คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 114782 ครั้ง)

ออฟไลน์ mass

  • "Smile! It increases your face value." -Steel Magnolias (1989)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบบบบบ ดื้อกับอาร์ตน่ารักมาก เฮียคนกลัวเมียเชื่อเมียนี่เจริญนะเฮีย

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อินังวิว  อิ Sus! เจ้รับไม่ได้คะ อิชะนีผีกล้านะ  :angry2:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ้าวววว.....ป้าว่าจะจัดน้องวิวไปหนักๆซะหน่อย แต่คนแต่งขำแรงอ่ะ งั้นป้ารอดูสถานการณ์ก่อนก็ด้ะ^^ :L1:

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 52 –



“นะ...น้องว่าอะไรนะครับ” อาร์ตที่เพิ่งจะควานหาเสียงตัวเองเจอ หันกลับไปถามวิวด้วยความอึ้ง ที่ดูท่าว่าคงจะยังไม่หายอึ้งง่ายๆ แน่นอน



อาร์ตยอมรับว่าตัวเองช็อกไปไม่น้อย กับการถูกจู่โจมจากเพศตรงข้ามในครั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนผู้หญิงสนใจ แต่มันเป็นครั้งแรกเลยในชีวิตของลูกผู้ชายแบบเขา ที่โดนเพศแม่พูดใส่หน้าว่าขอไปเป็นของตัวเอง



เขาเองก็พอจะรู้ว่าหน้าตาดีกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง เพราะคนรอบข้างใครๆ ก็พูด แถมงานพิเศษที่ทำอยู่ตอนนี้ รายได้ต่อคืนที่เยอะแยะก็เพราะหน้าด้วยส่วนหนึ่ง เรียกได้ว่านอกจากหากินกับเสียง เขาก็หากินกับหน้าตาของตัวเองนี่แหละ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยเจอใครมาพูดใส่ตรงๆ แบบนี้ ถ้าต้องการก็เข้าหาแบบมีจริตทั้งนั้น เจอแบบนี้เข้าไปยอมรับว่าไปต่อไม่ถูก ผู้หญิงอะไรทำไมมันตรงได้ขนาดนั้นวะ



“วิวอยากได้พี่ค่ะ” แล้ววิวก็ตอกย้ำอาร์ตอีกครั้งว่าไม่ได้หูฟาด ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ท่าทางขึงขัง และแววตาที่มองมาแบบแน่วแน่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ




“เอ่อ...” อาร์ตถึงกับพูดไม่ออก ไปไม่เป็น มองวิวด้วยความตะลึง ส่วนคนรอบข้างที่เจอเหตุการณ์ทอคออฟเดอะทาวน์ด้วยกัน ก็พากันเงียบอ้าปากค้างไปตามๆ กัน



“นะคะพี่ วิวไม่เคยทำใครผิดหวังเลยนะคะ” วิวที่เห็นว่าอาร์ตยังมีอาการลังเล ก็รีบปรี่เข้าไปหาและเกาะแขนอีกฝ่ายแน่น พร้อมกับส่งสายตาที่แสดงความต้องการและคิดว่าจริงใจที่สุดไปให้



“พี่มีฟะ...” อาร์ตที่กำลังจะอ้าปากปฏิเสธออกไป ก็มีอันต้องหยุดชะงักลง เมื่อได้สบสายตากับวิวแบบใกล้ๆ แววตาที่อีกฝ่ายส่งมามันร้อนแรง และแสดงออกถึงความต้องการว่าอยากได้เขาจริงๆ นั่นแหละ แต่มันเหมือนจะไม่ใช่ในความหมายเดียวกันกับที่เขาคิดในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือความหมายไหน



“เฮ้ย!! ไม่ให้” พีทที่ดึงสติของตัวเอง ที่หลุดลอยไปท่องเที่ยวอวกาศอยู่พักนึงได้ พูดแทรกขึ้นมาเสียงดังฟังชัด และลุกขึ้นไปหาอาร์ตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะยกแขนของตัวเองทั้งสองข้างโอบรอบตัวอีกฝ่ายแน่น เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปปิดตาไว้ไม่ให้มองหน้าวิว เพราะกลัวจะไปหลงเสน่ห์หน้าสวยๆ ของน้องรหัส ส่วนตัวเองก็ทำหน้าบึ้งจ้องวิวเขม็ง



“อ้าว...พี่พีทอยู่ด้วยเหรอคะ” วิวที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าพี่รหัสของตัวเองอยู่ด้วย ถามขึ้นด้วยหน้าตาเหลอหราปนแปลกใจ เพราะเธอพยายามที่จะติดต่ออีกฝ่ายมาตลอด ทั้งโทร ทั้งข้อความ ทุกช่องทางที่จะทำให้ติดต่อได้ แต่อีกฝ่ายไม่เคยตอบรับกลับมาเลยสักครั้ง แถมพอไปหาที่ห้องเรียนก็ยังหลบหน้าเธออีก ทำเอาเธองงไปหมดว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร และยังต้องมานั่งร้อนใจอยู่ไม่สุข เพราะคนที่จะทำให้เธอติดต่ออาร์ตได้ดีที่สุดดูไม่อยากคุยด้วยเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ควานหาตัวกันมาเป็นอาทิตย์ๆ บทจะเจอก็มาเจอกันเอาง่ายๆ แบบนี้



“เออ!! พี่เอง!!” พีทตอบวิวเสียงแข็ง ตายังจ้องหน้าวิวแบบไม่เป็นมิตร แขนสองข้างก็ยังคงกอดอาร์ตแน่น โดยที่ไม่ได้สนใจสักนิดว่าอาร์ตจะอึดอัดหรือเปล่า



“หวัดดีค่ะพี่” วิวยกมือไหว้พี่และส่งยิ้มให้ โดยไม่ได้รับรู้ถึงรังสีฟาดฟันของพีทที่ปล่อยออกมาเลยสักนิด



“พี่พีทคะ วิวเจอพี่อาร์ตแล้วล่ะ” วิวพูดกับพีทด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมกับยื่นมือไปจับมือพีทมากุมไว้ และเขย่าไปมาด้วยความดีใจ ทำเอาพีทที่ตั้งท่าจะเปิดศึกถึงกับไปไม่เป็นอีกคน



“โอ๊ย!!! วิวดีใจอ่ะพี่ วิวอยากได้!!” วิวพูดออกมาเสียงดังแถมแสดงอาการ ที่ชาวบ้านเรียกว่าระริกระรี้ออกมา จนพีทถึงกับหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ



“วิว...น้องเป็นผู้หญิงนะครับ” พีทปล่อยแขนออกจากตัวอาร์ต แล้วบอกวิวที่ดูแสดงออกเกินงามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ไอ้ความรู้สึกไม่พอใจก็ส่วนหนึ่งนั่นแหละ แต่เขารู้สึกเป็นห่วงวิวมากกว่า เพราะการที่อีกฝ่ายมาพูดปาวๆ ว่าอยากได้อาร์ต มันไม่ใช่แค่จะผิดหวัง แต่อาจจะโดนแกล้งจากพวกแฟนคลับของอาร์ตด้วย



“ค่ะ” วิวตอบรับคำพูดของพี่รหัส และส่งยิ้มให้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะบอกในสิ่งที่เธอรู้อยู่แล้วทำไม



“อีกอย่างพี่อาร์ตเขามีแฟนแล้วนะครับ” พีทบอกวิวด้วยน้ำเสียงจริงจัง และสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ



“ห๊ะ!! จริงเหรอคะพี่” วิวถึงกับทำตาโตอุทานออกมาเสียงหลง ก่อนจะหันมามองอาร์ตเพื่อขอคำยืนยัน



“ครับ” อาร์ตตอบอีกฝ่ายเสียงหนักแน่น และจับมือของพีทที่วางบนไหล่มาบีบเบาๆ ถึงเขาจะแน่ใจว่าน้องรหัสคนสวยของคนรักจะไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ว่าเขาก็ควรบอกความจริงอีกฝ่ายออกไป เพื่อความสบายใจของคนที่เขารัก



“เอาไงล่ะทีนี้” วิวพึมพำกับตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้วพันกันยุ่ง ไม่คิดว่าตัวเองจะพลาดถึงกับขนาดสืบข้อมูลอีกฝ่ายมาไม่แน่นแบบนี้




“มีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ วิวโอเค” หลังจากที่ก้มหน้าเงียบไปสักพัก วิวก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาอาร์ตและพูดคำเดิมออกมาด้วยแววตาที่ยังคงแน่วแน่ไม่ลดละ จนพีทที่จากตอนแรกเป็นห่วงเจ้าตัว ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้



“นี่ฟังไม่เข้าใจเหรอว่าผู้ชายเขามีแฟนแล้วน่ะ” พีทว่าเสียงห้วน ใบหน้าบูดบึ้ง และเดินขึ้นมาประจันหน้ากับวิว จนอาร์ตต้องดึงแขนเจ้าตัวไว้เบาๆ เพื่อปรามให้ใจเย็น เพราะกลัวว่าคนรักจะโมโหจนตบผู้หญิงหน้าทิ่ม



“เข้าใจสิคะ วิวฟังภาษาไทยออกนะพี่ ว่าแต่แฟนพี่คนไหนคะพี่อาร์ต วิวจะได้คุยด้วยทีเดียว ถ้าพี่ไม่สะดวกใจจะคุยกับวิวแค่สองคน” วิวหันมาตอบพีทก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับหันไปคุยกับอาร์ตด้วยน้ำเสียงจริงจัง และท่าทางที่ดูเป็นการเป็นงาน



“คนนี้ไงครับ” อาร์ตบอกเสียงนุ่มและดึงพีทลงมานั่งที่ตัก แขนสองข้างสอดเข้าไปกอดเอวบางแน่น แล้ววางคางลงบนไหล่เล็กพร้อมกับส่งยิ้มให้วิว ซึ่งพีทก็ยอมแบบไม่ขัดขืนเพราะมัวแต่หงุดหงิดวิวอยู่



“ห๊ะ!!! พี่กับพี่พีท” วิวถึงกับอ้าปากค้าง นิ้วไปที่พีทกับอารืตสลับไปมาด้วยความตะลึง พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ เหมือนสมองประมวลผลไม่ทัน

“เออ!! ทีนี่เลิกวุ่นวายได้หรือยัง” พีทกระแทกเสียงตอบวิว และจ้องอีกฝ่ายแบบจะกินเลือดกินเนื้อ


อาร์ตถึงกับอมยิ้มขำออกมาด้วยความชอบใจ กดจมูกลงที่ไหล่ของพีทสลับกับซอกคอย้ำๆ อยู่แบบนั้น ใจอยากจะจับอีกฝ่ายมาจูบให้ปากเจ่อ ให้รางวัลที่หึงได้โคตรน่ารัก แต่ว่าสามัญสำนึกยังคอยเตือนว่าที่นี่คือสถานศึกษา สิ่งที่ทำได้เลยมีแค่นี้เท่านั้น



“พี่เป็นเกย์เหรอคะ” วิวที่ยังคงช็อกกับข่าวใหม่ที่ได้รับ ถามอาร์ตด้วยท่าทางเหมือนคนวิญญาณออกจากร่าง



“เป็นป่ะดื้อ” อาร์ตไม่ตอบคำถามวิว แต่หันไปแหย่พีทที่นั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์แทน



“ไม่รู้!!” พีทที่ตอบเสียงแข็งทำหน้างอใส่อาร์ต บ่งบอกให้อาร์ตรู้ว่าเจ้าตัวกำลังงอน




“งอนอีกแล้ว” อาร์ตบิดปลายจมูกของพีทเล่นและอมยิ้มชอบใจ เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลยนะ ทำไมกลายเป็นเขาที่โดนงอนอีกจนได้ก็ไม่รู้



คราวนี้กลายเป็นวิวที่อึ้งจนพูดไม่ออกและไปไม่เป็นบ้าง ได้แต่นั่งอ้าปากค้างมองความสนิทสนม และท่าทางกระหนุงกระหนิงที่อาร์ตกับพีทแสดงออกต่อกันด้วยความช็อก โดยเฉพาะการแสดงออกของพี่รหัส ที่ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา อีกฝ่ายดูไม่เห็นออกเลยสักนิดว่าจะเบี่ยงเบน แถมยังหน้าม่อแซวสาวให้เธอเห็นอยู่เป็นระยะ แล้วดูตอนนี้สิ ไอ้ท่าทางแสนงอน ดูน่ารักน่าทนุถนอมนั่นมันคืออะไรกัน!!!



“ไม่เป็นไรค่ะ วิวบอกแล้วว่ามันไม่ใช่ปัญหา” วิวที่ตั้งสติได้พูดขึ้นด้วยท่าทางขึงขังและความตั้งใจอันแรงกล้าอีกครั้ง ทำเอาพีทต้องถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง ถ้าอีกฝ่ายจะขนาดนี้ล่ะก็นะ อยากทำอะไรก็ทำเหอะ



“แล้วตกลงน้องมีอะไรกับพี่กันแน่ครับ” อาร์ตตัดสินใจถามขึ้นมาบ้าง เพราะดูแล้วว่าท่าตัวเองยังไม่พูดอะไร วันนี้ทั้งวันคงจะไม่มีทางได้อะไรแน่ๆ และอีกอย่างท่าทางประหลาดชวนน่าสงสัยของรุ่นน้องตรงหน้า มันทำให้เขาอยากจะรู้สาเหตุทั้งหมดแล้วเหมือนกัน



“นี่ค่ะพี่ คือ...”




“วิว!!! ไปเรียนได้แล้วแก ได้เวลาแล้ว”




ยังไม่ทันที่วิวจะได้พูดเรื่องสำคัญของตัวเอง เพื่อนที่นั่งรออยู่ไม่ไกลก็ตะโกนเรียกเสียงดัง ทำเอาเจ้าตัวถึงกับชักสีหน้าออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะก้มลงมองดูเวลาที่นาฬิกาบนข้อมือ พร้อมกับคิ้วสวยที่ขมวดพันกันยุ่ง เมื่อมันได้เวลาเข้าเรียนแล้วอย่างที่เพื่อบอกจริงๆ




“คืองี้นะคะพี่...”



“วิว!!! เดี๋ยวสาย”




ตั้งว่าจะรับพูดออกไปแท้ๆ แต่สุดท้ายเหมือนเธอจะไม่ค่อยมีวาสนากับอาร์ตเท่าไหร่ เพราะมีเรื่องให้คลาดกันได้ตลอดเวลา อย่างวันนี้ทั้งๆ ที่ได้เจอหน้ากันตรงๆ ตัวเป็นๆ แล้วเชียว ดันมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกันอีกแล้ว จะโดดเรียนก็ไม่ได้เพราะมีสอบเก็บคะแนน เวรกรรมอะไรของเธอกันนะ ให้ตายสิ



“วิวต้องรีบไปแล้วค่ะ คงไม่มีเวลาจะอธิบายอะไรมาก” วิวลุกขึ้นยืนและบอกอาร์ตรัวเร็ว แล้วคว้าเอาซองเอกสารที่พกติดตัวไว้ตลอด ตั้งแต่วันที่ได้ดูคลิปนั้นบนยูทูป คลิปที่สะกดสายตาเธอให้ไปไหนไม่ได้ คลิปที่ทำให้เธอดั้นด้นลงทุนสอบเข้าคณะวิศวะฯ แทนที่จะเป็นคณะนิเทศฯ แบบที่เคยตั้งใจเอาไว้ และการลงทุนครั้งนี้ของเธอจะต้องไม่เสียเปล่า เธอต้องได้ตัวอาร์ตกลับไป



“พี่อาร์ตลองอ่านเอกสารสัญญาพวกนี้ดูนะคะ แล้ววิวจะติดต่อมาคุยรายละเอียดแบบเจาะลึกอีกครั้ง ส่วนพี่พีทอย่าปิดเครื่อง อย่าบล็อกเบอร์และช่วยรับสายวิวด้วยนะคะ เพราะวิวอยากได้พี่อาร์ตจริงๆ” วิวหันมากำชับกับพีทเสียงเข้ม ทำเอาพีทถึงกับหน้าเหวอที่ตัวเองโดนเหวี่ยงใส่แบบไม่รู้ตัว




“วิวไปนะคะพี่” วิวยกมือไหว้ทุกคนและส่งยิ้มให้แบบมีความหวัง ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปหาเพื่อน ทิ้งไว้แค่ซองเอกสารเจ้าปัญหา และความงงที่ยังไม่ได้รับการไขความจริงสักข้อจากอีกฝ่าย ว่าตกลงที่พูดมาตลอดว่าอยากได้มันคืออะไร



“อะไรของเขาวะ” พีทมองตามหลังของวิวที่วิ่งหายไป และหันมาสบตากับอาร์ตด้วยความงงงวย ซึ่งอาร์ตก็ได้แต่ส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ เพราะเข้าเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่วิวทำเหมือนกัน



“นี่พี่มึงไม่ได้ไปเล่นของใส่น้องมันจนเพี้ยนใช่ไหม” พีทถามออกไปและหรี่ตามองอาร์ตอย่างจับผิด อารมณ์หึงหวงที่มีในตอนแรกถูกพัดหายกระจุยกระจาย และถูกแทนที่ด้วยความสงสัยในความแปลกประหลาดของวิวซะหมด



“เพ้อเจ้อแล้วครับเมีย” อาร์ตส่ายหัวด้วยความหน่าย ให้กับความคิดที่ดูท่าจะดูหนังมามากเกินไปของพีท พร้อมกับบิดปลายจมูกอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยว



และหลังจากนั้นอาร์ตก็เอาแต่นั่งแหย่ หยอกล้อพีทอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่ได้สนใจหรือแม้แต่จะจับซองเอกสารอันนั้นขึ้นมาดูเลยสักนิด




...

...



“โอ๊ย!!! กูเหนื่อย กูเหมือนจะตาย” พีทที่เดินฝ่าแสงแดดระหว่างวันจากอีกตึกมายังอีกตึก บ่นกระปอดกระแปดเดินปาดเหงื่อมาตลอดทาง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งและฟุบลงไปกับโต๊ะอย่างหมดสภาพ ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วซีดเผือดไร้สีเลือด ลมหายใจหอบเหนื่อยเหมือนวิ่งมาเป็นสิบๆ โล ทั้งๆ ที่เดินข้ามตึกไม่ถึง 300 เมตรด้วยซ้ำ



“ไหวไหมมึง” เลิฟที่เดินมาด้วยกัน เห็นสภาพของพีทก็อดที่จะถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เพราะช่วงนี้พีทเป็นแบบนี้ตลอด นิดหน่อยก็บ่นเหนื่อย นิดหน่อยก็หน้าซีด ไร้เรี่ยวแรงนอนหมดสภาพ



“ไหวๆ แต่กูเหนื่อย” พีทตอบเสียงอู้อี้ พร้อมกับลมหายใจที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ เขาไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ แค่เหนื่อยง่ายไปหน่อยเอง



“มึงไปหาหมอบ้างป่ะเนี่ย” โดมนั่งลงฟังตรงข้ามและยื่นขวดน้ำไปให้ ซึ่งพีทรีบผงกหัวขึ้นและคว้ามาดื่มอึกๆ เหมือนว่าหิวกระหายมากมายอะไรขนาดนั้น



“ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจ กูเคยเป็นเดี๋ยวแม่งก็หาย” พีทที่ดื่มน้ำเสร็จแล้วบอกเพื่อนด้วยท่าทางสบายๆ พร้อมสีหน้าที่ดูมีเลือดฝาดขึ้น



“แล้วผัวมึงเขารู้ไหมคะว่ามึงเป็นแบบเนี่ย” โดมถามด้วยความสงสัย เพราะคนอย่างพี่อาร์ตไม่น่าจะปล่อยให้พีทอยู่สภาพนี้



“รู้ พี่มันพาไปหาหมอมาแล้วรอบนึง ก็ได้ยาบำรุงร่างกาย พวกเกลือแร่มาแดก” พีทว่าด้วยท่าทางไม่คิดมาก และไม่มีความคิดที่จะไปหาหมออีกครั้งในหัวด้วย เพราะไปหาหมอก็จัดยามาให้แบบเดิมแหละ




“ไม่เป็นอะไรก็ดี กูกลัวมึงจะเป็นอะไรมาก เหนื่อยง่ายแบบนี้เดี๋ยวผัวเอาไม่มันนะคะมึง” โดมไม่วายแหย่พีทให้ได้อาย และส่งยิ้มกรุ้มกริ่มล้อเลียนไปให้



“สัด!! อีกระเทยสัปดน” พีทเขวี้ยงขวดน้ำในมือที่ยังมือน้ำอยู่ในนั้นครึ่งขวดใส่หน้าโดมเต็มแรง ข้อหาที่อีกฝ่ายพูดจากวนประสาท



“โอ๊ย!! อีพีท!! เดี๋ยวหน้ากูเสียโฉม!!” โดมโวยวายออกมาดังลั่น พร้อมกับควานหากระจกในกระเป๋ามาส่องดูหน้าตัวเอง



“โตแล้วนะพวกมึง” เลิฟพูดขึ้นมาบ้าง และมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนด้วยความเอือมระอา



“ก็กระเท...”



ซ่า!!!



ยังไม่ทันที่พีทจะได้อ้าปากค้านคำพูดของเลิฟไปมากกว่านี้ จู่ๆ ก็มีน้ำเย็นจัดสาดโครมเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง จนเปียกไปหมดทั้งหน้ายันลำตัวท่อนบน แถมเศษเสี้ยวที่กระเด็นหลุดเข้าปากมาก็หวานประแหล่มๆ เหมือนน้ำแดงเจ้าประจำที่ชงกินกันเกลื่อนเมืองไม่มีผิด



“ทำอะไรวะ!!” โดมที่ตั้งสติได้ก่อนเพื่อน ตะคอกถามหญิงสาวที่เป็นคนทำด้วยเสียงดุดัน ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที



“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับผัวคนอื่นสักที!!” แต่แทนที่คนทำจะตอบคำถามของโดม เจ้าตัวกับตะโกนใส่หน้าพีทด้วยความแค้นเคือง พร้อมกับโยนแก้วเปล่าในมือใส่หน้าพีทเต็มแรง



“ผัวคุณน่ะใคร” พีทปาดน้ำแดงออกจากหน้าและเอ่ยถามเสียงเข้ม ตาเรียวจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งด้วยความโมโห ในใจตอนนี้เหมือนจุดไฟสุมไม่มีผิด หน้าระรื่นของอาร์ตโผล่ขึ้นมาในความคิดทันที พี่มันไปเอาผู้หญิงคนนี้ตอนไหน



“อย่ามาทำโง่ ฉันอุตส่าห์ไม่อะไรกับแกแล้วนะอีตุ๊ด แต่แกก็ยังวุ่นวายไม่เลิก” หญิงสาวกอดอกเชิดหน้ามองพีท และส่งยิ้มเยาะถากถางไปให้ ทำเอาพีทขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสับสน




“ว่าใครตุ๊ด!! แล้วผัวคุณน่ะใคร” พีทถึงกับคิ้วกระตุกที่โดนหญิงสาวพูดจาดูถูก ถึงเขาจะมีแฟนเป็นผู้ชายแต่ไม่เคยอยากจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิง ต้องมาโดนตะโดนใส่หน้าว่าตุ๊ดใครมันจะไม่โมโห และที่สำคัญผัวที่ผู้หญิงคนนี้มาแหกปากปาวๆ น่ะมันใคร



“ถามกลับมาแบบนี้ แสดงว่ามีผัวหลายคนล่ะสิ” หญิงสาวยังคงส่งสายตามองพีทอย่างดูถูก จนพีทได้แต่ยืนกำหมัดแน่นพยายามระงับความโมโหของตัวเอง



“ถ้าผัวผมที่คุณว่าคือไอ้พี่อาร์ตที่เรียนวิศวะล่ะก็ใช่ แต่ถ้าคนที่คุณหมายถึงไม่ใช่คนนี้ ไอ้เหี้ยนั่นมันไม่ใช่ผัวกูครับ” พีทบอกอีกฝ่ายเสียงเย็น และรอคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าคำตอบของคนตรงหน้าเป็นไอ้พี่อาร์ตจริงๆ ล่ะก็ เขาจะตบผู้หญิงเป็นครั้งแรกในชีวิตให้ดู จากนั้นจะตามไปกระทืบไอ้พี่อาร์ตถึงห้องเรียน พร้อมกับลากผู้หญิงหน้างิ้วคนนี้ไปด้วย จากนั้นพ่อจะอัดคลิปประจาน แฉมันลงบนโซเชี่ยล!!



“พี่อาร์ตอะไรของแก ฉันหมายถึงพี่แทนต่างหาก” คำตอบจากอีกฝ่ายที่ตะโกนใส่หน้า ทำให้พีทช็อกยิ่งกว่าชื่อของอาร์ตซะอีก แทนที่ว่าคงไม่ใช่พี่หมอหรอกนะ



“แทน...แทนไทอ่ะนะ” พีทที่เริ่มงงเป็นไก่ตาแตก เอ่ยถามอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจ



“ระลึกได้แล้วเหรอว่ามั่วกับผัวคนอื่น” หญิงสาวยังคงส่งเสียงถากถางพีทไม่หยุด จนพีทมือกระตุกอย่าจะเหวี่ยงไปตบให้หัวทิ่ม



“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่แทนมากไปกว่าเพื่อนร่วมโลก” พีทถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พร้อมกับกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง พร้อมกับสมองที่เริ่มจะจำได้ลางๆ ว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร ก็ผู้หญิงที่เคยด่าเขาว่าหน้าด้าน พร้อมกับทำน้ำคว่ำใส่หัวเขาที่โรงอาหารประมาณครึ่งปีก่อนไง เขาลืมไปแล้วด้วยนะทำไมยังอุตส่าห์มาหลอกหลอนอีกวะ แถมด้วยเรื่องของไอ้สารเลวนั่นอีก เวรจริงๆ



“ไม่จริง!! ฉันไม่เชื่อ!! ถ้ามันเป็นอย่างที่แกว่า พี่แทนจะบอกเลิกฉันแล้วพูดว่าแกเป็นเมียเขาทำไม” หญิงสาวโวยวายออกมาไม่หยุด อย่างไม่ยอมเชื่อในคำพุดของพีท



“ผมจะไปรู้กับผัวคุณไหมล่ะครับ” พีทก้มมองสภาพของตัวเองด้วยความเซ็ง ทำไมเขาจะต้องมาซวยเพราะเรื่องแบบนี้ด้วยวะ




“แกจะคืนพี่แทนให้ฉันไหม” หญิงสาวตวาดถามพีทอย่างเกรี้ยวกราด จนพีทต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้งด้วยความหน่าย พร้อมกับหันหลังหนีไม่อยากจะคุยกับคนบ้า ส่งเสียงแว้ดๆ อยู่ได้ น่ารำคาญฉิบหาย ไม่หันไปตบกะโหลกข้อหาทำให้เขาเผลอไปโกรธผัวตัวเองก็ดีแค่ไหนละ



“อีตุ๊ด!! นี่แกจะเดินไปไหน” หญฺงสาวยังตะโกนโวยวายไม่ขาดสาย พยายามจะเดินเข้าไปหาพีท แต่โดมเดินเข้ามาขวางหน้าเอาไว้ และสบตาอีกฝ่ายนิ่งๆ



“นี่ชะนี เจ้แนะนำนะคะ ถ้ากระสันอยากได้ผัวคืนขนาดนั้น ซื้อเชือกไปล่ามมันไว้คะ ไม่ใช่มาแหกปากโวยวายแบบนี้ อายเขานะคะลูก มันไม่งาม” โดมจีบปากจีบคอบอกอย่างมีจริต พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ



“กรี๊ดดดดดดดดดดด” และทันทีที่คำพูดของโดมสิ้นสุด หญิงสาวก็กรี๊ดขึ้นมาดังลั่น ทำเอาผู้คนแถวนั้นมองมาเป็นตาเดียวจากที่มองกันแค่ไม่กี่คน



“มึง...ผีเข้าป่ะวะ” เลิฟที่ยืนอยู่ข้างๆ พีท เอ่ยปากถามพร้อมกับมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความหวาดระแวง



“สงสัยแม่งดูละครเยอะ” พีทตอบคำถามเลิฟ และยืนกอดอกมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ดูแบบไม่คิดที่จะห้ามหรือโต้เถียงอะไรอีก อยากทำอะไรเขาปล่อยให้ทำเลย เชิญตามสบาย เอาให้พอใจ ถ้าสมมุติว่าเจ็บคอจะอาสาไปซื้อน้ำมานาวให้ จะได้แหกปากรี๊ดต่อ



“หูย...กูกลัว” โดมถึงกับถอยหลังมายืนขนาบข้างกับพีท และมองหญิงสาวที่เอาแต่ยืนกรี๊ดด้วยความสยอง



“อะไรของชะนีวะ จู่ๆ ก็มาสาดน้ำใส่มึงเฉย แถมวายวายว่าโดนแย่งผัว...ผัวมันใครจะไปแย่ง” โดมพึมพำคุยกับพีท โดยที่มีเลิฟพยักหน้าเห็นด้วยทุกคำพูด




“ทำบุญบ้างนะมึงซวยฉิบหาย” เลิฟตบไหล่พีทเบาๆ พร้อมกับส่งสายตามองด้วยความเห็นใจ ที่อยู่ดีๆ ก็ซวยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แถมซวยเพราะคนที่คิดว่าน่าจะหายออกไปจากชีวิตด้วยนะ



“เหนียวสัด!!” พีทบ่นอุบ พร้อมกับลูบตามตัวไปมา ตอนนี้ไอ้น้ำแดงเจ้าปัญหามันทำพิษซะแล้วล่ะ




“ถ้าแกยังไม่หยุดยุ่งกับผัวฉัน ฉันก็ยุ่งกับผัวแกบ้าง” ในจังหวะที่พีทจะเดินหนีและเลิกสนใจ อีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงขุ่นมัว พร้อมกับจ้องหน้าพีทอย่างแค้นเคือง



“เอาเลยป้า ตามสบาย” พีทหันกลับไปเผชิญหน้าตรงๆ และตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ



“แกท้าฉันเหรอ”




“เปล่า” พีทขยับเขาไปไกล และไล่สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า



“แต่ผมว่าผัวผมมันมีตาเลือก ว่าอะไรแดกแล้วดีต่อสุขภาพ อะไรแดกแล้วท้องจะเสีย” พีทพูดนิ่มๆ แต่ทำเอาอีกฝ่ายหน้าชาเหมือนโดนตบ พร้อมกับส่งสายตาเยาะเย้ยมองเป็นการปิดท้าย



“นี่แก!!” หญิงสาวตวาดลั่นพร้อมกับง้างมือขึ้นสูง และตวัดลงมาเต็มแรง



“นี่คุณ...หน้าผมไม่ใช่ของสาธารณะนะครับ ที่คุณนึกอยากจะตบแล้วก็จะได้ตบง่ายๆ” พีทว่าเสียงเข้มและบีบมือเข้าที่แขนของอีกฝ่าย ที่พยายามจะฟาดลงมาจนขึ้นรอยมือ



“ถ้าไม่อยากเป็นผู้หญิงคนแรกที่โดนผมตบ ก็ช่วยเลิกบ้าแล้วกลับไปเคลียร์กับผัวมึงนู้น” พีทปล่อยแขนของอีกฝ่ายลง และเดินหันหลังหนีด้วยความปวดหัว ก่อนจะยกมือปิดหูแทบไม่ทัน เมื่อหญิงสาวเจ้าปัญหากรี๊ดไล่หลังขึ้นมาเสียงดัง



“โอ๊ย!! ไอ้เหี้ย!! กูจะฟ้องผัวกู!!” พีทตะโกนขึ้นมาเสียงดังอย่างเหลืออด พร้อมกับสาวเท้าเดินไปที่ซุ้มโต๊ะไม้ จุดประจำที่อาร์ตกับพ้องเพื่อนรวมตัวกันอยู่ เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้แน่ ไอ้เหี้ยพี่หมอแทนมันต้องโดนเอาคืนรวมทั้งเมียมันด้วย ข้อหาทำเสื้อเขาเปื้อน ทำเขาเปียก ทำเขาปวดหัว ทำเขาประสาทเสีย ที่สำคัญทำกูประสาทหูเกือบเสื่อม!! ฮึ่ย!!





2 Be Con...



++++++++++++++++

นุ้งวิวนางสายฮา นางคือคนที่จะเปลี่ยนชีวิตเฮียเลยนะ นางสำคัญ

สถานีต่อไป เคลียรืเรื่องไอ้พี่หมอกัน

ไม่มีอะไรดราม่าแล้ว เน้นฮา เน้นเลี่ยน เชื่อเราเต๊อะ

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ตบคะ เจ้หนุนคะน้องพีท  :m31:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ไม่ใช่แร่ะ น้องวิวคงอยากได้อาร์ตไปทำอย่างอื่น

ออฟไลน์ pang_mingi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยยย สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านทีเดียวห้าสิบสองตอนรวด ฮือออ ชอบบบ

ออฟไลน์ clairon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งื้ออออ หาผู้ที่เหมือนปอกับอาร์ตได้จากที่ไหนเนี้ยอยากได้

จาอาววว ...  แอบลุ้นว่าอาร์ตจะเป็นผู้รากมากดีพลัดพรากจากครอบครัวที่แท้จริงหรืออีกอย่างชีวิตอาจจะดีขึ้นรึเปล่า
ลุ้น.. o13

เราตามมาจากปอกับน้องเลิฟมาเร่งอ่านจนทันชอบมากๆ รอตอนต่อไปนะคะ

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
วิวน่าจะเป็นค่ายเพลงอะไรประมาณนี้ เอาอาร์ตไปออกเทป ร้องเพลงเพราะ แถมหล่อขนาดนี้ ดังแน่ ๆ

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องวิว นางได้ใจมากเลย แบบมีเมียแล้วก็ไม่เป็นไร
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 53 –



                “สัดอาร์ต...แม่มึงมา” อ้นที่เผอิญเงยหน้าขึ้นไปเจอพีทที่กำลังเดินหน้าบึ้งมาแต่ไกล สะกิดเรียกอาร์ตที่เอาแต่วางแผนงานไม่สนใจคนรอบข้าง



                “อะไรวะ” อาร์ตเงยหน้าที่แทบจะจมไปกับกองกระดาษขึ้นมามองอ้น ก่อนจะหันไปมองตามที่อีกฝ่ายชี้ แล้วก็ต้องส่งยิ้มกว้างวางงานทุกอย่างลง เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามาหา



                “ไปทำอะไรมา” อาร์ตก้มลงมองสภาพเลอะเทอะ และตามเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยคราบน้ำแดงของพีทอย่างแปลกใจ



                “โดนชะนีตกมันสาดน้ำใส่” พีทว่าหน้างอและกรอกตาไปมา



                “ชะนีตกมัน?” เป็นอาร์ตที่ต้องเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่พีทต้องการจะบอก



                “พี่มึงกูจะฟ้อง” พีทช้อนตามองอาร์ตและเขย่าแขนอีกฝ่ายไม่หยุด พร้อมกับส่งเสียงออดอ้อน



                “ก่อนจะฟ้อง ไปอาบน้ำก่อนไหม” อาร์ตว่ายิ้มๆ และไล่สายตามองพีททั้งตัว เพื่อบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายสภาพแย่ขนาดไหน



                “เออวะ...อาบน้ำดีกว่า แม่งโคตรเหนียวอ่ะ” พีทบ่นอุบและทำหน้าแหยใส่อาร์ต จนอาร์ตต้องส่ายหัวให้กับท่าทางนั้นด้วยความขำ



                “เฮ้ย!! เดี๋ยวกูมานะ” อาร์ตหันไปตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังนั่งคุยงานกันอยู่ เพื่อบอกให้รู้ว่าจะอู้งานสักพัก



                “เออๆ ว่าแต่ไปไหนวะ พาเมียไปเอา?”  หนึ่งในกลุ่มเพื่อนตะโกนแซวขึ้นมา พร้อมกับทุกคนที่พากันหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ ทำเอาพีทได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะความอาย




                “เออ!! ขอเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงละกัน พอดีกูอึด” อาร์ตตอบกลับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน เลยโดนพีททุบเข้าที่กลางหลังเต็มแรง ข้อหาที่ไม่แก้ตัวแถมยังไปผสมโรงเล่นกับคนอื่นอีก



                “ถ้าจะเอานานขนาดนั้น เมียมึงตายห่าก่อนไหมไอ้สัด!!” กลอนตะโกนสวนขึ้นมาด่าอาร์ตด้วยความหมั่นไส้ เรียกเสียงฮากระจายจากบรรดาเพื่อนทุกคนได้อีกครั้ง



                “จะไปไหนก็ไป ดูหน้าเมียมึงด้วย จะแดกหัวพวกกูแล้วน่ะ” กลอนโบกมือและเอ่ยปากไล่ เมื่อเห็นว่าพีทยืนหน้าบึ้งมองมาที่พวกตัวเองอย่างไม่พอใจ บ่งบอกว่าถ้ายังไม่เลิกแซว ระเบิดได้ลงกลางวงแน่นอน



                “งั้นกูไปแล้ว ปะดื้อ” อาร์ตเองที่เริ่มรับรู้ได้ถึงรังสีพิฆาตของพีท ที่คอยทิ่มแทงหลังอยู่ตลอดเวลา รีบบอกลาเพื่อนและเลิกเล่นไร้สาระ พร้อมกับคว้ามือพีทแล้วพาอีกฝ่ายเดินออกไปจากบริเวณนั้น



                อาร์ตจูงมือพีทเดินมาเรื่อยๆ ซึ่งไม่ได้ไกลจากจุดที่อาร์ตอยู่ก่อนหน้าเท่าไหร่ ก่อนจะมาหยุดลงที่ประตูห้องๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นประตูกระจกสีดำปิดทึบไปทั้งแทบ



“ห้องไรอ่ะ” พีทมองประตูกระจกตรงหน้าด้วยความสนใจ เพราะเข้าเรียนมาได้ปีกว่าๆ เขาไม่เห็นจะเคยรู้ว่ามีห้องแบบนี้ที่คณะ



“ห้องเก็บของน่ะ” อาร์ตว่าแล้วไขกุญแจเพื่อเข้าไปข้างใน



พีทยืนทำหน้างงยิ่งกว่าเก่าให้กับคำตอบของอาร์ต ห้องเก็บของ? แล้วพาเขามาทำไม อย่าบอกนะว่าในนี้มีห้องน้ำ



“เข้ามาได้แล้วดื้อ ยืนมึนอยู่นั่นแหละ” อาร์ตส่งเสียงเรียกเบาๆ เมื่อเดินนำเข้าไปข้างในก่อนได้สักพัก แต่ยังไม่เห็นอีกคนเดินตามเข้ามาสักที



“ปิดประตูด้วย” อาร์ตบอกก่อนที่จะเดินไปเปิดไฟกับแอร์



“เนี่ยนะห้องเก็บของ” พีทถามและมองรอบๆ ห้องด้วยความอึ้ง ถ้าแบบนี้เรียกว่าห้องเก็บของ ก็ไม่ต้องสร้างห้องนั่งเล่นแล้ว



“ก็เนี่ยแหละห้องเก็บของ เห็นไหมของเต็มไปหมด” อาร์ตตอบกลับด้วยท่าทางยียวน ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตรงกลางห้อง



พีทปรายตามองอาร์ตแล้วชักสีหน้าใส่เล็กน้อย ก่อนจะเลิกสนใจแล้วหันกลับมามองสำรวจภายในห้องอีกครั้ง อย่างสนใจ



‘ห้องเก็บของ’ ที่อาร์ตบอก เป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลาง ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม คลุมโทนด้วยสีขาวนวลดูสบายตา ภายในมีโซฟาสีน้ำตาลขนาดใหญ่ตั้งเอากลางห้อง มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ครบกว่าที่ห้องของอาร์ตด้วยซ้ำ มีแม้กระทั่งมาม่า ปลากระป๋อง ถ้วย จาน ถ้ามีที่นอน หมอน ผ้าห่ม ก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ได้เลย




ส่วนอีกมุมห้องที่ว่าง มีพวกเครื่องดนตรี กับชั้นไม้ขนาดกลางวางเอาไว้ มองไปมองมาก็เหมือนห้องเก็บของแบบที่ว่าจริงๆ นั่นแหละ เพราะของในห้องมันดูเยอะแยะ และผสมปนเปกันไปหมด แค่เก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเท่านั้นเอง



“สรุปนี่ห้องอะไรอ่ะ” พีทที่สำรวจทุกอย่างจนพอใจ เดินเข้าไปหาอาร์ตตรงโซฟา และจ้องหน้าเพื่อขอคำตอบ



“ห้องเก็บของไง” อาร์ตยังคงตอบยียวนและยิ้มกวนประสาท



“ดีๆ ดิ๊” พีทชักสีหน้าใส่ด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิดอีกครั้ง จนอาร์ตต้องหัวเราะออกมาและดึงพีทให้เข้ามาใกล้



“มันเป็นห้องเก็บของจริงๆ พวกพี่ฮิมเขาเลยมายึดแล้วทำใหม่ เอาไว้ใช้เวลามีเรื่องต้องคุยกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้มาใช้กันหรอก ส่วนมากไปสุมหัวที่ร้านเหล้าพี่ตองนู้น” ปากของอาร์ตก็เล่าให้พีทฟังเรื่อยๆ ส่วนมือก็วุ่นวายอยู่กับเสื้อผ้าของพีท



“แล้วงี้พวกอาจารย์เขาไม่ว่าอะไรเหรอ” พีทถามต่อด้วยความสงสัย อยู่ๆ นักศึกษามายึดห้องไว้ใช้ส่วนตัวแบบนี้ พวกอาจารย์ไม่น่าจะอยู่เฉย



“พ่อพี่ฮิมเป็นอธิการฯ” จบคำตอบของอาร์ต พีทก็เลิกสงสัยทุกอย่าง ถ้าเส้นจะใหญ่ขนาดนั้น ยึดเพิ่มอีกสักห้องสองห้องก็ไม่มีใครว่าหรอก



“แล้วนี่พี่มึงจะทำอะไร” พีทขมวดคิ้วเป็นปมแล้วจ้องหน้าอาร์ตเขม็ง ก่อนจะฟาดลงไปบนหลังมือซุกซนของอีกฝ่าย ทำไมน่ะเหรอ? ก็ไอ้พี่อาร์ตมันกำลังถอดเสื้อผ้าเขาน่ะสิ แถมปลดกระดุมเสื้อออกจนจะหมดแล้วด้วย



“อาบน้ำไง” อาร์ตส่งยิ้มกว้างให้พีท และจัดการปลดกระดุมเสื้อเม็ดที่เหลือต่อ



“ถอดเองก็ได้ไหม...แล้วจะไปอาบที่ไหน” พีทมองค้อนอาร์ตและดึงหูด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะขยับถอยห่างพร้อมจับสาบเสื้อที่โดนปลดกระดุมออกจนหมดเข้าหากัน



“นั่นไงห้องน้ำ” อาร์ตชี้นิ้วไปทางมุมห้องที่อยู่ด้านหลัง พีทมองตามและเดินไปทางนั้นทันที กัาวขาเข้าไปข้างในได้ก็จัดการล็อกประตูให้แน่นหนา เพราะกลัวว่าอาร์ตจะเล่นพิเรนทร์อะไร อย่างที่เจ้าตัวคุยกับเพื่อนก่อนมาที่นี่



อาร์ตนั่งอมยิ้มมองตามหลังท่าทางหวาดระแวงของพีท แล้วส่ายหัวไปมาด้วยความขำ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหน้าห้องน้ำ



ก๊อก! ก๊อก!



“พีทเอาเสื้อผ้าออกมาเร็ว” อาร์ตเคาะประตูและตะโกนบอกคนข้างใน ได้ยินเสียงน้ำที่กระทบกับพื้นจากข้างในแว่วๆ แสดงว่าพีทกำลังอาบอยู่



“เอาไปทำไม” พีทตะโกนถามกลับด้วยความสงสัย ว่าอาร์ตจะเอาเสื้อผ้าตัวเองไปทำไม



“เอามาล้างน้ำออกไง” อาร์ตตะโกนตอบกลับ สภาพเลอะเทอะขนาดนั้นเอาใส่กลับเลยไม่ได้หรอก แค่เห็นยังเหนียวตามเลย



“แล้วจะเอาอะไรใส่อ่ะ” คำตอบของพีททำให้อาร์ตนึกขึ้นได้ ถ้าเอาเสื้อผ้าของอีกฝ่าขมาขยี้ล้างน้ำ แล้วอาบเสร็จจะเอาอะไรใส่



“เอาเสื้อพี่ไปใส่ก่อนแล้วกัน รอแห้งค่อยเปลี่ยนคืน” อาร์ตบอกพร้อมกับถอดเสื้อของตัวเองออก ก่อนจะเคาะประตูเรียกคนข้างในอีกครั้ง ไม่นานบานประตูก็แง้มออกเล็กน้อย พร้อมกับมือเล็กที่ยื่นออกมาพร้อมเสื้อผ้า



อาร์ตเอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้ามาถือไว้ แล้วยื่นเสื้อของตัวเองเข้าไปแทนที่ ซึ่งพีทรีบหยิบเอาไปแล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง พร้อมรีบลงกลอนราวกับกลัวว่าอาร์ตจะพัวประตูเข้าไปหา



อาร์ตถึงกับหลุดขำให้กับความระแวงไม่เข้าเรื่องของพีท แล้วเดินถือเสื้อในมือออกไปนอกห้อง นั่งลงข้างก๊อกน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะลงมือขยี้เอาคราบเหนียวจากน้ำหวานออก เสร็จแล้วก็สะบัดตากผึ่งลมที่หน้าห้อง



เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กลับเข้าไปข้างใน แต่ถึงจะใช้เวลามากไปนานพอควร คนที่อยู่ในห้องน้ำอย่างพีทก็ยังไม่ออกมา ไม่รู้ว่าอาบน้ำหรือนอนหลับกันแน่



...

...



พีทยืนมองสภาพของตัวเองในกระจก แล้วก็อดที่จะอายขึ้นมาไม่ได้ ที่จริงเขาอาบน้ำเสร็จนานแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะออกไปทั้งๆ แบบนี้ต่างหาก



สภาพที่ใส่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว แถมยังปิดอะไรแทบจะไม่มิด ดีหน่อยที่ข้างล่างยังมีกางเกงในแบบขาสั้น ไม่งั้นคงรู้สึกโล่งโจ้งวาบหวิวไปมากกว่านี้



พีทรวบรวมความกล้าแล้วสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ตัดสินใจเดินไปเปิดประตูเพื่อออกไปข้างนอก ทันทีที่ก้าวขาออกมาหูก็ได้ยินเสียงดนตรี ดังคลอกับเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะ



กวาดสายตาไล่มองตามเสียงไป ก็เจอแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของอาร์ต กำลังนั่งดีดคีย์บอร์ดพร้อมกับร้องเพลงอยู่



พีทเดินเข้าไปหาอาร์ตช้าๆ โดยพยายามให้เงียบที่สุด จนเมื่อเข้าไปใกล้ก็กอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง และชะโงกหน้าข้ามไหล่ลงไปมองคีย์บอร์ด



“พี่มึงเล่นเป็นด้วยเหรอ” พีทถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะภาพชินตาที่ได้เห็นเป็นประจำ คืออาร์ตที่นั่งดีดกีตาร์ร้องเพลง ไม่เคยคิดว่าจะเล่นเครื่องดนตรีอย่างอื่นเป็น



“เป็นทุกอย่างแหละ” อาร์ตหยุดมือที่ดีดคีย์บอร์ดลงแล้วหันมาตอบ



“จริง?” พีททำตาโตถามเสียงสูง แล้วมองอาร์ตอย่างเหลือเชื่อ ก็รู้แหละว่าอีกฝ่ายเป็นคนเก่ง แต่บอกว่าเล่นเป็นทุกอย่างนี่ก็ออกจะเกินไปนะ



“อืม...แต่ก็แค่พอเล่นได้ เอาไปเทียบกับพวกเล่นจริงจังไม่ได้หรอก” อาร์ตว่ายิ้มๆ แล้วเริ่มดีดคีย์บอร์ดอีกครั้ง



“พี่มึงไม่นึกอยากเป็นนักร้องบ้างเหรอ” พีทถามขึ้นในสิ่งที่สงสัยมาตลอด เพราะอาร์ตทำงานพิเศษด้านนี้ แถมความสามารถก็เห็นๆ กันอยู่ แต่เจ้าดูไม่กระตือรือร้นหรือสนใจจะเอาดีด้านนี้เลย



“พี่อยากเป็นครู” อาร์ตส่ายหัวเบาๆ และคำตอบนั้นก็ทำเอาพีทตาโต เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินเกี่ยวกับความฝันของคนรัก แถมเป็นความฝันที่เรียบง่ายชวนเหลือเชื่อเกินไปสำหรับอีกฝ่าย



“นี่พูดจริง?” พีทถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ คนแบบอาร์ตเนี่ยนะไปเป็นครู โคตรน่าเป็นห่วงเยาวชนของชาติ พากันเรียนไม่รู้เรื่องนั่งมองแต่หน้าครูแน่ๆ



“ทำไม? ไม่เชื่อ?” อาร์ตถามกลับพร้อมหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เพราะพีทไม่ใช่คนแรกที่ตกใจกับเรื่องนี้ เพื่อนสนิทเขารวมถึงคนรอบข้างทุกคนก็พากันตกใจหมด คงคิดไม่ถึงกันล่ะมั้งว่าคนอย่างเขาจะฝันแบบนี้



“นิดนึง...แล้วทำไมพี่มึงอยากเป็นครูล่ะ” พีทยังถามต่อเรื่อยๆ ก็อะไรที่เป็นตัวอาร์ตมันชวนให้น่าติดตามจะตาย มีเรื่องมาให้ตกใจได้ตลอดเวลาจริงๆ



“ไม่รู้สิ...อาจจะเป็นเพราะแม่ครูล่ะมั้ง” อาร์ตพึมพำตอบพร้อมนึกย้อนถึงเหตุผล เขาเองก็ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากเป็นครู แต่ภาพจำในหัวตั้งแต่เด็กจนโต คือภาพของผู้หญิงที่ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด แต่เลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี คนที่ให้ความรัก ความอบอุ่น และความรู้ เป็นทั้งครูและแม่ในเวลาเดียวกัน มันคงเป็นอะไรที่ฝังอยู่ในความรู้สึก ที่คนอย่างเขาอยากจะเป็นและทำให้ได้แบบนั้น ในสักวันนึง



“งั้นทำไมพี่มึงไม่เรียนครู” พีทที่ยังคงมีความสงสัยถามต่อไม่หยุด จนอาร์ตต้องเอี่ยวตัวหันกลับไปมองคนรัก ที่ตอนนี้ทำตัวกลายเป็นเจ้าหนูจไไมไปซะแล้วด้วยความขำ



“เรียนครูเราก็ไม่ได้เจอกันสิ” อาร์ตทำตาเป็นประกายวิบวับใส่พีท และยิ้มกรุ้มกริ่มส่งให้



พีทหรี่ตามองอาร์ตแล้วยกมือขึ้นฟาดเข้าเต็มหน้าอีกฝ่าย ข้อหาทำตัวกวนประสาทไม่เป็นเวล่ำเวลา เขาอุตส่าห์ถามเพราะอยากรู้ ดันมาทำเป็นเล่นซะได้



“งอนอีกล่ะ” อาร์ตขำออกมาเบาๆ พร้อมกับรั้งแขนของพีทที่หันหลังจะเดินหนีไว้



"ไม่ได้งอนเว้ย แต่ไม่อยากคุยด้วย" พีทว่าเสียงห้วนและมองค้อนอาร์ตตาคว่ำ



"ไม่งอนจริงดิ" อาร์ตรั้งเอวพีทให้ขยับมายืนที่หว่างขา และหรี่ตามองอย่างรู้ทัน



"เพื่อนเล่นเหรออาร์ต" พีทถลึงตามองอาร์ตดุๆ แต่ทำเอาอาร์ตหลุดขำ ก่อนที่จะไล่สายตาสำรวจตัวพีท



"เลิกเรียนแล้วไปซื้อเสื้อเชิ้ตสักโหลกัน” จู่ๆ อาร์ตก็พูดขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ จนพีทต้องมองกลับไปด้วยความไม่ไว้ใจ



“ซื้อทำไม?”



“พี่ชอบ” อาร์ตยิ้มกริ่มและยกมือลูบที่ขาอ่อนของพีทไปมา



“หน้าพี่มึงโคตรหื่นเลยว่ะ” พีทยิ้มขำแล้วปล่อยให้อาร์ตลูบอยู่แบบนั้น โดยที่ไม่คิดจะเอ่ยปากห้าม เพราะห้ามไปอาร์ตก็ไม่ฟังอยู่ดี



“กลับห้องไปใส่แบบนี้นอนนะ” อาร์ตทำเสียงอ้อนขอพีท แววตาที่มองไปทั่วทั้งตัวของพีท แสดงออกให้เห็นว่าชอบจริงๆ แบบไม่ปิดบัง ถ้าเขารู้ว่าเสื้อเชิ้ตตัวเดียว น้องใส่มันออกมาแล้วน่าฟัดขนาดนี้นะ เขาจะบังคับให้ใส่ทุกวัน ขาขาวๆ ที่พ้นออกมาจากชายเสื้อ ที่ยาวปิดถึงแค่ต้นขา ขยับทีก็วับๆ แวมๆ ชวนให้ระทึก อยากจะจับแก้ผ้าแล้วฟัดซะเดี๋ยวนี้



“สมองเนี่ยนะ” พีทดึงหูอาร์ตแรงๆ อย่างเหลืออด ส่วนอาร์ตก็เอาแต่นั่งขำชอบใจที่ทำพีทโมโหได้




“ว่าแต่ไปทำอะไรมาถึงเลอะเทอะแบบนี้” อาร์ตที่หยุดหัวเราะได้แล้วเอ่ยปากถามขึ้น หลังจากที่นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนจะพาพีทมาอาบน้ำ อีกฝ่ายทำหน้างอบอกว่ามีเรื่องจะฟ้องเขา



“เออใช่!!” พีททำตาโตและอุทานออกมา เพราะตัวเองก็ลืมไปแล้วเหมือน



“แล้วจะฟ้องอะไร” อาร์ตถามพร้อมกับดึงพีทลงมานั่งตัก



“เมียไอ้พี่หมอมันมาสาดน้ำใส่” พีทรีบฟ้องทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง พอนึกขึ้นมาได้ก็เริ่มอารมร์เสียอีกครั้ง



“แล้วมันมาสาดใส่ทำไม” อาร์ตเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นขรึมขึ้นทันที จนพีทที่กำลังหงุดหงิดเปลี่ยนเป็นทำหน้าแหย เพราะไม่คิดว่าจะทำให้อีกคนโมโหตามง่ายขนาดนั้น



“แล้วพี่มึงจะโมโหทำไมเนี่ย” พีทว่าเสียงอ่อยแล้วหันกลับมามองอาร์ต ที่ตอนนี้นั่งทำหน้ายักษ์ไปแล้ว



                “ตกลงมันมาสาดใส่ทำไม” อาร์ตยังคงทำเสียงดุ หน้านิ่งใส่พีท จนพีทชักสีหน้าออกมาด้วยความเซ็ง



                “มันบอกว่าไปยุ่งกับผัวมัน”




                “แล้วไปยุ่งจริงหรือเปล่าล่ะ” คำพูดต่อมาของอาร์ต เรียกใบหน้าบึ้งตึงจากพีทได้ทันควัน



                “ปากหมาละพี่มึง” พีทยกมือตบปากอาร์ตเต็มแรงข้อหาปากไม่ดี พร้อมกับถลึงตาใส่ดุๆ



                “ฮ่าๆ แล้วจะเอายังไง มาฟ้องแบบนี้จะให้พี่ทำอะไร ไปจับมาตบไหม” อาร์ตทำหน้าจริงจังใส่พีท แต่แววตาสั่นระริกด้วยความขำ



                “ตบบ้าอะไรล่ะวะ ก็เพราะไม่รู้จะทำยังไงถึงมาฟ้องเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงนะ ใช้ไอ้พี่วินไปดักเก็บแม่ง” พีทบ่นกระปอดกระแปด พร้อมกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง เพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากบ่น



                “แล้วทำไมต้องใช้ไอ้วิน”



                “อ้าว...ทำเองคนก็รู้ดิ” พีทเหลือบตามองอาร์ตและส่ายหัวไปมา พร้อมกับถอนหายใจที่อาร์ตไม่รู้อะไรเอาซะเลย เรื่องเลวๆ ใครเขาให้ลงมือทำเอง มันต้องใช้คนอื่นทำให้ถึงจะถูก



                “ไอ้แสบเอ้ย” อาร์ตขำออกมาเบาๆ แล้วบิดปลายจมูกของพีทด้วยความมันเขี้ยว



                Tru…Tru…Tru…



                ในขณะที่พีทกำลังจะอ้าปากด่าอาร์ต เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังแทรกขึ้นมาซะก่อน อาร์ตเลยปล่อยตัวพีทให้ลุกออกจากตัก เพื่อไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโซฟา



                พีทมองชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอด้วยความตกใจ ความกังวลเริ่มแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย จนแม้แต่อาร์ตที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยยังรู้สึกได้




                “ดื้อ...ใครโทรมา” อาร์ตตัดสินใจถามขึ้น เมื่อเห็นพีทยังเอาแต่ยืนจ้องโทรศัพท์ และมีอาการลังเลที่จะกดรับสาย



                พีทเงยหน้าขึ้นจากจอแล้วหันไปสบตากับอาร์ต ใบหน้าเนียนแสดงความเครียดออกมาอย่างปิดไม่มิด ก่อนจะเดินถือโทรศัพท์มาหาอาร์ตและยื่นให้อีกฝ่ายดู



                อาร์ตมองชื่อที่โชว์บนหน้าจอและเงยหน้าขึ้นมามองพีท พร้อมกับความสงสัยที่ลอยอยู่เต็มหัว ว่าอีกฝ่ายโทรมาหาพีททำไม และทำไมยังกล้าติดต่อมา หรือเป็นเพราะพูดถึงเหี้ย...เหี้ยเลยแสดงตัว



                โทรศัพท์ในมืออาร์ตยังคงส่งเสียงร้องและสั่นเป็นเจ้าเข้าตลอดเวลา โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ และปลายสายก็คงจะไม่ยอมแพ้ เพราะพอสายตัดสักพักมันก็มีสายเรียกเข้า เป็นสายจากคนๆ เดิมที่ขึ้นโชว์บนหน้าจอว่า...



                ‘แทนไท’







2 Be Con...



+++++++++++++

เคลียร์เรื่องไอ้พี่หมอกันเถอะ

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า



ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
จะโทรมาทำไมอี๊กกกกกกก

 :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ขอ M16A1 สักกระบอกได้ไหมคะเนี่ยอยากยิงชะนีที่มาตกมันกับอิพี่หมอมันเลยเอาแบบม้วนเดียวจบ  :angry2:

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 54 -



ดวงตาเรียวมองร้านอาหารชื่อดังตรงหน้าด้วยความหนักใจ แววตาไหววูบเต็มไปด้วยความลังเลในนั้น ลมหายใจถูกพ่นออกมาหนักๆ เพื่อระบายความเครียด ก่อนจะหันกลับไปมองทางด้านหลังของตัวเอง



“เข้าไปเถอะ” อาร์ตยกมือขึ้นบีบที่ไหล่เล็กเบาๆ และสบตาอย่างให้กำลังใจ



“แต่ว่า…” ถึงอย่างนั้นพีทก็ยังอดที่จะค้านไม่ได้ได้ เพราะครั้งล่าสุดที่ได้เจอกับใครอีกคน มันคือความทรงจำเลวร้ายที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ลืม



“ไม่เป็นไรหรอก...พี่อยู่ด้วย” อาร์ตลูบหัวพีทและกำชับบอกอีกฝ่ายให้มั่นใจ ว่าการเจอกันรอบนี้ของพีทกับแทนไท มันจะไม่มีทางเกิดเรื่องแย่ๆ อีก ตราบใดที่เขายังอยู่ตรงนี้



พีทยังคงมีความลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำของอาร์ต ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความกล้า แล้วหันหลังกลับไปผลักประตูกระจกเพื่อเปิดทาง และเป็นคนเดินนำอาร์ตเข้าไปข้างใน




เหตุผลที่เขามาร้านอาหารชื่อดังร้านนี้ สาเหตุสืบเนื่องมาจากสายเรียกเข้าเมื่อเย็นวาน เมื่อจู่ๆ คนที่พีทคิดว่าคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วในชาตินี้ ก็โทรมาหาหลังจากที่เงียบหายไปเหมือนตายจาก



ในตอนแรกเขาลังเลที่จะกดรับสาย เพราะไม่อยากจะติดต่อหรือคุยอะไรกับคนๆ นี้ทั้งนั้น ตั้งใจว่าจะตัดสายทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำ แต่อาร์ตกลับห้ามเอาไว้และบอกให้เขารับสาย



ทันทีที่รับสาย และยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ปลายสายก็ชิงบอกจุดประสงค์ของตัวเองมาก่อน ซึ่งสิ่งที่บอกมา ทำเอาพีทในเวลานั้นต้องชักสีหน้าด้วยความไม่ชอบใจ




แทนไทนัดเจอเขาที่ร้านอาหารนี้ โดยที่ไม่บอกว่าอยากเจอทำไม และยังกำชับให้เขามาหาแค่คนเดียว เขาตั้งใจจะปฏิเสธออกไปเพราะไม่อยากจะเห็นหน้า ไม่อยากเจอกันอีกในตอนนี้ เขาไม่ได้เกลียดอะไรอีกฝ่ายขนาดนั้น แค่ยังทำใจมองผ่านเรื่องที่โดนกระทำไม่ได้



“พี่บอกให้มาคนเดียวไม่ใช่เหรอครับ” แทนไทส่งยิ้มให้พีทและถามขึ้นโดยที่ใช้หางตามองอาร์ตเล็กน้อย



“กูคงปล่อยเมียกูมาเจอเหี้ยคนเดียวหรอก” อาร์ตสวนกลับทันควัน และนั่งลงโดยที่ไม่ต้องรอให้ใครเชิญ



“ว่างๆ พีทน่าจะฝึกมารยาทการเข้าสังคมให้มันบ้างนะครับ” แทนไทเองก็ไม่ต่างกัน อ้าปากสวนกลับแบบคำต่อคำ




พีทได้แต่ยืนมองหน้าอาร์ตกับแทนไท ที่จ้องหน้ากันเขม็งสลับกันไปมา ก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้โต๊ะข้างๆ ที่ตอนนี้กำลังมองมาหน้าตาตื่น เขาล่ะกลัวใจจริงๆ ว่าไอ้สองคนนี้มันจะลุกมาตีกัน



“มึงมีเรื่องเหี้ยอะไรก็รีบพูดมา” อาร์ตถามเสียงห้วน



“ทำไมกูต้องบอกมึง” แทนไทถามกลับยียวน ทำเอาอาร์ตฝ่าเท้ากระตุกยิกๆ ไม่หยุด



“แดกตีนไหม” อาร์ตถามกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาแสดงให้เห็นว่าจะทำอย่างที่ปากพูดแน่ๆ



“มึงอยาก?” แทนไททำหน้ากวนประสาทใส่อาร์ตอย่างไม่กลัวตาย




“เอ่อ...พี่หมอมีอะไรจะคุยกับผมครับ” พีทรีบพูดแทรกขึ้นเพื่อห้ามทัพ เพราะกลัวว่าถ้าขืนยังปล่อยให้สองคนนี้คุยกันเอง นอกจากจะไม่ได้อะไร อาจจะยังต้องหามกันไปโรงพยาบาลแบบรอบที่แล้ว



“พี่ขอคุยกับพีทแค่สองคนได้ไหม” แทนไทหันมาคุยกับพีทเสียงนุ่ม ผิดกับที่ใช้ต่อปากต่อคำกับอาร์ตลิบลับ



“กูไม่ให้คุย” ยังไม่ทันที่พีทจะได้เป็นฝ่ายตอบอะไร อาร์ตก็สวนขึ้นเสียงห้วนแววตาแข็งกร้าว



“กูไม่ได้ถามมึง” แทนไทเองก็หันกลับไปต่อปากต่อคำกับอาร์ตทันที ด้วยท่าทางและน้ำเสียงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่



พีทต้องกรอกตาไปมาด้วยความเซ็งให้กับคนทั้งคู่ เขาอุตส่าห์คิดว่าอาร์ตมาด้วยเรื่องมันคงจะง่ายขึ้น และจะได้รู้ถึงจุดประสงค์ที่แทนไทนัดออกมา กลายเป็นว่านั่งมาร่วมสิบนาที เขาไม่ได้อะไรเลยนอกจากดูไอ้บ้าสองตัวนั่งฮึ่มแฮ่ใส่กัน



“อย่างที่พี่อาร์ตบอกละครับ ผมคงไม่สะดวกคุยกับพี่แค่สองคน มีอะไรพี่หมอพูดมาเลยดีกว่า เพราะพวกเราไม่เคยมีความลับอะไรกันอยู่แล้ว” พีทพูดแทรกขึ้นด้วยนำเสียงราบเรียบ แต่คำพูดทำให้อาร์ตกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะ และส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้แทนไท ส่วนตัวของแทนไทเองแววตาถึงกับไหววูบไปกับประโยคเหล่านั้น ก่อนจะรีบปรับมันให้กลับมาปกติในเวลาอันรวดเร็ว



“พี่มาลา” และคำพูดที่หลุดออกจากปากของแทนไท รอยยิ้มแห้งแรง รวมถึงแววตาแฝงความเศร้าหมองที่แสดงออกมา ทำให้ทั้งอาร์ตและพีทต้องหันมามองหน้ากัน เพราะคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแทนไทจะนัดมาเจอด้วยเรื่องนี้




“เฮ้อ!!! เดี่ยวพี่ออกไปรอนอกร้าน” อาร์ตถอนหายใจออกมาเสียงดัง หลังจากที่สังเกตท่าทางของแทไทอยู่สักพักจนมั่นใจว่าท่าทีที่แสดงออกมาของอีกฝ่ายไม่ใช่การเสแสร้ง เลยตัดสินใจลุกขึ้นไปรอข้างนอกเพื่อเปิดโอกาสให้พีทกับอดีตคนรักได้คุยกัน เพราะดูแล้วแทนไทคงมีเรื่องจะคุยกับพีทเยอะพอสมควร



“อาร์ต...” พีทดึงชายเสื้อของอาร์ตไว้แน่นด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าอาร์ตจะทิ้งตัวเองเอาไว้กับแทนไทแค่สองคน ดวงตาสวยเริ่มฉายแววหวั่นวิตกขึ้นมาอีกครั้ง



“ไม่เป็นไร” อาร์ตยีผมพีทจนฟูฟ่อง และส่งสายตาบอกให้สบายใจว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดท้ายพีทก็พยักหน้าเชื่อคำพูดของอาร์ต



“ขอบใจ” แต่ก่อนที่อาร์ตจะเดินออกไป แทนไทก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ




อาร์ตหันกลับมามองหน้าแทนไทด้วยความประหลาดใจ และกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกเสียงตอบกลับไป



“เออ!!”



“สัด!” แทนไทบ่นพึมพำตามหลังอาร์ตอย่างหมั่นไส้ รู้สึกมือเท้ามันกระตุกตลอดเวลา อยากจะออกกำลังกับอีกฝ่ายเป้นนัดล้างตาเหลือเกิน



“ไม่ต้องกลัวพี่หรอก” แทนไทยิ้มออกมาบางๆ เมื่อเห็นท่าทางยุกยิก และมองมาอย่างหวาดระแวงตลอดเวลาของพีท ซึ่งพีทก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งยิ้มแหยๆ เพราะถึงอีกฝ่ายจะดูไม่มีอะไร แต่มันก็อดระแวงในใจไม่ได้อยู่ดี




“พี่ขอโทษนะ” คำพูดอ่อนแรงและรอยยิ้มเศร้าหมองของแทนไท ทำให้พีทหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองและมองอีกฝ่ายอย่างเต็มตา



“พี่อยากบอก...ก่อนจะไปเรียนต่อ” น้ำเสียงจริงใจที่หลุดออกมาจากปากของแทนไท ทำให้พีทถึงกับพูดอะไรไม่ออก นอกจากพยักหน้ารับรู้ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้รู้สึกยังไง รู้แค่ว่าไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าจะได้ยินคำนี้จากอีกฝ่าย



ที่แทนไทหายไปในช่วงนี้ ก็เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องที่จะไปเรียนต่อ เลยไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาวุ่นวายกับพีท ส่วนที่ไม่เอาเรื่องอาร์ต มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรซับซ้อนเลย ก็แค่อีโก้ของลูกผู้ชาย แค่พายแพ้มันก็เจ็บใจมากพอแล้ว แทนไทเลยไม่คิดที่ประจานตัวเองให้อายมากกว่านั้น



“พี่รักเรานะ” จู่ๆ แทนไทก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาพีทตาเบิกโพรงจนแทบจะถลน เพราะตกใจกับคำบอกรักของเจ้าตัว อ้าปากพะงาบๆ พยายามที่จะพูดอะไร สุดท้ายก็ต้องหุบลงเหมือนเดิม เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ และเลือกที่จะเงียบปล่อยให้แทนไทเป็นฝ่ายพูดต่อไป



“พี่ยังพอมีหวังบ้างไหม” คำถามของแทนไท เรียกความเงียบให้ปกคลุมระหว่างทั้งคู่ทันที และต่างฝ่ายต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง



 “ผมเคยรักพี่” ในที่สุดพีทก็ควานหาเสียงตัวเองเจอหลังจากที่เงียบไปนาน และเงยหน้าสบตากับแทนไทแบบไม่หลบ



“แต่ตอนนี้...ผมรักคนอื่นแล้ว” พีทตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมแววตาที่แสดงความมั่งคงของหัวใจ จนแทนไทที่มองเห็นรู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งใจ



 “สายไปแล้วสินะ” แทนไทพึมพำออกมาแผ่วเบา มองใบหน้าเรียบเฉย แววตาไม่สะท้อนความรู้สึกใดๆ ของพีทอย่างปวดใจ




เขากำลังจะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่เยอรมัน และก่อนไปเขาอยากมาเจอพีท อยากมาขอโทษและบอกความรู้สึกบางอย่างที่ยังค้างอยู่ในใจ มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายแล้วจริงๆ ที่จะลองลงมือทำ ถ้าแววตาคู่สวยคู่นั้นสะท้อนอะไรออกมาบ้าง ตอนที่เขาบอกว่ากำลังจะไปก็คงดี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันไม่มีอะไรเลย พร้อมกับความหวังทุกอย่างที่ดับลง



“เขาดูแลพีทดีไหม” แทนไทพยายามถามด้วยน้ำเสียงปกติ พยายามไม่ให้มันสั่นไหวสะท้อนความอ่อนแอข้างใน




“ดี...แต่เพี้ยนไปหน่อย” พีทพยักหน้างึกงัก และยิ้มกว้างออกมาเมื่อพูดถึงคนรัก




“แล้วยังไงอีก” แทนไทถามต่อพร้อมกับยกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ




“ก็....” และหลังจากนั้นพีทก็เล่าถึงวีรกรรมแสบๆ ของอาร์ตให้แทนไทฟังไม่หยุด มีรอยยิ้มสดใสและแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลาที่พูดถึงอาร์ต



แทนไทมองท่าทางของพีทแล้วเจ็บไปหมดทั้งใจ เขาไม่เคยทำให้น้องยิ้มได้ขนาดนี้เลยสักครั้งในระหว่างที่เราคบกัน ไม่เคยกล้าแสดงออกว่ารักต่อหน้าคนอื่นเหมือนที่ใครอีกคนทำ นอกจากการทำให้น้องเสียใจซ้ำๆ และสุดท้ายก็ทิ้งไป พอวันที่รู้สึกตัวว่าทำหัวใจหล่นหาย มันก็สายจนกลับไปทำอะไรไม่ได้แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ได้แต่อิจฉาผู้ชายคนนั้น คนที่ได้หัวใจของน้องไป หัวใจที่มันเคยเป็นของเขา แต่เขารักษาไว้ไม่ได้



“พี่ขอโทษ...ขอโทษทุกอย่างที่ทำไม่ดีกับเรา ยกโทษให้พี่นะครับ” แทนไทส่งยิ้มอย่างเจ็บปวดให้พีท หวังว่าจะได้รับการให้อภัย แมว่าจะไม่มีทางได้ความรักกลับคืนแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากอีกฝ่ายคือความเงียบ และนั่นมันทำให้แทนไทได้แต่นั่งคอตก



เขาทำเรื่องเลวร้ายกับอีกฝ่ายซ้ำๆ ซากๆ จนเกินจะเยียวยา หรือให้อภัยได้แล้วสินะ แต่เขาไม่โทษน้องเลย เพราะผลที่ได้รับ มันก็เหมาะสมกับการกระทำของเขาแล้ว



“ขอบคุณนะที่ยอมมา กลับกันเถอะ” แทนไทพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับวางเงินสดเอาไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะเดินนำพีทออกไปนอกร้าน ใจจริงเขามีอะไรอยากจะพูดมากมาย แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ คนเลวๆ แบบเขาก็ไม่ควรแก้ตัวอะไรอีก



“กูฝากด้วยนะ” แทนไทตบไหล่อาร์ตและเอ่ยปากฝากฝังพีท แม้จะรู้ว่าอีกคนทำหน้าที่ได้ดีกว่าตัวเองเป็นไหนๆ

อาร์ตเหลือบตามองแทนไทเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับและไม่ได้พูดอะไร เพราะถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายขนาดไหนแต่สิ่งหนึ่งที่อาร์ตสัมผัสได้ คือแทนไทรักพีทจริงๆ




“เดี๋ยวพีทแทน!!” พีทที่เงียบมานานตะโกนเรียกแทนไท ที่กำลังเดินคอตกจากไปเสียงดัง ซึ่งเจ้าตัวก็หันกลับมามองหน้าพีทเหลอหราด้วยความสงสัย แต่พีทไม่ได้ไขความกระจ่างอะไรให้นอกจากสาวเท้าเข้าไปใกล้



ผัวะ!!!



หมัดหลุนๆ ที่หนักเอาการกระแทกเข้าที่หน้าแทนไทอย่างจังแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับมึนสมองเห็นดาวแล้ววนเวียนไปมา ก่อนจะสะบัดหัวแรงๆ และมองหน้าพีทอย่างไม่เข้าใจ แม้แต่อาร์ตเองก็ยังสงสัยในการกระทำของคนรักด้วยเหมือนกัน



“หมัดนี้ ถือว่าผมเอาคืนที่ทำเรื่องเหี้ยๆ กับผม” พีทพูดขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง พร้อมกับสะบัดมือไปมาไล่ความเจ็บ เพราะชกออกไปเต็มแรง



“ผมไม่ให้อภัยพี่ง่ายๆ หรอกนะ แต่เอาเป็นว่า...โชคดีนะพี่” พีทยิ้มกว้างให้อย่างสดใส ซึ่งนั่นมันทำให้แทนไทหลุดยิ้มออกมาเหมือนกัน




“ขอบคุณครับ” แทนไทพึมพำบอกแผ่าเบา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหันหลังจากไป อย่างน้อยในวันนี้พีทก็ยังส่งยิ้มให้เขาบ้างแล้ว แค่นี้มันก็เพียงพอสำหรับคนแพ้แล้วล่ะ



“เอาแค่นี้” อาร์ตยกยิ้มมุมปาก เอ่ยถามพีทอย่างยียวน



“เออน่า กลับปะ...หิวข้าว” พีทว่าหน้ามุ่ยและดันหลังอาร์ตให้เดินออกไปจากตรงนี้




“กินไร” อาร์ตเอื้อมมาดึงตัวพีทให้มาเดินข้างๆ ก่อนจะยกมือกอดคอและชวนคุยไปตลอดทาง โดยที่ทั้งคู่ต่างทิ้งเรื่องของแทนไทไว้เบื้องหลัง ให้มันเป็นอดีตที่ผ่านเข้ามาวูบนึงในชีวิตเพื่อให้ได้จำก็พอแล้ว



...

...



“ดื้อ...ตื่นได้แล้ว” อาร์ตใช้ปลายนิ้วเกลี่ยลงไปที่แก้มใส พร้อมกับส่งเสียงเรียกที่ข้างหู เพื่อปลุกให้คนนอนขี้เซาตื่นขึ้นมา



“อื้อ...ถึงแล้วเหรอ” พีทงัวเงียตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียก ก่อนจะขยี้ตาตัวเองไปมาเพื่อไล่ความง่วงที่ยังเกาะอยู่เหมือนปิง เดือดร้อนถึงอาร์ตที่นั่งมองอยู่ต้องยื่นมือมาดึงมือเล็กเอาไว้ เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้ขยี้ต่อไปเรื่อยๆ จะตาเจ็บเอา



“พอได้แล้ว เดี๋ยวเจ็บตา” อาร์ตว่าพร้อมทั้งรีบไปคว้ามืออีกข้างของพีทมากุมไว้ เพราะพออีกข้างหนึ่งถูกยึดคนรั้นแบบพีทก็พยายามใช้มืออีกข้างที่ว่าง ยกมันขึ้นไปขยี้ตาตัวเองอีกครั้ง




“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ใส่พี่เลย ขยี้จนตาแดงหมดแล้ว” อาร์ตดุพีทอย่างไม่ยอมตามใจเหมือนกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าบึ้งไม่พอใจที่โดนขัดใส่



“ชิ” เมื่อทำอะไรไม่ได้ พีทเลยได้แต่หน้าหงิกและส่งเสียงฮึดฮัดขัดใจออกไป เรียกเสียงหัวเราะจากอาร์ตที่เป็นคนขัดใจอีกฝ่ายได้ไม่อยาก

“หึ หึ ไอ้ดื้อเอ้ย” อาร์ตยื่นมือไปบีบปลายจมูกรั้นของพีทด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะดับเครื่องยนต์และเปิดประตูก้าวลงจากรถไป ทิ้งให้พีทมองค้อนตามหลังทำตาปะหลับปะเหลือกขัดใจอยู่แบบนั้น



“ลงมาได้แล้วดื้อ” อาร์ตที่เดินอ้อมมาอีกฝั่งของตัวรถ เคาะกระจกเรียกพีทที่นั่งขมุบขมิบปากไม่หยุดให้ลงมา พร้อมกับส่ายหัวหน่ายใจให้กับความแสนงอนของอีกฝ่าย



“หิว!!” พีทยอมเปิดประตูรถแล้วลงมายืนข้างๆ อาร์ต พร้อมกับทำหน้าหงิกงอถลึงตาใส่อีกฝ่าย ก่อนจะกระแทกเสียงบอกในสิ่งที่ต้องการและปิดประตูรถอัดกระแทกเสียงดัง




“ตีมือหักซะดีไหม” อาร์ตว่าดุๆ และฟาดลงบนมือของพีท ก่อนจะกดกุญแจล็อกรถและเดินนำออกไป ทิ้งให้พีทมองตามหลังด้วยความเคือง และสะบัดมือไปมาเพราะความเจ็บที่โดนตี



“อาร์ต!!” พีทตะโกนไล่หลังเสียงดัง ก่อนจะวิ่งเข้าหาและง้างมือทุบลงที่กลางหลังอีกฝ่ายเป็นการเอาคืน



“อุ่ก!! พี่ตีดื้อเบาๆ เองนะ” อาร์ตหันมาหาพีทที่ยืนยักคิ้วยียวนอยู่ข้างๆ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความจุกปนเจ็บ



“ฮ่าๆ สม!!!” พีทยืนกอดอกหัวเราะด้วยความสะใจ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วเดินนำเข้าห้างไป



“สรุปจะกินข้าวก่อนใช่ไหมดื้อ” อาร์ตเดินเข้ามากอดคอพีทและก้มลงถามเพื่อความแน่ใจ เพราะอีกฝ่ายอารมณ์ค่อนข้างแปรปวน ตอนนี้บอกหิวไม่ถึง 5 นาทีก็เปลี่ยนใจได้



“อือ...ยังไม่ได้กินข้าวเลยอ่ะ ที่สำคัญพี่มึงอย่าลืมว่าจ่ายตลอดทริป” พีทหันกลับมายักคิ้วใส่อาร์ตแล้วจับแขนที่พาดไหล่ตัวเองออก ก่อนจะเดินตัวปลิวมองหาร้านอาหารที่ต้องการอย่างสนุกสนาน ส่วนอาร์ตได้แต่ส่ายหัวยืนอมยิ้มก่อนจะรีบเดินตามเจ้าตัวไป



“พี่อาร์ต!!!” เสียงที่ร้องทักขึ้นระหว่างที่ยืนรอคิวหน้าร้านอาหาร ทำให้ทั้งอาร์ตและพีทหันกลับไปมองอย่างสนใจ ก่อนที่พีทจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง และอาร์ตที่กรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง



“มีอะไรครับน้องวิว” อาร์ตส่งยิ้มละมุนและเอ่ยถามเสียงนุ่ม



“พี่เปลี่ยนใจหรือยังคะ” วิวยิ้มแฉ่งและสบตาอาร์ตอย่างมีความหวัง ทำเอาอาร์ตได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อย่างหนักใจ



ถ้าจะถามว่าที่วิวพูดออกมาคือเรื่องอะไร ก็ต้องเล่าย้อนกลับไปนิดหน่อย เมื่อประมาณต้นสัปดาห์ที่แล้วเห็นจะได้ จู่ๆ วิวก็ดทรมาและนัดเขาออกมาเจอ เขาเองด้วยความที่สงสัยกับท่าทางของอีกฝ่ายและประกอบกับมีเวลาว่างพอดี เลยตัดสินใจตอบรับคำชวนและออกมาเจอ



สิ่งที่ได้ในวันนั้นคือการคุยเรื่องเซ็นสัญญาเป็นศิลปิน พร้อมกับความจริงที่ว่าวิวเป็นลูกสาวของบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวมีความสนใจเขามาก เพราะคลิปๆ หนึ่งที่มีคนแอบถ่ายเขาที่ร้านเหล้าของตอง และอัพมันลงบนยูทูบ ซึ่งหลังจากคุยกันเขาก็ตอบปฏิเสธไปตรงๆ เพราะอยากเป็นครู ไม่ได้อยากเป็นดารานักร้อง แม้ว่าจะไม่ได้รังเกียจอะก็ตาม แต่ความฝันที่แท้จริงมันไม่ใช่ทางนี้ ไม่อย่างนั้นเขาเซ็นสัญญาไปเป็นดารากับแมงมองคนอื่นตั้งนานแล้ว ไม่อยู่จนเจอกับน้องวิวหรอก



เขาเองก็คิดว่าเรื่องมันจะจบแค่นั้น เหมือนกับที่เคยเป็นทุกๆ ครั้ง แต่ใครจะไปนึกว่าน้องวิวจะช่างตื้อได้มากกว่าที่คิด เช้าถึง เย็นถึง โทรศัพท์ แชท ทำทุกทางเพื่อไซโคเขา จนเขาแอบหลอนและพาลไปนึกถึงตอนที่โดนตื้อให้เป็นบอสวิศวะ มันก็เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ไม่มีผิด



“พี่ไม่เปลี่ยนใจหรอกครับ” อาร์ตตัดสินใจปฏิเสธออกไปเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือแววตาที่ยังมุ่งมันเหมือนเดิมของวิว สมกับที่เจ้าตัวเคยพูดว่าอยากได้เขาเอาไว้จริงๆ



“ไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยววิวมาถามใหม่นะคะ” วิวส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก และยกมือขึ้นโบกลาพร้อมกับวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาพีทกับอาร์ตหันมาสบตากันด้วยความอึ้ง ก่อนจะพากันหลุดขำออกมา



“พี่มึงไม่ลองดูอ่ะ สงสารน้องมัน” พีทชะโงกหน้ามองตามหลังวิวแล้วเอาไหล่กระแทกไหล่อาร์ตเบาๆ



“มันจะไม่ใช่แค่ลองน่ะสิ” อาร์ตส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะจูงมือพีทเดินเข้าร้านอาหาร หลังจากที่ถึงคิวของตัวเองแล้ว พร้อมกับที่เลิกสนใจวิวไปที่จู่ๆ ก็โผล่มา และหายไปอย่างรวดเร็ว คิดว่าอีกไม่นานวิวก็คงจะเบื่อไปเอง...ก็หวังว่าจะอย่างนั้นล่ะนะ



...

...



แกร๊ก...



เสียงประตูห้องนอนดังขึ้นแผ่วเบาพร้อมกับร่างๆ หนึ่งที่เดินเข้ามาภายใน สายตามองลงไปบนเตียงกว้างที่มีร่างสองร่างกอดก่ายกันอยู่อย่างไม่บ่งบอกอารมณ์ มองนิ่งอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่คิดจะส่งเสียงอะไรออกมาเลยสักนิด จนกระทั่งหนึ่งคนในนั้นเริ่มขยุกขยิกไปมา แสดงอาการว่าตื่นนอนขึ้นมาแล้ว



“ดื้อ...ตื่นดะ...ได้...เฮือก!!!” อาร์ตที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไปมาบนเตียงกว้าง กำลังจะหันไปหอมแก้มคนข้างตัวเพื่อปลุกให้ตื่นนอน ก็เป็นอันต้องหยุดชะงัก เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเงาอะไรบางอย่างที่ปลายเตียง ไล่สายตามองตามไปเรื่อยๆ ก็ทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่



“ดื้อครับ...ตื่นเร็ว”อาร์ตเขย่าร่างพีทและส่งเสียงเรียกแผ่วเบา แต่สิ่งที่ได้กัลบมาคือพีทที่กอดแน่น และซุกเข้าหาไม่หยุด



“พีทครับ” อาร์ตยังคงพยายามส่งเสียงเรียกคนขี้เซาไม่หยุด



“อาร์ต...น้องง่วง อย่ากวนได้ไหม” พีทงึมงำตอบออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา พร้อมกับซุกหน้าเข้าหาตัวอาร์ต ขาสองข้างโอบกอดไว้แน่น พร้อมกับหลับต่อทันที



อาร์ตละสายตาจากพีทและหันกลับมาส่งยิ้มให้ร่างที่ยืนอยู่ปลายเตียง พร้อมกับส่งยิ้มที่พยายามให้ดูดีที่สุดไปให้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากอีกฝ่ายคือสายตาดุๆ ที่จ้องกลับมาแบบจะกินเลือดกินเนื้อ



“อื้อ...อาร์ตนอนเร็ว” เสียงของพีทดังงึมงำขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับมือเล็กที่พยายามดึงเขาลงไปนอนกอด ซึ่งอาร์ตคงจะลงไปในทันทีเลยละ ถ้าบังเอิญว่าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์คอขาดบาดตายแบบนี้



สถานการณ์ที่มีขายสูงวัยยืนจ้องมองเขม็ง และพร้อมที่จะเอาปืนมายิงเขาในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง สถานการณ์ที่ความแตก แบบที่โดนจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้



‘เขาจะรอดจากกระสุนปืนของคุณพ่อตาไหมวะ’





2 Be Con...



++++++++++++++++++

ปิดจ๊อบเรื่องพี่หมอ

นิยายมันแนวฟิลกู๊ด เพราะฉะนั้นมันก็จะต้องจบเรื่องแบบกู๊ดๆ

ตัวละครก็จะไม่มีใครเลวที่สุด และพร้อมที่จะกลับตัว หุ หุ

ว่าแต่...ซวยแล้วเฮีย!!!

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ clairon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอาแว้วววว งานเข้า. เฮียฮาร์ตจะทำยังไงค่อไปละทีนี้
เฮียอาร์ตคนดีสู้ๆนะ ป๊าใจเย็นนะ สงสารน้องพีท

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เต็มๆตา พ่อตา จะรอดมะพี่อาร์ต555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ไกล้จุดไคลน์แมกแล้ว

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :hao4:  อ่า  เต็ม ๆ ตาคุณพ่อตาเลยค่ะพี่  ขอให้รอดนะคะ   :sad11:

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
พ่อตามาละนะเฮีย เตรียมพร้อม  :hao3:

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 55 -





                พีทตื่นขึ้นมาในตอนสายของวันด้วยความรู้สึกสดชื่น ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เรียกว่าเต็มอิ่มสุดๆ พร้อมกับภาพอาหารฝีมือนมอุ่นที่ไม่ได้กินมานาน เพราะว่าแทบจะไม่ได้กลับมานอนบ้านตัวเองเลยช่วงนี้ และรอบนี้เขาไม่ได้กลับมาคนเดียว ยังหนีบลูกรักของนมอย่างไอ้พี่อาร์ตมาด้วย รับรองว่าอาหารต้องกองเต็มบนโต๊ะ ไม่ต่างจากบุฟเฟต์แน่ๆ



                “ฮ้า...อาร์ตตื่นดะ...หือ” พีทยกแขนสองข้างขึ้นเหนือหัวและบิดขี้เกียจ หันหน้าไปทางด้านข้างตั้งใจจะปลุกใครอีกคนให้ตื่นนอน แต่ก็มีอันต้องหยุดชะงักเมื่อคนที่คิดว่ายังไม่ตื่น กำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงในสภาพที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเคร่งเครียด



                “เป็นไรอ่ะ...หิวเหรอ” พีทคลานดุกดิกเข้าไปหาอาร์ต พร้อมกับเอาคางไปวางเกยบนไหล่กว้าง และกดจมูกลงหอมแก้มของอีกฝ่าย พร้อมทั้งยิ้มกว้างทำตาแป๋วส่งไปให้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว



                “ตื่นแล้วเหรอ” อาร์ตหันกลับมาส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ พร้อมกับหอมแก้มเนียนของพีทกลับ และยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าตัวอย่างอ่อนโยน

                “พี่มึงเป็นอะไร” พีทมองเข้าไปในแววตาของอาร์ตด้วยความเป็นกังวล เพราะถึงอีกฝ่ายจะส่งยิ้มมาให้แต่มันมีความตึงเครียดบางอย่างที่สะท้อนออกมาให้สัมผัสได้ มันเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เขานอนหลับกันแน่



                “ไปอาบน้ำเร็ว” อาร์ตยังไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น นอกจากส่งยิ้มที่แฝงไปด้วยความหนักใจให้พีท พรอมกับเอ่ยปากไล่ให้ไปจัดการุระส่วนตัว



                “อาร์ต” พีทยื่นมือไปประคองใบหน้าของอีกฝ่าย และบังคับให้หันมาสบตากันตรงๆ พร้อมกับคาดคั้นเอาคำตอบทางสายตา



                “ป๊ารอข้างล่าง” คำตอบของอาร์ตและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเครียด ทำให้พีทดวงตาเบิกโพรงอย่างตกใจ มือสองข้างที่จับหน้าของอาร์ตไว้ถึงกับอ่อนแรง มันคงไม่ได้มีอะไรแบบที่เขาคิดใช่ไหม



                “ป๊า...รอ...ทะ” พีทถามออกไปด้วยนำเสียงขาดห้วง แววตาสั่นระริกเต็มไปด้วยความกลัว ในหัวสมองเกิดคำถามมากมายเต็มไปหมด



                “ใจเย็นๆ อาร์ตดึงพีทให้ลงมานั่งที่ตัก ยกมือลูบหลังเล็กไปมา ปากก็กดจูบซ้ำๆ เพื่อปลอบประโลม เขาเองก็กังวลไม่ต่างจากอีกฝ่ายเหมือนกัน แต่ยังพยายามไม่คิดอะไรไปไกลหรือมากไปกว่านี้



                “แล้วทำไม...” พีทถามเสียงแผ่วเบาไม่ต่างจากกระซิบ ก้มหน้าซุกลงที่ไหล่อาร์ตอย่างหวั่นวิตก ภาววนาในใจให้ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่กำลังกลัว



                “ป๊าเข้ามาในห้อง...” อาร์ตบอกเล่าเสียงเครียดอย่างปิดไม่มิด และความรู้สึกเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะส่งผ่านถึงคนฟังอย่างพีทเช่นกัน



...

...           




ในตอนเช้าตรู่ของวันนี้ทุกอย่างคงจะเป็นเหมือนเดิม ดังเช่นทุกๆ ครั้งที่อาร์ตได้มาพักที่บ้านหลังนี้ ยกเว้นสำหรับเช้าวันนี้ที่แปลกไป เขาตื่นมาพร้อมกับความตกใจที่วัดระดับค่าไม่ได้ เมื่อเจอบุคคลที่ไม่คาดฝันและไม่คิดว่าจะได้เจอยืนมองอยู่ปลายเตียง พร้อมๆ กับสัญญาณบ่งบอกว่าความลับที่ร่วมกันปกปิดมาหลายปี แตกละเอียดไม่เป็นท่า



            เขาสบตาที่มองมานิ่งๆ แบบเดาอะไรไม่ได้ของพ่อคนรักด้วยความกังวล อยากจะแก้ตัวหรือคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะเข้าใจผิด แต่คนตัวเล็กที่นอนข้างกันก็ซุกเข้าหาไม่หยุด และแขนสองข้างของเจ้าตัวก็ยกมาโอบกอดไว้แน่น บ่งบอกได้ดีถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แค่ระดับรุ่นพี่รุ่นน้องอย่างที่เคยบอกไป ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าสัวพิชิตไม่ใช่คนโง่ที่จะดูอะไรพวกนี้ไม่ออก



            “เอ่อ...คือ...ผม” อาร์ตพยายามที่จะหาคำอธิบายเพื่อพูดออกไป แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่มีคำดีๆ อะไรเลยในหัว



            “ถ้าเจ้าพีทตื่นแล้วพาลงไปหาฉันข้างล่างด้วย” แต่ก่อนที่อาร์ตจะได้แก้ตัวอะไร เจ้าสัวพิชิตก็พูดขัดขึ้นมาด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้เอ่ยถาม ต่อว่า หรือแม้แต่แสดงอาการโกรธเคืองอะไร ก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งอาร์ตที่ยังคงตกใจไม่หายเอาไว้เบื้องหลัง



            อาร์ตได้แต่มองตามหลังผู้สูงวัยที่เดินออกไป พร้อมกับถอนหายใจออกมาจนหมดปอด ไม่ใช่เพราะโล่งอกแต่มันยิ่งกว่าหนักใจ เพราะถ้าหากพ่อของน้องแสดงความโกรธ โมโห หรืออะไรออกมาบ้างมากกว่านิ่งเฉย เขาคงจะรู้สึกคิดมากน้อยกว่านี้ แต่ความเงียบและความนิ่งมันทำให้เขาไม่สบายใจเอาซะเลย



            หลังจากที่ต้องตื่นเต็มตาขึ้นมาด้วยเห็นการณ์ไม่คาดฝัน และสมองมันก็ทื่อเกินกว่าที่จะคิดอะไรออก เขาเลยตัดสินใจลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเผื่อสมองจะโล่ง และคิดหาคำพูดดีๆ อะไรเพื่อมาใช้แก้ตัว อธิบายออกบ้าง




            และนั่นคือเหตุการณ์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่สร้างความเครียดสะสมมากมายมหาศาลได้เช้าวันนี้



                ...

                ...



                “ป๊าจะโกรธมากไหม” พีทถามเสียงเครียดหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ความกลัวมากมายโจมตเข้ามาที่หัวใจไม่หยุด




                “พี่ไม่รู้” อาร์ตเองได้แต่ตอบคนรักออกไปแบบนั้น เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ไม่รู้อะไรเลย



                “ถ้าป๊าให้เราเลิกกันล่ะ” พีทดันตัวเองออกมาจากอกของอาร์ต แล้วช้อนตาที่เริ่มคลอไปด้วยน้ำใสๆ สิ่งที่แสดงออกในแววตามันเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และหวาดกลัวต่ออนาคตที่ยังไม่ได้เกิด แต่มันมีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้สูง

 

                “ไม่เลิก...พี่ไม่เลิก” อาร์ตกอดพีทแน่นพร้อมกับพูดย้ำเสียงหนักแน่น เขาจะไม่มีทางเลิกกับน้องด้วยเหตุผลบ้าๆ แบบนี้แน่ เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้อยู่กับน้องไปจนวันตาย หรือเราจะมีกันแบบนี้ตลอดไปเรื่อยๆ หรือเปล่า แต่ถ้าเขากับน้องจะต้องเลิกกัน มันต้องเป็นเพราะเราคนใดคนหนึ่งไม่รักกันแล้ว ไม่ใช่เพราะมีใครมาบังคับแยกเราออกจากกัน ถ้าจะทำแบบนั้นจริงให้พาน้องหนีเขาก็จะทำ



                “แล้ว...แล้ว...”




                “ใจเย็นๆ ดื้อ มันต้องไม่มีอะไร รอเจอป๊าก่อนตกลงไหม” อาร์ตดันตัวพีทให้ออกมาจากอก แล้วใช้มือทั้งสองข้างประคองแก้มนิ่มเอาไว้ พยายามสบตาและพูดเรียกสติไม่ให้อีกฝ่ายคิดอะไรฟุ้งซ่านจนบั่นทอนความรู้สึกตัวเอง



                “ไปอาบน้ำ แล้วเดี๋ยวเราลงไปเจอป๊าด้วยกัน”




                “แต่....” เสียงค้านของพีทถูกกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่ออาร์ตก้มลงจูบปิดปากเพื่อไม่ให้พีทพูดอะไรออกมาได้อีก จนผ่านไปสักพักอาร์ตถึงค่อยๆ ถอยห่าง และสบตาพีทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นในนั้น



                “เชื่อพี่ มันต้องไม่มีอะไร”




“อื้อ” คำพูดหนักแน่นของอาร์ตที่พยายามสื่อออกมา ทำให้พีทต้องพยักหน้ารับและเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เชื่อว่ามันจะไม่มีอะไร



...

...



บรรยากาศภายในห้องอาหารของบ้านโรจน์เมธีเช้าวันนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด และรังสีกดดันมากมายมหาศาลที่แผ่ออกมาจากร่างประมุขของบ้านอย่าง ‘เจ้าสัวพิชิต โรจน์เมธี’ ไม่มีการเอื้อนเอ่ยใดๆ ทั้งสิ้นออกมาจากปากของท่าน นอกจากความเงียบและท่าทางนิ่งเฉย และอากัปกิริยาเหล่านั้นมันส่งผลถึงอีกสองคนร่วมโต๊ะเต็มๆ



พีทกำมือของตัวเองและบีบมันแน่นจนเจ็บไปหมด เอาแต่นั่งก้มหน้ามองตักตัวเอง ไม่กล้าที่จะเลยหน้าสบตากับใครทั้งนั้น ด้วยว่ามีความผิดใหญ่หลวงเป็นชนักปักหลังอยู่ ในขณะที่อาร์ตก็มีความกังวลไม่แพ้คนรักเช่นกัน แต่เจ้าตัวเลือกที่จะสบตาและเผชิญหน้ากับพ่อของคนรัก มากกว่าที่จะเอาแต่หลบเหมือนที่ผ่านมา



“คือผม...”



“กินข้าวก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน” เจ้าสัวพิชิตเอ่ยปากขัดขึ้นเมื่อรู้ว่าอาร์ตจะพูดอะไร




“แต่...”



“อุ่นตักข้าวเลย” เจ้าสัวพิชิตหันไปสั่งแม่บ้านคนสนิท โดยที่ไม่สนใจอาร์ตที่ตั้งท่าจะอธิบาย และนั้นทำให้อีกฝ่ายต้องถอนหายใจออกมาเสียงดัง พร้อมกับยอมอยู่เฉยๆ เพื่อทานข้าวได้สักที



“ฮ้า!!” แล้วความตึงเครียดทั้งหมดก็ถูกพัดหายไปแทบจะในทันที เมื่อจู่ๆ พีทที่เอาแต่นั่งเงียบมานาน ก็เงยหน้าขึ้นและส่งเสียงออกมาดังลั่น พร้อมกับอ้าปากพะงาบๆ ใบหน้าแดงก่ำ เหมือนคนกำลังขาดอากาศหายใจขั้นรุนแรง



“ดื้อเป็นอะไร” อาร์ตที่นั่งอยู่ข้างๆ ตกใจไปไม่น้อยเหมือนกัน กับอาการของพีทที่แสดงออกมาอย่างกะทันหัน ยกมือขึ้นลูบหัวลูบหลังพีทไม่หยุดด้วยความเป็นห่วง



“ตายแล้วคุณหนู!! เป็นอะไรมากไหมคะคุณหนู” นมอุ่นเองก็ตกใจไม่แพ้กัน รีบวางของทุกอย่างในมือลง ควานหาเอายาดมที่พกติดตัวตลอดขึ้นมา และเดินมาถือมาจ่อที่ปลายจมูกให้พีท



แล้วความโกลาหลขนาดย่อมๆ ก็เกิดขึ้นทันที และกว่าทุกอย่างจะสลบลงก้กินเวลาผ่านไปนานพอสมควร แต่ถึงรอบข้างจะวุ่นวายมากมายแค่ไหน เจ้าสัวพิชิตก็ยังคงนั่งทานข้าวต่อไปด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน



“ตกลงเป็นอะไร”อาร์ตถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าลมหายใจของพีทกลับมาเป็นปกติแล้ว



“เปล่า...แค่หายใจไม่ทันน่ะ” พีทส่งยิ้มแหยให้อาร์ตแล้วรีบก้มหน้าหลบสายตาอย่างคนรู้สึกผิด ที่ทำให้ทุกคนต้องมาวุ่นวายตามขนาดนี้



“ห๊ะ...หายใจไม่ทัน?” อาร์ตถึงกับหน้าตาเหลอหรา เมื่อได้ยินคำตอบของพีท หายใจไม่ทันเนี่ยนะ!! แล้วทำไมถึงหายใจไม่ทันล่ะ



“ก็แบบ...แบบ” พีทอึกอักในลำคอ อ้าปากจะตอบแล้วก็ต้องหุบลง เพราะรู้สึกอายที่จะต้องบอกเหตุผลถึงสาเหตุทั้งหมดที่เกิดอาการแบบนี้



“จะมีอะไร ถ้าไม่ใช่ว่ากลัวฉันดุจนเผลอกลั้นหายใจน่ะ” และคนที่ช่วยเฉลยความสงสัยของอาร์ตก็คือเจ้าสัวพิชิต ที่นั่งทานข้าวเงียบๆ มาตลอด อาร์ตเลยต้องหันกลับมามองหน้าพีทเพื่อขอคำตอบ



ใบหน้าเนียนของพีทขึ้นเป็นริ้วแดงๆ ทันที ดวงตาเรียวช้อนมองอาร์ตเล็กน้อย ก่อนจะรีบเสหลบสายตาเพราะความเขินอาย เป็นอย่างที่พ่อของเขาบอกทุกคำนั่นแหละ เมื่อกี้เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่รู้สึกกดดันและก็ลุ้นมากไปหน่อยจนเผลอกลั้นหายใจ แล้วก็ดันกลั้นเอาไว้นานเกิน รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบขาดอากาศหายใจตาย ถึงได้อ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาขาดน้ำแบบเมื่อกี้ไงล่ะ




“เล่นอะไรวะดื้อ ตกใจหมด” อาร์ตอดที่จะดุออกมาไม่ได้ เมื่อกี้อาการของอีกฝ่ายทำเอาเขาหัวใจเกือบวาย แล้วดูตอนนี้สิ พอหายดีทำมาเป็นส่งยิ้มหวานประจบใส่ ทั้งๆ ที่เพิ่งทำคนอื่นห่วงเกือบตาย



“ก็มันลุ้นไงอาร์ต” พีททำหน้างอใส่เมื่อโดนมองมาดุๆ อาร์ตเลยได้แต่พ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ



เจ้าสัวพิชิตนั่งทานข้าวและใช้สายตามองคนทั้งคู่ ที่นั่งหยอกล้อกันไปมาแบบที่คงพากันลืมไปแล้ว ว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าท่านอย่างพิจารณา โดยที่ท่านก็ไม่ได้คิดจะห้ามและเลือกที่จะสังเกตต่อไปเรื่อยๆ



เหตุผลที่ท่านยังคงนิ่งได้ขนาดนี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ได้พบเห็น แต่เป็นเพราะว่าท่านเองก็ระแคะระคาย เรื่องความสัมพันธ์ของลูกชายกับรุ่นพี่คนสนิทคนนี้อยู่บ้างเหมือนกัน เพราะทุกๆ ครั้งที่ท่านได้มีโอกาสเจอหน้าทั้งคู่พร้อมกัน มันจะมีอะไรบางอย่างที่ฟ้องออกมาให้ได้เห็น ยิ่งเวลาท่านลองพูดอะไรที่เหมือนเป็นการจี้ใจดำออกไป อย่างเช่นเรื่องให้ลูกชายของท่านแต่งงาน แววตาของเด็กสองคนนี้จะฉายแววหม่นหมองเสมอ ด้วยที่ว่ามาทั้งหมดท่านเลยค่อนข้างทำใจมาก่อนนานพอสมควร แต่ไม่ได้แปลว่าทำใจแล้ว เรื่องทั้งหมดมันจะง่ายหรอกนะ



“เพราะป๊านั่นแหละจะพูดอะไรก็ไม่พูด!!!” เสียงเหวี่ยงๆ ของพีทที่ดังขึ้น ทำให้ความคิดทุกอย่างของเจ้าสัวพิชิตหยุดลง ก่อนที่ท่านจะยกน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วปรายตามองใบหน้าบูดบึ้งของลูกชายเล็กน้อย



“พีท” อาร์ตเอ่ยปากปรามคนรักเบาๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเริ่มเกิดอาการพาลพาโล เพราะพื้นฐานก็เป็นคนความอดทนต่ำอยู่แล้ว พอมาเจอสถานการณ์กดดันมากๆ เข้า เลยแสดงออกแบบนี้



“ก็มัน...ฮึ่ย!!!” พีทอ้าปากจะเถียงอาร์ตแต่ก็ต้องหุบลงทันควัน เมื่อเจอสายตาดุๆ ของอีกฝ่ายที่มองมา ก่อนจะนั่งกอดอกใบหน้างอง้ำสะบัดหันหนีไม่มองใครด้วยความงอน จนอาร์ตได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้าเบาๆ ซึ่งไม่ต่างจากคนเป็นพ่ออย่างเจ้าสัวพิชิตเท่าไหร่



“ทำไมไม่กินข้าวกันล่ะ” เจ้าสัวพิชิตถามขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เห็นว่าจานข้าวของทั้งสองคนไม่พร่องลงไปเลย



“ยังไม่หิวน่ะครับ” อาร์ตเป็นคนที่ตอบคำถามออกไป เพราะพีทเอาแต่นั่งหน้าบึ้งไม่ยอมมองใคร




“อืม...เรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ” คำถามของเจ้าสัวพิชิตที่จู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ทำให้อาร์ตต้องมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ



“จะจบแล้วครับ” ในเมื่อพยายามหาเหตุผลของคำถาม แต่กลับไม่ได้อะไรเลย ทำให้อาร์ตต้องถอนหายใจอย่างปลงตก และเลือกที่จะตอบคำถามออกไปตรงๆ



“เห็นลูกชายฉันเล่าให้ฟังว่ารอเกียรตินิยมเหรอ” คำถามเรื่อยๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อาร์ตยิ่งสงสัย แต่ฝ่ายผู้สูงวัยกว่ายังคงทำหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ไขความกระจ่างอะไรให้



“ครับ...”



“อืม...เธอเป็นเด็กกำพร้านิ...ใช่ไหม”



“ใช่ครับ”



“ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 18 เงินที่เหลือส่วนนึงแบ่งไปช่วยบ้านที่ดูแลมา เรียนเก่งจนสอบชิงทุนเรียนฟรีที่มหา’ลัยนี้ได้...จริงไหม” คำพูดเรื่อยๆ แต่ความหมายกับมีสาระมากมายมหาศาล ทำเอาอาร์ตตาโตเท่าไข่ห่าน เพราะเรื่องที่เจ้าสัวพิชิตพูดมามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาทั้งหมด และที่สำคัญเขามั่นใจว่าไม่ได้เล่าให้ฟังเองแน่ๆ




พีทที่ได้ยินในสิ่งที่พ่อของตัวเองพูด ถึงกับต้องหันหน้ากลับมามองด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เขาเองก็ไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้พ่อฟัง แล้วทำไมพ่อถึงรู้ละเอียดเหมือนว่ามานอนอยู่ข้างเตียงแบบนี้ล่ะ



“เธอเป็นคนเก่งนะ ฉลาด กตัญญู มีความสามารถ และฉันชอบ” คำพูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ของเจ้าสัวพิชิตที่ส่งมาให้ ส่งผลให้อาร์ตกับพีทต้องหันมาส่งยิ้มให้กันอย่างโล่งอก และอาร์ตไม่เคยนึกอยากขอบคุณตัวเอง ที่ลงทุนเปลี่ยนนิสัยมากมายเท่าครั้งนี้เลย




“แต่ที่ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก” แต่แล้วคำพูดต่อมาก็ทำเอาทั้งอาร์ตและพีทยิ้มค้าง เมื่อหันกลับไปมองก็เจอแต่สายตาที่มองมาอย่างตำหนิ



“เธอมีอะไรจะบอกฉันไหม” คำถามที่บ่งบอกว่ารู้ดีหมดทุกอย่างของเจ้าสัวพิชิต ทำให้อาร์ตนึกละอายใจจนไม่กล้าสู้หน้า เพราะรู้ตัวดีว่ากำลังโกหกอะไรผู้ใหญ่อยู่ และโกหกมานานแค่ไหน รวมทั้งไม่รู้ว่าจะต้องโกหกไปถึงเมื่อไหร่



“คือว่า...” พีทที่เห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี พยายามที่จะพูดช่วยคนรัก แต่ก็ต้องหุบปากและก้มหน้าเงียบ เพราะโดนพ่อของตัวเองปรายตามามองดุๆ



“ผมกับน้องเรารักกันครับ” ในที่สุดหลังจากนั่งเงียบไปนาน อาร์ตก็ตัดสินใจพูดขึ้นและสบตาผู้สูงวัยกว่าอย่างแน่วแน่



“รัก...แบบไหนล่ะ”



“คนรักครับ” คำตอบของอาร์ตทำให้เกิดความเงียบอีกครั้ง พร้อมกับที่เจ้าสัวพิชิตมองหน้าลูกชายของท่านเพื่อขอคำตอบ ซึ่งพีทก็พยักหน้างึกงักเพื่อยืนยันในสิ่งที่อาร์ตพูด



“คนรัก...เธอบอกว่าคนรัก แต่เลือกที่จะไม่บอกฉันเกือบ 2 ปีน่ะเหรอ” ถ้อยคำตำหนิที่ดังออกมา ทำให้อาร์ตไม่สามารถจะพูดแก้ตัวอะไรออกไปได้ มากไปกว่าก้มหน้าก้มตาฟังและยอมรับ



“เธอคิดบ้างไหม ว่าถ้าลูกฉันเป็นผู้หญิง เขาจะเสียหายขนาดไหนแล้ว...ตอนนี้ฉันยังไว้ใจอะไรเธอได้อีก” ความเงียบโรยตัวปกคลุมคนทั้งสามอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่โจมตีเข้าใส่ไม่ยั้ง บางครั้งความรักมันก็ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่จะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่อาร์ตรู้ว่าเขากำลังโดนตำหนิอย่างรุนแรง ที่ทำอะไรเหมือนไม่เห็นหัวผู้ใหญ่



“ฉันมีลูกชายคนเดียว และฉันอยากให้ลูกฉันแต่งงานเหมือนคนอื่น มีหลานให้ฉันอุ้ม” คำพูดของเจ้าสัวพิชิตทำให้ดวงตาของพีทเบิกโพรงอย่างตกใจ




“ป๊า...ผมไม่แต่ง!! ผมมี...”



“พ่อคุยกับพี่เขาอยู่” เจ้าสัวพิชิตเอ่ยขัดลูกชายเสียงเข้ม และส่งสายตาบังคับให้เจ้าตัวเงียบ พีทเลยได้แต่มองใบหน้าของพ่อพร้อมกับส่งสายตาตัดพ้อ ก่อนที่หยาดน้ำใสจะค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้ม




“ผมขอโทษครับ” อาร์ตพูดแค่นั้นพร้อมกับยกมือไหว้ เพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้มากกว่าคำนี้จริงๆ




“ผมรู้ว่าท่านหมายความว่ายังไง ผมคงทำให้ท่านสมหวังไม่ได้ และกำลังทำลายความหวังของท่าน” อาร์ตพูดต่อด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง



“แต่ผมเป็นแค่ผู้ชายคนนึงที่รักลูกชายท่านจริงๆ” มันมีอะไรอีกมากมายเป็นล้านคำที่อาร์ตอยากจะพูด แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาพูดมันออกมาได้มีแค่คำพูดโง่ๆ พวกนี้เท่านั้น เขาไม่ได้พูดเพื่อเรียกคะแนนความเห็นใจ ไม่ได้พูดเพื่อที่จะเอาหน้า แต่เขาพูดเพราะถ้าสุดท้ายแล้ว เขาต้องเจออะไรแบบที่กำลังกลัว อย่างน้อยเขาก็ได้บอก ว่ามันไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากคำว่ารัก



“ขอบใจที่รักลูกฉัน...แต่ความรักมันกินไม่ได้” เหมือนปิดประตูโอกาสแล้วทุกๆ ทางในคำพูดนั้น มันไม่มีความล้อเล่นอะไรเลยในแววตาของเจ้าสัวพิชิต และมันกำลังบ่องบอกไม่ว่ายังไงอาร์ตก็ต้องยอมรับ



“ขอบคุณที่ดูแลลูกฉันมาตลอด ต่อไปนี้ไม่ต้องแล้ว ฉันจะให้เขากลับมาอยู่บ้าน”




“ป๊า!!!” พีทตะโกนดังลั่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาจนตัวโยน แขนสองข้างโอบกอดอาร์ตแน่น ซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างพร้อมกับส่ายไปมาอย่างไม่ยอมรับ




“ชู่...ไม่ร้องนะครับ” อาร์ตยกมือสั่นเทาแทบจะไร้เรียวแรงของตัวเอง ลูบหัวของคนรักเพื่อปลอบโยน ปากก็พร่ำบอกไม่ให้อีกฝ่ายร้องไห้ ทั้งๆ ที่เขาเองก็แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สมองมันมึนงงคิดหาทางอะไรไม่ออกจริงๆ ทั้งที่เคยเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะต้องเกินขึ้นจริง และเขาทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องให้เลิกกัน




ความปวดหนึบที่อกข้างซ้าย เสียงหัวใจที่เต้นช้าเหมือนกำลังจะหยุดลง สัมผัสเปียกชื้นที่แผ่นอก รวมทั้งร่างสั่นเทาในอ้อมกอด กำลังตอกย้ำให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน มันเป็นเรื่องจริงที่เขากำลังเผชิญ เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรับฟัง แม้แต่จะทำให้คนรักหยุดร้องไห้เขาก็ยังทำไม่ได้ เขามันก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ถึงจะดูยิ่งใหญ่ในบรรดาเด็กรุ่นเดียวกัน แต่มันไม่ได้มากพอที่จะต่อสู้อะไรกับผู้ใหญ่ได้




‘แล้วสุดท้ายชีวิตก็สอนให้เขารู้ ความรักไม่ได้ชนะทุกสิ่ง และดอกฟ้าไม่มีทางคู่กับหมาวัด’





2 Be Con...

+++++++++++++++

ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากว่า...

นิยายเรื่องนี้ฟิลกู๊ดนะจ๊ะ เชื่อเราเถอะ

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ clairon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :monkeysad:

ไม่น่ะ อาร์ตผู้น่าสงสาร ชีวิตหมาวัดใครๆก็ไม่ต้องการ
 :m15:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ครูไปเป็นนักร้องแทนใช่ไหม

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
เป็นแผนของพ่อที่จะคอยสังเกตุพฤติกรรมทั้งคู่แน่ๆเลยว่าจะรักกันจริงรึเปล่า เพราะพ่อพูดเองว่าชอบอาร์ต

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด