คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 115052 ครั้ง)

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 14 -



   สรุปแล้วตลอดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาอาร์ตก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากนอนเฝ้าคนป่วย เพราะแค่ตั้งท่าจะออกไปทำงานไอ้หน้าขาวๆค่อนไปทางซีดเซียวของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนเป็นงอล้ำบึ่้งตึงทันที เขาเลยต้องล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองแล้วมาเฝ้าเจ้าตัวต่อเงียบๆ ทั้งที่ในใจอยากจะบอกคุณเมียหมาดๆเหลือเกินว่าถ้าพี่ไม่ไปทำงาน เราจะอดตายกันทั้งคู่ในอนาคตนะที่รัก…

   ระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพื่อดูแลคนป่วยตลอดระยะเวลาสองวัน เขาไม่เคยได้เจอหน้าคนในบ้านคนอื่นเลยนอกจากป้าอิ่มกับไอ้เด็กดื้อ มารู้เอาทีหลังจากคำบอกเล่าของป้าอิ่มว่าบ้านนี้มีสมาชิกอาศัยอยู่ในบ้านทั้งหมดสามคน ประกอบไปด้วยเจ้าสัวพิชิตพอของพีท ตัวพีทเองและลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงอีกหนึ่งคน ส่วนแม่ของพีทเสียไปตั้งแต่เจ้าตัวยังแบเบาะ

   และก็เป็นปกติอยู่แล้วที่จะไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพีท เพราะหัวหน้าครอบครัวอย่างเจ้าสัวพิชิตต้องเดินทางไปคุยธุรกิจที่ต่างประเทศเป็นประจำ ส่วนอีกคนที่เป็นสมาชิกของบ้านก็นานๆถึงจะกลับมาสักครั้ง เพราะมีที่พักอยู่ใกล้มหา’ลัยเรียนคณะบริหารปีสามที่เดียวกับเขา และชื่อไมล์….มันดูคุ้นจนเขาหวั่นใจ

   พอได้ฟังสิ่งที่ป้าอิ่มเล่มออกมายิ่งทำให้เขาหนักใจ เพราะเด็กดื้อของเขาไม่ใช่แค่ลูกคุณหนูทั่วๆไปแต่ไฮโซเอาเรื่อง ความรวยนี่น่าจะพอๆกับไอ้ปิงเพื่อนเขาเลยคิดไปแล้วก็กลุ้ม ทำไมคบใครที่ไรจะต้องเจอแต่คนรวยกว่าทุกที เกาะเมียกินซะดีไหมวะถ้าดวงจะมันจะมุ่งมาทางนี้
 
   “ก็ว่าไปนั่น” อาร์ตหัวเราะออกมาเบาๆให้กับความคิดตัวเอง คนอย่างไอ้อาร์ตให้ตายก็ไม่เกาะใครกินเด็ดขาด (ยกเว้นบังคับเพื่อนเลี้ยงเหล้านะ) แต่ก็ถือว่าเขาโคตรโชคดีที่ไม่เจอพ่อของพีท ยังไม่พร้อมจะเจอตอนนี้เพราะยังไม่มีเงินจ่ายค่าสินสอด

   “อ้าว!! คุณอาร์ตตื่นแต่เช้าเลยนะคะ ป้ายังไม่ทันได้ตั้งโต๊ะเลย” เสียงป้าอุ่นแม่บ้านร่างท้วมผู้แสนใจดีเอ่ยทักอาร์ตด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนอยู่กลางโถงบ้านในเวลาเช้าตรู่

   “อรุณสวัสดิ์ครับป้าอุ่น” อาร์ตหัดไปยกมือไหว้คนสูงวัยกว่า แล้วตรงเข้าไปช่วยถือของที่อีกฝ่ายหอบพะรุงพะรังเต็มสองมือ

   “ขอบคุณนะคะคุณอาร์ต” ป้าอุ่นพูดพร้อมรอยยิ้มละไมรวมทั้งส่งสายตาเอ็นดูให้อาร์ต ก่อนจะเดินนำหน้าอีกฝ่ายไปทางห้องครัว
   “ให้ผมช่วยอะไรไหมครับ” อาร์ตถามทันทีหลังจากวางของในมือทั้งหมดลงบนโต๊ะ

   “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่ช่วยป้าหิ้วของช่วยก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว คุณไปนั่งรอข้างนอกเถอะคะป้าทำแป๊บเดียว” ป้าอุ่นพูดออกมาด้วยความเกรงใจ เพราะจะให้เพื่อนคุณหนูมาช่วยงานคงไม่เหมาะ แค่ช่วยดูแลคุณหนูให้ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ปกติก็จะมีลูกมือตลอดแต่เผอิญว่าเด็กสองคนนั้นลากลับต่างจังหวัดพร้อมกัน เลยทำให้คนแก่ๆอย่างเธอทำเองคนเดียวทุกอย่าง

   “ไม่เป็นไรหรอกครับผมอยากช่วย” อาร์ตขันอาสาอย่างแข็งขันทำเอาป้าอุ่นยิ้มปลื้มอย่างชอบใจ

   “จะดีเหรอคะคุณ” ป้าอุ่นถามอีกครั้งลังเลใจไม่น้อยที่จะให้เพื่อนเจ้านายช่วย

   “ดีครับ...ดีมากด้วยเชื่อผม” อาร์ตพยักหน้าหงึกหงักยืนยันเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเกรงใจอะไรเขามากมาย คนที่ควรเกรงใจมันน่าจะเป็นเขามากกว่า

   “ก็ได้ค่ะ...ว่าแต่คุณอาร์ตทำอะไรเป็นบ้างคะ เคยเข้าครัวรึเปล่า” ป้าอุ่นยอมตามใจอาร์ตและมองเจ้าตัวด้วยความเอ็นดู ในบรรดาเพื่อคุณหนูหลายๆคนถ้าไม่นับพวกคุณเลิฟ ก็ไม่เห็นจะมีใครนิสัยน่ารักแบบคุณอาร์ตเลยสักคน

   “โหยยย ป้าอุ่นไม่รู้อะไรซะแล้วครับผมเนี่ยอาร์ตเชฟกระทะเหล็ก” อาร์ตยักคิ้วส่งให้ป้าอุ่นอย่างทะเล้นพร้อมกับคว้าเอาผ้ากันเปื้อนมาสวมลงบนตัวอย่างทะมัดทะแมง

   “ฮ่าๆๆ งั้นป้าจะรอดูฝีมือเชฟนะคะ” ป้าอุ่นหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหาร พร้อมกับคอยบอกให้ลูกมือหมาดๆทำตามคำสั่ง พร้อมกับยอมรับในใจว่าอาร์ตไม่ได้มีดีแค่โม้จริงๆ

   ...
   ...

   พีทเดินลงมาชั้นล่างของบ้านในสภาพแต่งชุดนักศึกษาเรียบร้อย ตาก็มองไปทั่วบ้านเพื่อมองหาใครบางคนที่อยู่กับเขาตลอดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเช้าเขาตื่นขึ้นมาเพราะนาฬิกาปลุกที่แผดเสียงดังลั่น ซึ่งเขาเป็นคนไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุกเลยสักครั้งในชีวิตเพราะไม่ชอบเสียงของมัน และก็ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเท่าไหร่ที่ต้องใช้เพราะป้าอุ่นจะเดินมาปลุกประจำอยู่แล้ว

   แต่เช้านี้เป็นเช้าที่แปลกออกไปทุกครั้งเพราะนอกจากป้าอุ่นจะไม่มาปลุก ยังมีเสียงนาฬิกาที่เขาสุดแสนเกลียดดังทะลุโสตประสาทอีก และอีกคนที่อยู่กับเขาก็ไม่รู้หายหัวไปไหนถ้าเดาไม่ผิดเรื่องนาฬิกาก็ฝีมือเจ้าตัวแน่ๆ

   กวาดสายตามองจนทั่วในที่สุดก็เจอคนที่มองหาซึ่งกำลังเดินออกมาจากทางห้องครัว ด้วยความใจร้อนพีทเลยรีบสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายตั้งใจจะด่าให้หูชา ข้อหาที่กวนประสาทและทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่ยังไม่ทันถึงตัวอาร์ตก็หันมาสบตากับเข้ากับเขาซะก่อน

   พีทถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นสภาพอีกฝ่ายเต็มตาเพราะมันดูไม่จืดเอาซะเลย ผมด้านหน้าถูกมัดเป็นจุกทรงน้ำพุใบหน้ามันเยิ้ม และที่สำคัญเจ้าตัวกำลังสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววมีระบายลูกไม้ด้านข้าง นี่ไอ้พี่อาร์ตมันนึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาเนี่ย

   “อ้าว...น้องพีทตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะยังไม่ตื่นพี่กำลังจะไปปลุก” อาร์ตส่งยิ้มหวานไปให้พร้อมกับถอนผ้ากันเปื้อนออก

   “อือ...นี่พี่มึงทำอะไร” พีทพยักหน้าให้พร้อมกับไล่สายตามองสำรวจไปทั่วตัวอาร์ต

   “อ้อ...นี่นะเหรอ ฮะๆไม่บอกเดี๋ยวไม่เซอร์ไพรซ์” อาร์ตว่าพร้อมกับยิ้มแบบมีเลสนัย

   “เออๆจะทำไรก็เรื่องของพี่เหอะ แต่ไปอาบน้ำก่อนดีไหมวะ” พีทมองอาร์ตแล้วทำหน้าแหยใส่

   “โอเค รับคำสังครับที่รัก” อาร์ตยิ้มทะเล้นใส่พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปใกล้ ก่อนจะกดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มขาวของพีท

   ฟอดดดดด

   “อ่ะ...เหี้ย!!” พีทยกมือขึ้นจับที่แก้มตัวเองแล้วมองอาร์ตตาโตด้วยความตกใจ

   “เหี้ยอีกแล้วบวกกับของเก่านี่เป็นสิบแล้วนะน้องพีท” อาร์ตทำเสียงดุแบบไม่จริงจังเท่าไหร่ใส่พีท

   “อะไรเล่า!! ก็ใครใช้ให้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้วะ” พีทถลึงตาใส่และเถียงกลับไม่ยอมแพ้ใบหน้าหวานแดงก่ำเพราะเขินจัด ตาล่อกแล่กมองไปทั่วบริเวณนั้นเพราะกลัวใครมาเห็นเข้า

   “ไม่มีใครมาเห็นหรอกน่า” อาร์ตว่าอย่างไม่ใส่ใจและโน้มตัวหอมแก้มพีทอีกข้าง

   ฟอดดดดด

   “อ่ะ...ไอ้เหี้...” พีทยกมือขึ้นฟาดลงไปบนตัวอาร์ตเต็มแรงพร้อมกับเอ่ยปากด่า แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดีก็โดนอีกฝ่ายยกมือขึ้นห้ามไว้

   “อย่านะน้องพีทติดเป็นนิสัยแล้วนะเรา เดี๋ยวไอ้สิบกว่ายกที่นับได้พี่ทำจริงๆนะ” อาร์ตว่าด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยไม่ได้ดุอะไร แต่กลับทำให้พีทยอมเงียบและฟังรวมทั้งไม่กล้าเถียงออกไป

   “เออ!! ขู่เข้าไปดิ ไปอาบน้ำเลย” พีทยังคงเถียงออกไปด้วยนิสัยไม่ยอมคนแต่แต่ก็แผ่วเบาเพราะความเกรงอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือดันหลังอาร์ตให้กลับขึ้นไปบนห้องนอน ส่วนตัวเองก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะในห้องอาหารเพื่อรอทานข้าว

   ...
   ...

   อาร์ตกลับลงมาอีกครั้งในชุดนักศึกษาเรียบร้อย ชุดเก่าที่ใส่มาตั้งแต่คืนวันศุกร์นั่นแหละได้ป้าอุ่นเอาไปซักให้ ตอนป้าแกเห็นเลือดที่เปื้อนเสื้อตกอกตกใจกันน่าดูเขาต้องอธิบายซะยืดยาว

   เดินเข้ามาถึงโต๊ะอาหารก็เห็นว่าพีทนั่งรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับป้าอุ่นที่ค่อยทยอยจัดโต๊ะ อาร์ตเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างพีทแล้วมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ทำเอาเจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย

   “อะไร” พีทเอ่ยปากถามออกไปอย่างอดไม่ได้เพราะอาร์ตเล่นจ้องเขม็งแต่ไม่พูดอะไร

   “ทำไมน้องพีทไม่ช่วยป้าอุ่นล่ะ เห็นไหมว่าป้าทำคนเดียว” อาร์ตบอกเสียงเรียบแต่เหมือนจะดุพีทกลายๆ

   “ทำไมต้องทำหน้าที่ป้าอุ่น” พีทเถียงออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็ไม่เคยทำมันไม่ใช่หน้าที่สักหน่อย แล้วทำไมเขาจะต้องทำด้วย

   “น้ำใจไงครับน้องพีทป้าอุ่นทำคนเดียวพีทไม่รู้สึกอะไรเหรอ” อาร์ตสอนพร้อมรอยยิ้มแต่ทำเอาพีทหน้าบึ้งเพราะคิดว่าโดนดุ

   “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณอาร์ตคุณหนูเธอไม่เคยทำ” ป้าอุ่นรีบเอ่ยปากห้ามทัพเพราะกลัวจะทะเลาะกันใหญ่โต แต่ทำเอาพีทหน้าบึ้งกว่าเดิมเพราะคิดว่าป้าอุ่นเข้าข้างอาร์ต

   “สบายจนเคยตัวน่ะสิครับ” อาร์ตส่ายหัวเบาๆและเดินไปช่วยป้าอุ่นจัดโต๊ะ ทิ้งให้พีทนั่งเกาะอกหน้าหงิกมองตามด้วยความไม่พอใจ

   “ขอบคุณนะคะคุณอาร์ตช่วยป้าตลอดเลย นี่ถ้าคุณหนูเป็นผู้หญิงป้าจะยุให้คุณจีบ คุณผู้ชายจะได้มีลูกเขยดีๆแบบคุณ” ป้าอุ่นพูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรมือก็ง่วนอยู่กับการตั้งสำรับอาหาร

   “หึ หึ ครับ” อาร์ตกลั้วหัวเราะในลำคออย่างชอบใจพร้อมกับหันไปส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พีท ในใจอยากจะบอกป้าอุ่นใจจะขาดว่าต่อให้คุณหนูป้าเป็นผู้ชาย เขาก็พร้อมเป็นเขยบ้านนี้อย่างเต็มใจ

   “ไอ้บ้า” พีทขมุบขมิบปากด่าออกมาพร้อมกับก้มหน้างุดมองตักตัวเองด้วยความเขิน ใบหน้าขาวแดงก่ำลามไปทั่วจนถึงลำคอ

   “งั้นป้าไปแล้วนะคะ” ป้าอุ่นยิ้มละไมพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในห้องครัว ทิ้งให้อาร์ตกับพีทอยู่กันสองคนท่ามกลางลูกระเบิดที่เจ้าตัวทิ้งไว้อย่างไม่ตั้งใจ

   “พ่อดุไหม” อาร์ตถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้พีทที่นั่งเขินอยู่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความไม่เข้าใจ

   “พี่จะได้ตั้งรับถูกว่าควรเข้าหาแบบไหน” คำพูดต่อมาของอาร์ตยิ่งทำให้พีทขมวดคิ้วพันกันยุ่ง

   “ป้าอุ่นชอบแบบพี่แล้วพีทว่าพี่จะผ่านด่านพ่อพีทไหมในฐานะลูกเขย” อาร์ตจ้องหน้าพีทตรงๆด้วยสายตาวิบวับพร้อมกับเน้นหนักคำพูดสุดท้ายของตัวเอง

   “อะ...อะ...ไอ้...กินข้าวไปเลยไป!!” พีทโวยวายออกมาตะกุกตะกักแล้วหันไปตักข้าวเข้าปากแก้เขิน ส่วนอารืตที่เห็นท่าทางน่ารักๆของเจ้าตัวก็หัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ

   “อ่ะ...อันนี้พี่ทำเอง” อาร์ตตักกับข้าวใส่ในจานให้พีทซึ่งพีทก็เหลือบตามองนิดอย่างไม่เชื่อ แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เจออีกฝ่ายในสภาพสวมผ้ากันเปื้อนก็น่าจะมีความเป็นไปได้

   “ก็งั้นๆกินเพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจหรอก” พีทแกล้งทำเป็นว่าไม่อร่อยทั้งที่อาหารฝีมืออีกฝ่ายรสชาติถูกปากไม่น้อย

   “แค่งั้นๆก็ดีใจแล้ว” อาร์ตว่ายิ้มๆพร้อมกับตักอย่างอื่นใส่จานพีทเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงพูดคุยที่ดังออกมาเป็นระยะไม่ขาดสายระหว่างคนทั้งคู่

   ...
   ...

   “นี่จะไปเรียนกันเลยใช้ไหมคะคุณทั้งสอง” ป้าอุ่นที่เดินออกมาส่งหน้าบ้านเอ่ยปากถาม พร้อมกับเรียกคนขับรถมาให้เพื่อจะได้ไปส่งทั้งคู่ที่มหา’ลัย

   “ใช่ครับป้า” พีทพยักหน้าน้อยๆก่อนจะก้าวขาขึ้นรถที่ขับมาจอดเทียบพอดี

   “ผมลานะครับป้า” อาร์ตยกมือไหว้คนสูงวัยอย่างนอบน้อม ซึ่งป้าอุ่นก็รับไหว้อย่างเอ็นดู

   “ไหว้พระค่ะคุณไว้วันหลังมาเที่ยวอีกนะคะ”

   “จะชวนทำไมป้าเกะกะ” พีทอดที่จะว่าขึ้นมาบ้างไม่ได้ด้วยความหมั่นไส้ เจอหน้ากันแค่สองวันทำเหมือนสนิทกันมาเป็นปี

   “คุณหนู” ป้าอุ่นดุพีทออกไปเบาๆจนเจ้าตัวหน้างอไม่พอใจแล้วสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

   “เด็กขี้หวงน่ะครับป้า” อาร์ตเอ่ยเย้าพีทด้วยความเอ็นดูแต่โดนพีทตวัดหน้ากลับมาถลึงตาใส่

   “ไม่โตสีกทีค่ะ” ป้าอุ่นส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจแต่ทำเอาพีทหน้าบึ้งยิ่งกว่าเก่า

   “ไปกันเถอะค่ะคุณเดี๋ยวเข้าเรียนสาย”

   “ครับป้า ผมลาอีกครั้งนะครับ” อาร์ตว่าแล้วเดินไปที่รถกำลังจะก้าวขาขึ้นไปนั่งแต่พีทยื่นมือมาขวางไว้

   “ใครจะให้ไปด้วย” พีทถามด้วยความกวนส่วนอาร์ตก็หรี่ตามองอีกฝ่าย

   “ไม่ให้ไป” อาร์ตลองถามเพื่อความแน่ใจ

   “ใช่” พีทพยักหน้ารับพร้อมกับยักคิ้วส่งให้แบบเหนือกว่า

   “โอเค...งั้นก็อย่าเถลไถลนะ” อาร์ตไม่ต่อความอะไรกับพีทถอยห่างจากรถ ก่อนจะเดินออกไปทางหน้าบ้านทิ้งให้พีทมองตามด้วยความตกใจ

   พีทนั่งหน้าเสียมองตามอาร์ตอยู่ในรถอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้เขาแค่จะกวนอีกฝ่ายเล่นเพราะหมั่นไส้ไม่ได้ตั้งใจจะให้ไปเองแบบนั้นซะหน่อย ไอ้พี่อาร์ตไอ้นิสัยไม่ดี

   “ตามไปง้อสิคะคุณหนู” ป้าอุ่นเอ่ยปากบอกเพราะเห็นพีทเอาแต่นั่งเงียบ

   “ง้อทำไม” พีทว่าแล้วแกล้งทำไม่สนใจ

   “ผิดก็แค่ขอโทษนะคะ”

   พีทนิ่งคิดกับคำพูดของป้าอุ่นกำมือทั้งสองข้างแน่น ตัดสินใจคว้าเอากระเป๋าตัวเองขึ้นมาแล้วเดินลงจากรถ ก่อนจะวิ่งตามร่างสูงที่เห็นอยู่ลิบๆไปด้วยความเร็ว ทิ้งให้ป้าอุ่นมองตามหลังด้วยความเอ็นดู

   ...
   ...

   “พี่อาร์ต!! พี่อาร์ต!! ไอ้พี่อาร์ต!!” พีทตะโกนเรียกอีกฝ่ายที่เดินเรื่อยๆไม่สนใจตัวเองสุดเสียง

   อาร์ตที่ได้ยินเสียงเรียกก็หยุดชะงักก่อนจะหันหลังกลับไปมอง แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าคนที่ตัวเองพึ่งจากมาไม่ถึงสิบนาที สบสายตาเหวี่ยงๆที่มองกลับมาของเจ้าตัวเล็กน้อย

   “หยุดอยู่ตรงนั้นห้ามขยับ” พีทสั่งเสียงเขียวก่อนจะเดินเข้าไปหาอาร์ตด้วยใบหน้าบึ้งตึง

   “ทำไมมาอยู่นี่” อาร์ตเอ่ยปากถามพร้อมกับมองสภาพกระหืดกระหอบของอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ

   “ก็ใครใช้ให้เดินหนีมาล่ะ” พีทว่าเหวี่ยงๆ

   “พีทไล่พี่เองนะ” อาร์ตบอกกลับเสียงเรียบ   

   “ไม่ได้ไล่!!”

   “ไล่ครับ”

   “บอกว่าไม่ได้ไล่ไง!!”

   “..........” เพราะเถียงกันไม่จบสิ้นอาร์ตเลยเลือกที่จะเงียบและมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ทำเอาพีทหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย

   “ก็ไม่ได้ไล่จริงๆแค่จะแกล้งเฉยๆ...ขอโทษ” พีทงึมงำบอกแผ่วเบากร้อมกับก้มหน้าลงมองพื้น

   อาร์ตที่ได้ยินคำขอโทษก็มองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ ก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู นี่อย่าบอกนะว่าเด็กดื้อกำลังง้อเขาอยู่

   “พี่อาร์ต...ขอโทษ...อย่าโกรธนะ” พีทจับเสื้อของอาร์ตแล้วดึงเบาๆโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองมันน่าเอ็นดูขนาดไหน

   “พี่ไม่ได้โกรธ” อาร์ตลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

   “ไม่ได้โกรธแล้วเดินหนีมาทำไม” พีทช้อนตามองอาร์ตปริบๆ

   “ก็พีทไล่”

   “บอกว่าไม่ได้ไล่ไง” พีทเถียงกลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง

   “โอเคๆไม่ไล่ก็ไม่ไล่แต่พี่ไม่ได้โกรธเราหรอก” อาร์ตยกมือขึ้นสองข้างอย่างย้อมแพ้เพระขืนเถียงต่อ คงกลายเป็เขาเนี่ยแหละที่ต้องเป็นฝ่ายง้อแถมดูท่าจะง้อยากซะด้วย

   “แน่นะ” พีทถามด้วยใบหน้าที่ยังบึ้งตึงอยู่ ซึ่งอาร์ตก็พยักหน้ารับออกไปเลยทำให้เจ้าตัวยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

   “งั้นไปเรียนกัน” พีทว่าแล้วเดินนำหน้าอีกฝ่ายไปทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ซึ่งอาร์ตก็ส่ายหัวหน่ายๆให้กับความเด็กของเจ้าตัว ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปเดินข้างๆยกมือขึ้นพาดบ่าอีกฝ่ายแล้วเดินไปพร้อมๆกัน

   “เออพี่อาร์ตเราจะไปมหา’ลัยยังไงอ่ะ” พีทถามออกมาด้วยความสงสัยหลังจากออกเดินได้สักพัก

   “รถไง” อาร์ตว่าส่วนพีทพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ

   “งั้นถึงหน้าถนนใหญ่รีบโบกแท็กซี่เลยนะมันร้อน” พีทว่าอย่างหมายมาดและนึกถึงแอร์เย็นๆของรถที่จะได้นั่งในไม่กี่วินาทีข้างหน้า

   “แท็กซี่อะไร” อาร์ตหยุดเดินแล้วขมวดคิ้วมองหน้าอีกฝ่าย

   “อ้าว...ก็โบกแท็กซี่ไปมหา’ลัยไง” พีททำหน้าเหลอหรามองอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจเหมือนกัน

   “ใครบอกจะพาไปแท็กซี่”

   “ไม่ไปแท็กซี่แล้วจะไปรถอะไรล่ะ”

   “ก็รถสองประตูยี่สิบหน้าต่างไง” อาร์ตยักคิ้วส่งให้

   “รถอะไรวะ...อย่าบอกนะ” พีทขมวดคิ้วด้วยความงงก่อนจะตาโตเมื่อเห็นรถคันนึงที่ลักษณะตรงกันเป๊ะตามที่อาร์ตบอกกำลังขับผ่านหน้าไป

   “ใช่” อาร์ตพยักหน้ายืนยัน

   “ไม่เอา” พีททำหน้าแหยงส่ายกัวปฎิเสธทันควันเขาไม่เคยขึ้นไอ้รถที่ว่านี่เลยนะ

   “เอาน่าลองสักครั้งในชีวิตจะได้รู้” อาร์ตพยายามพูดโน้มน้าว

   “ไม่อยากลองเลยแท็กซี่ไม่ได้เหรอ” พีทพยายามอ้อนอีกฝ่าย

   “น้องพีทมีคังแค่สองร้อยนะอย่าลืมและพี่ก็มีพอๆกัน นั่งแท็กซี่ไปเรียนอดตายทั้งคู่นะเออ”

   “ง่ะ...แต่ว่า” พีทยังคงพยายามดื้อดึง

   “เอาน่า...เดี๋ยวก็ชิน” อาร์ตว่าแค่นั้นแล้วลากพีทเดินต่อไปยังป้ายรถเมล์ใกล้ๆ

   พีทเดินตามอาร์ตต้อยๆพร้อมกับโอดครวญอยู่ในใจและน้ำตาที่หลั่งริน ถ้ารู้ว่าตามมาแล้วชีวิตต้องเจออะไรแบบนี้เขาไม่ตามมาหรอก ลืมคิดไปได้ยังไงว่าไอ้พี่อาร์ตมันจนแล้วเขาจะเป็นยังไงล่ะที่นี้ กับการขึ้นยานพาหนะสองประตูยี่สิบหน้าต่างที่เรียกว่ารถเมล์ครั้งแรกในชีวิต

   ‘จะรอดไหมวะไอ้พีทเอ้ย!!’


2 Be Con...

+++++++++++

มีผัวจนต้องทำใจพีทเอ้ย
เอิ๊กๆๆๆๆๆๆ
รักคนอ่านคับ^^
[/color]

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
เพิ่งจะเห็นว่ามีเรื่องนี้ด้วย แยกคู่ใครคู่มันไปเลยก็ดี
ตอนแรกก็ว่ารุนแรงเลือดสาด แต่หลังๆมาหวานใช่ย่อย
แต่ความปากร้าย ปากไว ของน้องพีทนี่ยังเหมือนเดิม
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่อาร์ตคงช่วยแก้นิสัยนี้ได้ :hao3:
และคิดว่าน้องพีทคงต้องปรับตัวกับอะไรอีกหลายอย่าง
อย่างแรกก็เรื่องการนั่งรถเมล์ก่อนเลย :laugh: สู้ๆนะน้องพีท
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดค่ะ


ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
เพิ่งจะเห็นว่ามีเรื่องนี้ด้วย แยกคู่ใครคู่มันไปเลยก็ดี
ตอนแรกก็ว่ารุนแรงเลือดสาด แต่หลังๆมาหวานใช่ย่อย
แต่ความปากร้าย ปากไว ของน้องพีทนี่ยังเหมือนเดิม
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่อาร์ตคงช่วยแก้นิสัยนี้ได้ :hao3:
และคิดว่าน้องพีทคงต้องปรับตัวกับอะไรอีกหลายอย่าง
อย่างแรกก็เรื่องการนั่งรถเมล์ก่อนเลย :laugh: สู้ๆนะน้องพีท
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดค่ะ

ขอบคุณมากนะคะเม้นท์ให้ตลอดเลย คนเขียนกะโดดกอดดดดด

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 15 -




   พีทเดินสะโหลสะเหลหมดแรงเข้าไปทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะมาหินอ่อนหน้าคณะ ที่เขามีสภาพเหมือนคนใกล้ตายแบบนี้เพราะพึ่งผ่านสงครามกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมา การขึ้นรถเมล์ครั้งแรกเรียกได้ว่าเป็นที่น่าจดจำ และจะจำไปทั้งชีวิตว่าชาตินี้เขาจะไม่ขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ไอ้ยานพาหนะที่จ่ายค่าโดยสารแสนถูกแต่แลกมาด้วยความทรมานแบบนี้ เขาไม่เอาอีกแรก

   เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมหน้าหวานๆตัวบางๆแบบไอ้เลิฟถึงขึ้นไอ้รถบ้านี่มาเรียนได้ ร้อนก็ร้อนคนก็เยอะเบียดกันจนจะเป็นปลากระป๋อง ไหนจะเสียงดังวุ่นวายรวมทั้งกลิ่นเหงื่อกลิ่นน้ำหอมใครต่อใครก็ไม่รู้ผสมกันมั่วไปหมด แค่คิดกลิ่นก็ลอยมาแล้วอยากจะอ๊วกออกมาเดี๋ยวนี้เลย

   “แหวะ” ไวเท่าความคิดพีทดีดตัวขึ้นจากการนอนซบบนโต๊ะทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนจะอ๊วก ก่อนจะสะบัดหัวเบาๆแล้วทำหน้าแหยงเบะปากออกมาจากนั้นก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะอีกรอบ

   “ไหวไหมเนี่ยน้องพีท” อาร์ตที่นั่งมองมานานถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าแค่ขึ้นรถเมล์อีกฝ่ายจะออกอาการแย่ขนาดนี้

   “ยังไม่ตาย!!” พีทมองค้อนอาร์ตด้วยความเคืองก่อนจะสะบัดหน้าหนี ไม่อยากจะเห็นหน้าอีกฝ่ายตอนนี้เลยให้ตายสิเพราะกลัวอดใจลุกไปบีบคอไม่ไหว

   “งั้นรอแป๊บนึง” อาร์ตลูบหัวพีทแล้วก้มลงหอมลงบนกลุ่มผมนิ่มก่อนจะลุกเดินออกไป

   พีทดีดตัวเองขึ้นจากโต๊ะด้วยความตกใจมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวว่าใครจะมาเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้ แล้วยกมือลูบผมตัวเองปากบ่นงึมงำตามหลังอีกฝ่ายก่อนจะฟุบตัวลงกับโต๊ะอีกรอบ พร้อมกับใบหน้าแดงก่ำและหัวใจที่เต้นกระหน่ำเหมือนตีกลอง เขาว่าสักวันตัวเองต้องหัวใจวายตายเพราะไอ้พี่อาร์ตแน่ๆ

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พีทนั่งฟุบหน้ากับโต๊ะอยู่แบบนั้น กระทั่งมีสัมผัสเย็นๆมาโดนที่ข้างแก้มจนสะดุ้งพอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นอาร์ตที่นั่งส่งยิ้มให้ พร้อมกับในมืออีกฝ่ายที่มีผ้าเย็นและกำลังเช็ดหน้าให้ตัวเองอย่างเบามือ พีทมองการกระทำของอาร์ตด้วยแววตาสั่นไหวพร้อมกับความรู้สึกคันยุบยิบประหลาดที่หัวใจ

   “พอแล้ว” พีทปัดมือของอาร์ตออกเพราะกลัวความรู้สึกหวั่นไหวของตัวเองมันจะเลยเถิด เรื่องทางกายน่ะช่างมันสนุกทั้งคู่ถือว่าวินวินแต่เรื่องของหัวใจเขาไม่อยากปล่อยให้มันเลยเถิด ห้ามได้ก็ต้องห้ามเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เวลาเจ็บมามันไม่คุ้มเลยสักนิด

   “อยู่เฉยๆ” อาร์ตว่าแล้วยังคงเช็ดหน้าให้พีทต่อ

   “บอกว่าไม่ต้องไง” พีทเองก็พยายามปัดมืออาร์ตออกพร้อมกับเบี่ยงตัวหนี

   “อย่าดื้อสิ” อาร์ตดุอย่างไม่จริงจังแล้วใช้มือข้างที่ว่างรวบมือพีทที่อยู่ไม่สุขเอาไว้ ส่วนอีกมือก็ไล่เช็ดไปตามโครงหน้าสวยที่ชื้นเหงื่อและซีดเล็กน้อย

   “อย่าทำแบบนี้ได้ป่ะ” พีทพึมพำออกมาเสียงแผ่ว

   “ทำอะไร” อาร์ตยังคงไล่เช็ดไปทั่วใบหน้าและลำคอของอีกฝ่ายจนตอนนี้ใบหน้าขาวเริ่มกลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง

   “ก็แบบที่ทำอยู่เนี่ย” พีทก้มหลบไม่กล้ามองอาร์ตตรงๆดวงตาสั่นไหวเหมือนคนกำลังสับสนจนอาร์ตยังรู้สึกได้

   “ห้ามยากนะ” อาร์ตว่าออกมาด้วยน้ำเสียงทะเล้น

   “ถ้ารักขึ้นมาจะทำไงล่ะวะ” พีทพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่วแต่อาร์ตก็หูดีพอจะได้ยินทั้งๆที่มันเบาแสนเบา

   “ก็รักดิ” อาร์ตก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะถอยห่างออกมาเล็กน้อยมองดูพีทที่เงยหน้ามามองตาโตอย่างชอบใจ

   “ไม่!!” พีทตอบเสียงแข็งพร้อมกับสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง จนอาร์ตที่นั่งมองอยู่อยากจะลากกลับห้องไปแก้อาการซึนของอีกฝ่าย

   “ดีขึ้นรึยัง” อาร์ตถามออกมาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงถึงจะดูภายนอกตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะดีขึ้นอย่างที่ตัวเองคิดรึเปล่า

   “ถามไรหน่อยดิ” พีทหันกลับมาเผชิญหน้ากับอาร์ตอีกครั้งพร้อมกับเม้มปากแน่น

   “ว่า” อาร์ตยิ้มให้เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเด็กดื้อจะถามอะไร

   “ไอ้เหี้ยพี่อาร์ตมีเหตุผลไรถึงมาชอบวะ...หน้าแบบพี่แม่งหาคนอื่นก็ได้ป่ะ" พีทตัดสินใจถามในสิ่งที่คาใจเพราะเมื่อคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า นิสัยแบบเขาไม่เห็นจะมีอะไรให้ชอบลงเลยทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง แถมถ้าไปเทียบกับไอ้เลิฟที่พี่อาร์ตมันจีบแต่แรกเขายิ่งไม่น่ามีอะไรให้ชอบ

   "ไม่มีเหตุผลหรอก...ชอบก็คือชอบรักก็คือรัก" อาร์ตตอบด้วยท่าทางสบายๆมือก็หยิบขวดน้ำเปล่ามาเปิดและส่งให้พีท

   “พี่มึงบ้าอีกละชอบไม่มีเหตุผลมีทึ่ไหนวะ" พีทเถียงออกไปหน้างอกับคำตอบที่ได้รับ มือก็รับขวดน้ำที่อีกฝ่ายส่งให้มาถือไว้

   "พี่จะบอกให้นะถ้าเรารักใครจริงๆสักคนเราไม่มีเหตุผลหรอกว่ารักเขาไปทำไม แต่ถ้าเราต้องหาเหตุผลเพื่อจะรักใครสักค แบบนั้นมันไม่เรียกว่าความรักหรอกนะ เพราะว่าเรากำลังฝืนตัวเองให้รักเข้าใจไหมไอ้ดื้อ" อาร์ตดีดหน้าผากพีทเบาๆอย่างเอ็นดูพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้

   “..........” พีทก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกสั่นไหวอย่างรุนแรง อ้าปากงับหลอดแล้วเคี้ยวเล่นไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

   “ได้เวลาพี่ไปเรียนล่ะ” อาร์ตก้มดูเวลาแล้วลุกขึ้นยืน ส่วนพีทก็พยักหน้างึกงักรับรู้แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง

   “เลิกเรียนกี่โมง” อาร์ตถามเพราะจะได้จัดตารางถูก

   “เที่ยง” พีทงึมงำตอบนั่งก้มหน้าอยู่แบบนั้น

   “งั้นเที่ยงพี่รอที่โรงฝึกนะ”

   “บอกไม” พีทตีรวนทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่อาร์ตบอก

   “ให้ไปหาไง”

   “ใครจะไปวะ”

   “พี่รอนะครับ”

   “........” น้ำเสียงออดอ้อนที่อาร์ตพูดออกมาทำให้พีทได้แต่เงียบอย่างไม่รู้จะตอบโต้ยังไง ยอมรับโดยดีเลยว่าตัวเองแพ้ทางอีกฝ่ายจริงๆ
   อาร์ตยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่เห็นพีทนิ่งเงียบ เพราะการเงียบของเจ้าตัวมีอยู่แค่สองอย่างไม่งอนก็ยอมทำตาม และจากสถานการณ์แบบนี้เจ้าตัวยอมทำตามที่เขาบอกแน่นอน

   “พี่ไปแล้วนะ” อาร์ตก้มลงหอมแก้มเนียนอย่างหมันเขี้ยวก่อนจะรีบผละออกอย่างรวดเร้ว แล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไปทันทีก่อนอีกฝ่ายจะรู้ตัว

   “ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!!” พีทตะโกนไล่หลังสุดเสียงยกมือขึ้นมาจับแก้มด้วยความเขิน พึ่งจะมารู้สึกตัวว่าโดนขโมยหอมแก้มก็ตอนที่อีกฝ่ายเดินไปใกล้แล้ว ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้อายคนบ้างไหมวะแล้วคิดบางไหมถ้าคนเห็นจะเป็นยังไง

   “ทำงานหนักไปแล้วมึง” พีทพึมพำกับตัวเองมือนึงถูแก้มข้างที่ถูกหอมไปมาอีกมือยกขึ้นมาทาบหน้าอกข้างซ้าย ที่ตอนนี้ก้อนเนื้อด้านในเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาให้ได้ ก่อนจะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะทั้งๆอย่างนั้น

   ...
   ...

   "พวกมึงกูไปก่อนนะ" พีทหันไปบอกเพื่อนทันทีที่อาจารย์บอกเลิกชั้นมือก็กวาดทุกอย่างลงกระเป๋าด้วยความรีบร้อน

   "อ้าว...ไม่กินข้าวก่อนเหรอวะ แล้วนี่มึงจะรีบไปไหน" นาวถามพีทด้วยความสงสัยมันจำเป็นอะไรที่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วยเหรอ

   "มีธุระว่ะ" พีทยักคิ้วส่งให้นาวกวนๆพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม

   "ธุระอะไรของมึงยิ้มหน้าบานเป็นจานแบบนี้" นาวเอื้อมมือไปหยิกแก้มพีทด้วยความหมั่นไส้

   "เรื่องกูน่า" พีทปัดมือนาวออกจากแก้มของตัวเองแล้วทำหน้ามุ่ยใส่

   "เดี๋ยวปวดท้องหรอกมึงกินข้าวไม่ตรงเวลา" เลิฟเตือนพีทด้วยความเป็นห่วง

   "เดี๋ยวกินน่า" พีทตอบเสียงยานคางก้มหน้าหลบตาเพื่อนเหมือนทำอะไรผิด เห็นพีทดูมาดแมนที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งกลุ่ม แต่มันก็แค่ภายนอกเท่านั้นเพราะที่จริงแล้ว ภายในของพีทคือคุณหนูจ๋าที่ถ้ากินข้าวผิดเวลาก็จะปวดท้อง กระหม่อมบางชนิดโดนแค่ไอฝนก็เป็นหวัดได้ง่ายๆ ต่างจากเลิฟที่ร่างกายดูบอบบางกว่า แต่ด้านสุขภาพภายในถือว่าแข็งแรงกว่าพีทพอควร

   “แล้วนี่กูไปได้ยัง” พีททำท่ากวนโอ๊ยใส่เพื่อนจนนาวต้องโยนปากกาในมือใส่เพราะหมั่นไส้

   “โอ๊ย!! มึงแม่งใช่ความรุนแรง” พีทบ่นกระปอดกระแปดใส่นาวทำท่าทางเหมือนเจ็บมากมายมาย

   “เออ!! วันหลังกูจะโยนมีดหยิบปากกามาคืนกูด้วย แล้วจะไปไหนก็ไป” นาวสั่งอย่างไม่สนใจท่าทีโอดครวญเกินจริงของพีท

   “โยนใส่กูยังมาใช้กูเก็บให้อีก...เอ้า” พีทบ่นแต่ก็ยอมก้มลงไปเก็บปากกาที่ตกลงบนพื้นขึ้นมาให้นาวแต่โดยดี

   “ไปละนะ” พีทส่งยิ้มร่าเริงแล้วรีบวิ่งออกจาห้องเรียนไปเพราะกลัวจะปล่อยให้ใครบางคนรอนาน

   “มันรีบไปไหนวะ...นัดสาว?” เลิฟมองตามหลังพีทไปจนลับสายตาหันกลับมาสบตานาวอย่างขอคำตอบ

   “กูว่าไม่น่าจะใช่...ช่างเรื่องมันเหอะ มึงอ่ะรีบเก็บของเดี๋ยวพ่อมึงรอนานก็ทำหน้ายักษ์อีก” นาวตัดบทเพราะขี้เกียจคิดออกปากไล่เลิฟให้เก็บของ
   “กูก็เห็นจะเร็วจะช้าทำหน้าแบบนั้นตลอด” เลิฟบ่นงึมงำให้คนที่นาวพูดผาดพิงถึง

   “เออจริง...วันหลังมึงลองถามพี่เขาบ้างนะ ทำหน้านิ่งๆแบบนั้นไม่เมื่อยหน้าไง” นาวหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือแล้วเดินนำหน้าเลิฟไป ส่วนเลิฟก็ได้แต่หัวเราะคิกคักกับคำพูดของเพื่อนและเดินตามกันออกไป

   ...
   ...

   พีทที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องเรียนจนถึงทางหน้าตึกต้องหยุดชะงักเบรกจนหัวแทบถิ่มพื้น เมื่อสายตาดันไปสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล เพ่งมองดีๆเพื่อความแน่ใจก็เห็นว่าเป็นคนเดียวกันกับที่คิด เลยรีบหลบฉากไปยืนแอบอยู่หลังเสาด้วยหัวใจเต้นระทึก

   “แม่งมาโผล่นี่ได้ไงวะ” พีทยื่นหน้าออกไปมองแล้วก็หลบเข้ามาด้วยความวิตก ในหัวคิดหาวิธีที่จะเดินออกไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็นเพราะเขาไม่พร้อมที่จะเจอและไม่อยากเจอ

   “เอาไงดีวะ” พีทบ่นงึมงำยื่นหน้าไปมองเป็นระยะ

   “อ้าว...มึงมาทำไรอยู่นี่” เลิฟที่เดินมาพร้อมนาวเอ่ยถามพีทด้วยความแปลกใจ เพราะเห็นอีกฝ่ายเดินลงมาตั้งนานแล้วแถมตอนนี้ยังมาทำท่าทางลับๆล่อๆอีก

   “นี่มึงหลบอะไร” นาวหันไปมองตามสายตาของพีทบ้างแต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเพื่อนหลบอะไร

   “กูหลบนั่นไง” พีทเอาหน้าแนบลงไปกับเสาที่ตัวเองใช้หลบอยู่แล้วชี้มือไปทางผู้ชายตัวสูงใส่แว่นตาที่ยืนไม่ไกลเท่าไหร่

   “อาฮะ...แล้วมึงหลบทำไม” เลิฟพยักหน้ารับรู้แต่ไม่เข้าใจว่าพีทจะหลบอีกฝ่ายทำไม ดูด้วยตาก็ไม่เห็นว่าคนที่พีทหลบจะมีอันตรายตรงไหนออกจะดูภูมิฐานน่าเชื่อถือ...ยกเว้นแต่ว่า

   “อย่าบอกนะว่ามึงไปแย่งแฟนเขาล้าเขาตามมากระทืบ” เลิฟถามพีทตาโตเพราะคิดได้แต่กรณีนี้เท่านั้น เป็นอันรู้กันดีในกลุ่มว่าพีทค่อนข้างเจ้าชู้ควงสาวไม่ซ้ำจะไปแย่งแฟนคนอื่นนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

   ผัวะ!!

   “ใช่ที่ไหนล่ะมึงถึงเจ้าชู้แต่กูไม่แย่งแฟนชาวบ้านโว๊ย!!” พีทตบหัวเลิฟไปทีให้กับความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าตัว

   “อ้าว...งั้นมึงก็บอกมาดิว่าหลบทำไม” เลิฟถลึงตาใส่ด้วยความไม่พอใจยกมือลูบหัวที่โดนตบไปมา

   “จะเถียงกันอีกนานไหมเขาเดินมานู้นแล้ว” นาวพยักหน้าไปทางด้านหลังของเพื่อนทั้งสองคน ซึ่งตอนนี้คนที่พีทหลบอยู่กำลังสาวเท้าตรงเข้ามาทางนี้แล้ว

   “ฉิบหาย” พีทอุทานออกมาแล้วหันหลังเตรียมจะเดินหนีแต่ก็ไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายเดินเข้ามาถึงตัวก่อน

   “พีท...คุยกับพี่หน่อยได้ไหม” แรงดึงที่แขนเบาๆกับน้ำเสียงอ้อนวอนที่ได้ยินทำให้พีทหยุดชะงัก แววตาสั่นระริกพร้อมกับหัวใจที่สั่นไหวอย่างรุนแรง

   “มึง” นาวเอามือแตะที่ไหล่ของพีทเพื่อเรียกสติเพราะเห็นเพื่อนยืนก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร

   “ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” พีทพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามคุมให้นิ่งที่สุด แต่ไม่ยอมหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่าย

   “พี่ขอคุยด้วยแป๊บเดียวได้ไหม” อีกฝ่ายยังคงเอ่ยปากขอร้อง

   “บอกแล้วไงว่าไม่คุย...ปล่อย” พีทพูดเสียงแข็งพยามยามสะบัดแขนให้หลุดจากมืออีกฝ่ายแต่ก็ทำไมสำเร็จ

   “พี่ไม่ปล่อย” อีกฝ่ายตอบกลับเสียงแข็งไม่แพ้กันมือที่จับแขนพีทไว้บีบแน่นลงมากกว่าเดิม

   “พี่หมอบอกให้ปล่อยไงวะ” พีทตวาดออกมาอย่างเหลืออด

   “พี่จะปล่อยก็ต่อเมื่อพีทยอมคุยกับพี่ก่อน” พี่หมอที่พีทเรียกพูดเสียงรอดไรฟันและพยายามลากพีทให้เดินตาม ส่วนพีทเองก็ขัดขืนจนกลายเป้นว่าทั้งคู่ยื้อยุดกันไปมา

   เลิฟกับนาวมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ เพราะทุกอย่างมันเดิดขึ้นเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าตอนนี้พีทกำลังจะโดนใครก็ไม่รู้ลากตัวไป

   “เฮ้ย!! หยุดนะเว้ย!!” เลิฟผลักผู้ชายใส่แว่นให้ออกห่างจากเพื่อนเต็มแรงจนฝ่ายนั้นถึงกับเซเล็กน้อย ก่อนจะลากพีทให้ไปยืนข้างหลังตัวเองและเป็นฝ่ายยืนประจัญหน้ากับคู่กรณีของเพื่อนแทน

   “หลีก!!” อีกฝ่ายตวาดเลิฟดังลั่นและพยายามเข้ามาดึงพีทไปกับตัวเอง ซึ่งเลิฟก็ไม่ยอมเอาตัวกันไว้เต็มที่โดยมีนาวคอยช่วยอีกแรง

   “เลิฟ...” พีทก้มลงมองเพื่อนที่ตัวเล็กกว่าด้วยความซึ้งใจที่เจ้าตัวพยายามปกป้องเขา ทั้งๆที่ตัวเองก็ใช่จะเก่งเรื่องทะเลาะวิวาทแถมปอดแหกพอๆกับเขาเนี่ยแหละ ถ้าจะมีใครถนัดเรื่องตีกับชาวบ้านคงเป็นไอ้กั้มแค่คนเดียว

   “ไม่ต้องกลัวนะมึง” เลิฟปลอบเพื่อนไม่ให้กลัวทั้งๆที่ตัวเองกลัวจะแย่ตาก็จ้องคนตรงหน้าเขม็ง

   “ฉันว่าคุณกลับไปเถอะค่ะอย่าให้ต้องเรียกรปภ.เลย” นาวบอกอีกฝ่ายอย่างใจเย็นเพราะกลัวสถานการณ์จะบานปลาย ถ้าสเกิดอะไรขึ้นพวกเธอสามคนไม่มีปัญญาสู้หรอกการันตีด้วยเกียรติเลยล่ะ

   “พี่กลับไปเหอะผมไม่อยากคุย” พีทออกปากไล่อีกฝ่ายอีกครั้งมือก็ดึงแขนเลิฟเอาไว้ เพราะถึงจะไม่มีฝีมือเชิงต่อสู้แต่ไอ้เลิฟมันถนัดเรื่องเรียกตีนชาวบ้าน เดี๋ยวมันจะไปทำอะไรให้เขาตีนกระตุกขึ้นมาจะพากันซวยเอา

   “ไม่!! พีทต้องไปกับพี่เดี๋ยวนี้” อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจและใช้จังหวะที่ทุกคนเผลอคว้าเอาแขนพีทและกระชากเข้าหาตัวเต็มแรง

   “เฮ้ย!! ปล่อยเพื่อนกูนะ” เลิฟตะโกนดังลั่นและยกเท้าถีบอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนทุกคนจะชะงักค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่ตัวคนถีบเองยังตกใจ

   “คือ...คือ” เลิฟมองทุกคนเลิ่กลั่กและถอยห่างอย่างรวดเร็วเมื่อกี้เขาไม่ได้ตั้งใจแค่ห่วงเพื่อนเลยเผลอถีบออกไป

   “มึง!!” อีกฝ่ายพูดเสียงรอดไรฟันและเดินย่างสุมเข้ามาหาเลิฟอย่างคุกคาม กระชากคอเสื้อเลิฟเข้าหาตัวเองและง้างหมัดขึ้นสูง

   “อย่านะพี่หมอ!!” พีทตะโกนห้ามดังลั่นก่อนเดินตรงเข้าไปหาทั้งคู่แกะมือที่กำคอเสื้อเลิฟออก ก่อนจะดึงเจ้าตัวให้มาหลบที่ด้านหลัง จากนั้นก็เงื้อฝ่ามือขึ้นแล้วฟาดลงไปที่หน้าอีกฝ่ายเต็มแรงพร้อมกับมองด้วยสีหน้าดุดัน

   “พีทตบพี่เหรอ...ปกป้องมันทำไมมันเป็นอะไรกับเรา” พี่หมอตวาดเสียงดังและชี้หน้าเลิฟอย่างโกรธเคือง พยายามเข้าไปทำร้ายเลิฟทั้งๆที่พีทยืนบังอยู่

   “ทำอะไร” เสียงเรียบนิ่งที่ดังแทรกขึ้นมาพร้อมกับการปรากฎตัวของปอที่เดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างทุกคน ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้งพร้อมกับที่พี่หมอยอมถอยออกไป

   “พี่ปอ” พีทก้มหลบตาดุๆของปอด้วยความกลัว

   “ตกลงมีเรื่องอะไร” ปอถามออกมาอีกครั้งพร้อมกับปลายตามองหน้าทุกคนนิ่งๆ

   “หลีกไปผมมีเรื่องจะคุยกับพีท” เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้ปอหันกลับไปมองและพิจารณาอีกฝ่ายเงียบๆก่อนจะหันกัลับมาหาพีท

   “รู้จัก” ปอถามพีทซึ่งเจ้าตัวไม่ตอบแต่เลือกที่จะเงียบ

   “มึงจะคุยไหม” ปอถามต่อดุๆซึ่งพีทก็ส่ายหัวปฏิเสธเป็นพัลวัน

   “น้องกูมันไม่อยากคุยมึงกลับไปได้แล้ว” ปอหันกลับไปบอกคนแปลกหน้าด้วยเสียงราบเรียบแต่ปล่อยรังสีคุกคามอีกฝ่ายเต็มที่
 
   อีกฝ่ายมีท่าทีลังเลเล็กน้อยพยายามส่งสายตาอ้อนวอนไปให้พีทแต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ต้องยอมแพ้และเลือกจะกลับไปแต่โดยดี เพราะไม่อยากเสี่ยงมีเรื่องกับคนมาใหม่ที่ดูจะไม่ธรรมดาเท่าไหร่นัก

   “แล้วพี่จะมาหาใหม่นะ” พีทหมอพูดทิ้งท้ายและหันหลังเดินกลับไป

   “เฮ้อ!!” พีทถอหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่พี่หมอยอมกลับไปดีๆ เงยหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะหุบแทบไม่ทันเมื่อเจอสายตาจ้องเขม็งจากทุกคน

   “เล่ามา” นาวกับเลิฟประสานเสียงถามอย่างคาดคั้นส่วนปอก็เดินหนีไปอีกทางเพราะไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน

   “เรื่องมันยาว” พีทอ้อมแอ้มบอกเพื่อเสียงเบา

   “ยาวก็เล่ากูจะฟัง” นาวถลึงตาใส่แล้วดันพีทให้นั่งลงที่โต๊ะไม้

   “กูว่าเรื่องนี้มึงบอกพี่อาร์ตไว้หน่อยก็ดีนะ” ปอที่นั่งอยู่ไม่ไกลพูดขึ้นมาอย่างหวังดีเพราะรู้ความสัมพันธ์ของอาร์ตกับพีท

   “ทำไมต้องบอกพี่อาร์ตอ่ะ” เลิฟมองหน้าปอกับพีทสลับกันไปมาซึ่งไม่ต่างจากนาวเท่าไหร่

   “เสือกเรื่องของผัวเมีย” ปอว่าเลิฟดุๆแต่แทนที่จะเป็นเลิฟที่กลัวกลับเป็นพีทที่นั่งหน้าซีดเหงื่อตกแทน

   “ผัวเมีย!!” นาวกับเลิฟประสานเสียงดังลั่นมองพีทอย่างเหลือเชื่อ ขนาดนาวที่พอจะรู้อะไรมาบ้างยังอดตกใจไม่ได้

   “คือ...” พีททำตาล่อกแล่กสมองพยายามหาข้อแก้ตัวที่น่าเชื่อถือ

   “เล่า!!!” นาวกับเลิฟประสานเสียงและจ้องพีทอย่างคาดคั้น
 
   ‘วันซวยอะไรวะเนี่ย’ พีทได้แต่โอดครวญในใจและนั่งคอตกอย่างยอมรับชะตากรรม วันนี้เขาคงโดนเพื่อนซักฟอกจนซีดทั้งตัวแน่ๆ พี่ปอนะพี่ปออุตส่าห์นึกขอบคุณที่โผล่มาช่วยทันเวลาดันทะลึ่งพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าไม่ติดว่ากลัวโดนสวนกลับมาปางตายจะลุกไปชกให้เบ้าตาเขียวสักที

   
2 Be Con...
++++++++++
ตอนนี้แลดูป่วงๆ
พี่หมอมันมีบทนะช่วงแรกๆมาเป็นผีไปก่อน
บทค่อนข้างสำคัญด้วย รอลุ้นกันไป
ที่เดากันว่ามันเป็นใครก็ตามนั้นแหละ
รักคนอ่านจ้า ^^
[/color]

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
นึกเห็นใจนาวขึ้นมาซะแล้ว ต่อจากน้องเลิฟก็พีท
กว่าจะลงเอยกันได้ก็ต้องมีเรื่องมาทดสอบกันสักหน่อย
พี่หมอคนนี้ท่าทางจะมาป่วนอีกยาว มีเบื้องลึกเบื้องหลังกันมาก่อนด้วย
ทางที่ดีทำตามคำแนะนำของพี่ปอดีกว่าจ้ะน้องพีท
เชื่อพี่ปอสิ พี่ปอรู้ดี โชกโชนขนาดนี้  :laugh:
ตอนนี้ทำให้รู้ว่าพี่อาร์ตไม่ได้เถื่อนเป็นอย่างเดียวนะ :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
ป.ล. ไม่ว่าเรื่องของตัวเองหรือของเพื่อนน้องเลิฟก็น่าเอ็นดูเสมอ



ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
โอ๊ยยย น้องเลิฟ หนูแมนมาก ถถถถถ
อิพี่หมอ ท่าจะมาป่วนมิใช่น้อย
อิปอนี่ก็นะ จุดประเด็น เค้ารู้หมดว่าน้องพีทกะอิพี่อาร์ตไปถึงไหนๆแล้ว กร๊ากกกก :laugh3:

รอตอนต่อไปค่ะ :katai2-1:

ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยได้สิงเล้า มาเจอเรื่องนี้คือลงไปแล้ว 15 ตอน เลยได้อ่านรวดเดียวเลยค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loukmoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น่ารักอะ  อ่านเพลินเลย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้

กัดครั้งที่

- 16 -

 

 

            อาร์ตเดินผิวปากอย่างคนอารมณ์ดีตรงไปที่โรงฝึกทางด้านหลังคณะ ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาก็เห็นว่าใกล้ได้เวลานัดกับเด็กดื้อของตัวเองแล้ว ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์ขาดๆจึงรีบเดินไปยังจุดนัดหมาย

 

            "ดีพี่" อาร์ตส่งเสียงทักทายรุ่นพี่ของตัวเองแล้วเดินเข้าไปหาลูกสาวสุดรัก ที่เอามาจอดทิ้งไว้ให้รุ่นน้องซ่อมให้ตั้งแต่วันเกิดเรื่อง

 

            "ค่าซ่อมเท่าไหร่วะ" อาร์ตเดินวนรอบรถและสำรวจจนทั่วอย่างหาจุดตกหล่น

 

            "ไม่เป็นไรพี่ แต่ขอเหอะเลิกเอามาให้ผมซ่อมได้ป่ะ เรียนเครื่องกลไม่ได้เรียนช่างยนต์นะเว้ย" รุ่นน้องที่ชื่อวินบ่นกระปอดกระแปดให้อาร์ตด้วยความเซ็ง เพราะทุกครั้งที่รถของรุ่นพี่หน้าเทวดาแต่นิสัยปีศาจพังทีไร เขาจะต้องเป็นคนรับเคราะห์เป็นช่างซ่อมประจำตัวอีกฝ่ายทุกที

 

            "ก็ใครใช้ให้บ้านมึงเป็นร้านซ่อมวะ...พูดมากนะมึง" อาร์ตเดินมาตบหัววินด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเดินไปนั่งลงกับพวกกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ที่สนิทกัน

 

            "ได้ข่าวมึงกกเด็กจนเกงานเหรอวะ" กลอนหรี่ตามองอาร์ตอย่างจับผิด

 

            "เด็กมันน่ากก" อาร์ตยักคิ้วส่งให้กลอนกวนๆพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก

 

            "เรื่องจริง" อ้นที่นั่งฝั่งตรงข้ามถามขึ้นพร้อมกับมองอาร์ตอย่างเหลือเชื่อ

 

            "อะไรยังไงวะ กูก็นึกว่าพี่ตองแม่งอำ" อ้นซักต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตาเป็นประกายวิบวับ ก่อนจะแหกปากดังลั่นร้องโอดโอยออกมาเพราะโดนตบหัว

 

            ผัวะ!!

 

 

            "โอ๊ย!! พี่ตองแม่งหัวคนนะพี่ไม่ใช่ลูกเทนนิสตบซะเห็นดาว" อ้นโวยวายใส่ตองยกมือลูบหัวตัวเองไปมา

 

            "ลามปามนะมึง...แล้วตกลงยังไงวะ" ตองชี้นิ้วคาดโทษอ้นแล้วหันมาถามอาร์ตต่อ

 

            "ก็ไม่แล้วไงวะพี่" อาร์ตยักไหล่ให้แบบไม่ยีหระ

 

            "นี่กูชักงงกับมึงยังไงกันแน่วะ" กลอนขมวดคิ้วเป็นปมเพราะยิ่งถามยิ่งงง

 

            "ง่ายๆมึงได้น้องมันยัง" อ้นถามตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมเพราะไม่รู้จะเสียเวลาทำไม ในเมื่อที่นั่งกันหน้าสลอนอยู่ตรงนี้ก็แค่อยากรู้ว่าได้ไม่ได้แค่นั้น

 

 

            "หึ" อาร์ตไม่ตอบแต่กระตุกยิ้มและหัวเราะในลำคอ แค่นั้นก็ถือว่าตอบคำถามทุกคนได้เป็นอย่างดี

 

            "จริงจังเหรอวะคนนี้" ตองถามด้วยความสงสัย

 

 

            “นี่พี่เห็นผมเป็นคนยังไงวะ” อาร์ตส่ายหัวน้อยๆกับคำพูดของรุ่นพี่

 

            “คนเหี้ยๆคนนึง” ตองเองก็หันมาตอบกลับหน้าตายแถมด้วยการตบไหล่ให้กำลังใจเบาๆ

 

            “ก๊ากกกกกกกกกก พี่ตองแม่งตอบถูกใจว่ะมาจูบทีดิ” อ้นหัวเราะออกมาอย่าสะใจและหันไปทำปากจู๋ใส่ตองตามประสาคนกวน แต่ก็ต้องหน้าเหวอตาโตด้วยความตกใจเพราะโดนตองจูบกลับตามคำขอ

 

            “เฮ้ย!! เล่นไรวะพี่” อ้นยกหลังมือถูปากตัวเองจนแดงไปหมดพร้อมกับมองตองด้วยความระแวง

 

            “ก็มึงขอจูบ” ตองว่าหน้าตาย

 

            “พี่แม่งเข้าใจคำว่ามุกป่ะ...มุกอ่ะแม่ง!!” อ้อนโวยวายหน้างอมองตองด้วยความเคือง ส่วนตองเองก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจแล้วหันกลับมาหาอาร์ตซึ่งเจ้าตัวกำลังมองมาด้วยสายตาจับผิด

 

            “ของผมน่ะจริงจังแต่พี่ล่ะจริงจังรึเปล่า” อาร์ตสบตาตองอย่างรู้กัน

 

            “มึงหวงลูกสาวรึไง”ตองเองก็ยิ้มมุมปากตอบทีเล่นทีจริง

 

            “ผมมีลูกสาวกับเขาคนเดียวพี่ว่าควรหวงไหมล่ะ” อาร์ตเองก็ตอบยิ้มๆ

 

            “กูขอละกัน” คำขอของตองทำให้อาร์ตยกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะไม่คิดว่ารุ่นพี่คนสนิทจะขอกันตรงๆ ในเมื่ออีกฝ่ายทำตัวเงียบมานานและไม่เคยจะแสดงท่าทางอะไรเลย มันต้องมีอะไรแน่ๆที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจลุกแบบนี้

 

            “คุยอะไรกันวะ...แล้วมึงไปมีลูกสาวตอนไหน” อ้นถามขึ้นเพราะนั่งฟังมานานแต่ไม่รู้ว่าอาร์ตกับตองหมายถึงใคร

 

 

            “โง่ฉิบหาย” อาร์ตถอนหายใจออกมาและทำหน้าเอือมใส่ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

 

            “มึงนี่แม่งโง่” กลอนเอานิ้วจิ้มที่หัวอ้นแรงๆด้วยความหมั่นไส้

 

            “อะไรพวกมึงวะอยู่ดีๆมาว่ากู” อ้นทำหน้าเอ๋อมองเพื่อนสนิทด้วยความไม่เข้าใจ

 

            “อยากได้ก็เอาไปเหอะพี่ ถ้าจะให้ดีสอนให้มันฉลาดขึ้นด้วยนะ” อาร์ตหันมาบอกตองแล้วผลักหัวอ้นอีกทีด้วยความหมั่นไส้ สงสัยต้องรอให้เป็นเมียเขาก่อนมั้งถึงจะรู้ตัวโง่ฉิบหาย

 

 

            “เออๆกูมันโง่แต่เรื่องเด็กที่มึงไปกกยังไม่เคลียร์นะเว้ย” อ้นยอมรับแต่โดยดีเพราะรู้ว่าเถียงไปก็ไม่ชนะและตอนนี้อยากรู้เรื่องของเพื่อนมากกว่า

 

            “เออใช่...มึงเลิกจีบน้องเลิฟแล้วว่างั้น” กลอนเองก็ถามด้วยความสงสัยไม่แพ้กันพึ่งรู้ว่าจีบเด็กคนเดียวกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน จู่มาบอกว่าได้เด็กใหม่เล่นเอางงกันไปหมด

 

            “ผัวน้องมันเฝ้าขนาดนั้นมึงยังกล้าถามอีกเนาะ” อาร์ตมองเพื่อนด้วยความหน่ายก็เห็นเห็นกันถ้วนหน้าว่าน้องมันมีผัวแถมผัวน้องก็ไม่ใช่คนไกล ที่สำคัญเขาเลิกจีบน้องเลิฟตั้งแต่ก่อนจะรู้ว่าน้องมีเจ้าของซะอีกแค่ไม่ได้บอกใคร

 

 

            “ก็ใครจะไปรู้กูเห็นมึงอยากได้ใครมึงสนที่ไหน” กลอนว่าในสิ่งที่รับรู้เกี่ยวกับเพื่อมาโดยตลอด ไอ้อาร์ตมันชอบเอาหน้ากับรอยยิ้มเทวดาไปหลอกชาวบ้านพอได้มันก็ทิ้ง เลวได้โล่เลยล่ะนิสัยมัน

 

            “คนนี้รักจริงหวังแต่งเว้ย แต่น้องแม่งดื้อฉิบหาย” อาร์ตว่าแล้วก็อมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงหน้าเด็กดื้อของตัวเอง

 

            “เป็นเอามากนะมึงก็แม่งอยากเห็นหน้า” กลอนมองอาร์ตด้วยความไม่เชื่อสายตาอยากจะเห็นเด็กที่ว่านี่ใจจะขาด

 

            “เดี๋ยวได้เห็น” อาร์ตยักคิ้วส่งให้กวนๆแต่ไม่ยอมบอกว่าเด็กคนนั้นคือใคร ไว้ให้เห็นพร้อมกันตอนน้องมาหาเขา

 

            “กูเองก็อยากเห็นนะเด็กมึง” เสียงกวนประสาทที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้อาร์ตหันกลับไปมอง ก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

 

            “หวัดดีพี่ตอง” คนมาใหม่ยกมือไหว้ตองและหันมาจ้องอาร์ตกวนๆ

 

            “เออ...แล้วทำไมมึงโผล่มาแถวนี้วะชาติ” ตองก็รับไหว้รุ่นน้องและชวนคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศเสียไปมากกว่านี้ เพราะรู้กันดีว่าชาติไม่ลงรอยกันกับกลุ่มอาร์ตโดยเฉพาะกับตัวอาร์ตเอง

 

 

            สาเหตุคงมาจากที่ไอ้ฮิมเพื่อนเขาเอาตำแหน่งบอสวิศวะให้ไอ้อาร์ตแทนที่จะเป็นไอ้ชาติซึ่งเป็นรุ่นพี่ แต่เขาคิดว่านอกจากเรื่องนี้น่าจะมีอะไรมากกว่านั้นเพราะดูไอ้ชาติจะเกลียดไอ้อาร์ตเข้าเส้น และตัวไอ้อาร์ตเองก็พยายามเลี่ยงปะทะกับชาติตลอด

 

            “มาเดินเล่นน่ะพี่ แต่ดันมาได้ยินอะไรน่าสนใจ” ชาติว่าแต่จ้องอาร์ตไม่วางตา

 

            “กวนตีน” อ้นพึมพำออกมาด้วยความหมั่นไส้

 

            “มึงว่าอะไรนะ” ชาติหันไปถามอ้นเสียงแข็งแต่เจ้าตัวลอยหน้าลอยตาทำหูทวนลมใส่

 

            “ขอโทษแทนเพื่อนผมละกันพี่ที่มันปากไม่ดี” อาร์ตเอ่ยปากขอโทษแทนเพื่อนเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราวอะไร

 

 

            “หึ...บอกเพื่อนมึงอย่าให้มันบ่อยละกัน” ชาติว่าแล้วหรี่ตามองอาร์ต

 

            “มึงมีแฟนเหรอวะ” ชาติถามด้วยท่าทางเรื่อยๆแต่อาร์ตออกอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

 

            “กูหวังว่ามึงจะจำที่มึงทำได้นะ...มันไม่จบง่ายๆแค่เวลาผ่านไปแน่” ชาติทิ้งท้ายแค่นั้นแล้วเดินจากไป ส่วนอาร์ตได้แต่มองตามหลังด้วยความไม่สบายใจ

 

            “โรคจิตฉิบหายเรื่องแม่งผ่านมาเป็นชาติเสือกขุดมาพูดไม่เลิก” อ้นออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจและตวัดตามองอาร์ตเหวี่ยงๆ

 

            “มึงก็เหมือนกันแม่ง!! ยอมเหี้ยอะไรนักหนาวะ” อ้นโวยวายใส่อาร์ตด้วยความโมโหที่เพื่อเอาแต่ยอมไม่เคยโต้ตอบอะไรเลย

 

            “ช่างเขาเหอะก็กูผิดจริง” อาร์ตว่ายิ้มๆแต่ในใจก็เครียดไม่น้อย

 

            “งั้นมึงก็รับผิดไปเหอะ” อ้นถลึงตาใส่และสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

 

            “กูว่าจะถามหลายทีละมึงมีเรื่องอะไรกันมาวะ” ตองถามด้วยความอยากรู้

 

            “เรื่องของพระเอกควายๆกับตัวร้ายปัญญาอ่อน” อ้นหันมากระแทกเสียงตอบแทนอาร์ตเพราะยังหงุดหงิด แต่ทำเอาตองหลุดขำกับท่าทางน่ารักๆของเจ้าตัว

 

            “ตามที่มันว่าแหละพี่” อาร์ตพูดตัดบทส่วนตองก็ไม่ถามต่อเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากเล่า

 

 

            “พี่อาร์ต!! มีคนมาหา” เสียงของรุ่นน้องตะโกนบอกมาจากอีกฟากพร้อมกับทุกสายตาที่หันไปมองตาม สิ่งที่ทุกคนเห็นคือใบหน้าน่ารักของเด็กผู้ชายคนนึงและอาร์ตที่ยิ้มร่าลุกเดินไปหา


            “ช้านะน้องพีท” อาร์ตแกล้งทำเสียงดุใส่พีทเรียกใบหน้างอง้ำจากอีกฝ่ายได้ทันที



            “งั้นกลับแล้วแม่ง” พีทว่าเสียงเหวี่ยงสะบัดหน้าหันไปอีกทางเตรียมเดินหนี



            “เอ้า...งอนอีกแล้ว” อาร์ตรีบคว้าแขนพีทเอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัว ส่วนพีทก็แอบอมยิ้มด้วยความชอบใจ จริงๆเจ้าตัวก็แกล้งงอนไปแบบนั้นเองเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงอาร์ตก็ต้องง้อ



            “นี่น้องพีทแกล้งงอนพี่ใช่ไหม” อาร์ตหรี่ตามองอย่างจับผิดเพราะเมื่อกี้เหมือนจะเห็นเด็กดื้อแอบยิ้ม



            "ใครแกล้ง" พีทรีบเงยหน้ามองถลึงตาใส่ทำท่าทางขึงขังกลบเกลื่อนจนอาร์ตหลุดหัวเราะออกมา



            "แน่ใจ" อาร์ตถามย้ำพีทเลยพยักหน้าหงึกงักรับ



            ฟอดดดดดด



          เพี๊ยะ!!!




            ภาพที่อาร์ตก้มลงหอมแก้มพีทและภาพที่พีทฟาดมือลงบนหน้าอาร์ต รวมทั้งเสียงดังก้องของเนื้อกระทบเนื้อทำให้ทุกคนตรงนั้นมองมาที่ทั้งคู่ด้วยความตะลึง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่มีใครตั้งตัวทัน



            เกิดความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณทันทีพร้อมกับคนอื่นๆที่มองมา ทางพีทด้วยความเป็นห่วง และมองอาร์ตที่ยืนนิ่งสนิทอย่างลุ้นในปฏิกิริยาที่อาร์ตจะแสดงออกมา เพราะถึงจะเดาๆกันได้ว่าพีทคือเด็กคนที่ว่าของอาร์ต แต่ไม่รู้ว่าสำคัญขนาดที่ตบอาร์ตแล้วจะไม่โดนสวนรึเปล่า



            อาร์ตยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองแล้วหันมาสบตากับพีทที่ยืนหน้าซีด ตาเบิกกว้างมองมือตัวเองสลับกับหน้าอาร์ตเลิ่กลักด้วยความตกใจ



            "ไอ้....." กลอนที่ตั้งใจจะห้ามเพื่อนเพราะเห็นท่าทางทางแปลกๆ ก่อนจะหยุดชะงักและกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง



            "เจ็บไหมวะ" พีทมองแก้มแดงเถือกของอาร์ตแหยๆแล้วเอื้อมมือไปแตะ



            "หูยยย เจ็บดิมือไม่ใช่เบาตบมาได้" อาร์ตใช้ลิ้นดุนแก้มตัวเองใช้สายตามองพีทอย่างตัดพ้อ



            "ก็ใครใช้ให้หอมเล่า" พีททุบลงไปบนอกอาร์ตอีกทีด้วยความหมั่นไส้ เล่นหอมลงมาแบบนั้นคนเยอะแยะไม่ตกใจจนชกก็ดีแค่ไหนละ



            "ก็ใครใช้ให้น่ารักล่ะ" อาร์ตเถียงพร้อมตีมึนใส่ เรียกใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อจากพีททันที



            กลอนที่ยืนมองอาร์ตก้อร้อก้อติกเด็กรุ่นน้องที่พึ่งนึกออกว่าคือเพื่อนในกลุ่มเลิฟ ส่ายหัวไปมาด้วยความหน่ายกับอาการหน้าเป็นภาชนะของเพื่อน ก่อนจะหันไปสบตาอ้นที่ออกอาการเอือมระอาไม่แพ้กัน แล้วทรุดตัวลงนั่งเลิกสนใจปล่อยให้อาร์ตขายขนมจีบไป




            "ไปนั่งกับเพื่อนพี่ปะ" อาร์ตจับมือพีทแล้วออกแรงดึงให้เดินตาม ซึ่งเจ้าตัวก็ส่ายหน้าปฏิเสธจนผมกระจายแถมยังขืนตัวเอาไว้ แต่สุดท้ายก็แพ้แรงต้องเดินตามไปในที่สุด




            "นั่งตรงนี้" อาร์ตดันตัวพีทให้นั่งลงตรงที่ว่างส่วยตัวเองก็ขยับลงมานั่งข้างๆ เอื้อมมือไปกอดเอวบางไว้หลวมๆจนคนอื่นๆที่นั่งร่วมโต๊ะอมยิ้มไปตามๆกัน



            พีทถึงกับสะดุ้งออกอาการเก้อเขินกับสายตาทุกคนที่มองมา หยิกลงไปที่แขนอาร์ตแรงๆเพื่อให้ปล่อยแต่ยิ่งหยิกอาร์ตยิ่งกอดแน่น จนสุดท้ายพีทต้องยอมแพ้และหันไปถลึงตาใส่อาร์ตด้วยความเคือง



            "ชื่อพีทใช่ไหม" อ้นทักทายพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร ส่วนพีทมองอ้นด้วยความแปลกใจ



            "พี่รู้จักผมด้วยเหรอ" พีทชี้นิ้วเข้าหาตัวเองและถามไม่คิดว่ารุ่นพี่จะรู้จัก เพราะเขาเองก็ไม่เคยคุยด้วยอาจจะเคยเห็นหน้าบ้าง ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะก๋วนเดียวกันกับที่มาขายขนมจีบเพื่อนเขา พี่หน้าโฉดที่นั่งข้างๆกันก็ใช่ยกเว้นคนหน้าตายนะเขาไม่เคยเห็น



            "มันรู้จักเราเพราะจีบน้องเลิฟน่ะ" อาร์ตก้มบอกข้างหูพีทเลยพยักหน้าหงึกงักรับรู้ ก่อนที่คิ้วจะขมวดเป็นปมเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก



            "พี่มึงก็ด้วยเหมือนกันแหละ" พีทว่าเสียงแข็งและสะบัดหน้าหนีด้วยความหมั่นไส้ ทำมาว่าคนอื่นตัวเองก็จีบไอ้เลิฟเหมือนกันเหอะ



            "อ้าว...ซวยเลยกู" อาร์ตทำหน้าเหวอยกมือเกาหัวตัวเองสบตากับเพื่อนที่มองมาอย่างสมน้ำหน้า ก่อนจะหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของพีทอย่างอ่อนใจ



            "สมน้ำหน้า" อ้นเยาะเย้ยออกมาอย่างสะใจ



            "สัส" อาร์ตแยกเขี้ยวใส่อ้นใจอยากจะดึงเพื่อนมาตบกะโหลก แต่เกรงใจว่าที่ผัวเพื่อนอย่างพี่ตองเลยต้องยิ่งไว้



            "แล้วน้องเป็นอะไรกับเพื่อนพี่ครับ" กลอนถามพีทอย่างตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม ทำเอาพีทหันมามองด้วยความเร็วจนคอแทบหัก ก่อนจะเอ่ยปากตอบทันควัน



            "รุ่นน้องครับ" พีทตอบเสียงดังฟังชัดท่าทางขึงขังแล้วหันมาทำตาดุใส่อาร์ต ออกอาการร้อนรนอย่างเห็นได้ชัดเพราะไม่รู้ว่าอาร์ตพูดอะไรไปบ้าง อีกฝ่ายถึงได้มาถามและทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่เขาแบบนี้



            "รุ่นน้อง" กลอนทวนคำพูดของพีทแล้วหรี่ตามองซึ่งพีทก็ก้มหน้าหลบทันที ก่อนจะหันไปหาอาร์ตเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม



            "ตามใจเขารุ่นพี่...รุ่นน้อง" อาร์ตชี้นิ้วที่ตัวเองแล้วชี้ไปทางพีทพร้อมกับยักคิ้วกวนๆส่งให้เพื่อน



            "ไอ้พี่อาร์ตไปกันได้ยัง" พีทดึงเสื้ออาร์ตแล้วเร่งอีกฝ่ายเพราะไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้นาน มันทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะทำหน้ายังไงในเมื่อพวกรุ่นเอาแต่มองมาที่เขา แถมแต่ละคนยังส่งสายตาล้อเลียนมาให้อีก



            "จะรีบไปไหนล่ะอยู่คุยกับพวกพี่ก่อน" อ้นพูดดักคอขึ้นมาพร้อมกับย้ายตัวเองมานั่งข้างๆพีท ส่วนพีทก็เขยิบตัวหนีจนตัวเบียดกับอาร์ตมองอ้นด้วยความระแวง



            "ดูๆดีเราก็น่ารักนะเนี่ย" อ้นเอื้อมมือมาลูบแก้มพีทพร้อมทำตากรุ้มกริ้มใส่




            เพี๊ยะ!!!




            พีทปัดมืออ้นออกจากแก้มตัวเองแล้วกระเถิบถอยห่างกว่าเดิม จนแทบจะนั่งเกยตักอาร์ตส่งสายตาขู่อ้นไม่ให้เข้าใกล้ จนตัวอ้นหลุดขำออกมาแม้แต่อาร์ตเองก็ยังขำ ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่คิดจะห้ามเพื่อนที่กำลังแกล้งพีทอยู่



            "มีแฟนรึยังครับ...พี่จีบได้ไหม" อ้นรุกต่อด้วยความสนุกส่วนพีทนี่หน้าบึ้งแสดงออกชัดว่าไม่พอใจ



            "ไม่ให้จีบ" พีทตอบเสียงแข็งและถลึงตาใส่อ้น



            "แฟนไม่มีก็ให้เขาจีบไปสิ" อาร์ตกระซิบที่ข้างหูพีทผสมโรงช่วยเพื่อนแกล้งอีกฝ่ายอย่างนึกสนุก พีทที่ได้ยินแบบนั้นหันกลับมาหาอาร์ตแล้วมองด้วยสายตาตัดพ้อ ก่อนจะขยับถอยห่างทำท่าจะลุกขึ้นยืน



            อาร์ตที่เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของพีทก็รีบคว้าแขนเจ้าตัวเอาไว้ ใช้แรงที่มากกว่าบังคับพีทที่พยายามสะบัดแขนออกให้นั่งนิ่งๆ เพราะรู้ว่าตัวเองแกล้งอีกฝ่ายแรงไป



            ด้านพีทที่โดนดึงไว้หันกลับมาสบสายตาอ้อนวอนของอาร์ตก็ใจอ่อน ยอมนั่งลงตามที่อีกฝ่ายต้องการแต่ไม่พูดอะไรเพราะยังน้อยใจอยู่ ทั้งๆที่อาร์ตพูดออกมาคือเรื่องจริงเขาไม่มีแฟน และไม่ได้เป็นอะไรกับอีกคนจะโดนพูดใส่แบบนั้นก็ไม่แปลก แต่ไม่รู้ทำต้องเสียใจขนาดนี้เหมือนกัน



            "กลับไปนั่งที่เดิมไป" อาร์ตไล่อ้นเสียงเรียบไม่เหลือแววขี้เล่น ตัวอ้นเองก็ได้แต่ยิ้มแหยไม่กล้าเล่นต่อเหมือนกัน



            "กลับกัน...กูกลับก่อนนะ" อาร์ตบอกพีทและหันไปลาเพื่อนและรุ่นพี่ ก่อนดึงพีทให้ลุกขึ้นตามแล้วจูงไปที่รถ



            "อ้าว...กลับแล้วเหรอเฮีย" วินที่นั่งเฝ้ารถให้อาร์ตอยู่ถามด้วยความแปลกใจ ตาก็เหลือบมองพีทที่ยืนอยู่อยู่ด้านหลังไปด้วย



            "ใครวะเฮีย" วินลากอาร์ตให้ห่างออกมาแล้วกระซิบกระซาบถาม ตาก็มองพีทอย่างสนใจ



            "ซ้อมึง" อาร์ตตอบกลับเสียงเบาเพราะไม่อยากให้พีทได้ยิน



            "จริง!!" วินถามเสียงหลงมองพีทตาโต



            "เออ" อาร์ตตบหัววินไปทีด้วยความหมั่นไส้



            "งั้นต้องฝากตัว" วินว่าและตั้งท่าจะเข้าไปแนะนำตัวกับพีท จนอาร์ตคว้าคอเสื้อเอาไว้แทบไม่ทัน



            "ไม่ต้อง" อาร์ตว่าและตบหัววินซ้ำข้อหารู้มากไม่ถูกเวลา



            "อ้าว...ไมอ่ะเฮีย" วินทำหน้างงใส่มือก็ลูบหัวไปด้วย



            "งอนกูอยู่" อาร์ตว่าแล้วทำหน้าหนักใจ



            "อ้อ" วินพยักหน้าหงึกงักเข้าใจแล้วหันไปส่งยิ้มให้ซ้อตัวเอง เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เฮียอาร์ตควงผู้ชายเพราะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าเฮียแกได้ทั้งชายและหญิงแต่หนักไปทางชายซะส่วนมาก แกบอกผู้ชายมันไม่ท้องสบายกว่าเอากับผู้หญิง ถ้าอะไรที่ทำให้ตกใจคือเรื่องที่เฮียบอกผู้ชายหน้าอ่อนข้างหลังเป็นซ้อต่างหาก เฮียไม่เคยแนะนำใครแบบนี้เลยนะไอ้วินละอะเมซิ่ง



            "วันหลังถ้าเจอซ้อมึงที่ไหนก็ฝากดูด้วยละกัน" อาร์ตว่าวินเองก็พยักหน้ารับคำสั่ง



            "กูไปละ" อาร์ตตบไหล่วินเบาๆก่อนจะเข็นรถดลับมาหาพีทที่ยืนรออยู่



            "กลับกัน" อาร์ตออกปากชวนแล้วเข็นรถเดินนำออกไปให้ห่างจากที่เดิม ระหว่างทางก็เหลือบมองพีทเป็นระยะก่อนจะจอดรถไว้ข้างทางใต้ต้นไม้ เมื่อเห็นว่าห่างออกมาจากจุดเดิมพอสมควร



            "กินอะไรมารึยัง" อาร์ตเดินไปจูงมือพีทมาที่รถก่อนตัวเองจะเป็นฝ่ายนั่งลงบนเบาะ แล้วดึงพีทให้มายืนระหว่างขาทั้งสองข้างกอดเอวบางไว้หลวมๆ



            พีทส่ายหัวน้อยๆตอบอาร์ตมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าหงอยๆ แค่ประโยคพูดเล่นของอาร์ตซึ่งมันไม่มีอะไรแท้ๆ แต่ทำเอาเจ็บจี๊ดที่ใจไม่น้อย



            "หาอะไรกินก่อนไหม" อาร์ตถามเสียงอ่อนโยนยกมือลูบแก้มใสเบาๆ



            "ไม่หิว" พีทว่าเสียงอ่อยหน้าหงอย ความอยากอาหารที่มีในตอนแรกหายเกลี้ยง



            "งั้นไปไหนไหม" อาร์ตเอ่ยปากชวนหวังจะให้บรรยากาศดีขึ้น ยอมรับว่าเจอโหมดนี้ของเด็กดื้อเข้าไปเขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ปกติเวลาไม่พอใจก็โวยวายใส่ตลอดเป็นแบบนี้เล่นเอาเขาใจแกว่ง



            "ไม่เอา...อยากกลับบ้าน" พีทส่ายหัวปฏิเสธท่าทางเซื่องซึมไม่เลิก จนอาร์ตต้องถอนหายใจออกมา



            "พีทครับ" อาร์ตจับหน้าอีกฝ่ายให้หันมาสบตากันตรงๆ



            "พี่ขอโทษนะที่ปากไม่ดี...สัญญาจะไม่พูดแบบนั้นอีก" อาร์ตพูดพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าอีกฝ่าย พีทมองการกระทำของอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้จริงๆว่าอาร์ตจะสื่ออะไร



            "ยกโทษให้พี่นะครับ...สัญญาจะพูดอีก...นะ" อาร์ตทำเสียงอ้อนแล้วแกว่งนิ้วก้อยไปมาตรงหน้าพีท




            "อือ" พีทยกนิ้วก้อยตัวเองมาเกี่ยวกับอาร์ตและตอบรับในลำคอแผ่วเบา หัวใจมันอุ่นซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด



            "โอเค...งั้นเรากลับกัน" อาร์ตหยิบหมวกกันน็อกมาสวมให้พีทแล้วหันไปคร่อมลงบนรถ ตบมือลงที่เบาะด้านหลังแปะๆ



            พีทขยับขึ้นไปนั่งตามอย่างว่าง่าย พอนั่งแล้วก็เอนไปพิงหลังอาร์ตทั้งตัว ก่อนจะเริ่มใช้หัวโขกลงไปที่หลังอีกฝ่ายเบาๆ



            อาร์ตที่โดนทำแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวหน่ายๆหันมามองพีทด้วยความเอ็นดูเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปสตาร์ทรถแล้วขับพาเด็กดื้อออกจากมหา'ลัยไป



2 Be Con...



++++++++++

เปิดตัวซ้ออย่างสมบูรณ์

รู้สึกเลี่ยนกับไอ้คู่นี้

อะไรมันจะหวานกันขนาดนั้น

เฮียอาร์ตนี่จัดเป็นผู้ชายขี้อ่อย ขี้อ้อน ขี้เอ.... 555

รักคนอ่านคับ ^^

ปล.

- ตอนหน้าเตรียมผ้าเช็ดหน้า

- ใครอยากสู่ขอเฮียสิ้นเดือนเตรียมตัว


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เตรียมผ้าเช็ดหน้าซับเลือดหรือซับน้ำตาหว่าาาาา

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 17 -



            พีทแหงนมองตึกสูงไม่มากสภาพกลางเก่ากลางใหม่ด้วยความฉงน ก่อนจะละสายตาจากตึกแล้วหันไปมองอาร์ตที่กำลังล็อครถอยู่ข้างๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายพามาที่นี่ทำไมในเมื่อบอกจะพาเขากลับบ้าน



            “ป่ะ” หลังจากจัดการรถตัวเองเสร็จเรียบร้อยอาร์ตก็หันมาส่งยิ้มให้พีท แล้วคว้าไปที่ข้อมือเล็กจากนั้นก็จูงอีกฝ่ายเข้าไปในตัวตึก



“ไปไหน” พีทถามด้วยน้ำเสียงเนือยๆท่าทางยังคงหงอยเหมือนเดิม ถึงอาร์ตจะพูดแบบนั้นมาแล้วแต่คนพอได้นอยด์แล้วมันเลยยาว



“ห้องพี่ไง” อาร์ตหันมาตอบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม



“ไม่ไป” พีทหยุดเดินแล้วขืนตัวเองเอาไว้



“ไปเหอะนี่ไม่ใช่จะพาใครเข้าห้องง่ายๆนะ” อาร์ตว่าแล้วออกแรงดึงพีทให้เดินต่อ



“ไม่เอาไหนพี่บอกจะพากลับบ้านไง” พีทท้วงหน้างอง้ำอย่างขัดใจตอนนี่อยู่ในสาภสวะที่อยากจะงี่เง่าเป็นที่สุด



“พี่ไม่ได้โกหกนิ…กลับบ้านไง…บ้านพี่” อาร์ตทำหน้าทะเล้นใส่อย่างกวนโอ๊ยจนพีทที่ยืนหน้างอเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงแทน



“เอาน่า…มาเที่ยวไง” อาร์ตยกมือขยี้หัวพีทเบาๆพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆ จนพีทเผลอพยักหน้าลงตามใจอีกฝ่ายอย่างลืมตัว



“งั้นปะ” อาร์ตยิ้มกว้างน้ำเสียงร่าเริงแล้วจูงมือพีทไปขึ้นลิฟต์ที่อยู่ข้างหน้า



ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์อาร์ตแตะนู้นแตะนี้ตามตัวพีทจนเจ้าตัวรำคาญต้องไปถลึงตาใส่เป็นระยะ แต่พอถลึงตาใส่นอกจากอาร์ตจะไม่กลัวยังเข้ามานัวเนียยิ่งกว่าเก่า และตอนนี้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พีทเพื่อหอมแก้ม ซึ่งพีทต้องใช้ฝ่ามือดันหน้าเอาไว้อย่างสุดชีวิต



“อุ้ย…” เสียงร้องเบาด้วยความตกใจทำให้พีทกับอาร์ตที่ยื้อยุดกันอยู่ ผละออกจากกันอัตโนมัติแล้วหันไปมองทางเสียงพร้อมกัน ก็เจอหญิงสาวคนหนึ่งยืนมองมาที่พวกเขาจากด้านนอกลิฟต์ด้วยสายตาตกตะลึง



บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนเป็นกระอักกระอวนขึ้นทันที พีทได้แต่หน้าแดงซ่านส่งยิ้มแหยๆให้สาวเจ้า ซึ่งฝ่ายนั้นก็ส่งยิ้มตอบกลับด้วยใบหน้าจืดเจื่อนไม่แพ้กัน ก่อนที่พีทจะก้มต่ำมองพื้นด้วยความอาย ไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งนั้น แตกต่างจากอาร์ตที่ยืนหน้าตายไม่สะทกสะท้านต่ออะไรเลย



“ขอตัวนะครับ” อาร์ตพูดทำลายความเงียบและเอื้อมไปจับมือพีทเอาไว้ เพราะมัวแต่หยอกเด็กดื้ออยู่เลยไม่รู้ตัวว่าลิฟต์ถึงชั้นของห้องพักตัวเองแล้ว



“คะ…ค่ะ” หญิงสาวตอบรับตะกุกตะกักแล้วขยับเบี่ยงตัวหลบให้ทั้งคู่ จังหวะที่เดินสวนออกมาอาร์ตก็ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ แล้วตั้งหน้าตั้งตาจูงพีทกลับห้องทิ้งให้อีกฝ่ายตาพร่าไปกับรอยยิ้มเทวดาของเจ้าตัว



“รับรองว่าพีทจะชอบห้องพี่” อาร์ตบอกด้วยความมั่นใจจนพีทเกิดอาการหมั่นไส้ แค่ห้องพักในหอพักนักศึกษาธรรมดามันจะมีอะไรให้ตื่นเต้น



แกร๊ก!!



“เชิญครับคุณหนู” อาร์ตผลักประตูห้องเปิดออกกว้างแล้วค้อมตัวลงผายมือให้พีทเดินเข้าไปในห้อง



พีทหรี่ตามองท่าทางโอเวอร์ของอาร์ตแล้วเบะปากออกด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในตามคำชวนในใจก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่ามันมีอะไรให้เขาต้องชอบก็แค่ห้องพักธรรมดาๆ



แล้วพีทก็ได้คำตอบเมื่อเห็นภายในห้อง แววตาที่มองอาร์ตด้วยความเอือมระอาเปลี่ยนเป็นประกายระยิบระยับ ใบหน้าเหงาหงอยก่อนนั้นเปลี่ยนเป็นใบหน้ามีความสุขทันที



“อารมณ์ดีขึ้นรึยัง” อาร์ตเดินมากอดเอวพีทจากทางด้านหลังแล้วก้มลงถามชิดใบหู



ส่วนพีทเองไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะเอาแต่สนใจในสิ่งที่ตัวเองเห็น ก่อนจะแกะมืออาร์ตออกแล้วสาวเท้าเข้าไปหาบรรดาของสะสมและตุ๊กตาคิตตี้ที่อยู่ข้างหน้า เขาเคยบอกใช่ไหมว่าชอบคิตตี้เจอแบบนี้มันฟินที่สุด



พีทเดินหยิบคิตตี้ตัวนั้นตัวนี้ขึ้นมาดูอย่างสนุกสนาน บางตัวก็เป็นคอลเล็คชั่นหายากที่เขาอยากได้แต่ซื้อไม่ทัน แล้วไปหยุดอยู่ที่กล่องดนตรีแบบสโนว์บอล มีคิตตี้ในชุดแซนตี้กับผองเพื่อนซานริโอ้อยู่ด้านใน ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอย่างสนใจและมีความอยากได้



“อยากได้เหรอ” อาร์ตที่ยืนมองอยู่นานเดินมากอดเอวแล้วก้มลงถาม ซึ่งพีทก็พยักหน้ารัวๆมือก็หมุนสโนบอลไปมา



“ไหนลองอ้อนดิ๊แล้วจะให้” อาร์ตยักคิ้วกวนประสาทใส่พีทแล้วไปนั่งลงบนเตียง โดยดึงอีกฝ่ายลงมานั่งบนตักตัวเองด้วย



“ไม่เอาก็ได้เหอะ” พีทหันมามองค้อนอาร์ตแล้วกลับไปสนใจของในมือต่อ แล้วหมุนใต้ฐานของสโนว์บอลจนเหิดเสียงดนตรีขึ้น



ฟอดดดดดด



“อ้อนหน่อยก็ไม่ได้…อุตส่าห์พามาห้องคนแรกเลยนะ” อาร์ตก้มลงหอมและแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ตาก็มองพีทด้วยความเอ็นดู เขาเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าหงอยไม่เลิกเลยตั้งใจพามาห้อง คิดว่าถ้าเจ้าตัวได้เห็นในสิ่งที่ชอบคงอารมณ์ดีขึ้นซึ่งก็ได้ผลจริงๆ ต้องขอบคุณตัวเองที่สะสมตุ๊กตาแต๋วแตกนี่ไว้พอดี ต่อไปนี้คงมีเหตุผลอีกอย่างที่จะสะสมมันต่อไป



“พี่อาร์ตชอบคิตตี้เหรอ” พีทถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะดูจากลักษณะภายนอกของอาร์ตไม่น่าจะสะสมอะไรแบบนี้ แต่คิดไปคิดมาการที่อีกฝ่ายขับรถสีชมพูไปไหนมาไหนก็คงไม่แปลก อีกอย่างไอ้พี่อาร์ตนี่ศูนย์รวมความแปลกเลยนะ




“เปล่าหรอกไม่ได้ชอบ แต่พอได้ซื้อไปๆมาๆเลยเต็มห้องเลยทีนี้…ว่าแต่พีทเถอะท่าทางจะชอบนะที่ห้องพี่ก็เห็นเรามีเต็มไปหมด” อาร์ตตอบตามความจริงเขาไม่ได้ชอบคิตตี้ไม่ได้ชอบสีชมพูแค่มันมีผลทางใจเท่านั้น เลยทำให้สะสมกันมาเรื่อยๆรู้อีกทีเต็มห้องไปหมด



“อือ…จำไม่ได้ว่าเริ่มชอบตอนไหนแต่ชอบ” พีทหมุนดนตรีสโนว์บอลอีกครั้งแสดงความอยากได้อย่างจริงจัง จนไม่ได้สนอาร์ตที่เอาแต่นัวเนียหาเศษหาเลยตัวเองเลยสักนิด



“พี่คุ้นหน้าพีทจริงๆนะ” จู่ๆอาร์ตก็พูดขึ้นมาหลังจากจ้องพีทมานาน เขาเคยบอกใช่ไหมว่าคุ้นแต่แค่จำไม่ได้ว่าเจอกันที่ไหน



“มุกจีบสาวเหรอ” พีทหันมายิ้มขำให้เพราะคิดว่าอาร์ตหยอดตัวเองอีกแล้ว



“จริงๆคุ้นแต่นึกไม่ออก” อาร์ตขมวดคิ้วยุ่งและจ้องพีทเขม็งเหมือนใช้ความคิด



“สงสัยหน้าโหลมั้ง” พีทว่าอย่างไม่ใส่ใจแล้วไปสนของในมือต่อ



“คิตตี้ในห้องอยากได้ตัวไหนพี่ให้น้องพีทเลยนะ แถมตัวกับหัวใจเจ้าของมันด้วย” อาร์ตยิ้มทะเล้นใส่พีท แต่ทำเอาเจ้าตัวชะงักนิ่งตามมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ



“คิตตี้น่ะเอาแต่หัวใจกับตัวเจ้าของไม่เอาหรอก...ไม่รู้จะเอาไปทำไม” พีทอ้อมแอ้มตอบออกไปใจก็เต้นระรัวเพราะเขิน



“นี่เห็นคิตตี้ดีกว่าพี่เหรอแบบนี่ต้องเอาไปเผาทิ้ง” อาร์ตแกล้งทำเสียงขึงขังใส่และแย่งขิงออกจากมือพีท



“เฮ้ย!! นี่พี่มึงจริงจังป่ะ เอาคืนมา” พีทโวยวายแล้วรีบแย่งของในมืออาร์ตกลับมา ก่อนจะกอดเอาไว้อย่างหวงแหนเหมือนว่าเป็นของตัวเอง



“หวงจังนะถ้ามีคนขอจะให้เขาไหมเนี่ย” อาร์ตส่ายหัวและมองพีทด้วยความขำ



“ไม่ให้!!” พีทเองก็ตอบทันควันก่อนจะชะงักเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก



“แต่ก็เคยให้นะ” คำพูดต่อมาของพีททำเอาอาร์ตต้องก้มมองด้วยความสนใจ



“ตอนม.ต้นเคยให้พวงกุญแจคิตตี้กับคนนึงไป…แถมคอลเล็คชั่นหายากด้วย” พีทพยักหน้าหงึกงักกับตัวเองและขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด



“หืม…ขี้งกแบบนี้เนี่ยนะ” อาร์ตเอ่ยเย้าออกไปอย่างไม่เชื่อเลยโดนพีทค้อนให้เบาๆ



“เออ!! งกๆแบบนี้แหละก็ตอนนั้นคนนั้นน่าสงสารนี่นา” พีททำหน้ามุ่ยลงเล็กน้อย



“น่าสงสาร” อาร์ตถามด้วยความสงสัยสงสารเลยให้คิตตี้มันก็ยังไงอยู่นะ



“อือ…จำได้ว่าเจอคนนั้นตอนฝนตก นั่งตัวเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำอยู่ริมฟุตบาทใส่ชุดรด.หัวเกรียน” พีทพยายามรื้อฟื้นความทรงจำที่ลืมไปนานและไม่เคยนึกถึงออกมาเล่าให้อาร์จฟัง



“แล้วจำหน้าเขาได้ไหม” อาร์ตถามด้วยความสนใจ พีทเองก็นิ่งคิกไปสักพักก่อนจะส่ายหัว



“ไม่ได้อ่ะลืม…จำได้แค่ว่าน่าสงสารเลยให้ไป” พีทว่าแล่วหมุนสโนว์บอลต่อเพราะเสียงดนตรีดับไปแล้ว



“ปลาทองเอ้ย!!” อาร์ตว่าแล้วเอามือยีหัวพีทจนยุ่ง



“ก็มันจำไม่ได้นิ…แถมให้ไปไม่รู้จะเก็บไว้รึเปล่าเหอะ เอาไปทิ้งแล้วมั้ง” พีทปัดมืออาร์ตออกจากหัวแรงๆพร้อมกับหน้างอใส่ไม่พอใจที่โดนว่า



“เขาอาจจะเก็บไว้ก็ได้” อาร์ตว่ายิ้มๆแล้วหยิกแก้มพีทเล่น



“ดี!! ถ้าเห็นหน้าจะไปทวงคืน” พีทว่าอย่างหมายมั่น



“ทวงได้ไงพีทบอกจำหน้าเขาไม่ได้” อาร์ตขัดขึ้นมาอย่างนึกขำ



“เออ…นั่นดิ” พีททำหน้าเซ็งเมื่อนึกขึ้น



“พี่อาร์ตหิวข้าว” พีทบอกอาร์ตเพราะท้องเริ่มร้องด้วยความหิว พอสบายใจความอยากอาหารก็กลับมาเยือน



“แล้วตอนถามที่มหา’ลัยทำเล่นตัวบอกไม่หิว” อาร์ตเอ่ยเย้าพร้อมส่งสายตาล้อเลียนไปให้พีท



“ก็ตอนนี้หิวแล้วหาให้กินได้ไหมล่ะ ไม่ได้ก็จะกลับไปกินที่บ้าน” พีทยักคิ้วใส่อาร์ตอย่างท้าทายเพราะรู้ว่ายังไงอาร์ตก็ต้องทำตาม



“รู้ว่ายอมก็เอาใหญ่เนอะคนเรา” อาร์ตบิดปลายจมูกพีทด้วยความหมันเขี้ยวพร้อมกับฉกจมูกหอมแก้มใสไปอีกที



“ยอมให้คนเดียวนะพี่บอกเลย” อาร์ตยกพื้นลงจากตักไปนั่งที่ว่างบนเตียงก่อนตัวเองจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพื่อไปหาอะไรมาให้เด็กดื้อกินตามที่เจ้าตัวต้องการ ส่วนพีทก็ยิ้มหน้าบ้านชอบใจที่มีคนคอยตามใจตัวเอง



“รอไหวไหม? หิวมากรึเปล่า” ก่อนเดินออกจากห้องไปอาร์ตยังไม่วายหันกลับมาถามด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะหิวจนรอไม่ไหว



“ก็หิว...แต่รอได้” พีทส่งยิ้มให้อาร์ตอย่างน่ารักแล้วหันไปสนใจของสะสมในห้องต่อ



“งั้นรอพี่แป๊บเดียวอย่าซนนะ” อาร์ตพูดแหย่ทิ้งท้ายแล้วรับเดินออกจากห้องไปเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องโวยวายตามหลัง



“ไม่ใช่เด็กนะ!!” และเป็นอย่างที่อาร์ตคิดเอาไว้ไม่มีผิดเพราะพีทโวยวายไล่หลังทันทีพร้อมใบหน้างอง้ำ ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองแล้วเริ่มสำรวจไปรอบๆห้องของอาร์ต



ห้องพักของอาร์ตค่อนข้างจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยจนคนสำรวจอย่างพีทค่อนข้างแปลกใจ ข้าวของทุกอย่างในห้องโดยรวมก็เหมือนห้องผู้ชายปกติทั่วไป ถ้าจะมีอะไรผิดปกติก็คงจะเป็นคิตตี้ที่มีอยู่เกลื่อนห้องเท่านั้น




“ร้อนแหะ” พีทบ่นออกมาหน้ามุ่ยเพราะภายในห้องพักของอาร์ตไม่ได้เปิดแอร์ มีแค่พัดลมติดผนังและหน้าต่างที่เปิดเอาไว้เพื่อให้ลมเข้าเท่านั้นคอยให้ความเย็น ประกอบกลับพีทค้นข้าวของในห้องของอาร์ตดูอย่างถือวิสาสะเลยยิ่งทำให้ร้อนกันไปใหญ่



“ทำไมไปนานจัง...อาบน้ำดีกว่า” พีทขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหันรีหันขวางไปทั่วห้องก่อนจะตัดสินใจอาบน้ำ เพราะหวังจะให้ความเย็นจากน้ำช่วยคลายร้อนและลดอาการเหนียวตัวที่เป็นอยู่



...

...



อาร์ตหอบถุงของกินพะรุงพะรังกลับเข้ามาห้องพักเต็มสองมือหลังจากที่ใช้เวลาไปพอควร เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นคนที่เขาบอกให้รอ ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงน้ำและเสียงฮัมเพลงแผ่วเบาดังมาจากในห้องน้ำให้ได้ยินแว่วๆ




อาร์ตจัดการเดินไปเทอาหารใส่จานและยกมาวางรออีกคนที่โต๊ะ แล้วใช้สายตากวาดมองไปรอบๆห้องของตัวเอง ก่อนจะส่ายหัวด้วยความขำเมื่อเห็นสภาพห้องที่โดนค้นจนข้าวของกระจาย ถึงจะไม่ได้เสียหายอะไรแต่ก็ทำสภาพห้องรกไปพอควร



“เด็กดื้อเอ้ย” อาร์ตให้คนในห้องน้ำแล้วลงมือเก็บข้าวของให้เข้าที่ ก่อนจะมายืนกอดอกรอเจ้าตัวที่หน้าห้องน้ำ



“ฮ้า!! สดชื่น!! เฮ้ย!!” พีทเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผมเปียกลู่อุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นอาร์ตยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ



“มายืนทำอะไรตรงนี้เงียบๆเนี่ย” พีทถามแล้วมองอาร์ตที่เอาแต่ยืนเงียบมองตัวเองด้วยความแปลกใจ



“เสื้อ” อาร์ตพึมพำออกมาเสียงเบาแล้วใช้สายตาสำรวจไปทั่วรางกายของพีท



“ก็มันไม่มีเสื้อผ้าใส่ยืมก่อนไม่ได้รึไงล่ะ” พีทว่าหน้ามุ่ยแล้วเดินผ่านหน้าอาร์ตไป เพราะไม่อยากใส่เสื้อผ้าชุดเก่าที่เหม็นเหงื่อของตัวเอง เขาเลยไปค้นเอาเสื้อผ้าในตู้ของไอ้พี่อาร์ตมาใส่แก้ขัดก็เท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าของตัวเองก็ถอดกองทิ้งไว้ในห้องน้ำนั่นแหละ



“ข้าว!!!” พีทส่งเสียงดังทำตาโตแล้ววิ่งถลาไปที่โต๊ะซึ่งวางอาหารเอาไว้เต็ม ลงมือตักกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจอาร์ตที่ยืนมองอยู่เลยสักนิด



“ทำไมอาบน้ำล่ะ” อาร์ตเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วอ้าปากงับเอาข้าวในช้อนพีทที่พึ่งตักมากิน ก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆรอฟังคำตอบ



“ก็มันร้อน” พีทว่าแล้วตักข้าวขึ้นมาใหม่แต่ก็โดนอาร์ตแยงกินอีกเหมือนเดิม



“แอร์มีไม่เปิด” อาร์ตว่าแล้วส่ายหัวน้อยๆก่อนจะยื่นหน้าไปทางพีทเพื่ออ้าปากกินข้าวในช้อนอีก



“เฮ้ย!! หิวก็หาช้อนมาตักกินดีๆดิ” พีทว่าหน้ามุ่ยพร้อมกับเบี่ยงตัวหนี



“ไม่ได้หิว...พี่ไปอาบน้ำบ้างดีกว่า” อาร์ตว่าแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะไปก็แวะหอมแก้มพีท และไม่ลืมที่จะเดินไปปิดหน้าต่างเปิดแอร์ให้




พีทมองตามไล่หลังจนอีกฝ่ายหายเข้าไปในห้องน้ำ ขมุบขมิบปากด่าและยกมือขึ้นมาลูบแก้มตัวเอง ก่อนจะลงมือกินข้าวต่อไปเงียบๆคนเดียว



“อิ่มแล้ว” เสียงกระซิบที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาพีทที่เล่นโทรศัพท์อยู่สะดุ้งโหยง ก่อนจะตวัดสายตามามองอาร์ตแล้วเอามือดันหน้าอีกฝ่ายให้ถอยห่าง




“อือ” พีทตอบแล้วกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ อาร์ตเลยเดินกลับไปที่โต๊ะก็เห็นว่าพีทเก็บเรียบร้อยแล้ว โดยการเอาจานที่อาหารเกลี้ยงหมดจดไปโยนทิ้งไว้ในซิงค์ให้



“นี่กินหรือสูบ” อาร์ตหันกลับมาถามด้วยความอึ้งเพราะอาหารที่เขาซื้อมามันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ



“ก็มันหิวนิ!!” พีทเงยหน้าขึ้นมาเถียงแล้วมองค้อนสบตาอาร์ตที่สงสัยตามามองอย่างรับไม่ได้



“กินเยอะแบบนี้สงสัยพี่ต้องทำงานหนักสองเท่าแล้วมั้งถึงจะเลี้ยงได้” อาร์ตบ่นออกมาเบาๆให้ได้ยินแล้วลงมือล้างจานอย่างคล่องแคล้ว



“เก่งนะเนี่ยจ้างไปเป็นคนล้างจานที่บ้านได้ป่ะ” พีทเดินมาชะโงกมองอาร์ตล้างจานแล้วทำหน้าตากวนประสาทใส่



“ปากดี” อาร์ตดีดฟองจากน้ำยาล้างจานใส่หน้าพีทด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะหันกลับไปล้างจานต่อ



"ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!" พีทโวยวายด่าดังลั่นด้วยความเคืองก่อนจะเดินไปเปิดเอาน้ำจากก๊อกข้างๆมาล้างฟองออกจากหน้า



"เอาอีกแล้ว...เหี้ยอีกแล้วนะน้องพีท" อาร์ตว่าอย่างเอือมๆสอนกี่ทีไม่เคยจำให้ตายสิ



“แบร่~~” พีทแลบลิ้นปริ้นตาใส่อาร์ตอย่างไม่สนใจก่อนจะหันหลังให้เตรียมเดินหนี



“มานี่เลยไอ้ดื้อ” อาร์ตล้างมือแล้วหันกลับมาคว้าเอวของพีทไว้ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนว่าพีทตัวเบามากมายทั้งๆที่ก็หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน



“เฮ้ย!! ไอ้พี่อาร์ตปล่อย!!” พีทดิ้นขลุกขลักไปมาเบาๆในอ้อมกอดอาร์ตมือก็คว้าคออีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพราะกลัวตก



ตุ๊บ!!!



อาร์ตโยนพีทลงกลางเตียงเบาๆก่อนที่จะพาตัวเองมาคร่อมทับ มือสองข้างก็จับข้อมือเล็กของคนใต้ร่างเอาไว้แน่นเพื่อกันอีกฝ่ายดิ้นหนี



"เราตกลงกันว่ายังไงนะ เหี้ยคำนึงต่อยกนึงใช่ไหม รอบนี้พี่ไม่ขู่แล้วนะ" อาร์ตพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งมองพีทด้วยแววตาที่แฝงความร้อนแรงอย่างไม่คิดจะปิดบัง



"ไม่ด่าพี่มึงก็จะทำอยู่ดีแหละ" พีทอ้อมแอ้มเถียงกลับไม่เต็มเสียงก่อนจะหันหน้าหนีหลบหน้าอีกฝ่ายเพราะไม่กล้าสบตาตรงๆ



"รู้ขนาดนี้ก็ยังตามมา...แบบนี้พี่ว่าเราสมยอมได้ใช่ไหม" อาร์ตโน้มตัวลงไปถามชิดใบหน้าเนียน



"ไม่รู้..." พีทพึมพำตอบแผ่วเบาพร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง



"กูจะบ้า...ทำไมน่ารักงี้วะ" อาร์ตโอดครวญข้างใบหูพีทแล้วกดจมูกลงบนแก้มใส ก่อนจะจับหน้าอีกฝ่ายให้หันมาสบตากัน พร้อมใบหน้าคมที่โน้มตัวลงไปประกบจูบปากบางตรงหน้าแผ่วเบา

 


           



2 Be Con...

++++++++++

ว่าจะให้ได้เสียเลือดกันซะหน่อย

แต่ถ้าเขียนต่อตอนจะยาวเกินเลยจำเป็นต้องตัดจบ

และไหนๆก็ได้ตัดเลยต้องตัดจบสไตล์เรา

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

รักคนอ่านจ้า ^^


 

           

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
บทจะหวานก็ทำได้ไม่เลวเลยนะเนี่ย
ทำตัวน่ารักอย่างนี้ก็เป็นนะน้องพีท :hao3:
แอบระแวงคนที่ชื่อชาติจังเลย ไม่น่าไว้ใจมากๆ
อย่าได้มาลากน้องพีทไปเกี่ยวข้องเลยนะ
น้องแค่ผ่านมาแล้วถูกตาต้องใจพี่อาร์ตเท่านั้นเอง
เรื่องบาดหมางก็ไปจัดการกันเองสองคนนะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 18 -



                อาร์ตขบเม้มไล่เลียไปทั่วริมฝีปากบางก่อนจะค่อยๆผละออกมาอย่างอ่อยอิ่ง แนบหน้าผากตัวเองลงกับหน้าผากคนใต้ล่างแล้วสบตาเรียวสวยอย่างสื่อความหมาย



                “พี่ขอได้ป้ะ” อาร์ตถามเสียงแหบพร่าใช้ปลายจมูกคลอเคลียไม่ห่าง



                “จะมาขออะไรเล่า” พีทประท้วงออกมาเสียงเบาพร้อมแก้มเนียนที่แดงปลั่งด้วยความอาย มือทุบลงไปบนอกของคนที่คร่อมทับทั้งตัวด้วยแรงที่ไม่มากนัก



                “ขออนุญาตไง” อาร์ตว่าแล้วส่งสายตาเป็นประกายวิบวับให้พีท จนพีทอดหมั่นไส้ไม่ได้ฟาดลงไปที่อกของอาร์ตอีกครั้งแบบไม่ยั้งแรง



                “ไม่ต้องละหมดอารมณ์” พีทแกล้งว่าเสียงแข็งสะบัดหน้าหนีเพราะเขินสายตาที่เหมือนจะเขมือบตัวเองเข้าไปทั้งตัวของอาร์ต



                “แต่พี่กำลังได้ที่เลยนะ” อาร์ตว่าเสียงพร่าแล้วจับมือเล็กที่ยันหน้าอกตัวเองมากุมไว้ กดจูบลงไปที่หลังมือบางแผ่วเบาแล้วไล่ไปจนทั่วพื้นที่ ก่อนจะอ้าปากงับเอานิ้วมือเรียวเล็กแล้วไล่เลียดูดดึงไปจนทั่วทุกนิ้ว



                ความเย็นจากน้ำลายที่สัมผัสลงบนปลายนิ้วทำให้พีทรีบชักมือหนี แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจนึกเพราะอาร์ตจับเอาไว้แน่นแถมยังส่งปลายลิ้นไล่เลียลงมากลางฝ่ามือ ก่อให้เกิดพลังงานบางอย่างวิ่งพล่านไปทั่วร่างจนพีทพยายามจะชักมือออกจากการเกาะกุมอีกครั้ง



                อาร์ตยอมปล่อยมือออกโดยดีแล้วเปลี่ยนเป้าหมายจากฝ่ามือนิ่มมาเป็นซอกคอขาวแทน ซุกไซร้ดูดเม้มไปทั่วต้นคอจนเกิดรอยแดงแทบทุกตารางนิ้ว ฝ่ามือหนาก็ไม่อยู่นิ่งเฉยล้วงเข้าไปในเสื้อยืดตัวใหญ่แล้วลงมือบีบเค้นไปทั่ว ก่อนจะส่งไปสะกิดยอดอกอย่างหยอกล้อจนพีทดิ้นพล่านแอ่นอกเข้าหาฝ่ามือ ส่วนปากหนาได้รูปก็วกจากซอกคอขึ้นมาประกบจูบพร้อมทั้งส่งลิ้นเข้าไปสำรวจภายในโพรงปากนุ่ม ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดดูดดึงหยอกล้อลิ้นเล็กที่ให้ความร่วมมืออย่างเร่าร้อน



                “อื้อ” พีทส่งเสียงครางประท้วงในลำคอพร้อมยกมือดันที่แผ่นอกกว้างเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณให้คนที่เอาแต่บดจูบไม่ยั้งได้รู้ตัวว่าเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ



                อาร์ตยอมถอยห่างออกมาตามคำขอแต่ยังคงใช้ริมฝีปากคลอเคลียขบเม้มอยู่ไม่ห่าง แล้วเลื่อนฝ่ามือที่บีบเค้นเนื้อนิ่มใต้เสื้ออออกมาจากนั้นก็จัดการกระชากที่เดียวให้พ้นตัว ตามมาด้วยการถอดกางเกงออกจากขาเรียวแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะส่งสายตาโลมเลียจ้องร่างกายขาวผ่องของพีทอย่างไม่คิดปิดบังความหื่นกระหาย



                พีททนสบสายตาร้อนแรงของอาร์ตไม่ไหวจนต้องหลบสายตา ใบหน้าและลำตัวแดงก่ำไปหมดเพราะความเขินจัด ส่วนอาร์ตได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆอย่างชอบใจกับท่าทางน่ารักๆที่คนใต้ร่างแสดงออก ก่อนจะหันมาถอดเสื้อตัวเองออกบ้างแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง จากนั้นก็พุ่งตรงบดขยี้จูบเร่าร้อนให้อีกฝ่ายมือก็บีบเค้นหยอกล้อไปทั่วทั้งตัวบาง



                “อะ...อื้อ” พีทส่งเสียงครางประท้วงในลำคออย่างต่อเนื่องกับจูบรุนแรงและแรงบีบเค้นหนักหน่วงที่อาร์ตมอบให้ ก่อนจะเอามือยันอกอีกฝ่ายให้ถอยห่างอีกครั้ง



                อาร์ตยอมผละออกตามแรงผลักของมือเล็กตาจ้องมองคนใต้ร่างเขม็ง แววตาเรียบเฉยไม่แสดงอะไรแต่พีทกลับรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของอีกฝ่าย แววตาสีรัตติกาลดูเหมือนจะเข้มขึ้นและมืดมิดกว่าทุกครั้งอย่างเห็นได้ชัด



                “คะ...คือพี่อาร์ต” พีทเอ่ยปากตะกุกตะกักเพราะรู้สึกประหม่าและกลัวท่าทางของอาร์ต เขาไม่ได้จะเล่นตัวอะไรหรอกแต่พอนึกถึงสิ่งที่เจอเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา มันก็เกิดความกลัวแทรกคความกล้าชนิดแซงนำหน้าไม่เห็นฝุ่น



                “ครับ” อาร์ตขานรับเสียงพร่าปากและจมูกรวมทั้งฝ่ามือยังคงซุกไซร้ฟอนเฟ้นคลอเคลียปลุกเร้าอารมณ์ไม่ห่าง



                “คือ..ว่า...มัน” พีทพูดได้แค่นั้นแล้วก็เลือกที่จะเงียบเม้มปากตัวเองไว้แน่นไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิดออกไป ดวงตาสวยสั่นระริกก่อนจะเหลือบไปมองกลางลำตัวของอาร์ต ที่ตอนนี้เห็นความต้องการที่ขยายขนาดคับแน่นดุนดันเนื้อผ้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด



                “หืม...ไม่ต้องกลัว” อาร์ตไล่มองตามสายตาของพีทก็รู้ความหมายที่เจ้าตัวจะสื่อ แล้วขบเม้มติ่งหูเล็กเพื่อหยอกล้อและปลอบโยน



                “ตะ...แต่ว่า” พีทยังคงประท้วงออกมาไม่ได้อยากจะงอแง แต่ทุกอย่างมันเป็นไปตามความรู้สกและสัญชาตญาณล้วนๆ



                “เชื่อพี่สิ” อาร์ตบอกเสียงเรียบสบตากับพีทตรงๆเหมือนเป็นการบังคับกลายๆให้เชื่อในสิ่งที่บอก พร้อมทั้งจับขาเรียวแยกออกกว้างมากขึ้นแล้วแทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง



                “แต่...” พีทพยายามจะพูดต่อแต่ก็ต้องหยุดทุกอย่างลงเมื่ออาร์ตตัดสินใจปิดปากคนตัวเล็ก ด้วยการบดจูบอันหนักหน่วงและร้อนแรงพร้อมทั้งส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหยอกล้อดูดดึงจนแทบจะขาดติดกัน ฝ่ามือก็บีบเค้นไปทั่วกายส่วนกลางลำตัวก็บดเบียดกับแก่นกายน่ารักอย่างยั่วเย้า จนพีทแอ่นสะโพกตามอย่างลืมตัวบดเบียดกับกลางลำตัวใต้ลมผ้าของอาร์ตตามแรงอารมณ์



                อาร์ตยังคงวนเวียนบกจูบริมฝีปากบางไม่ห่างสะโพกก็บดเบียดปลุกเร้าอารมณ์อยู่แบบนั้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนฝ่ามือจับเข้าที่ข้อมือเล็กทั้งสองข้างแล้วดันขึ้นไปเหนือหัว จัดการรวบเอาไว้ด้วยมือเดียวส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปทางโต๊ะเตี้ยข้างเตียง เปิดลิ้นชักออกอย่างเบามือควานหาสิ่งที่ต้องการและหยิบมันออกมา ใช้จังหวะที่พีทมัวเมากับการปลุกเร้าด้วยฝีมือตัวเองมัดข้อมือเล็กทั้งสองข้างเข้าด้วยกันและตรึงไว้กับหัวเตียง



                “อื้อ...” พีทออกแรงดิ้นไปมาเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลกับตัวเอง ก่อนจะเกิดอาการแตกตื่นและดิ้นหนักขึ้นจนเป็นต่อต้าน มองข้อมือที่โดนมัดเอาไว้กับอาร์ตสลับกันไปมาด้วยความหวาดระแวง



                “ปล่อย” พีทอกเสียงสั่นน้ำตาคลอด้วยความกลัวร่างกายสะดุ้งน้อยๆเมื่ออาร์ตยื่นมือมาหา



                “ชู่...ไม่ต้องกลัวพี่ไม่ทำร้ายเราหรอก” อาร์ตแตะฝ่ามือลงที่แก้มเนียนและโน้มตัวไปกระซิบปลอบที่ข้างหูแล้วอ้าปากงับที่ต้นคอขาวเบาๆ ส่วนพีทได้แต่นอนตัวแข็งทื่ออย่างไม่ไว้ใจเพราะไม่รู้ว่าจะเชื่อคำพูดอาร์ตได้แค่ไหน



                อาร์ตเหลือบตามองใบหน้าตื่นตกใจของพีทเล็กน้อยสัมผัสได้ถึงอาการเกร็งของเจ้าตัว แต่อาร์ตก็ไม่ได้สนใจซุกไซร้ปลายจมูกและขบเม้มสร้างรอยที่ต้นคอขาวตามเดิม มือก็บีบเค้นลำตัวบางหนักหน่วงก่อนจะส่งปลายนิ้วขึ้นมาสะกิดยอดอกสีสวยอย่างหยอกล้อ รวมทั้งริมฝีปากที่ไล่ขบเม้มลงมาจนเจอยอดอกอีกข้างอ้าปากงับลงไปและดูดดึงเหมือนทารกดูดนมแม่ไม่มีผิด



“โอ๊ย!! อ๊ะ...” พีทสะดุ้งสุดเบาๆส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะโดนอาร์ตกัดลงบนยอดอกตัวเองเต็มแรง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นครางหวานและแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากร้อนเมื่ออาร์ตลงลิ้นเลียซ้ำและดูดเม้มเบาๆ



อาร์ตผละออกจากยอดอกทั้งสองข้างและพรมจูบลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้องแบนราบ ส่งลิ้นเลียวนที่หลุมสะดือสวยเล็กน้อยและกัดลงไปด้วยความหมันเขี้ยว ก่อนจะกดจูบไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงกลางลำตัว อาร์ตผละถอยห่างเล็กน้อยและดันขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นสูงจนชิดแผ่นอก มองช่องทางสีสวยที่ปรากฏให้เห็นด้วยสายตาหื่นกระหายแบบไม่ปิดบัง



พีทออกแรงดิ้นขลุกขลักเบาด้วยความเขินอายที่ต้องเปิดเผยตัวเองให้อีกฝ่ายเห็นถึงขนาดนี้ ยิ่งสบตาที่มองมาอย่างร้อนแรงของอาร์ตยิ่งเขินหนักจนอยากจะให้ตัวเองจมหายไปกับที่นอน ลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างติดขัดหัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะกลั้นหายใจด้วยมองความตะลึงเมื่ออาร์ตค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าใกล้



“พี่อาร์ต...ไม่เอา...อ๊ะ...” พีทดิ้นด้วยแรงที่มากขึ้นเพื่อปฏิเสธในสิ่งที่อาร์ตกำลังจะทำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหลุดครางหวานเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะที่โดนผิวกาย



อาร์ตกดขาเรียวเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายดิ้นหนีกัดลงไปที่แก้มก้นขาว ก่อนจะส่งปลายลิ้นเลียวนช่องทางรักสีสวยที่ปิดสนิท จากนั้นก็จัดการห้อลิ้นและจ้วงแทงลงไปเพื่อเปิดทาง



พีทถึงกับดิ้นพล่านส่ายสะโพกตามการปรนเปรอของปลายลิ้นซุกซนของอีกฝ่าย ช่องทางรักบีบรัดลิ้นร้อนที่แทงเข้ามาไม่หยุดตอดรัดเรียกร้องอะไรที่มากกว่านั้นอย่างไม่รู้ตัว




อาร์ตเหลือบตามองพีทที่นอนบิดเร่าระทวยเนื้อตัวขึ้นสีชมพูระเรื่อด้วยความชอบใจ ก่อนจะผละออกและเลื่อนขึ้นไปจูบลงริมฝีปากบางแผ่วเบา จัดการปลดเชือกที่มัดโยงไว้กับหัวเตียงออกดึงพีทให้ลุกขึ้นนั่งแล้วจับให้หันไปอีกด้านทั้งตัว โดยที่ให้แผ่นหลังเล็กแนบเข้ากับอกตัวเองส่วนด้านหน้าหันออกไปด้านนอก



“พะ...พะ...พี่อาร์ต” พีทเรียกเสียงสั่นใบหน้าขาวแดงก่ำพยายามหุบขาที่อาร์ตจับแยกออกกว้างจนเป็นรูปตัวเอ็มเข้า มองภาพที่สะท้อนในกระจกที่เป็นประตูตู้เสื้อผ้าด้วยความเขินอาย อยากจะไม่มองก็ทำไม่ได้เพราะอาร์ตบังคับจับใบหน้าให้มอง



อาร์ตกัดลงที่ต้นคอด้านหลังไล่ลงมาจนถึงหัวไหล่มือเลื่อนลงไปกอบกุมแก่นกายเล็กและขยับขึ้นลงเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็บีบเค้นสะโพกกลมหนักหน่วงก่อนจะส่งปลายนิ้วเข้าด้านใน ขยับเข้าออกพร้อมกับมืออีกข้างที่ขยับแก่นกายเล็กสอดประสานกันอย่างปลุกเร้าอารมณ์



“อะ...อื้อ...อื้มมม” พีทส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะพร้อมกับสะโพกบางที่ขยับส่ายร่อนสอดรับกับนิ้วมือและฝ่ามือหนา



อาร์ตขยับมือและนิ้วมือด้วยความเร็วมากขึ้นพร้อมทั้งสอดนิ้วเข้าไปเพิ่มเพื่อขยายช่องทาง สัมผัสได้ถึงการตอดรัดถี่ยิบภายในและแก่นกายในมือที่เกร็งกระตุกใกล้ปลดปล่อย อาร์ตหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเองลงรวมทั้งถอนนิ้วมือทั้งหมดออกมา ข้างที่จับแก่นกายอีกฝ่ายเอาไว้ก็บีบมันไว้แน่นใช้นิ้วหัวแม่มือกดปิดตรงส่วนปลายเพื่อไม่ให้ปลดปล่อย



“อ๊ะ...อื้อ...พี่อาร์ต” พีทครางเรียกอาร์ตเสียงสั่นมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ฝ่ามือสองข้างที่โดนมัดไว้บีบเข้าหากันแน่นสะโพกบางพยายามขยับน้อยๆส่งสัญญาณให้อาร์ตขยับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อาร์ตสนใจแถมยังหยุดทุกอย่างนิ่งจนพีทใจแทบขาด ช้อนตาที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำใสๆมองอาร์ตอย่างออดอ้อนขอร้องให้ช่วยปลดปล่อย



“ครับ” อาร์ตกระซิบถามเสียงพร่าขบเม้มติ่งหูนิ่มเล่นส่งปลายลิ้นเลียวนไปทั่ว มือยังคงบีบแก่นกานในมือแน่นไม่คิดจะให้ความช่วยเหลือตามที่อีกฝ่ายร้องขอ



“พี่อาร์ต...อ๊ะ...ยะ...อย่าแกล้งน้อง...อื้อออ” พีทเอ่ยปากตะกุกตะกักข้อร้องอีกครั้งพร้อมเสียงครางหวานหู แต่นอกจากอาร์ตจะไม่ทำตามที่ขอยังจัดการขยี้หัวแม่มือไล่วนที่ปลายยอดอ่อนไหว กระตุ้นให้พีทแทบคลั่งแทนจนเจ้าตัวดิ้นพล่านแก่นกายในมือใหญ่ปวดหนึบ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวทรมานเพราะไม่ได้รับการปลดปล่อย



พีทเอี้ยวตัวไปหาอาร์ตพยายามบดจูบอีกฝ่ายอย่างสะเปะสะปะ ส่วนสะโพกก็บดเบียดเข้าหาแก่นกายที่ดุนดันอยู่ทางด้านหลังไปมา จนในที่สุดอาร์ตก็เป็นฝ่ายทนการยั่วเย้าไม่ไหวส่งนิ้วมือไปบดขยี้ยอดอกเล็ก ที่ตอนนี้แดงช้ำแข็งเป็นไตสู้มือสะกิดหยอกล้อรุนแรง



“ยกสะโพกขึ้น” อาร์ตสั่งเสียงเข้มซึ่งพีทก็ทำตามอย่างว่าง่ายค่อยยกสะโพกตัวเองให้ลอยสูงขึ้นเล็กน้อย อาร์ตจัดการดึงท่อนลำบวมเป่งของตัวเองออกมาจากกางเกงแล้วสาวขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะจับมันให้ตั้งตรงแล้วดึงสะโพกบางให้ลงมาคร่อมทับพร้อมกับเด้งสวนเข้าไปที่เดียวจนมิด



“อ๊าาาาา...เจ็บ...ฮึก...” พีทครางออกมาดังลั่นด้วยความจุกและเจ็บจากการที่ต้องรับอีกฝ่ายเข้ามากะทันหัน ลำตัวบางถึงกับทรุดเอนพิงอีกฝ่ายอย่างอ่อนแรงน้ำตาไหลซึมออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นในความเจ็บปวดก็ยังมีความสุขสมและเสียวซ่านแบบแปลกประหลาดแทรกเข้ามา



“อ๊ะ...อ๊าาาาา...อึก..” พีทส่งเสียงครางออกมาอีกครั้งเพราะอาร์ตถอนตัวตนออกไปและแทงสวนกลับเข้ามาอย่างหนักหน่วง ความใหญ่โตและขรุขระที่แทรกเข้ามาครูดกับผนังภายในทำให้พีทใจแทบขาด เจ็บแต่เสียวอย่างบอกไม่ถูกแถมรู้สึกว่าไม่พอจนอยากให้อีกฝ่ายทำรุนแรงกว่านี้



“อื้ม...อ๊ะ...อ๊าาาาา” พีทบดขยี้สะโพกส่ายร่อนรับเข้ากับจังหวะของอาร์ตที่แทงสวนเข้ามาช้าๆแต่หน่วง ก่อนที่สายตาจะบังเอิญเหลือบมองไปที่กระจกด้านหน้า



ภาพที่ปรากฏให้เห็นในกระจกคือสภาพหน้าอายของตัวเองที่โดนจับอ้าขาออกกว้างไม่ต่างจากผู้หญิง และท่อนลำขนาดใหญ่ที่ฝังมุกหลายเม็ดกำลังผลุบเข้าผลุบออกที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง ใบหน้าหวานถึงกับเห่อร้อนแดงซ่านขึ้นทันทีแต่ถึงอย่างนั้นกับรู้สึกมีอารมณ์กับสิ่งที่ได้เห็นยิ่งกว่าเก่า



“อึก...อย่าตอดขนาดนั้นน้องพีท” อาร์ตครางบอกออกมาเสียงเข้มเมื่อจู่ช่องทางรักของพีทก็ตอดรัดถี่รัวขึ้น จนตัวเองแทบจะปลดปล่อยออกมาทั้งอย่างนั้น แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุเพราะนอกจากพีทจะไม่ฟังยังขมิบช่องทางรักถี่รัวขึ้น แถมด้วยการขยับสะโพกขย่มสวนกับอาร์ตที่กระแทกตัวเองเข้ามา



“ดื้อนักใช่ไหม” อาร์ตส่งเสียงลอดไรฟันก้มลงกัดที่ซอกคอขาวเต็มแรงจนเลือดซิบก่อนจะถอนตัวเองออกมา จัดการผลักพีทให้ลงไปกับที่นอนแล้วดึงสะโพกกลมขึ้นจนอีกฝ่ายอยู่ในสภาพคลานสี่ขา จับท่อนลำตัวเองจ่อตรงปากทางเข้าและแทงสวนเข้าไปเต็มแรงแบบไม่ยั้ง



“อ๊าาาาา” พีทครางลั่นอย่างห้ามไม่อยู่ฟุบตัวลงไปกับที่นอนส่วนมือก้ขยุ้มผ้าเอาไว้แน่นเพื่อระบาย



พั่บ! พั่บ! พั่บ!



เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังคลอไปกับเสียงครางหวานระงมไปทั้งห้อง อาร์ตจับสะโพกพีทไว้แน่นและกระแทกตัวเองเข้าออกอย่างรุนแรง จนตัวของพีทโยกคลอนสั่นไหวถูไถไปมากับที่นอน



“อ๊ะๆๆๆๆ” พีทครางออกมาไม่ขาดสายสะโพกขยับสอดรับกับแรงกระแทกทางด้านหลังที่อัดเข้ามา ส่ายร่อนยั่วเย้าจนอาร์ตต้องรัวตัวตนเข้าไปอย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า



อาร์ตหมุนควงสะโพกและแทงสวนเข้าไปไม่ยั้งภายในของอีกฝ่ายตอดรัดเข้ารุนแรงจนแทบคลั่ง โน้มตัวเองลงไปชิดแผ่นหลังเนียนและกัดลงไปพร้อมทั้งพรมจูบไปทั่วอย่างหลงใหล ก่อนจะยื่นมือไปจับหน้าอีกฝ่ายให้หันมาแล้วบดจูบลงไปอย่างรุนแรง ส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อส่วนสะโพกก็ยังคงทำกน้าที่กระแทกกระทั้นเข้าออกหนักหน่วง



“อื้อ...อื้ม...” พีทครางเบาๆในลำคอปเปิดปากตอบรับจูบของอาร์ตอย่างเต็มใจ ช่องทางหลังเจ็บจนแสบกับการที่อีกฝ่ายทำรุนแรง ทั้งๆอย่างนั้นกลับสุขสมและมัวเมากับความรุนแรงที่ได้รับ



“อืม...อย่างนั้น...คนดี” อาร์ตส่งเสียงออกมาอย่างพอใจที่พีทตอบสนองต่อความรุนแรงของตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้ มือหนาบีบเค้นที่แก้มก้นขาวรุนแรงจนแทบจะเละคามือส่วนอีกข้างก็ส่งไปกอบกุมแก่นกายเล็กไว้ บีบมันเอาไว้แน่นและขยับให้อย่างรุนแรงจนพีทปลดปล่อยไปหลายต่อหลายครั้ง




“อ๊ะๆๆๆๆ” พีททั้งส่งเสียงครางทั้งกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นจนเจ็บมือเพื่อระบายความเสียว เริ่มรู้สึกเจ็บแสบและระบมทางด้านหลังแต่กลับไม่อยากให้อาร์ตหยุด ยิ่งอีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามาด้วยความเร็วและแรงยิ่งชอบ



“อ๊ะ...อ๊าาาาา” พีททรุดตัวลงไปแนบกับที่นอนอย่างหมดแรงพร้อมกับปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือหนา ด้านหลังยังคงสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่ใส่เข้ามาไม่ยั้งอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่คนบนตัวจะเกร็งกระตุกเล็กน้อยและฉีดพ่นความอุ่นร้อนเข้ามาภายใน



แปะๆ



“พีท” อาร์ตตบลงที่แก้มเนียนเบาๆพร้อมทั้งส่งเสียงเรียกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอนนิ่ง ก่อนจะค่อยๆดึงตัวเองออกมาและจับตัวของพีทให้พลิกกลับมานอนหงาย



“โอเคไหม” อาร์ตมองท่าทางอ่อนแรงและดวงตาเหม่อลอยของพีทด้วยความเป็นห่วง โน้มตัวลงไปกดจูบหน้าผากและขมับชื้นเหงื่อของเจ้าตัวเพื่อขอโทษที่ทำรุนแรง



พีทเลื่อนสายตามามองอาร์ตและไม่พูดอะไรนอกจากยื่นข้อมือที่ยังคงโดนมัดไปหา เป้นการบอกกลายๆให้แกะออกให้ซึ่งอาร์ตก็ทำตามแต่โดยดี ข้อมือที่ไร้เชือกพันธนาการตอนนี้ขึ้นรอยแดงและถลอกเล็กน้อย




“ขอโทษครับ” อาร์ตพึมพำแผ่วเบาและดึงข้อมือพีทมาจูบเพื่อขอโทษ แต่พีทชักแขนหนีแล้วไม่พูดอะไรนอกจากมองหน้าอาร์ต จนอาร์ตเริ่มใจเสียกับท่าทีของอีกฝ่าย



“พี่...” คำพูดที่กำลังจะปล่อยออกมาของอาร์ตถูกตัดบทด้วยจูบร้อนแรงจากพีท และแขนเรียวเล็กที่ยกขึ้นโอบกอดที่คอของอาร์ตและบังคับให้โน้มลงมาหา



อาร์ตชะงักไปเล็กน้อยกับการกระทำของพีทก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างพอใจ วงแขนแกร่งโอบกระชับคนตัวเล็กแน่นและดึงให้มาคร่อมทับบนตัว ก่อนจะจูบตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้และเตรียมตัวเริ่มเพลงรักบทต่อไป



...

...



“อื้อ” อาร์ตเหลือบตามองพีทที่นอนสลบไสลเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆถอนแก่นกายออกมา มองสำรวจไปทั่วกายขาวที่ตอนนี้แดงจ้ำเต็มไปด้วยรอยฝันและรอยจูบอย่างหลงใหล ขาเรียวขาวและผ้าปูที่นอนเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำรักสีขาวขุ่น หันกลับไปมองนอกหน้าต่างก็เห็นท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสีบ่งบอกว่ากำลังจะสิ้นแสงในอีกไม่กี่นาที



อาร์ตถอนหายใจออกมาเบาๆและยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าขลุกอยู่กับพีทนานขนาดนี้ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมีเซ็กซ์แบบลืมเวลา จำได้ว่าตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้จะมืดนับไปก็สี่ห้าชั่วโมงเห็นจะได้ เอากันมันเสียไปคนละกี่น้ำนี่ไม่ได้นับ แต่ที่แน่ๆเด็กดื้อของเขานอนหมดสภาพสิ้นความซ่าไปเลยหวังแค่ว่าจะไม่ป่วยอีกครั้งก็เท่านั้น




อาร์ตช้อนตัวพีทขึ้นอย่างเบามือและอุ้มพาเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดให้ อีกฝ่ายก็ส่งเสียงครางประท้วงออกมาเป็นระยะเพราะถูกรบกวนการนอนแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อลงมืออาบน้ำให้เสร็จก็อุ้มอีกฝ่ายออกมาวางไว้บนโซฟาและใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะผละออกไปที่เตียงลงมือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่แล้วกลับมาอุ้มคนตัวเล็กให้ไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นถึงไปจัดการกับตัวเองบ้างเพื่อที่จะได้เตรียมตัวออกไปทำงาน



...

...



อาร์ตกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหลังจากออกไปหาซื้ออะไรมาไว้ให้คนนอนหลับกิน เพราะกลัวกว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาและหิวตอนตัวเองไม่อยู่ เอาของกินที่ซื้อมาไปแช่ใส่ตู้เย็นไว้และเดินกลับไปหาพีทที่เตียง ยืนมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้มอย่างสุขใจจนหลุดอมยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างและกดจมูกลงหอมแก้มเนียนแผ่วเบา



“พีทครับ” อาร์ตเขย่าตัวพีทอย่างเบามือพร้อมทั้งส่งเสียงเรียก



“อื้อ” พีทส่งเสียงประท้วงในลำคอและขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยปรือตาขึ้นมามอง พอเห็นว่าเป็นใครก็ขมวดคิ้วตวัดตามองด้วยความไม่พอใจ



“พี่ไปทำงานก่อนนะครับ” อาร์ตลูบหัวพีทอย่างอ่อนโยนแต่พีทที่ได้ยินแบบนั้นหน้าบึ้งยิ่งกว่าเก่า



“อย่างอนพี่เลยเกงานมาสองวันแล้วเนี่ยวันนี้ต้องไปทำ ไม่งั้นโดนไล่ออกไม่มีเงินเลี้ยงเมียแถมไม่รู้ท้องด้วยรึเปล่าเดี๋ยวอดตายทั้งบ้านนะ” อาร์ตทำหน้าขึงขังยกมือลูบหน้าท้องพีทเบาๆ ดูจริงจังจนพีทหมั่นไส้กำฝ่ามือแน่นแล้วทุบลงไปที่แขนของอาร์ตเต็มแรง



“โอ๊ย!!!” อาร์ตร้องเสียงหลงลูบแขนข้างที่ถูกทำร้ายไปมา



“กวนตีน” พีทพึมพำด่าเสียงเบามองค้อนอย่างหมั่นไส้กับความกวนประสาทของอาร์ต จำเป็นต้องตอบคำถามแบบนั้นไหมท้องบ้าท้องบออะไรล่ะ ถนัดจริงๆเรื่องทำให้เขาอายเนี่ย



“ฮ่าๆพี่ไปแล้วนะสัญญาจะไม่กลับดึก” อาร์ตหัวเราะด้วยความชอบใจมือก็ลูบแก้มใสของพีทไปด้วย



“สี่ทุ่ม” พีทกำหนดเวลาให้และจ้องอาร์ตแบบบังคับใบหน้างอง้ำ



“โอเคไม่เกินสี่ทุ่มถึงห้อง” อาร์ตยอมรับคำสั่งแต่โดยดีพีทถึงยอมยิ้มออกมา



“มีกับข้าวอยู่ในตู้เย็นถ้าหิวก็ลุกขึ้นมาอุ่นกินนะ...ใช้ไมโครเวฟเป็นใช่ไหม” อาร์ตถามด้วยความไม่มั่นใจเพราะดูแล้วพีทคงไม่เคยทำอะไรเองแน่ๆ



“เป็น!!!” พีทกระแทกเสียงตอบแล้วตวัดตามองอาร์ตด้วยความมาพอใจ นี่คิดว่าเขาเป็นคนยังไงแค่ไมโครเวฟอย่างเขาก็ใช้เป็นเหอะ



“ครับๆอย่าลืมกินยาด้วยนะ” อาร์ตยิ้มขำแล้วชี้นิ้วไปบนหัวเตียง



“ยา?” พีทมองตามแล้วหันกลับมาถามด้วยความสงสัย ถึงจะเมื่อยตามตัวเหมือนชิ้นส่วนจะหลุดแต่เขาก็ไม่ได้ป่วยนะ



“แก้อักเสบ...กินกันไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหว” อาร์ตว่าด้วยท่าทางธรรมดาแต่เรียกเลือดขึ้นไปวิ่งจนแดงซ่านเต็มหน้าพีท



“รีบไปเลย” พีทผลักอาร์ตลงจากเตียงด้วยความเขินจัด ส่วนอาร์ตก็นั่งหัวเราะอย่างชอบใจเพราะที่พูดไม่ได้ตั้งใจจะให้อีกฝ่ายเขินแค่เป็นห่วง



“งั้นพี่ละสี่ทุ่มจะกลับมานอนกอด” อาร์ตว่าแล้วโน้มตัวลงไปหอมหน้าผากข้างแก้มก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากบาง



“อื้อ...ไปได้แล้ว” พีทดิ้นขลุกขลักเล็กน้อยยกมือดันหน้าอาร์ตออกเพราะอีกฝ่ายจูบไม่เลิก



“ครับๆไปแล้ว” อาร์ตจูบเบาๆทิ้งท้ายก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินออกไปแต่โดยดี



พีทมองตามจนเห็นว่าอาร์ตออกจาห้องไปถึงค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ร่างกายปวดเมื่อยไปหมดโดยเฉพาะสะโพกที่ไม่รูเลยว่าจะเดินเหมือนคนปกติได้ไหม เอื้อมมือไปหยิบถุงยาบนหัวเตียงมาเปิดดูข้างในก็เห็นว่ามียาเต็มไปหมด ลดไข้ แก้อักเสบ แก้ปวดเมื่อย สารพัดจนขี้เกียจจะดู



“เชี่ยวชาญจังนะ” พีทมองถุงยาในมือแล้วพึมพำว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะแกะเอายาแก้อักเสบออกมา กินไว้ก่อนก็ดีเหมือนกันถึงตอนนี้จะมั่นใจว่าไม่ป่วยแต่ดึกๆอาจจะป่วยก็ได้



พีทหยิบยาเข้าปากตามด้วยน้ำที่อาร์ตเอามาวางไว้ให้กินเรียบร้อยก็ล้มตัวลงนอน ใช้เวลาไม่นานความง่วงงุนก็เริ่มเข้ามาครอบงำอีกครั้งแล้วก็เดินทางเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันในเวลาไม่ช้า



...

...



“อ้าวเฮียพึ่งจะไปทำงานเหรอ” วินที่พึ่งกลับเข้ามาห้องพักถามรุ่นพี่ด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลานี้อีกฝ่ายไม่น่าจะอยู่ที่ห้องแล้ว



“เออ...สายบ้างไรบ้างเปลี่ยนบรรยากาศ” อาร์ตยักคิ้วส่งให้รุ่นน้องกวนๆมือก็ใส่รองเท้าไปด้วย



“ไม่ล็อกประตูเหรอเฮีย” วินถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าอาร์ตสะพายกระเป๋ากีตาร์เดินไปเลย โดยที่ยังทิ้งประตู้ห้องเอาไว้ไม่จัดการล็อกให้เรียบร้อย



“ไม่ล็อก...ซ้อมึงนอนอยู่ข้างใน” อาร์ตว่าและเดินต่ออย่างไม่คิดอะไร ผิดกับวินที่มองตามหลังและหันกลับมามองประตูห้องอาร์ตตาโต นี่เฮียเอาจริงใช่ไหมวะคนนี้ถึงกล้าพามานอนไป้ห้องซานริโอ้โคตรมุ้งมิ้งเนี่ย




“ไอ้วิน!!!” อาร์ตที่เดินห่างไปพอสมควรหันกลับมาตะโกนเรียกวินเสียงดัง



“คะ..ครับเฮีย” วินหันมาขานรับยังคงอึ้งกับสิงที่เจออยู่



“เดี๋ยวมึงแวะมาดูเมียกูให้ด้วยนะสักสองทุ่มมาเคาะประตูเรียกให้ลุกขึ้นกินข้าวให้กูหน่อย” อาร์ตสั่งออกไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าพีทคงนอนยาวและไม่ตื่นมากินข้าวแน่ โทรมาก็คงจะไม่รับสายเดาจากไอ้นิสัยโคตรดื้อโคตรรั้นได้ไม่ยาก เขาเองก็ไม่รู้จะกลับมาทันสี่ทุ่มอย่างที่รับปากรึเปล่างานพิเศษแบบเขาทำเนี่ยเลิกกันตีสองก็เร็วสุดแล้ว



“ได้เฮีย” วินพยักรับอาร์ตเลยวางใจและหันหลังเดินต่อ ส่วนวินก็มองบานประตูที่ปิดสนิทและยกมือเกาหัวตัวเองเบาๆ ไอ้มาดูให้น่ะไม่ใช่ปัญหาหรอกแต่เฮียก็น่าจะบอกเขาสักนิดนะว่าซ้อชื่ออะไร...





2 Be Con...

+++++++++++

หวังว่าคงจะได้ซับเลือดกันบ้าง

SM กันเบาๆ จะมีมากกว่านี้มั้ยถามใจดู

ใครที่เดาว่าพี่อาร์ตโรคจิต พี่มันไม่ถึงกับจิตนะ

แค่เป็นผู้ชายที่รวมความแปลกหลายๆอย่างไว้กับตัว

รักคนอ่านคับ ^^

ปล.ไอ้ที่สปอยไว้ในเพจมันคือเหตุการณ์ล่วงหน้า

ที่อีกสักพักใหญ่ๆจะเกิดนะจ๊ะ




 

 

 

 

               

 

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เรียกเลือด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 19



ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



ปัง! ปัง! ปัง!



เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นระรัวพอได้ยินเปลี่ยนเป็นเสียงทุบหนักๆในเวลาต่อมา หลังจากที่วินพยายามเคาะประตูเรียกคนในห้องอยู่เป็นนานสองนานแต่ไม่มีทีท่าว่าคนด้านในจะได้ยินเลยสักนิด วินชั่งใจรออีกสักพักเมื่อเห็นว่าทุกอย่างยังเงียบอยู่เลยง้างมือขึ้นตั้งใจจะทุบลงไปอีก ถ้าครั้งนี้คนด้านในยังไม่เปิดประตูให้อีกเขาคงจำเป็นต้องพังห้องเฮียอาร์ต เพราะทำเสียงดังขนาดนี้แล้วไม่ได้ยินขอสันนิฐานว่าซ้ออาจจะตายแล้วก็ได้



แอ๊ดดดดดดดด



ปัง!!!!!!!!



ยังไม่ทันที่วินจะลงมือทุบประตูอีกครั้งอย่างใจนึกบานประตูก็ถูกเปิดออกอัดกระแทกผนังอย่างแรง ตามมาด้วยใบหน้าเหวี่ยงวีนบ่งบอกอารมณ์ขุ่นมัวของคนที่มาเปิดได้เป็นอย่างดี ใบหน้าหล่อแบบน่ารักๆของซ้อที่เขาเห็นครั้งเดียวก็จำได้มองมาอย่างไม่เป็นมิตร ดวงตาเรียวแต่ไม่ถึงกับตี่จ้องเขม็งเหมือนพร้อมจะด่าเขาทันทีถ้าพูดอะไรไม่เข้าหู



“คือ...” วินอึกอักเล็กน้อยไม่รู้จะเริ่มการสนทนายังไงดีกับคนตรงหน้า น่ากลัวฉิบหายผัวเมียคู่นี้ถึงจะในคนละความหมายก็เหอะ



“คืออะไร” พีทกระแทกเสียงใส่แบบไม่สบอารมณ์คนพึ่งจะนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็โดนก่อกวน อุตส่าห์ทำหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูยังจะเคาะต่ออยู่ได้ ชีวิตนี้ไม่เคยเคาะประตูรึไงต้องลากสังขารมาเปิดประตูให้รู้ไหมว่ามันทรมานขนาดไหนน่ะ



“ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมค่อยคุยกัน” วินพนักหน้าเข้าไปข้างในห้องเพราะตอนนี้คนอื่นๆที่อาศัยร่วมตึกกำลังเปิดประตูห้องออกมาดู และส่งสายตามองด้วยความไม่พอใจเพราะเสียงที่เขาเคาะประตูกับเสียงคุยกันมันดังพอสมควร



“บ้าไงวะอยู่ดีๆมาขอเข้าห้องคนอื่น...รู้จักก็ไม่ใช่” พีทมองคนตรงหน้าด้วยความไม่ไว้ใจมือก็เอื้อมไปดึงประตูที่เปิดกว้างให้งับเข้ามา



“ผมไม่รู้จักซ้อแต่รู้จักกับผัวซ้อนะ” วินตอบหน้าตายต่างจากหน้าของพีทที่ขึ้นเครื่องหมายคำถาม



“ซ้อ” พีททวนคำชี้นิ้วมาที่ตัวเองงงๆ



“อือ” วินพยักหน้าลงเล็กน้อยแล้วอาศัยจังหวะที่พีทเผลอแทรกตัวเข้าไปในห้อง



“เฮ้ย!! เดี๋ยว!!” พีทที่พึ่งรู้สึกตัวร้องออกมาเสียงหลงปิดประตูห้องแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปยังจุดที่วางเครื่องครัว



“เฮียสั่งให้ซ้อกินข้าว” วินบอกและลงมือค้นเอาอาหารที่อาร์ตซื้อไว้ในตู้เย็นออกมา แกะถุงเทใส่ชามและเอาเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟให้ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว



“เดี๋ยวนะใครเฮีย? ใครซ้อ?” พีทคว้ามือที่วุ่นวายกับการแกะถุงอาหารของอีกฝ่ายเอาไว้และถามด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้เขาไม่เข้าใจอะไรเลยมันงงไปหมดงงจนที่ง่วงๆนี่ตื่นเต็มตา



“เฮียก็เฮียอาร์ตไง” วินว่าและดึงข้อมือตัวเองออกจากมือพีทจัดการกับถุงอาหารที่เหลือตรงหน้าต่อ



“ส่วนซ้อก็ซ้อไง...เมียเฮีย” คำพูดเรียบๆไม่คิดอะไรของวินเรียกสีแดงได้เต็มหน้าของพีท เจ้าตัวได้แต่อ้าปากพะงาบๆคิดหาคำพูดที่จะบอกอีกฝ่าย



“ไม่ใช่เมียเว้ย!! อย่าเรียกซ้อด้วย” พีทละล่ำละลักบอกจนลิ้นพันกันแทบจะพูดไม่เป็นคำมือไม้โบกไปมาเป็นพัลวันใบหน้าขาวแดงก่ำด้วยความอาย



“ไม่ได้หรอกเฮียสั่ง” วินว่าอย่างไม่สนใจท่าทางของพีทหันกลับไปเปิดไมโครเวฟและหยิบอาหารที่อุ่นเสร็จออกมา



“อะ...กินข้าว” วินวางจานอาหารลงตรงหน้าพีทและเลือกที่จะไม่สนใจอาการแปลกๆของอีกฝ่าย



“ไม่กิน...เลิกเรียกซ้อก่อน” พีทผลักจานอาหารตรงหน้าออกแล้วกอดอกมองอย่างไม่พอใจ



“เฮียบอกถ้าซ้อไม่กินพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียน” วินว่าหน้าตายแกล้งขู่ไปอย่างนั้นเอง แต่ดูแล้วน่าจะได้ผลเพราะซ้อของเขารีบคว้าจานข้าวมาตักกินมันทีทันใด



“ไม่ได้กลัวหรอกนะแค่หิว” พีทว่าอย่างวางฟอร์มตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ส่วนวินก็ได้แต่ส่ายหัวอมยิ้มขำไม่พูดอะไร



“เออนี่...ชื่อไรอ่ะหน้าคุ้นๆ” พีทถามออกไปทั้งๆที่เคี้ยวข้าวเต็มปาก ตาก็จ้องมองไปหน้าอีกฝ่ายไปด้วยรู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน



“วิน...แล้วซ้อล่ะชื่อไร” วินบอกพร้อมถามกลับเพราะคุยกันมาตั้งนานรู้จักกันร่วมวันเต็มๆ(ที่จริงเขารู้จักอีกฝ่ายเองคนเดียวล่ะนะ) จนถึงตอนนี้ที่มานั่งหาข้าวให้กันกินเขายังไม่รู้จักชื่อของซ้อเลย ทั้งที่ทำเหมือนคนสนิทกันเป็นชาติ



“พีท...รู้ชื่อแล้วเลิกเรียกซ้อด้วย” พีทว่ามือก็ตักข้าวเข้าปากกินเรื่อยๆ



“ไม่ได้หรอกเฮียสั่ง” วินยังยืนยันคำตอบเดิมอย่างแข็งขันเพราะคำสั่งเฮียคือเด็ดขาด ยกเว้นว่าเฮียจะกลัวเมียล่ะนะคำสั่งซ้อถึงจะสูงสุด



“ชิ...เพิ่มหน่อย” พีทส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอตัวเอง หยิบจานข้าวที่เกลี้ยงเป็นปลิดทิ้งส่งไปให้ วินที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม วินเองก็รับไปและตักข้าวเพิ่มให้โดยไม่พูดอะไร ทั้งที่ในใจนึกอยากถามเหมือนกันว่าเจ้าตัวไม่หิวไม่ใช่เหรอ แต่ก็กลัวจะเสียบรรยากาศเลยเลือกจะเงียบแทนดีกว่า



“คุ้นๆหน้าว่ะ” พีทรับจานข้าวมาแล้วตักเข้าปากกินด้วยความหิว ตาก็ยังมองวินอย่างสงสัยพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก



“ถ้าซ้อเรียนวิศวะก็คงจะคุ้นหน้าผมแหละ ผมปีสองวิดวะเครื่องกล” คำพูดของวินทำให้พีทถึงบางอ้อในทันที ก็ว่าแล้วทำไมถึงคุ้นหน้าที่แท้ก็รุ่นพี่ในคณะ แต่เดี๋ยวนะ...รุ่นพี่งั้นเหรอ



‘เหี้ยแล้ว!!!’



พีทอุทานในใจดังลั่นเมื่อนึกอะไรออกมือที่จับช้อนถึงกับอ่อนแรง ก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วส่งยิ้มหวานหยดแต่เหมือนแสยะยิ้มไปให้ เขาเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าคณะเขาเคร่งเรื่องความเคารพรุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วนี่เขาปีนเกลียวรุ่นพี่ไปไม่รู้กี่เกลียวแล้ว แถมยังต้องล่าลายเซ็นปีสองให้ครบถึงจะผ่านการรับน้อง อย่าว่าแต่เกียร์ที่จะได้เลยเอาให้ไม่โดนซ่อมก่อนดีไหม ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ทุกทีโง่ในเรื่องไม่ควรโง่นี่มันเกี่ยวพันถึงชีวิตความเป็นอยู่เลยนะเว้ย



‘พีทบอกเลยพีทไม่ได้แข็งแกร่งอย่างภายนอกหรอก...พีทอ่อนไหว ฮืออออออ’




“ซ้อเป็นไร...ปวดท้องเหรอ” วินถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ออกมา ขืนเป็นอะไรตอนนี้เขาตายคาตีนเฮียแน่ๆ



“เปล่าครับพี่” พีทตอบเสียงอ่อยพร้อมกับสรรพนามเรียกขานที่เปลี่ยนไป หวังว่าไอ้พี่วินมันจะเห็นใจรุ่นน้องตัวน้อยๆอย่างเขาบ้างนะ



“หือ...” วินมองพีทตาโตมองหน้าที่จืดเจื่อนของอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ ใบหน้าของซ้อตอนนี้เรียกได้ว่าไม่เหลือเค้าความกวน ความถือดีก่อนหน้าเลยสักนิด



“เมื่อกี้ซ้อเรียกผมว่าอะไรนะ” วินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด



“พี่ไง” พีทตอบเสียงอ่อยแต่ก็แฝงความเหวี่ยงนิดๆตามนิสัย คราวนี้วินออกอาการเหวอหนักยิ่งกว่าเก่ามองหน้าพีทด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยายามเก็บอาการเหวี่ยง เห็นแบบนี้ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมเฮียถึงจีบ ซ้อของเขามันน่ารักจริงๆนะแถมโคตรน่าแกล้ง



“คุยแบบเดิมเถอะซ้อ” วินบอกพีทอย่างเป็นกันเองทั้งที่ในใจอยากจะแกล้ง แต่ไม่พร้อมเสี่ยงกับตีนผัวซ้อจริงๆ



“ได้เหรอ” พีทถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะอึดอัดเหมือนกันที่ต้องมานั่งสุภาพ



“อือ...” วินพยักหน้ายืนยันส่งให้



“ก็ตามตำแหน่งยังไงซ้อก็ใหญ่กว่าล่ะนะ” วินว่าเพราะเอาจริงๆไม่ใช่แค่เขาหรอกเด็กวิศวะคนอื่นๆก็ต้องเรียกงี้ อภิสิทธิ์พิเศษเฉพาะเมียบอสเลยนะ



“ไอ้ตำแหน่งซ้อนี่มันใหญ่ขนาดนั้นเลย” พีทถามด้วยความสนใจตาเป็นประกายวิบวับ



“ก็ใหญ่พอที่หลายคนจะต้องเคารพ...เมียบอสนิ” วินตอบเรื่อยๆและคว้าเอาจานข้าวจากพีทไปล้างให้




พีทพยักหน้าหงึกงักกับตัวเองต่อข้อมูลที่พึ่งได้รับรู้สึกเหมือนตัวเองตัวใหญ่ขึ้นยังไงพิกล ไอ้ตำแหน่งซ้อนี่ดูไปมันก็ใหญ่ดีเหมือนกันนะ ระหว่างที่กำลังนั่งภูมิใจกับตำแหน่งใหม่ที่ได้มาแบบงงๆสมองก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก็ถ้าตำแหน่งมันจะใหญ่อย่างที่ว่าเขาก็ควรหาประโยชน์จากมันสิ อย่างเช่นเรื่องล่าลายเซ็น...



“นี่ไอ้พี่วิน” พีทเรียกพร้อมส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้ ผิดกับวินที่ได้รับรอยยิ้มหวานหยดจากพีทแต่กับรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล



...

...



“กูกลับได้ยังวะ” อาร์ตเงยหน้าขึ้นจากนาฬิกาข้อมือแล้วถามเพื่อนพร้อมคิ้วที่ขมวดพันกันยุ่ง



“พึ่งจะเที่ยงคืนรีบไปไหนวะ” ตองเป็นคนตอบแทนทุกคนพร้อมกับยื่นแก้วเหล้าที่ชงเสร็จไปให้อาร์ต



“ช่ายยยยย...ปกติตีสามก็ไม่เห็นรีบ” อ้นว่าเสียงยานคางแล้วหัวเราะคิกคักสะใจที่แกล้งเพื่อนได้




“กูก็ว่างั้นมีอะไรให้รีบ” กลอนพูดออกมาบ้างแล้วกระตุกยิ้มสะใจไม่ต่างกัน




“กวนตีน” อาร์ตยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเบาๆแล้วส่ายหัวด้วยความหน่าย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทั้งเพื่อนทั้งพี่ตอนนี้กำลังรุมแกล้งเขา




“ผิดเวลานิดหน่อยเมียมึงไม่โกรธหรอก” ตองว่าพร้อมกับตบไหล่อาร์ตให้กำลังใจ ซึ่งอาร์ตได้แต่ส่งยิ้มให้ทั้งที่ในใจอยากจะแหกปากบอกเหลือเกิน ว่าไม่โกรธจริงๆ...ไม่โกรธน้อยน่ะนะ



“ถ้าแฟนพี่เขาจะงี่เง่าขนาดนั้น ก็เลิกกับเขามาคบกับเนยดีกว่า” เนยเอ่ยขึ้นมาบ้างหลังจากที่นั่งเงียบมานาน พร้อมกับส่งยิ้มหวานออดอ้อนไปให้



เนยคือผู้ชายตัวเล็ก ผิวขาว หน้าตาน่ารัก เด็กคณะนิเทศฯเกย์รับคนดังของมหา’ลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงในหลายๆความหมาย เป็นหนึ่งในคู่นอนที่อาร์ตชอบและขึ้นเตียงด้วยบ่อยที่สุด จนหลายคนเดาว่าเนยเนี่ยแหละว่าที่ซ้ออีกคนของวิศวะแน่ๆ



“ไม่ได้หรอก” อาร์ตตอบพร้อมรอยิ้มละไมเมื่อนึกถึงหน้าเหวี่ยงๆของอีกคน พนันได้เลยว่าถ้าเขากลับไปคงอาละวาดแน่ๆ เมื่อเกือบๆสี่ทุ่มเห็นแต่ไอ้วินโทรมาฟ้องว่าโดนซ้อจิกหัวใช้เยี่ยงทาส คิดแล้วก็อยากหายตัวไปนอนกอดจริงๆนะ



“พี่อาร์ตใจร้ายกับเนยมากเลยนะ” เนยว่าอย่างกระเง้ากระงอดแล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนตักของอาร์ต รู้สึกเกลียดคนที่ตัวเองไม่เคยเห็นหน้าอย่างพีทขึ้นมาทันที รู้บ้างไหมว่าเขาอยากจะได้รอยยิ้มแบบนี้จากพี่อาร์ตขนาดไหน พยายามแทบตายแต่ไม่เคยได้ ในขณะที่ใครก็ไม่รู้อยู่ๆก็มาคว้ามันไปทั้งที่ไม่ต้องทำอะไรเลย



เนยรู้จักกับอาร์ตมานานและเป็นคนพิเศษของอาร์ตมาตลอด ถึงจะไม่ใช่แฟนกันแต่กล้าพูดเต็มปากว่าพิเศษกว่าคนอื่น พิเศษจนทุกคนและแม้แต่เจ้าตัวเองก็หวัง คิดไปไกลว่าจะได้ยืนอยู่ข้างๆ จนมาวันนี้ที่อาร์ตโทรมาและนัดให้ออกมาหา



เนยจำวินาทีที่ตัวเองรับโทรศัพท์ได้ดีความดีใจมันเอ่อล้นไปหมด ได้ยินมาเหมือนกันว่าช่วงนี้ที่อาร์ตหายไปเพราะกำลังติดเด็กใหม่ แต่การที่อีกฝ่ายโทรหาแสดงว่าคงเบื่อเด็กคนนั้นแล้วความหวั่นใจที่มีลอยหายไปในทันที สำหรับเขาแล้วยังไงก็ได้ขอแค่พี่อาร์ตกลับมา จะไปหาใครอีกกี่คนก็เรื่องของเขาสุดท้ายพี่อาร์ตก็จะรู้เองว่าใครดีที่สุด เขาเชื่อมาแบบนั้นตลอด



จนวันนี้เหมือนมีฟ้าผ่าลงมาทั้งๆที่ฝนไม่ตกเขาโดนบอกตัดขาดความสัมพันธ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าอีกฝ่ายเจอตัวจริงแล้วและคนนั้นไม่ใช่เขา รอยยิ้มที่พี่อาร์ตแสดงออกเวลาพูดถึงใครคนนั้นมันทำให้เขาเจ็บจนอยากจะอาละวาด แต่ไม่หรอกเขาไม่ทำเพราะพี่อาร์ตไม่ชอบคนแบบนี้ จะกำจัดศัตรูมันต้องวางแผนให้รัดกุม



“แต่ถ้าไปกับคนนั้นไม่ดี...เนยยังรอพี่นะฮะ” เนยส่งยิ้มหวานให้อาร์ตพร้อมกับก้มลงหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ



ฮิ้ววววววววววววว



เสียงโห่แซวดังขึ้นสนั่นทันทีกับสิ่งที่เกิดจนเนยนั่งหน้าแดงอายม้วนต้วนอย่างมีจริต ซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอของอาร์ต ส่วนอาร์ตได้แต่ส่ายหัวด้วยความขำกับเสียงโห่แซวของเพื่อนๆ ก่อนจะก้มลงมองเสี้ยวหน้าของเนยและยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ



เขาเองก็เคยคิดจะหยุดตัวเองกับเนยเหมือนกันแต่ไม่รู้ทำไมถึงหยุดไม่ได้ ทั้งที่เนยก็ดีทุกอย่างขยันเอาใจขี้อ้อนว่าง่าย เมื่อเทียบกับอีกคนที่เขาต้องตามเอาใจตามง้อมองด้วยตา...เนยก็ดีกว่าเห็นๆ แต่อย่างว่าเรื่องของหัวใจมันพูดกันยากเขามีความสุขที่ได้ทำแบบนั้น และไม่เสียดายเลยที่ต้องจบกับเนยไปทั้งๆแบบนี้




“อย่ารอพี่เลย...เนยรอพี่มานานแล้ว” คำพูดของอาร์ตทำเอาเนยรู้สึกจุกแบบไม่ต้องเสแสร้งเหมือนทุกครั้ง มันเหมือนว่าต่อให้ยังไงจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าเขาก็ไม่มีหวัง



“แค่เกิดมาหล่อ...ไม่มีจะแดกก็ชนะได้ หน้าตาแม่งชนะทุกสิ่ง” อ้นโอดครวญออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นท่าทาภาพออดอ้อนออเซาะของอาร์ตกับเนย พร้อมกับทำหน้าเสียใจซะเต็มประดาเรียกเสียงหัวเราะเฮลั่นได้ดังรอบโต๊ะ อ้นอยากมีแบบนี้บ้างทำไมอ้นไม่เคยได้วะแห้วแม่งได้ตลอด



“เรื่องพวกนี้มันอยู่กับวาสนา...มีเมียไม่รุ่งมึงก็ลองมีผัวดูดิวะ...ใช่ไหมเฮีย” กลอนตบไหล่อ้อนที่หมดอาลัยตายอยากเบาๆ ก่อนจะหันไปยักคิ้วส่งตองที่นั่งอยู่ข้างอ้น



“หึ” ตองหัวเราะในลำคอแต่ไม่พูดอะไรออกมาแล้วหันไปแย่งแก้วเหล้าออกจากมืออ้นมาถือไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแก้วน้ำอัดลมให้แทน



“เฮ้ยเฮีย!! เอาแก้มผมมา” อ้อนโวยวายดังลั่นพยายามแย่งแก้วตัวเองคืน



“หยุด!! ไม่งั้นกูจับซ่อม” ตองว่าดุๆพร้อมกับชี้นิ้วห้ามเรียกใบหน้างอง้ำจากอ้อนทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะให้ไปจิบแก้วน้ำในมือด้วยความเซ็ง พี่ตองแม่งโรคจิตผ่านมาสามปีแล้วยังจะซ่อมไม่เลิก



“ฉิบหาย” อ้นครางออกมาเสียงแผ่วเมื่อหันหน้าหนีรุ่นพี่แต่ดันไปเจอคนไม่คาดฝันแทน พร้อมๆกับเสียงเฮฮารอบข้างที่เงียบลงแบบไม่ได้นัดหมาย



“สัสอาร์ต” อ้นเอามือสะกิดเพื่อนยิกๆด้วยท่าทางร้อนรนแล้วชี้ไม้ชีมือไปทางด้านหลัง




“อะไรวะ” อาร์ตขมวดคิ้วมุ่นกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของอ้นก่อนจะหันหลังกลับไปมองตาม ก่อนจะหัวใจหล่นลงไปแทบจะถึงตาตุ่มเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เขาคิดว่านอนอยู่ที่ห้อง กับใบหน้าเจื่อนๆของไอ้วินที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้



“น้องพีท…” อาร์ตครางเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงแผ่วก่อนจะรีบผลักร่างเล็กที่นั่งบนตักให้ลงไปอย่างลนลาน กลัวว่าเด็กดื้อของเขาจะเข้าใจผิดหรือคิดไปไกล แต่ไม่ว่าอาร์ตจะพยายามผลักคนบนตัวให้ลงไปแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่ยอมกระดิกแถมยังเกาะเขาแน่นยิ่งกว่าปลิง



พีทมองหน้าอาร์ตที่ออกอาการหวั่นวิตกสลับกับมองใบหน้าหวานของผู้ชายอีกคนที่อยู่บนตัก ด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไรทั้งๆที่ในใจเดือดจนเป็นลาวาในภูเขาไฟใกล้ระเบิด



พีทยืนกำหมัดและเม้มปากตัวเองแน่นเพื่อระงับความรู้สึกที่กำลังตีวนขึ้นมาในอก มันจุกและเจ็บจนพูดไม่ออกน้ำตาเหมือนจะไหลยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่เป็นคนบอกเขาเองแท้ๆว่าสี่ทุ่มจะกลับแต่นี่มันหมายความยังไง นอกจากสี่ทุ่มไม่กลับยังมานั่งให้ไอ้หน้าแต๋วนี่ออเซาะแล้วทิ้งเขาที่สภาพกึ่งๆยับให้นอนรอที่ห้อง ถ้าเขาไม่มาตามจะต้องโง่อีกนานแค่ไหนวะ หน้าไหนก็สันดานเดียวกันหมด



“พีท!!!” อาร์ตร้องเรียกเสียงหลงผลักร่างเล็กบนตักลงไปกลิ้งบนพื้นอย่างลืมตัว เมื่อเห็นว่าพีทหันหลังเดินหนีไปโดยที่ไม่พูดหรือโวยวายอะไรเลย



“โอ๊ย!!! เนยเจ็บนะฮะ” เสียงเล็กๆประท้วงออกมาอย่างกระเง้ากระงอด



พีทที่หยุดเดินเพราะเสียงเรียกของอาร์ตหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่ายช้าๆ ก่อนจะกำหมัดแน่นเมื่อเลื่อนสายตาไปเจอใครอีกคนกำลังเกาะแขนอาร์ตอยู่ แล้วก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิมเมื่อสายตาไปปะทะกับอีกฝ่ายที่มองมาอย่างท้าทาย



“พี่อาร์ตฮะ คืนนี้ไปค้างกับเนยนะฮะ เนยจะเซอร์วิสแบบที่พี่อาร์ตชอบทั้งคืนเลย” เนยออดอ้อนเสียงหวานพร้อมเขย่งขึ้นหอมแก้มอาร์ตเบาๆกอดแขนอาร์ตแน่นขึ้นและส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้พีท ไม่ต้องให้ใครบอกเนยเองก็รู้โดยสัญชาตญาณว่าผู้ชายตรงหน้าคือสาเหตุที่ทำให้พี่อาร์ตมาบอกเลิกยุ่งกับเขาแน่ๆ แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมละในเมื่อเขามาก่อนอยากได้มันก็ต้องสู้กันสักตั้ง



พีทถึงกับหน้าตึงที่โดนประกาศสงครามซึ่งๆหน้าจ้องตากับอีกฝ่ายที่มองมาอย่างกวนโมโหไม่วางตา ถ้าเกิดเป็นในการ์ตูนคงได้เห็นประกายไฟออกจากตามาฟาดฟันกัน หรือไม่ก็มีรูปสัตว์ดุร้ายสองตัวเป็นแบ็กกราวระหว่าง



“ซ้อ…” วินยอมเสี่ยงตายส่งเสียงเรียกออกไปเพราะบรรยากาศชักจะมาคุ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือตาเขียวปั๊ดที่สะบัดมามองอย่างกินเลือดกินเนื้อจากพีท ก่อนที่เจ้าตัวจะหันกลับไปทำสงครามสายตาต่อ



“เฮีย…” วินเปลี่ยนเป้าหมายไปหาอาร์ตเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอือกเมื่ออาร์ตมองอยู่ก่อนแล้วอย่างคาดโทษ พอหันไปมองคนอื่นๆแต่ละคนก็ไม่ได้สนใจชีวิตน้อยๆของไอ้วินเลยสักนิด



“พีทครับ พี่…” อาร์ตดึงแขนออกจากอ้อมกอดของเนยแล้วเดินไปหาพีท ตั้งใจจะรีบอธิบายทุกอย่างเพราะกลัวีกฝ่ายเข้าใจผิด และเรื่องมันจะยุ่งเหยิงพันกันอีรุงตังนังมากไปกว่านี้



“........” พีทเหลือบตามองหน้าอาร์ตเล็กน้อยและสะบัดข้อมือออกจากกาาเกาะกุมของอาร์ต ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนอาร์ตที่โต๊ะ



“เอาสักหน่อยไหมน้อง” อ้นยื่นแก้วเหล้าให้พีทอย่างนึกสนุก แต่ยังไม่ทันที่พีทจะรับจากมืออ้นอาร์ตก็คว้าไปกินแทน



“อยู่เฉยๆเลยสัส!!” อาร์ตตบหัวอ้นพร้อมกับมองดุๆแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพีท แล้วยื่นมือไปดึงมือของพีทมากุมเอาไว้

เนยที่เห็นแบบนั้นก็ตามมาสบทบแล้วนั่งลงข้างๆอาร์ต กอดแขนของอาร์ตพร้อมทั้งซบลงไปที่ไหล่ รวมทั้งส่งสายตาท้าทามาให้พีท



พีทกำมือแน่นจนรู้สึกเจ็บกระตุกมือออกจากมืออาร์ต แล้วไปคว้าเอาแก้วเหล้าจากมือกลอนที่กำลังยกขึ้นเพื่อดื่มมากระดกเข้าปากรวดเดียว



ปึ่ก!!!!



พีทวางแก้วเปล่ากระแทกโต๊ะเสียงดังแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเนย ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากส่งกลับไปให้



‘เดี๋ยวรู้เลยไอ้หน้าหวาน ผัวกูใครก็ห้ามยุ่งโว๊ย!!!’



2 Be Con...


++++++++++++++

ยังไม่ไม่ตายคับพี่น้อง

แค่ยุ่งๆผสมอู้ แต่กลับมาละ

รักคนอ่านคับ ^^

ปล.เปิดจองอาร์ตพีทละนะ รายละเอียดสอบถามทางแฟนเพจจ้า




 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องเอาให้ตาย!!!!

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อาร์ตก็เป็นบ้าใบ้ ไล่ให้เลิกเกาะแกะดิ๊  เห็นละหมั่นเขี้ยวอาร์ตนะนี่ อยากเตะก้านคอ ทำตัวเป็นปฝพระเอกหนังไทยอีกละ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
จัดการนังเนยเสร็จ ลุยคนของเราต่อ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พีทจัดการเลย เอาให้อีเฮียอาร์ตเข็ด

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
น้องพีทคงเห็นว่าบ่ายเบี่ยงไปก็ไม่เป็นผล ยอมรับเลยแล้วกัน
น่าปลื้มออกได้เป็นซ้อใหญ่แห่งวิศวะ อำนาจอยู่ในมือเห็นๆ :laugh:
แค่พี่อาร์ตยอมสยบคนอื่นก็ไม่ต้องพูดถึงแล้วล่ะนะ
เหลือก็แต่มือที่สาม ประกาศสงครามกันโต้งๆขนาดนี้
น้องเนยก็น่ารักดี ไปหาคนที่เขารักเราดีกว่านะน้องนะ
อย่ามาทำให้ชีวิตครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกเลย :hao3:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 20 -



                ‘ว่าแต่มันต้องทำยังไงวะ’




พีทคิดในหัวอย่างเหนื่อยใจจนอยากยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่งั้นก็ใช้มือทึ้งหัวตัวเองแรงๆแทนไอ้คิดน่ะใครๆมันก็คิดได้แต่ปฏิบัตินี่สิเขาทำกันยังไง กรี๊ดใส่หน้าแล้วกระชากหัวมาตบเหมือนละครหลังข่าวก็ไม่น่าจะดีเท่าไหร่ เสียภาพพจน์ความเป็นชายหมดไอ้ของแบบนั้นเขาต้องให้ผู้หญิงทำกัน



                ปึ่ก! ปึ่ก! ปึ่ก!



                แก้วในมือถูกพีทกำจนแน่นเหมือนจะแตกละเอียดในไม่ช้า เจ้าตัวจับแก้วในมือกระแทกลงบนพื้นโต๊ะเป็นจังหวะด้วยความหงุดหงิด ตาก็มองภาพออเซาะฉอเลาะของเนยที่เอนตัวซบอกเกาะแขนอาร์ตเขม็ง รู้สึกอยากให้ตัวเองเกิดเป็นผู้หญิงก็วันนี้แหละ พ่อจะกระชากออกมาตบให้คว่ำ



                เนยกับพีทตอนนี้เหมือนงูจงอางกับพังพอนไม่มีผิด ต่างฝ่ายต่างนั่งจ้องหน้าส่งรังสีอาฆาตฟาดฟันใส่กันอย่างไม่มีใครยอมถอย ถ้าสบโอกาสเมื่อไหร่คงได้กระโจนใส่กันในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ทำให้ผู้คนรอบข้างได้แต่นั่งมองด้วยความลุ้นระทึกหายใจไม่ทั่วท้อง แม้แต่เสียงก็ยังไม่มีใครกล้าเปล่งมันออกมาให้ได้ยิน




                ในขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับเหตุการณ์ตรงหน้า ตัวต้นเหตุอย่างอาร์ตกลับนิ่งเฉยมองทุกอย่างด้วยแววตาไหวระริกเป็นประกายแห่งความชอบใจ แต่พยายามข่มทุกอย่างให้นิ่งและไม่กระโตกกระตากแสดงออกอะไรไป ทั้งที่ในใจตอนนี้อยากจะโห่ร้องดังๆและดึงเด็กดื้อมากอดจูบให้หนำใจ จากนั้นก็ลากขึ้นเตียงไปจัดหนักสักรอบสองรอบ อะไรมันจะน่ารักได้ขนาดนี้วะ...ให้ตายเถอะ



ตอนแรกเขาตั้งใจจะรีบอธิบายทุกอย่างให้พีทฟังเพราะไม่อยากให้เข้าใจผิด และทำให้บรรยากาศดีๆระหว่างเราพังลงด้วยเรื่องงี่เง่า แต่ว่ามันก็แค่ความคิดในตอนแรกเท่านั้นตอนที่น้องไม่ได้แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ออกมา ปฏิกิริยาที่เข้าใจกันได้ง่ายๆว่า ‘หึง’



เขาเองก็ไม่ได้อยากจะล้อเล่นกับความรู้สึกน้องแต่ว่าเขาเองก็คนๆนึงเหมือนกัน ถึงจะหน้ามึนชนิดที่ชาวบ้านเรียกว่าหน้าด้านถึงจะเดาออกว่าน้องรู้สึกกับเขายังไง แต่เขาก็อยากให้น้องพูดหรือแสดงอะไรออกมมากกว่านี้บ้าง เพื่อความแน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเองคนเดียวจริงๆและสถานกราณ์ตอนนี้มันก็เอื้ออำนวยให้พิสูจน์ จะปล่อยไปก็คงจะหาโอกาสแบบนี้ได้ยาก



ตอนนี้น้องเองก็คงยังไม่รู้ตัวแน่ๆว่าตัวเองแสดงอาการท่าทางแบบไหนออกมา แต่เขานี่สิดีใจจนเนื้อเต้นแทบจะทำนิ่งต่อไปไหว บอกรักไปก็ทำมึนไม่ยอมรับรู้แต่ยอมให้เขากอดทั้งๆที่ปากบอกไม่ใช่แฟน ให้เขาวนเวียนใกล้ๆคอยเข้ามาอ้อนให้หลงแต่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ แถมตอนนี้มีออฟชั่นเสริมเป็นอาการหึงหวงเหลือแค่คำพูดแล้วล่ะที่น้องยังไม่หลุดปากออกมา




“พี่อาร์ตฮะ” เสียงเรียกอ้อนๆข้างตัวทำให้อาร์ตหลุดจากความคิดของตัวเองแล้วหันไปมองเนยที่นั่งซบตัวเองอยู่



“พี่อาร์ตวันนี้ไปส่งเนยที่ห้องได้ไหมฮะ” เนยอ้อนเสียงหวานพร้อมกับทำตาปริบๆเหมือนลูกแมวส่งให้อาร์ต ก่อนจะปรายตาไปมองพีทที่จ้องตัวเองเขม็งและส่งยิ้มเยาะท้าทายไปให้



“นะฮะพี่อาร์ต” เนยอ้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเอาหัวถูไถที่ไหล่ของอาร์ตไปมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตอบรับอะไร



ทางด้านพีทที่เห็นท่าทางแบบนั้นของเนยก็แทบจะพุ่งเข้าใส่ จนวินที่ยืนอยู่ใกล้ๆต้องรีบมาจับตัวเอาไว้พร้อมกับส่งสายตาบอกอาร์ตให้เลิกเล่นอะไรบ้าๆ ในขณะที่อ้นกลับยุส่งอย่างนึกสนุกไม่ต่างจากคนอื่นที่นั่งมองอย่างชอบใจ



พีทกำแก้วแน่นยิ่งกว่าเก่าเพราะความโมโหแต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ทั้งที่หวงจนแทบบ้าไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง แต่จะให้ไปตบกันแย่งผู้ชายบอกเลยไอ้พีทไม่ทำ แต่จะปล่อยไปเฉยๆให้มานั่งเยาะเย้ยหยามหน้ากันแบบนี้มันยอมไม่ได้



“พี่อาร์ตฮะ…คืนนี้ค้างห้องเนยนะฮะ” เนยที่เห็นว่าพีทเอาแต่นั่งจ้องไม่ทำอะไรตัวเองก็ยิ่งได้ใจ ลงมือออดอ้อนอาร์ตต่อท้าทายพีทอย่างต่อเนื่อง ในใจก็นึกสะใจที่พีทไม่กล้าทำอะไรตัวเอง ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เกย์โดยกำเนิดคงโดนแล้วมาเป็น เลยไม่กล้าจะแสดงออกอะไรมากหน้าบางกลัวอาย คนแบบนี้ไม่เห็นจะมีอะไรให้เขาต้องยอมเสียพี่อาร์ตไปเลย ไม่กล้าก็นั่งหวงอยู่แบบนั้นแหละ



“หึ...ฮะๆ” เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาเบาๆจากพีททำให้เนยขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ต่างจากคนอื่นๆที่หันไปมองเหมือนกันด้วยความแปลกใจ แม้แต่ตัวอาร์ตเองก็ยังสงสัยและตามอารมณ์ของพีทไม่ทัน



“หัวเราะอะไร” เนยถามด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆมองพีทที่เอาแต่หัวเราะด้วยใบหน้าบึ้งตึง ยิ่งเห็นสายตาของพีทที่มองมาอย่างตลกขบขันยิ่งไม่พอใจ



ส่วนอาร์ตยังคงเลือกที่จะเงียบรอดูท่าทีต่อไป เขาเองอยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็กดื้อจะทำอะไร แต่ให้เดาจากท่าทางเจ้าตัวคงคิดอะไรออกแล้วแน่ๆ ดูรอยยิ้มแสบๆนั่นก็รู้แต่ที่ไม่รู้คือคิดอะไรได้แค่นั้น



“ไอ้พี่วิน” พีทไม่ตอบคำถามเนยแต่หันไปเรียกวินที่อยู่ใกล้ๆแทน ส่งผลให้เนยแสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้าชัดเจนที่โดนเมิน



“อะไรครับซ้อ” วินขานรับด้วยความไม่เข้าใจยังคงงงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของพีทอยู่



“เคยเห็นแรดตัวผู้ไหม” คำถามของพีททำเอาวินคิ้วขมวดพันกัน ตามไม่ทันจริงๆว่าอีกฝ่ายจะสื่ออะไร



“ไม่แน่ใจครับ” วินตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ไอ้แรดน่ะใครๆก็เคยเห็น แต่เขาไม่รู้หรอกว่าตัวไหนมันตัวผู้ตัวเมีย อีกอย่างเขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ในคำถามของซ้อเลยให้ตายสิ



“งั้นอยากแน่ใจไหม” พีทยังคงถามต่อด้วยท่าทางใจเย็นหยิบแก้วเหล้าที่อ้นเติมให้มาจิบอย่างสบายอารมณ์



“อะ...เอ่อ...คือ…ก็ได้ครับ” วินออกอาการลังเลไม่น้อยไม่กล้าตอบรัยอะไรออกไป เพราะกลัวว่าจะโดนลากไปเอี่ยวในเรื่องแปลกๆ ตั้งใจจะปฏิเสธแต่ก็โดนพีทถลึงตาใส่แบบบังคับ เลยต้องจำยอมตอบนามใจออกไป



“นั่นไง…แรดตัวผู้” พีทเน้นคำให้ได้ยินชัดๆอย่างทั่วถึงก่อนจะปรายตาไปทางเนย



“ไม่ต้องไปไกลถึงสวนสัตว์ก็มีให้เห็นตัวเป็นๆ แถมแรดพอๆกับตัวเมีย” คำพูดต่อมาของพีททำเอาทุกคนอ้าปากค้างมองมาที่เจ้าตัวอย่างตกตะลึง แม้แต่ตัวอาร์ตเองยังอึ้งกับความแรงที่ไม่คิดว่าพีทจะมี ขนาดพอจะสัมผัสและรู้ถึงความปากร้ายของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะหลอกด่าได้เจ็บขนาดนี้ เล่นเอาเนยที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงได้แต่อ้าปากพะงาบๆเลยทีเดียว



“มึงด่าใครแรด” เนยตวาดถามเสียงดังใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโห ผิดกับพีทที่ท่าทางสบายๆแถมยังกระตุกยิ้มมุมปากกวนๆส่งให้ บอกแล้วว่าให้ตบให้ใช้กำลังเขาไม่ทำแต่ถ้าเรื่องด่าขอให้บอก การันตีว่าหมานี่วิ่งกันเป็นฝูงชนิดนับสายพันธุ์ไม่ถูกเลยล่ะ



“อ้าว...สรุปแรดเหรอ? แรดสินะ” พีทเอียงคอน้อยๆและทำหน้าใสซื่อใส่เนย ทำตัวเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากคนรอบข้างได้ทั่วสารทิศ บางคนก็ถึงกับยกนิ้วโป้งส่งให้อาร์ตเป็นการบอกว่านับถือในความแสบของพีท ขนาดตองยังส่งซิกชอบใจบอกอาร์ตกลายๆว่าซ้อคนใหม่ของวิศวะสอบผ่าน



ตรงข้ามกับเนยที่หน้าแดงก่ำด้วยความอายปนโมโหที่โดนเอาคืน ได้แต่ยืนเม้มปากกำหมัดอย่างขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะเบนมาหาอาร์ตและเกาะแขนอีกฝ่ายแน่นเพื่อหาตัวช่วย



“พี่อาร์ตฮะเขาว่าเนย” เนยทำหน้าตาน่าสงสารเขย่าแขนฟ้องอาร์ต แถมบีบน้ำตาเพิ่มเข้าไปอย่างมีจริตเพื่อขอความเห็นใจ แต่อาร์ตกลับไม่ได้สนใจท่าทางนั้นของเนยเลยสักนิด เพราะเจ้าตัวมัวแต่อมยิ้มกลั้นขำกับการกระทำของพีท



“พี่อาร์ต” เนยเรียกเสียงดังด้วยความฉุนเมื่ออาร์ตไม่สนใจตัวเอง แถมยังผสมโรงหัวเราะไปกับคนอื่นๆอีกด้วย



“ฮ่าๆเนยว่าไงนะ” อาร์ตพยายามกลั้นขำและหันไปถามเพราะเมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจฟัง



“พี่อาร์ต!!” เนยออกอาการกระเง้ากระงอดส่งสายตาตัดพ้อไปให้อาร์ต จนพีทที่นั่งมองอยู่ก่อนแล้วหมั่นไส้ลุกขึ้นยืนพรวดพราด



“ไอ้พี่อาร์ต!!!” พีทตวาดเรียกเสียงเขียวตาก็จ้องเนยแบบกินเลือดกินเนื้อ



“ครับ” อาร์ตแกล้งขานรับเสียงอ่อยและทำหน้าเป็นหมาหงอยส่งให้พีท



“กลับห้อง!!!” พีทสั่งเสียงเข้มแล้วออกเดินนำไม่อยากอยู่ตรงนี้นานกว่าเดิมแม้แต่วินาทีเดียว กลัวอดใจไม่ไหวมือไม้ลั่นเผลอยกเท้าถีบโครมออกไปแล้วชาวบ้านจะได้ตกใจกันมากกว่านี้



"จ่ะ" อาร์ตรับคำแล้วลุกขึ้นเดินตามอย่างว่าง่ายวินาทีนี้น้องสั่งให้คลานตามเขาก็เต็มใจทำเลยล่ะ ความรู้สึกนี่แบบโคตรจะปลื้มถ้ารู้ล่วงหน้าทำไปนานแล้ว



"ไม่ได้นะ...ไหนพี่อาร์ตบอกคืนนี้จะอยู่กับเนยล่ะฮะ" เนยโวยวายออกมาทันทีพร้อมกับรีบเดินตามไปดึงแขนอาร์ตไว้ไม่ให้เดินไปกับพีท ยื้อเอาไว้สุดแรงจนอาร์ตต้องหยุดเดินรวมทั้งพีทที่ต้องพลอยหยุดไปด้วย



"หลบ!!!...เมื่อกี้มึงว่าไงนะใครจะอยู่กับมึง" พีทผลักอาร์ตให้หลบทางด้วยความฉุนก่อนจะเอาตัวเองมายืนประจันหน้ากับเนยแทน




"หูหนวกเหรอ.....ก็พี่อาร์ตไง" เนยเงยหน้าขึ้นตอบพีทอย่างไม่สะทกสะท้านแม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่าพีทมากพอควร แถมยังยักคิ้วกวนประสาทส่งให้อีกฝ่ายอย่างไม่กลัวตาย



"แน่ใจ" พีทก้มลงมองคนที่ตัวเตี้ยกว่าแล้วส่งยิ้มเย็นไปให้



"เออ!!" เนยกระแทกเสียงตอบพร้อมถลึงตาใส่อย่างไม่คิดจะยอมแพ้ ยังไงวันนี้เขาก็ไม่ให้พี่อาร์ตกลับไปกับไอ้หน้าวอกนี่หรอก



"ได้...กูให้อยู่" พีทว่าพร้อมกับยิ้มกริ่มละมุนละไมส่งให้ กลายเป็นเนยเองที่ต้องตกใจผสมงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของพีทแววตาเริ่มมองที่พีทด้วยความระแวงไม่ไว้ใจ




"แต่กูจะอยู่ด้วย" พีทเองก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายงงนานพูดประโยคต่อมาในทันทีพร้อมกับรอยิ้มเมื่อครู่ที่หายไปทันควัน



"กูไม่ให้มึงอยู่" เนยเองก็สวนกลับเสียงแข็งทันที



"อันนั้นก็เรื่องของมึง.....แต่กูจะอยู่" พีทว่าอย่างไม่สนใจแถมยักไหล่ให้อย่างไม่ยีหระต่อท่าทางของเนย



"งั้นอยู่ให้ถึงตอนกูขึ้นเตียงกับพี่อาร์ตละกัน" เนยท้าทายออกไปด้วยความหมั่นไส้และเหมือนจะได้ผล เพราะใบหน้าที่แสดงความเหนือกว่าของพีทเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที



"แล้วไงล่ะเปิดห้องเลยไหมกูจะได้เตรียมตัว" แต่มันก็แค่แป๊บเดียวเพราะพีทก็กลับมาตั้งสติได้และสวนกลับทันที



"มึงจะเตรียมตัวอะไร" เนยมองหน้าพีทด้วยความไม่เข้าใจ



"ก็มึงจะพาพี่อาร์ตไปทำอะไรล่ะกูจะทำด้วยไง" พีทกอดอกแล้วกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้เนยแล้วค่อยๆเดินรุกคืบเข้าหาอีกฝ่าย



"มึงหมายความว่าไง" เนยเดินถอยหลังหนีพีทและมองอีกฝ่ายด้วยความระแวง สัญชาตญาณในตัวร้องเตือนถึงความไม่ชอบมาพากล



"ไปเป็นผัวมึงเพิ่มไงเคยลองไหมสามพี...กูจะจัดให้ถึงใจเลย" พีทคว้าเอวของเนยแล้วดึงเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับใช้มืออีกข้างเชยปลายคางของเจ้าตัวขึ้น ส่วนเนยที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะโดนเอาคืนด้วยวิธีแบบนี้ก็ได้แต่ยืนตะลึงนิ่งค้างอยู่ในอ้อมกอดของพีท



"เฮ้ย!!! น้องพีท" อาร์ตถึงกับร้องเสียงหลงมองพีทอย่างตะลึงเพราะคิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะเล่นแบบนี้ ก่อนจะปรี่เข้าไปกระชากตัวพีทออกมาจากเนยแล้วกอดไว้แน่น พอเหลือบไปมองเนยก็อยากจะร้องไห้ทำไมยืนหน้าแดงแบบนั้นวะ



"ซ้อ!!!" วินเองก็อุทานออกมาเสียงดังไม่แพ้กันมองพีทด้วยความเหลือเชื่อ ดูจากภายนอกซ้อเขาไม่น่าจะปากร้ายหรือทำอะไรแบบนี้ได้เลย




"แร็งส์!!!!" อ้นครางออกมาเบาๆไม่คิดเหมือนกันว่าเพื่อนสะไภ้จะแรงได้ขนาดนี้ คนเรานี่มันดูภายนอกไม่ได้จริงๆ



“กลับเดี๋ยวนี้เลยน้องพีท” อาร์ตว่าเสียงเข้มพร้อมกับกอดพีทไว้แน่น ไอ้ความสนุกก่อนหน้าปลิวหายเปลี่ยนเป็นความเครียดแทน ชาวบ้านที่ไหนเขาหึงผัวกับกิ๊กแล้วเลือกกำจัดกิ๊กผัวด้วยการอาสาไปเป็นผัวอีกฝ่ายบ้าง อยากจะผ่ากะโหลกเมียเด็กตัวเองออกมาดูจริงๆว่าคิดอะไรในหัว



“ถ้าอยากได้ผัวเพิ่มก็บอกนะ” พีทตะโกนบอกเนยอีกครั้งอย่างชอบใจยิ่งเห็นอีกฝ่ายเงียบยิ่งได้ใจ ให้มันรู้ซะบ้างว่าเล่นกับใครอยู่ ถึงเขาจะมีผัวและผัวคนแรกแต่ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านั้นจะหน่อมแน้มไม่เคยมีเมียมาก่อน เห็นแบบนี้เขาก็เสือผู้หญิงคนนึงเหมือนกันนะแถมกล้าพูดได้เต็มปาก ว่าทำหน้าที่ผัวได้ดีกว่าหน้าที่เมียเป็นไหนๆ ท้าให้เลือกเลยว่าจะเอาสวรรค์ชั้นไหน...จัดได้ถึงใจแน่นอน



“พอๆกลับห้องเลยน้องพีท...ไอ้วินไปส่งเนยด้วย” อาร์ตหันไปสั่งรุ่นวินเพราะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากให้เนยกลับคนเดียว ยอมรับว่าเป็นห่วงแต่ก็ในฐานะพี่น้องเท่านั้น



“ครับเฮีย” วินเองก็รับคำแล้วจูงมือเนยที่ยังตะลึงไม่เลิกพาไปขึ้นรถเพื่อส่งกลับบ้าน



พีทที่เห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของอาร์ตก็สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แล้วเดินหนีออกไปอย่าไม่พอใจ อาร์ตเลยได้แต่มองตามแล้วส่ายหัวเบาๆก่อนจะหันกลับมาหาพวกเพื่อนและรุ่นี่ของตัวเอง



“กลับก่อนนะพวกมึง...ผมกลับนะพี่” อาร์ตบอกลาเพื่อนและยกมือไหว้ตองซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับและโบกมือไล่



“ฮ่าๆ ง้อดีๆนะมึงบอกเลยเพื่อนสะไภ้คนนี้ก็ให้ผ่าน” อ้นตะโกนตามหลังอาร์ตแล้วหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ อาร์ตเลยหันกลับมาชูนิ้วกลางส่งให้เป็นการสั่งลาก่อนจะรีบวิ่งตามหลังพีทที่เดินห่างออกไป




“ปล่อย!!!” พีทว่าเสียงแข็งใส่อาร์ตและพยายามสะบัดแขนที่โดนจับให้หลุด แต่อาร์ตก็ไม่สนใจจัดการลากพีทไปหามอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้หลังร้านแล้วหยิบหมวกกันน็อคมาสวมให้ตามปกติ พีทที่กำลังอารมณ์ขุ่นมัวเลยไม่ยอมง่ายๆแล้วกระชากหมวกมาถือเอาไว้เอง ก่อนจะยกกำปั้นทุบลงไปบนอกอาร์ตเต็มแรงเพื่อระบายความโกรธ



“โอ๊ย!!!” อาร์ตร้องออกมาดังลั่นด้วยความเจ็บยกมือขึ้นลูบอกตัวเองไปมา หันไปสบตาเจ้าของฝ่ามืออรหันต์ก็เจอสายตาดุๆของอีกฝ่ายที่ถลึงมองมาด้วยความไม่พอใจ แถมด้วยการชี้หน้าคาดโทษเขาอย่างเอาเรื่องแต่มันก็ทำให้อุ่นใจ อย่างน้อยๆถ้าน้องมีอารมณ์โมโหแสดงว่าไม่งอนเท่าไหร่ถ้าเงียบแล้วไม่พูดอันนี้คงต้องคิดหนัก



“กลับห้องเลยเนอะ” อาร์ตถามเสียงนุ่มใบหน้าเปื้อนยิ้มทำมึนใส่ ผิดกับพีทที่ยืนใบหน้างอง้ำจ้องอาร์ตเขม็ง



“เออ!!!” พีทกระแทกเสียงตอบแล้วเขวี้ยงหมวกกันน็อกในมือใส่อาร์ต ก่อนจะเดินกระแทกเท้าปึงปังไปนั่งคร่อมบนรถรอกอดอกสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางอย่างงอนๆ ส่วนอาร์ตที่โดนฤทธิ์หมวกบินกะทันหันก็ได้แต่ยืนตัวงอเพราะจุก



อาร์ตได้แต่ส่ายหัวเบาๆให้กับความแสนงอนที่น่ารักน่าเอ็นดูของพีท แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าตัวเพื่อสวมหมวกให้อีกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆเพราะพีทยกมือปัดทิ้งตลอดเวลา แถมเอี้ยวตัวหนีไม่ยอมให้เข้าใกล้



“พีท” อาร์ตทำเสียงดุใส่เพื่อหวังให้เจ้าตัวอยู่นิ่งๆ และมันก็ได้ผลเพราะพีทหยุดอยู่เฉยๆทันที แต่ดวงตาเรียวกลับมีน้ำใสๆคลอให้เห็น



“เฮ้ย!! ไม่เอาอย่าร้อง พี่ไม่ได้ว่า” อาร์ตถึงกับออกอาการร้อนรนเพราะไม่คิดว่าพีทจะร้องไห้ ก็เมื่อกี้ยังเก่งกล้าสามารถแสดงอภินิหารอยู่เลย อารมณ์อะไรมันจะเปลี่ยนกันเร็วขนาดนั้น



พีทมองอาร์ตด้วยสายตาตัดพ้อแบบที่ตัวเองไม่รู้ตัว แล้วกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาไม่ให้ไหลลงมา จู่ก็เกิดอาการน้อยใจขึ้นมาซะงั้นเขาไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย มันดูอ่อนไหวง่ายไปกับทุกอย่างมันไม่ใช่ตัวเอง



“จะทำอะไรพี่ก็ได้แต่ขอร้องอย่าพึ่งตัดสินกัน ให้พี่ได้อธิบายก่อนนะครับ” อาร์ตจับปลายคางพีทให้หันมาหาแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้



“พี่ยอมรับผิดทุกอย่างเลย” รอยยิ้มของอาร์ตกับคำพูดที่เจ้าตัวส่งออกมา ทำให้พีทพยักหน้ายอมรับอย่างลืมตัว ไอ้พี่อาร์ตมันฉลาดรู้ดีว่าเขาแพ้ทางถึงได้ทำอะไรแบบนี้ โคตรนิสัยเสียเหอะ... อย่าให้ถึงทีเขาบางละกัน ส่วนอาร์ตได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจกับท่าทางของพีท



“กลับห้องเรานะ” อาร์ตใช้ปลายนิ้วเกลี่ยที่แก้มใสของพีทแล้วหันไปขึ้นรถเพื่อพาอีกฝ่ายกลับ



ปึ่ก!!!



“อุ่ก!!!” อาร์ตถึงกับครางออกมาในลำคอเมื่อโดนพีทที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง เอาหัวที่สวมหมวกกันน็อกเรียบร้อยโขกเข้ากลางหลังเต็มแรง ทั้งเจ็บทั้งขำไม่รู้ว่ากว่าเจ้าตัวจะหายงอน เขาจะช้ำในตายก่อนไหมแรงไม่น้อยเลยนะเห็นตัวเล็กๆแบบนี้



พีทยังเอาหัวโขกหลังอาร์ตต่อเนื่องเพื่อระบายความรู้สึกหลายอย่างในใจ แต่คำว่า ‘กลับห้องเรานะ’ ที่อีกฝ่ายพูดเมื่อกี้มันอุ่นวาบไปทั้งใจ จนเขาหุบยิ้มไม่ลงเลยล่ะ





2 Be Con...

+++++++++++++++

เขียนไปก็แบบ พีทมันแต๋วไป ปากจัดไปมั้ยหว่า

แต่ก็เอาเหอะ...คิดซะว่าอรรถรส!!!

คู่นี้เค้าจะฟิลเบาๆมุ้งมิ้ง ดราม่ามีแต่จะมาช้า

แต่ไม่ต้องห่วงไม่หนัก มันต้องฟิลกู๊กเป็นหลัก

รักคนอ่านจ้า ^^

 ปล.นิยายเปิดจองแล้วนะ แต่ตามกฎเล้าลงไม่ได้
ยังไงสอบถามทางแฟนเพจแล้วกันเด้อ




 

 

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รีบกลับห้องไปง้อเมียเลยพี่อาร์ต
เมียดุมาก( ไม่ดุเดี๋ยวเอาพี่อาร์ตไม่อยู่ )

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด