก ยังมีแม่นะ นะ” รัมภาพรสะท้อนใจที่เห็นแอของลูกชายตัวเองเฉกเช่นนี้ เธอไมคิดว่าเขาจะรักคนชื่อสองเมืองด้วยใจจริง คิดว่าเป็นความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนครั้งเก่าก่อน แต่เธอก็ต้องเข้มแข็งและยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจทำลงไปแล้ว เธอมองโกศติดกันที่เป็นของลูกชายคนรองแล้วก็ใจสลาย ถึงแม้จะผ่านมาครบปีแล้ว แต่ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะทำใจยอมรับความจริง

ความเศร้าโศกของลูกชายคนโตจึงส่งผ่านมาที่เธออย่างเข้าใจได้เป็นอย่างดี

ฟ้ายามใกล้ค่ำเปลี่ยนเป็นสีแดงอ้อยอิ่งก่อนเมฆคล้อยต่ำรอความมืดคลานคลืบ ลูกชายของเธอยังคงร้องไห้ตัวหอบโยนด้วยอาดูร

“เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น...เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น” รัมภาพรบอกตัวเองมาโดยตลอด เธอดูแลนาวาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเขาไม่อาจยอมรับการสูญเสียของสองเมืองได้ ลาออกจากงานราชการและเมาหยำเปจนไม่เป็นผู้เป็นคน ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น อีกไม่นาน นาวาจะต้องแต่งงานกับลูกสาวเจ้าสัวชื่อดัง เมื่อนั้นเขาจะเหความสนใจไปยังผู้เป็นภรรยา แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง...


 เสียงรถเคลื่อนตัวไปจากวัด ทิ้งให้ความมืดเข้ามาแทนที่ พระรูปหนึ่งยืนสงบนิ่งในระยะไกลเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมด

“กระผมอยากขออนุญาตออกธุดงค์ขอรับพระคุณเจ้า”

“ทำไมอยากทำอย่างนั้นล่ะ”

“กระผมคิดว่าตัวเองยังละทางโลกไม่ได้เลยสักนิด”

“แล้วมั่นใจหรือว่าถ้าออกไปแล้วจะละได้ กิเลสมันอยู่ที่ใจของเรา ไม่ใช่อยู่ที่สถานที่”

“กระผมขอลองดูก่อน ถ้ายังเห็นภาพนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน กระผมไม่มีทางอยู่อย่างสงบได้หรอก”

“แล้วแต่เจ้าแล้วกันนะ พระสอง”

“ขอบคุณมากขอรับ พระคุณเจ้า”

เสียงระฆังดังหง่างเหง่งบอกเวลาเช้า พระรูปหนึ่งตัดสินใจเดินเท้าเปล่าออกจากวัดมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ...

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


ปล ในส่วนคำแทนตัวของพระสงฆ์นั้น ผมอ้างอิงจากคำพูดตัวเองสมัยบวชเป็นพระนะครับ
อาจจะไม่ถูกต้องตามหลัก 100% แต่ก็ไม่ถือว่านอกรีตหรืออะไรแต่อย่างใด อย่าดราม่าเรื่องนี้กะเค้านะ

จบตอน 15 จ้า

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด