คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)  (อ่าน 169021 ครั้ง)

ออฟไลน์ lolli_candy99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รักแมกมาาาา แมกมาน่ารักกกกก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารแม็กม่าอ่ะ
แต่คุณแม่อิฐก็แากร้ายแต่ใจดีจริงๆด้วย

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คุณอิฐไม่ชัดเจนสักอย่าง!

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
แหม่...คุณแม่พูดได้ตรงเป้าเผงงงง  แมกม่าสู้ๆ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-11-

   -แม็กม่า-

   ระหว่างที่ผมเดินตามคุณอิฐออกจากห้องนั่งเล่น ผมก็มองแผ่นหลังกว้างนั่นสลับกับปลายนิ้วของตัวเองถูกอีกฝ่ายยึดไว้แล้วจับจูงเดินต่อไปจนกระทั่งพบพี่ดวงที่ถือจานผลไม้มาทางนี้พอดีเขาจึงหยุดเดิน

   “ขอบใจ” เขาเอ่ยสั้นๆ คว้าจานผลไม้นั่นแล้วจูงผมเดินออกไปนอกบ้าน

   ในที่สุดเราสองคนก็ไปหยุดยังซุ้มศาลาแปดเหลี่ยมสีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนที่มีต้นไม้ร่มครึ้ม

   “คุณพาผมมาที่นี่ทำไมเหรอครับ?” ผมเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

   “ก็เราจะได้นั่งคุยกันโดยไม่มีใครมาสอดน่ะสิ” คำตอบของเขาทำให้ผมพยักหน้าเข้าใจ แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้ไม่ยอมปล่อยจนเขาต้องก้มหน้ามองตาม แล้วก็รีบชักมือนั่นกลับไปทันทีเหมือนกับกลัวว่าผมจะเข้าใจผิดคิดว่าแกเป็นตาลุงโรคจิตที่ชอบแต๊ะอั๋งเด็กๆ (ถึงในความเป็นจริงจะใกล้เคียงกันก็เถอะ)

   ผมเป็นฝ่ายก้าวเท้าขึ้นไปนั่งบนศาลานั่นก่อน ขณะที่ก้มหน้าก็เหลือบตาขึ้นมองคุณอิฐเดินตามขึ้นมานั่งในระยะห่างกันประมาณหนึ่งแล้ววางจานผลไม้ที่ผมเห็นชัดว่าเป็นมะม่วงเอาตอนนี้ เพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมน้ำลายสอขึ้นมาทันที

   “มะม่วงหน้าบริษัทรึเปล่าครับเนี่ย?” ผมถามขึ้นแล้วนึกไปถึงซูกัสที่ชอบหาเรื่องอยากกินของพวกนี้ให้ต้องซื้อไปฝากอยู่เรื่อยทุกที

   “ใช่ ฉันตั้งใจซื้อมาฝากเธอ”

   “ขอบคุณนะครับ ถ้ามีน้ำปลาหวานด้วยก็คงดี” ไม่ใช่ว่าไม่อยากกิน แต่คิดว่ามะม่วงจิ้มพริกเกลือดูยังไม่อร่อยเท่าน้ำปลาหวาน

   “อ้าว... ฉันนึกว่าคนท้องจะอยากกินของเปรี้ยวๆ ซะอีก”

   “ต่อไปก็ไม่แน่นะครับอาจจะชอบ แต่บังเอิญตอนนี้ผมยังไม่เริ่มแพ้ท้องเลยครับ”

   “อ้อ...นั่นสินะ ก็เพิ่งเดือนนิดๆ เองนี่นา แล้วอย่างอื่นล่ะมีอะไรที่อยากกินไหม ไว้ฉันจะซื้อมาฝาก” 

   “ตอนนี้ผมไม่นึกอยากกินอะไรเลยครับนอกจากกาแฟ ไม่ได้กินมาสองอาทิตย์แล้วจะลงแดงตาย”

   “เธอติดกาแฟด้วยเหรอ งั้นทำไมไม่กินล่ะ ฉันก็ติดนะ ถ้าไม่ได้กินจะปวดหัว ง่วงนอนทั้งวัน”

   “ดื่มไม่ได้น่ะครับ ถึงหมอจะบอกดื่มได้แต่ต้องไม่มากก็เถอะ แต่ทางที่ดี ไม่ดื่มเลยจะดีกว่า”

   “อ๋อ... คนท้องเลยดื่มกาแฟไม่ได้สินะ” เขารำพึงกับตัวเองเบาๆ “ถ้างั้น เธอยากจะได้ทีวีหรือว่าโน้ตบุ๊กสักเครื่องไหม? จะได้ไม่เบื่อเวลาอยู่บ้าน”

   “ไม่ต้องหรอกครับ ลงไปดูกับแม่คุณก็ได้ ขืนขลุกตัวอยู่ในห้องไม่ออกมาดูโลกภายนอก คงโดนแขวะจนแผลเหวอะกันพอดี” ถึงผมจะคิดว่าการหลบหน้าไปเลยน่าจะสบายหูมากกว่า แต่จะให้หลบกันไปอีกตั้งหลายเดือนก็คงไม่ได้ สู้เผชิญหน้าแล้วปรับตัวเข้าหากันไปแต่เนิ่นๆ น่าจะดีกว่า ถึงยังไงผมก็ยังมีลูกคุณอิฐคอยหนุนหลังอยู่ทั้งคนนี่!

   “อืม... แต่ถ้าไม่มีอะไรทำจะเข้าไปเล่นคอมในห้องทำงานฉันก็ได้นะ”

   “ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่าคุณอิฐนี่ใจดีจัง เห็นผมร้องไห้ก็ตามมาปลอบ มาขอโทษแล้วยังซื้อของมาฝาก... เอ๊ะ!! หรือว่า...

   “คุณอิฐ... ถ้าคุณคิดจะเอาใจผมล่ะก็ ไม่จำเป็นหรอกนะครับ เดี๋ยวผมจะเคยตัว”

   “ฉันแค่อยากจะไถ่โทษน่ะ ที่พูดกับเธอแรงไปหน่อย แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเสียใจหรอกนะ”

   “อย่าคิดมากเลยครับ บอกแล้วไงว่าอารมณ์ผมแปรปรวนนิดหน่อย แต่ทิ้งไว้สักพักก็หายแล้ว อีกอย่างคุณก็เป็นเจ้านายด้วย จะดุจะด่าก็มีสิทธิ์ทั้งนั้น”

   “พ่อฉันเคยสอนน่ะ ว่าเป็นเจ้าคนนายคนจะใช้แต่พระเดชอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้พระคุณด้วยถึงจะดี”

   “ท่านคงเป็นคนใจดีนะครับ” ผมนึกถึงรูปวาดใหญ่ๆ ที่ติดอยู่กลางบ้านตั้งอยู่คู่กับรูปแม่คุณอิฐก็ทำให้คิดไปเช่นนั้น

   “ใช่ ใจดีมาก” เขาตอบรับ สายตาเหมือนกำลังระลึกถึงวันเวลาอันแสนสุข จึงมีรอยยิ้มบางๆ

   “คุณคงนิสัยเหมือนคุณพ่อ”

   “ก็เหมือนทั้งสองคนนั่นแหละ บางทีฉันก็ใจดี บางทีก็ฟอร์มจัด”

   “คุณหมายถึงแม่คุณใช่ไหม?” ผมถามยิ้มๆ

   “ตอนกลับมาจากคลินิกน่ะ เธอนั่งอยู่ข้างหน้าไม่รู้เห็นหรือเปล่าว่าคุณแม่นั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์ตลอดทางเลย ถึงปากจะประชดประชันนั่นนี่ แต่จริงๆ แล้วแม่คงดีใจมากนะที่มีหลาน”

   “คงไม่ใช่แค่แม่คุณคนเดียวหรอกครับ ถ้าใครมีลูกชายที่ชอบผู้ชาย พอรู้ว่ามีหลานได้ก็คงดีใจทั้งนั้นแหละ”

   “นั่นสิ... ทนๆ เอาหน่อยแล้วกันนะ ฉันเชื่อว่าแม่ต้องชอบเธอ” ผมอยากจะรู้นักว่าลุงแกเอาอะไรมาคิดกันว่าเป็นอย่างนั้น เอาอะไรมาเป็นเครื่องยืนยัน...

   “ทำไมครับ? คุณชอบผมแล้วเหรอ?”

   “ฮึ...”

   “ผมหมายถึงในฐานะลูกจ้างน่ะครับ ก็ถ้าขนาดคุณยังไม่ชอบผม ผมจะไปหวังให้แม่คุณชอบได้ยังไง”

   “อ๋อ ชอบสิ เธอออกจะว่านอนสอนง่าย สั่งอะไรก็ทำ ติดอยู่แค่... มองยากไปหน่อย”

   “มองยากยังไงเหรอครับ”

   “ไม่รู้สิ เวลาที่เธออยู่กับซูกัส เธอจะเหมือนมีพลังบางอย่าง ขี้บ่นแล้วก็จัดการเค้าจนอยู่หมัดจนบางทีฉันก็รู้สึกว่าเธอก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่กับฉัน... เธอกลับไม่ค่อยต่อรอง ไม่สร้างปัญหา ดูไม่มีพิษมีภัย มันดูต่างกันน่ะ”

   “ผมเป็นเพื่อนกับซูกัสมาตั้งหลายปีแล้ว รู้จุดอ่อนจุดแข็งนิสัยใจคอกันดี บางเรื่องผมก็จัดการเค้าได้ แต่บางเรื่องผมก็ต้องยอมเค้า แต่มนุษย์เราย่อมมีการปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอด ตอนอยู่กับเจ้านายจะให้เอาแต่ใจทำตัวเหมือนอยู่กับเพื่อนได้ยังไงล่ะครับ”

   “นั่นสิ มันต่างกันขนาดนั้น บางทีฉันก็อยากรู้นะว่าความจริงแล้วเธอเป็นคนยังไง”

   “ผมว่าไม่จำเป็นหรอกครับ เพราะเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกัน มันสั้นมาก มากจนคุณไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้”

   คำพูดของผมทำให้เขาเงียบไป...

   เขาคงเห็นด้วยกับผม มันคงจะดีกว่าจริงๆ ที่เราจะรู้จักกันเพียงผิวเผินและคงสถานะไว้แค่เพียงนายจ้างและลูกจ้าง... เมื่อต้องแยกย้ายกันไปจะได้ไม่อาลัยอาวรณ์

   ไม่แน่เหมือนกันถ้าแฟนคุณอิฐรักและดูแลเจ้าตัวน้อยอย่างดีที่สุดแล้ว ผมคงวางใจปล่อยให้ครอบครัวนี้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยไม่โผล่หน้ามาเลยก็ได้ เพราะความรัก อาจจะไม่ลงเอยด้วยการอยู่ด้วยกันเสมอไป เราจะอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และคอยคิดถึงเขาอยู่ไกลๆ ก็ได้ แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นผมจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด



   เป็นมื้อเย็นครั้งแรกที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และการมีคุณอิฐอยู่ด้วยทำให้บรรยากาศไม่เลวร้ายเท่าเมื่อวาน เพราะทั้งๆ ที่แม่คุณอิฐส่งคนมาบอกว่าอาหารค่ำหนึ่งทุ่มตรงก็ตาม แต่กว่าจะได้ตักข้าวก็ล่วงเลยไปถึงทุ่มสิบห้า คงเพราะท่านคาดว่าคุณอิฐจะกลับมาทานข้าวเย็นด้วยแต่แล้วก็คอยเก้อ

   “คนมาครบแล้วก็ตักข้าวสิ รอใครอีกล่ะ” แม่คุณอิฐเอ่ยขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ถึงทุ่มตรงดีทำให้แม่ฟองคุณแม่บ้านรีบกุลีกุจอตักข้าวใส่จานทันที

   “กลับมากินข้าวบ้านทุกวันก็ดีนะอิฐ ถึงไม่คิดถึงแม่ก็สงสารเมียบ้าง ปล่อยให้เป็นแม่สายบัวรอเก้อบ่อยๆ ก็น่าสมเพช” ระหว่างรอให้ตักข้าวจนครบคน ท่านก็เอ่ยขึ้นมา

   “แม่ก็รู้ว่าผมงานยุ่ง” คำแก้ตัวคุณอิฐยังกับท่องอาขยาน!

   “ถึงยุ่งก็ต้องกลับมาหลับมานอนบ้าง จะเสเพลค่ำไหนนอนนั่นเหมือนอย่างเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ไม่คิดถึงเมียก็คิดถึงลูกบ้าง” นั่น! จากแม่มาเมีย จากเมียมาลูก!

   นี่ถ้าผมเป็นเมียตัวจริงของคุณอิฐนี่คงสะดุ้งสะเทือนพอตัวเลยล่ะ ท่านคงรู้อยู่เลาๆ ว่าคุณอิฐมีคนอื่นอีก เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เท่านั้น แต่มองในมุมกลับกัน ตัวผมเป็นคนอื่นแท้ๆ แต่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านนี่ถือว่าขี้โกงน่าดู และถ้าแฟนคุณอิฐเขารู้ขึ้นมาต้องไม่พอใจมากแน่ๆ

   “ครับแม่ ต่อไปผมจะพยายามนะครับ”

   “เข้าใจก็ทานข้าวกันได้แล้ว”

   เราทานอาหารร่วมกันตามปกติ แต่แปลกที่ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไรเลย ผมไม่รู้ว่าการที่เบื่ออาหารไม่อยากทานอะไรเป็นอาการของคนแพ้ท้องหรือเปล่า แต่เพื่อรักษามารยาทก็ต้องตักข้าวใส่ปากพอเป็นพิธี จนคุณอิฐขอเติมข้าวเพิ่มแล้วผมยังทานได้ไม่หมดจานเลย

   “เป็นอะไร กินไม่ลง?” คำถามที่ลอยมาจากหัวโต๊ะทำให้ผมเงยหน้ามองท่านแล้วทำสีหน้าลำบากใจ บางทีก็กลัวท่านจะว่า “อาหารบ้านนี้ไม่ใส่ผงชูรสนะ ไม่เป็นอันตรายกับเด็กในท้อง แต่ถ้าไม่อยากกินเพราะเหม็นหรือไม่ชอบ แล้วอยากจะกินอย่างอื่นก็บอกฟองไป เดี๋ยวจะให้แม่ครัวทำให้”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมทานได้ แค่รู้สึกไม่ค่อยหิวน่ะครับ”

   “ถ้างั้นก็กินซะหน่อยแล้วกัน ถ้าไม่กินอะไรซะบ้าง ดึกๆ คงหิวโซแน่ๆ”

   “ครับ” ผมยิ้มบาง เริ่มจะเชื่อคุณอิฐขึ้นมาแล้วล่ะว่าแม่เขาน่ะเป็นพวกปากร้ายแต่ใจดีจริงๆ ถึงคำพูดจาจะดุเด็ดเผ็ดร้อนประชดประชันในที แต่ก็เหมือนแค่วางฟอร์มไปอย่างงั้นเอง ความจริงเป็นคนใจดีมากด้วยซ้ำ



   คนท้องมีอภิสิทธิ์หลายอย่างเช่นได้อาบน้ำก่อน แต่ไม่สมควรล็อกห้องไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้ผมไม่กล้าอาบนานเพราะกลัวจะโดนคนข้างนอกเปิดประตูเข้ามาเช็ก! ผมนั่งเป่าผมให้แห้งหน้าโต๊ะกระจก ทาครีม ทาแป้งฝุ่นเหมือนตอนอยู่คนเดียว เมื่อวานผมนั่งดมขวดโคโลญจน์ของคุณอิฐจนหมดทุกขวด มีแต่หอมๆ และคาดว่าแพงๆ ทั้งนั้นจนผมนึกสมเพชตัวเองว่าถึงคนธรรมดาอย่างผมจะมีเงินขึ้นมาได้ก็จริง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือรสนิยมที่ยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหมือนสมัยก่อน ผมถึงติดแป้งกระปุกและไม่ใส่น้ำหอมจนถึงตอนนี้

   ในที่สุดห้องอาบน้ำในห้องนอนก็เปิดออกมา คงเพราะในห้องไม่ได้มีเราแค่คนเดียว ต่างคนจึงหยิบเอาชุดนอนเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย ผมทึ่งชุดนอนคุณอิฐมาก เป็นชุดนอนผ้าไหมสีทองสวยหรูดูแพงมันวาวเด้งสะท้อนเข้าตา! มันโคตรจะแตกต่างกับชุดนอนบ้านๆ กางเกงขาสั้นชักรูดกับเสื้อกล้ามสีขาวที่ผมใส่อยู่เอามากๆ เลย จนผมก็นึกเสียดายที่ไม่ยอมเบิกเงินในธนาคารออกมาทำอะไรมีสาระเช่นซื้อชุดนอนงามๆ แบบนั้นบ้าง มันจะได้ดูสมกับห้องนอนกว้างขวางหรูหราที่กว้างมากกว่าห้องนอนที่บ้านเดี่ยวของผมสักสามห้องรวมกันนี่หน่อย!

   “เอาล่ะ เธอนอนที่เตียงนะ ส่วนฉันจะไปนอนที่โซฟาเอง” ในขณะที่ผมกำลังอายชุดนอนตัวเอง คุณอิฐก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังดั่งกำลังจะตกลงธุระสำคัญ ผมรู้หรอกว่าคุณอิฐคงไม่ใจดำมากพอจะขับไล่ไสส่งคนท้องไปนอนโซฟาได้แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าลุงแกจะลงทุนขนาดนั้น!

   “เตียงก็กว้างนะครับ นอนด้วยกันก็ได้ ผมไม่นอนดิ้นหรอก”

   “แต่ฉันดิ้น...” คำตอบที่สวนมาทำเอาผมขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเรื่องจริงหรืออำ

   “ถ้างั้นคุณคงนอนโซฟาไม่ได้หรอก ได้ตกลงมาคอหักพอดี ” ผมพูดติดตลก บางทีก็นึกขำกับท่าทีลำบากใจของเขา

   ถึงเราสองคนจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาหลอกๆ เหมือนในละครหลายๆ เรื่อง แต่ผมกลับไม่นึกกลัวเขาจนต้องหาหมอน 38 ใบมากั้นกลางระหว่างกัน แหม... ก็เผื่อใครบางคนลืมไปแล้วว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือผมยอมรับการเป็นบ้านน้อยของเค้าด้วยซ้ำ เขาเองต่างหากที่เป็นคนบอกผมว่า “งานของผมไม่รวมเรื่องนั้น” นั่นคงเป็นเครื่องการันตีได้ดีว่าต่อให้ผมจะแก้ผ้ายั่วยวนเขามันก็เท่านั้นจริงไหม?

   แต่เอาเถอะ! ถึงจะปฏิเสธกันไม่เหลือเยื่อใยก็ตามที แต่ช่วยอย่าทำเหมือนรังเกียจกันให้รู้สึกแย่ไปกว่านี้ได้ไหม แค่ที่ต้องอ้างว้างโดดเดี่ยวไม่มีใครมาตั้งยี่สิบกว่าปีเนี่ยมันก็สลดพอแล้วลุง!! อย่ามาซ้ำเติมกันอีกเลย!

   ผมเลิกผ้าห่มหนาแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงคิงส์ไซส์นั่นแล้วตะแคงหันหน้าไปข้างเตียงพยายามหลับตาลง ชั่วอึดใจหนึ่งก็ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นแสดงว่าเขายังยืนลังเลอยู่

   ไม่รู้ลุงแกจะคิดอะไรกันนักกันหนา!!

   ผมลอบถอนใจอย่างรำคาญนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆ ว่า...

    “มานอนบนเตียงเถอะครับ อย่ากลัวเลย ผมไม่ข่มขืนคุณหรอก”


+++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2016 09:25:03 โดย ๛ナーリバス๛ »

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
แม็กม่าน่าสงสารอะ ยิ่งอ่านยิ่งสงสาร

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เออ บ้านนี้เป็นสายทำงานหนักของแท้
เป็นพวกไม่ใส่ใจรายละเอียด ไม่ค่อยละเมียดละไม 

แม็กม่าคิดถูกแล้วล่ะที่ไม่พยายามรู้จักมากกว่านี้ เผลอใจขึ้นมาก็มีแต่เจ็บ

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารแมกมาจังเลย เฮ้อ!!! :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เดาว่าพอแม็กม่าคลอดลูกแล้วต้องห่วงลูกแน่เลยว่าอิฐกับคนรักจะเลี้ยงได้ไหม เพราะดูท่าแต่ละคนไม่น่าเลี้ยงเด็กได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] ตอนที่ [-11-] [26/04/59]
« ตอบ #99 เมื่อ: 26-04-2016 21:18:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากจะมีลูกแต่ตัวเองไม่พร้อมทั้งคู่จะมีทำไมนะ
สงสารแม็กม่าจริงๆ  :sad4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหนื่อยแทนแมก

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
สงสารแม๊กกกกกกกกกก

ทั้งผัว(ปลอม)ทั้งแม่ผัว แล้วยังมี เมียน้อยอีก ตายยยย
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-12-
   
   -แม็กม่า-

   ผมงัวเงียตื่นขึ้นเพราะปวดฉี่ ช่วงนี้ผมฉี่บ่อยมาก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะท้องหรืออุปาทานไปเอง ครั้นผมลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดสนิท ก็รู้สึกได้ว่าหัวตัวเองกำลังซุกซบกับบางอย่างอยู่ซึ่งผมเดาได้ทันทีว่าคงเป็นร่างเจ้าของห้องนั่นแหละ ด้วยความเกรงใจกลัวเขาจะตื่นผมจึงพยายามเคลื่อนตัวอย่างแผ่วเบาสุดชีวิตออกจากผ้าห่มหนาค่อยๆ คลานลงจากเตียงนั่น แต่ไม่รู้ทำไมระยะห่างจากขอบเตียงฝั่งผมนั้นมันช่างกว้างอย่างกับสนามฟุตบอล!

   เมื่อผมเดินไปที่ห้องน้ำแล้วเปิดไฟ แสงไฟที่สาดออกมาทำให้พบเรื่องน่าอับอายแสนสาหัสนั่นก็คือพบว่าตัวเองนอนดิ้นกลิ้งไปกินเนื้อที่จนคุณอิฐขยับถอยมาติดขอบเตียงอีกฝั่ง อีกนิดเดียวก็จะตกลงไปอยู่แล้ว! ถึงขนาดนี้ผมก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นเลยจนกระทั่งตีสาม!

   หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วจะกลับมานอน... เรื่องที่ทำให้เซ็งเพิ่มขึ้นอีกก็คือผมรู้สึกหิวขึ้นมาตอนนี้!

   ลูกจ๋า ทำไมทำร่างกายแม่ปั่นป่วนได้ขนาดนี้ฮึ! มานึกหิวเอาป่านนี้ ไม่รู้จะมีอะไรให้กินหรือเปล่าสิ!

   ถึงอย่างงั้นก็เถอะ จะนอนต่อก็คงหลับไม่ลงอยู่ดีนั่นแหละ

   ผมถอนใจเบาๆ แล้วค่อยย่องไปเปิดประตูห้องดังกริ๊ก!

   “จะไปไหน?” ถ้อยคำถามนั้นดังขึ้นมาจากเตียง ร่างหนาของเจ้าของห้องเด้งลุกขึ้นมาทันทีเป็นการบอกว่าเขาไม่ได้ละเมอ หรือเพิ่งตื่น บางทีเขาอาจจะตื่นมาสักพักแล้วเพราะผมกวน เพียงแต่แกล้งทำเป็นหลับจะได้ไม่ทำให้ผมรู้สึกอายก็ได้ที่กลิ้งเป็นขนุนจนเบียดเขาขนาดนั้น!

   “ผมหิว จะลงไปดูหน่อยว่ามีอะไรกินไหม”

   “พวกกับข้าวเค้าคงยกไปเก็บที่ครัวข้างนอกหมดแล้วแหละ ถ้าครัวในบ้านคงเหลือแต่พวกน้ำ” คำตอบนั้นทำความหวังพังทลายไปทันที ผมเบะหน้าเศร้านิดหน่อยแล้วยืนนิ่งที่เดิม ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ แล้วคุณอิฐก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหา

   “ลองลงไปดูก่อนก็ได้ เผื่อจะเหลืออะไรบ้าง” เขาบอกแล้วเป็นฝ่ายเปิดประตูเดินนำผมลงบันไดแบบวนลงไปด้านล่างที่มีแสงไฟดวงน้อยเปิดอยู่เพียงดวงเดียว

   คุณอิฐเปิดไฟระหว่างทางเดินแล้วเดินนำไปที่มุมครัวเล็กๆ เปิดตู้เย็นออกแล้วก้มๆ เงยๆ อยู่คนเดียว

   “มีแต่พวกน้ำผลไม้จริงๆ ด้วย พอดีว่าที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับทำครัวน่ะ ส่วนใหญ่จะทำกันข้างหลังเป็นโรงครัวแยกต่างหาก ส่วนที่นี่จะเอาไว้อุ่นกับข้าวเฉยๆ จะออกไปดูข้างหลังกันไหมล่ะ?”

   “อย่าดีกว่าครับ อาหารเช้าตั้งตอนเจ็ดโมง ป่านนี้คงยังไม่มีใครตื่น ถ้าไปทำเสียงดัง เดี๋ยวจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นขโมยเอาเปล่าๆ”

   “แต่เธอหิวไม่ใช่เหรอ?” ไอ้หิวมันก็หิวอยู่หรอกนะ แต่... “งั้น... ออกไปกินข้างนอกกันไหม?”


   หลังจากนั้นผมกับคุณอิฐก็ออกมากินข้าวต้มโต้รุ่งที่หน้าปากซอยในชุดนอนเดิมเพิ่มเติมคือเสื้อคลุมอีกคนละตัว

   “ขอบคุณนะครับ ถ้าให้รอถึงเช้าสงสัยจะไส้ขาด”

   “ปกติแล้วเธอหิวตอนดึกๆ แบบนี้บ่อยๆไหม?”

   “ก็ไม่นะครับ อาจจะเป็นเพราะมื้อเย็นผมกินไม่ค่อยลง ก็เลยหิวแบบแม่คุณว่าก็ได้”

   “ถ้างั้น คนที่ทำให้เธอหิวคือลูกของฉันหรือเปล่า...”

   “ไม่รู้สิครับ... ถึงอยากถาม ก็คงยังตอบไม่ได้ด้วย และกว่าเขาจะพูดได้ ตอนนั้นผมจะไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้...” ผมเงยหน้าเศร้าๆ ขึ้นมองคนที่นั่งตรงข้าม เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรไม่ควรพูดไปอีกแล้ว

   ผมไม่ควรมีท่าที น้ำเสียงหรือสีหน้าที่สื่อว่ากำลังอาลัยอาวรณ์เลย

   ลูกของเขาก็คือลูกของเขา... ไม่ใช่ลูกของผมซะหน่อยนี่...

   หน้าที่ของผมก็แค่...

   “ผมอิ่มแล้ว... กลับกันเถอะครับ” ผมรีบตัดบทเลื่อนเก้าอี้ลุกขึ้นทันที ผมอยากไล่ตัวเองออกจากโรคซึมเศร้าที่ก่อตัวขึ้นกะทันหันนี้โดยไว

   “เก็บเงินด้วยครับ” คุณอิฐตะโกนเรียกลุงเจ้าของร้าน ในขณะที่ผมหมุนตัวเดินไปที่รถแล้วเกิดหน้ามืดขึ้นมากะทันหัน

   “แม็ก!!” เสียงคุณอิฐดังลั่นแล้วปรี่เข้ามาประคองผมทันที ผมหลับตาขมวดคิ้วหายใจยาวพยายามทรงตัวยืนขึ้น

   “เป็นไรมากไหม?”

   “ไม่ครับ” ผมตอบพยายามหายใจเข้าลึกๆ

   “เข้าไปนั่งในรถก่อนนะ” เขาบอกแล้วพยุงพาผมเข้าไปนั่งในรถ

   คุณอิฐหายไปครู่หนึ่ง คงเพื่อจ่ายค่าอาหารและกลับมาพร้อมยาดม

   ผมรับยาดมที่เปิดฝาแล้วมาจ่อจมูก สูดรับกลิ่นรุนแรงนั่นเข้าปอดทันที

   “ฉันโทรตามหมอแล้วนะ” เขาบอกขณะสตาร์ตรถ

   “ตอนนี้เนี่ยนะ?!” ผมโวยวายเสียงดัง เพราะนี่มันเพิ่งจะตีสี่

   “ก็ใช่น่ะสิ” เขาตอบแล้วเริ่มออกรถเพื่อจะกลับบ้าน

   “ตามมาทำไม ผมแค่หน้ามืด ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย”

   “เธอไม่เป็นไร แต่ลูกฉันล่ะจะเป็นไรหรือเปล่า เธอจะรู้ได้ยังไง” เขาเถียงกลับอย่างเอาแต่ใจ ส่วนผมถอนใจแรง นึกเกรงใจหมอ และไม่เพียงแค่หมอ แต่อาจจะรวมไปถึง...




   นึกอยู่แล้วเชียวว่าหมอจะไม่มาคนเดียว! ทั้งหมอว่านทั้งซูกัสแถมลูกอีกคน มากันทั้งบ้าน!

   “ความจริง ไอ้อาการ หน้ามืดเป็นลมเนี่ยมันเป็นอาการปกติของคนท้องอยู่แล้ว เพราะว่าตอนตั้งครรภ์เลือดจะไปเลี้ยงมดลูกและทารกมากขึ้น เวลาลุกนั่งอย่างรวดเร็ว เลือดอาจจะไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้หน้ามืด” หมออธิบายเสียงนิ่มๆ

   “ผมก็บอกคุณอิฐไปแล้วว่าผมไม่เป็นไร” ผมตอบหมอกลับไป

   “ก็จะไปรู้เหรอ ไม่เคยท้องนี่” เสียงคุณอิฐเถียงกลับทันที “ตกลงว่าไม่อันตรายใช่ไหม? ลูกก็ปลอดภัยใช่หรือเปล่า”

   “ไม่อันตราย ถ้าไม่เป็นลมจนไปกระแทกอะไรเข้าอ่ะนะ”

   “ได้ยินไหมแม็ก จะลุกจะนั่งก็ระวังบ้าง”

   “ครับ ผมจะระวัง ผมจะพยายามไม่ทำให้ลูกคุณเป็นอันตราย” ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเกือบประชดอย่างลืมตัว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

   ถึงเขาจะห่วงลูกแล้วไม่ห่วงผม... ผมก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรหรอก...

   “ใจร้ายใจดำ จะห่วงทั้งทีห่วงแต่ลูกได้ยังไง มันต้องห่วงทั้งแม่ทั้งลูกถึงจะถูก” เสียงซูกัสเอ่ยแทรกขึ้นมาเป็นเชิงตำหนิทันทีที่หันมาเห็นหน้าผม...

   “ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ห่วงแม่ซะหน่อยนะซูกัส” คุณอิฐตอบเสียงหวานอย่างเอาอกเอาใจ

   “ได้ยินไหมแม็ก คุณอิฐเค้าบอกว่าห่วงทั้งสองคนแหละ เพราะงั้นอย่าน้อยใจสิ”

   “ฮึ... ใครบอกว่าน้อยใจล่ะ” ผมเงยหน้าหันไปถาม

   “หน้าบอก” ซูกัสตอบ

   โอ๊ะ!! ตาย... ผมอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที ไม่แน่ใจว่าซูกัสคิดไปเองหรือหน้าผมเป็นอย่างงั้นจริงๆ

   แต่ในสถานการณ์ที่ต้องแสดงละครงี่เง่านี่ ทำให้ไม่สามารถเถียงออกไปอย่างที่ใจอยาก ผมจึงทำได้แค่หลับตาลงดึงผ้าห่มมาคลุมเหมือนจะหลับ จะได้ไม่ต้องมองหน้าใคร ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือคุณอิฐ ขอให้พวกเขาคิดว่าซูกัสตาฝาดและคิดไปเองทีเถอะ!!



   ตอนแรกก็แค่แกล้งหลับแต่ลงท้ายผมก็หลับไปทั้งๆ อย่างนั้นจริงๆ กว่าผมจะตื่นก็เกือบสิบโมง คุณอิฐคงไปทำงานแล้ว ผมเดินลงมาข้างล่างอย่างหวาดๆ กลัวจะโดนคำเสียดสีจากแม่คุณอิฐทิ่มแทงจนเลือดซิบ แต่ที่ไหนได้ท่านไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ท่านแค่ทำหน้านิ่งๆ แล้วถามว่า

   “ดีขึ้นแล้วเหรอ?”

   “ครับ ดีขึ้นแล้ว...”

   “ถึงฉันจะคิดว่ากินอะไรตอนดึกมันจะไม่ค่อยดี แต่ถ้ามื้อเย็นเธอกินอะไรไม่ลงจริงๆ แล้วหิวตอนดึกๆ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้นะ” ผมยืนฟังงงๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคุณอิฐจะเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟังทำไม แล้วท่านก็ขยายความต่อไปอีก “ตาอิฐสั่งแม่ฟองให้ซื้อของสดมาติดตู้เย็นนี้บ้างน่ะเผื่อเธอหิว แต่ซื้อมาก็เท่านั้นแหละถ้าทำไม่เป็นจริงไหม?”

   “นั่นสิครับ” ผมรับคำทั้งๆที่ผมเองก็ทำกับข้าวง่ายๆ ได้

   “ฉันเลยบอกให้ซื้อผลไม้กับพวกขนมปังมาไว้แทน แล้วจะบอกให้เก็บมื้อเย็นแช่ไว้บางส่วนเผื่อเธอจะอุ่นกินตอนดึกๆ น่าจะดีกว่านะ” วิธีนี้เข้าท่ากว่าจริงๆนั่นแหละ

   “ครับ ขอบคุณนะครับ”

   “หิวไหม? ถ้าหิวจะสั่งให้เตรียมมื้อกลางวันไวขึ้น”

   “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ยังไม่ค่อยหิวหรอก...”

   “งั้น...ถ้าเธอไม่รู้จะทำอะไร จะนั่งดูทีวีด้วยกันก็ได้นะ”


   
   หลังจากนั้น ผมก็อาศัยอยู่ในบ้านของคุณอิฐอย่างมีความสุข ด้วยว่าคนทั้งบ้านรวมทั้งแม่คุณอิฐช่างเมตตาและดูแลคนท้องอย่างดีมากๆ ประคบประหงมอย่างไข่ในหินทีเดียว จนบางครั้งผมก็หลงนึกว่าแม่คุณอิฐคงรักผมอย่างลูกในไส้ไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างย้ำเตือนความทรงจำ นั่นก็คือมีเพื่อนท่านมาเยี่ยม ผมซึ่งเป็นคนอื่นก็ไม่อยากเสนอหน้าไปสอดแทรกแต่ก็ไม่วายไปแอบฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็น

   “ได้ข่าวว่าคุณอิฐพาลูกสะใภ้มาให้พี่ทิพย์แล้วหรือคะ? ไหน น่ารักแค่ไหนเชียวน้องอยากเห็น” น้ำเสียงช่างสุภาพเรียบร้อยเป็นนักหนา... แต่ทำไมฟังแล้วน่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้

   “ก็น่ารักค่ะ ถึงจะผู้ชายก็เถอะ”

   “อุ๊ย... พี่ทิพย์นี่ขี้เล่นนะคะ” ฟังดูก็รู้ว่าช่างเสแสร้ง แกล้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว

   “พี่ไม่ได้พูดเล่นหรอกค่ะ พูดจริง”

   “ตายจริง น้องก็นึกว่าที่คนอื่นเค้านินทาจะแค่ข่าวลือ พ่ออิฐนี่ช่างหาเรื่องให้แม่เครียดจริงนะคะ”

   ที่พูดนี่หวังดีจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะแม่คุณอิฐมีเพื่อนช่างยุแยงอย่างนี้สิ ท่านถึงต่อต้านไม่ยอมรับสะใภ้ที่ลูกชายพามา...

   “ปลงแล้วล่ะค่ะ เค้ารักเค้าชอบของเค้าแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”

   “เป็นลูกเต้าเหล่าใคร งานการมั่นคงหรือเปล่าคะ?”

   “ไม่ทราบเลยค่ะ ไม่เคยถามเหมือนกัน”

   “แล้วนี่พี่ทิพย์รับได้เหรอคะ?  มีสะใภ้ทั้งที ก็มาเป็นผู้ชายซะอีก แถมยังไม่มีหัวนอนปลายเท้า” ผมเม้มริมฝีปากแน่น ถ้อยคำเหล่านั้นช่างเสียดสีทำร้ายคนฟังจนเจ็บจุก แต่แม่คุณอิฐกลับระงับอารมณ์ตอบกลับได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

   “รับได้สิคะ ถ้าลองมีหลานให้พี่อุ้มได้ จะเป็นใคร มาจากไหน พี่ก็ไม่สนหรอกค่ะ”

   น่าแปลก...ที่คำถามทำให้เจ็บจุกแต่ยังพอทนไหว แต่คำตอบทำให้ทรมานมากกว่านั้น

   ผมหงายฝ่ามือเช็ดน้ำตาที่ซึมๆ ออกเสีย ก็ไม่รู้จะเสียใจ น้อยใจไปทำไม กะอีแค่ดันสำคัญตัวเองผิดว่าได้รับความรัก แม่กับลูกเขาก็เหมือนกันนั่นแหละ ที่ทำดีด้วยทุกอย่างก็เพราะเห็นแก่ลูก เห็นแก่หลานกันทั้งนั้น

   ไม่มีใครที่รักผมเพราะผมคือผมเลยสักคนเดียว...

   

++++++++++

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] ตอนที่ [-12-] [27/04/59]
« ตอบ #109 เมื่อ: 27-04-2016 18:51:02 »





ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น่าสงสาร แม๊กม่า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :katai1:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
เฮ้ออออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จุก ไปร้องไห้เป็นเพื่อนแม่กมาดีกว่ :hao5: :hao5:า

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ความจริง....มันเจ็บขนาดนี้!!!

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เตือนตัวเองบ่อย ๆ ว่าความจริงเป็นยังไง จะได้ไม่หวัง ไม่เจ็บมากนะแม็กม่า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แมคม่าสู้ๆนะลูก อย่าให้ฮอโมนหรือคำคนมาสั่นคลอนเราได้
เราต้องแกร่งเพื่อสุขภาพจิตของลูกนะเออ.  :L1:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
โอ๊ย ใจหนอใจ จะทนไหวไหมนะแม๊กม่า

 :undecided: :undecided: :undecided: :undecided:

...

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao5: :hao5: :hao5: เค้ารักแม็กม่านะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด